ReadyPlanet.com


ช่วงเวลาที่่ดีที่สุดในการสวดมนต์และแผ่เมตตา


ใน ช่วงเวลา 10.45 – 11.15 น. หรือ 22.45 – 23.15 น. ทุกวันธรรมสวนะ หรือทุกวันพระ จะเกิดคลื่น “พลังพิเศษ” ซึ่งจะเป็นคลื่นช่วยสลายพลังเลวร้าย และช่วยให้ผู้สวดและครอบครัว แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆได้ แต่ถ้านัดหมายรวมตัวกันสวดเป็นหมู่คณะได้ ยิ่งจะเกิดพลังพิเศษมากขึ้น เป็นคลื่นพลังพุทธานุภาพ และจิตตานุภาพ ช่วยขับไล่พลังร้ายให้อ่อนตัวลง

ใน ช่วงเวลา 10.45 – 11.15 น. หรือ 22.45 – 23.15 น. เป็นช่วงที่เหมาะแก่การสวดมากที่สุด เพราะเป็นช่วงรอยต่อของมิติเวลา โดยการแผ่เมตตาตามบทสวดของหลวงปู่ทวด และทำสมาธิต่อจากนั้นสักเล็กน้อย เพื่อลดแรงอาฆาตของเจ้ากรรมนายเวรจากนรกภูมิ และพญามารจากสวรรคภูมิ (สวรรค์ชั้นสูง)

อานุภาพการสวดฯ ต้องเปล่งเสียงดังให้หนักแน่น จะทำให้เกิดพลังพุทธานุภาพ และจิตตานุภาพมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าผู้สวดเป็นบุคคลที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีจิตใฝ่กุศล รักษาศีลมั่นคงจะก่อให้เกิดพลังรักษาชาติบ้านเมืองได้ ช่วยให้สังคม มีความสงบ และมีสันติสุขได้ แต่ทั้งนี้ผู้เขียนเชื่อว่าย่อมต้องมีผู้ไม่เชื่อถือว่ามีผลเช่นดังว่า อีกทั้งยังต่อต้านค่อนแคะในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางลับ และเปิดเผย เรียกว่าเป็นตัวฉุดรั้งและต่อต้าน ซึ่งทำให้ผู้ที่มุ่งหวังจะกระทำความดี เพื่อช่วยสังคมและประเทศชาติอ่อนแรง และไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งก็น่าวิตกพอสมควร

อย่าง ไรก็ตาม ผู้เขียนขอสนับสนุนให้ท่านผู้อ่าน กรุณาหาเวลาชวนกันมาสวดแผ่เมตตาตามบทสวดดังต่อไปนี้ ในเวลา 22.45 – 23.15 น. อย่างน้อยก็ช่วยให้เกิดการคุ้มครองแก่ผู้สวด และครอบครัว แต่ถ้าท่านผู้อ่านที่ได้รับ Mail เรื่องนี้ ปัจจุบันมิได้ประกอบอาชีพเป็นลูกจ้าง หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นข้าราชการประจำ สามารถที่จะจัดสรรเวลาในช่วง 10.45 – 11.15 น. ได้อีก 1 ช่วงเวลา ก็ขอให้สวดเพิ่ม และทำสมาธิจิตในช่วงเวลาดังกล่าวอีก 1 ช่วงเวลา ซึ่งผู้เขียนก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลกับท่านด้วย เพราะ 2 ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ถือว่า เป็นช่วงรอยต่อของมิติเวลา เป็นช่วงที่มีพลังแรงมาก

ท้ายที่สุดนี้ ขอกราบเรียนเชิญท่านผู้อ่านทุกท่านและครอบครัว รวมทั้งญาติสนิทและมิตรสหาย ขอให้มาร่วมด้วยช่วยกัน ในการสวดโดยเปล่งเสียงดังว่า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท-ธัสสะ (3 จบ)
นะโม โพธิ สัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
เประมัง ธัมมัง สังฆัง
ประมัง ธัมมัง สังฆัง
ปรมัง ธัมมัง สังฆัง

เสสัง ธัมมัง สังฆัง
กะริยานัง อัตโน โหนตุ
(สวดทั้งหมด 3-11จบ)


สัตว์ทั้ง หลาย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด

จากนั้นนั่งสมาธิสักครู่ เป็นอันเสร็จพิธี

ด้วยความปรารถนาดี
จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

หมาย เหตุ : หากท่านใดต้องการรับข่าวสารชมรมศาสนาและการกุศล บมจ.ธนาคารกรุงไทย ฟรีทางจดหมายอิเล็คโทรนิค E-Mail ซึ่งท่านจะได้รับข่าวสารก่อนการจัดทำเป็น CD แจกฟรี

โปรดแจ้งมาที่ E-Mail : mkrichti@ktb.co.th mkrichti@ktb.co.th หรือ โทร. 0-2208-7600, 0-2208-7601 โทรสาร. 0-2256-8320 หรือ 0-2256-8322

 





ผู้ตั้งกระทู้ ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-08-22 05:12:23


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1506418)

ขออนุโมทนากับคุณชนิดา สำหรับธรรมทานที่เป็นประโยชน์นี้ด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญญา วันที่ตอบ 2010-08-22 09:52:30


ความคิดเห็นที่ 2 (1506700)
ขออนุดมทนาบุยกับพี่ชนิดาด้วยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2010-08-24 08:22:45


ความคิดเห็นที่ 3 (1506885)

อนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาด้วยค่ะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น Kroonlo วันที่ตอบ 2010-08-25 13:35:01


ความคิดเห็นที่ 4 (1507238)

อนุโมทนา ด้วยค่ะที่แนะนำสิ่งดีๆๆให้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อรุณรัตน์ เปรมฉัตรปริพัต วันที่ตอบ 2010-08-26 23:21:10


ความคิดเห็นที่ 5 (1507299)

ขออนุโมทนาบุญด้วยเช่นกันค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น Khwan (hun_pa-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-27 13:33:34


ความคิดเห็นที่ 6 (1517223)

ขออนุโมทนากับคุณชนิดาด้วยเช่นกันค่ะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น kroonok วันที่ตอบ 2010-11-10 14:13:03


ความคิดเห็นที่ 7 (1517286)

 ขอนับถือและขอบคุณ คุณชนิดาที่กรุณาโพสกระทู้นี้ หวังว่าคงจะเป็นประโยชย์

กับชาวบ้านสวนและผู้เข้าชมทุกๆท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-10 19:38:14


ความคิดเห็นที่ 8 (1519947)

ขอขอบคุณในคำอนุโมทนาจากทุกๆท่านนะคะ

ดีใจค่ะที่กระทู้นี้มีประโยชน์ต่อทุกๆท่าน

 

ขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาเช็คเล๊ย... พอกระทู้หลุดตกจากหน้าหนึ่งแล้ว

ก็ไม่ได้ตามเช็คเลยว่า มีใครมาโพสต์เพิ่มบ้าง

 

แ่ต่ตอนนี้ คุณมาร์คจัดระเบียบใหม่ ง่ายต่อการสังเกตุและสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

ต้องขออนุโมทนาในความเสียสละของคุณเพชรและคุณมาร์ค กับการสร้างสรรค์เว็บนี้ขึ้นมา

เป็นประโยชน์อย่างกว้างขวางจริงๆ


ขอบคุณมากๆๆๆๆๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-02 04:09:46


ความคิดเห็นที่ 9 (1520977)

เรียนคุณชนิดา ทรายขออนุโมนาบุญสำหรับธรรมทานที่แสนดีนี้ด้วยนะค่ะเป็นประโยชน์มากค่ะแต่ทรายมักจะนั่งสมาธิในตอนเช้าเพราะมีเวลาส่วนกลางคืนก็สวดค่ะแต่ไม่ได้นั่งสมาธิทรายจะลองเอาวิธีของคุณชนิดาไปลองปฏิบัติดูนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณชนิดามีความสุขมาก ๆ นะค่ะ อนุโมทนาบุญอีกทีค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลักขณา ศรประสิทธิ์ (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-08 19:51:52


ความคิดเห็นที่ 10 (1521072)

ขออนุโมทนาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น วันที่ตอบ 2010-12-09 15:16:03


ความคิดเห็นที่ 11 (1521095)

คุณน้อง "โหน่ง ชนิดา ณ โปแลนด์" ครับ ไม่เห็นบอกเลยว่า

ตัวเองสวดมนต์ตอนไหน ที่สำคัญอยากรู้ว่า

โอนบุญให้เฮียผู้อาภัพวาสนาคนนี้บ้างรึเปล่า

"บุญที่ข้าพเจ้าพึ่งได้รับฉันใด ขอให้ทุกท่านได้รับฉันนั้น"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-09 20:19:21


ความคิดเห็นที่ 12 (1521133)

 

โธ่.... คุณปุ้ม ถามได้สะกิดใจจริงๆเลย

 

ถ้าเอาคำตอบแบบซีเรียสล่ะก็ ชนิดาสวดมนต์ตลอดเวลาค่ะ (มีคนแอบ แหวะ...เล็กน้อย)

จริง จริ๊ง... เรียกว่า ภาวนาในใจ ดีกว่า ไม่ใช่ สวดมนต์

ที่ภาวนาสลับกันในใจก็มีสามบท คือ

บทป้องกันภัยฯ  ปะโตเมตัง ฯ

หรือไม่ก็ บท บูชา หลวงปู่ทวด..... นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา......

หรือไม่ ก็บทบูชา หลวงปู่ดู่ ....... นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ..................

แต่ถ้าสวดมนต์ยาว แบบนั่งสวด เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ได้กำหนดเวลาแน่นอน สวดบ้าง ไม่สวดหลายๆๆๆๆบ้าง ก็มี......

แล้วแต่เลเวลความขี้เกียจ.............ค๊าาาาาาาาา.........................

ขนาดพยายามภาวนาในใจตลอดเวลาที่นึกได้แล้ว

บางทีภาวนาอยู่ จิตยังอุตส่าห์แว่บไปนู่น ไปนี่อยู่บ่อยๆเล๊ย.....

เบื่อตัวเองเหมือนกัน.......เฮ้อ...........

เป็นคนจิตใจไม่ดีก็เงี้ยะแหล่ะ  ต้องพยายามไม่ปล่อยให้จิตว่าง...เลย

เป็นคน "โรคจิตแว่บ" อ่ะ.......


แหม....คุณปุ้ม ช่างกล้าทวงบุญเนอะ

คุณปุ้มน่ะบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่จะตาย ไปแต่ละทริปบุญใหญ่ๆทั้งนั้น..... ฮิฮิ


บุญรักษาทุกท่านค่ะ....


 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-10 04:45:05


ความคิดเห็นที่ 13 (1521310)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกะคุณชนิดาด้วยนะคะ ติดตามอ่านกระทู้ทุกกระทู้ของคุณชนิดามาตลอดเลยค่ะ นี่ก็กะว่าจะสวดในวันพระที่จะถึงนี้ (14 ธ.ค.) ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของหนูพอดี คิดว่าเป็นโอกาสดีมาก ๆ เลยค่ะ ขอขอบคุณคุณชนิดามาก ๆ เลยค่ะ

เป็นบุญของหนูจริง ๆ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฝ้าย วันที่ตอบ 2010-12-11 16:36:59


ความคิดเห็นที่ 14 (1521390)

สุขสันต์วันเกิดคุณฝ้ายล่วงหน้าด้วยนะคะ 

ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลให้คุณฝ้ายมีความสุข

และ ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ สาธุ สาธุ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-12 05:55:27


ความคิดเห็นที่ 15 (1521391)

 

พึ่งสังเกตว่า คุณปุ้ม เปลี่ยนคำลงท้ายใหม่ มีอะไรที่พวกเราชาวบ้านสวนฯควรรู้เพิ่มเติม รึเปล่าคะ

"บุญที่ข้าพเจ้าพึ่งได้รับฉันใด ขอให้ทุกท่านได้รับฉันนั้น"

 

และเท่าที่สังเกตรู้สึกว่า ชาวบ้านสวนฯหลายๆท่านก็มักจะลงท้ายด้วยประโยคนี้บ่อยๆ

ส่วนอ.อุบล เอง ก็มักจะพูดประโยคนี้เสมอๆในรายการ.... คุยไปแจกไป

มาพิจารณาอีกที หรือคุณปุ้ม พยายามจะบอกว่า ให้ชนิดารู้จัก "ให้" มากกว่านี้รึเปล่าน้อ... เพราะจะว่าไปชนิดามักจะเข้ามาอนุโมทนารับบุญจากทุกๆท่านซะมากกว่า .... ไม่เคยแบ่งปันบุญของตัวเองเลย... ออกแนวขี้เหนียวบุญเล็กน้อย

แต่จริงๆไม่ได้ขี้เหนียวบุญหรอกนะคะ เพราะคิดว่า ตัวเองบุญน้อย โอกาสทำบุญก็น้อยกว่าทุกคน ก็เลยไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมีบุญมากพอที่จะให้ใครได้

แต่ต่อจากนี้ไปคิดว่า ถึงแม้จะมีน้อย ก็จะให้...ค่ะ

เพราะลองพูดประโยคนี้ในใจแล้ว รู้สึกว่าหัวใจมันพองๆ เต็มๆ เหมือนกัน... เหมือนปรับModeหัวใจไปในย่านความถี่ของการให้....  ฉะนั้น

"บุญที่ชนิดาพึงได้รับฉันใด ขอให้ผู้อ่านทุกท่านพึงได้รับด้วยฉันนั้น" สาธุ ค่ะ... 

 

คุณปุ้มคะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมช่วยขยายความด้วย...นะค๊า......

มาสร้างความงงให้เรา แล้วก็หายไปแบบนี้ .... ไม่ได้รับการอนุมัติ จากมติบ้านสวนฯค่ะ.... ฮิฮิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-12 06:13:43


ความคิดเห็นที่ 16 (1521554)

คุณชนิดา

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำอวยพรพออ่านจบ รู้สึกปิติซาบซ่านมากเลยค่ะ

"คำอวยพรที่ข้าพเจ้าได้รับฉันใด ขอให้คุณชนิดาได้รับฉันนั้น" (ขอยืมมาใช้ด้วย)

ผู้แสดงความคิดเห็น ฝ้าย วันที่ตอบ 2010-12-13 13:15:57


ความคิดเห็นที่ 17 (1521712)

ขออนุโมทนา ในบุญที่ส่งให้ทุกท่านด้วยนะคะ ขออนุญาตคัดลอก คาถาและข้อมูลดีมากๆอยากเก็บไว้อ่านค่ะ ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-14 11:44:58


ความคิดเห็นที่ 18 (1521718)

ขออนุโมทนาบุญ กับคุณชนิดาด้วยค่ะ  ............สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาวกุลภัค ชาครประดิษฐ์ วันที่ตอบ 2010-12-14 12:44:09


ความคิดเห็นที่ 19 (1523499)

 

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่ชนิดาด้วยค่ะ  สาธุ... มีประโยชน์มากสำหรับสมาชิกใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน วันที่ตอบ 2010-12-23 13:00:14


ความคิดเห็นที่ 20 (1528769)

ขอบคุณทุกท่านโดยเฉพาะผู้เผยแพร่ค่ะ ปัจจุบันนี้พยายามสวดมนต์ทุกวัน แต่ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา สวดในใจ การสวดมนต์แบบนี้ จะมีผลแตกต่างกันไหมคะขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เดือนห้า (pingguo-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-25 00:53:01


ความคิดเห็นที่ 21 (1528773)

สำหรับคำถามคุณ"เดือนห้า" ชนิดาก็เคยถามผู้รู้..ท่านนึง...ท่านบอกว่า

ถ้าจะสวดมนต์เราควรจะสวดออกเสียง เพราะวิญญาณทุกระดับชั้นจะสามารถได้ยินและ

มาอนุโมทนาบุญกับเราได้ เผลอๆถ้าสวดในใจงุบงิบอยู่คนเดียว บางวิญญาณอาจจะแอบงอนเราก็ได้ว่า

เสียงสวดมนต์ยังขี้เหนียวไม่ยอมเผื่อแผ่แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายเลย.....

เพราะการสวดมนต์ในใจ มีแต่เบื้องบนระดับเทวดาขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถได้ิยิน...

ฉะนั้น ถ้าจะสวดมนต์ ควรจะสวดออกเสียงดีกว่าค่ะ...

เพราะอย่างน้อยก็เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่เราได้ทำความดีครบทั้งทางกาย วาจา และ ใจ...

 

จริงเท็จอย่างไร ชนิดาก็ไม่ทราบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะ ฉะนั้น ก็ลองพิจารณาดูนะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยอีกครั้งนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-01-25 01:25:27


ความคิดเห็นที่ 22 (1528794)

ขอบคุณพี่ชนิดานะคะ

ให้ความรู้ตลอดเวลา ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดลอยเลยจริง ๆ

แม้กระทั่งสวดมนต์ ก็ให้เผื่อแผ่บุญไปให้ถ้วนหน้า ทุกภพ ทุกชั้น

เห็นจริงตามนั้นเลยคะ

อนุโมทนากับคุณพี่ และทุกท่าน ด้วยนะคะ

(งกบุญมากคะ ไม่รู้เท่าเขา ขอตามอนุโมทนากับเขาตลอดแล้วกัน)

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2011-01-25 06:41:33


ความคิดเห็นที่ 23 (1529557)

ขอบคุณสำหรับธรรมะจัดสรร วันนี้จะปฏิบัติค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐธิญาณ์ อนุรักษ์ วันที่ตอบ 2011-01-28 15:57:33


ความคิดเห็นที่ 24 (1533019)

พี่ชนิดาขา

เกดจำไม่ได้แล้วว่า

เคยอ่านเจอในกระทู้อันไหน

เค้าบอกว่าเวลาที่ดีที่สุดในการนั่งสมาธิ

คือ ตอน ตี 3 ถึง 6 โมงเช้า ไม่ทราบว่า อันไหนกันแน่ค่ะ

แต่ไม่ว่าเวลาไหนก็ทำได้ทั้งนั้นใช่มั๊ยะค่ะ สาธุ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ พี่ชนิดา สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊กตาฝน (tee-ged-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-23 00:25:48


ความคิดเห็นที่ 25 (1533020)

เประมัง ธัมมัง สังฆัง
ประมัง ธัมมัง สังฆัง
ปรมัง ธัมมัง สังฆัง

 

ใช่ เประมัง ธัมมัง สังฆัง

ทั้ง 3 รอบ เลยหรือเปล่าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊กตาฝน (tee-ged-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-23 00:30:02


ความคิดเห็นที่ 26 (1533024)

ฮ่า ฮ่า..เจ้าหนูจำไม..มาแย้ว.. ฮึ่ม คุณเกดเนี่ย ถามมาแต่ละคำถามย๊ากยาก...

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่า ข้อมูลนี้ชนิดาไปอ่านเจอมา คิดว่าน่าสนใจดี

ก็เลยก๊อปมาเผื่อ เพราะชนิดาไม่เคยรู้เลยว่า ช่วงเวลาต่างๆนั้นมีพลังแตกต่างกันอย่างไร

แต่จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบเหมือนกัลล์ ส่วน บทสวดเประมัง..ประมัง ปรมัง..นั้นถูกต้องแล้ว

ไม่ได้ผิดพลาดแต่ประการใด เพราะได้เช็คข้อมูลจากแหล่งอื่นๆแล้ว ก็เขียนตรงกันตามนั้น..

 

ส่วนเวลาที่ดีที่สุดในการนั่งสมาธิ ก็คือ เวลาที่สะดวก แต่ต้องไม่ใช่เวลาหิว หรือ อิ่มเกินไป

หรือ ง่วงจัด หรือ เหนื่อยเกินไป เพราะถ้ามีอาการเหล่านี้ นั่งไปก็ไม่ได้สมาธิจ๊า...

 

ส่วนเวลาที่น้องเกดอ่านเจอก็น่าจะจริงนะ เพราะ ถ้าเช็คตามข้อมูล นาฬิกาชีวิต

ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาของการทำงานของปอด และที่สำคัญ จะสังเกตได้ว่า

พระสงฆ์จะสวดมนต์ทำวัตรเช้าในช่วงตี4 ฉะนั้นก็น่าจะเป็นช่วงที่ดีเช่นกัน 

ฉะนั้น ก็เลยนำข้อมูลเรื่องนาฬิกาชีวิตมาเผื่อด้วยซะเลย

แต่คนส่วนใหญ่น่าจะได้อ่านมาบ้างแล้วล่ะ เพราะว่า"ฮิต"สุดๆมาแล้วช่วงนึง

การแพทย์ตะวันออกถือว่า   กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก  โดยมองลึกลงไปอีกว่า  ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้นภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิต ที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย อวัยวะตันและอวัยวะกลวง

อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต

อวัยวะกลวง หมายถึง  กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว)

การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง   ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต"

1.00-3.00 น.  เป็นช่วงเวลาของตับ  ควรนอนหลับพักผ่อนถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้  ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน  (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรคทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว  ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน  (endorphin) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว 

3.00-5.00  น.   เป็นช่วงเวลาของปอด   ควรตื่นขึ้นมาสูดอากาศรับแดดตอนเช้า  ผู้ที่ตื่นช่วงนี้ประจำ ปอดจะดี ผิวดี และเป็นคนมีอำนาจในตัว???

5.00-7.00 น.   ลำไส้ใหญ่   ควรถ่ายให้เป็นนิสัย  คนเรามักไม่ตื่นกันตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาที่ลำไส้ต้องบีบอุจจาระลง   เมื่อไม่ตื่นจึงบีบขึ้น  เมื่อไม่ถ่ายตอนเช้าลำไส้ใหญ่จึงรวน แล้วจะมีอาการปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อน แล้วจะนอนกรนในที่สุด

7.00-9.00  น.   กระเพาะอาหาร   กินเข้าเช้าตอนนี้จะดี  กระเพาะแข็งแรง  ถ้ากระเพาะอ่อนแอ   จะทำให้เป็นคนตัดสินใจช้า  ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย ถ้าไม่กินข้าวเช้าอุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็นถ้าถ่ายออกหมดจะไม่มีกลิ่นตัวเท่าไหร่

9.00-11.00  น.   ม้าม  ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย  หน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด  สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน   คนที่ปวดหัวบ่อยมักมาจากม้าม  อาการเจ็บชายโครงมาจากม้ามกับตับ   ม้ามโต   จะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย   ม้ามชื้น  อาหารแและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน  ทำให้อ้วนง่าย  คนที่หลับช่วง 9.00-11.00 ม้ามจะอ่อนแอ ม้ามยังโยงไปถึงริมฝีปากคนที่พูดมากช่วงนี้ม้ามจะชื้น ควรพูดน้อยกินน้อย ไม่นอนหลับ ม้ามจะแข็งแรง

11.00-13.00 น.  หัวใจ  หัวใจจะทำงานหนักช่วงนี้  ให้หลีกเลี่ยงความเครียด หรือใช้ความคิดหนัก หาทางระงับอารมณ์ไว้

13.00-15.00 น.   ลำไส้เล็ก   **ควรงดกินอาหารทุกประเภท**  เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน  ลำไส้เล็กทำหน้าที่ดูดสารอาหารที่เป็นน้ำเพื่อสร้างกรดอะมิโนสร้างเซลล์ สมอง  ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง

15.00-17.00  น.   กระเพาะปัสสาวะ  จะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้ควรทำให้เหงื่อออก จะออกกำลังการหรืออบตัวกระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง การอั้นปัสสาวะบ่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทำให้เหงื่อเหม็น

17.00-19.00 น.  ไต  ควรทำใจให้สดชื่น  ไม่ง่วงเหงาหาวนอนตอนนี้ ถ้าง่วงแสดงว่าไตเสื่อม ยิ่งหลับแล้วเพ้อ  อาการยิ่งหนัก

19.00-21.00 น. เยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงนี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ หัวเราะ

21.00-23.00  น.   เวลาของระบบความร้อนของร่างกาย  ต้องทำร่างกายให้อุ่น  ห้ามอาบน้ำเย็นเวลานี้จะเจ็บป่วยได้ง่าย ช่วงนี้อย่าตากลมเพราะลมมีพิษ

23.00-1.00 น.   ถุงน้ำดี   เป็นถุงสำรองน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ  อวัยวะใดขาดน้ำ  จะดึงมาจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น อารมจะฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวมปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก ตอนเช้าจะจาม ถุงน้ำดีจะโยงถึงปอดจะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23.00 น.

 

สรุป

1.00-3.00 น. นอนซะ
3.00-5.00 น. ตื่นมาสูดอากาศ
5.00-7.00 น. ขับถ่าย
7.00-9.00 น. กินข้าวเช้า
9.00-11.00 น. อย่าพูดมาก กินน้อยๆ อย่านอน
11.00-13.00 น. หลีกเลี่ยงความเครียด
13.00-15.00 น. ห้ามกิน
15.00-17.00 น. ออกกำลังหรืออบตัวให้เหงื่อออก
17.00-19.00 น. ทำให้สดชื่น อย่าง่วง
19.00-21.00 น. ทำสมาธิ
21.00-23.00 น. ทำตัวให้อุ่นๆ ไว้
23.00-1.00 น. กินน้ำก่อนนอน

http://webboard.yenta4.com/topic/32842

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-23 03:11:03


ความคิดเห็นที่ 27 (1533040)

 โมทนาบุญกับคุณพี่ชนิดาอีกครั้งครับ กับข้อมูลดีๆ แถมมีสรุปให้สั้นๆ ได้ใจความอีกต่างหาก...คนอะไรทั้งเก่ง ทั้งใจดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก...ไม่รู้รักเด็กด้วยหรือปล่าว...ฮิฮิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-02-23 07:43:33


ความคิดเห็นที่ 28 (1533058)

เห็นด้วยกับคุณสิทธิ์จ้ะ

คนอะไรไม่รู้เฟอร์เฟคจริง ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-23 09:37:08


ความคิดเห็นที่ 29 (1533059)

อ้าว ขอแก้ไขคำผิดคะ พิมพ์ พ เป็น ฟ

จะบอกว่า พี่ชนิดา perfect  สมบูรณ์แบบ จริง ๆ คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-02-23 09:40:54


ความคิดเห็นที่ 30 (1533109)

ขออนุโมทนากับพี่ชนิดาด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องป้อม วันที่ตอบ 2011-02-23 14:03:34


ความคิดเห็นที่ 31 (1533142)

Oh!!!!!!!!

My god.....

เธอช่างเป็นหญิงที่งามอะไรเช่นนี้ .............

แสนรู้ เอ้ย!  รู้มาก เอ้ย!  รอบรู้ อะไรเช่นนี้ แหะ แหะ แหะ

เก๊า ล้อเล่น นะตัวเอง ขอบคุณมากก๊าบที่ให้ความรู้ ในหัวสมองเกด

มีความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกและ ดีใจจัง อนุโมทนาบุญด้วยนะค๊า.....พี่จ๋าว...............

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊กตาฝน (tee-ged-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-23 17:43:09


ความคิดเห็นที่ 32 (1533273)

ขอบคุณในคำชื่นชมจากพีีมหา คุณแหวน น้องป้อม เจ้าหนู"จำไม"(หนูเกด)

และทุกท่านด้วยนะคะ แต่มาอธิบายก่อนว่า

ชนิดาเลือกก็อปเวอร์ัชั่น ที่เจ้าของเว็บบอร์ดนั้นเค้าสรุปมาให้เรียบร้อยแล้วจ๊า..

คงต้องอนุโมทนากับคุณเจ้าของเว็บบอร์ดนั้นด้วยดีกว่าเนอะ...

ชนิดาก็มีหน้าที่อ่านและเลือกอันที่กระชับที่สุดมาฝากเท่านั้นเอง...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2011-02-24 18:26:32


ความคิดเห็นที่ 33 (1561160)

ขอร่วมอนุโมทนาในธรรมทานด้วยคนค่ะ สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาภรณ์ ปุญโญกุล (rutpun18-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-30 20:21:08


ความคิดเห็นที่ 34 (1561179)

 

 

ณัชชา ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานในครั้งนี้ของคุณชนิดาด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ ทุกครั้งที่คุณชนิดาได้ตอบกระทู้และตั้งกระทู้ ณัชชาชอบอ่านมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วสิ่งไหนไม่รู้ ทำให้รู้ สิ่งไหนที่รู้อยู่แล้ว ก็ได้เตือนสติค่ะ 

         ขอลงท้ายด้วยนะคะ บุญที่ณัชชาพึงได้รับฉันใด ขอให้ทุกๆท่านพึงได้รับฉันนั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้ว (hun_ny18-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-30 23:47:36


ความคิดเห็นที่ 35 (1561193)

 อนุโมทนาครับพี่ชนิดา

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-31 00:43:30


ความคิดเห็นที่ 36 (1562199)

ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธนา ยานุทัย (yyanuthai-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 20:23:49


ความคิดเห็นที่ 37 (1562291)

 

   ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดา ที่ให้ธรรมเป็นทาน ทุกกระทู้ ทุกถ้อยคำมีประโยชน์ที่จะนำไปปฏิบัติ เพื่อเพิ่มพูนบารมี  ผู้ให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง มีอานิสงฆ์ มาก ๆ เช่น กรรมเวรจากอดีตชาติจะได้ลบล้าง โรคภัยไข้เจ็บจากเจ้ากรรมนายเวรจะพ้นไป กิจการงานจะราบรื่นสมความปรารถนา พ่อมแม่จะมีอายุยืน วิญญาณของบรรพบุรุษจะพ้นจากการถูกทรมาน ไปส่สุคติ บารมีคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นต้น  สาธุ  สาธุ  สาธุ อนุโมทามิ นะคะ

   อานิสงฆ์ของการไหว้พระสวดมนต์

๑.  การสวดมนต์ทุกวันเป็นมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว

๒.  เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง

๓.  ทำให้จิตบังเกิดกุศลได้ง่าย

๔.  ทำให้ใจสงบสุข

๕.  เหมาะสำหรับการเตรียมตัวก่อนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

๖.  สวดมนต์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

๗.  เป็นบุญที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิฑธิ์  ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้

๘.  เพื่อป้องกันภัยวิบัติ

๙.  เพื่อความสำเร็จในสมบัติทั้งปวง

๑๐. เพื่อให้ทุกข์ต่าง ๆ หมดไป

๑๑. เป็นการขจัดภัยต่าง ๆ

๑๒. เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยต่าง ๆ

    การสวดมนต์ที่ถูกต้อง ต้องสวดให้ได้ใจความ ไม่สวดเร็วเกินไป หรือสวดช้าเกินไป เสียงดังพอประมาณ เพื่อให้เทพยดาทั้งหลายเป็นพยานว่า ท่านได้สวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา

    เมื่อสวดมนต์แล้ว  สวดบทกรวดน้ำและสวดบทแผ่เมตตา อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล รวมทั้งแผ่เมตตาให้แก่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร เทพพรหมที่เราเคารพนับถือ สรรพสัตว์ทั้งหลาย และให้แก่ตัวเอง

อานิสงฆ์การแผ่เมตตา

    การแผ่เมตตาเป็นการฝึกจิตให้เป็นสมาธิ เรียกว่า การเจริญเมตตา ภาวนาในการทำสมาธิ ภาวนาครูบาอาจารย์  มักจะแผ่เมตตาก่อน จึงทำสมาธิต่อไป ผู้เจริญภาวนาเมตตาอย่เนือง ๆ ย่อมมีผลอานิสงฆ์ตอบสนองถึง ๑๑ ประการ คือ

๑.หลับเป็นสุข

๒.ตื่นเป็นสุข

๓.ไม่ฝันร้าย

๔.เป็นที่รักของมวลมนุษย์

๕.ทวยเทพเทวดาพิทักษ์รักษา

๖.ไฟยาพิษ ศัตราวุธ ไม่กล้ำกรายแคล้วคลาด

๗.จิตเป็นสมาธิเร็ว

๘.ผิวหน้าผ่องใส

๙.ทำให้มีสติก่อนตาย

๑๐.เมื่อยังไม่ถึงแก่ธรรมอันยิ่ง ย่อมไปเกิดในพรหมโลก

๑๑.แม้ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษ ก็เข้าถึงพรหมโลกได้

    สำหรับผู้ที่เราแผ่เมตตาไปถึงนั้น ถ้าเป็นศัตรูก็จะกลับเป็นมิตร ถ้ามีเวรมีกรรมจะหมดเวรหมดกรรม ถ้าเป็นผู้ถูกเบียดเบียน จะพ้นจากการถูกเบียดเบียน ถ้ามีทุกข์จะคลายจากความทุกข์

    การที่จะแสดงเมตตาต่อกัน มี ๓ ทาง

๑. ทางกาย  ได้แก่ ช่วยทำประโยชน์สุข ปลดเปลื้องทุกข์ผู้อื่นด้วยกาย เช่น ช่วยทำกิจของเขาให้  สำเร็จประโยชน์สุขแก่เขา เป็นต้น

๒.ทางวาจา  ได้แก่ ช่วยแนะนำตักเตือนห้ามปราม ให้เขาเว้นชั่วและทำความดี เป็นต้น

๓.ทางใจ    ได้แก่ ตั้งจิตคิดไม่เบียดเบียน ปรารถนาความไม่มีเวร และหวังความสุขสวัสดีและแก้กันและกัน ตั้งใจช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ผู้เดือดร้อน เป็นต้น

     เมื่อคนเรามีเมตตาต่อกันอย่างนี้ ความอาฆาตพยาบาทกันย่อมไม่มี ความปองร้ายหมายผลาญกันย่อมไม่มี ความทุกข์ ความเดือดร้อนหรือภัยอันตรายที่เกิดจากคน ก็เป็นอันไม่มีไปด้วย จะมีแต่ความสุข ความสดชื่น ร่มเย็นตลอดไป  เพราะเหตุนี้แหละ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงได้ทรงพระนิพนธ์เป็นธรรมภาษิตไว้ว่า  เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ศุภรัฐ ปานธุเดช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 12:07:46


ความคิดเห็นที่ 38 (1562346)

 โมทนาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 17:37:29


ความคิดเห็นที่ 39 (1562394)

อนุโมทนาสาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกรียงศักดิ์ สกุลคลานุวัฒน์(เบน) (koy8870-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 22:15:17


ความคิดเห็นที่ 40 (1562512)

อนุโมทนากับคุณศุภรัฐด้วยนะคะ ที่นำข้อความ

ที่บอกถึงอานิสงค์อันยิ่งใหญ่ของการให้ธรรมทาน

และการไหว้พระสวดมนต์นั้น มีผลบุญยิ่งใหญ่มหาศาลเพียงใด

ฉะนั้นพวกเราทุกๆคนก็มาสร้างบุญด้วยการเขียนความคิดเห็น

เป็นธรรมทานกันเยอะๆนะค๊า...

อนุโมทนาล่วงหน้าค๊า..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 03:26:13


ความคิดเห็นที่ 41 (1562522)

สวัสดีค่ะ คุณน้องชนิดาและลูกๆบ้านสวนทุกท่าน

ขอบคุณที่นำธรรมทานดีๆมาแนะนำเสมอๆทำให้คนความรู้น้อยด้อยภูมิปัญญามีโอกาสได้นำสิ่งดีๆไปปฏิบัติ อนุโมทนาสาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธนันท์ รูปโฉม (pattanan_ya-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 06:16:33


ความคิดเห็นที่ 42 (1564374)

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดา  และทุกท่านด้วยคะ...มยุรีพร.

ผู้แสดงความคิดเห็น นางมยุรีพร ภาชนะวรรณ (ma_parchanawan-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-17 14:44:25


ความคิดเห็นที่ 43 (1564994)

ขออนุโมทนา คุณชนิดา และ

ทุกธรรมทาน ทุกถ้อยคำเป็น

ความรู้ที่ดี ที่ประเสริฐสำหรับ

พี่หมวยค่ะ  ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-20 16:31:09


ความคิดเห็นที่ 44 (1597845)

 ขออนุโมทนา กับพี่ชนิดาด้วยค่ะ

ที่นำสิ่งดีๆ มาเผยแพร่


สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วิลาสินี วิริยพิสุทธิ์ (wwiriyapisut-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-02-16 21:15:10



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.