ReadyPlanet.com


ต้องรู้ทัน..ไม่ใช่เก็บกด...โกรธ!!!


 

รู้ทันอารมณ์
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นศิษย์เอกรุ่นแรก ๆ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ปฏิปทาของท่านงดงาม อีกทั้งคำสอนของท่านก็ลุ่มลึก

เพราะเกิดจากการปฏิบัติจนเห็นแจ้งในสัจธรรม
คราวหนึ่งมีคนถามท่านว่า "หลวงปู่ครับ
ทำอย่างไรจึงจะตัดความโกรธให้ขาดได้" ท่านตอบสั้น ๆ ว่า
"ไม่มีใครตัดให้ขาดได้หรอก มีแต่รู้ทัน เมื่อรู้ทันมันก็ดับไปเอง"

ความโกรธนั้นก็เช่นเดียวกับอารมณ์อื่น ๆ
เราไม่สามารถตัดหรือกดข่มให้หายไปได้
การกดข่มนั้นทำได้อย่างมากก็แค่ขับไล่ให้มันหลบซ่อนอยู่ในมุมมืดของใจ
เผลอเมื่อไรมันก็โผล่มาอาละวาดใหม่ บ่อยครั้งเรากลับพบว่ายิ่งกด
มันยิ่งโผล่ ยิ่งอยากให้มันหาย มันยิ่งออกมารบกวน
เหมือนกับวัยรุ่นเกเรที่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

วิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลในการจัดการความโกรธ คือรู้ทันมัน ปกติเวลาโกรธใคร
ใจเราจะพุ่งไปที่คนนั้น คิดหาทางเล่นงานหรือจ้องตอบโต้เขา
ไม่ด้วยคำพูดก็การกระทำ แต่ทันทีที่เราหันมามองใจของตน
จนเห็นความโกรธที่เผาลนจิตใจ ความโกรธจะวูบลงทันที
เหมือนกองไฟที่ถูกชักฟืนออกมา

ความโกรธลุกลามได้ก็เพราะเราหมกมุ่นครุ่นคิดถึงคนหรือเหตุการณ์ที่เราไม่ชอบ
การหมกมุ่นครุ่นคิดเช่นนั้นไม่ต่างจากการเติมฟืนให้กับกองไฟ
ยิ่งเติมก็ยิ่งร้อน แต่ทำไมถึงยังเติมไม่หยุด
นั่นก็เพราะเราเผลอปล่อยใจไปตามความโกรธ
แต่เมื่อใดที่เรากลับมารู้ทันความโกรธ หรือเห็นความโกรธกลางใจ
ความโกรธก็อ่อนแรงเพราะขาดเชื้อ ไม่นานก็ดับไป

จะรู้ทันความโกรธได้ต้องมีสติที่รวดเร็ว ถ้าสติเชื่องช้า
กว่าจะรู้ตัวว่าโกรธก็ด่าหรือทำร้ายเขาไปเรียบร้อยแล้ว
แล้วก็มานั่งเสียใจที่ทำสิ่งนั้นลงไป

การรู้ทันความโกรธนั้น ใช้ได้ทั้งกับตัวเองและคนอื่น
เวลาพ่อแม่เห็นลูกโกรธ ส่วนใหญ่มักบอกลูกว่า "อย่าโกรธ ๆ" หรือ
"โกรธเขาทำไม" การสอนเช่นนั้นทำได้อย่างมากแค่กระตุ้นให้ลูกกดข่มความโกรธ
ซึ่งได้ผลชั่วคราว จะดีกว่าหากแนะให้ลูกหันมามองใจของตน
และรับรู้ถึงความโกรธที่เกิดขึ้น
วิธีนี้จะช่วยให้ลูกรู้ทันความโกรธได้เร็วขึ้น

"โมน"เป็นเด็กอายุ ๓ ขวบ คราวหนึ่งโกรธป้ามาก แม่เห็น แทนที่จะห้ามลูกว่า
"อย่าโกรธ" ก็ถามลูกว่า "ลูกโกรธใช่ไหม" ลูกตอบว่าใช่ แม่จึงถามต่อว่า
"โกรธแค่ไหน เท่านี้หรือโกรธเท่าฟ้า" ลูกบอกว่าโกรธเท่าฟ้า ฟังดูน่าตกใจ
แต่ไม่นานโมนก็หายโกรธ

แม่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการช่วยให้โมนกลับมารู้ตัวและเห็นอารมณ์ของตนเอง
แต่การทำเช่นนี้มีความสำคัญมาก เพราะเมื่อโมนเห็นความโกรธของตน
ความโกรธในใจก็อ่อนกำลังและดับลงไปในที่สุด

ใช่แต่ความโกรธเท่านั้น
แม้แต่ความอยากก็ดับลงได้ด้วยการรู้ทันหรือเห็นมันอย่างต่อเนื่อง
เย็นวันหนึ่งลูกสาววัย ๑๒
มาออดอ้อนแม่ว่าอยากได้ของเล่นชิ้นหนึ่งที่วางขายในร้าน เป็นไมโครโฟนเล็ก
ๆ ที่เสียบปลั๊กแล้วสามารถร้องเพลงได้หมือนนักร้องจริง ๆ พอแม่ถามราคา
ก็ตกใจเพราะราคาสูงถึง ๔๐๐ บาท

ลูกรบเร้าว่าอยากได้มากจริง ๆ แม่จึงตกลงกับลูกว่า
แม่จะหักเงินค่าขนมของลูกครึ่งหนึ่งใส่กระปุกทุกวันจนกว่าจะครบ ๔๐๐ บาท
อีกอย่างที่แม่อยากให้ลูกทำคือ ทุกเย็นเป็นเวลา ๑
อาทิตย์ให้ลูกเข้าไปที่ร้านนั้นและมองดูไมโครโฟน
"แล้วให้สังเกตด้วยว่าทุกวันที่มองดู ใจหนูรู้สึกอย่างไร
ชอบมันมากเหมือนเดิมทุกวันไหม"

ผ่านไป ๔ วันเท่านั้น ลูกก็มาบอกแม่ว่าไม่อยากได้แล้ว เมื่อแม่ถามว่าทำไม
ลูกตอบว่า "เบื่อ" ลูกพูดต่อว่า "ดูนาน ๆ ก็เบื่อเอง เพราะไม่เห็นมีอะไร
เก็บเงิน ๔๐๐ ไว้ดีกว่า"

เวลาเกิดความอยากได้นั่นได้นี่ เรามักทำตามความอยากทันที
คือขวนขวายไปหามันมา จึงไม่มีโอกาสที่จะเห็นหรือรู้ทันความอยาก
แต่หากเราลองไม่ทำตามมันดูบ้าง เช่น ไม่ซื้อหรือผัดผ่อนไปก่อน
มันจะแสดงตัวให้เราเห็นอย่างชัดเจน ด้วยการ
"โวยวาย"หรือดิ้นรนผลักดันให้เราคล้อยตามมันให้ได้
ตรงนี้เองหากเราลองตั้งสติและดูมันไปเรื่อย ๆ
ไม่ช้าไม่นานมันก็จะสงบลงไปเอง

อารมณ์ที่บั่นทอนจิตใจ ไม่ว่าความโกรธหรือความอยาก
เปรียบเสมือนโจรที่กลัวคนเห็น ทันทีที่ถูกเห็น มันก็จะทนเฉยไม่ได้
ต้องล่าถอยไป เช่นเดียวกับความมืดที่แพ้แสงสว่าง

ถ้าไม่อยากให้โจรร้ายครองใจ ก็ขอให้หมั่นดูใจของเราอยู่เสมอ

ขอบคุณที่มาของข้อมูล จากเว็บเขากะลา

http://ufokaokala.com/index.php?topic=428.msg11662;topicseen#msg11662



ผู้ตั้งกระทู้ ชนิดา โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-10-02 04:01:51


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1512172)

เห็นด้วยทุกประการค  อนุโมทนาคะ

เพราะเคยกดหรือจะตัดมันแล้ว แต่เป็นตามนั้นจริง ๆ คือตัดไม่ได้ 

วิธีที่ทำได้ คือรู้ทันอารมณ์ตัวเองคะ พอมีใครมากระทบหรือเบียดเบียนแล้วเราไม่ชอบ

ก็รู้ตัวเลยว่า เออ เราจะโกรธแล้วใช่มั้ย อย่าเลย อย่าโกรธ ช่างเขาเถออะ

คิดแบบนี้ ดับไฟ ได้จริงๆ คะ

ความโลภ ความอยากได้ของอะไร ก็ทำเช่นเดียวกันคะ ได้ผลชะงักงัน มีสติรู้ตัว

ต้องรู้ว่าตัวเราคิดอะไรอยู่  .. แล้วสิ่งนั้นก็ผ่านไป

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-10-04 12:18:40


ความคิดเห็นที่ 2 (1512289)

ยินดีด้วยนะคะคุณแหวนแหวน (ขออนุญาตเติมให้อีกหนึ่งแหวน )

ที่มีสติและรู้ทัน "ความโกรธ"ของตัวเอง


ส่วนชนิดา สติก็มา้บ้าง ไม่มาบ้าง บางทีไปหลบอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้.....หา"สติ"แทบไม่เจอเล๊ยยย

ชนิดาก็ยังต้องฝึกไปเรื่อยๆค่ะ รู้ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง บางทีก็แกล้งทำเป็นรู้ทัน ไปงั้นแหล่ะ  หึ หึ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-10-05 01:26:55


ความคิดเห็นที่ 3 (1512717)

คุณชนิดาน่ารักนะคะ บุญที่คุณนำเรื่องดี ๆ มาเผยแผ่ ถ้าทำให้ใครสักคนที่มาอ่านเจอแล้ววมีความคิดที่เปลี่ยนไป ฉลาดขึ้นได้ มันได้บุญมาก ๆ เลยนะคะ และแหวนเชื่อว่า ก่อนที่คุณจะนำเรื่องมาบอกคุณต้องได้ผลกับตัวเองมาแล้วแน่ ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-10-07 10:43:19


ความคิดเห็นที่ 4 (1512749)

ขอบคุณพี่ชนิดามากนะคะ....

แมวขออนุญาติ Print out เพื่อเป็นธรรมทาน

และขออนุโมทนากับพี่ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว (prawinakamp-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-10-07 12:35:11


ความคิดเห็นที่ 5 (1512844)

เชิญเลยค่ะ ยินดีและเต็มใจอยู่แล้ว

ยิ่งเผยแพร่มากเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ


อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-10-08 03:12:42


ความคิดเห็นที่ 6 (1544553)

เป็นความเห็นที่ถูกต้องมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-09 15:39:58


ความคิดเห็นที่ 7 (1544575)

อนุโมทนาด้วยนะคะ คุณชนิดา  เว๊ปบ้านสวนเรานี่โชคดีที่มีคนที่มีภูมิธรรมอย่างคุณชนิดามาเป็นขาประจำ  ทำให้หลายๆ ท่านได้รับอานิสงค์เพียบเลยนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา (anchala_23580-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-09 19:07:23


ความคิดเห็นที่ 8 (1544583)

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หนุ่ย (nnuuii222-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-09 19:56:51


ความคิดเห็นที่ 9 (1544634)

อนุโมทนากับทุกๆท่านที่เข้า่มาแสดงความจำนง

เพื่อที่จะ"รู้ทัน"ความโกรธด้วยนะค๊า..

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 00:09:12


ความคิดเห็นที่ 10 (1544678)

ขออนุโมทนาบุญสำหรับธรรมทานด้วยค่ะ

พี่ชนิดา

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

สาวขาวีน (เก่า) ค่ะตอนนี้เริ่มรู้ทันอารมณ์ตัวเองค่ะ

พยายามดับมันก่อนจะคุกโชนแหละค่ะ

แต่อาจมีเผลอบ้าง (ไม่น้อย)

แต่ทุกครั้งที่รู้ทันอารมณ์ก็จะจัดการกับมันได้ทันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 10:00:51


ความคิดเห็นที่ 11 (1545562)

มาช้าไปหน่อย....จ๋า

ไม่พอใจ....กับโกรธ...เหมือนกันรึเปล่า...จ๊ะ

ขอถาม

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-14 21:28:56


ความคิดเห็นที่ 12 (1545600)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-14 23:52:06


ความคิดเห็นที่ 13 (1545603)
image

 

 

ขอบคุณในธรรมทานและขออนุโมทนาด้วยค่ะ

รู้ให้เท่าทัน ขอบคุณค่ะ

โลกใบนี้เป็นสิ่งสมมุติจริงๆ ติดกับสิ่งสมมุติ

บอกตัวเองตามที่สมมุติเกิด รู้เท่าทัน..

กลับตนให้เป็นคนปรกติ อย่างที่เคยเป็นปรกติ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su22-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 00:25:17


ความคิดเห็นที่ 14 (1545608)

ขออนุโมทนาบุญนะคะโดนใจมากค่ะจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและใช้กับน้องอิ๊กคิว

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 00:53:14


ความคิดเห็นที่ 15 (1545638)

ขออนุโมทนา ครับ

จะว่าง่ายก็ดูเหมือนจะไม่ง่าย

จะว่ายากก็ดูเหมือนจะยากๆๆๆ

อยู่ที่ตัวเราเองแท้ๆ

ถ้าเราทำได้ ปฎิบัติได้

เราจะพบแต่ ความสงบและความสุข

ตอนนี้ก็กำลังปฎิบัติอยู่ แบบว่าอยากมีความสงบและความสุข ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หว่าหวา...คนสวย (jaum_f-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 11:06:43


ความคิดเห็นที่ 16 (1545692)

มาช้าไปหน่อย....จ๋า

ไม่พอใจ....กับโกรธ...เหมือนกันรึเปล่า...จ๊ะ

ขอถาม

______________________________________

 

โธ่..พี่อ๊อด สุดสวย เสียงแจ๋วจ๊า... คนที่จะตั้งคำถามแบบนี้ได้

แสดงว่า"จิต"ต้องละเอียดและสำรวจความคิดตัวเองพอสมควรแล้วนะเี่นี่ย..

ไม่งั้นคงจะตั้งคำถามมาแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ ฉะนั้น ถือว่าคนถามรู้คำตอบอยู่แล้ว..เน้อ...

 

แต่ถ้าจะให้ตอบง่ายๆ ก็ลองคิดว่า เหตุ..ที่ทำให้ รู้สึกไม่พอใจ กับ รู้สึกโกรธ

มีสาเหตุจากสิ่งเดียวกันหรือคล้ายกันหรือไม่

ถ้าใช่ ก็แปลว่า "ไม่พอใจ" ก็คงจะเหมือนกันกับ"โกรธ"นั่นเอง...

แต่ความแรงของไฟที่ลุกท่วมใจอาจจะต่างกันเท่านั้นเอง..แม่นบ่..สุดสวย

 

รู้น๊า..ว่าเจ๊อยากจะบอกว่า พี่ไม่เคยโกรธใครๆหร๊อก

แค่ไม่พอใจ เฉยๆ เพราะมันฟังดูเล็กๆ น่ารักๆ ชิมิ ชิมิ...ฮิฮิ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 21:32:07


ความคิดเห็นที่ 17 (1545708)

ขออนุญาติคุณชนิดาPrintไปแจกนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 22:32:55


ความคิดเห็นที่ 18 (1546235)

ขออนุโมทนากับธรรมทานด้วยค่ะพี่ชนิดา ศิริอ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก เพราะวันนี้ศิริเองก็พยายามสู้รบกับความโกธรอยู่ทีเดียวขอบคุณจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น siri sutjai (siri-dot-1978-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-18 20:45:11


ความคิดเห็นที่ 19 (1546244)

 ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาทุกประการในธรรมทานนะคะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-18 21:27:38


ความคิดเห็นที่ 20 (1546832)

อนุโมทนา ด้วยนะครับ คุณชนิดา ผม ก็ฝึกแนวนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ รู้สึกเลยว่า จะทำให้เรามีสติมากขึ้น ทำอะไร ไม่ตามใจกิเลส และทำให้ทุกข์น้อยลงไปมากๆด้วยๆ 

เพราะมีคนบอกว่า ความทุกข์เกิดครั้งเดียว แต่ เรา เอามาหลงคิดบ่อยๆ ทำให้ทุกข์เกิดขึ้นหลายครั้ง เหมือนเวลามีคนด่า ผม อะครับ ครั้งแรก ก็เจ็บอยู่แล้ว แต่ พอครั้งต่อๆมา อยู่เฉยๆ ก็เห็นจิตหลง ไปคิดหน้าพี่คนที่ด่าเรา แล้ว ก็ด่าเราจนครบประโยค ก็เจ็บอีกรอบ วันนั้น หลงไปเกือบ ห้าครั้ง เท่ากับเรา โดนเค้าด่าไปถึง ห้าครั้ง แต่พอครั้งที่หก พอหน้าพี่เค้าลอยขึ้นมา กำลังจะอ้าปากด่า เราในความคิด เหมือนพอสติทัน ภาพพี่เค้าก็หายไปทันที ซึ่งทำให้ความทุกข์เราน้อยลงไปมากๆเลยครับ

ยังไงก็อนุโมทนาอีกทีนะครับ สำหรับข้อความดีๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น anorio (ariosto9-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-20 23:00:06


ความคิดเห็นที่ 21 (1546892)

เมื่อประมาณเดือน ก.ค. ปี 2010 ในวันนั้นชนิดารู้สึกโกรธ อย่างแรง

แบบว่า รู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ ก็เลยเขียนอีเมลไปปรึกษาอาจารย์ที่ชนิดา

เคารพมากๆอีกท่านหนึ่ง และนี่เป็นอีเมลของอาจารย์เมาท์

ที่กรุณาตอบชนิดามาพร้อมหลักธรรมที่ประเสริฐมากๆ

จึงขอนำมาฝากทุกๆท่าน น่าจะมีประโยชน์นะคะ

 

สวัสดีครับคุณชนิดา

หลังจากที่ได้อ่านข้อความของคุณชนิดา
ทำให้รู้ว่า คุณชนิดา ก็มีอะไรคล้ายๆกับผมเมื่อสมัยสัก 20 ปีที่ผ่านมา
ชอบศึกษาแนวทางการฝึกสมาธิ ให้เกิดญาณอภิญญา
เมื่อได้มาก็ตั้งใจจะนำไปช่วยเหลือผู้อื่น

การฝึกสมาธิ ในช่วงเวลานั้น
ได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทุกข์บ้าง ไม่ทุกข์บ้าง

ยิ่งเห็นคนที่เขามีตาทิพย์ หูทิพย์
ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เราก็คนเหมือนกัน ทำไมทำไม่ได้เหมือนกับเขา
ก็มีความฮึด มานะพยายามขึ้นมาอีก
แต่ก็ยังไม่สมดังหวัง

เห็นใครมีความพิเศษเหนือมนุษย์
อยู่ที่ไหน ก็มักจะตามไปดู
โดยเฉพาะตำหนักที่มีองค์ ทรงเจ้า ประเภทนั้น
แล้วก็ถูกหลอกมามาก

จาก 30 แห่ง จะมีที่จริงจังช่วยเหลือกันโดยไม่หวังผลประโยชน์ สัก 2-3 แห่ง เท่านั้น



หลังจากนั้นก็เกิดความเบื่อหน่าย
ดูไม่เห็นเป็นแก่นสาร ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมเลย

จนกระทั่งได้เริ่มเข้ามาศึกษาเรื่องราวของจิตวิญญาณ ตามแนวทาง
พระอภิธรรม  ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับจิต ภายในตัวเรา
เป็นฐานของการเริ่มฝึกวิปัสสนากรรมฐาน หรือฝึกสติ นั่นเอง


จากนั้นก็ได้มาพบและคลุกคลีอยู่กับ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
ซึ่งกว่าจะเข้ามาได้ ระบบเขาก็มีวิธีหลอกล่อ โดยนำพิธีเชื่อมระบบ ติดตั้งอุปกรณ์ มาหลอก
แล้วก็เลยหลงเข้าไป แต่ เป็นการหลงดี
เพราะ คำเฉลยสุดท้าย คือ ฝึกให้เราปล่อยวาง ละการยึดมั่นอัตตา
ตลอดจนให้เราทำความเข้าใจในขันธ์ห้าให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
โดยไม่ต้องดิ้นรนแสวงหาจากที่อื่นๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
เพราะขันธ์ห้า ก็คือ ร่างกายและจิตวิญญาณ ของเรานั่นเอง

เมื่อมีความเข้าใจในขันธ์ห้า(รูป-นาม)ของเราดีแล้ว
เราก็จะรู้ได้ว่า ขันธ์ห้า มันก็เกิดมาจากธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นเอง
มีวิบากกรรม นำมาเกิด

ตัววิบากกรรม นี้ สำคัญมาก
มันเหมือนข้อมูลกรรม ที่บันทึกไว้ใน เมมโมรี่ชิพ
อยู่ติดมากับขันธ์ห้า แล้วนำมาเกิด

เวลาขันธ์ห้าที่เราอยู่ร่วมกับมัน เพราะวิบากพ้องกัน เกิดความพอใจมาก ไม่พอใจมาก
เราไปบังคับมันไม่ได้ เพราะมันเมม มาแบบนั้น
มันเห็นแบบนี้ชอบ ก็ดีใจ ไม่ชอบ ก็เสียใจ โกรธ
เราไปบังคับ หรือห้ามมันไม่ได้ เพราะมันเป็นธรรมชาติของมันอย่างนั้นเอง

เวลาเรานั่งสมาธิ มันจะฟุ้งออกไป เพราะขันธ์ห้า มันจะคอยปรุงแต่ง
จากเสียงที่ได้ยิน จากตาที่เห็น หรือแม้กระทั่งใจที่อยากสงบ
มันจะปรุงแต่ง และพุ่งออกไปข้างนอกอยู่ตลอดเวลา

แม้เราจะพยายามบังคับมัน ก็ยากยิ่งนัก
กลับเกิดทุกข์โมโห ที่บังคับมันไม่ได้
ก็เราอยากสงบ อยากให้เกิดสมาธิ ทำไมถึงทำไม่ได้
นึกโมโห โกรธ ขึ้นมา  ก็กลายเป็นทุกข์ฟรี ไป
ไม่มีใครทำให้เราทุกข์เลย เราทำตัวเราเองแท้ๆ
เพราะความไม่เขาใจในกลไกตามความเป็นจริงของขันธ์ห้านั่นเอง

เพราะฉะนั้น ไม่ต้องบังคับมัน
ขันธ์ห้า มันอยากคิดปรุงแต่ง ฟุ้งซ่าน ไม่สงบ ก็ปล่อยมัน
ดูมันเล่น แต่อย่าไปร่วมเล่นกับมัน

เพราะมันได้ทำกับดัก ดักให้เราเข้าไปร่วมกับมัน

เมื่อเราหลงติดกับดัก เราจะยิ่งทุกข์ ตามไปกับมัน
แล้วเราจะมีวิธีหาทางออกได้อย่างไร
เพราะเข้าไปแล้วออกยาก

ดังนั้น ข้อสำคัญ ไม่ได้อยู่ที่การทำสมาธิ เพื่อให้เกิดญาณอภิญญา
หากต้องการให้ชีวิตหลุดพ้นจากกองทุกข์ มีวิธีเดียวคือ
ต้องทำความเข้าใจในขันธ์ห้าตามความเป็นจริงให้ได้
เป็นการลงทุนที่ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายสตางค์ แต่อย่างใด

แล้วเมื่อถึงเวลา จิตเรา ตัวเรา จะเป็นครูที่ดีที่สุด
ปลดปล่อยทุกข์จนหมดสิ้นไปไม่ให้เหลือเชื้อแห่งทุกข์
ภพภูมิการเกิดก็จะสั้นลง
เส้นทางแห่งพระนิพพาน ก็จะสว่างไสว รอรับการเดินทางของเรา
เพื่อเข้าสู่สภาะแห่งความหลุดพ้น ได้โดยสิ้นเชิง

รู้ให้จริง ทำให้ได้ ใช้ให้เป็น

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-21 07:17:43


ความคิดเห็นที่ 22 (1546986)

ขอบคุณชนิดามากนะคะที่มีแต่สิ่งที่ดี ๆ มาฝากตรงกับใจตัวเองมาก ๆ เพราะเป็นคนขี้หงุดหงิด โกรธง่าย  ขอบคุณมั๊ก ๆ  ขออนุโมทนาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา (coffe-dot-i-joker-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-21 18:08:47


ความคิดเห็นที่ 23 (1546993)

 อ่านแล้ว ล้ำลึกและลึุกซึ้งมากๆเลยค่ะ คุณชนิดา ทำให้รู้วิธืลดละความอยาก และความโกรธได้ดีอยา่งแจ่มแจ้งเลยทีเดียว 

ขออนุโมนากับธรรมทานในครั้งนี้ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้ว (nut-cha2000-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-21 19:07:50


ความคิดเห็นที่ 24 (1547016)

โมทนาบุญกับ คุณชนิดา

ที่นี่สิ่งดีๆ นำเสนออยู่เสมอค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สำราญ เลสกิเนน (samrantu-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-21 20:46:58


ความคิดเห็นที่ 25 (1547031)

 สติมาปัญญาเกิด

มนุษย์มีหน้าที่ตักเตือนซึ้งกันและกันด้วยขันติธรรม

อนุโมทนาหลายๆ    เด้อ...............ขอแต่งตั่งตำแหน่ง===คนเขียนข่าวช่อง    MV   TV              ทูเดย์ แห่งบ้านสวนอีกคนจ๊ะะะะ

ผู้แสดงความคิดเห็น sobiday (sobiday9-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-21 22:14:20


ความคิดเห็นที่ 26 (1547080)

ขอบคุณหลายๆเด้อ..คุณโซบิเดย์ ที่แต่งตั้งให้ชนิดา

เป็นคนเีขียนข่าว แห่งช่องสุดฮิต MVtv Bangkok Today

ฮ่า ฮ่า สงสัยจะถนัดไปทาง คนปั้นข่าว ซะมากกว่า...เน้อ....

 

คุณโซบิเดย์ เนี่ย ก็ฮาไม่น้อยเหมือนกันนะเนี่ย...

อ่านข้อความตอนแรกๆที่คุณโซบิเดย์เข้ามาเว็บบ้านสวนฯใหม่ๆ

ดูท่าทางเคร่งๆอยู่น๊า.. แต่จริงๆแล้ว ก็"ฮา" เหมือนกันเน้อ...ฮิฮิ

 

"สติ"มาปัญญาเกิด

แต่ถ้า"สติ"ไม่มา

ก็จะเกิดแต่"ปัญหา"

นะคร๊าบ..พี่น้อง...

ฉะนั้น "หยุด"ตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน

สลัดอดีต ทิ้งอนาคต เพื่อปลดทุกข์ทั้งปวง

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด (nhongjung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-22 03:41:08


ความคิดเห็นที่ 27 (1550189)

ขอบคุณข้อมูล ความรู้ ธรรมทานจากพี่ชนิดา  ช่วยให้ลดความฟุ้งซ่านได้มากเลยคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิภา มุกดาม่วง (nu-toon-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-04 14:03:16


ความคิดเห็นที่ 28 (1550529)

ขอขอบคุณชนิดาค่ะ ชอบอ่านที่คุณชนิดาหามาให้ค่ะ

คือ ไม่ต้องไปหาเอง เพราะไม่แน่ใจว่าถูกและดี แต่คุณชนิดาหามาให้ ถูกต้องและเป็นข้อมูลดี ชัวร์ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-06 11:23:39


ความคิดเห็นที่ 29 (1550583)

เจริญพรคุณชนิดาญาดิธรรมอ่านแล้วจ๊ะะะ

ไม่ได้เข้ามาอ่านเลยยยยย  เหตุผลเวลาน้อย

งานเยะะะไอ้ที่เคร่งไม่ได้คิดจะเคร่งอย่าพึ้งเคลียร

แต่บ้างครั้งก็ไม่อยากให้ไร้สาระ

เพราะเป็นคนชอบมีสาระ

และประจบคนไม่เป็นไปตรงๆแบบนี้ล่ะ

แต่อีกมุม ก็เป็นคนฮา  ฮาๆๆๆเหมือนกัน

จนเพื่อนๆเรียกหัวโจก

ถ้าไม่มีโซบิเดย์ไม่นุกนะ......จะบอกให้ห้ห้ห้

ติดตามดูรายงานข่าวจากหนักข่าวของเราอยู่จ๊ะะะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น sobiday (sobiday9-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-06 15:46:43


ความคิดเห็นที่ 30 (1550587)

                  ตัดอดีต  อนาคตลงให้หมด                  

...........จิต ดีง อยู่ ใน ปัจจุบัน...........

รู้ในปัจจุบัน   ละในปัจจุบัน  

ทำในปัจจุบัน    แจ้งอยู่ในปัจจุบัน 

ผู้แสดงความคิดเห็น sobiday (sobiday9-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-06 15:55:35



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.