ReadyPlanet.com


ระบำชาวเกาะ


 

สวัสดีค่ะ
เบญเป็นคนหนึ่งซึ่งติดตามเวปบ้านสวนมาตั้งแต่เดือนเมษายนปี54
ติดตามอ่านมาเรื่อยๆแต่ไม่ได้สมัครสมาชิก
ในขณะนั้นเบญคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่มีทางสมัครสมาชิก
เพราะสมัครไม่เป็น เวลาท่องเวปต่างๆก็ไม่เคยใช้ล็อกอิน
ไม่เคยคิดที่จะไปบ้านสวน ไม่เคยดูรายการคุยไปแจกไป
และไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีเขาอยู่บนศีรษะ
 
แต่เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา
เบญมองเห็นเขาที่งอกออกมาจากศีรษะของตัวเองขณะนั่งอยู่หน้าคอมพ์
เขาคู่นั้นแหลมเฟี้ยว เป็นเงาวับ
 
 
อันที่จริงเรื่องของเขานี้
เบญเข้าใจว่ามันงอกออกมาตั้งแต่เบญเกิดแล้วด้วยซ้ำ
แต่ตัวเองไม่เคยมองเห็นเลย
 
ทำไมจึงเห็นเวลานี้ ทั้งที่ไม่มีมโนยิทธิ
อันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ในเมื่อเห็นแล้วเกิดอะไรขึ้น
เกิดความปิติค่ะ
 
ดีใจมาก
เพราะท่านอาจารย์แม่อุบล
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ที่ทำให้เบญมองเห็นเขาของตัวเองได้อย่างชัดเจน
กราบขอบพระคุณในความเมตตาค่ะ
ถ้าเบญไม่มองเห็นด้วยตัวเองในคราวนี้ โอกาสหน้าคงไม่มี
และที่สำคัญ ถึงแม้คนอื่นจะมองเห็น และได้เมตตาบอกเบญ
แต่ด้วยความเขลาเบญคงไม่เชื่อหรอกค่ะ
เพราะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
 
 
 
อันที่จริงเบญเป็นแค่ชาวเกาะธรรมดา
เกาะเวปบ้านสวน เกาะมันทุกวัน เป็นจิ้งจก
แรกๆก็คอยดูว่าจะเกิดภัยพิบัติวันไหน
พอไม่มีข่าวอะไรก็หาบทความอ่าน อ่านในกระทู้บ้าง
อ่านไปเรื่อยๆโดยเฉพาะกระดานสนทนา
เจอกระทู้ของอาจารย์แม่ ใช้ตัวหนังสือตัวใหญ่ อ่านง่าย ก็เริ่มอ่าน
ท่านสอนอะไร ก็จำไว้ เสร็จเอาเก็บไปคิด
ทีนี้กระทู้มีมากมาย เบญก็ตามอ่านทุกหน้า
จนเริ่มรู้สึกว่าอาจารย์แม่ท่านสอนง่ายดีจัง
ทำไมเรารู้เรื่องนะ ทั้งที่เมื่อก่อนนี้
ก็เรื่องเดียวกันนี่แหละ แต่ใครๆสอนทำไมเราไม่จำ
หรือพูดง่ายๆ เราไม่คิดที่จะจำเลยด้วยซ้ำ
เวลาอ่านหนังสือธรรมะ ส่วนมากเบญจะเลือกอ่านเฉพาะเล่มบางๆ
ชอบให้มีเรื่องเล่าโลดโผน มหัศจรรย์ มีเทวดา มีเทพ
หรือเรื่องเล่าธรรมดาๆก็ได้ แต่ขอให้มีการผูกเป็นเรื่องเป็นราวสนุกๆ
ส่วนคำสอนนั้นอ่านแล้วรู้เรื่อง แต่ไม่เคยปฏิบัติตาม
 
นานพอสมควร สิ่งที่อาจารย์แม่ได้สอน เบญค่อยๆซึมซับทีละน้อย
แต่ด้วยอะไรไม่ทราบเบญมีข้อสงสัยตลอดเวลา
คือในเรื่องธรรมะนี่แหละค่ะ นั่นนิดนี่หน่อย
เหมือนคนเพิ่งเรียนศัพท์ใหม่
เช่นวันนี้ท่านพูดถึงพระพุทธองค์และพระปัจเจกพุทธเจ้า
เบญก็สงสัยอีก พระปัจเจกเป็นยังไง สงสัยเป็นอย่างนั้นอย่างนี้มั้ง
แต่เชื่อไหมค่ะ ทุกครั้งที่เบญมีข้อสงสัย
ไม่เกิน2-3วันเบญจะได้คำตอบทันทีค่ะ
ได้จากในเวปนี้นี่แหละค่ะไม่ต้องถามใคร
คือเบญสงสัยทุกวัน คำตอบก็มีให้ตลอดเวลา
จากที่ไม่รู้อะไรเลย อาศัยอ่านเยอะๆ เริ่มเขาหดขึ้นมานิดหน่อย
พูดให้เห็นภาพคือ
ทุกครั้งที่ได้อ่านธรรมะของท่านอาจารย์แม่แล้วเราเข้าใจ
และคิดที่จะนำไปปฏิบัติตาม เปรียบดังท่านเอามือมาลูบเขาเรา
ทุกครั้งที่ท่านสัมผัส เขาของเราก็จะหดลงทีละนิด
แต่ทว่าเมื่อใดก็ตามที่เราเอาใจออกห่างธรรมะ
เริ่มละเมิดคำสอนของท่าน
เขาที่หดลงไปแล้วก็จะงอกขึ้นมาอีก
อันนี้เป็นนิสัยอันเลวร้ายของเบญค่ะ
 
และด้วยความสงสัยนี่เองที่เป็นต้นเหตุของเรื่องระบำชาวเกาะเรื่องนี้
 
เบญนั่งอ่านเวปอยู่ที่บ้าน
และทราบว่าเสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นคนดูแลเวปอยู่
แต่ด้วยความอวดดีในตอนนั้น ไม่ได้สมัครสมาชิก
และจิตในตอนนั้นยังมีความชั่วร้ายเต็มไปหมด
(เรื่องความชั่วร้ายนี้อ่านได้ในกระทู้ชื่อข้าพเจ้าบอกให้มันไปลงนรกคนเดียวค่ะ)
คิดเอาเองว่าพระเนตรพระกรรณจะถึงเรามั้ย
ด้วยความที่เบญอ่านกระทู้บ่อย
ก็ได้รู้ว่ามีคนเคยถูกท่านลงโทษมากมาย
ก็คิดไปว่านั่งอ่านกระทู้อยู่นี่ท่านจะเห็นหรือไม่เห็น
 
ในตอนนั้นไม่เคยคิดเลยว่าจะเขียนอะไรเป็นธรรมทาน
คำว่าบุญในตอนนั้นแทบจะไม่รู้จัก ไม่อยากไปบ้านสวน
ไม่อยากดูรายการคุยไปแจกไป พีระมิดคืออะไรไม่รู้จัก
อยู่บ้านชอบเขียนนิยาย วันๆเอาแต่นั่งนึก
เดี๋ยวฉากต่อไปจะเป็นยังไง เป็นมันทุกตัวตามปกติของคนเขียนนิยาย
เป็นพระเอก นางเอก พ่อพระเอก คนใช้ วายร้ายสายสมร
ต้องเป็นให้ได้หมด เขียนทีนึงหลายเรื่องแต่ไม่ได้ตีพิมพ์
แก้แล้วแก้อีก แก้อยู่นั่นแล้ว
กลางคืนดูละคร เสารอาทิตย์ดูหนังเกาหลี
วีซีดีเป็นตั้งๆ ดูจนเปื่อย
 
ชอบเขียนแต่ไม่คิดจะทำเป็นธรรมทาน
โง่นัก เลยโดนจัดหนักเต็มๆ
 


ผู้ตั้งกระทู้ เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-09-15 17:09:16


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1571133)

โมทนาค่ะ คุณเบญ  พี่หมวยคิดว่า

มีเพื่อนแล้วละ แต่ตัวเองจะได้ยิน

เป็นเสียงด่าว่าโง่บ้าง ง่าวบ้าง บางที

ฝันว่าโดนตีหัว  พอตื่นมารู้สึกเจ็บ

พอเอามือลูบคลำที่หัว เจอส่วนที่

เจ็บมากๆ   บางทีฝันว่าโดนตีขา

เช้ามาเดินเจ็บขาด้วย  ส่วนการ

สมัครสมาชิก สมัครเป็นครั้งที่ ๒

ถึงจะผ่าน  ขอเป็นกำลังใจซึ่งกัน

และกันนะค่ะ  ขอให้โชคดีค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-15 22:20:41


ความคิดเห็นที่ 2 (1571155)

โมทนาบุญ กับคุณเบญด้วยค่ะ

มีความรู้สึกเดียวกับคุณเบญเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น (ratanapoolchuen-at-yahoo-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-15 23:05:43


ความคิดเห็นที่ 3 (1571209)

ขออนุโมทนาบุญกับพี่เบญด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

น้องทรายก็คนนึงแหละค่ะ

ที่ชอบระบำชาวเกาะค่ะพี่เบญ

เพราะยังไม่มีบุญได้ไปบ้านสวนพีระมิดเลยค่ะ

ก็เลยได้แต่เกาะติดอยู่หน้าเวปฯ

แต่ก็มีบางช่วงห่างหายไปจากหน้าเวปฯ

เพราะทราบดีว่าจิตของตัวเองไม่บริสุทธิ์

เลยไม่อยากให้เวปฯบ้านสวนฯ

ซึ่งเสด็จตาท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้ดูแลอยู่

จะต้องมัวหมองไปด้วยค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักญาติธรรมเพิ่มขึ้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-16 07:24:36


ความคิดเห็นที่ 4 (1571235)

โมทนาบุญค่ะพี่ตุ๊กก็เกาะหน้าเวปบ้านสวนพีระมิดเหมือนกันคอมมีปัญหาหลายเมื่อพอใช้ได้อยู่เช้านี้ก็รีบทำงานบ้านแล้วมาอ่านกระทู้น้ำท้วมแถวบ้านไปไหนลำบากจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-16 09:35:19


ความคิดเห็นที่ 5 (1571275)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-16 11:31:02


ความคิดเห็นที่ 6 (1571606)

 

การจัดหนักนี้เบญคิดเอาเองว่ากำลังถูกลงโทษ 
เพราะตลอดเวลาที่กำลังรุ่มร้อนอยู่นั้น
จิตคิดถึงเสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณตลอดเวลา
ถ้าหากว่าเบญไม่ได้ถูกลงโทษต้องขอกราบประทานอภัยเสด็จตาด้วยเจ้าค่ะ 
แต่ลูกคิดว่า 
การที่ลูกคิดว่าลูกกำลังถูกทำโทษในขณะที่ลูกกลับลำเบนหัวเรือในตอนนี้
ยังดีกว่าลูกไม่คิดและไม่รู้อะไรเลยตอนที่ท่านกำลังทำโทษลูกอยู่เจ้าค่ะ
(ขอฝากญาติธรรมด้วยจ้ะ)
 
เมื่อเบญอ่านกระทู้จนได้ความรู้มากมาย
เป้าหมายของเบญคือนิพพาน
(จะชาตินี้ชาติไหน เบญขอสักหนึ่งชาติ หากบุญมากพอ)
เมื่อมารรู้ว่าเบญตั้งเป้าหมายเอาไว้เช่นนั้น งานก็เข้า
แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร
จิตคิดไม่ดีอยู่ตลอดเวลา ปรามาสอาจารย์แม่ ปรามาสพระรัตนตรัย
(ขอกราบประทานอภัย ขอขมากรรมด้วยค่ะ)
ซึ่งแต่ก่อนไม่เป็นอย่างนั้น จิตนี้ไวมาก ยิ่งไล่ยิ่งเข้าหา
จนอ่อนใจ เมื่อเป็นเช่นนั้น
จึงไม่คิดที่จะไปบ้านสวน ติดตรงที่มโนกรรม
กลัวจะแวบคิดไม่ดีเข้าให้
ในเวลานั้น ไม่ทราบว่าพี่ๆ น้องๆชาวบ้านสวนที่ตัดสินใจตีตั๋วไปนิพพานแล้ว
ล้วนเจอกันทุกคน ด้วยความเขลาคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียว
 
พอมาวันหนึ่งอาจารย์สอนเรื่องอุเบกขา
จิตเบญสว่างวาบขึ้นมา(อ่านได้ในกระทู้อุเบกขาตาสว่างนะคะ)
อ้อ! ที่เราถูกสอนมาตลอดชีวิตนี่เราตีความผิดหมดเลยหรือ 
เมื่อเข้าใจในตรงนั้นจึงต่อยอดมาที่เรื่องชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
ทั้งหมดนี้เราวางอุเบกขาแบบผิดๆตลอดมา
อย่างในโฆษณาอะไรสักอย่างที่มีคนตีกันแทบตาย 
และมีคนส่วนหนึ่งที่เก็บกระเป๋าเดินหนีไป
ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง
ทั้งๆ ที่ แผ่นดินที่เหยียบก็คือที่ที่ให้กำเนิดตัวเองขึ้นมา
เบญดูแล้วเฉยๆ รู้ว่าตัวเองคือคนเหล่านั้น
ก็คิดว่าถูกต้องแล้ว นั่นคือไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
วางตัวเป็นกลาง (เป็นกลางรึว่าเห็นแก่ตัวไม่รู้...) 
 
และเมื่ออาจารย์แม่จะกอบกู้ทั้ง3สถาบันในเวลานี้
เบญจึงเอาอุเบกขาวาง อยากช่วยอาจารย์แม่
ขอกราบอภัยที่ลูกไม่แตกฉาน 
ต่อไปนี้ลูกจะช่วยอาจารย์แม่ ลูกเห็นดีแล้วในสิ่งที่อาจารย์แม่ทำ
อะไรที่ลูกยังไม่ได้ทำตามคำสั่งสอนของท่านลูกจะขอทำ
เวลาที่เหลืออยู่นี้ไม่ว่าลูกจะได้ไปอยู่ที่ไหน ลูกขอเอาบุญติดไปด้วย
บุญที่ได้บำเพ็ญร่วมกับญาติธรรม อาจารย์แม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ในจักรวาล
 
เมื่อคิดได้ว่าขอเลือกข้างพระพุทธองค์เฉกเช่นอาจารย์แม่แล้ว
เบญจึงเริ่มสมัครเข้าเวปบ้านสวน
หลังจากเป็นชาวเกาะอย่างเดียวมายาวนาน
คอยแต่ทำบุญปัจจัยตามกำลังทรัพย์และโมทนาบุญอยู่หน้าจอ
โดยอธิษฐานต่อเสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณ
ถ้าลูกบุญพอไม่มีอะไรขัดข้องก็ขอให้สมัครได้ 
หรือถ้าลูกต้องแก้ไขอะไรอีกก็ขอให้สมัครไม่ได้
เครื่องที่บ้านก็ช้าความจำต่ำ โหลดช้า เบญก็นั่งลุ้นไปด้วยใจฮึกเหิม 
ลูกกลับลำแล้วลูกขอทำตามที่อาจารย์แม่ได้สอนมา
เวลาที่เหลืออยู่นี้ลูกขอสร้างบุญไว้สำหรับเป็นเสบียง 
อาจารย์แม่จะกอบกู้3สถาบันอย่างไรลูกขอมีส่วนร่วม
 
ปรากฏว่าเสด็จตาท่านทรงเมตตา เบญสมัครได้
สมัครวันเสาร์ ตั้งใจว่าเดี๋ยววันอาทิตย์จะเข้าไปแสดงความคิดเห็น
ว่าแล้วก็ปิดคอมพ์พรึ่บ เรียกว่าสมัครเสร็จเปิดแน่บ
 
พอมาวันอาทิตย์ หมายมั่นปั้นมือ
เดี๋ยววันนี้ล่ะจะเข้าไปดูซิว่าเวลาแสดงความเห็นต้องทำอย่างไร
(ทำไม่เป็นเลยจริงๆ)
และจะเขียนสารภาพบาปอะไรดีหนอ 
จะทำดีแล้วจิตใจฮึกเหิมมาก ไม่กลัวมารอีกแล้ว
 
ปรากฏว่า...
เข้าเวปบ้านสวนไม่ได้
แต่เวปอื่นปกติ
 
 
เอาแล้วสิ..งานเข้า
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-16 20:25:16


ความคิดเห็นที่ 7 (1571649)

 ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จรัญญะฌา นิธิสัมพันธ์ (ohohooi-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-16 21:11:34


ความคิดเห็นที่ 8 (1572808)

ผ่านไป1วัน  ยังเข้าไม่ได้

พยายามเป็นครึ่งค่อนวัน

เรื่องคอมพ์ก็ไม่เป็นอะไรเลย

พิมพ์ได้ เล่นเน็ตเปิดอ่านอย่างเดียว

ตอนแรกคิดว่าในวันจันทร์

จะไปโอนเงินค่าพีระมิดจำลอง

เบอร์บัญชี เบอร์ฝากข้อความก็อยู่ในเวป

พอเข้าไม่ได้ก็คว้าง

คิดไปต่างๆนานา

เขียนร่างคำสารภาพบาปเอาไว้มากมาย

แต่ก็ปลอบใจตัวเอง

คิดว่าอาจจะเป็นที่เวปปรับปรุงอะไรหรือเปล่า

ก็เวปอื่นเราเข้าได้นี่นา

พอวันจันทร์รีบแจ้นเข้าเวปแต่เช้า

ก็เข้าไม่ได้อีก เบอร์บ้านสวนก็ไม่มี

วันที่สองนี่เกิดอาการลงแดงเห็นชัดเจน

คือไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร

รู้สึกว่าเหมือนคนขาดที่พึ่ง

ใจคิดตลอดว่าถูกลงโทษแน่แล้ว

คิดว่าเสด็จตาท่านเคยตรัสว่าจะไม่ให้เวปล่ม

อย่างนั้นถ้าเวปไม่ล่มแล้วเราทำไมเข้าไม่ได้

ในตอนนั้น

อารมณ์เหมือนกับคนที่กำลังจะออกรบ

คือ

พร้อมแล้วตัดสินใจแล้ว

แต่พอถึงเวลา

ปรากฏว่าถูกเบรกจนตัวโก่ง

เจ้าไม่ต้องไปแล้ว

รถเที่ยวสุดท้ายได้ออกไปแล้ว

หรือ..เสียใจด้วยนะจ๊ะ คุณไม่ได้ไปต่อ

 

บ้านเบญอยู่กลางสวนในต่างจังหวัด

ร้านเน็ตก็หายาก

เรื่องเอาคอมพ์ไปซ่อมเนี่ย

ไม่รู้จะเอาไปอย่างไร

ก็พยายามหาข้อมูลบ้านสวนในเวปอื่น

หายากมาก

และแทบไม่มีอะไรเลยที่ตัวเองต้องการ

บ้านสวนสำหรับคนที่

พบว่าตัวเองมีเขาอยู่บนหัวนั้น

สำหรับเบญคือที่พึ่ง

ที่อบรมสั่งสอน

ที่คอยพยุง

เพื่อพากลับบ้านคือนิพพาน

พอไม่มี

อารมณ์เวลานั้นเข้าใจคนอื่นเลยว่า

ไม่ได้เข้าเวปหลายวันเป็นยังไง

แต่สำหรับเบญคือ 

เบญเข้าไม่ได้

ทั้งที่สมัครสมาชิกไปแล้ว

ในช่วงโค้งสุดท้าย

คือเบญคิดที่จะเทหมดหน้าตักแล้ว

(จริงๆต้นทุนแทบไม่มีอะไรเลย  มีแต่ใจ)

เหมือนกับคนเพิ่งตีตั๋วซึ่งมีเหลืออยู่ไม่กี่ใบ

ความภูมิใจยังไม่ทันหาย

พอหันมาอีกที

ปรากฏว่ารถออกไปแล้ว

และเป็นรถเที่ยวสุดท้ายเสียด้วย

 

ตอนกลางคืนนอนไม่หลับ

คิดไปว่าถ้าหากว่าวันนั้นมาถึงเราจะทำอย่างไร

เบญยังไม่พร้อมเลย

เอาง่ายๆ ว่าเบอร์บ้านสวนยังจำไม่ได้

ทั้งที่บอกว่าตัวเองเป็นจิ้งจก

เกาะอยู่ที่เวปเปิดดูทุกวัน

ตอนนอนหลับ

รู้สึกจะฝันว่าเข้าเวปบ้านสวนได้แล้ว

พอเช้าวันอังคารรีบเข้าเวปแต่เช้า

ก็ยังเข้าไม่ได้อีก คิดวางแผนสารพัด

จะออกไปที่ร้านเน็ตก็ไกลเหลือแสน

โทรถามเพื่อนที่กำลังทำงานหน้าคอมพ์

ให้เข้าไปดูให้หน่อย

เพื่อนก็ปิดเครื่อง เวรกรรม

ได้เบอร์บ้านสวนมาหนึ่งเบอร์จากการเสิร์ช

ได้มาเท่านั้นจริงๆ ที่เป็นเบอร์สำหรับโทร

โทรไปติด

และได้สอบถามว่าเวปมีปัญหาหรือไม่

ปลายสายบอกว่าให้ติดต่อหลังเวลาที่ลงไว้

เอาล่ะสิ 

หลังเวลาที่ลงไว้คือกี่โมงล่ะ

เบญโง่อีกตามเคย ทำผิดกฎอีกแล้ว

แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นชาวเกาะ

เกาะติดทุกสถานการณ์

เบญก็ไปเสิร์ชหาอีกว่า

เวลาที่โทรได้นั้นคือกี่โมง

ก็ไม่เจอ

แต่ก็อยากเขกกะโหลกตัวเอง

ที่ไม่มีความพร้อมอะไรเลย

ดักดานสุดๆ

 

 

 

คิดอยู่ครึ่งวัน

ข้าวยังไม่ได้แตะ

ใจมันร้อนไปหมด

ยังไม่รู้สาเหตุกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ตอนบ่ายถือจานข้าวออกไปนั่งดูต้นมะเขือเทศ

คิดขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ตอนนี้ลูกไม่เอาอะไร

ลูกขอปัญญาอย่างเดียวเจ้าค่ะ

คราวนี้กลับมาใหม่

และได้ขอขมาพระรัตนตรัยครบชุด

แล้วจึงขอขมาเสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณ

ถ้าลูกเข้าเวปได้และสาเหตุเกิดจากตัวลูก

ลูกขอเขียนทุกอย่างที่เป็นธรรมทานเจ้าค่ะ

(คิดที่จะชดใช้ที่เอาแต่อ่านของคนอื่นท่าเดียว)

 

 

สุดท้ายในตอนเย็น

เบญได้แก้ไขปัญหานั้นด้วยตัวเอง

และสติปัญญาที่ขอประทานมาเฉพาะกิจ

ซึ่งก่อนหน้านี้คิดแต่จะพึ่งพาคนอื่น

พอเสร็จปุ๊บเข้าเวปได้ปั๊บ

ขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัว

และได้กล่าวขอบพระคุณ

เสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณ

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ตอนนั้นเลย

พร้อมปิติเย็นวาบไปทั้งตัว

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

 

 

การถูกลงโทษในคราวนี้

แม้เบญไม่ได้เจ็บปวดทางร่างกาย

แต่สำหรับสภาพจิตใจแล้วถือว่าสาหัสมาก

และน่าจะสาหัส

สำหรับคนที่คิดจะสะสมเสบียงบุญ

เพื่อกลับบ้าน

พระนิพพานของท่าน

เพราะเมื่อคิดจะไปแล้วไม่ได้ไป

เนื่องจากขาดผู้ที่แนะนำและผู้ที่จะพาไป

เท่ากับว่าเป้าหมายของท่านถูกทำลายลง

ความเจ็บปวดอยู่ในโลกของมารจะฉุดเราไว้

ปุบปับตายไป

เกิดชาติหน้าชาติไหน

คงจำไม่ได้ว่าเกิดมาต้องทำความดี

ทำบุญ  เพื่อบ้านอันแสนสุข

แดนพระนิพพานของเรา

ก็วนเวียนตายเกิด เกิดตาย

ทรมานอยู่นั่นเอง

 

 

 

ญาติธรรมที่รัก

เพื่อนใหม่ทั้งหลาย

การเข้าเวปไม่ได้3วัน

อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน

แต่เบญอยากบอกว่า

ถ้าหากเบญเข้าเวปไม่ได้ตลอดไป

เพราะถูกลงโทษแบบตลอดๆ

เบญจะหาผู้นำกลับไปบ้านได้จากที่ไหน

ในเมื่อครูบาอาจารย์ทั้งหลาย

สอนเบญมาเกือบตลอดชีวิต

 เขาเบญยังงอกทะลุกำแพง

เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

เบญฟังอาจารย์แม่รู้เรื่องคนเดียว

และได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง

เพื่อกลับบ้านแล้ว 

แม้ยังไม่ได้ครบทุกอย่าง 

แต่พยายามทำไปแล้ว

 

 

ขอฝากชาวเกาะทุกท่าน

อย่าได้ปล่อยให้ชีวิตตัวเอง

หวุดหวิดน่าหวาดเสียวอย่างเบญเลย

หาเป้าหมายให้เจอนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 16:34:34


ความคิดเห็นที่ 9 (1573131)

ปุณ ก็เป็นอีกคนเวลาเข้าเวปไม่ได้

หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเปิดเว็ปเพจ

ก็คิดแล้ว เราทำผิดอะไรหว่า ถึงเข้าเวปบ้านสวนไม่ได้

ก็ทำไป แก้ไป พอใช้งานได้ ก็โล่งอกมากเลย

รู้ถึงความรู้สึกคุณเบญว่า เครียด มากๆๆๆๆ

ขอเป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ

คุณเบญ สู้ สู้

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น (ratanapoolchuen-at-yahoo-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 02:24:58


ความคิดเห็นที่ 10 (1573264)

ขอบคุณคุณปุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 16:24:44


ความคิดเห็นที่ 11 (1574382)

ระบำชาวเกาะ2

ข้าพเจ้า คู่กรณี นายแพทย์ และตำรวจ

 

 

 

ก่อนที่จะสมัครสมาชิกเวปบ้านสวน

เบญถูกจัดหนักเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่ง

(สงสัยจะโดนตะบองเข้าให้)

ก่อนหน้าที่เข้าเวปไม่ได้หนึ่งสัปดาห์

เบญมีเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกทำร้าย

ในชีวิตของเบญ ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว

การเข้าไปในครั้งนี้เพื่อขอใบรับรองแพทย์

อาการฟกช้ำของเบญภายนอกนั้นไม่ปรากฏ

แต่ภายในนั้นเป็นไข้

บริเวณที่ฟกช้ำนั้นชาไปหมด

เบญใช้บัตรทอง

เพราะคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมาก

คงไม่ต้องเอ็กซเรย์

เบญต้องการใบรับรองแพทย์

เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความเท่านั้น

 

 

การใช้บัตรทองในครั้งนี้

เป็นครั้งที่สองตั้งแต่ได้รับบัตรนี้มานานหลายปี

ครั้งแรกนั้น ไปอุดฟัน

และลืมคำว่าโรงพยาบาลไปเลย

จนกระทั่งเกิดเรื่อง

 

 

เมื่อถึงโรงพยาบาล

เบญอยู่ในสภาพมึนมาก

 พูดไม่ค่อยออก

คือมันชาไปหมด

เบญเพิ่งเคยเห็นว่าการเข้ารับการรักษา

จะมีใบส่งตัวที่เจ้าหน้าที่ทำให้

แจ้งชื่อและประเภทของการชำระเงิน

หมายถึงแจ้งว่าจะจ่ายเองหรือใช้บัตรทอง

 

 

หมอที่รักษาเบญใช้คำนำหน้าว่านายแพทย์

แต่เธอแต่งหน้าสวยมาก

เสื้อตัวในรองจากเสื้อกาวน์ของเธอ

บางจนเห็นว่า

ยกทรงของเธอลายลูกไม้

โอ้แม่เจ้า

ลูกไม้ของเธอเยอะของเบญอีก

 

เบญมองเธออย่างลืมตัว

สวยและเปรี้ยว

 

เธอเดินเข้ามา ดูใบส่งตัว

เสร็จแล้วเธอถามว่าเจ็บตรงไหน

เบญบอกไปสามจุดที่หนักๆ

ไม่มีบาดแผลใช่มั้ย?

เธอถาม แล้วกวาดตาดู

เบญตอบว่าไม่มี

จริงๆ แล้วเนื้อมันช้ำอยู่ข้างใน 

แต่เวลาที่ผ่านไปกว่า12ชั่วโมง

รอยเขียวมันไม่ปรากฏ

รอยบวมเริ่มยุบ

(เบญก็พยายามทุบๆให้มันขึ้น มันก็ไม่ขึ้น 555..)

นายแพทย์เธอบอกว่า

เดี๋ยวหมอจัดยาให้นะ

ว่าแล้วเธอก็หายไปราวสิบนาที

และกลับมาบอกว่า

เรียบร้อยแล้วค่ะ

 

จบข่าว..

คุณหมอเธอจบที่ไหนมา

อยากจะรู้เสียจริง

การใช้จิตบำบัดเนี่ย

 

เบญไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้

เบญจะไม่เอาเรื่องเลย เพราะไม่เคยขึ้นโรงพัก

แต่วันนั้นเอาอุเบกขาวางทิ้งไว้ที่บ้าน

 

เบญเป็นคนไม่ค่อยพูด ถนัดฟังเสียมากกว่า

วิชาวาทการถ้าจำไม่ผิดได้เกรด 2

แต่วันนั้นเป็นอะไรไม่ทราบ 

เบญพูดซะจนคุณตำรวจ

ท่านหาคำตอบให้เบญไม่ได้

คนทำผิด ต้องถูกลงโทษ ใช่มั้ยคะ?

เบญถามท่านอย่างนั้น

 หลังจากที่ท่านพยายามไกล่เกลี่ย

และยื้อเวลาให้เบญรอคู่กรณีอยู่ 4 ชั่วโมง

คู่กรณีออกจากบ้านไปตั้งแต่ปีมะโว้

สายตรวจเพิ่งจะรายงาน

 

 

ขณะที่นั่งรออยู่นั้น

แขนเบญเจ็บระบมจนยกไม่ขึ้น

เพราะเบญใช้มือป้องไว้ 

ถ้าไม่เช่นนั้นคงบอบช้ำถึงอวัยวะภายใน

พอเบญถามอย่างนั้น

ท่านอ้อมแอ้มตอบว่า

ใช่  ต้องถูกลงโทษอยู่แล้ว

วิธีลงโทษของท่านคือตักเตือนค่ะ

คู่กรณีคงเจ็บและจำ

 

 

เมื่อแรกที่โผล่หน้าเข้าไป ท่านก็ถามว่า

เป็นอะไร

พอเบญบอกว่าเบญมาทำอะไร

ท่านก็ถามประมาณว่า

จะเอาอย่างไรถึงจะสาสมใจ

เอาให้มันตายไปเลยมั้ย

หมายถึงคู่กรณีของเบญ

หน้าท่านก็ดูเล่นๆ

ใจเบญขณะนั้นก็อยากตอบท่านไปว่า

ถ้าได้ก็ดี

แล้วคุณตำรวจจะให้มันตายด้วยวิธีไหน

ถ้าทำให้มันตายได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

เบญก็ไม่ต้องไปโรงพัก

 

 

สรุปคดีแบบนี้ก็แค่เสียค่าปรับ

เพราะเบญไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ที่ท่านพูดแต่แรกแบบประชด

ก็เพราะว่าท่านคงเจอเรื่องแบบนี้บ่อยจนชิน

คนที่มาหา มีเรื่องมา

เป็นใครก็ไปด้วยอารมณ์โกรธทั้งนั้น

ท่านจึงพูดเล่น

เบรกเอาไว้ก่อน

 

ตอนที่เบญนั่งรอ 4 ชั่วโมง

เห็นว่าคนที่มาหาตำรวจ

มีเรื่องมาให้แทบจะทั้งวัน

ไม่แพ่งก็อาญา

ถ้าแพ่งก็ถูกโกง

อาญาส่วนมากก็ทำร้ายร่างกาย

ร้อยเวรมีงานทำแทบไม่ได้หยุด

เบญนั่งมอง

เห็นท่านสั่งข้าวมากินตอนบ่ายโมง

กินไปคุยไป

คือไม่ได้กินแบบมีเวลาพัก

กินเร็วมาก

ร้อยเวรคนนี้ท่านอยู่ฝ่ายคดีอาญา

ท่านกินข้าวไป  ท่านก็หันมาบอกเบญ

น้อง...รอหน่อยนะ เดี๋ยวเขาตามให้อยู่

พูดอย่างนี้มาตั้งแต่ 10โมง จนบ่ายสอง

คือท่านทำงานไม่ได้หยุด

เมื่อใดก็ตามที่มีคนเปิดประตูเข้ามา

ท่านถามทันที

มีเรื่องอะไร

ท่านแยกเป็นประเภท ร้อยเวรคนละคน

ทำงานเหมือนเครื่องจักร

ดูวุ่นวายมาก

ถ้าจังหวะที่ไม่มีคน

ท่านก็พิมพ์อะไรของท่านซึ่งเกี่ยวกับงานนั่นแหละ

ทีละเป็นปึก

ถ้าตำรวจไทยทุกคนทำงานได้อย่างท่าน

ประชาชนคงมีความสุข

 

 

แม้ว่าเห็นว่าท่านขยัน  เต็มใจบริการประชาชน

แต่บางเรื่อง

ความคิดของเบญกับท่านก็สวนทางกัน

ท่านมองว่าไม่อยากให้มีเรื่องมีราว

เพราะคนกันเอง

เสียเงินฟ้องร้องเปล่าๆ

แต่เบญไม่ได้ต้องการจะเอาเงิน

เบญต้องการให้คู่กรณี

เป็นคนรู้จักบาปบุญคุณโทษ

คำว่าสำนึกและขอโทษเป็นอย่างไร

ให้รู้จักเสียบ้าง

ทางครอบครัวไม่มีใครแก้ไขอะไรได้

เบญก็ต้องเพิ่งกฎหมายช่วยขัดเกลา

 

 

 

 

ขณะที่เบญเจรจากับตำรวจอยู่นั้น

เบญก็ไม่ทราบว่าทำไมกล้าต่อปากต่อคำกับท่าน

เรื่องคดีความเบญไม่มีความรู้อะไรเลย

ตกกฎหมาย

แต่ก่อนไปโรงพัก

เบญหาข้อมูลไปล่วงหน้าบ้างแล้ว

ว่าเบญควรพูดอย่างไร

เอาอุเบกขาวาง 

แล้วเอาปัญญาไปเป็นเพื่อน

(มีกะเขานิดหน่อย พอเป็นกระษัย)

 

เมื่อคู่กรณีไม่มา

เบญต้องลงบันทึกประจำวันไว้

คนในครอบครัวเมื่อรู้เรื่องก็ตามมา

และพูดต่อหน้าตำรวจว่า

เบญทำเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

 

 

มนุษย์เรานี้หนอ

เหตุใดจึงห่วงแต่ของสมมติ

 

 

พอกลับมาถึงบ้านเปิดห่อยาออกดู

มีพารา 10 เม็ด

กับยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบ1แผง

 

จิตไพล่คิดไปถึงนายแพทย์ทันที

เสียดาย

ตอนอยู่โรงพยาบาล

ไม่ได้เอาปัญญาไปด้วย

ไม่เช่นนั้น

นายแพทย์

อาจต้องมีบางคำพูดที่เก็บไปคิด

 

หลายวันต่อมา

เบญมีโอกาสไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

พบนายแพทย์ท่านเดิม 

ท่านนั่งอยู่หน้าแผนกฉุกเฉิน

ที่บุรุษพยาบาลนั่งคอยรับผู้ป่วย

เวลามาสอบถามข้อมูลและรับบัตรคิว

ใจเบญก็นึกค่อนท่าน

ว่าที่ตรงนี้

ใช่ที่ที่ท่านควรจะอยู่หรือเช่นไร 

ทำไมไม่ไปอยู่ในห้องฉุกเฉินห้องประจำของท่านโน่น

นึกเสร็จปุ๊บก็รู้สึกเสียใจ

 ไปว่าท่านทำไม

ท่านอาจจะต้องนั่งประจำอยู่ที่นี่

เพื่อคอยรับผู้ป่วยฉุกเฉินก็ได้

ทำธุระเสร็จออกมา

เจอท่านอีกแล้ว

 

เห็นท่านยืนจับมือกับหมอคนนึง

นึกตำหนิท่านในใจ

สักพักเห็นหมอหนุ่มคนนั้นใกล้ๆ เดินผ่านมา

โอ้! ท่านคงเป็นเพื่อนกัน 

แต่ไม่ชอบแต่งหน้า

 

 

ตอนจะกลับเดินผ่านนายแพทย์ท่าน

จึงได้นึกขออโหสิกรรมที่ได้คิดล่วงเกิน 

เสร็จแล้วค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

และคิดว่า

ต่อไปจะพยายามละเอียด

กับความคิดของตัวเองมากกว่านี้

 

 

ในช่วงที่รักษาตัวด้วยยาสองชุด

ที่คุณหมอคนสวยให้มานั้น 

ความเจ็บปวดจากบาดแผล

ทำให้ระลึกขึ้นมาได้ว่า

เราได้ทำผิดพลาดที่สุดไปแล้ว

นั่นคือตอนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย

ทำไมไม่เรียกอาจารย์อุบลช่วยด้วย

 

ช่างโง่เขลาเบาปัญญานัก

 

ผิดพลาดที่สุดเลยตอนนั้น

เพราะเรามัวแต่ตื่นตกใจ 

เราไม่มีสติ 

คำสั้นๆ แค่นี้ ทำไมลืมได้

 

ถ้าหากอยู่ในระหว่างภัยพิบัติ

ก็คงหามีลมหายใจไม่

หรือพูดอีกอย่างว่า

เด๊ดสะม่อเร่ อินเดอะเท่งทึง

 

ดังนั้น ท่านที่ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้

ว่าสติมักเตลิดอยู่เสมอ

หากไม่ควบคุมให้ดี 

งานนี้เจ็บจริง โนแสตนอิน

ถึงเวลาจริงๆ แก้ตัวไม่ได้อีกแล้วนะจ้ะ

 

แนะนำว่าให้เขียนคาถาปะโตเมตัง

กับรหัสลับของเรานี้

เคลือบพลาสติกแล้วห้อยคอ ห้อยข้อมือไว้

คาถาสั้นๆ อันเล็กๆ กะจิริด

คงไม่เกะกะอะไร

กันเหนียว

สำหรับคนที่ยังฝึกเรื่องสติไม่แข็งแรงนะจ๊ะ

ถ้าแข็งแรงแล้ว

นึกปุ๊บเรียกปั๊บได้เลยจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-24 16:33:09


ความคิดเห็นที่ 12 (1576275)

ระบำชาวเกาะ ๓

 

คำสารภาพของเบญ

 

ศีลทั้งหมด ๕ ข้อ

เบญผิดหมดทุกข้อเลย

แต่ข้อหนึ่งจะผิดมากที่สุด

รองลงมาคือข้อสองและข้อสี่

 

ผิดศีลข้อ ๑ ปาณาติบาต

 

ศีลข้อหนึ่งนี้

แบ่งเป็นช่วงเด็กๆ และตอนโต

ตอนเป็นเด็กตั้งแต่เล็กจนถึงสิบขวบ

เบญฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า

โดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นบาป

อาศัยอยู่ในไร่

 ซึ่งเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์

ตั้งแต่ตัวเล็กๆ

 แบบมองไม่เห็น

จนถึงตัวโตๆ

 

ได้แก่ เต่าทอง

ตัวตะเข็บ

ด้วง(จับเอามาขวิดกัน)

 แมลงสาบ แมงมุม

แมลงทับ(จับมาขัง)

 แมลงปอ(จับใส่ถุง) 

ผึ้ง

(ช่วยที่บ้านเอาควันรมรัง เอาน้ำผึ้ง)

หิ่งห้อย(จับขังไว้ในมุ้ง)

 ไส้เดือน(จับมาเป็นเหยื่อปลา)

แมลงต่างๆ

กุ้ง

(ช้อนมาทำอาหารและใช้เป็นเหยื่อปลา)

หอย(นำมาต้มกิน และใช้เป็นเหยื่อปลา)

ปู(นำมาต้ม)

ปลา

(ตกปลา ดักข่าย ทุบหัว ขอดเกล็ด ผ่าท้อง

มีปลาชนิดหนึ่ง

ชาวบ้านเรียกปลาช้างเหยียบ

 เพราะตัวแบน

 แต่เกล็ดหนาเหมือนปลาหมอ

มันดิ้น

เบญโมโห

จึงใช้เท้าเหยียบ)

 กิ้งก่า

 หนู(ใช้น้ำกรอกใส่รู

นำลูกหนูตัวแดงๆ มาเล่น)

ตั๊กแตน

 กิ้งกือ

 จิ้งหรีด(เอาน้ำกรอกใส่รู จับมากัดกัน)

 ตัวบึ้ง(นำมาเผาไฟ)

แมลงเล็กแมลงน้อยที่อาศัยอยู่ใต้ดิน

 ลากสายยางฉีดน้ำรดผัก

คงโดนอีกหลายตัว

 

พอตอนโตก็เอายาฆ่าแมลงฉีดมด

 เอาไฟเผา ตายเป็นเบือ

แมลงสาบก็เอาไฟเผา 

ตบยุง ฉีดยากันยุง

ฆ่าตะขาบ

 เพลี้ย แมลงผัก

 เอาไม้ตีหมา รังแกหมา

 เอาข้าวบูดให้หมากิน

ฆ่าเห็บหมัดหมา

 

 

ศีลข้อ ๒

 

ขโมยเงินยาย

โกงฆ่ารถ

เอาขนมวัดกลับบ้าน

ยืมเงินไม่คืน

 ขโมยขนมตายาย

 ขโมยลิปติกของป้า

แล้วโยนความผิดให้เพื่อน

หยิบเสื้อจากบ้านเพื่อนไม่บอก

เอาซีดีน้องไปขาย

แอบกินขนมน้อง

บอกพ่อแม่

เรื่องค่าใช้จ่ายเกินจำนวนจริง

ตอนซักผ้าพ่อแม่

เก็บเศษสตางค์ได้ไม่คืน

เอาแผ่นทองคำเปลวจากวัด

ติดมาบ้านแล้วยังไม่คืน

เอาอุปกรณ์ของใช้ของออฟฟิศกลับบ้าน

โกงเงินเจ้านาย

ยืมเสื้อ+หนังสือเพื่อนมาแล้วไม่คืน

เอาดอกไม้ของหลวงไปปลูกที่บ้าน

 

 

ศีลข้อสาม

 

เคยชอบคนมีเจ้าของ

ดูหนังโป๊

 

 

ศีลข้อสี่

 

โกหกพ่อแม่ เพื่อน คนทั่วไป

พูดจาให้ร้ายผู้อื่น

นินทาคน

ล้อเลียน

เพ้อเจ้อ

หยาบคาย

 

ปรามาสพระรัตนตรัย

 

ปรามาสพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์

เคยอยู่ร่วมในวงสนทนา

ที่มีการปรามาสพระราชวงศ์หลายครั้ง

และมีบางครั้งที่ได้ออกความคิดเห็นด้วย

 

ปรามาสอาจารย์อุบล

คิดว่าท่านขายของคือเครื่องสำอาง

สงสัยว่าท่านใช้ปุ๋ยเคมี

หรือว่าปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกผัก

จิตมารเผลอคิดตามผู้อื่น

ที่กล่าวอ้างว่าท่านเลี้ยงผี

จิตมักแวบถึงท่านบ่อยๆในทางไม่ดี

แต่ไม่ได้ตั้งใจ

 

(ลูกขอขมากรรมต่อพระพุทธ

พระธรรม

พระสงฆ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระราชวงศ์

 และอาจารย์อุบล 

ลูกสำนึกผิดในสิ่งได้กระทำแล้ว

ลูกขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย

 พระเจ้าอยู่หัว

พระราชวงศ์

 และอาจารย์แม่อุบล

ขออโหสิกรรมให้ลูกด้วยนะคะ

 ลูกจะไม่ทำแบบนั้นอีกค่ะ)

 

 

ผิดศีลข้อที่ห้า

 

เคยกินชา กาแฟ

ทดลองสูบบุหรี่ 1-2ครั้ง

เอาไวน์มาดื่ม 1 ขวด

เคยจิบเหล้า ซื้อเหล้าไปแก้บน

ซื้อลอตเตอรี่ 3-4 ครั้ง

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 13:55:07


ความคิดเห็นที่ 13 (1576276)

ระบำชาวเกาะ ๔

กรรมจากการตกปลา

 

 

 

ตอนราวๆ ๑๐ ขวบ

วันหยุด

เบญชอบไปตกปลากับน้อง

แถวบ้านมีคูคลองมาก

ที่บ้านของเรา

มีบ่อเลี้ยงปลา

น้ำใสเห็นปลาว่ายไปมาชัดเจน

เหยื่อของเราคือกุ้งฝอยกับไส้เดือน

เบญตกปลาไม่เก่งเหมือนน้อง

ตกปลาไม่ค่อยได้

นานๆ กว่าจะได้สักตัว

จึงมักจะบ่นว่าตัวเองนั้น

ทำบาปไม่ขึ้นเลย

อิจฉาน้อง

 

วันนึงเราไปนั่งตกปลาอีก

น้องตกได้เยอะ

แต่เบญได้ไม่กี่ตัว

นั่งอยู่นาน

จนเหยื่อไม่มี

เซ็งมากคิดจะเลิก

เอาเบ็ดวางไว้

ยังไม่เก็บให้เรียบร้อยดี

ลุกขึ้นเก็บข้าวของ

 

แต่แล้วจู่ๆ ก็สะดุ้งเฮือก

เจ็บแปลบที่เท้า

ก้มลงดู

เงี่ยงเบ็ดของตัวเอง

ทิ่มเข้าไปในนิ้วเท้าข้างหนึ่ง

เลือดไหลโกรก

เจ็บปวดทรมาน

ลงไปนั่งกองกับพื้น

เรียกน้องให้ช่วย

เราพยายามที่จะดึงเบ็ดออก

แต่เงี่ยงมันจมลึกมาก

เหมือนเวลามันเกี่ยวที่ปากปลา

ปลาดิ้นไม่หลุด

เพราะเงี่ยงเกี่ยวเอาไว้

ถ้าอยากหลุด

ต้องดิ้นจนสุดแรง

จนปากขาดนั่นแหละ

จึงจะหลุดได้

 

เลือดไหลไม่หยุด

เจ็บก็เจ็บ

ไม่รู้จะทำอย่างไร

ตัดสายเบ็ดทิ้ง

แล้วไปตามน้าเขยมา

ที่บ้านตอนนั้นไม่มีคนอยู่เลย

น้าเขยกลับมา

พาไปส่งอนามัย

ต้องผ่าเอาเบ็ดออก

ฉีดยาชา

แต่..

หลังจากนั้นเดินกะเผลก

เข็ดไปจนตาย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 13:58:51


ความคิดเห็นที่ 14 (1576279)

ระบำชาวเกาะ ๕

กรรมจากการเด็ดหัวกุ้ง+ทุบหัวปลา

 

 

 

เช้าวันหนึ่ง

เบญตื่นขึ้นมา

แล้วยกศีรษะออกจากหมอนไม่ได้

คอเคล็ดร้าวไปถึงแผ่นหลัง

 

เบญพยายามลุก

แต่ศีรษะหนักมาก

พลิกซ้าย

พลิกขวา

คว่ำหน้า

ศีรษะก็ยังติดอยู่กับหมอน

ตัวน่ะขยับได้

แต่ศีรษะไปไหนไม่ได้เลย

เหมือนปลาที่ถูกทุบ

ตัวบิดเร่าๆ

 

สุดท้ายต้องตัดสินใจ

ใช้มือประคองศีรษะตัวเอง

กัดฟัน

ยกขึ้นมา

เหมือนศีรษะกับตัว

แยกออกจากกันไปแล้ว

เจ็บแปล๊บที่คอ

ร้าวไปทั่วหลังไหล่

แผ่นหลัง

น้ำตาไหลพราก

จะทำอะไร ต้องค่อยๆ หัน

คล้ายๆ ว่าถ้าทำแรง

ศีรษะจะหลุด

มันง๊อกแง๊กๆ

เจ็บอยู่หนึ่งเดือน

ไม่ได้ไปหาหมอ

ถ้าอยู่บ้านก็พอทน

แต่ช่วงสองสัปดาห์แรก เจ็บใหม่ๆ

ตอนนั่งรถไปทำงาน

รถกระชาก

คอเราจะง๊อกแง็ก

กระชากที

เส้นตึงที

เจ็บแปล๊บๆ

ทนอยู่อย่างนั้น

เป็นชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย

อยากจะตัดศีรษะทิ้ง

ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

หลังจากนั้นคอก็ไม่ปกติตลอดมา

วันดีคืนดี

ตื่นเช้ามา

แค่เลื่อนคอบนหมอน

ให้พอดี

จู่ๆ

เส้นก็พลิก

ยกศีรษะไม่ได้

อาการเหมือนเคย

ในรอบปีเป็นประมาณ3-4ครั้ง

 

วันนึงแหงนหน้าขึ้นมองดอกจำปี

จะสอยลงมาบูชาพระ

แหงนคอตั้ง

ทันใดนั้น

คอก็ลั่นกร๊อบ

ร้องลั่น

แทบจะร่วงเหมือนนกปีกหัก

จึงต้องกินยาคลายกล้ามเนื้อ

สองวันเต็มๆ จึงหายเป็นปกติ

 

นึกไปถึงตอนเด็กๆ เคยทุบหัวปลา

หลายต่อหลายตัว

มันดิ้นพราดๆ

ยังไม่ตาย

ก็ตามไปทุบอีก

มีครั้งหนึ่ง

เด็ดหัวกุ้งฝอยเป็นๆ

มันคงเจ็บไม่แพ้เราคราวนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 14:05:44


ความคิดเห็นที่ 15 (1576280)

ระบำชาวเกาะ ๖

 

 

แม่ชีอยากใช้รหัสลับ

เลิกเล่นหวย

 

 

 

เบญไปถวายสังฆทานหลวงพ่อ

แม่ชีได้เข้ามาอำนวยความสะดวก

ยกของถวายไปเก็บให้

เบญออกมาจะเอาน้ำไปเท

(กรวดน้ำตามธรรมเนียม

แต่เบญอุทิศบุญ

ตอนยกของถวายไปแล้ว)

พบแม่ชี

วันนี้เบญเพิ่งจะบอกรหัสลับไปได้

เพียงคนเดียว

คิดว่าเราควรจะบอกกับแม่ชีนี้

เป็นคนที่สอง

 

 

เบญสอบถามแม่ชี

แม่ชีเคยปรามาสในหลวงมั้ย

แม่ชีทำหน้างงๆ

เบญจึงถามซ้ำ

ปรามาสแปลว่าอะไร

แม่ชีถาม

อ๋อ!

แม่ชีไม่เข้าใจ

แม่ชีเคยว่าในหลวงมั้ย

แม่ชีสั่นศีรษะ

ไม่เคย

เบญมองเข้าไปในดวงตาของแม่ชี

เพื่อค้นหา

แล้วแม่ชีเคยว่าพระรัตนตรัยมั้ย

ไม่เคย แม่ชีบวชแล้ว

แม่ชีไม่ทำอย่างนั้นหรอก

เบญมองดวงตาแม่ชี

มองดวงหน้าแม่ชี

ศีลจับอยู่ที่หน้าแม่ชีหรือไม่

 

เสร็จแล้วเบญจึงเล่าเรื่อง

รหัสลับให้แม่ชีฟัง

เล่าข้อปฏิบัติคร่าวๆ

และล้วงเอาแผ่นกระดาษ

ที่เบญจดข้อบังคับใช้

กติกาทั้งหลาย

ส่งให้แม่ชี

 

แม่ชีพยายามอ่านลายมือของเบญ

จนมาถึง

ข้อที่ว่าด้วยการใช้รหัสลับ

ในทางที่ผิดๆ

 

นี่อะไร...

 

แม่ชีถาม

อ่านไม่ออก

 

ซื้อหวยค่ะแม่ชี

อ้าว! แม่ชีซื้อหวยบ่อย

ไม่ได้ค่ะแม่ชี

ทำไมล่ะ แม่ชีซื้อหวยนี่

หวยรัฐบาลนะ

ไม่ใช่ใต้ดิน

ที่ไหนๆ ก็ไม่ได้ค่ะ

ทำไมล่ะ

มันเป็นอบายมุขค่ะ

แม่ชีอย่าเล่นหวยอีกเลยนะคะ

แล้วแม่ชีต้องทำยังไง

แม่ชีก็กล่าวต่อพระรัตนตรัย

ขอขมา

ต่อไปนี้แม่ชีจะไม่เล่นหวยอีก

แม่ชีต้องพูดจริงๆ

ด้วยความสำนึกนะคะ

ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เล่นหวยอีก

แม่ชีพยักหน้า

 

ท่าทางแม่ชี

สนใจในรหัสลับไม่น้อยเลย

แม่ชีกลัวว่า

ถ้าตัวเองเล่นหวย

จะใช้รหัสลับไม่ได้

ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยใช้เลย

อันที่จริงแล้ว

แม่ชีเข้าใจผิด

เบญเขียนว่า

ถ้าใช้รหัสลับเอาไปแทงหวย

มันจะไม่ได้ผล

แต่แม่ชีท่านเหมารวม

ว่าถ้าท่านเล่นหวยท่านจะไม่มีสิทธิ์

และท่านก็คงเข้าใจด้วยว่า

เอารหัสลับไปใช้แทงหวยไม่ได้

 

เบญบอกแล้วว่าถ้าใช้ได้ผล

ไม่บอกต่อ

รหัสจะถูกยึดคืนทันที

 

พอเบญคล้อยหลัง

เข้าไปในโบสถุ์

ออกมาอีกที

แม่ชีกำลังถ่ายทอดรหัสลับเหย็งๆ

ได้ยินแว่วๆว่า

อะไรหวยๆ สักอย่าง

แล้วก็

ไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน

 

ถ้าแม่ชีจะเลิกเล่นหวยเพราะรหัสลับ

ก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

และดูท่าว่า

แม่ชีจะตั้งหน้าตั้งตาเผยแพร่รหัสลับ

เป็นอย่างดีเสียด้วย

 

เหอะๆ..

ท่าทางรหัสลับสายแม่ชี

จะไม่มีใครเล่นหวยเลย

เพราะแม่ชีจับเลิกหมดทุกคน

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 14:10:05


ความคิดเห็นที่ 16 (1576281)

ระบำชาวเกาะ ๗

 

เทวดาดลใจ

 

 

 

ที่บ้านเบญได้กล้วยมาเครือหนึ่ง

สุกไม่เท่ากัน

ส่วนที่สุกแม่เบญนำไปทำขนมกล้วย

อันเป็นเมนูหลัก

รองจากข้าวต้มมัด

ถ้ามีกล้วยสุก

ที่บ้านไม่ค่อยมีคนกินขนมกล้วย

แม่เขาขนไปแจกที่ทำงานหมด

ส่วนกล้วยที่ยังไม่สุก

เหลืออยู่สองหวี

เบญเอามาแอบไว้ในห้อง

เพราะคนที่บ้าน

ชอบเอากล้วยโยนน้ำให้ปลากิน

เบญเสียดาย

ระหว่างที่รอกล้วยสุก

เบญยก็คิดว่า

จะเอากล้วยสองหวีนี้ไปทำอะไรดี

 

 

ขนมกล้วยก็ทำไปแล้ว

ข้าวต้มมัดก็ทำเองไม่เป็น

หรือจะทำกล้วยทอด

แล้วมันใช้แป้งอะไรเล่า

 

คิดไป ๓ วัน

 

กล้วยเริ่มสุก

ถ้าไม่รีบจัดการงอมแน่ๆ

แต่ยังไม่รู้จะทำอะไรดี

เอาล่ะ

อาจารย์อุบลช่วยด้วย

 

ท่านเทพ

ลูกไม่รู้จะเอากล้วยไปทำอะไรดี

ท่านช่วยคิดให้ลูกหน่อยค่ะ

 

นั่งอยู่สักพัก คิดวนไปวนมา

นั่นก็ทำไปเป็นนี่ก็ไม่เป็น

หันไปมองกล้วยสองหวี

 

 

แล้วทำไมจะต้องทำอะไรกับมันด้วยเล่า

เอาไปถวายสังฆทานสิ

โธ่! โง่อยู่สามวัน

กล้วยเกือบงอม

ขอบคุณท่านเทพนะคะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-04 14:13:06


ความคิดเห็นที่ 17 (1576461)

 

 

 

 ณัชชา อนุโมทนากับคุณเบญกับธรรมทานในครั้งนี้ นะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้้ว (phueng9574-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 06:28:11


ความคิดเห็นที่ 18 (1576484)

ระบำชาวเกาะ ๘

น้องจิ๋ว เจ้าดำ และเจ้าจ้อย

 

 

เมื่อหนูบิ๊กตายไป

น้องจิ๋วขาดเพื่อนสนิท

อยู่กับพี่หมี

พี่หมีแก่มากแล้ว

ฟันไม่มี

ขี้รำคาญ

วันๆ กินแล้วก็นอน

บางทีก็ส่งเสียงขู่

ไม่ชอบให้น้องจิ๋วเข้าใกล้

ขู่ไปอย่างนั้น

ฟันไม่มี

อย่างมากก็ได้แต่

พ่นน้ำลายใส่เท่านั้น

 

น้องจิ๋วเหมือนอยู่ลำพัง

 

ชอบไปนั่งนอน

ในที่ที่เพื่อนตัวเดียวในโลก

เคยนอน

แต่โชคคงไม่เลวร้ายเกินไป

มีเจ้าดำกับเจ้าจ้อย

หมาข้างบ้าน

มาตีสนิทด้วย

 

แต่ก่อนเคยเป็นอริกัน

พอหนูบิ๊กตาย

เจ้าดำพาเจ้าจ้อย

ลูกคู่เข้ามาเล่น

ในรั้วบ้านกับน้องจิ๋ว

เบญเห็น

แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

สงสาร

น้องจิ๋ว

ไม่มีเพื่อนเล่น

วันๆเล่นกับนก

ไล่เห่า ไล่งับ

แต่เจ้าดำกับน้องของมัน

ไม่ได้มาบ่อยๆ

เจ้าดำเป็นหมาไทยตัวใหญ่

กำลังหนุ่ม

ส่วนเจ้าจ้อย

เป็นหมาเด็กรุ่นๆ

ที่กี่เดือนๆผ่านไป

เบญไม่เห็น

มันจะโตขึ้นสักที

เสียงเห่า

ยังเป็นเด็กเหมือนเดิม

 

บางวันเบญเล่นกับน้องจิ๋วบ้าง

แต่ไม่ไหว

เหนื่อย

มันแรงเยอะ

วิ่งไม่กี่รอบ

เบญก็เหนื่อยแล้ว

 

วันหนึ่ง

เจ้าดำพาเจ้าตัวเล็ก

ตามรถ

ของเจ้านายมันมา

เจ้านายมันนี้

เคยยิงน้องจิ๋วกับหนูบิ๊ก

น้องจิ๋วเกลียดมาก

น้องจิ๋วอยู่หน้าบ้าน

เบญหันไปเห็น

เจ้าดำมันกวดน้องจิ๋วจี๋ๆ

น้องจิ๋วโกยสุดฝีเท้า

วนรอบบ้าน

เบญร้องเอ็ดเจ้าดำ

มันเบรกเอี๊ยด

เสียงน้องจิ๋วร้องเบาๆ

เบญดุเจ้าดำ

ว่าทำไมเล่นแรง

กับน้องจิ๋ว

ตกลงจะเล่น

หรือเอาจริงกันแน่

 

เบญเข้าบ้าน

สักพัก

ออกไปดูใหม่ว่า

ทำไมเงียบไป

เห็นหมาทั้งสามตัว

ทำจมูกฟุดฟิด

แถวๆถนน

เลยบ้านไปเล็กน้อย

 

พอน้องจิ๋วหันหลัง

ทำท่าจะกลับบ้าน

เจ้าดำตั้งท่าไล่กวด

น้องจิ๋วหันไปมอง

เห็นท่าไม่ดี

รีบโกยอ้าว

เจ้าดำใส่เกียร์เต็มที่

 

เบญออกไปดู

เพิ่งเห็นว่า

เจ้าดำนั้น

มันตัวใหญ่กว่าน้องจิ๋ว

มันตั้งหน้าตั้งตา

กวดอย่างเดียว

น้องจิ๋วนั้น

เป็นหมาฝีเท้าไวอยู่แล้ว

ไวที่สุดในบ้าน

เพราะมันฝึกของมันทุกวัน

วิ่งสี่คูณร้อย

แต่ก็แพ้เจ้าดำ

ซึ่งก้านยาวกว่า

เบญเห็นท่าไม่ดี

เจ้าดำนี้

ไม่ได้เล่นแน่

สงสัยจะเอาจริง

น้องจิ๋ววิ่งห้อมา

เลี้ยวตัดเข้าหน้าบ้าน

เบญออกไปแว้ดใส่เจ้าดำ

สองตัวหายเข้าพุ่มไม้

เสียงน้องจิ๋วร้องเบาๆ

เจ้าดำคงขย้ำเอา

เบญตามไปเอ็ดเจ้าดำ

ไม่ให้เล่นแรงแบบนี้

 

เจ้าดำคงรู้ว่าถูกเอ็ด

จึงไม่กวดน้องจิ๋วอีก

เล่นกันประเดี๋ยวเดียว

เจ้าดำพาน้องมันเปิดแน่บ

 

เบญกลับเข้าบ้าน

วันนี้พลาดอีกแล้ว

หมาทดสอบอารมณ์

ดันไม่ผ่าน

สอบตกอีกตามเคยเรา

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 10:16:05


ความคิดเห็นที่ 19 (1576491)

อยากขอความร่วมมือ

จากคุณเบญ และ ทุกท่าน

ที่เปิดกระทู้ใหม่

 

ถ้าไม่จำเป็นขอให้

อยู่ในกระทู้เดียวกัน

เช่น

เรื่องของคุณเบญทั้งหมด

ขอให้เป็นกระทู้เดียว

ทั้งนี้เพื่อประหยัดพื้นที่

งบประมาณ

ช่วยเวปมาสเตอร์ ผู้ออกค่าใช้จ่าย

 

 

และ

เพื่อไม่ให้มีกระทั้ฟุ่มเฟือย

แต่คนไม่สนใจอ่าน

และ

ไม่ค่อยตอบกระทู้

 

ดังนั้น

ถ้าทำได้ขอให้รวม

แล้วแจ้งลบ

กระทู้ ที่ฟุ่มเฟือย ออกด้วยค่ะ

 

ขอบคุณ

ที่ให้ความร่วมมือค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 10:32:07


ความคิดเห็นที่ 20 (1577073)

เบญกราบขอบพระคุณอาจารย์แม่

ที่ได้เมตตาตักเตือนนะคะ

และกราบขอขมา

ที่ทำให้อาจารย์แม่

ต้องมาเสียเวลา

กับเรื่องไม่เอาไหนของเบญ

เบญแจ้งลบแล้วทุกกระทู้ค่ะ

เหลือระบำชาวเกาะกระทู้เดียวค่ะ

 

...........................................................

 

ระบำชาวเกาะ ๑๐

 

กรรมที่ทำให้ปวดศีรษะ

 

 

 

วันที่ ๖ ตุลาคม

เบญรู้สึกไม่สบาย

ไม่มีแรงตั้งแต่เช้า

ตอนบ่าย

เบญจึงออกไปเผยแพร่รหัสลับ

วันนี้ไปห้าง

จะได้เจอคนเยอะๆ

ก่อนไปห้าง

เบญเอาเอกสาร

การเผยแพร่รหัสลับ

ไปถ่ายเอกสาร

เบญทำต้นฉบับไว้ ๒ ชุด

เป็นวิธีใช้รหัสลับชุดหนึ่ง

อันนี้เบญพิมพ์เอง

ส่วนตัวรหัสลับ

อาจารย์อุบลช่วยด้วยนั้น

เบญเขียนด้วยลายมือ

โดยตีตาราง

แล้วเขียนรหัสใส่ทุกช่อง

แล้วมาตัดทีหลัง

 

เบญเผยแพร่รหัสลับได้ครบตามจำนวน

มีแถมคนหรือสองคนเท่านั้น

กลับมาบ้าน

ปวดหัว

ตรงขมับข้างซ้าย

ปวดมาก

ทำทุกอย่างที่จะให้หาย

นึกได้ว่า

วันนี้ทำอะไรพลาดไปก็ขอขมา

แต่ก็ไม่หาย

จนปัญญาแล้ว

มานั่งอ่านในเวป

ก็ยังปวดรุมๆ อยู่

ก็อยากหาย

นึกขึ้นได้

จึงเรียกอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ลูกคิดไม่ออกจริงๆ ว่า

ลูกไปทำผิดอะไรมา

ลูกขอขมาทุกอย่างแล้ว

ยังไม่หายเลย

ขอท่านช่วย

ให้ลูกนึกออกด้วยนะคะ

ลูกจะได้แก้ไข

และขอขมาให้ถูกต้อง

 

แล้วก็นั่งอ่านอะไรเพลินๆ ในเวป

สักพัก

ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา

อ้อ!

ฉีกกระดาษ

ที่ถ่ายเอกสาร

ข้อความอาจารย์อุบลช่วยด้วย

เป็นชิ้นๆ

 

เบญปิ๊งขึ้นมาทันทีทันใด

ตอนเอารหัสไปถ่ายเอกสาร

ต้นฉบับที่เบญเขียนด้วยลายมือน่ะค่ะ

๑ แผ่นจะได้ทั้งหมด

๗๐ ชิ้น

ถ้าตัดออกมา

เบญเอาไปถ่ายที่ร้าน

ตาลุงเป็นคนถ่าย

ปรากฏว่ากระดาษมันเลื่อน

หรือวางไม่ตรงอะไรสักอย่าง

ทำให้ข้อความ

รหัสลับช่องล่างๆ

เห็นไม่ครบ

แกก็บอกเบญ

เบญก็ไม่อยากให้

รหัสไม่ครบส่วน

ก็บอกลุงวางดีๆซิคะ

แกก็อธิบายศัพท์เทคนิค

อะไรของแกไม่รู้

สรุปว่าไม่ได้

ได้แค่นี้

เบญก็บอกว่า

ก็ได้ค่ะ

แค่นี้ก็ได้

แกก็บ่นว่าตั้งแต่เช้า

มีคนมาถ่ายแล้วเสีย

๓ แผ่นแล้ว

เบญก็บอกว่า

เอาอย่างนี้ก็ค่ะลุง

ถ้ามันได้แค่นี้จริงๆ

เสร็จออกมา

ยื่นส่งให้

เบญรับมา

เหลืออีก ๒-๓ แผ่นอยู่ที่ลุง

แกฉีกแควก

เบญก็ตกใจ

ไม่คิดว่าแกจะทำอย่างนั้น

มันเป็นแผ่นที่เสียนั่นเอง

ลุง..

นั่นมันคาถาสำคัญนะคะลุง

รู้..ลุงรู้แล้ว

แหม..

ลุงมีพระเต็มบ้าน

สะสมมา๒๐ ปี

คาถาอะไรลุงมีเยอะแยะ

แกย้ำว่าแกรู้ว่าเป็นคาถา

พร้อมทั้งฉีกอีก ๒แควก

กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

จับใส่ถังขยะ

เบญก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

เบญก็ไม่ได้ตั้งใจว่า

จะไม่เอาแผ่นที่เสีย

มันนิดเดียวเอง

และไม่ได้พูดว่าไม่เอา

พูดว่าไม่เป็นไร

ไม่ทราบลุงไปตีความอย่างไร

………………

 

ไหนๆ ก็ฉีกไปแล้ว

เบญจึงเริ่มเผยแพร่รหัสลับ

ลุงแกบอกแกไม่เอา

แกมีคาถา

มีพระเยอะแยะ

เต็มบ้าน

เบญถามย้ำ

แน่ใจนะคะ

ไม่เอา

เบญก็ไม่เซ้าซี้แกต่อ

กรรมของเขา

ไปเผยแพร่รหัสต่อ

ปวดหัวรุมๆ

ถึงบ้านเข้าบ้านไม่ได้

ไม่มีกุญแจรั้ว

ไม่มีใครอยู่

จอดรถไว้

เอาของสอดผ่านช่องรั้วเข้าไป

รวมทั้งซองเอกสารรหัสลับด้วย

ซองนี้สอดตรงช่องรั้วด้านล่างสุด

วางพิงไว้

คืออยู่กับพื้น

เสร็จแล้ว

มุดรั้วเข้าบ้าน

 

เปิดคอมพ์นั่งอ่านธรรมะในเวป

รู้สึกปวดหัวหนักขึ้นๆ

จนกระทั่ง

ทนไม่ไหวแล้ว

รีบกล่าวคำขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แต่ไม่หาย

ใช้รหัสหลายรอบก็ไม่หาย

สุดท้าย

ก็ต้องใช้รหัสช่วยคิด

สรุปเบญปวดหัว

เพราะมีส่วนในการทำลายรหัสลับ

เบญจึงขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

พอขอขมาเสร็จรู้สึกชา

แบบโล่ง

ตรงบริเวณที่ปวดพักหนึ่ง

ก่อนจะกลับมาปวดเหมือนเดิม

เบญจึงได้บอกว่า

เดี๋ยวเบญนำมาเขียนลงเวปนะคะ

เบญเขียนเสร็จแล้ว

ขอให้เบญหายด้วยเถิดค่ะ

ตอนนั้นปิดเน็ตไปแล้ว

เบญก็นั่งอ่านธรรมมะไปเรื่อยๆ

 เพราะยังอ่านไม่จบ

ก็ปวดอยู่เรื่อยๆ

จนกระทั่งอ่านเสร็จ

มานั่งเขียน

ใจก็ภาวนา

ลูกกำลังเขียนอยู่นะคะ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกส่งโพสต์เลยค่ะ

มีต่อรองอีก

 

...........................

 

ขณะที่เขียนไป

อาการปวดก็ทุเลาลงเรื่อยๆ

ใจมันคิดขึ้นมาเองว่า

ส่งพรุ่งนี้ก็หายพรุ่งนี้

แต่เบญ

จะปิดคอมพ์

จะนอนแล้วไงคะ

เบญก็คิดของเบญเอง

พรุ่งนี้ๆ

ส่งแน่

เวลาที่เขียนใกล้จบถึงบรรทัดนี้

อาการปวดหายราวๆ

๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ

 

 

………………………………….

 

 

ลูกกราบขอขมาต่อพระพุทธองค์

 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในจักรวาล

เสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณ

 และอาจารย์อุบล

ที่ลูกได้มีส่วนร่วม

ในการฉีกทำลายรหัสลับ

โดยขาดการยั้งคิด

หรือระมัดระวัง

 และได้วางตัวเอกสารรหัสลับ

ไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม

 ลูกได้สำนึกผิด

ในกรรมครั้งนี้แล้ว

 ขอกราบขอขมา

ต่อทุกพระองค์

 ต่อไปลูกจะไม่ทำเช่นนี้อีกค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-07 18:49:32


ความคิดเห็นที่ 21 (1577082)

 

อนุโมทนากับคุณเบญ คะ

(ตัวใครตัวมันนะคะ ลุง เฮ้อ... )

นั่นมันคาถาสำคัญนะคะลุง

รู้..ลุงรู้แล้ว

แหม..

ลุงมีพระเต็มบ้าน

สะสมมา๒๐ ปี

คาถาอะไรลุงมีเยอะแยะ

แกย้ำว่าแกรู้ว่าเป็นคาถา

พร้อมทั้งฉีกอีก ๒แควก

กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

จับใส่ถังขยะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-07 20:39:35



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.