1.เอาไปใช้หนี้เก่า คือ เลี้ยงดูพ่อแม่ อย่าให้ท่านลำบาก ให้ท่านมีความสุขน่ะ เราได้ทำกันหรือไม่คะ
2.เอา ไปใช้หนี้เก่า คือ เลี้ยงลูกของเราน่ะค่ะ เพราะลูก ถือเป็นเจ้าหนี้เก่าในอดีตชาติค่ะ เขาตามมาให้เราเลี้ยงเขา เพราะเราให้เขาเลี้ยงมาก่อนนี่นาาาา การเลี้ยงลูก ไม่ใช่เลี้ยงแค่ให้มีอาหารปากกิน ต้องเลี้ยงด้วยอาหารใจ และอาหารสมองด้วย

แต่พ่อแม่ ก็ต้องมีอาหารเช่นว่านี้ก่อน จึงจะใช้ป้อนลูกได้ อิ อิ เอาเป็นว่าเลี้ยงลูกให้สุขใจ สุขกาย เข้มแข็ง หรือ แข็งแรง มีภูมิต้านทานทั้งร่างกาย จิตใจ
  (ขอ ย้อนไปเรื่องการเลี้ยงพ่อแม่ ด้วยค่ะซึ่งรวมถึงผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามา ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ หรือพ่อแม่เสีย อยู่กับคนอื่น เป็นต้น และการเลี้ยงดูพ่อแม่นั้น ไม่ใช่แค่ให้อาหารปาก พ่อแม่ต้องการที่สุด คือ อาหารใจ เหมือนกับพวกเราทั้งหลายนั่นแหละค่ะ)

สำหรับพ่อแม่ ต้องการมากยิ่งกว่าเพราะคนแก่ จะขี้เหงา ขี้อ้อน เหมือนเด็กอ่อนเข้าไปทกวัน ให้นึกถึงวันที่เรามีลูก เราจะรักลูกของเรา แม้ว่า จะช่วยตัวเองไม่ได้ พูดไม่ชัด ถามซ้ำๆ อาการอย่างนี้ลูกทำเรารู้สึกน่ารัก

แต่พ่อแม่ทำน่ารำคาญ น่าเบื่อใช่ไหม ถ้ารู้สึกน่ารักเมื่อไหร่ท่านทั้งหลาย จะไม่เบื่อที่จะดูแลท่าน และ จะมีแต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยนะ...ขอบอก)

3.เอาไปฝังดินไว้
โอ้ยยยย ปลวกขึ้นแน่นอน
ยก เว้นใส่ไห ปิดให้ดี โบกปูน ฝังดิน แต่ต้องจำที่ฝังให้ดีนะ ถ้าไหเลื่อนเคลื่อนที่ไปละยุ่งเลย ต้องตามหาไหกันอีก โอ้ยยเหนื่อยเนาะ มีเงินเยอะๆเนี่ย (งั้นต้องใช้เงินให้เป็นและรีบใช้นะซี)

เข้าเรื่อง คำว่าฝังดินไว้ ในความหมายของพระพุทธเจ้า คือ การทำบุญ ด้วยทรัพย์ที่หามาได้ ต้องแบ่งส่วนหนึ่งไว้ทำบุญเสมอ ต้อง ทำเป็นประจำ

เมื่อมีรายได้ ต้องทำทันที ทำแบบง่ายๆ ทำสม่ำเสมอ ทำต่อเนื่อง และ ทำมากขึ้น และ รู้จักทำบุญใหญ่ๆ บุญเล็กๆก็ไม่ละเลย
-รู้จักเลือกเนื้อนาบุญ
-รู้จักการฝึกจิตใจให้เบิกบานในการทำบุญ
-ต้องรู้และ เข้าใจ คำว่าบุญ

บางคนคิดว่าบุญ ต้องทำที่วัด
ชาติ หนึ่งจะได้ทำสักกี่ครั้ง บางคนทำมาทั้งชีวิต ยังไม่รู้ว่าผลบุญส่งผลหรือยัง ตอนไหน ยังไงเพราะยังเจ็บป่วยอยู่เลย ยิ่งหนักขึ้นด้วย ยังจนอยู่เลย

หนี้ก็พอกพูนขึ้นยังทุกข์ ยังเครียด ยังโกรธแค้นอยู่เลย แล้วบุญ ทำให้มีความสุข พ้นทุกข์ได้จริงหรือ

พระพุทธเจ้า จึงสอนให้เราแบ่งเงินรายได้ เป็น 4 ส่วน และ 1 ใน 4 ส่วนนี้ ต้องทำบุญ ถ้าใครค้าขาย ก็ให้หักแบ่งรายวัน หรืออาจจะรวมเป็นอาทิตย์ หรือ เป็นเดือนแบ่งทีก็ได้ แต่อย่าลืมนะ พระพุทธเจ้าบอกให้ทำทันที ทำง่ายๆ แปลว่า ต้องมีความหมายนะซี ไม่งั้นท่านไม่บอกหรอก คงปล่อยให้คนฉลาดอย่างเราคิดเอาเองแล้วหละ ท่านคงกลัวว่าพวกเราจะฉลาดเกินไป จนกระทั่งไม่ได้อานิสงส์ของบุญ ท่านเลยบอกว่า

"ให้ทำทันที" "ทำแบบง่าย" "ทำสม่ำเสมอ" "ทำต่อเนื่อง" ทำให้มากขึ้น"

ดังนั้นคนค้าขาย ที่ต้องการขายของได้ทุกวัน ก็ต้องทำบุญทุกวัน
*ที ทำบุญ นานๆทำที ปีทำครั้ง แต่ตอนขายของ จะขอให้ขายได้ทุกวัน โอ้ยยยมันจะยุติธรรมไหมเนี่ย หรือ ทำอาชีพอื่นก็เถอะ ทีเงินทอง อยากได้บ่อยๆ แต่ทำบุญ นานทำที ปีทำไม่กี่หน แต่ผลบุญ อยากได้เยอะๆ บางคนหนักเข้าไปอีก บุญไม่เคยทำ แต่อยากรวย อยากได้เงินมากๆ เห็นคนเขาได้เงินมาก ไปอิจฉาเขาอีกแน่ะ แต่ไม่เคยดูเลยว่า ตอนทำบุญน่ะ เราทำเท่าเขารึเปล่า จึงคิดจะได้เท่าเขา

คนทำงานได้เงินเดือน
ก็ ให้แบ่งเงินเดือนส่วนหนึ่ง ทำบุญจริงๆจังๆ และ ทำให้ได้ทุกเดือน ต้องทำต่อเนื่อง และทำมากขึ้น เช่น เคยทำเดือนละ 1 ร้อย ทำมานานนับปีแล้ว ปีต่อไปก็ยังทำ 100 อันนี้ถือว่า ไม่ได้ทำมากขึ้นตามคำสอน

ปี ต่อไป หรือ หลายเดือนต่อไป ต้อง 200 - 300 - 400 หรือมากกว่านี้ จึงจะถูก ก็ทำอยู่เท่าเดิม แต่ตอนขายของอยากขายดีขึ้น อยากขายได้ยอดขายมากขึ้น โธ่ ... ถัง ...กาละมังแตก...ช่างคิดได้นะ ทำบุญเท่าเดิม อยากได้เงินมากขึ้น
***การ ทำต่อเนื่องก็เหมือนกัน ก็ทีรายได้ ยังอยากได้บ่อยๆ สม่ำเสมอและต่อเนื่อง และ มากขึ้นเลย ทำบุญ ก็ต้องทำต่อเนื่องด้วยสิจ้ะ บางคนนะทำๆ หยุดๆ ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง หรือบางคน ไม่ทำเลย รอวาสนาหล่นทับ รอเงินหล่นทับอย่างเดียว 

แล้ว ก็มานั่งบ่นว่า ทำไมนะ ขายของไม่ดีเลย บางวันขายได้ บางทีเป็นเดือนขายไม่ได้ บางทียอดหดหาย ขายอะไรก็เจ๊ง มันจะไม่เจ๊ง ได้ไงล่ะ มันจะขายดีได้ไงล่ะ บุญไม่ทำ นานๆทำที แถมคดโกงลูกค้าอีกอ่ะซี โกงกีโล โกงคุณภาพ พูดจาหลอกลวง แล้วจะเอาขายดี มีรายได้เยอะๆได้ไงจ้ะ

สรุปว่า
-ถ้าอยากมีเงินเข้าประจำ มีรายได้มั่นคง ต่อเนื่อง ไม่สะดุด แถมได้มากขึ้นด้วยนี่นะ
-ก็ ต้อง ทำบุญประจำ ทำทันที อย่าลีลามีข้ออ้างเยอะ เวลาจะได้ มันก็มีคนมาลีลากับเราเหมือนกัน เราทำบุญง่าย โชคลาภก็เข้าง่าย เราจ่ายเจ้าหนี้เร็ว เวลาคนจะจ่ายเราก็จะเร็ว เราถ่วงการจ่ายเงิน เวลาจะได้ ก็จะมีคนถ่วงเวลาเราเหมือนกัน

เราชอบซื้อของเงินเชื่อ เวลาคนจ่ายเรา เขาก็จะเชื่อเรา เราไม่ชอบติดหนี้ เราชอบจ่ายสด เวลาทำการค้าใดนะ รับประกันเลยว่า เงินสดๆ แถมเงินก่อนทั้งนั้น ถ้าใครแถม เวลาเราขาย ผู้ซื้อก็จะแถมเราเหมือนกัน

อันนี้ขอนั่งยัน นอนยัน ยืนยันนะว่า  ได้ผลจริงๆ ทำมาแล้ว เห็นผลมาแล้ว เห็นเรื่อยมา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จึงเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันได้จริงๆ ถ้าอยากได้ขั้นเลื่อน เงินเดือนเพิ่ม ยอดขายเพิ่ม ผลงานเพิ่มนะ ไม่ยากเลย
***ก็แค่ทำตามพระพุทธเจ้าบอก เรื่องทำให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะจ้ะ
ถ้าทำบุญเท่าเดิม ก็อย่าเรียกร้องเงินเพิ่มเลย มันเป็นกฏแห่งกรรม ที่เราทำไว้เอง เราไม่เชื่อพระพุทธเจ้าเอง

***บางคนอยากได้ 2 ขั้น แต่ บุญไม่เคยทำเพิ่ม 2 เท่าอย่างต่อเนื่องเลย แต่จะไปรบราฆ่าฟัน เอากับหัวหน้า และ ผู้บริหาร อันนี้นะ นอกจากจะไม่ได้เงินเพิ่มแล้ว จะตกงานแทนนะจ้ะ บาง คนอยากขายดีขึ้นก็เช่นกัน บุญไม่ทำเพิ่ม ฝันลมๆแล้งๆ ฝันกลางวันกันนะลูกเอ๋ย มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่ไม่สร้างเหตุ แล้วจะได้ผล ดังใจปรารถนา

การทำบุญต้อง
-ทำทันที
-ทำแบบง่ายๆ
-ทำสม่ำเสมอ
-ทำต่อเนื่อง
-ทำ มากขึ้น

4.เอาไปทิ้งลงเหว
โอ้ โห ฟังแล้ว พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เอาเงินไปทิ้งลงเหวบ้างหละ ฝังดินบ้างหละ เฮ้อ อุส่าห์หามาด้วยความเหนื่อยาก ให้เอาไปทิ้งลงเหวซะนี่

เดี๋ยวก่อน...ท่านทั้งหลาย ท่านไม่ได้หมายถึงให้เอาเงินไปทิ้งนะจ้ะ แต่ท่านให้เราใช้ปัญญาจ้ะ

"เหว" คือ ปากท้องของเรานี่เอง และรวมถึงปัจจัยสี่ด้วยนะจ๊ะ ทั้งกินทั้งใช้ เสื้อผ้า ยาสีฟัน ที่นอน หมอน มุ้ง รถยนต์ บ้าน อาหารการกิน ยารักษาโรค ใช้ในการพักผ่อน ท่องเที่ยว ซื้อ ทีวี ตู้เย็น ฯลฯ อันนี้ จัดเป็นการทิ้งลงเหวทั้งหมดจ้ะ

***การแบ่งสัดส่วน***
เงิน รายได้ที่แบ่งเป็น 4 ส่วนนั้น พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้บอกให้ หาร 4 นะจ้ะ ท่านบอกว่า ให้แบ่งตามความเหมาะสม

อันไหนมีความจำเป็นมาก ก็แบ่งส่วนนั้นมาก อันไหนจำเป็นน้อย ก็แบ่งน้อย เช่น บางคนมีพ่อแม่รวยมาก ท่านไม่ต้องการจากลูกๆเลย
-อย่านะ อย่าทำ อย่าคิดว่า ไม่ต้องให้ท่าน
-นั่นเป็นเรื่องผลบุญของท่าน
-แต่เราต้องสร้างผลบุญของเราต่อท่าน
-แต่อาจจะไม่ต้องให้ท่านมากมาย
-แต่ยังไงก็ต้องให้ นะจ้ะ

  ถ้าท่านมีเงินมีฐานะมากกว่าเรา เราก็ให้เป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ ที่ท่านโปรดปราน พา ท่านไปเที่ยว ทานอาหารนอกบ้าน พักผ่อน บ่อยๆ ถือว่าเราใช้เงินไปในการนี้ หรือซื้อเสื้อผ้า ของใช้ เช่น แซมพูดีๆ ของดีที่ท่านยังไม่มีให้กับท่าน

อย่าอ้างว่าท่านมีทุกอย่างแล้วนะ ไม่จริงหรอก คนแก่ ไม่ออกช๊อปปิ้งหรอกนะ

ส่วนคนที่พ่อแม่ไม่มีรายได้

ก็สงเคราะห์ท่านใส่สัดส่วนที่พอเพียง และเพียงพอ ถ้าท่านมีลูกหลายคน มีคนอื่นให้บ้างแล้ว อย่าไปคิดว่าเราก็ไม่ต้องให้นะจ๊ะ

พี่น้องคนอื่นให้ เขาก็ได้บุญของเขานะซีจ้ะ เราก็อดบุญข้อนีสิจ๊ะ ถึงคนอื่นให้แล้ว เราก็ให้ของเรา แต่ ถ้าเรามีน้อย เราก็ให้ท่านน้อยหน่อยไม่เป็นไร แต่ต้องให้นะจ๊ะ

***เอาไปใช้หนี้ใหม่***
อัน นี้ ก็พิจารณาตามความเหมาะสมและจำเป็น ถ้าลูกหลายคน ก็แบ่งไว้เยอะหน่อย ถ้าลูกน้อยคน ก็น้อยหน่อย ถ้าไม่มีลูกเลย ก็อย่าเอาไปเลี้ยงลูกชาวบ้านนะจ้ะ (นักศึกษาน่ะจ้ะ)

ถ้าไม่มีลูก เงินส่วนนี้ ก็ไม่ต้องใช้ เอาไปหารสัดส่วนอื่นได้เลยจ้าา

ส่วน คนที่พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว ก็ตัดส่วนนี้ไปได้ แต่ถ้าคนที่เคยเลี้ยงดูเรามา แม้ไม่ใช่พ่อแม่ ก็ต้องตอบแทนนะจ้ะ ถ้าไม่มีก็ตัดออกไป เอาไปหารส่วนอื่นเลยค่ะ

***เอาไปฝังดินไว้***
ทำ บุญนะจ้ะ อย่าใส่ไหฝังดินจ้าาา ส่วนนี้ ต้องทำทันที ทำอย่างง่ายๆ

อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องและ มากขึ้นนะจ้ะ และ ถ้าใครยังไม่ได้ทำอย่างที่ท่านบอกไว้นี้ ก็จะมีปัญหาการเงินติดขัด ขัดสนอยู่ร่ำไป ถ้าทำได้ แล้วเลือก

เนื้อนาบุญเป็น รับประกันว่า ยังไงก็ไม่จน มีเงินทองคล่องตัว ใช้ไม่หมด แม้ไม่เป็นเศรษฐีก็ตาม อันนี้ก็ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันนะจ้ะ ทำมาแล้ว เห็นผลมาแล้ว จึงกล้ามายืนยัน จ้ะะะ

ใคร ไม่ทำบุญ ก็อย่าหวังจะมีเงินทองคล่องตัว ใครทำบุญด้วยกำลังใจไม่เต็ม แม้ทำมาก ก็ไม่ได้อานิสงส์สักนิด เช่น ทำบุญเอาหน้า ทำ 1 ล้านก็ไม่ได้อานิสงส์ สู้คนทำ 5 บาท แต่ไม่เอาหน้า ใจเบิกบาน อันนี้ได้มากกว่าโข

ไม่ได้ทำมากขึ้น ถ้ายอดขายตกลง ก็ไม่ต้องตกใจค่ะ เราทำของเราเองทั้งนั้น

นะจ้ะ
-ถ้าไม่ได้ทำต่อเนื่อง รายได้หดๆ หายๆ ก็ถือว่า มันควรเป็นเช่นนั้นจ้ะ
-ถ้าไม่ได้ทำมากขึ้น รายได้ลดลง ก็ไม่ต้องคิดมากนะจ้ะ ตัวเราทำตัวเราเองจ้า

ธรรมะ การใช้เงิน วันนี้

มาจากคำสอนอันงดงามดีแล้ว จากพระพุทธเจ้า
ผู้ ใดทำตาม จะเห็นผลจริง และ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ทำวันนี้ เห็นผลวันนี้ ทดลองได้เลย แต่ ที่เราท่านทั้งหลายมีปัญหา

การเงิน เพราะเราใช้เงินกันผิดวิธี ผิดคำสอนและ ใช้เงินมากกว่า ที่หาได้ หรือรายรับ คือ ไม่รู้จักบริหารให้พอดี เรามักไปเปรียบเทียบการใช้เงินกับคนที่เขามีเงินมากกว่าเรา แต่ เราไม่เคยเปรียบเทียบรายได้เรากับเขาเลย  เรา จึงมีปัญหาการเงินมายาวนาน และ ยังคงมีอยู่

ง่าย ที่สุด คือ ถ้าจะใช้เงินที่หามาได้ ให้พอ ไม่ก่อหนี้ ก็คือ ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้ บางคนบอกว่า ก็ได้น้อยแทบไม่พอกินพอใช้อยู่แล้ว จะใช้น้อยได้ยังไง อันนี้ ก็ต้องทำให้ได้ และ จะมาคุยในวันต่อไป ว่าถ้าได้น้อย ทำยังไง ให้พอใช้
-ที่เรามีหนี้ เพราะเราใช้ มากกว่าที่หาได้

ขอกราบพระบาทพระพุทธองค์

ที่ทรงค้นพบพระธรรมอันงดงาม แล้วรวบรวมไว้เป็นคำสอน ให้ลูกหลาน

ได้พบทางออกของชีวิต  พระองค์ สละพระชนม์ชีพหลายอสงไขยกว่าจะค้นคว้าหากฏแห่งกรรม และ พระธรรมนี้ได้ แล้วมาให้เราฟรีๆ

หากผู้ใด เชื่อมั่นในพระพุทธองค์ ว่าทรงสอนไว้ถูกต้องดีงามแล้ว ถ้าทำตามต้องเห็นผลตามที่ท่านบอก ก็ลงมือทำตามได้เลย อย่ารีรอ "ทำทันที" ถ้ายังไม่ทำตาม ก็ถือเป็นกรรมของสัตว์โลกจริงๆ ที่พบแสงสว่างแล้วยังไม่เดิน กลับเพลิดเพลินอยู่กับความมืดมน แล้วจะพ้นทุกข์ทางการเงินหรือจ้ะ

อ.อุบล ทำมาแล้ว เห็นผลมาแล้วถ้าอยากหลุดพ้น ทำตามท่านทุกอย่างครบถ้วน เห็นผลแน่นอน ถ้าทำแล้ว ไม่มีผล แสดงว่า อ.อุบล บอกผิดเอง แต่ถ้าทำตามแล้ว เห็นผล พ้นทุกข์ แสดงว่าพระธรรมของท่าน งดงามล้ำเลิศแล้ว ให้ระลึกถึงพระพุทธองค์ไว้เสมอทุกลมหายใจ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลมาก ๆ ที่ให้ข้อธรรมะที่เป็นประโยชน์กับชีวิตมนุษย์ในยุคนี้เหลือเกิน แพมตัดต่อ ข้อความจากเฟสบุ๊ค (รวมทั้งแก้ไขการสะกดคำที่พิมพ์ตกหล่นด้วยค่ะ) ถ้าธรรมทานของท่านอาจารย์ ตกหล่น หรือผิดพลาด แพมกราบขอขมาท่านอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ขอบคุณคุณแพมด้วยนะคะ

ที่นำธรรมทานอันประเสริฐนี้

มาโพสต์ไว้ในเว็บด้วย

ทุกคนจะได้แวะเข้ามาอ่าน

ทบทวนตัวเองได้บ่อยๆ

ว่าแต่ว่า

ชนิดาก็จะหาโอกาส

ไปร่วมพิธีย้อนหลังในเฟสบุ๊คอยู่เหมือนกัน

"บุญ"

"ให้ทำทันที" "ทำแบบง่าย" "ทำสม่ำเสมอ" "ทำต่อเนื่อง" ทำให้มากขึ้น"

...คำพูดที่ได้ยินจากอาจารย์อุบล..อยู่เสมอ...

กราบ..กราบ..กราบ ท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพรัก

และขออนุโมทนาบุญกับคุณปัญจกานต์ค่ะ