ข้อความจากพี่แก้ว น.ส.กันยภัทร  เฟื่องฟู

     เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่ อายุ 13 ปี นั่ง

เรียนหนังสือ มีอาการง่วงมากๆ เหมือนมี

อะไรมากดให้หลับต้องอดทนต่อสู้กับความ

ง่วง เรียนหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่อง

     ช่วงอายุ 18-19 ปี มีอาการปวดศรีษะ

ปวดตื้อๆ หนัก+ความง่วงมากๆ เหมือนมี

อะไรสักอย่างมากดให้หลับ ทนไม่ไหวต้อง

นอนตอนกลางวันทุกวัน มึน งง เหม่อ ลอย

เวลานั่งนิ่งๆ จะมีอาหารหัวหนักมาก หัว

หมุนเหมือนลูกข่างและที่สุดหัวปักลงที่พื้น

บังคับตัวเองไม่ได้ หัวหนักมาก ชามาก จน

กระทั่งไม่รู้สึกว่าตัวเองมีหัวอยู่หรือเปล่า ใช้

มือจับดูจึงรู้ว่ามีหัวอยู่ อีกอาการนึงคือใจ

หวิว เหมือนถูกบีบหัวใจ ใจจะขาด อ่อน

เพลีย หมดพลัง ไม่มีแรงเดินไปทำงาน เดิน

ไป-กลับ หอพัก-ที่ทำงาน เดินแทบไม่

ไหว มองหาที่นอนข้างทางว่าจะลงไปนอน

ตรงไหนดี ปี พ.ศ.2539 อาการหนักขึ้นกว่า

เดิม ปวดศรีษะมาก เหม่อลอย หลงลืมมาก

ขึ้น เกือบจะต้องลาออกจากงาน เพราะทำ

งานผิดพลาดเยอะมาก คิอฆ่าตัวตายหลาย

ครั้ง แต่กลัวตกนรก เข้ารับการรักษาที่ รพ.

พระมงกุฏเกล้า,รพ.จุฬา,สถาบันประสาท

แพทย์วินิจฉัยไม่มีว่าเป็นโรคอะไร เพราะ

ผลการตรวจ CT scan,MRI,และผลเจาะ

น้ำไขสันหลัง,ผังเข็ม,นวดแพทย์ไทย ผล

ทุกอย่างปกติ จึงต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป

คิดฆ่าตัวตายอีกครั้ง แต่สงสารแม่ กลัวท่าน

เสียใจ

     อยู่ต่อมาวันหนึ่ง พ.ศ.2549 มีญาติแนะ

นำ ให้ไปที่ตำหนักสมเด็จพระเจ้า

ตากสินมหาราช กทม. มีทวยเทพหลายองค์

เมตตาช่วย ปัดเป่ารักษาให้ อาการเหม่อ

ลอยลดน้อยลง และมีสติดีขึ้น แต่อาการมึน

ชา หัวปักยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิม

     จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2554 มีโอกาส

มาบ้านสวนพีระมิด(ปฏิบัติตามกฏบ้านสวน)

มาครั้งแรกก็มีอาการ หัวปัก ท่านอ.อุบล

เมตตา ไต่สวนกรรม และ ท่าน อ.อุบลและ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกว่าในอดีตชาติ ดิฉน เป็นผู้

บัญชาการรบ สั่งฆ่าคนเป็นจำนวนพันๆ คน

จึงมีจิตวิญญาณที่โกรธแค้นอยู่ในตัวดิฉัน

เยอะมาก จึงป่วยไม่หาย บุญที่เคยทำมามี

กำลังไม่พอ เจ้ากรรมนายเวรต้องการบุญที่

สร้างที่บ้านสวนฯเท่านั้น

     ดิฉันจึงมาสร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้าน

สวนฯเกือบทุกเสาร์-อาทิตย์ หลังจากนั้นจึง

มีอาการดีขึ้นตามลำดับ มีสติดีขึ้น ศรีษะปัก

น้อยลง ร่างกายแข็งแรงขึ้น คุณภาพชีวิตดี

ขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น รวมระยะเวลาที่ทนทุกข์

ทรมานเป็นเวลา 41 ปี

     ข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกในการกระทำความ

ผิดทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว จึงกราบขมาลาโทษ

ต่อท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายใน

อดีตชาติ-ปัจจุบันชาติที่เคยล่วงเกินท่านทั้ง

หลายให้ได้รับความทุกข์ ทั้งที่เจตนาและที่

ไม่ได้เจตนา และที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

     ข้าพเจ้า ขอแสดงอาการ ละพยศ ลด

มานะทิฏฐิ ขอสำนึกผิดในบาปกรรมที่ทำมา

ต่อไปนี้จะตั้งหน้าตั้งตา ละชั่ว ประพฤติดี

เชื่อฟังพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เดิน

ตามพระอริยสงฆ์ ลูกขอกราบขอบ

พระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่าน

อาจารย์อุบลและครอบครัว เสด็จปู่ป้าว

เวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีฯ หลวงปู่ปาน

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวน

พีระมิด