อนันตริยกรรม แปลว่า กรรมที่ให้ผลไม่มีระหว่าง คือให้ผลทันทีหลังจากตายไป ไม่มีกรรมอื่นมาให้ผลคั่นกลาง ถือว่าเป็น ครุกรรม คือกรรมที่หนักที่สุด เป็นบาปที่สุดยิ่งกว่ากรรมใดๆ

อนันตริยกรรม มี 5 อย่าง คือ

1. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา

2. มาตุฆาต ฆ่ามารดา

3. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์

4. โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้า จนถึงพระโลหิตออก

5. สังฆเภท ทำให้สงฆ์แตกแยกกันจนไม่ร่วมอุโบสถสังฆกรรมกัน

กรรม 5 อย่างนี้ เมื่อผู้ทำตายไปย่อมตกนรกทันที แม้จะทำบุญอื่นไว้มาก ก็ต้องไปรับผลกรรมนั้นก่อน เช่น พระเทวทัตซึ่งทำสังฆเภทไว้ ถูกแผ่นดินสูบแล้วไปเกิดในอเวจีมหานรก

คำสารภาพบาป  ความผิดในการทำอนันตริยกรรม

ผมกราบขอขมาต่อสมเด็จพระพุทธปฐมบรมธรรมบิดาพระบรมศาสดา  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ ๒๑ เมษายน  ผมได้มีโอกาสสมาทานศีลและขอขมากรรมที่ผมได้กระทำต่อพระพุทธเจ้า  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนรุ่นพี่  ลูกศิษย์  โดยเป็นความผิดที่เกิดจากเท้า  กระทำการหลายๆ อย่างที่ไม่สมควร จึงทำให้ผมมีปัญหาเรื่องเท้าบวม  อาการบวมตั้งแต่เข่าลงมาจนถึงข้อเท้า  ความผิดที่ได้กระทำลงไปมีดังนี้

๑. ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พวกเราเคารพ   เมื่อปี ๒๕๓๐ ผมได้มีโอกาสไปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระอุโบสถวัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ  การเขียนภาพจะต้องมีการปีนป่ายขึ้นลงบนนั่งร้านซึ่งอยู่สูงกว่าพระประธาน  ผมทำงานบนนั่งร้านและหลับนอนบนนั่งร้าน คือทำงานตรงไหนก็ใช้ที่ตรงนั้นเป็นที่นอนด้วยแรกๆ ก็มีการกราบขอขมาแต่พอทำงานไปเรื่อยๆ ทุกๆวัน สิ่งที่ควรปฏิบัติก็เป็นความเคยชินและถูกละเลย   อาการเท้าบวมก็เริ่มเป็นตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันนี้เป็นเวลา ๒๐ กว่าปี

๒. ใช้เท้าเหยียบเหรียญ  บางครั้งเมื่อเวลาเหรียญตกและกลิ้งไปผมก็จะใช้เท้าเหยียบไว้  ซึ่งการกระทำนี้เราอาจจะลืมและไม่เคยคิดเลยว่าเราทำอะไรลงไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเหรียญทุกเหรียญมีพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ด้วย  นี่จึงเป็นการกระทำความผิดที่เกิดจากความไม่มีสำนึกหรือไม่ให้ความเคารพต่อพระองค์ท่านตลอดเวลา 

นอกจากนี้ผมยังใช้เท้าแทนมือฝรั่ง  คือใช้เท้าเปิดปิดพัดลม  หยิบสิ่งของ  เขี่ยข้าวของให้พ้นทาง ฯลฯ อีกมากมาย  ด้วยความขี้เกียจที่จะก้มลงไปเก็บ( เริ่มติดพุง)

๓. ใช้เท้าแตะ รุ่นพี่ เพื่อน และลูกศิษย์ (  แตะเล่นๆหยอก กันครับ  ถ้าแตะกันจริงๆ เท้าเบอร์ ๔๓ ก็คงจะอาการหนักหละครับ)

หลายๆ คนอาจจะเคยมีพฤติกรรมอย่างที่ผมได้กระทำลงไปดังที่ได้กล่าวมาแล้ว  สำหรับผมผลกรรมที่ผมได้รับทางร่างกาย คือ อาการเท้าบวม ปวดเข่าและขา  หลังจากได้ขอขมากรรมแล้วอาการตึงของเท้าก็ได้หายไปยังคงหลือแต่อาการบวม  ซึ่งขณะนี้อาการบวมก็ลดลงไปเรื่อยๆ  ก็ฝากไว้เป็นธรรมทานนะครับ