๑

 ๒

 ๓

 ๔

 ๕

 ๖

 ๗

 ๘

 ๙

 ๑๐

 ๑๑

 ๑๒

 ๑๓

 ๑๔

 ๑๕

 ๑๖

 ๑๘

 ๑๘

คุณโซบิเดย์

รูปที่ 6 ,7  มองที่

ดวงจันทร์เห็นเป็น

พระพุทธเจ้าปาง

สมาธิ  และรูปอื่น

เห็นดวงธรรม

เยอะมาก  ต้อง

สาธุตลอด ค่ะ

ขอคดุณนะค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณโซบิเดย์ ที่แบ่งปันภาพที่หาดูได้ยาก จากวันพิเศษ 11.11.11  ขอผู้รู้ช่วยอธิบายให้ทราบถึงความหมายด้วยค่ะ

 /

 /

 ภาพปิรามิดบนฝ่ามือ

 ภาพปิรามิดฝ่าเท้าขำๆคะ

 ปิรามิดทรงคว่ำและหงาย

 ติดรับระบบพลังงานคริลตัลไลน์ และระบบจักรวาล 

 ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)
เรื่อง: พลังงานของวันที่ 11-11-11 (Part 1)

ผู้รับสาส์น: นาย Tyberonn
วันที่ : 5 ตุลาคม 2011

ที่มา:

The Energy of the 11-11-11 (Part 1) > Earth Keeper

ตอนที่ 1:


สวัสดีท่านคุรุทั้งหลาย ฉันคือมหาเทพเมตาตรอน มหาเทพแห่งแสงสว่าง 
ฉันขอส่งคำทักทายมายังพวกคุณทุกคนด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไข

และเนื่องจากยิ่งใกล้จะถึงวันที่ 11-11-11 เข้ามามากเท่าไหร่ 
บรรดาคริสตัลในวิหารของชาวแอตแลนติสทั้งหลาย 
ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ก็ยิ่งมีพลานุภาพเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นด้วย 

คริสตัลแพลตินั่ม (Platinum crystal) จะช่วยให้การเข้าไปสู่มิติที่สูงกว่า
เป็นไปได้ง่ายดายขึ้น และรังสีแพลตินั่มของมัน 
ก็จะไปทำให้พลังงานแห่งสตรีเพศอันศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลง 

 คริสตัลแพลตินั่มที่สง่างาม ได้ถูกทำให้หยุดกิจกรรมลงชั่วคราวมานานแล้ว 

รูปขนาดเล็ก

 ตอนที่ 2:


จุดประสงค์หลักของวันที่ 11-11-11


หลายทศวรรษที่ผ่านมา คือครั้งแรกที่พวกเราได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความพิเศษ
ของวันที่ที่เป็นตัวเลขตองทั้ง 12 ซึ่งเป็นวันที่ที่ประตูมิติถูกเปิด ผ่านทาง Tyberonn แห่งดาวลูกไก่ 
ว่าวันที่เหล่านี้เป็นวันที่ที่มีตัวเลขที่มีคลื่นความถี่พิเศษของประตูมิติ และมีลำดับเป็นเลขฐาน 12 

วันที่ที่เป็นเลขตองเหล่านี้ ถูกกำหนดให้เป็นวันที่
ที่จะมีการกระตุ้นให้กระบวนการเปลี่ยนแปลง
เพื่อไปสู่ยุคพลังงานคริสตัลไลน์ทำงานขึ้น 

และถึงแม้ว่าตอนนี้มนุษย์โลกหลายคนจะให้การยอมรับแล้วว่า 
วันเปิดประตูมิติเหล่านี้มีพลังงานที่เข้มข้นชัดเจนอยู่จริงๆก็ตาม 
แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสำคัญยิ่งใหญ่ของพวกมันเลย


วันที่ที่เป็นเลขตองเหล่านี้ (01/01/01 ถึง 12/12/12) 
ได้ถูกกำหนดไว้อย่างพอเหมาะพอดีแล้วว่า
ให้เป็นวันที่ที่จะมีการกระตุ้นการทำงาน
ของโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลก
ในส่วนที่เป็นรูปทรง 5 เหลี่ยม 12 ด้าน 
(12 geo-pentagonal) 

ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ 144 
ที่ประกอบไปด้วยสองส่วน ได้แก่ส่วนที่เป็นรูปทรง 5 เหลี่ยม 12 ด้าน 
และส่วนที่เป็นรูปทรง 20 เหลี่ยม 12 ด้าน (ดูรูปประกอบ – ผู้แปล) 

 หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับอาณาจักรแอตแลนติสที่แท้จริง ตอนนี้ได้ถูกลืมไปแล้ว 
หลายคนก็จำได้เฉพาะเรื่องราวแห่งการล่มสลายอันน่าเศร้าสลดเท่านั้น 
ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากการเข้ามาควบคุมของชนเผ่าอารยันที่ละโมบ และกระหายอำนาจ 

(ปล. อ่านรายละเอียดของข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรแอตแลนติสได้จากข้อความข้างล่างนี้ – ผู้แปล) :

“ข้อความจากต่างมิติ-สนามพลังงานคริสตัล-10-10-10-และการล่มสลายของแอตแลนติส”

http://board.palungjit.com/f2/%E0%B8...AA-261271.html

พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องจดจำให้ได้ถึงเรื่องราวของ the Law of One 
ซึ่งเป็นยุคทองของโพไซดา (the Golden Age of Poseida) เพราะว่าภายในช่วงเวลาของยุคทองที่ว่านี้ 
สังคมนี้เต็มไปด้วยปูชนียบุคคลที่เต็มเปี่ยมด้านจิตวิญญาณจำนวนมากมาย 

พวกเขาสามารถเข้าถึงสภาวะแห่งการประสานกลมกลืนและความสมดุลอันศักดิ์สิทธิ์ได้ 
ยุคที่เรียกว่ายุคทองของแอตแลนติสนี้ เป็นยุคที่มีระดับคลื่นความถี่สูงที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา

และอันที่จริงแล้ว ช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ก็ได้มาถึงแล้ว เพราะว่า the Law of One 
เคยเป็น และยังเป็นสังคมแห่งอนาคต สำหรับผู้ที่มี “พลังอำนาจแห่งความรัก” 
ไม่ใช่สำหรับผู้ที่ “รักในพลังอำนาจ” 

ที่พวกเราใช้คำว่า “สังคมแห่งอนาคต” ก็เพราะว่ายุคของ the Law of One 
จะปรากฎขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งจริงๆ และมันจะเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งไปทั่วโลก 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน crystal vortex ที่ Arkansas และ ที่ประเทศบราซิล

และพวกเราขอย้ำว่า ในปี 2011 นี้ จะเป็นปีที่มีการขยายตัวของกระแสพลังงานครั้งยิ่งใหญ่
แบบเป็นเท่าทวีคูณ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอย่างสอดประสานกลมกลืนกัน 
สืบเนื่องมาจากการถูกปลุกให้ตื่นขึ้นของเหล่ามาสเตอร์คริสตัลในวิหารของโพไซดา 
ที่ถูกปิดผนึกมิติเอาไว้ด้วยระบบแม่เหล็กอันสลับซับซ้อน ภายใต้รัฐ Arkansas 
มานานกว่า 12,000 ปีมาแล้ว 

ในวันที่ 11-11-11 นี้ Platinum Crystal อันยิ่งใหญ่จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น 
และจะส่งกระแสพลังงานเข้าไปสมทบกับ crystal vortex ขนาดมหึมา
ของมาสเตอร์คริสตัลชิ้นอื่นๆ ที่อยู่ในรัฐ Arkansa เช่นเดียวกัน 
เช่น คริสตัลสีฟ้าแห่งความรู้ (the Blue Crystal of Knowledge) 
และคริสตัลมรกตแห่งการบำบัดรักษา (the Emerald Crystal of Healing) เป็นต้น 
จนเกิดเป็นเครือข่าย crystal vortex ขึ้น

พวกคุณหลายคน จะถูกดึงดูดให้เข้าไปมีส่วนร่วมในปรากฎการณ์ครั้งนี้ด้วย เพราะว่าจริงๆแล้ว 
พวกคุณเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนแล้ว ในฐานะของพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนั้น 
และพวกคุณบางคนก็เคยเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ การเคลื่อนย้ายมาสเตอร์คริสตัลอันอัศจรรย์เหล่านี้
ให้ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยในเวลาต่อมาอีกด้วย 

ยุคใหม่-ยุคแห่งพลังงานคริสตัลไลน์ กำลังจะมาถึงพวกคุณแล้ว 
ซึ่งมันก็คือการเปลี่ยนแปลงที่พวกคุณเรียกกันว่า 
“การเลื่อนระดับขึ้น” (Ascension) นั่นเอง


ระยะที่สำคัญอย่างมาก ที่เรียกว่าระยะเพชร (Diamond phase) 
ของการเปลี่ยนแปลงพลังงานคริสตัลไลน์ของดาวเคราะห์โลกนั้น 
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10-10-10 ที่ผ่านมา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอยู่กับ
ความสั่นสะเทือนของมิติที่ 10 และระบบจักระทั้ง 12 

ส่วนระยะแพลตินั่ม (Platinum phase) นั้น
จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 11-11-11 นี้

...................

 ตอนที่ 5:


การปลดปล่อยรังสีแพลตินั่มของ Platinum Crystal



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

Platinum crystal จะแผ่กระแสพลังงานที่มีความสวยงาม, สงบเย็น และงดงามแพรวพราวออกมา 
ซึ่งมันจะนำพาความสมดุลมาสู่มิติใหม่ๆทั้งหลาย ที่กำลังจะปรากฎขึ้นบนโลกใบนี้ 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันจะทำให้เกิดแรงที่จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อ และเข้าถึง “อาณาจักรเทพ” ได้มากขึ้น

ซึ่งอาณาจักรเทพที่ว่านี้อันที่จริงแล้ว มันก็คือระยะที่เป็นปฏิสสาร (antimatter phases) 
ของมิติคู่ขนานของพวกคุณนั่นเอง 

ด้วยเหตุนี้ Platinum crystal นี้จึงทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันการเพิ่มขึ้น-ลดลงของระดับพลังงาน 
โดยทำหน้าที่ทั้งคอยป้อนพลังงาน และคอยรักษาสัดส่วน และรักษาสมดุลระหว่างสสารและปฏิสสาร 
ใน “harmonic cycle” ของพวกมัน

นอกจากนี้ Platinum crystal ยังจะช่วยปรับ และสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นกับ 
“กระแสพลังงานคริสตัลไลน์รวม” (Unified crystalline) ที่เกิดจากหลายๆแหล่งกำเนิด 
เพื่อให้พวกมันสามารถทำงานร่วมกันและเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันได้ 

โดยในวันที่ 11-11-11 นี้ Platinum crystal จะปลดปล่อย 
“พลังงานแม่เหล็กคริสตัลไลน์” (Crystao-magnetic forces) ออกมา
จำนวนมากมายมหาศาล นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม 
มันจึงได้ถูกเจาะจงนำไปไว้ที่ใต้ภูเขาแม่เหล็ก (Magnetic Mountain) 
ใกล้ๆกับ Eureka Springs นั่นก็เพราะว่า 

เพื่อให้พลังงานแม่เหล็กที่อยู่ในบริเวณนั้น 
ถูกเปลี่ยนรูปแบบโดยพลังงานของคริสตัลไลน์นี้ 
และทำให้ “โครงข่ายแม่เหล็กโลก” (the Magnetic Grid) อ่อนกำลังลง 
เพื่อที่จะถูกแทนที่ด้วย “โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์” 
(the 144-Crystalline Grid) ต่อไปในที่สุด

…………………………

 ตอนที่ 6:

มาสเตอร์คริสตัลทั้งหมด จะอยู่ในสถานะ
ถูกกระตุ้นอย่างเหมาะสม ของใครของมัน 
และจะมีอานุภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกๆปี 
และจะมีอานุภาพเต็มที่ ในวันที่ 21-12-12 นี้

ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ ถูกกำหนดไว้แล้วโดยเหล่าคุรุผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานคริสตัลไลน์
ของสมาพันธ์ชาวซีรีอุสและชาวดาวลูกไก่ ในนามของสหพันธ์กาแล็กซี่ 
เพราะว่าถ้าหากปล่อยให้คริสตัลเหล่านี้มีอานุภาพเพิ่มขึ้นจนเต็มกำลังอย่างรวดเร็วเกินไปแล้วหละก็ 
การเสียสมดุลทางพลังงานก็จะเกิดขึ้น


สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11-11-11 นี้ก็คือ 
การตั้งรหัสคริสตัลไลน์ใหม่ของสิ่งที่เรียกว่า 
“ความเป็นสตรีเพศอันศักดิ์สิทธิ์ของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” 
(Starseed Divine Feminine) 

โดยที่ รังสีมรกต ของคริสตัลมรกตแห่งการบำบัดรักษา (The Emerald Crystal of Healing) 
จะเริ่มกระตุ้นให้เกิด ”การโปรแกรมขึ้นมาใหม่” (reprogramming) 

ส่วนรังสีแพลตินั่ม ของ Platinum crystal ซึ่งก็มีคุณสมบัติเป็นพลังงานเพศหญิงอย่างหนึ่งเหมือนกัน 
ก็จะไปทำให้กระบวนการใส่ “พลังงานคริสตัลไลน์แห่งสตรีเพศ” (the Feminine Crystalline) 
เข้าไปใน DNA ของดาวเคราะห์โลก เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลง และเพราะเหตุนี้ 
จึงเป็นการนำพลังงานคริสตัลไลน์แห่งสตรีเพศเข้าไปใส่ไว้ใน DNA ของชาวโลก
ผู้ที่ยอมเปิดรับการเปลี่ยนรูปแบบที่จำเป็นและศักดิ์สิทธิ์นี้ไปในตัวด้วย 


ซึ่งผลกระทบของกระบวนการเหล่านี้ก็คือ 
จะทำให้ช่องว่างของความเป็นขั้วระหว่างสิ่งที่เรียกว่า 
“คุณลักษณะของเพศชาย” และ “คุณลักษณะของเพศหญิง” ลดน้อยลง 


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

แต่รังสีแพลตตินั่มที่ว่านี้ ยังจะไปทำให้การเข้าไปสู่มิติที่สูงกว่าเป็นไปได้ง่ายดายยิ่งขึ้นอย่างมากอีกด้วย

เพราะเหตุนี้ การสมดุลของความเป็นขั้ว จึงเป็นไปได้ง่ายดายมากขึ้นด้วย 
และจะทำให้ “ความเที่ยงธรรมอันศักดิ์สิทธิ์” เกิดมีแก่มนุษย์โลกที่กำลังอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ด้วย 

อันที่จริงแล้ว มันจะไปทำให้ช่องว่าง
ที่อยู่ระหว่างสมองซีกขวาและซีกซ้ายของมนุษย์
มีส่วนเชื่อมต่อกันเกิดขึ้น 

ดังนั้น “จิตสำนึกแห่งอัตตา” 
ก็จะไปเชื่อมต่อกับ “จิตใต้สำนึกซึ่งไร้อัตตา” 
ซึ่งเป็นส่วนที่เป็นจิตแห่งพระเจ้าได้ 

ด้วยเหตุนี้ จึงจะทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ, 
ความเข้าใจเรื่องที่ว่าในชีวิตนี้อะไรมีความสำคัญมากกว่าอะไร 
และแน่นอนว่ารวมถึงกระบวนการในการตัดสินใจของมนุษย์ด้วย 
ก็จะมีความถูกต้องชัดเจนมากขึ้นอย่างมากอีกด้วย 

คุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่จำเป็นของมนุษย์หลายๆอย่าง 
เช่น การรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา, ความใจดีมีเมตตา, 
และความรู้สึกเป็นพี่เป็นน้องกัน เป็นต้น 
ก็จะถูกแสดงออกมาได้ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย 
ทั้งในระดับจุลภาคและในระดับมหภาค 

และสิ่งที่เรียกว่า “ความรักแบบปราศจากเงื่อนไข” 
ซึ่งแต่เดิมนั้นไม่มีอยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้ 
ก็จะค่อยๆเกิดมีในแต่ละคนมากขึ้นเรื่อยๆ 
และเข้าไปใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆด้วย 
เพราะว่าความสั่นสะเทือนของมิติที่ 5 ถึงมิติที่ 7 
กำลังถูกดึงดูดให้เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

........................

รูปขนาดเล็ก

  

 คลื่นพลังงานระลอกที่ 12 (The 12th Wave)


คลื่นพลังงานระลอกที่ 12 ของการยกระดับขึ้น จะเริ่มต้นขึ้น
ในวันนิวมูน (เดือนดับ) ของวันที่ 23 เดือนมกราคม ปี 2012 
และมันก็จะมีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเป็นเท่าทวีคูณ 
จนถึงวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012 

ซึ่งในขั้นแรก คลื่นพลังงานที่ 12 นี้ จะถูกรับเข้ามาไว้ในปิระมิดก่อน แล้วจากนั้น มันก็จะถูกส่งต่อไปยัง Sun Disc หลักๆ 
และขั้วพลังงาน (power-nodes) ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกในทันทีทันใด แล้วจากนั้นมันก็จะแผ่กระจายไปรอบโลก 
และโอบล้อม หรือหุ้มห่อโลกใบนี้ และโลกทั้งมวล (Omni-earth) เอาไว้


มันจะเหมือนกับการจุดชนวนของเอกภพ (Cosmic Triggers) ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว ในปี 2009 ,ในปี 2010 และในปี 2011 
เพราะว่าคลื่นพลังงานระลอกที่ 12 นี้ จะไหลผ่านเข้าไปในสิ่งต่างๆที่อยู่บนพื้นโลก ที่มีรูปทรงแปดเหลี่ยม (อ็อคตะฮีดรอน - octahedron) 
เช่นฟีปิระมิด (Phi Pyramid) และภูเขาหรือเนินตามธรรมชาติทั้งหลาย ที่มีรูปทรงแปดเหลี่ยมด้วย


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - octahedron)


ซึ่งหลังจากการมาของกระแสคลื่นเริ่มต้นนั้นแล้ว ก็จะเป็นการหลั่งไหลมาของคลื่นรหัสต่างๆ
ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงของวันอิควินอกซ์ (equinoxes), วันที่เกิดคราสทั้งหลาย, วันเหมายัน (solstices) 
และในวันที่ 12 ธันวาคม ปี 2012 ด้วย 

และระดับพลังงานก็จะพุ่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด ในวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012

ในวันที่ 12 ธันวาคม ปี 2012 พลังงาน Crysto-Sun Disc ใหม่ จะมีพลังเต็มพิกัด 
และจะไปทำให้กระบวนการกระตุ้นพลังงานคริสตัลไลน์เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลง 
และก็จะไปเปลี่ยนรหัสของโปรแกรมสุดท้ายของโครงข่ายคริสตัลไลน์ (Crystalline Grid) ด้วย 

 หลังจากนั้นก็จะเกิดการรีบูทโครงข่ายขึ้นใหม่ และโครงข่ายนี้ 
ก็จะเปิดใช้งานได้ใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 21 เดือนธันวาคม ปี 2012 
นี่คือการถือกำเนิดขึ้นของโลกใหม่


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Crystalline grid)

โครงข่ายคริสตัลไลน์ (The Crystalline Grid) ได้กลายเป็นโปรแกรมที่มีบทบาทสำคัญต่อโลก 
และได้เข้ามาแทนที่โครงข่ายแม่เหล็กโลก (the magnetic grid) ตั้งแต่ปี 2009 แล้ว 
และโครงข่ายคริสตัลไลน์นี้ จะปฏิบัติงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012 
(จะมีการบรรยายถึงหัวข้อนี้ขึ้นอีกในการสื่อสารคราวต่อไป)

และดังนั้น พวกเราจะบอกพวกคุณว่า ในปี 2012 คือ เวลาที่มีค่าอย่างยิ่งที่จะไปหาประสบการณ์ในปิระมิดต่างๆ 
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราจึงได้ชี้แนะให้ผู้รับสาส์นคนนี้ ไปจาริกบุญเพื่อปรับแนวตำแหน่งทางพลังงาน ยังเมืองกิซา 

 /

 คุณเชื่อไหมภาพที่เกิดเป็นดวงอาทิตย์แบบนี้มันมาจากเจ้านี่

 พลังดวงอาทิตย์+พลังชีดี

ขออนุโมทนาบุญกับคุณโซบิเดย์ ที่แบ่งปันภาพที่หาดูได้ยาก จากวันพิเศษ 11.11.11  ขอผู้รู้ช่วยอธิบายให้ทราบถึงความหมายด้วยค่ะ

จากค.ห.ที่20 โดยคุณ รมภ์รวินทร์

............................................

ก็คุณ โซบิเดย์ เจ้าของกระทู้ นี่แหล๊ะ

ผู้รู้ ตัวจริง เสียงจริง เลยนะเนี่ย..

งั้นวานคุณ โซบิเดย์ ช่วยอธิบาย

ถึงภาพต่างๆให้พวกเราได้ทราบด้วยนะคะ

เพราะ"ผู้ที่ยังไม่รู้"อย่างชนิดา

ก็รออ่านเหมือนกัลล์ อิอิ

อนุโมทนากับทุกๆภาพ

และ ทุกๆธรรมทานด้วยค่ะ

คุณโซบิเดย์

รู้สึกว่า เราจะสนใจในเรื่องเดียวกัน

ตาหล๊อดๆ เลยนะคะเนี่ย...

 คุณชนิดา คะถ้าจะให้อธิบายคงยาวนะอุสาห์คัดลอกความสำคัญมาให้อ่านแล้วนะคะจะให้อธิบายอีกหรือคะแต่โซบิเดย์ก็จะอธิบายตามความเข้าใจนะคะผิดถูกอย่างไรอย่าว่ากันนะ   การที่ถ่ายรูปออกมาได้อย่างนั้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันเป็นความตั่งใจของพระเจ้า แค่เราเข้าไปถึงมันคอยดูคอยสังเกตุ และรับรู้วันที่จะเกิดเหตุ และทดลองบ้างอย่างอยู่ตลอดเวลา  คือเราก้เหมือนนักข่าวอย่างไรไม่รุ้ต้องติดตามปรากฎการณ์ธรรมชาติตลอดเวลา แค่ต้องพกกล้องติดตัวตลอดเวลาเห็นปุมถ่ายป๊ปประมาลนั้นละ ฮิ...ก็เลยได้รูปที่เห็นนั้นละ  ตอนนี้ก็ทดลองประดิษฐปิรามิดตามความเข้าใจที่มนุษย์ด่างดาวมาสือสานเท่านั้น แต่ก็ได้ผลมากเลยนะคะ..........คุณชนิดาจะลองทำดูก็ได้นะคะ  รับลองรับรู้ถึงพลังงานที่มันวีงเข้าตัวเลยละโซบิเดย์เคยลองทำให้พระอาจารย์รัตนตรวจสอบแล้วพระอาจารย์ว่าใช้ได้...เพราะส่วนมากทำแล้วจะถามท่านประจำ  เมือเวลาทำก็จะเอาแถบปิรามิดของท่านใส่ลงไปเพื่อให้เกิดพลังงานปราณและมโนด้วย    การที่เอาแผ่นชีดีมาเป็นตัวประกอบและแท่งโรสควอร์น้ัน   ตำแห่นงของโรสควอร์คือใช่แทนคิรสตัลเป็นสื่อแห่งพลังความรัก  แผ่นชีดีเป็นตัวสท้อนพลังจักรกะและเส้นแสงและคิรลตัล เมื่อมันสท้อนขึ้นไปยังด้านบนไปจับตัวที่ดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ เข้าก็จะแผ่กระจ่ายสีงนั้นลงมายังโลกจนเรามองเห็นสีสันของมันมากขึ้น  ถ้าทุกบ้านทำพลังจะยีงมาก  แต่มันก้มีรหัสของมันคือบุคคนที่มาจากแอตแลนติสที่จะรู้รหัสนี้ จุดที่เป็นเกลียวคลื่นพลังงานคริสตัล (crystal vortex) ในรัฐ Arkansas 
เพราะว่าคลื่นพลังงานระลอกแรกนี้จะเกิดขึ้นที่นั่น และจะไปกระตุ้นให้จุดอื่นๆตื่นขึ้นมาด้วย 
โดยเริ่มต้นที่จุดศุนย์กลางของเกลียวคลื่นพลังงานคริสตัลนี้ แล้วแผ่ออกไปเรื่อยๆตามแนวรัศมี 

แล้วจากนั้น พวกมันจะไปชาร์จพลังงานเข้าไปใน “โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ 144 ของโลก” (the 144 Grid) 
จนทำให้โครงข่ายพลังงาน 144 นี้ เพิ่มศักยภาพการทำงานขึ้นมาเป็น 92% 
และมันจะไปปลุกให้และไปใส่รหัสให้เหล่า Crysto-Golden Sun Disc ทั้งหลาย
ที่อยู่ในรัฐ Arkansas และที่กระจายอยู่ทั่วโลกทั้งหมด 12 จุด ตื่นขึ้นมาด้วย 

มีพวกคุณหลายคนที่เป็น “ผู้ถือรหัสของพิมพ์เขียวแห่งการเลื่อนระดับขึ้น” 
(Code carrier of the Ascension blueprint) ซึ่งในวันที่คริสตัลเหล่านี้จะตื่นขึ้น 
พวกคุณก็จะถูกเรียกให้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ในฐานะที่เป็นพันธะสัญญาดั้งเดิมตั้งแต่ครั้งบรรพกาลของพวกคุณ 
ในฐานะที่มันเป็นคำมั่นสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ ที่ถึงเวลาจะต้องปฏิบัติตามแล้ว 

ซึ่งพวกคุณหลายคนก็ได้ไปอยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนก็กำลังถูกเรียกให้เข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น
ท่ามกลางเกลียวคลื่นพลังงานคริสตัลไลน์อันนี้ ซึ่งมันจะมีพลานุภาพเต็มที่ในปี 2012

เพราะอย่างนี้การที่พวกเราต้องมาทำมันเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง  วัสดุที่หาไม่อยากแต่ใช้แทนกันได้จึงเป็นการไม่ลำบากในการจะประดิษฐแต่ได้ผลจิรงตอนนี้ ผลที่ได้ ๑.รักษาโรค  ๒.ร่างกายแข็งแรง ๓.ไม่แก่เร็ว ๔. สายตาดีขึ้น ๕.นอนน้อยแต่ไม่เพีรย ๖.นั่งสมาธิดีขึ้น ๗.รับพลังคิรลตัลและพลังปราณมโนได้เต็มที ๘.เพีมการสื่อสานผ่านโทรจิตได้อย่างรวดเร็ว ๙.ยกระดับมิติเลือนได้เร็วกว่า ๑๐.ย้อนอดีตและอนาคตให้เห็น(โดยเฉพราะผู้ปัฎฎิบัตนั่งสมาธิประจำ)  

ออลืมอธิบายภาพ...เราจะสังเกตุเห็นภาพบนท้องฟ้าตอนนี้แสงที่ปรากฎณ์จะเป็นภาพสามเหลียมปิรามิดทั้งหัวคว่ำและหงายเป็นเส้นแสงบ้าง เพราะว่าประตูมิติแห่งอนาคตมันไม่ได้เป็นรูปวงกลมแล้วแต่มันเป็นรูปสามเหลียมปิรามิดแล้วแสงที่ออกมาจากการสท้อนของคิรสตัลแพลตินั่มที่มีอยู่ใต้โลกที่กำลังจะโผ่ลขึ้นในเร็วๆนี้ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมของโลกและชาวแอตแลนติสที่มีหน้าที่มาสานต่อในยุคนี้ผู้ที่ถือรหัสมาทุกคน  และจะต้องมาบอกกับชาวโลกและผู้ที่ต้องมาแก้ไขในเหตุการณ์นี้   ประตูมิติในช่วงนี้จะเปิดปล่อยขึ้นโดยเฉพราะวันสำคัญๆอย่างเช่นที่ผ่านมาวันลอยกะทงประตูมิติเปิดระว่างดวงจันทร์ภาพที่เราถ่ายได้นั้นเองโปรดสังเกตุให้ดีๆ ถ้าโครนั่งสมาธิและแผ่ความรักไปในจักรวาลในเวลานั้นจะเห็นสีงที่เราไม่เคยเห็นและรับรู้ด้วยญาณทันที่เช่นจะมีอาการ ที่หน้าผากเหมือนมีอะไรดูดเข้าดูดออก  ศีรษะเหมือนมีอะไรลงมาทะลุลงไป  บ้างคนอาจจะรับรู้แค่ขนหัวลุกขนแขนลุกถ้ารับพลังไม่ได้พอเพราะการที่เราจะรับพลังได้ดีนั้นเราต้องมี่พลังจิตพอที่จะดึงพลังงานนั้นลงมาให้ได้ด้วย เหตุผลนี้ที่ทุกคนจะรับได้ไม่เหมือนกัน  แต่การที่เราสร้างปิรามิดและคิรลตัลจำลองนี้ขึ้นมาจะช่วยให้เราเข้าถึงได้เร็วขึ้นเหมือนไปทางลัดก็จะเร็วขึ้นเป็นธรรมดา....ขอจบเท่านี้ก่อนนะคะหวังว่าคุณ ชนิดา และคุณรมภ์รวินท์ คงพอเข้าใจนะคะอยากให้ย้อนกับไปอ่านกระทู้ที่ ๒๗-๓๔ อีกครั้งคงจะเข้าใจง่ายกว่านะคะถ้ามีอะไรก็ถามมาอีกนะคะจะตอบได้เท่าที่รู้คะ  (โคดาฟิส)

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ

คุณ โซบิเดย์ เพราะจริงๆเรื่องเหล่านี้

เป็นความรู้่ค่อนข้างใหม่และมีศัพท์แปลกๆ

ที่ชวนฉงนสำหรับผู้อ่านหลายๆท่าน

ชนิดาก็เลยอยากให้คุณ โซบิเดย์

ช่วยอธิบายจากความเข้าใจของคุณเอง

จะได้ทำให้ผู้อ่าน รับรู้และทำความเข้าใจ

ข้อมูลได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง

เพราะบางท่านเห็น กระทู้ยาวๆ

ก็ไม่อ่านก็มี ทั้งๆที่มีประโยชน์มากๆ....

งั้นมาถามต่อดีกว่า อิอิ

คุณโซบิเดย์ คิดว่า หลังจากที่

คริสตัลแม็กซ์ ที่ Arkansas ได้รับ

การกระตุ้นแล้ว ตัวเราเองจะมี

การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพไปอย่างไรบ้าง

หรือน่าจะมีอาการที่น่าสังเกตอย่างไรบ้าง

หลังจากนี้

ส่วนการรับรู้ทางจิต น่าจะชัดเจนกว่า

อย่างที่คุณ โซบิเดย์ อธิบายมา....

แต่เมื่อวานชนิดาก็นั่งสมาธิตามเวลา

ที่ท่านมหาเทพทั้งหลายได้แจ้งไว้

ร่วมกับชาวแสงสว่างต่างๆทั่วโลก

ที่รวมพลังกันนั่งสมาธิในเวลาเดียวกัน

แต่ชนิดาสัมผัสอะไรไม่ได้ชัดๆหรอกค่ะ

รู้สึกแต่เพียงบริเวณก้น ขา และเท้า

ที่ติดกับพื้น มีความรู้สึกเหมือนไฟดูดเล็กๆ

(อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน)

แต่เท่าที่สังเกตุรู้สึกว่า ตั้งแต่เมื่อวาน

รู้สึกจิตเบาๆขึ้น นึกอยากจะ

"ร้องเพลง"ทั้งวันเลย ... อิอิ...

ดวงจันทร์ก็ดูแสงสวยแจ่ม

และกลมเต็ม น่ามอง มั่กๆ...

ป.ล. ข้อมูลเหล่านี้ ไม่ใช่ข้อมูล

สำหรับคนทุกคนนะคะ ถ้าอ่านแล้ว

คิดว่าไม่ใช่แนวของตัวเอง

ก็อ่านแล้ว จง "วาง"ค่ะ...

อย่าไป"ยึด"ไว้ให้มัน"ทุกข์"

เพราะ สัจธรรมที่ทุกคนควรตระหนัก

ก็คือ อนิจัง ทุกขัง และ อนัตตา ...

และเหนือสิ่งอื่นใด การให้ทาน

รักษาศีลและ ทำสมาธิ อยู่เป็นนิจ

มิเคยให้โทษแก่ผู้ใด มีแต่ให้

คุณประโยชน์กับทุกๆท่านค่ะ สาธุ

 คุณโซบิเดย์ คิดว่า หลังจากที่

คริสตัลแม็กซ์ ที่ Arkansas ได้รับ

การกระตุ้นแล้ว ตัวเราเองจะมี

การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพไปอย่างไรบ้าง

หรือน่าจะมีอาการที่น่าสังเกตอย่างไรบ้าง

หลังจากนี้.............................

การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ

 มีผลทางความรู้สึกก่อน ตามมาด้านจิตใจ

ใจเราจะนีงมากขึ้นจิตไม่แว่งอีกต่อไป

 เกิดความสุขทางใจตามมาด้วยทางกาย

คือกายเบาขึ้นการเจ็บป่วยน้อยลง

กำลังมีมากขึ้นทำงานไม่เหนื่อยเร็ว

เพราะอย่าลืมว่าคนในยุคนั้น

จะแก่ช้ามากอายุจะยืนมากขึ้น

สภาวะจิตจะสมบรูณ์

คนจะยกระดับจิตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ในช่วงนี้เรากำลังเรีมรับพลังงาน

ที่กำลังไหลลงมาเหมือนเตียมตัวชาร์แบตอยู่

จนกว่าพลังงานจะเต็มและสมบรูณ์

เราจะได้พลังอย่างสมบรูณ์ต่อเมือเราทำสมาธิ

พลังจักรกะเราจะฟื้นและสมบรูณ์ dna

จะถูกกระตุ้นไปด้วยน้ำในร่างกายของเรา

จะมีโมเรกุลที่สวยงามความสมบรูณ์แบบ

จะมากยีงขึ้นโคลงสร้างเราจะเรีมเปลียนไป

ในทางที่ดีขึ้นสวยขึ้น

..เราจะรู้สึกได้อย่างไร??..  

ให้ใช้จิตจับในสมาธิว่ามันมีพลังงานไฟฟ้า

ของสนามแม่เหล็กของคริลตัลแมกช์

ลงมาที่ตัวหรือเปล่าการที่พลังลงเราจะรู้สึก

ได้เหมือนมีไฟฟ้าวีงลงปลายแขนและปลายเท้า

เหมือนมีอะไรตอดๆบ้างครั้ง

นิ้วมือนิ้วเท้าจะกระดุกเล็กน้อย

ถ้าคนที่สมาธิดีจะรู้ว่ามันมีพลังงาน

ลงมากดทับเบาๆเพราะพลังงาน

จะมีน้ำหนักเหมือนกันแค่เรามอง

ด้วยตาเปล่าไม่เห็นจึงจำเป็นต้อง

ใช่จิตหรือตาที่สามมองเท่านั้นจึงจะเห็น

การเห็นเราจะเห็นพลังงานลงมา

เป็นลำแสงแล้วแต่เราจะอยู่ในช่วงไหน

บ้างครั้งเราจะมองเห็นเป็นวงกลมลงมาบ้างคลื่นความถี่

ลงมาเป็นเกียวบ้างคลื่นลงมาเป็นเส้นๆ

บ้างครั้งคลื่นพลังจะมีคลืนแห่งพลังความรัก

หรือพลังเทพรวมด้วยถ้าบุคคนนั้น

มีความดีจิตใจดีมีแต่ความรักพลังเหล่านี้

จะลงมารวมด้วยเสมอเราจะเห็นพลังนี้

เป็นสีเหลืองทองหรือสีขาวที่สว่างมากนั้นคือ

พลังแห่งเทพและพลังงานบุญของเราเอง

ดังนั้นทุกคนจึงรับพลังต่างกันออกไป

ตามการปัฎฎิบัตของแต่ละคน

คนที่ฝึกพลังจิตรวมด้วยจะสามารถดึงพลังงาน

จักรวาลมาใช่ได้มากกว่า...

ถ้าเรารู้จักดึงพลังงานมาใช่ได้...อย่างได้ผล?

เช่นเมือเราตั่งจิตนั่งรับพลังงานนั้นแล้ว

ให้เอามือนั้นละจี้ที่จุดเราเจ็บหรือมีปัญหา

มันจะลดความเจ็บป่วยนั้นลง

ให้ดึงพลังงานมากระตุ้นdnaของเราให้ขยายตัวและแบ่งเซลล์ของdnaให้มากขึ้นมากขึ้นจนเกิดเป็นคู่สายมากขึ้นจนกว่าdnaของเราจะกลับมาเป็น๑๒คู่สายในความสมบรณ์ของมันในปีหน้าที่จะถึง ให้ใช่พลังจิตรวมด้วยในการปัฎฎิบัตกระตุ้นจักรกะให้มากการที่จักรกะทำงานร่างกายเราจะมีพลังมากมันจะส่งผลสะท้อนให้เรามีออร่าและเปล่งรัศมีออกมาในรูปร่างหน้าตาผลคือ บุญที่ได้จากการปัฎฎิบัตของเรานั้นเองและส่งผลให้แก่คนที่เรารักด้วย(รักไม่มีวันตายอย่างไงละ)

ขอบคุณมั่กๆๆๆๆ สำหรับ

คำตอบที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย

โอ้ววว...สนุกเลยล่ะทีนี้

ยิ่งเป็นคนชอบถามอยู่ด้วย

แล้วมีคนใจดีมาคอยตอบแบบนี้่ล่ะก็...

เข้าทางชนิดาเล๊ย...

คุณ โซบิเดย์ น่ารักที่สุ๊ดดดด...

เอาใจไปเลยเต็มๆ...อิอิ...

......................................................

งั้นมาถามต่อ...ดีกว่า

ให้ใช้พลังจิตร่วมด้วย ในการปฎิบัติ

กระตุ้นจักระให้มาก การที่จักระทำงาน

ร่างกายเราจะมีพลังมาก มันจะส่งผล

สะท้อนให้เรามีออร่าและเปล่งรัศมี

ออกมาในรูปร่างหน้าตา

ผลคือ บุญที่ได้จากการปฎิบัติ

ของเรานั้นเอง และส่งผลให้แก่

คนที่เรารักด้วย(รักไม่ มีวันตายอย่างไงละ)

.......................................................

การกระตุ้นจักระที่คุณ โซบิเดย์

พูดถึงนี้ คือ การกระตุ้นในแบบ

ของพลังจักรวาล....

(ที่สอนโดย คุณย่า เยาวเรศ)ใช่หรือไม่

หรือว่า กำหนดจิตที่จักระ7

(บริเวณกลางกระหม่อม)

เพื่อรับพลังก็ใช้ได้แล้ว

หรือ การฝึกสมาธิในแบบที่

เราๆฝึกอยู่ทุกวัน ตามวิธีที่ตัวเองถนัด

ก็สามารถรับพลังนั้นมาได้เต็มๆอยู่แล้ว

ใช่หรือไม่ ....

คือตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 21-12-12

ก็นั่งสมาธิเก็บชั่วโมงบิน

เพื่อสะสมพลังงานในตัว

ไว้ให้มากที่สุด อะไรประมาณนั่นป่ะจ๊า...

.....................................................

อนุโมทนาล่วงหน้าค่ะคุณ โซบิเดย์

 การกระตุ้นจักระที่คุณ โซบิเดย์

พูดถึงนี้ คือ การกระตุ้นในแบบ

ของพลังจักรวาล....

(ที่สอนโดย คุณย่า เยาวเรศ)ใช่หรือไม่

หรือว่า กำหนดจิตที่จักระ7

(บริเวณกลางกระหม่อม)

เพื่อรับพลังก็ใช้ได้แล้ว

หรือ การฝึกสมาธิในแบบที่

เราๆฝึกอยู่ทุกวัน ตามวิธีที่ตัวเองถนัด

ก็สามารถรับพลังนั้นมาได้เต็มๆอยู่แล้ว

ใช่หรือไม่ ....

ขอตอบตรงนี้ก่อนนะ การที่เราจะผึกสมาธิเราไม่รู้ว่าใครฝึกอย่างไรแล้วได้คงต้องตามจริดของแต่ละคน เหมือนคนปรุงอาหารรสชาติก็ต่างกันไปแต่ออกมาถูกปากก็ต่างกันไปต่างคนต่างทำแต่อาหารแบบเดียวกันข้าวผัดก็ข้าวผัดเหมือนกันคือจุดมุงหมายเดียวกันแต่คนละคูรความรู้จึงต่างกันไป  อ้าวเกียบนอกเรื่องแล้วเรา.... สรุปตามความถนัดคะผสมผสานก็ได้คะคืออะไรที่ดีที่สุดแล้วเราทำได้ไม่ขัดกับการปฎัฎิบัตและรู้สึกได้ว่าดีก็ทำไปคะ   แต่ที่โซบิเดย์ทำอยู่ก็คือ การละมาดแล้วอ่านดุอาต่อจากนั้นก็ชิเก็ช(ถ้าพทุธก็สวดมนต์ไหว้พระนั้นเองชิเก็ชก็คือการภาวนาในจิตคะ)ภาวนาไปเลื่อยๆจนถึงความเป็นสมาธิแล้วกำหนดจิตพลังแห่งความดีความรักพลังที่ดีแล้วขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้ส่งพลังบริสุทธ์ลงมาในการที่เราจะได้ปฎัฎิบัตด้วยพลังแห่งความดีสืบต่อไป.....เมื่อจิตเราถึงแล้วเราควรกำหนดจิตดึงพลังเส้นแสงและพลังจักรวาลลงมาไว้ที่ศีรษะแล้วกำหนดให้มันไหลลงไปในช่องกลางลำตัวแล้วกำหนดให้มันไหลลงไปตามมือตามแขนและลงไปที่ปลายเท้าจนเรารู้สึกว่ามันออกไปถึงปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ความรู้สึกได้คือเหมือนไฟฟ้ามันวีงชาๆเล็กน้อย แต่ถ้าทำบ่อยๆก็จะรุ้สึกว่าพลังนี้มันพุ่งออกเป็นรูตามร่างกายเช่นทางหน้าอก หน้าผาก ตา ศีรษะ กลางท้อง กลางหลัง และฝ่ามือฝ่าเท้า  ทั้ง๗จักรกะก็จะทะลวงออก เหมือนตัวเราถูกเส้นแสงยิงทั้งตัว จะเห็นตัวเราเป็นรูและมีเส้นแสงพุ่งออกมา บ้างครั้งก็อาจจะเจอการสั่นสะเทือนของนิวเคีลยสในร่า่งกาย เป็นตัวกระตุ้นให้โมเลกุลในร่างกายเราทำงานได้ดีขึ้น เราจะเกิดความร้อนในร่างกายเราเพีมมากขึ้น นั้นคือเลือดลมเรากำลังทำงานได้ดีขึ้น ถ้าเรานั่งอยู่ในปิรามิดเราจะเพีมประสิทธ์ภาพในการทำงานมากยีงขึ้น ถือว่าเป็นทางลัดได้ยอมเยื่ยมมากๆ  พลังที่จะเข้ามาสู่ตัวเราก็คือปราณมโนธาตุ และธาตุว่าง และตัวรู้ เมือเราปฎัฎิบัตมากขึ้นเราก็สามารถใช่พลังนี้ไปในทางสร้างสรรด้วยจิตใจเราก็จะเป็นสุขโดยไม่ทุกข์กับสีงที่อยู่ตรงหน้าเรามีแต่ความรักความเมตตา...เอาไว้แค่นี้ก่อนนะคะ นี้คือการที่เราทำและเกิดผลตรงนี้แต่บ้างท่านอาจจะทำไม่เหมือนกันก็ได้ ก็ขอให้ทำตามที่ตัวเองถนัดก็แล้วกันถือว่าเป็นการบอกเล่ากันเท่านั้น อย่าพึ้งเบื่อก็แล้วกัน...กระทู้ต่อไปเดียวจะมาเล่าเรื่อง  ธาตุ และการฝึกจิตให้สุขและพ้นทุกข์ การบังคับพลัง...........???ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะคะ.............

 ภาพสดๆพลังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

 สด

ภาพดวงธรรมเยอะ....

มั่กๆๆๆเลยคุณ โซบิเดย์

แล้วก็ขอบคุณสำหรัีบคำตอบนะคะ

เดี๋ยวขอขมวดก่อนนะ ก่อนที่จะไป

ประเด็นอื่นๆ จริงๆจะว่าไปแล้ว

ในสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้ก็ไม่ได้ไกล

จากสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลเคยบอก

พวกเราไว้เท่าไหร่หรอกคะ

แต่บางครั้งที่ชนิดาและคุณ โซบิเดย์

ได้นำข้อมูลจากแหล่งอื่นๆมาเสนอบ่อยๆ

ก็เพื่อต้องการให้ทุกท่านเห็นว่า

องค์ความรู้ของจักรวาลนี้

ไม่ว่าจะถ่ายทอดมาจากเบื้องบน

พระองค์ใดก็ตาม ก็มักจะมีเนื้อหา

ใกล้เคียงกันทั้งสิ้น....

อย่างข้อความจากต่างมิติ

ที่ได้รับการสื่อสารจากมหาเทพต่างๆ

รวมถึงผู้ทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวทั้งหลาย

ก็สื่อสารกับชาวตะวันตกในเรื่องเดียวกัน

อยู่บ่อยๆก็คือ เรื่องพีระมิด การทำสมาธิ

การคิดบวก เรื่องการให้ความรัก

โดยปราศจากเงื่อนไข ฯลฯ... อะไรประมาณนี้แหล่ะ

...................................................

ส่วนการทำสมาธิที่คุณโซบิเดย์ แนะนำมา

ชนิดาว่า การฝึกสมาธิแสงสว่าง

ตามแบบฉบับ ท่านดร.อาจอง

ก็ครอบคลุมอยู่แล้วเนอะ...

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ คุณ โซบิเดย์

ขอขอบคุณ  และอนุโมทนาบุญกับคุณ โซบิเดย์ 

และคุณ ชนิดา ด้วยค่ะ

มีทั้งปุจฉา  วิสัจฉนา  ให้ผู้อ่านได้เข้าใจ

สาธุ  สาธุ

คุณโซบิเดย์

นี้เป็นความบังเอิญรึเปล่าค่ะ

เพื่อนแนะนำให้รู้จักบ้านสวน 4 ต.ค 53

ได้ไปบ้านสวน 11 พ.ย 54(2010)

11/ 12 /2010

รหัสเวป  001122

ครบรอบ  1 ปี  11 พ.ย 54

11 / 12 / 2011

เดือนไทย 

แรม 1 คํ่า เดือน 12

เดือนฝรั่ง

11 / 12 / 2011

เป็นความบังเอิญรึเปล่าค่ะ

ช่วยตอบช่วยวิเคราะห์

*****************

ให้หายสงสัยหน่อยเถอะค่ะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

(น้องชนิดาด้วยนะจ๊ะ)

ว่าทำไมพี่อ๊อดมีแต่ตัวเลขแบบนี้นะค่ะ

 คุณกมลลักษณ์ คะ  ไม่มีความบังเอิญหลอกคะ

การที่เราได้เจอเลขแบบนี้บ่อยเป็นเพราะระบบจัดให้

ใครที่มีอะไรผูกพ้นธ์กับสีงใดผลยอมเกิด

ออกมาแบบนั้น ระบบจะทำให้เราเจอสีงนั้น

แค่เราไม่ได้สังเกตุมันเท่านั้น

เหมือนการที่เราเป็นแฟนกัน

อย่างไรก็ไม่พ้นกันวันยังค่ำ

เรามีบุญที่ได้เจอบ้านสวนเพราะบุญเราสัมพันธ์เราจึงได้มาเจอและพบทางนำณ.ที่นี้จากอาจารย์แม่

ที่เป็นพลังดึงดูดพวกเรามารวมกันณ.ที่นี้

และได้มารวมบุญกัน มันไม่ไช่ความบังเอิญ

แต่มันเป็นความตั่งใจ

แค่ว่าเราตีโจกย์มันแตกหรือเป่ลาเท่านั้นเอง

    แต่ถ้าให้วิเคราะห์...แล้ว

จากการที่ได้อ่านมาเลขตองเป็นเลขที่มีพลังมากกว่าเลขตัวเดียวเลขตองคือดับเบิ้ลๆพลังจึงมากกว่า  ช่วงเวลาที่เราเจอเลขตองพวกนี้จะเสริมพลังให้สีงนั้นมีแรงจะเกิดผลได้เร็วยีงขึ้น...แต่ถ้าเราเจอเลขที่เป็นผลลบยีงเป็นตองแล้วมันจะทำให้กำลังลบแรงขึ้น  อย่างเช่นเลขการทำนายของคนจีนหรือการทำนายของคนทั่วไป  เช่นเลขที่ดีคือ เลขมงคล  ๕ ๙ เลขเสริม ๒ ๔ ๖  เลขไม่ดี ๓ ๗ ๐ ๑ แต่ละแขนงก็ต่างกันไปแล้วแต่   แต่ที่รู้ๆระบบทำงานให้คุณมาถึงจุดนี้ก็ต้องดูกันต่อไปคะ

วันที่ที่เป็นเลขตองเหล่านี้ (01/01/01 ถึง 12/12/12) 
ได้ถูกกำหนดไว้อย่างพอเหมาะพอดีแล้วว่า
ให้เป็นวันที่ที่จะมีการกระตุ้นการทำงาน
ของโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลก
ในส่วนที่เป็นรูปทรง 5 เหลี่ยม 12 ด้าน 
(12 geo-pentagonal) 

 ภาพจากยะลา

 ยะลา

 ปิรามิดพระอาจารย์รัตนนำมาติดเพีอให้เกิดพลังงานปราณและมโนเร็วขึ้น

 วิธีติด

 การติดตั่ง

ขออนุโมทนากับภาพจากคุณโซบิเดย์ด้วยนะคะ

นำพีระมิดมาวางรอบ คล้ายๆธรรมจักร

คงจะมีพลังดึงดูดมากมายมหาศาลเลยนะคะ

ว่างๆอยากลองนำกระดาษมาทำบ้างจังค่ะ

หวังว่าคงใช้แทนกันได้นะคะ

*****************************

ประมาณนี้รึป่าวค๊าพี่อ๊อด

(ก๊อปมาจากกระทู้ เผยความลับ ค่ะ

จากคอมเม้นของพี่ชนิดาค่ะ)

ตอนที่ 6 เลข 11.11 หมายถึงอะไร ?




คงมีหลายๆคน ที่มีโอกาส

เห็นหมายเลข 11.11 อยู่บ่อยครั้ง

เเต่ก็ไม่ใช่ทุกคน

ที่จะได้เห็นเลขนี้

ความหมายของเลขนี้

เกี่ยวกับความทรงจำในสมอง

เเละเกี่ยวเนื่องกับปี 2012


เพราะเป็นการเริ่มต้นใหม่

ของ การตื่นทางจิตวิญญาณ

ของทั้งสากลจักรวาล

วันเริ่มต้นการเดินทาง

ของจิตวิญญาณเพื่อเข้าสู่ปี 2012

คือ วันที่ 1/1/11 เเละ 11/11/11 

คนที่เห็นหมายเลข 11.11

มักจะเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6,

รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปฏิทินมายัน

ปี 2012 เกมส์ อิลูมิเนติ, 

เเละเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ

เหนือปรากฎการณ์ธรรมชาิติเป็นอย่างดี 

การที่คนธรรมดา

เห็นหมายเลข 11.11

เหมือนกับ คำใบ้

เเละ การติดต่อสื่อสารจากพระเจ้า

หรือ เทพเทวานั้นเอง 

หรือ การเรียกร้องความสนใจ

ให้เราได้รับรู้ว่า

ถึงเวลาที่เราต้องติดต่อ

กับจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์เเล้วนั้นเอง 

เเล้วหมายเลขนี้ คือ อะไร? 

หมายเลขนี้ไม่ว่าจะเห็นที่ใด

ไม่ว่าจะเป็นเวลาในนาฬิกา,

ปฏิทิน และ สิ่งรอบๆตัว 

หมายเลข 11 คือ

หมายถึง การรวมกันเป็นหนึ่ง

เป็น สัญลักษณ์ เเห่ง เเสงสว่าง

ตัวเเทนของ เทพเจ้า

หรือ พระเจ้านั้นเอง 

ดังนั้น ผู้ใดก็ตาม

ที่เห็น หมายเลขดังกล่าว

อยู่เป็นประจำ หมายความว่า 

ร่างกายของท่านกำลังปรับสภาวะ

คืนสู่ ความบริสุทธิ์เเห่งจิตวิญญาณ 

หรือ ที่เรียกว่า ปรับสภาวะ DNA

เตรียมเข้าสู่ยุคเเห่งโลกใหม่

เชื่อมโยงตนเองเข้าสู่

จุดเดียวกับพระเจ้า 

ผู้ใดก็ตามที่เห็นหมายเลข

11.11, 1111, 1234, 22.22

เเละเลขเรียงกันเหล่านี้ 

หมายความว่า ถึงเวลา

ที่คุณกำลังจะรู้จักตัวตนที่เเท้จริง

ของตนเองเสียที 

นอกจากนี้ หมายเลข 1

เมื่อเทียบกับตัวอักษรโบราณ

อ่านว่า isa แปลว่า "อดทน" 

ดังนั้นคนบางคนไม่ต้อง

เเปลกใจว่าทำไมถึงเห็น

หมายเลข 11.11 อยู่บ่อยครั้ง

เมื่อคุณกำลังท้อใจ

และ ต้องการกำลังใจ

**********************************

ธาตุหลักทั้ง 4

ดิน

• ตำราตะวันตก

จากการตีความตามตำราเวทย์ของยุโรป

ดินเป็นธาตุสถานะแข็ง สัญลักษณ์แห่งการก่อตั้ง

เป็นธาตุเริ่มต้นในการกำเนิดทุกสิ่ง เสมือนแม่ผู้ให้ทั้งอาหาร

ที่อยู่ และสิ่งต่างๆ แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง เป็นฝ่ายที่รับรอง

คอบโอบอุ้มสิ่งต่างๆ สามารถสื่อถึง

ความมั่นคง พละกำลัง ความอุดมสมบูรณ์และการเจริญเติบโต

ทั้งด้านการงานและการเงินด้วย

สัญลักษณ์ของดิน เป็น สามเหลี่ยมคว่ำมีขีดทับกลางสีเขียว

ซึ่งเป็นสีของพืชที่ปกคลุมพื้นดิน (หรือสี่เหลี่ยมสีเหลือง แล้วแต่ตำรา)

ทิศของธาตุดินคือทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศของฤดูหนาว เวลาค่ำ

และวัยอาวุโส ดินมีคุณสมบัติแห้ง (เหมือนธาตุไฟ)

และเย็น (เหมือนธาตุน้ำ

) ธาตุดินจึงกลายเป็นธาตุขั้วตรงข้ามของธาตุลม

พลังแห่งดินถูกส่งผ่านต้นไม้ ก้อนหิน และเหล่าสรรพสัตว์

ซึ่งมีความใกล้ชิดกับธาตุดินมาก

• ตำราตะวันออก

ทางพุทธศาสนา ดิน ถูกใช้สื่อเป็นตัวแทนในการอธิบาย

เรื่องขันธ์ 5 ว่ากายของเราในส่วนที่กล้ามเนื้อ กระดูก

และสิ่งอื่นๆที่เป็นของแข็ง ซึ่งไม่มีความคงทนถาวร

ทุกกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ สำหรับชาวฮินดู

ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องดินเช่นกัน เทพประจำธาตุดินคือ ภูมิเทวี หรือพระแม่ธรณี

ตามตำราจีน ธาตุดินเป็น 1 ใน 5 ธาตุหลักของจีน

มีสีประจำเป็นสีเหลือง กลายเป็นธาตุกลางของธาตุอื่นๆ

ประจำจุดศูนย์กลางแห่งสวรรค์ซึ่งเป็นที่

ของมังกรทองฮวงหลงตามตำรา อสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 

ซึ่งเป็นธาตุที่สนับสนุนธาตุโลหะ เอาชนะธาตุน้ำได้

กำเนิดจากธาตุไฟ และพ่ายแพ้ต่อธาตุไม้

ซึ่งทางโหราศาสตร์ของจีน ก็นำเรื่องธาตุมา

ใช้เช่นเดียวกับทางตะวันตก ดินเป็นตัวแทนของดาวเสาร์

ดังนั้นวันเสาร์ในภาษาญี่ปุ่นและภาษาเกาหลี จึงเป็นวันของดิน

หรือ โดะโยบิ 土曜日:どようび และ โทโยอิล 토요일

 (โดยที่ โดะ กับ โท มีความหมายว่าดิน)

ในตำราทางการแพทย์ของจีน ธาตุดินเกี่ยวข้องรสหวาน

การดมกลิ่น นิ้วชี้ โดยมีอวัยวะภายในหยิน คือ

ม้าม ตับอ่อน และหยางคือ

ท้อง ตามตำราของญี่ปุ่นธาตุดินก็มีคุณสมบัติคล้ายคลึง

กับตำราตะวันตก และ ความรู้เกี่ยวกับขันธ์ 5 ด้วย

[แก้]

 

โอ้โห .. สุดยอดมากเลย

ทั้งภาพทั้งข้อมูล

ขออนุโมทนากับคุณโชบิเดย์

และพี่ชนิดา รวมถึงทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ

 น้ำ

• ตำราตะวันตก

น้ำเป็นธาตุมีสถานะเหลว และเป็นธาตุที่สำคัญอีกธาตุหนึ่งที่ไม่แพ้กับธาตุดิน สิ่งมีชีวิตจะขาดน้ำไม่ได้ น้ำเป็นสิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตให้กับทุกสิ่ง ธาตุน้ำกลายเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอารมณ์รัก น้ำยังกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการรักษา การชำระล้างสิ่งชั่วร้ายและสิ่งสกปรกด้วย

สัญลักษณ์ของน้ำ เป็น สามเหลี่ยมคว่ำสีฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งของน้ำ น้ำเป็นธาตุประจำทิศตะวันตก ทิศแห่งการเพาะปลูกและการผลิต จึงเชื่อมโยงกับฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงที่เกษตรกรชาวยุโรปเก็บเกี่ยวผลิตผลต่างๆ นอกจากนั้นทิศนี้ยังเป็นทิศแห่งเวลาบ่าย และช่วงอายุวัยเจริญพันธุ์ (โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์) ด้วย น้ำมีคุณสมบัติชื้น (เหมือนธาตุลม) และเย็น (เหมือนธาตุดิน) ธาตุน้ำจึงตรงข้ามกับธาตุไฟ พลังแห่งน้ำถูกส่งผ่านสายน้ำและเปลือกหอย

ทางด้านโหราศาสตร์ ราศีกรกฎ ราศีพฤศจิก และ ราศีมีน เป็นราศีธาตุน้ำ ซึ่งเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว เปลี่ยนแปลงง่าย คล้ายลักษณะการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของสายน้ำ นอกจากนั้นน้ำเป็นธาตุเพศหญิง เช่นเดียวกับธาตุดินด้วย 3 ราศีดังกล่าวจึงมีลักษณะนิสัยคล้ายเพศหญิง สำหรับไพ่ทาโร่ต์ ถ้วยสีทองถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุน้ำอีกด้วย

• ตำราตะวันออก

น้ำเป็น 1 ในธาตุที่ใช้ในเรื่องขันธ์ 5 ของธาตุพุทธศาสนาเช่นกัน น้ำสื่อถึงของเหลวทุกชนิดในร่างกาย ตั้งแต่เลือดไปจนถึงน้ำย่อย ตามความเชื่อของชาวฮินดู น้ำเป็น 1 ในธาตุหลักเช่นเดียวกัน

ตามตำราจีน ธาตุน้ำเป็น 1 ใน 5 ธาตุหลักของจีน สีประจำธาตุเป็นสีดำ และเกี่ยวข้องกับทิศเหนือซึ่งเป็นทิศของ เต่าเฉวียนอู่ 1 อสูรในอสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 น้ำเป็นธาตุสนับสนุนธาตุไม้ เอาชนะธาตุไฟ กำเนิดจากธาตุโลหะ และพ่ายแพ้ต่อธาตุดิน และเช่นเดียวกันธาตุน้ำถูกใช้เป็นลักษณะนิสัยบ่งบอกตามโหราศาสตร์ขงอชาวจีนด้วย น้ำเป็นสัญลักษณ์ของดาวพุธ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี วันพุธแปลว่าวันแห่งน้ำ หรือ 水曜日:すいようびซุยโยบิ และ 수요일ซูโยอิล (ซึ่งคำว่า ซุย และ ซู แปลว่าน้ำ) น้ำเกี่ยวข้องกับรสเค็ม การรับรสชาติ นิ้วก้อย อวัยวะภายในหยินเป็นไต และแบบหยางเป็นกระเพาะปัสสาวะ ตามตำราแพทย์ของจีน ตามตำราของญี่ปุ่น น้ำ เป็นธาตุหลักสำคัญด้วยซึ่งมีความคล้ายกับตำราทางตะวันตก แต่เพิ่มลักษณะพิเศษตรงที่ ธาตุน้ำของญี่ปุ่นนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่เหล็กด้วย

 ลม

• ตำราตะวันตก

ลมเป็นธาตุที่สถานะเป็นแก็ซ ลมหรือากาศ เป็นสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์และสัตว์หลายๆชนิด อากาศเป็นสิ่งที่สำคัญถ้าขาดอากาศก็ถือว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ลมเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหว ความรู้ การสื่อสาร ดังนั้น เสียงจึงเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งที่ถูกส่งผ่านธาตุลม รวมถึงกลิ่นอีกด้วย

ลมมีสัญลักษณ์เป็นรูป สามเหลี่ยมหงายมีเส้นขีดทับตรงกลาง สีเหลือง เนื่องจากเราไม่สามารถมองเห็นลมได้ สีที่ใช้คือสีเหลือง ซึ่งเป็นสีท้องฟ้าและแสงแดด โดยที่ทิศประจำธาตุลมคือ ทิศตะวันออก ทิศแห่งการเริ่มต้น เชื่อมโยงกับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสรรพสิ่งต่างๆฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ต้นไม้เริ่มผลิดอกและใบ สัตว์ทั้งหลายตื่นจากการหลับไหลในช่วงจำศีลในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นธาตุลมจึงเป็นตัวแทนเวลาเช้า และช่วงอายุวัยเด็กด้วย ลมมีคุณสมบัติชื้น (เหมือนธาตุน้ำ) และร้อน (เหมือนธาตุไฟ) ลมจึงตรงข้ามกับธาตุดินโดยสิ้นเชิง พลังของลมถูกส่งผ่านเสียง กลิ่น หรือแม้แต่ขนนกสัตว์ตัวแทนแห่งสายลม

ราศีเมถุน ราศีตุลย์ และ ราศีกุมภ์ เป็นราศีธาตุลมตามตำราโหราศาสตร์ ตามลักษณะนิสัยของราศีดังกล่าว เป็นคนที่มีการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นคนที่ฉลาดด้วย นอกจากนั้นลมเป็นธาตุเพศชาย ซึ่งสื่อถึงลักษณะนิสัยของ 3 ราศีข้างต้นด้วย สำหรับไพ่ทาโร่ต์ ดาบกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำธาตุลม

• ตำราตะวันออก

ทางพุทธศาสนา ลมเป็น 1 ใน 4 ของร่างกายตามนิยามเรื่อง กาย ของขันธ์ 5 คือลมของร่างกายนั้น คือลมหายใจเข้าออกนั่นเอง รวมทั้งทางด้านตำราของฮินดูลมก็เป็นเทพสำคัญอีกองค์หนึ่ง ซึ่งรู้จักกันในนามของ วายุ หรือ พระพาย ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดทหารเอกองค์หนึ่งของพระราม คือ หนุมาน นั่นเอง

ถึงแม้ตามตำราจีนจะไม่ได้ถือว่า ลม เป็น 1 ใน 5 ธาตุหลักของจีนก็ตาม แต่ตามเทพนิยายของจีนก็มีการพูดถึงเรื่องลมอยู่บ้าง โดยให้มังกรเป็นตัวแทนให้ธาตุลมด้วย เป็นราชาแห่งดิน ฟ้า อากาศ คอยควบคุมสภาพอากาศบนโลก แต่ตามตำราของญี่ปุ่นแล้ว นอกเหนือจาก ดิน และน้ำ แล้ว ลมกลับเป็น 1 ใน 5 ธาตุหลักซึ่งนอกจากลมจะเป็นตัวแทนของสิ่งต่างๆ ที่ถูกพูดมาตามตำราตะวันตก รวมถึงมีแนวคิดตรงกับเรื่องขันธ์ 5 ของพุทธศาสนาแล้ว ชาวญี่ปุ่นยังถือว่าลมมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศด้วยดังนั้น ลมจึงมีความเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าเช่นกัน

[แก้]

 

 ไฟ

• ตำราตะวันตก

ไฟ เป็นธาตุเดียวที่ไม่ใช่สสาร แต่มีสถานะเป็นพลังงาน เป็นทั้งผู้สร้างสรรค์และเป็นทั้งผู้ทำลาย เนื่องจากไฟสามารถสร้างแสงสว่างในยามค่ำคืน เป็นที่พึ่งพิงยามหนาว แต่ก็สามารถเผาผลาญทำลายได้เช่นกัน ไฟเป็นตัวแทนแห่งแรงขับเคลื่อน พลังงาน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นเสมือนสิ่งที่กระตุ้นให้ทุกสิ่งมีชีวิตชีวา พลังแห่งธาตุไฟส่งผ่านแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ และความร้อน ความอบอุ่นๆอื่น หรือแม้แต่ควันที่เกิดจากการเผาไหม้ด้วย

สัญลักษณ์ของไฟ เป็น สามเหลี่ยมหงายสีแดง ซึ่งเป็นสีเพลิงนั่นเอง ทิศของธาตุไฟคือทิศใต้ ซึ่งตามตำรานั้นทิศใต้เป็นทิศของความร้อน ซึ่งเกี่ยวโยงกับฤดูร้อนและเวลาเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร้อนมากที่สุด รวมถึงสื่อถึงช่วงอายุวัยรุ่นซึ่งมีพลังงานและแรงขับเคลื่อนมากพอที่จะสร้างสรรค์หรือแม้แต่ทำลายสิ่งต่างๆได้ ธาตุไฟมีคุณสมบัติแห้ง (เหมือนธาตุดิน) และร้อน (เหมือนธาตุลม) ดังนั้นธาตุไฟจึงเป็นขั้วตรงข้ามกับธาตุน้ำ

ธาตุไฟเป็นธาตุประจำ ราศีเมษ ราศีสิงห์ และ ราศีธนู ซึ่งมีลักษณะนิสัยเป็นผู้ริเริ่ม สร้างสรรค์ ความเป็นผู้นำ อารมณ์เร่าร้อน รุนแรง นอกจากนั้น 3 ราศีดังกล่าวยังมีลักษณะนิสัยเหมือนเพศชาย เพราะเนื่องจากธาตุไฟเป็นธาตุเพศชายด้วย สำหรับไพ่ทาโร่ต์ สัญลักษณ์คฑา(ไม้)เป็นตัวแทนของธาตุไฟด้วย

• ตำราตะวันออก

ไฟ เป็น 1 ในธาตุของร่างกายตามความคิดเรื่องขันธ์ 5 ของพุทธศาสนา โดยสื่อถึงพลังงานความร้อนที่มีในร่างกายของมนุษย์นั่นเอง ตามตำราฮินดูไฟก็เป็น 1 ในธาตุหลักเช่นกัน

ธาตุไฟเป็น 1 ใน 5 ธาตุหลักตามตำราจีน โดยที่มีสีประจำเป็นสีแดง ในมี จูเชว่ 1 ในอสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 เป็นอสูรประจำธาตุนี้ด้วย ธาตุไฟสนับสนุนธาตุดิน เอาชนะธาตุโลหะ กำเนิดจากธาตุไม้ และพ่ายแพ้ต่อธาตุน้ำ ไฟถูกใช้ในด้านโหราศาสตร์ตามตำราจีนเช่นกัน ไฟเป็นธาตุประจำดาวอังคาร วันอังคารของญี่ปุ่นและเกาหลีจึงมีความหมายว่า วันของไฟ หรือ คะโยบิ 火曜日:かようびและ ฮวะโยอิล 화요일 (คะ และ ฮวะ มีความหมายว่า ไฟ) ในตำราทางการแพทย์ของจีน ธาตุไฟเกี่ยวข้องรสขม การรับเสียง นิ้วกลาง โดยมีอวัยวะภายในหยิน คือ หัวใจและหยางคือ ลำไส้เล็ก ตามตำราของญี่ปุ่นธาตุไฟมีคุณสมบัติเหมือนกับตำราตะวันตก และ ความรู้เกี่ยวกับขันธ์ 5 เช่นกัน

ขอขอบคุณ  และอนุโมทนาบุญกับคุณ โซบิเดย์ 

และคุณ ชนิดา ด้วยค่ะ

สาธุ  สาธุ

ขอบคุณ คุณโซบิเดย์..จ้า

ได้อ่านข้อความของ

คุณโซบิเดย์แล้ว

อาการ..ซ่าๆขี้นไปถึงหัวเลยค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ที่ช่วยให้ความคิดกระจ่างขี้น

*******

ขอบคุณน้องหญิงอีกครั้ง

ที่นำบทความของน้องชนิดามาให้อ่าน

อีกครั้งเข้าใจขี้นมาอีกหน่อย

isa แปลว่า  อดทน

จ๊ะ...พี่จะอดทนต่อไป...จ๊ะ

555+

 พลังจิตในรูปแบบต่างๆ และการบังคับพลังจิต

Telepathy อ่าน ความคิดคนอื่นได้ และ ส่งความคิด ถึงคนอื่นได้ (รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่เคยชิน) เช่นการอ่านใจและเห็นคำพูดในความคิดคนอื่น และอาจมีการส่งคำพูดจากความคิดของตนเข้าไปในสมองผู้อื่นโดยตรง เป็นต้น 

Psychometry อ่าน ความทรงจำที่คนอื่นได้ (อ่านความทรงจำที่ฝังอยู่จากสิ่งของและสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง) โดยเฉพาะจะเห็นชัดกับความทรงจำที่ฝังแน่น เช่นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นหรือแผ่ความคิดบางอย่างออกมาอย่างรุนแรง สถานที่ที่เกิดอุบติเหตุบ่อยๆ หรือสถานที่ที่มีความนึกคิดของคนที่ฆ่าตัวตายด้วยความเศร้าอย่างรุนแรง เป็นต้น ปกติมักจะอ่านจากการ แตะ สัมผัส หรือการเพ่งความรู้สึกสัมผัส สิ่งที่ อ่าน ได้อาจจะมีทั้งภาพ เสียง หรือเป็นแรงของจิตสัมผัส 

Clairvoyance ตาทิพย์ การมองเห็นในลักษณะพิเศษเหนือประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น การมองเห็นเหตุการณ์ คน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ที่ไม่เคยไป หรือรู้จักมาก่อน เป็นต้น หรือการมองเห็นในสิ่งที่คนปกติไม่เห็นได้ เช่นสิ่งของที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด หรือสิ่งของ หรือสถานที่ที่อยู่ไกลมากๆ เป็นต้น 

Clairaudience หูทิพย์ การได้ยินในลักษณะพิเศษ เช่น การได้ยินเสียงอื่นในหัวสมอง การได้ยินคำเตือนในสมอง หรือการได้ยินจากภายนอก เช่น การแยกเสียงต่างๆออกได้อย่างชัดเจนเช่นเสียงพูดเสียงดนตรี การได้ยินเสียงที่ไกลมากๆเกินกว่าคนทั่วไปจะได้ยิน หรือเสียงที่เบามากจนแม้อาจจะเบากว่าระดับEstinoหรือจนเกือบจะเงียบ เป็นต้น 

Clairsentience, Intuition การรู้สึกสัมผัสถึงสิ่งต่างๆรอบตัว หรือสิ่งที่รับรู้ได้นอกเหนือจากประสาททั้งห้าอย่างชัดเจน เช่น การไปในโบราณสถานก็จะสัมผัสบางอย่างได้ หรือบริเวณที่เป็นสนามรบเก่าโดยไม่รู้ตัวก็จะรู้สึกอึดอัด เป็นต้น และอาจมีการรู้สึกแบบเป็นสีในจิตใจ เช่นมองเห็นบางคนก็สัมผัสความเศร้าหมองได้เป็นสีมืดๆออกมาจากคนนั้นๆ การเห็นคนร่าเริงแล้วสัมผัสเป็นสีที่สดใสออกมาจากคนนั้นๆ เป็นต้น สิ่งที่สัมผัสได้มักเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถรับรู้ หรือเป็นสิ่งที่ถูกปิดซ่อนเอาไว้ หรือสิ่งที่ถูกลืมลบเลือนไปแล้ว 

Empathy การสัมผัสความต้องการกระทำของคนอื่น หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางบวก เช่น การเข้าใจจิตใจผู้อื่นและทราบความต้องการของผู้อื่น(แต่ไม่สามารถ "อ่าน" ได้) ในทางกลับกันก็สามารถรู้ การประสงค์ร้าย หรือการโจมตีได้ด้วยการจับ คลื่นจิต ของผู้อื่นได้(เช่นระดับความรู้สึกที่ผิดไปจากปกติ อาจคล้ายกับจิตสังหารชั่ววูป) เป็นต้น บางระดับอาจจะคล้ายกับ Aura Reading ก็เป็นได้ 

 Precognition การเห็น"ก่อน" การ อ่าน อนาคตหรือเห็น ภาพฉาย ของอนาคตที่ควรจะเป็น หรือที่อาจจะกำลังเกิดขึ้น (*ขอให้ทำความเข้าใจว่าผู้ใช้พลังจิตประเภทนี้ ไม่สามารถเห็นได้ทุกรายละเอียดของอนาคต หรือสิ่งที่อยากรู้ เช่นมักจะมีคำถามจากคนทั่วไปว่า ให้อ่านอนาคตเช่นดูเลขล็อตเตอรี่ หรือทายแต้มการพนันในบ่อนพนันไม่ได้เหรอ ซึ่งขัดต่อหลักของพลังชนิดนี้) แต่ภาพที่เห็นเป็นเพียงอนาคตที่ควรจะเป็น อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้(บางที 

Psychometry ก็มองเห็นอนาคตแบบนี้ได้เหมือนกัน) ส่วนใหญ่มักจะเห็นเรื่องไม่ดีที่อาจจะเกิด มีตั้งแต่ระดับเบาบางถึงระดับแจ่มชัด เช่น การมีลางสังหรณ์ว่าวันนั้นๆจะเกิดเรื่องไม่ดี การฝันเห็นอนาคตเช่นอุบัติเหตุล่วงหน้า และความสามารถระดับสูงเช่นการ อ่าน ภาพอนาคตได้เลย(แต่มักจะ อ่าน ไม่ได้ดั่งใจ) เป็นต้น บางทีอาจอ่านอนาคตได้ไม่ชัดเจนโดยเฉพาะอนาคตของตัวผู้ใช้เอง แต่มักจะมีกลไกซ้อนในการป้องกันตัวเองเช่นการรู้โดยสัญชาติว่าต้องหลีก เลี่ยงสิ่งไหน หรือต้องไปทำอะไรในที่ไหนเมื่อไหร่ โดยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 

Psychokinesis, Telekinesis พลังยก เคลื่อนย้ายสิ่งของ หรือทำสิ่งต่างๆโดยปราศจากเงื่อนไขทางฟิสิกส์ เช่นการงอช้อน การยกสิ่งของลอยในอากาศ เป็นต้น 

Levitation การลอยตัวในอากาศได้โดยปราศจากการช่วยเหลือทางฟิสิกส์ เช่นการเหาะเหินเดินอากาศ ลอยขึ้นได้ดั่งใจ 
Teleportation มีพลังในการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือตนเองจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งโดยการแทน ที่ 
ในฉับพลัน เช่นการ วาร์ป จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งในทันที หรือการสลับที่สิ่งของโดยไม่ต้องแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายด้วยวิธีทางฟิสิกส์ หรือยกขึ้นด้วยพลังจิตแบบTelekinesis 
Invisibility มีพลังในการล่องหนหายตัว ผู้ใช้พลังนี้มีหลายประเภท โดยปกติมักเป็นผู้ที่สามารถหักเหแสงบิดเบือนการสะท้อนการมองเห็น แต่มีบางประเภทที่ลบตัวตนและจิตของตัวเองออกไปจากการสัมผัสได้ของผู้อื่นจน หมดสิ้นได้เลย 
Time Traveller ผู้มีความสามารถเกี่ยวกับเวลา หรือนักท่องเวลา อาจมีความสามารถแตกต่างกันไป เช่น ผู้มีพลังในการย้อนเวลา หนีจากปัจจุบันหรืออนาคตเพื่อกลับไปแก้ไขให้เกิดความเหมาะสมต่อตัวเองหรือ เพื่อความต้องการของตัวเอง ผู้มีพลังในการลบเวลา คล้ายกับนักย้อนเวลา สามารถลบเวลาในส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกได้ นักข้ามเวลาคือผู้ที่สามารถข้ามเวลาไปมาระหว่างคู่ขนานของอดีต อนาคต และปัจจุบันได้ ผู้มีความสามารถหยุดเวลาคือเดินทางข้ามมิติของเวลาไปบนมิติเวลาที่หยุดนิ่ง ได้ แต่การเป็นนักท่องเวลา มักไม่ก่อผลดีต่อส่วนของผลรวมของเหตุการณ์และเวลา ซึ่งมักมีคำเตือนเกี่ยวกับผู้ใช้เวลาที่ต้องระวังไว้หลายข้อ เช่นนักย้อนเวลา อาจจะทำให้เกิดช่องว่างของมิติคู่ขนานเวลา เช่นการหนีจากปัจจุบันที่มีเหตุการณ์ร้ายร่วมกับผู้อื่นกลับไปในอดีต เหตุการณ์ร้ายนั้นจะดำเนินต่อไปดังเดิมในคู่ขนานอื่น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากปราศจากผู้ที่หนีมา หรือนักลบเวลาที่อาจจะทำให้เกิดช่องว่างของมิติเวลานับไม่ถ้วน หรือนักท่องเวลารวมทั้งนักหยุดเวลาที่อาจหลงทางในเวลาจนลืมไปได้ว่า ปัจจุบันคือเวลาไหน และการใช้พลังเกี่ยวกับเวลามักก่อเกิดผลเสียต่ออายุขัยและร่างกายของผู้ใช้ เองด้วย 

 
พลังจิตอื่นๆ 

Animal Telepathy การอ่านภาษาของสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นและสามารถ สื่อจิตถึงสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้ เป็นภาษาที่คุยกันด้วยจิต (ในcaseที่รองลงมาคือสามารถสื่อจิตเป็นภาษาที่เข้าใจได้ด้วยจิตกับมนุษย์ที่ ใช้ภาษาพูดกันคนละภาษา) 

Channelling มีพลังในการติดต่อสื่อสารกับ ชีวิต หรือจิต เหนือธรรมชาติ เช่น ภูตผีวิญญาณ เทวดา หรืออาจจะมนุษย์ต่างดาวนอกโลก 

Automatic Writing สามารถเขียนบางสิ่งบางอย่างที่ผิดไปจากปกติ โดยไม่ได้ใช้ความคิดหรือแม้แต่การมองเห็นหรือควบคุมด้วยจิตใจของตนเอง หรือกับถูกบางสิ่งบางอย่าง สิง ที่มือไปชั่วขณะ 

Aura Reading การมองเห็นออร่าหรือพลังชีวิต ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ถ้าจะจินตนาการให้เห็นภาพคงคล้ายกับเครื่องมืออินฟาเรดตรวจจับความร้อนของ ร่างกาย และผู้ที่เขียนก็มักจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขียนคืออะไรจนกว่าจะเขียนเสร็จ ส่วนใหญ่มักเจอในcaseของคำทำนายหรือภาพวาดที่สื่อความหมายเกี่ยวกับสังหรณ์ ในทางร้าย 

Divination ผู้ทำนายอนาคตแบบต่างๆ เหมารวมกัน เช่น precognition, fortune telling, prophesy, predicter หรืออะไรก็ตามที่มีจุดประสงค์เกี่ยวกับอนาคต 

Astral Projection การถอดจิต โดยทิ้งร่างเปล่าไว้ และ ท่อง ไปในที่ที่ร่างกายไม่ได้ตามไปด้วย 

Bi-Location เป็นเทคนิคขั้นสูงของ Astral Projection ที่นอกจากจะถอดจิตออกมาแล้วยังสามารถสร้างจิตนาการของร่างแยกของตนเองขึ้นมา โดยสมบูรณ์เป็นตัวเองอีกคนให้คนอื่นเห็น ในคนละสถานที่กับที่ที่ร่างกายจริงอยู่ 

Mind Over Body ผู้ที่สามารถปลดปล่อยร่างกายปราศจากความต้องการพื้น ฐานเช่น การดื่มน้ำ กินข้าว นอนหลับ ฯลฯ แต่ยังสามารถมีชีวิตทนอยู่ได้เหนือกว่าคนปกติ เช่น พระ ฤๅษี โยคี เป็นต้น 

Mind Control สามารถควบคุมจิตใจของสิ่งมีชีวิตอื่น รวมทั้งอาจจะสร้างภาพลวงตาขึ้นมาหลอกการเห็นของผู้อื่นได้ จนถึงอาจจะยิงภาพเข้าไปในสมองโดยตรงได้เลย 

Hypnotic Control การสะกดให้ผู้อื่นหลับได้ด้วยพลังจิต คล้ายกันกับ Mind Control 

Mental Invisibility การซ่อนเร้นจิตของตนเองจากการรับรู้ของผู้อื่น มักมีในสัญชาตญาณของพวก 
สัตว์นักล่า ที่จะอำพรางจิตของตนไม่ให้ผู้อื่นรับรู้ถึงการมีอยู่ เช่นงู เสือสิงโต หรือหมาป่า ในขณะซุ่มดักล่าเหยื่อ หรือพวกสัตว์ที่หนีและหลบซ่อนอำพรางจิต 

 พลังจิตสายควบคุมต่างๆ 

Echokinesis สามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวของผู้อื่นได้ไม่ผิดเพี้ยนจากการมองเห็น แม้แต่การเคลื่อนไหวที่เกินความสามารถของตนเอง 

Photokinesis มีพลังในการควบคุมแสงและพลังงานที่เป็นไปตามกฏทางฟิสิกส์ แต่ใช้จิตควบคุม 

Pyrokinesis มีพลังในการควบคุมไฟ สามารถจุดไฟ และควบคุมการเกิดไฟ และทิศทางของไฟได้ด้วยจิตเพียงอย่างเดียว 

Aquakinesis, Hydrokinesis มีพลังในการควบคุมน้ำ ให้เกิดการเคลื่อนไหว และรูปร่าง รวมถึงมวลของน้ำได้ดั่งใจ 

Cryokinesis มีพลังในการควบคุมความเย็นได้ เช่นการเปลี่ยนอุณภูมิในบริเวณที่ต้องการสู่จุดเยือกแข็งหรือตำกว่านั้น หรือทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งบนน้ำ หรือเลือดบนร่างกายได้ และอาจก่อผลึกน้ำแข็งได้จากน้ำในอากาศได้ตามต้องการ 

Thermokinesis สามารถควบคุมอุณภูมิความร้อน ของธาติต่างๆ สิ่งของต่างๆได้ เป็นคนละอย่างกับ Pyrokinesis 

Aerokinesis สามารถควบคุมเกี่ยวกับ ลม และ ก๊าซ อากาศรอบๆตัว หรือเรียกให้เกิดลม หรือความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและคุณสมบัติของก๊าซได้ อาจรวมไปถึงความดันของบรรยากาศรอบๆด้วย 

Geokinesis, Terrakinesis สามารถควบคุมธาติดินให้เกิดความแปรผันได้ดั่งใจ อาจรวมไปถึงของแข็งชนิดต่างๆที่อยู่รวมกับธาตุดินด้วย 

Electrokinesis สามารถควบคุมประจุไฟฟ้า และสายฟ้าได้ดังใจ ในกรณีเดียวกับ Pyrokinesis ที่เป็นผู้ควบคุมไฟ 

Atmokinesis สามารถควบคุมฟ้าฝน บรรยากาศ และลักษณะอากาศได้ เป็นความสามารถร่วมกันของ Thermokinesis, Aerokinesis และ Electrokinesis 

Atmoskinesis สามารถควบคุมธาตุหลักทั้งสี่ได้คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอาจควบคุมรวมไปถึง ไฟฟ้าได้ด้วย เป็นความสามารถรวมๆของ Pyrokinesis, Hydrokinesis, Geokinesis, 
Aerokinesis และอาจจะ Electrokinesis 

Biokinesis คล้ายกับ Atmoskinesis แต่อาจจะรวมลึกลงไปถึงการควบคุมลักษณะและความเจริญเติบโตทาง DNA ได้เลย เช่นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของธาตุและ DNA ของตนเองให้เกิดความสามารถพิเศษที่ต้องการ 

Gravitokinesis คล้ายกับ Psychokinesis สามารถควบคุมเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง และน้ำหนัก ของสิ่งที่ต้องการได้ดั่งใจ(แต่ไม่สามารถบังคับให้เคลื่อนที่ไปได้ด้วยแรงใน ทิศอื่นนอกจากทิศโน้มถ่วง) 

Magnokinesis ความสามารถในการควบคุมแรงแม่เหล็กและสนามแม่เหล็กใน บริเวณที่ต้องการได้ รวมทั้งอาจใช้แรงแม่เหล็กนี้ในการควบคุมโลหะให้เคลื่อนที่ได้ดั่งใจด้วย 

Vitakinisis เป็นการรักษาตัวเองให้หายจากการบาดเจ็บ โดยมักจะอ้างว่าเป็นการยืมพลังจิตจากธรรมชาติ หรือดูดพลังจิตจากธรรมขาติเช่นพืชหรือสิ่งมีชีวิต 

Audiokinesis สามารถควบคุมลักษณะคลื่นเสียง และบิดผัด หรือก่อกำเนิดคลื่นเสียงได้ด้วยจิต อาจมีความสามารถของ Clairaudience รวมอยู่ในตัวด้วย 

Hemokinesis สามารถควบคุมรูปแบบของเซลล์เม็ดเลือดได้ รวมทั้งการถ่ายเทเลือดด้วย คล้ายกับการควบคุมแบบ Hydrokinesis 

Particle Manipulation สามารถควบคุมส่วนย่อยของสิ่งต่างๆในระดับอะตอมหรือโมเลกุล ทำให้หยุดอนุภาคย่อยๆเหล่านั้น หรือทำให้เกิดการระเบิดออกมาก็ได้ 

ขอบคุณ

สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ

ของ

คุณโซบิเดย์

คุณชนิดา

คุณหญิง

ตัวเล็กผู้โง่เขลาจะคอยติดตาม

ตอนต่อไป

การเห็นเราจะเห็นพลังงานลงมา

เป็นลำแสงแล้วแต่เราจะอยู่ในช่วงไหน

บ้างครั้งเราจะมองเห็นเป็นวงกลมลงมาบ้างคลื่นความถี่

ลงมาเป็นเกียวบ้างคลื่นลงมาเป็นเส้นๆ

บ้างครั้งคลื่นพลังจะมีคลืนแห่งพลังความรัก

หรือพลังเทพรวมด้วยถ้าบุคคนนั้น

มีความดีจิตใจดีมีแต่ความรักพลังเหล่านี้

จะลงมารวมด้วยเสมอเราจะเห็นพลังนี้

เป็นสีเหลืองทองหรือสีขาวที่สว่างมากนั้นคือ

พลังแห่งเทพและพลังงานบุญของเราเอง

ดังนั้นทุกคนจึงรับพลังต่างกันออกไป

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ขอบคุณนะคะ พี่สาว สุด สวย

ทำให้แมวคิดถึง

แสงสีขาวที่ปกคลุม ไปทั่วบริเวณ

ตอนนั่งอยู่หน้าวิืหาร

ที่บ้านสวนพิรามิดค่ะ

ในคืนก่อนวันสมโภชน์

องค์พระปฐมฯ ค่ะ  

 สาวสวยคนนี้เธอมีสองชื่อ คือชื่อที่ชาวโลกเรียกเธอ "Sheila"
ส่วนชื่อจริงของเธอ ที่เรียกกันอยู่บนดาววีนัส คือ "Omnec Onec"

เธอมาจากดาววีนัส หรือดาวศุกร์ เมื่อปี 1955 เพื่อมาหาประสบการณ์
ในมิติที่สามของโลกเรา เพื่อพัฒนาระดับจิตของตนเองขึ้น

ตอนแรกที่เธอมาถึงโลก เธอต้องไปปรับตัวให้เข้ากับสภาวะของโลก
ที่ประเทศทิเบต โดยมีลามะแถวนั้นช่วยเธอ

จากนั้นเธอก็มาเข้าร่างของเด็กหญิงอายุ 7 ขวบคนหนึ่ง
ซึ่งเพิ่งถูกรถชนตายไป และมีพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณผูกพันกับเธออยู่

อายุของเธอบนโลก คือ 2010 - 1955 ปี (55 ปี) ส่วนอายุจริงนับตั้งแต่เกิด
บนดาวศุกร์คือ 210 ปี

เธอเก่งไปทุกๆด้าน..และเรื่องราวของเธอจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อย่างไร
ก็..ใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะครับท่าน







ที่มา: Omnec Onec, a Woman from Venus
 คลิกดูหลานละเอียดได้

 ปราศรัยโดย ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่แก่เพื่อนประทับจิตต่างชาติ 

 มาเริ่มต้นเข้าสู่คำถามกันนะครับ

1). คุณมีการย้ายงานไปสู่งานที่ดีกว่า ที่เอื้ออำนวยให้คุณสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณจริงๆได้ 
หรือเอื้ออำนวยให้คุณได้ทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบ หรือได้ทำตามพันธะสัญญาก่อนการลงมาเกิดของตัวคุณเองได้ 
ซึ่งปกติแล้วมันก็คือสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ และสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นคุณนั่นแหละ

2). สถานการณ์ทางด้านการเงินของคุณดีขึ้น อย่างที่คุณไม่เคยประสบมาก่อน

3). ความคาดหวังส่วนใหญ่ของคุณ มักจะประสบความสำเร็จ และอย่างง่ายดาย

4). คุณได้พบคู่สมรส/คู่ครองคนใหม่ หรือคุณและคู่ครองคนปัจจุบันของคุณ มีความสัมพันธ์กันในแบบเป็นเพื่อนคู่ชีวิตกัน 
มากกว่าจะเป็นไปในแบบผูกมัดกัน พวกคุณรักใคร่, นับถือ และเคารพซึ่งกันและกัน ในแบบที่พวกคุณเป็นอยู่ 
โดยปราศจากการถูกครอบครอง

5). เมื่อคุณวิวัฒน์ต่อไปอีก คุณก็จะกลับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับ “คู่แฝดทางจิตวิญญาณ” ของคุณ 
ผู้ที่ซึ่งเป็นเหมือนเงาสะท้อนในกระจกของตัวคุณเองอย่างแท้จริง 

การได้อยู่ด้วยกัน จะเหมือนกับการได้อยู่กับตัวคุณเอง และคุณจะรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับ “แหล่งกำเนิด” 
อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน 

(ในทางนิวเอช เชื่อว่ามนุษย์มีฝาแฝดทางจิตวิญญาณ คือ “คู่แท้” อะไรประมาณนั้น 
ซึ่งเมื่อกลับมารวมกันแล้ว ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ และลงตัว – Chayutt)

6). ดูเหมือนว่า คุณจะไม่ค่อยใส่ใจ กับอะไรมากสักเท่าไหร่ และดูเหมือนว่า จะไม่ค่อยมีอะไรที่สำคัญอีกต่อไปแล้ว 
คุณได้วิวัฒน์ออกไปไกลจากเส้นทางสายเก่า ที่มีแต่การต้องเข้าไปมีบทบาท และใส่อารมณ์กับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว

7). คุณได้พุ่งความสนใจของคุณ คลุกอยู่กับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ “ยุคพลังงานใหม่” เสียแล้ว 

(ซึ่งหมายรวมถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดในปี 2012, วันสิ้นโลก, การเลื่อนระดับขึ้น (Ascension), 
การเปลี่ยนระดับ (The Shift) และอื่นๆ - chayutt)

8). คุณรู้ว่า อะไรๆที่คุณต้องการ คุณได้มันมาแล้ว และจะได้มันเสมอๆ 

9). คุณไม่จำเป็นต้องอยาก หรือต้องไปทำอะไรให้มันเกิดขึ้นมา หรือไปพยายาม หรือไปแก้ไขอะไรเลย 
คุณเข้าใจแล้วถึงการ “ปล่อยให้มันเป็นไป”, “การยอมรับมัน”, “การเป็นเช่นนั้นเอง”“การมุ่งมั่น”

10). คุณไม่ต้องพึ่งพากระบวนการวิเคราะห์ทางจิตและประสาทอีกต่อไปแล้ว 
เพราะตอนนี้คุณเชื่อใน “ความรู้สึก” ของตัวคุณเองแล้ว 

(คงหมายถึง พวกฝรั่ง แต่ก่อนพอมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็มักจะคิดว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า 
เลยต้องรีบไปหาจิตแพทย์ให้ช่วยวินิจฉัยให้หนะครับ แต่ตอนนี้ เลิกไปหาจิตแพทย์แล้ว 
หันมาเชื่อถือความรู้สึกของตัวเองมากกว่า – Chayutt)

11). คุณไม่ค่อยเป็นกังวลว่า ใครจะคิดอะไร กับคุณ หรือกับอะไร ยังไงอีกต่อไปแล้ว

12). คุณเข้าใจแล้วว่ามันไม่มีอะไรถูก-อะไรผิด, ไม่มีอะไรดีหรือชั่ว, ไม่มีอะไรขาวหรือดำ 
เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็แค่เป็นเช่นนั้นเอง

13). ในที่สุดคุณก็ประจักษ์ชัดว่า มันไม่มีหรอกความมืดหรือแสงสว่างหนะ แต่ปรากฏการณ์ที่ปราศจากแสงสว่าง 
ก็เป็นแค่สิ่งที่ทำให้เรามีตัวเปรียบเทียบ เพื่อที่จะกระตุ้นให้เราสร้างสิ่งที่พวกเรารู้สึกว่ามันดีจริงๆขึ้นมาเท่านั้นเอง 
เพราะทุกๆรูปแบบของพลังงาน ล้วนเป็นไปในทำนองเดียวกันหมดทั้งสิ้น คือเพื่อค้ำจุนแสงสว่าง

14). คุณไม่ค่อยอยากอ่านหนังสือ หรือเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่ๆอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าตอนนี้คุณได้เชื่อมต่อกับ 
“แหล่งกำเนิด” มากขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว และคุณก็สามารถรวบรวมข้อมูลเหล่านั้น ได้โดยตรงเองเลย 
โดย ”การเป็นมัน”, “การรู้สึกถึงมัน” และ “การรับรู้มัน”

15). สุขภาพร่างกายของคุณดีขึ้น และ/หรือ คุณได้ประสบกับการเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ ที่คุณป่วยมานานแล้ว 
ให้หายได้ราวกับปาฏิหารย์

16). คุณปรารถนาความเรียบง่ายในทุกสิ่งทุกอย่าง และคุณก็ต้องการกินอยู่อย่างง่ายๆ, ต้องการอะไรที่ง่ายๆ 
และต้องการวิถีชีวิตที่เรียบง่ายจริงๆ

17). คุณเริ่มพบว่ากระแสชีวิตของคุณมันดำเนินไปอย่างสบายๆไม่เร่งรีบ 
แบบที่คุณไม่จำเป็นต้องฝืนใจทำในสิ่งที่คุณไม่อยากทำจริงๆเลย 
ทุกๆอย่างมันเหมือนกับว่าตกลงมาวางไว้ให้แทบบนหน้าตักของคุณเลยทีเดียว 
และคุณก็รู้สึกพึงพอใจ, มีชีวิตชีวา และสึกซาบซึ้งใจอย่างมาก กับสิ่งพื้นๆ ธรรมดาๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ

18). คุณปรารถนาที่จะทำในสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำเท่านั้น และคุณก็ไม่จำเป็นต้องมีภาระรับผิดชอบทางโลก
แบบเต็มพิกัดเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว 

เมื่อใดที่การปลดปล่อยเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เมื่อนั้นคุณก็จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง 
เพราะคุณคือก้อนทองคำแท้แห่งตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวคุณเอง

19). คุณสามารถรับรู้ถึงความคิด, ความรู้สึก, ความปรารถนา และความต้องการของคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น 
เพราะว่าคุณเริ่มจะสื่อสารทางโทรจิตได้แล้ว

20). คุณสามารถควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกของคุณได้ และคุณก็สามารถ สร้างโลกของคุณเอง 
ด้วยจิตใจและความมุ่งมั่นของคุณเองได้ โดยปราศจากความลังเลสงสัยและความกลัว

21). สิ่งต่างๆที่แวดล้อมคุณอยู่ จะมีผลกระทบกับคุณน้อยมาก คุณไม่ตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ 
และไม่มีสิ่งใดที่ควรค่ามากพอ ที่จะต้องเก็บเอามากลุ้มใจ 

22). คุณมีความกระหายที่หยุดไม่ได้ ในการสร้างสรรค์ พลังงานจำนวนมหาศาล ไหลผ่านความต้องการ 
และอารมณ์ความรู้สึกที่คุณแสดงออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

เวลาที่คุณได้สร้างสรรค์หรือได้ทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบ คุณจะรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังอยู่ที่บ้าน 
และกำลังสอดประสานกับ “แหล่งกำเนิด” ของคุณ

23). คุณหัวเราะมากขึ้น และรู้สึกว่าอะไรๆมันก็น่าขัน และสนุกสนานไปหมด

24). คุณมีความรักที่สูงส่ง และมีความเมตตากรุณาต่อทุกสรรพชีวิต และคุณก็ยังเคยสัมผัสรู้ถึง 
สภาวะที่สูงส่งกว่า และสภาวะที่มีความถี่มากกว่า ของความรักและความเบิกบานอีกด้วย

25). คุณดำเนินชีวิตอยู่แต่ในปัจจุบันขณะ โดยปราศจากแผนการประจำวัน 
สิ่งต่างๆก็แค่ถูกเผยออกมาวันต่อวัน และชั่วขณะต่อชั่วขณะ ง่ายๆอย่างเป็นธรรมชาติ 
ความเคร่งเครียดทั้งหลายสาบสูญไปหมดแล้ว

26). คุณรู้สึกสงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อ ความกลัวของคุณมันหายไปอย่างชัดเจน และคุณก็รู้สึกปลอดภัย

27). ความเป็นเด็กข้างในตัวคุณ ดูเหมือนมันจะหายไปแล้ว (เพราะมันออกมาข้างนอกแทน? – Chayutt) 
(ขึ้นกับปัญหาและความเจ็บปวดที่ได้ผ่านมา) แม้ว่าคุณยังชอบที่จะเล่นสนุก และกระโดดโลดเต้นอยู่ก็ตาม 

หลายๆครั้ง คุณอาจจะอยากเล่นสนุก เล่นสนุก แล้วก็เล่นสนุกเท่านั้น 

28). คุณเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทุกสรรพสิ่งเชื่อมโยงถึงกันอยู่อย่างไร คุณเข้าใจแล้วว่ามันไม่มีอะไรที่เรียกว่า “ความผิด” หรอก

เพราะทั้งหมดนี้ มันล้วนอยู่ในระดับของความจริงอันศักดิ์สิทธิ์ (Divine Right Order) 
และมันไม่เคยมี และก็จะไม่มี อะไรที่เรียกว่า “ผิด” เลย 

(ในระดับปรมัตถ์แล้ว มันไม่มีอะไรที่ต่างกัน อะไรแบบนั้นหนะครับ – Chayutt) 


ส่งต่อและเอื้อเฟื้อโดย : Aeon Pi
ขออวยพรให้พวกคุณทุกคน

อ่านแล้ว...ไม่รู้จะบรรยายยังงัย

ต้องขอบคุณ พี่โซบิเดย์ พี่ชนิดา

ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้ง

สำหรับธรรมทานที่วิเศษสุดนี้

มนุษย์ต่างดาวเข้ารู้จิตใจเรา

มาปะปนอยู่กับเรา

อืม...น่าคิด

************

1- 10 ยังไม่ค่อยเกิดขี้น

11 - 18 เริ่มมีบ้างแล้ว

เพราะจิตใจไม่เหมือนเมื่อก่อน

รู้สึกเฉยๆกับสิ่งที่เข้ามาในจิต

ค่ะคุณโซบิเดย์

ขอบคุณกับธรรมทานดีๆนี้ค่ะ

พี่โซ...ที่รักคะ

ใจเย็นๆนะจ๊ะ...

แบบว่า น้องชะ..อ่านไม่ทัน คร๊าบ

รอกันหน่อยเน้อ...

ขอเวลาอ่านก่อนนะค๊า

เผื่อว่า จะมีคำถาม...ให้ตอบอีก...อิอิ

แต่ขออนุโมทนาก่อนนะค๊า...

 อนุโมทนากับธรรมทานครับพี่โซบิเดย์

Teleportation มีพลังในการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือตนเองจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งโดยการแทน ที่ 
ในฉับพลัน เช่นการ วาร์ป จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งในทันที หรือการสลับที่สิ่งของโดยไม่ต้องแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายด้วยวิธีทางฟิสิกส์ หรือยกขึ้นด้วยพลังจิตแบบTelekinesis
........................................................................................

ต้องขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับพลังจิต

ที่ละเอียดมากๆเลยนะคะ ชนิดาเคยได้อ่าน

แค่บางเรื่องเท่านั้น แต่พอเห็นแยกแยะ

ออกมาแบบนี้แล้ว น่าทึ่งจริงๆ

เพราะพลังจิตมีได้หลากหลายมากๆ

แต่พออ่านมาถึง การวาร์ป น่าสงสัยจัง

เพราะเคยดู มายากล ต่างๆ บางที

ก็น่าคิดเหมือนกันนะคะว่า เค้าคงจะใช้

การวาร์ป เนี่ยแหล่ะ เพราะช่วงแค่เสี้ยววินาที

จะหายไปจากกล่อง ได้ไง

หรือคุณ โซบิเดย์ คิดว่าไงคะ

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับ Time traveller

เคยได้ดูหนังเหมือนกัน น่าสนใจมากๆ

ซึ่งดูแล้วก็ไม่รู้ว่า มีบุญหรือมีกรรม กันแน่

ที่อยู่ดีๆก็มีอำนาจพิเศษ สามารถเป็น

นักท่องเวลา ไปได้ เพราะเท่าที่ดูจากหนัง

รู้สึกว่า คนท่อง ไม่ได้เป็นผู้กำหนดเองเลย

เหมือนถูกดึงจากปัจจุบัน ไปอดีต

หรือ อนาคต โดยเบื้องบนซะมากว่า 

ส่วนคนรัก หรือ ครอบครัว ก็ต้องคอยระแวงว่า

แฟนจะหายตัวไปท่องเวลาเมื่อไหร่...

เฮ้อ ดูเป็นหนังก็สนุกดี แต่ชีวิตจริง

ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่สนุกแน่ๆ ...

อนุโมทนากับคุณโซบิเดย์ค่ะ

ที่ฝ่ามือ สุกันยา ก็มีรูปพีระมิดค่ะ  สา ธุ สา ธุ สาธุ

ขอขอบคุณกับคุณโซบิเดย์ และคุณชนิดา

ด้วยนะคะที่ได้นำเสนอเรื่องราวดี ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ

 <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/0L9lZbxNtBg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 ข้อความสื่อสารจาก Archangel Metatron
2012 - A Glimpse Into The Magnificent Year Ahead

วันที่ 28 ตุลาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Tyberonn

ที่มา...2012 - A Glimpse Into The Magnificent Year Ahead > Earth Keeper

ตอนที่ 9

วันอันทรงพลัง & ช่วงเวลา
ของการกระตุ้นให้เกิดการทำงาน ในปี 2012
(Power Dates & Activation Phases of 2012) 

มันจะมีคลื่นความถี่บางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้นในวันที่ที่ระบุไว้ในปี 2012 
วันอิควิน็อกซ์ (equinoxes) วันอายัน(solstices)และวันที่เกิดคราสต่างๆ(eclipses) 
วันแต่ละวันเหล่านี้จะเป็นวันอันทรงพลังอย่างที่สุด 
ต่อการตั้งรหัสเป็นครั้งสุดท้ายในการเลื่อนระดับ 

สิ่งนั้นถูกเรียกว่า ระลอกคลื่นที่12 ของการเลื่อนระดับที่จะเริ่มต้นขึ้น
ในช่วงปลายเดือนมกราคม เป็นต้นไปจนถึง วันที่ 12/12/12(12-12-12)



วันสำคัญๆในปี 2012 มีดังต่อไปนี้
(Key dates of 2012 are as follows): 

 25 มกราคม 

– การเริ่มขึ้นของระลอกคลื่นที่ 12 แห่งการเลื่อนระดับ 

3 กุมภาพันธ์ – ดาวเนปจูนในราศีมีน
– วิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่จากภายในจะถูกพัฒนาให้มีศักยภาพมากขึ้น
ภายใต้ ระลอกคลื่นที่ 12 นี้ 

8 กุมภาพันธ์ – ดาวไครอนในราศีมีน
– โอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการปลดปล่อยในระดับปัจเจกบุคคล
และเป็นการเยียวยาในระดับโลก 

20 มีนาคม – วันอิควิน๊อก
(Equinox/วันที่มีกลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน 
และเป็นวันของการเปลี่ยนฤดูกาล ใน1ปี มี2ครั้ง...ผู้แปล)
– ระลอกคลื่นครั้งที่ 4 และเป็นระลอกสุดท้ายในการจุดชนวนเอกภพ (Cosmic Trigger)
,การดาวน์โหลดและการเริ่มต้นเข้ารหัสคริสตัล 

20 พฤษภาคม- สุริยุปราคา(Solar Eclipse) 
– การผสานรวมกันของมนุษยชาติในระดับมหัพภาค 
– ความสมดุลแห่งเพศชายอันศักดิ์สิทธิ์(Divine Masculine balance)

4 มิถุนายน – จันทรุปราคา(Lunar Eclipse)
- การผสานรวมกันของมนุษยชาติในระดับจุลภาค 
- ความสมดุลแห่งเพศหญิงอันศักดิ์สิทธิ์ (Divine Feminine Balance)



6 มิถุนายน – การโคจรของดาวศุกร์(Venus Transit) 
– การผสานรวมกับสมาพันธ์ Sirian และ Pleiadean 
การกลับมาของพลังงานปลาโลมาสีทองอันเต็มเปี่ยม 
การผสมผสานความศักดิ์แห่งเพศชายและความศักดิ์สิทธิ์แห่งเพศหญิงเข้าด้วยกัน 

20 มิถุนายน – วัน ครีษมายัน 
(Summer Solstice /ดวงอาทิตย์จะอยู่สูงเลย เส้นศูนย์สูตรฟ้า
ไปทางทิศเหนือมากที่สุด (ดวงอาทิตย์อยู่สุดบนท้องฟ้า) 
ซึ่งเป็น วันที่กลางวัน ยาวนานที่สุดทางซีกโลกเหนือ 
ตรงกับฤดูร้อน...ผู้แปล) 

สิ้นสุดวันสุดท้ายใน 4 วันอันทรงพลังสูงสุด 
อันได้แก่ สุริยุปราคาในวันที่ 20 พฤษภาคม 
จันทรุปราคาในวันที่ 4 มิถุนายน 
และดาวศุกร์โคจรในวันที่ 6 มิถุนายน..

นี่เป็นพลังงานที่มีความเข้มข้นที่สุด
ที่รวมเข้าด้วยกันในกระแสการไหลเข้ามาครั้งสุดท้าย
ของรหัสทางพลังงาน
และทำให้อุปสรรคต่างๆถูกกำจัดออกไปได้

 22 กันยายน - ศารทวิษุวัต (Autumn Equinox

ตรงกับฤดูใบไม้ร่วงในเขตซีกโลกเหนือ...ผู้แปล)
– การเริ่มต้นฟอร์แมทเครือข่ายประตู Sun Disc หลักๆทั้ง12 
ให้มีการจัดรูปแบบ แบบคริสตัล

13 พฤศจิกายน –สุริยุปราคาเต็มดวง(Total Solar Eclipse)
– การกระตุ้นดาวเทียมทั้ง 144 ของประตู Sun Discs ไปยัง Discs หลักๆทั้ง 12 
การผสานสมดุลของโครงข่ายที่เป็นความศักดิ์สิทธิ์แห่งเพศชายเป็นครั้งสุดท้าย..

28 พฤศจิกายน – วันที่เกิดจันทรุปราคา(Lunar Eclipse) - 
ส่วนเงามัวที่ล้อมรอบเงามืด(Penumbral)
– การผสานรวมโครงข่ายความศักดิ์สิทธิ์แห่งเพศหญิงอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งสุดท้าย

12 ธันวาคม - (12-12-12)วัน/เดือน/ปีเลขซ้ำทั้งสาม 
ตอนที่สำคัญที่สุดและเป็นการเสร็จสิ้นของโครงข่ายคริสตัลเป็นครั้งสุดท้าย 
การกระตุ้นคริสตัลวิหารแห่งแอตแลนติสผลึกสุดท้ายให้ทำงานขึ้นในรหัสใหม่ 
และการผสานรวมเข้ากับโครงสร้างและประตู Sun Discs รูปทรงปีระมิด 

การเชื่อมประสานสมดุลระหว่างพลังงานเพศชาย
และพลังงานเพศหญิงสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันอันศักดิ์สิทธิ์ 

การตั้งรหัสของ Max เป็นครั้งสุดท้ายในวอร์เท็กซ์พลังงานคริสตัล

December 21 - วัน เหมายัน (Winter Solstice 
/ดวงอาทิตย์จะอยู่ต่ำกว่า เส้นศูนย์สูตรฟ้าไปทางทิศใต้มากที่สุด 
(ดวงอาทิตย์อยู่ต่ำสุดบนท้องฟ้า) ซึ่งเป็นวันที่กลางวันสั้นที่สุด 
ทางซีกโลกเหนือ ตรงกับฤดูหนาว ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจาก แกนเอียงของโลก 23.5 องศา 
กับแนวที่ตั้งฉากกับระนาบอิคลิปติค...ผู้แปล)

– การรีบูทโครงข่ายและการเชื่อมต่อเครือข่ายในการเลื่อนระดับ
ของสนามควอนตัมคริสตัลไลน์ 
- การขยายตัวเพิ่มขึ้นไปถึงยังมิติทั้ง 12
"ดัชนีพระเจ้า(Finger of God)" รูปทรงการทำมุมทางพลังงาน
ของดาวเสาร์ ดาวพฤหัสและดาวพลูโต

อนุโมทนาค่ะคุณ โซบิเดย์ ด้วยค่ะ

รวดเร็วทันใจดีจริงๆ

ข้อมูลดีๆ น่าสนใจ ทั้งนั้น..

โดยเฉพาะวันที่ 8กุมภาพันธ์ ปีหน้า

ชนิดาหวังว่า จะเป็นวันแห่งการ

ปลดปล่อยพลังลบๆในตัวให้หมดไป

จากตัวและ จากใจ ให้หมดสิ้น

ซักทีเถิด สาธุ สาธุ

จะได้เหลือเฉพาะ พลังดีๆ บวกๆ

และแสงสว่างในใจ

อิอิ ความหวังอันสูงสุด... 

 ขอบคุณคุณโซบิเดย์ค่ะ

ที่นำภาพถ่ายมาแบ่งปันกัน

ตุ้ยดูภาพดวงอาทิตย์ 1 2 6 7 

เป็นรูปพีระมิดค่ะ 

และมีภาพพลังงานอีกหลายดวงเลย

ส่วนภาพที่ 18 ลักษณะที่ถ่ายได้

เหมือนที่บ้านสวนคืนวันบวงสรวง

ท่านท้าวเวสสุวรรณเลยค่ะ

คือมีดวงจันทร์สองดวง สุริยัน จันทรา

ท่าน อ.อุบลบอกว่า ถือเป็นลางที่มาบอกค่ะ

คงเป็นเรื่องภัยพิบัตินะคะ

เก่งมากเลยค่ะที่ถ่ายได้

คุณโซบิเดย์คงมีหน้าที่สื่อสารเรื่องเหล่านี้นะคะ

หากมีความรู้ใหม่ๆ มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ 

เพราะแต่ละเรื่องนั้นน่าสนใจมากค่ะ

ไม่รู้เราเชยไปหรือเปล่าที่มาตอบช้ากว่าคนอื่น

ข้อความการสื่อสารจาก Sheldan Nidle  วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011  ที่มา...Sheldan Nidle - November 22, 2011 ตอนที่ 1 10 Cimi, 19 Xul, 8 Manik

 

 ข้อความสื่อสารจาก Archangel Michael
December 2011
ผู้รับการสื่อสาร RONNA HERMAN


BECOMING A LIGHT UPON THE PATH

ที่มา..Fun Factory - Archangel Michael Becoming a Light Upon the Path December 2011 through Ronna Herman




ตอนที่ 1

เหล่าคุรุอันเป็นที่รักทั้งหลาย 
มันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่พวกคุณจะต้องเข้าใจว่า นี่เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ 
ด้วยเหตุว่ามันมีการจัดสรรพิเศษๆหลายๆขึ้นอย่างมากมาย 

มันเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกคุณ เหล่าผู้แสวงหาแสงสว่าง 
เพื่อไปให้ถึงยังมรดกตกทอดอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ 
และ พรสวรรค์และทักษะพิเศษของพวกคุณ 

ตลอดระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านจากยุคที่ยิ่งใหญ่ยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง 
อันเป็นช่วงที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก 

กฎแห่งเอกภพได้อนุญาตให้รูปธรรมแห่งอาณาจักรเทวะและคณะจิตวิญญาณระดับสูง 
ผ่านม่านพรางนี้เข้ามาได้และติดต่อกับบรรดาสมาชิกในเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ถูกเลือก 
มนุษย์ที่ตื่นรู้ขึ้นแล้ว 

พวกคุณต้องแสดงความสมัครใจและตั้งความปรารถนา
ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับบรรดารูปธรรมชั้นสูงอันน่าพิศวงเหล่านี้ 
เพราะพวกเขา...
จะไม่สามารถก้าวก่ายเจตจำนงอิสระของพวกคุณได้ 

เมื่อพวกคุณจดจ่ออยู่กับความตั้งใจของพวกคุณกับคุรุผู้หนึ่งผู้ใดเป็นพิเศษ 
เทพหรือรูปธรรมแห่งแสงสว่าง จะรับรู้ได้และสนองตอบต่อพวกคุณในทันที 

ยิ่งพวกคุณมีความปรารถนาที่แรงกล้า จริงใจ และแน่วแน่มากเท่าไหร่ 
รัศมีแห่งแสงสว่างของพวกเขาจะยิ่งจะส่องไปถึงพวกคุณได้มากเท่านั้น

บรรดาเทพผู้นำทาง จิตวิญญาณผู้นำทาง และครูของพวกคุณ
จะใช้ทุกความพยายามที่จะช่วยให้พวกคุณได้รับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นแห่งภูมิปัญญาที่จำเป็น 
สำหรับในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงที่โกลาหลเหล่านี้ 

เหล่ารูปธรรมที่มีความเมตากรุณาเหล่านี้ พยายามที่จะรับความตั้งใจของพวกคุณ
ด้วยการเพิ่มแสงสว่างให้เข้มข้นขึ้นภายในศูนย์โซล่าร์ของพวกคุณ 
และในที่สุดยังภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ 

พวกคุณได้รอมานานหลายศตวรรษแล้วสำหรับการเชื้อเชิญเข้าสู่การสื่อสารทางจิตสำนึก
กับบรรดาคุรุผู้รู้แจ้งและอาณาจักรเทวะ 
และพวกเขาก็รอให้ถึงเวลานี้มาอย่างอดทนเช่นเดียวกัน 

การสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับรูปธรรมแห่งแสงสว่าง 
คือก้าวต่อไปอันยิ่งใหญ่แห่งวิวัฒนาการสำหรับพวกคุณในแบบมนุษย์ 
เพราะมันจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการตื่นรู้ทางจิตสำนึกใหม่ๆอย่างหนึ่งได้เร็วขึ้น
และมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีมีอานุภาพภาพอย่างหนึ่งภายในพวกคุณ 

บางทีในครั้งแรกพวกคุณอาจจะเชื่อมต่อและเรียนรู้
ที่จะมีปฏิสัมพันธ์และสื่อสารกับผู้นำทางส่วนตัวของพวกคุณ
หรือบางครั้งก็อาจเป็นอาจารย์ใหญ่(master teacher) ของพวกคุณ
ที่พวกคุณจะสามารถสานสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพวกคุณได้เคยทำข้อตกลงที่จะมาทำงานร่วมกับรูปธรรมนั้นๆไว้
ก่อนการลงมาถือกำเนิดในชาติภพนี้ของพวกคุณ

 ข้อความสื่อสารจาก Archangel Michael
December 2011
ผู้รับการสื่อสาร RONNA HERMAN


BECOMING A LIGHT UPON THE PATH

ที่มา..Fun Factory - Archangel Michael Becoming a Light Upon the Path December 2011 through Ronna Herman

ตอนที่ 2

พวกคุณหลายๆคนอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาสัมผัสที่ 6 ของพวกคุณอยู่ - 
การหยั่งรู้ด้วยจิต โดยการที่ พวกคุณอาจจะต่อสายตรงกับตัวตนรวมของพวกคุณเอง
และบางเหลี่ยมมุมของตัวตนอันสูงส่งที่มากมายของพวกคุณเองก็ได้ 

มันเป็นช่วงเริ่มต้นการต่อสายตรงไปยังบ้านเกิด 
อันเป็นความศักดิ์สิทธิ์ในตนเอง / ความเป็นพระเจ้าในตนเองของพวกคุณ
(your Divine I Am Presence / God-Self) 

ไม่ต้องไปแสวงหาพระเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ 
หรือ ที่ที่อยู่ไกลห่างใดๆ ที่ที่ไม่อาจไปถึงได้ 
เพราะว่าแก่นแท้แห่งผู้สร้าง 
ประกายแสงแห่งความศักดิ์สิทธิ์ 
นั้นอยู่ภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณนั่นเอง 

พวกคุณหลายๆคนกำลังจะตื่นรู้ถึงต้นกำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ 
แต่พวกคุณก็เพียงแค่เคยสะกิดใจอย่างบางเบา
ถึงศักยภาพอันมากมายในฐานะที่เป็นผู้ถือคบเพลิงแห่งเอกภพเท่านั้น 

มันสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องปรับคลื่นความถี่ของพวกคุณ
ให้เข้ากับคลื่นความถี่ของแสงสว่างแห่งผู้สร้าง
ที่กำลังเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา 
เพราะว่ามันจะไปเร่งความเร็วให้กับกระบวนการเลื่อนระดับ
และช่วยให้พวกคุณไปถึงยังสภาวะ
ของความเป็นนายเหนือตนเอง(Self-master) ได้เร็วขึ้น 

เพื่อที่พวกคุณจะได้เติมเต็มคำปฏิญาณในอันที่จะเป็นแสงที่ส่องสว่างอยู่บนหนทาง 
และเป็นผู้ช่วยปลดปล่อยผู้หนึ่งได้ 

จงจำไว้ว่า พวกคุณจะสามารถเข้าถึงได้
เพียงแค่ระดับการสั่นสะเทือนที่เข้ากันได้
และเข้ากับสัญญาณพลังงานเฉพาะ 
ของพวกคุณเองเท่านั้น 
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันจึงมีความสำคัญมาก 
ที่พวกคุณต้องผ่านกระบวนการกำจัด/ทำความสะอาด 
เพื่อให้เกิดภาวะสมดุลและสอดคล้องต้องกันกับสภาวะที่ดำรงอยู่ 
ภายใต้กายแห่งจิตและกายแห่งอารมณ์ของพวกคุณ

นานแสนนานมาแล้ว พวกคุณที่ออกมาเพื่อการเลื่อนระดับของโลกและมนุษยชาติในตอนหลัง 
ในฐานะของผู้ปลดปล่อยแห่งดวงดาว(Star Seed Wayshowers)
อาจได้เคยทำข้อตกลงที่จะรับบทบาทพิเศษนี้บนระนาบของโลกใบนี้ไว้ 

บางทีมันอาจจะเป็น 
ณ อนาคตอันไกลโพ้นนั่นก็ได้ 

กลุ่มของจิตวิญญาณที่กล้าหาญนี้จะมาถือกำเนิดในทุกๆเผ่าพันธุ์ ทุกสีผิว 
ทุกวัฒนธรรมและทุกลัทธิความเชื่อ 

และพวกเขาจะอยู่กระจัดกระจายไปทั่วโลก เพื่อเตรียมการณ์
สำหรับเรื่องที่น่าตื่นเต้นแห่งเอกภพที่ได้กำหนดไว้แล้ว : 
การเลื่อนระดับของมวลมนุษยชาติและของโลก 
พร้อมกับ การเนรมิตสิ่งต่างๆให้ปรากฎขึ้นภายในจักรวาลย่อยแห่งนี้

 ข้อความสื่อสารจาก Archangel Michael

 ข้อความสื่อสารจาก Archangel Michael
December 2011
ผู้รับการสื่อสาร RONNA HERMAN


BECOMING A LIGHT UPON THE PATH

ที่มา..Fun Factory - Archangel Michael Becoming a Light Upon the Path December 2011 through Ronna Herman

ตอนที่ 4

พวกเราอยากจะให้ข้อมูลพื้นฐานบางอย่างกับพวกคุณ 
เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถนำสิ่งที่พวกเรากำลังแบ่งปันให้กับพวกคุณ
ไปทำให้เกิดมุมมองที่เหมาะสมได้ 

มันเป็นเรื่องสำคัญ
ที่พวกคุณต้องไม่เห็นว่าตัวเอง
เป็นผู้ที่มีเผ่าพันธุ์เพียงเชื้อสายเดียว 
เพราะพวกคุณทุกคนเคยมีประสบการณ์มาแล้วหลายชาติภพ
กับในทุกเผ่าพันธุ์ต้นกำเนิด 

มันเป็นเรื่องสำคัญ
ที่พวกคุณจะต้องไม่ทำตัวอยู่เหนือผู้อื่น
ที่อยู่ข้างหลังพวกคุณบนหนทางเส้นนี้ 
เพราะพวกคุณ ก็เคยเป็นผู้แสวงหาที่ยังไม่พบหนทาง 
และยังเคยเป็นผู้ตามหลัง 
มาหลายต่อหลายชาติภพแล้วอีกด้วย 

พวกคุณเคยเป็นชนผิวดำ และก็เคยเป็นชนผิวสีน้ำตาล ผิวขาว ผิวแดง และผิวเหลือง 
ของเผ่าพันธุ์ต้นกำเนิดอื่นๆ และพวกคุณยังมี ทุกๆคุณสมบัติ ทุกคุณธรรม 
และทุกคุณลักษณะที่โดดเด่นทั้งหมดของเผ่าพันธุ์ทั้งหมดนี้อยู่ใน DNA ของพวกคุณอีกด้วย 

ในชาติภพนี้พวกคุณเลือกที่จะเกิดในครอบครัวที่เฉพาะเจาะจง
หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศใดเป็นพิเศษ
ก็เพื่อเหตุผลที่ชัดเจนเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง

ณ ระนาบหนึ่งในจักรวาล 
หลังจากที่พวกคุณแยกออกมาเป็นตัวตนที่มีจิตสำนึกพระเจ้าเฉพาะของตนเอง
และได้ใช้ชีวิตในการร่วมสร้างอย่างสนุกสนาน อยู่หลายยุคหลายสมัย 

พวกคุณและกลุ่มของจิตวิญญาณที่สอดคล้องต้องกัน ที่พวกเราจะเรียกว่า
"ครอบครัวทางจิตวิญญาณ" จะถูกเรียกให้เข้ามารวมตัวกันในปีระมิดใหญ่แห่งแสงในอาณาจักรที่สูงส่ง 

ปีระมิดแห่งแสงเหล่านี้ ต่อมาได้ถูกเรียกว่า ปีระมิดแห่งผู้รับใช้โลก(WORLD SERVER PYRAMIDS) 
และพวกเขาก็ได้แยกย้ายกันไปทั่วทุกระดับย่อยๆอันมากมายของมิติที่ 5 

พวกคุณเคยถูกบอกว่า จะมีเวลาหนึ่งในอนาคตอันไกลโพ้น 
เมื่อช่วงสำคัญของแผนการศักดิ์สิทธิ์มาถึงจุดสูงสุด 

กลุ่มพิเศษต่างๆเหล่านี้จะถูกนำมารวมกัน 
ผู้ที่มีบทบาทสำคัญใน"กระบวนการกลับมารวมตัวกันใหม่ " 
และ ตอนนี้เวลานั้นได้มาถึงแล้ว!

 http://www.youtube.com/watch?v=pLLqdhD0nZk&feature=player_embedded#!

เหตุระเบิดที่ยะลา

 ภาพจากวงจรปิด

 http://www.youtube.com/watch?v=Yrsm8R7THJQ&feature=player_embedded#!

 ¤*¨¨*¤.¸¸.¸.¸.¤*¨*¤.¸¸.¸.¸.¤*
,. Selamat Hari Raya Aidilfitri .
.¸.¤*¨¨*¤.¸¸.¸.¤*¨*¤.¸¸.¸.¸.¤*