ReadyPlanet.com


อาจารย์อุบลสอนให้ตั้งอยู่บนความจริง


 

วันที่ (29 พค. 54) ได้มาบ้านสวน เพื่อทำบุญ และขอขมา   กลุ่มที่จะขอบคุณและขอขมา อาจารย์ให้ไปลงชื่อที่สมุด
แล้วตอนบ่ายจะเรียกตามลำดับที่ลงไว้ ดิฉันได้ลำดับที่ 7 แต่เนื่องจากจะกลับตอนเที่ยง  จึงไปหาอาจารย์เพื่อนำสิ่งของมาร่วมทำบุญ แต่ดิฉันได้รับสิทธิพิเศษกว่าท่านอื่น เป็นว่าอาจารย์ให้ขอขมาในตอนนั้นเลย   ทุกท่านต้องดูให้ดีนะคะ คนพิเศษของบ้านสวนฯ คืออย่างไร ก็เป็นประเภท บาปสุดๆ ชั่ว สุด ๆ ค่ะ
            เรื่องที่ 1 เวลาอ่านเวปไซด์ ก็จะคิดว่า อ. อุบล เขียนแรงจัง 
            เรื่องที่ 2 การนำสินค้ามาให้คุณเตี้ยขายในบ้านสวนฯ โดยไม่ได้ขออนุญาตอาจารย์
โดยใจความสำคัญที่ อาจารย์และเบื้องบนได้กรุณาอบรมและชี้แนะดิฉัน คือ
1.                  เรื่องความรู้ (การศึกษา) มันไม่ได้ช่วยให้จิตใจเราสูงขึ้นเลย
2.                การที่แต่ละคนมีสัญญาณรับคลื่นที่มากระทบนั้นแตกต่างกัน   พวกผิดศีลก็จะรับไดเฉพาะสัญาณในกลุ่มเดียวกัน สัญญาณคลื่นสีขาวจะรับไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เปิดช่องไว้
3.                เรื่องของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ท่านทุ่มเททุกอย่างเพื่อประชาชนของพระองค์ แต่พวกเราไม่เคยทราบซึ้งเลย และได้ทราบเหตุผลที่พระงค์ออกมานั่งที่ท่านน้ำ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
กรรมที่ดิฉันทำมา
-          คดโกงเงินแผ่นดิน โดยรับเงินไม่ออกใบเสร็จ, ทำเอกสารเท็จในการประชุม (ประชุมครึ่งวัน เบิก 1 วัน,ให้ร้านออกใบเสร็จไม่ตรงกับจ่ายจริง โดยเงินส่วนต่างนี้จะนำเข้าเงินกองกลางของสำนักงาน)
-          ผิดศีลข้อ 2 โดย นำของใช้ของสำนักงานมาใช้ที่บ้าน   ปริ้นเอกสารส่วนตัว   ตอนเป็นนักศึกษาเสื้อเพื่อนติดมากับกล่องของเรา ก็ไม่คืนเพื่อน (ทั้งที่เราก็ใช้ไม่ได้เพราะคนละไซด์กัน)
-          ผิดศีลข้อ 4 โกหกคนที่บ้านเรื่องมาบ้านสวน ฯ
อาจารย์บอกว่า เมื่อกรรมทั้งหมดมารวมตัวกัน ก็ทำให้ดิฉันถูกปิดกั้นในการรับรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเครื่องรับเรา รับได้เฉพาะพลังสีดำ แม้ใครจะหลอก หรือทำไม่ดี เราก็ไม่รู้ตัวนึกไม่ได้ เพราะเราเองก็อยู่ในกลุ่มนั้น   มีคนคอยบอกคอยเตือนก็รับไม่ได้ ไม่เห็นช่องทางสว่าง จึงทำให้ดิฉันต้องเสียเงินมากมาย (ก็เป็นเลขเจ็ดหลัก) ซึ่งก็จะเป็นเหตุการณ์เดิม ๆ คือ ยืมแล้วไม่ใช้ ตัวเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นเพราะอะไร มาบ้านสวนฯ ก็ได้ทราบเหตุและผลที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ แต่ก็ยังดึงตัวเองขึ้นมาไม่ได้ ผิดศีลก็ยังผิดอยู่ มันเลยเป็นวังวนอยู่เช่นนี้ 
            แล้วจะมาเล่าต่อนะคะ เพราะยังงงๆ เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก รู้แต่เพียงว่า ตัวเองเป็นคนอกตัญญู  ไม่รู้บุญคุณคน โดยเฉพาะอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ ขอขมาแล้วอาจารย์บอกว่าให้เราสัมผัสได้ แต่ดิฉันสัมผัสอะไรไม่ได้เลย   รอเรียบเรียงก่อนนะคะ หรือถ้าท่านใดที่อยู่ด้วยในวันนั้น จะช่วยเล่าด้วยก็ได้นะคะ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้คิดว่าตัวเองชั่วขนาดนี้ แต่เมื่ออาจารย์ค่อย ๆ พูดและชี้แนะ ให้เราเห็นทางสว่าง รู้สึกรับตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมเราทำได้ถึงเพียงนี้ โดยไม่คิดอะไรเลย ไม่ได้สนใจความรู้สึกของอาจารย์เลย ตอนนั้นรู้สึกหูอื้อตาลายหมดแล้วค่ะ   รับรู้แต่เพียงว่าได้รับความกรุณาจากเบื้องบนอย่างที่สุด ท่านทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราได้เปลี่ยนตัวเองให้ทัน ให้เรารักษาศีลให้บริสุทธิ์ให้ได้
(แล้วมาใหม่นะคะ)


ผู้ตั้งกระทู้ ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-30 14:58:31


<< ก่อนหน้า 1 2 [3]

ความคิดเห็นที่ 201 (1554656)

ดอกไม้  ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่กัญญ์เหมือนกัน คือ

วันหนึ่งพี่กัญญ์ให้ดอกไม้ปักชื่อ ชุดนักเรียน

ให้กับซานต้าใส่แผ่นผ้ามา 1 อัน มาให้

พี่กัญญ์ บอกไม่พอ ต้อง 3 อัน และก็ไม่ได้บอก

อาจารย์เพราะที่ทำมาให้เป็นเงิน 100 บาท

พี่กัญญ์ให้มาแล้ว แต่พอดอกไม้ไปบ้านสวนฯอีก

พี่กัญญ์เขาพูดเรื่องเงินซื้ออุปกรณ์การเรียน

ว่าทางรัฐจ่ายคืนให้ 450 บาทแต่ต้องซื้อก่อน

ค่อยไปเบิกกับทางโรงเรียน เรื่องมีอยู่ว่า

พี่หัญญ์บอกชุดนักเรียนใส่ไม่ได้แล้วก็เลยจะซื้อ

ชุดนักเรียนก็เหมือนจะให้หนูจ่ายให้ก่อนแต่

มีคนบอกว่า จะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องบอกอาจารย์อุบล

ก่อน แล้วหนูก็บอกพี่กัญญ์ว่า

ให้พี่กัญญ์บอกอ.อุบลก่อนนะ

พอตอนเย็นดอกไม้จะกลับบ้านก็ถามพี่กัญญ์ ว่า

พี่บอก อ.อุบล หรือยัง  เขาตอบว่า ยังไม่ได้บอก

เอางั้น ขอเบอร์ดอกไม้ไว้เดี๋ยวเขาโทรหา

คือ อ.อุบล ไม่อยากให้พี่กัญญ์ รบกวนใคร

เพราะท่านคงทราบนิสัยพี่กัญญ์ดี แต่ดอกไม้ช่วย

พี่กัญญ์เท่านี้ คือ ซื้อชุดนักเรียน ปักชื่อ ไม่อยาก

ให้ท่าน ต้องเสียเวลา ท่านมีเรื่องที่จะต้องทำเยอะแยะ

พอจะแบ่งเบา อ.อุบล ได้ก็อยากทำ แต่พี่กัญญ์

กับบอกว้า เขาเป็นคนบอก อ.อุบล ก่อน ค่อยซื้อชุด

นักเรียน ดอกไม้ก็เลยมาถามพี่กัญญ์ว่า  พี่กัญญ์จะบอก

อ.อุบล ก่อน และพูดถึงเงินที่ทางโรงเรียนจะคืนให้

พี่กัญญ์บอกว่า อ.อุบล ไม่เข้าใจ มาตั้งแง่ อะไรกับ

พี่เขาหนักหนา เขาจะไม่อยู่แล้ว เขาจะอยู่ที่บ้านสวนฯ

อีก 9 + 9 วัน และตอนนี้ได้อยู่ที่ชอบ ที่ชอบแล้ว

พฤติกรรมของพี่กัญญ์ และทุกอย่างที่เขาทำกับ อ.อุบล

ก็ได้รู้นิสัยอะไรหลาย ๆ อย่าง

เพราะเมื่อก่อนไม่ได้สัมผัสอะไรมากมาย แค่ญาติธรรม

ไปสร้างบุญคนหนึ่ง

และดอกไม่ก็จะสารภาพเกี่ยวกับเรื่องการยืมเงิน

คนที่มาบ้านสวนฯ  ดอกไม้เคยยืม พี่โอ๋ 2,000 บาท

พี่นิด 1,000 บาท คืนหมดแล้วค่ะ

จากเหตุการณ์พี่กัญญ์ ทำให้มองตัวเองมากขึ้น

ค่อย ๆ คิดให้มากขึ้น ได้รู้ใจของตัวเองมากขึ้น

จะได้ไม่ทำอีก

ดอกไม้ขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุก ๆ พระองค์

ในบ้านสวนพิรามิด และครอบครัว อ.อุบล ค่ะ

( ประวีณา แค้มป์ ผู้พิมพ์)

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 21:11:52


ความคิดเห็นที่ 202 (1554883)

แต่

ต้องสำรวจ

กาย ใจ วาจา อย่าประมาท

เพราะ มันพลาดได้ทุกเมื่อ

ที่สำคัญ

 

อย่าหลวมตัว

หลงกล อย่า เต้นตาม

จังหวะเพลง

ที่เขาอยากให้ เราเต้น

นะจ๊ะ คนดี

อนุโมทนาบุญค่ะอาจารย์

พยายามสำรวจกายใจตามที่อาจารย์เมตตาสอนตลอด ตั้งใจพยายามทำตามคำสอนของอาจารย์ตลอด

ทำไปแบบโง่แบบที่อาจารย์บอก

บ่อยครั้งที่ความเคยชินกับสิ่งไม่ดี ทำให้เผลอทำชั่ว

แต่ตั้งใจเสมอว่า

จากไม่ปล่อยชีวิตตามยถากรรมเหมือนที่ผ่านมา

ต้องหนีกรรมชั่วของตัวเองให้ได้ เร่งทำบุญสร้างความดี

กราบขอบพระคุณค่ะที่เมตตาสั่งสอนลูกมาตลอด

สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-28 20:20:38


ความคิดเห็นที่ 203 (1554947)

ตอบหนูส้ม

อ.อุบล ให้เงินหนู

เพราะ อ.อุบล วานหนู

ให้ไปซื้อหนังสือที่ซอยสายลมให้

 

เพราะ

อ.อุบล ไม่สามารถไปเองได้

และหนูก็อาสาด้วยความเต็มใจ

อยากมีส่วนร่วมบุญกับ อ.

 

หนูเต็มใจไปซื้อให้

อ.อุบล เต็มใจ ช่วยค่าใช้จ่าย

และ แถมให้หนู ด้วยความรัก

เพราะ

หนูอาสา ไม่ได้มารับจ้าง

 

อ.อุบล

จะมองดูชีวิต แต่ละคน

ที่เข้ามาหา อ.

 

เงิน 500 บาท

ของ อ.อุบล ที่ให้หนูด้วยความเต็มใจ

กลับทำให้หนูมีความกังวล

ว่าจะเป็นบาปหรือไม่

 

คนดี

ก็กลัว บาป เช่นนี้ นี่เอง

 

ถ้าทุกคน

มีใจสูง เหมือนหนูส้ม

โลกนี่คงน่าอยู่ไม่น้อยนะ

 

อ.อุบล

ดูหนูมาตั้งแต่ครั้งแรก

หนู และ ครอบครัว ทุกข์มาสาหัส

ทั้งติดขัดเรื่องเงินทอง สุขภาพ

ความปรองดอง

 

แต่

มาเพียงครั้งเดียว

ทุกคนก็เปลี่ยนแปลงกันได้

แม้ยังไม่ 100 %

แต่ก็เพียรพยายามไม่หยุดหย่อน

มีความตั้งใจจริง และ จริงใจ

ไม่หน้าว่าย หลังหลอก

 

ไม่เคยบอกใครว่า

อย่าไปบอก อ.อุบล นะ

 

นี่คือสิ่งที่

ครอบครัวหนู และ หนู

ควรได้รับการส่งเสริม สนับสนุน

 

อ.อุบล

จึงพิจารณา ทูลถาม

เสด็จพ่อ

ในการ ส่งเสริม ให้เป็นเซ็นต์เตอร์

พาเมล่า ให้มีรายได้เสริม

และถ้ามีโอกาสใด

ที่พอช่วยได้

(คงไม่มากนัก)

 

ก็จะส่งเสริม กำลังใจ

ให้คนที่อยากเป็นคนดี

เงิน 500 บาท

ของ อ.อุบล ที่ให้หนู

เป็นเงินบริสุทธิ์ ให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์

และให้กับคนที่มีจิตบริสุทธิ์

เงินนี้ จะมีคุณ

 

แต่ถ้าหนู

หาทาง ใช้เล่ห์เหลี่ยม

ที่จะได้เงินจาก อ.อุบล ด้วยกลวิธี

ใดก็ตาม เงินที่หนูได้จาก อ.

ไม่ว่า จะ 500 หรือ 5 บาท

ก็ย่อมทำให้

ดวงชะตาหนู   ถึงฆาตร ได้

คือ

จะเป็นเงินร้อน

ที่นำไปทำสิ่งใด ก็เร่าร้อนทุรนทุราย

ไม่ว่าใครได้ไป ชีวิตจะมีแต่

ความเดือดร้อนวุ่นวาย

หาความสงบสุขไม่ได้เลย

สักนาทีเดียว

 

จิตใจจะตกต่ำ

คิดทำแต่ความชัว ที่พาตัวทุกเทวษ

จะหาเรื่อง สร้างแต่เหตุ

ที่ดำดิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

 

คราวนี้

หนูลองถามตัวเองว่า

เงิน 500 บาท ที่ อ.อุบล ให้หนู

หนูได้มาด้วยวิธีใด

1.เคยโกหก หรือ สร้างเรื่องเพื่อให้

อ.อุบล ต้องให้ หรือเปล่า

2.หนูเป็นฝ่าย เริ่มต้นเพื่อจะได้เงิน

จำนวนนี้หรือเปล่า

3.อ.อุบล ยัดเยียด เต็มใจให้รึเปล่า

4.หนูมีใจ อยากได้ (มาก่อน)รึเปล่า

5.หนูอยากได้ เงิน ของ อ.อุบล รึเปล่า

 

6.ได้ไปแล้ว ดีใจรึเปล่า แต่ที่มาเขียน

แสดงว่า ไม่ดีใจ แต่กลับเสียใจ

 

แล้วหนูลองดู

คุณกัญ ซิว่า เคยคิดที่จะ

ชดใช้ หรือ เสียใจที่ได้เงินใครไปรึเปล่า

และ มีความกตัญญู รู้คุณ กับผู้ที่

เคยให้เงิน เคยช่วยเหลือ รึเปล่า

เคยสำนึกในบุญคุณใครสักคนไหม

และ ตอบแทนคนที่เคยช่วยเหลือ

อย่างไร

 

แล้วอย่างนี้

คนที่กำลังคิดที่จะช่วยเหลือ

จะคิดอ่านกันอย่างไร

มีใครบ้างไหม

แม้แต่สักคนเดียว ที่เธอไม่ เนรคุณ

 

ดังนั้น

หนูส้มก็คิดเองนะจ๊ะ

ว่าเงิน 500 บาทที่หนูได้รับ

จาก อ.อุบล ด้วยความเต็มใจ

มันเป็นบาปหรือเปล่า

 

แล้วกับอีกคนหนึ่ง

ที่ได้เงินใครต่อใครไป

มันบาปรึเปล่า

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-28 23:16:17


ความคิดเห็นที่ 204 (1554951)

ถ้าทุกคนมีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป

และรู้สำนึกในบุญคุณของคนอื่นเสมอ สังคมนี้ ประเทศนี้

และโลกใบนี้ก็คงจะมีแต่ความสงบสุข ทุกคนช่วยเหลือ จุนเจือ

ซึ่งกันและกัน แต่ถ้าใครที่มีแต่ความทุกข์ เพราะทุกๆความคิด

จมอยู่กับความ"อยาก" คนนั้นก็คงจะหาโอกาสจ้องอยากจะได้ของ

ของคนอื่นมาเป็นของตนอยู่ำร่ำไป

 

อนุโมทนากับอาจารย์ รวมถึงเรื่องเล่าของคุณส้มและคุณดอกไม้ ด้วยนะคะ สาธุ  

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-28 23:34:23


ความคิดเห็นที่ 205 (1554958)

 เมื่อเร็วๆ นี้ ท่านอาจารย์อุบล เพิ่งจะเน้นย้ำในเรื่องของความละอายต่อบาป ความเกรงกลัวต่อบาป อย่างที่คุณชนิดาได้สรุปไว้แล้วนั้น...มาวันนี้อาจารย์ได้เมตตายกตัวอย่างเรื่องราวที่เข้ากับธรรมะในเรื่องของ "หิริโอตัปปะ" ได้อย่างลงตัวและเหมาะสมแก่เวลาอีกแล้วครับ...ก็ขอยกอีกหนึ่งคำอธิบายมาให้อ่านกันสั้นๆ ครับ

 

  

หิริโอตัปปะ

               ธรรมะที่คุ้มครองโลกมีอยู่ ๒ อย่าง คือหิริและโอตัปปะ  หิริคือความละอาย ความละอายในที่นี้ก็คือความละอายต่อความชั่วของเรา เป็นความละอายที่เรามองเห็นว่าชีวิตของเรากำลังก้าวไปสู่ความเสื่อม  เมื่อเราเห็นว่าจิตใจของเราขุ่นมัวและเศร้าหมองต่อกิเลส เราจะรู้สึกละอายเพราะสิ่งนี้เราเห็นได้ดีกว่าคนอื่นเห็นเรา เวลาที่เราเห็นว่าชีวิตของเรากำลังทำผิดอยู่ ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่เห็น แต่เรารู้สึกละอายนี้แสดงว่าหิริกำลังเจริญเติบโตอยู่ในชีวิตของเรา โลกในใจของเราจะงดงามขึ้น ขอให้ท่านเจริญหิริให้เติบโต ในสิ่งที่ท่านเห็นว่า ถ้าท่านรู้แล้วท่านไม่หยุด นั่นแสดงว่าหิริไม่เติบโต ท่านไม่มีเมตตาต่อตัวท่านเอง เวลาที่เรารู้ว่าเราหยุดตัวเองได้เมื่อเรารู้สึกละอาย เราก็จะเกรงกลัวต่อบาป เวลาที่เราเกรงกลัวต่อบาปแล้วหยุดทำบาปนั้น จึงเป็นคุณธรรมที่ตามมาหลังจากที่หิริเติบโตแล้ว เวลาที่เราเติบโตไปด้วยหิริโอตัปปะ คุณจะเห็นว่าคุณมีเมตตาคุ้มครองคุณอยู่ที่เดียว โลกในใจของคุณจะงดงามด้วยธรรมะสองตัวนี้ จงช่วยกันทำให้ใจของคุณงดงาม เพื่อให้โลกนี้มีสันติสุขด้วยหิริโอตัปปะในใจของเรา ขอให้ท่านมีความสุข
ธรรมะสวัสดี

 

ที่มา : เสถียรธรรมสถาน

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 00:15:46


ความคิดเห็นที่ 206 (1554971)

อนุโมทนาด้วยค่ะอาจารย์แม่

หนูก็จะไม่เต้นไปตามเพลงที่เขาเปิด

และทางที่ดีจะหาอะไรมาปิดกั้นรูหูตัวเองด้วยค่ะ

เพื่อป้องกันการเกิด ก่อ ของกรรม

ที่จะทำให้เราทุกข์ตามมาค่ะ

สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 03:31:46


ความคิดเห็นที่ 207 (1554973)

พี่มหา

มาเทศยามดึก

 

มีหนูหญิง คนเดียว ฟังเทศ

 

แต่ว่าเสียงเทศพี่มหา

มันจะเข้าไปในใจ ได้เฉพาะ

มนุษย์ เท่านั้น

 

เพราะนี่คือ

เทวธรรม ธรรม ที่ทำคน

ให้เป็นเทวดา

 

แต่ถ้า

ผู้เดินผ่านมา เห็นธรรม

ของพี่มหา บังเอิญ ไม่ใช่คน

ที่จะมีที่ไป สู่ สุขคติภูมิ

เขาก็ไม่รับรู้

ด้วยจิตมุ่งสู อบายภูมิ

 

เรียกว่า

 

มืดมา  แล้ว  มืดไป

 

พวกเราทั้งหลาย

ที่เคยทุกข์ระทม แล้วกลับใจ

 

ท่านเรียกว่า

มืดมา  แล้ว  สว่างไป

 

แต่ถ้า

ทุกข์ระทมมา  แล้วยังไม่กลับใจ

 

ท่านเรียก

 

มืดมา  แล้ว  ยิ่งมืดไป

อันนี้เท่ากับ

ขาดทุน

 

เพราะอุส่าห์

ได้เกิดเป็นคน แต่ต้องไป

เป็นสัตว์นรก

 

ถือว่า

การลงทุนนั้น ไม่มีผลกำไร

ก็คือ เสียชาติเกิด นั่นเอง

 

สำหรับที่

เกิดมาดี  มีสุขพร้อม

แล้วก็ยังมาสร้างความดีต่อ

มีสุขอีก ในบั้นปลาย

 

ท่านเรียกว่า

 

สว่างมา  แล้ว  สว่างไป

มาจากที่สูง  แล้วก็

จะไปสู่ที่สูงยิ่งขึ้นไป

จึงเรียก สว่างมา แล้ว สว่างไป

คือ

อยู่หรือตาย ก็ไม่มีทุกข์

 

ส่วนผู้ที่

สว่างมา  แล้ว  มืดไป

คือ

พวกที่เกิดมาดีมีสุข

แต่มาสร้างทุกข์ภายหลัง

เรียกว่า หลงระเริงกับสุข จนทำชั่ว

สร้างทุกข์ให้ผู้อื่น

 

จนในที่สุดก็เข้าตำรา

ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตน

แม้ว่าบุญกุศลเก่า เคยทำมาดี

แต่มาสร้าง ราคี ให้ตนตกต่ำเอง

นี่แหละกรรม

สว่างมา  แล้ว  มืดไป

ยังไงก็ขาดทุน

 

ถือว่า

การลงทุนนั้น มันไม่มีผล

อุส่าห์ได้เกิดเป็นคน เลือกที่ได้

แต่ดันเลือกไปเป็น

สัตว์นรก

 

อันนี้

เขาเรียกว่า

โง่  หรือ  ฉลาด

นะ พี่ มหา

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 05:53:26


ความคิดเห็นที่ 208 (1554979)

ตามมาฟังเทศน์ทั้งจากพี่มหา และ อาจารย์นะคะ..สาธุ สาธุ สาธุ

สงสารคนทุกคนที่เลือกจะไปทางมืดนะคะ..

ไม่อยากเดินทางกลับลงไปเจอท่านนิรยบาลก็ต้องมี หิริโอตัปปะ..ไม่ยาก ไม่ยาก

แต่ต้องแข็งใจ หักห้ามใจ เดินทวนกระแสซะ..ไม่ยาก ไม่ยาก


น้องหญิง ไม่เต้นตามเพลงได้ก็เก่งมาก..

แต่พี่น้อง มีศักดิ์เป็นพี่ ใจยังดิ้นดุกดัก ๆ อยู่เล้ย..ย๊าก ยากกกก 

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ สุขวัจนี (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 07:42:02


ความคิดเห็นที่ 209 (1555006)

การลงทุนนั้น มันไม่มีผล

อุส่าห์ได้เกิดเป็นคน เลือกที่ได้

แต่ดันเลือกไปเป็น

สัตว์นรก

-*-*-*-*-*-*-

ทำให้เข้าใจว่า

สัญญาณของ..สัตว์นรก..

ที่ไม่สามารถเข้าถึง

ธรรมได้..แม้จะ

พยายามสอดแทรก

ก็คงไม่พ้น

ธรรมชาติมนต์ดำ

ของ

สันดานดิบ .. สัตว์นรก

ไปได้

 

กราบขอบพระคุณ

ในธรรมทาน คำสอนค่ะ

คราวนี้ต้องเตือนตัวเอง

เสมอ ๆ แล้วว่า

ตัวเรา..

สว่าง หรือ ยัง?

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 10:17:21


ความคิดเห็นที่ 210 (1555063)

น้อมรับธรรมะจากท่านอาจารย์ ไปปรับปรุงตัวเองสร้างสำนึกในใจให้เกรงกลัวต่อบาปแม้ไม่มีใครเห็น  สร้างแสงสว่างให้ตัวเองขจัดความมืดออกไปค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิภา มุกดาม่วง (nu-toon-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 14:47:50


ความคิดเห็นที่ 211 (1555093)

ถึงแม้จะมาแบบ "อึมครึม"

แต่ขอไปแบบสว่างและว่างๆ ด้วยเถิด สาธุ..

 

อนุโมทนาค่ะอาจารย์ แต่ละคนมีต้นทุนมาไม่เท่ากัน

แต่สิ่งที่สำคัญคือ ไม่ควรนำต้นทุนที่มีมานั้นไปลงทุนผิดที่

มิเ่่ช่นนั้น ไม่ว่าจะต้นทุนหนาหรือน้อย ทำยังไงก็"ขาดทุน"อยู่ดี

เพราะชีวิตนี้ มัวแต่ไปทุ่มลงทุนกับเรื่องของ"กาย"

ไม่ใช่เรื่องของ"จิตใจ"...อย่างที่ควรจะเป็น

 

ฉะนั้น ถ้าอยากเป็นเทวดาเดินดิน

ก็ต้องมี"หิริ โอตัปปะ" ซะ่ก่้อน อนุโมทนาจ๊า..พี่มหา..

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 17:45:11


ความคิดเห็นที่ 212 (1555110)

      สาธุ ถึงแม้ลูกจะมืดมา แต่ขอสว่างไป ด้วยเถิด

ตอนนี้น่าจะอยู่ระหว่างอึมครึม ค่อนไปทางสว่าง แต่ก็พยายามอยู่นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) (parichat-dot-chompoo-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-29 19:46:20


ความคิดเห็นที่ 213 (1555159)

ขออนุโมทนาธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบล

คุณส้ม คุณพี่มหา พี่ชนิดา และทุก ๆ ท่านด้วยคะ

บางคนตั้งใจจะหลับตาเดิน ต่อให้แสงสว่างอยู่ตรงหน้าก็ไม่เห็น

แต่ถ้าพยายามเปิดตา มองหาแสงสว่างบ้าง ก็ต้องมีหวังบ้างล่ะ

ยังไงหนูขอเกาะอาจารย์และพี่ ๆ ไปทางสว่างด้วยคนนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 00:00:54


ความคิดเห็นที่ 214 (1555186)

ขออนุโมทนากับธรรมทานของอาจารย์แม่ค่ะ

จะเดินไปแต่ที่ๆมีแสงสว่าง

หลบทางมืด

และไม่เดินไปทางที่มือมิดนี้ค่ะ

เพราะไม่รู้ว่าเดินไปแล้วจะไปเจออะไรบ้าง

รู้แต่ว่าเสียเปรียบเพราะเรามองไม่เห็นอะไรเลย

แม้แต่แสงสว่างของธรรม


หนูขอติดรถไฟขบวนสุดท้าย

ของอาจารย์แม่ไปด้วยคนนะคะ

สัญญาว่าถ้าได้ขึ้นรถไฟแล้ว

จะไม่ทำความทุกข์ให้ตนเอง

และคนที่อยู่ในนั้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 04:48:50


ความคิดเห็นที่ 215 (1555208)

ขอให้ทุกคน

ได้เข้ามาขอบคุณ

ธรรมทาน จาก ชีวิตจริง

ที่

กัญญ์วิญาน์ สุวัฒนาพร

และ

น้องซานต้า

ศศรส สุวัฒนาพร

 

ได้มาสอน มาให้เราได้ศึกษา

ธรรมะ ธรรมชาติของคน

ได้ลึกซึ้ง ละเอียดขึ้น

ดีกว่า จะไปมอง

ความไม่ดี

ของเขา

 

เอ้า

คราวนี้ลองบอก

ซิว่า

ใครได้รับประโยชน์อะไร

จาก 2 ชีวิตนี้

บ้างจ๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 09:45:10


ความคิดเห็นที่ 216 (1555220)

ขอขอบคุณ ธรรมทาน จากคุณกัญญ์ และน้องซานต้าคะ

ทำให้เข้าใจธรรมชาติของคนได้ดีขึ้นจริง ๆ คะ

 

มองไปก็เห็นแล้วว่า ชีวิตนี้เกิดมามันทุกข์นัก ทุกชีวิตพยายามตะเกียกตะกายหาทางพ้นทุกข์ แต่ด้วยความไม่รู้จักชีวิต..จึงทำให้ทุกข์หนักเข้าไปอีก เพราะแสวงหาทางพ้นทุกข์ด้วยวิธีที่ผิด ๆ  เป็นผลให้สร้างทุกข์ให้ตัวเองเพิ่ม สร้างปัญหา สร้างปมให้ตัวเอง จมลึกลงไป

ซึ่งหากเราได้ศึกษา ในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ คำตอบของธรรมชาติไว้ทั้งหมดแล้ว เราก็จะเข้าใจสิ่งที่มันเป็นไป และดำเนินชีวิตได้ถูก ได้สอดคล้องกับธรรมชาติ อยากพบสุข ก็ต้องสร้างเหตุแห่งสุข เท่านี้เอง ก็จบ

แต่ด้วยความที่ เราอาจมาเข้าใจธรรมชาติช้าไปตั้งสามสิบ สี่สิบปี ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น มันได้เคยชินกับสิ่งผิด ๆ มามาก จนเราคิดว่าสิ่งนั้นมันคือสิ่งที่ถูกต้องไปแล้ว เราจึงสลัด จากความทุกข์เหล่านั้นได้ยากเหลือเกิน และถ้าเราไม่เข้มแข็งพอ ความเคยชินเหล่านั้น ก็จะพาเรากลับไปที่เดิม

เรื่องของคุณกัญญ์ทำให้รู้ว่าเหตุใด จึงมีนรก-สวรรค์ เหตุใดคนจึงเกิดมาไม่เท่ากัน รวย-จน ฉลาด-โง่ สูงศักดิ์-ต่ำต้อย และทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมีค่ามากขนาดไหน ไม่ใช่แค่การปลูกพืช แต่มันคือทฤษฎีแห่งชีวิตที่มีความสุขจริง ๆ และศีล 5 ข้อที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาบัญญัติไว้ให้เราปฏิบัตินั้น เป็นแนวทางแห่งชีวิตที่สงบสุขจริง เพราะเป็นการป้องกันการละเมิดผู้อื่น ไม่สร้างปัญหาและความทุกข์ให้ผู้คนรอบข้าง ตลอดจน พรหมวิหารสี่ คือแนวทางแห่งการสร้างความสุขในใจของเราเอง คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และสุดท้าย อุเบกขา คุณกัญญ์ ยังตามมาสอนถึงข้อสุดท้ายเลยคะ

ขอบพระคุณที่มอบธรรมทานชีวิตจริงให้ทุกคนได้พิจารณาเพื่อเป็นประโยชน์ได้เห็นทุกข์ของความเป็นคนอีกหนึ่งรูปแบบ เพื่อเป็นแรงใจให้มุ่งมั่นปฏิบัติเพื่อพ้นไปจากการเกิดเป็นคนให้ได้คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 11:01:04


ความคิดเห็นที่ 217 (1555245)

ขอขอบคุณกับธรรมทานจากชีวิตจริง

ของคุณ กัญญ์ และน้อง ซานต้า

ธรรมทานนี้สอนให้รู้จักคำว่า...ไม่โลภ,ให้อภัย,คำว่าสัจจะ,

อย่าอยากได้ของผู้อื่น,ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน,

ไม่โกรธ,สงสารผู้อื่นเป็น,ปล่อยวาง,คำว่าทุกข์,ดิ้นรน,

ต่อสู้ในทางที่ถูก,ไม่โกหก

ขอบคุณกับธรรมทานจากชีวิตจริง

จะได้นำมาพิจารณาตัวเอง  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 13:44:00


ความคิดเห็นที่ 218 (1555271)

 อนุโมทนาบุญกับทุกธรรมทานค่ะ

ดิฉันไปบ้านสวนเจอคุณกัญแค่ครั้งเดียว

เขาก็พูดเรื่องชีวิตล้มเหลว พลาดไป ทำนองนี้

ก็ไม่ถามอะไรเขาต่อ

ช่วงที่ทำงานขนดินด้วยกันก็คุยเรื่องงานโปรเจ็กอะไรสักอย่าง

แล้วก็บอกว่ามีโอกาสเข้ามา ก็ต้องไป

โชคดีที่บังเอิญดิฉันไม่ได้สนใจ  เพราะไปครั้งแรก

จะมุ่งสนใจกฏระเบียบบ้านสวน และทำงานให้ได้บุญมาก ๆ

ถ้าได้เจอหลายครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 16:05:25


ความคิดเห็นที่ 219 (1555288)

ขอโมทนาบุญกุศลของธรรมทานของทุกท่านนะครับ

ที่จะส่งเสริมให้เราหันมาเริ่มสำรวจดูตัวเราเอง

ว่าเราบกพร่องอะไรอยู่บ้าง

แก้ที่ตัวเรา

ทุกสิ่งจะดีขึ้นเอง

 นึกถึงบทกลอนที่ว่า.....................

.............ท่านตาสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์    มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด

แม้นเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวเลี้ยวลด    ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน.................


............มหาสมุทรสุดลึกล้น                    พรรณณา  

           สายดิ่งทิ้งทอดมา                         หยั่งได้

           เขาสูงอาจวัดวา                             กำหนด  

               จิตมนุษย์นี้ไซร้                              ยากแท้  หยั่งถึง....................              


                        ไม่รู้ว่าจำมาถูกหรือเปล่านะครับ  ขออภัยด้วยนะครับ  หากผิดพลาด

ธรรมะที่ได้จากชีวิตจริงของพี่กัญและน้องซานต้า..............

กลับมาสอนใจเราว่า  ของฟรี  ของคนอื่น

เราไม่ควรต้องการอยากจะได้  จะดีที่สุด

เรียนรู้ที่จะพอใจในฐานะของตน

นกน้อยทำรังแต่พอตัว

พอใจในสิ่งที่ตนมียินดีในสิ่งที่ตนพึงได้

ตนแลเป็นที่พึ่งของตน

การที่เรามีศีลเป็นปกติ

ทุกอย่างก็เรียบร้อย

ความทุกข์ทั้งหลายก็จะดับลงได้

ด้วยความปกติจริงใจของเราเอง

การยอมรับความจริง

เป็นการกลับมามองหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์

แล้วพร้อมที่จะแก้ไข

จะได้หลุดกรรมที่ไม่ดีเสียทีหนึ่ง

หากเราไม่ยอมรับ

ไม่สนใจในศีลธรรมอันงดงามแล้ว

ผลที่สะท้อนออกมาจะได้รับเป็นความสุข

ที่เรามีความสุขแบบสุขแท้ๆได้อย่างไรกันเล่า

กฎธรรมชาติมีอยู่

สร้างเหตุเช่นไร

ได้รับผลเช่นนั้น

หากวันนี้ใจเราทรงความดี

ผลของการทรงความดีนั้นก็เกิดฉับพลัน

แม้นมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ

แต่ปรากฎออกมาเป็นความสุขใจ

เรานี่แหละที่รู้ก่อนใคร

ผิดกับความสุกที่สุกแบบไหม้ๆ

เผาลนใจเราตั้งแต่ที่คิดแล้วจริงหรือไม่

นิพพาน  ปรมัง  สุขขัง


 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 18:19:07


ความคิดเห็นที่ 220 (1555313)

ขอขอบคุณธรรมทาน

จากชีวิตจริงครั้งนี้ด้วยครับ

ขออานิสงของธรรมทานครั้งนี้

จงช่วยดลบันดาลให้ทั้งสองแม่ลูกมีดวงตาเห็นธรรมและหลุดพ้นด้วยเทอญฯ

สาธุ สาธุ สาธุ

............................

ขออนุญาติมองแบบคนภูมิธรรมต่ำเตี้ย

ผมมองเป็นเรื่องบัวสี่เหล่า

เปรียบก้อเหมือนบัวที่ไม่มีวันพ้นน้ำ

เป็นอาหารของปลาและเต่าไป

ถึงขนาดท่านอาจารย์ฯ ได้ให้โอกาศเขา

เป็นแสงสว่างชี้ทาง ให้เขาผุดขึ้นมาเบ่งบาน

เหนือน้ำแล้ว แต่ก้อยังชอบที่จะหมกอยู่กับโคลนตมเบื้องล่าง รอวันที่จะเป็นอาหารของปลาเต่าหรือไม่ก้อเน่าตายไปเอง

.....................................

ยังให้สติกับลูกหลานไม่ให้โง่เป็นควาย

อีกต่างหาก

เดี๋ยวบ้านสวนฯจะไม่มีฟางหญ้าเลี้ยง

(เกี่ยวกันไหมเนี่ย...555)

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป มานีมาน(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 21:12:06


ความคิดเห็นที่ 221 (1555345)

ทำให้ได้รู้ว่า

ต่อไปนี้ แม้จะอดอยากยังไง

ก็จะไม่ยืมของๆใคร

เพื่อให้ตัวเองมีสุข มีกิน มีใช้

เพียงแค่ช่วงเวลาชั่วครู่ค่ะ

จะจำบทกลอนนี้ ที่อาจารย์แม่บอกมาให้ขึ้นใจค่ะ

 

ถึงจนทนกัดก้อน     กินเกลือ

อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถอ    พวกพ้อง

อดอยากเยี่ยงเสือ     สงวนศักดิ์

โซก็เสาะใส่ท้อง    จับเนื้อ    กินเอง


ชอบมากๆ และจะปฏิบัติให้ได้ค่ะ

ของๆคนอื่น เมื่อได้มาแล้ว ก็ยังเป็นของๆเค้าอยู่วันยังค่ำ

หากไม่มีความละอายใจแล้ว

ก็ก่อให้เกิดความโลภ อยากได้

แต่ในเมื่อเราไม่มี เราก็ควรจะพอใจในสิ่งที่ตนมี

เพื่อตัดทุกข์ที่จะเกิด

ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง

แล้วความสุขจะอยู่ไม่ไกลจากเราค่ะ

 


ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 03:29:01


ความคิดเห็นที่ 222 (1555378)

อนุโมทนาบุญกับชีวิตที่เป็นธรรมทานของพี่กัญและน้องซานต้า

ขอบุญธรรมทานในครั้งนี้จงส่งผลให้ทั้งสองคนแม่ลูกดวงตาเห้นธรรม มีจิตที่หลุดพ้นด้วยเทอญ สาธุ

ธรรมทานในครั้งนี้สอนให้ตฤณรู้ว่า

ตนควรเป็นที่พึ่งแห่งตน

ไม่คิดอยากได้ของคนอื่นทั้งที่เขาเต็มใจและไม่เต็มใจให้ก็ตาม เราไม่ควรไปเบียดเบียนใครเพราะบางครั้งการใช้เขานำเงินสิ่งของมาช่วยเหลือเราเพราะเขาสงสารเรา ทั้งๆที่ตัวเขาก็เดือดร้อนเท่ากับเราไปสร้างกรรมต่อทำให้เขาเดือดร้อนเพราะการช่วยเหลือเรา

การช่วยเหลือคนอื่นด้วยเงิน สิ่งของถึงแม้เราจะให้ด้วยความจริงใจ เพราะจิตเรามีเมตตาแต่ก็เท่ากับเราไปแทรกแซงกรรมคนคนนั้น และอาจจะเป็นการปิดประตูสวรรค์ของเขาไป เพราะการแทรกแซงกรรมของเรา  เราควรให้ธรรมทานแก่เขาเพื่อเป็นการช่วยเหลือเขาอย่างถาวรและเป็นบุญสูงสุด

ความโลภอยากได้เป็นหนทางนำสู่ความทุกข์

จิตสำนึก คือ ถ้าเราสำนึกได้ว่าสิ่งที่เราทำมาผิด เราหยุดการกระทำไม่ดีนั้น แล้วเร่งทำความดีหนีกรรมไม่ดี เบื้องบนให้โอกาสเราเสมอ แต่ถ้าตราบใดที่เราไม่สำนึกยังก่อกรรมเรื่อยไป สิ่งที่เบื้องบนเทตตาทำให้หยุดกรรมคือความตายจากมนุษย์ไปชดใช้กรรมข้างล่างเท่านั้น

ความกตัญญูรู้คุณเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ที่จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความสันติสุขของชีวิต

ความละอายเกรงกลัวต่อบาปเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตในสังคมกับคนส่วนรวมมาก

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 10:50:12


ความคิดเห็นที่ 223 (1555385)

 

สิ่งที่ได้จากธรรมทานในครั้งนี้คือ

      -  การดำเนินชีวิตของแต่ละคน  แตกต่างกัน  ด้วยกรรมเป็นตัวก่อให้เกิด

ทุกคนล้วนเคยผิดพลาดมาแล้วทั้งสิ้น  แต่เมื่อวันหนึ่ง  เราได้มาพบผู้ชี้นำแสงสว่างให้กับชีวิตเรา

ซึ่งก็เป็นทางเลือกสำหรับเรา  ว่าเราจะเดินไปในทางสว่าง  หรือทางที่มืด

ถ้าเลือกเดินทางที่สว่าง  เราก็ต้องใช้กำลังใจอย่างมาก  เพื่อขจัดตัวถ่วงต่าง ๆ  ถ้าเราตั้งใจจริงเราก็ทำได้

แรก ๆ อาจจะลำบากและออกแรงมาก  แต่ถ้าเราทำไปสักระยะหนึ่ง  เราก็จะเริ่มเคยชิน

แต่ถ้าเราเลือกเดินไปในทางที่มืด  ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร  เพราะที่เราทำกันที่ผ่านมา  ก็คือลงนรกแน่นอน

      -  การทำบุญต้องเลือกเนื้อนาบุญ

      -  และสิ่งที่สำคัญ  คือ  การรักษาสัจจะ  เพราะถ้าเราไม่มีสิ่งนี้  ชีวิตเราก็คงเอาดีไม่ได้

ทำให้เราต้องทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก  เพียงเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น  ซึ่งเป็นการเห็นแก่ตัว

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 11:29:53


ความคิดเห็นที่ 224 (1555398)

ขอขอบคุณธรรมทานของทุกท่าน

มา ณ โอกาสนี้ค่ะ

ที่ผ่านมาเราได้ใช้วิกฤตสองแม่ลูก

เป็นบทเรียนให้แก่ชีวิตเรา

บางครั้งคนเราก็ต้องโง่ก่อนฉลาดค่ะ

และบางครั้งเราก็ต้องยอมเสียรู้ เพื่อให้ได้รู้

และไม่ตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้อีก

มนุษย์เราก็ต้องตกเป็นเหยื่อของความโลภ

กิเลส ตัณหา ความอยากมี อยากได้

ตัวตุ้ยเองก็เป็นค่ะ

แต่ ณ วันนี้เราใช้สติ ปัญญา คิดใครครวญก่อนที่จะทำมัน

ก็ทำให้ยับยั้งชั่งได้ค่ะ

บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่าก่อนทำอะไร

อย่าให้ความอยากมี อยากได้มาครอบงำ

จนลืมนึกถึงความถูกต้องนะคะ

รวมทั้งการเลือกตั้งด้วยค่ะ อิๆ

พรรคไหนให้สิ่งของ เงินทองแลกเปลี่ยน

ก็ใช้สติ ปัญญาคิดก่อนรับนะคะ

จำคำอ.แม่ไว้ค่ะ อย่าอยากได้ของฟรีของใคร

(แห่ะๆ ไหงมาโยงการเมืองได้แฮะ)

ไปละคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 12:15:18


ความคิดเห็นที่ 225 (1555430)

ขอบคุณสำหรับธรรมทานที่ได้รับจากคุณกัญญ์

น้องซานต้าและจากทุกๆท่านค่ะ

ธรรมะเบื้องต้นของมนุษย์ก็คือศีล 5 แต่หลายคนรวมถึงตัวเองด้วย

ก็ไม่เคยคิดที่จะปฏิบัติกันอย่างจริงจัง  เกิดมาทุกคนก็มีแต่ความอยาก

อยากรวย อยากสวย อยากเป็นที่ยกย่องชมเชย และแสวงหาแต่สิ่งที่

จะตอบสนองความอยากของตน โลภอยากได้นั่น ได้นี่ ทำทุกสิ่งทุกอย่าง

เพื่อการได้มาโดยไม่ถูกต้อง ต้องโกหก ตอแหล ขาดความละอายต่อบาป

ความโลภ ความหลง ทำให้เกิดการกระทำเพื่อสนองตอบความต้องการ

ของตัวเองที่ไม่มีทีสิ้นสุด โกหก สร้างภาพตามแต่จะคิดกันไป ให้ตัวเอง

ได้ในสิ่งที่ต้องการก็พอ ทำให้ขาดพรหมวิหาร4 ทำร้ายคนอื่นทำให้คนอื่นทุกข์

แต่ทุกข์ยิ่งตามสนองเรา เราทำผู้อื่นมากเท่าไหร่ เรายิ่งรับกรรมมากเท่านั้น

ทุกข์มากกว่าหลายเท่า พระพุทธองค์ให้คนรักษาศีล5 เพื่อไม่ให้เบียดเบียน

สร้างกรรมต่อกัน มีหิริโอตัปปะ คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป

หยุดก่อกรรมไม่ดีเพิ่มขี้นใหม่อีกเพื่อยุติกรรมนั้นๆ

เรื่องของคุณกัญญ์ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการพูด

การกระทำที่จะไม่ทำให้ผู้อื่น,ตัวเองเดือนร้อน มีความพอเพียง พอดี

ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เพราะจะทำให้จิตยิ่งถลำลึกมากยิ่งขึ้น ขาด

ความกตัญญูรู้คุณของผู้ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ สมควรที่จะมองหา

ความเลวของตัวเอง เพื่อจะได้หยุดยั้งไม่ให้ทำบาปมากยิ่งขึ้น

สร้างจิตสำนึกที่ดี ไม่ไปมัวแต่โทษผู้อื่น ต้องแก้และเปลี่ยนที่ตัวเอง

สิ่งสำคัญก็คื่อ จิตของเรานั่นเองที่เป็นใหญ่

และตัวเองก็พยายามทำอยู่ แต่ว่าก็ยังไม่ดีพอ คงต้องใช้เวลา

ความเพียร ความอดทนต่อไปค่ะ เพื่อหาหนทางแห่งความสว่างแก่

ตัวเอง แม้ว่าจะมาแบบขมุกขมัวแต่ขอไปแบบสว่าง ๆ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น (coffe-dot-i-joker-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 14:29:11


ความคิดเห็นที่ 226 (1555453)

มันคือเรื่อง มหัศจรรย์มากๆ ที่ชีวิตของคุณกัญญ์และน้องซานต้า สามารถเป็นธรรมทานสอนเรื่องสัจธรรมแก่พวกเราได้ในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องอริยสัจสี่ พรหมวิหารสี่ และที่สำคัญคือ การเลือกเนื้อนาบุญในการทำบุญ

 

ฉะนั้น ที่สุดของที่สุด คือ การพิจารณาหรือการใช้ปัญญาในการใช้ชีวิต เพราะจริงๆแล้วในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน อาจจะมีคนที่เป็นเหมือนกันคุณ กัญญ์ ไม่ใช่น้อยในสังคม อาจจะเป็นญาติ พี่น้อง หรือเพื่อนของเราเองก็ได้ ต่อไปถ้าเราจะช่วยใคร ทำอะไร เราจะต้องดูที่การกระทำของเค้าให้แน่ใจซะก่อน ก่อนที่จะให้ความช่วยเหลือ เพราะถ้าเราช่วยไปเพียงเพราะรู้สึกเห็นใจและ สงสาร หรือทำตามหน้าที่ แต่มันกลับเป็นการดึงเค้าและเราลงสู่"นรก" ด้วยกันก็ได้

 

เหมือนกับเราไปให้การสนับสนุน คนที่ทำผิดศีลครั้งแล้ว ครั้งเล่า และเค้าก็ยังทำตัวเช่นเดิม ไม่่คิดเปลี่ยนแปลงเลย เวลายืมตังค์ใคร ก็ได้ทุกครั้ง ฉะนั้นเค้าก็คงจะทำเรื่อยๆ แต่ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จ ซักวันเค้าก็อาจจะ"หยุด"ก็ได้... 

 

และที่สำคัญอย่าเชื่อ เค้า เพียงเพราะว่าเค้าพูดดีน่าเชื่อถือ และอย่าเชื่อเพียงเพราะเราคิดว่าเค้าเป็นคนสนิทของอาจารย์ คนที่แวดล้อมอาจารย์อาจจะมีทั้งดีสุดขั้ว หรือ อาจจะ "ชั่ว" สุดโต่งก็ได้ เพราะด้วยความประเสริฐของอาจารย์เอง อาจจะทำให้คนกิเลสหนา เข้ามาหาหนทางและสร้างผลประโยชน์บนความดีที่บริสุทธิ์ของอาจารย์ก็ได้..

 

ดู และ พิจารณาทุกๆคน ด้วยปัญญาของเราเอง ดีกว่านะคะ...


ธรรมทานนี้ เป็นธรรมทานที่ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือที่บอกเล่าเท่านั้น แต่เป็นธรรมทานที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทุกๆท่านที่เคยพบ เคยช่วยเหลือคุณกัญญ์ จะต้อง"จำฝังใจ" ไปตราบนานเท่านานว่า ชีวิตนี้จะไม่ช่วยใคร แบบมักง่ายอีกแล้ว ต่อไปจะต้องช่วยคนด้วยเหตุและผล จึงจะได้กุศลจริงๆ ฉะนั้น การให้คำแนะนำที่ดี ให้กำลังใจ ยังมีค่ามากมายกว่า การช่วยเหลือด้วย"เงิน" เป็นไหนๆ...

 

และสุดท้ายเราก็จะได้เห็นว่า ธรรมะแห่งพระพุทธองค์นั้น

คือ สัจธรรมที่มิอาจมีใครโต้แย้งได้เลย เพราะ

ไม่ว่าใครจะสร้างเหตุไว้เช่นใด เค้าก็จะได้รับผลเช่นนั้นเอง

 

อนุโมทนากับคุณกัญญ์และน้องซานต้าด้วยนะคะ

ที่นำชีวิตของตนมาเป็นธรรมทานอย่า่งต่อเนื่่องเป็นปีๆ สาธุ..ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 16:12:20


ความคิดเห็นที่ 227 (1555487)

 ขอพระบารมีพระบรมธรรมบิดา

โปรดประทานพลังแสงทิพย์นิพพาน

ขอพระบารมีพระพุทธเจ้า

โปรดประทานพลังแสงฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการ

ได้ส่องสว่างมายังโลกมนุษย์ผ่านทุกวัตถุแสงสีเสียง

ให้มนุษย์และทุกดวงจิตมีดวงตาเห็นธรรม

ตามที่พระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์ได้บรรลุแล้ว

ขอทุกดวงจิตกลับบ้านพระนิพพานเร็วๆไวๆในชาตินี้สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 21:44:37


ความคิดเห็นที่ 228 (1555499)

อ่านธรรมทาน

ของคุณกัญ กับน้องซานต้า

ตั้งแต่หน้าแรก-หน้าสุดท้าย ตั้งแต่เมื่อวาน

ถึงวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ในเขตบุญ และอยู่กับผู้ที่มี

จิตใจสูงส่งขนาดนี้ ยังกล้าที่จะทำเรื่องไม่ดี

เกดขออนุโมทนาด้วยค่ะ สาธุ

แล้วด้ย้อนกลับมาดู

ตัวเราเอง

ก็มีบ้างที่โกหกคนอื่น

เพื่อที่เราจะได้สิ่งนั้นมา ต่อไปต้อง

เตือนตัวเองอยู่เสมอค่ะ ขอบคุณคุณกัญ

และน้องซานต้ามากค่ะ เกดขอส่งบุญของเกดที่

มีอันน้อยนิดให้กับคุณกัญและน้องซานต้าด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 23:38:59


ความคิดเห็นที่ 229 (1555855)

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานที่ทุกท่านให้นะค่ะ สาธุ

ขอขอบคุณคุณกัญญ์ น้องซานตา ค่ะ ที่เอาชีวิตมาให้ธรรมทาน

ได้คติเตือนใจ มากโดยเฉพาะที่เจ้าของกระทู้ บอกว่า อาจารย์อุบลสอนใหัตั้งอยู่บนความจริง

สิ่งที่ได้เห็นจากชีวิตทั้งสองท่านคือ ความจริง ที่เราไม่ยอมรับ

- เราไม่มี เราต้องอยู่อย่างไร แบบที่เราเป็นคือไม่มี

การรู้จักตนเองให้มาก ทำตามสถานภาพตนเอง ขอบคุณค่ะ

ได้อ่านตั้งแต่แรก คิดตามประสาคนโง่ ในด้านไม่ดี

จนมาถึงวันนี้ ได้นำเรื่องที่อาจารย์สอนในกระทู้นี้ มาคิด ไตร่ตรอง

เลือกทำดีให้มาก ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน

ยิ่งไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน เราจะมีปัญญา หาทางของตนเองได้

การบขอบพระคุณอ.อุบล

ขอบคุณคุณตาล และทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-04 12:58:48


ความคิดเห็นที่ 230 (1556450)

 

  ขอขอบคุณธรรมทานทีเกิดขึ้นในบ้านสวนพีระมิดมากๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องอย่างนีัเกิดขึ้นในสถานที่ที่น่าจะมีแต่คนอยากมาทำบุญให้พ้นจากวิบากกรรม 

 ช่วงนี้หมอก็กำลังเจอศึกหนักไม่เหมือนกันทีเดียว แต่ก็เรื่องเงินนั่นแหละจากญาติที่จ้างให้เขามาเฝ้าบ้าน ทำความเดือดร้อนชนิดที่ป้าเตือน ว่ายังกะในหนังน้ำเน่า เซ็งสุดๆ ยังแก้ปัญหาไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี ต้องเอาธรรมะเข้าข่มพร้อมกับขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิบ้านสวนพีระมิดช่วย ก็ดูว่าจะคิดออกบ้างว่าควรทำอย่างไร แต่หนังเรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย ต้องท่องคำว่าเมตตา เมตตาเอาไว้มากๆเวลาจิตตก แต่ก็จะทำได้บ้างไม่ได้บ้างเวลาลมออกหู

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-06 20:49:02


ความคิดเห็นที่ 231 (1556467)

พระพุทธองค์

ทรงทราบก่อนแล้ว

เรื่องแบบนี้เคยมีมาทุกสมัย

ตั้งแต่ครั้งพุทธกาล

เรื่องคนชั่ว ขอบ ไปมั่วในเขตบุญ

คือเป็นพวกเปรต

ไปคอยขอส่วนบุญนั่นเอง

 

ลองอ่าน

พระใตรปิฎกฉบับที่ทำให้ง่ายแล้ว

หน้า 318-319 ดูนะคะ

 

พระพุทธองค์

ทรงตรัสว่า

แม่น้ำที่บริสุทธิ์ ไม่อาจทำให้

คนชั่วกลายเป็นคนดีได้

ฉันใด

 

ไม่ว่าวัดใด

สถานที่ใด หรือ บ้านสวนพีระมิด

ก็ไม่อาจเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ

ของผู้ที่ชั่วฝังลึก

กลายเป็นคนดีได้ เพราะ

สถานที่ไม่ใช่ที่เปลี่ยนสันดานคน

 

แต่

คน คน นั้น เอง

ต่างหาก ที่เป็นผู้ประสงค์

จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

 

ตถาคต

เป็นแต่เพียง ผู้บอก

(ไม่ใช่ผู้เสกค๊า)

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-06 22:06:03


ความคิดเห็นที่ 232 (1556500)

 สาธุ  สาธุ  สาธุ

โมทนาครับอาจารย์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-07 00:15:09


ความคิดเห็นที่ 233 (1556726)

1...

ไม่ว่าใครจะสร้างเหตุไว้เช่นไร

ย่อม

ได้รัผลเช่นนั้นเอง

2...

การที่จะทำบุญต้องเลือกเนื้อนาบุญ

3...

ความทุกข์ของแต่ละคน

ย่อมแตกต่างกนออกไป

4...

รู้หน้าไม่รู้ใจ

5...

ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ

6...

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม

7...

สัตว์...โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

8...

บางสิ่งที่เราคิดว่าใช่ มันอาจไม่ใช่

จริงเป็นเท็จ  เท็จเป็นจริง

(ค้มคม ของสามก๊ก)

9...

เลี้ยงได้แต่ตัวหัวใจเลี้ยงไม่ได้

10...

คิดถึงจัง

11...

ขอกอดหน่อย

12...

บ้ายบ่าย โชคดีนะพี่

13...

ขอบคุณ

ที่ทำให้บ้านสวนมีหญ้าลดน้อยลงไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-07 22:12:38


ความคิดเห็นที่ 234 (1556797)

ฮ่า ฮ่า คุณตัวเล็กเนี่ย นานๆมาที แต่โดน..จริงๆ

เขียนได้ทั้ง"คม" และ "ขำ"จริงๆ....

...................................................................

อนุโมทนาค่ะอาจารย์ อ่านข้อความและคำคมๆ

ที่เป็นสัจธรรมจากอาจารย์แล้ว ก็ทำให้นึกภาพออกว่า

ในเขตบุญ ก็ย่อมจะมี"เปรต"มาขอส่วนบุญเป็นธรรมดา..

และยิ่งเป็นเขตบุญเยอะๆ ก็ย่อมจะมีเปรตมาหาส่วนบุญเย๊อะเหมือนกัน..

มากันได้เรื่อยๆ ยังกะ ทายาทอสูร...

 

แหะ แหะ สงสัยต้องติดป้ายไว้หน้าบ้านสวนฯว่า

"เขตปลอด..เปรต"  แล้วมั้งคะ..เนี่ย...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-08 08:03:46


ความคิดเห็นที่ 235 (1556824)

บ้านสวนฯคือสถานที่แสดงธรรมทาน หลายๆเรื่องแก่ลูกหลานจริงๆ

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานในครั้งนี้ของพี่กัญและน้องซานต้า

อย่าไปยินดี ยินร้ายกับกรรมชั่วของผู้อื่น

อย่าเอากรรมของคนอื่นมาใส่ใจ

เอาประโยชน์จากชีวิตคนอื่นมาเป็นธรรมทานสอนใจตัวเราเองให้มากๆ

ทำทุกอย่างเพื่อมุ่งตัดกิเลสของตัวเองเท่านั้นพอ

มองตัวเองให้มากๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-08 10:37:34


ความคิดเห็นที่ 236 (1557574)

ขอบคุณ คุณกัญวิญาและน้องแซนตร้าสำหรับการเป็นครูฝึก

ขันติและพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)และทำให้รู้ว่า

ไม่มีใครช่วยเราได้ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

"ตถาคตเป็นเพียงผู้บอก"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นนลณีย์ พงศ์วุฒิภรณ์ (walailux20-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-12 14:11:08


ความคิดเห็นที่ 237 (1557875)

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากทุกๆ ท่าน

อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ความว่า

ความเมตตา คือ หนึ่งในคุณธรรมที่หากผู้ใดประพฤติอยู่เสมอจนเป็นนิสัย

ย่อมทำให้ได้รับความสุข

แต่ทว่า ความเมตตาก็มีจุดอ่อน เพราะโดยธรรมชาติของความเมตตานั้น คือ    ความอ่อนโยน พลิ้วไหว และใจอ่อนง่าย

เพราะความปราถนาดีอยากให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง

หลายครั้งจึงมักจะโดนคนใจทรามหลอกได้

ถ้าเพียงนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่เสียหายมาก ก็ยังพอให้อภัยกันได้

แต่บางคนหลอกเอากับคนที่มีเมตตาถึงขั้นหมดตัว

เพราะเป็นเช่นนี้เอง คนในสังคม ถึง ไม่ค่อยมีเมตตาต่อกัน

เพราะหลายคนคิดว่า

มี เมตตา แล้วก็ไม่ได้อะไร แถมยังเสียหายอีกต่างหาก

**********

ความเมตตา ความฉลาดต้องคู่กัน

ให้สัมพันธ์ คู่กันเป็นวิสัย

ต้องเฉลียว ฉลาด ระแวงระไว

ความเมตตาจะไฉไลด้วยปัญญา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี พรรณี ศรีทะชะ (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-13 23:50:37


ความคิดเห็นที่ 238 (1560385)

คุณตาล

ทิ้งกระทู้นี้ไป

เปิดกระทู้ใหม่ คนเนรคุณ

เสียแล้ว กระทู้นี้เลย

เหงาไปเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-26 21:04:19


ความคิดเห็นที่ 239 (1560391)

 ใช่ๆครับ

เมื่อกี่นี้เบลล์ว่าจะเข้ามาดูซะหน่อย

แต่ไม่กล้าเข้ามาครับ

ตอนนี้กล้าเข้าแล้วครับ

ต้องมีผู้นำครับ

อิอิ

ก็ได้ดูรายการคุยไปแจกไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานะครับ

ก็ได้รับทราบการเปิดเผยผู้แฝงตัวมา

บ้านสวนพีระมิด

เป็นยาเม็ดแรกของเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

และอีกหลายๆท่านที่มาบ้านสวนด้วยใจที่บริสุทธิ์

ก็ได้รับผลของความดีกันทุกท่าน

นี่แหละครับที่เป็นดังคำกล่าวที่ว่า

ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

อาจารย์คุณแม่อุบลสอนให้อยู่บนความจริง

เบลล์คิดว่า

เมื่อเราเอาความจริง

และความจริงใจเข้าหากัน

เอาความดีที่มีอยู่ออกมาใช้ให้มากๆ

ความจริงที่เป็นผลในชีวิตปัจจุบัน

ก็จะเป็นความจริงที่ดี

ผิดกับความจริงที่เราไปผิดศีลธรรมอันดีงาม

ผลก็ตรงกันข้าม

ทุกสิ่งที่ทำไปมีผล

ช้าหรือเร็ว

ก็ต่างกรรม

ต่างวาระ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-26 21:20:24


ความคิดเห็นที่ 240 (1561383)

 

     "พระพุทธองค์ตรัสว่า

ผู้มีปัญญาเท่านั้น  จึงจะดับความโกรธได้

ผู้ใดไม่มีความโกรธ  ย่อมสงบสุขทั้ง  กาย  ใจ

ผู้ใดกลัวความจริง  ผู้นั้นย่อมมีความทุกข์  กาย  ใจ"

     จากข้อความขึ้นหน้าจอ  รายการคุยไปแจกไป วันที่  31  กค.  54

         หนูขอนำมาเป็นเครื่องเตือนใจตัวเองค่ะ  เพราะหนูยังทำไม่ได้

หนูกราบขอบพระคุณพระพุทธองค์  ที่เมตตาเตือน และให้ข้อคิด

เพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดมา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-01 11:38:11



<< ก่อนหน้า 1 2 [3]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.