ReadyPlanet.com


รายงานผลการไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด


ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กราบคาระวะท่านท้าวเวสสุวรรณและสิ่งศักดิ์ทั้งหลายในบ้านสวน และขอกราบเรียนอาจารย์อุบลที่เคารพ

ดิฉันนางสาวปัญจกานต์ วรรณทอง บ้านเกิดอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์  แต่ตอนนี้พำนักอยู่ประเทศอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม2555 ที่ผ่านมานี้  ได้กลับเมืองไทยแบบกระทันหัน  เนื่องจากคุณแม่ถึงแก่กรรม 

ตัวเองคงจะมีบุญอยู่บ้างที่รู้จักเว็บบ้านสวนผ่านเว็บพลังจิตโดยบังเอิญ  จึงติดตามข้อมูลเรื่อย ๆ จนได้ชมรายการคุยไปแจกไป  เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะทำบุญและอยากไปบ้านสวนเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ ตอนนั้นไม่รู้เรื่องที่ไปทำบุญแรงกายแล้วหายจากการเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เพราะตอนที่ดูในรายการนั้นพูดถึงเรื่องอื่น

พยายามติดต่อผ่านทั้งทางเว็บบ้านสวน  โทรศัพท์ทุกเบอร์ก็ไม่มีการตอบรับ  หลังจากส่งเงินไปร่วมทำบุญสร้างพระชำระหนี้แผ่นดืนแล้ว ก็ฝากข้อความเสียงไว้  แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ  พยายามจนถึงวันเกือบสุดท้ายที่จะต้องเดินทางกลับอเมริกาแล้ว  จึงโทรติดและได้พูดกับท่านอาจารย์อุบล โดยตรง พออาจารย์อนุญาต ก็ตัดสินใจไปบ้านสวนเลย

ขอเล่าเรื่องโรคนะคะ  ดิฉันเป็นโรคสะเก็ดเงินมานานกว่าสิบปีแล้ว  ตอนแรกที่เป็นจะเริ่มเป็นเมือกสีเหลือง ๆ ที่ศีรษะ มีกลิ่นเหม็นมาก ต้องสระผมทุกวัน หลังจากรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน อยู่หลายปี ปรากฏว่าหนังศีรษะเริ่มแห้ง และเป็นสะเก็ดสีขาว ๆ ร่อนออกมาทุกวัน เหมือนรังแค เมื่อสะเก็ดลอกออก จะมีเหมือนน้ำมันซึมออกมา แต่ไม่มีกลิ่น 

ประมาณห้าปีต่อมาเริ่มมีอาการเป็นผื่นแดงๆ หนาๆ แล้วลอกเป็นสะเก็ดตามแขน ข้อศอก และลามไปทั่วทั้งตัว เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้  ต้องใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวประจำ  เพราะนอกจากจะดูน่าเกลียดแล้ว เวลาถูกแดดโดยตรงจะแสบและคันมาก  ที่น่าสงสารตัวเองมากที่สุดคือรอยโรคเริ่มเป็นที่ขอบหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง

เมื่อไปบ้านสวนในตอนเช้าอาจารย์อุบลให้ไปขัดหินกับคุณเหมี่ยว  ในขณะที่ขัดหินและขนหินไปให้เพื่อนขัดนั้นไม่แสบไม่คันที่ผิวหนังทั้งๆ ที่ตากแดดทำงานติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง  แต่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเวียนหน้า พร้อมกับปวดตรงขมับสองข้างเป็นระยะ ๆ มีเหงื่อเม็ดโป้งๆ ออกที่ใบหน้า แต่ก็แปลกใจมากที่ไม่มีเหงื่อ ออกที่อื่นของร่างกายเลย   ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าตัวเองทำงานตากแดดและไม่มีหมวก เหงื่อก็เลยออกเป็นธรรมดา  ขณะที่ทำงานก็ท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย แต่เนื่องจากไม่เคยท่องมาก่อนจึงนำเอกสารคาถาไปเหน็บไว้ที่พุ่มไม้  และเดินไปดูและท่องเป็นระยะ ๆ  ทำอยู่จนอาการปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกกระหายน้ำอย่างแรง จึงหยุดเข้าไปพักในร่มมะม่วงดื่มน้ำที่นำไปด้วยจนหมดขวด ก็ยังคงกระหายน้ำอยู่  คุณเหมี่ยวจึงบอกให้ไปเอาน้ำดื่มเพิ่มที่โรงครัว จึงบอกกับเพื่อนๆ ที่ช่วยกันขัดหินว่าขอไปพักก่อน ถ้ายังไม่เสร็จจะกลับมาช่วยอีก

เมื่อไปถึงโรงครัวจึงรู้ว่าเป็นเวลาเที่ยงกว่า ๆ แล้ว  จึงไปขอข้าวทาน (ตอนนั้นไม่รู้ว่าต้องทานพร้อมกัน)  เจอคุณแมว จึงได้รู้ว่าต้องคอยให้พร้อมกันก่อน หลังทานข้าวเที่ยงเสร็จก็ได้ทำ work shop ได้อยู่กับกลุ่มคุณเหมี่ยวอีก กลุ่มของเราได้รับหน้าที่ให้ไปตกแต่งที่พีรมิดองค์ใหญ่หลังบ้านอาจารย์อุบล  ในช่วงบ่ายนี้ทำหน้าที่ล้างดอกไม้ใต้ร่มมะม่วง แถมยังใส่หมวกอีก แต่ก็แปลกใจมากที่มีเหงื่อออกที่หน้าตลอดทั้งๆ ที่ไม่ได้ตากแดดเลย อาการปวดศีรษะและขมับก็ยังคงมีอยู่แต่ไม่มากเหมือนตอนเช้า  เมื่อเสร็จงานก็ไปเก็บล้างเครื่องมือจึงได้ขัดหินที่เหลืออยู่หนึ่งคุถังเป็นการแถมท้าย  ต้องขอขอบคุณที่มีคนเหลือไว้ให้

ขากลับมาที่พัก(กระท่อมไม้ไผ่) พบอาจารย์อุบลกลางทาง จึงขออนุญาตท่านอาบน้ำ พอท่านอนุญาตก็รีบไปอาบอย่างเร็ว เนื่องจากต้องไปกรุงเทพเพื่อขึ้นเครื่องกลับอเมริกา  ขณะที่แต่งตัวอยู่ คุณศักดิ์ (ถ้าจำชื่อผิดก็ขออภัยนะคะ) ก็มาตาม บอกว่าให้ไปรายงานผลกับกลุ่มก่อนกลับ  ทั้งๆ ที่กังวลว่าจะไปไม่ทันรถเข้ากรุงเทพฯ เที่ยวสุดท้าย แต่ก็ไปรายงานผลให้กลุ่ม

ในขณะที่เดินไปหากลุ่มคลำดูที่หน้าผากตัวเอง รู้สึกถึงความเรียบเนียน ก็มั่นใจว่ารอยโรคหาย ทั้ง  ๆ ที่ไม่ได้ส่องกระจกดูเลย  พอไปถึงกลุ่มก็บอกหัวหน้ากลุ่มว่าหายแล้วพร้อมทั้งเปิดหน้าผากให้ดูด้วย  ส่วนรอยโรคที่แขนจางลงอย่างเห็นได้ชัด  รู้สึกดีใจมาก

ขณะที่พิมพ์เรื่องนี้ ตัวเองอยู่ที่อเมริกา และรู้สึกว่า รอยโรคค่อยๆ หายมากขึ้น โดยเริ่มจากศีรษะลงไปที่น่อง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทายาเลย 

ขอกราบขอบพระคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายในบ้านสวนและอาจารย์อุบล ที่ช่วยให้ดิฉันหายจากโรคที่เป็นมาสิบกว่าปี  ถ้าหายขาดร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อไร จะเขียนมารายงานอีกค่ะ

 

                                                                               ปัญจกานต์   วรรณทอง (แพม)



ผู้ตั้งกระทู้ ปัญจกานต์ วรรณทอง กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-20 11:35:45


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1635525)

มทนาบุญกับคุณแพม ที่หายจากโรคสะเก็นเงินแค่ไปใช้แรงกายและปัจจัยขนหิน หัดหิน  ทำให้โรคที่เป็นหายได้ขนาดนี้แล้วต่อไปบ้านสวนพีระมิดคงไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่ตัดสินใจช้า  เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555 ท่านอ.อุบล ยังยกตัวอย่างเคสของคุณแพมให้ให้ทุกท่านฟังในงานนี้ด้วย  แต่ท่นอ.อุบล ยังบอกว่าอย่าลืมเมื่อกลับไปถึงบ้านไม่เกิน 3 วัน ให้เขียนธรรมทานไม่นั้นโรคก็จะกลับมาเป็นอีก  และถ้าหายแล้วอย่าลืมอุทิสให้เทวดาที่รักาตัวท่านอ.อุบล  ไม่นั้นจะทั้งต้นและดอก ที่พี่เขียนมานี่ก็เตือนความจำของพี่ด้วยและแนะนำทุกท่านเมื่อมีความสุขแล้วอย่าคนที่ทำให้เราหายได้ถึงขนาดนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นคนเนรคุณคน

หากการเขียนธรรมทานครั้งนี้มีต่อทุกท่านขอให่ส่งผ่านทีเถอะ

สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 13:38:08


ความคิดเห็นที่ 2 (1635537)

รายงานผลการไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด
แจ้งลบกระทู้


ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบคาระวะท่านท้าวเวสสุวรรณและสิ่งศักดิ์ทั้งหลายในบ้านสวน และขอกราบเรียนอาจารย์อุบลที่เคารพ

ดิฉันนางสาวปัญจกานต์ วรรณทอง บ้านเกิดอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์  แต่ตอนนี้พำนักอยู่ประเทศอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม2555 ที่ผ่านมานี้  ได้กลับเมืองไทยแบบกระทันหัน  เนื่องจากคุณแม่ถึงแก่กรรม 

ตัวเองคงจะมีบุญอยู่บ้างที่รู้จักเว็บบ้านสวนผ่านเว็บพลังจิตโดยบังเอิญ  จึงติดตามข้อมูลเรื่อย ๆ จนได้ชมรายการคุยไปแจกไป  เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะทำบุญและอยากไปบ้านสวนเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ ตอนนั้นไม่รู้เรื่องที่ไปทำบุญแรงกายแล้วหลายจากกสรเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เพราะตอนที่ดูในรายการนั้นพูดถึงเรื่องอื่น

พยายามติดต่อผ่านทั้งทางเว็บบ้านสวน  โทรศัพท์ทุกเบอร์ก็ไม่มีการตอบรับ  หลังจากส่งเงินไปร่วมทำบุญสร้างพระชำระหนี้แผ่นดืนแล้ว ก็ฝากข้อความเสียงไว้  แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ  พยายามจนถึงวันเกือบสุดท้ายที่จะต้องเดินทางกลับอเมริกาแล้ว  จึงโทรติดและได้พูดกับท่านอาจารย์อุบล โดยตรง พออาจารย์อนุญาต ก็ตัดสินใจไปบ้านสวนเลย

ขอเล่าเรื่องโรคนะคะ  ดิฉันเป็นโรคสะเก็ดเงินมานานกว่าสิบปีแล้ว  ตอนแรกที่เป็นจะเริ่มเป็นเมือกสีเหลือง ๆ ที่ศีรษะ มีกลิ่นเหม็นมาก ต้องสระผมทุกวัน หลังจากรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน อยู่หลายปี ปรากฏว่าหนังศีรษะเริ่มแห้ง และเป็นสะเก็ดสีขาว ๆ ร่อนออกมาทุกวัน เหมือนรังแค เมื่อสะเก็ดลอกออก จะมีเหมือนน้ำมันซึมออกมา แต่ไม่มีกลิ่น 

ประมาณห้าปีต่อมาเริ่มมีอาการเป็นผื่นแดงๆ หนาๆ แล้วลอกเป็นสะเก็ดตามแขน ข้อศอก และลามไปทั่วทั้งตัว เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้  ต้องใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวประจำ  เพราะนอกจากจะดูน่าเกลียดแล้ว เวลาถูกแดดโดยตรงจะแสบและคันมาก  ที่น่าสงสารตัวเองมากที่สุดคือรอยโรคเริ่มเป็นที่ขอบหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง

เมื่อไปบ้านสวนในตอนเช้าอาจารย์อุบลให้ไปขัดหินกับคุณเหมี่ยว  ในขณะที่ขัดหินและขนหินไปให้เพื่อนขัดนั้นไม่แสบไม่คันที่ผิวหนังทั้งๆ ที่ตากแดดทำงานติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง  แต่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเวียนหน้า พร้อมกับปวดตรงขมับสองข้างเป็นระยะ ๆ มีเหงื่อเม็ดโป้งๆ ออกที่ใบหน้า แต่ก็แปลกใจมากที่ไม่มีเหงื่อออกที่อื่นของร่างกายเลย   ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าตัวเองทำงานตากแดดและไม่มีหมวก เหงื่อก็เลยออกเป็นธรรมดา  ขณะที่ทำงานก็ท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย แต่เนื่องจากไม่เคยท่องมาก่อนจึงนำเอกสารคาถาไปเหน็บไว้ที่พุ่มไม้  และเดินไปดูและท่องเป็นระยะ ๆ  ทำอยู่จนอาการปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกกระหายน้ำอย่างแรง จึงหยุดเข้าไปพักในร่มมะม่วงดื่มน้ำที่นำไปด้วยจนหมดขวด ก็ยังคงกระหายน้ำอยู่  คุณเหมี่ยวจึงบอกให้ไปเอาน้ำดื่มเพิ่มที่โรงครัว จึงบอกกับเพื่อนๆ ที่ช่วยกันขัดหินว่าขอไปพักก่อน ถ้ายังไม่เสร็จจะกลับมาช่วยอีก

เมื่อไปถึงโรงครัวจึงรู้ว่าเป็นเวลาเที่ยงกว่า ๆ แล้ว  จึงไปขอข้าวทาน (ตอนนั้นไม่รู้ว่าต้องทานพร้อมกัน)  เจอคุณแมว จึงได้รู้ว่าต้องคอยให้พร้อมกันก่อน หลังทานข้าวเที่ยงเสร็จก็ได้ทำ work shop ได้อยู่กับกลุ่มคุณเหมี่ยวอีก กลุ่มของเราได้รับหน้าที่ให้ไปตกแต่งที่พีรมิดองค์ใหญ่หลังบ้านอาจารย์อุบล  ในช่วงบ่ายนี้ทำหน้าที่ล้างดอกไม้ใต้ร่มมะม่วง แถมยังใส่หมวกอีก แต่ก็แปลกใจมากที่มีออกที่หน้าตลอดทั้งๆ ที่ไม่ได้ตากแดดเลย อาการปวดศีรษะและขมับก็ยังคงมีอยู่แต่ไม่มากเหมือนตอนเช้า  เมื่อเสร็จงานก็ไปเก็บล้างเครื่องมือจึงได้ขัดหินที่เหลืออยู่หนึ่งคุถังเป็นการแถมท้าย  ต้องขอขอบคุณที่มีคนเหลือไว้ให้

ขากลับมาที่พัก(กระท่อมไม้ไผ่) พบอาจารย์อุบลกลางทาง จึงขออนุญาตท่านอาบน้ำ พอท่านอนุญาตก็รีบไปอาบอย่างเร็ว เนื่องจากต้องไปกรุงเทพเพื่อขึ้นเครื่องกลับอเมริกา  ขณะที่แต่งตัวอยู่ คุณศักดิ์ (ถ้าจำชื่อผิดก็ขออภัยนะคะ) ก็มาตาม บอกว่าให้ไปรายงานผลกับกลุ่มก่อนกลับ  ทั้งๆ ที่กังวลว่าจะไปไม่ทันรถเข้ากรุงเทพฯ เที่ยวสุดท้าย แต่ก็ไปรายงานผลให้กลุ่ม

ในขณะที่เดินไปหากลุ่มคลำดูที่หน้าผากตัวเอง รู้สึกถึงความเรียบเนียน ก็หมั่นใจว่ารอยโรคหาย ทั้ง  ๆ ที่ไม่ได้ส่องกระจกดูเลย  พอไปถึงกลุ่มก็บอกหัวหนเากลุ่มว่าหายแล้วพร้อมทั้งเปิดหน้าผากให้ดูด้วย  ส่วนรอยโรคที่แขนจางลงอย่างเห็นได้ชัด  รู้สึกดีใจมาก

ขณะที่พิมพ์เรื่องนี้ ตัวเองอยู่ที่อเมริกา และรู้สึกว่า รอยโรคค่อยๆ หายมากขึ้น โดยเริ่มจากศีรษะลงไปที่น่อง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทายาเลย 

ขอกราบขอบพระคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายในบ้านสวนและอาจารย์อุบล ที่ช่วยให้ดิฉันหายจากโรคที่เป็นมาสิบกว่าปี  ถ้าหายขาดร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อไร จะเขียนมารายงานอีกค่ะ

 

                                             ปัญกานต์   วรรณทอง (แพม)



 
ผู้ตั้งกระทู้ ปัญจกานต์ วรรณทอง กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-20 11:35:45
 

 

ขออนุญาตขยายตัวอักษรค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 15:27:54


ความคิดเห็นที่ 3 (1635576)

ขอบคุณ คุณบุญภิบาลที่ช่วยเตือนความจำค่ะ   วันนี้ (20  ตุลาคม 2555) ได้มีโอกาสดูวีดีโอรายงายผลการทำบุญแรงกาย กลุ่มตัวเองที่มีคุณเหมี่ยวเป็นหัวหน้ากลุ่ม ด้วย ขออนุโมทนาบุญอย่างสูงสุดค่ะ  ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือหน้าพี่แป้น ขาวใสขึ้นกว่าตอน ห้าโมงเย็นอีก (ตอนทำงานเสร็จใหม่ ๆ ผิวหน้าเปลี่ยนสีแต่ยังมีรอยดำอยู่)  และคุณเจี๊ยบ ที่ผิวที่เข่าหายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  ดิฉันขอเป็นพยานเพิ่มอีกคนค่ะ เพราะเห็น ทั้งสองท่านนี้ทั้งก่อนและหลังทำงาน  ส่วนมือคุณเหมี่ยวก็เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด  เสียดายที่ตัวเองไม่สามารถอยู่ร่วมรายการตอนกลางคืนได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 19:22:46


ความคิดเห็นที่ 4 (1635618)

 โมทนาบุญกับคุณปัญจกานต์ด้วยนะคะ ที่มีบุญสัมพันธกับบ้านสวน และท่านอาจารย์ ทำให้มีโอกาสได้ไปใช้แรงกาย

ทำให้หายจากโรคท่ีรักษามานานแล้วไม่หาย ดีใจดวยจริงๆค่ะ ขอให้หาย100% เลยนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 23:22:32


ความคิดเห็นที่ 5 (1635664)

หมอขอแสดงความยินดีกับคุณแพมคะ 

ที่อาการของโรคเสก็ดเงินหายเกือบหมดเพียงแต่มาทำบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด สวดคาถาพระศรีอาริย์ แค่เวลาสั้นๆหนึ่งวันยังเห็นผลขนาดนี้

โดยทั่วไปโรคเสก็ดเงินจะรักษายากมาก ส่วนมากก็แค่พอทุเลาเท่านั้น ต้องอยู่กับโรคนี้ตลอดชีวิต 

ขอบคุณอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล และคุณทอป ที่เปิดบ้านช่วยเหลือผู้คน

ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆพระองค์ที่อาจารย์อุบล อัญเชิญมาอยู่ในบ้านสวนพีระมิด

เป็นบุญของสัตว์โลกผู้เจ็บป่วย ที่จะได้พบแสงสว่างหายจากทุกข์ และมีทางรอดจากภัยพิบัติ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 12:00:47


ความคิดเห็นที่ 6 (1635710)

เจี๊ยบขออนุโมทนาบุญกับคุณแพมด้วยนะคุ่ะ

ที่อาการของโรคสะเก็ดเงินดีขึ้นเรื่อยๆ

เข้ามาเขียนธรรมทานบ่อยๆนะค่ะ โรคจะได้หายขาดเพราะยิ่งเขียนยิ่งได้บุญค่ะ

ถึงแม้จะไม่ได้มาสร้างบุญที่บ้านสวน แต่เราก็สามารถสร้างบุญใหญ่ได้ค่ะ

อาการที่เข่าของเจี๊ยบก็ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ

อ้อ  อย่าลืม ปิดอีเมล์ด้วยค่ะ เวลาพิมพ์ธรรมทาน

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 19:58:42


ความคิดเห็นที่ 7 (1635751)

 อ่อ สงสัยจะเป็นคุณแพมคนนี้แน่ๆที่เขาเล่าในกระทู้อื่นกัน

ว่าอาการของคุณแพมดีขึ้นจนน่าอัศจรรย์

เพราะพลังบุญจากบ้านสวน และคาถาพระศรีอาริย์

บวกกับการทำงานแบบ Work shop 

เป็นการแก้เหตุได้ตรงจุดมากๆ

เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ ว่าคุณคงจะทรมานมากๆ

ยังไงก็ดีใจด้วยนะค๊าา

หากว่ามาเขียนธรรมทานทุกวัน

ญมั่นใจค่ะว่าหายแน่ๆ อิอิ


ว่าแต่ตกลงชื่อคุณแพมใช่มั้ยค๊า

รู้สึกเหมือนเคยมีคนเขียนว่าชื่อ คุณแบม

หรือจำผิดก็ไม่รู้ค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 02:15:37


ความคิดเห็นที่ 8 (1635931)

ตกลงชื่อแพมค่ะ  ไม่ใช่แบม และไม่ใช่แพรว ขอยืนยัน ค่ะ   และต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ที่ พิมพ์ผิดตั้งหลายที่  หลังจากคลิกส่งแล้วจึงเห็นที่ผิด

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 00:23:24



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.