ReadyPlanet.com


เรื่องจริง ที่ไม่เคยเป็นข่าว


ในโลกนี้

ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย

ที่สังคมทั่วไปไม่มีโอกาสรับรู้

เพราะเรื่องราว ที่พบเห็น ที่เกิดขึ้นนั้น

ไม่ได้เป็นข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ

 

ทำให้หลายคน

ไม่เคยรู้มาก่อนเลย แต่เรื่องราวและเหตุการณ์นั้น

มีอยู่จริงๆ แต่รับรู้กันได้เฉพาะสังคมกลุ่มเล็กๆเท่านั้น

 

ถึงเวลาแล้ว

ที่เราต้องมาช่วยกัน

บอกเล่า ให้เพื่อนร่วมทุกข์

เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ได้รับรู้กันบ้าง

 

เรื่องที่จะเล่านำร่อง

ในกระทู้นี้ เป็นเรื่อง

งูยักษ์ ในประเทศไทย

ตัวใหญ่ขนาดกินควายได้ ความยาวกว่า 20 เมตร

 

ส่วนเรื่องอื่นๆ

ใครมีประสบการณ์

ก็นำมาเล่าสู่กันฟังได้นะ

ไม่ต้องกังวลว่า

ใครจะเชื่อไม่เชื่อ

 

เพราะ

ไม่มีใครได้ หรือเสีย

นี่เป็นเรื่องแบ่งปันกัน

 

เช่นเรื่อง

บางคนได้พบเจอ

ผี  เปรต กระสือ กระหัง

ต้องคุณไสย์

หรือ

เห็นเหตุการณ์

อันน่าสงสัย ก็มาเขียน

บอกเล่ากันได้

นะจ๊ะ

 

เพราะ

อีกไม่นานพวกเรา

จะต้องพบเจอกับเหตุการณ์

เหล่านี้ ด้วยตัวเอง

แน่นอนจ้า



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-16 22:51:40


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 101 (1632261)

ถ้าเป็นเรื่องพญานาค  กุหลาบเคยไปที่คำชะโนด จ. อุดรธานี  ตอนนั้นเทศกาล สงกรานต์  พาน้องสต็อปไปไหว้ศาลปู่ ศรีสุทโธ  ไม่ทราบว่า ท่านอาจารย์เคยได้ยินรึเปล่าเกี่ยวกับพญานาคที่นี่  สถานที่แห่งนี้ เป็นเกาะกลางน้ำ  มีต้นชะโนด ซึ่งมีที่เดียวในโลก  ลำต้นเหมือนต้นตาลผสมกับต้นมะพร้าว  เกาะนี้เวลาน้ำท่วมจะไม่ท่วม  เพราะมันจะลอยขึ้น  ข้างในเกาะดูเหมือนร่มรื่น  แต่บางทีก็เหมือนวังเวง  แล้วนอกเกาะจะเป็นวัด  แล้วกุหลาบไปตอนนั้นเค้าบอกให้ไปดูรอยพญานาคที่ท่านขึ้นมา  ไปดูเป็นรอยเหมือนอะไรเลื้อยคดไปคดมา  และลักษณะก็เหมือนเกล็ดอะไรซักอย่างเห็นชัดมาก  เพราะเป็นขี้โคลนให้เห็นเป็นหลักฐาน  รอยเลื้อยไปรอบๆศาลาวัด วนไปทางขวา  เหมือนเราเวียนเทียนรอบศาลาวัด  ตอนนั้นพระรูปหนึ่งท่านบอกว่า  พญานาคท่านขึ้นมาเวียนเที่ยนรอบศาลาวัด ในวันเข้าพรรษา  ท่านบอกว่า ถ้าเป็นวันสำคัญทางศาสนา  พญานาคท่านจะขึ้นมาทำบุญเหมือนคนนี่แหละ  แต่เราไม่เห็น  ถ้าท่านทำให้เห็นถึงได้เห็น  กุหลาบมีน้องสะใภ้เป็นคนอุดร  อ.บ้านดุง  เค้าจะนับถือพญานาคเกือบทุกคน  และก็มีคนเห็นรอยพญานาค ตามสถานที่ต่างๆ  เช่นตามทุ่งนาที่มีข้าว  เวลาท่านเลื้อยผ่าน  ข้าวก็จะล้มเป็นทางๆ 

เรื่องของร่างทรงพญานาค  ที่บ้านของกุหลาบก็มีค่ะ  เป็นร่างของปู่ศรีสุทโธ  แต่ลงเฉพาะวันพระ  แต่กุหลาบก็ไม่เคยไปกราบหรอกค่ะ  เพราะเห็นว่าลงวันพระก็หมดศรัทธา  ยิ่งมาเห็นท่านอ.อุบลบอกร่างของคนที่ลุงเบิ้มพามา  ว่าเป็นสัมพะเวสี  หนูก็เลยมั่นใจว่า  ไม่ใช่ปู่ศรีสุทโธแน่นอน  เพราะเค้ามาไม่เคยแนะนำอะไรศิษย์เลย  แถมศิษย์ๆทั้งหลาย ( มีไม่กี่คนหรอกค่ะ )  ครอบครัวก็วุ่นวาย  มีแต่เรื่องวุ่นๆ  พี่สาวเคยไปเล่าให้ฟัง  คนที่เป็นร่างเค้าบอกว่า  ถ้าพระไหนไม่ได้ลง  พระนั้นเค้าจะรู้สึกไม่สบายทันที  เค้าจึงต้องให้ลง  มาก็แค่กินน้ำมะพร้าว แล้วก็พูดกับศิษย์นิดหน่อย  ถามอะไรก็บอกไม่รู้  ปู่พึ่งขึ้นมา  แล้วอย่างนี้ก็แสดงว่า  เค้ามาเข้าร่างเพื่อแลกหน้ากินของเซ่นไหว้ใช่มั๊ยคะอาจารย์ 

แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กันยา  เพื่อนของกุหลาบตอนเรียนม.ต้น  เค้ามาปฏิบัติธรรมที่บ้านไร่  เค้าจะมาบำบัดกับกุหลาบ  เค้าบอกเป็นภูมิแพ้  ให้สารภาพ ก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ  หรือเป็ได้นเพราะว่าเค้าอายกุหลาบก็ไม่รู้  ก็เลยแนะนำให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย  กุหลาบเห็นเค้าผอมมาก  ก็เลยถามเพื่อนว่า  เป็นอะไร เค้าก็บอกว่า   บอกไม่ถูกเหมือนกัน  แต่มีกุมารจะมาอยู่กับเค้า  จะมาช่วยทำให้หายจากโรคภัย  และออกจากปฏิบัติธรรมเค้าจะไปรับขันธ์ 5 เพื่อให้กุมารีเค้ามาอยู่ด้วย  ก็เลยบอกเพื่อนว่า   ไม่ต้องไปรับขันธ์  ถ้ากุมารีเค้าอยากช่วยจริงๆ  ไม่ต้องรับก็ได้  เค้าทำให้หายได้  แล้วก็เลยถามเค้าว่า  ตอนนี้กุมารีมากับตัวเองมั๊ย  เพื่อนบอกว่า  เค้าเรียกมาอยู่  แล้วตัวเองรู้ได้ยังไงว่าเค้ามาด้วย  เพื่อนบอกว่า  เค้าขนลุก  เพื่อนเปลี่ยนจากท่านั่งพับเพียบ  มาเป็นเหมือนนั่งสมาธิ  กุหลาบก็เลยถามว่า  ตัวเองทำไมไม่ลองถามกุมารีดูว่า  ไม่อยากไปสวรรค์บ้างเหรอ  ทำไมต้องมาอยู่อย่างนี้   ถ้าตัวเองรับขันธ์ ท่านอ.อุบลบอกว่า  ถ้าเป็นสัมพะเวสี ตัวเองก็ยิ่งมีแต่โรครุมเร้า  เพราะเคยมีคนเป็นร่างทรงแล้วชีวิตมีแต่ลำบาก  ยากจน  ไม่มีความสุข  ก็พูดให้ตัวเองฟัง  ก็แล้วแต่ตัวเองนะ  เค้าพูดตามที่ครูบาอาจารย์ท่านบอก  เพราะท่าน เป็นคนที่นำธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอน  ถ้าตัวเองอยากมีความสุข  มาปฏิบัติธรรมนะถูกแล้ว  และอุทิศบุญให้กุมารีเค้าด้วย  และเค้าจะตามรักษาเอง ไม่ต้องไปรับหรอก  หวังดีก็เลยบอก  ดูท่าทางเพื่อนตอนนั้นเค้ายิ้มตลอด  ที่กุหลาบพูดไปคิดว่า คนที่มากับเพื่อนเค้าคงรับรู้  ใจหนึ่งก็คิดกลัว  แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า เรามีจี้อยู่  เค้าคงเห็นอะไรดีๆจากจี้บ้าง  และทำให้กุมารีคิดได้  ไม่ต้องมาเกาะเกี่ยวเพื่อนอีก  และญาติเพื่อน 2 คนก็เป็นร่างกุมาร  และร่างของย่าโม เห็นพี่สาวบอกว่า ทักแม่นเหมือนกัน แต่กุหลาบยังไม่เคยไป  เพราะเห็นท่านอ.อุบลบอกไม่ให้ไปตำหนักทรง  ก็เลยไม่ไป  แต่ก็อยากไปเห็นตอนที่เค้าลงเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร  ถ้ามีโอกาสไป  จะลองไปสังเกตุการณ์ดู  แล้วจะนำมาเล่าให้ฟังนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 07:35:37


ความคิดเห็นที่ 102 (1632313)
 
สยอง! ฝูงหมูรุมกินคนเลี้ยงเสียชีวิตในคอก

สุดช็อก! คดีประหลาด“หมูกินคน“ จนท.มึน ยังหาสาเหตุไม่พบ
คาดหัวใจวาล้มหมดสติกระทันหันระหว่างให้อาหาร 

สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่าที่รัฐโอเรกอน ของสหรัฐฯ ได้เกิดเหตุสุดสยองขึ้นเมื่อเจ้าของฟาร์มหมูรายหนึ่ง ถูกฝูงหมูที่เขาเลี้ยงไว้กัดกินเหลือเพียงเศษฟันปลอม และเศษชิ้นส่วนมนุษย์เพียงเล็กน้อยตกเกลื่อนเต็มบริเวณอยู่ภายในคอก ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายเทอร์รี่ การ์เนอร์ วัย 70ปี

ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุที่ทำให้หมูต้องกัดกินคนเลี้ยงนั้น เนื่องจากระหว่างที่เขากำลังให้อาหารอยู่อาจเกิดหัวใจวายหมดสติกระทันหัน ประกอบกับหมูที่กำลังหิวคิดว่าเขาเป็นอาหารจึงพากันมารุมกัดกินดังกล่าว

รูป สยอง! ฝูงหมูรุมกินคนเลี้ยงเสียชีวิตในคอก (0/1)

หรืออีกข้อสัณนิษฐานหนึ่ง เขาอาจทำให้หมูตัวใดตัวหนึ่งโกรธ จนมันได้กระโจนเข้าทำร้ายเขาจนล้มลง จากนั้นหมูตัวอื่น ๆ ก็เข้ามารุมและกินเขาดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการฆาตรกรรมทิ้งไป

ด้านหัวหน้าภาควิชาปศุสัตว์ มหาวิทยาลัยโอเรกอนสเตท เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าแปลกประหลาดมาก เพราะโดยทั่วไปหมูเป็นสัตว์ที่ไม่ก้าวร้าว แต่หากจะดุร้ายก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นนี้

สำหรับเหตุการณ์หมูกินคน เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2004 ที่ประเทศโรมาเนีย เมื่อหญิงรายหนึ่งถูกหมูในฟาร์ม ชนจนเธอล้มและสลบ จากนั้นพวกมันก็เข้ามากัดกินหูและใบหน้าของเธอหายไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่มีรายว่าเธอได้เสียชีวิตลงหรือไม่อย่างไร

ที่มา  :  http://news.mthai.com/world-news/194625.html
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-03 11:43:58


ความคิดเห็นที่ 103 (1632430)

คุณไสย มนต์ดำ

     วันนี้ขอเล่าประการณ์คุณไสย ที่ตนเองเคยประสบพบเจอมาครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนผมเอง จะอยู่ในแวดวง คนทรงเจ้า เข้าผี ในแต่ละสำนักนั้นก็จะจัดงาน ที่เรียกว่า งานไหว้ครู ซึ่งแ่ต่ละแห่งก็จะส่งการด์เชิญไปให้แต่ละสำนักทรง(เค้ามักเรียกกันว่าตำหนัก) ผมเองก็ไปร่วมงานอยู่บ้างเป็นเวลาปีๆ ก็เห็นเค้าทรงกันไม่รู้จริงหรือ ปลอม แต่สิ่งที่ผมได้รับมานั้นคือ คุณไสย เรียกง่ายๆ ว่าโดนคนปล่อยของใส่นั่นแหละครับ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนของสภาพก็ย่ำแย่ ไม่รู้คราวนี้ก็ต้องไปหาหมอเขมร ที่เค้าสามารถ ถอนของ ที่แม่ผมรู้จัก เชื่อถือได้

ซึ่งหมอเขมร ที่ได้ทราบมานั้น จะมี 2 อย่างคือ หมอทำ กับ หมอถอน เลือกเรียนได้แค่สายเดียว(ตามที่เ้ค้าบอกมานะครับ) ถ้าสำนักทรงบางตำหนักก็ถอนได้เหมือนกัน ที่เคยเห็นในทีวีก็จะเป็น ใช้ไข่ ใช่ไหมครับ แต่หมอเขมรที่ผมไปหามานั้น เค้าใช้ ก้านกล้วยๆ เราเชคดู มันก็ก้านกล้วยใหม่ๆ ไม่มีอะไร และก็ ขันใส่น้ำหนึ่งใบ

     ขั้นแรก เขาก็จะตรวจโดยใช้เทียนหยดดูก่อนว่าโดนของไหม โดยใช้เทียนหยดในน้ำ ถ้าโดนของก็เริ่มพิธีการเลยคือ นั่งเหยียดขาไปทางขันน้ำ ใช้ก้านกล้วยตีๆ แล้วก็ดึงมาใส่ขันเลย อย่างกับเล่นกลเลยครับ ส่วนตัวที่ผมโดนจะเป็นกระดูกผี ดินป่าข้า สายสินญจ์ ที่หัวเข่าครับ ตอนนั้น เดินแทบไม่ได้ครับ แต่หมอเค้าก็บอกนะครับ ว่ายังถอนออกไม่หมด บางคนแหงะเอา ผ้าอนามัยออกมาจากศรีษะเลย ถ้าไม่เห็นกับตาคงไม่เชื่อครับ

     ส่วนเรื่องมนต์ดำล่าสุด เขาก็ปล่อยกันได้ ทางเวปไซด์ ซึ่งเป็นเวปพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยตอนนี้แหละครับ อันนี้เพื่อนในกระทู้ที่ผมรู้จักโดนหมด แค่เขามาโพสข้อความด่า หยาบๆ หน้าเวป ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมเปิดจิต รับ เราโดนทันทีครับ เพื่อนผม ก้เป็นคนฝึกกรรมฐาน นะครับ แต่ละคน มีอาการ อาเจียนบ้าง ปวดหัวบ้าง ร้อนเท้าบ้าง ส่วนผมเองไม่เป็นอะไรครับ เพื่อนผมเองเขาก็รู้ว่าผมเป็นคนบ้านสวน ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยศรัทธา เราก็บอกเขาแบบเล่นๆ ครับว่าเราคงหนังเหนียวมั้ง ทำไร่ ทำำนา บ่อย และใส่เครื่องรางของขลัง จี้ แหวน เสื้อ ซึ่งพวกเขาเองก็รู้นะครับว่าใครทำมา แต่พวกเขาก็ไม่ทำกลับ แ่ต่พวกเค้าก็สวด สัมปจิตฉามิๆ กันน่ะครับ 

ที่ผมไม่โดนคงเป็นเพราะ 1.ไม่เปิดจิตรับ อ่านแล้วก็ไม่มีอารมณ์ร่วม วางเฉย 2.ปรกติอยู่บ้านจะใส่เสื้อบ้านสวนครับ

เรื่องที่มนต์ดำส่งทางเวปไซด์นี่ ถ้าไม่เจอกับตัวเองคงไม่เชื่อแน่ๆ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 00:00:52


ความคิดเห็นที่ 104 (1632449)

 

เห็นน้องเอิ้นเขียนแล้วก็น่ากลัวนะ  เคยเห็นแต่ในทีวี แต่ก็เชื่อนะว่าเค้าทำได้  ไม่เคยเค้าไปตำหนักลักษณะแบบนั้น  แต่ตัวพี่เองเมื่อก่อนอยู่กับพ่อพระกาฬ  ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนะ  ท่านก็จะสอนแต่สิ่งที่ดี  ถ้าศิษย์ผู้ใดที่ยังทำตัวไม่ดี  ท่านก็ไม่รับขันธ์  ต้องรอให้กลับเนื้อกลับตัวก่อน  ท่านถึงรับ  แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปครอบครูแล้วเพราะร่างเสียชีวิตแล้ว   แต่ก็มีร่างแทนแต่ไม่ไปรับ  เพราะมั่นใจท่านอ.อุบลมากกว่า  ตอนนั้นที่ไปเพราะนายเจ้าของไร่ท่านให้ไป 

เรื่องวัตถุมงคลบ้านสวน  กุหลาบเองพึ่งเห็นกับตาว่า อะไรก็ทำเราไม่ได้  เพราะเมื่อวันที่ 28 ก.ย  ที่ผ่านมา ได้ไปกราบแม่ตะเคียนแก้ว  ที่บ้านไร่  ตอนนั้นมีพี่คนหนึ่งซึ่งเค้าสามารถสื่อได้  ซึ่งกุหลาบไปทุกครั้งก็ต้องไปกราบ  แต่ไม่เคยเห็นแม่ตะเคียนลงใคร  แต่พอพี่เค้าไปและเอาของไปถวาย  เท่านั้นแหละลงเลย  ร่างก็พยายามบอกว่าอย่าลงแรงนะแม่  เพราะลูกมาปฏิบัติธรรม  ลูกจะอายคน  แล้วกุหลาบเองก็ขนลุกมาก  เย็นไปถึงใส้  และหลานก็เหมือนกัน มีคนไป 4 คน  ใส่จี้  3 คน  กุหลาบมีอาการตัวชา แต่ก็บังคับตัวเองได้  บอกร่างว่า  ทำไมหนูตัวชา  เค้าบอกว่า  แม่อยากจะผ่านร่างเรา  แต่ท่านผ่านไม่ได้  และหลานเหมือนกัน  แต่พี่คนหนึ่งไม่มีอาการใดๆ  กุหลาบก็เลยพูดกับร่างว่า  จะผ่านได้ยังไงหนูมีจี้อยู่  แล้วแม่ตะเคียนก็ออกเพราะไม่อยากให้คนรู้เยอะ  เพราะก็เริ่มมีคนเดินมาไหว้ศาลต่างๆ   นี่แหละความศักดิ์สิทธิ์ของจี้ภูติผีก็ทำอะไรเราไม่ได้จริงๆ   แต่ที่แม่อยากจะผ่านร่างท่านคงไม่ทำอะไรหรอก  ก็คงดีใจที่ได้ของที่อยากได้แค่นั้นเอง  แต่ยังไงก็ไม่อยากให้ผ่านอยู่ดี  กลัวไม่ออก

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 05:54:43


ความคิดเห็นที่ 105 (1632456)

เอ่อ น้องเอิ้นของเรา

ก็มีเรื่องเด็ดๆมาเล่า

ให้ฟังเหมือนกันนะเนี่ย

 

เรื่องแบบนี้ ก็พอรู้ว่ามี

แต่ก็ไม่เคยเห็นกับตา

แต่ที่น้องเอิ้นเจอก็แรงเหมือนกันนะ

แล้วก็น่าคิดเนอะ ว่า

เค้าจะมาทำของใส่น้องเอิ้นทำไม...

ใจร้ายซะมัดเลย

............................

ส่วนเรื่องราวของแม่หมอกุหลาบ

เขียนเรื่องอะไรมาก็น่าสนใจทั้งนั้นเลย

แบบว่า ประสบการณ์เยอะนะคะเนี่ย

ดีค่ะ มีอะไรแปลกๆ

ก็มาเหลาให้ฟังบ้าง

จะได้เป็นความรู้เสริมรอยหยักในสมอง

.............................

ส่วนเรื่องหมูกินคน เนี่ย

อ่านแล้ว เหลือเชื่อมั่กๆ

เพราะชนิดาเข้าใจว่า

ฟันหมูไม่น่าจะคมขนาด

ที่จะกัดร่างคนได้ขาด

และละเอียดขนาดนั้น

 

สงสัยจะเป็นหมู

ที่ถูกผีซอมบี้เข้าสิงรึเปล่านะคะ

ถึงได้"โหดและมีพลังขึ้นมาก"ขนาดนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 07:38:29


ความคิดเห็นที่ 106 (1632462)

 ฟังเรื่องราวที่น้องเอิ้น กับพี่กุหลาบ เล่าแล้ว

ก็ทำให้นึกไปถึงเรื่องตำหนักทรง

เมื่อตอนที่ยังเด็ก แม่จะพาไปบ่อยค่ะ

หลายที่เหมือนกัน แล้วก็มีเพื่อนเป็นคนทรงเยอมาก

เรียกว่าซี้กับคนทรงเลย เป็นตำหนักทรง

เจ้าพ่อเสือบ้าง พ่อขุนแผนบ้าง บางทีก็เป็นกุมารทองบ้าง

เวลาเข้าทรงทีก็ไม่เลือกที่เลือกเวลาค่ะ

เวลาแกจะทรงที เหมือนเป็นแบบฟอร์มเดียวกันค่ะคือ

ต้องสูบบุหรี่เป็นสิบมวน อมเทียนเป็นกำมือ กินเหล้า

ถ้ากุมารทองก็กินน้ำแดง เล่นของเล่น 

ก็แปลกนะคะ ทำไมต้องทำแบบนี้กันด้วย

ตอนนั้นก็เชื่อค่ะ ตามประสาเด็ก แล้วก็มีกลัวๆ ด้วย

เห็นคนไปกราบไหว้บูชา กันเยอะเลยค่ะ

ส่วนมากจะไปขอหวย เค้าก็มีรับขันกันนะคะ

แม่ตุ้ยก็เอากับเขาด้วย เดี๋ยวนี้ไม่รู้ขันหายไปไหนแล้ว

แต่ที่พูดมาทั้งหมด ก็จะเล่าแค่ว่าคนที่เป็นร่างทรงพวกนี้นะคะ

สุดท้ายก็มาตายไปก่อนอายุขัยทั้งนั้นเลยค่ะ

ทีละคนสองคน คนที่ยังอยู่ ก็มีแต่โรครุมเร้า

ก็น่าแปลกดีนะคะ เท่าที่เจอมา

ยังไม่มีใครสักคนที่ชีวิตมีความสุข

หรือประสบความสำเร็จเลยสักคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 08:56:55


ความคิดเห็นที่ 107 (1632550)

 -มีใครเคยฆ่างูเปล่า 

             ฯลฯ

*********************

อ.ขาหนูฆ่าเขาโดยไม่เจตนาค่ะ

ในคืนที่ปิดนรก ขุม 1 เสร็จแล้ว

ก็ได้ขับรถกลับบ้าน หลังจากที่

ได้ออกจากบ้านสวนฯมาพอเลี้ยวซ้าย

มาได้หน่อยก็เจอเป็นลายพาดยาวขวางทาง

พอดี ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเป็นงู ก็นึกว่าเป็น พ้า

ใครพิเรนเอา้้พ้าสีเหลืองดำมาพาดเล่นเป็นทางม้าลาย

แต่ความคิดก็แวบมาว่า เอะ งูหรือเปล่าจึงเบนหัวรถ

แต่ก็ไม่ทีน ทับไป 1 ล้อ ก็ไม่กล้าจอดรถดู  จึงโทรา

ถามตัวเล็กดู ปรากฎว่าเป็นงูจริง ค่ะ  รู้สึกแย่และเสียใจ

มากแต่ก็ได้อุทิศบุญให้ตลอดที่ได้ไปทำบุญที่บ้านสวนฯ

และที่ทำสมาธิที่บ้านค่ะ  ขออโหสิกรรมต่องูด้วยค่ะ

ขอรับบุญและได้ไปอยู่ภพภูมิที่สุงและสุขยิ่งขึ้นไปด้วยค่ะ สาธุ.. 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 17:47:44


ความคิดเห็นที่ 108 (1632564)

สังคมทุกวันนี้แม้จะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย จะมีเทคโนโลยี่ล้ำเลิศ

แต่เรื่องที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ก็มีมากมายไม่แพ้กัน

 

เรื่องร่างทรงนี่ ตนเองเคยไปดูเหมือนกันค่ะ จนเคยคิดศรัทธาจะไปรับขันต์กะเค้าด้วยแต่ก็มีเหตุให้ไม่ได้ไป ท่านอ.อุบลเคยบอกเกี่ยวกับเรื่องการรับขันต์นั้น เมื่อตายจะต้องไปเป็นบริวารของผี

ทำให้รู้สึกโชคดีมากๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้ไปรับขันต์กะเค้า และก็ไม่เคยไปดูร่างทรงที่ใหนอีกเลยค่ะ

 

ส่วนเรื่องซอมบี้กินคนนี่น่ากลัวค่ะ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้มาถึงไทยรึยัง หรือว่ามีแต่บ้านเรายังไม่เป็นข่าวก็ไม่รู้

ขนาดหมูซอมบี้ก็มีแล้ว สุนัขกินเจ้าของที่เลี้ยงก็มีแล้ว อีกหน่อยสัตว์อะไรที่เราคิดว่าเค้าเกิดมาเป็นอาหารเรา ตอนนี้เค้าก็คงคิดกะเราแบบนั้น

 

อนุโมทนากับทุกธรรมทานที่ทำให้ได้รับความบันเทิงและความรู้ค่ะ สาธุ.........

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-04 18:54:59


ความคิดเห็นที่ 109 (1632591)

อิอิ เพิ่งรู้ว่าคุณตุ้ยก็เคยเป็น

เด็กท่องตำหนัก(ทรง)มาเหมือนกัลล์

ไฮโซมั่กๆ อิอิ

 

พอพูดถึงเรื่อง การเข้าทรง

ทำให้นึกได้ว่า

จะว่าไปในลอนดอน

ก็มีร่างทรงเหมือนกันนะค๊า

 

แล้วชนิดาก็เคยไปมาด้วย

มีรุ่นพี่(ที่เป็นทั้งเจ้านายนั่นแหล่ะ)

มาเหลาให้ฟังว่า "คนนี้เลิศ"

ก็เลยอยากลองไปมั่ง

 

แต่บอกตามตรงค่ะว่า

จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าตัวเองไปทำไม

อยากรู้เรื่องอะไร

แล้วได้อะไรกลับมาบ้าง

 

แล้วร่างทรงนี้

เป็นร่างทรงของใครก็ไม่รู้

ถ้าจำไม่ผิดเห็น ร่างทรงเรียก "ปู่ๆ"นะคะ

 

จำได้แต่ว่า ร่างทรงคนนี้

ออกแนวทอมๆเหมือนกัน

ฉะนั้น พอทรงเสร็จ

กลับคุยกันถูกคอซะงั้น

 

ฉะนั้น เลยไม่ได้สนใจว่า

พิธีการที่เพิ่งผ่านไปนั้น

คือการทรงจริง หรือ ทรงปลอม...

 

สรุปว่า ง.งู ย่อมมาก่อน ฉ.ฉิ่ง เสมอ..จ๊า

 

.................................

เ่อ่อ...น้องเอิ้นจ๊ะ

ถ้าว่างๆ ช่วยมาเขียน

อาการ ตอนที่โดนของ

ที่ตัวเองสังเกตได้ ให้ฟังบ้างสิ

 

เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมากมาย

ให้ลองสังเกตตัวเอง

ว่าเข้าข่าย"คนโดนของ" หรือไม่

 

ขอแบบ

เล่าอาการแบบละเอียดๆเลยนะน้องเอิ้น

อนุโมทนาล่วงหน้าจ๊า


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-05 05:39:57


ความคิดเห็นที่ 110 (1632659)

ต่อไปนี้

ถ้าเจอผี ต้องคิดว่า

เราโชคดีจัง ที่จะได้ช่วยเขา นะจ๊ะ

-------------------------------------------------------------------------------------

 

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลค่ะที่เมตตาเตื่อน ต่อไปนี้ลูกจะตั้งสติให้ดี และรีบเบิกบุญช่วยพวกเขาด้วยความยินดี ไม่มัวแต่กลัว ค่ะ จริงๆค่ะพวกเขาน่าสงสารมาก

ขอขอบคุณเจ้าค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-05 11:58:26


ความคิดเห็นที่ 111 (1632695)

 

เ่อ่อ...น้องเอิ้นจ๊ะ

ถ้าว่างๆ ช่วยมาเขียน

อาการ ตอนที่โดนของ

ที่ตัวเองสังเกตได้ ให้ฟังบ้างสิ

***้่

     ยินดีครับ พี่ชนิดา ขอเล่าทั้งตัวเองโดนเองและคนที่รู้จักโดนนะครับ ตอนนั้นก็คลุกคลีอยู่กับวงการคนทรงนี่แหละครับ ในงานพวกนี้ก็จะมีพวกชอบปล่อยของ และคนต่างสำนัก ทำใส่กัน

     หลังจากที่โดนของ แล้วก็เลิกข้องเีกี่ยวกับ คนเหล่านี้เลยครับ และคิดว่านี่ไม่ใช่ทางหลุดพ้น ถอยดีกว่า

     ตอนนั้นที่โดนมีอาการไม่ชอบอยู่ในที่สว่าง ชอบอยู่ที่มืดๆ นอนทั้งวัน ไม่ค่อยมีแรง ขาเดินไม่ได้ แบบว่าต้องมีคนพยุงไปน่ะครับ เบื่ออาหาร กินอะไรก็ไม่อร่อย โทรมมากๆ หลังจากที่ถอนของ ที่ออกมาก็มีทั้ง ดินป่าช้า เศษกระดูก สายสินญจ์ แม่หมอเขาใช้ก้านกล้วยดึงออกมาจากหัวเข่าเลยครับ แล้วก็เอามาใส่ขันน้ำที่ตั้งไว้ที่ปลายเท้า ทำอยู่หลายรอบ หลังจากถอนของเสร็จก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ บวกกับไปเข้าวัดนุ่งขาวห่มขาว ทถือศีล ทำสมาธิ (ล้างซวย)

     แม้แต่ในสำนักปฎิบัติธรรมที่มีแต่แม่ชี แม่ชีบางท่านก็โดนเหมือนกันครับก็เลยแนะนำให้ไปที่นี่แหละครับ ก็ออกมาเป็น เศษแก้ว

     ส่วนแม่ผมนี่ โดนหลายครั้งอยู่ครับ บางทีนิ้วแข็งแล้วก็ตัวแข็งเหมือนเป็นอัมพาตครึ่งซีกเลย หมดแรง อ่อนเพลีย

    แต่บางทีถ้าโดนแบบเบาๆ ก็จะไม่มีอาการอะไรครับ ถ้าแสบๆ ร้อนๆ นี่บางที ก็ออกมาเป็นพริก เมล็ดพริก

    ก็มีเท่านี้แหละครับ จริงๆ ถ้าเราไม่เอาตัวเองไปคลุกคลีกับคนที่คาดว่าจะเป็นเ็ป็นพวก หมอดู หมอผี คนทรงนี่ก็จะไม่ค่อยเจอเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ครับ แต่ก็ไม่แน่นักครับ สุดท้ายก็คงไม่พ้น กรรม ทีนำให้เราไปเจอ สิ่งเหล่านี้หรอกครับ ก.กรรม นำไป ข.ของดำ ก็ตามมา 

 

พิธีการที่เพิ่งผ่านไปนั้น

คือการทรงจริง หรือ ทรงปลอม... 

 

สรุปว่า ง.งู ย่อมมาก่อน ฉ.ฉิ่ง เสมอ..จ๊า

     ตรงนี้เคยรู้จักพี่คนนึงที่เขาเป็นร่างทรงก็พูดถึงเรื่องนี้เหมือนกันนะครับ บางทีไปงาน เค้า็ก็บอกเหมือนกันว่า ผีทั้งนั้น จริงๆ เราดูเองด้วยตาเนื้อก็แยกไม่ออกเหมือนกันทางที่ดียึดหลักกาลามสููตร นี่แหละครับ จริงแท้แน่นอน

     จริงๆถ้ามีอะไรมาผ่านร่างเราก็ไม่มีอะไรพิสูจน์อยู่แล้วว่า จริงหรือเปล่า ส่วนคนที่เป็นร่างนั้น ถ้าลองได้เปิดจิตให้สิ่งเหล่านี้ผ่านได้แล้ว อะไรก็ผ่านได้ครับ เหมือนประตูที่ไม่ได้ล๊อคกลอนอาจจะมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาก็ได้ ต้องรักษาประตูจิตเราให้เข้มแข็งไว้ครับ

     ส่วนตัวเองก็เคยรับขันธ์นะครับ (เอาไปลอยน้ำนานแล้ว)พอไปดูหมอหรือพระ เค้าก็ว่า มีองค์ ก็มีหลงไปสักพักนึงครับ หลังๆก็รู้ว่ามันไม่ใช่ทางหลุดพ้นไม่ใช่ทางพ้นทุกข์จริงๆ รู้ว่ามีแต่ก็ไม่เอามาเป็นเส้นทางที่จะเดินครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-05 14:04:25


ความคิดเห็นที่ 112 (1632969)

ตอน นั้นที่โดน

มีอาการไม่ชอบอยู่ในที่สว่าง

ชอบอยู่ที่มืดๆ นอนทั้งวัน

ไม่ค่อยมีแรง ขาเดินไม่ได้

แบบว่าต้องมีคนพยุงไปน่ะครับ

เบื่ออาหาร กินอะไรก็ไม่อร่อย

โทรมมากๆ

.......................................

อนุโมทนาจ่ะน้องเอิ้น แปลกแต่จริงเนอะ

เมื่อโดนของดำ

ก็ไม่ชอบอยู่ในที่สว่างขึ้นมาซะงั้น

แสดงว่า แสงแดดจากดวงอาทิตย์

ย่อมมีพลังอันศักดิ์สิทธิ์

สถิตอยู่เหมือนกัน


จริงๆเรื่องแบบนี้คงเป็นบทเรียน

สำหรับเราทุกคน

เพราะเมื่อก่อนด้วยความไม่รู้

หรือ ด้วยกรรมอย่างที่น้องเอิ้นว่า

 

จึงทำให้เราเอาตัวเองไปเกี่ยว

ไปข้องกับ"อวิชา"เหล่านี้

ซึ่งยิ่งเกี่ยวข้องชีวิตก็ยิ่งแย่ลง

 

เพราะถ้ามองในแง่ของธุรกิจแล้ว

คนปล่อยของก็ต้องพยายาม

ปล่อยของให้คนโดนเยอะๆ

เพื่อคนที่โดนจะได้ไปหาคนช่วยถอน

คือ ก็คงจะวนเวียนๆกันอยู่เช่นนั้น

โดนเองบ้าง หรือ คนใกล้ตัวโดนบ้าง

แล้วก็แนะนำกันต่อๆไป


แต่ตอนนี้พวกเราคงรู้โดยทั่วกันว่า

ความดีที่เราทำจะช่วยปกป้อง

และป้องกันเราได้

จาก"คุณไสย"หรือของดำ

 

และที่สำคัญท่านอาจารย์

ก็ได้เมตตาบอกแล้วว่า

อย่าเป็นคนขี้โกรธ ขี้โมโห

เพราะนั่นคือ พาหะชั้นดี

ที่จะดึง"อวิชา"เหล่านี้เข้าสู่ตัวเราได้..สบายๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 01:22:08


ความคิดเห็นที่ 113 (1633071)

ถ้าเรื่องคุณไสย์ กุหลาบก็ได้ฟังจากป้าท่านหนึ่ง ชื่อป้าหวัง ได้เล่าให้ฟังว่า ลูกสาวได้ไปรับขันธ์มาแล้วแทนที่จะมีที่ดีขึ้น  กลับไม่เป็นอย่างที่คิด  เพราะลูกเปลี่ยนเป็นคนละคน ตัวป้าหวังเองก็ได้ไปรับขันธ์ที่เดียวกับลูกเหมือนกัน  สงสัยไปรับขันธ์แล้วคิดว่าเค้าคจะทำให้มีโชคลาภละมั๊ง  แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น  ป้าหวังเล่าว่า  พอรับมาแล้วฝันเห็นผีทุกวัน  ส่วนอีกคนที่ไปรับด้วยกันก็ฝันเห็นผีไล่เกือบทุกวัน  ก็เลยมาพูดกันสองคนว่า  ไม่เข้าท่าแล้วทำไมเป้งนแบบนี้  เราไปคืนขันธ์ดีกว่า  ก็พากันคืนขันธ์กับร่างทรง แต่ลูกสาวป้าหวังไม่ไปคืน พอไปคืนเห็นป้าหวังเล่าว่า  ร่างทรงเหมือนไม่พอใจ  พอตกกลางคืนนอนแทบไม่ได้  ป้าหวังบอกว่ามันปล่อยผีออกมาอำแทบนอนไม่ได้  ทั้งสองคน  เป็นเกือบทุกคืน  แกบอกว่าทรมานมาก  เที่ยวหาของดีใส่ตัว  ทั้งๆรู้จักอ.อุบลช่วยด้วยแต่ลืมใช้  นึกไม่ถึง  ส่วนลูกสาว  ก็มีอารมณ์ฉุนเฉียว แม่บอกอะไรก็ไม่เชื่อ เถียงกับแม่ขึ้นมึง  กู  ทั้งๆที่ลูกไม่เคยเป็นแบบนี้  มีอะไรก็จะเอาไปให้ร่างหมด  ไม่ว่าจะเป็นของกิน  หรือเงินทองเค้าจะเอาเท่าไหร่ก็เที่ยวไปเป็นหนี้เป็นสินมาให้เค้า  จนป้าหวังหนักใจกับลูก  เพราะตอนนี้หนี้เยอะแล้ว ลูกผัวไม่สนใจ  จิตใจอยู่ที่ร่างทรงอย่างเดียว  ตอนที่ป้าหวังมาเล่าให้กุหลาบฟัง  ก็บอกป้าว่า พีระมิดท้าวเวสสุวรรณป้าก็มี  ทำไมป้าไม่อธิษฐานบอกให้ท่านช่วย  ป้าบูชาไปทำไม  มีของดีแต่ป้าไม่เอามาใช้เอง  ป้าไม่นึกถึงพระพุทธเจ้า  ป้าไปนึกถึงอะไรก็ไม่รู้  และเรื่องขันธ์ของลูกที่อยู่บนหัวนอน  ทำไม่ป้าไม่เอาไปทิ้งเลย  ป้าจะหวงไว้ทำไม  มันของไม่ดีแล้ว  กุหลาบก็บอกป้าอย่างนี้ 

มีวันหนึ่งกุหลาบได้ขับรถไปบ้านป้าหวัง  แกก็บอกว่าลูกสาวจะเอาร่างมาตั้งศาลพระภูมิใหม่  บอกว่าอันเก่าตั้งไม่ถูก  และจะทำให้ถูกจะคิดค่าตั้งศาล  20,000 บาท  ไม่เคยเห็นเค้าตั้งศาลที่ไหนที่จะคิดแพงขนาดนี้  เห็นเค้าเกลี่ยเตรียมที่จะทำศาลใหม่  ก็เลยบอกว่า  ป้าหวังกำลังโดนหลอกแล้วหละ  ถ้าทำป้าหวังก็โง่เต็มที  แล้วป้าหวังก็ได้บอกร่างว่าไม่ทำ  ลูกสาวก็โกรธแม่มาก  ถึงขนาดไม่ยอมพูดด้วย  และย้ายบ้านไปอยู่บ้านแฟน  ป้าหวังก็ได้โทรศัพท์ไปบอกแม่ของลูกเขยว่า  ถ้าลูกสาวมาบอกให้หาเงินให้อย่าไปหาให้มันนะ  เพราะมันกำลังบ้าร่างทรง  และในคืนหนึ่งป้าหวังฝันว่า  ร่างทรงพูดว่าอีนี่มันรู้ตัวแล้ว  ไปหาคนอื่นดีกว่า   แล้วป้าหวังก็มาเล่าให้ เจ้าของบ้านไร่ฯฟัง  ท่านก็บอกว่า  มันปล่อยผีมาหาพวกมึง  เป็นผีตายโหงทั้งนั้นเลย  ก็ให้สวดมนต์ภาวนาเข้าไว้  ส่วนลูกมึงกรรมของมัน  กุหลาบก็เข้าใจ  เพราะเจ้าของไร่ท่านก็เห็นอะไรที่เราๆมองไม่เห็นเหมือนกัน  ท่านก็บอกแค่นั้น 

แม้แต่เดี๋ยวนี้ลูกสาวป้าหวังก็ยังกู่ไม่กลับ  ไม่ยอมพูดกับแม่เหมือนเดิม  และนี้คือร่างทรงที่ใช้มนต์ดำในการหากิน  ใช้ภูติผีในการบังคับให้คนที่ ไม่มีศีลทำได้ทุกอย่าง  ต้องตกเป็นทาสของผีนรกพวกนั้น  และคนที่ยังมีความโลภ และบ้ากับเรื่องหวย  ก็ต้องเจอกับสิ่งแบบนี้ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 16:14:08


ความคิดเห็นที่ 114 (1633104)

ช่วงประมาณ 2 ปีก่อน พี่สาว และพี่เขยของก้อยไปพบร่างทรงที่อ้างว่าเป็นร่างของปู่ฤาษี

เขาจะแต่งตัวเป็นแบบฤาษีตลอดที่เราเห็น พักอยู่ที่โคราชพร้อมครอบครัว

เวลาพี่สาวไปหา เขาก็จะโทรสั่งโน่นนี่ให้ซื้อให้

เช่น ปู่ชอบกินปลาหมึกย่างตัวใหญ่ ๆ  และก็ขนมนมเนยอีกเยอะแยะ 

ไปแต่ละครั้งก็หมดเงินไปเยอะ แถมยังใบ้หวยให้ตลอด และก็ไม่ถูกกินทุกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า

พี่เขยก้อยจะเป็นศิษย์โปรดของเขา เพราะก้อยเห็นว่าเขาสามารถเรียกใช้พี่เขยได้ตลอด

ก้อยเคยมีโอกาสตามพี่สาว ไปพิธีสวดโซฮาบูชาครูครั้งนึง

บรรยากาศในงาน จะมีแต่คนแต่งชุดขาว มีคนสวดประกอบเครื่องดนตรี

มีเครื่องเซ่นไหว้เยอะมาก พอคนที่สวดร้องถึงเทพพระองค์ใด

คนที่เป็นร่างทรงของเทพองค์นั้น ก็จะออกมาร่ายรำ

มาถึงคิวพ่อปู่ ท่านก็ลุกคนมาแสดงท่าทางเต้นตามจังหวะเพลงสวด

แล้วก็ทำตามเหลือก ๆ ให้เหลือแต่ตาขาว

พี่สาวก้อยก็ตื่นเต้นใหญ่ ไม่เคยเห็นว่ามีใครทำแบบนี้ได้ 

ก้อยก็แอบคิดว่า เคยเห็นลูกของเพื่อนก็เคยทำแบบนี้ได้เหมือนกัน แปลกตรงไหนเนี่ย

ระหว่างงานก็จะมีถาดดอกไม้ส่งต่อ ๆ กัน เพื่อให้เราใส่เงินทำบุญ
 
ช่วงไหนที่พ่อปู่มากรุงเทพฯ บรรดาศิษย์ก็จะตามไปหาถึงที่
 
และไม่ว่าพ่อปู่รายนี้จะต้องการอะไร ก็ต้องหาซื้อมาให้
 
ศิษย์บางคน เงินไม่ค่อยจะมี ก็ต้องหามาให้
 
พี่สาวของก้อยทุ่มเททั้งเงิน และเวลาให้คนที่อ้างว่าพ่อปู่คนนี้ไปเป็นปี
 
สุดท้ายก็เริ่มรู้ตัวว่าไม่ได้อะไรจากตรงนี้เลย มีแต่เสียด้วยซ้ำไป
 
แต่ก็ยังดีที่เป็นบทเรียน ทำให้เขาได้เรียนรู้เท่าทันในเรื่องแบบนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 19:18:48


ความคิดเห็นที่ 115 (1633109)

มีอยู่ครั้งนึงที่ พี่สาวได้แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนเขาคนนึง

ที่อ้างว่าตัวเองเป็นร่างทรงของพระแม่องค์นึง 

ก้อยจำชื่อไม่ได้แ้ล้ว พี่สาวเกริ่นว่าก้อยไปทำบุญที่บ้านสวนฯ บ่อย ๆ

ก้อยก็บอกเขาไปด้วยความตื่นเต้นว่าก้อยได้เจอท่าน อ. อุบล

และท่านก็สามารถรับสื่อจากพระพุทธเจ้าได้ (ตอนนั้นเพิ่งรู้จักบ้านสวนฯ)

เขารีบสวนก้อยว่า "พระพุทธเจ้าไม่สื่อสารกับใคร6

ตอนนั้นไม่มีปัญญาแม้จะแย้งเขา

ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-08 19:34:20


ความคิดเห็นที่ 116 (1634310)

แหม่..ชีวิตป้าหวัง

แทบจะ"หมดหวัง"กับชีวิต

 

เพราะติดกรรมจึงเกิดความคิดไปรับขัน

นำผีมาบูชา จนชีวิตแทบจะสิ้นไร้

"ความสุข"

โดยเฉพาะ ลูกสาวป้าหวัง

ถึงตอนนี้ ยังกู่ไม่กลับเลย

 

ขอบคุณเรื่องราวจากคุณกุหลาบ

และ เรื่องราวที่ชวนคิด

จาก หนูก้อย ด้วยนะจ๊า...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-14 01:05:36


ความคิดเห็นที่ 117 (1636762)

หนูขอตอบที่ท่านอ.อุบล เขียนเรื่องที่ลุงเบิ้มเล่างูตัวใหญ่สามารถกินควายได้ทั้งตัว ( งูตัวใหญ่สูงเท่าเสาไฟฟ้า ) คือพยานาค แต่หนูเขียนเป็นพญาควาย  เป็นเพราะตัวรับสื่อไม่ดีค่ะ

ถึงแม้นหนูจะตอบช้าไปเป็นเพราะหนูยังโง่เขลาเบาปัญญาหนักของหนูเอง

หนูกราบขอโทษเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-26 11:05:41


ความคิดเห็นที่ 118 (1636880)

เพราะ

อ.อุบล จะให้บุญ

เทวดารักษาทุกคน เสมอ

 

*********

ขอเล่าเรื่อง ที่เกิดขึ้นที่บ้าน อรบ้างนะคะ มีช่วงหนึ่งที่บ้านก่อนนอนจะลืม

ปิดประตูหน้าบ้าน เปิดทิ้งใว้ทั้งคืน ตื่นมาตอนเช้า เห็นประตูเปิดอยู่ ก็ตกใจมาก

โอ้ จะมีอะไรเหลือใว้ให้มั่งเนี๊ย  พอออกมาสํารวจดู น่าอัศจรรย์มาก ไม่มีอะไรหาย หรือถูกเคลื่อนย้าย เลยแม้แต่ชิ้นเดียว โอ้โห เทวดารักษาจริงๆ ซึ่งจะผิดกับเมื่อก่อนที่จะมารู้จักท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนฯ  ขนาดปิดประตูมิดชิดอย่างดี ยังมีคนเข้ามาขโมยของได้เลย จักรยาน จะหายเป็นว่าเล่น กระถาง+ต้นใม้ตั้งใว้หน้าบ้านก็ไม่เหลือ แต่พอได้มาสร้างบุญบ้านสวนฯ ไม่เคยมีขโมย ของไม่เคยหายอีกเลยค่ะ บางทีนะ วันดี คืนดี มีคนที่เดินผ่านหน้าบ้าน บอกว่า เห็นคนสวยๆ เดินอยู่ชั้นบนนอกระเบียง บางทีเค้าก็เห็นเป็นเด็กเล็กๆ มาวิ่งเล่น ถามเค้าบอกว่า ไม่เคยเห็นหน้า ไม่ใช่คนในบ้านด้วย ฮ่าฮ่า อิ อิ เล่นเอาเจ้าของบ้านกลัวเลยทีเดียว  อรคิดว่าเป็นเทวดาที่รักษาบ้านให้เรานั้นแหละค่ะ พอท่านอาจารย์บอกว่า จะให้บุญเทวดาที่รักษาทุกคนเสมอ

เก๊ทเลยค่ะ สาธุ ทําให้นึกถึงคําที่หลวงพ่อสอนว่า คนที่รักษาศีล และเข้ายุค

พระศรีอาริย์ เวลานอนกลางคืน ก็ไม่ต้องปิดประตูบ้าน อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ทุกพระองค์ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-26 21:19:28


ความคิดเห็นที่ 119 (1636996)

ขอเล่าบ้างค่ะ คือหลานโทรมาเล่าให้ฟังว่า แถวบ้านที่หลานอยู่โดนยกเค้าติดกัน 2 หลัง ทั้งๆที่เป็นบ้านของตำรวจ  หลานก็กลัวเหมือนกัน  เพราะบ้านมีเครื่องมือในการก่อสร้าง มีวันหนึ่งขณะที่นอนหลับและได้ฝันไปว่า หัวหน้ารับเหมาก่อสร้าง ขับรถตัวเองมาเรียกตะโกน บอกว่า จะไปหาอ.อุบลมั้ย ไหนบอกว่าจะไปเร็วๆนะ แต่พอมองไปที่รถก็เห็นท่านอ.อุบลนั่งอยู่ในรถด้วย  ด้วยความตกใจกลัวจะไม่ได้ไปบ้านสวนก็ตกใจตื่น และได้ยินเสียงหมาเห่าดังมาก ก็เลยชะโงกไปดูที่หน้าต่างบ้าน  ได้เห็นรถมอเตอร์ไซด์คนหนึ่งจอดอยู่ แล้วก็เห็นคนกำลังปีนหน้าข้ามกำแพงจะข้ามมาที่บ้านของหลาน  หลานก็ตะโกนร้องถามว่า จะข้ามมาทำอะไร  ขโมยก็โดดหนีทันที  หลานตกใจมาก และดีใจที่ท่านอ.อุบลท่านมาบอกเกี่ยวกับขโมยจะขึ้นบ้าน  ถ้าไม่มีท่าน ป่านนี้ไม่ทราบว่ามันจะเอาอะไรไปบ้าง  มีแต่เครื่องมือทำมาหากินทั้งนั้น

นี่แหละค่ะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนท่านตามปกปักษ์รักษาลูกหลานที่ รักและเคารพศรัทธาท่าน  หลานสาวซาบซึ้งในเมตตามาก  และเค้าก็ได้ขอบคุณแล้วค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-27 20:04:10


ความคิดเห็นที่ 120 (1637019)

 โอ้โฮ้....กับข่าวจากคุณกุหลาบเลยคะ

นี้ถ้าไม่ฝันถึงท่านอ.ขโมยคงจะยกเค้าเป็นแน่

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-28 01:15:13


ความคิดเห็นที่ 121 (1637026)

 อนุโมทนากับคุณกุหลาบด้วยค่ะ

โชคดีจริงๆค่ะที่อ.ท่านเมตตามาบอกในฝัน

ทันเวลาพอดิบพอดีเลย

เจ้าโจรก็ไม่ต้องทำบาป และของก็ยังอยู่ครบ

แบบนี้เรียกว่ากำไร 2 เด้งเลยนะคะเนี่ย อิอิ

อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-28 03:48:53


ความคิดเห็นที่ 122 (1637031)

ได้อ่านเรื่องเทวดาที่มาคุ้มครองบ้าน

จากธรรมทานของคุณอรแล้ว

 

ก็ทำให้นึกถึง เรื่องตัวเองเหมือนกัน

เพราะมีอยู่วันนึง

เลิกงานกลับบ้านก่อนคุณสามี

แต่เปิดประตูเข้ามาตกใจมากๆ

เพราะเห็นไฟในห้องเปิดอยู่

ทั้งๆที่ก่อนที่จะออกไปทำงาน

จะเช็คกันทุกครั้ง ไม่มีทางลืมแน่ๆ

 

ก็เลยคิดเองว่า

น่าจะเป็นทางป้องกันขโมยทางหนึ่ง

 

เพราะจะมีช่วงนึงที่จะมีคนหน้าแปลกๆ

มายืนอยู่หน้าตึก

อาจจะมาเช็คว่าห้องใหน เข้าบ้านกี่โมง

อะไรประมาณนี้รึเปล่า

 

ถ้าสิ่งที่ชนิดาเขียนนั้น

เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง

ก็ขอกราบขอบพระคุณเบื้องบน

ทุกๆพระองค์

และท่านอ.อุบลและครอบครัวด้วยค่ะ

 

 

ส่วนเรื่องราวของหลานสาวคุณกุหลาบ

ก็ชวน"อึ้ง"อีกแล้ว

 

และทำให้รู้ว่า บารมีท่านอาจารย์อุบล

ปกป้องคุ้มครองลูกหลานบ้านสวนฯ

ถ้วนหน้าทุกคนจริงๆค่ะ สาธุ

 

อนุโมทนากับเรื่องราวจากคุณอร

และคุณกุหลาบด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-28 05:29:24


ความคิดเห็นที่ 123 (1638367)

 

และต่อไปนี้
จะถือเป็นกฏข้อหนึ่ง
ซึ่งเป็นข้อสำคัญยิ่ง
ในการที่ใคร
จะเข้าไปบ้านสวนพีระมิด
จะต้องมีธรรมทาน
ชีวิตตัวเอง
ถ่ายเอกสารเตรียมไปแจกด้วย
ทุกคน
ต้องส่ง อ.อุบล ก่อน
แล้ว อ.อุบล จะเป็นผู้ให้ทีมงาน
กลั่นกรอง และ
แจกธรรมทานของคุณเอง
ส่วนใครจะมีสำเนา
จากในเวปที่คนอื่นเขียนไปแจกด้วย
ก็ยิ่งดี แต่ยึด ของตนเอง เป็นหลัก
เริ่มสัปดาห์นี้เลย
ก็แล้วกัน
ส่งข่าว
ไปหลายๆกระทู้ด้วยนะจ๊ะ
และ
ถ้าคุยกันได้ ก็บอกกันด้วยนะ
มิฉะนั้น
หมดสิทธิ์เข้าบ้านสวน
นะจ๊ะจะบอกให้
******
 
อย่าไปมือเปล่า 
นำเอาธรรมทานที่ตัวเองเขียน
หรือ พริ้นท์ ออกมา
ถ่ายเอกสาร ไปแจกจ่ายด้วย
 
ที่บ้านสวนฯ
เป็นแหล่งรวมผู้คน
ที่เป็นนักแสวงบุญ ปรารถนาบุญใหญ่
เมื่อแจกจ่าย เขาจะอ่านแน่นอน
และนำไปแจกต่อแน่นอน
 
(นี่แหละที่ว่า คนเขียน+คนแจก
ก็จะรอดปลอดภัย จากภัยพิบัติ
 จะหายเจ็บ หายจน)
 
พวกเรา
ต้องต่างคนต่างแลกเปลี่ยนกันอ่าน
แลกเปลี่ยนกันแจกจ่าย
รีบเร่งถ่ายเอกสาร
แจกทั้งของเรา และ ของเพื่อนเรา
ที่เขาแจกเรามา
 
เหมือนการต่อเทียน
ถ้าเราแจกคนเดียว หรือ แจกแต่
เฉพาะของเรา ก็เท่ากับ
มีเทียนส่องสว่างเล่มเดียว
 
แต่ถ้า
เราแจกออกไป
รับคนที่แจกเรามาแล้ว
ช่วยกันแจกต่อ
 
ก็เท่ากับว่า
เรามีเทียนส่องสว่าง
หลายดวง ยิ่งมีเทียนมาก
แสงสว่างก็ยิ่งมาก
 
ความสุข+ความดี+ความสมหวัง
ก็จะบังเกิดขึ้นมากมาย
ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์
  
เริ่มตั้งแต่บัดนี้
วันนี้+อาทิตย์นี้เลยนะจ๊ะ
 
ดูสิว่า
บุญธรรมทาน ส่งผลทันที
เป็นอย่างไร
 
นี่เป็น
ปรากฎการณ์ใหม่
นะจ๊ะ
 
แล้วเรามาพิสูจน์ผลกัน
สัปดาห์นี้เลย
 
หรือใคร
ได้อานิสงส์ก่อน
ก็รีบมาเล่าเลยนะจ๊ะ
 
                                                                                                          ผู้แสดงความคิดเห็นอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-02 22:25:09



<< ก่อนหน้า 1 [2]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.