|
เรื่องที่ ๘๙ตายจากคนมาบอกให้ลูกถวายสังฆทานให้โมทนาแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก | |
จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน "..อาตมากับเพื่อนอีก ๒ องค์ไปเทศน์ที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เขานิมนต์เทศน์ ๒ วัน วันแรกไม่ทราบว่าจะเทศน์เรื่องอะไรดี เพราะเขาไม่ได้กำหนดเรื่องเทศน์ให้ ก็เลยเทศน์เรื่อง "ตายแล้วไปไหน" พูดถึงเรื่องทำบุญตายแล้วไปสู่สุคติ ทำบาปตายแล้วไปสู่ทุคติ พอเทศน์เสร็จมีหญิงชาวจีนคนหนึ่งถือพานดอกไม้ ธูปเทียนมาถวายแล้วถามว่า "เตี่ยของดิฉันตายแล้วเวลานี้ไปอยู่ที่ไหนเจ้าคะ" เมื่อฟังแล้วอาตมาก็คิดว่าสมัยเมื่อท่านเป็นฆราวาสพระเทศน์แบบนี้ชอบถามพระ ไอ้กรรมของตัวเองมันสนองเข้าแล้ว ความจริงถ้าจะบอกก็บอกได้ไม่ยาก แต่คิดว่าเราไม่ควรจะตอบเองจึงส่งให้พระที่เป็นหัวหน้าและเขาเป็นพระคุณาธิการ อยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บวชพรรษาเดียวกันเขาได้กสิณตั้งแต่เป็นเณร เลยบอกว่าไปประเคนองค์โน้น โยมก็ไปประเคน พระองค์นั้นก็คว้าดอกไม้ธูปเทียนมาแล้วก็บอกว่า "ขออนุญาตเข้าห้องสมุดสัก ๓ นาที" แล้วก็ลุกเข้าไปในห้องสมุดไม่ถึง ๓ นาที ก็ออกมาถามว่า "เตี่ยของโยมก่อนจะตายเป็นคนรูปร่างใหญ่โตแข็งแรง ร่างกายมีกำลังดีและมีเสียงดัง ไม่ได้ไว้หนวดใช่ไหม" โยมตอบว่า "ใช่เจ้าค่ะ" พระก็บอกว่า "ถ้า ๓ อย่างนี้ถูกก็เป็นอันว่าเตี่ยของโยมเวลานี้ไม่มีความสุข เพราะว่าการบำเพ็ญกุศลที่โยมทำไปไม่มีผลเลย" โยมก็ร้องไห้ถามว่า "ทำไม" พระก็บอกว่า "ผีมาบอกว่าการทำบุญของลูกไม่มีผลสำหรับผู้ตาย เพราะว่าเวลาทำบุญมุ่งปรารถนาคนเป็นสำคัญไม่ได้มุ่งปรารถนาผีที่ตาย เวลาทำไม่ได้แสดงคารวะในสิ่งที่เป็นบุญ ไม่ได้ตั้งใจทำบุญจริงๆ มัวห่วงแขกเหรื่อเสียมากกว่า และเวลาทำบุญก็เลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งกันเต็มที่ สิ่งที่เป็นบาปมากกว่าสิ่งที่เป็นบุญ เวลาพระให้ศีลลูกก็ไม่มีโอกาสที่จะสมาทานศีลโดยความเคารพเพราะห่วงแขกที่มา เวลาถวายทานก็ไม่มีการตั้งใจด้วยความเคารพ เวลาฟังเทศน์ก็ไม่ได้ตั้งใจฟังเทศน์โดยความเคารพ เวลาที่บุญหลั่งไหลเข้ามาลูกไม่ได้ตั้งใจรับจึงไม่มีบุญ อุปมาคล้ายๆ กับฝนตกแต่เราไม่ได้เอาตุ่มเอาถังไปรองรับน้ำฝน แต่ไปรองในขณะที่ฝนหายตกแล้วจึงไม่เกิดประโยชน์ หรือเวลาฝนตกก็คิดว่าฝนจะหลั่งไหลลงมาเต็มตุ่ม แต่ทว่าตุ่มตั้งอยู่ภายในบ้าน ฝนไม่สามารถเข้าไปยังตุ่มน้ำได้ฉันใด เวลาที่ลูกทำบุญก็เหมือนกันไม่มีเวลาตั้งใจฟังพระสวดและสมาทานศีลด้วยความเคารพเพราะห่วงแขก ก็เลยไม่ได้บุญ ผีเตี่ยบอกว่า "เวลานี้มีความหนาวมากได้รับทุกขเวทนามาก หิวโหยมาก" โยมถามว่า "เวลานี้เตี่ยอยู่สวรรค์หรือนรก" พระก็ตอบว่า "ไม่ได้ไปนรกหรอกแต่ก็อยู่เฉียดนรก ยังพอมีโอกาสจะได้รับโมทนาส่วนบุญได้" โยมก็หายจากการร้องไห้ถามว่า "จะทำบุญอะไรเตี่ยถึงจะได้รับ" พระก็บอกว่า "ผีเตี่ยบอกมาว่าให้จัดของถวายสังฆทานมีผ้าไตร ๑ ไตร กับพระพุทธรูปหน้าตักไม่น้อยกว่า ๕ นิ้ว ๑ องค์ โตกว่านั้นก็ได้แต่เล็กกว่านั้นไม่ได้ และเวลาอุทิศส่วนกุศลไม่ให้ว่ายาวๆ ตามที่เขาสอนกัน ให้ว่าเป็นภาษาของตัวเองจะว่าเป็นภาษาจีนหรือภาษาไทยก็ได้ ว่าตรงๆ ว่าผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้วในคราวนี้คือ การบูชาพระรัตนตรัยก็ดี สมาทานศีลโดยความเคารพก็ดี ถวายทานมีพระพุทธรูปกับผ้าไตรจีวรสำหรับพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา บุญทั้งหลายเหล่านี้จะพึงมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เตี่ยของข้าพเจ้า เอ่ยชื่อนามสกุล ขอให้มาโมทนาและได้รับผลบุญคือประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้" พอรุ่งเช้าโยมก็จัดของทุกอย่างตามที่ผีเตี่ยบอกมาถวายเป็นสังฆทาน พอพระเทศน์จบโยมก็นำดอกไม้ธูปเทียนมาถวายแล้วถามว่า "เวลานี้เตี่ยสบายแล้วหรือยัง" พระองค์นั้นก็มองหน้าอาตมา ความจริงพระองค์นี้เขามีฤทธิ์อยู่นิดหนึ่งแต่ไม่ใช่ฤทธิ์ใหญ่ เขาก็มองไปมองมาหาคนแล้วบอกว่า "ประเดี๋ยวโยม จะทำอะไรให้ดู" ปรากฏว่ามีหญิงแก่ๆ นั่งอยู่ท้ายศาลาล้มตึงลงไปแล้วก็ลุกขึ้นมา วิ่งเข้ามาหาโยมที่เตี่ยตายแล้วประกาศว่าเป็นเตี่ยเรียกชื่อได้ถูกต้อง บอกว่าเตี่ยเก็บทองไว้ที่ตรงนั้นเอ็งยังค้นไม่พบ เงินที่เขากู้ไปยังมีอยู่ให้ไปดูหนังสือสัญญายังมีอยู่ และเล่าเรื่องราวตั้งแต่ลูกสาวเป็นเด็กๆ จนถึงเป็นสาว มีใครมารักบ้าง คนรักคนแรกไม่ได้แต่งงานกันเพียงแค่มาสู่ขอกันแล้วคนรักก็ตาย ต่อมาก็แต่งงานกับเพื่อนของคนรักที่มากับคนรักเสมอ โยมก็ก้มลงกราบเชื่อว่าเป็นเตี่ยแน่ ในที่สุดคนในศาลาที่มาฟังเทศน์ประมาณสักพันคนก็มานั่งล้อม อาตมาก็เลยให้คนแก่ที่ผี เตี่ยมาเข้านั่งเก้าอี้แล้วเอาไมโครโฟนเครื่องขยายเสียงไปตั้งใกล้ๆ เพื่อคนจะได้ยินกันถนัด ผีเตี่ยก็ประกาศว่า "การบำเพ็ญกุศลที่ลูกลงทุนไปตั้ง ๓ หมื่นเศษๆ ไม่มีประโยชน์สำหรับเตี่ยเลยเพราะไม่มีอะไรเป็นบุญ แต่บุญคราวนี้มีอานิสงส์มากคือการถวายสังฆทาน โดยทำเงียบๆ สิ่งที่เป็นบาปก็ไม่ได้ทำเลย แม้แต่ไข่ลูกเดียวก็ไม่ได้ทุบ ไม่เลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้ง ทำแบบชนิดเป็นบุญจริงๆ ผลบุญที่ลูกทำคราวนี้มีผลสมบูรณ์ ขณะนี้เตี่ยเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก และก็มีวิมานทองคำเป็นที่อยู่ มีนางฟ้าหนึ่งพันเป็นบริวาร" และได้ประกาศต่อไปว่า "การทำบุญของเจ้าภาพงานศพที่กำลังจัดอยู่ในวันนี้ก็เหมือนกัน การทำบุญทุกอย่างก็ถูกหมดตรงตามความเป็นบุญ แต่ทว่าผลของบุญน้อยไป พูดแล้วก็ชี้ไปทางห้องสมุดซึ่งมีม่านกั้นอยู่ แล้วบอกว่ามีเหล้าอยู่หลายลัง เหล้านี้เป็นบาปไม่ควรจะมีในเวลาทำบุญ เวลาทำบุญก็ควรจะตั้งใจทำบุญ เวลาเลี้ยงเพื่อนก็เลี้ยงต่างหาก ควรจะแยกกันเป็นคนละเวลา ทำบุญให้เป็นความดีให้เสร็จเสียก่อน ต่อไปค่อยทำความชั่วทีหลัง" บังเอิญคนที่เป็นเจ้าภาพงานศพวันนี้ก็เป็นหลานของเตี่ยโยมผู้นี้เหมือนกัน เขาทำศพแม่เขารู้สึกว่าเป็นคนมีเงินมาก เจ้าภาพซึ่งเป็นหลานของผีเตี่ยก็ถามว่า "การทำบุญวันนี้แม่ได้รับผลอะไรบ้าง" ผีเตี่ยตอบว่า "แม่ไปนั่งร้องไห้อยู่ขอบวัด และการทำบุญวันนี้สิ้นเงินไปหลายหมื่น ไม่ได้มีประโยชน์กับผีที่ตายเลย ขอให้ทำใหม่ทำแบบที่ลูกสาวเตี่ยทำวันนี้" เจ้าภาพก็รับคำ พอเผาเสร็จวันรุ่งขึ้นก็มาถวายสังฆทานอีกครั้ง เป็นอันว่าการเทศน์คราวนี้มีผลกับผีที่ตายได้รับความสุข.."
| |
ผู้ตั้งกระทู้ เกรียงศักดิ์ สกุลคลานุวัฒน์(เบน) (koy8870-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-01-16 20:02:39 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1592957) | |
อนุโมทนาบุญที่นำธรรมทานมาเผยแพร่ ดีมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะธรรมะของหลวงพ่อ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี (kanungnuch03-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-01-16 21:51:05 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1592989) | |
ขออนุโทนาบุญธรรมทานกับ คุณเกรียงศักดิ์ ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ ( ตาโต๊ะ ) (sing_toa-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-01-17 02:32:05 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1593087) | |
ขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับคุณเกรียงศักดิ์ค่ะ และขออนุญาตนำไปเล่าบอกต่อค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ละม่อม ทองเจือ (ohm-dot-lamom-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-01-17 20:54:51 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1593093) | |
ขออนุโมทนากับธรรมทานด้วยค่ะ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ (opensirio-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-01-17 21:38:47 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1593480) | |
โมทนาสาธุค่ะ คุณ เกรียงศักดิ์ ขอบคุณกับธรรมทานนี้ค่ะ เมื่อก่อนก็ทำแต่อามิสบูชา มาบ้านสวนถึงได้รู้ว่าเมื่อก่อนที่ทำมา ผิดหมด ********* สาธุ..กราบขอบพระคุณ พระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกๆพระองค์ อาจารย์แม่ อุบล ที่ให้ความรู้ที่สว่างกระจ่างแจ้งทุกอย่างค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-01-20 09:19:59 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1593510) | |
ขออนุโมทนาบุญกับลูกบ้านสวนด้วยครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) วันที่ตอบ 2012-01-20 12:57:38 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1601265) | |
โมทนาสาธุกับธรรมทานนี้สาธุ งานบวชก็มีเหล้าฆ่าสัตว์จะทำอย่างไรให้สิ่งเหล่านี้หมดไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กรชนต ธรรมะขันธ์คำ (duang-123-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-03-08 23:01:40 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1601442) | |
ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานที่พระอาจารย์ ทั้งสองโปรดญาติโยม และผลบุญของทาน ศีล ภาวนา ขออุทิศบุญแด่วิญญาญคุณเตี่ยที่กลายเป็นเทวดา ให้ความสุขยิ่ง ๆ ด้วยเทอญ ....................................................................... ขออนุโมทนาบุญกับคุณเบน(เกรียงศักดิ์) ด้วยนะคะค้นหาธรรมทานมาให้อ่าน สาธุค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เกสร ศรประสิทธิ์ (andabatik-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-03-09 22:14:07 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1602109) | |
ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร เขตเจริญ (jit7777-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-03-14 09:05:46 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1602830) | |
ขออนุโมทนากับธรรมทานของน้องเบน ที่นำมาให้ได้อ่านค่ะ เป็นธรรมทานที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย และเห็นด้วยค่ะกับการจัดงานบุญต่างๆ ไม่ว่าจะงานแต่งงาน พิธีบุญก็มีการฆ่าหมูฆ่าไก่ เพื่อนำมาเป็นอาหารเลี้ยงแขก หรือแม้แต่งานบวชพระเองก็ตาม มีสัตว์จำนวนมากที่ต้องสังเวยชีวิต เหล้ายาปลาปิ้งอีก น่าเคร้าค่ะ จะมีใหมคะ งานบุญต่างๆ จัดเป็นอาหารมังสวิรัส ไม่เบียดเบียนชีวิตใครเลย น่าสนใจนะคะ ถ้าใครจัดงาน น่าจะมีการจัดงานเลี้ยงแบบ ทานมังสวิรัส คงสนุกและอิ่มบุญที่สุด ขอบคุณน้องเบนที่สุดค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุกันยา จรพินิจ (g-dot-greengreen-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-03-19 14:42:02 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1603156) | |
เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยรู้เลยได้แต่ทำตามประเพณีไหว้เชงเม้งเผากระดาษไปให้ทำอาหารไปไหว้ไม่รู้ถึงไม่ถึงก็ไม่รู้แต่ตอนนี้รู้แล้ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เกรียงศักดิ์ สกุลคลานุวัฒน์(เบน) (koy8870-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-03-21 20:56:02 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1449788 |