ReadyPlanet.com


ปฏิหารย์ของชาวไทย


      ก่อนอื่นขอขยายความของคำว่า..ชาวไทย.

.ก่อนนะครับง่ายๆ....ตรงๆ....ชัดๆ....คือ...นามสกุล

ของผมเองขอรับ

    ปฏิหารย์ ที่ 1 ผมได้หายจากการปวดหัวเข่าตั้งแต่

ครั้งแรกทั้งที่ยังไม่ได้บำบัด แค่ใช้แรงในการขุดตอไม้

เท่านั้นเองมีหมอที่ไหนทำได้ครับจริงไม ครับ

    ปฏิหารย์ ที่ 2 พ่อของผมก็ได้หายจากอาการปวด

หัวเข่าทั้งๆที่หมอบอกว่าเป็นเกาว์เสียด้วย จนทุกวันนี้

พ่อก็ยังพูดถึงอาจจารย์อุบลไม่เคยขาดปาก กลับไป

บ้านนอกยังเล่าให้คนอื่นฟังอีก

    ปฏิหารย์ ที่ 3 ไม่เคยเห็นการทำบุญที่ไหน ถูกที่สุด

เท่ากับที่นี่คือ การใช้แรงกายอันเป็นบุญที่บริสุทธิ์ และ

ผลของบุญมากที่สุด

     ปฏิหารย์ ที่ 4 มีญาติธรรมที่จริงใจไม่เสแสร้ง และ

ทุกครั้งที่ไปบ้านสวนเหมือนกับว่าเรากลับไปหาครอบครัว

อบอุ่น อิ่มบุญทุกครั้ง

      ปฏิหารย์ ที่ 5 หล ายๆครั้งที่สนทนากลับท่าน

อาจารย์อุบล มีอาการปิติ ยินดี ขนแขนสแตนอัพบ่อยๆ

ครั้ง เหมือนกับเป็นความรู้สึกเดียวกันกับให้พ่อและแม่

เหยียบหัวให้ ในเวลาที่เป็นวันเกิดของทุกปี

     ปฏิหารย์ ที่ 6 สบายใจขึ้นโล่งใจขึ้น มีแรงกาย แรง

ใจต่อสู้กับปัญหา ทั้งเก่าและใหม่ที่เข้ามาในชีวิตประจำ

วัน ครองสติไม่ลนกับปัญหา ไม่เครียด เพราะเวลาไป

บ้านสวนทำให้เห็นปัญหาของคนอื่น ที่มีมากกว่าตัวเรา

เสียอีก

     ปฏิหารย์ ที่ 7 ได้ชื่อใหม่อีก 2 ชื่อ คือ ตัวเล็กและ

คนขายขวดก็เป็นการทำบุญแนวใหม่ค้าขายแนวใหม่

กำไรคือ ความสบายใจอิ่มใจ คือจะช่วยนำขวดมาขาย

เงินที่ได้นำกลับไปทำบุญทุกบุญ

     ปฏิหารย์ ที่ 8 เป็นไทรอยด์มีพิษ (ขาดโปแตสเซี่ยม)

ทำให้กล้ามเนื้อไม่มีแรง ก็หายได้เพราะได้กรุณาจากท่าน

อาจารย์อุบลแผ่ฉัพรรณรังสีให้ ต่อมไทรอยด์ไม่โตและมี

ความรู้สึกยุบได้ในวันนั้น ทุกครั้งที่ไปตรวจหมอจะบอกว่า

ดีขึ้นทุกครั้ง และล่าสุดวันนี้(23/12/2553)ไปตรวจมา

หมอบอกว่าไม่มีอาการหรือผลของเลือดที่บ่งชี้ว่าเป็น

ไทรอยด์เลย และนัดดูอาการนานขึ้น

        ปฏิหารย์ ที่ 9 เป็นความปลาบปลื้มที่สุดในชีวิต

เลยก็ว่าได้เมื่องาน เพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก ที่ผ่านมา

ทางบริษัทก็ได้ไปออกร้านขายสินค้า ตัวผมเองก็ได้

รับความกรุณา จากเจ้านายให้เป็นตัวแทนของร้าน

ไปรับพระราชทานเข็ม เป็นที่ระลึกที่ช่วยสนับสนุนงาน

ผมคิดว่าเป็นเกียรติ์แก่ผม วงศ์ตระกุล และบ้านสวนของ

เรา ผมคิดว่าคงจะเป็นผลมาจาก การได้มีส่วนร่วมในการ

เข้าค่ายถวายพระพรแก่ในหลวงที่ผ่านมา ทำให้ความ

จงรักภักดีต่อราชวงศ์   มีมากยิ่งๆขึ้นไปอีกไม่รู้ว่าจะหา

สิ่งใดมาเปรียบได้อีก

       ปฏิหารย์ ที่ 9+1ทุกๆครั้งที่มีโอกาส ผมไม่เคยไม่

เปิดดูกระทู้ ของเวปบ้านสวน ติดตามความเคลื่อนไหว

ผมคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม และทำให้ผมพิมพ์

ดีดได้ทั้งๆที่ผมไม่เป็นเลย

(กูนซือดีครับท่านพี่เบาหวิวนั่นเอง)

 



ผู้ตั้งกระทู้ พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-24 00:33:06


[1] 2 3 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1523636)

ขออนุโมทนาบุญ กับ ชาวไทย ค่ะ

รัก..ปรารถนาดีเสมอ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบาหวิว วันที่ตอบ 2010-12-24 03:28:41


ความคิดเห็นที่ 2 (1523640)

อนุโมทนาบุญกับทุกๆเรื่องปาฏิหาริย์ ที่เกิดขึ้นในชีวิตนะคะ มิสเตอร์ ชาวไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-24 04:45:20


ความคิดเห็นที่ 3 (1523647)

 ยินดีในบุญกับครอบครัวชาวไทย ครับ...อ่านแล้วยิ้มปริ่มไปด้วยเลย...สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ วันที่ตอบ 2010-12-24 07:23:39


ความคิดเห็นที่ 4 (1523660)

เพียงแค่เกิดมา ก็ได้เกิดในตระกูลที่ดีมากแล้ว คือ "ชาวไทย"

อีกทั้งเมื่อสวรรค์เปิด ให้ได้พบ อ.อุบล

ก็ได้พบความสุข ครบทุกประการ

เกิดมาชาตินี้คุ้มค่าแล้ว

ยินดีและอนุโมทนาบุญด้วยคะ

 

 

(ส่วนปาฏิหาริย์ที่ 9+1 ของเราคล้าย ๆ กันนะคะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-24 09:45:05


ความคิดเห็นที่ 5 (1523735)

ขออนุโมทนาบุญกับคุณพงษ์เดช ชาวไทยด้วยนะค่ะ

คนมีบุญมักเกิดสิ่งดี ๆ กับชีวิตเสมอค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-24 15:42:50


ความคิดเห็นที่ 6 (1523764)

ขออนุโมทนากับคุณ พงษ์เดช  ชาวไทยด้วยค่ะ

ขอผลบุญที่ข้าพเจ้าทำทั้งชาตินี้และที่ผ่านมาจงช่วยให้อาจารย์อุบลหายจากความเจ็บป่วยด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขวัญ วันที่ตอบ 2010-12-24 20:23:40


ความคิดเห็นที่ 7 (1523886)

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ

ขอบุญกุศล การนำเรื่องราวดี ดี มาบอกเล่านี้ ส่งให้คุณพงษ์เดช  พบกับความสุข ยิ่ง ยิ่ง ขึ้นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกไชย ทรงประไพ (ekachai_sh-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-25 18:29:03


ความคิดเห็นที่ 8 (1523891)

ขอแสดงความยินดีกับคุณ ชาวไทยด้วยนะคะ กับเข็มพระราชทาน เพราะบุญส่งผลทันตาเห็นไม่ต้องรอชาติหน้า คิดดีทำดี ย่อมได้ดี มีความสุขทั้งใจ ทั้งกาย ขอโมทนาบุญกับคุณด้วยนะคะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ดาด้า วันที่ตอบ 2010-12-25 19:31:22


ความคิดเห็นที่ 9 (1523942)

                    ดีใจกับคุณพงษ์เดชด้วยนะที่เจอแต่สิ่งดีๆๆๆอนุโมทนาด้วยจ้า นี่แหละทำดีก็ต้องได้ดี" บุญเราทำกรรมเราไม่สร้าง" สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วี วันที่ตอบ 2010-12-26 00:16:23


ความคิดเห็นที่ 10 (1524233)

         ขอบคุณ คุณวีและคุณด้ามากนะครับ หวังว่าคงจะ

ได้ฝึกเหยียบเท้าสฟริงค์ อวยพรปีใหม่ให้ อ.อุบล กันนะ

พี่ทั้งสองครับอย่าลืมชวนแม่เพลินมาด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-27 23:13:34


ความคิดเห็นที่ 11 (1610247)

     ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ!

    และขอแสดงความยินดี

    กับ"หนูตัวเล็กๆ "ด้วยจ๊ะ/

                         สาธุๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) (podduang-dot-p-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-11 15:01:12


ความคิดเห็นที่ 12 (1610321)

ปฏิหารย์ ที่ 8 เป็นไทรอยด์มีพิษ (ขาดโปแตสเซี่ยม) ทำให้

กล้ามเนื้อไม่มีแรง ก็หายได้เพราะได้กรุณาจาก


ท่านอาจารย์อุบล

แผ่ฉัพรรณรังสีให้ ต่อมไทรอยด์ไม่โตและมีความรู้สึกยุบได้ในวัน

นั้น ทุกครั้งที่ไปตรวจหมอจะบอกว่า ดีขึ้นทุกครั้ง และล่าสุดวันนี้

(23/12/2553)ไปตรวจมา หมอบอกว่าไม่มีอาการหรือผลของ

เลือดที่บ่งชี้ว่าเป็นไทรอยด์เลย และนัดดูอาการนานขึ้น

-----------------------------------

เล่าเรื่องได้ดีแล้วนะ

แต่ขอความกรุณาช่วยแก้ข้อความที่เน้นให้นิดหนึ่ง


ช่วยพิจารณาให้ดีว่า ผู้ใดคือผู้แผ่ฉัพพรรณรังสี

หรือเล่าว่าอ.อุบลท่านทำอย่างไร จึงขอบารมีท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กิตติยา ศิวรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-11 22:02:05


ความคิดเห็นที่ 13 (1610324)

ตัวเล็กเอ้ย

อ.อุบล นี่ แกเลวจริงๆนะ

 

ตัวเล็ก

ไม่น่ามายุ่งกับ อ.อุบล เล้ย

น่าจะเก็บไทยรอยด์ไว้

ให้หมอช่วยรักษานะ

จะได้ไม่งมงาย

555

 

ข้า..........เอง

ท้าวเวสสุวรรณ

มาแล้ว.........ตัวเล็ก

 

ต่อมไทยรอยด์

หาย

มีต่อมใหม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

นะตัวเล็ก

 

ทุกครั้งที่เห็นหน้า อ.อุบล

ต่อมน้ำตา แตก

 

ตอนนี้

ต่อมอิจฉา แตก

อีกแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-11 22:30:36


ความคิดเห็นที่ 14 (1610325)

ท่านอาจารย์อุบลเคยสอนไว้ว่า...

ใครจะคิดอะไรกับเรา ใครจะว่า ใครจะด่าเรา

หรือใครจะโกรธเรา...

ถ้าเราไม่ได้เป็นดั่งที่เค้ากล่าวถึง

เราก็ไม่ได้เป็นทุกข์อะไร

 

กลับกันคนที่ว่าเรา

โกรธเรา หรือคิดอะไรกับเรา

เค้านั่นแหละที่เป็นทุกข์เอง...

 

ฉนั้น

ป้าติ๋มไม่ต้องกังวลนะครับ

ยึดหลักพรมวิหารสี่

และดับทุกข์ให้ได้ด้วยการวางอุเบกขา

เจริญมรณานุสติทุกลมหายใจ

มีจิตเกาะเกี่ยวอยู่กับพระพุทธองค์ตลอดเวลา

(อันนี้เตือนตัวเองครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-11 22:30:08 IP

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-11 22:39:16


ความคิดเห็นที่ 15 (1610406)

ไม่ยักกะรู้ว่าเป็นโรคไทรอยด์ด้วย เห็นคอป่อง ๆ

ขอบคุณที่รักษาให้ แต่ขอคืนมาเถอะ

กรรมที่เราทำไว้เอง เรายอมรับมันได้

ต่อให้เจ็บเจียนตายจนแทบบ้า

ก็จะผ่านมันให้ได้ด้วยตัวของเราเอง


ส่วนต่อมอะไรต่อมิอะไรที่ให้มาก็จะขอรับไว้

ท้าวเวสสุวรรณจะได้ไม่ต้องเอากลับคืน


ป.ล. ถ้าจะดีเบตต่อขอกระทู้ใหม่นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กิตติยา ศิวรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-12 22:37:28


ความคิดเห็นที่ 16 (1610412)

อ่านค.ห.ที่ 15 แล้วก็ "งง" จริงๆ

ว่า คุณ กิตติยา ต้องการจะสื่ออะไร

และกำลังพูดกับใครกันแน่

รู้แต่ว่า"ไม่สร้างสรรค์อย่างแรง"

 

พื้นที่เหล่านี้มีไว้ให้เขียนธรรมทาน

หรือ ให้ยินดีในบุญกับผู้อื่น

เพื่อสั่งสมบุญให้กับตัวเอง

 

แต่คุณกลับเลือกที่จะใช้

พื้นที่"มหาบุญ"เหล่านี้

เป็นที่ระบาย"ขยะ"ในใจของตัวเองอีก

 

แหม่...ขยะตัวเองแท้ๆ

แต่กลับทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง

สร้างปัญหาให้กับพื้นที่สาธารณะอีก 

นะเนี่ย

 

 

แค่นี้"ขยะก็ล้นโลก" อยู่แล้วนะคะ

คนอื่นๆเค้า รณรงค์ ลดขยะโลก

แต่คุณเลือกที่จะ"เพิ่ม" ภาระ

ให้กับโลกใบนี้ ซะงั้น

 

 

ลองคิดดูอีกทีนะคะว่า ที่ทำอยู่นี้

เกิดประโยชน์อะไรกับตัวเองบ้าง

(ไม่ต้องนึกเลยไปถึงคนอื่น..หรอกนะคะ)


ถ้าิิจิตใจมันว้าวุ่น ฟุ้งซ่านมากนัก

ก็หาเวลาไปพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ

มองดอกไม้สวยๆ พื้นที่เขียวๆ

ให้จิตใจ มันนิ่มและสงบลงได้บ้างก็ดีนะคะ

 

เพราะทำงานอยู่ใกล้"โลหะ" นานๆ

อาจจะส่งผลให้ จิตใจมันด้าน

และพยายามต่อต้าน ความดี ก็ได้...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-13 05:28:26


ความคิดเห็นที่ 17 (1610488)

 อ่านค.ห.ที่ 15 แล้วก็ "งง" จริงๆ

ว่า คุณ กิตติยา ต้องการจะสื่ออะไร

และกำลังพูดกับใครกันแน่

รู้แต่ว่า"ไม่สร้างสรรค์อย่างแรง"

---------

เห็นด้วยกับพี่ชนิดาค่ะ

เป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์มากๆ (ระราน)

ลูกบ้านสวนหลายท่านได้เคยเตือนแล้ว แต่.... ไม่นำพา

หากเทียบกับบัว 4 เหล่า ก็อยู่ในเหล่าที่ 4

พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน (ปทปรมะ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-13 19:40:18


ความคิดเห็นที่ 18 (1610505)

คุณชนิดา+คุณวิ

สงสัยจะเหงานะ เพราะว่า

ลูกบ้านสวน ที่เป็นขาเม้าท์เข้าเวป

เค้าไปประจำการ ที่นรกขุม 3 กันหมด

จึงไม่มีใครสนใจ

เข้าเวปกันเลย

 

แต่ละคน

ที่มีชนักติดหลัง

มีนรกขุม 3 เป็นที่หมาย

มากมาย จนแทบไม่มีที่จะนั่ง

อุ่นหนาฝาคั่ง

ด้วยผู้ประกอบกรรม

เหมือนกัน คล้ายกัน มารวมกัน

 

เรียกว่า

แต่ละคน พกพาเอา

ใจอันหาญกล้ามาเกินร้อย

 

ที่สำคัญ

เจ้าตัวเล็กของเรา

ก็ไปร่วมปิดขุม 3 กะเค้าด้วย

 

แล้ววันนี้

เค้านั่งข้างหน้าๆด้วยนะ

เวลา อ.อุบล พูดอะไร

ก็น้ำตาไหล

 

บางครั้ง

พูดเรื่อง วจีกรรม

สำหรับคนที่พูดคำหยาบ

เค้าก็จะหันไป

สบตา

กับคุณแมวเป็นระยะ

แบบว่า

โดน....อีกแล้ว....เรา

 

แบบว่า

กินปูน ร้อนท้อง

ตาหลอดเลย เจ้าตัวเล็ก

 

แต่ตอนนี้

ตัวเล็ก มีคู่แข่งเยอะแล้ว

 

เดิม

ได้ฉายา ตอแหล 1

 

ตาตั้ม ได้ฉายา ตอแหล 2

 

ตาซิม ได้ฉายา ตอแหล 3

 

แต่ เมื่อคืนนี้

สิงห์ป้อม ทำให้ บรรดา

คนที่คิดว่า ตัวเอง เลวสุดๆแล้ว

ต้องหมองไปเลย

ด้วยสิงห์ป้อม คิดว่าตัวเอง

เจ๋ง

ทีฟันผู้หญิง มาแล้ว

ไม่น้อยกว่า 500 คน

ด้วยการใช้สายตา และ ปาก

 

ต่อมา

ก่อนปิดขุม 3

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

จัดหนักให้ทุกคน

ได้เห็นกับตา ถึงหลักกาลามสูตร

อย่าเชื่อ...ในสิ่งที่เห็น

อย่าเชื่อ...เพราะคนนี้นี่เชื่อ

ฯลฯ

อย่าเชื่อ...โดยไม่ได้พิสูจน์

 

เมื่อคืน

อ.อุบล ถามว่า

ใครที่รู้ตัวว่าผิดศีลข้อ 3

มามากกว่าสิงห์ป้อม

ยกมือขึ้น

 

ผู้หญิงยกกันเพียบ

 

ขอตัวอย่าง 3 คน

ออกมา

 

คุณชนิดา คุณวิรู้ไหม

ว่า

เมื่อคืนนี้ สิงห์ป้อมที่ว่าแน่

พอเจอคนที่ 1 นะ

หงายท้องเลย

 

เพราะอะไร

เพราะเธอมาด้วยชุดขาว

เป็นคนเดียวที่แต่งชุดขาว

มาบ้านสวนครั้งแรก

 

อีกคนหนึ่ง

วัยกลางคน ดูเรียบร้อย

ไม่ค่อยพูด นิ่งๆ ดูบ้านๆ

 

อีกคนหนึ่ง

ก็ดูเป็นคนเนี๊ยบ

แต่ออกจะย้ำคิดย้ำทำ

เชื่อมั่นในตัวเอง

แบบที่ไม่มีใครยอมรับ

 

แต่ละ คน มากัน

คนละแนว

 

คนที่ 1 แต่งชุดขาว

ถามเธอว่า

เธอทำอะไรมาบ้าง

เธอบอกว่า เธอไม่เคยร่วมเพศ

กับผู้ชาย เพราะ เธอชอบหญิง

 

อ้าว

แล้วออกมาทำไม

หนูรู้สึกว่ากรรมหนูหนักมาก

หนูหาทางออกไม่ได้

 

อะไร

 

หนูว่างมาก

หนูเลยดูหนังมาก

ดูแต่หนังเกี่ยวกับกาม

หนูเลยหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องกาม

แล้วหนูก็ช่วยตัวเอง

ในจิตใจของหนูไม่เคยมีความสุขเลย

หนูคิดแต่เรื่องเพศ

คิดเรื่องอื่นไม่ได้เลย หนูทุกข์มาก

 

แล้วหนูไม่รู้หรือว่า

มาบ้านสวนไม่ต้องแต่งชุดขาว

 

รู้ค่ะ แต่หนูอยากแต่ง

 

ทำไมล่ะ

 

ก็งงเหมือนกัน

ก็คิดแค่ว่า มาปฎิบัติธรรม

ก็ควรแต่งขาว

 

เอา

จะแต่งยังไงก็ได้

ว่าแต่ว่า ที่ยกมือออกมาเนี่ย

มีอะไรอีก ที่จะแสดงว่า

มากกว่าสิงห์ป้อม

 

คือหนูสงสัยมานาน

ว่าหนูไม่เคยร่วมเพศกับผู้ชาย

ทำไมหนูเป็นหนองในได้

หนูไปตรวจมา หนูเป็นหนองใน

 

แล้วตอนนั้น

ร่วมเพศกับผู้หญิงหรือยัง

 

ยังค่ะ ยังไม่เคย

แต่หนูเป็นหนองใน

อ.อุบล ช่วยตอบหนูด้วยค่ะ

 

ถ้าใครได้ดูรายการ

มาตลอด จะเห็นว่า อ.อุบล

เคยพูดไว้ตั้งนานแล้ว

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วก็พูด

ว่าโรคเอดส์

ไม่จำเป็นต้องร่วมเพศก็เป็นได้

เชิญพิสูจน์เลย

 

มโนกรรม

ทำให้เป็นเอดส์

และโรคเกี่ยวกับเพศได้

 

ถ้าจะให้เร็ว

ต้องลองคิดกับ อ.อุบล ดู

แล้วรอดูผลได้เลย

 

ครั้งแรก

อ.อุบล ก็คิดว่าจะไม่พูด

เพราะมันเหลือเชื่อ

คนอาจคิดว่า อ.อุบล ขู่เล่น

แต่เสด็จพ่อท่านบอกว่า

หน้าที่เอ็งคือสื่อสารทุกอย่างที่รับมา

หน้าที่ข้า คือ ลากตัวหลักฐาน

มาแสดง ยืนยัน ต่อชาวโลก

 

ทุกคนที่นั่งอยู่ในวิหาร

เมื่อคืนนี้ ต่างอึ้ง เพราะจำได้

ว่า อ.อุบล พูดครั้งสุดท้าย

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

วันนี้ มีคนมายืนยันแล้ว

ว่า เป็นหนองใน โดยไม่มีการร่วมเพศ

 

เป็นมโนกรรม

 

แล้วบังเอิญคนนี้

รูปปากเธอผิดปกติ

เวลาพูดจะยิ่ง

เห็นชัด

 

จึงถามเธอว่า

เป็นคนปากร้าย ผิดศีล

ข้อ 4 หรือเปล่า

 

ค่ะ

 

บอกซิ

 

ชอบสบถคำลามก

พูดหยาบคาย ท้าทาย

(กวนตีนคน)

ส่วนมากจะจำเค้ามา

พอมีคนพูดคำไม่ดี

สมองหนูเมมมอรี่เลยค่ะ

 

(เรื่องดี ไม่จำ ทำไม่ได้)

 

ไหนลองยกตัวอย่างซิ

 

มันหยาบมากค่ะ

 

เลยถามว่า ทุกคนทนฟับได้ไหม

 

ได้...........

 

แต่เธอ

ก็ยังมีสมบัติผู้ดี

เธอพยายายามสื่อความหมาย

โดยอธิบายว่า

หนูจะพูดถึงอวัยวะเพศ

แล้วลงท้ายด้วยคำว่า แหก บ้าง

ฯลฯ

แล้วเธอ เป็นคนที่มาใหม่

ไฟการสารภาพบาป

แรงมาก

 

ที่กล้ายอมรับ

และปรารถนาจะพ้นนรก

อยากหลุดพ้น

 

เธอเป็นศิษย์สำนักอื่น

สำนักดังมาก

 

ซึ่งเคร่งเรื่องแต่งกายขาว

 

ก่อนกลับ

เธอบอกว่า เธอจะมาอีก

จะปิดให้ได้ทุกขุม

 

ทีนี้ก็มาถึงเรื่อง

แต่งขาว

 

อ.อุบล

บอกว่า การแต่งขาวของเธอวันนี้

ไม่ใช่แต่งโดยไม่รู้ หรือ บังเอิญ

แต่

เธอไม่รู้ตัวเองว่า

ทำไมต้องแต่ง

 

ที่จริง

เธอถูกกำหนดให้แต่ง

โดย ท้าวเวสสุวรรณ

 

เพื่อมาสอนธรรมะ

กับคนที่หลงรูปกายภายนอก

มากกว่า คุณธรรมความดี ภายใน

 

เสด็จพ่อ

จึงบอกให้ อ.อุบล

ถามทุกคนว่า

 

วันนี้ มีคนแต่งขาว

ท่าทีสำรวม นิ่ง น่านับถือ

 

มานั่งกับ อ.อุบล

คนแต่งตัวเซ็กซี่

 

คุณลองตอบซิว่า

วันนี้

ระหว่างคนนี้ กับ อ.อุบล

คุณจะกราบใคร

 

ทุกคนตอบว่า

กราบ อ.อุบล

 

เอาใหม่

ที่คุณตอบอย่างนี้

เพราะคุณเห็นปาฎิหาริย์

จาก อ.อุบล

และ

คุณรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้

เป็นหนองใน หมกมุ่นในกาม

หยาบคาย ก้าวร้าว เป็นทอม

 

แต่

คุณลองลบ

ข้อมูลทุกอย่างของ

อ.อุบล และ คนนี้ออกไป

 

ถ้าคุณเห็นครั้งแรก

ทั้งสองคน คุณจะกราบใคร

 

กราบคนชุดขาว

 

แล้วที่คนกราบกันอยู่

ทั่วบ้านทั่วเมือง

คุณว่า เค้ากราบ อะไร

 

เข้าใจแล้วหรือยัง

ว่าทำไม พระพุทธองค์

ให้ อ.อุบล แต่งตัวแบบนี้

 

แล้วเข้าใจหรือยัง

ว่าทำไมวันนี้

คนนี้แต่งชุดขาว

มาเล่าเรื่องหนองใน

ทอม หมกมุ่นในกาม หยาบคาย

โมโหร้าย ก้าวร้าว

 

เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว

ทุกคน

 

พระพุทธองค์

สุดแสนล้ำเลิศ

ในการสอน กาลามสูตร

เมื่อคืนนี้

 

(เดี๋ยวมาเล่า อีก 2 รายต่อนะ)

 

หรือใครอยู่ในเหตุการณ์

มาช่วยกันเล่าที

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-13 22:47:11


ความคิดเห็นที่ 19 (1610516)

คุณชนิดา+คุณวิ

ต้องขอเล่าย้อนก่อนนิดนึง

สัปดาห์นี้ มีคนหน้าใหม่เยอะมาก

 

การขอขมาก็เยอะ

ขอบคุณก็เยอะ

สมาทานศีล ก็เยอะ

จนต้องตัดคิวท้ายๆออกไป

ให้มาจองคิวใหม่สัปดาห์ต่อไป

 

เริ่มด้วย

ต้นอ้อ ที่เป็นดาราเด็ก

มาขอบคุณ

หลังจาก อ.อุบล ซื้อต้นอ้อ

เป็นลูกสาว 19 บาท

ต้นอ้อเปลี่ยนแปลงมากมาย

 

จากที่เคยก้าวร้าว

เอาแต่ใจ วีนเก่ง ที่ดีขึ้นแล้ว

ยิ่งดียิ่งขึ้นไปอีก

 

พูดเพราะยิ่งขึ้น

คุยเก่งขึ้น ร่าเริงแจ่มใสขึ้น

และทานอาหารที่ไม่เคยทาน

มาก่อนในชีวิต

จนแม่แปลกใจ จึงมาขอบคุณ

 

เรื่องนี้ขอยกยอด

การอธิบายเหตุผลไป

ไว้ดูจากคลิปเองนะจ๊ะ

 

แล้วก็ลุงเบิ้ม+น้องบูม

สองพ่อลูกคนขยันแห่งบ้านสวน

ตกนั่งร้านตั้งแต่วันศุกร์

น้องบูม คอเป็นก้อนนูน

เท่าลูกมะนาว แข็ง มา 1 สัปดาห์

 

ลุงเบิ้มบอกเรื่องคอน้องบูม

ตั้งแต่มาวันแรก

(10 วันที่แล้ว)

อ.อุบล จับดู

โห แข็งยังกะมะนาว

ถามในใจ ใครมั่งเนี่ย

(ตอบ............)

 

ขอรวบรัด

คอน้องบูม เกิดจาก

กรรมรวมตัว+มรดกกรรม

หลังจาก

สารภาพแล้ว อ.อุบล

จับคอน้องบูมอีกที

ก้อนที่บวมแข็งนั้น

ยุบหายเรียบต่อหน้าทุกคน

 

อันนี้

อาจเป็นเหตุสำคัญ

ที่ทำให้ ทั้งคนที่มาใหม่ +เก่า

ต่างลงมติเป็นเอกฉันท์

ว่า

จะกราบ อ.อุบล

ไม่กราบคนแต่งชุดขาว

ดูเฉย นิ่ง เรียบร้อย

 

แล้วเมื่อคืน

มาขอขมากันมากมาย

มีแต่เรื่องเคยปรามาส อ.อุบล

แล้วทนทรมานไม่ไหว

อายก็อาย แต่ต้องมา

 

แต่มีอยู่คนหนึ่งนะ

เขาออกรายการวันนี้ด้วย

เธอสวย

จบปริญญาโท

แต่

ขี้โมโห ขี้โกรธ ขี้วีน

สามีเธอก็จบโทศิลปากร

เป็นลูกศิษย์ อ.อภิชัยเหมือนกัน

 

เมื่อคืนเธอมาขอขมา

พร้อมขอบคุณอีกครั้ง

 

ขอขมาเรื่อง

หน้าด้านเข้าบ้านสวน

โดยที่เจ้าของบ้านเค้าไม่อนุญาต

เธอสำนึกได้เองทั้งหมด

ว่า

เธอ การศึกษาสูงซะเปล่า

แต่ไม่มีสมอง ไม่มีมารยาท

เธอบอกว่าเธอร้ายกาจ

กับสามี พ่อ แม่ พี่น้อง ลูก

จนทำให้ทุกคนมีทุกข์ น้ำตาร่วง

เธอไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เพื่อใคร ไม่ทำความดีเพื่อใคร

 

แล้วการมาบ้านสวน

แบบผิดกฎสวรรค์ของเธอ

ส่งผลให้เธอนอนไม่หลับ

น้ำตาไหลตลอด ปวด...

มีแสงขึ้นมาในตา ฯลฯ

หลายอย่างจำไม่ได้

เรียกว่ามีแต่ทุกข์มีแต่ปัญหา

 

แล้วก็ถูก อ.อุบล ตำหนิ

ทั้งเรื่องเข้าบ้านคนอื่น

โดยไม่มีมารยาท และ พูดสอดแทรก

ขณะ อ.อุบล กำลังพูดกับคนอื่น

ไม่ได้พูดกับตนเอง

แล้วยังหน้าด้าน เข้ามาในบ้าน อ.

มากินข้าว อ. มาอยู่ในบ้าน อ.

 

พอมองเห็นสายตา อ.

จึงตัดสินใจ

ว่า

ฉันจะต้องเป็นคนดีให้ได้

ฉันต้องทำให้ได้

แล้วก็กลับไปศึกษา

แล้วมาใหม่อีกครั้งสัปดาห์ถัดมา

แบบถูกต้อง ไม่มีที่ติ

 

พร้อมกับ

เลิกโกรธ เลิกวีน

เลิกเป็นนางยักษ์ใส่สามี

และทุกคน สกดตัวเอง ข่มใจ

เธอบอกว่า

ทำยากมาก เพราะเธอไม่เคยยอมใคร

แต่

เธอเห็นสายตา คู่นี้ ของ อ.อุบล

ลอยขึ้นมา แล้วใจมัดฮึดสู้

ฉันต้องทำให้ได้

ฉันต้องเป็นคนดีให้ได้

 

แล้วในที่สุด

เธอก็ทำได้ด้วยเวลา

อันสั้นมาก คือ ตั้งใจวันนั้น

ทำวันนั้น

 

ปาฎิหาริย์เกิดกับเธอทันที

 

หน้าเธอ

ที่เป็นทั้งฝ้า ทั้งกระ

หาย โดยไม่ได้ใช้ พาเมล่า

ผิวสวยเด้งเองทันที

 

ลูกที่เธอท้อแท้

เพราะลูกไม่เชื่อฟังแม่

ไม่เคยพูดดีกับแม่

คลานเข้ามา สาธุแหวนสฟิงซ์

ที่เธอสวมใส่

เข้ามาพูดด้วยไพเราะ

คุณแม่คร๊าบบบ

ชื่นใจ จนน้ำตาร่วง

 

เธอพึ่งคิดได้ว่า

การทำความดี มันมีผล

ขนาดนี้เชียวหรือนี่

 

ทำไมเราโง่ตั้งนาน

เราคิดว่า เราแน่มาก

ที่อาละวาด ด่า ตบ ตี ถีบ

ลูก ผัว และ ใครๆได้

 

แต่ใจ

มีแต่ทุกข์ทรมาน

หาทางออก หาความสุข

ไม่ได้เลย

 

แค่สายตา

คู่ดุ ของ อ.อุบล

มองเรา ด้วย ความตำหนิ

ที่เราไม่มีมารยาท

แล้ว อ.ก็พูดกับเราตรงๆ

 

มันมีอำนาจยิ่งใหญ่

มีพลังผลัก ใจ เธอ ให้ฮึกเหิม

ที่จะเอาชนะ อ.อุบล ให้ได้

ด้วยการทำความดี

และทำทันที

 

แล้ววันนี้

เธอก็นำชัยชนะ

มาฝาก อ.อุบล อย่างสง่างาม

เธอทำได้แล้ว

 

จนสามีเธอ

ที่เคยขัดขวางการมาบ้านสวน

เธอใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

กลับ

เปลี่ยนท่าที เป็นบอกให้ไป

ช่วยยกกระเป๋า

 

แต่

อ.อุบล บอกเธอว่า

ไม่ใช่รหัสอย่างเดียวหรอก

แต่

สามีหนู

คงเห็นความเปลี่ยนแปลง

ที่เกิดขึ้นกับพฤติกรรมหนู

 

ใช่ค่ะ

หนูนั่งรถไปกับเค้า

ปกติ ถ้าเค้าพูดขัดใจหนูนะ

หนูแทบจะหันไปกินเค้าเลย

แต่นี่

หนูนึก อ.อุบล ช่วยด้วย

อย่าให้หนูโกรธเค้า

แล้วหนูก็ทำได้

 

จนสามีหนูถามว่า

เป็นอะไรไป ทำไม่เงียบ

 

ปกติ

หนูไม่ยอมเงียบ

หนูเอาคืน ทุกช๊อต

 

แล้วตอนเอาคืนเค้าได้

มีความสุขไหม

 

ไม่เลยค่ะ

นอนไม่หลับ เอาแต่แค้น

ฝ้า กระ เต็มหน้าเลยค่ะ

ลูกก็ทำให้โกรธ

เค้าดีกับคนอื่นหมด

ยกเว้นหนูคนเดียว เข้ากันไม่ได้เลย

 

แต่ตอนนี้

หนูมีความสุขมาก

ชีวิตหนูได้พบความสงบเย็น

อย่างที่หนูไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

หนูจึงมาขอบคุณด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 00:19:22


ความคิดเห็นที่ 20 (1610518)

อีก 2 ราย คือ พี่โอ๋ กับ พี่อีกคน (ขออภัยค่ะจำชื่อไม่ได้)

พี่โอ๋เคยมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2000 คน ทำเป็นอาชีพอยู่ต่างประเทศ

พี่อีกคนหนึ่งทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก

อนุโมทนาบุญธรรมทานของท่านอ.อุบล พี่ทั้ง 3 และทุกๆท่านค่ะ 

ดีใจด้วยกับทุกๆท่านที่จะได้หลุดกรรมจากการผิดศีลข้อกาเมฯ 

หลุดกรรมจริงเมื่อมาเล่าประสบการณ์พิธีปิดบัญชีนรกขุม3ของตัวเองเป็นธรรมทาน

พี่ฝน (ที่เป็นทอม) เป็นคนใหม่ที่เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณทรงจัดมาเพื่อสงเคราะห์พวกเราให้ได้พิสูจน์พระธรรมตามหลักกาลามสูตร

และกล้าหาญมากค่ะที่เล่าออกมาตรงๆ

เมื่อเช้านี้ไปขุดตอข้างหลังที่พระปฐมฯทรงประทับและเทปูนสร้างวิหารทาน

พี่ฝนไปร่วมด้วย ขยันมุ่งมั่นมาก ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย 

คิดแล้วขวัญก็อยากทำอีก ใจมันเบา สบาย

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ เทวดาผู้ปกปักรักษาท่านอ.อุบลทุกพระองค์ ท่านอ.อุบลในความเมตตาอันประมาณไม่ได้ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ (krongkwanw-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 00:23:47


ความคิดเห็นที่ 21 (1610521)

มัวแต่โม้เรื่องอื่น

ไม่ได้เข้าเรื่อง อีก 2 คนเลย

ที่โม้ให้ฟัง เพราะว่า

มันเกี่ยวข้องกับการที่

ทำให้คนลงคะแนนให้ อ.อุบล

แทนที่จะเป็นคนแต่งชุดขาว

 

ต่อมา คนที่ 2

เป็นผู้ใหญ่ ใจดี วัย 45 ปี

แต่งตัวเรียบๆ เสื้อบ้านสวน

ดูเงียบๆ เฉยๆ บ้านๆ

ไม่หวือหวา ไม่น่าสนใจเลย

 

บอกมาเลยว่า

มากกว่าสิงห์ป้อมน่ะ

ฟันผู้ชายมาแล้วเท่าไหร่จ๊ะ

 

ไม่ต่ำกว่า 2,000 คนค่ะ

 

อีกคนหนึ่งคนที่ 3

ฟันมากี่คนจ๊ะ

 

หลักพันค่ะ จำไม่ได้แน่

เพราะมันทำมาหลายปี

เลยบอกให้เธอลงไปคูณดู

โดย

ถามเป็นต่อวันก่อน

เธอบอกว่า

วันละกว่าสิบคน เกือบ 20

อันนี้คือทำแต้มสูงสุดนะ

 

อย่างน้อย วันละ 1 คน

 

อันนี้ ยังไม่ได้ตัวเลขแน่นอน

 

แต่ก่อนหน้านี้

เธอเคยบอกคุณเพ็ญว่า

ของคุณเพ็ญน่ะ น้อยกว่าเธอ

คุณเพ็ญบอก

2 หรือ 4 พัน จำไม่ได้

 

เธอบอก

ของเธอเป็นหมื่นคน

 

คราวนี้

อ.อุบล เลยพูดว่า

 

ทุกคน

ลองมองดูทั้ง 4 คน

(รวม อ.อุบล ด้วย)

 

แล้วคิดยังไง

 

มีเสียงพูด ต่างคน ต่างพูด

 

เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้วค่ะ

 

เข้าใจว่ายังไง

 

การแต่งกาย

ไม่ได้เป็นสิ่งรับประกัน

การกระทำของคน

 

ขุดขาว ไม่ใช่

สิ่งที่จะบอกว่า เป็นคนดี

 

แต่งตัวเรียบร้อย

เงียบๆ เรียบร้อยไม่ได้แปลว่า

ไม่ผิดศีล แต่ คาดไม่ถึง

 

แต่

คนแต่งตัวเซ๊กซี่

ไม่เคยได้แต้มกะเค้าเลย

ซักกะแต้ม

(เสียหายจริงๆ)

 

 

นิทานเรื่องนี้

สอนอะไรนะ คุณชนิดา

คุณวิ และ ท่านผู้อ่าน

เจ้าขา

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 00:40:55


ความคิดเห็นที่ 22 (1610522)

คราวนี้

ก็มาถึงบางอ้อ

กันทุกคน ว่า เบื้องบน

ทำไมเลือก อุบล แล้วให้แต่งตัว

เซ๊กซี่ แบบนี้

 

ทั้งที่ พูดเรื่องเกี่ยวกับ

ธรรมะ กฏแห่งกรรม

แถมวัยก็ 55 แล้ว อีกต่างหาก

 

ใครได้คำตอบแล้วบ้างจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 00:48:32


ความคิดเห็นที่ 23 (1610532)

ชนิดาคิดว่า ทุกๆคนน่าจะได้คำตอบ

ที่ตรงกันนะคะว่า

พวกเราส่วนใหญ่มักจะมอง

และตัดสินคนอื่น

ด้วยการมองเพียงแค่

"เปลือก"ที่เห็นเท่านั้น

โดยไม่คิด พิจารณา หรือไตร่ตรอง

ให้ละเอียดถี่ถ้วนซะก่อน

โดยการใช้หลักกาลามสูตร

ดังเช่นพระพุทธองค์และท่านอาจารย์

พยายามเน้นย้ำมาโดยตลอด

 

ซึ่งเมื่อเรา มองทุกสิ่งแบบไม่พิจารณา

จึงทำให้เราเห็นผิด คิดว่า สิ่งดี เป็น ชั่ว

มองเห็นสิ่งชั่ว กลายเป็นดี

 

แล้วมันก็ส่งผล ทำให้เราเดินทาง

ที่ผิด ทำในสิ่งที่ผิด

สร้างบาปกรรมมากมาย

ให้กับตัวเอง แล้วก็ทำให้คนรอบข้าง

ของเราทุกๆคน ไม่มีความสุข ไปด้วย....

 

 

แต่ถ้าทุกคน สามารถมองทุกอย่าง

ทะลุเปลือก ทะลุขันธ์ห้าไปได้

และตั้งใจไปมองที่จิตของคนๆนั้น โดยตรง

ก็จะทำให้เรา มองเห็นสัจธรรมต่างๆ

ได้ง่ายและเร็วขึ้น ค่ะ

 

 

ตัวอย่างของคุณฝน

(ที่เป็นทอม หมกมุ่นในกาม)

นอกจากจะมาร่วมแสดงธรรมทาน

เรื่อง เปลือกภายนอกแล้ว

 

คุณฝนคงจะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง

ที่จะมาแสดงให้ทุกคนเห็นกันได้ชัดๆว่า

"กรรมเรื่องความคิด"นั้น

เป็นกรรมหนักจริงๆ

เพราะหลายๆคนยังเชื่อว่า

ตราบใดที่ยังไม่พูด

หรือ ลงมือทำ ก็คงจะไม่บาป

 

แต่จากเรื่องราวของคุณฝน

ทุกคนคงจะ "ตระหนัก" รู้แล้วว่า

ผลของ"มโนกรรม" นั้นร้ายแรงเพียงใด

เพราะเป็นโรคหนองใน

โดยไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์

 

 

ชนิดาว่า หลังจากปิดนรกทั้ง9ขุมแล้ว

ต่อไป การสารภาพบาปแต่ละสัปดาห์

จะต้องเป็น "กรรมทางความคิด"ล้วนๆแน่ๆค่ะ

 

เพราะแค่ตอนนี้

หลายๆท่านก็จิตละเอียดมากๆ

สามารถนึกถึงกรรมต่างๆ

ได้ละเอียดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

 

กราบอนุโมทนาในทุกๆธรรมทาน

จากท่านอาจารย์ด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

..................................................

ป.ล. และนิทานเรื่องนี้

ก็ยังสอนให้รู้ว่า "อย่า" ล่วงเกิน

ผู้ทรงศีล ทรงธรรม

แม้จะทางความคิด คำพูด

ข้อเขียน และการกระทำ

เพราะผลของกรรมนั้น

มันหนักหนา สาหัสสากรรจ์ มากๆ

 

ไม่คุ้มหรอกค่ะ เพราะถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า

ยังไงก็ไม่ถึงตัวผู้อยู่เหนือเรา

แต่น้ำลายเน่าๆเหม็นๆนั้น

จะกลับมารดหน้า

ผู้พ่นมันออกไป เต็มๆ

 


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 06:11:38


ความคิดเห็นที่ 24 (1610534)

สรุปชัดๆอีกทีว่า

อย่ามัวแต่มอง

ความเซ็กซี่ของอาจารย์

 

แต่ให้มองไปที่แก่นแท้

ของพระธรรมคำสั่งสอน

ที่อาจารย์ถ่ายทอด

แล้วก็น้อมนำไปปฏิบัติ

โดยไม่รู้สึกขัดๆ หรือลังเล

สงสัยแต่อย่างใด

 

เพราะอาจารย์ไม่ได้ใช้

กาย ถ่ายทอดธรรม

แต่ใช้จิตที่บริสุทธิ์

คำพูดที่ถูกต้องและถูกตรง

รวมทั้งการกระทำที่ประเสิรฐ

 

จนทำให้ผู้พบเห็น

เกิด"ปัญญา" ได้ในที่สุด 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 06:22:01


ความคิดเห็นที่ 25 (1610545)

 คุณชนิดา+คุณวิ

สงสัยจะเหงานะ เพราะว่า

ลูกบ้านสวน ที่เป็นขาเม้าท์เข้าเวป

เค้าไปประจำการ ที่นรกขุม 3 กันหมด

จึงไม่มีใครสนใจ

เข้าเวปกันเลย

--------------

ลูกกราบอาจารย์แม่ ที่เมตตาค่ะ

แต่ว่า อย่างที่อาจารย์แม่บอกค่ะว่า

มีคนไปประจำการ ที่นรกขุม 3 เต็มไปหมด

ลูกก็ได้มีโอกาสไปประจำการที่นรกขุม 3 ด้วยนะเจ้าคะ

แต่มิได้ค้างคืน

กว่าจะได้ปิดนรกขุมที่ 3 เสร็จเกือบตี 2

อบอุ่นแบบนี้น่ากลัวค่ะ เพราะผลกรรมของการทำ

ผิดศีลข้อ 3 นั้นทำให้ตัวเราเองมีแต่ความทุกข์ ครอบครัว แตกแยก

ปัญหาด้านการเงิน การงาน ลูก หลานเกเร ไม่เชื่อฟังพ่อแม่

แล้วประเทศชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป

-----------------

 

ขุดขาว ไม่ใช่

สิ่งที่จะบอกว่า เป็นคนดี

 

แต่งตัวเรียบร้อย

เงียบๆ เรียบร้อยไม่ได้แปลว่า

ไม่ผิดศีล แต่ คาดไม่ถึง

 

แต่

คนแต่งตัวเซ๊กซี่

ไม่เคยได้แต้มกะเค้าเลย

ซักกะแต้ม

(เสียหายจริงๆ)

 

-------------

กราบอาจารย์แม่ค่ะ

ค่ำคืนนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน เนื่องจากลูกหลานบ้านสวนฯ

มาชุมนุมกันที่บ้านสวนฯ เพื่อมาปิดบัญชีนรกขุม 3

และมีอีกหลายเหตุการณ์ที่มาเปิดเผย ต่อสายตาทุกคน

ว่าสิ่งที่เราเห็นภายนอก อาจไม่ใช่สิ่งที่้เป็นจริงก็ได้

ค่ะ แว็บแรกที่สังเกตเห็นคือวันนี้มีคนใส่ชุดขาวมาทำบุญด้วยดีจัง

แว็บที่สองมาใกล้อีก อืม...เขาคงมาต่อยอดบุญนะ ท่าทีสงบ

แต่แล้วก็ได้สังเกตใกล้เข้าไปอีกนิดนึง...

เห็นท่าทีเขากำลังใช้ความคิดอะไรสักอย่างนึง

และสุดท้ายก็ได้คำตอบในชุดขาวค่ะ

เป็นทอม จิตใจหมกมุ่นในเรื่องกาม( ชอบดูหนังโป้ )

จินตนาการ ช่วยตัวเอง เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โดยที่มิได้ กระทำการทางกายกับผู้อื่น

สรุปเราไม่ควรตัดสินคนด้วยการแต่งกาย(เปลือกนอก )

ต้องใช้ปัญญาพิจารณา พิสูจน์ด้วยตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 08:40:40


ความคิดเห็นที่ 26 (1610548)

คราวนี้

ต้องมาย้อนเรื่อง

สิงห์ป้อม เจอชุดขาว

ทำไม อับแสง ไปเลยล่ะ

ก็เพราะว่า สิงห์ป้อม พรีเซ้นต์ตัวเองไว้

ว่า

เป็นคน เซ็กซ์จัด

มีความต้องการทางเพศสูง

เห็นผู้หญิงหุ่นดี หน้าตาดีไม่ได้เลย

ขนาดแค่เห็นเค้าเดินข้างทาง

ยังต้องหาอุบายเอาจนได้

ฯลฯ

 

แต่พอมาเจอ

เบอร์ 1 ชุดขาว เค้าบอกว่า

ของเค้านี่

มีความต้องการทางเพศ

ทุกขณะเลย คิดตลอดเวลา

หมกมุ่นตลอดเวลา

ต้องช่วยตัวเอง

 

ฟังถึงตอนนี้

หันมามองสิงห์ป้อม

เริ่มยกธง ลงต่ำเลย

 

อันนี้ก็แพ้เค้าแล้ว

เรื่องที่เค้ามีทุกเวลา

แต่สิงห์ป้อม ยังมีเวลาทำงาน

ยังมีเวลาว่างเว้น

สัปดาห์ละครั้ง สองครั้ง

ของเค้า ถ้าคิดเป็นชั่วโมง

ก็หลายครั้ง

 

คราวนี้ก็เรื่อง

หนองใน

สิงห์ป้อมก็ไม่เคยเป็น

555

แพ้เค้าอีกแล้ว

 

ส่วนเบอร์ 2

เค้าบอกเค้าฟันผู้ชายมา

กว่า 2,000 คน

อันนี้ สิงห์ป้อม หงายท้องเลย

 

เพราะ

ตัวเองคุยไว้ 500 นี่

คิดว่า เจ๋งสุดแล้ว ค่ำคืนนี้

เราจะเป็นคาสสิโนว่า

แสดงความเลว

ของศีล ข้อ 3 เป็นธรรมทาน

ว่า ข้า เลว กว่าใคร

 

ที่ไหนได้

แพ้ผู้หญิง แถมเป็นหญิง

บ้านๆ อ้วนท้อม ดูใสซื่อบริสุทธิ์

แถมอายุเกือบ 50 ปี

 

ส่วนเบอร์ 3

นี่ยิ่งไปกันใหญ่

แค่เค้าบอกว่า วันหนึ่ง

10 กว่าคน เกือบ 20

 

สิงห์ป้อม

เกือบตกเก้าอี้

คงคิดในใจละซีว่า

เรา...คิดว่า...เรา...นี่

สุด สุด แล้วนะ

ยังมีคนมาดับรัศมีอีกหรือนี่

แถมรายนี้นะ

โกอินเตอร์ด้วย หลายประเทศ

แต่สิงห์ป้อมนี่

โลกแคบไปเลย แม้จะผ่านมาแล้ว

ไม่น้อยกว่า 500 ก็ตาม

 

แล้วพวกเราลองคิดเล่นๆสิ

ว่าสังคมไทย สังคมโลก

 

ที่ไม่ได้มาบอกเล่า

ที่บ้านสวนฯอย่างคืนวันเสาร์

เค้าทำอะไรกันมาแค่ไหน

 

ทำไมแกนโลกต้องพลิก

 

รู้สึก

สงสารพระพุทธเจ้า

และ

เริ่มเข้าใจแล้วว่า

สิ่งที่ อ.อุบล สงสัย มานาน

ว่าทำไม ท่านเลือก อ.อุบล

คนโง่ และ บาปหนา ปัญญาอ่อน

ทำไมไม่เลือกคนอื่นที่ดีกว่า

ฉลาดกว่านี้ ทำหน้าที่

แทนท่าน

 

วันนี้

แค่ศีลข้อ 3 ข้อเดียว

ก็เริ่มเข้าใจพระพุทธองค์แล้ว

เข้าใจมติสวรรค์แล้ว

 

ว่า

ที่ท่านเลือก อ.อุบ

ไม่ใช่เพราะเป็นคนดีอะไรเลย

แต่

เป็นคนที่โง่จริงๆ

โง่ขนานแท้

 

เป็นคุณสมบัติที่ท่านต้องการ

คือ

ท่านบอกว่า

ใครจะฝึกกับท่าน

ต้องฝึกอย่างคนโง่ๆ

 

พวกประสบการณ์เยอะ

พวกฉลาด

ท่านฝึกให้ไม่ได้

วันนี้ เริ่มเข้าใจ แล้ว

 

แล้วท่านอื่น

คิดว่ายังไง ทำไม

เบื้องบน เลือก อ.อุบล

ทำหน้าที่แทนพระพุทธองค์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 09:37:04


ความคิดเห็นที่ 27 (1610593)

พวกประสบการณ์เยอะ

พวกฉลาด

ท่านฝึกให้ไม่ได้

วันนี้ เริ่มเข้าใจ แล้ว

 

แล้วท่านอื่น

คิดว่ายังไง ทำไม

เบื้องบน เลือก อ.อุบล

ทำหน้าที่แทนพระพุทธองค์

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

เบื้องบนจัดสรรค์

เป็นการจัดสรรค์

ที่เกิดขึ้น

โดยเห็นเป็นรูปกระทำ

และชัดเจนมากขึ้นทุก ๆ นาที

จากการที่ได้เข้าไปสัมผัส

ธรรมะแบบฉบับ ของ อ.อุบล

แห่ง

บ้านสวนพิรามิด

โดยที่จะพยายามไม่พลาด

ได้เห็นผู้ที่ทุกข์

ไม่ว่าจะ กาย ใจ

ออกมาสารภาพ กรรม

ที่ได้เคยกระทำมา

แล้ว ย้อนกลับมามองตัวเอง

จากวันนั้น ถึงวันนี้

ทุกข์ที่เราเคยแบกไว้

กรรมที่เราเคยกระทำมา

ที่เคยคิดว่าหนักหนา

จนเป็นคน อมทุกข์

ได้คลายออก จนแบบไม่เหลือ

เพราะเห็นแล้วว่า

การกระทำ กรรม

ความทุกข์ของคนอื่น หนักกว่าเรา

และเมื่อเปรียบเทียบตัวเรา

กับคนอื่นที่ทำกรรม

ร่างกายเจ็บ ป่วย สาหัส

ก็ทำให้ย้อนกลับ

มาที่

อ.อุบล บ้านสวนพิรามิด

และคิดได้ว่า

แบบนี้นี่เอง

อ.อุบล ถึงแข็งแรง

จิตใจเมมตา อ่อนหวาน

และที่สำคัญ สุภาพ

มีสมบัติผู้ดี ทุกกระเบียดนิ้ว

และ สวยไม่มีที่ติ

สำหรับคนที่มีวัย 55

และที่ อ.อุบล พูดปาว ๆ ว่า

อ.อุบล เป็นคนชั่ว

เป็นคนบาปหนา ฯลฯ

ก็น้อยกว่า มาก ๆๆๆๆ

เมื่อเปรียบกับ ตัวเรา

ซึ่ง

ขอสรุปว่า

 บาป กรรม ที่ อ.อุบล ทำ

น้อย ๆๆๆๆๆๆ มาก

และตรงกันข้าม

บุญ บารมี ที่ทำ

ในชาตินี้ที่พวกเราเห็น

ก็เป็นเครื่องวัดได้

ว่า ทำไม

เบื้องบน..ถึงเลือก อ.อุบล

และ บารมีเดิมที่สั่งสมมา

ไม่รู้ต่อกี่ชาติ อีกล่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-

เฮ่อ...ก็เลยคิดถึง

หนอน กับ ใบไม้

หนอน พยายามที่จะหา ใบไม้

ที่มีสุขภาพดี ปลอดสารพิษ

กัด แทะ

และหากว่า หนอน

ไปพบ ใบไม้ ที่ได้ปุ๋ยธรรมชาติ

ที่ดีแข็งแรง ( ธรรมะ คือ ธรรมชาติ )

หนอน

ก็ไม่สามารถ กัดแทะได้เลย

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

หนอนมนุษย์ ก็เช่นกัน

ก็คงไม่พ้น

กิเลส + ตัณหา

ที่ครอบงำ จนกลายเป็น

รักษ์ ริษยา ของตนเอง

อย่างที่คุณชนิดา กล่าวไว้

ขยะ

สิ่งปฏิกูล  ล้นโลก

ถึงแม้พยายาม..มองตัวเองว่าดี ว่าเก่ง

ก็ยังส่งกลิ่นเห็น สกปรกวันยังค่ำ

เหม็นจริง นะเนี่ย 555++

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 13:19:31


ความคิดเห็นที่ 28 (1610598)

ยิ่งถ้า

รัก

คนที่ไม่น่ารักได้

นี่ บุญ ใหญ่

มากนะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

สาธุ ๆ ๆ

คำสั่งสอนของ อ.อุบล

เป็นผลทำให้

ผู้ที่น่ารังเกียจ..

ได้รับความ สงสารค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 13:40:50


ความคิดเห็นที่ 29 (1610620)

 

อ.อุบล คะ

จากการที่ได้สัมผัส

ทำให้เห็นบุคคลหลาย ๆ ประเภท

ตั้งแต่เด็กไร้เรียงสา จนไปถึง

ผู้ที่มี ทั้งคุณวุฒิ และ วัยวุฒิ

รูปแบบ ของแต่ละบุคคล

ที่มีทั้งน่าสรรเสริญ และ น่าสงสาร

หลากหลายกันไป

อยากเรียนถามท่าน อ.อุบล ด้วยความไม่รู้นะค่ะ

ว่า

ผู้คนทั้งหลายทีมีทั้ง

บุคคลที่มีความทุกข์เข้ามาขอรับ

ความเมตตา จาก อ.อุบล

แล้วมีความสุขกลับไป จำพวกหนึ่ง

และ

อีกจำพวกหนึ่งก็คือ ทุกข์เหมือนเดิม

หรือทุกข์หนักมากกว่าเดิม

เป็นเพราะอะไรคะ ?

แล้วทำไม คนเราถึงได้มีจิต ที่แตกต่างกัน

ความทุกข์ที่เกิดจากความคิด ทำไมทำร้ายตัวเอง

ได้มากมายเหลือเกินคะ ?

แมวเห็นบางคนที่สร้างภาพให้ตัวเอง

เวลาที่ผู้คนน้อย ๆ หรือ อยู่กับ อ.อุบล ลำพัง

จะน้อมก้มกราบกราน ด้วยศรัทธาเสียเหลือเกิน

แต่ขณะที่อยู่ต่อหน้าบุคคลอื่นมาก ๆ 

จะอวด แสดง ความรู้มาก.ก.ก.

 ภูมิธรรมสูง เสียเหลือเกิน

คนประเภทนี้ มีจิตใจอย่างไรคะ... 

ทำไมถึงแสดงได้หลาย ๆ บทบาทจัง 

( ยังแอบมีกรรมทางความคิด ค่ะ ว่า

 คนแบบนี้เป็นโรคจิตแน่ ๆ เลยค่ะ )

แต่กลับไปอ่านข้อความที่ อ.อุบล สอน

ก็ทำให้มองโลกในแง่บวก ว่า

น่าสงสาร  มากกว่าค่ะ....

คำว่าน่าสงสาร ก็เลยไปจนเป็น

น่าสมเพศ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 15:18:54


ความคิดเห็นที่ 30 (1610628)

ก้านบัวบอกลึกตื้น  ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน

บทกลอนดีๆแบบนี้ อ่านเมื่อไรก็ให้แง่คิดได้ดีจริงๆนะครับ ให้ทั้งธรรมะและปัญญาแก่เราตลอดเวลา

บุคคลต่างๆที่เข้ามาบ้านสวนฯหรือเกี่ยวข้องกับบ้านสวนฯมีมากมายหลายประเภท จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พอทำให้เห็นได้ว่า แต่ละคนที่เข้ามาบ้านสวนฯนั้น เก่งคนละแบบ แสบคนละอย่าง 555

ท่านอาจารย์ก็ต้องเหนื่อย ยิ่งมาเจอคนหัวหมอ อวดดี อวดรู้ จิตคิดลบ อิจฉา ริษยาเป็นที่หนึ่ง ที่ผ่านมาผมเห็นท่านอาจารย์จะยิ่งเมตตาเป็นพิเศษ เพราะอยากให้เขาพ้นทุกข์

บางคนก็ถือดี มีมานะสูง ทำผิดซ้ำซากไม่ยอมเปลี่ยน จนชีวิตตกอับ มีแต่ทุกข์ บางคนก็ต้องเสียชีวิต เหมือนเมื่อเร็วๆนี้ที่มีคนเสียชีวิตเพราะเคยปรามาสท่านอาจารย์อุบลไว้

จนป่วยหนักใกล้ตาย สำนึกผิดรู้ตัว อยากรีบมาขอขมามากแต่ก็ช้าเกินไปเสียชีวิตเสียก่อน นี่แหละครับ กรรมของผู้ล่วงเกินผู้มีศีล มีคุณธรรม

แต่บางคนรีบเปลี่ยนตัวเอง เช่น น้องมาร์ค ลูกพี่อร ซึ่งเมื่อก่อนปากเสีย แสนงอน ใช้ปากไม่สร้างสรรค์ สร้างบาป จนปากห้อย แต่เดี๋ยวนี้น้องมาร์คเป็นเด็กดี รูปปากสวย ไม่ห้อยแว้วว สาธุ

จู่ๆก็นึกถึงบทกลอนนี้ขึ้นมา เพราะเข้ากับบรรยากาศที่ผู้คนหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านสวนฯ ทำให้เรารู้เช่นเห็นชาติของแต่ละคนได้เป็นอย่างดีเลย

เราจะรู้ว่าพฤติกรรมที่ทำออกมา ไม่ว่าจะเป็นขยะทางความคิดก่อนและกลั่นผ่านออกมาเป็นคำพูดหรือตัวหนังสือ ล้วนบ่งบอกถึงแหล่งที่มาได้เป็นอย่างดี

และเราก็จะได้รู้ว่าคนๆนั้นมีปัญญาทราม หรือฉลาด หรือดูคล้ายฉลาดก็ตรงเวลาเขียนพูดนี่แหละครับ

สุดท้ายคนแบบนี้อยู่ที่ใดก็ยังแต่จะทำให้องค์กร สังคมหรือประเทศชาติเสื่อมเสีย หรือไม่เจริญ

แต่แปลกอยู่ตรงที่คนแบบนี้มักไม่ยอมรับหรือรู้ตัวว่าตนเองมีพฤติกรรมอันน่ารังเกียจ หากใครกระตุกโดนต่อมพอดีนะ อุเหม่!ต่อมริษยาแตก วีนแตก หน้าไหนไม่กลัว เจอปะฉะแหลก แสดงความมั่นใจ

ทั้งๆที่ภายในนั้นบอบช้ำและทุกข์ทรมานเหลือเกิน แต่ทำไงได้ล่ะ เสียฟอร์มได้เหรอ คนแบบนี้...น่าสงสารที่สุด มีทางเดียวที่ช่วยได้คือการมอบความรัก ความเมตตาให้กับเขาถึงแม้ว่าเขาจะทำตัวไม่น่ารักก็ตาม...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 16:22:18


ความคิดเห็นที่ 31 (1610633)

ทั้งๆที่ภายในนั้นบอบช้ำและทุกข์ทรมานเหลือเกิน

อ่านแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว ๆ เลยค่ะ คุณธนาสุดหล่อ

ความทุกขที่ตัวเองมีอยู่ แต่ไม่สามารถหาทางดับทุกข์ได้

น่าสงสาร ถึงแม้จะพบลู่ทาง แต่ก็ไม่สามารถเดินทางนั้นได้

แบบนี้....วังวนของความทุกข์ ก็จะกว้าง และ ลึกไปเรื่อย ๆ

เจ้าตัวก็จะต้อง...จมปรัก และแสดงออก ด้วยความก้าวร้าว

มันช่างเจ็บปวด ในชีวิตจริง ๆ ที่ดิ้นรน หาทางดับทุกข์

แต่การกระทำ .. ที่เป็นบ่อเกิดให้ทุกข์หนักโดยไม่ยอม

เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง ( สันดาน )

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 16:47:19


ความคิดเห็นที่ 32 (1610660)

คนที่น่าสงสารที่สุดในโลก

ก็คือ คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเอง โง่ ชั่ว บาป

คิดว่าตัวเอง คิดดี ทำดี พูดดี

ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง 

และยังจ้องคอยจับผิดการกระทำคนอื่น 

โดยลืมมองดูตัวเอง 

สนใจแต่สอดส่าย สายตาออกนอกกาย

ไปสนใจแต่เรื่องคนอื่น 

แม้ครูบาอาจารย์ หรือญาติธรรมพยายามตักเตือน

ก็หาได้เก็ทเข้าไปในสมอง

คนดี

ไม่ว่าจะคิด พูด ทำ มันต้องออกมาดี ตามความดี

แต่บางคนคำพูดที่แสดงออกมา 

ช่างดูไม่มีความดี ไม่มีความเป็นผู้ดีเลย 

การกระทำทุกอย่าง ไม่ว่า

คิด เขียน พูด เป็นตัวบ่งบอก

ถึงตัวตนข้างใน

คนไม่มีความสุข

มีแต่ความทุกข์

จะคิด เขียน พูดเรื่องดีๆ ออกมาได้ยังไง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 20:26:10


ความคิดเห็นที่ 33 (1610665)

 

พวกเราส่วนใหญ่มักจะมอง

และตัดสินคนอื่น

ด้วยการมองเพียงแค่

"เปลือก"ที่เห็นเท่านั้น

โดยไม่คิด พิจารณา หรือไตร่ตรอง

ให้ละเอียดถี่ถ้วนซะก่อน

โดยการใช้หลักกาลามสูตร

ดังเช่นพระพุทธองค์และท่านอาจารย์

พยายามเน้นย้ำมาโดยตลอด

 

                                                                ******************************************************

เห็นด้วยกับคุณชนิดาค่ะ  ถ้าเราสามารถมองข้าม ก้าวผ่าน เปลือก หรือ ขันธ์ 5 ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัด และง่ายที่สุด เข้าไปถึงจิตใจได้  พวกเราก็คงจะไม่หลงทาง เข้าป่ารก ออกนอกเส้นทางกลับบ้านนิพพาน มาอย่างยาวนานขนาดนี้หรอกค่ะ

การที่ท่านอาจารย์ อุบล แต่งตัวเซ็กซี่ ก็เพื่อเป็นกุศโลบาย  เพื่อเป็นกับดักให้คนที่ยึดติดกับเปลือก ได้คิด ปรามาศ คิดไม่ดีกับท่าน  เพื่อจะเป็นหนทางให้คนเหล่านั้นได้เข้ามาที่บ้านสวนฯ  และยังเป็นธรรมะสำหรับสั่งสอนลูกหลานว่า การแต่งตัวดี ชุดขาวไม่ได้การันตีว่าคนนั้นจะดี จะบริสุทธิ์เหมือนชุด  แต่มันอยู่ที่จิตข้างใน  พวกเราควรจะสงสัย หรือถามตัวเองว่า เอ๊ะ ท่านอาจารย์ท่านฝึก หรือทำยังไงท่านถึงได้เป็นผู้ที่ถึงพร้อมความบริสุทธิ์อย่างนี้ได้   ท่านละความโกรธได้ยังไง ท่านภาวนายังไง เวลาไหน เพราะขนาดเวลากิน เวลานอนยังแทบไม่มี  ทรงอารมณ์ฌานตลอดเวลาได้ยังไง ( อันนี้ พี่แอ๊ด คาราบาว ลูกเขยป้าจำเนียรเคยบอกไว้)  ฯลฯ

ซึ่งจากธรรมทานวันเสาร์ที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา  ตอนผู้หญิง 4 คน นั่งอยู่ข้างหน้า

ท่านแรก ท่านอ.อุบล  แต่งตัวเซ็กซี่ รัดรูป

ท่านที่ 2 คุณโอ๋  คุณนายเจ้าระเบียบ จอมเนี้ยบ แต่ผ่านผู้ชายมามากมายหลายพัน

ท่านที่ 3 อายุเกือบ 50 ปี ดูเป็นชาวบ้าน เรียบง่าย แต่งตัวใส่เสื้อผ้าหลวมๆ  ก็ผ่านผู้ชายมาเกือบ 2,000 คน

ท่านที่ 4 เป็นทอม  ใส่ชุดขาว ปฎิบัติธรรม ท่าทางเรียบร้อย ดูไม่ค่อยพูด คิดหมกมุ่นทางกามารณ์ตลอกเวลา จนสามารถเป็น โรคหนองในได้ โดยไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครเลย

ช่างเป็นภาพที่แสดงหลักฐานชัดเจนว่า การแต่งกายเป็นแค่เปลือกนอก ไม่ได้เป็นสิ่งที่วัดคุณความดีของคนเลย

เพราะถ้าให้เลือกคนที่ดูน่านับถือที่สุด ถ้าอ้อยไม่ได้รูจักใครซักคนมาก่อน  แม้แต่ท่านอ.อุบล อ้อยก็คงเลือกน้องชุดขาว หรือ หรือพี่ที่ดูเป็นชาวบ้าน

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พระพุทธองค์ และท่านท้าวเวสสุวรรณช่างพระปรีชาสามารถสุดยอดจริงๆ  สอนธรรมะเอาแบบมีหลักฐานอ้างอิง เป็นวิทยาศาสตร์  พิสูจน์ได้ เห็นได้จริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 20:46:11


ความคิดเห็นที่ 34 (1610666)

 

ทั้งๆที่ภายในนั้นบอบช้ำและทุกข์ทรมานเหลือเกิน แต่ทำไงได้ล่ะ เสียฟอร์มได้เหรอ คนแบบนี้...น่าสงสารที่สุด มีทางเดียวที่ช่วยได้คือการมอบความรัก ความเมตตาให้กับเขาถึงแม้ว่าเขาจะทำตัวไม่น่ารักก็ตาม...

 

การมอบความรักให้คนแบบนี้

ก็คือ

ยังคอยตักเตือนเมื่อเค้าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

  ไม่เมินเฉยเมื่อเห็นเค้าทำผิดค่ะ

ถ้าเค้าเก็ท

เค้าจะเก็บเอาคำเตือนไปคิด พิจารณา

และเมื่อคิดได้ เค้าจะรู้สึกขอบคุณ ซาบซึ้ง

อย่างหาที่สุดไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 20:51:13


ความคิดเห็นที่ 35 (1610680)

ใช้ชื่อที่ท้าวเวสสุวรรณตั้งให้นั่นแหละจ้ะ


ขอบพระคุณ อ.อุบล มาก ๆ เลยนะ ที่เล่าให้ฟังมีแต่น้ำตาเท่านั้น


ทั้ง ๆ ที่มีน้ำลาย (ฟูมปาก) น้ำมูก (เกรอะกรัง) แถมขี้เหม็นอีกด้วย


แถมยังเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ชอบเห่าชอบกัดชาวบ้าน

ดิฉันมันทั้งโง่ ทั้งบ้า

อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนโง่เลยนะจ๊ะ

= ^_^ =

 

ท้าวเวสสุวรรณก็อุตส่าห์เมตตารักษาโรคเอ๋อแดกให้ แต่ดูเหมือนจะรักษาไม่หายนะคะ ยังเอ๋อเหรออยู่เหมือนเดิม

อย่างไรเสียก็ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง

กราบ กราบ กราบ

---------------------------------------

ขอโทษที่เข้าใจผิดคิดว่า

ฉัพพรรณรังสี คือ แสงที่ออกจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อ.อุบลไม่ใช่พระพุทธเจ้า แล้วจะแผ่ฉัพพรรณรังสีด้วยตนเองได้อย่างไร ถ้าไม่ขอพระบารมีของพระองค์ท่าน

ก็เลยงงนิดหน่อย

หากอ.อุบลทำจริงได้ก็ไม่เป็นไร

เราคงไม่ยินดีเลียนแบบ เพราะกลัวข้อกล่าวหาปรามาสพระรัตนตรัย

ตัวเราเองนั้นเป็นพระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่ เป็นพระโพธิสัตว์ก็ไม่ใช่

ขนาดหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเองก็ยังไม่มี

-----------------------------------------

ขอเป็นควายต่อไปอย่างนี้ดีกว่า เหมาะกับเราแล้วเนอะ สิงสาราสัตว์ รวมเบ็ดเสร็จอยู่ในตัวหมดเลย

เขินจัง เผยความลับให้คนอื่นรู้ซะได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก (kitty-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 21:47:26


ความคิดเห็นที่ 36 (1610685)

พวกเราส่วนใหญ่มักจะมอง

และตัดสินคนอื่น

ด้วยการมองเพียงแค่

"เปลือก"ที่เห็นเท่านั้น

***--***--***

คำกล่าวข้างต้นช่างอ่านแล้วบาดลึก

ในหัวใจของผู้ชายร่างใหญ่ที่ชื่อ

ตัวเล็ก

เหลือเกิน ยอมรับว่าที่ผ่านๆมาก่อนที่จะ

ได้มาพบ

 ท่านอาจารย์อุบล

ตนมีความคิดแบบดังกล่าวชอบมองแต่

เปลือกนอก

แต่เมื่อได้รับการขัดเกลาความโง่

ของตนเองจากท่านอาจารย์ทำให้มุมมอง

ได้เปลี่ยนไป

แล้วยิ่งเมื่อคืนที่12/5/55ที่ผ่านมา

ยิ่งได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ระหว่าง

ชุดขาว กับ ชุดเซ็กซี่

เพราะอย่างนี้ญาติธรรมทั้งหลาย

ได้พบครูบาอาจารย์(อุบล)

ที่ถ่ายทอดธรรมะของพระพุทธองค์

ที่ตรงและชัด

ซึ่งเป็นหนทางนำพวกเราไปสู่

พระนิพพาน

ญาติธรรมทั้งหลายได้โปรดจงนำคำสอน

ไปเผยแพร่ให้ได้มากที่สุด

และ

เดินตามผู้นำกองทัพธรรม

ของพวกเรากันเถิด

สาธุๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 22:22:21


ความคิดเห็นที่ 37 (1610687)

555 อ่านแล้วขำดีเนอะ ช่วงนี้งิ้วขาดแคลน มีคนอวดฉลาดมาเล่นงิ้วสดๆเผยปัญญาให้ดู 555

พี่ตัวเล็กก๊าบบ แหม ชื่อพงษ์เดช ชาวไทย นี่เพราะเกินไปนะ ลูกบ้านสวนฯก็เรียกแต่ชื่อพี่ตัวเล็กมาเป็นปีๆ แต่ก็ยังไม่วายมีคนอยากแอบอ้างชื่อของพี่อีกตะหากแน่ะ 555

ท่านอาจารย์อุบลก็เมตตาเหลือเกิน สอนลูกหลานในครอบครัว อยากให้ลูกหลานได้ดี อยากให้เจ้าของกระทู้คือพี่ตัวเล็กได้รับธรรมะดีๆ แต่ไหง มีคนอ่านแล้วคันแทน แถมคงคันโดนจุดอีก 555

หมอที่ไหนจะรับเย็บน๊าา เย็บหน้าน่ะเย็บได้ แต่เย็บแผลเป็นในจิตใจนี่คงยากนะ นอกจากจิตที่เปิดรับธรรมะ คลายทิฐิ มานะ ไม่ใช่อยากเอาชนะหรือคอยแสดงพฤติกรรมขยะออกมา คนแบบนั้นอย่าแอบอ้างชื่อครูบาอาจารย์ให้ท่านเสื่อมเสียอีกเลย บาปหนัก 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 22:31:30


ความคิดเห็นที่ 38 (1610689)

ธรรมะในวันเสาร์ที่ผ่านมาชัดเจนที่สุดเลยครับ จู่ๆก็เห็นสุภาพสตรีแต่งชุดขาว ท่าทางเรียบร้อยมากรอร่วมกิจกรรมภาคกลางคืน ผมก็มองแปลกๆอยู่ว่า สงสัยเพิ่งมาบ้านสวนฯครั้งแรกรึเปล่าน๊าา

เพิ่งมาทราบภายหลังว่า เบื้องบนจัดให้ เพราะทุกอย่างที่เราเห็นช่างขัดกับสิ่งที่อยู่ภายในเหลือเกิน เสื้อขาว ชุดขาวที่ดูสะอาดตา แต่ภายในกลับหมกมุ่นอยู่กับกาม หรือสิ่งไม่ดีทั้งหลาย

ยิ่งฟังเธอเล่าสภาพชีวิต วิธีการคิด บาปกรรมโดยเฉพาะเรื่องการผิดศีลข้อ3 ที่เรียกว่า ถึงพริกถึงขิง ใจเร่าร้อนคิดแต่เรื่องใต้สะดือตลอดเวลา ป๊าดด ต่างกับพฤติกรรมหรือการแต่งกายโดยสิ้นเชิง ซึ่งธรรมทานนี้ชัดเจนมาก ทำให้เราได้ปัญญาว่า คนเราต้องใช้ปัญญา มองคนให้มองที่จิตใจ ความประพฤติมิใช่การแต่งกาย

ซึ่งการแต่งกายของท่านอาจารย์นั้นเป็นสิ่งที่เบื้องบนจัดสรรมา และผมคิดว่าเป็นวิธีการที่แยบยลและได้ผลดีมาก สำหรับคนที่มีจิตใจต่ำทรามเกินไป ไม่สามารถเยียวยาได้ ก็จะรีบปรามาสท่านอาจารย์และหายไปในทันที เรียกว่า กรองบัวใต้พิภพออกไปเลย

ส่วนคนที่ยังพอแนะนำสั่งสอนได้ ก็จะมีเหตุการณ์ต่างๆหลังจากปรามาส และทำให้เขาเริ่มค้นหาคำตอบ จนได้รับธรรมะดีๆของพระพุทธองค์จากบ้านสวนฯ

ซึ่งเห็นเลยว่า ท่านอาจารย์อุบลแต่งตัวสวยงาม เซ็กซี่ แต่จิตใจท่าน การวางตัว การทำตนให้เป็นแบบอย่างของท่าน ตรงตามที่พระพุทธองค์สอนไว้ ซึ่งคนตาดีมีปัญญาหากมองข้ามขันธ์5นี้ไปได้ก็จะเห็นแสงแห่งธรรมะอันประเสริฐที่อยู่ในจิตใจของท่านอาจารย์ ที่คอยเมตตาสั่งสอนลูกหลานทุกคนและพาพวกเรากลับบ้านพระนิพพานในชาตินี้กัน สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 22:41:17


ความคิดเห็นที่ 39 (1610691)

 

อิ อิ เอ่ยถึง เรื่อง คัน

คนที่มีสติ ดี

ก็เกาได้ถูกที่ ..ก็หายคัน

แต่..

คนเสียสติ .. เกาไม่ถูกที่

ก็คันอยู่นั่นแหละ

555++

แมลงสัตว์ กัด ต่อย

ก็อย่าไป บี้ ไปฆ่า

ผิดศิลข้อ 1 นะจ๊ะ

เป่า ๆ ปัด ๆปะเดี๋ยว

สัตว์..ตัวเล็ก ๆ

พวกนี้ก็ไป..นรก

ทนรำคาญหน่อยพี่น้อง

Oho...ก็พวก

สัตว์ตัวเล็ก

เนี่ยสมองมันน้อย

น่าสงสาร นะ

 ตัวเล็ก (kitty-at-hotmail-dot-com)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 22:52:52


ความคิดเห็นที่ 40 (1610699)

 ทั้ง ๆ ที่มีน้ำลาย (ฟูมปาก) น้ำมูก (เกรอะกรัง) แถมขี้เหม็นอีกด้วย

+++++++++++

ล้างหน้า ล้างตาบ้างก็ได้นะจ๊ะพี่ มัวแต่ส่ิองกระจกดูตัวเองอยู่นั่นแหล่ะ ระวังคนอื่นเห็นเค้าจะตกใจเอานะจ๊ะ ~

_______________________________________________________

ดิฉันมันทั้งโง่ ทั้งบ้า

อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนโง่เลยนะจ๊ะ

+++++++++++

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้มองตัวเองและแก้ไขตัวเอง พี่โชคดีจังนะจ๊ะที่เห็นสันดานของตัวเองแล้ว ก็ขอให้นำไปแก้ไขให้ได้นะจ๊ะ อิอิ ~

_______________________________________________________________

 

หากอ.อุบลทำจริงได้ก็ไม่เป็นไร 

เราคงไม่ยินดีเลียนแบบ เพราะกลัวข้อกล่าวหาปรามาสพระรัตนตรัย

++++++++++

พี่จ๋า ดีใจกับพี่ด้วยนะจ๊ะที่รู้ว่าการปรามาสพระรัตนตรัยเป็นกรรมหนักมาก ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข เรียกได้ว่า ถึงขั้นฉิบหายทีเดียวเลยนะจ๊ะ

แต่ก็สงสัยนิดนึงนะจ๊ะ ว่าไอที่บอกว่า คงไม่ยินดีเลียนแบบ สงสัยจริงๆเลยนะจ๊ะ ว่ามีปัญญาทำได้หรือจ๊ะ เลียนแบบได้หรือจ๊ะ  หรือดีแต่ปากหว่า อิอิ ~

_____________________________________________________

ขอเป็นควายต่อไปอย่างนี้ดีกว่า เหมาะกับเราแล้วเนอะ 

++++++++++++++

แหมมมมม เป็นตั้งควายยยแหน่ะ ไม่ใช่แค่ควายนะ เป็นตั้งควายเชียวนะ ลองคิดดูนะจ๊ะ ว่าควายมันเคยลบหลู่สิ่งศักสิทธิ์ เคยแอบอ้างชื่อชาวบ้านหรือป่าว  มันไม่น่าจะเคยนะจ๊ะว่ามั้ย??  แล้วคนละจ๊ะ ที่บอกว่าเป็นควายหน่ะ เป็นได้หรอจ๊ะ เป็นควาย หรือเลวกว่าควายหว่า เอ..... อันนี้ต้องคิดหนักเลยนะ

 

_______________________________________________________

 

เขินจัง เผยความลับให้คนอื่นรู้ซะได้

++++++++++++++++++

หวาาาาาา   ควาบลับรั่วแล้วนะ เค้ารู้กันหมดแล้ววววว   ( รู้ไปถึงสันดานเลย )    อิอิ ~

   คนบนโลกนี้มีหลายรูปแบบ ทั้งคนดีและคนชั่ว คนที่มีชื่อตัวเองและภูมิใจในตัวเอง และคนที่หน้าด้านแอบอ้างชื่อชาวบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะอับอายชื่อของตัวเอง หรือกลัวคนอื่นรู้ว่าตัวเองเป็นใคร     

 



 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 00:08:18


ความคิดเห็นที่ 41 (1610701)

 พวกเราส่วนใหญ่มักจะมอง

และตัดสินคนอื่น

ด้วยการมองเพียงแค่

"เปลือก"ที่เห็นเท่านั้น

โดยไม่คิด พิจารณา หรือไตร่ตรอง

ให้ละเอียดถี่ถ้วนซะก่อน

โดยการใช้หลักกาลามสูตร

ดังเช่นพระพุทธองค์และท่านอาจารย์

พยายามเน้นย้ำมาโดยตลอด

กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่และพี่ชนิดาด้วยค่ะ

หนูก็เป็นคนนึงที่เมื่อก่อนชอบมองคน

เพียงแค่เปลือกนอก 

แต่พอนานๆไป เปลือก ยังไง มันก็คือ เปลือก อยู่วันยังค่ำ

มันไม่ใช่ของแท้ แน่นอน 

แต่สิ่งที่เราต้องดูคือภายในมากกว่า

ผลไม้ที่ข้างนอกดูดีงามตา 

แต่ข้างในอาจช้ำ ไม่น่ากินก็ได้

แต่ผลไม้ที่สุกงอม 

จนเปลือกดำ ไม่น่ากิน

บางทีข้างในมันอาจจะยังสดใหม่ก็ได้

บางทีก็ดูยากจริงๆค่ะ

แต่หากใช้หลักกาลามสูตร

ตามที่พระพุทธองค์สอนผ่านอ.แม่

ผลออกมาคงแน่ชัด และไม่พลาดแน่นอน

สาธุ สาธุค่ะ

**********************************

Oho...ก็พวก

สัตว์ตัวเล็ก

เนี่ยสมองมันน้อย

น่าสงสาร นะ

ขอกดไลค์หน่อยค๊าาาพี่แมว อิอิ

ขยะที่ไม่มีวันหมดไปจากโลกได้

จะกวาด จะเผายังไง ก็ไม่หมด

สงกะสัยเค้าคงรอภัยพิบัติใหญ่มากวาดทีเดียวมั้งค่ะ

จะได้มีเพื่อน ไปทีละหลายๆคน

คงสนุกดี อิอิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 00:52:49


ความคิดเห็นที่ 42 (1610711)

แล้วพวกเราลองคิดเล่นๆสิ

ว่าสังคมไทย สังคมโลก

 

ที่ไม่ได้มาบอกเล่า

ที่บ้านสวนฯอย่างคืนวันเสาร์

เค้าทำอะไรกันมาแค่ไหน

 

ทำไมแกนโลกต้องพลิก

 ................................................................

น่ากลัวจริงๆค่ะ นี่แค่เพียงตัวอย่าง

ในกลุ่มสังคมเล็กๆเท่านั้น

เรื่องราวยังมากมายขนาดนี้เลย

 

แล้วมองภาพกว้างๆกว่านี้

ถึงสังคมไทย สังคมโลก

คงอีรุงตุงนังกว่านี้เยอะเลย

 

ซึ่งถ้าให้วิเคราะห์ถึงสาเหตุหลัก

ก็คงจะเป็นเพราะ พวกเราโตมากับ

สังคมเปลือกๆ แต่ละคนเอาใจไปมอง

แต่เปลือกแห่งความรวย

ความสวย ความสำเร็จ ฯลฯ 

 

"เปลือก"เหล่านี้ได้หุ้มใจเราไว้

จนไม่สามารถมองเห็นความจริง

และแยกแยะ ดี ชั่วได้ด้วยตัวเอง

จึงปล่อยให้"สื่อต่างๆ"ครอบงำ

แล้วยังไปลอกเลียนแบบ

พฤติกรรมแย่ๆของคนส่วนใหญ่

อีกต่างหาก

...................

รู้สึก

สงสารพระพุทธเจ้า

และ

เริ่มเข้าใจแล้วว่า

สิ่งที่ อ.อุบล สงสัย มานาน

ว่าทำไม ท่านเลือก อ.อุบล

คนโง่ และ บาปหนา ปัญญาอ่อน

ทำไมไม่เลือกคนอื่นที่ดีกว่า

ฉลาดกว่านี้ ทำหน้าที่

แทนท่าน

............................

ก็เท่าที่เห็น รู้สึกว่าคนฉลาดส่วนใหญ่

เค้าเอาความรู้ ความสามารถที่มี

ไปใช้ในด้านการล่าแต้ม

และหาไอเดีย นึกอุบาย

ให้ตัวเองได้ทำผิดศีลให้มากที่สุด

กันหม๊ดเลยนี่คะอาจารย์ขา...

 

....................................

แล้วอีกคนนึงที่ฉลาดมากๆ

ก็คือ เจ้าของคห.ที่35

ไม่รู้เหมือนกันว่า

จะขยันโชว์ความฉลาด

ของตัวเองไปถึงไหน

สงสัยกลัวว่าจะไม่ได้ลงไป

ป๊ะกันแหม กับท่านเทวทัต นะเนี่ย


โอ๊ย...ไม่ไหวจะเคลียร์ เจงๆ

 

จะว่าไป ฟาร์มจระเข้

ก็อยู่ไม่ไกลบ้านคุณเลยนะ

หาโอกาสไปเที่ยวซะบ้างนะคะ

เผื่อจะได้ข้อคิดขึ้นมาบ้างว่า

การทำตัวขวางคลอง นั้น

มัน"เจ๋ง"ตรงไหน...เนี่ย

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 07:08:15


ความคิดเห็นที่ 43 (1610724)

จาก คห.15 และ 35

เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ ว่าทำไมแกนโลกต้องพลิก

ก็เพราะว่ามีคนอย่างคุณเยอะ ไม่เข้าใจว่าคุณเดือดร้อน

อะไรหรือเปล่าคะ เอาเวลาไปจัดการตัวของคุณให้มีความสุข

ดีกว่ามั้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 09:13:27


ความคิดเห็นที่ 44 (1610743)

   ได้อ่านธรรมทานของท่านอาจารย์  และญาติธรรมทั้งหลายแล้ว

ก็ได้แง่คิดว่า  เราจะเลือกมอง  "เปลือก"  หรือ  "แก่น"

แต่สำหรับตัวเองก็เลือกที่จะมอง  แก่นแท้  ของสิ่งนั้น

แต่ด้วยบางครั้ง  ปัญญา  ยังนิ่มอยู่  อาจจะมองผิดพลาดไปบ้าง

ก็ได้มาอาศัยอ่านธรรมทาน  จากเวปบ้านสวน  เพื่อไปพัฒนา  ปัญญา

เพื่อเปิดโลกทัศน์ของตัวเองให้กว้างขึ้น  ถ้าไม่มีเวปบ้านสวนฯ

เราก็ไม่ได้เห็นความหลากหลายของ  "คน"  ในอีกมุมมองหนึ่ง

ที่เราไม่เคยมอง   ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ  ว่า

"คนที่มีความสุขเปี่ยมล้น  เขาก็สามารถแบ่งปันความสุขให้กับคนอื่นได้

แต่คนที่มีแต่ความทุกข์เต็มหัวใจ  สิ่งที่แบ่งปันให้คนอื่นก็คือ  ความทุกข์ของตัวเองทั้งนั้น"

          เวลาคิด  พูด  กระทำ  ก็ทำให้คนอื่นรู้หม๊ด  ว่าเรา

สุข  หรือ  ทุกข์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 11:34:31


ความคิดเห็นที่ 45 (1610801)

"คนที่มีความสุขเปี่ยมล้น

เขาก็สามารถแบ่งปัน

ความสุข

ให้กับคนอื่นได้

 

แต่

คนที่มีแต่ความทุกข์

เต็มหัวใจ

สิ่งที่แบ่งปันให้คนอื่นก็คือ

ความทุกข์

ของตัวเองทั้งนั้น"

        

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 16:06:05


ความคิดเห็นที่ 46 (1610814)

อยากเรียนถามท่าน อ.อุบล

ด้วยความไม่รู้นะค่ะ

ว่า

ผู้คนทั้งหลายทีมีทั้ง

บุคคลที่มีความทุกข์เข้ามาขอรับ

ความเมตตา จาก อ.อุบล

แล้วมีความสุขกลับไป จำพวกหนึ่ง

และ

อีกจำพวกหนึ่งก็คือ ทุกข์เหมือนเดิม

หรือทุกข์หนักมากกว่าเดิม

เป็นเพราะอะไรคะ ?

 

แล้วทำไม

คนเราถึงได้มีจิต ที่แตกต่างกัน

ความทุกข์ที่เกิดจากความคิด

ทำไมทำร้ายตัวเอง

ได้มากมายเหลือเกินคะ ?

 

แมวเห็นบางคนที่สร้างภาพให้ตัวเอง

เวลาที่ผู้คนน้อย ๆ หรือ อยู่กับ อ.อุบล ลำพัง

จะน้อมก้มกราบกราน ด้วยศรัทธาเสียเหลือเกิน

แต่ขณะที่อยู่ต่อหน้าบุคคลอื่นมาก ๆ 

จะอวด แสดง ความรู้มาก.ก.ก.

 ภูมิธรรมสูง เสียเหลือเกิน

คนประเภทนี้ มีจิตใจอย่างไรคะ... 

ทำไมถึงแสดงได้หลาย ๆ บทบาทจัง 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-14 15:18:54 IP : 58.11.75.170

 

 

ตอบ

คุณแมว

(ตัวน้อยๆจ้า)

 

พระพุทธองค์ทรงตรัส

ถึงบุคคล 4 จำพวก

ดังนี้

 

พวกที่ 1

มืดมา แล้ว สว่างไป

 

พวกนี้

เกิดมา พร้อมกับ เศษกรรม

ในอดีตมาตามส่งผล

 

คือ

เคยเป็นสัตว์นรกมาก่อน

เมื่อหมดกรรมได้มาเกิด

เป็นคน

ก็มีเศษกรรม และ สัญญาเดิม

ติดตามเป็นรหัสพันธุกรรมมาด้วย

จึงได้

มาทำผิดศีลอีก จนพบกับ

ความทุกข์อีก

แต่

คนพวกนี้ ก็มีเศษกรรมดี

ติดมาด้วย จึงมีเทวดามาดลใจ

เมื่อบั้นปลายชีวิต

ให้คิดได้ว่า เราจะบ้าทำบาป

อีกทำไม ทำแล้วได้อะไร

นอกจากทุกข์

 

พวกนี้ จึงกลับตัว กลับใจ

หลังจาก หลงผิด

ในเบื้องต้น

พวกนี้ จึงหนี ทุกข์ได้

ในภายหลัง

 

พวกที่ 2

มืดมา แล้ว มืดไป

 

พวกนี้

ก็เช่นกันกับพวกแรก

 

เกิดมาพร้อมกับ

จิตเดิม สัญญาเดิม จากนรก

พวกนี้ ก็จะสร้างแต่บาป

ทำร้ายตัวเอง

ทุกข์จนหาทางออกไม่ได้

ไม่ว่าฟังธรรมใด

ก็แค่รู้ธรรม แต่ไม่นำไปปฎิบัติ

 

พวกนี้

จะไม่เคยลิ้มรสชาด

ของความสงบสุขเลยในชีวิต

 

จะมีแต่สร้างกรรม

ชีวิตเร่าร้อน ไม่ผ่อนผันบันเทา

 

ด้วยพวกนี้

แตกต่างกับพวกแรก

ตรงที่ อดีต ก็ไม่เคยทำดีมาเลย

ที่ได้มาเกิดเป็นคนนั้น

เพราะใช้กรรมจนสาสมแล้วเท่านั้น

จึงได้โอกาสมาเกิดเป็นคนอีก

 

ดังนั้น

พวกนี้ จะไม่เหมือนพวกแรก

ก็ตรงที่ ความทุกข์ หรือ อุปสรรค

ที่ได้รับ ไม่สามารถ ทำให้

เอะใจ หรือ ฉุกคิด ได้เลย

ว่า

เราจะลองเปลี่ยนแปลง

แก้ไขตัวเองดู

 

อยากได้ดีมีสุขเหมือนคนอื่น

 

ความคิดนี้

ไม่มีในสมองคนประเภท

มืดมา แล้วมืดไป

 

คือเรียกว่า

เกิดมา ชั่วยังไง ทุกข์ยังไง

บั้นปลาย ก็ยังชั่วได้

เสมอต้นเสมอปลาย

จนวันตาย

 

ตายแล้วก็

กลับไปบ้านเก่า

ที่เคยจากมา

 

ที่เขาเรียกว่า

กลับบ้านเก่า

นั่นเอง จ้า หนูแมวน้อยจ๋า

 

เดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 17:32:36


ความคิดเห็นที่ 47 (1610820)

พวกที่ 3

สว่างมา แล้ว มืดไป

 

พวกนี้

เกิดมา พร้อมกับ

เศษกรรมในอดีต ส่วนกรรมดี

มาส่งผลก่อน

จึงทำให้ เกิดมา พบความสุข

ในเบื้องต้น มีความสมบูรณ์

ด้วยบุญกุศล ลาภยศ สรรเสริญ สุข

 

แล้วก็หลงระเริง

ในความสุขนั้น เบียดเบียน

ทำร้าย ใช้อำนาจ รังแกผู้อื่น

ภูมิใจที่ได้ทำชั่ว

คิดว่า เป็นความ เด่นดัง ดี

ด้วยเข้าใจว่า เราได้ดีขนาดนี้

เรามีความสุขพร้อมขนาดนี้

เรามีอำนาจวาสนาขนาดนี้

เรา

จะไม่มีวันเสื่อมยศ เสื่อมลาภ

พวกนี้ จึงสร้างบาป ด้วยความ

คึกคะนอง

 

แล้วสุดท้าย

ชีวิตก็มี นรก เป็นที่หมาย

บั้นปลายล้มเหลว

ต้องสูญเสีย ของรัก สิ่งที่พึงใจ

ต้องเจ็บป่วย ทรมาน หม่นไหม้

หาทางออกในชีวิตไม่ได้

ไม่คิดกลับตัวกลับใจ

ไม่รู้ตัว

 

ด้วยเศษกรรม

ที่มีน้ำหนักกรรมเก่า

มารวมกับกรรมชาตินี้

รวมตัวกัน ตามส่งผล บั้นปลายชีวิต

 

พวกเราคงเคยเห็น

พวกลูกเศรษฐี ที่สบายตอนเด็ก

พ่อ แม่ มีเงิน ไม่ต้องหาเอง

แต่ พอพ่อแม่สิ้นบุญ

ก็กลายเป็นยาจก

เป็นต้น

 

พวกที่ 4

สว่างมา แล้ว สว่างไป

 

พวกสุดท้ายนี่

เป็นพวกที่ มาจากที่สูง

ลงมาเกิด เพื่อต่อบารมี

 

เกิดมาก็มีแต่สุข

ทำแต่ความดี อยู่ในศีล

ชีวิตเบื้องต้น

ก็สุข สำเร็จ

 

และ

รักษาความดีได้

เสมอต้นเสมอปลาย

เรื่อยมา

 

ตั้งหน้าตั้งตา

ต่อยอดบุญ เพื่อหนุน

บุญเก่าที่ทำมาดีแล้วนั้น

ให้มั่นคง

ให้สูงส่งยิ่งๆขึ้นไป

 

คนพวกสุดท้ายนี้

ชีวิตจึงดีงาม

ตั้งแต่เบื้องต้นชีวิต

จนถึง

บั้นปลายชีวิต

 

และเมื่อดับชีวิตลง

ก็จะไปที่สูงกว่า

ที่เดิม

ที่เขาเคยมา

 

เพราะ

เขามาต่อบารมี

ตามสัญญาเดิมก่อนมา

 

พวกเราท่าน

ลองประเมินพฤติกรรม

ตัวเรา

 

และ

มองดูพฤติกรรม

คนทั้งหลายในโลกนี้

 

แล้วเอาหลัก

ทั้ง 4 ที่พระพุทธองค์

ทรงสอนไว้

เทียบเคียงดูก็จะรู้คำตอบ

 

หวังว่า

หนูแมว คงได้รับ

คำตอบแล้ว แต่ไม่ทราบ

ว่า

จะพึงพอใจหรือไม่

 

หรือว่า

จะถามอะไรอีก

ก็ว่ามาจ๊ะ หนูแมว

ตัวน้อยๆจ๋า

 

เดี๋ยวคำถามสุดท้าย

ค่อยมาตอบ

นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 18:07:33


ความคิดเห็นที่ 48 (1610892)

หวังว่า

หนูแมว คงได้รับ

คำตอบแล้ว แต่ไม่ทราบ

ว่า

จะพึงพอใจหรือไม่

-*-*-*-*-*-*-*-

อู้ย...อาจารย์ขา

แมวกราบเท้าขอบพระคุณค่ะ

ที่กรุณา ตอบปัญหาคาใจ

อ่านธรรมทานของ อ.อุบล แล้ว

ก็ต้องกลับมามอง  และ

สำรวจตัวเองอีกแล้ว...

ว่าจัดอยู่ในกลุ่มคนประเภทไหน

 

 

หรือว่า

จะถามอะไรอีก

ก็ว่ามาจ๊ะ หนูแมว

ตัวน้อยๆจ๋า

-*-*-*-*-*-

ค่ะ...หากไม่เป็นการรบกวน

คำถามนี้เป็นคำถามที่แมว

ต้องการคำตอบ และคิดว่า

ท่าน อื่น ๆ ก็ต้องการอยากทราบ

ว่า...ฉัพพรรณรังษี ทำไม

ถึงได้มีอยู่รอบ ๆ กาย อ.อุบลคะ

ไม่เฉพาะที่ออกจากฝ่ามือ

หรือเรียกได้ว่า...ฉัพพรรณรังษี

มีอยู่ทั่วบริเวณบ้านสวนพิรามิด

เลยก็ว่าได้...เคยสัมผัสมาบ้างแล้วและ

อิ อิ แอบฟัง คนที่ได้มโนยิทธิพูดให้ฟัง

หลาย ต่อหลายคน พูดตรงกันหมด

อาทิเช่น...คุณประทีป

พี่แอ๊ด เขยป้าเนียน

คุณอัญ + คุณเอก ลูกป้าเตือน

น้องมีมี่ 6 ขวบ ฯ

ทุกคนพูตรงกันหมด

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

แต่ที่แน่ ๆ แมวทราบแล้วว่า

อ.อุบล คือผู้ที่

สว่างมา แล้ว สว่างไป

สาธุ ๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-15 23:40:52


ความคิดเห็นที่ 49 (1610903)

ขอยกตัวอย่าง

ในกรณีขอคุณภาคิน

ที่

มืดมา แล้ว สว่างไป

ยังได้รับความสุข

ที่น่ายินดี ในเวลา

ที่รวดเร็ว

และปัจจุบัน

ก็ศรัทธา อ.อุบล

เกินร้อย

ขอก้มกราบเท้า

อ.อุบล อย่างสนิทใจ

กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล

ก็ไม่ได้ แตะ

หรือ ??? ฯลฯ 

เรียนถามด้วยความเคารพค่ะ 

Good Night & Good Dream Naka..

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 00:52:09


ความคิดเห็นที่ 50 (1610907)

ขอกราบพระบาทพระพุทธองค์

ที่เมตตาต่อชาวโลก

เสียสละตนฝึกฝนปฏิบัติ

มาอย่างลำบากยากแค้น

จนค้นพบสัจธรรมอันล้ำลึกให้พวกเรา

ได้นำมาพิจารณาและปฏิบัติตามจนทุกวันนี้

 

 

กราบอนุโมทนากับธรรมทาน

จากท่านอ.อุบลอย่างที่สุดค่ะ

เพราะฟังเรื่องนี้ทีไร

ก็ได้มาสำรวจตัวเองทุกครั้งไป

แล้วก็ยังบอกตัวเองเสมอว่า

ไม่สำคัญว่าชนิดาจะมืดหรือสว่างมา

แต่อย่างไรขากลับ..

ขอไป แบบสว่าง ที่กลางใจ

ก็แล้วกันนะคะ เพราะไหนๆ

ก็เกิดมาเป็น"คน"

ที่มีลำตัวเหยียดตรงแล้ว

จะให้ไปแบบมืดๆ ก็คงจะ"ขาดทุน"เต็มที

 

 

ณ บัดนี้ก็เป็นที่แน่ใจตัวเองแล้วว่า

ตนได้พบครู ผู้นำแสงสว่างอันเจิดจ้า

มาส่องสว่า่งชี้ทาง

ให้ชนิดาเดินถึงที่หมาย ได้แน่นอน

 

และผู้นำท่านนั้น ก็คือ

ท่านอ.อุึบล ศุภาเดชาภรณ์

แห่งบ้านสวนพีระมิด นั่นเอง

..........................................

และชนิดามีข่าวดีที่จะแจ้งต่อ

คุณ คิตตี้ กิตติยา ศิวรักษ์ ค่ะ

คือชนิดาก็ไม่แน่ใจหรอกนะคะว่า

คุณมืด หรือ สว่างมา

แต่ถึงตอนนี้ ชนิดามั่นใจว่า

อาการที่คุณเป็นอยู่นี้

มีโอกาสที่จะเยียวยาให้ดีขึ้นได้ค่ะ 

 

ถ้าไม่เช่นนั้น ท่านอาจารย์ตัดบทไปนานแล้ว

แต่นี่อาจารย์เพียรเมตตา

มาป้อนธรรมะให้คุณแทบทุกวัน

 

ฉะนั้น แสดงว่า ในจิตลึกๆก้นบึงของคุณนั้น

น่าจะมีจุดที่"สว่าง" อยู่บ้าง

แต่มันน่าเสียดาย ที่ถูก "อวิชชา"

หรือ ความไม่รู้

และ ความยึดมั่นถือมั่น อย่าง"อุปทาน"

คุมไว้แนบแน่นสนิท

หลายต่อหลายชั้นมากๆ 

 

ถ้าคุณใช้"สติ" เพียงน้อยนิด

ค่อยๆอ่านทุกๆข้อความ

ที่อาจารย์เมตตาเขียน

แล้วคุณจะพบกับ"คำตอบ"

ที่่คุณค้นหามานาน

 

และดูได้จากตัวอย่าง

เรื่องเล่าเกี่ยวกับคุณ เพ็ญประภา นี้

คงจะทำให้คุณคิด

"เปลี่ยนแปลงและแก้ไข"

ตัวเองแบบทันทีบ้าง

แล้วคุณก็จะพบกับ"ความสุข"ทันที

เช่นกันค่ะ 

"""""""""""""""

จากคห.ที่19

 

 

แล้วในที่สุด

เธอก็ทำได้ด้วยเวลา

อันสั้นมาก คือ ตั้งใจวันนั้น

ทำวันนั้น

 

ปาฎิหาริย์เกิดกับเธอทันที

 

หน้าเธอ

ที่เป็นทั้งฝ้า ทั้งกระ

หาย โดยไม่ได้ใช้ พาเมล่า

ผิวสวยเด้งเองทันที

 

ลูกที่เธอท้อแท้

เพราะลูกไม่เชื่อฟังแม่

ไม่เคยพูดดีกับแม่

คลานเข้ามา สาธุแหวนสฟิงซ์

ที่เธอสวมใส่

เข้ามาพูดด้วยไพเราะ

คุณแม่คร๊าบบบ

ชื่นใจ จนน้ำตาร่วง

 

เธอพึ่งคิดได้ว่า

การทำความดี มันมีผล

ขนาดนี้เชียวหรือนี่

 

ทำไมเราโง่ตั้งนาน

เราคิดว่า เราแน่มาก

ที่อาละวาด ด่า ตบ ตี ถีบ

ลูก ผัว และ ใครๆได้

 

แต่ใจ

มีแต่ทุกข์ทรมาน

หาทางออก หาความสุข

ไม่ได้เลย

 

แค่สายตา

คู่ดุ ของ อ.อุบล

มองเรา ด้วย ความตำหนิ

ที่เราไม่มีมารยาท

แล้ว อ.ก็พูดกับเราตรงๆ

 

มันมีอำนาจยิ่งใหญ่

มีพลังผลัก ใจ เธอ ให้ฮึกเหิม

ที่จะเอาชนะ อ.อุบล ให้ได้

ด้วยการทำความดี

และทำทันที

 

แล้ววันนี้

เธอก็นำชัยชนะ

มาฝาก อ.อุบล อย่างสง่างาม

เธอทำได้แล้ว

................................

 

แล้วก็อนุโมทนากับคำถาม

ของคุณแมวด้วยนะค๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 05:28:27


ความคิดเห็นที่ 51 (1610935)

คำถามคุณแมว

ค ห. 49 และ ข้อสังสัย

คุณชนิดา ค ห. 50

----------

อันนี้

ขอให้ผู้ได้มโนมยิทธิ

มาตอบดีกว่านะ

 

อย่างเช่น

คุณเอก คุณอัญ

ลูกป้าเตือน จ.เชียงราย

หรือใคร

ที่คิดว่า ตัวเอง ได้มโนยิทธิ

เป็นลูกหลานหลวงพ่อฤาษีตัวจริง

เป็นสาวกพระพุทธองค์จริง

ก็ต้องรู้เห็นจริง

และ

ตอบได้จริง

 

ถ้าไม่กล้าจริง

แปลว่า ไม่แน่ใจ ในธรรมะ

ในคำสอน

หลักปฎิบัติของพระพุทธองค์

ว่าทำให้มีผลจริง

 

ดังนั้น

เมื่อหลวงพ่อกล้าสอนมโน

พระพุทธองค์รับรองผล

แต่

คนที่ได้ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดง

เชิญไปอยู่กับ

พระเทวทัตเถิด อย่ามาเป็น

สาวกพระพุทธเจ้าเลย

 

เพราะ

พระพุทธเจ้า

ทรงบันลือสีหนาท

ในทุกกาล สถานที่

ทั้ง

ในหมู่พุทธบริษัท เทวดา มนุษย์

 

ผู้ได้มโนยิทธิทั้งหลาย

บางคนอาย บางคนไม่กล้าพูด

ในโอกาสที่ควรพูด

 

ถือว่า

ห่างไกล พระพุทธองค์

ผู้ทรง

บันลือสีหนาท

 

ดังนั้น

พ่อใหญ่ธนา พี่มหา

ผู้มีภูมิธรรมสูงส่ง

 

หรือ

ดร.จุ๋ม + ดร.จิ๋ม

นักวิทยาศาสตร์ทายาท

พระพุทธองค์

ที่คงความศัทธามั่นคง

 

คุณหมอวัฒนา

แพทย์ศาสตร์จุฬา

ผู้มีประสบการเป็นแพทย์

ในอเมริกา และ ไทย

ผู้เลื่อมใสพระพุทธองค์

 

หรือ

ใครต่อใคร

ที่มีภูมิธรรม เป็นสาวก

ที่มอบกายถวายชีวิตให้

พระพุทธองค์

 

ลองมาตอบคำถาม

คุณแมว

กันหน่อยนะคะ

 

งานนี้

ดูเหมือนพระพุทธองค์

ท่านคงมีปริศนา

อะไรบางอย่างแฝงอยู่

มากมาย

 

ต้องการ

ทราบวาระจิตลูกหลาน

ด้าน กรรมฐาน

 

ว่า

ที่ท่านทั้งหลาย

มาหา อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด

กันนั้น มาทำไม ได้อะไร

จาก อ.อุบล กันบ้าง

แล้ว

เวลานี้ ถึงเวลา

หรือยัง

 

ที่คนที่พากเพียร

มาหา อ.อุบล กันนั้น

จะมีบทบาทสำคัญในวันข้างหน้า

 

ซึ่ง

บาทบาทสำคัญนั้น

ต้องเริ่มต้น

ด้วยการตอบคำถาม

คุณแมว

คำถามนี้ เป็นคำถาม สำคัญ

 

ใครบ้าง

ที่จะร่วมเดินทาง

สร้างประเทศไทยให้เป็น

เสาหลักของโลก

ก็ต้องเข้ามาตอบกระทู้นี้

ทุกคน

 

มิฉะนั้น

ถือว่า ท่าน สละสิทธิ์

ที่จะอยู่ใน

โลกยุคใหม่

ยุคพระศริอาริยเมตไตร

อีกต่อไป

 

และ

ท่านที่ปรารถนา

จะร่วมกอบกู้ชาติ ศาสนา

พระมหากษัตริย์

กับ อ.อุบล

 

ก็ต้องผ่าน ด่าน คำถาม

คุณแมว

นี้ก่อน จึงจะก้าวเดิน

ไปด้วยกันได้

 

มิฉะนั้น

ท้าวเวสสุวรรณ

บอกว่า

 

เมื่อเจ้า ไม่รู้ว่า

คนที่เจ้ามาหา และ เดินตามนี้

เป็นใคร แล้วเจ้า มาทำไม

มาหาใคร จะไปไหน

กับเขา

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 10:25:06


ความคิดเห็นที่ 52 (1610954)

เมื่อครูนี้

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

มาบอกว่า

ที่เอ็งไปเขียน

ให้คนมาแสดงความเห็น

แบบนี้นะ

 

มันจะมีพวกที่

สันหลังยาว

อ้างว่า มันไม่ได้มโนมยิทธิ

มันเลยไม่ขอแสดงความเห็น

 

คนพวกนี้

ข้าดูพวกมันมานานแล้ว

ทำไมมันไม่ได้กะเค้าซักที

เพราะมันขี้ขลาด

 

ข้าเห็นเวลาที่เอ็ง

ถามว่า

ใครจะร่วมกอบกู้ชาติ

ศาสน์ กษัตริย์

มันยกมือกันเป็นแถว

มาลงชื่อกันไปแถว

 

แต่

พอเอ็งชักธงรบ

ขึ้นเสา

 

ข้าเป็นมีแต่นังแมว

กับไอ้ธนา

กับนังชนิดา นังหญิง

ที่ออกรบ เคียงบ่าเคียงไหล่

กับเอ็ง

 

ส่วนนอกนั้น

ข้าเห็นมันหดหัวอยู่ใน

กระดอง

คอยจ้องแต่จะเกาะบุญ

คอยรับแต่สุข

 

พวกนี้นะ

มันไม่ใช่มิตรแท้หรอก

 

มันเป็นแค่

เพื่อนกิน ซึ่งหาได้ง่าย

 

มันไม่ใช่เพื่อนตาย

ซึ่งหาได้ยาก

 

มันเป็นแค่

เพื่อน ร่วมสุข

 

มันไม่เคยพร้อม

ที่จะ ร่วมทุกข์ กับเอ็ง

 

กระทู้ไหนสุข

สนุก เฮ ฮา อนุโมทนา

รับบุญใหญ่นะ

ข้าเห็น เสนอหน้า กันสลอน

 

แต่

กระทู้ไหน

ที่ต้องใช้กำลังใจ

ออกศึก

 

ข้าไม่เคยเห็น

พวกนี้ เสนอหน้า เข้าเขียนเลย

มีแต่เข้ามาอ่าน

 

ข้าดูพวกมันมานานแล้ว

 

คราวนี้

นังแมว มันดัน ขี้สงสัย

ไม่รู้อะไร ไปดลจิตดลใจ

ให้มันสงสัย เข้าท่าดี

 

คราวนี้แหละ

ข้า

จะเลือกเองว่า

ใครบ้าง ที่มันจะสอบผ่าน

ได้ไปนิพพานชาตินี้

ก็จะเอาคำถาม

นังแมวนี่แหละ

 

ให้พวกมันตอบ

 

แล้วถ้าใครไม่ตอบ

อย่าฝันว่า จะไปนิพพานได้

เพราะ

มันยังไม่รู้จัก

คนที่จะพาพวกมันไป

แล้วมันจะไปได้ยังไง

 

มันเคยรู้กันบ้างไหม

ว่ามันกำลังจะไปกับใคร

 

อย่ามาบอกข้า

ว่า

ไม่รู้ เลย ไม่ขอตอบ

 

ก็ที่เสนอหน้ามาบ้านสวน

อยากฝึกมโน ไม่ใช่รึ

อ.อุบล

ฝึกมโนให้ทุกวี่ทุกวัน

ดันไม่เคยรู้ตัว

 

ฝึกทั้งในเวปไซด์

ทั้งในบ้านสวน

ทั้งเวลาอยู่บ้านตัวเอง

 

มโนมยิทธิ

คือ

ความรู้สึกของใจ

รู้ไว้ซะด้วย

 

แล้วถ้ายังบอกอีก

ว่า

ผม หนู ไม่มีความรู้สึกของใจ

ก็จงไปตายซะ

 

เพราะนั่น

มันไม่ใช่คน

มันต้องเป็น หัวตอ เท่านั้น

มันจึงไม่มีความรู้สึก

 

ถ้าใคร

ไม่ใช่หัวตอ

มันต้องตอบคำถาม

นังแมวได้

 

ในเมื่อความรู้สึกของใจ

มันไม่จำเป็นต้อง

รู้สึกเหมือนกัน

 

มันจะรู้สึกยังไงก็ได้

ตาม ระดับ ความ

สูง- ต่ำ

ของใจเท่านั้น

 

ดังนั้น

ข้าจะดูซิว่า

ใครบ้างที่มันจะมาตอบ

ตามความรู้สึกของใจบ้าง

 

ใครที่ไม่มาตอบ

ข้าจะถือว่า ไม่ใช่ลูกหลานข้า

ไม่ใช่สาวกของพระพุทธเจ้า

 

ถ้าขี้ขลาดขนาดนั้น

อย่าได้ฝันถึงนิพพานเลย

 

แค่สวรรค์

มันยังหรูเกินไปเลย

สำหรับคนขี้ขลาด

 

แล้วก็ควรพิจารณาตัวเอง

ได้แล้วว่า

จะไปบ้านสวน หา...อะไร

 

ในเมื่อ

ผู้นำเจ้า บอกอะไร

ไม่เคยขานรับ

 

แต่ปาก

บอกรัก บอกศรัทธา

งานนี้ ข้า จึงต้อง

มาตัดสินเอง

 

ใครจะเข้ามาตอบก่อน

ข้าจะคอยดู

 

เห็นมันเข้ามาอ่านกัน

แล้วก็หดหัว

รอดูคนอื่นเข้ามาตอบ

 

พวกนี้

เอาไว้ไปนิพพาน

พร้อม ดร.อาจอง ก็แล้วกัน

 

ข้า

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 13:16:13


ความคิดเห็นที่ 53 (1610965)

กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล     

ก็ไม่ได้ แตะ

หรือ ??? ฯลฯ 

************

หนูเห็น(ไม่ใช่ด้วยตาเนื้อ)สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิแก้วระยิบระยับ ท่านทรงประทับยืนอยู่เบื้องหลังเหนือท่านอาจารย์ค่ะ ทรงทอดพระเนตรลงมาด้วยความเมตตา แสงจากพระวรกายและรอบๆองค์ท่านสว่างไสวไม่มีแสงใดจะสว่างและทำให้เบาสบายแบบนี้ค่ะ และคุณลุงภาคินกราบท่านอาจารย์ด้วยจิตบริสุทธิ์ ด้วยความรักความศรัทธาเต็มเปี่ยม ซึ่งเสมือนกราบสมเด็จท่านด้วยความบริสุทธิ์ใจ สมเด็จท่านจึงทรงประทานพรให้หายทุกโรคค่ะ กราบขอขมาสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อและท่านอาจารย์ค่ะหากหนูมีข้อผิดพลาดประการใดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ (krongkwanw-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 14:23:13


ความคิดเห็นที่ 54 (1610966)

ข้าไม่เคยเห็น

 

พวกนี้ เสนอหน้า เข้าเขียนเลย

มีแต่เข้ามาอ่าน

ข้าดูพวกมันมานานแล้ว

***********

 

 ลูกกราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ

กราบอาจารย์แม่ค่ะ

ด้วยสติปัญญาน้อยนิด

เลยต้องหาข้อมูลมาเพิ่มเติมค่ะ

ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ต้องนำมาตอบหรือไม่เจ้าคะ

----------

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เมื่อทรงพิจารณาคัมภีร์มหาปัฏฐานแล้ว

เป็นเหตุให้เกิดฉัพพรรณรังสี รัศมีซ่านออกจากพระวรกายด้วยความบริสุทธิ์

การที่รัศมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่ได้ตลอดเวลาก็ด้วยอำนาจแห่งพุทธวิสัย คือ พระเดช ๕ ประการ ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ

๑. ศีลเดช ทรงมีกาย วาจา เรียบร้อย มีศีลวินัยดียอดเยี่ยม

๒. คุณเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างยอดเยี่ยมแก่สัตว์โลกทั้งปวง

๓. ปัญญาเดช ทรงมีพระปัญญาท่วมท้นด้วยพระสัพพัญญุตญาณ

๔. บุญเดช ทรงมีบุญสั่งสมตั้งแต่เป็นพระโพธิสัตว์

๕. ธรรมเดช ทรงรู้ธรรมตามความเป็นจริง แล้วนำมาสั่งสอนให้รู้ธรรมตามความเป็นจริง

ด้วยอำนาจพระเดช ๕ ประการนี้ จึงเป็นเหตุให้เกิดฉัพพรรณรังสีด้วยประการฉะนี้แล

 

ปิยา ธรรมารักษ์

-----------------

จาก ธรรมะเพื่อชีวิต

เล่มที่ ๓๕ ฉบับวันมาฆบูชา ๒๕๔๖

มูลนิธิพุทธศาสนศึกษา วัดบุรณศิริมาตยาราม

http://www.thaimisc.com/freewebboard...ic=1369&page=1

-------------------------

ดังนั้นเมื่อลูกได้พบอาจารย์แม่

สว่างมา แล้ว สว่างไป

ซึ่งอาจารย์แม่มี พระเดชทั้ง ๕ ประการ

ที่เป็นผู้ให้แสงสว่างกับชีวิตของลูก

มืดมา แล้ว สว่างไป

ลูกจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ ส่วางไป ให้ได้ค่ะ

สำหรับผู้ที่หายในฉับพลันทันที เช่นคุณภาคิน นั้น

หากดูจากหน้าตาผิวพรรณในตอนแรกๆ นั้นก็บ่งบอกว่า

ได้สร้างสมบุญบารบีมาพอสมควรแล้ว

สำหรับตัวลูกเอง หรือคนอื่นๆ ที่ยังไม่หลุดจากความทุกข์ในทันทีนั้น

อาจจะสร้างเหตุไว้มากมาย อีกทั้งบุญกุศลก็ไม่เคยสร้าง

จึงต้องใช้เวลา ความเพียรในการสร้างสมบุญกุศล

กราบ กราบ กราบ

------------

                         เพิ่มเติมค่ะ 18-5-55 

 

แล้วเพราะอะไรคะ...
แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?
**********
ลูกขออนุญาตตอบด้วยความรู้สึกของจิตใจ

 

การที่แสงฉัพพรรณรังสี อยู่กับอาจารย์แม่ได้นั้น

แสดงให้เห็นว่า อาจารย์แม่ได้บำเบ็ญบารมีมาอย่างเข้มข้น

( บารมีเต็ม) ซึ่งลูกยังไม่เคยได้รับรู้จากที่ไหนเลยว่า

จะมีใครที่สามารถรับรู้ และสื่อสารกับพระพุทธองค์ได้

ซึ่งการที่ใครสักคน จะทำได้อย่างอาจารย์แม่ นั้น

ก็ต้องสะสมบุญ บารมีมาอย่างเข้มข้นเช่นกัน

และที่สำคัญคือ ต้องบำเพ็ญอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอและเพิ่มขึ้น

อย่างเช่นทุกวันนี้ อาจารย์แม่ได้นำพาพวกเรา

ให้สร้างบุญอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และให้หยุดการสร้างกรรมเพิ่ม

ผู้ที่มีบุญบารมีอย่างอาจารย์แม่เท่านั้น ที่จะสามารถ

รับการสื่อสารจากพระพระพุทธองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ได้

-----------

 

กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล ก็ไม่ได้ แตะ หรือ ??? ฯลฯ 

 

 

จากข้อความด้านบน ที่ลูกเขียนไว้

 

สำหรับผู้ที่หายในฉับพลันทันที เช่นคุณภาคิน นั้น

หากดูจากหน้าตาผิวพรรณในตอนแรกๆ นั้นก็บ่งบอกว่า

ได้สร้างสมบุญบารมีมาพอสมควรแล้ว

 

อันนี้ลูกเขียนจากการดูเปลือกนอก ประกอบกับคำบอกเล่า

ของคุณภาคิณ ว่าก่อนหน้าที่จะมาบ้านสวนฯ

ก็ไปสร้างบุญไว้ตั้งมากมาย แต่ไม่หายจากโรคที่เป็นอยู่

แต่หลังจากมาทำบุญที่บ้านสวนฯ และใช้แรงกายสร้างบุญใหญ่

แบบเต็มกำลัง(ตั้งใจเต็มที่) ความศรัทธาเกินร้อย และหยุดยั้งกรรมใหม่

จึงทำให้  

 

กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 14:39:12


ความคิดเห็นที่ 55 (1610999)

คราวนี้

นังแมว มันดัน ขี้สงสัย

ไม่รู้อะไร ไปดลจิตดลใจ

ให้มันสงสัย เข้าท่าดี

-*-*-*-*-*-*-*-

 

กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล     

 

ก็ไม่ได้ แตะ

หรือ ??? ฯลฯ 

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

  ก็ประมาณว่า

ในความคิดของแมวนั้น

เรื่องหักดิบของ คุณภาคิน

คือส่วนประกอบย่อยค่ะ

แต่การที่แมวเห็น คุณภาคิน

ขอกราบเท้า อ.อุบล อย่าง

ศรัทธาบริสุทธิ์..มากกว่า

ที่ทำให้เกิดปาฏิหารย์เกิดขึ้น

หายเป็นปกติ ทุกโรค

แม้กระทั้งโรคไต / เบาหวาน

ถ้าจะให้ใช้ความรู้สึกของใจ

ก็คือ

พระพุทธองค์ อยู่กับ อ.อุบล

และ

พร

ที่ออกจากปาก อ.อุบล

หาย ๆ  ๆ  นะลูก

ก็คือ พร จากพระพุทธองค์

นั่นเอง...

และ

ผู้ที่พระพุทธองค์สื่อผ่าน

ก็คงจะต้องมี บุญบารมีอย่างมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 19:23:47


ความคิดเห็นที่ 56 (1611003)

แสงฉัพพรรณรังสี อยู่กับท่าน อ.อุบลรอบๆตัวท่าน

เจี๊ยบขอเดาจากภูมิปัญญาน้อยนิด เพราะไม่ได้มโนมยิทธิ มีแต่ความมั่นใจเท่านั้นค่ะ

ท่าน อ.อุบลเป็นลูกพระพุทธองค์ และเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ

ท่าน อ.อุบลปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีศีลบริสุทธิ์ จึงเป็นผู้มีบุญบารมีมากมาย และเป็นผู้ที่มาช่วยกอบกู้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ดังนั้น พระพุทธองค์จึงเมตตาเสด็จประทับกับผู้้ที่มีศีลบริสุทธิ์ และมิได้มาเพี่ยงแค่พระองค์เดียว แต่มาทั่วจักรวาล เพื่อมาช่วยท่าน อ.อุบล ดังนั้นแสงฉัพพรรณรังสีที่เปล่งออกมาจะขนาดไหน

การที่คุณภาคิณ กราบไหว้ท่าน อ.อุบล ด้วยจิตบริสุทธิ์ จึงเหมือนกับกราบไหว้องค์สมเด็จพระสััมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และสิ่งศักดิสิทธื์ทุกๆพระองค์ ปาฏิหารย์จึงเกิดขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 19:56:47


ความคิดเห็นที่ 57 (1611007)

การอยากทราบ

ว่า...ฉัพพรรณรังษี ทำไม

ถึงได้มีอยู่รอบ ๆ กาย อ.อุบลคะ

ไม่เฉพาะที่ออกจากฝ่ามือ

หรือเรียกได้ว่า...ฉัพพรรณรังษี

มีอยู่ทั่วบริเวณบ้านสวนพิรามิด

เลยก็ว่าได้...เคยสัมผัสมาบ้างแล้วและ

อิ อิ แอบฟัง คนที่ได้มโนยิทธิพูดให้ฟัง

หลาย ต่อหลายคน พูดตรงกันหมด

อาทิเช่น...คุณประทีป

พี่แอ๊ด เขยป้าเนียน

คุณอัญ + คุณเอก ลูกป้าเตือน

น้องมีมี่ 6 ขวบ ฯ

ทุกคนพูตรงกันหมด

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

--------------

นี่คือคำถาม

ของคุณแมว ที่หลวงพ่อ

ให้พวกเราต้องตอบ

โดย

ใช้ความรู้สึกของใจ

ใช้เหตุ ใช้ผล

ยกตัวอย่างอ้างอิง

(สำหรับคนไม่ได้มโน)

 

ส่วนคนได้มโน

ตอบตามที่เห็นจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 20:13:03


ความคิดเห็นที่ 58 (1611008)

 

ขอก้มกราบเท้า

อ.อุบล อย่างสนิทใจ

กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล

ก็ไม่ได้ แตะ

หรือ ??? ฯลฯ 

 

                                                              ********************************************************

คนที่กราบท่าน อ.อุบล ด้วยความเชื่อมั่น ความศรัทธาอย่างแท้จริง ขณะจิตนั้นของเค้าได้เปิดจิตด้วยความบริสุทธิ์  ซึ่งอารมณ์ขณะนั้นคือ ความรัก อันบริสุทธิ์ต่อท่านอ.อุบล   จึงทำให้สามารถรับฉัพพรรณรังสี  จากพระพุทธองค์ ซึ่งท่านได้ประทับอยู่กับท่าน อ.อุบลตลอดเวลา  ท่านต้องการช่วยลูกหลานของท่านให้พ้นทุกข์   ขอเพียงให้ลูกหลานเปิดจิต มีอารมณ์เบิกบาน  ไม่มีความกังวลใดๆ ซึ่งเป็นอารมณ์ที่พวกเราจะได้พบเมื่อเข้ามาที่บ้านสวนพีระมิด  เมื่อเราได้รับฉัพพรรณรังสี   ความทุกข์กาย ทุกข์ใจก็จะหายไป ในเมื่อความทุกข์ไม่มี  ก็จะเหลือแต่ความสุข ความเบิกบาน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 20:15:52


ความคิดเห็นที่ 59 (1611010)

คุณอ้อย

ลองตอบ

คุณแมว ใหม่ อีกทีนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 20:20:52


ความคิดเห็นที่ 60 (1611011)

 

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

***************************

แสงฉัพพรรณรังสี อยู่กับท่านอาจารย์อุบล ตลอดเวลา 

เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่กับท่านอาจารย์อุบลตลอดเวลา

เพราะจิตท่านอาจารย์อยู่กับพระพุทธองค์ตลอด อาจารย์ทรงอารมณ์นิพพานตลอด 

นี่คือความรู้สึกของอ้อยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 20:24:27


ความคิดเห็นที่ 61 (1611018)

 แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

*******************

อาจารย์นำพาทำ ทาน ศีล ภาวนา

แบบเข้มข้น

เป็น บุญบารมีอันบริสุทธิ์

อารมณ์เกาะพระพุทธเจ้าทุกขณะจิต

 คือ นิพพาน

พระพุทธเจ้า

จึงอยู่กับอาจารย์อุบล

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ ( ตาโต๊ะ ) (sing_toa-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 21:20:45


ความคิดเห็นที่ 62 (1611020)

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

********

    ทุกครั้งที่เราใช้  "รหัส อ. อุบลช่วยด้วย"  ท่านอาจารย์บอก

ว่า เทวดาประจำตัวท่านอาจารย์ทุกพระองค์  จะไปช่วยเรา 

ดังนั้นเทวดาประจำตัวท่านอาจารย์อุบล  ก็ตือ

  สมเด็จองค์ปฐม  พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ 

พระปัจเจกพระพุทธเจ้า   พระอรหันต์ 

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ  หลวงพ่อปาน 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  องค์เทพสฟิ้งค์  และสิ่งศักดิ์ทุกพระองค์

       และท่านอาจารย์อุบลเคยบอกว่า  แต่ก่อนท่านบำบัดให้

ทีละคน  และต้องแตะตัวทุกคน  และคนมาหาแต่ละอาทิตย์

เกือบร้อนคน  ท่านเหนื่อยมาก 

เพราะยังต้องทำงานอื่นอีกหลายอย่าง

สมเด็จองค์ปฐมพระองค์ท่าน จึงช่วยให้ท่านอาจารย์

ได้ช่วยคนให้ได้มากขึ้น  เพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว

โดยเพียงท่านอาจารย์อุบลยกมือ  พระองค์ท่านก็จะแผ่

ฉัพพรรณรังสี ผ่านท่านอาจารย์อุบล  ให้ไปถึงทุกคนได้

     ท่านอาจารย์บอกว่า ฉัพพรรณรังสี ก็เหมือนแสงอาทิตย์

ที่ฉายแสงอยู่ตลอดเวลาและมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง มันขึ้นอยู่ที่เรา

ว่าเราจะทำอย่างไร  เราถึงจะจูนคลื่นตัวเรา  ให้รับฉัพพรรณ

รังสีได้  ดังนั้นถ้าท่านอาจารย์อุบลสามารถรับฉัพพรรณรังสี

จากสมเด็จองค์ปฐม  ผ่านมาให้ผู้อื่นได้ ก็แสดงว่าจิตของท่าน

อาจารย์อุบล อยู่ใกล้ชิดพระองค์ตลอดเวลา  จึงสามารถส่ง

ฉัพพรรณรังษี ให้ผู้อื่นได้ตลอดเวลา

      นี่คือความรู้สึกของหนูเจ้าค่ะหลวงพ่อ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 21:22:50


ความคิดเห็นที่ 63 (1611026)

                                                                              กราบแล้วมีความสุข

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล     

 

ก็ไม่ได้ แตะ

หรือ ??? ฯลฯ

*****

     ขอตอบตามความรู้สึกนะครับ ว่าทุกๆครั้งที่ได้พบหน้าท่านอาจารย์อุบลก็มีความสุขแล้ว อยู่ๆก็ยิ้มออกมาเองทุกครั้ง คิดว่าคงเป็นพลังงานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สื่อผ่านมาทาง ท่านอาจารย์แน่นอน ซึ่งการที่ ท่านจะสื่อผ่านใคร ผู้นั้นก็ต้องเป็นผู้ที่พระองค์ทรงเลือกแล้ว 

     ส่วนการกราบด้วยความศรัทธาของคุณภาคิณก็เหมือนการเปิดจิตรับพลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มาช่วยขจัดสิ่งที่ไม่ดีออกไป ถ้าจิตมืดๆเหมือนพระเทวทัต ที่มีแต่จิตริษยา เห็นคนอื่นดีกว่าตนเองไม่ได้แม้พระพุทธองค์ เมตตายังไง ส่งฉัพพรรณรังษียังไง ก็ไม่สามารถ รับได้ แถมยังคิดประทุษร้ายอีก ก็ยิ่งดิ่งลงลึกไปอีก อันนี้เราก็ต้องสำรวจตนเอง

 

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

*****

เพราะพระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลายๆพระองค์อยู่รอบๆท่านอาจารย์อุบล ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อผ่านพลังงาน ซึ่งการที่จะเป็นสื่อได้นั้นก็ต้องเป็นผู้ที่จิตสะอาดจริงๆ และเป็นผู้ที่มีหน้าที่เป็นผู้นำในยุคใหม่

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 22:14:16


ความคิดเห็นที่ 64 (1611029)

 ลูกกราบขอขมา สมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อาจารย์อุบล

ที่อาสามาร่วมปกป้อง 3 สถาบัน แล้วไม่ทำหน้าที่

ผู้ที่เข้ามาก่อกวนในกระทู้ต่างๆ และผิดกฏเข้าเวบ

ล่าสุด   ปฏิหารย์ของชาวไทย     ค..12,15,35

ลูกจะปรับปรุงแก้ไขใหม่ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ ( ตาโต๊ะ ) (sing_toa-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 23:03:38


ความคิดเห็นที่ 65 (1611033)

กราบแล้วหายทุกข์โรค

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรคะ

ทั้ง ๆ ที่ อ.อุบล

 

ก็ไม่ได้ แตะ

หรือ ??? ฯลฯ

ผมขอตอบตามความคิดนะครับ

การที่บุคคลใดๆมาบ้านสวนฯแล้วจู่ๆจะหายเลยโดยไม่มีบุญไรเลยนั้นคงเป็นการยาก เพราะแม้เบื้องบนจะทรงเมตตาอย่างไร แต่กฏแห่งกรรมนั้นคือสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ

บุญที่ทุกคนมาทำในบ้านสวนฯและมีอานิสงค์ฉับพลันทันทีเกิดจาก3ส่วนคือ ศรัทธาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์และเนื้อนาบุญบริสุทธิ์

แต่ทุกคนที่มานั้นไม่สามารถที่จะรวมบุญต่างๆที่ตนเองทำแล้วนั้นได้ ท่านอาจารย์อุบลซึ่งเป็นผู้มีบารมีเต็มและได้กรรมฐานจึงเป็นสื่อกลางรวมบุญทุกชาติของท่านและให้เจ้ากรรมนายเวรได้ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของปาฏิหาริย์แบบฉับพลัน

ในบ้านสวนฯนั้นมีพลังพุทธบารมีอยู่ทุกอณู รวมทั้งพลังจากจักรวาลทั้งหมดรวมถึงปราณและมโนธาตุอย่างหนาแน่น

การที่บุคคลใดกราบท่านอาจารย์อุบลซึ่งเป็นผู้เคารพและมีพระพุทธองค์อยู่ในจิตใจตลอดเวลา ดังนั้นไม่ว่าแสงฉัพพรรณรังสีหรือพลังศักดิ์สิทธิ์ต่างๆจึงพร้อมเสมอที่จะสงเคราะห์คน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเกิดจากบุญฤทธิ์ ซึ่งท่านอาจารย์บำเพ็ญมายาวนานด้วย เพราะพลังที่บริสุทธิ์มหาศาลนี้ บารมีและจิตบุคคลนั้นต้องบริสุทธิ์ดีพอที่จะรับพลังจากพระพุทธองค์ให้มาสถิตในกาย วาจา ใจได้ และเหตุการณ์ที่กราบแล้วหายนั้นเป็นเพราะพุทธบารมี เพราะหากแม้ท่านท้าวเวสสุวรรณจะทรงเมตตา แต่หากพระพุทธองค์ทรงไม่อนุญาติหรือเห็นด้วย เหตุการณ์ที่กราบแล้วหายทันทีนั้นจะเกิดไม่ได้เลย

จิตที่เปิดของผู้กราบย่อมเชื่อมจิตถึงท่านอาจารย์อุบลทันที และจะดึงดูดพลังงานดีๆ เช่น แสงฉัพพรรณรังสี ปราณ มโนธาตุและพลังศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่มีอยู่เต็มบ้านสวนฯ หรือผ่านท่านอาจารย์อุบลสู่คนนั้นได้ทันที และพลังเหล่านี้ก็เปรียบเหมือนการผ่าตัดทำสเต็มเซลล์ในฉับพลันทันที จึงหายได้ในทันที แม้ท่านไม่ได้จับหรือแตะใดๆเลยก็ตามแต่ แล้วเจ้ากรรมนายเวรที่ไหนล่ะไม่อยากได้รับพลังบุญอันยิ่งใหญ่นี้ มีแต่จะให้อภัยและเลิกแล้วต่อกัน

ดังนั้นการที่จิตเคารพท่านอาจารย์อุบลอย่างจริงใจก็คือกุญแจไขเข้าไปรับพลังแสงฉัพพรรณรังสีและพลังทั่วจักรวาลที่อยู่ในบ้านสวนนั่นเอง ไม่ใช่แค่การกราบเฉยๆแต่จิตไม่เคารพแล้วจะหายได้

 

 

 

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

แสงฉัพพรรณรังสี มิได้อยู่กับท่านอาจารย์อุบลคนเดียว เพราะพระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

และท่านอาจารย์ก็สอนเสมอว่า ทุกคนสามารถทำบ้านและทำตนเองให้เหมือนอาจารย์ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำหรือไม่

ท่านอาจารย์อุบลนั้นเป็นผู้มีบารมีเต็ม ซึ่งบารมีคือกำลังใจที่เต็ม ทุกอย่างที่ท่านอาจารย์ทำนั้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ทำเต็มกำลังท่านอาจารย์ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์ทุกประการ จิตใจเกาะเกี่ยวอยู่กับพระพุทธองค์ นั่นคือ ท่านอาจารย์อัญเชิญพระพุทธองค์มาประทับในกาย วาจา ใจ ตลอดเวลา

ซึ่งพวกเราทราบดีว่า พระพุทธองค์ประทับอยู่กับท่านอาจารย์ตลอดเวลา เวลาท่านอาจารย์จะทำอะไรก็จะขออาราธนาพระบารมีของพระพุทธองค์ทุกครั้ง จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมแสงฉัพพรรณรังสีจึงอยู่กับท่านอาจารย์อุบลตลอดเวลา

ที่สำคัญคือจิตท่านอาจารย์สะอาด บริสุทธิ์ จึงสามารถรองรับแสงฉัพพรรณรังสีของพระองค์ท่านได้ และเมื่อท่านอาจารย์อยู่ที่บ้านสวนฯ ซึ่งสถานที่นี้เป็นที่ทำบุญถวายเนื้อนาบุญ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาลประทับอยู่ เจ้าของบ้านก็จิตใจสูงส่ง มีพระพุทธองค์ในจิตใจตลอด และทำหน้าที่แทนพระพุทธองค์ บ้านสวนฯทั้งหมดจึงสามารถรองรับพลังแสงฉัพพรรณรังสีได้

บุคคลใดที่แค่เลี้ยวรถเข้ามา หากมาด้วยจิตศรัทธาท่านอาจารย์ เขาก็จะสามารถสัมผัสรับพลังเหล่านี้ได้ทันที และหายทันทีก็มี เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจึงโหยหาอยากมาบ้านสวนฯ เพราะอยากได้พลังบุญและพลังแสงฉัพพรรณรังสีที่มีอยู่เต็มทุกอณู

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-16 23:12:24


ความคิดเห็นที่ 66 (1611037)

 

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

-------------- 

ถ้าหลวงพ่อให้ตอบตามความรู้สึก ก็จะขอตอบความรู้สึกของใจจริงๆนะครับ

แสงฉัพพรรณรังสีอยู่กับท่านอาจารย์อุบลก็เพราะว่ามีพระพุทธเจ้าอยู่กับท่านอาจารย์อุบล หมือนกับพี่ที่คอยดูแลน้อง

เบสคิดว่าแสงฉัพพรรณรังสีที่อยู่กับท่านอาจารย์เพราะว่า ท่านอาจารย์ทำตามแบบอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนทุกอย่าง

ถ้าเราไม่ทิ้งพระพุทธองค์ ท่านก็จะไม่ทิ้งเราเหมือนกัน(จริงๆท่านไม่เคยทิ้งเราเลย แต่เราเองนั่นแหล่ะที่หันหลังให้ท่าน) ท่านจะคอยดูแลคุ้มครองเรา เบสจึงคิดว่า การที่อาจารย์อุบลนึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลานั้นก็เหมือนกับการที่ไม่ละทิ้งพระองค์ ซึ่งพระองค์ก็จะคอยคุ้มครองดูแล และอยู่กับท่านอาจารย์ตลอดเวลา  

โดยส่วนตัวไม่ได้มโน แต่มีความรู้สึกทางใจว่า มีฉัพพรรณรังสีแผ่ออกมาจากตัวท่านอาจารย์ตลอดเวลาเป็นสีทองอร่ามดูสวยงามมาก ยิ่งช่วงสมาทานศีลหรือตอนที่ท่านสอนธรรมะ

 

จะเห็นแสงนี้สว่างจ้าและไกลขึ้นกว่าเดิมมาก บุคคลที่หายจากโรคเบสคิดว่าจิตของพวกเขาเหล่านั้นเปิด ทำให้สามารถรับแสงฉัพพรรณรังสีจากตัวท่านอาจารย์ที่แผ่ออกไปได้จึงทำให้หายจากอาการต่างๆที่ีเป็นอยู่

โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งมาบ้านสวนตอนสายๆ แล้วก็เห็นผู้คนนั่งพรมมืออยู่ แล้วก้ได้ยินเสียงท่านอาจารย์พูดออกจากไมล์แต่ไม่ได้เห็นตัวท่านเพราะมีรถบังอยู่ ภาพนั้นพอเห็นแว๊บแรก รู้สึกว่าเหมือนเห็นพระพุทธเจ้ากำลังเทศนาโปรดผู้คนอยู่ จิตมันบอกอย่างนั้นจริงๆ ตอนนั้นจิตบอกว่า ท่านอาจารย์อุบลคงจะต้องเป็นพระศรีอาริยเมตไตยแน่ๆแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากเพราะท่านอาจารย์อุบลก็บอกเอาไว้หมดแล้วว่า พระพุทธเจ้าอยู่กับพระองค์ และท่านอาจารย์ก็จะสอนเราตามที่พระพุทธเจ้าและสิ่งศักสิทธิ์บอกมา 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 00:40:15


ความคิดเห็นที่ 67 (1611038)

                            แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?
****************
       ผมขอตอบโดยใช้มโนมยิทธิตอบครับ  ในจิตของผมเห็นกายละเอียดเป็นแก้ว[เทพบุตร] สว่าง มีฉัพพรรณรังสี เป็นสีขาว สว่างรอบๆตัว ซ้อนอยู่ในตัวอาจารย์อุบล ในจิตผมบอกว่า อาจารย์เป็น พระโพธิสัตย์ บารมีเต็มแล้ว มาทำหน้าที่เตรียมคนเข้ายุคพระศรีอริยะฯ
       ซึ่งครูบาอาจารย์ ของพระโพธิสัตย์ก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ ดังนั้น แสงฉัพพรรณรังสีจึงอยู่กับอ.อุบล ครับ 
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม (kridsana-dot-si-at-ap-dot-sony-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 01:00:46


ความคิดเห็นที่ 68 (1611039)

 ขอใช้หัวสมองอันมืดมิดจากข้างใน(แถมมืดออกมาถึงข้างนอกจนเกรียมไปทั้งตัว) เล่าสู่กันฟัง หรือบ่นไปตามวัยอันเหมาะสม

สำหรับคนที่มีธรรมะในหัวใจอยู่บ้าง นึกถึงเวลาเรามีทุกข์ รวมหมายถึงโรคภัยไข้เจ็บ...สิ่งที่เราเห็นอย่างแรกก็คือธรรมะ...เห็นทุกข์แล้วเห็นธรรม...เรามักจะกราบไหว้บูชา อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เรานับถือ ช่วยเราให้พ้นทุกข์...ยกตัวอย่างตัวผมเอง เวลามีทุกข์ก็จะนึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคยพร่่ำสอนธรรมะให้กับเรา หรือท่านที่เราเคยเอาแบบอย่างมาปฏิบัติแล้วได้ดี ถึงแม้จะแค่ได้ไปกราบท่านเฉยๆ เท่านั้นเราก็สุขใจ ความทุกมลายหายไปสิ้น ถ้าโชคดีหน่อยก็จะเจอท่านเทศน์หรือกล่าวถึงสิ่งที่เราทุกข์ใจอยู่โดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม

แล้วเหตุใดล่ะ ที่ทำให้เราคลายทุกข์ได้เมื่อได้กราบพ่อแม่ครูอาจารย์...จิตมันเริ่มที่ตัวเรา เมื่อเราศรัทธาแล้ว ทำตามที่ท่านสั่งท่านสอน แล้วนำไปปฏิบัติจนเกิดผลดีแก่ตัวเราเอง แผ่ไปถึงคนรอบข้าง นั่นคือบทพิสูจน์ที่เราทำแล้วเห็นผลดี แก้ไขปรับปรุงตัวแล้วก็มีความสุข...แล้วอะไรล่ะที่พ่อแม่ครูอาจารย์ของเราได้นำมาสั่งสอนเราจนได้ดี ถ้าไม่ใช่ธรรมะจากพระพุทธองค์ เพราะท่านลองแล้ว พิสูจน์แล้ว จึงได้นำมาบอกต่อ สอนต่อให้กับเรา...

ฉนั้้นสิ่งที่เรากราบแล้วได้ดี กราบแล้วหายทุกข์ กราบแล้วเป็นสุข...นั่นคือเรากราบธรรมะพระพุทธองค์ ที่ทรงค้นพบมาก่อนเรา...ท่านอาจารย์อุบล ผู้ที่นำธรรมะพระพุทธองค์มาถ่ายทอดให้เรา พูดเสมอเวลาพวกเรากราบท่าน ว่าให้กราบธรรมะพระพุทธองค์ อย่าได้กราบกายหยาบของท่าน เพราะพระธรรมคำสั่งสอนได้สถิตย์อยู่กับท่านอาจารย์อุบลตลอดเวลา ระลึกอยู่ตลอดเวลา จิตท่านอาจารย์มีแต่จะให้กับให้ เมตตาบารมีเปี่ยมล้น ไม่มีแม้แต่ความโกรธ เกลียด อิจฉา ริษยา หรือกิเลสอันหยาบคายใดๆ อย่างที่ตัวผมยังคงมีอยู่ครบ

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต...ผู้ใดเห็นธรรมในตัวท่านอาจารย์อุบล ผู้นั้นก็เห็นพระพุทธองค์เช่นกัน และเมื่อเรากราบท่านอาจารย์อุบล ก็เท่ากับเรากราบพระบารมีของพระพุทธองค์ โดยมีฉัพพรรณรังษีที่แผ่ไพศาลเหนือประมาณอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

อืมมม...จบแบบ ง.งู ฉองตัวเหมือนเดิม 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 01:01:48


ความคิดเห็นที่ 69 (1611042)

 แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

เพราะอ.แม่เป็นผู้ที่บริสุทธิ์
มองเห็นทุกข์แห่งการเวียน ว่าย ตาย เกิด ได้อย่างแท้จริง
คิดจะหาทางพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
ได้อย่างแท้จริงเช่นกัน
เมื่อทำได้เช่นนี้
จิตก็จะเปิดรับสิ่งดีๆจากพระพุทธองค์ได้หมด
แม้กระทั่งฉัพพรรณรังสี
ปาฏิหาริย์และเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้เป็นแค่นิทานในพระไตรปิฏก
แต่มันคือเรื่องจริงที่เราสามารถพิสูจน์ได้
ดังที่อ.แม่ ได้ทำให้พวกเราเห็นกันมาแล้ว
และผู้ที่จะรองรับฉัพพรรณรังสีนี้ได้ใช่ว่าใครก็จะทำได้เสมอไป
บุคคลผู้นั้นจะต้องบำเพ็ญเพียรบารมี 
มาหลายอสงไขย และมีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
ที่คิดจะช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์อย่างแท้จริง
และบารมีเต็ม 
จึงจะสามารถมีปรากฏการณ์เช่นนี้ได้
ส่วนมากแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ
เราจะเห็นแสงนี้ออกมาจากพระวรกายพระพุทธเจ้า
แต่แสงฉัพพรรณรังสีนี้
สามารถแผ่ออกมาจากพระวรกาย
ของพระโพธิสัตว์ได้เช่นกัน
แต่จะต้องเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มแล้วเท่านั้น
เลยขอก๊อปรูปหลวงปู่ดู่มาให้พี่ๆน้องดูกันค่ะ
(เห็นเค้าว่ากันว่าหลวงปู่ดู่นี้
ก็คือพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว
จึงสามารถมีแสงฉัพพรรณรังสีออกมาจากรูปปั้นได้ ดังรูปถ่ายนี้ค่ะ)
 
 
 
 
Credit:prommapanyo
ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 04:20:02


ความคิดเห็นที่ 70 (1611044)

จาก คห.ที่52

 

แล้วถ้าใครไม่ตอบ

อย่าฝันว่า จะไปนิพพานได้

เพราะ

มันยังไม่รู้จัก

 

คนที่จะพาพวกมันไป

แล้วมันจะไปได้ยังไง

 

มันเคยรู้กันบ้างไหม

ว่ามันกำลังจะไปกับใคร

....................................

ขอกราบในความเมตตา

ของหลวงพ่ออย่างที่สุดค่ะ

ที่เมตตามาติวเข้มลูกหลานอีกแล้ว

 

และชนิดาคิดว่า ลูกบ้านสวนฯหลายๆคน

ทราบดีว่า อ.อุบลเป็นใคร

มาด้วยหน้าที่อันใด

และจะทำอย่างไรจึงจะทำให้

ผู้คนมากมาย ไปนิพพานได้


เพราะพวกเราได้เห็น

ในสิ่งที่อาจารย์ทำเป็น

ตัวอย่าง ทุกๆอย่าง

 

ทั้งการทำทานในทุกๆระดับชั้น

และอาจารย์ก็สอนอย่างละเอียดว่า

อานิสงค์ของทาน

แต่่ละระดับนั้นเป็นอย่างไร

 

และอาจารย์ก็มักจะเน้นย้ำเสมอว่า

 

ทำบุญหรือความดี ต้องทำทันที

ทำอย่างสม่ำเสมอ

อย่างต่อเนื่องและต้องทำให้มากขึ้น

 

มิใช่ ทำเพียงนิดหน่อย

ก็คิดว่าตนทำมาก แล้วก็หยุดทำ


นอกจากนั้นอาจารย์ยังเน้น

การรักษาศีล ด้วยการ

"สมาทานศีล"กันทุกสัปดาห์

 

และทุกครั้งจะมี ตัวอย่างธรรมทาน

ที่่แสดงให้เห็นโทษของการผิดศีล

มาให้พวกเราได้รับรู้ ด้วยจิตสำนึก

โดยไม่ต้องพยายามมานั่ง"จำ"กันเลย

 

แต่แค่ฟังแล้ว คิด พิจารณา ตามเหตุ

และผลอันน่าสะพรึงกลัว

ที่ทุกคนได้รับแล้ว

 

ผู้ฟังก็แทบจะ"เข็ด" กันไปตามๆกัน

ส่งผลให้ ทุกคนใช้ชีวิตประจำวัน

อย่างระัมัดระวัง ความคิด คำพูด

และการกระทำกันมากขึ้น


ถือได้ว่าท่านอ.อุบล

เป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

เพราะได้นำหลักธรรม

คำสอนและสัจธรรม

ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ

มาถ่ายทอด

สอนพวกเราให้เข้าใจได้ง่าย

และพร้อมนำไปปฏิบัติได้ง่ายๆเช่นกัน


แต่...แค่เพียงฟัง"คำสอน"

ไม่สามารถทำให้ "ผู้ฟัง" บรรลุมรรคผลใดๆได้

ถ้าผู้นั้น ไปนำไป"ปฏิบัติ"อย่างจริงจัง

จนเห็นผล


ส่วนการทำบุญในระดับสูงสุด

คือ กรรมฐาน ท่านอาจารย์

ก็ใช้อุบายที่แยบยล

ให้พวกเราได้ฝึกสมาธิกันแบบลืมตา

และในทุกๆขณะ

ด้วยการเอาใจจดจ่ออยู่กับทุกอย่างที่ทำ

ทำได้ทั้งอยู่ที่บ้านสวนฯ บ้านตน

ที่ทำงาน

ทั้งตอนหลับ ตอนตื่น


ฉะนั้น จากทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่อาจารย์เป็นและทำให้เห็น

มาโดยตลอดนี้ จึงทำให้

 

พวกเราหลายๆคน

มองผ่านเปลือกและกระพลี้

แต่ส่งใจตรงดิ่ง ไปจับที่"แก่นแท้แห่งธรรม"

ที่อาจารย์เมตตามาพร่ำสอน

แบบไ่ม่รู้จัก เหน็ดเหนื่อยอยู่นี้ได้


แล้วก็นำ"แ่่ก่นแท้แห่งธรรม" นั้น

ไปพิจารณา เพื่อหาทางพ้นทุกข์

ให้ตัวเองในแต่ละครา

 

และในที่สุด พวกเราก็คงจะค้นพบ

หนทางที่จะทำให้"พ้นทุกข์"ชั่วนิรันดร์

ด้วยการเข้าสู่ความว่าง

สู่แดนนิพพาน

สาธุ สาธุ สาธุ



 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 05:04:05


ความคิดเห็นที่ 71 (1611046)

 

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

................................

จริงๆคำตอบนี้ ท่านอาจารย์เมตตา

อธิบายมาหลายครั้งมากๆแล้วนะคะ

 

แต่เมื่อมีคนใหม่เข้ามา และไม่เข้าใจ

เกิดความสงสัย

อาจารย์ก็ยังเมตตามาตอบ

 

เพื่อปรับจูน ความคิดคนใหม่

คนเก่า ให้เข้าใจตรงกันว่า


ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกๆปาฏิหาริย์

ที่เกิดขึ้นที่บ้านสวนฯ

ก็คือ การแสดงอนุศาสนีย์ปาฏิหาริย์

ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์ชนิดเดียว

ที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ

และยินยอมให้แสดง

 

เพราะเป็นปาฏิหาริย์ที่ชี้แจง

ด้วยหลักของเหตุและผล

โดยการใช้ข้อพิสูจน์

และส่งผลให้ผู้ที่ได้ฟัง

ได้เห็น ยอมรับได้ เพราะถือว่า

เป็นแนวทางของวิทยาศาสตร์


ซึ่งสิ่งที่อาจารย์แสดงให้เห็นกันอยู่ทุกๆวัน

ก็เพื่อเป็นการตอกย้ำกับทุกๆท่านว่า

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ"

ได้จริงจริ๊ง


ฉะนั้น ไม่ว่าเราจะมองเห็น

แสงฉัพพรรณรังสี หรือไม่

ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

 

เพราะสิ่งที่พิสูจน์ให้เราเชื่อได้ว่า มี

ก็คือ ทุกคนหายจากโรคที่เป็น"ทันที"

หายจากอาการต่างๆที่มี

ไม่ว่าจะมะเร็งขั้นสุดท้าย

ปวดหลัง ปวดขา

เดินไม่ได้ กลับมาเดินได้

พ่อใหญ่ธนาก็สัมผัสมาด้วยตัวเอง

แล้วยังอาการไส้หลุดของคุณหมอวัฒนา

ก็ยังหายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

 

ส่วนคนที่"หมดอายุขัย"

อาจารย์ก็เมตตาต่ออายุให้

ในกรณีของคุณพี่อมร และน้องเนย

จนมาถึง"น้องต้นอ้อ" ซึ่งแต่ละกรณี

อาจารย์ก็บอกก่อน

แล้วก็ให้พวกเราตั้งข้อสังเกต

เพื่อเป็นการพิสูจน์"ผล" ด้วยซ้ำไป  


ในเมื่อมีตัวอย่างมาพิสูจน์ให้พวกเรา

ได้เห็นกันอยู่ทุกทุ๊กวันเช่นนี้

ชนิดาก็คิดไม่ออกว่า

"จะยังมีข้อสงสัยอะไรกันอีกหนอ"


ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมแสงฉัพพรรณรังสี

ถึงอยู่ที่ตัวท่านอ.อุบล ...

แต่จริงๆพระพุทธองค์

ก็ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์

ไว้ที่ท่านอ.อุบลแต่เพียงผู้เดียวนะคะ

เรื่องแสงฉัพพรรณรังสี..เนี่ย

 

ใครๆก็มีสิทธิ์

ที่จะมีแสงฉัพพรรณรังสีนี้ได้

ถ้าเราทำทุกๆอย่างได้

ตามที่ท่านอ.อุบล ทำ ...

ที่สำคัญ จะ"ทำ"กันได้รึเปล่า

เท่านั้นเอ๊ง


จริงๆคำตอบที่ชี้แจงอย่างชัดเจน

ท่านอาจารย์อุบลก็ได้เมตตา

ถามต่อพระพุทธองค์ โดยตรงให้แล้ว

 

ฉะนั้น เข้าไปอ่านและพิจารณากันอีกทีนะคะ

นคห.ที่ 1001หน้า 11จาก กระทู้

วันนี้ ใครดูรายการคุยไปแจกไปบ้าง

 

 

จริงๆหน้า 10 ของกระทู้นี้

ก็มีหลายๆข้อความที่ท่านควร

จะเข้าไปศึกษาหาคำตอบ

ได้ด้วยตัวเองนะคะ

 

เอวังฯ ก็เป็นด้วยประการฉะนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 05:42:29


ความคิดเห็นที่ 72 (1611051)

      ขออนุโมทนากับพี่ชนิดา ด้วยนะครับ ที่ทำลิ้งค์ ให้ได้ไปศึกษาเพิ่มเติม และขออนุโมทนากับทุกๆ คำตอบ จากทุกๆท่านด้วยครับ อ่านแล้วชัดเจน และได้หลายมุมมองแต่ตอบโจทย์เดียวกัน สาธุครับ สำหรับตัวเองยังต้องขยันให้มากกว่านี้จะได้ตามท่านอื่นๆทัน  

     ส่วนคนที่เข้ามาก่อกวน นั้น ทุกๆวันนี้ ถามตัวเองก่อนว่ายังทุกข์อยู่มั้ย ถ้ารู้ว่าทุกข์ก็ไม่หยุดทำบาปเสียที ท่านอาจารย์อุบลสอนเสมอ ว่าไม่ให้เราละเมิดผู้อื่น รักษาศีล

     คุณกลัวการปรามาสพระรัตนตรัย แสดงว่าคนอื่นนอกนั้น ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ก็ทำได้แบบไม่ละอายเลยสิ

     การทำบาป เหมือนๆ การแกว่งเท้าหาเสี้ยนเกว่งไป เกว่งมา ระวังเสี้ยนตำเท้านะครับ มันเจ็บ ยิ่งละเมิดผู้มีภูมิธรรม หรือ พุทธภูมิ คงไม่ใช่แ่ค่เสี้ยน นะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 07:58:52


ความคิดเห็นที่ 73 (1611052)

 

คำถาม : ฉัพพรรณรังษีทำไมถึงได้มีอยู่รอบ ๆ กาย อ.อุบล ฝ่ามือและทั่วบริเวณบ้านอ.อุบล ตอบ  ขอตอบตามความรู้สึกของใจขี่เลื่อยดวงนี้ เพราะ ท่านอ.อุบล ปฏิบัติธรรมะของพุทธองค์โดยได้มอบกายถวายชีวิตแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงว่าจิตของอ.อุบลมั่นคงในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ จึงทำให้จิตของอ.อุบลเกาะพระพุทธเจ้าอยู่ทุกเวลา จึงทำให้บุญ บารมี ที่ อ.อุบล สั่งสมมาหลายภพหลายชาติเกิดรวมตัวกัน ทำให้อ.อุบลเป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ และ  อ.อุบลยังได้นำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและเพื่อจะได้ช่วยเหลือมนุษย์ที่ยังมีความทุกข์อยู่มาก เช่น ผู้ผิดศีลมามากมาย ผู้เจ็บป่วย หรือมีปัญหาต่าง ๆ ได้พ้นจากความทุกข์เหล่านั้น  โดยท่าน อ.อุบล ได้นำปาฏิหารย์ ที่ก่อให้มนุษย์พ้นทุกข์คือ อานุศาสนีย์ปาฏิหาริย์ คือ การสั่งสอน มีเหตุผล  และพระพุทธ่เจ้าทรงสรรเสริญ เพราะให้ความสำเร็จประโยชน์ได้จริง ดังนั้น ทำไมคนที่ก้มกราบท่านอ.อุบลแล้วจึงหายป่วย เพราะได้ก้มกราบบุคคลที่เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา ความรัก  ที่จะช่วยเหลือให้คนอื่นพ้นทุกข์ค่ะ แล้วที่คนก้มกราบต้องมีจิตใจที่ศรัทธาจริงๆๆๆ เคารพในวิธีการของอ.อุบลจริงๆ ถึงจะเห็นผลค่ะ เนื่องจากได้รับบารมีอันบริสุทธิ์จากอ.อุบลได้จึงทำให้หายเจ็บ หายป่วย ส่งผลให้จิตใจมีความสุขมากขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ (yunoi20-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 08:07:24


ความคิดเห็นที่ 74 (1611057)

 

ขอตอบคำถามที่ว่าทำไมแสงฉัพพรรณรังสีถึงอยู่กับอ.อุบล

ก็เพราะพระพุทธองค์อยู่กับอ.อุบลตลอดเวลา และอ.อุบลได้มอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธองค์แล้ว เพื่อให้ร่างกายนี้ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก  แต่ไม่ใช่ว่าใครมอบกายถวายชีวิตแล้วพระพุทธองค์จะมาอยู่กับตัวเราได้ทุกคน แต่อ.อุบลคือผู้ที่บำเพ็ญบารมีมาหลายภพหลายชาติ และตั้งจิตจะมาช่วยกอบกู้ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ท่านอ.ก็อยู่ในศีล ในธรรม ฉะนั้นจิตใจของอ.อุบลก็เป็นจิตที่บริสุทธิ์ เชื่อมต่อกับพระพุทธองค์ได้ และสิ่งที่ท่านช่วยเหลือพวกเรา(ตกทุกข์) ก็เป็นจิตที่เมตตา เพราะเกิดจากความรักที่ปราศจากเงื่อนไข ซึ่งน้อยคนที่จะทำได้ สิ่งนี้คือความรู้สึกของหนูคะ (ที่จริงหนูคิดกับอ.มากกว่าที่เขียนอีกค่ะ แต่กลัวว่าคิดอยู่คนเดียวหรือเปล่า)

และที่คุณภาคินได้รับผลเช่นนั้น เพราะว่าคุณภาคินไม่มีจิตต่อต้านอ.อุบล หรือคิดไม่ดีถึงแม้จะยังไม่เชื่อแบบสนิทใจ เท่ากับจิตเขาเปิดรับฉัพพรรณรังสีที่อ.อุบลส่งให้ เพราะอ.อุบลพร้อมที่จะส่งให้กับทุกคนด้วยความรัก และเมตตา แต่อยู่ที่แต่ละคนเปิดรับได้แค่ไหน

ขอขอบพระคุณท่านอ.อุบลและเทวดาที่รักษาอ.อุบลและครอบครัวค่ะ ที่ได้ช่วยให้หนูได้พบแสงสว่าง

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 08:24:27


ความคิดเห็นที่ 75 (1611059)

ลูกได้มองเห็นสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐมปางเปิดโลกอยู่กับท่านอาจารย์อุบลครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 08:44:18


ความคิดเห็นที่ 76 (1611061)

 

 

 

  

 

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

ลูกนางจันทิรา  กาลมัชฌิมา  ขอตอบคำถามนี้ตามจิตของตัวเอง  แสงฉัพพรรณรังสีอยู่กับท่านอาจาร์ยอุบลเพราะท่านอาจาร์ยอุบลอดีตชาติบำเพ็ญเพียรมามากมีบุญเก่าเยอะเป็นผู้นำด้านพระพุทธศาสนาและปัจจุบันก็บำเพ็ญเพียรตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจังและตั้งใจ  ผลของบุญกุศลจึงเกิดเป็นแสงฉัพพรรณรังสี  เพราะเป็นบุคคลที่พระพุทธองค์ท่านทรงเลือกแล้ว  และเพื่อเป็นตัวอย่างให้มวลมนุษย์เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าถ้าใครปฏิบัติดีปฏิบัติจริงก็สามารถเป็นอย่างท่านอาจาร์ยได้   ถ้าบุญถึง และแสงฉัพพรรณรังสีทำให้อาจาร์ยอุบลสามารถช่วยเหลือมวลมนุษย์ที่ยังทุกข์ให้สุขได้ด้วยปาฏิหาริย์และบารมีขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ  และไม่ว่าท่านอาจาร์ยจะอยู่ที่ไหนที่นั่นก็เป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์เพราะจิตของท่านสะอาดบริสุทธิ์  เหมือนที่บ้านสวนพิระมิดเป็นแดนบุญ  และลูกอีกคนหนึ่งที่ได้มีบุญวาสนาไปสร้างบุญที่บ้านสวนพิระมิด  4  ครั้ง  ไปเพราะตั้งใจจริง  ๆ  ไปสร้างบุญค่ะ  และเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่าเมื่อใดที่ท่านมองเห็นธรรมเมื่อนั้นท่านมองเห็นเรา   เป็นบุญตาของลูกมากเลยค่ะ   เห็นด้วยตาเนื้อที่บ้านสวนพีระมิดตอนหัวรุ่งประมาณ ตี 4 กว่า ๆ  หน้าองค์พิระมิดที่หนูนอนอยู่  เป็นรูปองค์พระปฐมธรรมบิดาในท่าอุ้มบาตร  หนูยังหยิกตัวเอง  ว่าของจริงน่ะ  จันทิรา  ควบคุมจิตให้ได้  แล้วหนูก็ก้มล้มกราบท่าน  3  ครั้ง  แล้วพูดว่าขอบพระคุณค่ะ  ที่ให้หนูเห็นท่าน  และหนูจะอยู่ในศีล 5  ค่ะ    ดีใจมากค่ะ  เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่   ไม่กล้าเล่าบุคคลที่ไม่สนิท  เพราะเราไม่ได้มโนยิทธิ เดี๋ยวเขาหาว่าอวด  หรือโกหก  เพราะเราเองก็ฝึกปฏิบัติ  เรื่อย ๆ  ตามที่อาจาร์ยอุบลสอน  และยกระดับจิต  ตามคำสอนของหลวงพ่อเสงี่ยมเหมือนที่ท่านอาจาร์ยคีย์สอนในเว๊ป  จะฝึกปฏิบัติทุกอย่าง   เพิ่งตาสว่างว่ามโนยิทธิ  คืออะไร   ช่างโง่เขลาจริง  ค่ะ   กราบ  กราบ กราบ

                                    สาธุ    สาธุ   สาธุ

                                      

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา กาลมัชฌิมา (jantira_123-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 09:22:08


ความคิดเห็นที่ 77 (1611062)

 

ทำไมแสงฉัพพรรณรังสีถึงอยู่กับอ.อุบล

เพราะจิตถึงจิต ท่าน อ.อุบล มีจิตที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักความเมตตา จิตที่บริสุทธิ์ จิตที่สูง พร้อมด้วยบุญบารมี  เมื่อพระพุทธองค์ได้ส่งแสงฉัพพรรณรังสีลงมา ด้วยจิตที่บริสุทธิ์ของท่านอาจารย์สามารถเปิดรับแสงฉัพพรรณรังสีได้ ทำให้ฉัพพรรณรังสีถึงอยู่รอบตัวท่านอ.อุบลครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 09:40:36


ความคิดเห็นที่ 78 (1611064)

 

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

 

***************

ป้าติ๋มขอตอบ อย่างที่ตัวเองเห็นในตัวท่านอาจารย์อุบล  เพราะท่านอาจารย์เป็นผู้ที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์ สะอาด ให้กับทุกคนที่เข้ามาบ้านสวน  ไม่ว่าแต่ละคนมีหัวนอนปลายเท้ามาอย่างไร  ท่านอาจารย์ให้ความรัก  ความเมตตา ไม่โกรธ ไม่เกลียด เสียสละ ซึ่งทำให้ป้าติ๋มหมอบกราบเท้าท่านอาจารย์ได้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ค่ะ..  และจะขอหมอบกราบเท้าท่านตลอดไป ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริกัญญกรณ์ ธนิศรา (sreesompawn-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 09:59:15


ความคิดเห็นที่ 79 (1611071)

 จากความเห็นที่ 12

ช่วยพิจารณาให้ดีว่า ผู้ใดคือผู้แผ่ฉัพพรรณรังสี

หรือเล่าว่า อ.อุบลท่านทำอย่างไร

จึงขอบารมีท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้

อ.อุบล บุคคลผู้มองเห็นหนทางสว่าง เห็นทางหลุดพ้นความทุกทั้งมวล มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย ขัดเกลาจิต จนสิ้นความสงสัยไม่ขอกลับมาเกิดอีก

ขนาดเราตั้งใจกราบพระ ตั้งนะโม 3 จบ และอะรหังสัมมาฯ พระพุทธองค์ได้ประทานความสุขให้เรา แม้นว่าเราไม่ได้ขอจากพระองค์ เพียงแค่นี้เราก็สังเกตตัวเราเองได้ว่า เราพบความสุข จิตใจเย็นลง จิตใจเราเริ่มสงบมีปิติสุขแล้ว

        แล้ว อ.อุบล ผู้ไม่ลังเลสงสัยการปฏิบัติ เมื่อพบสุข อยากแบ่งปันสุข ชี้ทางพ้นทุกข์ นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเผยแผ่ โดยไม่บิดเบือน และมีอุบายในการสอนธรรมที่เป็นการดำเนินชีวิตปัจจุบัน แล้วเกิดการละชั่วกลัวบาปกัน และที่สำคัญ ไม่ได้อ้างสิ่งที่รู้นำมาสอน ว่าเป็นความสามารถของตน 

อ.อุบล ขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และฉัพพรรณรังสี เพื่อถึงแก่ผู้มีจิตนอบน้อม น้อมรับในหลักธรรมของพระองค์  สำนึกในกรรม และวิบากกรรม (สร้างกรรมเช่นไร ได้รับผลเช่นนั้น)  ให้ผู้คนเหล่านั้นคิดได้สำนึกผิดเอง ได้รับผล คลายจากความทุกข์ ได้รับความสุขจริง  จึงไม่มีความสงสัยแต่อย่างไร ที่ อ.อุบล จะมี หรือได้รับสิ่งที่ประเสริฐ เพื่อให้ความสุขสวัสดิ์ แก่คนทั้งโลก

        ส่วนความเห็นที่ 15 

ไม่ยักกะรู้ว่าเป็นโรคไทรอยด์ด้วย เห็นคอป่อง ๆ  ขอบคุณที่รักษาให้ แต่ขอคืนมาเถอะ กรรมที่เราทำไว้เอง เรายอมรับมันได้  ต่อให้เจ็บเจียนตายจนแทบบ้า ก็จะผ่านมันให้ได้ด้วยตัวของเราเอง

ส่วนต่อมอะไรต่อมิอะไรที่ให้มาก็จะขอรับไว้  ท้าวเวสสุวรรณจะได้ไม่ต้องเอากลับคืน

คุณกิตติยา ได้สะสมความมืดบอด จนแสดงออกมาให้เห็นได้ โดยคุณสร้างกรรม แล้วยอมรับผลของกรรม ให้วิบากกรรมดำเนินต่อไป โดยไม่ต้องการที่จะแก้ไขเหตุใดๆ ยินดี ยินยอม และยอมรับที่จะเป็นเช่นนั้น  

ผมว่าคุณได้แสดงความคิดเห็นผิดที่ ไม่มีกาลเทศะ ให้กระทู้นี้แสดงออกซึ่งธรรมทาน ที่เป็นกุศลจะดีกว่า  ดูเหมือนว่าคุณกิตติยา จะมีความทุกข์มาก มาก และทนได้กับความทุกข์นั้นได้จนชาชินเสียจนไม่รู้ว่าสุขอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร หรือแม้แต่ที่จะยินดีที่ผู้อื่นได้รับสุข คลายทุกข์

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 10:37:13


ความคิดเห็นที่ 80 (1611072)

 ฉัพพรรณรังษี ทำไม

ถึงได้มีอยู่รอบ ๆ กาย อ.อุบลคะ

ไม่เฉพาะที่ออกจากฝ่ามือ

หรือเรียกได้ว่า...ฉัพพรรณรังษี

มีอยู่ทั่วบริเวณบ้านสวนพิรามิด

เลยก็ว่าได้...เคยสัมผัสมาบ้างแล้วและ

อิ อิ แอบฟัง คนที่ได้มโนยิทธิพูดให้ฟัง

หลาย ต่อหลายคน พูดตรงกันหมด

อาทิเช่น...คุณประทีป

พี่แอ๊ด เขยป้าเนียน

คุณอัญ + คุณเอก ลูกป้าเตือน

น้องมีมี่ 6 ขวบ ฯ

ทุกคนพูตรงกันหมด

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

 ++++++++++++++++++

ผมขอใช้เหตุผลที่สัมผัสด้วยใจ ด้วยกาย

ที่รับรู้ได้ว่าแสงฉัพพรรณรังสี

อยู่ที่อาจารย์อุบล และบ้านสวนพีระมิด  

อ.อุบล เป็นผู้จงรักภักดี ผู้ปกป้อง

ขอมอบกายถวายถวายชีวิตแด่

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และอ.อุบล คือ สมบัติของพระองค์ 

ดังนี้

       1.เป็นผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย

       2.ผู้กตัญญูต่อพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์

       3.ผู้ไม่ลังเลสงสัยในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

       4.ผู้พิสูจน์คำสอนของพระพุทธองค์ปฏิบัติได้จริงเห็นผลจริง

       5.ผู้นำหลักธรรมคำสอนมาเผยแผ่โดยไม่บิดเบือน ไม่อ้างธรรม             นั้นเป็นของตน

       6.ทำนิพพานให้แจ้งและปรากฎ มุ่งตรงที่พระนิพพานไม่ขอกลับ          มาเกิดอีก

       7.ผู้มุ่งมั่นสืบทอดพระศาสนา ให้โลกมีสันติสุข

       8.เป็นผู้ให้และเสียสละตัวจริง

 

แสงฉัพพรรณรังสีเป็นพลังงาน เป็นพลังของบุญที่มีความเข้มข้นมากตามกำลังบุญของผู้บำเพ็ญปฏิบัติด้วยจิตบริสุทธิ์ และพระพุทธองค์ประทานให้

อ.อุบล เป็นผู้ได้รับประทานฉัพพรรณรังสี มีไว้เพื่อพิสูจน์หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ให้พิสูจน์ว่า ทุกสิ่งย่อมเกิดแต่เหตุ   โดย อ.อุบล ใช้บำบัดทุกข์ ผู้ประกอบกรรมดี มีจิตเปิด เปลี่ยนแปลงตนเองเป็นกุศลกรรม

ฉัพพรรณรังสี จึงแผ่ขยายปกคลุมทั่วบริเวณบ้านสวนพีระมิด ผู้มาสร้างบุญจึงได้รับแสงฉัพพรรณรังสี ทำงานโดยไม่เหน็ดเหนื่อย และบุญที่เกิดขึ้นเป็นบุญที่มีพลังมาก สร้างบุญจึงได้รับความสุขสมหวัง และเจ้ากรรมนายเวรยอมรับบุญที่บ้านสวนพีระมิด

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 10:42:25


ความคิดเห็นที่ 81 (1611074)

แล้วเพราะอะไรคะ...

แสงฉัพพรรณรังสีถึงได้อยู่กับอาจารย์อุบล!

**********

ลูกขอตอบว่าท่านอาจารย์มีพลังรักอันบริสุทธิ์

 รักทุกคน ไม่เลือกชนชั้น จนรวย ดีหรือชั่วฯลฯ

ไม่โกรธ อาฆาต พยาบาท ให้อภัยเสมอมา

แม้บุคคลที่ไม่ควรได้รับการอภัย

ดวงจิตมีแต่ความรัก ความเมตตา

ปราถนาดีต่อผู้อื่นไม่มีประมาณอยากให้ผู้อื่นมีความสุข

พ้นทุกข์ กลับบ้านนิพพานด้วยกัน ฯลฯ

นี่คงเป็นเหตุผลให้พระพุทธองค์เลือกท่านอาจารย์

เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเบื้องบน

ด้วยเหตุนี้แสงฉัพพรรณรังสี

จึงอยู่กับท่านอาจารย์อุบลค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก (angkhana-s2011-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 11:02:48


ความคิดเห็นที่ 82 (1611075)

เรื่องกราบแล้วหายทันทีเลย ผมยังจำได้ดีครับ คิดว่าวันนั้นเป็นวันที่เบื้องบนต้องการสร้างประจักษ์พยานให้ทุกคนเห็นกันจะๆ ว่าพี่อ๊อดซึ่งก้นบุ๋มมานานหลายปี พอกราบท่านอาจารย์ปุ๊บ ก้นที่บุ๋มๆก็ฟูขึ้นมาในทันทีเลย

ซึ่งเหตุการณ์นี้น่าแปลกตรงที่ว่า ปกติท่านอาจารย์ต้องไตร่สวนกรรมก่อน และเจ้าตัวต้องสารภาพบาปและรู้สาเหตุของบาปที่ทำให้ตนเองเป็นอย่างนี้ก่อน

แต่วันนั้นพี่อ๊อดยังไม่ทันได้รู้เหตุแห่งทุกข์เลย และพอกราบปุ๊บ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นปั๊บทันทีเลย และท่านอาจารย์ก็ได้เมตตาบอกภายหลังให้พี่อ๊อดได้ทราบกรรมที่ทำมาว่า เห็นสามีเป็นจักรยาน ถีบสามี เพื่อให้พี่อ๊อดได้รู้เหตุและดับเหตุ

ถ้าว่าไปแล้ว นับวันๆบ้านสวนพีระมิดยิ่งจะมีปรากฏการณ์ที่เหนือคำบรรยายมากขึ้นทุกที เมื่อก่อนท่านอาจารย์ต้องใช้มือแตะ ต่อมาก็ยกมือขึ้น แล้วบอก หายนะลูก ต่อมาก็แค่ดูรายการฯอนุโมทนาหน้าจอก็หาย และตามมาด้วยรหัสจักรวาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย ล่าสุดนี่เห็นจะๆเลย คือ กราบด้วยจิตศรัทธาแล้วหายทันที

ที่จำได้อีกอย่างที่ท่านอาจารย์เคยเมตตาบอกก็คือ หากใครที่มีรูปท่านอาจารย์ที่บ้าน ก็ให้คิดประหนึ่งว่านั่งต่อหน้าท่านอาจารย์ ท่านก็สารภาพบาปกรรมที่บ้านท่าน อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร ท่านก็จะหายฉับพลันทันที ไม่ต้องเดินทางมาที่บ้านสวนฯก็ได้้

โอ้แม่เจ้า! ท่านอาจารย์นับวันจะมีออฟชั่นสุดพิเศษ แบบทำเอาลูกหลานระทึกอยู่ตลอดเวลา

และอีกสาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ ท่านอาจารย์มีภาระกิจสำคัญเยอะมาก แค่นี้ท่านก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันแล้ว เบื้องบนคงเมตตาให้มีตัวช่วยท่านอาจารย์ด้วยวิธีการสุดพิเศษที่ยิ่งระทึกใจขึ้นเรื่อยๆ และเป็นวิธีการที่จะช่วยคนทั้งโลกอย่างรวดเร็วและทันเวลาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 11:11:59


ความคิดเห็นที่ 83 (1611079)

 

แล้วเพราะอะไรคะ...
แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?
 

 

เพราะว่า อ.อุบล  เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์จน มีกาย วาจา ใจ ที่บริสุทธิ์ จิตเกาะพระนิพพานตลอดเวลาและมีหน้าที่นำพาลูกหลานที่ยังหลงทางอยู่กลับสู่แดนนิพพานในชาตินี้

ผู้แสดงความคิดเห็น จรัล ยาตรา (jalan227-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 11:49:04


ความคิดเห็นที่ 84 (1611080)

หนูขอตอบ....  คนที่ผ่านผู้ชายมาเกือบ 2000 พันคน  ชื่อ..น้องสร้อย   ทำไมถึงรู้  นั่งติดหนูเองค่ะ  เป็นคนบุรีรัมย์

คนหนึ่งชื่อ น้องจรัล  ยาตรา  ที่ขุดลักหมุดของท่าน อ. อุบลหมดเลยต้องจ้างรังวัดใหม่หมดค่ะ

หนูขอตอบคำถามค่ะ.....   หนูไปบ้านสวนพีระมิดแล้วได้คำตอบจากท่านอ. อุบล ที่หนูค้าหามานานตอนนี้เจอแล้วค่ะถึงแม้นว่าภูมิธรรมหนูจะช้าไปกว่า.... แต่หนูก็ไม่ยอมแพ้มัน...  ชาตินี้หนูจะทำให้ได้ยิ่งใกล้ท่านอ. อุบล  ได้กระตุกต่อมเหลวชอบมากๆๆๆ  เกาถูกที่คันพอดี  ทนฝึกตัวเองล้มบ้าง  ลุกบ้าง   ดีกว่าไม่ได้ยกจิตเสียชาติเกิดมาเป็นชาวพุทธ  ตายไปจะไม่เสียชาติเกิด   หนูพร้อมทุกอย่างที่จะให้ท่านอ.อุบล  ตีค่ะ  เหมือนกับคำว่า  เหล็กต้องตีตอนร้อน   ตอนที่หนูตอบไม่ตรงคำถามนั้นทำให้อยากจะขับรถไปหาท่านค่ะ  แต่จะไปรับผิดและแก้ไขตอนนั้นเลย ( หนูแก้ที่สู้เจอท่านอ. ตรงให้ท่าน  อ. ชักฟอกสักครั้งที่เขียนไปสารภาพยังไม่หมดค่ะ  น่าจะเป็นพวกที่  1 ( มืดมา  สว่างไป  และ  พวกที่  2   มืดมา  แล้วมืดไป  แต่ด้วยอะไรก็ตามทำให้หนูเหี่ยวไปมาก   ได้ไปเมื่อวันที่  12  พค.  55   ปิดนรกขุมที่  3   ก็น้องวิให้ข้อคิด  เพราะตอนนั้นคิดไม่ออกโง่ชั่วคราวจริงๆ  ยอมรับค่ะ หนูขอตตอบคำถามท่านค่ะ  มาหาท่านอ. อุบลทำไม?     มาแล้วได้อะไรที่มา?   เพราะธรรมะของท่านอ.อุบล  ตรงใจและถูกต้องที่ไม่มีใครสอนมาก่อนที่เจอมาพิสูจน์เกิดปฏิหาร์ยตอนนั้นเห็นด้วยตาเนื้อ   คนโง่อย่างหนูก็สัมผัสได้จริงๆค่ะ   และอีกเหตตุผลหนึ่งไปเผื่อจะเปลียนแปลงตัวเอง  อยากเป็นแม่ที่ดีของลูก  และเป็นลูกที่ดีของแม่  เป็นภรรยาที่ของดีของสามี    และอีกอย่างหนึ่งคือเป็นชาวพุทธที่เป็นพุทธะ    คือ  ผู้รู้   ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน   หลังจากโง่มานาน  เกิดเป็นคนทั้งทีเอาดีให้ได้สักครั้ง   อยากนำธรรมะที่ลูกได้รับไปแนะนำคนที่ลูกรักทุกท่านที่ได้พบเจอเมือก่อนหนูเองได้นำสวดมนต์ที่โรงเรียนชีวิตจังหวัดลำปาง และจังหวัดสุโขทัย   และเป็นจิตอาสาที่แนะนำธรรมะของพระพุทธองค์ไปแนะให้กับคนป่วยที่จังหวัดชัยนาทค่ะ     และทางประธานก็โทรมาให้ไปช่วยที่โรงพยาบาลที่ชัยนาทอีก  แต่ตอนนี้หนูมาปักหลังอยู่ที่ จังหวัดประทุมธานีหนูก็คิดถ้าได้โอกาสหนูจะทำค่ะตอนนี้นี้ก็เริ่มทำแล้วแต่ไม่เต็มที่ค่ะ ดังคำว่า  อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด    อุปสรรคมากมี    คนดีจะเกิด  สู้ค่ะสู้กับขันธ์ 5   นิวรณ์   และกิเลสที่เกาะกินใจเรามาโตยิ่งกว่าตัวเราไม่ฆ่าตอนนี้กิเลสตัวนี้จะโตและเลวสุดๆ  และถ้าทำไม่ได้เสียชาติเกิดจริงๆ  หนักแผ่นดิน  อยู่ไปก็รกโลก  (ไปตายเสียไป )

ลูกกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่าน อ. อุบล  ท่าน อ.  มงคล  และน้องท้อป 

ที่เมตตาให้ลูกมีโอกาสแก้ไข  กายกรรม  วจีกรรม    มโกรรม   และขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาลโปรดบังคับกระจิตให้ลูกคิดดี  ทำดี  พูดดี   ไปสถานที่ดี  ด้วยเถิดสาธุๆๆ   กราบ   กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 12:00:35


ความคิดเห็นที่ 85 (1611101)

 

หนูขอตอบแบบผู้มีปัญญาน้อยนะคะ

ท่านอ.อุบลคือผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน  และฉัพพรรณรังสีตัวกุหลาบเองคิดว่าคือพลังบุญ  พลังความดี  พลังปัญญาที่ท่านอ.อุบลได้สั่งสมมาหลายภพหลายชาติ  จนถึงชาติสุดท้าย พลังบุญ  พลังความดี  พลังปัญญานั้นเต็มเปี่ยม  และพร้อมที่จะแผ่ไปรอบๆซึ่งพลังนี้เป็นพลังที่บริสุทธิ์  ผู้ใดอยู่ใกล้จะสัมผัสได้ถึงความสงบ  ร่มเย็น  ความอบอุ่นด้วยความรัก  ความเมตตาที่มากล้นเหลือคณานับ

และท่านอ.อุบล ท่านมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างในการประพฤติ ปฎิบัติ และก็ทำตามได้อย่างถูกต้อง  และนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระองค์มาบอกสอนได้อย่างถูกต้องเช่นกัน  ดังนั้นท่านอ.อุบลก็เลยได้รับฉัพพรรณรังสีจากสมเด็จองค์ปฐม  เพื่อมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เกิด  แก่  เจ็บ  ตาย ให้พ้นจากความทุกข์ยาก  และนำพาลูกๆให้กลับบ้าน 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท (ROSE_1968-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 13:21:25


ความคิดเห็นที่ 86 (1611109)

 ส่วนคนที่"หมดอายุขัย"

อาจารย์ก็เมตตาต่ออายุให้

ในกรณีของคุณพี่อมร และน้องมายด์

จนมาถึง"น้องต้นอ้อ" ซึ่งแต่ละกรณี

อาจารย์ก็บอกก่อน 

แล้วก็ให้พวกเราตั้งข้อสังเกต

เพื่อเป็นการพิสูจน์"ผล" ด้วยซ้ำไป 

 

ตัวผมเองเชื่อที่สุดว่าผมต้องหมดอายุขัย 

เหตุการณ์หลายเหตุการณ์บ่งบอกว่า

จะต้องจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ

ซึ่งแต่ละเหตุการณ์เฉียดตายทั้งนั้น

         

รายละเอียด อยู่ที่ คำสารภาพบาป และขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่ 348

http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=baansuanpyramidcom&thispage=8&No=1380284      การไปที่ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การหมดอายุขนตนเอง ไปแล้วมันไม่ใช่ จนต้องบอกตนเองว่า ขอยอมจำนนต่อความตายหากวันนั้นมาถึง

ด้วยความเมตตาของอาจารย์อุบล ที่ให้ความกระจ่าง เรื่อง การตาย  คือ

- ตายเพราะสิ้นอายุ

- ตายเพราะสิ้นกรรม

- ตายเพราะสิ้นทั้งอายุและกรรมทั้งสองพร้อมกัน

- ตายเพราะกรรมเข้าไปตัดรอน

 

จวบจนวันนี้ผมจึงแน่ใจว่ากรรมที่สร้างมาชาตินี้ ทำให้เราสมควรที่จะตาย เพราะว่า ทั้งฆ่า ทารุณ ทรมาน สั่งฆ่า รู้เห็น ยินดี สมน้ำหน้าที่เขาตาย ทั้งคนและสัตว์  

อ.อุบล เมตตาสื่อผ่านท่านท้าวเวสสุวรรณ ถามผมว่า ต้องการจะมีชีวิตอยู่ต่อไป หรือไม่ ผมขอมีชีวิตอยู่ต่อไปครับ ถ้าอยู่ต่อ ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องสร้างประโยชน์ ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต้องอยู่สร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด

ในใจผมถามตัวเองว่า ใช่หรือ ผมขอรับรู้ได้ในการต่ออายุขัย (เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจเรื่องการรับสัมผัส) ทันทีที่ อ.อุบล บอกว่า ขออาราธนาฉัพพรรณรังสีบารมีพระพุทธเจ้า ขอให้ชายผู้นี้มีอายุสืบต่อไปอีก 120 ปี  ความหนาวเย็นเยือก เข้าในกระดูก กระตุกให้หนาวสั่นสะท้าน ร้อนวูบวาป ปวดหนัก ปวดเบา คล้ายตัวเราจะระเบิดออกมา ผมพยายามฝืนความรู้สึกนั้น (ผมไม่เข้าใจว่าผมฝืนทำไม) คุณสิทธิ์และคุณเอกไชย บอกผมว่า รับสัมผัสความเย็นวูบวาปได้เช่นกัน

ผมยังคงยืนยันการรับสัมผัส ทั้งที่จิตใจผมจดจ่ออยากจะรู้มากว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเราบ้าง ในขณะนั้น  และวันนี้ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเอง ละชั่วกลัวบาป สร้างกุศลเป็นนิสัย

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกพระองค์ ที่รักษา ประจำตัวอาจารย์อุบล  และอาจารย์อุบล ครอบครัวศุภาเดชาภรณ์  ที่เมตตาให้ชีวิตให้แก่ผม

กราบ กราบ กราบ  สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 14:01:42


ความคิดเห็นที่ 87 (1611114)

มโนมยิทธิ

คือ

ความรู้สึกของใจ

เพราะอะไร แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

 พระพุทธองค์ทรงเปล่งแสงฉัพพรรณรังสีตลอดเวลา

อ.อุบลได้ถูกคัดเลือก และอาสามาทำหน้าที่
ยิ่งใหญ่มาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาจารย์สร้างสม
พระบารมี ติดตามเทวดาประจำกายของท่านมาแบบ
เนื้อที่ของประเทศไทยคงเขียนบรรยาย
คุณงามความดีไม่พอ   แล้วกว่าจะมาเป็น อ.อุบลได้
ต้องเชื่อฟังคำสอนของเทวดาประจำตัวทุกชาติ
ทุกคำสอน เพราะท่านเดินตามขั้นคือ
พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี
ในปัจุบันสภาวะจิตเข้าพระนิพพานแล้ว
ท่านอาจารย์มงคลเข้าพระนิพพาน ก่อนอ.อุบล
ใคร ๆ ก็มาอยู่ตำแหน่งท่านอาจารย์ได้แต่ใจสูง
พอเท่าท่านอาจารย์ทั้งสองหรือไม่
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต
ลูกเชื่อว่า อ.อุบลดวงจิตใสเป็นแก้วมีแสงรัศมีเป็น
ของท่านเอง  จิตบริสุทธิ์นี้
สามารถรับพลังแสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธองค์ได้
แล้วน้อมพระรัศมีนั้นมาให้ลูกบ้านสวนฯที่ไม่ดื้อ
และพร้อมจะเปลี่ยนตนเอง อยู่ในยุคพระศรีอารย์
เมื่อกราบ อ.อุบลแล้ว
หายทุกโรค ต่ออายุได้ สุขใจ ฯลฯ เจ้าค่ะ
 กราบ กราบ กราบ สาธุ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มงคล
และคุณท็อปมากที่มีส่วนให้ อ.อุบลมีความสุข
และสุขนั้นเผื่อแผ่ทุกสรรพสัตว์ในโลกนี้ สาธุ
 
 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 14:58:06


ความคิดเห็นที่ 88 (1611115)

น้องเหมี่ยวคะ พี่สร

และหลานสาว น้องมายด์ก็ได้รับการต่ออายุ

ของพี่สร  ท่านอาจารย์อัญเชิญ

องค์พ่อพระยายมมา  ท่านให้อยู่ต่อ

เพื่อประกอบกรรมดี ถ้าทำชั่วอีกท่านบอก

เอากลับทันที อาจารย์พูดนิ่มๆ

แต่พี่สรกลัวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 15:07:12


ความคิดเห็นที่ 89 (1611116)

*** แล้วเพราะเหตุใด   แสงฉัพพรรณรังษี 

   ทำไมถึงมีอยู่รอบกายอ.อุบลฯค๊ะ/ ***

          เพราะแสงฉัพพรรณรังษี นี้ออกมาจาก

พระวรกายขององค์ สมเด็จองค์ปฐมบรม

ธรรมบิดา เมื่อพระพุทธองค์ท่านอยู่กับ

อ.อุบลฯตลอดเวลาและท่านอ.อุบลฯ

เป็นผู้ซึ่งมีดวงจิต   ที่บริสุทธิ์  สามารถ  สื่อกับ

พระพุทธองค์ได้ด้วยตนเองและเป็นผู้ที่มีบารมีสูง

นอกจากนั้น อ.อุบลฯท่านยังเป็นผู้ที่มี ความรัก

 และเมตตา  ลูกหลานมาโดยตลอด/ 

*** ปาฏิหาริย์ต่างๆย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ***

                กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ่

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) (podduang-dot-p-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 15:10:57


ความคิดเห็นที่ 90 (1611118)

ทำไมแสงฉัพพรรณรังสีจึงอยู่กับ อ. อุบล

เมื่อท่าน อ. อุบล ได้รับภาระกิจต้องช่วยผู้คนที่ลำบาก เจ็บป่วย ยากจน มีความทุกข์ต่าง ๆ

 ได้รับพุทธานุญาต  จากพระพุทธเจ้า

เป็นตัวแทนของพระองค์

ในแสดงให้เห็นถึงคำสอน ที่ได้กล่าวมาเนิ่นนาน

ว่าเป็นจริงทุกอย่าง พิสูจน์ได้ทุกคำสอน

รวมทั้งการให้ด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง

ทั้งกายและใจ ของอ. อุบล

รวมกันแล้วเป็นความอัศจรรย์ใจ

ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

แล้วทำไมท่านที่สงสัยจึงไม่ทำการพิสูจน์หล่ะ

หรือว่าไม่สามารถทำได้เพราะว่า

แค่ศีล 5 ก็รักษาไว้ไม่ได้

แล้วจะเอาอะไรมาฝึกให้ได้มโนมยิทธิ

เพื่อจะได้เห็นว่านิพพานมีจริง นรก สวรรค์มีจริง

หรือเห็นว่าในบ้านสวนพีระมิด มีอะไรบ้าง

ทำไม อ. อุบล ท่านถึงทำได้ขนาดนี้

บุคคลที่คอยแต่จับผิดคนอื่น

น่าจะหันมาจับผิดตัวเองดีกว่านะคะ

จับโมหะ โทสะ ความอิจฉา ริษยา ความโลภ

จับทันบ้าง ไม่ทันบ้าง

และค่อย ๆโยนมันทิ้งออกจากใจเรา

ทำได้เพียงแค่นี้มันก็น่าจะเกิดความสุข

แก่ตนเอง และผู้อื่น

----------------------------------------------------------------

สำหรับเล็กเองไม่เคยไปบ้านสวนฯ ไม่เคยเจอ อ.อุบล ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่อ่านคำสอน ของอ. อุบล และศึกษาจากผู้รู้ในเวปอื่นๆ แล้วก็เอามาใช้กับตัวเอง ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง  แต่ก็พยายามเอามาขัดเกลากับตัวเอง เพื่อให้ใจของเราลดขยะที่ไม่ดีในใจออกบ้าง  แม้ว่าจะไม่หมด   แต่หลักที่ยึดไว้คือ ว่าสิ่งที่เราทำคนอื่นต้องไม่เดือนร้อน เสียหาย หน้าที่การงานก็ทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

-------------------------------

ขอบคุณท่าน อ. อุบล มากนะค่ะ ที่ได้เติมอาหารใจ ให้กับผู้โง่เขลา เบาปัญญา

แม้ว่าต้องเหนื่อยทั้งกายและใจ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ (lekyao-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 15:19:18


ความคิดเห็นที่ 91 (1611120)

แล้วเพราะอะไรคะ......

แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?

*******************

ตามความคิดของลูก ท่านอ.อุบล มั่นคงในพระธรรม

คำสอนของพระพุทธองค์

ปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธองค์

เป็นผู้มีกำลังใจเต็ม เป็นเนื้อนาบุัญที่บริสุทธิ์

ได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มาถ่ายทอด

เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ที่มีความทุกข์

จิตท่านมีความบริสุทธิ์ มีเมตตา พระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

หลายพระองค์อยู่รอบ ๆ ท่านอ.อุบล

จิตของท่านเชื่อมกับพระพุทธองค์

แสงฉัพพรรณรังสีจึงอยู่รอบท่านอาจารย์ค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แสงเดือน ปิ่นสุวรรณ (sangduan_k-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 15:56:33


ความคิดเห็นที่ 92 (1611121)
แล้วเพราะอะไรคะ...
แสงฉัพพรรณรังสี ถึงได้อยู่กับ อ.อุบล ?
ขออนุโมทนากับคำตอบจากทุกท่านที่ทำให้เห็นในหลากหลายมุมมอง
อตอบด้วยปัญญาที่ยังหยาบๆต้องขัดเกลาอีกเยอะเลย
 
อาจารย์ต้องปฏิบัติมานานนับหลายภพชาติ

ถึงพร้อมซึ่งเงื่อนไขที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทุกประการ

จนได้รับความไว้วางใจจากพระพุทธองค์

ด้วยเพราะพระพุทธองค์ทรงเมตตาลูกหลานทุกๆคน

พร้อมที่จะให้อภัยและช่วยเหลือผู้ที่หลงผิดและสำนึกในผิดบาปของตนได้

และด้วยฉัพพรรณรังสีที่ฉายฉาน

ทำให้เห็นปรากฎการณ์ที่บ้านสวนฯชัดเจนเป็นรูปธรรม

ดังเราได้เห็นกันแบบฉับพลันทันที

ที่ใดมีฉัพพรรณรังสีแสดงถึงพระพุทธองค์ประทับที่นั่นพร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธืทั่วจักรวาลที่ตามเสด็จ

นับเป็นการตอกย้ำว่าพระพุทธองค์ประทับอยู่กับท่านอาจารย์

ทุกหนแห่งและตลอดเวลาค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภิญญลักษณ์ เลิศอัครศักดิ์ (pin_akaras-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 16:01:29


ความคิดเห็นที่ 93 (1611137)

จ๊ากกกก... จาก คห.ที่ 71

ขอแก้ชื่อ จากน้องเนย เป็นน้องมายด์ นะค๊า

แบบว่า จำผิดน่ะ แต่ถึงจะจำชื่อผิด

แต่อ่านแล้ว ก็ยังได้เนื้อหาที่ถูกต้องอยู่เนอะ

(อิอิ เข้าข่ายแก้ตัวไงไม่รู้

แล้ว คน..อะไรน๊า ที่ชอบแก้ตัว)

 

อนุโมทนากับทุกๆความคิดเห็น

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุ

 

บางคน ต้องพบ กับปาฏิหาริย์

ด้วยตัวเองซะก่อน จึงจะเชื่อ

และหันมาสนใจใน"สัจธรรม"

หรือ กฏแห่งกรรม

 

แต่บางคนก็มองข้ามเรื่องราวปาฏิหาริย์

เพราะตระหนักดีอยู่แล้ว

เรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ

 

เพราะปาฏิหาริย์ใดๆ ก็คงจะไม่เท่ากับ

ปาฏิหาริย์ที่ทำให้คน พ้นทุกข์

พ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย

ไปได้ตลอดกาล หรอกกระมัง

 

และท่านอาจารย์อุบล นี้แหล่ะ

ที่จะมาแสดงและทำให้ทุกๆท่านได้พบกับ

"ปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต"

ภายในชาตินี้

สาธุ

 

และจากทุกๆเรื่องราว

จากนักแสดงธรรมทานในวันเสาร์ที่ผ่านมา

คงจะทำให้พวกเราได้เห็นกันชัดๆแล้วว่า

จะไปนิพพานได้หรือไม่ได้

ใช้เพียง"ใจ"เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ความรู้ ความสวย ความรวย ไม่เกี่ยว

 

เพราะเห็นกันชัดๆจากคุณ เพ็ญประภา

เพียงแค่คิดที่จะเปลี่ยน ก็เห็นผลทันที

พลิกจากนรก เป็นสวรรค์ได้ในชั่วพริบตา

โดยมี"สายตาคู่นั้น"ของท่านอ.อุบล

เป็นแรงบันดาลใจ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 18:03:47


ความคิดเห็นที่ 94 (1611144)

10/5/55

 กราบเรียน อ.อุบล ที่เคารพ

                                   กระผมขอเอนุญาตเขียนเล่าสู่กันฟังเป็นธรรมทาน  ตามที่อาจารย์อุบลอนุญาตให้ผมเล่าในสิ่ง  ที่ผมได้เห็นหรือสัมผัสได้  ในวันที่12-13 พ.ค. 55  ซึ่งเป็น วันปิดนรกขุมที่ 3  วันนั้น จากที่ ได้สัมผัส โดยใช้จิต เห็นองค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำซึ่งแสงสว่างจ้ากว่าปรกติ  ท่านท้าวเวสสุวรรณ  สมเด็จองค์ปฐมและท่านทั้ง 4 รวมทั้งเทวดาและสิ่งศักดิ์ที่ มาร่วมในคืนนั้นเยอะมาก เพราะมีความรู้สึกได้ว่าจะต้องมีอะไรพิเศษหรือต้องเรื่องพิเศษแน่ ๆ และเมื่อถึงเวลาที่ อ.อุบล ขออาสาสมัครผู้ที่เคยทำผิดศีลข้อที่ 3 และมีใครเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับชายหรือหญิงอื่น เกิน 100  คน มาเล่าเป็นธรรมทาน ก็มีผู้อาสา  4 ท่าน โดนมีผู้หญิง 3 ชาย 1 แต่มีผู้หญิง 1  คน ใส่ชุดขาวทั้งชุดมาอาสาร่วมด้วย  ก็อดแปลกใจไม่ได้  แต่จิตบอกว่าไม่ได้เป็นลูกบ้านสวน และเขาจะมาลองดู  การบำบัด และวิธีการปฏิบัติของลูกบ้านสวน ซึ่งท่านท้าวเวสสุวรรณท่านจะจัดเอาผู้หญิงคนนั้นนี้  มาเล่าเรื่องของตัวเขาเอง เพื่อให้พวกเราได้รู้ว่า การทำผิดศีลข้อสามนั้น ต้องมีเพศสัมพันธ์กันคนอื่นที่มิใช่สามีหรือภรรยาเท่านั้น ซึ่งผู้หญิงในชุดขาวมาเล่าให้ฟังว่าตัวเขาเอง จะถือว่าผิดหรือไม่ก็ไม่รู้เพราะเขามีใจชอบผู้หญิงด้วยกัน และมีเพศสัมพันธ์แค่คนเดียวเท่านั้น  มิได้มีเป็นร้อยเหมือนอีก 3 ท่านที่มาเล่าให้ฟัง แต่ส่วนสำคัญที่ท่านทำให้เราเห็นว่าการทำผิดนั้นอยู่ตรงที่จิต สำคัญที่สุด เขาเล่าว่าตั้งแต่เล็กจนโตจะหมกหมุ่นแต่เรื่องนั้น ชอบช่วยตัวเองบ่อยๆและเขาก็ติดโรคหนองใน ซึ่งเป็นโรคเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ด้วย ทำให้เห็นว่าพอจิตเราคิดแต่เรื่องไม่ดีๆ ก็จะเกิดเป็นตัวเชื้อ ของโรค ทั้งที่ตัวเขามิได้ร่วมเพศกับชายเลย การติดเชื้อก็แทบจะไม่มีโอกาสเลย แต่ติดเชื้อหนองใน  แสดงว่าท่านท้าวเวสสุวรรณท่านต้องการให้พวกเราเห็นถึงจิต หรือมโนกรรม  คิดไม่ดีก็เกิดโทษได้ ( ติดโรค )น่าจะเป็นสาระสำคัญที่ท่านต้องการสื่อให้รู้  และอีก 3 ท่านที่เล่าเรื่องของตัวเองก็ฟังแล้วได้แง่คิดอีกเยอะ  ผ่านการมีอะไรกับคนอื่นๆเป็นร้อยๆคน

                        เมื่อถึงเวลาที่ท่านอ.อุบลนำกล่าวขอขมาและขอบารมีท่านทุกๆพระองค์ ก็จะเห็นเป็นแสงเล็กๆเหมือนหิ่งห้อย หลุดออกจากตัวพวกเรา ที่อยู่ร่วมกันในวันนั้น สำหรับคนที่เคยทำผิดศีลข้อสาม เจ้ากรรมนายเวรและคนที่เคยร่วมทำผิดด้วยกัน ยอมรับและอโหสิกรรมให้แล้ว แสงสว่างเหมือนหิ่งห้อยที่หลุดลอยหายไปเหมือนโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า   ผมขออนุญาตเล่าสู่กันฟังเพียงเท่านี้ เพื่อเป็นธรรมทาน

                                                                                                                       กราบขอบพระคุณครับ

                                                                                                                          เอก   ลูกป้าเตือน

                                 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) (tewaritt2-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 19:36:37


ความคิดเห็นที่ 95 (1611145)

 ต้องขอประทานโทษเรื่อง วันที่ที่ลงผิด ที่ต้องการเขียนเป็นวันที่

16/5/55  ขออภัยด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) (tewaritt2-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 19:39:27


ความคิดเห็นที่ 96 (1611146)

 

                           ต่อไปนี้ เมื่อท่าน อ.อุบลไ้ด้อนุญาตแล้ว จะขอทำหน้าที่ เต็มกำลังครับ

                                         ขอบพระคุณอาจารย์ที่อนุญาตครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) (tewaritt2-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 19:44:40


ความคิดเห็นที่ 97 (1611147)

 

พอเห็นชื่อน้องเอกมาเล่าธรรมทาน

ใจงี้ลำพองค่ะเพราะช่วยแบ่งเบาภาระท่านอาจารย์

ชาวเกาะเยอะติดธรรมทานอาจารย์งอมแงมค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องเอกที่น่ารัก

และทุกท่านที่ปิดขุม 3 ได้ สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 20:12:09


ความคิดเห็นที่ 98 (1611148)

10/5/55
 กราบเรียน อ.อุบล ที่เคารพ
                                   กระผมขอเอนุญาตเขียนเล่าสู่กันฟังเป็นธรรมทาน  ตามที่อาจารย์อุบลอนุญาตให้ผมเล่าในสิ่ง  ที่ผมได้เห็นหรือสัมผัสได้  ในวันที่12-13 พ.ค. 55  ซึ่งเป็น วันปิดนรกขุมที่ 3  วันนั้น จากที่ ได้สัมผัส โดยใช้จิต เห็นองค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำซึ่งแสงสว่างจ้ากว่าปรกติ  ท่านท้าวเวสสุวรรณ  สมเด็จองค์ปฐมและท่านทั้ง 4 รวมทั้งเทวดาและสิ่งศักดิ์ที่ มาร่วมในคืนนั้นเยอะมาก เพราะมีความรู้สึกได้ว่าจะต้องมีอะไรพิเศษหรือต้องเรื่องพิเศษแน่ ๆ และเมื่อถึงเวลาที่ อ.อุบล ขออาสาสมัครผู้ที่เคยทำผิดศีลข้อที่ 3 และมีใครเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับชายหรือหญิงอื่น เกิน 100  คน มาเล่าเป็นธรรมทาน ก็มีผู้อาสา  4 ท่าน โดนมีผู้หญิง 3 ชาย 1 แต่มีผู้หญิง 1  คน ใส่ชุดขาวทั้งชุดมาอาสาร่วมด้วย  ก็อดแปลกใจไม่ได้  แต่จิตบอกว่าไม่ได้เป็นลูกบ้านสวน และเขาจะมาลองดู  การบำบัด และวิธีการปฏิบัติของลูกบ้านสวน ซึ่งท่านท้าวเวสสุวรรณท่านจะจัดเอาผู้หญิงคนนั้นนี้  มาเล่าเรื่องของตัวเขาเอง เพื่อให้พวกเราได้รู้ว่า การทำผิดศีลข้อสามนั้น ต้องมีเพศสัมพันธ์กันคนอื่นที่มิใช่สามีหรือภรรยาเท่านั้น ซึ่งผู้หญิงในชุดขาวมาเล่าให้ฟังว่าตัวเขาเอง จะถือว่าผิดหรือไม่ก็ไม่รู้เพราะเขามีใจชอบผู้หญิงด้วยกัน และมีเพศสัมพันธ์แค่คนเดียวเท่านั้น  มิได้มีเป็นร้อยเหมือนอีก 3 ท่านที่มาเล่าให้ฟัง แต่ส่วนสำคัญที่ท่านทำให้เราเห็นว่าการทำผิดนั้นอยู่ตรงที่จิต สำคัญที่สุด เขาเล่าว่าตั้งแต่เล็กจนโตจะหมกหมุ่นแต่เรื่องนั้น ชอบช่วยตัวเองบ่อยๆและเขาก็ติดโรคหนองใน ซึ่งเป็นโรคเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ด้วย ทำให้เห็นว่าพอจิตเราคิดแต่เรื่องไม่ดีๆ ก็จะเกิดเป็นตัวเชื้อ ของโรค ทั้งที่ตัวเขามิได้ร่วมเพศกับชายเลย การติดเชื้อก็แทบจะไม่มีโอกาสเลย แต่ติดเชื้อหนองใน  แสดงว่าท่านท้าวเวสสุวรรณท่านต้องการให้พวกเราเห็นถึงจิต หรือมโนกรรม  คิดไม่ดีก็เกิดโทษได้ ( ติดโรค )น่าจะเป็นสาระสำคัญที่ท่านต้องการสื่อให้รู้  และอีก 3 ท่านที่เล่าเรื่องของตัวเองก็ฟังแล้วได้แง่คิดอีกเยอะ  ผ่านการมีอะไรกับคนอื่นๆเป็นร้อยๆคน
                        เมื่อถึงเวลาที่ท่านอ.อุบลนำกล่าวขอขมาและขอบารมีท่านทุกๆพระองค์ ก็จะเห็นเป็นแสงเล็กๆเหมือนหิ่งห้อย หลุดออกจากตัวพวกเรา ที่อยู่ร่วมกันในวันนั้น สำหรับคนที่เคยทำผิดศีลข้อสาม เจ้ากรรมนายเวรและคนที่เคยร่วมทำผิดด้วยกัน ยอมรับและอโหสิกรรมให้แล้ว แสงสว่างเหมือนหิ่งห้อยที่หลุดลอยหายไปเหมือนโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า   ผมขออนุญาตเล่าสู่กันฟังเพียงเท่านี้ เพื่อเป็นธรรมทาน
                                                                                                                       กราบขอบพระคุณครับ
                                                                                                                          เอก   ลูกป้าเตือน
                                 
ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) (tewaritt2-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 19:36:37 IP : 171.100.152.29

 

 

ขออนุญาตขยายตัวอักษรนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 20:18:08


ความคิดเห็นที่ 99 (1611149)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 20:36:36


ความคิดเห็นที่ 100 (1611150)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-17 20:36:37



[1] 2 3 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.