ReadyPlanet.com


รวบรวมประสบการณ์การฝึกมโนมยิทธิ ที่บ้านสวนพีระมิด


 ใครมีประสบการณ์อะไรในการฝึกมโนมยิทธิ ที่บ้านสวนพีระมิด เชิญบอกเล่าเป็นธรรมทานให้แกญาติธรรมทุกท่านได้ในกระทู้นี้เลยครับ

ไม่ว่าจะเป็นการสื่อโดยเบื้องบน การท่องไปในจักรวาล หรือการฝึกกสิณต่างๆ

เชิญเลยครับ...



ผู้ตั้งกระทู้ คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-01 22:17:37


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 801 (1574629)

โมทนาบุญกับทุกท่านค่ะสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 09:52:57


ความคิดเห็นที่ 802 (1574646)

ท่านให้บอกว่า

ท่านจะยึด

รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย คืน

(สำหรับคนที่ไม่ใช้ หรือ ไม่มั่นใจ

ลังเลสงสัย ยังใช้วิธีอื่น หรือ ไม่เชื่อ)

"""""""""""""""""""""""

ผมขอบอกคำเดียวเลย

ไม่คืนครับ

ให้แล้วให้เลย..อิอิ

ปกติก้อใช้ประจำอยู่แล้ว

เวลาไปขายของแล้วคนน้อยๆ

ใช้ได้ผลทุกครั้ง

จ้างก้อไม่คืน

และขอปฎิบัติตามคำสอน

ของท่าน อ.อุบล

ที่ให้ทำสมาธิอย่างน้อยวันละ 9 ครั้ง

อาจารย์ให้ทำจิตให้สงบแล้ว

สูดหายใจเข้าภาวนา

นะ มะ

หายใจออกให้ภาวนา

พะ ทะ

อย่างน้อยครั้งละหนึ่งนาที

วันละเก้าครั้ง เป็นอย่างต่ำทุกวัน

 

ส่วนตัวผม ทำเป็นประจำอยู่แล้ว

ทั้งวัน เกินเก้าครั้งแน่นอน

เพราะฉนั้นรหัส

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

ไม่คืนแน่นอน..คร๊าบๆๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 11:14:08


ความคิดเห็นที่ 803 (1574692)
image

 

 
เสาร์ที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา
ได้ไปร่วมสร้างบุญที่บ้านสวน
เริ่มด้วยทำนากัน
ทั้งไถนา หว่านปุ๋ย และดำนา
ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำ
วันนั้นวันเดียวทำได้ 6-7 แปลง
มาก-น้อยกว่านี้ไม่แน่ใจค่ะ
ซึ่ง อ.สมศักดิ์ 
(ร.ม.ต.ว่าการกระทรวงเกษตรฯ)
ของบ้านสวนฯ
ท่านบอกว่า เป็นการทำนา
ที่เร็วที่สุดในโลก
กินเนสบุ๊กต้องจารึกไว้

ระหว่างทำรถไถก็ติดหล่มตลอดๆๆๆ
ต้องคอยส่งรหัสให้
ไปช่วยกันยกอยู่เป็นระยะ
อ.สมศักดิ์บอกว่ารถไถสู้แรงคนไม่ได้
(ไม่ติดหล่ม ไม่เหนื่อย ไม่พัก อิๆ)

โดยเฉพาะแปลงสุดท้าย 
เท่ากับ 3 แปลงรวมกัน
ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า
ตกลงกันว่าจะทำให้เสร็จ

อ.สมศักดิ์ ขับรถพาพวกเรากลับ
ระหว่างทาง ร้องเพลงบ้านสวนพีระมิด
ตลอดทาง ทั้งลูกเล็กเด็กแดง 
ไปจนถึง สว.
อิ่มบุญจัง..


...อาบน้ำอาบท่าแล้ว
เตรียมมาทำสมาธิกัน
ท่าน อ.อุบลบอกว่า 
การอนุโมทนาบาป
ไม่ว่าจะเป็นทาง โทรศัพท์
เว็บไซต์ การพูดคุย ฯลฯ
เราก็ต้องได้รับผลของบาปนั้น
เหมือนติดกระดุมเม็ดแรกผิด
เม็ดต่อๆ ไปก็ผิดหมด

ตัวอย่างเช่น
เราเห็นคนถูกหวย
เราบอกว่า 
ดีจัง ฉันอนุโมทนากับเธอด้วยแล้วกัน
นอกจากไปขุม 6 แล้ว 
เราก็จะเสียเงิน เสียทรัพย์
เท่ากับจำนวนที่เขาถูกหวยมา

จากเหตุการณ์ที่พี่เจี๊ยบเล่าถึง
น้องเบส ที่เป็นอิสลาม
เบื้องบนต้องการสื่อสาร
ให้เราเห็นว่าการใช้รหัส
อ.อุบลช่วยด้วย
จะต้องเกิดจากความศรัทธา
ด้วยใจจริงก่อน
ไม่ว่าชาติ ศาสนาใด
ท่านก็จะช่วยทุกคน

ตรงกันข้ามหากคนนั้น
ไม่ศรัทธา ลบหลู่ ปรามาส
ต่อให้เรียก อ.อุบลเท่าไร
ท่านก็ไม่ช่วย

ต่อไปจะไม่มีการแบ่งแยกศาสนา
ทุกอย่างจะรวมเป็นหนึ่งเดียวค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 16:40:52


ความคิดเห็นที่ 804 (1574718)

ขออนุโมทนากับ พี่เจี๊ยบ พี่โฆษิต พี่ตุ้ย น้องปุ๋ย ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 20:48:19


ความคิดเห็นที่ 805 (1574835)

 อนุโมทนารูปจากพี่ตุ้ยด้วยนะคะ

เห็นแล้วอยากมีโอกาส

ไปช่วยทำนาด้วยจัง

ท่าทางจะได้ทั้งความสุข สนุกสนาน

และอิ่มบุญกันถ้วนหน้าอีกแว้ววววววว

ชาวเกาะอย่างหญิง

ขอเกาะบุญพี่ๆทุกคนไปด้วยนะค๊าาา

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 03:54:15


ความคิดเห็นที่ 806 (1574872)

แฟนคลับ

ที่ไปดำนาบ้านสวนฯ

สงสัยหลับกันหมด

เหลือแต่ แฟนไม่ขับ เลยขับเอง

ไม่กี่คน เข้ามาบ่น มาเล่ากัน

 

เมื่อวันเสาร์

ที่ 24 ก.ย.54

ขอเล่าถึงเจ้ามาดำ

นาม คาเรี๊ยส

นิส นึง นะ

 

เพราะว่า

มีแต่คนมาถามหา

ว่า

ไหนครับ ไหนคะ

เจ้าหมา คาเรี๊ยส

 

เออนั่นสิ

เราลืมเจ้าหมา คาเรี๊ยส

ไปแล้ว

 

ปกติเราก็ไม่ได้สนใจ

เพราะ

ไม่ใช่หมาของเรา

แต่

เมื่อมาด้วยความอดอยาก

หิว มา ก็เวทนากันไป

ตามมีตามเกิด

 

คราวนี้

ท่านที่ได้อ่าน

เวปไซด์

ก็ไปถามหา

 

เออ นั่นสินะ วันนี้

ไม่เห็นหน้า คาเรี๊ยสเลย

 

จนบ่าย

ระหว่างยืนอยู่แถว

โรงทาน

กับพี่มหา

 

เจ้าคาเรี๊ยสก็โผล่มา

ทำหน้า อีหลักอีเหลื่อ

ทำอ่อนน้อม ย่อตัว แล้วเดิน

หลบๆ เลี่ยงๆ ไปด้านหลังโรงทาน

ก็คงไปหาอาหาร คงอดโซมา

ตามเคย

 

พี่มหา

จึงเอ่ย ถามว่า

อ.ครับ เจ้าหมอนี่รึเปล่าครับ

คาเรี๊ยส

 

อ.อุบล

หันไปเห็นพอดี

 

เออนี่แหละ

ใช่แล้ว

 

ก็แปลกนะ

เจ้าคาเรี๊ยส จะมาวนเวียน

อยู่แถว

พระบรมฉายาลักษณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

เพราะ

ตอนนั้น ที่ยืนกับ

พี่มหา ก็อยู่หน้าพระรูปท่าน

 

แสดงว่า

เจ้าคาเรี๊ยส มันจะมีกิน

ก็ด้วยการอาศัย

ใบบุญ

พระเจ้าอยู่หัวแน่นอน

 

อย่างบ้านสวนพีระมิด

ก็อุทิศบุญถวายพระองค์ท่าน

 

คาเรี๊ยส

ได้กลิ่น อาหาร

ในบ้านสวน ด้วยมีคนนำมา

ทำบุญเยอะ

 

คาเรี๊ยส

ก็ตามกลิ่นใบบุญ

ของพระเจ้าอยู่หัวมา

 

โอ้ อนิจจา

คาเรี๊ยส

ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้

โดยปราศจากการอาศัย

ใบบุญ

พระเจ้าอยู่หัว

 

คาเรี๊ยส

คงหากินโดยลำแข้ง

ไม่ได้แล้ว

 

นอกจาก

คอยแสวงหา

ว่าใครเขาทำบุญถวาย

พระเจ้าอยู่หัว

กันบ้าง

 

คาเรี๊ยส

ก็จะรีบใช้ 2 ขาหน้า

กรุยทาง

เพื่อ ทำ มา หา กิน

 

ไม่งั้น

คาเรี๊ยส อดตาย

แหน่

 

ขอให้พวกเรา

แผ่ส่วนบุญ ให้หมาคาเรี๊ยส

กันด้วยนะ อย่าใจแคบ

อย่าใจดำกันนะ

พวกเรา

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 10:02:47


ความคิดเห็นที่ 807 (1574873)

สักพัก หมา คาเรี๊ยส

ก็หายไปอีก

 

ตกเย็น

เลยถาม อ.มงคล

ว่า

วันนี้ เห็นหน้า เห็นตา

หมาดำ คาเรี๊ยส

บ้างไหม

 

เพราะ

แถวโรงทาน

ที่เคยมากินอาหาร

ผ่านมาแว๊บเดียวแล้วหายไป

 

อ.มงคล

บอกว่า มันคงย้ายที่ไหม่

เพราะ

เห็นไปปะปน วนเวียน

อยู่แถวแปลงผัก

 

ด้านหลังโน่นแน่ะ

 

อ้าว

เจ้าคาเรี๊ยส

ย้ายที่หากินเหรอ

 

ก็เห็นมันอยู่ท้ายสวน

ป้วนเ***ยนหากินขี้ไก่อยู่โน่นแน่ะ

 

เออ

เจ้าหมาคาเรี๊ยสนะ

อุส่าห์หลบหน้าผู้คนจาก

หน้าบ้านแถวโรงทาน

ไปหากินหลังบ้าน

 

เฮ้อ

คาเรี๊ยสเอ้ย

ยังไง ก็ไป ไม่พ้น บ้านสวน

อยู่ดีน้อ

(ถ้าไป แล้ว จะกินอะไร ล่ะ)

 

เอาหละ

ที่บ้านสวนฯนี่

คงมีอาหารเยอะพอ

เลี้ยงเจ้าได้

 

แต่ทำไม

ไปเล่น ขี้ไก่ ซะล่ะ

 

ชีวิตมัน

ตกต่ำขนาดนั้นเลยเหรอ

คาเรี๊ยส

 

เอ้า

เมื่อวันเสาร์

ใครเห็นเจ้าคาเรี๊ยสบ้าง

คนที่ไปทำแปลงผัก

 

ช่วยเล่าพฤติกรรมเจ้า

คาเรี๊ยส

เป็นธรรมทานหน่อยจ้า

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 10:13:01


ความคิดเห็นที่ 808 (1574927)

ผมขอบอกคำเดียวเลย

ไม่คืนครับ

ให้แล้วให้เลย..อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-26 11:14:08

 

 

ไม่ว่าเจ้าจะยอม

หรือไม่ยอม

แต่ถ้า

 

เจ้า

ไม่ใช้

หรือเจ้าไม่มั่นใจ

เจ้าใช้อย่างคนใจโลเล

 

เจ้าไม่มั่นคง

เจ้าสงสัย ไม่แน่ใจ

ว่า

งานนี้จะใช้ได้ไหม

หรือ

เอาไว้แค้ขายของ

 

ก็ต้อง

ขอ อำ ไพ นะ

ตา ตั้ม

 

แม้แต่

คนที่ไม่ได้ตั้งใจ

ลบหลู่

 

แต่

แค่ไปอนุโมทนา

กับคนที่

คิดร้าย กับ อ.อุบล

ยังโดน

ยึดคืน มาแล้วเลย

 

รหัสนี้

ใช่ว่า ใครจะบอกว่า

คืน...ไม่คืน

เอง นะ จ๊ะ

 

ถ้าเสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

 

เห็นว่า

 

ไม่น่าให้มันใช้

อีกต่อไป

 

เมื่อนั้น

ท่านยึดคืน แหง แหง

 

แง๊ แง๊ แง๊

เชิญร้องให้กันเข้าไป

 

มีของฟรี

ของดี ไม่รู้จักใช้

ไม่เห็นคุณค่า

 

ถ้าท่านเอาคืนแล้วนะ

มาขอใหม่

 

คราวนี้

ต้องบอกว่า ในเจีย

เสียใจ

 

ได้ หรือ ไม่

ข้า...วินิจฉัย...เอง

(อ.อุบล ไม่เกี่ยว)

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 14:42:34


ความคิดเห็นที่ 809 (1574928)

อีกพวกหนึ่ง

ที่จะถูกยึด รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วยคืน

คือ

1.พวกไม่เชื่อพระพุทธเจ้า

ไม่ทำตามคำสอน

 

2.ไม่เชื่อ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด

สั่งอย่างทำอย่าง หรือ บอกอะไร

ก็ไม่ทำ แต่ จะคอยมา

ขอส่วนบุญ ต้องการแต่

ความสุขสมหวัง คำสั่งคำสอน

ไม่สนใจ

 

3.พวกไม่จริงใจ

หน้าไหว้หลังหลอก

พวกไม่จริงจัง ไม่ทำดีทั้ง

ต่อหน้า และ ลับหลัง

พวกใจไม่เต็มร้อย

 

4.พวกหน้าบาง ยางอายเยอะ

แอบใช้ได้ผล แต่ เชอะ

เรื่องอะไรจะมาเขียน

เสียเหลี่ยมฉันหมด

ขอบอกว่า ต่อไปนี้ อด

เชิญเรียกเข้าไป ยังไงก็ไม่ได้ผล

 

5.พวกเอาแต่ได้ แต่ไม่กตัญญู

ไม่เคยสำนึกในบุญคุณ

ไม่เคยมาเขียนเล่า

ไม่เคยร่วมบุญ

ไม่เคยลงทุน

ต้องการ แต่กำไร

ที่ได้มาง่ายๆ ของตายนี่นา

 

คราวนี้

จะเรียก จะร้อง

อ.อุบล ช่วยด้วย

ยังไง

ก็ไม่ได้ผลแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 14:52:52


ความคิดเห็นที่ 810 (1574930)

อีกพวกหนึ่ง

ที่จะใช้ไม่ได้ผล

คือ

พวกวิกลจริต คิดมาก ยากนาน

จะบอกใครก็กลัวแต่เขาไม่เชื่อ

อย่างนี้ จะบอกให้

เรียก อ.อุบล ช่วยด้วย ให้ตาย

ก็ไม่ได้ผล

 

เพราะ

คนแบบนี้ ทั้งโง่

ทั้งงี่เง่า เต่าตุ่น

 

แล้วก็

ไม่รู้จักใช้รหัส

ก่อนบอกใครอีกด้วย

 

พวกนี้

ชีวิต มันช่าง ซวย

จริงๆ

 

อย่าใช้ต่อไปเลย

ใช้ชีวิต

อย่างเดิมน่ะดีแล้ว

 

แป่ววว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 14:56:06


ความคิดเห็นที่ 811 (1574961)

 

แล้วก็

ไม่รู้จักใช้รหัส

ก่อนบอกใครอีกด้วย

 

9999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999999

วันนี้ตัดสินใจบอกรหัสนี้ แก่คนที่มีทิฏฐิมานะมาก

จึงเรียก อ.อุบล ช่วยด้วยในใจ

ก่อนจะเริ่มบรรยายคะ

ขอบพระคุณมาก ๆ คะ หนูยังใช้รหัสนี้ได้ผลอยู่

กราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณที่ยังให้โอกาสหนู

และอีกหลาย ๆ คนรอบ ๆ ตัวด้วยคะ

 

ยืนยันอีกครั้ง ใช้ได้ผลครอบจักรวาลจริง ๆ คะ

สาธุ ๆ ๆ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 19:32:14


ความคิดเห็นที่ 812 (1575014)

 ในคืนวันเสาร์ที่ 24 กันยายน ท่านอาจารย์อุบลได้ให้ธรรมมากมาย ขออนุญาติเล่าเป็นธรรมทานค่ะ

1.    ท่านดร.อาจอง ส่งสัญญาณเตือนภัยพิบัติใกล้เข้ามามากๆๆแล้ว

-        เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2555 นี้จะรุนแรงมากๆๆๆ จะมาเร็วกว่ากำหน

-        ท่านนำข้าราชบริพารวังสวนจิตรลดาทำสมาธิอโลคสิน

-        ท่านจะนำคณะครูโรงเรียนสัตยาไสย 45 คน มาร่วมทำสมาธิที่ค่าย 10 บ้านสวนพีระมิด

***** การทำสมาธิจะช่วยได้มากๆๆ ****

2.    ท่านอาจารย์อุบลเตือนลูกบ้านสวน

ให้ยึดคำสั่งอาจารย์เป็นหลัก

( เช่น คนเรารู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นยอดสัพพัญญู  ถ้าเชื่อก็ต้องทำตาม  แต่ถ้าไม่ทำตาม ก็คือไม่เชื่อ )

****กฎ คือ อาจารย์ท่านรู้แล้วว่าทำเช่นไรจะรอด แต่ท่านอาจาย์ถูกห้ามไม่ให้บอกตรงๆ ****

-        ให้ฟังว่าอาจารย์จะให้ทำอะไร

-        อาจารย์พยายามทำทุกอย่างให้ทุกคนรอดสู่ยุคศรีวิไล

-        ใครมีความสามารถพิเศษอะไรให้นำมาใช้อย่างเต็มที่

-        เมื่อมาบ้านสวนพีระมิดให้ตักตวงบุญอย่างเต็มที่  “ทุกนาทีเป็นนาทีบุญ”

-        ถ้ามาเพื่อมาพักผ่อนอย่ามา

3.    คนโง่ คือ คนไม่ฝึกสมาธิ 

-        ให้ทำสมาธิวันละ 9 ครั้ง ( ครั้งละ 1 หรือ 2 นาทีก็ได้ )

-        ความถี่จิตไม่สูงพอจะถูกทำลายจากภัยพิบัติ

-        ก่อนทำสมาธิให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้า รู้ลมหายใจออก  แล้วจึงภาวนา

-        ถ้าอยากให้จิตมีความเป็นทิพย์ จิตมีอำนาจให้ภาวนา “ นะมะ  พะทะ”

4.    ชาวนาเป็นผู้มีพระคุณกับเรา  ให้ยกย่องให้เกียรติชาวนา  เมื่อพบให้ไปขอบคุณ

-        ต้นข้าวพันธ์พระราชทานที่บ้านสวนตอนนี้  1 เมล็ด งอกได้ 83 ต้น มากที่สุดในโลกเป็นอัศจรรย์ )

5.    เราต้องร่วมมือช่วยเหลืองานท่านอาจารย์อุบล

-        รื้อสัตว์นรกทุกขุม

-        สร้างความดี ช่วยกอบกู้โลก

-        ช่วยเพื่อนมนุษย์ของเรา

6.    ตอนนี้ภพภูมิเปิดแล้ว  สัตว์นรกขึ้นมาจัดการคนที่ไม่ดีเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นคนดี

-        หากเปลี่ยนไม่ได้จะนำไปเป็นตัวแทนรับกรรมในนรกแทน

-        ต่อไปอย่าไปตำหนักทรง

-        หากจะทำอะไรก็ตามให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าแผ่ปกคลุมตนเองก่อน

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) (prapasiri_mim-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 21:41:36


ความคิดเห็นที่ 813 (1575015)

            

 

 

 

 

7.    ท่านที่ยังปฏิบัติธรรมยังไม่ได้ ไม่ได้ผล  จิตแวบ  คิดไม่ดี อาจเพราะเคยเป็นสาวกพระเทวทัตมาก่อน

-        ให้ลาออกจากการเป็นสาวกของท่าน  โดยการขออำนาจพระรัตนตรัยนำบอกกล่าวแก่ท่าน

-        เมื่อทำบุญทาน ศีล ภาวนา ก็ให้อุทิศให้ท่าน

8.ทำความดีทุกลมหายใจเข้าออก

9.    ก่อนจะโมทนากับใครให้คิดอ่านให้รอบคอบก่อน

-        หากเป็นบาป เราก็จะได้บาปไปด้วย 

-        ยิ่งบาปปรามาสพระรัตนตรัย  สิ่งศักดิ์สิทธิ์   ในหลวง  ท่านอาจาย์อุบล บาปหนักมากๆๆๆ

-        โมทนาบาปจะทำให้คุณไสย มนต์เข้าตัวได้ เพราะผิดศีล 5

-        รหัสอาจาย์อุบลช่วยด้วยที่เคยใช้ได้ จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป

10.  ตอนนี้คุณไสยมนต์ดำ  มีอยู่ทั่วไปหมด ทั้งโดยตรง  ผ่านทางเว็ปไซด์ หรือทางโทรศัพท์

11.       พีระมิดเป็นเครื่องขยาย

-        ขยายทั้งพลังงานบวก  และพลังงานลบ

-        ขยายพลังงานบอก  คือ จิตผู้สร้างเพื่อการช่วยเหลือ

-        ขยายพลังงานลบ คือ จิตผู้สร้างเพื่อทำลาย

12.       ราต้องสามัคคีร่วมช่วยกันปกป้อง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

-        มีบุคคลที่จ้องและคอยทำลายประเทศไทย

13.       หัวข้อสำคัญที่สุด ที่พระพุทธองค์ท่านสื่อผ่านท่านอาจารย์อุบลมา คือ

การใช้รหัส  “ อาจารย์อุบล ช่วยด้วย “

-        ให้บอกรหัส “ อาจารย์อุบลช่วยด้วย “ ให้แก่คนอื่นวันละ 9 คน

-        โดยเล่าประสบการณ์ที่เราใช้รหัสนี้ได้ผลให้คนอื่นฟัง

-        ส่วนเขาจะเชื่อหรือไม่นั้น เบื้องบนจะจัดการต่อเอง

-        ถ้าเราไม่บอกรหัสนี้กับคนอื่น ต่อไปสมเด็จท่านท้าวเวสสุวรรณจะเอาคืน

14.             รหัส “อาจารย์อุบลช่วยด้วย” เป็นรหัสที่ช่วยคน เป็นมติของจักรวาล

-        ใช้ได้กับบุคคลทุกศาสนา  แต่คนนั้นต้องไม่ปรามาสพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านอาจารย์อุบล

-        ต่อไปทุกศาสนาจะรวมกันเป็นศาสนาเดียว

15.            บุคคลที่ปฏิบัติดังต่อไปนี้จะโดนยึด รหัส “อาจารย์อุบลช่วยด้วย “

-        ไม่เห็นคุณค่า คือ ไม่ยอมใช้  ใช้อย่างไม่มั่นใจ สงสัย   ใช้อย่างคนโลเล

-        คนที่ลบหลู่ ปรามาส หรืออนุโมนากับคนที่ปรามาสคิดร้ายกับท่านอาจาย์อุบล

-        ไม่เผยแพร่บอกต่อ รหัส “ ท่านอาจาย์อุบล ช่วยด้วย”

***** ขออนุญาตนำคำสอน บนข้างบนของของท่านอาจาย์ มาเสริมนะคะ *****

-        พวกไม่เชื่อพระพุทธเจ้า คือ ไม่ทำตามคำสอน

-        พวกไม่เชื่อท่านอาจารย์อุบล คือ ไม่ทำตามคำสอน คำสั่ง

-        พวกไม่จริงใจ  พวกหน้าไหว้หลังหลอก  ใจไม่เต็มร้อย

-        พวกหน้าบางใช้ได้ผลแล้วไม่ยอมเขียนเล่า

-        พวกไม่กตัญญูไม่เคยเขียนเล่า  ไม่เคยสำนึกบุญคุณ  ไม่เคยร่วมบุญ  ไม่เคยลงทุน

-        พวกวิกลจริต  คิดมากยากนาน  จะบอกอะไรก็กลัวใครเค้าไม่เชื่อ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) (prapasiri_mim-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 21:42:15


ความคิดเห็นที่ 814 (1575024)

 

น้องมิ้มจ๋า

พี่ขออนุโมทนาบุญ

กับธรรมทานด้วยค่ะ

อ่านแล้ว

กระชับ ได้ใจความสุดยอด

ไม่ได้ไปร่วม กิจกรรม

ได้อ่านแล้ว สาธุ ค่ะ

อิ อิ สมแล้วกับที่

เป็นขวัญใจของพี่....

..แมว..

คิดถึงนะคะ นักร้อง => น้องรัก

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 22:01:25


ความคิดเห็นที่ 815 (1575036)

 เอ้า

เมื่อวันเสาร์

ใครเห็นเจ้าคาเรี๊ยสบ้าง

คนที่ไปทำแปลงผัก

**************************

หนูเห็นค่ะอาจารย์

เจ้าหมาดำคาเรี๊ยส

มันเดินไปที่แปลงผัก

ที่เราเพิ่งจะโรยปุ๋ย

ขี้ไก่ผสมขี้วัว

ลงไป

แล้วมันก็กินใหญ่เลยค่

พวกเราได้แต่อ้าปากค้าง.............

เพราะว่ามันกินขี้ำไก่ค่ะ

โอ้มันกินขี้่นี่เอง

ถึงได้มีพฤติกรรมถ่อยๆแบบนี้

สำรอกอะไรออกมา

ก็เป็นของสกปรก

โสมม

ไปหมด

เพราะกินขี้ไก่เป็นอาหารนี่เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-27 22:54:47


ความคิดเห็นที่ 816 (1575062)

 ขออนุโมทนากับอาจารย์แม่และคุณมิ้มด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 03:41:47


ความคิดเห็นที่ 817 (1575086)

ขอขอบพระคุณท่าน อ.อุบล

ที่ช่วยเตือนสติครับ

ต่อไปจะเชื่อมั่นและมั่นใจ

และใช้รหัส

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

เป็นสิ่งแรกเลยทุกครั้งทุกเหตุการณ์ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 09:21:21


ความคิดเห็นที่ 818 (1575188)

กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อุบล ครับ ขอน้อมรับ มา

แก้ไขข้อบกพร่องครับ (โดนหลายข้อเลย)

ขออนุโมทนากับน้องมิ้มด้วยครับ ที่นำธรรมทาน มา

เหลาให้ฟัง

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-28 18:12:44


ความคิดเห็นที่ 819 (1575899)

ธรรมทานวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.54

ท่านอาจารย์สอนเรื่อง ฌาน

การเข้าฌาน 1 ได้ หมายถึงตัดนิวรณ์ 5 ได้แล้ว

   นิวรณ์ 5 ได้แก่

    1.อาการง่วง เหงา หาวนอน

    2.โกรธ เคียดแค้น 

    3.รำคาญเสียงรบกวน

    4.สงสัยในผลที่ได้จากสมาธิ

    5.ความหลงทุกอย่าง เช่น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสระหว่างเพศ

ถ้าเราตัดได้ทั้งหมดนี้เราก็เข้าฌาน 1 แต่ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเท่านั้น ตอนทำงานเราก็เข้า ฌาน 1 ได้เช่นกัน ถ้าเรามีสมาธิ จิตใจจ่่ออยู่่กับงาน ไม่ง่วง ไม่รู้สึกรำคาญเสียงรบกวน เป็นต้น

ฌาน 2 จะมีอาการปิติ ขณะทำสมาธิ เช่นปิติทั้ง 5 ขนลุก ขนพอง น้ำตาไหล ตัวสั่น

ฌาน 3 ตัดปิติออกเหลือแต่มีความรู้สึกมีความสุขอย่างเดียว เช่นตอนเราเต้นเพลงชวนกันไปสร้างพีระมิดจังหวะม้าย่องนั้น หลายคนรู้สึกมีความสุขมากขณะที่เต้น นั่นหมายถึงเขาเข้าฌาน 3แล้ว

ฌาน 4 มีแต่อุเบกขาอย่างเดียว ไม่มีปิติ ไม่มีความสุข จิตนิ่งอยู่อย่างเดียว แน่วแน่อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ถ้าต้องการให้จิตจับฌาน 4ตลอด คือท่อง พุทโธ ตลอดเวลา

ถ้าไม่ให้พลาดจากฌานเลย ให้จิตจับพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าตลอดเวลา

ท่านอาจารย์พูดถึงเรื่องเข้าค่าย10 ในวันเสาร์ - อาทิตย์ที่ 15- 16 ต.ค. 54

1.เรื่อง การแสดงในวันเข้าค่าย ซึ่งจะมีประมาณ 8-10 ชุด

ท่านใดที่ร่วมเข้าค่ายมีความประสงค์จะแสดงถวายพระพุทธองค์และเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ ต้องแจ้งความประสงค์ได้แล้วนะคะ ช้าอดรำจริงๆด้วย และท่านต้องมาร่วมฝึกซ้อมรำก่อนล่วงหน้าด้วยค่ะ คือในวันเสาร์ที่ 8 - 9 ต.ค.ต้องมาร่วมซ้อมรำ และจะมีค่าใช้จ่ายในการเช่าชุดใส่รำด้วยค่ะ เพื่อความสวยงาม และพร้อมเพรียง

2.เรื่องอาหาร ให้ทุกคนเตรียมนำอาหารมาคนละเล็กละน้อย เพื่อมาทำสังฆทาน จะเป็น อาหาร ขนม หรือผลไม้ก็ได้ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-02 21:51:34


ความคิดเห็นที่ 820 (1575946)

อนุโมทนากับคุณ เพชรดา นักข่าวมือไว..

รายงานด่วนก่อนใครทุกอาทิตย์เลย..

สาธุ

 

อนุโมทนากับทุกๆธรรมทานจากท่านอ.อุบล

และพี่น้องบ้านสวนฯทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 02:22:25


ความคิดเห็นที่ 821 (1575951)

ขออนุโมทนากับคุณเพชรดาด้วยคะ เร็วที่ 1 จริง ๆ คะ สาธุ..

กราบขอบพระคุณเบื้องบน และอ.อุบลที่เมตตาคะ สาธุ.........

จะพยายามทำตามคำสอนให้ดีที่สุดคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 02:35:28


ความคิดเห็นที่ 822 (1575997)

 ขออนุโมทนาบุญคุณเพชรลดาด้วยค่ะ รวดเร็วทันใจจริงๆค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่อธิบายธรรม

ได้กระชับเข้าใจง่าย และนำไปปฏิบัติได้ไม่ยาก ในชีวิตประจำวัน

 

หนูจะพยายามนำ้ไปปฏิบัติให้ได้มากที่สุดเท่าที่รู้ตัวค่ะ  สาธุ สาูธุค่ะ


:  หนูขออนุญาตคัดลอกธรรมนี้ส่งต่อให้เพื่อนๆที่สนใจในการทำสมาธิ อ่านนะคะ สาธุค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) (prapasiri_mim-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 10:41:40


ความคิดเห็นที่ 823 (1576017)

นำธรรมทานเมื่อวันเสาร์ ที่ 1 มาฝากทุกท่านค่ะ


อาการของฌานที่ 1 คือ   
 
1.ทำสมาธิแล้วไม่ง่วง 
2. ไม่มีอารมณ์โกรธ
3. ไม่รำคาญ เสียงรบกวนภายนอก
4. ไม่สงสัยผลของการปฏิบัติ
5. ตัดความหลงได้ คือนิวรณ์ 

ซึ่งแบ่งเป็นข้อย่อยได้ดังนี้ค่ะ

5.1 หลงรส  อาหารมีทั้งธาตุมืดและสว่างอย่างมะเขือพวง ถ้าดิบจะเป็นเหมือนยาพิษแต่ถ้าต้มให้สุก แล้วเอาน้ำมาดื่มจะเป็นยา โดยให้ดื่มแต่น้ำ
 
5.2 หลงเสียงเพราะ คนส่วนใหญ่ชอบฟังคำพูดที่ไพเราะ ซึ่งเขาอาจโกหกเราก็ได้ 
 
5.3 หลงกลิ่นหอม  เราต่างเสียเงินเสียทองไปหาของอร่อยๆ กิน ซึ่งล้วนผ่านกรรมวิธีการผลิตมาหลายขั้นตอน เมื่อถึงยุคศิวิไลซ์อาหารที่เรากินจะผ่านกระบวนการน้อยมาก ถึงน้อยที่สุด
 
5.4 หลงความสวย  เรามักชอบคนสวย ชอบอาหารที่ดูน่ากิน แต่ของสวยเหล่านั้น อาจไม่มีคุณภาพ คนที่ไม่หลงความสวยจะได้เจอของดีเอง
 
5.5 สัมผัสระหว่างเพศ   อันนี้ควรตัดให้ได้ แต่ผู้ที่มีคู่ ก็สามารถเป็นพระโสดาบัน และพระสกิทาคามีได้ ส่วนคนโสดนั้น อาจารย์ท่านขออนุโมทนาบุญกับคนที่โสดด้วยเพราะมีโอกาสบรรลุธรรมขั้นสูงต่อๆ ไปได้


ซึ่งฌานนั้นไม่จำเป็นต้อง
นั่งสมาธิเสมอไป ไม่ว่า
ทำอะไรอยู่ก็สามารถเป็นฌานได้ทั้งนั้น
โดยเอาจิตจับที่พระรูป
พระโฉมของพระพุทธเจ้า
ไว้เป็นประจำค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 13:17:41


ความคิดเห็นที่ 824 (1576049)

อนุโมทนากับธรรมทาน

ของพี่เจี๊ยบ และ พี่ตุ้ยค่ะ

กราบขอบพระคุณธรรมทาน

จากท่าน อ.อบุลค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร (ananya-an-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 16:14:33


ความคิดเห็นที่ 825 (1576122)

 ขอเสริมต่อค่ะ 

ฌาณ 4 คือ การจดจ่อ (Concentrate)

นึกถึงสิ่งที่ทำอยู่ 

ไม่คิดถึงเรื่องอื่น
ทำเพื่อไปนิพพานได้ 

หากยังไปไม่ได้

ก็ไปแวะชั้นจาตุมหาราชิกา 

หรือชั้นดาวดึงส์ก็ยังดี

ฌาณ 4 ทำง่าย ๆ คือ พุทโธ

การที่จะได้

เราไม่ต้องไปจดจ่อว่าได้ขั้นไหน 

เราสามารถทำตอนไหนก็ได้ 

ขับรถอยู่ก็ทำได้

ทำอะไรอยู่ก็ทำได้

ที่ผ่านมา อ. อุบล ได้พาพวกเราปฏิบัติถึงฌาณ 4 แล้ว
โดยที่พวกเราบางคนไม่รู้ตัว

ส่วนคนที่ได้แล้ว นำมาโอ้อวด 

ถือว่าเป็นโมฆะบุคคล 

เราทำเพื่อให้รู้ว่าธรรมะของพระพุทธองค์มีจริงค่ะ
ส่วนค่าย 10 นี้
 
จะมีกิจกรรมพิเศษ คือ
 
คณะครูที่โรงเรียนสัตยาไส จะมาทำสมาธิ
 
จำนวน 45 ท่าน
 
ซึ่งการทำสมาธิจะช่วยกอบกู้โลกได้
 
ในแต่ละวันเราควรทำให้ได้ 9 ครั้ง
 
เหมือนเด็ก ๆ ที่โรงเรียนสัตยาไส
ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ 

เราจะจัดกิจกรรมเพื่อบวงสรวงท่านท้าวเวสสุวรรณ 

ซึ่งจะเป็นปฏิบัติบูชาทั้งหมด

เช่น การทำสมาธิ โดยการนำของ ดร. อาจอง

และการแสดงอีกประมาณ 8 ชุด จากลูก ๆ บ้านสวนฯ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา (pooyingnaya-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 20:50:03


ความคิดเห็นที่ 826 (1576149)

จริงๆที่ผ่านมาเวลาเราฝึกสมาธิกันในคืนวันเสาร์

ท่านอ.อุบลได้นำพวกเราฝึกจนพวกเราสามารถเข้าถึงฌานได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว

เพราะท่านไม่ได้มาเน้น บอกว่า

ฌาน 1 2 3 4

เป็นอย่างไร

แต่ละฌานมีอาการเป็นยังไง

เพราะท่านกลัวว่าพอเรารู้แล้ว

จะไปหลงยึดติด

คอยสังเกตุอาการตัวเอง

ระหว่างฝึกว่า เอ๊ะตอนนี้

เราได้ฌานไหนแล้วนะ

สุดท้ายก็จะยึดติด ไปไม่ถึงไหน

ซึ่งท่านอ.อุบล ได้บอกว่า

หน้าที่ของท่านคือ

ต้องสอนลูกศิษย์ให้รู้จักฌานต่างๆ

สามารถเข้า  ออก ฌาน 4 ได้

โดยเฉพาะเวลาจะตายให้พวกเราออก ฌาน 4 ให้ได้

จะสังเกตุว่าตอนนี้ ท่านได้มาย้ำสอนเรื่อง

การเข้า ออก

ฌาน 4 อีกครั้ง และเตือนเรื่อง

เตรียมตัวพร้อมตาย

เตือนเรื่องภัยพิบัติ

คราวนี้คงจะหนักมากๆ

ดังนั้นขอพวกเราอย่ากังวล

ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น

แต่ให้เตรียมตัวให้พร้อมดีกว่า

เวลาว่างๆ ให้เอาจิตจับพระพุทธเจ้าไว้

นึกถึงเรื่องบุญกุศลที่บ้านสวนฯ

ฝึกบ่อยๆเพื่อความเคยชิน

วันละไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-03 23:27:53


ความคิดเห็นที่ 827 (1576164)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากทุกท่านครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 01:44:57


ความคิดเห็นที่ 828 (1576172)

 ขออนุโมทนากับคุณเพชรดา พี่ตุ้ย และพี่อ้อยด้วยค่ะ

และกราบขอบพระคุณอาจารย์แม่

ที่มาสอนให้เข้าใจโดยเฉพาะเวลาที่ใกล้เข้ามา

ทำให้รู้ว่า เวลาเหลือไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย

เหมือนที่ผ่านมาแล้ว 

น้อมรับนำไปปฏิบัติค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 03:36:54


ความคิดเห็นที่ 829 (1576217)

กราบขอขอบพระคุณกับทุกท่าน

ที่ได้ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์

การฝึกมโนมยิทธิค่ะ

แต่ก่อนยอมรับเลยนะค่ะว่า

กลัวตายมาก แต่ตอนหลังมารู้จัก

บ้านสวนฯได้ฟังครูบาอาจารย์สั่งสอน

จนตอนนี้ไม่รู้สึกกลัวตายแล้วค่ะ

เพราะเรารู้ว่าเราจะเตรียมตัวเพื่อรับมืออย่างไร

กราบขอบพระคุณเป็นที่สุดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนวดี รัชตารมย์ (thanavadee_r-at-sepo-dot-go-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 10:46:41


ความคิดเห็นที่ 830 (1576258)
image

 เสาร์ที่ผ่านมาหลังจาก

พวกเราบ้านสวนสร้างบุญ

ด้วยแรงกายกันมาทั้งวันแล้ว

ช่วงเย็น ก็ถึงเวลารีแลกซ์ค่ะ

ดังภาพค่ะ

 

 

บ่้อน้ำพีระมิดของเราที่ขุดไว้

ตอนนี้มีน้ำฝนตกลงมา

จนเป็นสระว่ายน้ำที่น้ำใส๊ใส

สังเกตว่าน้ำจะเป็นสีเขียวมรกต

น่าลงไปว่ายมั่กๆ

 

แล้วสังเกตว่าคนที่ลงไปเล่น

ขึ้นมาหน้าจะใสมากๆค่ะ

(ก็บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

น้ำพีระมิดนี่นา)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 13:04:33


ความคิดเห็นที่ 831 (1576278)

แล้วสังเกตว่าคนที่ลงไปเล่น

ขึ้นมาหน้าจะใสมากๆค่ะ

(ก็บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

น้ำพีระมิดนี่นา)

********

ใช่จ๊ะน้องตุ้ย

เห็น น้องไอซ์

น้องแมว...หม่อมปลาพะยูน..อิอิ

และเด็ก

หน้าสดใสกันทุกคน

(มีความลับก็ไม่บอกนะนู๋ไอซ์)

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 14:04:54


ความคิดเห็นที่ 832 (1576305)

บ่อน้ำนี้

ตอนนี้ยิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก

เพราะว่า น้องกระต่าย

ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำ

เกรงว่าจะน้อยไป

ไม่พอว่าย

 

ก็เลยปล่อยน้ำ

จากท่อน้ำส่วนตัว

ลงบ่อไป

แย้วววววว

 

โธ่

น้องกระต่าย

 

อ.อุบล

ไปบอกช้าไป

 

เสด็จพ่อบอก

เอ็งรีบไปหน่อย

มีคนฉี่ลงในน้ำ

 

ก็เลยเดินไปบอก

ว่า

อย่าฉี่ในน้ำนะ

เดี๋ยว น้องหนู จะป่วย

ไม่สบาย เดี๋ยวฉี่ขัด

แสบ คัน สั้น

ยาว

ฯลฯ

 

แล้วก็มีคน

ทำหน้าเรี่ยลาด

เลยหละ

 

555

 

จะกล้าลง

กันอีกไหมเนี่ย

 

อุส่าห์ห้าม

ถุงมือเลอะมูลไก่

ได้ทัน

 

แต่ไม่ทันฉี่

น้องกระต่ายเสีย

แว้ววว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 15:55:57


ความคิดเห็นที่ 833 (1576309)

ไม่ทันแล้วค่ะอาจารย์ แช่ไปเรียบร้อยแล้ว

แต่หนูไม่กลัวค่ะ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซะอย่างอิอิ

อาทิตย์หน้าจะไปลงใหม่กับพี่เหมี่ยวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 16:38:12


ความคิดเห็นที่ 834 (1576318)

อย่าฉี่ในน้ำนะ

เดี๋ยว น้องหนู จะป่วย

ไม่สบาย เดี๋ยวฉี่ขัด

แสบ คัน สั้น

ยาว

-*-*-*-*-

กร๊าก ๆๆ

สุดยอดเลยจร๊า

อ.อุบล ขา

กลืน + สำลัก

น้ำไปเต็ม ๆ

น้องเอริค

กดหัวตอน

ที่ดำน้ำเล่น

-*-*-*-*-*-

หลังจากการ

ที่ได้ทำบุญด้วย

แรงกาย

ก็รับบุญด้วย

พลังพิรามิด

ผ่อนคลาย

สบายมาก ๆ ค่ะ

สดชื่นจริง ๆ

มีความสุขที่ซู๊ด.ด.ด

ขอบพระคุณ อ.อุบล

มาก ๆ นะคะ

ที่อนุญาติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 17:23:08


ความคิดเห็นที่ 835 (1576355)

เห็นภาพบ่อน้ำพีระมิดแล้ว

ความรู้สึกเหมือนแม่น้ำสายย่อยๆ

เลยนะคะเนี่ย ใครมีบุญได้ลงไปอาบ

คงจะได้ความรู้สึกเหมือนลงไปแช่น้ำมนต์

ที่ศักดิ์สิทธิ์ ขจัดความทุกข์ โรคภัย

และคงจะสดใสและหายเหนื่อย

กันเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว..

ได้อาบแต่ละที คงจะสะอาดทั้งกาย

และสะอาดทั้งใจ...

 

และน้องกระต่ายก็ใจดีไปหน่อย

ช่วยเพิ่มแร่ธาตุและกรดยูเีรีย

ให้กับน้ำในบ่อไปซะแล้นน..

.............................................................

อนุโมทนากับธรรมทานจากท่านอ.อุบล

คุณตุ้ย หนูก้อย และคุณอ้อย ด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 19:57:21


ความคิดเห็นที่ 836 (1576365)

 อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของทุก ๆ ท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 20:28:46


ความคิดเห็นที่ 837 (1576403)

ความลับหน้าใส๊..ใส

มาจากน้องกระต่ายนี่เอง

 

ขออนุโมทนากับธรรมทานจากอ.อุบล

และลูกบ้านสวนฯ ทุกท่านคะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 21:39:42


ความคิดเห็นที่ 838 (1576448)

บ่อน้ำพีระมิดน่าลงไปเล่นจริงๆค่ะ

ว่าแย้วทำไมทั้งเด็กๆและพี่ๆทั้งหลาย

จึงลงไปว่ายกัน ฮิฮิ

แถมส่วนผสมพิเศษจากน้องกระต่ายอีก 

หน้าใสไปตามๆกันเล้ยยย ฮิฮิ

อนุโมทนากับอาจารย์แม่และทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 03:24:51


ความคิดเห็นที่ 839 (1576557)

เมื่อเสาร์ที่ 1 ต.ค

ตอนที่อาจารย์ท่านได้เมตตา

อุทิศบุญให้แก่ดวงวิญญาณ

อ๊อดได้ทำสมาธิอุทิศบุญตาม

ท่านอาจารย์

ปรากฎว่า ไหล่ และ แก้มข้างขวา

ร้อนและหนักมากใช้จิตดูว่า

เราคิดไปเองรึเปล่า(ไม่ใช่)

ไม่ได้คิดเองเป็นจริงๆ

ก็ได้อุทิศบุญตามอาจารย์ไปเรื่อยๆจนจบ

อาการหนักไหล่ก็หายไป

ใบหน้าหายร้อน ตัวเบาไม่หนักเหมือน

เมื่อก่อน(หายแล้วค่ะ)

 

ย้อนหลังหน่อยค่ะ

ก่อนหน้านั้นหงุดหงิดมาก

โมโห โกรธหาสาเหตุไม่ได้

นั่งสมาธิไม่ได้  สวดมนต์ไม่ได้

สวดไปๆก็ลืม สวดๆอยู่ก็ไปคิดเรื่องอื่น

สงสัยจะมีเงาดำมาเกาะรึเปล่า

**ตอนนี้สบายขี้นมากๆแล้วค่ะ**

กราบขอบพระคุณ

พระพุทธเ้จ้า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

อาจารย์แม่อุบล...เจ้าค่ะ

สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 14:35:20


ความคิดเห็นที่ 840 (1576645)

ขออนุโมทนาในธรรมทานของท่านอ.อุบล และทุกๆท่านค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐิติมา พฤกษ์อำนวย (pranaijai-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 21:19:45


ความคิดเห็นที่ 841 (1576727)

ขออนุโมทนาบุญค่ะ  นู๋ตุ้ย นู๋ก้อย นู๋ไอซ์

พี่เจี๊ยบ พี่อ้อย พี่อ๊อด พี่แมว 

สำหรับธรรมทานและเรื่องเล่าบรรยากาศน่ารัก ๆ

จากบ้านสวนฯ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-06 00:34:50


ความคิดเห็นที่ 842 (1576770)

Anumothana satu ka

ผู้แสดงความคิดเห็น นนทพร สไตล์เฮ้าส์ (alittlethai-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-06 09:32:01


ความคิดเห็นที่ 843 (1577510)

 ธรรมทานเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 ต.ค. 54 ค่ะ


ตอนนี้มีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นกับประเทศไทย
ที่เรานำอาหารการกินมาร่วมบุญกับบ้านสวนนั้น
ในช่วงภัยพิบัติเราก็จะมีกินกัน
ส่วนอาหารที่จะมาประทังชีวิตในช่วงวิกฤตคือ
ผักบุ้ง ผักกระเฉด กระถิน และหยวกกล้วย
ถ้าเรากินอาหารอื่นในช่วงวิกฤต
ก็จะเป็นพิษ ในช่วงนั้นเราควรมี
ด่างทับทิมไว้ หรือน้ำพีระมิดก็จะดีที่สุด
 
เราสามารถทำเองได้
โดยใช้อุปกรณืต่างๆของบ้านสวน
ไม่ว่าจะเป็นจี้ สร้อย พีระมิดจำลอง
หรือแม้กระทั่งใช้จิตของเรานึก
ทำพีระมิดครอบน้ำนั้นไว้
ก็จะกลายเป็นน้ำพีระมิดค่ะ
เวลาเกิดเหตุใดๆขึ้นก็ใช้น้ำพีระมิดล้างแผล
และที่วิเศษที่สุดคือ
 
รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

ตอนนี้บ้านสวนขาดเมล็ดผักบุ้ง (ไทย)
ผักกระเฉด ขอเชิญนำมาร่วมบุญได้ค่ะ

การเกิดภัยพิบัติในครั้งนี้เราอย่าจิตตก
ให้เราคิดว่า ดีแล้ว ที่เกิดตอนนี้
เราแค่เสีย ทรัพย์สิน เงินทอง 
แต่เรายังเหลือชีวิต 
ส่วนใครที่เราบอกแล้วเขาไม่เชื่อ
ก็ให้แผ่เมตตาให้กับเทวดาประจำตัวเขา

และภัยธรรมชาตินี้จะเกิดมากกว่านี้อีก
ถ้าหากยังมีคนไม่เชื่ออยู่
ยังมีคนจาบจ้วงล่วงเกินในหลวงอยู่

และสำหรับลูกบ้านสวนที่จะมาค่าย 10 นี้
หากมีอุปสรรคใดมาขวางกั้น
อย่าลืมใช้ รหัส อ.อุบลช่วยด้วย นะคะ

เราสามารถนำอาหาร ผลไม้มาร่วมบุญกันได้
คนละเล็กละน้อย เช่นมีแอบเปิ้ล ลูกสองลูก
เราก็มาปลอกให้ญาติธรรมกินกัน
เพราะตอนนี้ลูกบ้านสวนหลายท่าน
ก็เป็นพระโสดาบันกันแล้ว
การที่เรานำอาหารมาเลี้ยง
แล้วมีคนมาทานของเรา 
4 คนขึ้นไปก็ถือเป็นสังฆทานแล้ว
แต่ในความเป็นจริงต้องมีคนกินของเรา
มากกว่า 4 คนอยู่แล้ว
อย่างนี้จะได้บุญขนาดไหน 
พวกเราคิดกันเอาเองนะคะ

บุญสามารถทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น
ขนาดวิมานของเราเปลี่ยนได้ตลอด
เลื่อนขึ้นเลื่อนลงได้ตลอด
ทำดีก็เลื่อนขึ้น ถ้าพลาดทำชั่ว
ก็เลื่อนลงข้างล่างได้ค่ะ

ผู้ที่จะมาเข้าค่าย 10 นี้ ให้เรา
เตรียมคำถามเอาไว้ถาม
เช่น คำถามเกี่ยวกับพระศรีอารย์
คำถามเกี่ยวกับภัยพิบัติ หรือ อื่นๆ
ให้แต่ละท่านเตรียมคำถาม
สิ่งที่ตัวเองอยากรู้เอาไว้ค่ะ

และตอนนี้สิ่งที่บ้านสวนยังขาดอยู่คือ
มุ้ง ที่นอน หากท่านใดอยากร่วมบุญ
ก็สามารถนำมาได้ค่ะ
หรือหากใครมีเป็นของตัวเอง
ก็ควรนำไปด้วยในวันเข้าค่ายนะคะ

เดี๋ยวรอท่านอื่นมาเหลาเพิ่มเติมนะคะ
ยังไม่จบค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-10 11:17:49


ความคิดเห็นที่ 844 (1577515)

อนุโมทนากับคุณตุ้ยด้วยคะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลคะ

รอทุกท่านมาเหลาด้วยคะ .. สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-10 11:36:22


ความคิดเห็นที่ 845 (1577558)

ตั้งตารออ่านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

แ่ต่สงสัยแต่ละท่านจะกลับดึก

และเหนื่อยกัน ก็เลยยังไม่ได้มาเขียน

อนุโมทนากับคุณตุ้ยด้วยนะค๊า

 

แต่จะว่าไปตั้งแต่มีข่าวเกี่ยวกับเชื้ออีโคไล

ระบาดในผักต่างๆ ชนิดาก็ล้างผัก

และแช่ผักด้วยน้ำพีระมิดเหมือนกันนะคะ

เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA (nhongjung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-10 15:39:23


ความคิดเห็นที่ 846 (1577618)

 

เสริมต่อจากน้องตุ้ยค่ะ กลับจากบ้านสวนฯ เมื่อคืนเพลียจัดเลยพิมพ์ไม่ไหว ต้องขอโทษค่ะ ที่ปล่อยให้พี่ๆน้องๆรอ

  ภัยพิบัติตอนนี้ น้ำจะยังมีเพิ่มอีก เมื่อน้ำลดแล้วจะมีเชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้น มันจะพัฒนาตัวมันเอง ทำให้เป็นโรคน้ำกัดเท้า จะมีโรคระบาด อหิวาต์ อากาศจะหนาวๆๆๆๆ เพราะน้ำเยอะ ขาดแคลนอาหาร อาหารจะเป็นพิษ กล้วยจะมีประโยชน์มาก เพราะใช้ได้ทุกส่วน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง ให้ถอนเงินออกมาไว้บ้างนะ 

    คนที่อยู่กรุงเทพ น้ำทะเลจะหนุนสูง น้ำประปาจะกลายเป็นน้ำเค็ม กรุงเทพจะอยู่ไม่ได้แน่นอน

ต้องหาที่อยู่ใหม่ได้แล้ว 

   วันที่เกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งจะเกิดหลังภัยพิบัติครั้งนี้ไม่นาน จะไม่มีอาหารกินเลย คนที่รอดจะอยู่ได้ด้วยบุญ

คนที่ทำบุญด้วยอาหารจึงจะมีกิน และอาหารที่จะสามารถทานได้ในช่วงนั้น คือ ผักบุ้ง ผักกระเฉด กล้วยเท่านั้น อาหารอื่นนอกนั้นจะมีพิษ

แต่ถึงจะเป็นผักกระเฉด ผักบุ้ง และกล้วยก็ต้องนำมาล้างด้วยน้ำพีระมิดก่อนทาน เพราะช่วงนั้นจะมีแต่สารพิษเต็มไปหมด

ภัยพิบัติที่กำลังเกิดอยู่ขณะนี้ ถ้าเราเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจะเห็นว่าดีแล้วที่เกิดตอนนี้

เพราะถ้าเกิดปีหน้าจะมีคนตายถึง 99%

เกิดปีนี้จะทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เราลูกบ้านสวนฯ ต้องเสียสละยอมให้ทรัพย์สินเสียหายบ้าง

ยิ่งเกิดมากยิ่งดี เพราะจะทำให้คนเชื่อมากขึ้น

  คนที่มีโอกาสมีชีวิตรอดอยู่ในยุคพระศรีอารย์ หน้าตาจะเปลี่ยนแปลงได้เองไปในทางที่ดี ไม่ต้องไปทำศัลยกรรม โครงสร้างหน้าจะเปลี่ยนไป สวยงาม สุขภาพดี อายุยืน จะรักษาศีล5 ทำมาหากินง่าย ไม่มีลักขโมย ทุกคนจะมีหิริโอตัปปะ จะเป็นพระโสดาบัน อายุจะยืนมากอย่างน้อย 200 ปี อย่างมาก 80,000 ปี

    สุดท้ายเรื่องความงาม ตั้งแต่หลังเที่ยง อย่าทานอาหารที่ต้องเคี้ยว จะทำให้หุ่นดี ผิวสวย และเข้าถึงธรรม

แต่อาหารบางอย่างที่ไม่ต้องเคี้ยวก็ไม่ดี คือผลไม้มหาผล เช่นขนุน ส้มโอ มะพร้าว แตงโม ไม่ควรทาน

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-10 21:05:17


ความคิดเห็นที่ 847 (1577638)

 อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

ที่ได้มาบอกเตือนพวกเรา

ไม่ให้ประมาทในชีวิต

ผู้แสดงความคิดเห็น พลวัตร นภาพรรณราย (pol_lawat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-10 22:35:39


ความคิดเห็นที่ 848 (1577639)

ขออนุโมทนากับ พี่ตุ้ย พี่เจี๊ยบ ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-10 22:40:47


ความคิดเห็นที่ 849 (1577687)

อนุโมทนากับคุณเพชรดา ด้วยนะคะ

แหม่..นอกจากจะบอกการเตรียมพร้อม

รับภัยพิบัติแล้ว ยังบอกถึงเคล็ดลับ

ความงามด้วยนะนั่น..

 

กราบอนุโมทนากับธรรมทานอันยิ่งใหญ่

จากท่านอ.อุบลด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA (nhongjung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-11 02:00:21


ความคิดเห็นที่ 850 (1577698)

 อนุโมทนากับพี่ตุ้ยและคุณเพชรดาด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-11 03:40:24


ความคิดเห็นที่ 851 (1577744)

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่เจี๊ยบและน้องตุ้ยครับ

เราลูกหลานบ้านสวนฯ เร่งทำความดี ทาน ศีล ภาวนา

โดยเฉพาะภาวนา ทำสมาธิ เจริญพระกรรมฐาน

เลิกโกรธ ตั้งมั่นในศีล 5 คิดบวก  คิดดี ทำดี พูดดี

ช่วยกันอธิษฐานจิต ช่วยให้พ้นภัย

เป็นจิตอาสา ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม

ตั้งจิตว่า เราทำเพื่อถวายในหลวง ถวายท่านอาจารย์ทั้งสอง

ถวายท่านท้าวเวสสุวรรณ

ใช้คำอธิษฐานตามคำนมัสการสมเด็จองค์ปฐม ก็ได้ครับ

 

พระคาถาแผ่เมตตา
ขอบารมี สมเด็จองค์ปฐม

นะโม พระพุทธสิกขี พระพุทธเจ้า
ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก
ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏะสงสารโดยสิ้นเชิง
ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ
ลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจ
ขอให้ลูกมีจิตสะอาดสว่างใส
หลุดพ้นไซร้สู่บ้านนิพพานเทอญ

และขอให้ประเทศไทย พ้นภัยพิบัติทั้งปวง

ขอให้....................................

สัมปจิตฉามิ

ช่วยกันนะครับ เราต้องช่วยกันอธิษฐาน

เพื่อเป็นอธิษฐานบารมี

โดยเฉพาะให้ท่านช่วยป้องกันเขื่อน อ่างเก็บน้ำไม่ให้แตก

ช่วยขุดร่องน้ำเอาโคลนเลนใต้เขื่อน ใต้อ่างเก็บน้ำ ใต้แม่น้ำ

ออกไป ให้สามารถระบายน้ำลงทะเลได้มากขึ้น

ใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ได้

ภัยพิบัติใหญ่ ยานของต่างดาว จะช่วยคนโดยวัดจากออร่า

ออร่าสีทองและสีขาว เท่านั้น ที่จะถูกเลือก

ออร่าคืออะไร

คำว่าออร่ามาจากภาษาลาติน แปลว่า อากาศ 

มาจากภาษากรีก    แปลว่าลมหายใจ

หลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับออร่า
- แสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าที่เราเห็นตามฝาผนังโบสถ์
- ภาพรัศมีของพวกนักบุญฝรั่ง

สีทอง เป็นพลังของจักรวาลหรือพลังจากเทพที่เข้ามาช่วยถ่ายโรคออกจากร่างกาย

สีขาว เป็นแสงที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด

จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระหรือผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ

ถ้าปรากฏเป็นเส้นแสงสีขาวผ่านเข้ามาในแสงอาจหมายถึง

ข่าวสารจากมิติอื่นเข้ามา พวกที่เข้าทรงจะมีสีขาวเข้ามาในแสงในระหว่างการเข้าทรง

ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึงว่า กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์

หรืออาจหมายถึงสภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

ที่ร่วมกันทำเพื่อส่วนรวม

ช่วยกันทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศล

สุดท้าย

ในคืนวันเสาร์ที่ร่วมร้องเพลง เต้นกันนั้น

มีการร้องเพลงของคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์

และคุณพุ่มพวงก็มาจริงในคืนวันนั้น

เธอเป็นเทพบริวารของท่านท้าวเวสสุวรรณ

และได้ไปส่งคุณเจริญที่บ้านด้วย

บุญรักษาทุกท่านครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-11 09:27:33


ความคิดเห็นที่ 852 (1577762)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากทุกท่านด้วยค่ะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-11 10:31:52


ความคิดเห็นที่ 853 (1577870)

จริงๆชนิดาก็ท่องพระคาถาแผ่นเมตตา

ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐมฯ วันละ 9 จบ

ก่อนนอนทุกคืนนะคะ แต่ไม่ได้เจาะจง

ตอนท้ายอีกว่าขอให้ประเทศไทยรอดพ้น

จากภัยพิบัติด้วยเถิด เพราะคิดเอาเองว่า

คาถานี้น่าจะรวมๆทั้งโลก ทั้งจักรวาลแล้ว

ต้องขอบคุณข้อมูลจากคุณโฆษิตด้วยนะคะ ...

 

พวกเราจะร่วมจิตกันอธิษฐานให้เมืองไทย

และโลกใบนี้พ้นจากภัยพิบัติค่ะ สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA (nhongjung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-11 17:19:03


ความคิดเห็นที่ 854 (1578279)

ขออนุโมทนาบุญและธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบลและทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรพร รับคำอินทร์ (แมว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-13 14:59:51


ความคิดเห็นที่ 855 (1578307)

ขออนุโมทนาในธรรมทานจากท่านอ.อุบล

คุณตุ้ย คุณเจี๊ยบ คุณโฆษิต

และทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฐิติมา พฤกษ์อำนวย (pranaijai-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-13 20:31:55


ความคิดเห็นที่ 856 (1582141)

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาภรณ์ ปุญโญกุล (rutpun18-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-11-04 16:14:18


ความคิดเห็นที่ 857 (1583946)

 

ขออนุโมทนาบุญในทุกธรรมทาน

กับทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หน่อย (สมศรี พวงพันธ์) (noi-92012-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-11-17 10:07:15


ความคิดเห็นที่ 858 (1585682)

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกธรรมทานค๊ะ

  เบญจพรปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดและพยายาม ลด เลิก ละ ที่ฝังติดมากับตนเองค๊ะ                     

    ต้ังแต่เข้ามาเวปบ้านสวนจิตใจจะเป็นคนเย็นลง และสงบลงมาก

     และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค๊ะ สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจพร เลามาสุวพันธ์ (benjaporn-dot-tam-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-11-27 02:42:34


ความคิดเห็นที่ 859 (1590628)

 

โมทนาบุญกับท่านอ. อุบล   อ้อย   ตุ๊ย  ก้อย   เพชรดา  โฆษิต     ชนิดา   แมว   มิ้ม    ไอร์   ตั๊ม   และทุกท่านค่ะ    จะพยายามทำให้ได้ค่ะ   แค่นิวรณ์  ห้า   เวลานั่งสวดมนต์เริ่มสู้กับมารเหนื่อยจัง     ขอเป็นชาวเกาะที่ฝึกทำความดีด้วยคนนะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-28 14:46:11


ความคิดเห็นที่ 860 (1591005)

ขอให้ของกระทู้นี้

มีแต่ความเจริญในธรรม

ดั่งสิ่งที่กระทำอยู่ทุกขณะจิต

เอื้ออาทรณ์กระทู้ธรรมอยู่เป็นนิจ

มีชีวิตในยุคใหม่ที่ใครใฝ่ฝันหา

คงจะมีสักวันได้พานพบ

(ที่แดนทิพย์พระนิพพาน)

ล้วนเคารพว่ามีครูอยู่บ้านนา

นามว่าท่านอาจารย์แม่อุบล

คนบ้านสวนพีระมิดที่จิตใฝ่

ต่างก็ใช้รหัสขจัดนานาภัย

ทั้งใกล้ไกลต่างใช้รหัสว่า

...อาจารย์ อุบลช่วยด้วย...

ทุกคนเอย

*-*-*-*-*

ทนอ่านหน่อยนะครับเกือบ...แน่ะ

สุขสันต์วันปีใหม่2555

และ

ตลอดไป

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-30 22:38:51


ความคิดเห็นที่ 861 (1591029)

ขออวยพรวันปีใหม่

ให้กับเจ้าของกระทู้นี้

คือน้องมหาสิทธิ์

ให้พบแต่ความสุข

สมหวัง

ดั่งใจหมายทั้งทาง

โลกและทางธรรมตลอด

จนเข้าสู่พระนิพพาน

สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจพร เลามาสุวพันธ์ (benjaporn-dot-tam-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-12-31 08:38:40


ความคิดเห็นที่ 862 (1596263)

ผมขอนำการแสดงธรรมของท่านอาจารย์

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. 55 ที่ผ่านมา

มาเล่าให้ทุกท่านได้ทราบกันดังนี้ครับ

ภัยหนาว ที่ท่านอาจารย์เคยเตือนไว้นั้น ได้เกิดขึ้นแล้วครับ เช่น

ยูเครนฟิน และโปแลนด์ อากาศติดลบถึง 38 และ 27 องศาเซลเซียส ตามลำดับ และล่าสุดฟินแลนด์

อากาศติดลบช่วงกลางคืนถึง 40 องศาเซลเซียส

 

สำหรับประเทศไทยเรา จะเห็นว่าอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางวันอากาศร้อน บางวันฝนตกหนัก

อากาศเปลี่ยนแปลงสลับไปสลับมาเพียงเท่านั้น

ยังไม่ประสบภัยหนาวร้ายแรงดังเช่นต่างประเทศ

 

ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เนื่องด้วยอานิสงค์ผลบุญใหญ่ ที่พวกเราทุกคนตั้งใจทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลที่บ้านสวนพีระมิดนี้ ทั้งองค์พระปฐมบรมศาสดา ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านพ่อมเหสักขา และล่าสุด คือ พระบรมธรรมบิดาที่แม้จะยังสร้างเพียงฐานของพระองค์ท่านเสร็จเท่านั้น แต่อานิสงค์ก็ช่วยคุ้มครองประเทศไทยให้ไม่ประสบภัยหนาวร้ายแรงเช่นประเทศอื่น  

  

รวมถึงบุญที่ท่านอาจารย์ และเราทุกคนได้ถวายแด่เทพเจ้าผู้รักษาแผ่นดินไทย รักษาชาวไทย และเทวดาผู้รักษาธาตุ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ และมโนธาตุอีกด้วย

2. เรื่องของกรรม กรรมเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก 

ตัวอย่างเช่น น้องก้าวไปเล่นไข่ไก่ป่าที่อาศัยในบ้านสวนฯ กับน้องเอริค และเผลอสะบัดมือทำให้ไข่แตก เพราะความร้อนของไข่ ทำให้ไม่สบายเป็นไข้ ทั้งสองคน

แต่น้องอเล็กที่เป็นพี่กลับไม่สบายไปกับน้องเอริคด้วย

ทั้งไม่มีส่วนรู้ส่วนเห็น แต่ก็ถูกลงโทษ

เนื่องจากไม่ได้ดูแลน้องให้ดี เป็นต้น 

ซึ่งแม้จะไข่จะยังไม่ฟักเป็นตัว ไม่ได้ฆ่าสัตว์ แต่ถือว่าเป็นการ ตัดชีวิต ซึ่งเพราะเหตุนี้ ท่านอาจารย์จึงไม่ให้เราทานไข่นกกระทา ไข่เป็ด ที่เป็นไข่ที่มีเชื้อและฟักเป็นตัว ให้เราทานไข่ไก่เลี้ยง ที่ไม่มีการผสมพันธุ์ เป็นเพียงไข่ลม  

3. การฝึกกสิณ

ขอให้เราทุกคนหมั่นฝึกกสิณ

เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและบุคคลอื่นได้

ในยามเกิดภัยพิบัติ เช่น กสิณไฟ

เพื่อต่อสู้กับความหนาว เป็นต้น

ท่านอาจารย์เคยสอนว่า

การฝึกกสิณทำให้มีฤทธิ์

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน

และทุกบุญของทุกท่านครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-07 02:31:27


ความคิดเห็นที่ 863 (1596295)

โมทนาบุญกับพี่โฆษิตที่เขียนธรรมทานดีๆมาให้และได้พิจารณาไปด้วย  และทุกท่านที่ไม่ได้เอยนามสาธุค่ะๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-07 10:40:25


ความคิดเห็นที่ 864 (1596428)

ขออนุโมทนากับธรรมทานของพี่โฆษิตด้วยครับและขอเหลาธรรมทานเพิ่มเติมนะครับ

ได้รับความสุขแต่ไม่สำนึกบุญคุณ

จากกรณีของพี่อ๊อดที่ได้รับความเมตตาจากเบื้องบนให้ก้นที่บุ๋มมานานกลับมาฟูฟู่ในพริบตา แต่พี่อ๊อดกลับคิดว่าที่หายนั้นเกิดจากการที่คุณหมอศิริพรนั้นลูบคลำและทำให้หาย

และแม้จะมีผู้คอยแนะกระทุ้งเตือนแล้วว่าที่ก้นหายบุ๋มเป็นเพราะพระเมตตาจากเบื้องบน แต่พี่อ๊อดก็ยังไม่รู้ตัว ยังคงเชื่อมั่นกล่าวขอบคุณหมอศิริพรอยู่ดี

การกระทำเช่นนี้เปรียบเสมือนว่า พี่อ๊อดไม่รู้จักสำนึกในพระคุณของเบื้องบน

และท่านอาจารย์อุบลก็ได้รู้ล่วงหน้าและได้บอกแก่ญาติธรรมบางท่านแล้วว่าการกระทำของพี่อ๊อดจะทำให้พี่อ๊อดกลับมามีอาการปวดก้นอีก และจะรุนแรงกว่าเดิม

และก็เป็นจริงทุกประการ พี่อ๊อดกลับมามีอาการปวดก้น และดูว่ามีท่าทางจะไม่ดีขึ้นเลย

และเมื่อมีโอกาสที่บ้านสวนฯ พี่อ๊อดกลับไม่รู้สึก หรือขอกราบอภัยในการกระทำที่แสดงถึงความไม่กตัญญู

และให้เหตุผลว่าที่ออกมาข้างหน้าว่า เพราะมันไม่หายปวดก้น... และคงได้เพียงแต่ร้องขอว่า อาจารย์ขา....อาจารย์ขา... ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงว่า พี่อ๊อดคิดถึงแต่ตนเอง คิดถึงแต่ประโยชน์ที่ตนเองควรได้รับ คือ อยากหายปวดก้น

ไม่ได้แสดงความรู้สึกสำนึกผิด และพูดขอขมา อย่างคนรู้ผิดเลย

ธรรมทานเรื่องนี้ให้แง่คิดที่ดีมากเลย เพราะพวกเราเป็นลูกหลานบ้านสวนฯมานาน ทุกปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นให้เราได้เห็นจนกลายเป็นเรื่องปกตินั้น พวกเราทุกคนทราบดีว่าเป็นพระมหาเมตตาของเบื้องบนอย่างหาประมาณมิได้

ชีวิตที่ดีขึ้น โรคภัยที่หาย มีความสุขขึ้น ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากทุกๆพระองค์ไม่ทรงเมตตา และเมื่อเราได้รับความสุข การแสดงความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญมากที่ทุกคนต้องกระทำต่อผู้มีพระคุณทุกๆพระองค์ และทุกๆท่านในชีวิตเรา

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-07 22:59:36


ความคิดเห็นที่ 865 (1596554)

ขออนุโมทนากับธรรมทานจากคุณโฆษิตและคุณธนาคะ

 

เรื่องของพี่อ๊อด หนูคิดว่า

หากคืนนั้นพี่เค้า ออกไปขอโทษด้วยสำนึกจริง

โดยที่ไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากอาจารย์หรือเสด็จพ่ออีก

อาการเจ็บปวด ก็อาจทุเลาลงเองได้แล้วนะคะ

 

เรื่องนี้ อาจารย์ ได้สรุปให้ฟังง่าย ๆ

โดยการเปรียบเทียบว่าเรากินก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง

แต่กลับไปจ่ายตังค์ให้อีกร้าน

พี่อ๊อดหายได้เพราะอ.อุบลและเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

แต่กลับไปกล่าวขอบคุณคุณหมอสิริพร

ดังนั้นเรื่องราวจึงออกมาแบบที่คุณธนาได้สรุปไว้นั่นเอง

 

ธรรมทานเรื่องนี้ มีค่ามาก เพราะความกตัญญูรู้คุณเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ

ท่านเมตตาเรา ทั้งที่เราไม่มีประโยชน์อะไรให้กับท่านเลย

แถมยังนำเอาแต่ความเดือดร้อนต่าง ๆ นานา มาพึ่งพาท่าน

เวลาเดือดร้อน  เราคิดถึง หาที่พึ่ง

เวลามีสุข เรากลับลืม ผู้มีพระคุณ

จะจำเรื่องราวต่าง ๆ เอาไว้เตือนใจตัวเองคะ

........................................................................

อีกเรื่องเป็นเรื่อง หน้าที่ กับ อำนาจ

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บางทีเราอาจหลงทางได้

เมื่อเราได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ

จนบางที อาจเผลอใช้อำนาจไป ทั้งที่เราไม่มีสิทธิ์

เช่นแม่ครัวเตี้ยในอดีต ที่มีโอกาสทำหน้าที่ดูแล รับใช้ใกล้ชิดอ.อุบล

แต่วันเวลาผ่านไป กลับลืมหน้าที่ของตน ไม่ทำหน้าที่ของตนให้ดี

แต่กลับมาใช้อำนาจ คิดแทน ตัดสินใจแทนอาจารย์

จึงทำให้หมดวาระ หมดโอกาสดี ๆ ในชีวิตลงไปอย่างน่าเสียดาย

ก็เป็นอุทาหรณ์ สอนใจ ให้ทุก ๆ คนได้ระมัดระวังความคิด

และการกระทำของตนให้ดี

(เห็นอาจารย์ได้สอนไว้ในกระทู้คุณหมอสิริพรด้วยคะ)

............................................................................................

ธรรมทานอีกเรื่องที่ได้รับฟัง ก็น่ากลัวอยู่มิใช่น้อย

เพราะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า คือเรื่องเกี่ยวกับคุณไสย มนต์ดำ

พี่แขก ซึ่งเราเห็นความตั้งใจดีช่วยงานอาจารย์อย่างเต็มที่

แต่กลับพูดงง ๆ สับสน ตอบคำถามไม่ได้ ไม่เป็นตัวของตัวเอง

ซึ่งเกิดจากมีคนทำคุณไสย ใส่ แม้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยังทำกันได้

เหตุเพราะในอดีตพี่เค้าเคยเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย

แม้เพียงเล็กน้อยก็เป็นกรรมแล้ว

ตรงนี้จึงเกิดช่องโหว่ ให้คนมาทำกับพี่เขาได้สำเร็จ

จะเห็นว่า เรื่องของ กรรม มันจะจัดสรรมาให้เองหมด

เพราะพี่แขกได้บอกว่า บังเอิญอาทิตย์นั้นพี่เค้าก็ลืมเอาเสื้อพีระมิดมาด้วย

จึงเหมือนเป็นการสร้างสาเหตุให้ได้รับกรรม ให้เราไม่มีสิ่งที่ช่วยป้องกันได้

.............................................................................................

เรื่องน้องก้าวทำไข่ไก่ที่กำลังจะฟักเป็นตัว..แตก

เป็นธรรมทานให้เราตระหนักถึงการตัดชีวิตสัตว์

เพราะทุกชีวตมีคุณค่า ทุกชีวิตก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น

เราจึงไม่ควรละเมิดใคร เราจึงควรทานมังสวิรัติด้วย

 

และในเรื่องนี้ ยังซับซ้อนไปอีกนิดนึง

เพราะน้องเอริคเป็นคนชวนน้องก้าวไปซน

และเมื่อเกิดความผิดขึ้น น้องเอริครู้สึกกลัวและอยากปกปิดความผิดนั้น

ด้วยการบอกว่า  ....อย่าไปบอกใคร....

ข้อนี้เป็นศีลที่ละเอียด เหมือนที่อาจารย์เคยสอน

ว่าผู้ลงมือกระทำ ผู้ยุยงส่งเสริมให้กระทำ ผู้วางแผนกระทำ

มีความผิดทั้งหมด มากน้อยตามเจตนา 

เด็ก ๆ จึงโดนไปทุกคน ตามสเต็ปคะ

 

จากเรื่องนี้ อาจารย์จึงสอนเรื่องการคบคนด้วย

ที่ท่านเตือนให้พวกเราเลือกคบคนที่ดีเสมอ

และออกห่างจากคนชั่วเอาไว้

เหมือน คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล

เพราะหากเขาทำสิ่งไม่ดี เราก็มีโอกาสทำกรรมไม่ดีไปกับเขา

และถ้าเป็นเรื่องที่ใหญ่โตกว่านี้ ชีวิตเราอาจพังลงได้ด้วยการคบคนนี่เอง

............................................................................................

 

ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ ถ้าคิดอะไรได้อีกจะมาเขียนเพิ่มเติมคะ

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล อ.มงคล คุณท้อป

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

ที่เมตตาให้โอกาสดี ๆ ที่ได้พบกับอ.อุบลคะ

ขอบพระคุณพี่น้องบ้านสวนพีระมิดและธรรมทานชีวิตจริงของทุกท่านคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-08 16:19:52


ความคิดเห็นที่ 866 (1596592)

 วันเสาร์ที่ 4 กพ.54

      เทคาน วิหาร สามชั้น  ด้วยความขยันขันแข็ง ดูว่าคนน้อย

การเทคานชั้นสาม สายพานลำเรียงปูน ขึ้นไปเท ต้องออกแรงส่ง

โยง สาว ก้าวเดินกันขวักไขว่  

     แต่ก็สู้ไม่ถอยกันทุกคน ปูนที่ใช้ทั้งหมด 16 กระบะ

ทำให้เสร็จเร็วก่อนเที่ยง ถึงคนจะน้อย แต่พลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เทพพรหมเทวดา ร่วมส่งกำลังใจ อนุโมทนา อีกนับไม่ถ้วน

ทำให้เสร็จเร็วและไม่เหน็ดเหนื่อย

      

       ภาคบ่าย ไปเทพื้น ฐานล่างการสร้างสมเด็จองค์ปฐม

บรมธรรมบิดาฯ  บ่ายนี้บรรยากาศดีมากมีช่วงสั้น ๆ

ที่มีแดดออก ส่วนใหญ่อากาศดี ไม่ร้อนทำงานผสมปูน

เทพื้นกันเพลิน สิบเอ็ดกระบะ ใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่ง 

เป็นอันเสร็จ ลูกบ้านสวนทำงานปูน ได้เร็วขึ้นมากเลย


ภาคกลางคืน ฝึกมโนมยิทธิ

       การสารภาพบาปของเด็กที่ไม่ใช่เรื่องเด็กๆ ลึกละเอียด

การกล้าพูดความจริงของ น้องเก้า และน้องเอริค

ด้วยความซนของเด็ก ชอบเล่น อยากรู้อยากเห็น

เลยกลายเป็นการสร้าง บาปกรรมในเขตบุญ

น้องเอริค ได้เล่นไข่ไก่ป่า ที่มาพักอาศัยใน

เขตบ้านสวน นับวันไก่ป่า นก หลากหลายชนิด

มาพักอาศัยที่ปลอดภัยในเขตบ้านสวนฯ 

      น้องเอริค  จับไข่ไก่แล้ววาง  น้องเก้า จับบ้าง

รู้สึกว่าร้อนๆ เลยโยน ทำให้ไข่แตก เป็นเรื่องละซี 

น้องเอริค บอกน้องเก้าว่า อย่าบอกใครนะ

หลังจากกลับถึงบ้าน น้องเอริค และน้องเก้า

ต่างก็เป็นไข้ ตัวร้อนอย่างหนัก ทำให้แม่น้องเก้า

เกิดความสงสัย อาการป่วยเป็นไข้ตัวร้อนของน้องเก้า

แม่น้องเก้าถามน้องเก้าว่า... น้องเก้าต้องทำอะไรผิด

ในบ้านสวนฯ แน่ ๆ  และก็เป็นเช่นนั้น

น้องเก้าบอกว่า... ไปเล่นไข่ไก่ และทำไข่ไก่ป่า แตกหนึ่งฟอง

น้องเก้า เป็นทำไข่ไก่แตก  น้องเอริค รู้เห็นเหตุการณ์

และบอกน้องเก้าให้ปกปิดไม่ให้บอกใคร 

        การออกมาสารภาพบาปในครั้งนี้ทำให้เห็นความละเอียด

ของศีลมากมาก คือ

    1. การทำไข่ที่มีเชื้อกำเนิดชีวิตแตก เป็นการตัดชีวิต

       เป็นการทำปาณาติบาต

    2. น้องเอริค ชวนน้องเก้าไปเล่นไข่ไก่  น้องเอริคเป็นผู้ที่รู้เห็น

      สิ่งต่างๆ  ในบ้านสวนฯ มากกว่าน้องเก้า แล้วชวนน้องเก้า

      กระทำผิด    น้องเก้าได้คบคนพาลเป็นมิตร

    3. การไม่ดูแลตักเตือนน้อง ปล่อยน้อง ไปประกอบกรรม

     ไม่ห้ามไม่ตักเตือน เสมือนว่า น้องเอริค ร่วมประกอบกรรมด้วย

     ต้องรับกรรมหนักเป็นสองเท่า

 

    ..... น้องเอริคและน้องเก้า ได้สร้างธรรมทานอันยิ่งใหญ่

เป็นแบบอย่าง กล้ารับผิดในสิ่งที่ตนกระทำผิด

ทำให้เห็นชัดเจนคือ การกระทำผิดใด ๆ ในเขตบุญ

บ้านสวนพีระมิด ไม่รอดพ้นสายตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปได้

และสร้างกรรมดีก็ให้ผลดีมาก สร้างกรรมชั่วก็ให้ผลมาก

และแรงเช่นกัน .......

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-08 22:07:19


ความคิดเห็นที่ 867 (1596611)

 ขออนุโมทนากับธรรมทานทุกท่านครับ

 ความสงสัย ต่างๆ ที่มองผ่านจากสายตาไป

 ทำให้เกิดความคิด จินตนาการต่างๆ ส่วนใหญ่

 เข้าข้างตนเองทั้งนั้น เลยยังไม่ทันพิจารณา

 ว่าถ้าได้ทำลงไปแล้ว ผลของการกระทำเป็นอย่างไร

 นี่ละที่เขาเรียกว่า รู้ไม่เท่าถึงการณ์

 ที่จะคิดก่อนทำ

 กรรม คือ การกระทำ

 ผลของการกระทำจึงส่งผลที่เราทำไป.

 สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

  

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ ( ตาโต๊ะ ) (sing_toa-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-08 23:10:50


ความคิดเห็นที่ 868 (1597007)

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ (mayurachut-dot-ch-at-rd-dot-go-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 15:50:07


ความคิดเห็นที่ 869 (1597017)

 

 

ได้รับความสุขแต่ไม่สำนึกบุญคุณ

จาก กรณีของพี่อ๊อดที่ได้รับความเมตตาจากเบื้องบนให้ก้นที่บุ๋มมานานกลับมาฟูฟู่ ในพริบตา แต่พี่อ๊อดกลับคิดว่าที่หายนั้นเกิดจากการที่คุณหมอศิริพรนั้นลูบคลำและทำ ให้หาย

และ แม้จะมีผู้คอยแนะกระทุ้งเตือนแล้วว่าที่ก้นหายบุ๋มเป็นเพราะพระเมตตาจาก เบื้องบน แต่พี่อ๊อดก็ยังไม่รู้ตัว ยังคงเชื่อมั่นกล่าวขอบคุณหมอศิริพรอยู่ดี

การกระทำเช่นนี้เปรียบเสมือนว่า พี่อ๊อดไม่รู้จักสำนึกในพระคุณของเบื้องบน

และ ท่านอาจารย์อุบลก็ได้รู้ล่วงหน้าและได้บอกแก่ญาติธรรมบางท่านแล้วว่าการ กระทำของพี่อ๊อดจะทำให้พี่อ๊อดกลับมามีอาการปวดก้นอีก และจะรุนแรงกว่าเดิม

และก็เป็นจริงทุกประการ พี่อ๊อดกลับมามีอาการปวดก้น และดูว่ามีท่าทางจะไม่ดีขึ้นเลย

และเมื่อมีโอกาสที่บ้านสวนฯ พี่อ๊อดกลับไม่รู้สึก หรือขอกราบอภัยในการกระทำที่แสดงถึงความไม่กตัญญู

และ ให้เหตุผลว่าที่ออกมาข้างหน้าว่า เพราะมันไม่หายปวดก้น... และคงได้เพียงแต่ร้องขอว่า อาจารย์ขา....อาจารย์ขา... ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงว่า พี่อ๊อดคิดถึงแต่ตนเอง คิดถึงแต่ประโยชน์ที่ตนเองควรได้รับ คือ อยากหายปวดก้น

ไม่ได้แสดงความรู้สึกสำนึกผิด และพูดขอขมา อย่างคนรู้ผิดเลย

ธรรม ทานเรื่องนี้ให้แง่คิดที่ดีมากเลย เพราะพวกเราเป็นลูกหลานบ้านสวนฯมานาน ทุกปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นให้เราได้เห็นจนกลายเป็นเรื่องปกตินั้น พวกเราทุกคนทราบดีว่าเป็นพระมหาเมตตาของเบื้องบนอย่างหาประมาณมิได้

ชีวิต ที่ดีขึ้น โรคภัยที่หาย มีความสุขขึ้น ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากทุกๆพระองค์ไม่ทรงเมตตา และเมื่อเราได้รับความสุข การแสดงความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญมากที่ทุกคนต้องกระทำต่อผู้มีพระคุณทุกๆ พระองค์ และทุกๆท่านในชีวิตเรา

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-07 22:59:36 IP : 124.122.114.226
ได้รับความสุขแต่ไม่สำนึกบุญคุณ
ค่ะอ๊อดขอกราบฝ่าพระบาทขอโทษขอขมา
 
พระพุทธเจ้า
 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและเบื้องบนทุกพระองค์
เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ
อาจารย์แม่อุบล
ตอนนี้สำนึกได้แล้วค่ะ
เพราะปวดก้นมากขี้นตั้งวันนั้นแล้วค่ะ
อ๊อดกราบขอโทษเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณเจ้าค่ะ
ลูกสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ
และกราบขอโทษอาจารย์แม่อุบล
ที่ลูกคนนี้ได้รับความสุขแล้วไม่รู้จักบุญคุณ
ที่เบื้องบนท่านเมตตา
อ๊อดขอกราบในพระเมตตากรุณาลูก
 
ลูกขอกราบฝ่าพระบาท
พระพุทธเจ้า
เบื้องบนทุกพระองค์
เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ
อาจารยแม่อุบลและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์
แห่งบ้านสวนพีระมิด
อ็อดขอกราบขอโทษขอขมาอย่างสูงค่ะ
และขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
 
************
ขอขอบคุณ คุณธนากับธรรมทานนี้ค่ะ
 
อ่านแล้วพี่นี้เลวมากและโง่มากๆ
สมแล้วกับความปวดที่พี่ได้รับเพราะพี่ไม่มีความกตัญญู
รู้คุณ
ขอบคุณที่เป็นกระจกเงาให้พี่และทุกๆคน
และธรรมทานนี้
สาธุ
 
 



 

 

 




 

 




124.122.114.226

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 17:01:39


ความคิดเห็นที่ 870 (1597022)
ตอนนี้สำนึกได้แล้วค่ะ
เพราะปวดก้นมากขี้นตั้งวันนั้นแล้วค่ะ
-*-*-*-*-*-*-*-
 
สำนึกเพราะปวด หรืองัย?
แล้วถ้าไม่ปวด จะไม่สำนึกหรืองัย?
 
โอ้ย...พี่อ๊อด ก็ไม่รู้จะยังงัยกับพี่แล้วฮ่วย
 
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 17:13:41


ความคิดเห็นที่ 871 (1597024)

ตัวอย่าง  แม้นายอะไรเขา  เขาก็ไม่รับฟัง  อย่าไป ตักน้ำรดหัวตอเลย

        การ์ดและเวย์เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก  มีเรื่องราวหรือปัญหาอะไร  มักจะเล่าสู่กันฟังเสมอ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม  การเรียน  ครอบครัว  เพื่อนฝูง  หรือแม้กระทั่งเรื่องของความรักก็ตาม

        วันหนึ่ง การ์ดได้หลงรักสาวงามคนหนึ่ง  ชื่อว่า คิม  ซึ่งการ์ดไม่รู้ว่าคิมเคยเป็นเพื่อนกับเวย์มาก่อน  การ์ดได้ตกหลุมรักคิมอย่างไม่ลืมหูลืมตา  เมื่อเวย์รู้เรื่องนี้เข้า  และจำได้ว่าคิม (เพื่อนในอดีตของตน) ไมใช่สาวแท้ๆ จึงพยายามบอกความจริงให้การ์ดรับรู้หลายครั้ง  แต่การ์ดไม่รับฟังและยังต่อว่าเวย์  คิดว่าเวย์พยายามกีดกันความรักของตนกับคิม  เวย์เสียใจมากที่การ์ดไม่เชื่อคำพูดของตน  ด้วยความที่ไม่อยากให้เพื่อนของตนหลงผิด (ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี)  โช (เพื่อนของเวย์) จึงบอกกับเวย์ว่า “นายอย่าไป ตักน้ำรดหัวตอ อีกเลย  บอกเขาไปหลายครั้งแล้ว  เขายังไม่เชื่อคำพูดของนายอีก  ก็ไม่ต้องไปสนใจเขาแล้ว  ปล่อยให้เขาได้รับบทเรียนเอาเองละ
กัน…นะเวย์”  “ก็ได้…เพื่อตัวเขาเอง…”  เวย์ตัดสินใจตามที่โชแนะนำ… จริงอย่างที่โชพูด  หลังจากนั้นการ์ดก็ได้รับบทเรียนที่จดจำไปชั่วชีวิต  และการ์ดก็ได้รู้ว่าสิ่งที่เวย์หยิบยื่นให้ในตอนนั้นไม่ใช่ความอิจฉาหรือต้องการกีดขวางเลย  นั่นไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนแท้มอบให้กับเพื่อนในสมัยวัยเด็ก  แต่สิ่งที่เวย์ให้กับเขา คือ ความห่วงใยแท้จริงที่เพื่อนแท้ตั้งใจ มอบให้กับเพื่อนแท้…

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 17:27:32


ความคิดเห็นที่ 872 (1597040)

สาธุ คะ พี่แมว

พี่อ๊อดครั้งต่อไปคงไม่ต้องกล่าวขอโทษท่านอีกแล้วนะคะ

แต่เปลี่ยนเป็นคำ "ขอบพระคุณ" ที่ท่านได้เมตตาลงโทษ

ให้เราได้สำนึก และบทเรียนครั้งนี้ เราจะได้จดจำไปในส่วนลึกของจิตใจ

และจะได้ไม่ผิดพลาดแบบเดิมอีก กราบขอบพระคุณท่านนะคะ

ท่านอยากช่วยแก้จุดบอร์ดของเราแต่ละคน ท่านช่วยทุกคนนะคะ

ตามรูปแบบจิตและนิสัยของเราแต่ละคนที่เป็นมาคะ

หนูเองก็ได้รับพระเมตตาให้แก้ไขส่วนเลวของตัวเองเหมือนกัน

ทั้งดื้อ ทั้งด้าน ถ้าไม่มีบทเรียน ดัดสันดานตัวเองไม่ได้แน่คะ

กราบขอบพระคุณท่านท้าวเวสสุวรรณและเบื้องบนทุกพระองค์ อ.อุบล

ที่เมตตาช่วยเหลือพวกเรา ให้เดินสู่ทางกลับบ้านนิพพานได้คะ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 20:16:24


ความคิดเห็นที่ 873 (1597045)

แต่สิ่งที่เวย์ให้กับเขา คือ ความห่วงใยแท้จริงที่เพื่อนแท้ตั้งใจ มอบให้กับเพื่อนแท้…

                             ####

    ขอบคุณค่ะ คุณแมว  สำหรับความห่วงใย  ที่คุณแมวได้มอบให้กับทุกคน

โดยผ่านตัวหนังสือ สื่อให้ทุกคนได้มีจิตสำนึก

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 21:04:57


ความคิดเห็นที่ 874 (1597050)

เมื่อก่อน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เรียก อ.อุบล ว่า ไอ้โง่

เดี๋ยวนี้ ค่อยยังชั่วหน่อย

ท่านเรียกใหม่แล้ว

ว่า

หัวหลัก หัวตอ

555

 

ช่างเหมาะสมจริงๆ

ชื่อนี้

ช๊อบ...ชอบ

 

555

 

หัวหลัก...หัวตอ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-10 21:31:15


ความคิดเห็นที่ 875 (1597101)

อ.อุบล ขา
อาจารย์คือ

หัวหลัก ถูกต้องที่สุดค่ะ

เพราะขณะนี้ เวลานี้

ประเทศนี้ โลกใบนี้

ไม่มีหัวหลักแบบ อ.อุบล

ก็คงพลิกคว่ำ พลิกหงายไปนานแล้ว

เพราะ

หัวตอ อย่างพวกเราต่างหากคะ

ที่มีทั้งทำ ทั้งคิด ทั้งพูด

ถ่วงความเจริญ

ถ่วงทุกอย่าง

ถึงจะรดน้ำวิเศษ

ก็ไม่สามารถเจริญงอก

ผลิใบ ผลิดอก ออกมาให้เห็นได้

แฮ่...เป็นที่มาของการ

ขุด หัวตอทิ้ง นี่เอง

ที่บ้านสวนพิรามิด

ขุดหัวตอ ทิ้งเพื่อตัดกรรมอ่ะคร๊า 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-11 06:56:07


ความคิดเห็นที่ 876 (1597107)

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ท่านอ.อุบล และลูกบ้านสวนทุกท่าน

ที่หยิบยืนธรรมทานอันลึกซึ้งให้ผู้อ่านทางบ้าน

ได้คิดพิจารณาและนำไปปฏิบัติให้ถูกต้องในชีวิตประจำวัน

ให้ระวังมิให้ประมาทโดยที่ไม่รู้ตัว

ทำให้เราได้สำรวจตัวเองอยู่เสมอ

เราอยู่สุขสบายได้ทุกวันนี้เพราะอะไร

เหตุอะไร ถ้าไม่ได้สิ่งดีๆ จากบ้านสวนไม่รู้จะดีอย่างทุกวันนี้หรือไม่

กลัวเหมือนกันครับ พอได้ดีแล้วมันจะกลายเป็นกิเลิสทำให้หลง

ลืมกำพืดตัวเอง ลืมหน้าที่

ใช้อำนาจเพื่อยกระดับตัวเองมองข้ามผู้มีพระคุณ

ความสบาย

เราอยู่กับมันมากๆ มันอาจจะฉุดดึงให้เราต่ำลง

โดยที่ไม่รู้ตัว

กราบขอบพระคุณทุกๆ พระองค์ที่คอยเตือน

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-11 09:48:46


ความคิดเห็นที่ 877 (1597287)

สาธุอาจารย์ขาอ็อดขอกราบเท้าขอบพระคุณอาจารย์แม่อุบลกราบขอบพระคุณอย่างสูงค่

ที่เมตตาอ็อดค่่ะ

ครั้งนี้สำนึกได้จริงๆค่ะ

กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ธรรมทานของอาจารย์

หัวหลัก  หัวตอ

หัวหลักคืออาจารย์ที่คอยสอนหัวตออย่างหนู

ให้คิดได้คิดเป็น แต่ก็โง่เหลือเกินเหมือนหัวตอจริงๆ

อ็อดเป็นอย่างนิทานจริงๆ

อาจารย์แม่อุบลขา ขอกราบเท้าขอบพระคุณอย่างสูงอีกครั้งนะค๊า

กับความโง่ + หัวตอโง่จริงอ็อดเอ๊ยทำไมคิดไม่ออก

อาจารย์ขาขอบพระคุณเป็นหมื่นๆครั้งค่ะ

*********************

*********

กราบขอบพระคุณ

พระพุทธเจ้า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

อาจารย์แม่อุบลและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์

และขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน

ทุกพระองค์ค่ะ สาธุ

**********************

แมวขอบคุณๆคุณแหวน

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-13 09:39:44


ความคิดเห็นที่ 878 (1597290)

 

อ.อุบล ขา
อาจารย์คือ

หัวหลัก ถูกต้องที่สุดค่ะ

เพราะขณะนี้ เวลานี้

ประเทศนี้ โลกใบนี้

ไม่มีหัวหลักแบบ อ.อุบล

ก็คงพลิกคว่ำ พลิกหงายไปนานแล้ว

เพราะ

หัวตอ อย่างพวกเราต่างหากคะ

ที่มีทั้งทำ ทั้งคิด ทั้งพูด

ถ่วงความเจริญ

ถ่วงทุกอย่าง

ถึงจะรดน้ำวิเศษ

ก็ไม่สามารถเจริญงอก

ผลิใบ ผลิดอก ออกมาให้เห็นได้

แฮ่...เป็นที่มาของการ

ขุด หัวตอทิ้ง นี่เอง

ที่บ้านสวนพิรามิด

ขุดหัวตอ ทิ้งเพื่อตัดกรรมอ่ะคร๊า 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-11 06:56:07 IP : 58.8.127.81

 

อาจารย์แม่อุบลขา

อย่าพึ่งขุดหัวตอ

อันนี้ทิ้งเลยนะค่ะ

สำนึกได้แล้วค่ะ

กราบขอบพระคุณ

อาจารย์แม่อุบลอย่างสูงค่ะ

ที่เมตตา

กราบขอบพระคุณ..ค๊า

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-13 09:46:55


ความคิดเห็นที่ 879 (1597633)

 

กราบเท้าอาจารย์แม่อุบลที่เคารพอย่างสูง

หนูอยากไปกราบเท้าอาจารย์แม่แต่หนูละอายใจ

ที่ไม่สำนึกในบุญคุณอาจารย์ที่ช่วยให้หนูพ้นทุกข์

ให้หนูเข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์หนูเสียใจเหลือ

เกินอาจารย์แม่ขาเมตตาหนูด้วย ฮือฮือ

หนูสำนึกพระคุณแม่แล้ว

หนูขอกราบเท้าขอบพระคุณอาจารย์แม่อุบลค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-15 12:09:21


ความคิดเห็นที่ 880 (1598176)

วันคืนวันเสาร์ที่๑๙กุมภาพันธ์ มีธรรมทานดีๆมากมาย ต้องเรียกว่าสุดยอด!!! อยากขอแบ่งปันให้พี่ๆน้องๆชาวบ้านสวนฯได้อ่านและนำมาพิจารณาและปฏิบัติกัน

คำถาม-คำตอบ : บุญ การปฏิบัติสมาธิและอื่นๆ

1.การทำสมาธิแบบใหม่

ปกติลูกหลานบ้านสวนฯคืนวันเสาร์ พวกเราจะนั่งทำสมาธินำโดยท่านอาจารย์อุบล ปรากฏว่าที่ผ่านมา ท่านอาจารย์พบว่ามีหลายๆคน รักและเคารพท่านเหลือเกิน

ศีรษะคอยคำนับท่านครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างทำสมาธิ น่านแน่!แล้วจะได้บุญที่ไหนละเนี่ย ทำไปหลับไป

การทำสมาธิแบบหลับตานั้นที่จริงแล้วเขาฝึกเพื่อนำมาใช้ตอนลืมตา หรือในชีวิตปกตินี่แหละ ฝึกจิตให้มีความนิ่ง มีพลัง สงบ และเวลาเราทำอะไรจิตเราจดจ่ออยู่กับสิ่งเดียว

ดังนั้นต่อไปพวกเราจะทำสมาธิโดยฟังธรรมะจากท่านอาจารย์ โดยให้จิตจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ฟัง นี่แหละคือ สมาธิ แถมฟังไปเราพิจารณาไปได้ปัญญาอย่างแท้จริง ไม่ง่วงอีกด้วย ดีกว่าหลับตาเป็นไหนๆ ชอบๆๆๆก๊าบบแบบนี้ สาธุ

2.บุญใหญ่ ที่ใครๆก็อยากได้

ท่านอาจารย์เปิดปัญญาให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมากในเรื่องนี้ แบบจะจะ ให้หายโง่ไปเลย

หลายๆคนเวลามาบ้านสวนฯอยากจะทำแต่งานบุญใหญ่ เช่น อยากเทปูนวิหารชั้น๓ อยากทำบุญแรงกายสร้างพระ หรืออื่นๆ

อีกมุมหนึ่ง มีพี่ๆน้องๆของเราที่ต้องทำอาหาร หรือแยกตัวทำเกษตร เช่น พี่แมว ต้องทำอาหารเตรียมให้กับคนอื่นๆที่ใช้แรงกาย อาจารย์พัน อาจารย์ณี ต้องไปทำแปลงเกษตร

อ้าว แล้วงี้ คนเหล่านี้ก็ได้บุญน้อยกว่าพวกเราหรือเปล่า??

ท่านอาจารย์ให้ปัญญาเลยว่า ทุกๆอย่างในบ้านสวนฯเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่หมด

"บุญใดที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวเนื่อง หรือสนับสนุนกิจกรรมบุญอื่นๆให้เกิดขึ้น ล้วนได้บุญ อานิสงค์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น"

คนเทปูนสร้างวิหาร สร้างพระฯ ต้องกินอาหารไหม "กินแน่นอน" แล้วหากไม่มีใครปลูกผัก พืช ธัญญาหาร และไม่มีคนทำอาหาร เขาจะเอาอะไรกิน ดังนั้นทุกบุญจึงเกี่ยวเนื่อง สนับสนุน เกื้อกูลกันทั้งหมด ทุกกิจกรรม ทุกบุญในบ้านสวนฯจึงยิ่งใหญ่

ดังนั้นคนที่ปลูกผัก ทำเกษตร จึงได้รับบุญอีกเป็นเท่าตัว เพราะนอกจากบุญทำเกษตรแล้ว ยังทำให้คนใช้แรงกายทำบุญได้มีพืชผักทานกัน สาธุ

คนที่ทำอาหารในครัวย่อมได้บุญใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีกเป็นสามเท่าตัว เพราะนอกจากบุญที่ทำอาหารแล้ว ยังทำอาหารเลี้ยงทั้งคนทำเกษตร ทั้งคนใช้แรงกายให้สามารถมีแรงทำงานกันได้ สาธุ

คนที่ล้างห้องน้ำล่ะ! คนที่ทำอาหาร คนที่ใช้แรงกาย คนที่ทำเกษตร ต้องเข้าห้องน้ำหรือเปล่า ต้องอึ ต้องฉี่ไหม(ภาษาชาวบ้านนี่แหละ) ต้องอาบน้ำไหม น่าน!! ปัญญามาเลย  

ส่วนมาแบบนิ่มๆด้วยหัวใจ อย่างพี่โอ๋ ที่เข้าไปช่วยท่านอาจารย์ที่บ้าน เรียกว่าดักบุญที่ต้นทางเลย ฮ่าๆๆ เพราะท่านอาจารย์คือหัวใจของทั้งหมด ที่จะช่วยผู้คนที่มาบ้านสวนฯ หากไม่มีใครแบ่งเบาภาระท่านอาจารย์ ท่านจะสามารถช่วยคนได้อย่างเต็มที่หรือ

ดังนั้นใครมาบ้านสวนฯ แล้วมัวแต่คิดว่าบุญนี้ใหญ่กว่า ฉันทำ บุญนี้น้อยกว่า ฉันไม่ทำ คิดผิดถนัด ที่เขียนธรรมทานมานี้ ไม่ได้ต้องการบอกให้ใครเลือกว่างานไหนได้บุญมากกว่า น้อยกว่านะครับ

ท่านอาจารย์อยากให้ทุกท่านที่ทำหน้าที่บุญต่างๆในบ้านสวนฯได้รับรู้ พิจารณาด้วยปัญญาว่า ทุกกิจกรรมบุญย่อมเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน และเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งหมด 

อย่าเลือกงาน แต่ให้ช่วยกันทำงานของตนอย่างเต็มความสามารถ ผมขออนุญาติเปรียบเหมือนว่า ทุกคนคือเส้นเลือดต่างๆในร่างกายที่เชื่อมถึงกันและสำคัญทุกเส้น ที่เส้นใดเส้นหนึ่งขาดมิได้เลย แต่ทุกเส้นจะช่วยกันลำเลียงบุญต่างๆไปหล่อเลี้ยงร่างกาย คือ บ้านสวน ประเทศไทยและโลกใบนี้ให้พบกับความสุขนั่นเอง 

ที่จริงเรื่อง คำถาม-ตอบยังอีกหลายคำถามที่มีประโยชน์นะครับ ขออนุญาติเก็บไว้ให้พี่น้องที่กำลังเดินทางกลับมาได้มีโอกาสเขียนเล่ามั่ง ม่ายง้านทุกท่านจะร้องว๊าา เล่นเหลาซะหมดมุขเลย  

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 15:42:29


ความคิดเห็นที่ 881 (1598179)

ช่วงสมาทานศีล

คืนวันเสาร์นี้ ท่านอาจารย์เมตตาให้ลูกหลานที่ปวดเมื่อย หรือมีอาการเจ็บป่วยที่ชัดเจนตามร่างกาย

คืนนี้พี่น้องเราออกมาเยอะพอสมควร แบบว่าจัดหนักเลย เริ่มแรกออกมายืนกันหน้าละห้อย แต่สักพักบ้างก็รีบพากันเดินกลับเข้าที่ด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ป๊าดด เกิดอะหยังขึ้น

รายแรก พี่อมร จำไม่ได้ว่าพี่แกปวดตรงไหน คำถามแรกของท่านอาจารย์ คือ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยยัง

"ยังครับ" ป๊าดด!!

ท่านอาจารย์คงปวดHeadเหมือนกันที่ลูกหลานสวนฯมีรหัสแต่ไม่ยอมใช้ พอพี่อมรได้ใช้ปุ๊บ หายปั๊บทันทีเลย สาธุ

ทำให้อีก ๒-๓ ท่านที่ยืนๆกันอยู่ ที่ยังไม่ได้ใช้รหัสจักรวาลรีบใช้กันใหญ่ แล้วพากันยิ้มๆแบบว่า อายจัง มีของดีแต่ไม่ได้ใช้ รีบเดินกลับเข้าที่ เพราะว่า หายแล้วก๊าบบบ ฮ่าๆๆ

ขอสรุปเข้าถึงประเด็นสำคัญเลยดีกว่านะครับ

พบว่ามีพี่น้องของพวกเราหลายๆคนใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยแล้วไม่หาย แป่วว เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาล่ะครับ เช่น อาจารย์ณี พี่โฆษิต คุณอ้อย พี่แก้ว และท่านอื่นๆ

ท่านอาจารย์เลยสรุปให้ฟังว่า คนที่ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย จะได้ผลหรือไม่ต้อง

1. เคารพ และศรัทธา นับถืออาจารย์อุบลอย่างจริงใจ ไม่คิดสงสัย ไม่ปรามาส เพราะว่าเวลาใช้ต้องเชื่อมจิต ญาณ ถึงท่าน หากปรามาส ไม่จริงใจ เวลาใช้ย่อมไม่มีผลแน่นอน

2.ใช้แล้ว หากไม่ยอมบอกต่อ คือเห็นแก่ตัว เก็บไว้ใช้คนเดียว จะใช้ต่อไปไม่ได้อีก การที่เรายิ่งบอกต่อทำให้เราสามารถใช้รหัสจักรวาลนี้ให้มีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ มีฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ได้แบบคาดไม่ถึง ใช้ขอในสิ่งสำคัญได้ยิ่งๆขึ้นไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะคอยอนุโมทนาบุญกับท่านเวลาบอกต่อคนอื่น 

อ้อ ถึงจุดนี้ ท่านอาจารย์เปิดหมดเลยทีนี้ อิอิ ว่าพวกเรารู้หรือไม่ว่าทุกคนที่ฝึกกสิณกับบ้านสวนฯน่ะมีฤทธิ์ทุกคนแล้ว แต่พวกเราไม่รู้กันเอง อืม!!มีฤทธิ์ตรงไหนน๊าา

ก็เราใช้ฤทธิ์ผ่านรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยไง เวลาเราขออะไร ก็ได้อย่างนั้น ไม่เรียกว่าเรามีฤทธิ์เหรอ เพียงแต่เราใช้ฤทธิ์ผ่านรหัสจักรวาลนี้ โอว้ สุดยอดเลยครับพี่น้อง เรียกว่า"ไม่ต้องแย่งกัน ได้ทุกคน" ดังนั้นเมื่อรู้ความลับนี้แล้วก็ให้ช่วยกันเผยแพร่ให้มากที่สุดไปเรื่อยๆ และใช้ในทางที่ถูกต้องกันเน้ออ 

3.มีแต่เบิกมาใช้ ไม่เคยฝากเล๊ยยย

วันนี้พวกเราได้ปัญญาหายโง่ฯกัน ว่าอีกเหตุผลหนึ่งทำไมใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยไม่ได้ผล

ที่ผ่านมา พวกเราคงได้รู้กันแล้วว่า เวลาใช้รหัสฯ เทวดาประจำตัวท่านอาจารย์อุบลจะไปช่วย และรู้ไหมว่าเทวาประจำตัวท่านมีตั้งแต่ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกฯทุกพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล และมนุษย์ต่างดาวทั้งหมด กราบๆๆ

เวลาเราใช้รหัสจักรวาลนี้ เราดีแต่ใช้ ขอให้ท่านช่วย แต่เราไม่เคยแสดงความกตัญญู ไม่เคยอุทิศบุญให้เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอาจารย์อุบลเล๊ยย!! ดีแต่อยากได้นั่น ได้นี่

เหมือนกด ATM คือกดเงินอย่างเดียว ไม่เคยฝากเงินเข้าเลย แน่นอนครับ เงินก็หมด กดอย่างไรก็ไม่มีทางได้เงินใช้

เช่นกัน พวกเราไม่เคยอุทิศบุญให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอาจารย์อุบลเลย เรียกใช้แต่ท่าน แล้วท่านจะช่วยได้อย่างไรกันล่ะ

ที่ท่านมาทำบุญต่างๆที่บ้านสวนฯ ไม่ว่าด้วย ปัจจัย แรงกาย สิ่งของ เปรียบเสมือนการทำบุญฝากไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านอาจารย์ ซึ่งเบื้องบนท่านเน้นย้ำเลยว่า ท่านต้องการบุญที่บ้านสวนฯซึ่งบุญแรง ให้อานิสงค์ยิ่งใหญ่

ถึงบางอ้อกันเลยครับ !! ดังนั้นหลายๆท่าน เช่น คุณอ้อย พี่แก้ว พี่โฆษิต ที่ออกมาข้างหน้าใช้รหัสยังไงก็ไม่ได้ ก็รีบพากันอุทิศบุญให้เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอาจารย์อุบล และขอใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ก็เห็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในทันที คือหายเจ็บ หายปวดกันในพริบตาเลย สาธุ

วิธีการกล่าว

ลูกขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ลูกขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนา ที่ได้ทำมาทุกภพทุกชาติ และบุญทุกๆบุญที่ทำที่บ้านสวนพีระมิด ไม่ว่าด้วย ปัจจัย แรงกาย สิ่งของ ขออุทิศบุญให้กับเทวดาที่รักษาอาจารย์อุบล และขอใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ลูกหายเจ็บ......(ตามที่เราต้องการขอ)

1.กล่าวแบบง่ายๆ ตรงๆ อย่าเยิ่นเย้อ เบื้องบนเมตตาบอกมาว่าอย่าทำแบบประดิษฐ์ ประดอย พูดร่ายยาว ท่านขี้เกียจฟัง เพราะท่านเน้นที่ ง่ายๆ เคารพ และจริงใจ

2.อย่าเสียเวลามานั่งไล่ตั้งแต่พระพุทธเจ้า ไล่มายาวเฟื้อย เพราะคำว่าเทวดาที่รักษาอาจารย์อุบล หมายถึงทุกพระองค์ทั่วจักรวาลอยู่แล้ว

3.บางครั้ง เราเพิ่งอุทิศบุญให้ท่านและขอใช้รหัสไป บุญใหม่ก็ยังไม่สร้าง เรียกใช้อยู่นั่นแหละ ยังไงก็ไม่ได้ผล เราต้องสร้างบุญใหญ่ บุญใหม่เรื่อยๆ อุทิศให้สม่ำเสมอ มากยิ่งๆขึ้นไป

บางคนทำแต่บุญเล็กๆ ไม่สร้างบุญใหญ่ เช่นบุญธรรมทานซึ่งทำง่าย มีอานิสงค์มากมาย แต่คนไม่ค่อยเข้ามาเขียนกัน บุญภาวนา ก็ไม่ค่อยทำกัน ทำแต่บุญน้อยๆอุทิศให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

แล้วเวลาเราขอสิ่งที่สำคัญหรือสิ่งที่ต้องใช้กำลังบุญสูงท่านคิดว่าจะได้ผลหรือไม่ แน่นอนย่อมไม่ได้

รู้ความลับอย่างนี้แล้ว หวังว่าพี่ๆน้องจะได้รับอานิสงค์จากรหัสจักรวาลนี้อย่างสูงสุดนะครับ มิใช่เร่งทำบุญกันใหญ่เพื่อหวังอานิสงค์ให้ใช้รหัสได้อย่างเดียว ทำด้วยความอยาก บุญจะได้น้อย แต่เร่งช่วยกันเผยแพร่รหัสจักรวาลนี้ออกไปเพื่อช่วยคนไทย โลกใบนี้ด้วยกันนะครับ แล้วผลบุญจะเกิดกับตัวพวกเราเอง สาธุ

เพิ่มเติม: วิธีการอุทิศบุญที่ฉลาด ถูกต้อง

ท่านอาจารย์เมตตาสอนวิธีการอุทิศบุญปกติที่พวกเราทำกันอยู่ทุกวัน ให้พวกเราทำกันอย่างฉลาด จะได้อานิสงค์มหาศาล

ก่อนอื่นท่านจะถวายบุญ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจจักพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ....... จนครบ

และลงท้ายว่า

ขอทุกพระองค์ได้โปรดโมทนารับบุญ รับฝากบุญ และโปรดเป็นสักขีพยานในการสร้างบุญของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ สาธุ

เสาร์นี้ ได้ปัญญามากมายเหลือเกินครับพี่น้อง  ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามที่ท่านอาจารย์เมตตาสอน พวกเราทุกคนจะได้ช่วยตนเอง ผู้อื่น และโลกใบนี้ และพากันกลับบ้านด้วยกันนะครับ

สำหรับธรรมทานอื่นๆยังมีอีกเพียบนะครับ แต่ให้ท่านอื่นๆมาเหลาบ้างแล้วกันเด้อครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 16:47:30


ความคิดเห็นที่ 882 (1598187)

ไม่ต้องรอใครมาเล่าหรอก

พ่อใหญ่ธนา

ใครกินข้าว คนนั้นก็อิ่ม

กินแทนกันไม่ได้ อิ่มแทนกันไม่ได้

 

บุญธรรมทาน

การเขียนเล่า ก็เช่นกัน

ใครจะเขียน ไม่เขียน ไม่สน

เราเขียนเราได้

ใครจะไปนรก เราจะไปกับเขาไหม

ใครทำ ใครได้

 

คนอื่นเขียนเรื่องอื่น

คุณธนา ก็ไม่ได้กับเขา

 

ดังนั้น

ต่างคนต่างเขียน

แม้จะซ้ำกัน ก็ไม่เห็นเป็นไร

มุมมองของใครของมัน

บุญของใครของมัน

 

ถ้าเขียนซ้ำกันไม่ได้

ก็แสดงว่า

การไปนิพพาน

ก็ไปซ้ำกันไม่ได้

 

ถ้า อ.อุบล ไปแล้ว

คนอื่นไม่ต้องไป ใช่ไหม

ถึงทำซ้ำกันไม่ได้

 

หรือ

ถ้าคุณธนา

ไปนิพพานแล้ว

คนอื่นไม่ควรไป เพราะว่า

เดี๋ยวไปซ้ำกัน ใช่ไหม

 

คนนี้สวดมนต์บทนี้แล้ว

เราไปสวดเหมือนเดิม ก็ซ้ำเขา

ก็เลยไม่ต้องสวดใช่ไหม

 

ดังนั้น

ทำบุญ ทำความดี

 

ให้ทำทันที

ทำแบบง่ายๆ สม่ำเสมอ

ต่อเนื่อง และ มากขึ้น

 

อ.อุบล

ไม่เคยสนว่า

ใครจะเขียนหรือไม่

ไม่ทำตามใคร

 

จะทำตามพระพุทธเจ้า

เท่านั้น

 

ใครเขาไม่อยากไป

นิพพาน

ก็ช่างเขาปะไร เราจะไปของเรา

คนเดียวก็ได้

 

ทำไม

ทำอะไร ต้อง ทำตามกัน

หรือไม่ก็

ทำซ้ำกันไม่ได้

 

ไม่เข้าใจจริงจริ๊ง

พ่อใหญ่ธนา เอ้ย 555

 

ก็อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน

ไม่ให้เขียนซ้ำกัน

มันจะเขียนนอกเรื่องได้ไงจ๊ะ

 

แต่วิสัยทัศน์

หรือ ความรู้สึก อารมณ์ใจ

มันไม่เหมือนกันแน่นอน

 

ไม่เช่นนั้น

คนทั้งโลก คงเป็น

พระพุทธเจ้า

กันหมดโลกแล้ว

 

หรือไม่ก็

นักเรียนห้องเดียวกัน

ครูสอนคนเดียวกัน

ทำไม มีคนตก มีคนได้

มีคนได้คะแนนไม่เท่ากัน

 

ทำไม

ไม่ได้เท่ากันหมดล่ะ

ในเมื่อ ก็เรียน+ฟัง เหมือนกัน

 

ช่วยตอบที

พ่อใหญ่ธนา พี่มหา

และ

ท่านผู้อ่านที่อยากร่วม

สนทนาธรรม กับ อ.อุบล

ผ่านทางเวปฯ

จ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 18:57:28


ความคิดเห็นที่ 883 (1598189)

 อยู่ที่ความตั้งใจ

ปัญญาของแต่ละคนครับ

อยู่ที่ว่าในขณะนั้นเราตั้งใจไหม

ฟังแล้วรู้เรื่องไหมใส่ใจไหม

แต่ที่แน่ๆถ้าหลับก็คงไม่รู้เรื่องครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 19:10:10


ความคิดเห็นที่ 884 (1598191)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ ที่ได้ให้ปัญญา ที่ผ่านมาผมเห็นแต่ว่า เรื่องใดที่เขาเขียนกันแล้ว คนอื่นๆมักที่จะไม่ยอมเขียนเรื่องเดิมซ้ำอีก หรือไม่ก็ไม่เขียนเลย เพราะเห็นว่ามีคนเขียนแล้ว พากันเงียบกริบเลย

ผมก็เลยคิดแบบคนโง่ๆครับ กลัวว่าคนอื่นเห็นผมเหลาละเอียดยิบแล้ว จะไม่เขียนซ้ำอีก ก็เลยพากันเงียบไปหม๊ดเลย และกลายเป็นว่าคนมักมาเขียนแค่ว่า อนุโมทนาสาธุกับธรรมทาน แค่นั้น

ก็เลยอยากกระตุ้นให้คนอื่นๆได้เขียนธรรมทานกัน แต่ก็เป็นการคิดแบบคนโง่ครับ เพราะที่ถูกต้องคือ "คนไหนทำ คนนั้นก็ได้" สาธุ 

ท่านอาจารย์พูดถูกแล้วครับ เรื่องเดียวกัน แต่ละคนเขียนออกมาจะได้แง่มุม อรรถรสที่แตกต่างกัน ทำให้คนอ่านได้วิเคราะห์และเพลิดเพลินกับธรรมทานที่หลากหลายแง่คิด และหลายๆครั้งก็สื่อออกมาในลักษณะที่ผิดความหมาย หรือเข้าใจผิดไปเลยก็มี แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนได้รู้ และฝึกฝนสติ ปัญญา เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 19:37:15


ความคิดเห็นที่ 885 (1598197)

 ใครเขาไม่อยากไป
นิพพาน
ก็ช่างเขาปะไร เราจะไปของเรา
คนเดียวก็ได้

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

  ขอคลาน ตามด้วยคนนะคะ  

กราบขอบพระคุณคะ อ.อุบล

ธรรมทานที่ได้รับ ในค่ำคืนของ

วันเสาร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

ตั้งแต่เวลาโดยประมาณ 19.30 - 24.00 น.

ทำสมาธิแบบ ลืมตา

ได้อะไรมากมาย เรียกว่า

อ.อุบล ปลิ้นสมองให้เลยทีเดียวค่ะ

ในเรื่องของการทำบุญ

และเป็นเรื่องจริงที่เรา ๆ ลูกบ้านสวนฯ

มองข้ามบุญไป โดยคาดจุดเ้ป้็าหมาย

ของการไปทำบุญแรงกาย

ในส่วนใหญ่ ๆ เช่น สร้างวิหาร สร้างพระ

แต่ งานอื่น ๆ ที่ต้องเป็นส่วนประกอบ

ในการสร้างบุญให้สำเร็จ

เช่น งานทำสวน งานครัว ล้างห้องน้ำ ฯลฯ

ล้วนแล้วแต่เป็นงานบุญที่ก่อให้เกิด

งานสร้างบุญใหญ่ ๆ ให้สำเร็จลุล่วง

การทำบุญ เปรียบเสมือนการฝากเงิน

เพราะฉะนั้นเราต้องหมั่นสร้าง หมั่นออมบุญ

เพราะ บุญมีวันหมด หากเราใช้ไม่เป็น

บุญที่ได้ทำนำฝาก องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า

และเมื่อเราเบิกบุญมาใช้แล้ว ก็ต้องเติมบุญ

รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

เป็นรหัสที่ เทวดาประจำตัวของ

อ.อุบล ไปช่วยเหลือทุก ๆ คน แต่

พวกเราส่วนใหญ่ ไม่เคยอุทิศบุญ

ให้กับเทวดาประจำตัว อ.อุบลกันเล๊ย.ย.ย.

ทำให้การ สมาทานศิลในค่ำคืนนี้

อ.อุบล เมตตาให้คนที่มีอาการเจ็บ ป่วย

ออกไปเข้าแถว เพื่อรับการบำบัด

อิ อิ งานนี้ แมวปวดต้นคอ และหนักบ่า 2 ข้าง

ก็ออกไปเข้าแถว กะเขา..

อ.อุบล ชี้แนะให้รอง อุทิศบุญ

ให้กับเทวดาประจำตัว อ.อุบล ดูซิ

โอ้ว..แต่ละคน ยิ้ม หาย ๆ ๆ 

ส่วนแมวเอง..555++

ยืนเข้าแถวต่อจากพี่ อมร 

พี่อมร ปวด... แต่ยังไม่ได้ขอใช้่

รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

อ.อุบลก็แนะให้พี่อมร ขอใช้รหัส

และอุทิศบุญให้เทวดาประจำตัว อ.อุบล

แฮ่..เราก็ยืนสงบน้อมจิต ตามคำพูดของพี่เค้า

แบบว่า..อาการที่ปวดต้นคอ หนักบ่า

คลาย เหมือนมีใครมาช่วยยกของหนัก ๆ ออกให้

อุ้ย...ไม่ต้องแล้ว หายแล้ว.ว.วคร๊า

555++

อ.อุบล เปรียบให้ฟังว่า

คนที่พระพุทธองค์มอบรถยนต์ให้ไป

แล้วขับไม่เป็น..ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด

กราบเท้าขอบพระคุณ อ.อุบล และครอบครัว

และที่สุดมิได้

กราบพระบาท เทวดาประจำตัว

ของ อ.ุบล ทุกพระองค์ค่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-

อ.อุบล ขา

แมวมีความสุข และชอบทำสมาธิโดยวิธีนี้มาก ๆ ค่ะ

กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 20:28:04


ความคิดเห็นที่ 886 (1598198)

ธรรมทานกันต่อดีกว่าครับ

เราขอเบิกบุญคนอื่นได้ไหม

ผมมีความสงสัยเพราะเวลาท่านอาจารย์อุบลกล่าวแผ่บุญมักจะกล่าวช่วงหนึ่งว่า "ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า....ขอเบิกบุญของทุกๆท่าน....."

ผมเลยเรียนถามท่านว่า แบบพวกเราทุกคนจะขอเบิกบุญคนอื่น เพื่ออุทิศบุญแก่เทวดาและอื่นๆได้ไหม

ท่านตอบว่า ทุกคนสามารถทำได้ ลองทำดู แต่ว่าจะได้ผลมากน้อยเท่าไรนั้น มีหลายปัจจัย เช่น คนที่ขอต้องได้พระกัมมัฏฐาน อย่างเช่น หากจะขอเบิกดวงวิญญาณขึ้นมา ไม่ใช่ว่าใครๆก็จะทำได้ คนนั้นต้องสร้างบารมีและได้พระกัมมัฏฐาน

ดังนั้นการขอเบิกบุญคนอื่นๆเราจึงทำได้ และผลที่เกิดก็ตามแต่กำลังบุญที่คนนั้นๆทำไว้ด้วย บางคนทำบุญนิดเดีย ทำบุญเล็กๆเวลาเบิกบุญมา ก็อาจไม่ได้ผล เพราะบุญไม่พอเป็นต้น

การอุทิศบุญและรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ช่วยคนอื่นได้จริงไหม

สิงห์ป้อม : เวลาเห็นสัตว์เสียชีวิต ที่ไหนก็ตาม ขอเบิกบุญมาอุทิศให้แก่สัตว์นั้นๆเขาจะได้รับไหม

คำตอบ : (แบบสรุปใจความนะครับ) ได้รับแน่นอน นอกจากนี้ รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ซึ่งตัวอย่างในคืนวันเสาร์นั้น เป็นกรณีของคุณแม่ของผมเอง สามารถติดตามอ่านได้ในกระทู้ รหัสอาจารย์อ.อุบลช่วยด้วย ได้ผลจริงหรือ นะครับ ไม่ขอลงไว้ในนี้เพราะจะยาวมั่กก

ซึ่งผลที่เกิดขึ้นเป็นข้อสรุปกับคำถามนี้เลยว่า การแผ่บุญหรือรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยนี้ ผลบุญจะถึงแก่ผู้ที่เราต้องการช่วยเหลือแน่นอนที่สุด ฟันธง!

การภาวนา ทำอย่างไรดี

ผมเรียนถามท่านอาจารย์ว่า

คำถาม: เวลาว่างๆผมก็กำหนดดูลมหายใจไป เพื่อให้จิตเกาะกับอะไรสักอย่างดีไหม

ท่านอาจารย์เมตตาให้อุบายการปฏิบัติ ง่ายๆ ทำได้ทุกคนก็คือ

ต่อไปให้ทุกคนลองปล่อยให้จิตว่างๆ ไม่ต้องคิดอะไรเลย รักษาจิตให้ว่างอยู่อย่างนี้ จิตจะมีพลัง สงบ มีสมาธิอย่างดี ค่อยๆทำไป จนจิตสามารถรักษาความว่างได้เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆยิ่งดี หากไม่สามารถทำจิตให้ว่างๆได้จริง ก็ให้ลองนับแค่ ๑ ๒ ๓ เท่านั้น ไม่ต้องนับมาก ค่อยๆทำไป

การที่จิตอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ สุดท้ายจิตมันก็ยังคิด ยึดติดอยู่ดี ไม่ต้องอยู่กับปลายจมูก หรือใดๆทั้งสิ้น ปล่อยให้จิตว่าง สบายอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น สาธุ

การขอขมา และขอบคุณ

อาจารย์ณี ได้ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอสารภาพบาปกรรมที่ทำมา เนื่องจากตนเองเคยทำให้ฟันคนอื่นได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เรียนเกี่ยวกับด้านการวางยาสลบ(โทษทีนะครับจำไม่แม่นเป๊ะ)

เลยคิดว่าผลกรรมนี้ ทำให้เกิดฟันคล้ายๆกระดูกโผล่ขึ้นมาในช่องปากด้านล่าง เลยขอสารภาพบาป แต่สุดท้ายก็ยังไม่หายอยู่ดี

จนท่านอาจารย์เมตตาให้รู้ถึงบาปกรรมที่เคยทำมาเกี่ยวกับศีลข้อ๔ คือ โกหก นินทา ใส่ร้าย เสียดสี และอีกสารพัดที่ทำทำให้กรรมรวมตัวกัน เป็นเหตุให้เกิดกระดูกคล้ายฟันโผล่ขึ้นมาอย่างนี้ และชี้แนะบอกให้อาจารย์ณีขอขมาพระพุทธองค์ เจ้ากรรมนายเวร ให้บอกทุกอย่างว่าทำผิดศีลข้อ๔อย่างไรบ้าง

แต่น่าแปลกที่อาจารย์ณีพูดผิดๆถูกๆ พูดยังไงก็ไม่ครบ หลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่ครบสักที บ้างก็ลืมขอขมาพระพุทธองค์ บ้างก็ลืมพูดว่าเคยพูดโกหก นินทา ฯลฯ

จนแล้วจนเล่า จนท่านอาจารย์ต้องเฉลยให้ฟังว่า นี่คือเจ้ากรรมนายเวรบังไว้ ทำให้อาจารย์ณีจำและพูดไม่ได้  และเบื้องบนไม่ให้ท่านอาจารย์แทรกแซงกรรม ทำให้ท่านอาจารย์และทุกคนที่ในนั้นลุ้นอาจารย์ณีจนตัวโก่งเลยทีเดียว เฮ่อ!!

เห็นไหมละครับ เจ้ากรรมนายเวรบังตา กรรมรวมตัว น่ากลัวขนาดไหน ขนาดต่อหน้าท่านอาจารย์แล้ว ท่านก็ชี้แนะบอกทุกอย่างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจะพูดได้ครบและถูกอีก...

การขอขมา

พี่อ๊อดได้ขออนุญาติกราบขอขมาเบื้องบนและท่านอาจารย์ที่ได้ทำผิด คือ ไปขอบคุณคุณหมอศิริพร ที่พี่อ๊อดคิดว่าคุณหมอทำให้ตนเองก้นฟูขึ้นมาจนหาย ทั้งๆที่ทุกคนก็รู้ว่าปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันทีในบ้านสวนฯนั้นเป็นเพราะบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์อุบลอย่างแน่นอน

จนแล้วจนรอดพี่อ๊อดก็ยังไม่สำนึกพระคุณ กลับไปขอบคุณคุณหมอศิริพรอยู่ดี

มาวันนี้พี่อ๊อดกราบขอขมา กล่าวว่าสำนึกแล้วที่ได้ทำไป ไปขอบคุณผิดคน ไม่สำนึกบุญคุณท่านอาจารย์อุบลและเบื้องบน

แต่พี่อ๊อดก็ไม่ได้กล่าวในรายละเอียดเลย ว่าทำไมถึงได้ขอบคุณคุณหมอศิริพร คิดอะไรอยู่ เกิดอะไรขึ้นในความคิดขณะนั้น ซึ่งการที่มาบอกแค่ว่า สำนึกผิดแล้วที่ขอบคุณผิดคนนั้นกลายเป็นการไปฟังคนอื่นกระตุ้นบอกมา แต่ตนเองกลับไม่รู้ว่าตนเองจริงๆแล้วคิดอะไร ทำผิดอะไร

สุดท้ายพี่อ๊อดก็คิดไม่ได้ คิดไม่ออก ว่าทำไมตนเองถึงไปขอบคุณหมอศิริพร อ้าว!หากไม่รู้ว่าคิดยังไง เหตุผลคืออะไร ก็แสดงว่าที่มาขอขมานี่ ยังไม่ได้สำนึกจริงๆ

จนได้เพื่อนๆขออนุญาติท่านอาจารย์ขอแสดงความเห็น ให้สติพี่อ๊อดว่า เป็นเพราะพี่อ๊อด อยากสอพลอ ตอแหล อยากประจบสอพลอ หรือเปล่า โทษทีนะครับ อันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาหรือตำหนิ หรืออยากล่วงเกินแต่ประการใดนะครับ เขียนตามความเป็นจริง เพื่อเป็นธรรมทานแก่ทุกท่านให้ได้แง่คิด

และท่านอาจารย์มงคลได้เมตตาให้ธรรมทานได้อย่างชัดเจนมาก ผมขออนุญาติเรียบเรียงในแนวสรุปนะครับว่า สิ่งที่พี่อ๊อดทำไป ออกไปทางเวอร์ ทำอะไรก็ดูเหมือนเกินพอดี และหลายๆเหตุการณ์นั้นพี่อ๊อดก็น่าจะทำให้สามีตนเองรู้สึกอายกับพฤติกรรมที่เวอร์มาก

และท่านก็เห็นตรงกับท่านอื่นๆว่าการที่พี่อ๊อดขอบคุณหมอศิริพรนั้นเพื่อต้องการประจบสอพลอเอาใจคุณหมอ อยากให้พี่อ๊อดพิจารณาสิ่งต่างๆที่แสดงออกมาทั้งหลาย เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงตนเอง สาธุกับธรรมทานที่ตรง และชัดเจนของท่านอาจารย์มงคลครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 20:38:59


ความคิดเห็นที่ 887 (1598206)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

และขออนุโมทนาบุญกับคุณธนาและคุณแมวด้วยนะคะ

รู้สึกว่าเสาร์นี้เบื้องบนและท่านอาจารย์จัดเนื้อหาแน่นเอี๊ยด

เผลอไม่ได้  หลับไม่ได้  ไม่งั้นตกข่าว

ส่วนชาวเกาะคนนี้  ขอเริ่มที่ตรงนี้ก่อนนะคะ

      +++++++++++++++++++

ต่อไปให้ทุกคนลองปล่อยให้จิตว่างๆ ไม่ต้องคิดอะไรเลย รักษาจิตให้ว่างอยู่อย่างนี้ จิตจะมีพลัง สงบ มีสมาธิอย่างดี ค่อยๆทำไป จนจิตสามารถรักษาความว่างได้เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆยิ่งดี หากไม่สามารถทำจิตให้ว่างๆได้จริง ก็ให้ลองนับแค่ ๑ ๒ ๓ เท่านั้น ไม่ต้องนับมาก ค่อยๆทำไป

การที่จิตอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ สุดท้ายจิตมันก็ยังคิด ยึดติดอยู่ดี ไม่ต้องอยู่กับปลายจมูก หรือใดๆทั้งสิ้น ปล่อยให้จิตว่าง สบายอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น สาธุ

       ขอบคุณ  คุณธนาเป็นอย่างยิ่งนะคะ  ที่นำรายละเอียดทุกกรณี  มาเผื่อคนทางบ้านด้วย  ทำให้ได้สติมานั่งพิจารณาตัวเอง  ว่าเราทำเพื่ออะไร ยิ่งตัวอย่างของพี่อ๊อด เราต้องกลับมามองตัวเองว่า  เราเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า  รวมทั้งเรื่องกรรมมารวมตัวกัน ทุกอย่างช่างละเอียดอ่อนเหลือเกิน  อ่านแล้วรู้สึกว่า  ตัวเองยังห่างจากสวรรค์มาก  นิพพานยังไม่ต้องพูดถึงเลย  ขอฮึดสู้อีกสักครั้ง  และใจก็ยังหวังกลับบ้านอยู่

     

     

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-19 22:03:46


ความคิดเห็นที่ 888 (1598225)

ไม่เข้าใจจริงจริ๊ง

พ่อใหญ่ธนา เอ้ย 555

 

ก็อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน

ไม่ให้เขียนซ้ำกัน

มันจะเขียนนอกเรื่องได้ไงจ๊ะ


 ครับท่านอาจารย์

ผมขอเล่าในมุมมองของผม

ดังต่อไปนี้ครับ

เรื่องแรก คือ การไม่ทำตามผู้นำ

ต้องยกเรื่องนี้มาก่อน

เพราะผมเองก็เป็นคนโง่คนหนึ่ง

ที่เป็นแบบนี้

คนโง่มักไม่ทำตามที่ผู้นำสอนสั่ง

เปรียบเสมือนคนที่ไม่ทำตาม

ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน

เช่น ไม่รักษาศีล ไม่กตัญญูรู้คุณ

มักคิดเองเออเอง ทำเอง

เพิ่มเติมจากผู้นำสั่ง

เพราะคิดว่าตัวเองฉลาด

ซึ่งแท้จริงก็คือ "โง่ดักดาน" นั่นเอง

ประเทศไทยมีคนที่เป็นแบบผม

แบบนี้เยอะ

ถึงได้มีปัญหาอยู่ร่ำไป

ตัวอย่างเช่น อาจารย์เพิ่งสอนเรื่องนี้

สอนให้ดูตัวอย่างการขอบารมี

พระพุทธองค์เพื่อถวายบุญ

เทวดาประจำตัวท่านอาจารย์

แต่ผมก็เพิ่มเติมตามสไตล์ของผม

ใช้ถ้อยคำสวยงาม

ทำให้เยิ่นเย้อมากขึ้น

ไม่ทำตามที่ท่านสอนทันที เป็นต้น

ลูกหลานบ้านสวนขอให้จริงใจ

รวบรัด ได้ใจความ เข้าใจง่าย

ตามแบบอย่างของท่านอาจารย์

ซึ่งผมเข้าใจว่า นั่นคือ การดูที่จิต

ดูที่เจตนา การตั้งมั่น เป็นหลัก

เหมือนที่ท่านตอบคุณสมจิตว่า

การอุทิศบุญไม่ต้องพนมมือ

สามารถทำด้วยใจ

นั่นคือ ดูที่จิต

ทุกอย่างสำเร็จด้วยจิต นั่นเอง

หรือผมถวายบุญ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด

คิดไปเองว่า ได้ครบทุกพระองค์

แต่ในความเป็นจริง

"เทวดาประจำตัว"

ท่านอาจารย์มีมากมายทั่วจักรวาล

ท่านจึงสอนให้เราถวายบุญ

โดยใช้คำสั้น ๆ ว่า

ถวายบุญเทวดาประจำตัวท่านอาจารย์

  

 

เรื่องที่สอง คือ ทำงานอย่างมีสมาธิ

เราจะปลูกผัก เทปูน ทำกับข้าว ฯ

เราสามารถทำสมาธิควบคู่ไปได้

เพราะสมาธิแปลว่า ความตั้งใจ

ไม่ใช่ปลูกผักไป คุยไป

ผักเลยรากชี้ฟ้า เป็นต้น

วันนี้ไปกินหญ้า เอ๊ย ถางหญ้า

ที่แปลงผักก็ใจลอย

ถางหญ้าไปพร้อมผักก็มี

เพราะใจมันคิดอะไรต่ออะไร

มากมายแค่ระหว่างนับ

การที่เราจะได้บุญมหาศาล

สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการ

ไม่คิอะไรเลย ทำใจสบาย ๆ

ไม่ต้องจับภาพ จับลมหายใจ

แต่ท่านแนะให้ลองนับ 1-2-3

แล้วขึ้นรอบใหม่

ไม่ต้องคิด

นึกอะไรเลยระหว่าง 1-2-3

ซึ่งผมลองทำดู แค่ 1-2-3

ไม่ให้คิดอะไรยังยาก

เพราะบางทีตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง

ใจก็คล้อยตาม ปรุงแต่งไป

กลายเป็นคิดขึ้นมาอีกแล้ว

ห้ามนับ 1-2-3 พร้อมนึกเสมอว่า

 เราจะไม่คิดอะไรเลย

เพราะนั่นคือการคิด

และแค่คิดคุณก็ผิดแล้ว

ดังนั้น จึงยากมาก

ท่านอาจารย์เองท่านก็ฝึกมานาน

ซึ่งผมคิดว่า

ระหว่างที่เราทำได้แค่ 1-2-3

จิตของเราจะว่างจากกิเลส

จึงเป็นบุญมหาศาลนั่นเอง

ไหน ๆ ก็พูดถึง แปลงผักแล้ว

ก็อยากให้เราทุกคนปลูกผัก

ด้วยความรัก ด้วยความตั้งใจ

จะปวดเอว ปวดขาแค่ไหน ก็สู้ ๆ

เพราะการที่เราปลูกตามใจฉัน

ไม่ทำตามที่อาจารย์พันธ์สอน

ทำให้การถางหญ้าในแปลงยากมาก

เพราะเราปลูกไม่เป็นระเบียบ

บางคนปลูกผักพร้อมต้นหญ้า

บางคนปลูกผักยอดจมดิน

พอรดน้ำ ผักก็ลงลิฟท์ไปชั้นใต้ดิน

และที่สำคัญ

อย่าเหยียบขอบแปลงเป็นอันขาด

เพราะน้ำจะไหลออกนอกแปลงผัก

พาน้ำและปุ๋ยที่เรารดไปที่อื่น

ต้นผักเป็นสิ่งมีชีวิต

จึงต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ

การดูแลแปลงผัก

ได้บุญสองต่อ เพราะเป็นอาหาร

ที่เลี้ยงคนที่มาทำบุญในบ้านสวนฯ

แต่ยังสู้คนที่ทำอาหารเลี้ยงไม่ได้

เพราะนับเป็นบุญ 3 ต่อ

เลี้ยงทั้งคนที่ใช้แรงกาย

และคนที่ทำงานแปลงผักด้วย

และเหนือฟ้ายังมีฟ้า

คนที่ดูแลท่านอาจารย์ในบ้านท่าน

เช่นที่โอ๋ ได้บุญมากกว่า

เพราะดูแลท่านที่เป็นต้นบุญ

ของบ้านสวน

รู้อย่างนี้แล้วก็ตั้งใจทำงานกัน

ตามที่ได้รับมอบหมาย

หรือตามที่สถานการณ์เอื้ออำนวย

เพราะทุกอย่างต้องทำงานเป็นทีม

และทุกอย่างเป็นบุญ

แค่เราคิดเลือกงานบุญในบ้านสวน

เราก็ผิดมโนกรรมแล้ว

แทนที่จะได้บุญใหญ่ กลับได้น้อย

เรื่องท้ายสุด

คนเราจะเจริญได้ด้วยการ

ขยัน อดทน ประหยัดและซื่อสัตย์

ทำการสิ่งใดต้องมีปัญญา

ประกอบกันไปในชีวิต

ทำงานขยัน แต่ไม่ประหยัด

ก็ตังค์หมด ใช้เงินเดือนชนเดือน

ทำงานขยัน แต่ไม่มีปัญญา

ท่านอาจารย์บอกว่า

ก็เป็นคนซื่อบื้อ

(อันนี้แทงใจผมมาก)

เรื่องสุดท้าย

อย่าใช้รหัสศักดิ์สิทธิ์

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

พร่ำเพรื่อโดยไม่ได้ถวายบุญ

เทวดารักษาตัวของท่านอาจารย์

เพราะจะทำให้อาจไม่ได้ผล

หรือได้ผลไม่เต็มที่

รหัสนี้เป็นการเชื่อมต่อกับญาณ

ของท่านอาจารย์

เราใช้มาก

ก็เหมือนเบิกเงินมาใช้มาก

มีหนี้สินล้นพ้นตัว บุญไม่พอช่วย

จึงต้องฝากเงินหรือบุญ

ท่านอาจารย์และเทวดารักษาตัว

ของท่านอาจารย์

เพิ่มเงินในธนาคารเสมอ

หรือบอกต่อรหัสนี้กับผู้อื่น

 

และการที่เราใช้รหัสนี้ได้ผล

นั่นคือ เรามี ฤทธิ์

ท่านอาจารย์ได้มอบให้พวกเรา

ช่วยกันใช้ ช่วยกันขยายผล

เพื่อช่วยตนเอง ครอบครัว

และผู้อื่นในยามคับขัน

มีอำนาจจิตหรือมี กสิณ

เข้าออกกสิณได้ตลอดเวลา

โดยเฉพาะเวลาที่เกิดภัยพิบัติ

 ผมขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน

ของคุณธนาและทุกท่านครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 00:01:18


ความคิดเห็นที่ 889 (1598233)

 ขออนุโมทนากับพี่ธนา พี่แมว พี่ตาล น้องเบลล์ และคุณโฆษิตด้วยค่ะ

2.บุญใหญ่ ที่ใครๆก็อยากได้

ท่านอาจารย์เปิดปัญญาให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมากในเรื่องนี้ แบบจะจะ ให้หายโง่ไปเลย

หลายๆคนเวลามาบ้านสวนฯอยากจะทำแต่งานบุญใหญ่ เช่น อยากเทปูนวิหารชั้น๓ อยากทำบุญแรงกายสร้างพระ หรืออื่นๆ

ดังนั้นใครมาบ้านสวนฯ แล้วมัวแต่คิดว่าบุญนี้ใหญ่กว่า ฉันทำ บุญนี้น้อยกว่า ฉันไม่ทำ คิดผิดถนัด ที่เขียนธรรมทานมานี้ ไม่ได้ต้องการบอกให้ใครเลือกว่างานไหนได้บุญมากกว่า น้อยกว่านะครับ

งานทุกอย่างในบ้านสวนเป็นบุญหมด

ไม่ว่าจะงานเบาหรือหนัก

ไม่ว่าจะเป็นงานที่คนไม่ค่อยทำ งานที่คนมองข้าม

หรืองานไหนก็ตามก็ล้วนเป็นบุญทั้งสิ้น

แต่ยิ่งเราเลือกงานว่าจะทำงานโน่นนี่นั่นดีกว่า

เพราะได้บุญเยอะ นั่นคือ เราเลือกงาน

พอเราเลือกงานกำลังใจก็คงไม่เต็มร้อย

เพราะเรายังคงมีความรู้สึกว่า เราไม่อยากทำงานโน้น

งานนี้ หรือยังมีงานที่เราไม่อยากทำ แต่เราอยากทำอย่างนี้

พอกำลังใจไม่เต็ม บุญที่ได้ก็คงไม่เต็มร้อยเช่นกัน

เพราะฉนั้นงานทุกอย่างคือบุญหมด 

ขอเปรียบเทียบบ้านสวนเป็นต้นไม้ต้นนึง

และพวกเราก็เป็นคนดูแลต้นไม้ต้นนี้

หากเราแค่รดน้ำ

แต่ไม่พรวนดิน ให้ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่งให้สวยงาม

ต้นไม้ก็ไม่สามารถเจริญงอกงามได้อย่างเต็มที่ได้

เพราะฉนั้น หน้าที่ที่เราต้องดูแลต้นไม้

ไม่ได้มีแค่อย่างเดียว

แต่คือทุกสิ่งอย่าง

ที่จะทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามได้

******************************

บุญธรรมทาน

การเขียนเล่า ก็เช่นกัน

ใครจะเขียน ไม่เขียน ไม่สน

เราเขียนเราได้

ใครจะไปนรก เราจะไปกับเขาไหม

ใครทำ ใครได้

บุญธรรมทานเป็นบุญที่ใหญ่มาก

ที่สามารถทำให้ชีวิตผู้คนเปลี่ยนจากหน้ามือ

เป็นหลังมือได้ในพริบตาจริงๆค่ะ

(วัดได้จากประสบการณ์ตัวเองค่ะ)

ท่านอ.แม่จึงบอกให้เรามาเม้นกันบ่อยๆ

ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเอง

ขอแค่เราคิดที่จะเม้นแค่นั้นเองค่ะ

*******************************

และท่านก็เห็นตรงกับท่านอื่นๆว่าการที่พี่อ๊อดขอบคุณหมอศิริพรนั้นเพื่อต้องการประจบสอพลอเอาใจคุณหมอ อยากให้พี่อ๊อดพิจารณาสิ่งต่างๆที่แสดงออกมาทั้งหลาย เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงตนเอง สาธุกับธรรมทานที่ตรง และชัดเจนของท่านอาจารย์มงคลครับ 

เรื่องนี้ก็เคยได้ยินมาเช่นกันค่ะ

แล้วพอมาอ่าน ว่าพี่อ๊อดไปขอบคุณคุณหมอศิริพร

มันรู้สึกแปลกๆค่ะ เพราะญเชื่อว่าลูกบ้านสวนทุกคน

ยังรู้เลยค่ะว่าที่พี่อ๊อดหายเพราะใคร

บ้านสวน อ.แม่ คือผู้ให้ชีวิตใหม่กับพวกเรา

ทุกสิ่งทุกอย่างเราได้มาจากบ้านสวนทั้งนั้น

เพราะฉนั้นเราก็ไม่ควรลืมผู้ที่มีพระคุณกับเรา

ไม่ว่าตอนนั้นจะมีใครใหม่ๆเข้ามาก็ตาม

แต่เจ้าของบ้านคือคนที่เราควรนึกถึงที่สุดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 04:37:46


ความคิดเห็นที่ 890 (1598242)

กราบชอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่ได้ให้ธรรมทานแก่ลูกหลานในอาทิตย์นี้ครับ ขออนุโมทนากับพี่ธนา พี่แมว พี่ตาล น้องเบลล์ และพี่โฆษิต ด้วยครับ

ยอมรับว่าเป็นคนนึงที่ เลือกงาน ใจ"อยาก" จะทำแต่บุญที่ได้อานิสงส์มากๆ เช่น สร้างพระ วิหารทาน โดยบางที มองข้าม งานเกษตรไป เป็นบุญที่แอบเจือกิเลสมาคงไม่บริสทธิ์ ได้อ่านธรรมทานอาทิตย์นี้ก็ทำให้หาย"โง่" ขึ้นมาเลย ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ทำอะไรก็ได้เพราะทุกอย่างเป็นบุญหมด

บางทีเรื่องธรรมทาน ก็เคยมีความคิดเหมือนกันว่า มันซ้ำ อีกอย่างเราก็เขียนไม่ค่อยดี เท่าคนอื่น เปรียบเทียบเวลาอ่าน เพราะตัวเอง อาจจะจดจำรายละเอียดได้ไม่หมด เรียบเรียงไม่ดี ได้ธรรมทานอาิทิตย์นี้ ก็"เข้าใจ"มากขึ้น จะได้นำไปปรับปรุง"แก้ไข" ตัวเองต่อไป

เรียกได้ว่าธรรมทานอาทิตย์นี้ ทำให้ผมตาสว่างขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณ สำหรับทุกๆธรรมทานครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 08:52:12


ความคิดเห็นที่ 891 (1598249)

 

อย่าใช้รหัสศักดิ์สิทธิ์

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

พร่ำเพรื่อโดยไม่ได้ถวายบุญ

เทวดารักษาตัวของท่านอาจารย์

 

จากคุณโฆษิต

--------------------------------

 

ตรงนี้

ขอทำความเข้าใจหน่อยนะ

 

การใช้รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

 

ให้ใช้ได้เต็มที่ เต็มพิกัด

ใช้บ่อยมากแค่ไหน ยิ่งดี เพราะ

ต้องการช่วยบันเทาทุกข์

ให้คนที่ใช้ ได้เข้าสู่ยุคศิวิไลซ์

 

คือ

ชาวศิวิไลซ์

เขาจะได้ความเป็นทิพย์

 

เพียงแค่คิด

แค่ปรารถนาสิ่งใด

สิ่งนั้นก็เกิด

 

โดย

เริ่มต้นจาก

การอธิษฐานผ่าน

รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

 

แต่

ความหมาย

ที่บอกเมื่อคืนวันเสาร์

คือ

 

เรา

เอาแต่ใช้รหัส

แต่เรา

ไม่เคยถวายบุญให้เทวดา

ประจำตัว อ.อุบล

เพราะ

ท่านคือผู้ไปช่วยทุกคน

ที่ใช้รหัสนี้

 

ไม่ได้หมายความว่า

เราใช้รหัสพร่ำเพรื่อ

 

อันนี้

คุณโฆษิต เข้าใจผิด

 

เห็นไหม

การมาเขียนธรรมทาน

ทำให้ได้รู้ว่า

ความเข้าใจ ในการรับธรรมะ

ของแต่ละคน ไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน

 

ดังนั้น

จึงมีคน สำเร็จ

ในธรรม หรือ ในชีวิต

ไม่เท่ากัน

-------------------------------

และก็ขอ

อธิบายเพิ่มเติม

ตรงนี้เลยว่า  การใช้รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

 

เป็นการเชื่อมญาน

ระหว่าง

1.ผู้ใช้รหัส

2.อ.อุบล

3.สิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

ดังนั้น

ท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่า

ทำไมเบื้องบน จึงมีเงื่อนไขในการใช้

ว่า

1.ไม่เคารพนับถือ อ.อุบล

ด้วยความจริงใจ ใช้ไม่ได้ผล

 

2.ได้ผลแล้ว ไม่บอกต่อ

ใช้อีกไม่ได้ผล

 

คำตอบก็คือ

 

1.ในเมื่อคุณไม่เคารพ

ไม่นับถือ ไม่เชื่อฟัง แล้วคุณ

จะมาเอาประโยชน์จากเขาได้อย่างไร

(ชาวบ้านทั่วไปเรียก หน้าด้าน)

อันนี้ท่านต้องการ

ให้พวกเรา เห็นภาพสะท้อน

สังคมโลก ว่า คนในโลกนี้ มันไม่มี

ความจริงใจ

ให้ผู้อื่น แต่ มันต้องการ

ประโยชน์

จากเขา เรียกง่ายๆ ให้เข้าใจง่าย

เข้าไปอีกก็คือ

เห็นประโยชน์

แต่ไม่เห็นหัว

 

เบื้องบน

จึงเรียก อ.อุบล ว่า

หัวหลัก หัวตอ

 

เพราะ

เต็มไปด้วยคนที่เข้ามา

หาประโยชน์

แต่

ไม่จริงใจ เห็นแก่ตัว

เอาแต่ได้

 

ท่านจึงมีบัญชีดำ

คนพวกนี้ไว้

 

โดยท่านเอา

รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

เป็นกับดัก วัดใจคน

 

บางคน

ใจมันอยากโกรธ อยากว่า

อยากนินทา แต่มันอยากใช้รหัสได้

 

อันนี้

ท่านรู้ใจมนุษย์ขี้เหม็น

เห็นแก่ตัว จิตชั่ว แต่อยากได้

อยากมี อยากเป็น

 

แต่มีบางคน

ที่ไม่นับถือ แต่ใช้รหัสได้

 

อันนี้

เบื้องบน

มีแผน แน่นอน

เช่น

บางคน ไปสมัครงาน

ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ได้งาน

ทั้งที่ในใจจริง ไม่นับถือ

อันนี้จะบอกให้

 

ก็เบื้องบน ต้องการให้ได้

เพื่อมีแผน 2 ว่า เมื่อคุณเข้าไปได้

คุณต้อง มีอะไรรอ คุณอยู่

ในการเข้าไปทำงานนั้น

แน่นอน

 

ซึ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้

นอกจาก บทเรียน หรือ ใช้กรรม

 

หรือ

บางคน ที่ถูกห้ามเข้าบ้านสวน

แต่

ยังพยายามจะมา

และ

ยังต้องการใช้รหัส

 

แต่ไม่เปลี่ยนตัวเอง

 

พวกนี้

ไม่ได้นับถือ อ.อุบล

เพราะ เวลาขอบคุณ เขาไม่ได้

ขอบคุณ อ.อุบล

เขาขอบคุณแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

เขาไม่เห็นหัว อ.อุบล

พวกนี้ เขาต้องการให้

อ.อุบล กราบเท้าเค้า เพราะ

มันทำให้เขาดู ยิ่งใหญ่ เหนือ อ.อุบล

 

อันนี้

ก็อยู่ในแผน จัดการ

ของเบื้องบน เช่นกัน

 

ในเมื่อ

การใช้รหัส ต้องเชื่อมญาน

คนใช้รหัส

อ.อุบล และ เบื้องบน

 

ถ้าขาด องค์ประกอบใด

การใช้รหัสต้องมีปัญหา

แต่ถ้ายังใช้ได้อยู่ก็มี 2 เหตุผล

1.โกหก

2.เดี๋ยวต้องเจอ จัดหนัก

 

อ้าว โม้ไปไกลเลย

 

เริ่มด้วยเรื่อง

คุณโฆษิต เข้าใจผิด

เรื่อง

การใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ไม่ควรใช้ พร่ำเพรื่อ

 

แต่ต้องการอธิบายว่า

ให้ใช้ได้พร่ำเพรื่อ

แต่

3.ให้ทำความดี แล้วอุทิศบุญ

ถวายเทวดาประจำตัว อ.อุบล

จึงจะใช้ต่อไปได้

 

การเอาแต่ใช้

แต่ไม่ได้ถวายบุญให้

เทวดาประจำตัว อ.อุบล

 

เปรียบเสมือน

การถอนเงิน อย่างเดียว

แต่ไม่เคยฝากเงิน

เงินก็หมด

 

เงินหมด

ก็เปรียบเสมือน

บุญหมด จึงใช้รหัสไม่ได้

 

การเติมบุญ

ให้ทำทั้ง 2 วิธีควบคู่กัน

1.บอกต่อ ให้มาก ผู้บอก

จะมีฤทธิ์มาก คือ ใช้รหัสในเรื่อง

ที่สำคัญมากได้

2.ทำบุญให้มาก คือ ทำความดีให้มาก

ทุกครั้งที่ทำบุญ หรือ ทำความดี

ให้รีบอุทิศบุญให้เทวดา

ประจำตัว อ.อุบล

ซึ่งเปรีบเหมือน

เมื่อท่านหาเงินได้ ก็รีบเอาเงิน

เข้าธนาคาร อย่าใช้เงินจนเพลิน

เวลาจำเป็น จะได้ถอนเงินได้

 

แต่ที่ผ่านมา

เราถอนอย่างเดียว ไม่เคยฝาก

และเราก็กู้ยืมเงิน อ.อุบล กันเพลิน

แต่ไม่เคยใช้คืน ตอนเงินหมด

ก็เลย อด ใช้รหัสเลย

เรียกเท่าไหร่

ก็ไม่ได้ผล อิ อิ อิ

ความลับถูกเปิดเผยคืนวันเสาร์

 

คราวนี้

ก็คงสงสัยใช่ไหมว่า

 

อ้าว

แล้วทำไม

ให้บอกต่อ แล้วใช้ได้

ทั้งที่คนเหล่านั้น ไม่รู้จัก

อ.อุบล เลย

แถมยังไม่ได้ทำบุญ

กับ อ.อุบล กันเลย ไม่ได้อุทิศบุญ

ให้เทวดาประจำตัว อ.อุบล ด้วย

 

ใครรู้บ้าง

มาคุยกันหน่อย

ตื่นหรือยังจ๊ะ

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 09:27:10


ความคิดเห็นที่ 892 (1598266)

ห้ามใช้รหัสอาจารย์อุบลพร่ำเพรื่อโดยไม่ได้ถวายบุญ อะจ๊ากก!! หากเป็นอย่างนี้ เวลาเกิดภัยพิบัติใหญ่ คลื่นสูงเสียดฟ้ากำลังมา และมัวกังวลว่าถวายบุญหรือยังก็พากันไม่กล้าใช้ เพราะคิดว่าคงใช้ไม่ได้ อย่างนี้มีแต่ ตาย อย่างเดียว

ท่านให้ใช้ได้ทุกกรณี ตลอดเวลา ให้จิตเราเกาะกับรหัสจักรวาล ยิ่งเวลาภัยพิบัติมา จิตก็ใช้เป็นอัตโนมัติเลย และที่ท่านอาจารย์เฉลยความลับให้ฟัง ก็เพื่อให้เราได้รู้ที่มา ที่ไป และทำอย่างไรให้รหัสนี้ใช้ได้ตลอดไปและมีฤทธานุภาพยิ่งๆขึ้นไปสำหรับทุกๆคน

ผมขออนุญาติตอบคำถามที่ว่า คนที่ยังไม่รู้จักอาจารย์อุบล ยังไม่ได้อุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวอาจารย์อุบลเลย ทำไมใช้ได้

ผมคิดว่าคนที่ยอมใช้รหัสนี้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ แสดงว่าเขาย่อมมีบุญสัมพันธ์ หรือมีโอกาสที่จะได้พัฒนายกระดับจิตใจตนเอง และเบื้องบนย่อมมีแผนกุศลโลบายที่แยบยลอย่างแน่นอน

เมื่อเขาลองใช้แล้ว ผมว่าเขาก็ย่อมแปลกใจ อัศจรรย์ใจในผลที่เกิดขึ้น ก็ย่อมเกิดศรัทธา เกิดความมั่นใจขึ้นมา 

ธรรมดาของคนครับ ก็อยากรู้ขึ้นมาทันทีว่า หลวงพ่ออุบลนี่คือใครน๊า เอ หรือว่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน ก็ต้องเริ่มค้นหา อยากรู้ อยากเห็น อยากไปกราบ อยากไปทำบุญ อยากไปขอบคุณ สารพัดที่คิด

ก็ต้องเริ่มสอบถามคนที่บอกมา หรือค้นหา จนได้คำตอบ จากนั้นก็เริ่มเข้ามาศึกษา เข้ามาสัมผัสด้วยตนเอง แรกๆอาจอยากได้นั่น ได้นี่ อยากรวย อยากหายเจ็บป่วย แต่พอเข้ามาได้ซึมซับธรรมะ จิตใจและความต้องการก็เริ่มเปลี่ยน ไม่เคยรู้ว่านิพพานมีจริงไหม ไปได้ด้วยเหรอ ก็เปลี่ยนเป้าหมายอยากไปนิพพานดีกว่า อยากทำดี อยากมีความสุข พ้นทุกข์อย่างยั่งยืน 

ผมคิดว่าญาติธรรมหลายๆท่านที่มาบ้านสวนฯทุกวันนี้ก็มาด้วยเหตุผลนี้เช่นเดียวกัน คือ ลองใช้แล้วได้ผล ก็สนใจ อยากรู้ ตามหาจนได้เจอ และได้เข้ามา พอได้เข้ามาเห็นติดหนึบกันเลย ฮ่าๆๆ

และที่สำคัญผมคิดว่านี่คืออีกแผนหนึ่งของเบื้องบนที่กำลังคัดแยกคนดี และ คนไม่ดี ออกจากกัน เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ยุคใหม่ "ยุคศิวิไลซ์" ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว 

ผมก็ขอตอบร่ายยาวตามประสาคนยังโง่อยู่เน้อก๊าบบ รออ่านมุมมองคนอื่นๆอยู่เด้อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 11:41:15


ความคิดเห็นที่ 893 (1598346)

ขออนโมทนาบุญกับ คุณโฆษิต คุณแมว และคุณธนาที่เหลาธรรมทานได้อย่างเก็บรายละเอียดไดเกือบทุกช๊อต

เจี๊ยบไม่ได้เอาสมุดไปจด ขอเหลาเท่าที่จำได้ค่ะ

1.การเปลี่ยนวิธการนั่งสมาธิแบบเดิม ที่นั่งมือขวาทับมือซัาย แล้วกำหนดลมหายใจ ภาวนา หรือใช่กสินแสงสว่าง ซึ่งส่วนใหญ่ลูกศิษย์ซึ่งเหนื่อยจากการใช้แรงกายมาทั้งว้น จะหลับสัปงก คำนับอาจารย์กันทุกครั้ง หรือไม่ก็ฟุ้งซ่าน จิตไม่นิ่ง แต่เสาร์นี้ ท่านเปลี่ยนเป็นการฟังธรรมมะ อย่างตั้งใจ ฟังอย่างใช้ปัญญา ให้รู้จักคิดวิเคราะห์เป็น ซึ่งเป็นการทำสมาธิอีกแบหนึ่ง ซึ่งถูกจริตกับลูกศิษย์มาก เพราไม่มีใครง่วงเลย ท่านบอกว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามให้มีสมาธิกับงานที่ทำ ให้รู้จักคิดวิเคราะห์ไปเรื่อยๆกับงานที่ทำ จะทำให้เกิดปํญญา อย่าสักแต่ว่าทำไปแต่ใจไม่อยู่กับงาน

2.การทำจิตให้ว่าง โดยการนับเลข 1  2  3 แล้วพักนิดหนึ่ง แล้วนับ 1  2  3 ใหม่ ช่วงที่เรานับนั้นจิตเราจะว่างไม่คิดอะไร ตรงนี้เราจะได้บุญมาก ให้ทำบ่อยๆ ไม่ว่าทำอะไรอยู่ก็ให้นับเลขไปเรื่อยๆ แต่แค่ 1  2  3 ก็พอ มากกว่านั้นจิตจะฟุ้ง คิดไปได้เรื่อยอีก เมื่จิดเรากล้าแข็งแล้ว เราก็สาทารถทำจิตให้ว่าง โดยไม่ต้องนับเลขอีก และตัวรู้ก็จะมาเอง ไม่ต้องมีความอยาก แล้วจะได้เอง

3.การใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ใช้บ่อยๆแล้วไม่ได้ผล เพราะเราไม่ได้อุทิศบุญให้แ่เทวดาประจำกายอุบล เหมือนเราไม่ได้ฝากเงินกับธนาคาร แล้วท่านจะเอาเงินที่ไหนมาให้เราถอนใช้ เราต้องหมั่นทำบุญ ทำทุกวัน ทำทันที และทำมากขึ้น เหมือนอาจารย์ แล้วพลังบุญจะมาก เแม่เวลาอุทิศบุญให้เทวดาประจำกายอาจารย์ ก็จะได้มีพลังบุญมากขึ้น เปรียบเสืมือนผากเงินครั้งลุป็นแสน เป็นล้าน เวลาถอนก็จะได้เงินมาก

4.เรื่องผู้จะอยู่ในยุคพระศรีอารย์ ท่านจะอนุโลมสำหรับผู้ที่ศีล 3- 4 ข้อ โดยขาดเฉพาะศีลข้อ4 โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล เฉพาะการโกหกนั้นไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

และผู้ที่นั้งสมาธิไม่ได้ ก็อนุโลมให้นอนทำสมาธิจนหลับไปเลย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ฝึกนั่งสมาธิ เพราะจะต้องฝ฿กนั่งสมาธิเช่นกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 21:24:46


ความคิดเห็นที่ 894 (1598353)

พ่อใหญ่ธนา

เข้าใจถูกต้องแล้ว

ในเรื่อง การเผยแพร่รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

แล้วคนที่ไม่เคยรู้จัก ก็ใช้ได้ผล

เป็นแผนของเบื้องบน

ให้เห็นผลก่อน แล้วค่อยศรัทธา

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 22:01:37


ความคิดเห็นที่ 895 (1598354)

จากการฟังธรรมคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ มีเรื่องราวทำให้ตนเองกังวลถึงความเป็นอยู่ของครูบาอาจารย์ที่เราทุกคนเคารพว่าท่านจะไม่มีคนช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้าน ต้วท่านเองรับภาระ ช่วยเหลือส่งบุญให้ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก หลาน เหลน ให้พ้นทุกข์ แต่ภาระงานในบ้านต่างๆ ให้ท่านได้พักผ่อนบ้าง ก็มี คุณโอ๋ และน้องหญิง ได้รับบุญไปเต็มๆ แต่งานนี้ก็เป็นงานจิตอาสา เขาจะเลิกไม่ทำเมื่อใดก็ไม่แน่นอน

ลูกขออนุญาตแนะนำให่ท่านหาแม่บ้านมาช่วยแบ่งเบาภาระในบ้าน เพื่อที่ท่านจะได้มีโอกาสพักผ่อน รับแขกแต่ละค่าย ท่านอาจารย์แทบจะไม่ได้นอน ชีวิตลูกเองต้องทำงานรับใช้ราชการ รับใช้เจ้านาย จนถึงลูกศิษย์ บังเกิดเกล้าเหมือนกัน ส่วนบิดา มารดา บังเกิดเกล้าของต้วเอง คุณแม่และตัวลูกเองก็จัดการ จ้างแม่บ้านทำเกือบทั้งหมด ส่วนคุณพ่อ ก็มี spec ดูแลทุกฝีก้าว เพราะ อาบน้ำ กินข้าว ท่านเป็น อัมพาต ช่วยตัวเองยาก แต่มาเข้าบ้านสวนก็ทำตามคำสอนของท่านอาจารย์ ทำให้มั่นใจว่าคุณพ่อจะอยู่กับ ลูกหลานนานขึ้น 

ขอกราบๆๆๆๆ ในความเมตตาบอกทางสว่างให้ลูก

ลูกเองมีประสบการณ์หาแม่บ้านจากศูนย์ แต่ละคนเขามีความดี แตกต่างกัน เป็นมืออาชีพ คนที่ไม่ดี มาอยู่ที่บ้านเขามักจะร้อนรนลาออกกันไปเอง ปีที่แล้วเปลี่ยนทุก 2 เดือน มีคนล่าสุด ขอ"ท่านอาจารย์อุบล ช่วยให้ได้คนดี" อยู่มา 4 เดือนแล้ว ทำให้ไปทำงานบ้านสวนโดยไม่กังวลใดๆ

ถ้่าท่านอาจารย์จะให้ลูกบริการหาคนจากศูนย์ ยินดีอย่างยิ่ง

ด้วยความห่วงใยท่านอาจารย์ และครอบคร้วที่เคารพอย่างสูง

จุ๋ม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ (tmtkl-at-mahidol-dot-ac-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 22:12:57


ความคิดเห็นที่ 896 (1598366)

ขอขอบคุณ

 ดร.จุ๋ม

เป็นอย่างยิ่ง

ในน้ำใจไมตรีค่ะ

 

คิดอยู่ค่ะ

ว่าจะต้องหา แน่นอน

สัก 1-3 คนค่ะ

 

เพราะ

ตอนอยู่กรุงเทพ

มีคนช่วย เกือบทุกหน้าที่

 

ซักรีด ก็มีคนทำ อย่างดี

แม่บ้านที่ บ.ก็มีหลายคน

ซึ่งทำงานดี

และอยู่กันยาวนาน

แต่

เขาตามเรามาไม่ได้

 

อย่างพี่เลี้ยงคุณท้อปนี่

เขาอยู่ตั้งแต่คุณท้อปยังไม่คลอด

จนคุณท้อป อยู่มัธยมต้น

เขาแต่งงาน มีลูก จึงออกไป

 

อยู่กันมา 14 ปี

จนรู้ใจกัน ไว้ใจได้

 

ก็มีบางคน

ที่อยู่ได้ไม่นาน

อย่างที่ ดร.จุ๋มเจอก็มี

คนไม่ดี จะร้อนรน อยู่ไม่ได้

 

ขอบคุณอีกครั้ง

สำหรับความห่วงใจ ความตั้งใจดี

ความปรารถนาดี ที่มีให้

ขอรับน้ำใจไมตรีค่ะ

 

ไม่ทราบว่า

คนจากศูนย์นี่เขาฝึกมา

เพื่อการใดบ้างคะ

 

ดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ

หรือว่า

มีคนทำงานบ้านด้วยคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 22:55:24


ความคิดเห็นที่ 897 (1598369)

 

  กราบอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

อ่านที่อาจารย์เขียน  ไม่รู้สึกเบื่อกับธรรมะ  ที่อาจารย์ได้สอนเลยค่ะ  รู้สึกว่าเราค่อย ๆ ซึมซับไปเรื่อย ๆ ไม่หนัก  เป็นธรรมะที่สนุกไม่น่าเบื่อเลยค่ะ  สาธุ  สาธุ

 

คราวนี้

ก็คงสงสัยใช่ไหมว่า

 

อ้าว

แล้วทำไม

ให้บอกต่อ แล้วใช้ได้

ทั้งที่คนเหล่านั้น ไม่รู้จัก

อ.อุบล เลย

แถมยังไม่ได้ทำบุญ

กับ อ.อุบล กันเลย ไม่ได้อุทิศบุญ

ให้เทวดาประจำตัว อ.อุบล ด้วย

 

ใครรู้บ้าง

มาคุยกันหน่อย

ตื่นหรือยังจ๊ะ

555

******

   จากเรื่องการบอกรหัสสวรรค์  ท่านอาจารย์ย้ำตลอดว่า  เรามีหน้าที่บอก  แต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ  เป็นเรื่องของเขา  หากเขามีบุญสัมพันธ์  ก็จะมีสิ่งทำให้เขาเชื่อ  อยากลองใช้เอง  และถ้าเขาใช้ได้ผล ความศรัทธาก็จะเกิดเอง

     จากประสบการณ์ของตัวเอง  ที่ได้บอกรหัสนี้ไป  ถ้าที่ทำงาน เจ้าหน้าที่ส่วนมาก  ไม่ค่อยสนใจ  มีส่วนน้อยที่ลองใช้  และได้ผล  แต่ไม่กล้าบอกต่อ เหตุผลคือ ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน  หรือบอกแล้วไม่มีใครเขาสนใจ  ก็เลยไม่บอกต่อ  ส่วนผู้ป่วยจะใช้มากกว่า  และก็มีทั้งได้ผลและไม่ได้ผล  บางคนที่ได้ผลแล้วก็อยากจะไปหา "หลวงพ่ออุบล" แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องกฏกติกาบ้านสวน  ผู้ป่วยบางคนก็เคยมาบ้านสวนแล้ว  แต่ไม่เชื่อ หาว่าท่านอาจารย์พูดหลอกให้คนทำบุญ  ก็ถามเขาว่า คำพูดตรงไหนที่คุณคิดว่าอาจารย์หลอกให้คนทำบุญ  เขาบอกว่าไม่รู้ เห็นมีตำรวจ  ทหาร  ยศใหญ่ ๆ ไปกันทั้งนั้น  และเขาก็ทำบุญกันเยอะ ๆ  เป็นหมื่น  เป็นแสน เลยบอกเขาว่า  หนูไปบ้านสวนก็หลายครั้ง  ไม่เคยได้ยินว่าท่านอาจารย์อยากให้คนทำบุญด้วยเงินเยอะ ๆ  มีแต่ให้ทำบุญด้วยแรงกาย  ก็มีผู้ป่วยรายอื่น ๆ สนใจ ถามว่าท่านอาจารย์เป็นใคร  อยู่ที่ไหน  เขาบอกว่าอยู่เขาน้อย  ผัวเป็นด๊อกเตอร์ (ขออนุญาตเขียนตามที่เขาพูดนะคะ)  เราก็ตกใจ  รีบถามว่าสามีท่านอาจารย์เป็นใคร  เขาบอกว่าก็ด๊อกเตอร์ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์  ที่เขาขึ้นป้ายไว้นั่นไง  เลยถามว่าใครบอกคุณลุง เขาบอกว่าน้องสาวบอก เพราะตัวเขามาบ้านสวนเป็นเพื่อนน้องสาว  น้องสาวเขาปวดตรงไหนจำไม่ได้  น้องเขามาแล้วหาย  แต่คุณลุงก็บอกว่าไม่แน่ใจว่าหายเพราะยา  หรือหายเพราะมาบ้านสวน เพราะน้องสาวเขารักษาทุกวิธี คุณลุงเขาบอกว่า  เขามีดีกว่านี้อีก  เลยถามว่าคุณลุงมีอะไรดีมาแลกเปลี่ยนกันได้ เดี๋ยวจะหาว่าผูกขาด  เขาเลยบอกว่าเขาได้ยาสมุนไพรดีมา  กำลังกินอยู่   ก็จบลงตรงนี้  เพราะผู้ป่วยเริ่มมารอคิวเยอะแล้ว

     จากสิ่งที่ได้พบเห็นมา ก็คิดว่าคนที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านอาจารย์และบ้านสวน  เมื่อเขาได้รับการแนะนำรหัส " อ. อุบลช่วยด้วย" แล้ว เขาก็จะอยากใช้เอง  และเมื่อใช้ได้ผลแล้วก็เกิดความศรัทธา  เชื่อมั่น  แม้จะไม่เคยรู้จักว่า อ. อุบล เป็นใคร  อยู่ที่ไหน

     เขียนมาเยอะแยะ  ไม่แน่ใจว่าจะตรงประเด็นบ้างหรือเปล่า  หรือมัวแต่วิ่งอ้อมอยู่  ไม่ไปทางตรงสักที

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-20 23:08:17


ความคิดเห็นที่ 898 (1598418)

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล

ศุนย์ที่ติดต่ออยู่มีทั้งคนทำงานบ้านและดูแลผู้สูงอายุ ค่ะ

นอกจากหาจากศูนย์แล้ว คนเฝ้าไข้ของคุณพ่อของลูกเอง ก็หาคนมาทำงานได้ โดยเขาจะขอค่านายหน้าหนเดียว ประมาณ 2000 บาท และ คนทำงานก็ไม่ต้องถูกหักให้ ศูนย์ทุกเดือน เงินมัดจำให้ศูนย์ก็ไม่ต้องจ่าย

ลูกจะเริ่มหาคนจากแหล่งนี้ก่อน และขอใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย ให้ท่านได้คนดีมาทำงานบ้านให้ท่านโดยเร็ว

ลูกจะขอเป็นธุระประสานงานเอง รับส่งจนเขาไปอยู่บ้านสวน แต่จะเล่า background ต่างๆให้ท่านอาจารย์พอใจก่อนที่จะตัดสินใจอะไรไป

จุ๋ม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ (tmtkl-at-mahidol-dot-ac-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 08:53:29


ความคิดเห็นที่ 899 (1598569)

 

ธรรมทานในวันฝึกมโนมยิทธิ ในวันเสาร์ที่ 18 กพ 55                             
1         ว่าด้วยเรื่องการอุทิศบุญให้เทวดาผู้รักษาอาจารย์อุบล
วันนี้ท่านอาจารย์ได้เมตตาว่า การจะใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยให้ได้ผล นั้น ผู้ที่จะไปช่วยพวกเรา มิใช่ท่านอาจารย์ แต่เป็นเทวดาผู้รักษาอาจารย์ ซึ่งเทวดาเหล่านั้น รวมไปถึง พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ท่านท้าวเวสสุวรรณ และ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพิรามิด เช่น องค์เทพสฟิงค์ ท่านดตาจินิน และท่านมนุษย์ต่างดาว เป็นต้น ดังนั้นการอุทิศบุญให้เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบล จึงสามารถแผ่ไปได้กว้างไกล มหาศาล น่าทึ่งจริง ๆ และขอบคุณในความเมตตาที่ท่านสอนพวกเรา ถึงเคล็ดลับในการที่จะเติมบุญให้เทวดาเหล่านั้น เพื่อให้การใช้รหัสสัมฤทธิ์ผล
2         ว่าด้วยเรื่องการทำสมาธิ
ก่อนที่ท่านอาจารย์บรรยายธรรม จิ๋มได้เรียนถามว่าทำไมเวลาอยู่ที่ทำงานจึงมีความคิดวนเวียนมาก และไม่สงบ ทำให้เกิดความเครียด ท่านเมตตาสอนให้ทำจิตให้นิ่ง ๆ ให้มากที่สุดระหว่างทำงาน จะลดความเครียดลง และกรณีถ้าหยุดคิดไม่ได้ ก็ให้หาคำบริกรรมมาช่วย เช่น นับ 1 2 3  
เมื่อวันจันทร์ที่เริ่มทำงานนั่งหน้า คอมพิวเตอร์ ก็ลองทำดู ให้บ่อย ๆ ที่สุด พบว่าวันนั้นความตึงเครียดลดลง และใจสบายขึ้น ขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ จะลองไปฝึกดูบ่อย ๆ   สังเกตว่าเวลาทำงาน เราจะเอาจิตไปผูกกับคนที่ทำงาน ว่า คนนี้จะคิดอย่างนู้น อย่างนี้ ปรุงแต่งไปเรื่อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ออกมาในทางอกุศล ถ้าเรานำการทำใจว่าง ๆ อย่างที่ท่านอาจารย์แนะนำ จิตอกุศลก็จะค่อย ลดลง ได้
 
กราบขอบพระคุณในธรรมทานของท่านอาจารย์อุบล
ชัชวลี กะลัมพะเหติ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ (chatvalee-dot-k-at-pttplc-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 20:44:50


ความคิดเห็นที่ 900 (1598573)

อนุโมทนากับ

ดร.จิ๋ม ค่ะ ที่ใช้ได้ผล

ถ้าเราทำบ่อย ๆ จิตเราจะ

ไม่มีเวลา ให้อกุศลเข้ามากล้ำกราย

 

อันนี้

เอามาจากคำสอน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำนะ

 

ท่านบอก

ถ้าเราหมั่น

ทำให้จิตทรงความดี

ตลอดเวลาได้

 

ความไม่ได้ มันจะไม่มีที่ว่าง

ที่จะเข้ามาแทรกได้

 

แต่ถ้า

เราปล่อยให้

อกุศล หรือ เรื่องไม่ดี

เข้ามาในจิตเราได้

 

เรื่องดีๆ หรือ

จิตฝ่ายกุศล ก็ไม่มีที่ว่าง

ที่จะแทรกเข้าไปได้เหมือนกัน

 

ดังนั้น

การทำจิตให้ว่าง

ก็คือ การยึดพื้นที่ ยึดเวลา

ของกุศล คืนมา จาก อกุศล นั่นเอง

 

อันนี้

พระพุทธเจ้า

ท่านจึงให้เรายึดเกาะ

อยู่กับความดี ให้คิดดี ตลอดเวลา

 

หรือไม่

ก็คิดถึงพระพุทธเจ้า

ตลอดเวลา

 

เท่ากับว่า

จิตเราไม่ว่างเว้น

จากฌาน

 

และ

ถ้าจิต เป็น ฌาน

บ่อยๆ เราจะมี อำนาจิต

ทำให้ทุกสิ่งเกิดได้

ตามใจปรารถนา

 

รับการสื่อสาร

จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-21 21:24:17



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.