|
ชีวิตของกันยภัทร เฟื่องฟู | |
ธรรมทานจากคุณแก้ว กันยภัทร เฟื่องฟู -เริ่มมีอาการตอนเรียนคือ ง่วงมาก เวลานั่งเรียนหนังสือ อยู่ชั้น ป.6 เหมือนมีอะไรมากดให้หลับ เรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องใช้ความอดทนต่อสู้กับความง่วง (หัวจะปักแต่ฝืนไว้ได้) -ประมาณอายุ 18-19 ปี เป็นมากขึ้น ปวดหัว ปวดตื้อ หนัก หัวชา ชามากจนไม่รู้ว่ามีหัวอยู่หรือเปล่า เอามือจับหัวจึงรู้สึกว่าหัวยังอยู่ เหม่อ ลอย หลง ๆ ลืม ๆ ความจำสั้น จำอะไรไม่ค่อยได้ -เวลานั่งนิ่ง ๆ หัวส่ายหมุนเหมือนลูกข่าง แล้วหัวปัก เป็นอยู่อย่างนี้ทุกวัน ๆ -หลงลืมมาก นับ 1-10 ไม่ได้ เคยเข้าห้องน้ำแล้วลืมปิดประตู -อาการใจหวิว ใจสั่น เหมือนถูกบีบหัวใจ ใจจะขาด อ่อนเพลียมากแทบไม่มีแรงเดิน เวลาเดินไปทำงานจากหอพัก-ที่ทำงาน(ร.พ.พระมงกุฏ) มองหาที่นอนข้างทางว่าจะนอนตรงไหนดี พ.ศ.2539 อาการหนักขึ้น เกือบจะลาออกจากงาน เพราะทำงานผิดพลาดเยอะมาก เริ่มรักษาจริงจังอีกครั้งที่ ร.พ.พระมงกุฏ ทำ CT scan,MRI ,เจาะไขสันหลัง ผลการตรวจทุกอย่างเป็นปกติ หมอจึงบอกไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร ให้กินยานอนหลับ (เพื่อระงับอาการปวดตื้อ ชา ที่หัว) แล้วเปลี่ยนไปรักษาที่ ร.พ.ประสาท ร.พ.จุฬา หมอให้กินยาระงับประสาทเหมือนที่หมอที่ ร.พ.พระมงกุฏให้กิน -คิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่กลัวตกนรก และสงสารแม่ด้วย ถ้าตายไปจริง ๆ แม่ต้องเสียใจมาก (แม่ต้องตรอมใจ เป็นการฆ่าแม่ทางอ้อม บาป 2 ต่อ) จึงหยุดความคิดฆ่าตัวตาย ทนทุกข์ทรมานต่อไป ต่อมามีญาติแนะนำให้ไปหาร่างทรงพระเจ้าตากสินที่ กทม.ไปวันแรกพบร่างทรงเจ้าแม่กวนอิมยืนคอยอยู่หน้าบ้าน(ท่านแต่งชุดกระโปรง-เสื้อขาว) พูดว่า จะตายกี่ครั้งแล้วหล่ะ(น้ำเสียงดุ)ตอบไปว่า หลายครั้งค่ะ แล้วท่านก็เข้ามาโอบกอดเอามือลูบหลังด้วยความอ่อนโยน แล้วบอกว่าวันนี้ไม่ต้องถามอะไรทั้งสิ้น ให้ไปไหว้และอธิฐานสิ่งศักดิ์สิทธิที่วัดพิชยญาติ(วัดแม่ชีทศพร) แล้วให้กลับมาหาท่านใหม่อีกครั้ง -กลับมาหาเจ้าแม่กวนอิมครั้งที่ 2 ท่านบอกว่ามีจิตวิญญาณอยู่ด้วย ท่านให้นั่งหันหลังเหยียดขาตรงไปทางประตู แล้วพูดกับร่างในตัวแก้วว่า จะไปดี ๆ หรือจะให้ใช้วิธีรุนแรง แล้วท่านอมน้ำชาพ่นใส่หลัง(เสื้อเปียก) แล้วให้พระราหูเอาไปส่งออกไปหน้าบ้าน -ครั้งต่อมา(อีกหลายครั้ง) เสด็จพ่อพระปิยะมหาราช,พระเจ้าตากสิน,หลวงปู่ทวด,ปู่ชีวโกมารภัจน์,เจ้าแม่อุมา,พ่อพิฆเนศร์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายพระองค์(ผลัดกันผ่านร่างทรง) ช่วยปัดเป่า ช่วยเจรจาต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวร จนอาการดีขึ้นระดับหนึ่ง อาการหายใจหวิว ใจจะขาด ดีขึ้น และมีสติดีขึ้นด้วย แต่ยังหัวปักอยู่เหมือนเดิม -พระเจ้าตากสินบอกในตัวมี 2 ฝ่าย คือฝ่ายโกรธ(เจ้ากรรมนายเวร) กับฝ่ายช่วยเหลือ(เทวดาประจำตัว) เดือนมี.ค.54 มีโอกาสได้มาที่บ้านสวนพีระมิด (ปฏิบัติตามกฏถูกต้องทุกอย่าง) ปู่ตากบอกว่าเอ็งไปที่ไหน ก็ไม่มีทางหาย แต่มาที่บ้านสวนปู่ตากไม่ห้าม และสนับสนุนให้มา บอกว่าที่นี่ ของจริงให้ไปได้ -ได้สร้างบุญแรงกาย เช่น ขุดบ่อน้ำพีระมิด ฯลฯ -ท่านอ.อุบลเมตตาไต่สวนกรรม ท่านบอกว่าอดีตชาติเคยเป็นผู้บัญชาการรบ สั่งฆ่าคนเยอะมาก มีจิตวิญญาณโกรธแค้น อยู่ในร่างกายเยอะมากจึงป่วยไม่หาย เมื่อมาสร้างบุญแรงกายอย่างสม่ำเสมอ ปี 2554- 2555 อาการดีขึ่นตามลำดับ หายหัวปัก สติ- ความจำดีขึ้น ร่างกายแข็งแรงสามารถทำงานหนัก ๆ ได้ คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลูกขอกราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล และเทวดาที่รักษาท่านอ.อุบล ค่ะ จะจดจำสิ่งดี ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านอ.สั่งสอนค่ะ กราบ กราบ กราบ จบธรรมทานตอนที่ 1 | |
ผู้ตั้งกระทู้ วีรดา อยู่นวล :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-17 14:47:23 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1635002) | |
โมทนาด้วยค่ะ ... ที่มาเล่าธรรมะทาน เพื่อยืนยันว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เหตุดับผลก็ดับ จริงแท้ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2012-10-17 16:05:26 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1635019) | |
ยินดีด้วยกับน้องแก้วค่ะ และน้องแหม่มผู้ช่วยพิมพ์ สาธุๆๆขอให้น้องแหม่มและน้องแก้วจงสะสมความดีอย่างนี้ตลอดไปเถิด | |
ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว วันที่ตอบ 2012-10-17 17:14:32 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1635050) | |
ขออนุโมทนากับธรรมทานของคุณแก้วด้วยนะค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) วันที่ตอบ 2012-10-17 20:15:41 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1635113) | |
ขอโมทนากับธรรมทานของคุณแก้วด้วยค่ะ และขอบคุณคุณวีระดาผู้พิมพ์ด้วยค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น วันที่ตอบ 2012-10-18 00:55:39 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1635119) | |
อนุโมทนาบุญกับพี่แหม่มที่มาโพสต์หรืออาจจะพิมพ์ธรรมทานแทนพี่แก้วและขออนุโมทนาบุญและเป็นกำลังใจให้พี่แก้วด้วยคะ ลุ้นๆอยู่ว่าเมื่อไรพี่แก้วจะรวบรวมกำลังใจมาเขียนธรรมทานของตนเองได้ เพราะท่านอ.ก็ยกตัวอย่างกรณีพี่แก้วอยู่บ่อยๆ ทางเดียวที่พี่แก้วจะหลุดพ้นคือบุญธรรมทานเท่านั้น
หนึ่งเป็นคนหนึ่งที่เวลาจะเขียนธรรมทานเกี่ยวกับสมาทานศีล ถ้าจะเขียนอะไรที่มันติดอยู่ในจิต สิ่งที่เรารู้สึกผิดจริงๆ ก็จะมีอาการเวียนหัว มึนๆหัวเหมือนกัน และคิดว่ามันคืออาการที่พี่แก้วจะต้องเจอแน่ๆ
แต่ถ้าเขียนแบบขอไปทีแค่นึกกรรมแต่ไม่สำนึก เช่น ฆ่าปลา กินกุ้ง ทำนองนี้ก็จะเขียนได้โดยไม่มีอาการอะไร
ในทุกๆครั้งที่คิดเขียนธรรมทาน แต่อยากให้พี่แก้วจำคำของอาจารย์ที่ว่า "บารมีคือกำลังใจ" ถ้าพี่แก้วไม่สร้างกำลังใจและไม่ยอมที่สู้อาการต่างๆ แม้ท่านอ.จะห่วงใยพี่แก้วท่านก็ไม่สามารถไปแทรกแซงกรรม
พี่แก้วลอง "ขออารธนาบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่านอ.อุบลเป็นผู้อัญเชิญมา" ให้ท่านบังคับกระแสจิตดูนะคะ เอาใจช่วยนะคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) วันที่ตอบ 2012-10-18 03:48:05 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1635281) | |
อนุโมทนาบุญกับน้องแก้ว และ น้องแหม่ม (เพื่อนแท้ที่ไม่ทิ้งกัน) ชีวิตน้องแก้วก็ได้ต่อสู้กับความเจ็บป่วยปางตายมามากแล้ว กะแค่เริ่มต้นเขียนธรรมทาน ให้คนอื่นรับรู้ ว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง หลังจากมาบ้านสวน ได้รับเมตตาจาก อ อุบล ช่วยรักษาอาการต่างๆ อย่างไร คุณแก้วเป็น idol ในการทำงานใช้แรงกายของชาวบ้านสวน ตัวบางนิดเดียว แต่แรงมหาศาล ขยันเป็นที่หนึ่ง พยายามปรับปรุงด้านการเขียนธรรมทานให้มากขึ้น สักวันคงได้กลับมาพบกันที่บ้านสวน อาจารย์ท่านพยายามที่จะสั่งสอนให้คุณแก้วทำบุญใหญ่ให้ได้ ท่านไม่ได้ต้องการแรงงานของคุณเท่านั้น แต่เมตตาอยากให้คุณเปลี่ยน ตั้งใจเขียนด้วยตัวเองให้ได้นะ ถ้าไม่ได้จริง เขียนจดหมายมาแล้วเดินเอามาให้พี่ที่เขตร้อนก็ได้ ขออราธนาบุญบารมี ของท่านอาจารย์อุบล และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ดลบันดาลให้คุณเปลี่ยนพฤติกรรมสำเร็จด้วยค่ะ พี่จุ๋ม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ วันที่ตอบ 2012-10-18 21:49:58 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1635322) | |
อนุโมทนากับธรรมทานชีวิตของพี่แก้วด้วยค่ะ และอนุโมทนากับพี่แหม่มผู้พิมพ์ด้วยนะค๊า ว่าแต่ชีวิตคนมันสุขและทุกข์ไม่เท่ากันจริงๆนะคะ หากเราทุกข์ และเรารู้ว่าทุกข์นั้นเกิดจากอะไร และอะไรที่จะทำให้ทุกข์นั้นหายไปได้ เราก็คงอยากจะทำ แต่บางทีเจ้ากรรมนายเวรของเรา เค้าก็อาจจะอยากขัดขวางเราทุกทางเพื่อให้เราทุกข์ต่อไป แม้เราจะรู้วิธีที่จะทำให้หายทุกข์ แต่บางทีเราก็ทำไม่ได้ บางครั้งเราก็ต้องบังคับตัวเองเหมือนกันเนอะ ว่าเราจะต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ความสุขก็คงยังห่างไกลจากเราอีกมาก ถ้าความสุขยังห่างไกล นิพพานก็คงยังอีกไกลเหมือนกัน เพราะฉนั้นเราก็ควรที่จะสู้และฝ่าฟันไปให้ถึงที่สุดเนอะ (บอกตัวเองค่ะ) และก็อยากเห็นพี่แก้วกลับมาเขียนธรรมทานอีกจัง พี่แก้วหายไปไหนน๊อออ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี วันที่ตอบ 2012-10-19 01:52:37 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1635323) | |
อนุโมทนากับธรรมทานชีวิตของพี่แก้วด้วยค่ะ และอนุโมทนากับพี่แหม่มผู้พิมพ์ด้วยนะค๊า ว่าแต่ชีวิตคนมันสุขและทุกข์ไม่เท่ากันจริงๆนะคะ หากเราทุกข์ และเรารู้ว่าทุกข์นั้นเกิดจากอะไร และอะไรที่จะทำให้ทุกข์นั้นหายไปได้ เราก็คงอยากจะทำ แต่บางทีเจ้ากรรมนายเวรของเรา เค้าก็อาจจะอยากขัดขวางเราทุกทางเพื่อให้เราทุกข์ต่อไป แม้เราจะรู้วิธีที่จะทำให้หายทุกข์ แต่บางทีเราก็ทำไม่ได้ บางครั้งเราก็ต้องบังคับตัวเองเหมือนกันเนอะ ว่าเราจะต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ความสุขก็คงยังห่างไกลจากเราอีกมาก ถ้าความสุขยังห่างไกล นิพพานก็คงยังอีกไกลเหมือนกัน เพราะฉนั้นเราก็ควรที่จะสู้และฝ่าฟันไปให้ถึงที่สุดเนอะ (บอกตัวเองค่ะ) และก็อยากเห็นพี่แก้วกลับมาเขียนธรรมทานอีกจัง พี่แก้วหายไปไหนน๊อออ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี วันที่ตอบ 2012-10-19 01:52:38 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1635608) | |
ขออนุโมทนาบุญกับคุณแก้วและคุณแหม่มครับ ในที่สุดเราก็ได้อ่านธรรมทานจากคุณแก้วที่มาจาก ชีวิตจริงของเธอ ว่าก่อนและหลังมาพบท่านอาจารย์ ที่บ้านสวนฯแล้ว ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รอธรรมทานตอนต่อไปอยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช วันที่ตอบ 2012-10-20 21:57:08 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1635731) | |
เป็นกำลังให้คุณแก้วด้วยค่ะ การเริ่มต้นดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อเราได้เริ่มแล้ว ก้าวต่อไปก็จะง่ายขี้นเองค่ะ คุณแก้วขา รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) วันที่ตอบ 2012-10-21 21:42:33 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1635744) | |
ขอเป็นกำลังใจให้คุณแก้วอีก 1 เสียงค่ะ สิ่งที่ท่านอาจารย์ได้เมตตาเตือน ให้เขียนธรรมทาน นั้น ผู้ที่ได้รับความสุขจริงๆก็คือพวกเอาเองนะคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) วันที่ตอบ 2012-10-21 23:33:41 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1636303) | |
อนุโมทนาบุญกับคุณแก้ว คุณแหม่ม เขียนบ่อย ๆ นะคุณแก้ว เป็นกำลังใจให้จ๊ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล วันที่ตอบ 2012-10-24 15:26:00 |
ความคิดเห็นที่ 13 (1636859) | |
อนุโมทนาบุญธรรมทานจากคุณแก้ว และคุณแหม่มที่ได้ช่วยเป็นสะพานบุญด้วยค่ะ
พี่นุชได้ไปเจอพี่สาวคุณแก้วโดยบังเอิญค่ะ จะเล่าให้ฟ้ง..แต่ป่านนี้พี่สาวคงเล่าให้ฟังแล้วม้๊งคะ คือพี่นุชไปไหว้พระที่ศุนย์โยเรและเจ้าหน้าที่ๆมาให้โยเร ก็คือ คุณวลี เฟื่องฟู ตอนหลังพี่นุชจึงถามว่ารู้จักคุณแก้ว กัณภัทรไหมคะ พี่เขาก็ยิ้มเลยค่ะ และบอกว่าเป็นพี่สาวแท้ๆของคุณแก้ว ว่าแระ หน้าก็บอกอยู่แต่แรกแล้ว เพราะหน้าเหมือนกัน พี่พี่คุณแก้วได้บอกว่า แม่ก็ได้สวมจี้เหมือนที่เห็นพี่นุชใส่ มองอยู่แต่แรกแล้ว คุณแก้วนำไปให้แม่ใส่ๆแล้วแม่แข็งแรงขึ้นประมาณนี้ค่ะ ไปบ้านสวนพีรามิดแล้วดีใช่ไม๊ค่ะ ดีค่ะ ดีมากเลยค่ะ พี่เคยดูรายการคุยไปแจกไปไหมคะ ไม่มีเวลาดูค่ะ ได้สนทนากันแค่นั้น พอดีมีคนเข้ามาทักและก็กำลังจะกลับนะค่ะ
พี่นุชเอาใจช่วยและขอเป็นกำลังใจ ให้คุณแก้วและเข้ามาเขียนธรรมทานอีกนะคะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี วันที่ตอบ 2012-10-26 18:13:40 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1449395 |