ReadyPlanet.com


ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิต หลังจากได้ไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด


 

การเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างเป็นเรื่องยาก

แต่ที่ยากกว่าก็คือการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เคยคิดที่จะเขียนนานแล้ว แต่รู้สึกว่ายังไม่พร้อม

เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหน รู้สึกว่ามันอธิบายยาก

แต่จะพยายามเขียนเอาแต่เนื้อ ๆ เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน

แต่จะแอบใส่น้ำลงบ้าง เดี๋ยวฝืด

หลังจากได้มาทำบุญที่บ้านสวนฯ

สิ่งที่เรารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปได้ชัดเจน

คือ จิตใจเข้มแข็งขึ้น ทำให้รู้สึกมีความสุข

ชีวิตก่อนมาบ้านสวน 

รู้สึกว่าเราทุกข์จังเลย  รู้สึกหนักอกหนักใจ

เรื่องงาน และกระทบไปถึงการเงินติดขัด

(เพิ่งมาคิดได้ ทำได้ ตอนนี้ว่า เราทุกข์เพราะเราแบกไว้

ตอนนี้ก็เลยวาง ซึ่งทุกข์ก็ยังมีอยู่แต่ใจเราเริ่มแยกได้

ทุกข์ก็ส่วนทุกข์ สุขก็ส่วนสุข)

เมื่อก่อนเป็นคนคิดมาก เครียดง่าย จิตใจฟุ้งซ่าน

ทำให้รู้สึกเหนื่อยใจ (เพราะคิดมากเลยไม่ได้พัก)

เป็นคนขี้เบื่อ

จิตใจไม่เข้มแข็ง อ่อนแอ โลเล แปรปรวน  รวนเร

เป็นคนคิดลบ (มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสังคม /บุคคล)

ทะเยอทะยาน คาดหวังสูง เมื่อไม่เป็นดังที่คิด

ก็ผิดหวัง ท้อแท้ น้อยใจในโชคชะตา

เมื่อจิตใจอ่อนแอ ขาดที่พึ่ง  ทำให้ขาดสติ ไร้ซึ่งปัญญา

ในการแก้ไขปัญหาชีวิต 

ด้วยความขลาดเขลาเบาปัญญา ตอนนั้นเลยทำทุกทาง

สะเดาะเคราห์ ปล่อยปลา เสริมดวง สวดเสริมบารมี

และก็พึ่งพาหมอดู

หมอดูบางคน ก็รู้สึกว่า แค่ช่วยปลอบใจ ให้คลายทุกข์

ณ เวลานั้น ซึ่งเขาก็แนะนำให้ไปทำบุญ

บางคนก็ดี  ช่วยชี้แนะให้ไปปฎิบัติธรรม

พอไปดูหลายๆ ที่ ก็ไม่ได้ดั่งใจ

และเริ่มคิดได้ว่า เรานี้โง่จัง  ชีวิตตัวเอง

ทำไมไปถามคนอื่น ก็เลยเลิก

พยายามอ่านหนังสือธรรมะ  หาโอกาสไปปฏิบัติธรรม

หนังสือธรรมะก็ดี  หลวงพ่อ แม่ชี ก็สอนดี

แต่ ตัวเราไม่ ดี  เพราะขี้เกียจ ไม่ปฎิบัติตาม

ก็เลยยังไปไม่ถึงไหน

ยังสลัดทุกข์ ออกไปจากใจไม่ได้

3-4ปีผ่านไป ก็ยังรู้สึกมืดมน

เปลี่ยนแปลงตัวเองได้บ้าง

แต่เพียงเล็กน้อย

ปรับปรุงจิตใจ ได้เพียงนิดหน่อย

และก็เริ่มรู้สึกท้อแท้อีกแล้ว จิตใจเริ่มอ่อนแอ

เริ่มเหนื่อย

จนกระทั่งวันหนึ่ง วันฟ้าเปิด ได้มีโอกาสอ่าน

คู่มือหนีกรรมผิวพรรณ

แว๊ปแรก มโนธาตุ  อืม น่าสน ๆ (เคยอ่านบทความของ

พระอาจารย์รัตน์

แว๊ปสอง มีเครื่องสำอางด้วย  อืม น่าสน ๆ (เพราะตัวเองเป็นสิว

เริ่มเบื่อยารักษาสิวแบบเคมี อยากใช้อะไรที่เป็นธรรมชาติ

ไม่มีสารเคมีรุนแรง)

พออ่านจบ  ก็รู้สึกแปลก ๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับ ธรรมะ พลังพีระมิด

(ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  อืม น่าสนใจ ๆ )

ต่อมาได้ดูรายการคุยไปแจกไป เห็นมีการบำบัด อืม น่าสน ๆ

อยากไป ๆ

สรุปไปด้วยความอยาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-03-24 03:38:46


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1603489)

ชีวิต หลังจากได้มาที่บ้านสวนพีระมิด

ได้มาเข้าค่าย 1 ด้วยความอยากสวย 

อยากรวย อยากหมดทุกข์ อยากมีความสุข ฯลฯ

มาแล้วรู้สึกแปลกดี ไม่เหมือนไปปฎิบัติธรรมที่อื่น

ต่อมา ก็ติดตามชมเวปไซด์มาเรื่อย ๆ

ความอยากสวย อยากรวย หายไปตอนไหนไม่รู้

ตอนนี้ ไม่คิดอยากแล้ว

ความทุกข์ใจ ก็เริ่มคลายลง 

ทุกข์ยังมีอยู่ แต่ ตอนนี้ไม่แบกแล้ว

รู้สึกละอาย เกรงกลัวต่อบาป

รู้สึกเริ่มมีเมตตา ( เมื่อก่อนเราก็คิดว่า เราก็เป็นคนมีเมตตาน่ะ

แต่หาก ลอง นึก แบบจริงจังแล้ว  เรามีเมตตาน้อยนัก

รู้สึกว่าจิตใจเข้มแข็งขึ้น

มีที่พึ่งที่แท้จริงคือ

พระพุทธองค์

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-24 04:10:21


ความคิดเห็นที่ 2 (1603492)

 

เมื่อได้มาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด

ได้รับฟังธรรมะจากท่านอาจารย์

ก็นำกลับมาพิจารณาตัวเอง

ตั้งใจปรับปรุง แก้ไข

ซึ่ง ถ้าจะให้พูดกันจริง

บางอย่างก็เปลี่ยนได้ 100 %

บางอย่าง ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่ถึง100 %

แต่ก็เปลี่ยนแปลงความคิด และจิตใจได้รวดเร็ว

และรู้สึกว่า

ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ที่จิตเราเริ่มหลุดออกไปบ้างแล้ว

(ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทึบมาก)

แต่ก็ต้องพยายามต่อไป

ไม่ท้อแท้อีกแล้ว

 

สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจ คือ

1. เวลาอาจารย์สอนธรรมะ

เหมือนแทงทะลุลึกเข้าไปในก้นบึ้งของจิตใจ

ซึ่งตรงกับนิสัยไม่ดี ต่าง ๆ ที่อยู่ในตัวเรา 

เมื่อเราฟังแล้วรู้สึกแทงใจดำ 

จนเรารู้สึกผิด รู้สึกละอาย

และรู้สึกสำนึกผิด ยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข 

และนำมาแก้ไขปรับปรุงตัวเองต่อไป

2.  เวลาอาจารย์สอนเรื่องกฎแห่งกรรม แล้ว ทำให้เรารู้สึก

และสัมผัสได้ถึงความน่ากลัว โดยมีตัวอย่างจริงให้เห็นกันจะ ๆ

3.  อาจารย์ทำให้เรามีความสุข สนุกสนาน ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ

ได้ปลื้มปิติ ได้ร้องไห้ ได้หวาดเสียว (เวลาทัวร์นรก)

4.  อาจารย์ช่วยเตือนให้เรามีสติ เกิดปัญญา คิดหาเหตุผล

ว่าทำไมเราจึงทุกข์อยู่แบบนี้

 

ลูกขอกราบขอบพระคุณสำหรับเมตตาของอาจารย์

กราบขอขมาและขออโหสิกรรม ที่ลูกเคยลังเลสงสัยอาจารย์

(ซึ่งเป็นตอนแรกๆที่เพิ่งมาที่บ้านสวนฯ 

และพลั้งเผลอเป็นบางครั้งบางคราวที่จิตตก)

และขอขมาที่เป็นศิษย์ที่ไม่ปฎิบัติตนตามที่อ.แนะนำ

คือให้ทำบุญสม่ำเสมอ  โดยการเขียนธรรมทานซึ่งเป็นบุญใหญ่

แต่ลูกก็ไม่ค่อยทำตาม ต่อไปจะตั้งใจให้มากกว่านี้ค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-24 04:51:00


ความคิดเห็นที่ 3 (1603494)

สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ก็เพราะกรรมไม่ดีที่เรากระทำมา

กรรมทางกาย

*ฆ่าสัตว์ ยุง แมลงสาบ ตะเข็บตะขาบ หนู แมลงวัน

*ตอนเป็นเด็ก แอบขโมยเงินแม่

กรรมทางวาจา

*เถียงพ่อแม่ ทะเลาะน้อง ๆ เพื่อนร่วมงาน

*ชอบวิพากวิจารณ์คนอื่น

กรรมทางใจ

*สมน้ำหน้าโจรผู้ร้ายเวลาโดนตำรวจจับ

*แช่งคนที่ขับรถเร็ว เวลาเราจะข้ามถนนไม่ยอมชะลอให้

 

กรรมกับพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

*เวลามีข่าวไม่ดี ก็คิดตำหนิพระสงฆ์

*เคยคิดว่า แม่ชีคนนี้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบหรือเปล่าน๊ะ

ตอนหลังมารู้ว่าท่านเป็นนักปฎิบัติและรู้จิตว่าเราคิดไม่ดีกับท่าน

 

กรรมหนี้สงฆ์

*เวลาไปวัด เวลาเขาแจกอาหาร-ขนมก็เอากลับบ้าน

 

กรรมกับในหลวงและราชวงศ์

*เคยได้ฟังเขาเล่าเรื่องต่างๆ

*เคยดูภาพในเวปไซด์

 

กรรมกับเจ้านาย

*เอาอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ส่วนตัว กระดาษ แม๊กซ์ ฯลฯ

 

เคยทำผิดศีลทุกข้อ

ฆ่าสัตว์ ลักขโมย แอบปิ๊ง โกหก กินเหล้า

 

นิสัยไม่ดีต่าง ๆ

*ตอนเป็นเด็ก ชอบทะเลาะกับน้อง ๆทำให้พ่อแม่ปวดหัว

*ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด  เป็นคนโกรธง่ายหายไว

*ชอบของฟรี เวลาเขาแจกสินค้าตัวอย่าง ก็เดินไปมา 2รอบ 3รอบ

*เป็นคนขี้เบื่อง่าย

 

ไว้โอกาสหน้าถ้านึกออกจะมาเขียนเพิ่มเติมค่ะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-24 05:28:31


ความคิดเห็นที่ 4 (1603497)

ถ้านึกออกได้เพิ่มเติมเมื่อไหร่

ก็มาเขียนต่อนะค๊าคุณณี

แหม่...กำลังอ่านเพลินๆเชียว...อิอิ

 

เขียนได้สั้น กระชับ น่า่อ่านมั่กๆ

อนุโมทนาในธรรมทาน

และยินดีด้วยนะคะ

ที่มาพบทางสว่าง

และตั้งใจที่จะปรับปรุง

เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้

 

เป็นกำลังใจให้ด้วยเช่นกันนะคะ

เพราะในบางอารมณ์

ชนิดาก็มีต๊อแต๊

และผิดหวังในตัวเอง

อยู่บ่อยๆเหมือนกัน 

แต่ก็โทษใครไม่ได้

ต้องโทษตัวเอง

 

เพราะจิตยังไม่เข้มแข็งและมั่นคงพอ

ก็เลยถูก "กิเลสมาร"

ครอบงำจิตใจไปบ้าง เป็นช่วงๆ ....

 

ฉะนั้น ต้องคอยเกาะติด

เว็บบ้านสวนฯไว้ ไม่ให้ห่างจ๊า...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-24 06:51:11


ความคิดเห็นที่ 5 (1603502)

                                 สาธุเป็นกำลังใจให้คุณณีค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-24 09:44:37


ความคิดเห็นที่ 6 (1603560)

จะเป็นกำลังใจให้นะคะคุณณี

และคุณชนิดาด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-24 23:03:24


ความคิดเห็นที่ 7 (1603956)

อนุโมทนากับอ.นีด้วยนะค๊า

เขียนได้ใจความสำคัญ

และน่าอ่านมากๆค่ะ

เห็นแล้วชักอยากให้อ.นี

เข้ามาเขียนบ่อยๆเลยนะนี่ อิอิ

และดีใจกับความเปลี่ยนแปลง

ครั้งยิ่งใหญ่ของ อ.นีด้วยนะคะ

หากไม่มีบ้านสวนมาเป็นกระจกส่องเงา

ให้เรามองเห็นตัวเอง

ป่านนี้เชื่อว่าตัวญเองก็คง

หลงระเริงกับโลกเบี้ยวๆ ใบนี้อยู่ค่ะ

ไม่อยากจะคิดเลยว่าเกิดมาแล้วกี่รอบ

ทุกข์มาแล้วกี่หน ทนทรมานมาแล้วกี่ชาติ

กว่าจะได้มาพบทางสว่างแบบนี้

กราบขอบพระคุณอ.แม่ อีกร้อยครั้งพันครั้งจริงๆค่ะ

ที่ทำให้หนูรู้ว่าโลกใบนี้

ไม่ใช่โลกที่น่าอยู่อย่างที่หนูเคยคิด

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-28 05:09:58


ความคิดเห็นที่ 8 (1604079)

หลาย ๆ คน ก็คงเคยเป็นเหมือนคุณณีนะคะ

ตัวเองก็เป็นมาแล้วทั้งนั้นคะ

คิดย้อนไปแล้ว เราช่างประมาทกับการใช้ชีวิตเสียจริง

ทั้ง ๆ ที่ชีวิตมันสั้นมาก แต่เราก็หลงคิดว่ายังมีเวลาอีกนานน

คิดแล้วเห็นความโง่ของตัวเองจริง ๆ

 

แต่พวกเราทุกคนถือว่า เป็นผู้โชคดีมาก ๆ

ที่ได้เจอธรรมะที่ถ่ายทอดจาก อ.อุบล

มันจึงตรง และเป็นทางลัดที่สุด

ที่จะพ้นทุกข์ตรงนี้ไปได้

 

ขออนุโมทนากับคุณณี และทุก ๆ ท่าน

ที่ร่วมเขียนธรรมทานด้วยคะ

 

@น้อง ญ เจ้า

คือ คุณณี กับ อ.นี(แฟนอ.พัน) นี่คนละคนกันเน้อ

อ่านดูแล้วเหมือนน้องจะเข้าใจว่าคนเดียวกันรึป่าว?

ถ้าไม่ใช่ก็ขอโทษด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-29 01:03:44


ความคิดเห็นที่ 9 (1604085)

 อ้าว จริงๆด้วย

เมือคืนสงสัยง่วง 

ขอบคุณคะพี่แหวน 

ฮ่าๆๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-29 03:05:47


ความคิดเห็นที่ 10 (1604447)

อนุโมทนาด้วยค่ะคุณณี เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักตัวตน(ที่แท้จริง) ของเราเพิ่มมากขึ้น และยังตั้งหลักได้ทัน ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่รู้ตัวว่าเป็นยังเป็นคนชั่วช้า บาปหนา ก็ตอนมาสัมผัสที่บ้านสวนนี้แหละค่ะทำให้รู้ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ  เหตุดับผลก็ดับ เราจะได้ไม่หลงทางอีกต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) (anchala_23580-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-03-31 17:03:17


ความคิดเห็นที่ 11 (1604773)

 

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตหลังจากได้ทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด

น้อย จ.อุดรธานี เดิมทีได้รับวิบากกรรมแสนสาหัสมาก เพราะเคยทำแท้ง 2 ครั้ง เคยทำเอกสารเท็จ ขโมยเงินแม่ ปิดงานหลวง เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกดื้อเรียนหนังสือไม่เก่ง สามีเจ้าชู้ไม่กลับบ้าน ความทุกข์ต่าง ๆ โทมเข้ามาทั้งทางด้านจิตใจ สุขภาพกาย การเงินก็แย่ หลังจากชีวิตวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดก็จะพักผ่อนดูทีวีกดไปเรื่อย ๆ จนมาเจอรายการคุยไปแจกไป เจอ อ.อุบล

พิธีกร ก็สวย พูดธรรมะได้ดีชวนติดตาม ขนาดพระเทศน์ยังไม่ลึกซึ้งเท่าอาจารย์อ.อุบลพูดเลย จะถึงเวลารายการอาจารย์ติดตามเรื่อย ๆ ว่าคืออะไรก็ติดตามมาเรื่อย ๆ (ตั้งใจรักษากฎต่างๆของบ้านสวนพีระมิด)มาเรื่อย ๆ ทั้งทำบุญด้วย แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ

ผลที่ได้รับ

- จากความทุกข์ที่มีเริ่มทุเลาเบาบางลง เช่น การงานจากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ก็เริ่มมีความสุขมากขึ้น (น้อยก็นำพีระมิดไว้ที่โต๊ะทำงานจำนวน 4 องค์) ถ้ามีงานอะไรเร่งด่วน รู้สึกจะมีเหตุบังเอิญให้มีคนมาช่วยแล้วทำงานได้ทันเวลา

- สุขภาพกายเคยเป็นภูมิแพ้ หวัดเรื้อรัง ต้องไม่หาหมอที่คลินิกบ่อยๆกับแม่ก็ไม่ได้ไปคลินิกนั้นทั้งตัวเองและแม่อีกเลย

- เคยทำเอกสารเท็จ กินเงินหลวง นำของหลวงกลับบ้าน ก็ได้รับชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อ (ก่อนที่เราจะลงนรก) ได้ชดใช้โดยช่วงที่ทำบุญกับบ้านสวนพีระมิดอยู่นั้น ได้เจ็บคอมาก ประมาณ 1 เดือน กลืนอาหารแทบไม่ได้ กินได้เฉพาะอาหารอ่อนๆ เหมือนตัวเองได้ชดใช้ในเมืองมนุษย์เลย ใจก็นึกว่าขนาดเจ็ดป่วยในเมืองมนุษย์ยังทุกข์ทรมานขนาดนี้ ถ้าตกนรกคงทรมานกว่านี้หลายร้อยเท่าเป็นแน่แท้ ก็เลยตั้งใจอธิษฐานถ้าการเจ็บป่วยครั้งนี้เป็นการชดใช้กรรมที่ก่อขอใช้ พยายามทำใจให้สบาย (รักษาตัวเองรักษาศีล ทำบุญร่วมกับอ.อุบล นำครีมเกสรบัวอธิษฐานกดใส่มือนิดหนึ่งแล้วกลืนลงท้องแล้วก็ทาหน้า) ประมาณ 1 เดือน ก็หายจากการเจ็บคอ

- เริ่มมีสภาพคล่องทางการเงิน ชีวิตคู่เริ่มมีความสุขสามารถคุยกับสามีได้ แต่ก่อนคุยกันต้องทะเลาะกัน 

- ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย (บังคับกระแสจิตสามี)ให้ศรัทธาในบ้านสวนพีระมิด เริ่มคุยเรื่องบ้านสวนพีระมิดให้สามีได้ และที่น่าดีใจม๊ากคือให้สามีช่วยไม่ให้ตัวเองทำอาหารที่เป็นเนื้อให้ทาน ถ้าสามีตั้งใจทานมังสาวิรัติยังไม่ได้ ก็ขอให้ช่วยโดยอย่าให้น้อยทำอาหารที่เป็นเนื้อให้ทาน สามีก็ยินดีทำตาม

- งานต้องใช้คอมพิวเตอร์บ่อยๆ ตาจะบ่วมบ่อย ก็ใช้ครีมเกสรบัว

ทาตาที่คันและบวมหายทันทีค่ะและลูกชายตามักจะบวมจนมีหนองก็อธิษฐานใช้ครีมเกสรบัวทามีหนองและเลือดไหลออกจากตาอาการดีขึ้นภายใน 1 วัน ตาเริ่มยุบโดยไม่ต้องไปหาหมอตาเลยคค่ะ

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านน่ะค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ (yunoi20-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-04-03 04:05:59



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.