ReadyPlanet.com


สาตะกีเทพธิดา


สาตะกีเทพธิดา ๑

โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

 

ท่านผู้อ่านทั้งหลายหรือท่านผู้ฟัง

วันนี้จะมาคุยกันเรื่อง

นางเทพธิดาดอกบวบขม

คือ สาตะกีเทพธิดา

เรื่องสาตะกีเทพธิดา

มีเรื่องราวมาดังนี้

 

ในสมัยเมื่อ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ยังทรงพระชนม์อยู่เวลานั้น

ปรากฏว่า

สาวกขององค์สมเด็จพระบรมครู

ที่เป็นพระอรหันต์

นิพพาน

พระพุทธเจ้า

จึงได้สั่งให้ทำเป็นสถูป

คือ เป็นเจดีย์น้อย ๆ

 แล้วเอากระดูกฝังไว้ที่นั่น

อยู่ใกล้ ๆ กับบ้านหญิงคนหนึ่ง

ซึ่งไม่มีชื่อตามบาลี

แต่ชื่อของเธอคงมี

หญิงคนนี้เป็นคนจนมาก

ตอนเช้าก็ไปตัดฟืนในป่า

ตัดฟืนได้ไม่มาก

พอแบกถึงบ้านได้

ตอนเย็นก็กลับบ้าน

อาบน้ำอาบท่าเสร็จ

กินข้าวเสร็จ

นำฟืนไปขายก็ค่ำ

แต่ว่าเจตนาของเธอดี

 เธออยากจะทำบุญทำกุศล

อยู่ตลอดเวลา

แต่ว่าอาศัยความจนบังคับ

ความไม่ว่างบังคับ

ไม่สามารถจะไปทำบุญได้

 

 

อย่างนี้ในสมัยนี้

ปัจจุบันอาจจะมีมากเหมือนกัน

เห็นเขาทำบุญ

ก็มีความชื่นใจ

อยากจะไปทำบุญ

ตัวเองก็จน

 ตอนเช้ากินข้าว

แล้วตัวเองต้องไปตัดฟืน

ห่อข้าวไปกินด้วย

 

ตอนเย็นพอตัดฟืนเสร็จก็กลับ

แบกฟืนกลับ

เย็นกว่านั้นหน่อย

ก็นำฟืนไปขาย

มันก็พอกินไปวัน ๆ หนึ่ง

จะเหลือบ้างก็เล็กน้อย

อาศัยที่เป็นคนจน

คงกินกับข้าวไม่มาก

จะมากก็คือข้าว

จะขยักสตางค์ไว้

 

มาวันหนึ่งเธอไปตัดฟืน

เห็นดอกบวบขมบานจ้า

มีสีเหลืองคล้ายจีวรพระ

ก็เกิดศรัทธาขึ้นมาในใจว่า

ดอกบวบขมนี้

มีสีคล้ายจีวรพระ

เมื่อเวลาเรากลับ

เราจะนำดอกบวบขมนี้

ไปบูชาเจดีย์

ที่เขาบรรจุ

กระดูกพระอรหันต์

 

พอตอนเย็น

ตัดฟืนเสร็จ

เธอเดินผ่านมา

ก็ตัดเอาดอกบวบขม

มาพอดี

 ถือเอากลับบ้านด้วย

 

เมื่อกลับมาบ้าน

ขายฟืนเสร็จ

อาบน้ำอาบท่าเสร็จ

กินข้าวกินปลาเสร็จ

 จึงตั้งใจว่า

วันนี้ทั้งชีวิต

เราเกิดมา

เราไม่เคยทำบุญ

สมัยนี้เป็นสมัยที่พระพุทธเจ้า

ทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก

 มีพระอรหันต์มาก

ชาวบ้านเขา

ฟังเทศน์กัน

เขาไปทำบุญกัน

เรามันจน

ไม่สามารถจะทำได้

แต่ว่าวันนี้

เรามีโอกาสได้ทำ

เราจะนำดอกบวบนี้

ไปบูชา

กระดูกพระอรหันต์

เมื่อคิดแล้วก็

แต่งตัวให้เรียบร้อย

ตามเท่าที่พึงมี

ถือดอกบวบขม

ไปถึงประตูรั้วบ้าน

ก็เป็นการบังเอิญอย่างยิ่ง

เวลานั้นนางยักขินี

แปลงเป็นวัวแม่ลูกอ่อน

ขวิดเธอถึงแก่ความตาย

แต่ว่าถ้าญาติโยม

จะถามว่า

เพราะอะไรนางยักขินีจึงขวิด

ก็ขอตอบว่า

ไม่ทราบเหมือนกัน

ทางบาลีไม่ได้บอกว่า

เป็นการจองเวรกันมา

ตั้งแต่ไหนก็ไม่ทราบ

เช่นเดียวกัน

เธอตายทั้ง ๆ ที่

จิตคิดจะไป

บูชากระดูกพระอรหันต์

ก็ถือว่า

เป็นสังฆานุสติกรรมฐาน

ตอนนี้ญาติโยมฟังแล้ว

ตั้งใจให้ดีนะ

ฟังแล้วคิดตามด้วย

 

เธอตั้งใจ

จะไปบูชากระดูกพระอรหันต์

เวลานั้นกำลังเดินไป

นางยักขินีแปลงเป็น

วัวแม่ลูกอ่อน

ขวิดเธอถึงแก่ความตาย

 เธอตายพร้อม ๆ กับ

จิตคิดว่าจะไป

บูชากระดูกพระอรหันต์

บุญเล็กน้อยเท่านี้เท่านั้น

บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย

เป็นปัจจัย

ให้เธอไปเกิดบนสวรรค์

ชั้นดาวดึงส์

เทวโลก

เป็นนางฟ้า

มีวิมานทองคำเป็นที่อยู่

มีนางฟ้าหนึ่งพันเป็นบริวาร

ทุกอย่าง

เครื่องประดับของเธอก็ดี

วิมานของเธอก็ดี

สีเหลืองหมด

ทั้งหมดเป็นสีทอง

 สวยสดงดงามมาก

 เธอมีความสุข

 เมื่อนึกถึงความเป็นอยู่

ที่ในสมัยที่เป็นมนุษย์

เห็นภาพที่เป็นมนุษย์

ว่าเราเป็นคนจน

เราไม่สามารถจะทำบุญได้

 พระพุทธเจ้าก็มี

 เราฟังเทศน์ไม่ได้

 พระอรหันต์ก็มี

 เราฟังเทศน์ก็ไม่ได้

 ใส่บาตรก็ไม่ได้

 เพราะไม่มีอะไรจะใส่

ใจมันอยากจะทำบุญ

 

นี่ว่ากันถึงใจนะ

นี่เจตนาของเขาดี

 เขาตั้งใจคิดว่าจะทำบุญ

ตั้งใจไว้เสมอ

ต่อมา

เมื่อพบดอกบวบขม

ก็ตั้งใจ

จะนำมาบูชาเจดีย์

ที่เขาฝังกระดูก

พระสาวกไว้

บังเอิญ

นางยักขินีขวิดตาย

 แปลงเป็นวัวแม่ลูกอ่อน

 เธอก็คิดว่า

 เออชีวิตมนุษย์

มันมีความลำบาก

ยากแค้นอย่างนี้

เวลานี้เราเป็นนางฟ้า

 มองดูวิมาน

ก็สวยสดงดงาม

มีสีเหลืองอร่าม

ดูเครื่องประดับกาย blockquote{ border:1px solid #d3d3d3; padding: 5px; }
[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1576496)

ก็มีสีเหลืองอร่าม

สวยสดงดงามมาก

ก็คิดในใจว่า

ตายจากความเป็นคนมันดีกว่า

เวลานี้เราเป็นนางฟ้า

 ความหิวก็ไม่มี

อิ่มทั้งวัน

ไม่ต้องกิน

ความร้อนเกินไปก็ไม่มี

 เย็นเกินไปก็ไม่มี

มันมีแต่ความสุข

กิจการงานที่จะต้องทำ

เช่น ตัดฟืนก็ไม่มี

ไม่ต้องทำอะไรทุกอย่าง

วิมานทั้งหมดก็สะอาด

ไม่มีฝุ่นละออง

 รั้วรอบขอบชิดของวิมานก็ดี

 นางฟ้าที่เป็นบริวาร

ตั้งพันคน

ก็คอยเอาอกเอาใจ

 ไอ้งานที่จะใช้นางฟ้า

ก็หายาก

เพราะไม่เหมือนมนุษย์

รวมความว่า

เธอมีความสุขเพลิดเพลิน

ในทิพยสมบัติ

.........................

คืนวันนั้น

บังเอิญพระโมคคัลลาน์

ความจริงพระโมคคัลลาน์

ตามประวัติของท่าน

เวลาเจริญกรรมฐาน

พอจิตเป็นสุข

ก็ไปเที่ยวสวรรค์บ้าง

ไปเที่ยวนรกบ้าง

เจอะคนนั้นเจอะคนนี้

 เจอะเทวดานางฟ้า

ที่เกิดใหม่ก็ถามว่า

มาจากไหน

 เธอเคยทำบุญอะไรไว้

อย่างนี้เป็นต้น

พ่อชื่ออะไร

แม่ชื่ออะไร

ญาติพี่น้องชื่ออะไร

 หรือว่าคนที่รู้จักเธอ

ยังมีชีวิตอยู่ไหม

ถ้าเขาตอบว่ามี

ท่านก็จะนำเอาบุญกุศล

ที่เขาทำแล้ว

ไปเกิดเป็นเทวดา

เกิดเป็นนางฟ้าเป็นต้น

มาบอกแก่ญาติ

ให้ญาติมีความดีใจ

ญาติก็มีความอิ่มใจว่า

 ญาติของเรามีความสุข

ถ้าญาติของใครตกนรก

เพราะกรรมอะไร

ก็นำมาบอกเช่นเดียวกัน

 เป็นการเทศน์

ตรงไปตรงมา

ตามความเป็นจริง

 เพื่อให้ชาวบ้าน

มีความเข้าใจ

ในคำสั่งสอน

ขององค์สมเด็จ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระโมคคัลลาน์

นี่เป็นพระที่มีความสำคัญ

เป็นกำลังใหญ่ของพระพุทธเจ้า

 หมายความว่า

คนที่จะมีความเลื่อมใส

ในพระพุทธศาสนา

มาจากพระโมคคัลลาน์มาก

 ถ้าท่านเที่ยวบอกเขาอย่างนั้น

คืนวันนั้น

พระโมคคัลลาน์

หลังจากทำสมาธิ

พอสมควร

 

....................

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจมาศ ประดิษฐ์ผล (kiradung-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 10:42:16


ความคิดเห็นที่ 2 (1576522)

อยากขอความร่วมมือ

จากคุณเบญ และ ทุกท่าน

ที่เปิดกระทู้ใหม่

 

ถ้าไม่จำเป็นขอให้

อยู่ในกระทู้เดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-05 12:07:37



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.