ReadyPlanet.com


คาถาสุดขลัง..........แก้กรรมและแก้โรคภัย


"ความทุกข์" ที่ท่านมี

"โรคภัยไข็เจ็บ" ที่ท่านเป็น

ล้วนแล้วแต่เกิดจากการที่ท่านทำผิดในข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

ทุกคนสามารถแก้กรรม ด้วยการเปลี่ยนความคิดและการกระทำของท่านได้ นับตั้งแต่ วันนี้หรือเวลานี้ เป็นต้นไป

อาจจะดูยาวไปนิดนึง แต่รับรองว่าใช้เวลาอ่านไม่เกิน10 นาที แต่ผลที่ท่านจะได้รับ คือมีความสุขไปทั้งชาติ

คุ้มเกินคุ้มนะคะ

กุศลกรรมบท 10 ประการ

1. งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ที่มีชีวิตให้ตาย และไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า สร้างจิตให้เมตตารักใคร่คน และสัตว์ดิรัจฉาน มีความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะให้คน มีความปราศจากทุกข์โดยทั่วหน้ากัน มีความกรุณาสงสารคนและสัตว์ผู้ประสบความทุกข์ยาก งดเว้นการเบียดเบียนให้คนและสัตว์เดือดร้อน เช่น ทำให้อวัยวะ มีแขน ขา เป็นต้น ของคนและสัตว์ให้หักหรือพิการ หรือทรมานสัตว์ให้ได้รับความเหนื่อยยากลำบาก มีมุทิตาพลอยยินดีในเมื่อคนและสัตว์ได้ดี มีลาภ มียศ มีความสุข ความเจริญ งดเว้นจากการอิจฉาริษยาคนและสัตว์ที่ดีกว่าตน และตั้งจิตเป็นอุเบกขาวางเฉย ในเมื่อประสบคนและสัตว์ที่ถึงความปิติ จนไม่สามารถจะช่วยได้ โดยพิจารณาว่าเป็นกรรมของคนและสัตว์นั้นเอง

2. งดเว้นจากการลักขโมยสิ่งของ ๆ คนและสัตว์ และไม่ใช้ให้ผู้อื่นลักขโมย ไม่หลอกลวงให้ผู้อื่นต้องเสียทรัพย์และชื่อเสียง

หมั่นบำเพ็ญทาน และสละทรัพย์ และสิ่งของให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น และสาธารณประโยชน์เสมอ ๆ เพื่อทำให้จิตใจบรรเทาเบาบางลงจากความตระหนี่ และความโลภอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน

3. งดเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คือ ไม่ข่มขืน ทำลามกอนาจาร ล่วงละเมิดสิทธิสตรีและบุรุษอื่น เรียกว่าไม่ทำชู้ในสามีและภรรยาของผู้อื่น พยายามถือสันโดษ ยินดีเฉพาะในภรรยาหรือสามีของตนเท่านั้น ไม่รักหญิงอื่นยิ่งกว่าภรรยาของตน

แม้ สิ่งของใด ๆ ของใคร ๆ ก็ไม่ถือโอกาสเอาไปใช้ หรือแตะต้องก่อนได้รับอนุญาติจากเจ้าของ โดยถือหลักว่า “เมื่อไม่มีสิ่งที่ตัวชอบ จงชอบสิ่งที่ตัวมี”


4. งดเว้นจากการพูดเท็จ คือ ไม่พูดโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดตามที่ตนพูด เช่น สิ่งใดที่เรารู้เราเห็น เมื่อเขาถาม เรากลับตอบว่าเราไม่รู้เราไม่เห็น และสิ่งใดที่เราไม่รู้ไม่เห็น แต่กลับตอบว่าเรารู้เราเห็น เป็นต้นเช่นนี้

พยายาม พูดแต่คำที่สัตย์จริง หากคำใดเราเห็นว่าพูดออกไปแล้วแม้เป็นความจริง แต่จะทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เราก็งดเสียไม่พูดเลย เพราะถ้าไม่พูดคำจริงเราก็พูดเท็จ อันเป็นการทำให้เราเสียกุศลกรรมบถอันนี้

5. งดเว้นจากการพูดส่อเสียด ได้แก่การฟังข้างนี้ แล้วเอาไปบอกข้างโน้น เพื่อจะทำลายข้างนี้ หรือได้ฟังข้างโน้นแล้วเอามาบอกข้างนี้ เพื่อจะทำลายข้างโน้น คือ มุ่งหมายยุยงให้เขาแตกจากกัน ทำลายความพร้อมเพรียงกัน

ส่งเสริมผู้ ที่แตกกันแล้วให้แตกมากยิ่งขึ้น ยินดีเพลิดเพลินในความเป็นพรรคเป็นพวก เข้าข้างพวกโน้นบ้างพวกนี้บ้าง ทำพรรคต่อพรรคให้แตกจากกัน ตั้งใจพูดแต่คำที่จะสมานไมตรีเชื่อมโยงให้คนโน้นคนนี้มีความรักใคร่ นับถือกัน พูดให้พรรคต่อพรรคปรองดองกลมเกลียวสามัคคีกัน ถ้าเห็นว่าจะช่วยให้เขาสามัคคีกันไม่ได้ก็งดเสีย

6. งดเว้นจากการพูดวาจาหยาบคายที่เผ็ดร้อน ที่เป็นปม เป็นที่ขัดข้องของผู้อื่น เป็นที่ระคายหูของผู้ที่ได้ยินได้ฟัง ยิ่งเป็นคำด่าคำแช่ง แม้แต่กับสัตว์ดิรัจฉานก็ไม่ควรพูดเลย เพราะเป็นการส่อสันดานของตนเองว่าเป็นคนเลว

พยายามพูดแต่คำที่อ่อน หวาน เรียบร้อย นุ่มนวล ละมุนละไม เป็นที่พอใจชุ่มชื่นเบิกบานใจของผู้ที่ได้ยินได้ฟัง

7. งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ได้แก่ งดการพูดในเวลาที่ไม่ควรพูด ในสถานที่ที่เขาไม่ต้องการให้เราพูด การพูดมากไปกว่าความจริง พูดไม่มีเหตุผล พูดวาจาไม่มีหลักฐาน ไม่พูดตามธรรมวินัย พูดไม่รู้จักหยุด แม้ไม่มีใครอยากฟังแล้วก็ยังพูดเรื่อยเปื่อยไปโดยไม่มีประโยชน์

ต้อง ใช้สติสัมปชัญญะในการพูดทุกครั้ง ถึงเป็นเรื่องจริงก็ต้องพูดให้ถูกกาลเทศะ พูดให้มีเหตุผลพอที่จะเชื่อถือได้ พูดให้ถูกตามธรรมตามวินัย พูดแต่พอเหมาะพอสมควรไม่ให้มากเกินเรื่องราวจนจับไม่ได้ว่าเรื่องอะไร ซึ่งเรียกว่า “พูดเป็นน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง” หรือ “พูดกระบุงเอาสักกระบายไม่ได้” ดังนี้ ถ้าเห็นว่าพูดแล้วมีประโยชน์แก่ผู้ฟังจึงพูด ถ้าเห็นว่าพูดแล้วจะไม่มีประโยชน์เลยก็อย่าพูดเสียดีกว่า จงนึกถึงภาษิตโบราณไว้เสมอว่า
“อันดีชั่วสุดนิยมที่ลมปาก
จะได้ยากโหย หิวเพราะชิวหา

จะถูกผิดเป็นมนุษย์เพราะพูดจา

จะเจรจาจง พิเคราะห์ให้เหมาะความ”


8. ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน ได้แก่ เมื่อเห็นพัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้สอย ทั้งที่มีวิญญาณ และไม่มีวิญญาณของผู้อื่นแล้ว แม้ตนจะชอบพอใจก็ไม่พยายามเพ่งว่า ขอให้สมบัติของผู้นั้นจงมาเป็นของเรา หรือครุ่นคิดแต่ในใจว่า ทำไฉนเราจึงจะได้ทรัพย์สมบัติของผู้นั้นหนอดังนี้

จงพยายามคิดให้ เห็นว่า ทรัพย์สมบัติเครื่องใช้สอยอย่างดีเป็นอันมาก เกิดขึ้นแก่ผู้นั้นก็เพราะเขาได้ทำความดีเป็นบุญเป็นกุศลมาก่อน แม้ชาตินี้เราไม่เห็นเขาทำอะไร ก็คงเป็นเพราะเขาทำมาแล้วแต่อดีตชาติโน้น ผลจึงเกิดสนองให้เขาเป็นคนมั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติอันน่าปลื้มใจ เช่นนั้นถ้าเราไปโลภอยากได้ของเขา จะทำให้เกิดเป็นบาปแก่ใจ คือเป็นสนิมเกาะกินจิตใจของเราเหมือนสนิมอันเกิดแก่เหล็ก และเกาะกินเนื้อเหล็กฉะนั้น ทำให้จิตใจของเรากร่อนอ่อนกำลังลงไม่สามารถจะทำความดีอย่างอื่นได้

ควร พยายามแสดงมุทิตาจิตพลอยยินดีต่อผู้นั้น แล้วพยายามบำเพ็ญบุญกุศล เช่นให้ทาน เสียสละความโลภของตนให้เบาบางลง และขวนขวายช่วยเหลือผู้อื่นในการทำความดีเป็นต้น ผลจะบังเกิดแก่ตนเองในภายหลัง


9. ไม่พยาบาทปองร้ายเขา คือ ไม่คิดอยากให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่จองเวรต่อสัตว์และคนอื่น ไม่ตั้งใจที่จะให้ใคร ๆ เป็นผู้ฉิบหาย หรือวิบัติด้วยประการใด

แม้จะ โกรธเคืองใครบ้าง โดยที่เขามาทำอะไรให้เสียหาย หรือมาด่าว่าให้เกิดความเจ็บช้ำน้ำใจ ก็ไม่อาจอาฆาตพยาบาทจองเวรผู้นั้นต่อไปอีก เช่น เขามาทำร้ายเราก็ให้คิดเสียว่า เพราะเราระวังตัวไม่ดีหรือเพราะเราเคยทำร้ายให้เขาเดือดร้อนมาก่อนแล้ว กรรมจึงติดตามมาสนองเรา ขอให้เป็นการใช้หนี้

กรรมกันสุดสิ้นแต่เพียง ชาตินี้เถิด หรือเขามาโกงเงินเรา โดยยืมไปแล้วไม่ใช้คืน หรือเข้าหุ้นกันแล้วเขาโกงไปเสีย เช่นนี้จงคิดว่าเราเคยโกงเขามาแล้วในชาติก่อนโน้น เขาจึงโกงเอาคืนไป ขอให้สิ้นสุดเวรกรรมกันเสียที ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้นจงเป็นผู้มีความสุขปราศจากทุกข์ มีความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปเถิด อย่าพยาบาทจองเวรซึ่งกันและกันเลย พิจารณาให้เห็นโทษว่า การพยาบาทนั้นมันทำให้เราเดือดร้อนกระวนกระวาย กระสับกระส่ายเป็นทุกข์ใจไปคนเดียว เราเป็นผู้ขาดทุนคนเดียวแท้ ๆ จักผ่อนคลายความพยาบาทลงได้มากทีเดียว หรือคิดให้เห็นว่า ความพยาบาทนี้หากจองเวรกันตลอดไปแล้วย่อมไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนงูเห่ากับพังพอน

10. เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม ได้แก่ เห็นว่าบุญมีจริงบาปมีจริง ผลของบุญมี ผลของบาปมี คนทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วย่อมได้ชั่ว นรกมี สวรรค์มี และนิพพานก็มี โลกนี้โลกอื่นมี ชาตินี้ชาติหน้ามี

สัตว์ที่ยังมีกิเลสทำกรรมไว้ ตายแล้วย่อมต้องเกิดเสวยผลของกรรมนั้นอีก ผู้ที่ไม่มีกิเลสอันเป็นเหตุให้ทำกรรมมีจิตสงบบริสุทธิ์หมดจดตายแล้วย่อมไม่ ต้องเกิดอีก เพราะหมดเหตุหมดปัจจัยอันจะทำให้เกิดแล้ว

จงระวังอย่า ให้จิตเห็นผิดว่านรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นิพพานไม่มี ทำบุญไม่ได้บุญ ทำบาปไม่ได้บาป คนจะดีชั่วก็ดีเองชั่วเอง พ่อแม่ไม่มีตายแล้วก็สูญ เกิดมาแล้วต้องกินให้เต็มที่ สนุกให้เต็มที่ ดังนี้


เครดิต http://www.bcoms.net/buddhism/detail.asp?id=170

ขออนุญาตให้เครดิตเพิ่ม เพราะcopyมาจาก http://ufokaokala.com/index.php?topic=7.msg6623;topicseen#msg6623

ขออำนาจพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน"กระทู้" นี้จงเปิดใจรับแต่สิ่งดีๆและเป็นผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรมทุกท่านเทอญ สาธุ....



ผู้ตั้งกระทู้ ชนิดา โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-24 19:25:02


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1498955)

อนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาด้วยค่ะ  ที่ได้แบ่งปันสิ่งดีๆ ในครั้งนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2010-06-24 21:58:12


ความคิดเห็นที่ 2 (1499042)

ขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยค่ะ

          เป็นสิ่งที่ดีมากๆที่มนุษย์ทุกคนควรได้อ่าน ขอบคุณ คุณชนิดามากค่ะ จะพยายามทำตามให้ได้นะคะ

           ขอให้คุณชนิดา เจ้าของกระทู้ จงมีแต่ความสุขความเจริญ สมปราถนาทุกสิ่งอย่างค่ะ สาธุ( รวมถึงท่านที่ได้อ่านด้วยค่ะ  )

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกันยา (g-dot-greengren-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-25 15:38:23


ความคิดเห็นที่ 3 (1499067)

กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่สุคติ ๑๐ ประการ

๑. เว้นจากปลงชีวิต

๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้โดยอาการขโมย

๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม

๔. เว้นจากพูดเท็จ

 

๕. เว้นจากพูดส่อเสียด

๖. เว้นจากพูดคำหยาบ

๗. เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ

๘. ความไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้ของเขา

๙. ความไม่คิดร้ายผู้อื่น

๑๐. ความเห็นชอบ ถูกต้องตามคลองธรรม

 

อ้างอิง คัดย่อจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม (ป.อ.ปยุตโต)

ขออนุญาตสรุปให้คุณชนิดา สักหน่อยนะครับ สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ

อนุโมทนาด้วยคน

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-25 19:58:21


ความคิดเห็นที่ 4 (1499400)

ขอบคุณสำหรับคำอนุโมทนาสาธุจากทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-06-28 21:02:58


ความคิดเห็นที่ 5 (1500955)

ในที่สุดก็มีคนคลิี็๊กเข้ามาอ่านครบ 99 ครั้ง  จารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์

แต่เหนือสิ่งอื่นใด หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทู้นี้จะมีประโยชน์กับทุกๆท่านบ้างไม่มากก็น้อย....

ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้อีกครั้งค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-07-10 20:43:25


ความคิดเห็นที่ 6 (1514777)

คาถาแก้โรคภัย โรคเวรโรคกรรม
ตั้งนะโม3จบ นึกถึงพระพุทธเจ้า เป็นที่ตั้งก่อน แล้วท่องตามนี้...

...นะมะพะทะ ธาตุมัตตะโก
ยาวะเทวะ อะยังกาโย
ยาปะนายะ เวทนานุปัสสี ทุกรัสสะ
ยะทิทัง ปิณฑะปาโต
อุททิเสนะ สัพพะพุทธานุภาเวนะ
สัพพะเทวะตา สัพพะโรคาพยาธิ
อันตะราโย วินาศสันติ
...........................
...คำแปล...
...ดินน้ำลมไฟ สักกะว่าเป็นธาตุ
ขอเพียงเพื่อ ให้กายนี้
ยังอัตภาพ เวทนาทั้งหลาย ทุกข์ต่างๆ
สิ่งนี้ ขอบิณฑบาตร
แล้วอุทิศให้แก่เหล่าปวงสัตว์ ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
เหล่าเทวะดาทั้งหลาย ขอให้โรคภัยไข้เจ็บ
อันตรายต่างๆ จงหายมลายสิ้นกลับคืนสู่ปกติด้วยเถิด.

..........................................
แก้โรคภัยไข้เจ็บ รักษาคนป่วย แก้โรคเวรโรคกรรม ป้องกันอันตราย
ต่างๆชงัดดีนักแล... ถวายเป็น พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา เทวะบูชา สาธุๆๆ
..........................................
ไม่น่าเชื่อครับ เมือหลายเดือนแล้ว ผมประสบอุบัติเหตุ รถชนครับ ที่หัวเข่าข้างขวา กระแทกกับของแข็ง จนบวมเป่ง คิดว่าเป็นแผลด้านใน ด้านนอกแค่ถลอกแต่บวมมาก รักษาจนกระทั้งหายปวด แต่ที่หัวเข่า มันดันเกิด ผังผืดด้านใน เวลา โยกหัวเข่า จะรู้สึกเหมือนหนังตึง เจ็บด้วย นั่งลำบากมาก ตึงหัวเข่าครับ เหมือนหนังผังผืดมันตึงครับ ก็รู้สึกไม่สบายตัวครับ  คิดว่าชาตินี้คงไม่หาย มีทางเดียวต้องผ่าตัดครับ พอดีมีคนที่ทำงานรถไฟฟ้า ที่อยู่กทม โทรมา เรื่อง หัวเข่าปวดชาเหมือนกัน
เส้นเลือดที่สะโพก กดทับเส้นประสาท จะนั่งก็ไม่ได้ต้องยืดขาอย่างเดียว ทรมานมากๆ เค้าเล่าอย่างนี้ เค้า ได้เบอร์ผมจาก อินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับพระเครื่องที่ผมลงไว้ครับ ผมก็เลยมานั่ง หลังบ้าน อาราชธนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพระอินทร์ด้วย ดวงจิต เกิดความอยากช่วยเหลือเค้า อย่างแรงกล้าครับ รวมทั้งตัวผมด้วย เกิดเวทนา
ก็เอาบทสวดต่างๆมาดู ว่าจะเอาอันไหนมาสวด มาทำช่วยเค้า จิตก็หยิบ เอาตรงนั้นตรงนี้ มารวม มาทำเอง โดยอัตตโนมัติ เสร็จ แล้ว ยัง แปล ได้อีกด้วย
แล้วก็ลอง กับหัวเข่าผมก่อนเลย ตอนทำ มันก็ไม่หายเลยหรอกครับ ผมก็ลืมๆไป3หรือ4วัน ผมมารู้สึกว่า หัวเข่าผม มันทุเลาไม่ตึงเหมือนก่อน รู้สึกแปลกใจมากครับ
รู้สึกดีขึ้น เกือบๆจะเป็นปกติครับ ผมได้ส่งคาถานี้ให้เพื่อนรถไฟฟ้า ขอให้เค้าจงหายด้วยครับ สาธุๆๆ ขอให้ใครที่ท่องคาถานี้ จงหายจากเวทนา และสรรพทุกข์ทั้งหลายด้วยเถิด ด้วยอำนาจแห่ง พระอินทราชเจ้า (พระอินทร์)
(ท้าวสักกะ)(สหัสะเนตโต)  เป็นวิทยาทานครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น wirat วันที่ตอบ 2010-10-24 02:50:12


ความคิดเห็นที่ 7 (1515993)

..............................................................
บางคนถามว่าเอดส์จะหายไหม ผมขอบอกว่า หายแน่นอนครับ เพราะอะไรหรือ
........................................................................................
หายครับลองดูครับ คนไม่ถึงที่ตายไม่วายชีวา หมดทางเยียวยา
ตั้งมั่น เด็ดเดี่ยว ร่างกายจะสร้างยาเองครับ ท้อแท้ยาก็ไม่เกิด
ร่างกายมันก็กลัวตายของมันเองไม่เกี่ยวกับเรา
แต่ที่กลัวตายที่สุดก็คือจิตของเราเองกลัวตายที่สุด
แต่เมื่อเราตั้งมั่นว่าจะทำให้ได้ จงทำด้วยความเด็ดเดี่ยว
ร่างกายจะสร้าง สิ่งต่อต้านเอง ทีละเล็กละน้อย ลองดูซิ คนตกใจ
วิ่งเร็วมาก ยกโอ่งได้ ร้องโคตรดังเลย เราต้องฝึกจิตใจให้มันกระตุ้นต่อมบางต่อม
สร้างยาของมันเอง ครับ ร่างกายมนุษย์ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดแล้ว เรายังค้นหาไม่
หมด จิตใจนี้ยิ่งมหัศจรรย์กว่า ถ้าจะให้มันตายมันก็ตาย ถ้าจะให้มันอยู่
มันจะหาทางรอดและอยู่ให้ได้ เมื่อร่างกายมันโดนครอบงำจากโรคภัย
ใช่ครับ!ร่างกายมันไม่ไหว แต่ผมถามว่าจิตใจของคุณติดโรคเอดส์หรือเปล่า
ถ้าคุณคิดว่า ไม่มีทางรักษา ตายแน่ๆ ความตายจากโรคเอดส์มันเข้าไปจ้องเล่นงานคุณ
ทั้งกายและจิตเสียแล้ว หมดทางสู้ อย่างนี้ตายแน่นอน แต่ถ้าหากคุณคิดว่าคุณนั้นมีทางรักษา
ให้หายได้เพียงทางนี้เพียงทางเดียวที่จะทำให้คุณรอดตายได้แล้ว
อย่างมั่นใจว่าใช่แน่หายแน่นอนถ้าตั้งใจทำจริง จิตจะเกิดพลังมหาศาลที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่า
คุณนั้นมีกำลังมหาศาลจริงๆ คุณจะรู้สึกขนพองสยองเกล้า เมื่อคุณได้เข้าถึงจริงๆอย่างมั่นคง
จิตจะสร้างยาต้านเอดส์เอง ที่ละนิดยิ่งคุณไปบอกจิตเท่าไหร่ตัวยา ก็มากขึ้นเท่านั้น
ไอ้พวกที่ตายตายนะ ก็คือคนที่ไม่ลุกขึ้นสู้ คิดว่าไม่มียารักษาตายแน่ๆ
มันก็ตายแน่ๆอยู่แล้วถ้าคิดอย่างนี้ แต่ถ้าจิตใจเกิดพลังขึ้นมาผมขอถามว่า
คุณเข้าใจจิตใจคุณหมดหรือยัง ไม่มีทาง เราก็เอาจิตใจนี่แหละครับสู้มัน
เพราะจิตของเราไม่มีเชื้อเอดส์ จิตของเรายังแข็งแรงอยู่ ท่องมันเข้าไป
จะตายก็ต้องตายอยู่แล้วจะกลัวอะไรเล่า ตั้งจิตรักษาโรค
แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ลองทำอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยคาถาที่มีนี่แหละ
เข้าไปเป็นไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นจิตให้สร้างตัวยาออกมาช่วยเราให้จิตมันจะไปกระตุ้น
ต่อมบางต่อมที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาช่วยเราไม่งั้นเธอก็จะตายไปกับเราด้วยนะ
ถ้าไม่ช่วยกันร่างกายมันรู้ว่าจะตายมันก็กลัวตายมันก็ต้องหาทางรอด
ให้ต่อมที่หลับทำงานขึ้นมากลายเป็นยารักษาที่ละนิดที่ละนิด เพราะจิตใจเราลุกขึ้นสู้
ทั้งๆที่รู้ว่าสู้ไม่ได้แต่ก็จะสู้ตายก็ยอม ไหนๆก็จะตายแล้วลองดูสักตั้งจะเป็นอะไรเล่า
พลังจิตที่เข้มแข็ง จะสร้างปาฏิหารย์ ให้เกิดขึ้น ดีกว่าคุณจะมานอน
รอความตายเฉยๆ ฝึกจิตท่องบ่นจนเข้าไปในจิต จิตจะสร้างยาช่วยคุณเอง
ลองดูก็ได้ ผมรับรอง คุณจะดีขึ้น ยาอยู่ในตัวคุณนั่นแหละใครก็ช่วยคุณไม่ได้
คุณต้องช่วยตัวคุณเอง  (สาธุขอให้ปาฏิหารย์จงเกิดกับท่านทุกคนเถิดสาธุ) 
 
 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น โอ ระยอง วันที่ตอบ 2010-11-01 02:17:13


ความคิดเห็นที่ 8 (1544777)

โมทนากับชนิกา+คุณปุ๊ม และทุกข้อความจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 20:29:13


ความคิดเห็นที่ 9 (1544925)

ขอ อนุโมทนา สาธุ กับทุกๆธรรมะทาน จ้า สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พลังบุญ/วิสรีร์ ถิรเลิศจุมพล (wiky20092009-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 14:57:25


ความคิดเห็นที่ 10 (1544950)

สาธุ ขออนุโมทนาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 18:47:24


ความคิดเห็นที่ 11 (1544988)

ขออนุโมทนา

ดวยค่ะ คุณวิรัตน์

สาธุ สาธุ สาธุ...........

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 23:11:20


ความคิดเห็นที่ 12 (1544997)

 ขออนุโทนาบุึญกับ ธรรมทานของคุณชนิดา และทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้ว (nut-cha2000-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 23:45:53


ความคิดเห็นที่ 13 (1545178)

 

        อนุโมทนากับธรรมทานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วิยะดา ขุมทอง (lemon_aaor-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-12 21:42:40


ความคิดเห็นที่ 14 (1545211)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ   สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-13 09:15:38


ความคิดเห็นที่ 15 (1547191)

ขออนุโมทนาบุญ

กับทุก ๆ ความคิดเห็น จ้า  สาธุ   สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น Srisomporn Emrach Tanakachane (sreesompawn-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-22 14:57:59


ความคิดเห็นที่ 16 (1547712)

ขออนุโทนาบุญกับ ธรรมทานของคุณชนิดา และทุกๆท่านด้วยครับ...สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉัตรชัย (hs2hxh-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-24 13:26:32


ความคิดเห็นที่ 17 (1548358)

ขอรับนำไปพิจารณา เพื่อเป็นแนวทางดำเนินชีวิตให้เป็นปกติสุข สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น kongalfie (alfieman23-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-26 13:11:03


ความคิดเห็นที่ 18 (1549091)

ขออนุโมทนา

กับธรรมทานอันยิ่งใหญ่ที่ คุณชนิดา และทุกท่านที่ได้นำมาฝากพวกเราด้วยครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-30 11:19:41


ความคิดเห็นที่ 19 (1549114)

 

ขออนุโมทนากับคุณชนิดาค่ะ

ขออนุญาตคัดลอกไว้อ่านนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกันยา จรพินิจ (g-dot-greengreen-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-30 13:17:45


ความคิดเห็นที่ 20 (1549135)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา (coffe-dot-i-joker-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-30 15:25:16


ความคิดเห็นที่ 21 (1551846)

ขออนุโมทนาในธรรมทานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาภรณ์ ปุญโญกุล (rutpun18-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-13 11:20:10


ความคิดเห็นที่ 22 (1551960)

ขออนุโมทนากับทุกธรรมทานค่ะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-13 20:46:39


ความคิดเห็นที่ 23 (1552072)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่มอบธรรมทานดีๆ ให้กับพวกเราค่ะ สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาพร เกษมคุณ (ทิพย์) (speedway2549-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-14 12:50:48


ความคิดเห็นที่ 24 (1552905)

 

 

                                   ขอโมทนาด้วยนะครับ และขอคัดลอกเพื่อเป็นธรรมทานครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (tewaritt2-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-19 09:25:48


ความคิดเห็นที่ 25 (1554102)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ที่ได้สระเวลาอันมีค่า เข้ามาเขียนบทความ เพื่อเป็นธรรมทานแก่ผู้ที่ยังไม่รู้ ให้ได้รู้ และนำไปปฎิบัติเพื่อให้เกิดกรรมดี เป็นแสงส่องทางให้ถึงนิพพานด้วยเทอญ   สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น tamiko<จีรนันท์ แมดเมือง> (ta_yer-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 20:40:29


ความคิดเห็นที่ 26 (1554120)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิกานต์ ปิยะศิริภัณฑ์ (yaikwew-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 22:33:33


ความคิดเห็นที่ 27 (1558174)

ขออนุโมทนากับคุณ ชนิดาด้วยนะค่ะ

ขออนุญาติ ปริ้นท์มาอ่านนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เขมรัธศ์ภัทร์ จินดาพล (por_fat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 19:51:15


ความคิดเห็นที่ 28 (1564760)

 

ขออนุโมทนากับธรรมทานค่ะคุณชนิดา

ขอเสนอคาถา สุดขลัง แก้โรคภัยไข้เจ็บ

นะหาย โมหาย พุทหาย ธาหาย ยะหาย

โรคภัย ไข้ เจ็บ (ใครเป็นโรคอะไรก็อธิษฐานเอาเอง)

หายด้วย นโมพุทธายะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศุภรัฐ ปานธุเดช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-19 11:06:50



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.