ReadyPlanet.com


ฝาก ฝัง หนี้เก่า เขากู้ สู่เหว


ฝาก ฝัง หนี้เก่า เขากู้ สู่เหว


               ใน หลักการทางพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนถึงการบริหารเงิน บริหารทรัพย์หรือบริหารเศรษฐศาสตร์การคลังไว้อย่างชัดเจน และถือว่าเป็นเศรษฐกิจแนวพุทธโดยแท้ ก็คือว่า เมื่อเรามีเงิน เราต้องแบ่งเงินออกเป็น 5 กอง ไม่จำเป็นต้องมีปริมาณเท่ากัน ไว้ ดังนี้ ฝากออมสิน ฝังดินไว้ ใช้หนี้เก่า ให้เขากู้ และทิ้งสู่เหว ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้


               ฝากออมสิน หมายถึง เอาเงินส่วนหนึ่งไปกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เช่น ซื้อหุ้นกู้ ซื้อสลากออมสิน เอาไปลงทุน เพื่อดูผลที่เป็นรายได้ในระยะยาว หรือเก็บไว้เพื่ออนาคตโดยฝากที่ธนาคารทั่วไป


               ฝังดินไว้ หมายถึง แบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้ทำประโยชน์ต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ ในลักษณะของสาธารณประโยชน์ ตอบแทนบุญคุณต่อแผ่นดินเพื่อชาติบ้านเมือง สนับสนุนส่วนรวม สร้างสรรค์ให้โลกน่าอยู่ ช่วยด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล คนเจ็บคนป่วย องค์กรกุศล มูลนิธิ เอาไปเสียภาษีอากร ที่เขาจะเอาไปสร้างสาธารณูปโภค ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ในทางธรรมจะคิดในแนวทำวัตถุทรัพย์ไปเป็นบุญเพื่อผลในโลกนี้และในโลกหน้า ฝังดินไว้จึงเหมือนเอาไปให้คนอื่นใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะพื้นแผ่นดินที่มีบุญคุณต่อเรา ให้เราเหยียบอาศัยอยู่


               ใช้ หนี้เก่า หมายถึง แบ่งเงินส่วนหนึ่งเลี้ยงดูพ่อแม่ ตอบแทนบุญคุณที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา หรือใครที่เป็นผู้ให้กำเนิดเรา หรือมีบุญคุณต่อเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชีวิต ต่ออาชีพ ต่อการเงินการงานของเรา เราต้องรู้คุณ และหาทางตอบแทนที่เรียกว่าใช้หนี้เก่าให้จงได้


               ให้เขากู้ หมายถึง แบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้เลี้ยงทายาท บุตรหลาน เป็นการลงทุนสร้างฐานสร้างทายาท เพื่อให้เขาพัฒนาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ รู้ทั้งทางโลกและทางธรรม แล้วเขาก็จะมาเลี้ยงพ่อแม่ยามพ่อแม่แก่เฒ่า นั่นคือเอาเงินไปให้เขาใช้ก่อน แล้วเขาจะใช้คืนในภายหลัง นั่นเอง


               ทิ้ง สู่เหว หมายถึง แบ่งเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้ไว้กินในชีวิตประจำวัน ให้กับตัวเองและครอบครัว การต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือน โดยเน้นคุณค่าแท้ไม่หลงต่อคุณค่าเทียม เน้นประโยชน์สูง ประหยัดสุด ตามหลักความพอเพียงความพอดี ไม่สุรุ่ยสุร่ายและไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ซึ่งต้องจ่ายไปเรื่อยๆ เหมือนเหวที่ถมไม่รู้จักเต็ม เพราะคนเราต้องกินอยู่เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตอยู่ แล้วซึ่งการบริหารเงินให้ได้ 5 ส่วนอย่างนี้ก็จะทำ ให้เป็นผู้มีชีวิตแบบพอเพียง และยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาทในการใช้จ่ายทรัพย์อีกด้วย นี่แหละเรียกว่าการใช้เงินที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ผลที่ตามมาก็คือความสุขนั่นเอง


               จะเห็นได้ว่า กระบวนการจัดสรรเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น พระพุทธศาสนาได้สอนได้แนะนำให้ประชาชนที่ศึกษาได้รู้วิธีปฏิบัติไว้อย่าง รัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายตามมาจากการใช้จ่ายทรัพย์ที่ไม่ถูกต้อง  ถ้าทำได้อย่างนี้ก็ถือดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ รู้จักตนเอง  รู้ญาติพี่น้อง  รู้จัก เสียสละ รู้จักฝึกฝนจิตใจให้มั่นคง  และผ่องใส   โดยเฉพาะคือจากการมีทรัพย์และใช้จ่ายทรัพย์ให้เป็นนั่น เอง

 

                                                                                                 
เรียงโดย แสน หยดคุณ

ที่มา  http://www.o2blog.com/myblog/blog.php?month=&year=&user=jamiemlucero&page=&syear=&smonth=&sdate=&style=1&id=192



ผู้ตั้งกระทู้ ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com) โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-29 20:22:34


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1524543)

 

ขอบคุณค่ะพี่ปุ้ม

ที่พี่ได้นำ

บทความดี ๆ

มาให้ได้อ่าน

เป็นวิทยาทาน....ในชีวิตมาก ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2010-12-29 21:08:29


ความคิดเห็นที่ 2 (1524554)

อุ๊ย.. คุ้น ๆ อ่ะ

เหมือนเคยได้ยิน อ.อุบลพูดเลย

และอีกครั้งได้อ่านในเว็บธรรมะเว็บนึง ..มัชฌิมา อะไรประมาณนี้อ่ะคะ

 

ขอบคุณคะ ที่นำมามอบให้เป็นธรรมทาน

หนูยิ่งเงินน้อยอยู่จะใช้อะไรต้องคิดดี ๆ ขอบคุณที่เตือนสติอีกครั้งคะ

(ส่วนใหญ่จะหนักไปทางทิ้งลงเหวกันเนาะ)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-29 21:51:41


ความคิดเห็นที่ 3 (1524563)

         สุดยอดเลยพี่...ชัดเจนดีมากๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-29 22:53:23


ความคิดเห็นที่ 4 (1524582)

 

         หนี้เก่า  ยังใช้ไม่หมดเลยค่ะ

ขอบคุณ  พี่ปุ้ม นะคะ  ที่นำมาตอกย้ำ  ให้ได้คิดอยู่เสมอ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2010-12-30 09:50:32


ความคิดเห็นที่ 5 (1524624)

เย้..ขอบคุณค่ะ

ต่อไปนี้ เราต้องรวยแน่ๆ  เพราะพี่ปุ้ม นำสอนการแบ่งเงิน หนี้ช่างมันก่อนนะ คุณตาล  เพราะดิฉันหนี้เยอะเหมือนกัน แต่ได้ข้อคิดอยู่หนึ่งข้อ จึงขออนุญาต นำมาฝากค่ะ ทดลองแล้ว สังเกตุ ดูแล้วเป็นเรื่องจริง  ลองดูนะคะ

เงินจะมีหรือไม่ .. ใจไม่เศร้า

ให้มาดูที่ใจเรา.. นั้นเศร้าไหม

จิตบอกรู้..ที่เป็นอยู่..ดูอะไร

ดูที่ใจถ้าไม่เศร้า   เงินเข้าเอย..

เข้าใจยากไหมคะกลอน งงไมล่ะ 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ สุวัฒนาพร (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-30 15:18:06



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.