ReadyPlanet.com


จดหมายจาก พลทหารศิริพงศ์ เพชนแสงศรี ฉบับที่ 3


 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ตาล โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-31 14:28:35


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1529938)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2011-01-31 14:31:45


ความคิดเห็นที่ 2 (1529939)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2011-01-31 14:32:33


ความคิดเห็นที่ 3 (1529940)

 

พลทหารศิรินพงศ์ เพชรแสงศรี
วันที่ 18 มกราคม 2554
               วันนี้ผมก็ใช้แรงกายสร้างบุญอย่างเต็มที่ วันนี้ผมได้สร้างราวแขวนหมวก ร่วมกับพี่เอ แฟนของพี่สุเมธด้วย พอตกดึกผมก็ได้มาปิ้งข้าวจี่   ให้ อ. อุบล ทาน มีพี่เอ พี่ตุ้ม พี่โอ๋ แล้วก็นั่งทานกันซักพัก อาจารย์ก็ถามถึงไดอารี่ของผม ผมก็บอกท่านว่าเสร็จแล้วครับ อ. ก็ถามต่อว่า “ เมื่อไรจะส่ง” ผมก็บอกว่า “ ไม่รู้จะส่งตอนไหน” แล้ว อ. ก็ถามผมว่า “เออ..งั้นก็ไม่ต้องส่ง” ผมก็เลยรีบไปเอามารอจะส่ง พอ อ. จะกลับเข้าบ้าน ผมก็ส่งให้อาจารย์ แล้วก็อยู่ต่อสักพัก ก็เข้าไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ เข้านอน ระหว่างจะหลับตา ก็มีอาการเหมือนจะโดน อย่างที่เคนโดน แต่ก็ไม่โดน มันมีความรู้สึกว่า เหมือนจะมาแต่ไม่มา ทำให้ผมมีความคิดว่าเหมือนจะโดนเตือน ให้ส่งไดอารี่ให้ อ. ทุกวัน เพราะก่อนที่ผมจะส่งให้ ในคืนนี้ผมผลัดว่า   จะส่งให้ อ. 2-3 วันได้ จะเกี่ยวกันหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยว เพราะผมเชื่อว่า       บ้านสวนฯ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นผมก็หลับ
วันที่ 19 มกราคม 2554
                วันนี้ผมได้ทำบุญใช้แรงกายอย่างเต็มกำลังเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ระหว่างผมกำลังช่วยลุงบุญ ปูกระเบื้องหลังบ้าน อ. อุบล อยู่ ๆ ผมก็เหลือบไปเห็นไส้เดือน ตัว แต่ตายไป ตัว แล้วผมก็มองมัน จากนั้นภาพที่ผมเคยทำร้ายเค้าปรากฏ ผมเคยเอาไส้เดือนไปตดปลา เคยขุดไส้เดือนแล้วพลาดไปสับเขาขาด ท่อน แล้วผมก็ได้อุทิศบุญ โดยขอบารมีพระพุทธเจ้า อุทิศบุญให้กับไส้เดือนทั้ง 3  ตัว และไส้เดือนตัวก่อน ๆ ที่เคยทำร้ายเค้า หลังจากนั้นผมก็ช่วยไส้เดือนที่ยังไม่ตาย ออกจากรางระบายน้ำ เพราะในรางระบายน้ำ มีน้ำแฟ้บ มันอาจจะตายได้
วันที่ 20 มกราคม 2554
                จากวันที่ มกราคม ถึงวันที่ 20 มกราคม ผมมีความรู้สึกว่า ตัวเองมีการเปลี่ยนแปลง และรู้สึกมีความสุขมากขึ้น ทุกวันนี้อาการที่ชอบคิดไม่ดี กับเพศตรงข้ามก็ยังมีอยู่ แต่พอรู้ตัวเองว่าคิด ก็จะรีบดึงกลับหาพระพุทธองค์อย่างไวเลย ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมไม่คิดฟุ้งซ่าน และก็สามารถห้ามความคิดไม่ดีตนเองได้ วันนี้ผมมีบาปมาสารภาพครับ อ. ครับ ผมเป็นชายชาติทหาร ผมขอสารภาพว่า ผมเวลาอยู่กับแฟน ผมชอบคิดถึงผู้หญิงคนอื่น จินตนาการของผมนั้นไกลไปถึงอยู่บนเตียงกับเค้าเลย แต่ไม่เคยบอกแฟนตัวเองเลย และก็ผมเป็นคนชอบโกหกหลายเรื่อง โดยเฉพาะพ่อและแม่ ผมชอบโกหกท่าน เพื่อให้ตัวเองได้ตังค์มาใช้ บางทีเรามีตังค์ แต่บอกท่านว่าไม่มี ผมเคยปรามาส อ. อุบล ว่าเป็นหมอดูหมอเดา (ตอนนั้นผมยังไม่เคยเห็นบ้านสวนฯ ฟังจากแม่ แล้วคิดเอง) ผมขอขมา อ. อุบล ด้วยครับ
วันที่ 21 มกราคม 2554
                วันนี้ผมมีบาปมาสารภาพอีกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่มาสร้างบุญใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ภาพที่เราเคยทำบาปมามันค่อยหลุดออกมาที่ละเล็กทีละน้อย ก็ขอสารภาพเลยนะครับ ผมเคยคิดจะข่มขื่นเพื่อน เมื่อตอน ม.ปลาย เคยคิดวางแผนแต่ก็ไม่ได้ทำ คิดแบบนี้อยู่หลายคนครับ ออกอุบายหลายอย่าง แต่พอจะเผด็จศึก ความคิดที่ดีก็สั่งว่าอย่าทำ ผมก็เลยได้แค่คิดวางแผน แต่ไม่ได้ลงมือจริงทุกครั้ง ช่วงนั้นสมองมกมุ่นอยู่กับเรื่องบบนี้เยอะมาก แล้วก็เวลาขึ้นรถสองแถว ไปไหนก็แล้วแต่ หรือรถเมล์ ผมมักจะหามุมดี ๆ แอบมองร่องอกเพศตรงข้าม ไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไง แต่ตอนนี้ผมไม่คิดแล้ว แต่ผมคิดว่ายังมีคนอีกหลายคน ที่มีพฤติกรรมเดียวกับผม 
วันที่ 22 มกราคม 2554
                เมื่อเวลา 23.00 น. โดยประมาณ ของวันที่ 21 มกราคม 2554 หลังจากนั่งสวดมนต์แล้วทำสมาธิ ตั้งแต่ 22 - 23 น. แล้วก็นั่งต่อไปอีกประมาณ 30 นาที พอเสร็จแล้วผมก็จะนอน ระหว่างนั้นเอง ผมกำลังหลับตาได้สักพัก ก็มีเสียงดังแล้วตี แล้วก็มีเสียงเข้ามาในหูชัดมากว่า “เอาแต่หลับ” เป็นเสียงที่ดังมากชัดในหูเลย น้ำเสียงออกดุดันมีพลัง ผมตกใจมาก พอจากนั้นผมก็ลืมตา แล้วคิด ๆ ดู แล้วก็รีบลุกขึ้นนั่งสมาธิต่อโดยเร็ว แล้วก็บอกหลวงพ่อว่า “ลูกไม่ไหวแล้วขอนอนนะครับหลวงพ่อ” ผมนั่งต่ออีก 30 นาที แล้วค่อยนอน พอตอนเช้าผมก็มาใช้แรงทำบุญต่อ แต่วันนี้ผมเห็นภาพที่ผมทำบาปอีกครั้ง คือช่วงบ่ายหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ผมก็ไดไปสร้างบุญใหญ่ คือไปลงแรงสร้างพีระมิด เพื่อถวายแด่เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5ระหว่างทกำลังสร้างบุญ ผมก็เห็นแมลงหวี่บินผ่านตา แล้วก็นึกได้ว่า เวลาเด็ก ๆ   เวลาที่ผมมีแผลที่ขา ชอบให้แมลงหวี่มาตอมเยอะๆ แล้วกดทับจนพวกเค้าตาย เป็นจำนวนมาก แล้วก็ทำด้วยความจงใจ พอภาพแว๊ปมาในหัว ผมก็รีบอุทิศบุญเดี๋ยวนั้นเลย หลังจากอุทิศบุญให้แล้ว ผมรู้สึกขนลุกตั้งแต่หลังจนถึงศรีษะเลย แล้วก็สร้างบุญทำพีระมิดต่อ จนถึงประมาณเที่ยงคืน แต่ก่อนหน้านั้นผมได้ไปนั่งสมาธิกับ อ. อุบล และญาติธรรมบ้านสวนฯ หลังจากนั้นผมก็ไปสร้างบุญต่อกับพี่ ๆ หลายคน ที่ผมจำได้ก็มีพี่ มร พี่ศักดิ์ พี่อมร จำได้ประมาณนี้ พอเลิกสร้างก็ไปอาบน้ำมานั่งสมาธิกับพี่สุเมธ และญาติธรรมบ้านสวนฯ ประมาณ 6-8 คน ระหว่างนั่ง พี่สุเมธในกสิณไฟ ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้อะไรมากมาย เพราะผมยังไม่เคยฝึกนั่งสมาธิแบบกสิณ พอนั่งไปสักพักผมรู้สึกหน้าตัวเองบริเวณใต้ตาข้างขวา มันจะเนก็ไม่เย็นจะร้อนก็ไม่ร้อน แต่มีความรู้สึกว่ามีน้ำไหลลงมาเหมือนน้ำตาเทียน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแปลก ๆ จากการนั่งสมาธิ นอกจากความเจ็บปวดที่ขา นั่งเสร็จแล้วก็พากันเข้านอน
วันที่ 23 มกราคม 2554
                วันนี้ก็เป็นวันรองสุดท้ายกด้วยแล้ว ที่ผมมาสร้างบุญบ้านสวนฯ   ตอนเช้าผมก็สร้างบุญต่อไป แล้วก็มีสิ่งปาฏิหาริย์เกิดกับผม ผมมาที่นี่ บ้านสวนฯ ผมมีเงินติดตัวมา 200 กว่าบาท ผมตั้งใจเก็บไว้ชำระหนี้สงฆ์    แล้วก็ว่าจะโทรหาแม่ขอยืมตังค์กลับบ้าน แต่เมื่อเช้าผมได้มีโอกาสอนุโมทนาบุญกับญาติธรรม โดยมี อ. อุบล นำบุญมาบอก ผมก็ไม่ทราบ พอผมทราบแล้วก็แค่อนุโมทนาบุญตามไป กับพี่ญาติธรรมทุกท่าน อานิสงค์เกิดฉับพลันทันที เมื่อตอนเย็นญาติธรรมต่าง ๆ ก็จะกลับบ้านกันหมด ผมเองก็ไม่คิดไม่ฝันเช่นกัน จู่ๆ พี่สิทธิ์ก็ได้มาคุยกับผม แล้วผมก็จะสวัสดีลาพี่สิทธิ์   เขาก็นำเงินจำนวน 1,000 บาท มาให้ผม ผมก็เกรงใจ ไม่กล้ารับ เพราะไม่รู้ว่าให้ผมเรื่องอะไร แต่พี่เค้าบอกว่ารับไปเถอะ เหมือนพี่เขาจะรู้ว่า ผมไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน ผมก็ต้องขอบคุณพี่สิทธิ์ และขอขอบพระคุณพระพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ ทุกพระองค์ ที่แสดงอานิสงค์เกิดฉับพลัน เมื่ออนุโมทนาบุญกับเค้า ด้วยใจพลอยยินดี อานิสงค์ก็เกิดทันที 
                จากการที่ผมได้สร้างบุญที่บ้านสวน ฯ ผมได้ประโยชน์อะไรต่าง ๆ มากมาย และผมขอขอบพระคุณ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ เทพ พรหม เทวดา   ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ องค์เทพสฟิ้งซ์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีเมตตาให้โอกาสลูกได้สำนึกผิดอย่างจริงใจ และคิดจะตั้งใจทำแต่ความดี และขอขอบคุณ อ. อุล ที่ท่านเมตตาให้โอกาสผม ได้สำนึกผิด ให้โอกาสผมได้สร้างบุญ ผมขอขอบคุณอาจารย์จริง ๆ ครับ
วันที่ 24 มกราคม 2554
                วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการมาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ แต่ไม่ใช่วันท้ายสุดนะครับ ผมยังจะมาสร้างบุญอีกเรื่อย ๆ และตลอดไป เพราะผมต้องกลับไปรับใบปลดประจำการทหาร วันที่ กุมภาพันธ์ 2554 ก็ที่ผมจะกลับผมก็มีเรื่องมาเล่าเป็นธรรมทาน ให้ทุกท่านได้สดับฟังอีกแล้วครับ
                เมื่อคืนวันที่ 23 มกราคม 2554 ผมก็โดนลากอีกแล้วครับ ผมจำได้ว่ามีเสียงผู้หญิงเรียกชื่อท่านท้าวเวสสุ วรรณ   ระหว่างกำลังลากนั้น ผมมีความกล้าที่จะลืมตาดู ไม่กลัวเหมือนเมื่อก่อน พอลืมตาดูก็ไม่เจออะไรเลย หลังจากนั้นผมก็ได้ฝันเห็น อ. อุบล และได้กอดท่าน และร้องไห้เหมือนได้กอดแม่เลย ในตอนที่ผมกอดท่านในฝันนั้น อบอุ่นมาก เหมือนแม่ที่ให้อภัยลูก ที่ผมเคยทำผิดพลาดมา
                เรื่องของผมยังไม่จบแค่นี้นะครับ กลับบ้านไปผมจะพยายามหาเวลา มาเล่าประสบการณ์ หลังมาทำบุญบ้านสวนฯเป็นระยะ ๆ ผมมีความสุขมากครับตอนนี้ ต่างจากวันที่ผมมาวันแรกเยอะมาก
                สุดท้ายนี้ ผมขอขอบพระคุณ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ เทพ พรหม เทวดา   ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ องค์เทพสฟิ้งซ์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ บารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และท่าน อ. อุบล ที่ทรงมีเมตตาให้ผมมีโอกาสกลับตัว สำนึกผิด ชี้ทางสว่างให้ผมได้เห็น ผมก็จะเดินตามแสงสว่างนั้น จะเดินตามรอยพระพุทธเจ้า   (ผมต้องขออภัยที่ลายมือผมไม่สวย เรียงคำไม่ถูกบ้าง แต่เขียนมาจากความรู้สึกจริง ๆ ) ผมขออนุโมทนาบุญทุกบุญ ที่ญาติธรรมบ้านสวน ฯ สร้างมาทุก ๆ บุญ สาธุ.....
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2011-01-31 14:35:48


ความคิดเห็นที่ 4 (1530020)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

คุณน้องศิริพงศ์

จะคอยติดตามตอนต่อๆๆไปค่ะ

ขอขอบคุณคุณตาลด้วยนะค๊ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อุไรวรรณ อติโพธิ วันที่ตอบ 2011-02-01 00:17:02



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.