ReadyPlanet.com


รวมพลคนนักฆ่า


 รวมพลคนนักฆ่า

การเป็นนักฆ่าไม่ได้จับสลากได้  ต้องเป็นผู้ที่มีใจอยากให้ผู้อื่นตายได้สำเร็จ แล้วลงมือกระทำเอง ร่วมกัน จ้างวาน รู้เห็น รวมใจพลอยยินดี สมน้ำหน้าที่เขาตาย ตั้งใจ ไม่ตั้งใจ  หลายวิธีการที่จะทำให้ผู้อื่นตายก็แตกต่างกันไป ส่วนจะฆ่าเพื่ออะไร  ฆ่าเพราะอะไร และฆ่าเพื่อใคร เป็นสิ่งที่อ้างมาประกอบการตัดสินใจลงมือฆ่า เช่น 

- การฆ่าตั้งแต่อยู่ในท้องเป็นการฆ่า ด้วยคิดว่า หากอยู่ไปหรือมี ชีวิตอยู่ เขาจะต้องประจานความชั่วของตัวแน่นอน

- ฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร

- ฆ่าเพราะเขามีสิ่งที่เราต้องการ เช่น ต้องการทรัพย์สิน  

- ฆ่าเพื่อให้ได้เธอมาเป็นคู่ครอง แย่งแฟน

- ฆ่าตัดตอน กลัวเขาจะเปิดเผยความลับของตน

- การฆ่าด้วยความโกรธแค้น แก้แค้น ความหึงหวง ชิงชัง

- ฆ่าเพราะ ได้รับคำสั่งให้ฆ่า

- ฆ่าเพราะเขาคือขยะและเป็นขยะ

  - ฆ่าเพราะเป็นหน้าที่ต้องฆ่า

 - การฆ่าที่นอกเหนือจากที่ว่ามานี้

ไม่ว่าจะฆ่าแบบไหนอย่างไร ก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย หรือได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อไม่ต้องรับโทษ และหลบหนี จนหมดอายุความ  แต่ไม่สามารถหลับหนีโทษของกฎแห่งกรรมได้

ก็มันทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ กระหน่ำ ซ้ำเติม ทั้งแจกทั้งแถม ทุกข์จนร่างกายทนไม่ได้ต้องแสวงหาที่ดับทุกข์ ตามแต่บุญเก่า กรรมเก่า เพื่อหาทางแก้ไขกรรมใหม่ ด้วยการสำนึกในกรรมที่กระทำ หวังให้มีชีวิตที่เหลืออยู่ได้พบความสุข และได้ค้นพบสัจธรรม

นักฆ่าทั้งหลายต้องการเข้ามาบ้านสวนพีระมิด เพื่อสารภาพบาป หยุดการเบียดเบียนผู้อื่น มาสร้างบุญเพื่อเป็นกำลังบุญ หวังที่จะไถ่ถอนวิบากกรรม

บ้านสวนพีระมิด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธญาณของพระพุทธองค์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ นายแห่งผีบัญชีพระกาฬใหญ่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล โดยมี ท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ เป็นผู้เผยแผ่พระคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำปฏิบัติจริงก็เห็นผลจริง และสื่อสารพิสูจน์กฎแห่งกรรม จนเป็นที่ประจักษ์สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ จึงเป็นที่หวังและที่พึ่งของเหล่าบรรดานักฆ่าทั้งหลาย ที่มุ่งตรงมายังบ้านสวนพีระมิด ๆ  เมตตาให้นักฆ่า รู้กฎแห่งกรรม ได้สำนึก ไม่กลับไปทำอีก มีความเป็นอย่างสงบสุข เป็นกำลังสำคัญในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่อไป

หากท่านต้องการสร้างธรรมทาน ที่ต้องการจะสื่อสารการฆ่า ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าคนหรือฆ่าสัตว์ ฆ่าอะไร ด้วยวิธีการใด แล้วได้รับความทุกข์ รับผลกรรมอย่างใดบ้าง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เป็นธรรมทาน หรือแสดงความคิดเห็น  เพื่อผู้อื่นจะได้หยุดยั้งการประกอบกรรมต่อไป เชิญครับ......



ผู้ตั้งกระทู้ เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-20 07:44:45


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1620510)

 โทษของการเป็นผู้ฆ่า

 

ทุกข์ทางใจ

จิต ที่เป็น ปกติสุขไม่อาจคิดลงมือฆ่า การจะเอาชีวิตใครได้ต้องใช้จิตที่เป็นทุกข์เท่านั้น เพราะส่วนลึกรู้อยู่ว่าเป็นเรื่องผิด เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ แม้แต่มดตัวน้อยก็ดิ้นรนเอาชีวิตรอดยามจวนตัว อยากดำรงสภาพของตนเองจนกว่าจะถึง อายุขัย 

การตัดสิทธิ์ในการดำรงชีวิตของผู้อื่นจึงนับเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก แม้เขาจะอยู่ในอัตภาพเล็กเพียงใดก็ตามการตายเป็น ความทุกข์ของผู้ตาย ถ้าเราเป็นผู้หยิบยื่นความตายให้กับเขา ใจเราจะเป็นสุขไปได้อย่างไร การสังเกตเข้ามาในตนเองจะทำให้เห็นทุกข์เป็นขณะ  อย่างชัดเจน

ทุกข์เริ่มต้นตั้งแต่เมื่ออยากฆ่า สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นความหวั่นไหวลังเลใจ กระวนกระวาย กระสับกระส่ายไม่สบายตัวทุกข์ จะทวีตัวขึ้นเมื่อตัดสินใจฆ่าจริง สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นแรงดันร้อน  อัดแน่นอยู่ในอก ตลอดจนเกิดความตึงเครียดขึ้นในหัว ต่อให้ภายนอกดูนิ่ง ก็คล้ายมีลูกไฟวิ่งพล่านอยู่ข้างในทุกข์จะทวี ตัวขึ้นอีกเมื่อมีการพยายามฆ่า สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นการฝืนใจ เค้นเอาโทสะขึ้นมาพยายามเอาชนะมนุษยธรรมที่ติดตัวมาแต่แรกเกิดทุกข์ จะทวีตัวขึ้นถึงขีดสุดเมื่อลงมือฆ่า สังเกตเข้ามาในตนเอง  จะเห็นความรู้สึก***มเกรียมก่อตัวขึ้นมากพอที่จะระงับความละอายต่อบาปลง ชั่ววูบ หรือดับสำนึกเมตตาปรานีลงชั่วขณะหนึ่ง ทุกข์จะไม่จบโดยง่าย แม้เมื่อฆ่าสำเร็จ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นความรู้สึกผิดที่ยืดเยื้อ เพราะตระหนักว่าชีวิตเมื่อตกล่วงไปแล้ว ย่อมไม่อาจเอากลับคืนมาได้ แม้ผู้ฆ่าจะสำนึกเสียใจเพียงใดก็ตาม

ถ้าสัตว์ที่ถูกฆ่ามีร่างจ้อยจน ดูไร้ค่า เช่น มดและแมลง ก็ไม่ต้องอาศัยกำลังใจในการปลิดชีวิตมากนัก ทุกข์ในขณะต่าง  จึงอาจปรากฏเป็นของเล็กเกินกว่าจะจับสังเกตได้หรือ ในอีกทางหนึ่ง แม้ผู้ถูกฆ่าจะเป็นมนุษย์ ซึ่งต้องอาศัยกำลังใจในการทำบาปยิ่งกว่าฆ่าสัตว์หลายร้อยหลายพันเท่า ความทุกข์ในการลงมือฆ่าก็อาจถูกกลบเกลื่อนด้วยความพึงใจที่สามารถกำจัด ปรปักษ์ได้สำเร็จ
ความไม่เห็นค่าของชีวิต กับความสะใจที่ฆ่าสำเร็จ จึงเปรียบเหมือนม่านอำพรางทุกข์ทางใจของเราได้ แต่ขอเพียงเราใส่ใจสังเกต ก็จะพบว่าทุกข์ทางใจอันเกิดจากการฆ่า ยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ


                การสั่งสมบาป

บาป เป็นธรรมชาติฝ่ายมืด เพราะมีอิทธิพลปรุงแต่งสภาพจิตให้มัวหมองลง นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่ทำบาป มองไปทางไหนเราจะรู้สึกว่าโลกหม่นมืดกว่าปกติเมื่อทราบว่าความมืด เป็นเครื่องหมายของบาป เราก็สามารถสำรวจใจตนเองแล้วทราบได้ว่าการฆ่าเป็นบาป เพราะไม่มีการฆ่าครั้งใดที่ทำให้จิตของเราสว่างขึ้น มีแต่จะหม่นหมองลง กับทั้งไม่มีแก่ใจคิดอะไรในทางดี ในทางที่เจริญเอาเลยแรงผลักดันให้ ทำลายชีวิตผู้อื่นได้คือโทสะ โทสะต้องแรงเกินเมตตาธรรมไปมาก จึงขับให้เราก่อบาปด้วยการฆ่าได้ และโดยเหตุนี้เอง 

ทุกครั้งที่เราฆ่าแบบไม่ฝืนใจ ไม่ยั้งคิด ไม่ยั้งมือ จิตของเราจึงเหมือนแปรสภาพเป็นลูกไฟแห่งความโกรธแค้น ถ้าโกรธแค้นมากก็ลุกโพลงเป็นไฟดวงใหญ่ยืดเยื้อยาวนาน ถ้าโกรธแค้นน้อยก็โชนวูบเป็นไฟดวงเล็กแล้วดับลงในเวลาอันสั้น

ที่น่ากลัวก็คือบาปสามารถสั่งสมตัวได้ นั่นหมายความว่ายิ่งฆ่าสำเร็จมากขึ้นเท่าไร

ใจก็ยิ่งเร่าร้อนมากขึ้นเท่านั้น มองไปทางไหนอะไรต่ออะไรดูขวางหูขวางตา น่าทำลายล้างไปหมด ใครพูดผิดหูนิดเดียว ใจเราจะนึกถึงการลงมือประทุษร้ายเขามากกว่านึกถึงการคุยกันดี  ด้วยเหตุด้วยผล

แม้ตบยุงสักตัว มือของเราก็ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องประหารแล้ว และใจของเราก็นับว่าเปื้อนบาปแห่งการฆ่าแล้ว ฉะนั้น ยิ่งตบยุงบ่อย เราก็ยิ่งหงุดหงิดรำคาญง่าย และใจก็ทำตัวคล้ายหลุมดำที่ดึงดูดยุงเข้ามาหาตัวถี่ขึ้นอย่างน่าแปลกใจ จนในที่สุด ยุงในการรับรู้ของเราก็กลายเป็นเครื่องหมายเตือนให้นึกถึงการเข่นฆ่าท่า เดียว 

ความคิดในทางทำลายจะลดความฉลาดในการหาวิธีป้องกัน เราจะไม่รู้สึกผิดและย้ำบอกตัวเองว่าสมควรแล้ว กระทั่งบาปพอกพูนขึ้นจนหนา รู้สึกด้านชากับการฆ่าสิ่งมีชีวิตระดับเล็ก ถึงจุดนั้นเราจะพร้อมฆ่าสิ่งมีชีวิตระดับที่ใหญ่ขึ้น ด้วยความรู้สึกว่าสมควรแล้วในทางใดทางหนึ่งเช่นกัน

ฉะนั้น เพียงไม่ตั้งใจไว้ก่อนว่าจะเว้นขาดจากการฆ่า ก็นับว่ามีโทษแล้ว เพราะเมื่อถูกรบกวนให้เกิดโทสะอย่างแรงกล้า เมตตาธรรมดั้งเดิมย่อมลดระดับแทบไม่เหลือ ยังผลให้สติพร่าเลือนลง เปิดช่องให้โทสะเข้าครอบงำจนโง่เขลา หลงนึกว่าบาปแห่งการฆ่าเป็นสิ่งสมควรทำยิ่งกว่าบุญแห่งการไว้ชีวิต

 

        ความเป็นอยู่ที่เลวร้าย
        ไม่ 
มีความรู้สึกผิดอันใดย่ำแย่ไปกว่าความรู้สึกผิดที่เกิดจากการฆ่า เพราะบาปข้ออื่นยังพอไถ่ถอนความรู้สึกผิดไหว เช่น ขโมยสมบัติใครยังคืนได้ เป็นชู้ยังขอขมาได้ โกหกยังสารภาพได้ ติดเหล้ายังฝึกอดได้ แต่ถ้าฆ่าใครสำเร็จ เราจะเอาชีวิตที่ไหนมาใช้คืนเขา?

ถ้าฆ่าใครแล้ว รู้สึกผิด ความรู้สึกผิดนั้นมักเรื้อรัง หากเปรียบเป็นแผล ก็หนักหนาเสียยิ่งกว่าบาดแผลทางกายหลายเท่า เพราะกายอาจเกิดแผลสดเพียงไม่นานก็ตกสะเก็ด รอให้เนื้อสมานกันดังเดิมราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่แผลทางใจอันเกิดจากบาปแห่งการฆ่านั้น จะยังคงสดใหม่อยู่เสมอ ตราบเท่าที่ชีวิตของผู้ตายไม่อาจฟื้นคืนกลับมาฟังคำขอโทษจากเรา

เมื่อ บาปจากการฆ่าถูกสั่งสมมากแล้ว ผู้ฆ่าย่อมเลื่อนฐานะเป็นนักฆ่า ดูเผิน  เหมือนใจเย็นกว่าคนอื่น แต่ที่แท้เลือดเย็นกว่าใคร  ต่างหาก ความเลือดเย็นของนักฆ่าย่อมก่อให้เกิดกระแสในตัวที่น่าพรั่นพรึง ชวนให้รู้สึกถึงอันตราย ไม่ต่างจากยุง งู หรือเสือ แค่เห็นก็นึกเกลียดกลัวขึ้นมาทันที ทั้งที่ยังไม่ทันทำอะไรให้การ ฆ่าแต่ละครั้งคือการสั่งสมความเครียด จะน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องเค้นกำลังใจขึ้นมาปลิดชีวิตผู้อื่นเพียง ใดความเครียดทำนองนี้ย่อมกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารอันเป็นพิษต่อร่างกายหลาย ชนิด ซึ่งเมื่อสั่งสมมากพอ ย่อมก่อให้เกิดโรคที่คาดเดายาก จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าเหตุใดนักฆ่าทั้งหลายจึงต้องทุรนทุรายกับสารพัดโรคร้าย ราวกับถูกคุมขังและลงโทษให้ตายอย่างทรมานอยู่ในคุกแคบ ซึ่งก็คือร่างกายของตนนั่นเอง

นักฆ่าจัดเป็นพวกที่ไว้ชีวิตตนเพื่อ ตัดชีวิตท่าน จึงย่อมได้ชื่อว่าก่อกรรมด้วยการริบอายุผู้อื่น แม้กลับใจแล้ว และใช้ชีวิตที่เหลือทำบุญใหญ่เพื่อให้บาปเจือจางลง เป็นผลให้มีสิทธิ์ได้เกิดเป็นมนุษย์ใหม่ ก็ย่อมถูกผลของบาปแห่งการฆ่าริบอายุเอาบ้าง อาจด้วยการถูกศัตรูไล่ล่าฆ่าคืน อาจด้วยการเป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย หรืออาจด้วยการประสบอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ตายดับไปจากสุคติภูมิเช่นมนุษยโลกเสียตั้งแต่อายุยังน้อย
        หากตาย เยี่ยงนักฆ่าผู้ยังไม่อิ่มไม่พอกับการฆ่าฟัน แต่ยังพอมีบุญพยุงไม่ให้ร่วงหล่นถึงนรก ก็อาจไปเสวยภพของนักฆ่าระดับเดรัจฉานภูมิ เช่น ยุงลาย งูจงอาง หรือพญาราชสีห์ สุดแต่บุญเก่าของแต่ละตนจะตกแต่งให้เป็นนักฆ่ารุ่นเล็ก รุ่นกลาง หรือรุ่นใหญ่  แต่หากตายเยี่ยงนักฆ่าที่***มโหดไร้ความ ปรานี กับทั้งไม่มีบุญเก่าพอช่วยพยุง ก็จัดว่ามีความเหมาะกับสภาพความเป็นอยู่อันเร่าร้อนเช่น นรกภูมิสถานเดียว!

ขอบคุณ .... ดังตฤณ ....

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-20 08:36:54


ความคิดเห็นที่ 2 (1620521)

 ตุ้ยเองก็ได้ขึ้นชื่อว่าฆ่าค่ะ

ได้ฆ่าลูกตัวเองคือการทำแท้ง

ทำด้วยความตั้งใจวางแผนมาเป็นอย่างดี

ผลกรรมจึงทำให้ชีวิตมีอุปสรรคต่างๆนาๆ

ทั้งหน้าที่ การงาน

สภาพคล่องทางการเงิน

ลูกดื้อ มากมายหลายด้านค่ะ

ผลกรรมนี้กินเวลายาวนาน

และเมื่อรู้เหตุแห่งกรรมของตัวเองแล้ว

ก็ยอมรับและก้มหน้ารับกรรม

โดยไม่ร้องขอใด ๆค่ะ


และขอนำเรื่องราวจากพระไตรปิฏกเกี่ยวกับการฆ่า ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็เคยฆ่าคน และเคยเป็นชาวนรกมาแล้ว ดังนี้ค่ะ


พระพุทธเจ้า...เคยฆ่าคน และเป็นชาวนรก


 

อ้างจาก : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑

พุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติที่ ๑๐ (๓๙๐) ว่าด้วยบุพจริยาของพระองค์เอง

[๓๙๒] พระผู้มีพระภาคผู้เป็นนายกของโลก แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์เป็นอันมากประทับนั่งอยู่ที่พื้นหินอันเป็นรัมณียสถานโชติช่วงด้วยแก้วต่างๆ ในละแวกป่าอันมีกลิ่นหอมต่างๆ ใกล้สระอโนดาต ตรัสชี้แจงบุรพกรรมทั้งหลายของพระองค์ ณ ที่นั้นว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังกรรมที่เราทำแล้วของเรา 


1. เราเห็นภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่งแล้วได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก เพื่อความเป็นพระพุทธจ้า ในกาลนั้น ผลแห่งกรรม คือการถวายผ้าเก่า ย่อมอำนวยผลให้เป็นพระพุทธเจ้า 

2. ในกาลก่อน เราเป็นนายโคบาล ต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่นมัว จึงห้ามมัน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ (แม้) เราจะกระหายน้ำ ก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามความปรารถนาในชาติอื่นในกาลก่อน 


3.เราเป็นนักเลงชื่อปุนาลิ ได้กล่าวตู่พระปัจเจกพุทธเจ้าชื่อว่าสุรภี ผู้ไม่ประทุษร้าย (ตอบ) ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราท่องเที่ยวอยู่ในนรกเป็นเวลานาน ได้เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัสหลายพันปีเป็นอันมาก ด้วยผลกรรมอันเหลือนั้น ในภพหลังสุดนี้ เราจึงได้คำกล่าวตู่เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา เพราะการกล่าวตู่พระเถระนามว่านันทะ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ครอบงำอันตรายทั้งปวง เราจึงท่องเที่ยวอยู่ในนรกสิ้นกาลนาน เราท่องเที่ยวอยู่ในนรกเป็นเวลานานถึงหมื่นปี ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว ได้การกล่าวตู่เป็นอันมาก ด้วยผลกรรมที่เหลือนั้น นางจิญจมานวิกามากับหมู่ชน ได้กล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง 


4. เมื่อก่อน เราเป็นพราหมณ์ชื่อสุตวา อันชนทั้งน่ากลัว ได้อภิญญา ๕ มีฤทธิ์มากมาในสำนักของเรา เราจึงกล่าวตู่ฤาษีผู้ไม่ประทุษร้าย โดยได้บอกกะพวกศิษย์ของเราว่า ฤาษีพวกนี้มักบริโภคกาม แม้เมื่อเราบอก (เท่านั้น) พวกมาณพก็เชื่อฟัง ครั้งนั้น มาณพทั้งปวง เที่ยวไปภิกษาในสกุลๆ พากันบอกแก่มหาชนว่า ฤาษีพวกนี้มักบริโภคกาม ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ภิกษุ ๕๐๐ เหล่านี้ ได้คำกล่าวตู่ทั้งหมด เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา 


5. ในกาลก่อน เราได้ฆ่าพี่น้องชายต่างมารดา เพราะเหตุแห่งทรัพย์ จับใส่ลงในซอกเขา และบด (ทับ) ด้วยหิน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น พระเทวทัตจึงผลักก้อนหินก้อนหินกลิ้งลงมากระทบนิ้วแม่เท้าของเราจนห้อเลือด 


6.ในกาลก่อนเราเป็นเด็กเล่นอยู่ที่หนทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ใส่ไฟเผา (ดัก) ไว้ทั่วหนทาง ด้วยวิบากกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ พระเทวทัตจึงชักชวนนายขมังธนู ผู้ฆ่าคนตายมาก เพื่อให้ฆ่าเรา 


7.ในกาลก่อน เราเป็นนายควาญช้าง ได้ไสช้างให้จับมัดพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้อุดมมุนีแม้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ด้วยวิบากกรรมนั้น ช้างนาฬาคิรีอันดุร้าย วิ่งแล่นเข้าไปในคอก (ท้อง) เขา (วงกต) เบื้องหน้าผู้ประเสริฐ 


8.ในกาลก่อน เราเป็นนายทหารราบ (เป็นแม่ทัพ) ฆ่าบุรุษเป็นอันมากด้วยหอก ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราถูกไฟไหม้อย่างเผ็ดร้อนอยู่ในนรกด้วยผลอันเหลือแห่งกรรมนั้น บัดนี้ ไฟนั้นยังมาไหม้ผิวหนังที่เท้าของเราทั้งสิ้น (อีก) เพราะว่ากรรมยังไม่พินาศไป 


9.ในกาลก่อนเราเป็นเด็ก(ลูก) ของชาวประมงอยู่ในบ้านเกวัฏฏคาม เห็นคนทั้งหลายฆ่าปลาแล้วเกิดความโสมนัส ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ความทุกข์ที่ศีรษะ (ปวดศีรษะ)ได้มีแล้วแก่เรา


10.ในเมื่อเจ้าศากยะทั้งหลายถูกเบียดเบียน พระเจ้าวิฏฏุภะฆ่าแล้ว เราได้บริภาษพระสาวกทั้งหลาย ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าผุสสะ ว่าท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง แต่อย่ากินข้าวสาลีเลย ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราอันพราหมณ์นิมนต์แล้ว อยู่ในเมืองเวรัญชา บริโภคข้าวแดงตลอด ๓ เดือน 


11.ในกาลนั้น เมื่อนักมวยกำลังชกกัน เราได้ห้ามบุตรนักมวยปล้ำ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ความทุกข์ที่หลัง (ปวดหลัง) ได้มีแล้วแก่เรา 


12.เมื่อก่อนเราเป็นหมอรักษาโรคได้ถ่ายยาให้เศรษฐีบุตร (ตาย) ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น โรคปักขันทิกาพาธจึงมีแก่เรา 


13.เราชื่อว่าโชติปาละ ได้กล่าวกะพระสุคตเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ในกาลนั้นว่า จักมีโพธิมณฑลแต่ที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราได้ประพฤติกรรมที่ทำได้ยากมาก (ทุกกรกิริยา) ที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมตลอด ๖ ปี แต่นั้น จึงได้บรรลุโพธิญาณ แต่เราก็มิได้บรรลุโพธิญาณอันสูงสุดด้วยหนทางนี้ เราอันบุรพกรรมตักเตือนแล้ว จึงแสวงหาโพธิญาณโดยทางที่ผิด (บัดนี้)เราเป็นผู้สิ้นบาปและบุญ เว้นจากความเร่าร้อนทั้งปวง ไม่มีความเศร้าโศก ไม่คับแค้น เป็นผู้ไม่มีอาสวะ จักนิพพาน พระชินเจ้าทรงบรรลุกำลังแห่งอภิญญาทั้งปวงแล้ว ทรงพยากรณ์โดยทรงหวังประโยชน์แก่ภิกษุสงฆ์ ที่สระใหญ่อโนดาต ด้วยประการฉะนี้แล.



ทราบว่า พระผู้มีพระภาคได้ทรงภาษิตธรรมบรรยายพุทธาปทานชื่อ ปุพพกรรมปิโลติอันเป็นบุพจารีตของพระองค์ ด้วยประการฉะนี้แล.


จบ พุทธาปทานชื่อปุพพกรรมปิโลติ.

 

ที่มา :  http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=32&A=7849&Z=7924

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-20 09:24:06


ความคิดเห็นที่ 3 (1620566)

อนุโมทนาธรรมทาน พี่อมร และน้องตุ้ยค่ะ พวกเราทุกคน ล้วนแล้วแต่ เป็นนักฆ่ามาแล้วทั้งสิ้น อรก็เป็นนักฆ่า มือฉมังคนหนึ่งทีเดียว 

ฆ่าลูกตัวเอง.ทําแท้ง ครั้งที่1.ให้หมอทํา ครั้งที่2.กินยาขับเหลือด  

ฆ่าปลา.ทุบหัวด้วยสันมีด ทุบด้วยไม้  บางทีก็ไม้ตีพริก บางครั้งก็ใช้มีดตัดที่คอ ขณะเป็นๆอยู่ ฆ่าปูเป็นๆ. ลงหม้อทั้งเป็น ใส่นํ้าแล้วปิดฝา รอให้นํ้าเดือดจนปูตายเอง

ฆ่าไก่.จับไก่ไขว่ปีก เหยียบขาไว้2ข้าง แล้วก็ไช้ใบมีดโกนคมๆ เฉือดที่คอจนหลอดลมขาด แล้วก็ มีสัตว์เล็ก สัตว์น้อยอีกมากมายเกือบทุกชนิด ทําจนเป็นความเคยชิน จนไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าเค้าทุกข์ ทรมานมากขนาดใหน เวลาเจอกับตัวเอง แค่มีดบาดนิดเดียว ก็เจ็บปางตายแล้ว

ต่อจากนี้ไป สิ่งที่ต้องฆ่า คือ. ความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้จงได้

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-20 13:14:49


ความคิดเห็นที่ 4 (1620574)

ขออนุโมทนาบุญ และขอบคุณคุณพี่อมร

ที่ได้เปิดประเด็นตั้งกระทู้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่ตุ้ย  คุณพี่อร ด้วยค่ะ

หนูก็เข้าค่ายนักฆ่าเหมือนกันค่ะ

 

โดยสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าคน (มีญาติมาปรึกษาเรื่องทำแท้ง เกือบจะให้เงินเค้าไปทำแท้งแต่บังเอิญสามีห้าม)

ผลกรรมที่ได้รับ

มีปัญหาด้านการเงินไม่พอใช้ และปวดคอปวดไหล่เป็นประจำ

 

และฆ่าสัตว์จำนวนมาก มายเพื่อเป็นอาหาร

 ทุบหัวปลาจำนวนมากมาย

เคยจับขากบเอาหัวฟาดให้กบตายจำนวนมากมาย

 

จนใส้ทะเล็ดและตายจำนวนมากมาย

และผ่าท้องกบเขียด ผ่าท้องปลา

โยนกบเขียดอึ่งอ่างตัวเป็น ๆ ในน้ำเดือด ๆ

แหวกท้องปูเป็น ๆ จนปูตายหลายตัว

จับปูนาย่างไฟตัวเป็น

จับแมลงและคั่วแมลงตัวเป็นๆ ในกระทะที่ร้อนจำนวนมากมาย

 

ช่วยตีงูจนตาย

ขับรถทับสุนัขตัวเองชักแหงกๆ ตายต่อหน้าต่อตา

ขับรถชนแมวตาย

ใช้ยาฆ่าย่าในไร่จนทำให้สัตว์ที่อาศัยในดินในหญ้าตาย

ฆ่ายุงจำนวนมากโดยใช้ยาฉีดยุงและไม้ชด และตบยุง

ฆ่ามดและฆ่าปลวก โดยใช้ยาฉีด

และใช้น้ำร้อนลวกมดจำนวนมาก

นำไข่นกมาเล่นและทำไข่นกแตกด้วยความสนุกสนาน

และมีส่วนทำให้มีการทำธุรกิจเลี้ยงสัตว์เพื่อฆ่าเป็นอาหารคน

 

เคราะห์กรรมที่ได้รับ

เป็นโรคภูมแพ้ แพ้อากาศ

แพ้อาหารทะเลจะเจ็บคอและไอ

ปวดท้องเป็นประจำ เป็นโรคกระเพาะอาหาร

ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดขา ปวดข้อมือ

เป็นปวดหัว มึนงงเวียนศรีษะเป็นประจำ

 

ลวกหอยและผัดตัวเป็น ๆ ในน้ำเดือนจำนวนมา

นำไข่นกมาเล่นและทำไข่นกแตกด้วยความ

ขับรถทับหัวสุนัขตัวเองชักแหงกๆ ตายต่อหน้าต่อตา

เคยบีบท้องลูกอ้อดของกบและเขียดตัวเป็นๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-20 13:49:37


ความคิดเห็นที่ 5 (1620670)

อนุโมทนากับธรรมทานจากพี่อมร

คุณตุ้ย คุณอร

และ คุณ มยุรฉัตร ด้วยนะคะ

 

จขกท มาเปิดประเด็นเรื่องนักฆ่า

ได้น่าพิจารณาจริงๆเลย

เพราะในจิตของมนุษย์ทุกคน

คงจะมีความเป็นนักฆ่า แฝงอยู่ทั้งสิ้น

 

โดยเฉพาะ การฆ่าสัตว์นั้น

ทำกันมาเป็นร้อย เป็นพัน

เผลอๆบางคนอาจจะเป็นหมื่น

 

ส่วนชนิดาก็มีส่วนเรื่อง การฆ่าคน

โดยการไปนั่งมีส่วนร่วม

และเป็นกำลังใจให้รุ่นพี่ทำแท้ง

ด้วยการกินยาขับเลือด

 

แล้วก็ไปพูดให้กำลังใจ

คนที่เค้าไปทำแท้งมาแล้ว 2คน

ก็เลยมีส่วนในบาปนั้นเต็มๆ

 

นอกจากนั้น

ก็มีส่วนในการฆ่าสัตว์ที่กินเป็นอาหาร

มีส่วนได้ฆ่างูเขียวหางไหม้

ฆ่ามดด้วยการฉีดน้ำเข้าไปในรู และจุดไฟเผา

ตบยุงและใช้ไม้ช็อตยุงมาเป็นจำนวนมาก

ฆ่าแมลงวัน แมลงสาบ

 

 

ผลกรรมก็คือ

 

มีอาการปวดเมื่อยทั่วตัว

หนักหัว หนักคอ หนักไหล่อยู่บ่อยๆ

 

เป็นคนขี้หงุดหงิด เครียดง่าย

จิตตกได้ง่าย

 

มีอาการคันที่บริเวณหน้าขาอย่างรุนแรง

เป็นๆ เกาๆ หายๆ วันดีคืนดี ก็คันขึ้นมาอีก


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-21 05:40:16


ความคิดเห็นที่ 6 (1620730)

 อนุโมทนากับพี่อมรด้วยค่ะ

ที่มาเปิดประเด็นเรื่องนักฆ่า

ส่วนตัวเองก็เคยฆ่าคนทางอ้อมมาเหมือนกันค่ะ

เคยยุยงส่งเสริมให้เพื่อนทำแท้ง

เคยให้เพื่อนของพี่ชายยืมเงินไปทำแท้ง

และเคยฆ่าสัตว์ทั้งมด ยุง แมลงสาป ปู 

และอีกเยอะเลยค่ะ


ผลกรรมที่ได้รับคือ

ตรงช่วงต้นแขนมักจะเป็นผื่นคันอยู่บ่อยๆ

ปวดเนื้อปวดตัว เป็นๆหายๆค่ะ

ชอบคิดมาก เจ้าอารมณ์ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-21 12:53:12


ความคิดเห็นที่ 7 (1620750)

อนุโมทนาค่ะ พี่อมร

ตอนอายุสัก 7ขวบได้ไปตกปลา

กับพี่  ตัวเองได้ปลามากกว่าพี่

เป็นโรคปวดหัวบ่อย ๆ มาสำนึก

กรรมตอนเข้าค่าย  10  

ว่าเคยตกปลา   กรรมส่งผลมา

ยาวนาน   ตั้งแต่ได้พึ่งบารมีของ

ท่าน อ.อุบล ทำบุญเป็น  อาการ

เจ็บป่วยต่างๆ แทบจะไม่มี  

ลูกกราบพระบาทขอบพระคุณ

เทวดาทุกพระองค์ที่ปกปักรักษา

ท่าน อ.อุบล  เจ้าค่ะ สาธุ ๆ ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-21 15:00:20


ความคิดเห็นที่ 8 (1621047)

 พี่หมวยครับ ลืมปิด อีเมล นะครับ  ช่วยแก้ไข ด้วยครับ เห็นหลายๆคน ลืมปิด ต้องรอบคอบหน่อยนะครับก่อนกดโพส

***

     เรื่องนักฆ่า นี่ก็เป็นเหมือนกันครับ ยิ่งตอนเด็กทำไปโดยที่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเจ็บหรือทรมาน บางทีก็ฆ่าเพราะ เขาเป็นพาำหะนำโรคอย่าง

หนู - วางกับดักกาว ตอนจะเอาเขาไปทิ้งก็สงสารนะครับ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะ เขาจะคอยมากินอาหาร แทะของในบ้านแมลงสาบ - จริงๆ เป็นคนที่ไม่ชอบแมลงสาบเลย ยิ่งเวลามันบิน น่ากล้วมาก พอเจอ ถ้าไม่ใช้ยาฉีด ก็ใช้เท้าเหยียบ มันก็จะดัง แปะ แอบสะใจด้วย

ยุงลาย - ถ้าไม่ใช้มืิอตบก็ ไม้ชอตไฟฟ้าน่ะครับ บางทีก็รอให้มันกัดจนอิ่มก่อน แล้วค่อยตบ ทำไปสนุกไป ไม่คิดเลยว่าบาป (ก็มันมากัดเราก่อนนี่ คิดแบบนี้จริงๆครับ)

แมลงวัน - อันนี้ จะรำคาญมากๆเวลาเขามาตอม ยิ่งเห็นเขามาเกาะที่อาหาร วิธีการก็โหดมากเพราะ ทำให้เราโกรธ เคยดูในรายการต่างประเทศเขาบอกว่า แมลงวันจะบินขึ้นตรงๆ เป็นส่วนใหญ่ ก็เลยหา ถุงพลาสติก ครอบจากด้านบน ต้องกลั้นลมหายใจด้วย เดี๋ยวเขาจะรู้ ครอบลงมา แล้วก็ มัดไว้ให้เขาขาดอากาศหายใจ ตัวไหนวี่จนเรารำคาญมากหน่อยก็ จับมัด แล้วใช้นิ้วดีดจนเขาตายในถุง

เห็บ-หมัด - จับมาจากหมาแมวในบ้าน แล้วก็ บี้ ให้เละ   

     ที่เคยฆ่า มาก็มี ทั้ง ด้วยความคะนอง ฆ่าเล่นๆ คิดไปแล้วก็ไม่น่าทำแบบนั้นเลย 

มด - เด็กๆ ตอนที่มีประทัดจิ๋ว ให้เล่น ก็ัดันเอา ไปลองดูว่าอานุภาพมันจะ ร้ายแรงขนาดไหน เห็นรังมด คาดว่า ถ้าเป็นคงตายยกจังหวัดน่ะครับ

ปลวก - อันนี้ ก็ ยาฆ่าปลวกน่ะครับ ฉีดๆๆ

หอย - เวลาไปเที่ยวบางแสนก็จับมา แต่ไม่เอามากินครับ เอามาใส่ขวดไว้แล้วเขาก็ตาย ถ้าจับตามน้ำจืดก็เอามาต้มกินบ้าง

ปลา - ตกด้วยเบ็ดแล้วเอามากินครับ

ไส้เืดือน แมลงแกลบ - เอามาเป็นเหยื่อล่อปลาครับ ไส้เดือนนี่ก็ต้อง จับมาแล้วก็ ดึงตัวให้ขาดแล้วก็เอามาเกี่ยวเบ็ด ทั้งที่ยังเป็นๆ อยู่

กุ้ง - อันนี้ก็เอามาเป็นเหยื่อปลาน่ะครับ เด็ดหัวออกก่อนแล้วก็เอามาเกี่ยวเบ็ด

แมงมุม - เป็นสัตว์ที่กลัวมาก มีอยู่ครั้งนึงตอนเด็ก มันมาเกาะหัวเราก็ตกใจ ตีๆ ตรงหัวจนตายเลย หรือบางทีเจอในห้องน้ำ ก็เอาน้ำฉีด จนมันตายเลย เพราะ แมงมุมจะแพ้น้ำ

จิ้งจก - ตอนเด็ก บ้านเพื่อนเลี้ยงปลามังกร เราก็ ใช้หนังกะติ๊กยิง พอมันร่วงก็ จับไปเป็นอาหารปลา

ลูกน้ำ - ตอนเด็กๆ เลี้ยงปลา ก็จับเอามาให้เป็นอาหารปลา คิดว่าเป็นการทำลายยุงลายไปในตัว  

แมว - อันนี้รังแก สัตว์ ชอบเล่นกับแมว แล้วก็โยนไปโยนมา บางทีโมโหก็ตี มัน

หมา - อันนี้ก็ตีครับบางทีมันชอบมาเล่นกับเรา แต่ตัวมันเลอะๆ คิดถึงหมาที่เคยเลี้ยงตัวนึง ตีมันประจำเลย ทั้งๆที่มันก็คงรักเราอยากเ่ล่นกับเรา สุดท้าย มันป่วยเป็นอะไรไม่รู้ แล้วก็ตาย ตอนนั้นก็ สำนึกผิดมากๆ ทำไมตอนที่มันอยู่เราไ่ม่ทำดีกับมัน

คน - บางทีดูละครก็สมน้ำหน้าเวลาเขาตาย

เคยตบหัวคน แล้วก็เอาของแข็ง(เม็ดบ๊วย)ปาใส่หัวเพื่อนอย่างแรง

เราป่วยแล้วทำให้คนที่เรามีอะไรด้วย ได้รับเชื้อ ก็เหมือนทำให้เขาตาย

ทานเนื้อสัตว์ อันนี้ทานมาตั้งแต่เด็กๆ จนได้มารู้จักบ้านสวนแล้วเลิกเลยทันทีครับ ยิ่งดูคลิปนี้ แล้ว ทานไม่ลงเลย

https://www.youtube.com/watch?v=WavLD1G-mxU

ผลกรรมทีไ่ด้รับ

จะเป็นคนที่ เป็น ภูมิแพ้ พอเราเจอ แดดก็เป็นหวัดแดด พอเจอฝุ่นหรือ อากาศเย็นๆ บางทีก็น้ำมูกไหล บางทีก็เป็นผื่นแำ้ำ้พ้ ง่ายมากๆ บางทีนั่งนานๆ ก็ปวดบ่า ปวดคอ ป่วยบ่อยๆ ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-24 12:52:07


ความคิดเห็นที่ 9 (1621102)

คุณอมรคะ

 

อ.อุบล ขอแสดงความเห็น

นิดหน่อยนะคะ

ว่า

การเปิดกระทู้ใหม่เยอะแยะเนี่ย

 

พอนานไป

ข้อความของเรา จะตกไป

ถ้ากระทู้เรา ไม่ ฮ๊อต จริงๆ

 

ทำให้ธรรมทานของเรา ไม่มีความเคลื่อนไหว

 

เพราะบุญธรรมทาน

เกิดจาการที่มึคนมาอ่าน มากๆ

 

ดังนั้น

เมื่อเขียนธรรมทานแล้ว

ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอ่าน

บุญธรรมทาน ก็ไม่เกิด เหมือนเรา

ไปชายของ อยู่ในหุบเขา

ซึ่งไม่มีลูกค้า หรือ ผู้คน สัญจรเข้าไปเลย

เราจะขายได้อย่างไร

 

ดังนั้น

ทุกคน น่าจะไปเขียนธรรมทาน

ในกระทู้ที่ ฮ๊อต ไม่ตกอันดับ

จะได้บุญแรง มีความเคลื่อนไหว อยู่ตลอด

มีคนอ่านตลอด

บุญก็จะเดินตลอด

 

อันนี้

ลองพิจารณาดูนะคะ

จะทำตามหรือไม่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ

เพราะ

แนะ บุญที่แรงให้เท่านั้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-24 17:19:39


ความคิดเห็นที่ 10 (1621117)

  

 

กราบขอโทษและ กราบขอบพระคุณอย่างสูง

 ครับอาจารย์

 

ที่ให้สติปัญญา

 

ขอน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไขทันทีครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-24 18:11:18



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.