ReadyPlanet.com


หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง


ทำบุญจะต้องอธิษฐานไหม

 

ผู้ถาม:  หลวงพ่อคะ เวลาทำบุญนี่จำเป็นไหม เราจะต้อง

อธิษฐาน?

หลวงพ่อ: 

จำเป็นหรือไม่จำเป็นฉันก็ถือว่าจำเป็น

 มันตรงทางดี

ถ้าไม่อธิษฐานนี่มันไม่ตรงทางนะ

อย่างสมมติว่าชาตินี้

เรามีโอกาสเป็นพระอริยเจ้าได้

แต่เราขาดอธิษฐานบารมี

กรรมอื่นมันตีเป๋ได้

ตัวอย่างอาฬวีเศรษฐี

นี่ภายหลังมาเป็นขอทาน

พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า

ถ้าสมัยอาฬวีเศรษฐียังเป็นเศรษฐี

ฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าก็จะเป็นพระอริยเจ้าได้

 แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐีเป็นขอทาน

พระพุทธเจ้าเทศน์เท่าไรก็ไม่มีผล

เพราะขาดอธิษฐานบารมี

 

ผู้ถาม:  และถ้าอธิษฐานขอไปพระนิพพานนี่ มากเกินไปสำหรับคนธรรมดาทั่วไปไหมคะ?

 

หลวงพ่อ: 

ไม่มีมาก

นิพพานนี่ไม่มีมาก

ที่ว่างมากเหลือเกิน

โลกมนุษย์เราหนึ่งโลก

 ไม่เท่ามุมหนึ่งของพระจุฬามณี

 จะไปเทียบกับดาวดึงส์ก็ไม่ได้

ดาวดึงส์โตมากใช่ไหม

จุฬามณีเป็นจุดหนึ่งของดาวดึงส์

 เป็นที่ตั้งของเจดีย์

 และโลกเรานี่เล็กกว่ามุมหนึ่ง

นิพพานนี่กว้างใหญ่กว่า

ฉันว่าทั้งคนทั้งมด

ทั้งปลาทั้งปลวก

อะไรทั้งหมด

 ไปนิพพานนี่ยังไม่เต็ม

ที่ยังว่างมาก

ถ้าหากว่าบังเอิญที่มันน้อย

ฉันจะจับจองไว้ก่อนจะขาย

ที่นี้มากเกินไปจับจองไม่ไหว...(หัวเราะ)

 กลุ่มคนที่ถึงนิพพานแล้วกับบริเวณน่ะ

ยังไม่รู้เทียบกี่แสนเท่า

ยังมากอยู่

อากาศนี่ไม่มีขอบเขตนะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-04-24 10:47:08


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1607864)

ไม่ต้องการผ่านสำนักพระยายม

 

 

ผู้ถาม:  ลูกขอกราบเรียนถามว่า ถ้าไม่ต้องการผ่านสำนักพระยายม จะต้องทำบุญด้วยอะไรครับ?

 

หลวงพ่อ: 

ถ้าไม่ต้องการผ่านสำนักพระยายม

ต้องเกาะจรวดรีบขึ้นสวรรค์น่ะ

วิธีทำบุญก็

 

๑.ทานต้องมี

 

๒.ศีลบริสุทธิ์

 

๓.มีความเคารพในพระไตรสรณคมน์

 

๔.หวังนิพพานเป็นที่ไป

 

ถ้าทำใจได้อย่างนี้เป็นปกติ

ขอยืนยันว่า

ไม่ต้องผ่านสำนักพระยายม

ไปตรงสวรรค์ พรหมโลก หรือนิพพาน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-24 12:01:24


ความคิดเห็นที่ 2 (1607943)

ผู้ถาม  หลวงพ่อคะ ถ้าลูกสาวถามว่าพระแม่มาเรียคือใคร เราตอบว่าเป็นเทวดาจะถูกไหมคะ?

 

หลวงพ่อ :ไม่ถูก..ผู้หญิงเป็นเทวดาไม่ได้

ผู้ถาม อ๋อ! เป็นนางฟ้าหรือคะ?

หลวงพ่อ : นางฟ้าก็ไม่ถูก

ผู้ถาม จะตอบว่ายังไงดีเจ้าคะ?

หลวงพ่อ :

 

ไม่รู้จะตอบยังไง

 

 เขาถามแน่

 

เราก็ตอบแน่

 

 ตอบไม่รู้ใช่ไหม

 

เราก็ตอบเขาซิ

 

เป็นแม่พระเยซู

 

ก็หมดเรื่องหมดราวไป

 

ถ้าเราไปเดาเป็นนางฟ้า

 

เป็นพรหม

 

ถ้ามันไม่ตรงล่ะ

 

 ทำให้ลูกเข้าใจผิด"

 

 

ผู้ถาม  ถ้าลูกเขาถามว่าพระเยซูเป็นใคร เราจะตอบว่าอย่างไรเจ้าคะ?

หลวงพ่อ :

 

พระเยซูก็เป็นพระเยซู

 

พระเยซูเป็นพระเจ้าของพวกคริสต์

 

 แต่พระเจ้าจริงๆ

 

 ก็ไม่ใช่พระเยซู

 

พระเยซูท่านก็ถือว่าเป็นศาสดา

 

 ศาสดาแปลว่าครู

 

เป็นครูสอนในศาสนานั้น

 

 ถ้าถามว่าพระเจ้าเป็นใคร

 

พวกคริสต์พวกแขกก็ตอบไม่ได้อีก

 

 เพราะไม่เคยเห็นพระเจ้า

 

เป็นอันว่าพระเยซู

 

จะว่าท่านไม่ดีก็ไม่ได้

 

ฉะนั้นคนที่มีความดี

 

เราต้องกล่าวว่าเขาดี

 

จะตำหนิส่งเดชว่าเขาเลวไม่ได้

 

 ดีต้องว่าดี

 

 ดีมันก็มีหลายขั้น

 

 ดีแค่เกิดมาเป็นมนุษย์

 

 ดีแค่เกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์

 

 ดีแค่เกิดเป็นพรหม

 

หรือดีถึงนิพพาน

 

ดีมีหลายขั้นตอน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-24 21:56:43


ความคิดเห็นที่ 3 (1607945)

ผู้ถาม:  เพื่อนของผมเวลานั่งสมาธิแล้วมีอาการเหมือนตัวใหญ่หนาขึ้น และตัวเอนลงไปข้างหลัง จะแนะนำให้เขาปฏิบัติอย่างไรต่อไปครับ?

 

 

หลวงพ่อ : 

 

ก็ต้องขอแนะนำว่า

 

เวลาปฏิบัติพระกรรมฐานนั้น

 

 อาการทางกายมันจะเกิดขึ้นอย่างไร

 

ก็อย่าไปสนใจ

 

 เพราะเป็นอาการของจิต

 

ที่จะเข้าถึงอุปจารสมาธิ

 

นี่ต้องเข้าถึงปีติก่อน

 

ปีติแปลว่าอิ่มใจ

 

แบ่งเป็น ๕ ขั้น

 

ขั้นที่ ๑ ขนลุกชัน ขนพองสยองเกล้า

 

เวลาทำไปบางทีขนลุกซู่ซ่า

 

ขั้นที่ ๒ น้ำตาไหล

 

ขั้นที่ ๓ ร่างกายโยกโคลง

 

ขั้นที่ ๔ มีอาการสั่นเทิ้ม

 

เหมือนกับปลุกพระ

 

หรือว่าตัวลอยขึ้นบนอากาศ

 

ขั้นที่ ๕ มีอาการซาบซ่าน

 

ถ้ามีขนาดถึงที่สุด

 

จะมีความรู้สึกว่าตัวไม่มี

 

มีแต่หน้า

 

รวมความว่าอาการ ๕ อย่าง

 

อย่างใดอย่างหนึ่ง

 

ถ้าเกิดขึ้นก็ต้องปล่อยมัน

 

เรารักษากำลังใจของเรา

 

ให้เป็นสุขก็แล้วกัน

 

อาการอย่างนั้นมันเกิดขึ้นก็จริง

 

แต่ใจมันจะทรงสมาธินั่งสบายๆ

 

มีอารมณ์เป็นสุข

 

เป็นอาการของปีติ

 

ในเมื่อสมาธิมันสูงขึ้นมันก็ผ่าน

 

 อาการอย่างนั้นมันก็หายไป

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-24 22:02:03


ความคิดเห็นที่ 4 (1607946)

ผู้ถาม :  นั่งสมาธิจับภาพพระพุทธเจ้าแต่เห็นเพียงด้านข้าง

 นิมนต์ให้หันหน้ามาทีไร ไม่ยอมหันมา ให้หลวงพ่อแนะนำวิธีหันหน้าให้หน่อยได้ไหมครับ?

 

หลวงพ่อ : (หัวเราะ)

  

 ท่านไม่หันมาหาเรา

 

เราก็หันไปหาท่านก็หมดเรื่อง

 

จะเป็นไรไป

 

เห็นส่วนใดส่วนหนึ่ง

 

จะลำบากใจไปทำไม

 

ถือว่าเราเห็นพระพุทธเจ้า

 

เราพอใจ ใช้ได้

 

นั่นแสดงว่า

 

กำลังใจที่หวังนิพพานจริงๆต่ำไป

 

ไม่เด็ดขาด

 

 ก่อนที่จะภาวนา

 

ควรจะใคร่ครวญเสียก่อนว่า

 

ร่างกายนี้มันเป็นอนิจจัง

 

มันเป็นของไม่เที่ยง

 

เกิดขึ้นมาแล้วเจ็บ

 

เป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วก็แก่

 

 เป็นคนป่วย

 

ทุกขัง

 

ร่างกายมีสภาพ

 

เต็มไปด้วยความทุกข์

 

อนัตตา

 

ต้องตายไปในที่สุด

 

ขึ้นชื่อว่าร่างกายเลวๆอย่างนี้

 

เราจะไม่มีมันอีก

 

เราต้องการนิพพาน

 

ถ้าร่างกายเราพังเมื่อไรไปนิพพาน

 

 เท่านี้พระพุทธเจ้าจะหันหน้ามาหา

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-24 22:05:02


ความคิดเห็นที่ 5 (1607972)

อนุโมทนากับธรรมทาน

ด้วยนะคะน้องเบ็ญจมาศ

 

แหม่..คำถามสุดท้ายเนี่ย

ตรงใจชนิดามากๆ เพราะเมื่อตอนฝึก

จับภาพพระใหม่ๆ

มักจะเห็นแต่ด้านข้างบ้าง

มุมๆบ้าง ตอนนั้นก็"ขำๆ"ตัวเองเหมือนกัน

 

ตอนนี้ พระองค์เมตตามาแบบเต็มๆแล้ว

แต่"จิตฟุ้ง"บ่อย ภาพพระ

ก็เลย"หลุด"บ่อยๆเหมือนกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-25 05:38:50


ความคิดเห็นที่ 6 (1607974)

โมทนากับธรรมทานของ

คุณเบ็ญจมาศ

"หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม"

ด้วยนะคะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-25 07:01:48


ความคิดเห็นที่ 7 (1608255)

ผู้ถาม:  ลูกขออธิษฐานสร้างความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพานขอตัดในเรื่องของบุพเพสันนิวาสเพราะเห็นว่ามีแต่ความทุกข์ โอกาสที่จะพ้นทำอย่างไรเจ้าคะ?

 

หลวงพ่อ:

 

ก็ไม่ยาก

 

ไม่สนใจมันเลย

 

 บุพเพสันนิวาสต้องการจะพ้น

 

 เอาแบบฉันนี่ซิ

 

บวชเสียเลย

 

ผู้ถาม คนนี้เป็นผู้หญิงครับ

 

หลวงพ่อ:

 

เป็นผู้หญิงก็บวชได้

 

 บวชชี

 

ผู้ถาม:  ถ้าหากว่าคู่จริงๆ เขามาจะทนไหวหรือครับ?

 

หลวงพ่อ: 

ก็เราไม่ยุ่งกับมัน

 

ความจริงแล้วมันตัดได้นะ

 

ถ้าเราตั้งใจเสียจริงๆ

 

 เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน

 

 ตั้งใจว่าเราจะไม่แต่งงานกับใคร

 

ขอบารมีพระพุทธเจ้า

 

เท่านี้ก็หมดเรื่อง

 

 กลัวอย่างเดียว

 

 เราจะวิ่งไปหาเขา

 

ไอ้ที่แต่งงานไม่แต่งงาน

 

มันเป็นอย่างนี้นะ

 

 ถ้าหากว่าชาติไหน

 

ถือเนกขัมมบารมี

 

ถ้าเราลงมาจริงๆ แล้ว

 

พวกบุพเพสันนิวาส

 

เขาก็ไม่มา

 

มาไม่ได้

 

มาก็บุพเพอาละวาด

 

ที่ทุกข์หนักก็บุพเพอาละวาดนี่แหละ

 

 เช้าด่าเย็นด่า

 

เช้าตุ้บเย็นตั้บ

 

 ฉะนั้นไม่มีได้น่ะดีแล้ว

 

แสนจะสุโขๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-26 21:34:15


ความคิดเห็นที่ 8 (1608258)

ผู้ถาม:  ถ้าสร้างพระพุทธรูปปางนิพพานจะหนีกรรมได้ไหม?

 

หลวงพ่อ: 

หนีกรรมได้

 

เป็นการสร้าง

 

กำลังความดี

 

ให้สูงเข้าไว้

 

ผู้ถาม:  ยังงั้นเราก็สร้างพระมากๆ ซิคะ?

 

หลวงพ่อ: 

 

ประเดี๋ยววัดไม่มีที่เก็บอีก

 

มีกรรมอีก

 

ต้องไปสร้างตึกให้พระอยู่อีก

 

เอาไหม?

 

ผู้ถาม:  (หัวเราะ)

 

หลวงพ่อ:

 

สร้างพระมากๆ

 

เป็นพุทธบูชา

 

เป็นพุทธานุสสติ

 

ไม่ดีเรอะ

 

ในกรรมฐาน 40 กอง

 

ท่านบอกว่า

 

กำลังพุทธานุสสตินี่

 

เป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด

 

ง่ายกว่ากองอื่นที่สุด

 

และรวดเร็วกว่าอย่างอื่น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-26 21:37:04


ความคิดเห็นที่ 9 (1608259)

ผู้ถาม:  คืนวันหนึ่งลูกตื่นขึ้นมาตี 3 รู้สึกว่าตาพร่า มีอารมณ์หงุดหงิด รู้สึกว่าคุมอารมณ์ไม่ได้เลย เห็นตัวอะไรไม่ทราบทะมึนๆ ดำๆ จะเข้ามาประหัตประหารลูกอย่างนั้นแหละ ลูกจึงรีบลุกขึ้นไปเอายันต์เกราะเพชรมาถือไว้  ปรากฏว่าอาการดังกล่าวค่อยๆ เบาไปๆ ลูกอยากจะเรียนถามหลวงพ่ออย่างนี้ว่า  ก่อนจะนอนควรจะตั้งอารมณ์ไว้อย่างไร เมื่อลุกขึ้นมาเจอปัญหาเช่นนี้ แล้วเราจะได้ไม่ตกใจเจ้าค่ะ?

 

หลวงพ่อ:

 

เอาอย่างนี้ซิ

 

ตั้งใจนึกถึงพระพุทธเจ้าท่านนะ

 

ขอท่านเป็นที่พึ่ง

 

และป้องกันอันตราย

 

 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

 

เทวดาที่รักษาตัวอยู่มีหลายองค์

 

(หลวงพ่อนิ่งไปสักครู่หนึ่ง จึงตอบว่า)

 

เอ๊ะ! ดำๆนี่ไม่ใช่ผีนี่

 

พวกย่องมาแล้ว

 

 เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช

 

บอก

 

ผมไม่ใช่ผีนะครับ

 

ผมคุมมันอยู่

  

กันผีอื่น

 

มันเสือกกลัวผม

 

  กำลังจะนึก

 

บอกให้เทวดาที่คุมตัวคุ้มครอง

 

 ท่านมาพอดี

 

อย่างนี้คาถาไม่ได้ผลหรอก

 

 ฉันเคยโดนมาแล้ว

 

ผู้ถาม:  โอ้โฮ! อย่างหลวงพ่อขนาดนี้ยังเจออีกหรือครับ?

 

หลวงพ่อ: 

ฉันเจอหนักกว่านี้อีก

 

ถ้าจะเล่าให้ฟัง

 

3-4วัน

 

ก็ไม่จบหรอก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-26 21:39:08


ความคิดเห็นที่ 10 (1608262)

ขออนุโมทนากับธรรมทานของพี่เบ็ญด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) (poj9494-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-26 22:10:09


ความคิดเห็นที่ 11 (1608433)

 

 

                              ขออนุโมทนากับธรรมทานของน้องเบ็ญจมาศค่ะ

                             ซึ่่งอาการของป้าหมูก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัว

                             ขณะปฏิบัติธรรมค่ะก่อนนั้นแค่ตัวโยก

                              ตั้งแต่ ตุลาคม ปี 2552 สั้นเทิ้มหัวหมุนติ้วๆค่ะ

                              ตอนนี้เลยเปลี่ยนปฏิบัติธรรมเดินค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุภาภรณ์ รังษีชัชวาล (supapone-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-28 17:25:25


ความคิดเห็นที่ 12 (1609175)

ผู้ถาม:  กระผมเป็นฆราวาส กินอาหารมื้อเดียว ทำอย่างนี้โดยตลอด ไม่ทราบว่าจะมีอานิสงส์เป็นไปข้างหน้าอย่างไรครับ?

หลวงพ่อ :  

อานิสงส์ปัจจุบันคือ

 

1.เปลืองอาหารน้อย

 

เพราะกินเวลาเดียว

 

2.มีเวลาทำงานมากขึ้น

 

ข้างหน้าต่อไป

 

อานิสงส์ใหญ่คือตาย

 

 ก็แค่กินเวลาเดียว

 

ยังวัดฐานะอะไรไม่ได้เลย

 

 อย่าไปนึกว่า

 

มันดีเด่นกว่าใครเขานะ

 

 กินเวลาเดียว

 

กิน2เวลา กิน3เวลา

 

มีความหมายเสมอกัน

 

สำคัญว่าใจตัดกิเลสได้หรือเปล่า

 

เขาเอากันตรงนั้น

 

 ถ้าถือแค่กินนี่

 

มันเป็นมานะทิฐิ

 

เป็นกิเลสหยาบมาก

 

 อีกอย่างหนึ่งตายเร็วมาก

 

 อย่าไปนึกว่าดีนะ

 

 และถ้านั่งคุยว่านี่ฉันกินเวลาเดียว

 

 เสร็จเลย

 

 นี่เป็นมานะกิเลส

 

พังเลย

 

ผู้ถาม :  อย่างนี้แทนที่จะไปดี ก็เลยไป...

 

หลวงพ่อ :

ก็ไปดี

 

หมายความว่า

 

ก่อนจะไปก็เปลืองน้อย

 

 เพราะฉะนั้น

 

อย่าถือเป็นเรื่องสำคัญนะ

 

 ไอ้กินเวลาเดียว2เวลา

 

กินเนื้อสัตว์ ไม่กินเนื้อสัตว์

 

นี่อย่านะอย่าถือเป็นเรื่องสำคัญ

 

 ถ้าคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์

 

ต้องตอบอย่างหลวงปู่แหวน

 

เคยมีคนมาเล่าให้ฟัง

 

มีคนหนึ่งแกบอกหลวงปู่แหวนว่า

 

เวลานี้ผมถือมังสวิรัติครับ

 

ไม่กินเนื้อสัตว์

 

หลวงปู่แหวนท่านบอก

 

ไอ้วัวควายกินหญ้าตั้งนาน

 

ไม่เห็นเป็นอรหันต์สักตัว

 

ตอบนำสมัย

 

 ไม่ใช่ทันสมัย

 

ถ้าเรื่องเป็นความจริงตามนั้น

 

 แค่การกินไม่มีความหมาย

 

ในการปฏิบัติ

 

 แต่ปฏิบัติจริงๆ มันอยู่กับ

 

1.เข้าถึงสะเก็ดพระศาสนา

 

แล้วหรือยัง

 

2.เข้าถึงเปลือก เข้าถึงกระพี้

 

เข้าถึงแก่น แล้วหรือยัง

 

เข้าถึงแก่นนี่ยังใช้ไม่ได้นะ

 

 ยังเป็นเหยื่อของอบายภูมิ

 

จะต้องเข้าถึงพระโสดาบัน

 

เป็นอย่างต่ำ

 

 เขาวัดกันตรงนี้

 

 อย่าวัดกันแค่กิน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-04 00:45:59


ความคิดเห็นที่ 13 (1609177)

ผู้ถาม:  หลวงพ่อเจ้าขา  ลูกได้อ่านหนังสืออ่านเล่นเล่ม 1 ปรากฏว่ามีข้อความอยู่ตอนหนึ่ง ตอนท้ายๆ เล่มบอกว่า  หญิงที่มีครรภ์ถ้าอยากได้ลูกผู้หญิงสวยๆ ให้หาภาพสวยๆ มาดู แล้วก็ถ้าหากอยากให้ลูกผู้ชายสวยๆให้หาภาพพระพุทธรูปมาดู ปัญหาก็คือว่า ตอนที่ลูกผู้ชายออกมา แกจะมีเกศแหลมหรือเปล่าเจ้าคะ?

 

 

หลวงพ่อ: 

(หัวเราะ) อันนี้พ่อแม่จะรวยใหญ่

 

ผู้ถาม:  มีเกศแหลมนี่นะครับ

หลวงพ่อ: 

ใช่..ปิดวิก

 

คนไม่เคยเห็น

 

ถ้าหน้าตาดีๆ

 

แต่งตัวสวยๆ100บาท

 

ถ้านุ่งผ้ากะรุ่งกะริ่งให้50บาท

 

กางเกงขาสั้นข้างยาวข้าง 25 บาท

 

ถ้าเด็กๆ เอา10บาท

 

เขาเอาแค่สวย

 

อย่าไปจำแหลมซิ

 

ผู้ถาม:  นี่ถ้าใครกำลังตั้งครรภ์ อยากมีลูกสาวสวยๆให้ดูภาพปุ๋ยนะ                         

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-04 00:49:26


ความคิดเห็นที่ 14 (1609224)

ผู้ถาม:  หลวงพ่อคะ การใส่บาตรวิระทะโย มีอานิสงส์อย่างไรคะ?

หลวงพ่อ:

 

อานิสงส์เท่ากับการถวายสังฆทานธรรมดา

 

 ไม่ต่างกัน

 

 อานิสงส์เหมือนกันหมด

 

 แต่ว่าใช้วิระทะโย (คาถาภาวนากันจน)

 

มันมีผลปัจจุบัน

 

ชาตินี้ทำให้เงินไม่ขาดตัว

 

ถ้าใส่บาตรทุกวัน

 

 สวดมนต์อยู่เสมอ

 

 ถ้าจะหมดก็มีมาต่อจนได้

 

 ถ้าแบ่งเวลาทำสมาธิละก็

 

 ขลังมาก

 

รวยมากหน่อย

 

ผู้ถาม:  แล้วอย่างถวายเหล็กนี่มีอานิสงส์อย่างไรคะ?

 

หลวงพ่อ: 

ถวายเหล็กรึ

 

 ชาติหน้าจะมีเหล็กเป็นอาหาร

 

ผู้ถาม:  (หัวเราะ)

 

หลวงพ่อ:

 

ถวายเหล็กจัดเป็นวิหารทาน

 

 มีอานิสงส์สูงสุด

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-04 12:08:32


ความคิดเห็นที่ 15 (1609226)

ผู้ถาม : ...ทีนี้เรื่องการถวายสังฆทานนะครับ ถ้าสังฆทานแมวได้หรือเปล่าครับ?

หลวงพ่อ :

เอาแมวมาถวายสังฆทานเหรอ

 

พระไม่รับหรอก

 

ผู้ถาม :  ไม่ใช่อย่างนั้นครับหลวงพ่อ คือที่บ้านผมมีแมวชื่อมงคลป่วย เพราะถูกแมวใหญ่กัด  ไม่กินข้าว5-6-7วัน ก็นึกในใจว่าทิ้งไว้ไม่ได้แน่ ทำท่าจะตาย ก็เลยขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์มีวัดท่าซุงเป็นที่สุด และบอกว่าท่านหากว่าเจ้าหายละก็ พ่อจะถวายสังฆทาน

 

หลวงพ่อ : อ๋อ...ถวายสังฆทานให้แมว

 

ผู้ถาม :  ครับ

 

หลวงพ่อ :  เจตนาเป็นกุศล ใช้ได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-04 12:11:29


ความคิดเห็นที่ 16 (1609228)

 

ผู้ถาม :  หลวงพ่อเจ้าขา ลูกเดี๋ยวนี้ก็ทำบุญแบบใหม่ คือว่าวัดไหนไม่มีโอ่งน้ำถวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบสร้างแท็งก์น้ำ ขุดบ่อน้ำให้แก่วัดเป็นประจำ ทีนี้ก็มีอีกครั้งทำแป๊บน้ำท่อน้ำต่อเข้าวัด เมื่อต่อเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ปรากฏว่าลูกฝันว่าลูกไปที่วิมานของตัวเอง ปรากฏว่าน้ำท่วมจมไปเลย ลูกก็หายใจไม่ออก ก็เลยมาปรึกษาหลวงพ่อว่าที่ถวายไปนั้นขอคืนได้ไหม ลูกอยู่วิมานหายใจไม่ออกเจ้าค่ะ

 

หลวงพ่อ :  (หัวเราะ)

 

นี่ประเดี๋ยวจะขอคืน

 

น้ำแห้งอดน้ำตายนะ

 

 นั่นเขาทำให้ดูว่า

 

การให้น้ำมันมากมายขนาดนี้

 

และความเป็นทิพย์

 

ถ้าเราไปจริงๆ

 

เป็นของพอดีๆ

 

ไม่น้ำท่วมตายหรอก

 

ผู้ถาม:  ถ้าเป็นทิพย์จริงๆ ทุกอย่างจะพอดีหมด

 

หลวงพ่อ:  

จะพอดีหมด

 

 ที่บ้านฉันเหมือนกัน

 

 ถ้าคนอื่นไปแล้วเข้าไม่ได้

 

ตั้งแต่ในบ้านยันรั้ว

 

เข้าไม่ได้เลย

 

 เพราะซ้อนกันหลายชั้นเต็มหมด

 

 และถามพระพุทธเจ้า

 

ผมจะอยู่ไงนี่

 

ท่านบอกแกเสือกทำไว้มาก

 

ท่านบอกเอางี้ซิ

 

 แกพอใจขนาดไหนนึกตามนั้น

 

  พอนึกตามพอใจ

 

มันหายหมดเหลือพอดีๆ

 

 นั่นเขาทำให้ดู

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-04 12:14:25


ความคิดเห็นที่ 17 (1609788)

ผู้ถาม :  อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า ปฏิปทาของพระโพธิสัตว์ที่เป็นฆราวาสกับพระแตกต่างกันอย่างไร และจะมีวิธีสังเกตได้อย่างไรครับ?

หลวงพ่อ: 

ปฏิบัติคนละทาง

ชาวบ้านกินข้าวได้ไม่เลือกเวลา

พระจะต้องเลือกเวลา

อย่างอื่นจะต่างกันตรงไหนเล่า

 มันเหมือนกันนั่นแหละ

จิตใจกว้างขวางเหมือนกัน

 แต่กำลังบารมีแค่ไหนสังเกตอีกทีนะ

 พระโพธิสัตว์ไม่หวังความสุขของตัวเอง

 มุ่งความสุขของผู้อื่น

 ถ้าหากว่าท่านช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขได้

ท่านพอใจมาก

 

ผู้ถาม:  แล้วผู้ที่เป็นพระอริยะแล้ว  ถ้าปรารถนาพุทธภูมิจะสามารถสำเร็จได้ อันนี้จริงหรือเปล่าครับ?

หลวงพ่อ: 

ถ้าเป็นพระโสดาบันแล้ว

 ไม่มีใครเขาปรารถนาพุทธภูมิ

จะมีความเข้มแข็งขนาดไหนก็ตาม

อย่างเก่งก็แค่ฌานโลกีย์เท่านั้น

ถ้าเป็นพระอริยะไปแล้วก็ถือว่าเป็นสาวกไปแล้ว 

ไม่มีทาง 

ก็คิดปรารถนาให้โง่ทำไมล่ะ

พระพุทธเจ้าก็ปรารถนานิพพาน

 พระสาวกก็ปรารถนานิพพาน

 เราก็ปรารถนานิพพานเสียเลยไม่ดีรึ

ถ้าแม้จะยอมเสียเวลาก็เป็นไม่ได้

เพราะเป็นพระอริยะแล้ว

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-08 23:11:08


ความคิดเห็นที่ 18 (1614378)

ทานที่มีกำลังสูงมาก

 

นั่นก็คืออภัยทาน

 

การให้อภัยคือไม่โกรธตอบ

 

ไม่คิดประทุษร้าย

 

ใจเป็นสุขมาก

 

ตัวนี้กำลังใจสูงมาก

 

ถ้าท่านทั้งหลายให้อภัยทานเป็นปกติ

 

ขอพยากรณ์ได้ว่าท่าน

 

จะเป็นอรหันต์ภายใน ๗ ปี

 

แต่เวลาที่ให้อภัยทานนั่น

 

อย่าให้จิตมันขุ่นนะ

 

ให้มันใสอยู่เสมอ

 

ขึ้นชื่อว่าความโกรธไม่มีในเรา

 

จิตให้อภัยอยู่เป็นปรกติ

 

ไม่ใช่โกรธแล้วมานั่งให้

 

ใหม่ๆมันต้องโกรธซะก่อน

 

แล้วมานั่งให้

 

ให้อภัยทานจนกระทั่งไม่มีความรู้สึกโกรธ

 

ไม่โกรธตอบ

 

นี่เป็นอนาคามีแล้วนะ

 

ถ้าลงไม่โกรธเป็นอนาคามี

 

อรหันต์จะไปไหนเสีย

 

 

 

(ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๕๔ หน้า ๕๘)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-07 10:36:38


ความคิดเห็นที่ 19 (1614410)

ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ ทำไมแต่ก่อนไม่เคยสนใจเรื่องบุญเรื่องกุศล ร่างกายแข็งแรงดีกระปรี้กระเปร่า แต่พอลูกเริ่มศึกษาธรรมะ ทำบุญเป็นประจำเริ่มตั้งแต่นั้นมา ก็เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เสมอ อันนี้เป็นเพราะอะไรขอรับ?

 

หลวงพ่อ : เก่งๆคนนี้เก่งมาก  อย่าลืมว่าเจ็บไข้ได้ป่วยมันเป็นทุกข์นะ ทุกข์คืออริยสัจ  คนเห็นอริยสัจคือเห็นทุกข์ นี่จะไปนิพพานได้ง่าย ถ้าไม่ป่วยไม่มองเห็นทุกข์ ถ้าไม่มองเห็นทุกข์ตัวเดียว วิปัสสนาญาณทุกตัวเห็นไม่ได้

 

ผู้ถาม : อย่างนั้นคนที่ป่วยเป็นปกติ ปี 30 ป่วยทุกวัน ไม่เว้นเลย นี่คนมีบุญมากต้องป่วยมาก(หัวเราะ) ความจริงเรื่องป่วยนี่นะฉันว่าว่า  คนนี้มีความสามารถมาก เพราะว่าถ้าไม่บำเพ็ญบุญ เขาก็ไม่ป่วย ถ้าบำเพ็ญบุญขึ้นมาก็ป่วย ทีนี้ต้องย้อนไปถามเจ้าของว่าคิดถึงนิพพานหรือเปล่า    ถ้าต้องการนิพพาน เจ้าตัวกรรมตัวเก่ามันคิดว่าจะหนีบ้าน มันก็ทวง กุก็ทวง มะรุมมะตุ้มละ ทีนี้เราจะได้มองเห็นร่างกายเป็นทุกข์ การเกิดเป็นทุกข์ใช่ไหม เห็นทุกข์ตัวเดียวไปนิพพานได้ง่าย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-07 12:33:14


ความคิดเห็นที่ 20 (1614568)

 


จิตสูญจากกิเลสจึงจะเข้าพระนิพพานได้
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง


บางคนที่มีทิฐิว่า ... พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้วย่อมไม่ปรากฏอีก 
โดยอ้างพระบาลี "นิพพานัง ปรมังสุญญัง" 
คำว่า สูญ นั้นหมายถึง สูญจากกิเลส จิตสูญจากกิเลสจึงจะเข้าพระนิพพานได้

จิตมัวหมองไม่รู้ตามความเป็นจริง แปลบาลีผิดจากความหมายพระพุทธองค์ 
จิตก็หลงทางไปสู่อบายภูมิเพราะเป็นจิตไม่ฉลาด

ที่มา : FB ศูนย์ุพุทธศรัทธา
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น (ratanapoolchuen-at-yahoo-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-08 01:01:38



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.