@ ความหมายของ “จิตประภัสสร”
"จิตประภัสสร หมายถึงจิตเดิมแท้ที่ยังว่างอยู่ ยังไม่ถูกอะไรปรุงแต่ง
ยังไม่ถูกหุ้มห่อด้วยกิเลส ไม่ถูกหุ้มห่อด้วยผลของกิเลส คือความดี ความชั่ว เป็นต้น
เหมือนอย่างเพชร มันมีรัศมีในตัวมันเอง มันเรืองแสงของมันได้
เหมือนอย่างจิตเดิมแท้ประภัสสร แต่เป็นอยู่ตามธรรมชาติ มันจึงเปลี่ยนแปลงได้
มันจึงต้องมีการอบรมจนเป็นประภัสสรที่ถาวร ชนิดที่ไม่มีอะไรมาปรุงแต่งให้เปลี่ยนแปลงได้"
(พุทธทาสภิกขุ พจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส ธรรมสภา กรุงเทพ หน้า 144)
"ประภัสสร แปลว่า ซ่านออกแห่งรัศมี ประภา = รัศมี สะระ = ซ่านออกมา คือไม่มีมลทิน แต่มันอยู่ในลักษณะที่มลทินมาจับได้ มาครอบได้ เศร้าหมองได้ ก็เป็นทุกข์ได้ อบรมจนมลทินจับไม่ได้"
(พุทธทาสภิกขุ พจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส ธรรมสภา กรุงเทพ หน้า 143)
@ จิตเสียความประภัสสรได้อย่างไร
"....มาศึกษาให้รู้ให้เห็น ตามที่เป็นจริงว่า “เรา” ประกอบขึ้นมาด้วยอวิชชาทีไร จิตใจนี้ก็มีตัวตน และมีของตนขึ้นมา และมีความทุกข์ขึ้นมาทุกที ต้องเข้าใจเสียก่อนว่า สิ่งที่เรียกว่า กิเลส หรือ ความทุกข์ นี้ ไม่ใช่เกิดอยู่เป็นพื้นฐาน สิ่งที่เรียกว่า กิเลส หรือความทุกข์นี้
เพิ่งเกิดเป็นครั้งคราว
พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสว่า “ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ”
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร “อาคนฺตุเกหิ อุปกิเลเสหิ อุปกิลิฏฺฐํ” แต่ว่าจิตนี้เศร้าหมองแล้ว เพราะกิเลสที่เป็นอาคันตุกะเข้ามา"
พุทธทาสภิกขุ วิธีชนะความตาย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ กรุงเทพ (หน้า 28)
"เมื่อพูดถึงเป็นมนุษย์เป็นคนโตแล้วโดยสมบูรณ์แล้วก็จะพูดได้ว่า จิตของบุถุชนนั้นมันเศร้าหมองเสียโดยมาก, มีส่วนที่ไม่เศร้าหมองน้อยมาก ; แต่ถ้าเป็นจิตของพระอริยเจ้า มันก็เศร้าหมองน้อย บริสุทธิ์มาก เป็นประภัสสรมาก, แล้วประภัสสรสูงขึ้นไปเช่นว่าทำสมาธิได้ : อยู่ในสมาธิว่างจากกิเลส จิตก็ประภัสสรยิ่งๆขึ้นไปตามลำดับชั้นของสมาธิ, บรรลุอรหัตตผลนั้นเป็นประภัสสรสูงสุด ไม่มีกิเลสด้วยประการทั้งปวง"
(พุทธทาสภิกขุ จิตตภาวนาทุกรูปแบบ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ กรุงเทพ หน้า 25)
@ อบรมจิตให้ประภัสสรได้อย่างไร
"จิตตภาวนาแปลว่าทำจิตให้เจริญ : คำว่า “ภาวนา” นี้ แปลว่าทำให้เจริญ! จิตตภาวนาคือวิธีการอันหนึ่งที่จะทำจิตให้เจริญ ;
เจริญไปถึงไหน? เจริญถึงขนาดที่ว่า ทำอย่างไรจิตนี้ไม่เป็นที่ตั้งแห่งการเกิดของกิเลสอีกต่อไป!
การที่ประพฤติพรหมจรรย์ : ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นแหละเป็นจิตตภาวนา,
ทำให้จิตนี้ถึงสภาพประภัสสรชนิดถาวร ไม่กลับเป็นที่ตั้งแห่งกิเลสอีกต่อไป. กิเลสก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นแก่จิตนั้น, ความเป็นประภัสสรของจิตนั้นก็เป็นการถาวร :
ประภัสสรชนิดนี้เป็นจิตของพระอรหันต์ ;
ประภัสสรที่ยังกลับเศร้าหมองได้นั้นเป็นจิตของบุคคลทั่วไป :
เมื่ออบรมกระทำจนจิตกลับเศร้าหมองอีกไม่ได้
หรือจิตนั้นไม่เป็นที่ตั้งแห่งการเกิดของกิเลสอีกต่อไป,
ก็เป็นประภัสสรถาวร นี้คือจิตของพระอรหันต์"
(พุทธทาสภิกขุ จิตนี้ประภัสสร สำนักพิมพ์สุขภาพใจ กรุงเทพ หน้า 45-46)
"