ReadyPlanet.com


จดหมายที่อัศจรรย์ จาก พลทหารศิรินพงศ์ เพชรส่งศรี (ฉบับที่ 2)


*** หมายเหตุ: ท่านสามารถอ่านกระทู้ "จดหมายที่อัศจรรย์ จาก พลทหารศิรินพงศ์ เพชรส่งศรี ฉบับแรก"  ได้โดยคลิกที่นี่

 

 

พลทหารศิรินพงศ์ เพชรแสงศรี

                ก่อนที่ผมจะเล่าเหตุการณ์ของวันที่ 14 มกราคม 2554 ต่อนั้นผมขอขอบพระคุณอาจารน์ อุบล และสิ่งศักสิทธิ์บ้านสวนพีระมิดที่ท่านได้เมตตาให้โอกาสผู้ปรับเปลี่ยนแก้ไขตนเองและได้ให้โอกาสอันวิเศษที่ให้ผมได้สำนึกในความเมตตาขององค์พระสัมมาสัมพุทธที่พระองค์ให้อภัยผมและที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณที่เตือนสติให้ผมได้สำนึกผิด
                วันที่ 14 มกราคม 2554 หลังจากผมได้เขียนคำสารภาพบาปกับเล่าเหตุการณ์ของแต่ละวันที่ผมมาสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิดก็เกิดสิ่งที่ผมคิดว่ามันจะเกิดคือ ตั้งแต่ผมมาที่บ้านสวน มาค้างนั้นผมจะเจอเหตุการณ์แปลกๆ ความรู้สึกเหมือนโดนคนลากหลังจากหลับตาเพียงไม่เกิน 2 นาที เค้าก็จะมา แต่หลังจากเขียนคำสรภาพกับรายงานเหตุการณ์คืนนั้นผมก็สวดมนต์นอนตามปกติ แต่รอบนี้ผมตั้งท่ารอรับเหตุการณ์ ที่กล้าทำเช่นนี้เพราะ เราคิดว่าเราขอขมาอาจารย์แล้วบวกกับคำสารภาพกับใบรายงานเหตุการณ์ส่งให้อาจารย์แล้ว เหตุการณ์อันน่ากลัวก็มิได้เกิดกับผมหลับสบาย ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจมากเพราะตลอดที่ผมมาบ้านสวนพีระมิด ผมจะโดนคืนเว้นคืนเลย ก็ต้องขอขอบคุณบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสิ่งศักสิทธิบ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ที่ทำให้ผมหลับสบายขึ้น
                วันที่ 15 มกราคม 2554 ในตอนนั้นผมเริ่มมีความรู้สึกอิ่มใจยังไงไม่รู้ รู้สึกสบายใจแบบบอกไม่ถูก นี่ก็ 10 วันแล้วที่ผมมาอยู่ที่บ้านสวนพีระมิดดูเหมือนนานนะ แต่สำหรับผมผมคิดว่ามันไวมากแป๊ปเดียวก็จะครบ 15 วันและมีความรู้สึกไม่อยากให้ครบ 15 วันเลย นี่เป็นความรู้สึกที่ออกมาได้ตอนไหนก็ม่รู้ ผมอยู่ที่บ้านสวนพีระมิดมา 10 วัน ที่ผ่านมาผมตั้งใจใช้แรงกายอย่างเต็มที่ผมทำทุกอย่างที่พอจะทำเป็นทำได้ ทำแล้วกลับมีความรู้สึกไม่เหนื่อยเลย ซึ่งถ้าตามปกติแล้วถ้าผมอยู่ค่ายทหาร ผมจะขี้เกียจมากจะหาทางหลบงาน แต่มาที่นี่ผมวิ่งเข้าหาแต่งาน ช่วงใหนว่างจะมีความรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เซ็งมากซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน ทำแล้วมีความสุข พอช่วงเย็นผมกำลังว่างงานเซ็งมากไม่รู้จะทำอะไรเพราะมีญาติธรรมบ้านสวนพีระมิดทำหมดแล้ว ระหว่างนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผมดีใจมาก อยู่ๆ อาจารน์เรียกใช้ด้วยความเอ็นดูผมเลยรีบไปทำอย่างไวไม่รีรอ หลังจากนั้นก็มีการปิ้งบาบีคิวกันแล้วก็ได้นั่งสมาธิที่พีระมิดกับพี่สุเมธ พี่วี พี่ด้าร์ พี่อรม พี่สิทธิ์ พี่ฉัตรชัยและก็แฟนพี่ฉัตรชัย หลังจากนั่งเรียบร้อยทุกคนก็มาแชร์ความรู้สึกกัน ผมนี่ไม่มีอารายจะเล่าเลยเพราะเผลอหลับ แล้วหลังจากนั้นก็เข้านอน ก็เหมือนเดิมตั้งท่ารอ แต่อาการที่เคยเป็นก็ไม่มาก็หลับสบาย
                วันที่ 16 มกราคม 2554 ก็สร้างบุญด้วยแรงกายตามปกติเหมือนที่คยทำมาทุกวัน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เกินมา ความอบอุ่นที่เพิ่มมากขึ้น ผิดจากเมื่อก่อนมาตอนแรกรู้สึกหดหู่มากไม่พูดกับใคร ไม่สนใจ ไม่ทักใครแล้วก็คิดมากเรื่องตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้ไม่คิดเลยใสนใจด้วยซ้ำ คิดอย่างเดียวอยากหลุดพ้นจากเจ้ากรรมนายเวร ผมได้แต่อุทิศบุญอย่างเดียวหวังให้เจ้ากรรมนายเวรของผมหลุดจากความทุกข์ความพยาบาทเช่นกัน ปรารถนาจะนิพพาน ไม่หวังสูงไปไหน แต่ก็หวังและตั้งใจจะดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธา ไม่ว่าจะไปได้หรือไม่ได้
                วันที่ 17 มกราคม 2554 วันนั้นผมได้ขออนุญาติอาจารย์อุบลฯ ว่าจะอยู่สร้างบุญต่อไปจนถึงวันที่ 24 มกราคม 2554 อาจารย์ท่านก็อนุญาติผมก็ปลื้มใจ แล้วอาจารย์ก็มอบบุญให้ผมสร้างอีกปลื้มเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าอาจารย์ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราเข้าใจนี้หว่าเป็นเพราะใจเราเองที่คิดไปคนเดียว จริงๆแล้วอาจารย์ท่านเมตตามาก หลังจากท่านมอบบุญให้ผมสร้างท่านได้ทักผมอีกว่าให้เขียนเล่าเหตุการณ์วันแรกที่ผมมาบ้านสวนพีระมิด ผมก็จะขอเล่าเลยว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2553 ปีที่แล้วผมได้เข้ามาบำบัดก่อนอาจารย์อุบลฯ แต่ก่อนที่ผมจะเล่าผมขอท้าวความก่อนจะมาที่บ้านสวนพีระมิด เพราะมีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับผมก่อนที่จะมาบ้านสวนพีระมิดคือ ประมาณกลางเดือนธันวาคมผมจำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่ ผมได้ดูรายการคุยไปแจกไปทางเว็ปไซด์จากโทรศัพท์ ระหว่างที่ดูผมก็เห็นคนที่เข้าไปบำบัดหายจากการอนุโมทนาผ่านเว็ปหรือโทรศัพท์ ผมก็เลยลองทำตาม หวังจะให้ตาหายบ้างเพราะตาผมมีจุดสีดำๆ ลอยไปมาและเริ่มมีมากขึ้น จนผมกลัวว่าตาจะบอด แต่ก็ไม่เห็นจะหาย ลองอนุโมทนาอยู่หลายครั้งทำเรื่อยๆ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะลด ผมก็เลยดูต่อไปแล้วก็อธิษฐานในใจขอให้อาจารย์ดลจิตใจให้ผมได้ไปพบอาจารย์อุบลฯ ด้วยเทอญ ตั้งแต่นั้นผมก็เริ่มสวดมนต์ทุกวันและนั่งสมาธิ แล้วก็มีอยู่วันหนึ่งผมคิดว่าจะเอาไรไปแลกกับการไปบ้านสวนพีระมิด ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่าเรายังสูบบุหรี่อยู่ กินเหล้าอยู่ เลยคิดจะเอาสิ่งนี้มาแลกกับการได้ไปบ้านสวนพีระมิด ผมก็เลิกดูดบุหรี่กินเหล้ามาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ โดยไม่มีความอยากเลย จนมาถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2553 ผมได้ไปกับเพื่อน มันไปหานายของมัน แล้วก็กินเหล้าดูดบุหรี่ ผมก็เลยต้องกลับไปดูดบุหรี่กินเหล้าอีก ผิดสัจจะที่ให้ไว้กับอาจารย์ทางเว็ป ก็เกิดเหตุกับผมเลย พอกลับจากกินเหล้ากับนายเพื่อน ก็กลับบ้านรู้สึกว่าตัวเองตัวเองมีผืนแดงที่หน้าอกทั้งสองข้าง คันมากๆ ยิ่งไปโดนยิ่งคัน และดูเหมือนจะลุกลามอีก เอาบอดี้โลชั่นที่แม่ได้มาจากบ้านสวนพีระมิดทาก็ไม่หาย คันทั้งหน้าอกและบริเวณอวัยวะเพศยิ่งไปโดนยิ่งคัน ทรมานมาก ผมก็นึกเอะใจแล้วว้เป็นเพราะให้สัจจะไว้รึเปล่า จนมาถึงเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2553 ได้เดินทางมาบ้านสวนพีระมิดออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 อาการคันก็ยังไม่หาย จนมาถึงทางเข้าบ้านสวนพีระมิดตอนนั้นผมไม่ได้คิดขอขมาแต่ผมคิดอีกอย่างคือว่า ตอนที่ชมรายการคุยไปแจกไปทางเว็ปนั้น อาจารย์บอกว่าต้องชมรายการมาอย่างน้อย 3 ตอน อ่านทุกตัวอักษร ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะครบไหม แต่ผมดูมาเยอะมากก็พอสมควร แต่อ่านอักษรได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็พยายามอ่าน เพราะชมทางโทรศัพท์ภาพไม่ค่อยจะชัด เลยไม่แน่ใจว่าถูกตามกฎสวรรค์รึเปล่า ก็เลยอธิษฐานก่อนเข้าบ้านสวนว่าถ้าผมทำตามกฏสวรรค์ถูกต้องแล้ว ขอให้อาการคันหน้าอกและบริเวณอวัยวะเพศหายคันด้วยเทอญ พอรถจอดผมจับที่หน้าอกปรากฎว่าหายคันผมงงมากเลยและก็ดีใจไปด้วย มาถึงผมก็ใช้แรงกายเลยมาครั้งแรกยังไม่รู้อะไรเลย ไปช่วยเค้าขุดหลุมทางด้านในซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นที่ของใครผมปช่วยเค้าขุดได้ซักพัก อาจารย์มงคลก็มา ผมก็ยังไม่รู้จักกับอาจารย์เลยไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยซ้ำ พอมาถึงช่วงบำบัดผมก็เข้าไปบำบัดกับอาจารย์อุบลฯ ตอนแรกอาจารย์ท่านถามก่อนว่ามีใครที่ยังชมรายการไม่ครบ 3 ตอน ตอนนั้นผมใจหวั่นๆ แต่ก็ไม่ออกไปเพราะผมมั่นใจตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาบ้านสวนพีระมิดแล้วตอนอธิษฐานก่อนเข้ามา ผมเลยกล้าบำบัด ผมได้สารภาพบาปกับอาจารย์หลายเรื่อง ที่ผมสารภาพไปก็มีผมเคยเถียงพ่อแม่ โกหกหลอกเอาเงินแม่มาใช้เล่น เที่ยว หลอกเอาทรัพย์จากเพื่อน ติดตังค์เพื่อนไม่จ่าย (อันนี้ผมไม่ได้สารภาพตอนมาบำบัดเพิ่งคิดได้) มีความคิดที่วิตถารกับเพศตรงข้าม ชอบคิดจินตนาการในเรื่องบนเตียงกับเพศตรงข้าม เคยจาบจ้วงล่วงเกินพระบาทสมด็จพระเจ้าอยู่หัวและเชื้อพระวงศ์ เคยหันเท้าไปทางพระ เคยนอกใจแฟนตัวเอง (ไม่แน่ใจว่าสารภาพไปรึเปล่าแต่ตอนนี้ขอสารภาพครับ) คิดไม่ดีกับอาจารย์อุบลฯ และผมขอเสริมเพิ่งคิดได้คือ หลอกเอาเงินหลวงมาใช้เล่น เที่ยว พอผมรับสารภาพแล้วอาการตาของผมก็ดีขึ้นอย่างอัศจรรย์ตั้ง 98% อีก 2% อาจารย์อุบลฯบอกว่าให้ใช้แรงกาย ตอนนั้นผมบอกอาจารย์ไปว่าผมจะขอมาใช้แรง แต่บอกไป 9 วัน อาจารย์ว่าน้อยไป พอผมบอกอาจารย์ว่าจะไปหางานด้วยเลยโดนท่านตำหนิและบอกว่างั้นไม่ต้องหายผมเลยตัดสินใจเอา 15 วัน แล้วก็ลาอาจารย์กลับ
                                                                                                                                                วันที่ 18 มกราคม 2554


ผู้ตั้งกระทู้ เว็ปมาสเตอร์บ้านสวนพีระมิด โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-20 23:08:06


Copyright © 2010 All Rights Reserved.