|
น้ำพระทัยของในหลวง | ||
ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อเชิญชวนทุกท่าน ได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชินีและพระราชวงศ์ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย
เพื่อเผยแพร่เรื่องนี้ไปสู่ชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่อาจไม่เคยทราบถึงพระเมตตา คุณความดี ของพระองค์ท่านมาก่อน
ท่านใดที่มีข้อมูลพระเมตตาอันมากล้น ของล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์ และพระราชวงศ์ ก็ร่วมด้วยช่วยกันนำมาลง เป็นธรรมทานอันยิ่งใหญ่ เป็นบุญโดยเสด็จพระราชกุศล ร่วมกันนะครับ ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้า
เพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทำนอง : พระเจนดุริยางวงค์ (ปิติ วาทยะกร) พระสยามินทร์พระยศยิ่งยง เย็นศิระเพราะพระบริบาล ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ | ||
ผู้ตั้งกระทู้ โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) :: วันที่ลงประกาศ 2011-10-22 18:27:29 |
<< ก่อนหน้า 1 [2] |
ความคิดเห็นที่ 101 (1618040) | |
การพัฒนาทางด้านการเกษตร "...เศรษฐกิจของเราขึ้นอยู่กับการเกษตร
มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รายได้ของประเทศที่ได้มา
ใช้สร้างความเจริญด้านต่างๆ
เป็นรายได้จากการเกษตร
เป็นส่วนใหญ่ จึงอาจกล่าวได้ว่า
ความเจริญของประเทศต้องอาศัย
ความเจริญของการเกษตรเป็นสำคัญ
และงานทุกๆ ฝ่ายจะดำเนินก้าวหน้าไปได้
ก็เพราะการเกษตรของเราเจริญ..."
พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร และอนุปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
๙ กรกฎาคม ๒๕๐๗ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) วันที่ตอบ 2012-06-27 23:03:56 |
ความคิดเห็นที่ 102 (1619838) | |
ในหลวงทรงพระประชวร คณะแพทย์ถวายโอสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 52 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ (12 ก.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการกระตุกที่พระหัตถ์ข้างขวา พระหทัยเต้นเร็วกว่าปรกติเล็กน้อย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายตรวจพระสมองด้วยเครื่อง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า บริเวณใต้เยื่อหุ้มพระสมองชั้นนอกด้านซ้าย มีพระโลหิตซึมเล็กน้อย จึงได้ถวายพระโอสถทางหลอดพระโลหิต หลังจากนั้นพระอาการกระตุกของพระหัตถ์ ข้างขวาหายไป เช้าวันนี้(13 ก.ค.) คณะแพทย์ฯ ได้รายงานว่าพระหัตถ์ข้างขวา เคลื่อนไหวได้เป็นปรกติ ไม่มีพระอาการกระตุก การเต้นของพระหทัย และความดันพระโลหิต เป็นปรกติ คณะแพทย์ได้ขอพระราชทาน ให้ทรงงดพระราชกิจสักระยะเวลาหนึ่ง ************** แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ในหลวงทรงงดพระราชกิจ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กรกฎาคม 2555 14:11 น. แถลงพระอาการประชวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระหทัยเต้นเร็ว พระโลหิตซึม ใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอกเล็กน้อย คณะแพทย์ฯขอพระราชทาน ให้ทรงงดพระราชกิจ ขณะรมว.เกษตรฯ เผย สำนักพระราชวัง ประสานให้เลื่อน การรับเสด็จฯ ติดตามงาน เขาชะงุ้ม ราชบุรี ก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการกระตุกที่พระหัตถ์ข้างขวา พระหทัยเต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายตรวจพระสมองด้วยเครื่อง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า บริเวณใต้เยื่อหุ้มพระสมองชั้นนอกด้านซ้าย มีพระโลหิตซึมเล็กน้อย จึงได้ถวายพระโอสถทางหลอดพระโลหิต หลังจากนั้น พระอาการกระตุกของพระหัตถ์ ข้างขวาหายไป พระหัตถ์ข้างขวาเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ ไม่มีพระอาการกระตุก การเต้นของพระหทัยและความดันพระโลหิตเป็นปกติ ให้ทรงงดพระราชกิจสักระยะเวลาหนึ่ง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) วันที่ตอบ 2012-07-14 21:57:22 |
ความคิดเห็นที่ 103 (1619839) | |
กราบขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ที่ข้าพเจ้าทำมาทุกภพทุกชาติ จนถึงชาติปัจจุบัน และบุญทุกบุญ ที่ทำที่บ้านสวนพีระมิด ขอให้บุญมารวมตัวกัน ข้าพพระพุทธเจ้า ขอน้อมถวายบุญนี้แด่ เทวดาประจำตัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชด้วยเทอญ โมทนาบุญนี้แล้ว ขอให้ท่านมีฤทธิ์ มีกำลัง และขอจงช่วยดูแลรักษา ให้พระองค์ ทรงหายจากพระอาการประชวร โดยเร็วด้วยเทอญเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) วันที่ตอบ 2012-07-14 22:03:39 |
ความคิดเห็นที่ 104 (1619843) | |
มาร่วมอธิษฐานอีกแรง ค่ะ
ลูกขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ ได้โปรดบันดาลบุญ ที่ลูกสั่งสมทุกภพทุกชาติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ขอให้บุญรวมตัวกันทั้งทาน ศีล ภาวนา รวมกับทุกๆบุญที่ลูกทำที่บ้านสวนฯ ทั้งปัจจัย แรงกาย และธรรมทาน
ลูกขอถวายบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้ แด่ เทพ พรหม เทวดา ที่รักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขอให้ท่านอนุโมทนารับบุญ และส่งผลให้องค์พ่อหลวง มีพระวรกายแข็งแรง หายจากอาการประชวร โดยฉับพลันทันทีด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
อนุโมทนากับเจ๊ตาลด้วยนะคะ ที่นำข่าวมาแจ้งในนี้ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2012-07-15 01:10:09 |
ความคิดเห็นที่ 105 (1619903) | |
มาร่วมอธิษฐานด้วยค่ะ ขอบารมรพระพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ศีล ทาน ภาวนา ของข้าพเจ้าที่ทำมาแล้วทุกภพ ทุกชาติ จวบจนชาติปัจจุบัน และทุกๆบุญที่ทำในบ้านสวนพีระมิด ข้าพเจ้าขอถวายบุญนี้แก่เทวดาประจำตัวในหลวง ขอให้พระองค์ทรงายจากอาการประชวรโดยเร็วด้วยเถิดค่ะ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี วันที่ตอบ 2012-07-16 07:12:07 |
ความคิดเห็นที่ 106 (1620304) | |
“ในหลวง” พระอาการดีขึ้น เสวยพระกระยาหารได้ บรรทมได้
สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 55 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาในหลวง เผยรายงานผลการตรวจพระวรกายว่า การเคลื่อนไหวของพระวรกายดี พระหทัย พระปับผาสะ หรือปอด และระบบประสาท เป็นปกติ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-07-18 21:55:43 |
ความคิดเห็นที่ 107 (1620314) | |
10 มหัศจรรย์ เรียนรู้วิถีเกษตรตามรอยพ่อ
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นแบบอย่างและทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ผลงานอันเนื่องมาจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการทรงงาน พระราชกรณียกิจต่างๆ ล้วนแล้วแต่นำมาซึ่งการพัฒนาด้านการเกษตรของไทย หุ่นจำลองการประกอบราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯแห่งนี้ จัดแสดงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ แบ่งพื้นที่การจัดแสดงออกเป็น 10 โซน ในแนวคิด “10 โซนมหัศจรรย์การเรียนรู้วิถีเกษตรตามรอยพ่อ” ซึ่ง ได้รวบรวม พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ผลงานอันเนื่องมาจากพระอัจฉริยภาพ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งวิวัฒนาการ ภูมิปัญญา นวัตกรรม และพัฒนาการของเกษตรกรไทย ไว้สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวของประชาชนผู้สนใจ ห้องชมภาพยนตร์ โซนที่ 1 “พระราชพิธีในวิถีเกษตร” จัดแสดงหุ่นจำลองการประกอบราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวนา พร้อมประกอบด้วยคำอธิบาย ความเป็นมาและความหมายของพระราชพิธี
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-07-18 22:39:42 |
ความคิดเห็นที่ 108 (1620316) | |
ทางเดินวงกลมรอบห้องชมภาพยนตร์จัดแสดงพระราชกรณีย์กิจตลอดการครองราชย์กว่า 60 ปี โซนที่ 2 เป็นห้องฉายภาพยนตร์ เรื่อง “กษัตริย์ เกษตร” เผยแพร่เรื่องราวของราษฎร ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จนสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้มีพออยู่พอกิน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพยนตร์ทางการ์ตูน แอนิเมชัน ซึ่งเมื่อดูแล้ว รู้สึกซาบซึ้งปีติ ในน้ำพระทัยของพระองค์ท่านอย่างมาก วีดีทัศน์ถ่ายทอดพระราชจริยวัตร ที่ โซนที่ 5 เมื่อเดินออกมาจะเป็นโซนที่ 3 มีซุ้มประตูรวงข้าวโดดเด่น จัดแสดง “เรื่องของพ่อในบ้านของเรา” นำเสนอเรื่องราวหลักการทรงงานทั้ง 23 ข้อที่ทำให้คนไทยกว่า 60 ล้านคนอยู่เย็นเป็นสุขมาถึงปัจจุบัน และพอสุดทางเดินนั้นก็ได้พบกับ บ้านชาวนาและสวนผักจำลอง เป็นพื้นที่ในโซนที่ 4 “หัวใจใฝ่เกษตร” เป็นจุดนันทนาการสำหรับเด็ก คล้ายๆสนามเด็กเล่น แต่เป็นของเล่นในแบบอุปกรณ์การเกษตร พื้นที่จัดแสดง จำลองศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ “อ่าวคุ้งกระเบน” เดินต่อมาสู่พื้นที่เปิดโล่งในโซนที่ 5 โซนนี้จัดแสดงนิทรรศการ “ตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอเพียง” ห้องโถงโล่ง มีโคมไฟตกแต่ง แสดงเรื่องราวเศรษฐกิจพอเพียง จัดแสดงวีดีทัศน์ที่ถ่ายทอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจที่สะท้อนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นตัวอย่างที่ควรน้อมนำไปใช้เป็นแบบอย่าง เป็นที่ทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ทรงงานแต่ในพระราชวังเพียงเท่านั้น พระองค์ท่านยังได้ทรงเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ โดยทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายในการแก้ไขพื้นที่ที่ได้รับความเดือนร้อน พระองค์ท่านทรงค้นคว้าทดลองโครงการส่วนพระองค์ขึ้นมามากมาย แต่ละโครงการนั้นล้วนแล้วแต่นำพาประโยชน์สุขมาสู่ประชาชน เช่น โครงการหลวง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 เป็นตัวแทนการแก้ไขปัญหาในแต่ละภูมิภาค ซึ่งความรู้ในส่วนนี้จัดแสดงอยู่ที่โซน 6 “วิถีเกษตรของพ่อ” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-07-18 22:43:54 |
ความคิดเห็นที่ 109 (1620319) | |
แท่นจัดแสดงรางวัล จากพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ส่วนโซนที่ 7 “นวัตกรรมของพ่อ” จัดแสดงเรื่องราวสิ่งประดิษฐ์ ด้วยพระวิริยะและพระปรีชาสามารถทรงได้ประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์ต่างๆเพื่อพัฒนาการเกษตรไทย ตัวอย่างเช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา พระองค์ทรงมีพระราชดำริ “ให้จดสิทธิบัตร จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและแจ้งในสิ่งที่คิดค้นเพื่อเป็นสมบัติและภูมิปัญญา เป็นมรดกสำหรับคนไทยและประเทศไทย” และยังมีสิ่งประดิษฐ์ในด้านอื่น จัดแสดงไว้ให้ชม กังหันน้ำชัยพัฒนา โซนที่ 8 โซน“ภูมิพลังแผ่นดิน” มีจุดเด่นเป็นโดมที่ใช้ไม้สนในการสร้างแบบยุโรปเพื่อสื่อถึงความอบอุ่น เมื่อได้เข้าไปด้านใน ภายในประกอบด้วยภาพวีดีโอ ที่ย้อนไปเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระเยาว์ จัดแสดงภายในโดมไม้สน และยังมีการจัดแสดงยุคสมัยที่ 1-7 ตั้งแต่ที่พระองค์ได้พระราชสมภพ ขึ้นครองราชย์ และ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างมิทรงย่อท้อเหน็ดเหนื่อย พื้นที่จัดแสดง จำลอง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โซนที่ 9 เป็นโซน “น้ำ คือ ชีวิต” โซนนี้นอกจากการจัดแสดงต่างๆแล้ว ยังมีสิ่งเตือนใจคนไทยด้วยพระราชดำรัสของในหลวง ณ สวนจิตรลดา 17 มี.ค. 2529 ซึ่งมีความว่าตอนหนึ่ง “หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำไว้บริโภค มีน้ำไว้ใช้ เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั้น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้" จัดแสดงพระราชกรณียกิจต่างๆ วิธีการทรงงานของพระองค์ท่านในการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อใช้ในด้านอุปโภคบริโภคและใช้ในการเกษตร โซนจัด แสดง “น้ำ คือ ชีวิต” | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-07-18 22:47:07 |
ความคิดเห็นที่ 110 (1620321) | |
มาถึงโซนสุดท้าย ตั้งอยู่กลางอาคารจัดแสดง โซนที่ 10 “ลานภูมิปัญญา” บรรยากาศของโซนนี้เป็นพื้นที่ร่มรื่น สงบเหมาะกับนั่งพักหลังการเดินชมในส่วนต่างๆ ประดับฝาผนังด้วยรูปพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ประดับแผ่นศิลาฤกษ์ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทรงวางศิลาฤกษ์ อาคารพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อ พ.ศ.2539 ด้านบนเป็นภาพนูนต่ำ แสดงสัญลักษณ์ กรม กองต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ไว้ให้ผู้ที่ได้มานั่งพัก ได้ชมกัน “ลานภูมิปัญญา” นอกจากสิ่งน่าสนใจใน 10 โซนแล้ว ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมี ส่วนจัดแสดงภายนอกอาคาร เป็นส่วนเนื้อหาภาคปฏิบัติที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่จัดแสดงภายในอาคาร มีการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ ฐานชุมชนพอเพียง 1 ไร่พึ่งตนเอง ฐานมหัศจรรย์เกษตรไทย ฐานนวัตกรรมพลังงานทดแทน ประเทศของเราจะสวยงามน่าอยู่กว่านี้อีกมากโข พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่ 13 ถนนพหลโยธิน ต.คลอง1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 ตรงข้ามโรงพยาบาลนวนคร เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-15.30 น.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2529-2212-13 หรือ www.wisdomking.or.th เปิดให้เข้าชมฟรี ถ้าต้องการมาเป็นหมู่คณะ กรุณาติดต่อทางสำนักงานพิพิธภัณฑ์ ฯ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2555 17:55 น. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-07-18 22:51:24 |
ความคิดเห็นที่ 111 (1622049) | |
ช่วยกันทำความดีเพื่อพ่อหลวงของเรา
อย่างง่าย ๆ แต่ได้บุญมหาศาล ตามแนวทางที่ท่านอาจารย์อุบลเคยสอนไว้
โดยการทำใจให้ว่าง ไม่คิดอะไรเลย ให้ใจของเราไม่มีอะไรมาปรุงแต่ง ทำใจให้สบาย ๆ สัก 1 นาที
หลับตาก็ได้ ลืมตาก็ได้ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตอนนี้ก็ได้
และขอบารมีพระพุทธองค์นำบุญของเรานี้ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเทวดารักษาพระองค์ นึกภาพบุญของเราเป็นแสงสว่างสีขาวดั่งไฟนีออน นึกภาพเห็นพระองค์ทรงรับผลบุญของเรา เกิดแสงสีขาวสว่างสดใสครอบคลุมทั่วพระวรกาย กราบแทบพระบาท ขอพระองค์ทรงมีพระราชหฤทัย พระพลานามัยแข็งแรงในทันที ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ขอพระบารมีหากพระองค์ทรงได้รับบุญของเราแล้ว ขอให้สามารถสัมผัสได้ด้วยอาการปีตีทั้ง 5 หากรับรู้ได้ จะทราบว่า พระองค์ทรงรับบุญของเรา และทรงให้บุญของพระองค์ท่าน กลับคืนมาให้เรา อีกไม่รู้อีกกี่ร้อยพันเท่า ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช วันที่ตอบ 2012-07-31 23:16:33 |
ความคิดเห็นที่ 112 (1624945) | |
ถวายวัดในอินเดีย-พระบรมรูปในหลวง พระบรมรูป- พระสงฆ์ 84 รูป เจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุโบสถวัดมหาธาตุฯ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ก่อนนำไปประดิษฐานที่วัดไทยกุสินาราฯ ประเทศอินเดีย พระบรมรูปในหลวงสร้างเสร็จแล้ว สูง 2.30 เมตร หนัก 600 ก.ก. ฉลองพระองค์ชุดจอมทัพ ไทย เตรียมอัญเชิญไปประดิษฐานวัดไทยกุสินาราฯประเทศอินเดีย พร้อมจีดพิธีสมโภชยิ่งใหญ่ต้นปีหน้า ให้คนไทยในอินเดียถวายสักการะเผยเป็นพระบรมรูปองค์แรกที่ไปประดิษฐานต่างประเทศระหว่างสร้างทีมงานกราบบังคมทูลถวายรายงานในหลวงตลอด เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่พระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราช รังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ มูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ แถลงข่าวการจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ประดิษฐาน ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-08-19 23:34:18 |
ความคิดเห็นที่ 113 (1625004) | |
ช่วยกันทำความดีเพื่อพ่อหลวงของเรา ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช วันที่ตอบ 2012-08-20 12:22:37 |
ความคิดเห็นที่ 114 (1626808) | |
ดร.สุเมธเตือนสติคนไทย “ในหลวง”ทรงงานหนักจนประชวร แต่คนไทยเทิดทูนพระองค์แต่ปาก"
นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษ เรื่อง “คุณธรรมสร้างชาติ” ให้แก่ข้าราชการของกระทรวงกลาโหม
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ ส.ค. ๒๕๕๕ ว่า
ประเทศไทยเคยมีคุณธรรม จริยธรรม ประเทศไทยเคยบูชาความดี มีความเอื้ออารีต่อกัน บ้านใครทุกร้อนใครหนีมาเพิ่งพระบรมโพธิสมภาร ประเทศไทยเคยมีแต่ขณะนี้เป็นของที่เราสูญสิ้นไปหมดแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเหน็ดเหนื่อยมา ๖๕ ปี เพื่อดูแลประเทศรอดมาถึงทุกวันนี้ เป็นงานที่เหนื่อยยากอย่างยิ่ง ในฐานะที่ท่านเป็นประมุขของประเทศ ท่านได้พูดประโยคว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
การที่ไม่ใช่ว่าปกครองแต่ใช้คำว่าครอง แสดงให้เห็นว่าไม่มีเรื่องอำนาจแม้แต่น้อย พระองค์ท่านอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจ ดูแลพสกนิกรเหมือนคนในครอบครัว
ซึ่งการครองนั้นเป็นเรื่องของความรัก ความเมตตา ความรับผิดชอบ โดยยึดเรื่องของธรรมทศพิธราชธรรม ในการยึดถือในการครอง และยึดถือเรื่องทศพิธราชธรรม
คนไทยชอบเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ แต่ไม่เคยมอง พอพระองค์ท่านทรงรับสั่งอะไรก็ทำให้ทุกคนชื่นใจ แต่เวลาผ่านไปเพียง ๕ นาที ทุกคนก็ลืมไปหมดแล้ว พระองค์ท่านทรงพระอาการประชวรทุกวันนี้ เพราะใช้พระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจ อย่างเหน็ดเหนื่อยจนถึงทุกวันนี้ พระองค์ท่านทรงทำให้ แผ่นดินอยู่ได้จนมาถึงทุกวันนี้
พระองค์ให้ใช้ความดี และความถูกต้องในการปฏิบัติงาน เราท่องมาแต่ไม่เคยใส่ใจ และไม่เคยนำมาปฏิบัติ
ในหลวงทรงเน้นเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งนี้ มองว่างบประมาณแผ่นดินจะมีเท่าไหร่ไม่สำคัญ มันสำคัญอยู่ที่ว่าใช้เงินนั้นอย่างไร พระองค์ท่านมุ่งไปถึงประโยชน์ หากทุกบาททุกสตางค์ ถูกใช้อย่างมีประโยชน์ก็มีความสุข แต่ใช้ไม่ถูกต้อง ก็เกิดความทุกข์ และถ้าเอาเงินของแผ่นดินไปถลุง หรือใช่ไม่ถูกต้องก็จะยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ ทั้งนี้ ครมาอาศัยบุญแผ่นดินนี้จะได้รับความยุติธรรม ความถูกต้องเหมือนกันหมด พระองค์ท่านทรงเป็น พระมหาบรมครู บูชาในหลวงเหมือนเป็นการบูชาพระ เหมือนเวลาไปฟังพระสวดก็พนมมือไป แต่ก็ไม่ได้ฟังว่าสวดอะไร สรุปคือสนใจในพิธีการเท่านั้น”
ที่มา : จะกู่ร้องว่ารักพ่อให้ก้องโลก แฟนเพจ
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช วันที่ตอบ 2012-08-28 23:59:01 |
ความคิดเห็นที่ 115 (1628017) | |
หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในความงามที่มีความจริงและความดี ความจริง และความงาม ความจริง และความงาม หลัก 23 ข้อ ในการทรงงานของในหลวง ข้อที่ 1 จะทำอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้เป็นระบบ
อดีตทำอะไรมาบ้าง ทั้งเอกสาร สอบถามเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เช่นงานยาเสพติด ต้องดูข้อมูลให้ลึกซึ้ง ทำไมทำงานไม่สำเร็จ ต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งการพูดคุย การดูตัวเลข แต่อย่าให้ตัวเลขมาหลอกเราได้ ผู้ยิ่งใหญ่เห็นแต่ภาพสวยหรู แท้ที่จริงเละตุ้มเป๊ะ แม้ทำไม่ได้ มีปัญหา ตัวเลขก็สวยหรู เพราะมีการคาดโทษ ต้องยอมรับความจริงก่อน แล้วลงมือแก้ไข
ข้อที่ 2 ระเบิดจากภายใน สร้างความเข้มแข็งจากภายในให้เกิดความเข้าใจ และอยากทำ มิใช่สั่งให้ทำ คนไม่เข้าใจจะไม่ทำ แยกให้ออกระหว่างคุณค่ากับมูลค่า ว่ามีเหตุผลอย่างไรจึงควรทำ
ข้อที่ 3 แก้ปัญหาจากจุดเล็ก มองภาพรวมก่อนเสมอ แต่การแก้ปัญหาต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ไม่เริ่มทีเดียวใหญ่ๆ และควรมองในสิ่งที่มักจะมองข้าม ถ้าปวดหัวคิดอะไรไม่ออก ให้คิดแก้ปวดหัวก่อน เป็นคำพูดที่ฟังดูตลก แต่ลึกซึ้ง คิดใหญ่ทำเล็ก คิดกว้างทำแคบ คิดละเอียดทำหยาบ ลงมือทำในจุดเล็กๆ ก่อน สำเร็จแล้วจึงค่อยขยาย มิใช่สั่งทำพร้อมกันทั่วประเทศ ดูดี แต่ลงทุนสูงได้ผลน้อย ในที่สุดทุกคนก็จะหมดแรง เพราะมีแต่คนสั่งคนทำมีอยู่ไม่กี่คน
ข้อที่ 4 ทำตามลำดับขั้น เริ่มทำจากความจำเป็นก่อน สิ่งที่ขาดคือสิ่งที่จำเป็นเช่น ประชาชนต้องแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพก่อน จากนั้นก็ไปแก้ที่สาธารณูปโภค แล้วต่อด้วยการประกอบอาชีพ ถ้าทำเป็นขั้นเป็นตอน ก็จะทำให้สำเร็จได้ง่าย เช่น งานยาเสพติดรักษา --> ส่งเสริม --> ฟื้นฟู -->กลับอยู่ในสังคมปกติ เป็นคนดีของชาติ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-09-05 22:18:05 |
ความคิดเห็นที่ 116 (1628019) | |
ข้อที่ 5 ภูมิสังคม ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ การทำงานทุกอย่าง ต้องคำนึงถึงภูมิศาสตร์ว่า อยู่แถบไหน อากาศเป็นอย่างไร ติดชายแดน ติดทะเล และสังคมของเราเป็นอย่างไร นับถือศาสนาอะไร คนนิสัยใจคอเป็นอย่างไร รวมไปถึงพวกเรากันเองด้วย ถ้าไม่รู้เขารู้เราจะรบชนะได้อย่างไร สั่งทำโครงการทั่วประเทศไม่ได้ ต้องดูเฉพาะพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขออกแบบสถานีอนามัยเหมือนกันทั่วประเทศ บางครั้งก็ไม่ดีนัก
ข้อที่ 6 ทำงานแบบองค์รวม โดยคิดความเชื่อมโยง ทรงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มทางแก้ไขอย่างเชื่อมโยง ที่ฟังแล้วโอเวอร์ไปหน่อย แต่ก็จริง ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวพันกัน แยกออกจากกันโดยเด็ดขาดมิได้
ข้อที่ 7 ไม่ติดตำรา ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด บางครั้งเรายึดทฤษฎีจนเกินไปทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่เราทำบางครั้งต้องโอบอ้อมต่อสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคม จิตวิทยาด้วย
ข้อที่ 8 ประหยัด เรื่องง่ายได้ประโยชน์สูงสุด ทำได้เอง หาได้เองในท้องถิ่น ใช้เทคโนโลยีเรียบง่าย เช่น ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ปล่อยให้ขึ้นเอง บางครั้งมีพิธีกรรมใหญ่โตผู้ยิ่งใหญ่ทำพิธีปลูกป่า โดยนำรถไถไปไถที่ให้เรียบเพื่อปลูกป่า โดยทำลายต้นไม้ไปมากมาย น่าตลกเรื่องเช่นนี้ยังมีในสังคมไทยมากมาย กรอบแนวคิด Input ----> Process ----> Output ประหยัด เรียบง่าย ประโยชน์สูงสุดข้อ
ข้อที่ 9 ทำให้ง่าย
ทำอะไรให้ง่ายๆ ทำให้ชีวิตง่าย โปรดรับสั่งทำสิ่งยากๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ง่ายๆ
นักข่าวชาวฝรั่งเศสถามพระองค์ว่า พระองค์ทรงงานแบบใด ท่านตรัสตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสว่าซิมปลีฟีเย่” ซึ่งภาษาอังกฤษแปลว่า ซิมพลีฟาย(simplify) ภาษาไทยแปลว่า ทำให้ง่าย คนส่วนใหญ่ชวนทำสิ่งง่ายๆให้เป็นสิ่งยากๆ ผมบอกเจ้าหน้าที่งานยาเสพติดว่า ถ้าใครโทรศัพท์มาของความช่วยเหลือให้ถามเขาคำแรกว่า“คุณจะให้ผมไปหาคุณหรือคุณจะมาหาผมเดี๋ยวนี้”
ข้อที่ 10 การมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น หัดทำใจให้หนักแน่น รับฟังความคิดเห็นการรับฟังคือการเก็บความคิด เราจะประมวลความคิดเพื่อมาใช้ประโยชน์
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-09-05 22:25:32 |
ความคิดเห็นที่ 117 (1628020) | |
ข้อ 11 ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวม จากพระราชดำรัส ใครต่อใครชอบบอกให้นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม ให้ส่วนรวมคือการช่วยตัวเองด้วย เพราะเมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์ เราเองก็ได้ประโยชน์ การช่วยกันแก้ปัญหายาเสพติด ส่วนรวมได้ประโยชน์ ลูกหลานเราก็ปลอดภัยจากยาเสพติดด้วยประเทศชาติยู่ไม่ได้ อย่าหวังเลยว่าเราจะอยู่ได้
ข้อที่ 12 บริการที่จุดเดียว วันนี้เราพูด วันสต๊อปเซอร์วิส แต่ในหลวงตรัสไว้เกิน20ปีมาแล้ว ศูนย์ศึกษาพัฒนา 6แห่งทั่วประเทศให้บริการจุดเดียวมากกว่า 20 ปี ใครทันสมัยกันแน่ ข้อที่ 13 ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ มองธรรมชาติให้ออก กักน้ำตามลำธารช่วยให้ป่าสมบูรณ์ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ เราก็จะลดปัญหายาเสพติดลงไป การช่วยดูแลผู้ติดยา เขาจะไม่กลับไปเสพซ้ำและสามารถกลับมาช่วยเราอีกแรง ทำให้ได้แนวร่วมเพิ่มขึ้นอยู่แบบสมดุล ซึ่งการจะมองปัญหาออกต้องมีใจว่าง ไม่ลำเอียง ต้องมีจิตอันพิสุทธิ์
ข้อที่ 14 ใช้อธรรมปราบอธรรม เอาผักตบชวาที่เป็นปัญหาของเราในประเทศ มากำจัดน้ำเสียเอาปัญหามาช่วยขจัดปัญหา เอาปัญหายาเสพติด มาช่วยพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของคนไทยกันดีกว่า แผ่นดินธรรมแผ่นดินทองควรจะเฟื่องฟูได้แล้ว
ข้อที่ 15 ปลูกป่าในใจคน ต้องปลูกป่าที่จิตสำนึกก่อน ต้องให้เห็นคุณค่าก่อนที่จะลงมือทำการดูแลปัญหายาเสพติด ถ้าคน ทำหน้าที่นี้ยังทำเพราะเป็นหน้าที่ งานสำเร็จได้ยาก แต่ถ้าทำด้วยความดีใจที่ได้ช่วยลูกเขาให้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่ได้เพียงหนึ่งคน ซึ่งคุ้มค่ากว่าได้เงินทองเป็นล้าน แสดงว่าพลังต่อสู้กับยาเสพติดได้เกิดขึ้นในใจของท่านแล้ว จงปลุกสิงโตทองคำในหัวใจ ให้ตื่นขึ้นมาให้ได้ก่อน
ข้อที่ 16 ขาดทุนคือกำไร อย่ามองที่กำไรขาดทุนที่เป็นตัวเงินมากจนเกินไป บางครั้งเราได้กำไรจากการขาดทุน ลงทุนมหาศาล ได้ธรรมชาติกลับคืนมา ลงทุนมหาศาล ได้ลูกคืนมา ลงทุนมหาศาล ได้คนดีๆ กลับมา ลงทุนมหาศาล ได้ความรู้ไว้คอยช่วยเหลือ
ข้อที่ 17 การพึ่งตนเอง ในหลวงทรงสอนให้พวกเราพึ่งตนเอง เพราะสังคมบริโภคจะเป็นทาสของผู้ผลิต การพึ่งตนเองได้ทำให้ไม่ต้องเป็นทาสใคร เมื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วพยายามพึ่งตนเองให้ได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-09-05 22:31:01 |
ความคิดเห็นที่ 118 (1628021) | |
ข้อที่ 18 พออยู่พอกิน พออยู่พอกินก่อน แล้วค่อยพัฒนาเราขอให้บำบัดให้ได้ก่อน==> ประคับประคอง==> เป็นที่ปรึกษา==>เป็นผู้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ข้อที่ 19 เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการต่อสู้ รับมือความเปลี่ยนแปลงของโลก การจัดการกับปัญหายาเสพติด ต้องคำนึงถึงเรื่องความพอดีให้ดีโดยอาศัยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ข้อที่ 20 ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน คนที่มีความรู้มากแต่โกง สู้คนที่ไม่เก่งแต่ดีไม่ได้ วีรบุรุษ วีรสตรีคือคุณธรรมที่ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น พวกเราที่ทำงานยาเสพติดคือ วีรบุรุษ วีรสตรีผู้หนึ่ง ข้อที่ 21 ทำงานอย่างมีความสุข “ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ ฉันมีแต่ความสุขที่ร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นเท่านั้น” ทำอะไรต้องมีความสุขด้วย เพราะศึกครั้งนี้ยาวนาน ถ้าเราทำอย่างไม่มีความสุขจะแพ้แต่ถ้าเรามี ความสุข เราจะชนะ เพียงแต่คนทำงานเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีความสุข สนุกกับการทำงานเพียงเท่านั้น ถือว่าเราชนะแล้ว
ข้อที่ 22 ความเพียร กว่า 60 ปีที่ทรงงาน ในหลวงไม่เคยทรงท้อถอย ไม่มีการลาพักร้อนหยุดงานสักเวลาเดียว
ข้อที่ 23 รู้ รัก สามัคคี
คิดเพื่องาน
รู้ = ต้องรู้ปัจจัย รู้ปัญหา รู้ทางออกของปัญหา
รัก = เมื่อรู้แล้ว ต้องเกิดความอยากในทางที่ดีก่อนคือฉันทะเห็นว่าเป็น
ประโยชน์ต่อ ประเทศชาติ ภูมิใจ อยากทำ
สามัคคี = ลงมือปฏิบัติ ต้องร่วมมือเพื่อเกิดพลัง แยกกันไร้ค่ารวมกันไร้เทียมทาน คิดเพื่อตัวเราเอง รู้ = รู้จักทุกคนทั้งหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัวทำอย่างไร จึงจะรู้จักให้ดีได้
รู้จุดอ่อน จุดแข็ง โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา รัก = เน้นความดี ใส่ใจกันและกันมองกันในแง่ดี สามัคคี = จึงจะเกิด
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-09-05 22:34:42 |
ความคิดเห็นที่ 119 (1628205) | |
| |
หลักการและปรัชญาการทรงงาน 10 ประการ | |
1. ทรงเน้นเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต 2. ทรงเน้นความอ่อนน้อมถ่อมตน 3. ทรงเน้นความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน 4. ทรงเน้นให้เริ่มจากหลักการ หลักวิชาการ และทดสอบทดลอง 5. ทรงเน้นความต้องการของประชาชนเป็นหลัก 6. ทรงเน้นธรรมชาติเป็นหลัก 7. ทรงเน้นให้ยึดหลัก รู้ รัก สามัคคี 8. การจะทำอะไรก็ขอให้เริ่มจากเล็กไปหาใหญ่ 9. ทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ปฏิบัติอะไร ก็ขอให้ยึดความพอดี พอควรเป็นที่ตั้ง 10.ยึดธรรมะเป็นที่ตั้งทุกเรื่อง |
|
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) วันที่ตอบ 2012-09-06 23:09:23 |
ความคิดเห็นที่ 120 (1628812) | |
โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบอาชีพด้านการเกษตร “โครงการส่วนพระองค์ เกี่ยว ภายในบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐานอันเป็น มุ่งเน้นการดำเนินงานโดยยึดหลักปรัชญา ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร อย่างยั่งยืน ให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ภายในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้กระบวนการผลิตที่ง่าย แต่มีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังดำเนินการภายใต้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ที่มีการศึกษา ทดลอง บันทึกรวบรวมข้อมูล และผู้ที่สนใจทั่วไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ สร้างโครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อเป็นโรงงานตัวอย่างและพระราชทานโอกาสให้บุคคล กลุ่มต่าง ๆ ที่สนใจ "ดูกิจการได้ทุกเมื่อ" ในแต่ละปีจึงมีผู้เข้ามาศึกษาดูงานโครงการต่าง ๆ เกือบ ๒๐,๐๐๐ คนต่อปี
โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา มีวัตถุประสงค์หลักในการดำเนินงาน ๓ ประการ คือ
ลักษณะของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ
ทีีมา :ฐานความรู้ที่ 30 โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช วันที่ตอบ 2012-09-12 00:10:49 |
ความคิดเห็นที่ 121 (1629325) | |
ความหมายของตราสัญญลักษณ์
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
“พระมหาพิชัยมงกุฎ” |