ReadyPlanet.com


การดำเนินชีวิตของคนสมัยก่อนที่คนสมัยนี้ไมค่อยรู้


การดำเนินชีวิตของคนสมัยก่อน ที่คนสมัยนี้ไม่รู้

1. คนสมัยก่อน รักษาศีล 5 ตลอดชีวิต เป็นเรื่องปกติ โดยไม่ต้องอาราธนาศีลแต่อย่างใด บางคนรักษาศีล 8 ตลอดชีวิตเช่นกัน แต่คนสมัยนี้ ศีล 5 ยังแทบจะไม่รักษา จึงต้องมีการอาราธนาศีลเกือบทุกครั้งไป

2. คนสมัยก่อน มีความสุขมากกว่าคนสมัยนี้ เพราะไม่มีตัวเลือกในการดำรงชีวิต อยู่กับธรรมชาติ ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องความเจ็บป่วย อนามัย แต่กิเลสน้อย กิจกรรมน้อยกว่ามาก ผิดกับปัจจุบัน คนมาก สิ่งอำนวยกิเลสมาก สนองความต้องการมาก ไม่หยุดหย่อน จะหาความสงบสุขได้ที่ไหน

จะมีคนหมู่น้อยเท่านั้น ที่หันหน้าเข้าหาธรรมะ มีสมาธิ ทำจิตให้สงบ และน่าจะมีความสุขกว่า

3. คนสมัยก่อนเข้าวัดเป็นปกติทุกอาทิตย์ คนสมัยนี้เดินห้าง ดูหนัง เป็นปกติทุกอาทิตย์

4. คนสมัยก่อนทำบุญตักบาตรเป็นนิจ สวดมนต์ก่อนหัวถึงหมอนทุกวัน

5. คนสมัยก่อน ไม่ถือเนื้อต้องตัวเพศตรงข้าม เพราะเป็นจุดเริ่มของการเสียพรหมจรรย์

6. คนสมัยก่อน มีบทลงโทษ เกี่ยวกับบาปบุญคุณโทษ แรงมาก หากทำผิดร้ายแรง จะต้องมีการประณาม สาปแช่ง ประจานต่อหน้าผู้คน ทั้งบ้านทั้งเมือง

7. คนสมัยก่อน มีความเคารพ ยกย่องครูบาอาจารย์อย่างสูงสุด นับถือและให้เกียรติระบบอาวุโสอย่างเคร่งครัด ในขณะที่คนสมัยนี้ คงทราบกันดีว่าเป็นอย่างไร

8. คนสมัยก่อน พูดจาไพเราะ กิริยามารยาทงาม ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการเขียนหนังสือเรื่อง "สมบัติผู้ดี" และในสมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม มีกฎหมายให้คนไทยนิยมพูดจาไพเราะ สุภาพชน ให้สมกับเป็นชาติพัฒนาแล้ว คนไทยสมัยนั้น นับว่าเป็นยุคที่พูดจาไพเราะ จนหลายสิบปีต่อมา เริ่มหันกลับไปใช้ของเก่า คำว่า กรุ จึงแพร่หลายมาจนปัจจุบัน และแถมท้ายด้วยคำหยาบอีกนานาชนิด

9. คนสมัยก่อน มีการศึกษาน้อย บังคับจบแค่ ป.4 แต่ยังเขียนภาษาไทยถูกต้อง ผิดกับคนไทยปัจจุบันเรียนถึงระดับมัธยม และอุดมศึกษา แต่กลับใช้ภาษาวิบัติอย่างน่าใจหาย

10. คนสมัยก่อน จะสร้างบารมี 10 ทัศ เช่นเดียวกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
บารมี แปลว่า กำลังใจเต็ม หรือความดีที่ได้บำเพ็ญไว้ บารมี 10 ทัศ มีดังนี้

1. ทานบารมี จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ

2. ศีลบารมี จิตของเราพร้อมในการทรงศีล

3. เนกขัมมบารมี จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ

(เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช แต่ไม่ใช่ว่าต้องโกนหัวไม่จำเป็น)

4. ปัญญาบารมี จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารให้พินาศไป

5. วิริยะบารมี วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ

6. ขันติบารมี ขันติ มีทั้งอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์

7. สัจจะบารมี สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่าง ในด้านของการทำความดี

8. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ

9. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น

10. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ เมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว ใช้คำว่า "ช่างมัน" ไว้ในใจ

ขอบคุณที่มาของข้อมูลwww.dek-d.com ค่ะอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ  สาธุ สาธุ



ผู้ตั้งกระทู้ ศิริ สุดใจ (siri-dot-1978-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-10-27 13:49:47


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1580716)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ (mayurachut-dot-ch-at-rd-dot-go-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-27 14:45:43


ความคิดเห็นที่ 2 (1580717)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ (mayurachut-dot-ch-at-rd-dot-go-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-27 14:45:50


ความคิดเห็นที่ 3 (1580771)

โมทนาค่ะ คุณสุดใจ

หมวยอ่านไปก็นึกถึงตัวเองตอน

เด็ก ก่อนวันพระที่บ้านและเพื่อน

บ้านด้วย จะห่อข้าวต้มใส่ถั่วไม่

ใส่กระทินะคะ แล้วเอาไปต้มกับ

ปิ๊บใช้ฟืนค่ะ  พอรุ่งเช้าคนแก่ก็

จะแต่งตัวเอาข้าวต้มอาหาร ใส่

สลุง เดินไปเป็นกลุ่ม ๆ ตามถนน

ขึ้นไปวัด ภาพยังติดตาอยู่เลย

แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห๋นแล้ว เวลาหวน

คิดจะมีความสุขมากเลย  ก็ต้อง

ขอบคุณ คุณสุดใจมากๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-27 21:29:01


ความคิดเห็นที่ 4 (1580823)

อนุโมทนาบุญค่ะคุณศิริ

คนสมัยก่อนอยู่กับธรรมชาติ พึ่งพา  รู้คุณค่า

และสำนึกบุญคุณธรรมชาติ

คนสมัยนี้ ส่วนใหญ่ อยากเอาชนะธรรมชาติ

เอาแต่กอบโกย ใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย ไม่รู้คุณค่า

และไม่สำนึกบุญคุณธรรมชาติ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-27 23:55:47


ความคิดเห็นที่ 5 (1580835)

อนุโมทนากับทุกท่านด้วยคะ

 

คนสมัยนี้ ที่ไม่ยอมกลับตัวกลับใจ

ให้เป็นคนดีได้เหมือนคนสมัยก่อน

ก็กำลังจะหมดไปในไม่ช้า

อีกหน่อยเราก็จะได้อยู่แบบคนสมัยก่อน

เผลอ ๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำ

เพราะเพิ่งเจอบทเรียนที่หนักหนาสาหัสมาแล้ว

พวกเรา โชคดีมาก ๆ ที่ได้เจอความสุขแบบนี้แล้ว

ที่บ้านสวนพีระมิด ประเทศไทยจำลองของเรา

แล้วอีกไม่นาน ประเทศไทยจริง ก็จะสงบแบบนี้ได้จริง

ถ้าเราทุกคนช่วยกัน เปลี่ยน อย่างจริงจัง

อนุโมทนากับทุกท่านอีกครั้งนะคะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 01:07:28


ความคิดเห็นที่ 6 (1580839)


เห็นด้วยกับพี่แหวนค่ะ

ว่าอีกหน่อยเราก็คงจะได้อยู่แบบคนสมัยก่อน

เพราะถ้าเริ่มสังเกต

ตอนนี้ข้าวยากหมากแพง

โรงงานที่ผลิตอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ที่ทันสมัยต่างๆ

ก็โดนน้ำกวาดไปเยอะเลยทีเดียว

อาหารก็ขาดตลาด ไข่ มาม่า บะหมี่

พวกของสำเร็จรูปทั้งหลาย

ต่อไปคงจะเหลือแต่สิ่งของที่อยู่ได้โดยธรรมชาติจริงๆค่ะ

ไม่ต้องดัดแปลง ปรับปรุง ผ่านเทคโนโลยี

กระบวนการต่างๆให้ทำลายทรัพยาการธรรมชาติ

อนุโมทนากับคุณศิริด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 02:45:13


ความคิดเห็นที่ 7 (1580851)

และคนสมัยก่อนก็เน้น

ที่"น้ำใจ" มากกว่า "น้ำเงิน"

ไม่เหมือนคนสมัยนี้ ที่ทุ่มเวลาทั้งหมด

ไปกับการทำมาหา"เงิน" มากกว่า

ที่จะใ่ส่ใจดูแล คนในครอบครัว ซะอีก..

 

อนุโมทนากับคุณ ศิริ หนูแหวน น้องหญิง

พี่หมวย และคุณ มยุรฉัตร ด้วยค่ะ

อีกหน่อย คนสมัยใหม่ก็จะได้รู้คุณค่า

ของทุกๆอย่างรอบๆตัวแน่ๆ

จากที่เคยเรื่องเยอะ มีน้ำเปล่า จะกิน

น้ำหวาน น้ำอัดลม

หรือ มีข้าว ก็นึกอยากจะกินก๋วยเตี๋ยว

ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเอง มีอยู่เลย

 

แต่อีกไม่นาน ทุกคนจะรู้คุณค่า

สิ่งของรอบตัวและบุคคลรอบข้าง

แม้เพียง"น้ำสะอาด"

เพียงหยดเีดียว ก็ต่อชีวิตได้...

หรือแม้ หมา แมวตัวเดียว

ก็เป็นเพื่อนตาย และคลายเหงาได้...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 04:43:23


ความคิดเห็นที่ 8 (1580873)

สุดยอดคะ พี่ชนิดา

จริงทุกอย่างเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 10:21:35


ความคิดเห็นที่ 9 (1580883)

ศิริเห็นด้วยกับทุกๆท่านเลยค่ะ

                   อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

สมัยตอนศิริเป็นเด็กๆก็เห็นแล้วว่าผู้ใหญ่หลายๆคนช่วยกันทำอาหารเตรียมไปทำบุญที่วัด

เด็กๆก็นั่งอยู่ที่ตักตายายหรือปู่,ย่าหรือพ่อแม่ตนเองและก็ฟังพระสวดมนต์ไปแต่มันก็เป็นการซึมซับธรรมมาโดยไม่รู้ตัว และเรื่องอาหารการกินก็ไม่ยุ่งยากผักต้มจิ้มน้ำพริกก็สุดเลิศ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิริ สุดใจ (siri-dot-1978-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 11:18:25


ความคิดเห็นที่ 10 (1580901)

ขออนุโมทนา กับทุกๆความเห็นเลยนะค่ะ

มองภาพออกเลยว่า

สมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันมาก

แล้วก็เปลี่ยนไปมากจริงๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี (woranea_912_meaw-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 13:14:55


ความคิดเห็นที่ 11 (1580922)

ขออนุโมทนาบุญด้วยคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-28 16:13:29


ความคิดเห็นที่ 12 (1581045)

 

บ้านหมอที่เชียงราย แต่ก่อนก็เป็นแบบนี้คะ ช่วงเทศกาลก็ทำกับข้าวแบ่งปันกัน เดี๋ยวนี้ก็แทบจะไม่รู้จักกันเลย เพราะมีส.วเหลืออยู่น้อยแล้ว ฮิ ฮิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-29 12:58:36



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.