ReadyPlanet.com


ความโกรธ เกิดจากความคิดปรุงแต่ง(สมเด็จพระญาณสังวรฯ)


ความโกรธ เกิดจากความคิดปรุงแต่ง
(สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
 


ความปรุงใจ

เป็นสิ่งสำคัญ

ทำความรู้ความเข้าใจใน

เรื่องความปรุงของใจเสียก่อน

ให้เห็นแน่ชัดเสียก่อนว่า

ความโกรธ

หรือ

ไม่โกรธ

ไม่ได้เกิดจาก

เสียงภายนอกที่มากระทบประสาทหู

แต่ ความโกรธ หรือ ไม่โกรธ

ชอบ หรือ ไม่ชอบ

เกิดจาก    

ความปรุงคิดแท้ๆ

ความปรุงคิดของในเรานี้แหละ

ที่ทำให้เกิดความชอบหรือไม่ชอบ

ความโกรธหรือไม่โกรธ

เมื่อความชอบหรือไม่ชอบ

โกรธหรือไม่โกรธเกิดได้

เพราะความปรุงคิด

จึงมิได้เพราะบุคคลภายนอก  

แต่

เกิดจากตัวเองเท่านั้น

ตัวเองนี้แหละเป็นเหตุให้ชอบหรือไม่ชอบ

โกรธหรือไม่โกรธ

เวลาเกิดความไม่ชอบหรือความชอบ

ความโกรธก็เกิดขึ้นจึง

ควรมีสติรู้ว่าตนเองเป็นผู้ทำให้เกิด

ไม่มีผู้อื่นมาทำ เมื่อใจไม่ส่งออกไป

โทษผู้อื่นว่าเป็นเหตุ

ใจรับความจริงว่าตนเองเป็นเหตุ

ความโกรธก็จะลดน้อยถึงหยุดลงได้

สำคัญต้องมีสติรู้ว่าความโลภ ความโกรธ ความหลง

เกิดขึ้นเพราะความปรุงใน

จิตใจของเราเอง

มิได้เกิดขึ้นเพราะบุคคล

หรือวัตถุภายนอก

นี่พูดถึงเมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว

ให้ดับด้วยการมีสติรู้ความจริง

ว่าตนเองเป็นผู้ทำ

แต่ถ้าพูดถึงการป้องกัน

มิให้ความโกรธเกิด

จะต้องฝึกให้สติเกิดเร็วขึ้นอีก

และดังกล่าวแล้วในตอนต้น ๆ

จะต้องฝึกให้เกิดเหตุผลและปัญญา

รวมทั้งเมตตากรุณาด้วย

การฝึกในเรื่องเหล่านั้น

จำเป็นต้องทำเมื่อความโกรธ

ยังไม่เกิดขึ้นในจิตใจ

หรือเมื่อเกิดแล้วแต่ดับแล้ว

เมตตากรุณา

เป็นความรู้สึกตรงกันข้ามกับความโกรธ

ผู้ที่มีเมตตากรุณาในผู้ใดอยู่

ความโกรธในผู้นั้นจะเกิดไม่ได้

เพราะเมตตาหมายถึง

ความปรารถนาให้เป็นสุข

กรุณาปรารถนาจะช่วยให้พ้นทุกข์

เมื่อมีความรู้สึกดังกล่าวอยู่ในใจ

ความโกรธย่อมเกิดไม่ได้เป็นธรรมดา

การเจริญเมตตา

จึงเป็นการแก้ความโกรธที่ได้ผล

ผู้เจริญ เมตตาอยู่เสมอ

เป็นผู้ไม่โกรธง่าย

ทั้งยังมีจิตใจเยือกเย็นเป็นสุข

ด้วยอำนาจของเมตตาอีกด้วย

ผู้ใดรู้สึกว่าจิตใจเร่าร้อนนัก

เมื่อเจริญเมตตาจะได้รู้สึกว่าเมตตามีคุณแก่ตนเองเพียงไร

แม้เมื่อเจริญเมตตาจะปรารถนา

ให้ผู้อื่นเป็นสุข

แต่ผู้จะได้รับผลแห่งความสุข

ก่อนใครทั้งหมด

คือตัวผู้เจริญเมตตาเอง

เช่นเดียวกันการคิดดีพูดดีทำดีทุกอย่าง

ผู้ที่ได้รับผลของความดีก่อนใครทั้งหมด

คือตัวผู้ทำเอง

และได้รับผลของความดี

มากกว่าใครทั้งหมดก็คือตัวผู้ทำเอง

จึงควรคิดดูน่าจะคิดดี

พูดดีทำดีกันเพียงใดหรือไม่

 

: ฝึกใจไม่ให้โกรธ
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก




 

 

ขอขอบพระคุณที่มาบทความ จาก คุณ ขวัญเทวา

http://board.palungjit.com/f178/วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ-44604-171.html



ผู้ตั้งกระทู้ อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-20 01:26:23


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1565081)

ขอโมทนากับธรรมทาน  ด้วยนะค่ะ 

ข้าพเจ้าเองบางครั้งก็คุมตัวเองไมใด้  โกรธเพื่อนร่วมงานแต่พยายามไม่ระบายออกมา พยายามใช้ปัญญาแก้เหตุการณ์ให้ดีขึ้น  และใช้ปัญญาให้มากกว่านี้  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-21 12:09:43


ความคิดเห็นที่ 2 (1565103)

ขออนุโมทนาบุญ

สำหรับธรรมทาน

ของคุณอาริยา ค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

หลาย ๆ ข้อคิดจากธรรมทานที่คุณอาริยาขยันหามาให้ญาติธรรมบ้านสวนพีระมิดได้อ่าน และยิ่งถ้าได้คิดตามไปด้วยแล้ว พูดได้คำเดียวเลยค่ะ ประโยชน์ ล้วน ๆ ขอบคุณแทนทุก ๆ คนด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-21 14:18:35


ความคิดเห็นที่ 3 (1565126)

สาธุ ค่ะพี่อารียา

เพราะเมตตาหมายถึง

ความปรารถนาให้เป็นสุข

กรุณาปรารถนาจะช่วยให้พ้นทุกข์

เมื่อมีความรู้สึกดังกล่าวอยู่ในใจ

ความโกรธย่อมเกิดไม่ได้เป็นธรรมดา

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ขออนุโมทนากับธรรมทาน

ของพี่นะคะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-21 17:41:20


ความคิดเห็นที่ 4 (1565405)

              เฮ้อ!.............

วันนี้จิตตกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้ว

        ต้องระงับอารมณ์ตัวเอง

     ฝึกอารมณ์ตัวเองใหม่แล้วเรา

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (นางสาวลักขณา ศรประสิทธิ์) (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-23 08:09:37



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.