คำนำจากผู้เขียน

        ข้าพเจ้าแป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนคนทุกคนบนโลกใบนี้ และมีความรู้เกี่ยวกับพระพทธศาสนาน้อยมาก จากหนังสือประวัติหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่เขียนโดยพระมหาวีระ(หลวงปู่ฤาษีลิงดำวัดท่าซุง)เพียงเล่มเดียว ที่สามารถพลิกจิตทำให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสรู้จักคำว่า นิพพาน และผู้เป็นต้นพระวงศ์แห่งจิตนิพพาน”สมเด็จองค์ปฐม” พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกของโลกของจักรวาล จึงไม่มีต้นแบบการปฏิบัติตามมาก่อน เป็นเหตุให้พระองค์บำเพ็ญความดีด้วยกำลังใจอันสูงส่งยิ่งนัก และใช้เวลานารสั่งสมความดีด้วยความอดทนและมีความเพีนรเป็นหัวใจแห่งการปฏิบัติอันยาวนาน เพียงเอาเป็นต้นแบบพุทธะทำหน้าที่รื้อสัตว์ขนสัตว์ออกจากทะเลเห่งความทุกข์ สืบมาจนถึงทุกวันนี้

       จิตของข้าพเจ้าจึงรักเคารพ… ศรัทธาความดีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เริ่มเชื่อมั่นในตนเองด้วยการตั้งจิตไปอยู่กับพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทันทีเมื่อถึงอายุขัยถึงวันตายตั้งแต่บัดนี้ และเริ่มลงมือปฏิบัติตามตำราของหลวงปู่ฤาษีลิงดำมาโดยตลอด ถึงแม้จะไม่เคยไปพบตัวจริงของหลวงปู่แม้แต่ครั้งเดียว เพราะท่านนิพพานทั้งกายทั้งจิตไปตั้งแต่ปี 35 แต่ข้าพเจ้ามีความศรัทธาอย่างมั่นคงทำตามตำราหลวงปู่ฤาษีลิงดำมาโดยตลอด เริ่มจากการจับลมหายใจเข้า-ออกควบภาวนากำกับว่าพุท-โธ พร้อมทั้งเอาจิตจับภาพกายทิพย์บริสุทธิ์สมเด็จองค์ปฐมตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา  หลังจากเวลาผันผ่านไปอย่างเนิ่นนานถึง 6 ปี ข้าพเจ้าก็ยังมั่นคงต่อการตั้งจิตให้ขึ้นตรงต่อสมเด็จพ่อองค์ปฐม พร้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย จิตจึงเชื่อมจิตไปถึงพระองค์อย่างไม่รู้ตัว ดูจิตรู้ด้วยจิตตนเองว่า มีกำลังใจเด็ดเดี่ยวเข้งแข็งยิ่งขึ้นกว่าแต่เดิมมาก  ทั้งๆที่ขณะนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้อภิญญาสมาบัติใดๆทั้งสิ้น  แต่ก็มั่นคงทำตามที่ตั้งใจอย่างสม่ำเสมอ และสอนผู้คนที่มาพบด้วยวิธีการเดียวกันตลอดมา…..

     จนกระทั่งวันหนึ่ง…ข้าพเจ้าก็ได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ในชีวิตอยู่ก็มีผู้ยิ่งใหญ่เหนือโลก ได้มาปรากฏพระวรกายให้ข้าพเจ้าได้เห็น และฝึกสอนอภิญญา(ความรู้ทางด้านจิตทิพย์)แก่ข้าพเจ้า จนกระทั่งมีจิตทิพย์ที่ละเอียดสูงสุด ด้วยความรู้อันยิ่งใหญ่จากพระองค์  จนก่อเกิดเป็นตำราในเวลาต่อมา  ซึ่งเป็นตำราว่าด้วยความรู้เหนือโลก รู้ในรู้ รู้ได้ในทุกเรื่องไม่มีขีดจำกัด ทั้งเรื่องอดีต ปัจจุบันและเรื่องอนาคต   ความรู้ในหลักพุทธศาสนาหัวใจแห่งพุทธะ ปัญญาเพื่อความหลุดพ้น หากมีผู้มาถามจะตอบได้ทันทีในสิ่งที่ถาม  พร้อมทั้งสามารถขยายความให้ฟังได้อย่างละเอียด

      ความรู้ในหลักพุทธศาสนา…เป็นความรู้จากจิตกายทิพยพระพุทธเจ้าบนแดนทิพย์นิพพาน ส่วนความรู้นอกตำรา(ใบไม้ในป่า)ส่วนใหญ่เป็นความรู้จากจิตกายทิพย์พระผู้เป็นเจ้า(พระบรมบิดา)ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดบนแดนทิพย์ทั้งปวง พระองค์ทรงโปรดเมตตาประทานความรู้ที่ยิ่งใหญ่เหนือโลกไม่มีขีดจำกัด เรียกว่า พลังบุญ พลังปัญญา

      ยุคนี้สมัยนี้ จิตกายทิพย์ผู้บริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 900,223 พระองค์ มีพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดแห่งแดนทิพย์ทั้งปวงเป็นปราน มีพระบัญชาส่งสัญญาณความรู้สูงสุดลงมาฉุดช่วยสรรพชีวิตบนโลกใบนี้ ด้วยความเมตตากรุณายิ่งใหญ่หาประมาณมิได้ ข้าพเจ้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาอีกคนหนึ่ง ที่รับอาสาทำหน้าที่จากพระองค์ เพื่อทำงานถ่ายทอดสัญญาณความรู้ตอบปัญหาให้กับเพื่อมนุษย์ทุกคน ในเรื่องการปฏิบัติ เรื่องบุญ เรื่องบาป เจ้ากรรมและนายเวร กายทิพย์เทวดา พรหม เรื่องจิตนิพพาน แดนทิพย์นิพพาน สวรรค์นิรันดร ใครก็ตามที่ต้องการสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ ข้าพเจ้ายินดีเป็นอย่างยิ่งในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะในด้านสติและปัญญาขั้นสูงสุด จนกว่าชีวิตจะหาไม่….

      ข้าพเจ้าในนามของ ศูนย์กลางการเรียนรู้เรื่องจิต สติและปัญญาขั้นสูงสุด พร้อมคณะผู้มีสติปัญญาอาสาร่วมทำหน้าที่เผยแผ่สัญญาณความรู้จากพระบรมบิดา พร้อมจิตบริสุทธิ์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 900,223 พระองค์  ปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่า ตำราฉบับย่อเล่มนี้ จักเป็นประโยชน์สูงสุด  ในการจุดประกายแก่จิต สติปัญญาอันประเสริฐของท่าน ไขประตูเข้าสู่จิตเดิมจิตแท้…จิตประภัสสร มีความมั่นจิตมั่นใจในความดีของตนสูงสุด มั่นจิตในจิตแห่งพุทธะ ผู้รู้แจ้งทั้งหลาย นั่นก้คือความดีสูงสุดของพระพุทธเจ้าทั้ง900,223 พระองค์  โดยมีจิตบริสุทธิ์ยิ่งแห่งพระพุทธเจ้าองค์ปฐมเป็นเจ้าผู้ใหญ่สูงสุดแห่งแดนทิพย์ทั้งปวง “พระบรมบิดา”แล้วให้จิตอันบริสุทธิ์ของท่านเอง ได้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงในชาตินี้ เข้าสู่แดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาล แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรในชาตินี้ทุกท่นเทอญ..ฯ

                                                    พระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างโลก คือใคร

                                              ถึงเวลาแล้วที่ทุกดวงจิต…ผู้มีชีวิตในโลก

                                                   ควรจะรู้จักผู้มีนามว่า พ่อผู้ให้กำเนิด

                                     “…ต้นกำเนิดแห่งจิตบริสุทธิ์ พระบรมบิดา…”

       เรื่องจริงของทุกดวงจิตที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกลัทธิ จำเป็นต้องรู้ และควรที่จะรู้จักชื่อพ่อผู้ให้กำเนิดอย่างแท้จริง ต้นกำเนิดแห่งจิตรู้ ที่ผ่านมาแต่กาลก่อนไม่มีใครรู้จักชาวพุทธส่วนใหญ่ ไม่มีใครสนใจเรื่องของพระผู้เป้นเจ้ามากนัก เพราะมีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐสูงสุดอยู่แล้ว แม้แต่พระพุทธเจ้าก้มิเคยพูดถึงเรื่องราวของพระผู้เป็นเจ้า ให้เหล่าสาวกทั้งหลายได้รับรู้และนับฟังมาก่อน ทรงตรัสแต่เพียงว่า “ความรู้ที่ตถาคตนำมาสอนพวกเอในเวลานี้ เปรียบเพียงใบไม้ในกำมือนี้เท่านั้น แต่สิ่งที่ตถาคตรู้แล้วไม่ได้นำมาบอกพวกเธอนั้น มีมากกว่าใบไม้ที่มีอยู่ในป่า”

      พระบรมบิดา ก็คือ พระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างโลก ผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งจิตบริสุทธิ์ และเป็นผู้สร้างจิตรู้ของพวกเราขึ้นมาทั้งหมด เป้นผู้ที่ยิ่งใหญ่สูงสุด บนแดนทิพย์ทั้งปวง จะเรียกท่านว่า พระบรมบิดาหรือสมเด็จองค์ปฐมบิดา..ก็ได้

      “เวลานี้เป็นยุคแห่งการเปิดโลกทั้งปวง พ่อจะเปิดเผยเรื่องราวของแดนทิพย์ทั้งหมด ให้เป็นที่ประจักษ์แก่จิตหมู่มวลมนุษย์ ให้ได้รับรู้ความรู้แจ้งโลก แจ้งแก่จิตมนุษย์ผู้เปิดจิต คิดพิจารณาตามดังต่อไปนี้นะลูกเอ๋ย..”

      พระพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลกของจักรวาล มีพระนามเต็มว่า พระพุทธศิขินบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือเรียกสั้นๆว่า สมเด็จพ่อองค์ปฐม พระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์องค์แรกของโลกใบนี้ เป็นต้นแบบต้นพระวงศ์ของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

      แดนทิพย์นิพพานและคำว่า สวรรค์นอรันดร ก็คือสถานที่แห่งเดียวกัน เพียงแต่ข้าพเจ้าต้องการให้ครอบคลุมในทุกศาสนาทุกลัทธิฉะนั้นในตำราทุกเล่มของข้าพเจ้าที่เขียนขึ้นมา จึงรวมเป็นคำเดียวกันว่า แดนนิพพานสวรรค์นิรันดร หรือจะเรียกว่าแดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาลก็ได้  ซึ่งก็คือ..สถานที่อยู่อาสัยของจิตกายทิพย์ ของผู้มีจิตประกอบแล้วด้วยความเบื่อหน่าย ในการเวียนว่ายตายเกิดยังโลกมนุษย์สมมุติใบนี้ตลอดกาล

     นิพพาน ก็คือ ความสิ้นไปแห่งความทะยานอยากทั้งปวง(กิเลส ตัณหา อุปาทาน) “จิตผู้ใดรู้แจ้ง” ดั่งคำแห่งพุทธเจ้าประกาศไว้ดีแล้ว เรื่องของหัวใจพุทธศาสนา หรือเรียกว่า แก่นธรรม

     คำสอนแห่งพุทธเจ้านั้น สอนเป็นขั้นตอนต่างๆ มากมายเพราะจิตมนุษย์นั้นมีหลากหลาย อุปมาเปรียบดังดอกบัวสี่เหล่า จิตผู้ใดชอบการให้ทาน ก็จงให้ทาน ทรงตรัสรับรองว่า ทานนั้นเป็นของเลิศ (จาคะทำให้แจ้งซึ่งนิพพานได้) ผู้ใดชอบรักษษศีล ก็จงรักษาให้ดีเลิศ แล้วทรงตรัสถึงอานิสสงส์แห่งศีลแต่ละข้อโดยละเอียดส่วนผู้ใดชอบการภาวนา อุปมาทำจิตนิ่งดั่งหินผา ความสงบระงับแห่งจิตที่ละเอียดแยกออกจากกายหยาบได้ จิตผู้นั้นย่อมไม่สะเทือนไปตามกระแสความวุ่นวายภายนอก ส่วนท่านผู้ใดมีจิตประดุจดอกบัวพ้นแล้วจากน้ำ ย่อมเบ่งบานรับแสงอาทิตย์ฉันนั้น ย่อมรับความรู้ที่เป็นสติปัญญาสูงสุดคือ ปัญญาหลุดพ้น :  วิปัสสนาญาณ=จิตที่คิดพิจารณาจนเบื่อหน่ายในโลกทั้งปวง เห้นแจ้งว่า  ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ น่าเบื่อหน่าย จิตของท่านผู้ใด คิดพิจารณาถึงร่างกายตนเองและของผู้อื่น มองเห้นตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งเกิดดับ จนจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด จากการยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของตน ของผู้อื่นของโลกได้อย่างมั่นคง จิตผู้นั้นแหละเรียกว่า จิตหลุดพ้น(พระอรหันต์) หรือเรียกว่า จิตนิพพาน เรียกอย่างไรก้ได้ทั้งนั้น นี่คือหัวใจคำสอนของพุทะองค์ที่เรียกว่า พุทธะ ผู้ใดที่ปรารถนาสู่ความพ้นทุกข์ที่แท้จริง ถ้ายังไม่แจ้งแก่จิตในทุกสิ่งทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ดีแล้ว เรื่องจิตพุทธะ  ข้าพเจ้าก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนั่งลงปลงจิตอธิบายให้ท่านฟังจนแจ้งแก่จิตได้อย่างง่ายดายถ้าท่านต้องการ…

      จิตกายทิพย์บริสุทธิ์ ก็คือจิตของผู้ที่สูญสิ้นแล้วจากเยื่อใยแห่งการเวียนว่ายตายเกิด จิตที่รู้แจ้งโลก เมื่อปราศจากรูปร่างกายแล้ว(สังขาร) จิตดวงนั้นจึงเป็นอิสระจากพันธนาการของกรรม(บุญและบาป) ที่จะดึงจิตดวงนั้นให้มาเวียนว่ายตายเกิดได้อีก

      จิตผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องการเกิดในภพภูมิใดๆอีก จึงต้องเข้าสู่สถานที่เรียกว่า ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย เป้นอมตะจิตอยู่บนสถานที่เรียกว่า อมตะนิรันดรตลอดกาล นั่นแหละเรียกจิตดวงนั้นว่า จิตผู้บริสุทธิ์ดีแล้ว หรือเรียกเป็นภาษาบาลีว่า จิตวิสุทธิ์(หรือเรียกจิตนิพพาน) ซึ่งชาวพุทธชอบเรียกชื่อเป็นภาษาบาลีไปซะหมดอะไรๆ ก็เรียกว่า พระไปเสียทั้งหมด พรหมก็เรียกพระพรหม จิตผู้บริสุทธิ์ ก้เรียกพระวิสุทธิ์ รวมทั้งภิกษุ สรุปแล้วเรียกพระทั้งดีทั้งเลว ก็เลยไม่ได้เข้าจิตเข้าใจในแก่นแท้แห่งพุทธะ ที่พุทธจเสอนไว้ดีแล้วนั่นเอง… มนุษย์เอ๋ย…

        วิปัสสนาญาณ ก็คือ การใคร่ครวญคิดพิจารณานั่นเอง จิตดวงใดคิดพิจารณาจนมองเห็นด้วยปัญญาว่า สอ่งใดๆ ในโลกล้วนว่างเปล่า น่าเบื่อหน่าย เป้นทุกข์เป็นโทษมหันต์ จิตคิดพิจารณาจนเบื่อหน่าย จิตดวงนั้นเข้าใจในสิ่งที่พุทธเจ้าทรงสอนไว้อย่างแจ่มแจ้งแทงตลอด เข้าใจความหมายของคำว่า นิพพาน หมายถึงจิตดวงนั้นสูญสิ้นจากการที่จะเกิดอีก เบื่อหน่ายแล้วจากการเวียนเกิดเวียนตายอย่างแท้จริง นั่นแหล่ะจิตดวงนั้นแจ้งแล้วด้วยปัญญา วิปัสสนาแปลว่าคิด คิดในเรื่องของต้นเหตุแห่งควาทุกข์ทั้งปวง คิดไปคิดมาจนรู้แจ้งด้วยสติปัญญา เห็นแจ้งตามที่พระพุทธเจ้าสอน เบื่อโลกแล้วนั่นแหล่ะเรียกว่า ญาณ ต่อท้านคำว่า วิปัสสนา รวมเป็นคำว่า วิปัสสนาญาณ ใครคิดได้…รู้ได้เพียงแค่นี้ก็นิพพานได้แล้ว ยิ่งปัจจุบันนี้ยิ่งมากๆ เพราะพุทธเจ้าสอนไว้หมดจดดีแล้ว แค่คิดตามก็นิพพานแล้วละมนุษย์เอ๋ย....

      ปัจจุบัน..ศาสนาแห่งพุทธะสมณะโคดมยังคงอยู่ รวมทั้งคำสอนแห่งพุทธะยังคงปรากฏแจ้งชัดอยู่ เป็นความรู้แจ้งโลก เป็นไปเพื่อการออกจากทุกข์อย่างแท้จริง ยังแจ้งประจักษ์ชัดเจนแก่จิตผู้เปิดรับ แล้วใยมนุษย์ทั้งหลายจะมัวยื้อแย่งแข่งขันกัน เสาะแสวงหาวิธีการออกจากทุกข์ให้มีขั้นตอนยุ่งยากอยู่เล่ามนุษย์เอ๋ย…ถ้าเธอทั้งหลายพร่ำพรรณนาว่า เราเป็นสาวกแห่งพุทธะ ขอเป็นผู้เดินตามทางแห่งพุทธะ ขอเป็นผู้เดินตามทางแห่งพุทธะที่ชี้นำทางไว้แล้ว แค่เพียงเอทั้งหลาย…ตั้งจิตคิดตามคำสอนที่เป็นแก่นแท้หัวใจแห่งพุทธะ ในตำราฉบับย่อเล่มนี้เพียงเท่านี้จิตของเธอก็ผู้มีสติและปัญญาต่างกัน

      ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี เมือจิตเกาะความดีตายไปก็ไปสู่สถานที่ดี ภพภูมิที่ดีมีสวรรค์เป็นที่ไป แต่สำหรับพุทธศาสนาอันมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน คำสอนของพุทะเป็นมากกว่าคำว่า เป้นแค่เพียงแค่ดี นั่นก้คือสอนเรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องจิต และ สอนถึงหนทางความพ้นทุกข์(นิพพาน)  เพียงแต่คนส่วนมากไม่เข้าใจ และไม่พยายามจะเข้าใจ ศาสนาต่างๆ ล้วนแล้วแต่ติดสมมุติอยู่ในโลก  การแบ่งแยกเชื้อชาติ   แบ่งแยกศาสนา ลัทธิ แบ่งแยกสำนัก แบ่งกูแบ่งมึงมีตัวมีตนมีทิษฐิมานะอยู่ เมื่อนั้นก็ยังออกจากสมมุติไม่ได้

      การจะออกจากความทุกข์ได้  จะต้องออกจากโลกสมมุติ เข้าสู่แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรเท่านั้น ถึงจะพ้นทุกข์ถาวรได้ และสถานที่แห่งนั้นก้ไม่ได้อยู่ไกลเกินที่จะไปถึง ถึงแม้สถานที่แห่งนี้จะอยู่ไกลสุดเหนือจักรวาล  แต่ก็อยู่ใกล้สุดแค่ปลายจมูกในจิตของเอผู้ปราถนาออกจากวัฏจักรหรือนอกวัฏฏะ(การเวียน ว่าย ตาย เกิด)จิตที่เรียนรู้โลกสมมุติแล้วเบื่อหน่ายในความทุกข์ ก็คือเบื่อหน่ายในการเวียนว่าย เวียนตาย จิตที่เปิดรับการเรียนรู้ เรื่องแดนทิพย์นิพพาน สวรรค์นิรันดรว่า สถานที่แห่งนั้นสิ้นทุกข์เป็นแดนทิพย์อมตะสุขจิตของผู้ใดยอมรับว่า ต้องการสถานที่สิ้นความทุกข์ แล้วตั้งจิตไปอยู่ยังสถานที่แห่งนั้นทันที หลังจากตายไปจากสิ่งสมมุติในชาตินี้ จิตของเอก็เข้าสู่สถานที่พ้นทุกข์เป็นอมตะนิรันดรทันที สถานที่แห่งนั้นก็คือ “ แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดร “

     “แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรอยู่ที่ไหน…

         ก็อยู่ที่จิตของเธอนั่นไง…”

      “จะออกจากโลกสมมุตินี้ได้อย่างไร…

       ออกจากมันได้ ถ้าจิตของเธอต้องการ…”

      ขอพวกท่านหลับตาลงเบาๆ ปล่อยจิตให้ว่างๆ สิ่งที่ต้องทำต่อไปนี้คือ หายใจเข้าลึกๆ ปล่อยลมหายใจออกยาวๆทำซ้ำๆ                3-4 ครั้ง หลังจากนั้นให้ตั้งจิตคิดว่า “เราเองเกิดมากี่ชาติแล้วโดยเฉพาะชาติที่เราเกิดเป็นคน เราก็มีโอกาสได้ทำความดีมามากแล้ว ความไม่ดีก็มีบ้างเป็นของธรรมดา พระพุทะเจ้าท่านก็เคยตรัสไว้ว่า “ผู้ไม่เคยทำผิดไม่มีในโลก” นับประสาอะไรกับเราที่เป็นสาวก  ย่อมมีดีมีเลวเป็นธรรมดา  เอาละนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะไม่คิดถึงความผิดพลาดที่มันเป้นอดีตไปแล้ว พระพุทธเจ้าสอนให้เราอยู่กับปัจจุบัน และตอนนี้เรากำลังนึกถึงความดีที่เคยทำมาแล้วตั้งมากมายนับภพชาติไม่ถ้วน ถ้ารวมความดีของเราทั้งหมดก็มีมากพอ ที่จะตั้งจิตรวมความดีทั้งหมดที่สั่งสม จงมารวมตัวกัน เป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า สิ้นทุกข์ออกจากการเวียนว่ายตายเกิดเข้าสู่แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรในชาตินี้เท่านั้นด้วยเทอญ”

      หลังจากนั้นขอให้ทุกคนนึกถึงภาพพระบรมบิดา ที่อยู่บนปกหนังสือ ลืมตามองก็ได้ ทำจิตใจให้สงบนึกในใจว่า”สมเด็จพ่อองค์ปฐม”หรือ”พระบรมบิดา”สัก 9 จบ จากนั้นให้ตั้งจิตคิดว่า…

     “  ข้าแต่สมเด้จพ่อองค์ปฐมบรมบิดา พร้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดทั้งแดนทิพย์อมตะสุขนิรันดร ขอได้โปรดเมตตาประทานพลังบุญพลังปัญญาของพระองค์ ราดรดลงมาสู่กายวาจาจิตของลูก ขอให้จิตของลูกมีพลังปัญญามีความเข้มแข็งกล้าหาญอดทนตลอดไป ลูกขอพ้นจากความทุกข์มนชาตินี้เท่านั้น ลูกไม่ขอเกิดอีกแล้ว เพราะการเกิดมีแต่ความทุกข์ ต้องแก่ เจ็บ ตาย ไปในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เกิดขึ้นมาแล้วตั้งอยู่ได้ไม่นาน  สุดท้ายก็สลายตัวไปในที่สุด โลกใบนี้มีแต่สมมุติ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนว่างเปล่า  ถ้าลูกถึงอายุขัยถึงวัยตายเมื่อใด ลูกขอไปอยู่กับพระผู้เป็นใหญ่สูงสุด บนแดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรด้วยเถิดเจ้าข้าฯ”

     ถ้าใคตั้งจิตอธิษฐานตามที่แนะนำนี้แล้ว ข้าพเจ้าขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันกล้ารับประกันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า ทุกท่นพ้นทุกข์จากเวียนว่ายตาบเกิด เข้าสู่แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรได้อย่างแน่นอน

                                                     คำสอนสมเด็จพ่อองค์ปฐม

      “ลูกรักทั้งหลายของพ่อ ชาตินี้ลูกคนไหนที่คิดว่าทำดีกันแล้ว พ่อจะบอกลูกๆว่า….ยังดีไม่พอ  ใครที่คิดว่าทำดีกันแล้ว พ่อจะบอกลูกๆ ว่า…ยังดีไม่พอ  ใครที่คิดว่าตนเองดีแล้วดีกว่าคนอื่นก็แสดงว่ายังดีไม่พอ  ส่วนมากยังทำความดีกันไม่ถูกต้อง ตามหลักของความดีสูงสุด ลูกๆที่เป็นเพียงชาวบ้านชายหญิงนั้น  จงทำจิตให้ถึงซึ่งความพันทุกข์ได้ด้วยวิธีง่ายๆถึงแม้เราเป็นเพียชาวบ้านชาวเมืองธรรมดาๆ แต่ก็สามารถทำความพ้นทุกข์ ทำจิตให้แจ้งด้วยปัญญาเข้าถึงแดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรได้ด้วยวิธีที่ง่ายๆลัดๆสั้นๆตามตำราเล่มนี้หรือเล่มไหนก้ตาม ที่เรียกว่า ง่ายๆ ลัดๆ สั้นๆ ที่สุดแห่งที่สุดนั่นแล่ะคือ …สัญญาณความรู้จากพ่อโดยครง

       ในยุคปัจจุบันนี้คนที่มีความรู้(ทำได้แล้วจึงสอน)นั้นมีน้อย แต่คนไม่มีความรู้ แต่อยากจะสอนผู้อื่นนั้นมีมาก ต่างก็แข่งขันกันเปิดสำนักแข่งดีแข่งเลวกันทั่วบ้านทั่วเมือง มีวีสอนกันไปต่างๆนาๆ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง บางสำนักก้ยังเอาตัวเองไม่รอดจากอบายภูมิ ก็ยังอุตสาห์เปิดสำนักสอนกัน แข่งกันทำความดีแตกแยกกันเพราะเหตุแห่งความดี ทำให้มีผู้คนไขว้เขวไม่รู้ความจริงว่า สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด ไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้แต่ภิกษุผู้ประพฤติดี ก็ยังทำผิดธรรมวินัยกันอยู่จำนวนมาก กือบทั้งประเทศไทยนั้นแหล่ะลูกเอ๋ย…

        จงตั้งจิตฟังกระแสเสียงพ่อให้ดี พ่อจะบอกวิธีการที่ง่ายๆ ลัดๆ สั้นๆ ให้ จงจดจำให้ขึ้นจิตว่า “พ่อต้องการให้ลูกทั้งหลาย ได้พันจากความทุกข์ในการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เข้าสู่แดนทิพย์อมตะสุขกันในชาตินี้เท่านั้น”

       ลูกรักของพ่อ พวกเจ้าลงมาท่องเมี่ยวเพื่อเรียนรู้ความเป็นไปในแดนมนุษย์นี้นานมากแล้ว  ถ้าเทียบเวลาในแดนมนุษย์นี้ ก็นับเป็นเวลาล้านล้านๆๆๆๆๆๆๆชาติแล้ว  โดยเฉพาะถ้าใครได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว พ่อจะถือว่าพวกเจ้าได้ฟังสัญญาณเตือนจากพ่อแล้ว  พวกเจ้าได้รูจักพ่อผู้ให้กำเนิดอย่างแท้จริงแล้ว และเวลานี้พ่อก็เฝ้ารอคอยการกลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุขของพวกเจ้าอยู่  ตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อได้ส่งสีญญาณความรู้ลงมาหาลูกๆที่ยังติดค้างอยู่ในแดนมนุษย์นี้มานานแล้ว  ผู้ที่รับสัญญาณได้ก้ไม่มีสติปัญญามากพอที่จะเข้าจิตเข้าใจในความปรารถนาของพ่ออที่ถูกต้องได้ทั้งหมด  จึงแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งยึดติดไปเสียสิ้น แทนที่จะออกจากทุกข์ได้ กลับต้องมาเวียนว่ายตายเกิดใหม่อีก  เพราะเหตุแห่งการยึดติดในความดีจนไม่รู้จักคำว่า อิ่มแล้ว พอแล้ว สุขแล้ว เบื่อแล้ว.. พวกเจ้ายังไม่ยอมทำหน้าที่อย่างปล่อยสละละวาง ว่างเปล่า..เป็นชาติสุดท้ายกันสักที แล้วอย่างนี้เจ้าจะสอนใครให้พ้นทุกข์ได้เล่าลูกเอ่ย…

       ในยุคนี้เวลานี้  คนที่สามารถรับสัญญาณจากพ่อได้นั้นมีมากกว่าในสมัยอดีตที่ผ่านมาโดยเฉพาะในประเทศไทย  แต่..มีมากก็เหมือนมีน้อย เพราะยีงยึดติดในตัวตนของตนเองอยู่ ยังยึดติดคำว่าเจ้าสำนัก ยังหลงยึดติดในสัญญาณความรู้จากพ่อ  บันทึกเป็นลิขสิทธิ์ของตน บางคนถูกพ่อทดสอบด้านสติป้ญญาแล้วไม่ผ่านที่จะให้ทำหน้าที่ยิ่งใหญ่ต่อไปข้างหน้าได้  จึงให้ทำเพียงหน้าที่จำกัดตามจิตเท่านั้น…

      คนธรรมดาสามัญที่มีความรู้ความสามารถ ในการสอนเรื่องแดนทิพย์อมตะสุขสวรรค์นิรันดรได้ มีความสามารถรับสัญญาณจากพ่อได้พร้อมทั้งไม่ติดยึดใดๆ ประกอบแล้วด้วยสติปัญญาสูงสุด สามารถทำหน้าที่ได้ทุกหน้าที่โดยไม่ยึดติดในสัญญาณความรู้ที่แท้จริงนั้น ก็ยิ่งหาได้ยากยิ่ง ด้วยเหตุนี้ ลูกๆที่ได้อ่านตำราเล่มนี้หรือเล่มไหนๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณความรู้จากพ่อ จากพรหม จากเทพเทวดาองค์ใดที่ลงมาทำหน้าที่ในโลกมนุษย์ในยุคนี้ ก็จงใช้สติปัญญาคิดพิจารณาให้ได้ปัญญา รู้ในความรู้ที่ได้อ่าน ได้ฟัง  ได้ศึกามา คิดพิจารณาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยจิตของตนเอง ถามตนเองให้ได้ว่า เราได้อะไรจากการอ่านฟังมาจากสถานที่ต่างๆ จงอย่าพึ่งเชื่อ อย่าพึ่งศรัทธาอย่างมงายอย่างผู้ขาดสติขาดปัญญานะลูกเอ๋ย…

       นับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป  ไม่ว่าจิตลูกของพ่อจะอาศัยอยู่ในร่างกายชายหรือหญิงไม่สำคัญ  ถ้าจิตลูกต้องการความพ้นทุกข์ถาวรเข้าสู่แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรอเวลาใกล้จะตายก่อนแล้วค่อยกำหนดจิต ถึงตอนนั้นก็ไม่ทันกาลแล้วมนุษย์เอ๋ย เพราะคนเรารู้เวลาเกิดแต่ไม่รู้เวลาตาย ชาตินี้มีโอกาสได้พบความรู้แจ้งแห่งพุทธะสอนสั่ง จงรีบเร่งกำหนดจิตตั้งจิตตามถึงสถานที่ ที่จะนำจิตไปอยู่ในชีวิตหลังความตายตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะไม่มีโอกาส  นั่นแหล่ะถึงจะได้ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต และไม่เสียชาติเกิด..ในชีวิตชาตินี้จึงจะมีชื่อว่า อนุพุทธะ..ผํเดินตามผู้รู้แจ้ง..นะลูกเอ๋ย…

        ลูกรักของพ่อทั้งหลาย พวกเจ้าที่ได้อ่านหนังสือนี้ พ่อจะถามจิตของพวกเจ้าว่า ในเวลานี้พวกเจ้ารู้จักความทุกข์แล้วหรือยัง ถ้าพวกเจ้ายังไม่รู้จักความทุกข์  พ่อก็จะขอถามพวกเจ้าต่อไปอีกว่าพวกเจ้ารู้สึกตัวเองไหมว่า เจ้าแก่ไปทุกวัน จะต้องเจ็บป่วยและจะต้องตายไปในที่สุดใช่หรือไม่ ชาติต่อไปเจ้าจะยังต้องการความเกิด แก่ เจ็บ ตายกันอยู่ใช่หรือไม่ใช่  ถ้าลูกคนไหนยังต้องการเกิดแก่เจ็บตายอยู่ และยังไม่เบื่อหน่ายการที่มีร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ก็ไม่ต้องเชื่อสัญญาณความรู้ในตำราเหล่านี้…

       ถ้าลูกคนไหนเชื่อและเบื่อหน่ายความทุกข์แล้ว ก็ทำตามที่พ่อแนะนำมาด้วยวิธีง่ายๆลัดๆสั้นๆตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

       “ …นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะเชื่อมั่นในความดีของตนเอง จะไม่เชื่อผู้อื่นที่ไม่มีความรู้จริง เราจะทำความเข้าใจในธรรมชาติของตัวเราเองว่า ร่างกายของเราคือ ตนเหตุแห่งความทุกข์ทั้งปวง เพราะเราเกิดมามีร่างกาย จึงต้องแก่ เจ็บป่วยและตายในที่สุด ถ้าเราเกิดอีกเราก็ต้องทุกข์อีกไม่ว่าเราจะรวยหรือยากจน สุดท้ายก็ต้องตายสลายไปในที่สุด เราไม่สามารถที่จะนำทรัพย์สมบัติใดๆติดตามเราไปได้แม้แต่อย่างเดียว เรามาคนเดียว ทุกข์ก็ทุกข์คนเดียว เจ็บป่วยคนเดียว และเราก้ต้องตายคนเดียวไม่มีใครช่วยใครได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราถึงอายุขัยถึงวันตายเมื่อไหร่ เราจะไม่ขอกลับมาเกิดอีกแล้ว สถานที่ที่เราจะไปนั่นก้คือ แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดร แดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาลเท่านั้น”

          “ลูกคนไหนที่ตั้งจิตคิดพิจารณาตามนี้เป็นปกติทุกๆวัน นั้นเป็นคำมั่นสัญญากับพ่อว่า จะกลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุขสวรรค์นิรันดร และพ่อจะถือว่า…พวกเจ้าเป็นลูกที่มีความรักความเคารพต่อพ่ออย่างแท้จริง มีความจริงใจที่ตั้งจิตเป็นสัจจะวาจาต่อฟ้า-ดิน เป็นคำอธิษฐานที่ประกอบไปด้วยสติและปัญญาขั้นสูงสุด พ่อบรมบิดารับรู้ทราบถึงความปราถนาของลูก  ที่ต้องการพ้นทุกข์อย่างถาวรตลอดไป พ่อพร้อมที่จะช่วยให้ลุกของพ่อมีกำลังจิตที่เข้มแช็งเต็มเปี่ยมด้วยกำลังบุยความดีของพ่อ  พร้อมกำลังบุยความดีของพุทธเจ้าทั้งหมดรวมกัน ราดรดลงมาเข้าสู่จิตของพวกเจ้าทั้งหลาย ผู้ที่มีกำลังใจยังไม่เต็ม  ให้มีกำลังใจเต็มเปี่ยมได้อย่างรวดเร็ว…ถ้าลูกไม่ลังเลสงสัยในความดีของพ่อ และของตัวเองเมื่อไหร่ ….ก็จงสวดภาวนาชื่อพ่อเป็นประจำ และก็ตั้งจิตอธิษฐานกลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุขทุกๆวัน  พ่อขอรับประกันว่า  ลูกรักทั้งหลาย …ได้พ้นทุกข์เข้าสู่…แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรในชาตินี้แน่นอนลูกเอ๋ย

        ยกเว้น..จิตของผู้ปรารถนาความเป็นพุทธเจ้าเท่านั้น  ที่ยังต้องการเรียนรู้ในความเกิดแก่เจ็บตายอยู่  เพื่อเป็นแนวทางแห่งบรมครูสอนสั่งสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ในอนาคตข้างหน้า ย่อมยังไม่ปราถนาจะกลับคืนสู่สถาพที่ที่พ้นทุกข์ในชาตินี้พ่อก็อนุญาต…

      ส่วนลูกรักคนไหนที่อ่านตรงนี้แล้ว หากแจ้งจิตว่า ตนเองไม่ใช่โพธิสัตว์ที่แท้จริง ถ้าหากยังไม่อยากกลับเพื่อไปอยู่กับพ่อบนแดนทิพย์อมตะสุขในชาตินี้  พ่อก็จะถือว่าพวกเจ้ายังชอบเรียนรู้และยังติดอยู่ในอาการหลงภพหลงชาติ รักในความสุขความทุกข์ สุดท้ายแล้วพวกเจ้าก็จะติดอยู่ในการเกิด แก่ เจ็บ ตายอย่างไม่รู้จบสิ้น ใครๆก็ฉุดช่วยพวกเจ้าไม่ได้อีกต่อไป…

       แต่…พ่อก็คือพ่อ…ผู้ให้กำเนิดจิตของพวกเจ้า ยังรักและห่วงใยต่อจิตของพวกเจ้าเสมอ และขอสั่งให้จิตของพวกเจ้าจงจดจำชื่อของพ่อผู้   “พระบรมบิดา”   หรือใครที่เคารพในพุทธศาสนาน่าจะเรียกพ่อว่า “องค์ปฐม” ก็ได้เช่นกันจงจดจำและท่องให้ขึ้นจิตขึ้นใจ  อย่าให้หลงลืมในทุกๆวัน และทุกภพทุกชาติ จงภาวนาให้ได้มากที่สุดที่เจ้าจะทำในแต่วัน แล้วจิตของพวกเจ้าจะเชื่อมโยงถึงจิตพ่อบนแดนทิพย์อมตะสุขได้ แล้วพ่อจะส่งสัญญาณแห่งความดีที่ยิ่งใหญ่  ลงมาเพิ่มเติมเสริมแต่งจิตให้  ซึ่งพวกเจ้าจะได้สัมผัสและนับรู้ถึงพลังความดีของพ่อได้ก็ต่อเมื่อกำลังจิตของพวกเจ้ามีความเชื่อมั่นในพ่อ และทำจิตให้สงบไม่ฟุ้งซ่านจนเกินไป  ถ้าลุกคนไหนรับสัญญาณกระแสความดีจากพ่อได้  จงเชื่อมั่นในตนเองไม่ต้องลังเลสงสัยอีกต่อไป และ ไม่จำเป็นต้องไปเล่าขานให้แก่ผู้ที่ไม่รู้ไม่เข้าใจฟัง  จงเชื่อมั่นและรู้ได้ด้วยจิตตนเองเท่านั้น  แต่ถ้าไม่มั่นใจก็จงสอบถามผู้ที่เขียนตำราเล่มนี้  เขาจะเป็นผู้รับรองให้เจ้าทั้งหมด…

        ถ้าแม้แต่เพียงชื่อชองพ่อผู้ให้กำเนิดจิตพวกเจ้า  หากยังหลงลืมไม่จดจำ  พ่อจะถือว่าลูกๆ ไม่เคารพในจิตพลังงานรู้สูงสุดในจักรวาล  พ่อก็จะลงโทษพวกเจ้าด้วยการปล่อยให้ผจญชะตากรรมเวรที่พวกเจ้าได้กระทำเอาไว้ตั้งแต่อดีต  พ่อจะไม่ผ่อนหนักผ่อนเบาให้พวกเจ้าอีกแล้ว  เพราะว่าพวกเจ้าไม่ยอมเชื่อฟัง  หลงโลก หลงตัวตน หลงครูอาจารย์  ขาดสติและปัญญา  ก็จงจมอยู่ในโลกนี้ต่อไปเถอะลุกเอ๋ย….

      ลูกรักทั้งหลาย  จงฟังพ่อให้ดี พวกเจ้าไม่ได้เกิดมาชาตินี้เป็นชาติแรก  เจ้าเป็นมนุษย์มากชาติแล้ว  เกิดตายมาเป็นล้านล้านล้านๆๆๆๆๆๆๆชาติแล้ว  พวกเจ้าทำความดีมามากแล้ว จงมีความเชื่อมั่นในความดีของตนเองได้แล้วว่า…ผู้ใดได้มีโอกาสอ่านตำราเล่มนี้แล้ว  ก็แสดงว่าบุญ(ความดี) และบารมี(กำลังใจ) ของเจ้านั้นเต็มเปี่ยมแล้ว…มีมากพอเกินพอ  ที่พวกเจ้าจะตั้งจิตกำหนดจิตกลับคืนสู่สถานที่เป้นทิพย์อมตะสุขตลอดกาล  ไม่ต้องกลับคืนมารับผลแห่งกรรมเก่าและสร้างกรรมใหม่ในชาติใดอีกนะ… blockquote{ border:1px solid #d3d3d3; padding: 5px; }

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1556002)
จงเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม        ลูกรักทั้งหลาย พ่อขอเพ่เติมเสริมแต่งเรื่องกฎแห่งกรรมให้ได้เข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย  สิ่งใดๆก้ตาม ที่พวกเจ้าได้เคยทำเอาไว้ในอดีตชาติที่เรียกว่า ความดี(บุญ)และความไม่ดี(บาป) รวมๆแล้วเรียกว่า กรรม กรรมแปลว่าการกระทำ กรรมดีและไม่ดีทั้งสองอย่างนี้ ย่อมติดตามส่งผลในชาติปัจจุบันนี้ สิ่งไหนที่ทำให้จิตใจของเจ้าเป็นทุกข์นั้นแหล่ะกรรมไม่ดีส่งผล  รวแล้วในชีวิตหนึ่งชาติหนึ่งของการเกิด แก่ เจ็บ ตาบชองพวกเจ้า ก็มีได้แค่ความสุขกับทุกข์เพียงเท่านี้และในความเป็นจริงที่สุดก็คือ สัตว์โลกย่อมเป้นไปตามกรรม คนก็คือสัตว์ สัตว์ก้คือคน มีเพียงสุขกะทุกข์ ทุกข์กับสุขเพียงแค่นี้ ยามใดที่กรรมไม่ดีส่งผล เจ้าก็เป้นทุกข์ปริ่มว่าจะขาดใจ น้ำตารินไหลเป็นสายน้ำ ยามใดที่จิตเป้นสุขก็หลงลืมความทุกข์เสียจนสิ้นเกิดและตายเป็นอาจิณ  หลงลืมสิ้นว่าสุดท้ายได้อะไร จะรวยหรือจน  ผู้ดีหรือยากจก วนิพกหรือสวยงาม สุดท้ายก้ตายหมดสิ้น ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา จงรู้จักปล่อยสละละวางในทุสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน และตั้งจิตคิดพิจารณาเพื่อหนีความสุขความทุกข์ให้ได้ตามตำราเล่มนี้ หลังจากนั้นเมื่อรูปร่างกายชองเจ้าสลายตายไปเมื่อใด  ก็จงนำจิตกลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาล สถานที่จิตเดิมจิตแท้ของพวกเจ้าพากันจากมา...ลูกเอ๋ย           การอนุโมทนาบุญ(ยินดีในความดีผู้อื่น) ของพระพุทธเจ้าหมดทั้งแดนทิพย์อมตะสุขนั้น ย่อมได้รับบุญ ทำให้กำลังใจเราเต็มไวมากๆ ไม่เชื่อก้เชิยพิสูจน์นะครับ  แต่จงพิสูจน์ด้วยความเคารพความศรัทธาด้วยจิตต่อจิตที่บริสุทธิ์นะครับ         "ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ มีสมเด็จพ่อองค์ปฐมทรงเป้นประธาน  พระพุทธเจ้าทุกๆ  พระองค์ผู้ทรงบำเพ็ญบุญญาบารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ สิทธิอำนาจ เฉียบขาดฉับพลันพร้อมญาณทัศนะอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระพุทธเจ้า  ในการทำหน้าที่รื้อสัตว์ขนสัตว์ให้ข้ามพ้นทะเลแห่งความทุกข์ ให้ได้ กลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุขด้วยความยากลำบาก  สิ่งใดๆที่เป็นดวงงบุญดวงความดีอันใสบริสุทธิ์ ใหญ่โตมโหฬารของผู้ที่เคยมีนามว่า พระสัมมาสัมพุทะเจ้าพร้อมทั้งพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์รวมดวงความดีของท่านหมดทั้งแดนทิพย์นิพพาน  ข้าพเจ้าขออนุโมทนายินดีขอมีส่วนร่วม  ในดวงความดีทั้งหมดของท่าน  หมดทั้งแดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรด้วยเถิดเจ้าข้าฯ..."         การช่วยเหลือชาวโลกทิพย์(ภูติ ผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย -สัมภเวสี สัตว์เดรัจฉาน ยักษ์ กุมภัณฑ์คนธรรพ์ นาค ครุฑ เทวดา พรหมด้วย 3 วิธีดังนี้ เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำควบคู่ทั้งหมดได้ยิ่งดี  เพราะชาวโลกทิพย์ที่มีกรรมหนักอาจจะรับความดีของเราไม่ได้...        วิธีที่ 1. ภาวนาอะไรก้ได้ หรือท่อง "สมเด็จองค์ปฐม" 7-9 จบ        วิธีที่ 2. ส่งความดี(บุญ)ส่วนตัวของเราให้ชาวโลกทิพย์        วิธีที่ 3. อาราธนาความดีของพระพุทะเจ้าราดรดฉุดช่วย      วิธีที่ 1. ข้าพเจ้าได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ทั้งหมดแล้วว่า "ขอบุญความดีของข้าฯที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้วนับภพนับชาติไม่ถ้วน จงมารวมตัวกันกลั่นเป็นดวงบุญใส...ใหญ่โตมโหฬารเป็นล้านๆอสงขัยกัปเท่า แผ่ส่งไปกับพลังแสงทิพย์นิพพรรณรังสีรัศมีของพระพุทะเจ้าทั้งหลาย มีสมเด็จพ่อองค์ปฐมเป็นประธาน แผ่ราดรดไปยังสรรพสัตว์ชีวิตน้อยใหญ่ ชาวโลกทิพย์ที่ต้องการความช่วยเหลือ และทุกครั้งที่มีการสวดภาวนาพระนามของสมเด็จพ่อองค์ปฐม ขอดวงความดีแห่งข้าฯที่ได้ตั้งอธิษฐานไว้ดีแล้วตลอดเวลาหนึ่งปีเต็มนี้ จงแผ่ราดรดคลุมจิตของชาวโลกทิพย์ให้ได้รับการเปลี่ยนแปลงสถาวะเป็น เทวดา นางฟ้า พรหม ขึ้นสู่สถานที่พ้นจากความทุกข์ แดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาลปุ๊ปปั๊บฉับพลันด้วยเทอญฯ..."        "ข้าแต่สมเด็จพ่อองค์ปฐมบรมบิดา  พร้อมจิตทิพย์บริสุทธิ์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์  พระผู้ทรงเมตตากรุณาหาประมาณมิได้ต่อปวงสรรพชีวิตทั้งหลาย จิตของข้าฯจะทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่เป็นชาติสุดท้าย เพื่อส่งเสริมงานแห่งพุทธะทั้งหลาย ฉุดช่วยสรรพชีวิตทั้งปวงเป็นชาติสุดท้ายเช่นกัน ฟ้าดินจงป็นสักขีพยานให้ข้าฯผู้มีนามสมมุติว่า ช.หากมีการสวดพระนามสมเด็จพ่อองค์ปฐมเมื่อใด  ขอพลังบุญความดีแห่งข้าฯพร้อมพลังความดีของพระพุทะเจ้าทุกๆพระองค์รวมกัน  จงสำเร็จแก่ดวงจิตสรรพชีวิตทุกครั้งฉับพลันด้วยเทอญ...ฯ"       พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้เป้นใหญ่เหนือสรรพชีวิต  พร้อมจิตกายทิพย์อดีตชาติพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ได้รับคำสัตยาอธิษฐานของข้าฯแล้ว ทรงประทานพรให้ข้าฯ อนุญาตให้ทำความดีหน้าที่นี้ได้ทุกๆคนในโลก  ที่ต้องการฉุดช่วยชาวโลกทิพย์ทั้งปวงด้วยคำภาวนาว่า"สมเด็จองค์ปฐม"    วิธีที่ 2.ส่งความดีของตัวท่านเอง ที่มีดวงความดีอยู่แล้ว สร้างความดีมาแล้วตั้งแต่อดีตนับภพนับชาติไม่ถ้วน เฉกเช่นเดียวกันกับข้าพเจ้า  เพียงแต่ท่านอาจจะไม่มีความมั่นจิตมั่นใจก้ได้ว่า ตัวท่านเองก็มีความดีพอๆกัน  กับทุกๆคนในโลก แต่..ถ้าท่านไม่มีความมั่นใจว่าตนเองมีความดีแล้วละก็...ก็จงใช้วิธีนี้นะครับ...        "สมเด็จพ่อองค์ปฐมๆๆๆขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ ชาวโลกทิพย์ที่แวดล้อม เทวดาที่รักษา เจ้ากรรมยานเวรทั้งหลาย ทั้งที่เป็นญาติและมิใช่ญาติ  รับบุญความดีของข้าฯแล้ว  ขอให้ได้เข้าถึงซึ่งแดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาลด้วยเทอญฯ..." ส่งบุญความดีออกไปซ้ำๆกันสัก 3-9 จบต่อสถานที่ที่ไป..           "ส่วนท่านผุ้ใดที่มีความมั่นจิตมั่นใจในความดีที่ได้ทำทุกๆวันอยู่แล้ว  ก้ไม่ต้องทำอะไรมากนะครับ ส่งความดีออกไปได้เลยในทุกสถานที่ที่อยากจะทำ เช่นไปวัด ไปในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น  ก็ตั้งจิตให้มั่นคง  แล้วกำหนดจิตว่า...ขอบุญความดีของข้าฯทั้งหมด จงสำเร็จแก่ชาวโลกทิพย์ที่แวดล้อม จงได้ความดีข้าฯรับโดยฉับพลันเทอญ...ฯตั้งจิตส่งไปสัก 3-9 จบ หรือทำบ่อยๆก็ได้  สำเร็จตามนั้นล้านเปอร์เซนต์"    วิธีที่ 3. กำหนดจิตหรือประกาศออกเสียงว่า..          "นอบน้อมกราบอาราธนาพลังบุญความดี รัศมีกำลังฤทธิ์สิทธิอำนาจเฉีบขาดพลันของพระพุทธเจ้าทั้ง 900,223 พระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย รวมพลังบุญความดีทั้งหมดราดรดลงมาเป้นฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ ห่อหุ้มดวงจิตชาวโลกทิพย์เปลี่ยนแปลงสภาวะเป็นเทพเทวดาเข้าสู่แดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรฉับพลันด้วยเทอญ..ฯ                  ตั้งจิตอธิษฐานหรือสวดประกาศครั้งเดียว หรือหลายครั้งก็ได้                     ***************************************************************************************************************                                         น้ำไม่ติดยึดบนใบบัว ...ฉันใด               ลูกทั้งหลาย จงอย่าติดยึดในสิ่งสมมุติบนโลก...ฉันนั้น                                                   พระดำรัสจาก พระบิดาสวรรค์              การบำบััดรักษา...มนุษย์และสัตว์ที่เจ็บป่วย.... จงตั้งใจสวดภาวนาว่า "สมเด็จองค์ปฐมบรมบิดา พร้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์" สัก 9  จบ           "...นอบน้อมกราบอาราธนาพลังความดีรัสมีกำลังฤทธิ์ สิทธิอำนาจเฉียบขาดฉับพลันของพระพุทธเจ้าทั้ง 900,223 พระองค์พลังความดีของพระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์  รวมเป้นดวงบุญความดีใสใหญ่ดตมโหใารมหาศาลดุจแสงแห่งพระาทิตย์เจิดจ้าราดรดลงมาชำรำล้างสิ่งที่ไม่น่ารักทั้งหลาย ที่มีอยู่ในรูปร่างกายของข้าพเจ้า..(ถ้าทำให้คนอื่นให้ออกขื่อ.............)ตั้งแต่ปลาบผมจรดปลายเท้า ขอให้สิ่งที่ไม่น่ารักทั้งหลาย จงสลายออกไปจากรูปร่างกายของข้าพเจ้าโดยฉับพลันทันใดด้วยเทอญ...ฯ"        จงตั้งจิตทำเช่นนี้ทุกวัน  วันละหลายๆรอบก้ได้  ขึ้นอยู่กับว่าป่วยมากป่วยน้อย  จงทำไปจนเต็มกำลังใจ..รวมทั้งจงส่งบุญความดีให้ชาวโลกทิพย์เจ้ากรรมนายเวร ตั้งจิตขอขมาต่อนายเวรทั้งหลายด้วย  ถ้าผู้ป่วยสามารถตั้งจิตทำเองได้ก็ยิ่งดี จงปลดปล่อยจิตให้ว่าง จงทำด้วยความเคารพ ความศรัทธาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ผู้เป้นต้นกำเนิดแห่งพุทธะทั้งปวง แล้วจึงจะเห็นผล...                                          คำตั้งจิตอธิษฐานช่วยชาติ                                         "...นอบน้อมกราบขออนุโมทนาความดี รัศมีกำลังฤทธิ์ สิทธิอำนาจเฉียบขาดฉับพลันของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ นอบน้อมกราบอนุโมทนาบุญความดีของพระโพธิสัตว์เจ้าที่ทรงบุญบารมีเต็มเปี่ยมแล้วทั้งหลาย ขออำนาจความดีที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ขออำนาจบุญความดีของบรรพกษัตริย์ไทย พร้อมทั้งมหาบุรุษทุกๆพระองค์ รวมดวงบุญความดีที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย...จงมารวมรวมตัวกัน กลั่นเป็นดวงบุญใสใหญ่มโหฬารมหาศาล....เป็นล้านล้านอสงไขยกัลป์เท่า จงเป็นเหตุปัจจัยส่งผลดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด้จพระราชชินี พร้อมพระบรมศานุวงศ์ ที่ทรงศีลทรงธรรมทุกๆพระองค์ จงมีพระวรกายที่มั่นคงแข็งแรงแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ขออำนาจแห่งความดีที่ยิ่งใหญ่แห่งความดีในการรื้อสัตว์ขนสัตว์   ของพระพุทธเจ้าทุกๆ..พระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆ...พระองค์และของพวกข้าพเจ้า...ที่ดำเนินตามรอยบาทพระศาสดา....ที่ล่วงพ้นจากห้วงทะเลทุกข์ได้แล้วเพื่อรักษาศาสนาแก่นธรรมคำสอนอันบริสุทธิ์...ให้ตั้งมั่น..,มั่นคงสืบต่อไป ขออำนาจแห่งสัจจะความดีที่ยิ่งใหญ่นี้  จงส่งผลดลบันดาลให้ผู้บริหารประเทศชาติ จงเป้นผู้ที่มั่นคงในคุณงามความดี มีศีลมีธรรมประจำจิต มีสติและปัญญา ยึดเอาโอวาทพระราชดำริของพระเจ้ายอู่หัวไปประพฤติปฏิบัติตาม  เพื่อความอุดมสมบูรณ์จักบังเกิดแก่...พสกนิกรราษฏรของแผ่นดินไทย ขอความสงบเรียบร้อย รักษ์สามัคคีจงบังเกิดแก่...ประเทศชาติชนชาวไทย  ขอความสงบร่มเย็น..ตั้งมั่น...มั่นคงอุดมสมบูรณ์จงบังเกิด  ขอความยิ่งใหญ่แห่งคำว่า ...สุวรรณภูมิแผ่นดินแห่งทองคำ....สวรรค์ของผู้ทำความดีจงปรากฏ...โดยเร็ววันฉับพลันด้วยเทอญ..."                                                                                             โดยท่าน ช.
ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 02:23:30

ความคิดเห็นที่ 2 (1556006)
อนุโมทนากับคุณตฤณด้วยนะคะ ที่มาพิมเป็นธรรมทานให้คนที่ไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือ ได้มาอ่านในเวปไซต์กัน สาธุ สาธุค่า
ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > วันที่ตอบ 2011-07-05 03:35:57

ความคิดเห็นที่ 3 (1556008)
ขอกราบพระบาทแห่งองค์พระปฐมหรือ พระบรมบิดา ที่มีพระมหาเมตตามาเรียกจิตดั้งเดิมของลูกๆทุกคน กลับคืนสู่บ้านที่แท้จริง อ่านแล้วก็คิดถึง"บ้าน" น้ำตาซึม และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิุคุณของพระองค์เป็นที่สุด แต่ถึงตอนนี้รู้ซึ้งเป็นอย่า่งดีถึงความทุกข์ที่เกิดจากการเวียนว่ายตายเกิด ที่พวกเราเวียนวนมานับ ล้านๆๆๆๆๆๆปี ยิ่งได้มาอ่านที่พระองค์ทรงตรัสว่า พวกเราหลงอยู่ในสังสารวัฏนี้มานานขนาดนั้น ยิ่งรู้สึกแทบกระอัก ว่าตนหลง"โง่"ดักดานอยู่ตั้งนานนับล้านๆๆๆๆๆปี เชียวหรือนี่ โชคดีที่เกิดมา่่ชาิตินี้ได้มาพบทางสว่าง หาทางกลับบ้านได้ถูก โดยมีท่านอ.อุบลเป็นผู้นำส่องทาง จนได้มาพบกับท่านพระบรมบิดา   กราบขอบพระคุณพระบรมบิดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และอ.อุบล เป็นที่สุดค่ะ สาธุ.. อนุโมทนากับคุณตฤนด้วยนะคะ ที่เสียสละเวลานั่งพิมพ์เนื้อหาให้พวกเราทุกๆคนได้อ่านกัน... อนุโมทนากับท่านช. ผู้่ถ่ายทอดสื่อผ่านอักษรอันทรงคุณค่าทั้งหมดนี้ ด้วยค่ะ สาธุ... แหะ แหะ รออ่านต่ออยู่นะคร๊าบ..พี่น้อง จะได้เดินกลับบ้าน ได้ถูกทางซักที   แล้วซักวัน คงจะได้เจอกันที่"บ้าน" นะค๊า..พี่น้องทั้งหลาย...
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-07-05 03:40:50

ความคิดเห็นที่ 4 (1556024)
ขอโมทนาในธรรมทานเพื่อพระนิพพานด้วยนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 06:53:21

ความคิดเห็นที่ 5 (1556028)
ขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่ตฤนที่ให้ธรรมะเป็นธรรมทานกับทุกๆคน ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อไปสู่ดินแดนนิพพานกันถ้วนหน้า สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉัตรนลิน แก้วสม (chatnalin_pan-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 07:17:09

ความคิดเห็นที่ 6 (1556030)
เป็นประโยชน์ไม่น้อยที่มีอีกหลายดวงจิต กำลังรอความใสสว่าง สะอาดยิ่งขึ้นไป น้องตฤณ  ได้นำตัวอักษร อรรถธรรม กระจ่าง ได้ศึกษา อนุโมทนาสาธุ น้องตฤณ บุญรักษา เทวดาคุ้มครอง สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 07:41:37

ความคิดเห็นที่ 7 (1556040)
ขอขอบพระคุณ คุณตฤณ มากนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนวดี รัชตารมย์ (thanavadee_r-at-sepo-dot-go-dot-th) วันที่ตอบ 2011-07-05 08:52:03

ความคิดเห็นที่ 8 (1556044)
ขออนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น นาฏวีณา ธเนศสถิตย์ (nartveena-dot-d-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 09:11:09

ความคิดเห็นที่ 9 (1556046)
ขออนุญาติพิมพ์ไปอ่านนะค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนวดี รัชตารมย์ (thanavadee_r-at-sepo-dot-go-dot-th) วันที่ตอบ 2011-07-05 09:22:51

ความคิดเห็นที่ 10 (1556057)
แหม..ช้าไปนิสส์ โดนพี่สาวท้องโตตัดหน้าเราไปซะนี่ 555 ยังไงก็ขออนุโมทนากับพี่ตฤณด้วยนะคะ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา (pooyingnaya-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 10:30:59

ความคิดเห็นที่ 11 (1556081)
โมทนาบุญด้วยจ๊ะน้องตฤณ
ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:01:50

ความคิดเห็นที่ 12 (1556085)
อนุโมทนาค่ะคุณตฤน   ขออนุญาตนำไปเผยแผ่นะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น นิภา มุกดาม่วง (nu-toon-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:13:51

ความคิดเห็นที่ 13 (1556086)
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:21:21

ความคิดเห็นที่ 14 (1556097)
พี่ตฤณคะ หนูขออนุญาต copy หนังสือเล่นนี้หน่อยนะคะ จะได้เอามาเก็บไว้อ่านแล้วก็พิมพ์แจกญาติธรรมที่สนใจค่ะ  ขอบพระคุณมากค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ (ktkanlayani-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:55:19

ความคิดเห็นที่ 15 (1556098)
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ ขอเป็นส่วนร่วมในธรรมทานนี้ด้วยคนนะคะ ขอนำลงมาเป็นไฟล์แสกน เผื่อว่าท่านได้จะได้ปริ๊นเก็บเพื่อนำไปอ่านได้ค่ะ สาธุ หน้า ๑
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:56:45

ความคิดเห็นที่ 16 (1556100)
แผ่น ๒
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:57:40

ความคิดเห็นที่ 17 (1556101)
แผ่นที่ ๓
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:58:00

ความคิดเห็นที่ 18 (1556102)
แผ่นที่๔
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:58:50

ความคิดเห็นที่ 19 (1556104)
แผ่นที่ ๕
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:59:11

ความคิดเห็นที่ 20 (1556105)
แผ่นที่ ๖
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:59:35

ความคิดเห็นที่ 21 (1556107)
แผ่นที่ ๗
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 11:59:55

ความคิดเห็นที่ 22 (1556108)
แผ่นที่ ๘
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:00:17

ความคิดเห็นที่ 23 (1556109)
แผ่นที่ ๙
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:00:47

ความคิดเห็นที่ 24 (1556110)
แผ่นที่ ๑๐
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:01:46

ความคิดเห็นที่ 25 (1556111)
แผ่นที่ ๑๑
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:02:12

ความคิดเห็นที่ 26 (1556112)
แผ่นที่ ๑๒
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:03:00

ความคิดเห็นที่ 27 (1556113)
แผ่นที่ ๑๓
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:03:27

ความคิดเห็นที่ 28 (1556114)
แผ่นที่ ๑๔
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:03:50

ความคิดเห็นที่ 29 (1556115)
แผ่นที่ ๑๕
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:04:14

ความคิดเห็นที่ 30 (1556116)
แผ่นที่ ๑๖
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:04:38

ความคิดเห็นที่ 31 (1556117)
น้องก้อยจ้า ตอนแรกเห็นน้องก้อยเขียนว่าจะมีพิมพ์พรุ่งนี้แต่ก็ยังไม่เห็นพิมพ์ พี่คิดเอาเองว่าน้องก้อยคนเหนื่อย ไม่มีเวลาว่างพิมพ์แน่ๆ แล้วก็คิดว่า ตัวพี่เองอ่านแล้วมีความสุข มีความหวังมากๆ จึงอยากให้คนอื่นได้อ่านบ้างจะได้มีความสุขเหมือนที่พี่เป็น จึงได้พยายามนั่งจิ้มแป้นพิมพ์เอา กว่าจะเสร็จก็เจ็บนิ้วเหมือนกัน แต่ด้วยความพิมพ์ไม่เก่ง ปรับตัวอักษรไม่ค่อยเป็น จึงออกมาอย่างที่เห็นนะจ๊ะ ต้องขออภัยทุกคนด้วยนะค่ะ ที่พิมพ์ออกมาไม่ค่อยน่าอ่านเท่าไหร่ อนุโมทนาบุญกับน้องไอซ์ด้วยจ้า ที่สแกนออกมาให้เพื่อนๆได้อ่าน ได้เห็นของจริงกัน ดูน่าอ่านกว่าที่พี่พิมพ์มากเลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:04:38

ความคิดเห็นที่ 32 (1556119)
แผ่นที่๑๗
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:05:04

ความคิดเห็นที่ 33 (1556120)
แผ่นที่ ๑๘
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 12:05:35

ความคิดเห็นที่ 34 (1556136)
ขออนุโมทนาบุญค่ะ กับ ทุก ๆ ท่าน
ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 13:16:59

ความคิดเห็นที่ 35 (1556139)
อนุโมทนากับมาหาบุญครั้งนี้ค่ะ สาธุ  ขอให้ทุกๆท่านที่นำมาเผยแผ่ได้กลับบ้านนิพพานในชาตินี้ค่า สาธุ www.dantip.com/
ผู้แสดงความคิดเห็น นิภา มุกดาม่วง (nu-toon-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 13:32:25

ความคิดเห็นที่ 36 (1556152)
ขออนุญาตcopy ไปอ่านและนำไปบอกต่อนะคะ  ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานนี้ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาภรณ์ ปุญโญกุล (rutpun18-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 14:14:13

ความคิดเห็นที่ 37 (1556164)
อนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร (an-dot-toppost-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 16:02:21

ความคิดเห็นที่ 38 (1556182)
อาริยาขอกราบขอบพระคุณท่าน อาจารย์อุบลที่มีเมตตาชี้เเนะให้ พวกเราได้เข้าถึงดวงตาเเห่งธรรมในชาตินี้ เเละ ขออนุโมทนาบุญกับผู้ใจบุญที่ถวายหนังสือ นิพพานชาตินึ้กันเถอะ เเละ คุณตฤณ ที่มีความเมตตาอย่างสูงในการพิมพ์เป็นธรรมทาน ให้พวกเราได้เข้าใจเเละเกิดดวงตาเเห่งธรรม เเละ คุณไอซ์ ค่ะ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 18:03:07

ความคิดเห็นที่ 39 (1556186)
อ่านไป สอง สาม บรรทัด แล้วอยากร้องไห้ค่ะ ความรู้สึกคือ ทำกรรมชั่วมาเยอะเหลือเกิน ขอบคุณธรรมทานชั้นดี ที่นำมาให้อ่านด้วยนะคะ **อยากจะขออนุญาต คุณตฤณ นาคทุ่งเตา  คุณวราภรณ์ หล่าบรรเทา นำเนื้อหาในเว็ปบ้านสวนไปปริ้นมาอ่านก่อนนอนได้มั้ยคะ เพราะว่าหนูเรียนมหาลัยปีสาม อยากแจกเป็นเล่มธรรมทาน แต่ทรัพย์ยังไม่อำนวยเท่าไหร่ค่ะ ^^ ขอบคุณมากๆค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ธีมาพร จันทราวงศ์ (happylife_new-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 18:18:59

ความคิดเห็นที่ 40 (1556190)
ดิฉัน ศรีมณี อรัญศักดิ์ชัย ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มีความปราถนาดีกับเพื่อนๆท่านอื่นๆ โดยพยายามถ่ายทอดเนื้อหาของหนังสือนิพพานชาตินี้กันเถอะ เป็นธรรมทาน ขอให้ทุกๆท่านจงมีดวงตาเห็นธรรมและเข้าสู้พระนิพพานในชาตินี้ด้วนกันทุกท่านเทอญ ขออนุโมทนาค่ะ ศรีมณี อรัญศักดิ์ชัย
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีมณี อรัญศักดิ์ชัย (s-dot-arunsakchai-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 18:31:00

ความคิดเห็นที่ 41 (1556195)
ขออนุโมทนาบุญ กับ อจ เพลิน สายสนั่น ผู้ถวายหนังสือนิพพานชาตินี้กันเถอะ  เเจกเป็นธรรมทาน  เเละคุณตฤณ คุณไอซ์ เเละ ทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 18:54:26

ความคิดเห็นที่ 42 (1556214)
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์มงคลอย่างยิ่งนะคะที่แจกหนังสือนี้เป็นธรรมทาน และก็ขอโมทนากับอาจารย์เพลินตาที่ได้มอบหนังสือนี้แด่ท่านอาจารย์อุบลค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับคุณตฤณ และคุณวราภรณ์ หล่าบรรเทาด้วยนะคะที่ได้แจกธรรมทานที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ค่ะ  หนูขออนุญาติคัดลอก เอาไปอ่านและพิมพ์แจกเผยแพร่ด้วยนะคะ                                               ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ                                                    สาธุ   สาธุ       สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชนาฎ มีประกอบ (oilna007-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 20:43:42

ความคิดเห็นที่ 43 (1556245)
อนุโมทนากับคุณตฤณและคุณ วราภรณ์ด้วยนะคะ และ ขออนุญาต พิมพ์ไว้อ่าน และแจกผู้ที่สนใจนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น สำราญ เลสกิเนน (samrantu-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 22:02:37

ความคิดเห็นที่ 44 (1556247)
ขออนุโมทนาบุญกับตฤน และน้องไอซ์ในธรรมทานนี้ด้วยค่ะ พี่อ่านแล้วก็คิดถึงบ้านเก่าที่จากมา ไม่รู้เลยว่ามัวหลงบ้านใหม่ หลงรูป รส กลิ่น เสียง หลงอัตตา มัวเมาในกิเลส จะพยายามหาทางกลับบ้านเดิมให้ได้ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ (fareastinn-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 22:13:25

ความคิดเห็นที่ 45 (1556251)
ขออนุโมทนา กับพี่ไอซ์ พี่ตฤณ และ ทุกๆท่านด้วยค่ะ ที่มีส่วนร่วม และความปรารถนาดี ทุกความคิดเห็น สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 22:26:42

ความคิดเห็นที่ 46 (1556252)
ขออนุโมทนาบุญกับน้องตฤณ น้องไอซ์   และขอนุโมทนาบุญกับน้องธีมาพรที่มีความตั้งใจแจกเป็นธรรมทานด้วยค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย (pan_cnp-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 22:30:08

ความคิดเห็นที่ 47 (1556265)
ขออนุโมทนาบุญ          กับทุกๆท่านค่ะ ที่ได้สร้างบุญธรรมทานในครั้งนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 22:52:55

ความคิดเห็นที่ 48 (1556277)
Anumothana with everyone ka Satu satu satu
ผู้แสดงความคิดเห็น Nonthaporn Steinhaus (alittlethai-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-05 23:39:16

ความคิดเห็นที่ 49 (1556285)
โมทนาบุญกับทุกท่าน ในความพยายามให้คนอื่นพ้นทุกข์เช่นกันครับผม
ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-06 00:25:35

ความคิดเห็นที่ 50 (1556309)
อนุโมทนาบุญกับคุณไอซ์ด้วยค่ะ สาธุ.. เพิ่งจะรู้ว่าที่คุณตฤนกรุณาพิมพ์มาให้อ่านตั้งแต่เมื่อวานนั้น เนื้อหาครบถ้วนแล้ว.. แหะ แหะ ชนิดานึกว่ามีต่ออีก.... ขอบคุณ คุณแม่นักบุญอย่างคุณตฤนอีกครั้งนะค๊า..   ส่วนน้องก้อย แค่คิดจะพิมพ์ก็ได้รับกุศลไปเต็มๆแล้วล่ะจ่ะ เพราะพี่ก็ซึ้งในน้ำใจของคุณน้องไปแล้วเต็มๆเหมือนกัลล์..
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-07-06 06:14:39

ความคิดเห็นที่ 51 (1556331)
อนุโมทนาบุญกับพี่ตฤณด้วยนะคะ ที่พี่พิมพ์เนื้อหาได้ครบถ้วนกุศลแรงจริงๆค่ะ สำหรับไอซ์แค่เด็กขี้เกียจพิมพ์คนหนึ่ง เลยใช้วิธีการสแกนเอามาเผยแพร่เผื่อว่าท่านใด้ที่อยากจะได้และได้ขออนุญาตท่านอ.อุบลแล้วจะได้ปริ๊นไปเก็บไว้อ่านเองหรือเผยแพร่ต่อเท่านั้นเองคะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-06 09:18:15

ความคิดเห็นที่ 52 (1556360)
ขออนุญาติสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวน ท่านท้าวเวสสุวรรณ และอ.อุบล  copy ไปไว้พิมพ์แจกเป็นธรรมทานนะคะ.. และขออนุโมทนาสาธุ กับ กุศลยิ่งใหญ่ของทั้ง ตฤณ และ น้องไอซ์นะคะ..สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ สุขวัจนี (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-06 12:42:58

ความคิดเห็นที่ 53 (1556364)
ขออนุโมทนากับคุณตฤณ คุณไอซ์ และทุกท่าน ด้วยครับ สำหรับธรรมทานในครั้งนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-06 12:59:13

ความคิดเห็นที่ 54 (1556370)
ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ให้ธรรมทาน
ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ วันที่ตอบ 2011-07-06 13:39:40

ความคิดเห็นที่ 55 (1556445)
ขออนุโมทนา กับคุณตฤณ คุณไอซ์ และทุก ๆ ท่านด้วยคะ สาธุ หวังว่าพวกเราทุกคนจะได้กลับบ้านนิรันดร์ กันทุกคนนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-06 19:56:39

ความคิดเห็นที่ 56 (1556512)
นมัสการคุณพระรัตนตรัย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกระองค์ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ท่านอาจารย์มงคล ท่านอาจารย์อุบล ----------------------------------------------------------------------------------------- ผมขออนุโมทนากับคุณตฤณและคุณ วราภรณ์ และ ขออนุญาต พิมพ์ไว้อ่าน และแจกผู้ที่สนใจครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) วันที่ตอบ 2011-07-07 01:02:41

ความคิดเห็นที่ 57 (1556524)
ขออนุโมทนากับคุณไอซ์ด้วยค่ะ ดีใจจริงๆไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสได้อ่านเลย ผู้ให้สิ่งประเสริฐย่อมได้รับสิ่งประเสริฐค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > วันที่ตอบ 2011-07-07 03:48:39

ความคิดเห็นที่ 58 (1556665)
ขออนุโมทนากับ คุณตฤณ และคุณไอซ์         ในธรรมทานครั้งนี้ค่ะ             รัตนาวดี ฟักโต
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉัตรชัย ฟักโต (hs2hxh-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-07 16:23:33

ความคิดเห็นที่ 59 (1556700)
ขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่สร้างธรรมทานในครั้งนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-07 20:16:53

ความคิดเห็นที่ 60 (1556737)
เอามาฝากครับ https://www.facebook.com/video/video.php?v=140970209296726
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-07 23:00:58

ความคิดเห็นที่ 61 (1557098)
ขออนุญาตท่านสมเด็จองค์ปฐม ท่านช.อ.อุบล คุณตฤนและคุณไอซ์ ก็อปข้อความจากหนังสือนี้ ไปพิมพ์มาอ่านและส่งไฟล์ต่อให้เพื่อนๆ เพื่อเป็นธรรมทานต่อไป อนุโมทนาอีกครั้งค่ะ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-07-10 05:45:07

ความคิดเห็นที่ 62 (1557104)
โมทนาสาธุกับธรรมทานดีดีครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-10 07:22:08

ความคิดเห็นที่ 63 (1557114)
โมทนาสาธุกับธรรมทานของพี่ๆ   ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน โลกนี้สูญสลายไม่ยั่งยืน   สุดท้ายทุกคนก็ตระหนักถึงโทษ การมาเกิดและตายในโลกทั้งสาม ตัดสินใจเข้านิพพานกันในชาตินี้ โมทนากับพี่ๆ นะครับ นี่แหละครับที่บอกว่าธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง เพราะช่วยให้หลายๆคน ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาทำความดี และอานิสงส์สูงสุด ก็เข้านิพพานกันไป เป็นเป้าหมายสูงสุดของมนุษยชาติ แม้รู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทุกคนต่างมุ่งหวังความดีความสุข และสุดท้ายก็เข้านิพพานทุกคน ขอโมทนาสาธุกับดวงปัญญาของทุกท่านด้วยนะครับ โมทนากับการตั้งใจดีของทุกท่าน กับการเลือกที่จะเข้าสู่นิพพาน สาธุ  สาธุ  สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-10 08:25:35

ความคิดเห็นที่ 64 (1557212)
ขออนุญาติปริ้นท์ และเผยแพร่ด้วยนะคะ ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญอีกครั้งคะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-10 21:23:14

ความคิดเห็นที่ 65 (1557349)
ขออนุโมทนาบุญกับคุณไอซ์ ค่ะ ขออนุญาตปริ้นไว้อ่าน ด้วยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-11 13:43:28

ความคิดเห็นที่ 66 (1557435)
ขออนุโมทนา กับพี่ตฤณ และทุกท่าน ที่จะนำไปเผยแพร่ต่อด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-11 22:02:23

ความคิดเห็นที่ 67 (1557817)
ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานคุณตฤณ คุณไอซ์ ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุญาตCopy ด้วยนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น นฤชล การุณจิตต์ (karunjitt-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-13 15:54:41

ความคิดเห็นที่ 68 (1557919)
ขออนุญาติปริ้นไว้อ่านนะคะโมทนากับตฤณและน้องไอซ์ มีประโยชน์มากอ่านแล้วคะเรามัวแต่หลงโลกสมมุติยังไม่สายใช่ไหมถ้าทำตอนนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว วันที่ตอบ 2011-07-14 08:12:17

ความคิดเห็นที่ 69 (1557996)
อนุโมทนาบุญกับทุกธรรมทานค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-14 17:12:34

ความคิดเห็นที่ 70 (1558077)
ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิต ของนู๋ตฤน นู๋ไอซ์ และ ญาติธรรมทุกๆท่าน ที่มีความปราถนาดีซึ่งกันและกัน แบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมอบสิ่งดีๆ ให้กันและกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-14 23:50:42

ความคิดเห็นที่ 71 (1558168)
ขออนุญาติ คัดลอก แล้วปริ้นท์ และเผยแพร่ด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกท่าน และขออนุโมทนาธรรมทานอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยค่ะ   สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (prapasiri_mim-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-15 19:28:56

ความคิดเห็นที่ 72 (1558326)
ขออนุโมทนาในธรรมทาน ของทุกๆท่านค่ะ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฐิติมา พฤกษ์อำนวย (pranaijai-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-16 15:48:07

ความคิดเห็นที่ 73 (1565532)
ขออนุโมทนาในธรรมทาน ค่ะคุณตฤณ - คุณวราภรณ์ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ขออนุญาต Print นำไปแจกเป็น ธรรมทาน
ผู้แสดงความคิดเห็น ศุภรัฐ ปานธุเดช วันที่ตอบ 2011-08-23 17:23:02

ความคิดเห็นที่ 74 (1568142)
ขออนุโมทนาบุญมหาธรรมทานกับคุณตฤน คุณวราภรณ์ และทุกท่านด้วยคะ  ขออนุญาตคัดลอกไปอ่านและเผยแพร่ต่อนะคะ  ขอบพระคุณมากคะ...มยุรีพร
ผู้แสดงความคิดเห็น นางมยุรีพร ภาชนะวรรณ (ma_parchanawan-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-09-07 17:46:00

ความคิดเห็นที่ 75 (1568174)
ความเห็นที่ 71 (1558168) ประภาสิริ ถาวร ขออนุญาติ คัดลอก แล้วปริ้นท์ และเผยแพร่ด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกท่าน และขออนุโมทนาธรรมทานอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยค่ะ   สาธุ สาธุ สาธุ ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (prapasiri_mim-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-07-15 19:28:56   บ้านสวนพีระมิด มีหนังสือ เล่มนี้แจกค่า ไม่ต้องพริ้นท์ ให้เหนื่อยหรอกจ๊า
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) วันที่ตอบ 2011-09-07 21:04:03

[1]