สันติสุข-3: พระศรีอารย์ ว่าด้วยหลักฐานตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าโคตม
วัตถุประสงค์
เพื่อให้เข้าใจว่า เรื่องพระจักรพรรดินี้ มีที่มาที่ไป และขอให้คนไทยช่วยกันเผยแพร่เรื่องพระจักรพรรดินี้ และรวมพลัง ร่วมมือร่วมใจผลักดันให้มีการหาข้อเท็จจริงในเรื่องพระจักรพรรดิขึ้น เพื่อพระจักรพรรดิจะได้มาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติของชาติในขณะนี้ ด้วยสันติวิธี
เรื่อง พระจักรพรรดิ จากหลักฐานในพระพุทธศาสนา จะไม่เอาข้อมูลมาจากศาสนาอื่นหรือตำนานอื่นๆ หรือคำทำนายโลกมาประกอบ ยกเว้นสรุปตอนท้ายเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้พวกเราได้เห็นว่า ทุกๆศาสนาและคำทำนายของผู้มีญาณทิพย์ได้บ่งเรื่องพระจักรพรรดิไว้เช่นเดียว กัน
ขอเริ่มด้วย ในบางครั้งมีผู้กล่าวว่า พระพุทธศาสนาเสื่อม การกล่าวเช่นนี้ ไม่สมควร เพราะพระพุทธศาสนาประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าและพระธรรม ไม่เสื่อมแน่ สำหรับพระอริยสงฆ์ และพระสงฆ์ที่ดีก็ยังมีอยู่อีกมาก พุทธศาสนิกชนต้องแยกแยะให้ถูกต้อง
(หมายเหตุเรื่องการใช้ Ref. World Scriptures เพราะเป็นเหตุผลจากที่คณาจารย์นานาชาติ ได้วิเคราะห์และนำข้อมูลร่วมจากเถรวาท (ประเทศศรีลังกา และอินเดีย) จากมหายาน (จีน และญี่ปุ่น) และวัชรยาน (ทิเบต) ทำให้ข้อมูลที่นำมาลงนี้ มีศรัทธา มีความถูกต้องยิ่งขึ้น)
พระพุทธเจ้าโค ตตมทรงตรัสเรื่องความเสื่อมของสงฆ์นี้ไว้ล่วงหน้า ก่อนเสด็จปรินิพพาน สรุปตาม
อนาคตวงศ์ (Ref. World Scriptures) ด้วยเหตุ 5 ประการดังนี้
1. การเสื่อมของความสำเร็จมรรคผล
2. การเสื่อมของการปฏิบัติและการเจริญภวนา
3. การเสื่อมของการศึกษาพระธรรมและการเข้าถึงพระธรรม
4. การเสื่อมของพระสงฆ์และบูรพาอาจารย์
5. การเสื่อมของวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา
ที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของพระจักรพรรดิ และเพื่อให้เข้าใจว่า การฟังพระสงฆ์หรือบุคคลใดก็ตาม ต้องคิดพิจารณาถึงเหตุผลด้วยว่า เป็นไปตามกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าอย่างไรหรือไม่ มีเหตุมีผลไหม มีข้อเท็จจริงหรือไม่ มีหลักฐานประกอบประการใด และเมื่อนำไปปฏิบัติแล้วเป็นกุศลธรรม เป็นบุญหรือไม่
ที่นำเรื่อง พระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) มากล่าว ก็เพราะประเทศชาติในเวลานี้อยู่ในขั้นวิกฤติ คงแก้ไขได้ยาก เพราะความเชื่อที่ตรงข้ามกัน และยังฝังอยู่ในจิตใจของแต่ละฝ่าย หาที่ยุติไม่ได้ ฉะนั้นคงต้องช่วยกันหาความจริงในเรื่องพระจักรพรรดิ ถ้าเป็นจริงพระจักรพรรดิจะได้ช่วยนำความสันติสุขกลับคืนมาสู่ประเทศไทยได้
โปรด พิจารณาเรื่องที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ต่อไปนี้ ด้วยความตั้งใจ และไม่ประมาท ท่านจะเห็นเองว่าเรื่องพระจักรพรรดินั้นเป็นเรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นในเวลา นี้จริง
จากอนาคตวงศ์ (Ref. World Scriptures)
พระอานนท์เล่าว่า ในกาลครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคตม ทรงพักอยู่ ณ ภายใต้ร่มไทร (Banyan) พร้อมด้วยหมู่สงฆ์ ที่ริมฝั่งแม่น้ำโรฮินี (Rohini) ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบคำถามของของพระเถระสารีบุตรที่ทูลถามในเรื่องพระ จักรพรรดิว่า จะมาปรากฏในภายภาคหน้า (the future Conqueror) นั้นเป็นท่านใด พระผู้มีพระภาคทรงตรัสตอบว่า ขอท่านโปรดตั้งใจฟัง ก่อนหน้าตถาคตนั้นมีพระพุทธเจ้ามาแล้ว 3 พระองค์ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมพุทธเจ้า และพระกัสสปพุทธเจ้า ขณะนี้ตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์ คือ พระศากยมุนีโคตมพุทธเจ้า ต่อไปจะเป็นพระอริยเมตตรัย (พระศรีอารย์) หรือ เมตฺเตย Metteya (อ่านบาลี) เมตฺเตยฺย Metteyya (เขียนบาลี) ไมเตฺรยะ Maitreya (ภาษาสันสกฤต) ซึ่งหมายถึงกัลยาณมิตร (เพื่อนแท้) ซึ่งพระเมตฺเตยจะมาปรากฏ ก่อนที่ ศุภมงคลสมัย (ภัทรกัป) ของตถาคตจะจบสิ้นลง คำตรัสของผู้มีพระภาคบ่ง ชัดเจนว่า พระจักรพรรดิจักปรากฏขณะที่พระพุทธศาสนายังคงดำเนินอยู่
ซึ่ง เรื่องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิก่อนปี พ.ศ. 5000 มีหลักฐานอื่นๆสนับสนุนดังนี้
1. หลักฐานในพุทธทำนายตามอักษรบนศิลาจารึก ในเขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย บ่งว่าพระจักรพรรดิจะมาปรากฏในกึ่งพุทธกาล คือครึ่งหนึ่งของ 5000 ปี หรือ ประมาณ พ.ศ. 2500 หลังจากปรินิพพานของพระศากยมุนีโคตมพุทธเจ้า (ข้อสังเกต: พ.ศ. ของเถรวาทนั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าเร็วไปประมาณ 50 ปี)
จากเอกสารแจกฟรีของ สุริยัน โรหิตเสถียร พ.ศ. 2538 และของ รศ.ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ ภาควิชาเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2540 สรุปได้ว่า คณะธรรมทูตไทยผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและต้นศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศ อินเดียได้คัดลอกพุทธทำนายมาจากศิลาในสวนมฤคทายวันเมื่อ พ.ศ. 2484
ซึ่งบ่งถึงพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จปรินิพพานทรงเป็นห่วงผู้คนในกึ่งพุทธกาล จึงตรัสกับพระอานนท์ ดูกรอานนท์ ยักษ์หิน (คนเลวคนชั่ว) ถูกสาปกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงได้ 2485 ปี หรือประมาณ พ.ศ. 2533 ในปัจจุบัน (พ.ศ.ไทยเร็วกว่าความเป็นจริงประมาณ 48 ปี) ไฟจะลุกลามไหม้วัดวาอาราม (ศาสนาอื่นเข้ามาเผยแพร่แทน พระสงฆ์ไม่อยู่ในวินัย) คนบ้านจะเข้าป่า (คนเมืองจะรุกป่า จับจองหาประโยชน์) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง (
blockquote{
border:1px solid #d3d3d3;
padding: 5px;
}