ReadyPlanet.com


อ.อุบล เน้นและย้ำ ชาวพุทธ..ควรจะศึกษาพระไตรปิฏก


สวัสดีค่ะ พี่น้องบ้านสวนฯ

คือช่วงหลังๆได้ฟังคำแนะนำอันทรงคุณค่าจากท่านอ.อุบล

มาหลายๆครั้งว่า ชาวพุทธทั้งหลาย ควรจะอ่าน

และศึกษาพระไตรปิฏกให้ละเอียดและทำความเข้าใจกันทุกๆคน...

แหะ แหะ รู้สึกสะดุ้งทุกครั้งที่อาจารย์พูดแบบนี้

เพราะชนิดาเองก็ไม่เคยอ่าน...พระไตรปิฏก มาก่อนเลยในชีวิต

 

พอดีวันนี้มีเวลาก่อนไปทำงาน ก็เลยลองเซิร์ชหาทางกูเกิ้ลว่าพอจะมี

พระไตรปิฏก ฉบับออนไลน์ให้เด็กห่างไกลความเจริญอย่างชนิดา

ได้อ่านบ้างหรือไม่..

ปรากฏว่า มีครบทุกเล่ม..คร๊าบพีน้อง แต่ข้อมูลเยอะมาก

ฉะนั้น ชนิดาขออนุญาตนำลิงค์ของเว็บไซต์นี้มาฝากทุกๆท่าน

ได้จัดแจงเวลา เข้าไปอ่าน เข้าไปศึกษากันนะคะ....

ขออนุโมทนากับทุกๆท่าน ที่ตั้งใจจะเป็น ชาวพุทธที่แท้จริง ณ บัดนี้ ค่ะ สาธุ



ผู้ตั้งกระทู้ ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-24 18:37:30


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1554082)

พระไตรปิฎกคืออะไร ?

          ศาสนาทุกศาสนา มีคัมภีร์หรือตำราทางศาสนาเป็นหลักในการสั่งสอน แม้เดิมจะมิได้ขีดเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เมื่อมนุษย์รู้จักใช้ตัวหนังสือ ก็ได้มีการเขียน การจารึกคำสอนในศาสนานั้น ๆ ไว้ เมื่อโลกเจริญขึ้นถึงกับมีการพิมพ์หนังสือเป็นเล่ม ๆ ได้ คัมภีร์ศาสนาเหล่านั้นก็มีผู้พิมพ์เป็นเล่มขึ้นโดยลำดับ

          พระไตรปิฎก หรือที่เรียกในภาษาบาลีว่า ติปิฎกหรือเตปิฎกนั้น เป็นคัมภีร์หรือตำราทางพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับไตรเวท เป็นคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ ใบเบิ้ลของศาสนาคริสต์ อัล กุรอานของศาสนาอิสลาม

          กล่าวโดยรูปศัพท์ คำว่า "พระไตรปิฎก" แปลว่า ๓ คัมภีร์ เมื่อแยกเป็นคำ ๆ ว่า พระ+ไตร+ปิฎก คำว่า พระ เป็นคำแสดงความเคารพหรือยกย่อง คำว่า ไตร แปลว่า ๓ คำว่า ปิฎก แปลได้ ๒ อย่าง คือแปลว่า คัมภีร์หรือตำราอย่างหนึ่ง แปลว่า กระจาดหรือตะกร้าอย่างหนึ่ง ที่แปลว่ากระจาดหรือตะกร้า หมายความว่า เป็นที่รวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหวดหมู่ ไม่ให้กระจัดกระจาย คล้ายกระจาดหรือตะกร้าอันเป็นภาชนะใส่ของฉะนั้น

พระไตรปิฎกแบ่งออกเป็นอะไรบ้าง ?

         เมื่อทราบแล้วว่า คำว่า พระไตรปิฎก แปลว่า ๓ คัมภีร์ หรือ ๓ ปิฎก จึงควรทราบต่อไปว่า ๓ ปิฎก นั้นมีอะไรบ้าง และแต่ละปิฎกนั้น มีความหมายหรือใจความอย่างไร ปิฎก ๓ นั้นแบ่งออกดังนี้
         ๑. วินัยปิฎก ว่าด้วยวินัยหรือศีลของภิกษุ ภิกษุณี
         ๒. สุตตันตปิฎก ว่าด้วยพระธรรมเทศนาทั่ว ๆ ไป
         ๓. อภิธัมมปิฎก ว่าด้วยธรรมะล้วน ๆ หรือธรรมะที่สำคัญ

ที่มาข้อมูล

http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/abouttripitaka/mean.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 18:40:27


ความคิดเห็นที่ 2 (1554086)

เชิญคลิ๊กเข้าไปอ่านตามลิงค์นี้ได้นะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับผู้จัดทำเว็บไซต์ด้วยค่ะ สาธุ

http://www.84000.org/

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 18:48:25


ความคิดเห็นที่ 3 (1554092)

ขออนุโมทนาครับ สาธุ สาธุ สาธุ เคยอ่านบางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจบางหัวข้อเหมือนกันครับ ชอบอ่าน ที่เป็น ประวัติ พระสาวก เหมือนๆ อ่านนิทาน มีการย้อนไปถึงเหตุในอดีตชาติ ที่ส่งผลมาถึงชาติปัจจุบัน ของแต่ล่ะท่าน อ่านไปก็เพลินๆ ดี ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 19:31:09


ความคิดเห็นที่ 4 (1554109)

ขอ

อนุโมทนา

กับมหาธรรมทาน

ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ของ

คุณชนิดา

ค่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 21:26:20


ความคิดเห็นที่ 5 (1554119)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญ

กับธรรมทานของคุณชนิดาค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิกานต์ ปิยะศิริภัณฑ์ (yaikwew-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 22:29:42


ความคิดเห็นที่ 6 (1554141)

ขออนุโมทนาบุญ

กับ

พี่ชนิดา

ด้วยเด้อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-24 23:43:51


ความคิดเห็นที่ 7 (1554145)

เอามาฝากครับ

 http://palungjit.com/tripitaka/

 

 ขอโมทนากับธรรมทาน

ของพี่ชนิดาด้วยนะครับ

เบลล์เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

กับการศึกษาพระไตรปิฎก

เพื่อเป็นแนวทาง

ในการเข้าใจพระพุทธศาสนา

การให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง

สาธุ  สาธุ  สาธุ

ขอจงเป็นไปเพื่อพระนิพพานในชาตินี้

ขอความไม่มีจงอย่าปรากฏ

 

http://palungjit.com/buddhism/true/

พุทธศาสนาจากพระโอษฐ์   

ผู้แสดงความคิดเห็น นายคมกริช นามมงคุณ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 00:00:03


ความคิดเห็นที่ 8 (1554152)

ขออนุโมทนาบุญ

ธรรมทาน

กับ

คุณชนิดาค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 00:21:20


ความคิดเห็นที่ 9 (1554156)

ขอขอบคุณ

และขออนุโมทนาบุญ

กับคุณชนิดาด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พิสุทธิ์ แดงเอม (pisutdangem-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 00:34:21


ความคิดเห็นที่ 10 (1554161)

 โมทนาบุญกับคุณชนิดา เชิงสะอาด ที่ได้นำข้อมูลดีๆ มาบอกกล่าวอันเป็นธรรมทานที่ยิ่งใหญ่ด้วยนะครับ...สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 00:58:44


ความคิดเห็นที่ 11 (1554176)

ขออนุโมทนา

กับพี่จ๋าวด้วยนะค่ะ

ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ

มีสิ่งดีๆ มาให้เสมอ รักนะจุ๊บ จุ๊บ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา กะตะศิลา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 01:48:27


ความคิดเห็นที่ 12 (1554183)

กราบอนุโมทนากับท่านอ.อุบลและทุกๆท่านเช่นกันค่ะ

วันนี้ลองอ่านคร่าวๆหัวข้อต่างๆ หึ หึ แอบคิดในใจว่า

อ่านจบซักรอบเนี่ยถือว่าเลิศแล้วนะเนี่ย แต่ก็แอบแว๊บ

คิดไปถึงอ.อุบล เห็นอาจารย์จำได้แม่นขนาดนี้

อาจารย์จะอ่านจบซักกี่รอบหนอ.. โอ้วว..คิดแล้วก็อยาก

จะ"กราบ"อาจารย์ซักสามครั้ง..ทำได้ไงคะเนี่ย...

 

ตอนนี้กำลังคิดวางแผนอยู่ว่า จะต้องอ่านให้ได้อย่างน้อยวันละกี่หน้าดีหนอ.

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 02:23:11


ความคิดเห็นที่ 13 (1554186)

ขออนุโมทนาในธรรมทาน ของคุณชนิดาด้วยนะค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ....

แหะๆ ไม่ได้อ่านเหมือนกัน เหมือนที่อาจารย์บอกว่า

นับถือศาสนาพุทธ บอกใครๆแบบนั้น เขียนลงในเอกสาร

แบบนั้น แต่ไหงถามอะไร ไม่รู้เรื่องซักอย่าง...

หลังจากดู ก็ลองหาแบบคนขี้เกียจ ได้ Link เป็นเสียงอ่าน

http://www.facebook.com/pratripidok 

จะพยามอ่านด้วย นะค่ะ แค่ต้องอ่านวิชากฏหมายสอบเทอมนี้ 

4 เล่มยังไม่รอดพ้น 555

ผู้แสดงความคิดเห็น เขมรัธศ์ภัทร์ จินดาพล (por_fat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 02:44:07


ความคิดเห็นที่ 14 (1554217)

 

 ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาด้วยนะคะ

ขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ  ที่มอบให้

คิดถึงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 10:00:30


ความคิดเห็นที่ 15 (1554270)

ขออนุโมทนากับพี่ชนิดาด้วยคะ

วันที่ฟังอาจารย์พูดในรายการก็กะจะไปหาซื้อในร้านเหมือนกัน

แต่เกิดคิดขึ้นมาว่า มันจะยากเกินไปสำหรับเรา รึเปล่าน๊า..

แล้วบังเอิญไปเจอะ หนังสือ ของดร.อาจอง ก่อนด้วย

จึงต้องกราบขอโทษที่แว๊บไปซื้อเล่มนั้นมาอ่านก่อนนะคะ

 แต่จะไปซื้อพระไตรปิฎก ฉบับที่ทำให้ง่ายแล้ว เก็บไว้อ่านแน่นอนคะ

สัญญา จากใจชาวพุทธ คะ

รักอ.อุบล รักพี่ชนิดาด้วยคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-25 20:37:24


ความคิดเห็นที่ 16 (1554361)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-26 13:16:41


ความคิดเห็นที่ 17 (1554381)

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะคุณชนิดา

สำหรับธรรมทานค่ะ

ตฤณก็กำลังอ่านเหมือนกันยังอ่านได้กี่บทเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ นาคทุ่งเตา (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-26 16:23:35


ความคิดเห็นที่ 18 (1554445)

ขออนุโมทนากับพี่ชนิดาด้วยค่ะ

ที่นำมาแบ่งปันให้กับญาติธรรมทุกๆท่าน

เคยคิดว่าจะไปหาอ่านตามเวปไซเช่นกันค่ะ

แต่ตอนนี้พี่ชนิดาได้นำมาลงให้ได้ไปอ่านกันแล้ว

ต้องขอขอบคุณพี่ชนิดาเป็นอย่างมากเลยค่ะ

มีประโยชน์มากๆ

สาธุค่าาาาา

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-26 23:51:05


ความคิดเห็นที่ 19 (1554618)

หลังจากที่สแกนเนื้อหาคร่าวๆในส่วนต่างๆของพระไตรปิฏก

เพราะต้องหาจุดที่ชอบซะก่อน ก็เลยกระโดดไปเริ่มอ่านในส่วน

ของพระสุตตันตปิฏก(พระธรรมเทศนา)ก่อน แต่ชนิดาเลือกอ่าน

เวอร์ชั่นฉบับย่อ สำหรับประชาชน ก่อนนะคะ อ่านเอาเนื้อหาหลักๆก่อน

แรกๆอ่านไม่ค่อยจะเข้าหัวเล๊ย.. ใครที่คิดว่า อ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณแล้ว

หนักหนาแค่ไหน ชนิดาขอแนะนำให้มาอ่านพระไตรปิฏกค่ะ รับรองว่า

เป็นบททดสอบจิตใจที่ยิ่งใหญ่จริงๆ


มิน่าเล่า ท่านอาจารย์ถึงเ้น้นและย้ำให้ทุกๆคนที่บอกว่าตนเป็นชาวพุทธอ่านพระไตรปิฏก

เพราะคุณจะได้รับทุกคำตอบที่คุณสงสัย โดยไม่ต้องไปคอยถามใครๆอีกต่อไป

และจะเห็นได้ว่า คำถามทุกคำถามที่เกิดขึ้นในใจเรานี้ ก็เคยเกิดขึ้นกับคนทุกยุค

ทุกสมัยมาแล้ว... เช่นกัน...

และคนส่วนใหญ่ที่ได้ฟังพระธรรมคำสั่งสอนแห่งพระพุทธองค์แม้เพียงครั้งเดียว

ก็สามารถบรรลุธรรมได้ง่ายๆ ด้วยพระัปัญญาญาณอันชาญฉลาด

ในการตอบคำถามแห่งพระพุทธองค์ล้ำเลิศและประิเสิรฐเป็นที่สุด...สาธุ

 

หาเวลาไปอ่านให้ได้นะคะ ถ้าอ่านแล้ว ได้ข้อคิดหรือหลักธรรมอะไร

ก็มาเขียนแบ่งปันท่านอื่นๆเพื่อเป็นธรรมทานต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด

อนุโมนา่ล่วงหน้าค่ะ....

 

แหะ แหะ นักเรียนทุกคน

อ่านแล้วก็เข้ามาส่งการบ้านอาจารย์อุบลด้วยนะค๊า..

อาจารย์ถือไม้เรียว รอตรวจการบ้านอยู่เน้อ..จ๊ากกก...

(เขียนซะ อาจารย์ดูเป็น "ครูไหวใจร้าย"ไปได้ ขออภัยค่ะ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 17:52:57


ความคิดเห็นที่ 20 (1554628)

ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาด้วยนะคะ

และต้องขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ  ที่มอบให้กับญาติธรรมชาวบ้านสวนทุกคนด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (anchala_23580-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 18:52:08


ความคิดเห็นที่ 21 (1554630)

ดูเหมือน

การเชิญชวน

ให้คนอ่าน

พระไตรปิฎก

นี่นะ

ไม่เร้าใจ

เหมือนชวนไป

ขายยาบ้า

เลยนะ

 

เห็นไหมว่า

2,500

กว่าปี ที่มีพระศาสนา

ชาวประชากลับ

จิตต่ำ ทำชั่ว มั่วอบาย

ไม่ค่อยมีคน

รีบเร่ง

ขวนขวาย เข้าหาธรรม

 

แต่

ในขณะที่

มีผู้คนทั้งโลก

ต่างแสวงหาแต่โชค

เงินทอง ของนอกกาย

ของที่ทำให้

เดือดร้อน ทุรนทุราย

ของที่ทำร้ายตัวเอง

แม้แต่

คนที่คิดว่าเก่ง

ทั้งการเรียน การงาน

ก็ยังไม่วาย

ที่จะถูก อบาย ครอบงำ

 

จิตใจตกต่ำ

ทุกข์ทรมาน สังขาร

เสื่อมทราม

 

แต่ก็ยังไม่รู้ตัว

 

สรุปว่า

ชวนคนทำชั่ว

ง่ายกว่า

ชวนคนทำความดี

 

นะ

คุณชนิดา

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 19:16:09


ความคิดเห็นที่ 22 (1554632)

ฟ้าจึงส่งอาจารย์มาให้โลกนี้

เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา

และยกจิตใจของคนที่ให้สูงขึ้นบ้าง ในแบบที่ควรจะเป็น

และพวกเราทุก ๆ คนที่มีบุญได้มาพบเจอ ก็จะพยายามฟื้นฟูจิตใจของตน

และเผื่อแผ่สิ่งที่ถูกต้องนี้ออกไปแก่ผู้คนรอบข้าง

แม้จะยาก ไม่น่าเร้าใจ เหมือนสิ่งสวยงามฉาบฉวยพวกนั้น

แต่เมื่อได้สัมผัสอย่างแท้จริง ก็จะรู้ว่าคือสุข..สูงสุดอย่างแท้จริง

สู้ต่อไป คะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 19:30:04


ความคิดเห็นที่ 23 (1554633)
image

วันนี้เพิ่งได้มาคะ จะเริ่มทำการบ้านพรุ่งนี้คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 19:37:38


ความคิดเห็นที่ 24 (1554650)

อนุโมทนาค่ะคุณชนิดากับธรรมทาน

พระไตรปิฏก จ๊ะ  สาธุ

แต่พี่อ๊อดได้เป็นซีดีจ๊ะ  ของคุณ วศิน อินทสระ จ๊ะ

เพื่อนเอามาให้ฟัง จ๊ะ ตอนนางวิสาขา...ตรงใจจริงๆ

แต่ของหนูแหวนเป็นแบบหนังสือ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 20:51:39


ความคิดเห็นที่ 25 (1554665)

ขอนุโมทนาบุญกับคุญชนิดาด้วยค่ะ  ที่นำสิ่งดีๆมาฝาก สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย (pan_cnp-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-27 21:40:01


ความคิดเห็นที่ 26 (1554717)

สรุปว่า

ชวนคนทำชั่ว

ง่ายกว่า

ชวนคนทำความดี

 

นะ

คุณชนิดา

อนุโมทนาค่ะอาจารย์ การทำความดีนี้มันยากและต้องใช้เวลา จริงๆค่ะ

เพราะต้องใช้พลังมหาศาลในการว่ายทวนน้ำ

ถ้าเมื่อไหร่เราปล่อยตัวเอง ให้ไร้เรี่ยวแรง ไหลตามน้ำ

ก็แสดงว่า เราปล่อยให้ตัวเราเอง ไหลลงสู่ที่"ต่ำ" เมื่อนั้น....

 

การอ่านพระไตรปิฎก ก็คือการฝึกพลังใจให้แข็งแกร่งหนทางหนึ่ง

เมื่อเรามีความตั้งใจและมีความเพียรมากพอ ที่จะอ่านให้จบ

อย่างน้อย ก็แสดงให้เห็นว่า เราสามารถเอาชนะกิเลสในใจเราได้บ้างแล้ว...

 

อนุโมทนากับทุกๆท่าน และหนูแหวน ที่ตั้งใจที่จะทำการบ้านด้วยนะจ๊ะ

แต่เล่มนี้ดูหน้าปกแล้ว น่าอ่านมากๆ ท่าทางจะเข้าใจได้ง่ายด้วยนะนั่น

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-28 03:02:56


ความคิดเห็นที่ 27 (1555171)

เล่มนี้น่าจะเข้าใจได้ง่าย กว่าเล่มอื่น ๆ ที่แปลตรง ๆ ทุกตัวอักษรจากภาษาบาลีนะคะ แต่ว่าเนื้อหาไม่ได้มีครบ ทั้งสามส่วน จะมีเฉพาะ ส่วนของพระธรรม ซึ่งจะเทศน์เป็นตัวอย่างหลาย ๆ เรื่อง ดังที่พี่อ๊อดได้ฟังตอนนางวิสาขา นั่นแหละคะ  คิดว่าน่าจะทำให้ผู้อ่านเข้าถึงง่ายกว่า ได้อ่านไปบ้างแล้วคะ มีเนื้อหา คล้ายกับหนังสือ กฏแห่งกรรม ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเขียนไว้เลยคะ ยังไงลองหามาอ่านกันดูนะคะ ตอนแรกก็ค่อนข้างเกรงเพราะคำว่า พระไตรปิฎก ซึ่งหมายถึง คำภีร์ เชียวนะ แต่พอได้สัมผัสจริง ๆ ก็ไม่ได้ยากเกินที่จะพยายามเข้าใจคะ ต้องขอบคุณ ผู้เขียน ที่พยายามเรียบเรียงให้คนอ่านเข้าถึงได้ง่ายคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 01:02:47


ความคิดเห็นที่ 28 (1555172)

เปิดครั้งแรก ก็ตามหาหน้า 111 ก่อนเลยคะ ที่อาจารย์เคยให้น้องเบลล์อ่านนั่นแหละคะ เสร็จแล้วก็อ่านหน้า 106 เรื่องปาฏิหาริย์3อย่าง แหะ ๆ ตามรอยในรายการคุยไปแจกไปก่อนคะ แล้วก็ค่อยเริ่มอ่านเรื่องที่เราสนใจไปเรื่อย ๆ คะ จะพยายามอ่านให้จบนะคะ ขอบพระคุณอาจารย์อุบลมากคะ ที่ทำให้เราปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และพี่ชนิดา และทุก ๆ ท่านที่คอยร่วมด้วยช่วยกันกระตุ้น เตือน เคี่ยวเข็ญ ให้ขึ้นไปให้ได้ อย่าลงที่ต่ำอีกเลยจ้ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 01:14:04


ความคิดเห็นที่ 29 (1555193)

อนุโมทนาด้วยนะหนูแหวน อย่างน้อยก็ได้เริ่มอ่านตามความตั้งใจแล้วเน้อ.. ถ้าเผื่อว่า วันนึงต้องไปเจอท่านลุงพุฒิ เผื่อท่านถามขึ้นมาว่า เป็นชาวพุทธน่ะ เคยอ่านพระไตรปิฏกบ้างไหม๊.. พวกเราจะได้ตอบได้เต็มปากเต็มคำว่า ได้อ่านแล้วค๊า.. แล้วก็อธิบายไปซักบทก็ยังดีเนอะ...

 

ไม่อยากจะบอกเลยว่า ชนิดาก็เพิ่งทราบแน่ชัดว่า

ที่แท้ท่านเทวทัตเป็นใครก็จากการอ่านพระไตรปิฏกนี่เอง..

เพิ่งทราบจริงค่ะว่า ที่แท้ ท่านเทวทัต ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง เกิดมามีทุกอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งฐานะและชาติตระกูล รวมถึงท่านอานนท์เองก็เช่นกัน แต่ท่านเทวทัตกลับทำตัวแตกต่างจากทุกๆพระองค์ คิดแต่มุ่งร้ายและทำลายพระพุทธองค์ทุกวิุีถีทาง ฉะนั้น หนทางที่ไป จึงตรงข้ามกับพระพุทธองค์และพระอานนท์โดยสิ้นเชิง...

 

อ่านแรกๆจะรู้สึก "มึนตึ๊บ"มั่กๆ กับชื่อคนและชื่อเมืองในสมัยนั้น แต่อ่านๆไปซักพักก็จะเริ่มชินมากขึ้น ตอนนี้ยังจับใจความอะไรได้ไม่มาก อ่านพอรู้เรื่อง แต่ยังถ่ายทอดต่อไม่ได้ แต่ก็ดีใจค่ะ ที่ได้ทราบพุทธประวัติอย่างละเอียดและ "จิต" ก็โน้มไปกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้วย เหมือนกับเหตุการณ์นั้นเพิ่งจะเกิดขึ้น...

ไม่เหมือนกับตอนที่เราเรียนวิชาพุทธศาสนาตอนเด็กๆ เพราะตอนนั้นอ่านแค่จำไปตอบข้อสอบ ไม่ได้วิเคราะห์หรือพิจารณาข้อธรรมอันใดเล๊ย...

 

ตอนนี้อ่านไป ก็อนุโมทนาบุญตามกับทุกๆท่านที่ได้ฟังธรรมะจากพระพุทธองค์จนบรรลุธรรมไปด้วย ก็เป็นการสะสมบุญไปเรื่อยๆอีกทางหนึ่ง เพราะอาจารย์อุบลเคยบอกว่า บุญไม่มีกาลเวลา ถึงแม้จะทำไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม ถ้าเราน้อมจิตร่วมอนุโมทนา เราก็จะได้รับบุญเช่นกัน เก้าสิบเปอร์เซ็นต์

 

ฉะนั้น ท่านใด อ่านแล้วคิดและรู้สึกอย่างไร เข้าใจยากง่ายแค่ใหน  หรือได้ความรู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน ก็มาเขียนบอกเล่า ให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้างนะคะ

อนุโมทนาล่วงหน้าค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 07:53:03


ความคิดเห็นที่ 30 (1555258)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

เคยอ่านตอนที่ ผิวพรรณทราม เพราะทำกรรมใดไว้ แต่ไม่ได้อ่านต่อค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณชนิดาที่ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเยอะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 14:48:16


ความคิดเห็นที่ 31 (1555273)

อนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 16:13:18


ความคิดเห็นที่ 32 (1555293)

               ธรรมะจากพระไตรปิฏก เล่มที่ 25 หน้า 63 

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบปัญหาของเทวดาดังนี้

 1.  อะไรเป็นเพื่อนของคน

            ความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยเป็นเพื่อนของคน              

 2.  อะไรย่อมปกครองคนนั้น

            ปัญญาความรู้ความฉลาดย่อมปกครองคนนั้น

 3.  อะไรทำให้คนเกิด

                ตัณหาความอยากเกิดทำให้คนเกิด 

 4.  อะไรของคนนั้นย่อมวิ่งพล่าน  

               จิตของคนนั้นย่อมวิ่งพล่านฟุ้งซ่านไปทั่ว

 5.  อะไรเวียนว่ายในทะเลทุกข์ 

                คนสัตว์เวียนว่ายในทะเลทุกข์

 6.  อะไรเป็นที่พำนักที่พักของสัตว์นั้น

                 กรรมเป็นที่พักของคนสัตว์

 7.  อะไรบัณฑิตกล่าวว่าผิด

                  ราคะ  โทสะ บัณฑิตกล่าวว่าผิด

 8.  อะไรสิ้นไปตามคืนและวัน

                   วัน อายุ สิ้นไปตามคืนและวัน

 9.  อะไรเป็นมลทินของพรหมจรรย์

               กาม ราคะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นมลทินของพรหมจรรย์

10. อะไรมิใช่น้ำแต่เป็นเครื่องชำระล้าง

                     ความบริสุทธิ์ของศีล สมาธิ ปัญญา ล้างกิเลส ตัณหา อวิชา อุปาทาน

11. อะไรเป็นมิตรในเรือนตน

                     บิดา มารดาเป็นมิตรในเรือนตน     

12. อะไรเป็นมิตรของคนมีธุระ

                    เพื่อนเป็นมิตรของคนมีธุระ

13. อะไรเป็นมิตรติดตามถึงชาติหน้า                   

                     ผลบุญของทาน ศีล ภาวนา ติดตามถึงภพหน้า

14. อะไรเป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ทั้งหลาย

                     ลาภ ยศ สรรเสริญ เจริญสุข คนรัก บุตรธิดา เป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ทั้งหลาย

15. อะไรเป็นสหายในโลกนี้

                     ภริยา สามี เป็นสหายในโลกนี้

16. อะไรเป็นภัยใหญ่ของคน สัตว์ ในสงสาร

                      การมีขันธ์ 5 รูป ร่างกาย ขันธ์ 5 เป็นภัยใหญ่ของคน สัตว์ ในวัฏฏสงสาร

17. อะไรยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชรา

                       ทาน ศีล ยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชรา

18. อะไรตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ

                       จิตตั้งมั่นศรัทธาในพระตถาคตแล้ว ง่ายต่อการสำเร็จประโยชน์พระนิพพาน

19. อะไรเป็นรัตนะที่พึ่งของคนทั้งหลาย

                      ความรู้ว่าโลกแปรปรวนเป็นทุกข์สูญสลาย ว่างเปล่าเป็นอนัตตาเป็นรัตนะที่พึ่งของ        คนทุกคน                                                                                                                  20. อะไรหนอย่อมทรุดโทรม

                       คน สัตว์ วุตถุทุกอย่างในโลกย่อมทรุดโทรม

21. อะไรหนอเป็นอัตรายแก่ธรรม

                       ความลุ่มหลงในลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขเป็นอันตรายต่อโลกุตตรธรรม

22  อะไรหนอละได้ยากในโลกนี้

                        ความอยากได้ในโลกียสมบัติ ความสุขทางกาย ละได้ยากในโลกนี้

23. คน สัตว์ เป็นอันมากติดอยู่ในอะไร

                        ติดอยู่ในความอยาก ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส สุขทางร่างกาย

24. อะไรหนอเป็นแสงสว่างในโลก

                         ปัญญาความรู้ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นสุขจริง เพราะเป็นอนัตตา สูญสลายว่างเปล่าเป็นจิตของพระอริยเจ้า เป็นแสงสว่างในโลก

25. อะไรหนอเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่

                          สติ ความระลึกนึกถึงความตาย ตั้งใจมุ่งตรงเพื่อพระนิพพานเป็นเครื่องตื่นอยู่

26. บุคคลฆ่าอะไรเสียได้จึงเป็นสุข

                           บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้จึงเป็นสุข

27. บุคคลฆ่าอะไรเสียได้จึงไม่โศรกเศร้า

                            บุคคลฆ่าความหลงในรูปกายเราเขาเสียได้จีงไม่เศร้าโศรก

28. แสงสว่างในโลกนี้มีกี่อย่าง

                            แสงสว่างในโลกนี้มี 4 อย่างคือ

                                      1) แสงสว่างจากดวงอาทิตย์

                            2) แสงสว่างจากดวงจันทร์ 

                                      3) แสงสว่างจากดวงไฟ ไฟฟ้า

                             4) แสงสว่างจากแสงธรรม นำจิตคน สัตว์เข้านิพพาน 

             พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรรเสริญแสงธรรมประเสริฐทำให้โลกอยู่เป็นสุขและเป็นแสง

นำทางไปแดนเอกันตบรมสุขตลอดกาล คือ แสงพระนิพพาน

            จิตพระอริยจ้า จิตพระผู้มีพระภาคเจ้าทุก ๆ พระองค์มีแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ เป็นแสงแห่งพระคุณความดี คือ บุญบารมี มีมากน้อยแตกต่างกัน เทพ เทวดา พรหมก็มีแสงแห่งรัศมีกายทิพย์ มากน้อยจากอานิสงค์ผลบุญที่ปฏิบัติด้วย ทาน ศีล สมาธิ ภาวนา

(จากหนังสือธรรมประทานพร เล่ม 4 โดยคุณเกษร   สุทธจิต จันทร์ประภาพ)

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 18:50:09


ความคิดเห็นที่ 33 (1555294)

ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้อ่านพระไตรปิฏก ด้วยนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 18:58:51


ความคิดเห็นที่ 34 (1555333)

อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานที่ยิ่งใหญ่ด้วยคับคุณชนิดา

ผู้แสดงความคิดเห็น เกรียงศักดิ์ สกุลคลานุวัฒน์(เบน) (koy8870-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-30 23:54:55


ความคิดเห็นที่ 35 (1555393)

 1.พระไตรปิฎกคืออะไร

                 พระไตรปิฎก คือ พระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้สั่งสอนไว้ในสมัยพุทธกาล ต่อมาเมื่อมีพระอรหันต์ พระอริยสงฆ์สาวกได้รวบรวมพระธรรมเป็น 3 ภาค 3 ตำรา จึงเรียกว่า ไตรปิฎก  เพื่อสาธุชนรุ่นหลังจะได้ศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนเพื่อพ้นทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิดจาก นรกภูมิ มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก เพื่อติดตามองค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าสู่เอกันตบรมสุขแดนทิพย์นิพพานได้ง่าย

2. พระไตรปิฎกแบ่งเป็น 3 ภาค 3 ปิฎกนั้นมีอะไรบ้าง  

               พระไตรปิฎก ซึ่งแปลว่ามีพระธรรม 3 ภาค(3 ตำรา,3 คัมภีร์)คือ

               1.วินัยปิฎก มีข้อห้ามหรือศีลของภิกษุ ภิกษุณี ข้อห้ามของผู้ครองเรือน คือ ศีล 5 ข้อ

               2. สุตตันตปิฎก เป็นตำราว่าด้วยพระธรรมเทศนา รวมทั้งสมาธิวิปัสสนาทั่ว ๆ ไป รวมทั้งภาษิตและประวัติของพระพุทธเจ้า พระพุทธสาวก

               3. อภิธรรมปิฎก เป็นตำราว่าด้วยหัวข้อธรรมะล้วน ๆ เป็นหลักธรรมที่สำคัญยิ่ง พระไตรปิฎกมีเนื้อความทั้งหมด 84000 พระธรรมขันธ์ แบ่งเป็น

                                           พระวินัยปิฎก        21000       พระธรรมขันธ์

                                           พระสุตตันตปิฎก   21000       พระธรรมขันธ์

                                           พระอภิธรรมปิฎก  42000        พระธรรมขันธ์

สมัยพุทธกาลพระสาวกท่านได้จดจำไว้ในใจ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสบอกพระจุนทะเถระผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ให้รวบรวมธรรมภาษิตของพระองค์และให้จัดระเบียบเพื่อให้พระธรรมถูกต้องยั่งยืนสืบไป

     เมื่อองค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์สู่พระนิพพานได้ 3 เดือน ท่านมหากัสปเถระทรงริเริ่มรวบรวมพระธรรมคำสอนและเป็นประธานผู้สอบถามท่านพระอุบาลีเถระเป็นผู้ตอบทางพระวินัย ท่านอานนท์เถระเป็นผู้ตอบทางพระธรรม มีอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ 500 รูป ประชุมกันสังคยนาจัดพระธรรมเป็นตำรากระทำกันอยู่ 7 เดือนจึงเสร็จ ต่อมาภายหลังได้รวบรวมตำราจากการจำมาเขียนบันทึกเป็นภาษาบาลีในอินเดียภาคเหนือและมีท่านผู้รู้แปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลี เป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และ  ภาษาไทยจำนวน 80 เล่มเท่าพระชนมายุของพระผู้มีพระภาคเจ้าและได้ย่อความรวบรวมพระไตรปิฎกมาจาก 80 เล่มเป็น 45 เล่ม

          การศึกษาให้รู้และเข้าใจในพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฏกแบ่งออกเป็น 3 ขั้น

          1)  ขั้นปริยัติ ขั้นแรกเรียนเข้าใจทางปริยัติหรือตำราคือ อ่านเข้าใจหัวข้อพระธรรมให้เข้าใจก่อน

          2)  ขั้นปฏิบิติเมื่อเข้าใจตำราปริยัติแล้วก็เริ่มปฏิบัติทางกาย วาจา ใจ ตามจริตอัธยาศัยที่ตนเองชอบปฏิบัติแบบไหนเพราะแนวคำสอนพระพุทธองค์มีถึง 84000 พระธรรมขันธ์ ชอบแบบไหนทำแบบนั้นดีทุกแบบแล้วแต่จะเลือก ตามอัธยาศัยของท่านที่ปฏิบัติ

         3)  ขั้นปฏิเวธ คือ การได้รับผลมีความสุขกายสุขใจจากบุญบารมีคุณความดีที่ได้ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนในตำราพระไตรปิฎกนั้นจิตเข้าถึงอริยมรรค อริยผล มีพระนิพพานเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของจิตไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

                       

                    

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 11:51:16


ความคิดเห็นที่ 36 (1555420)

 3.  พระธรรม 84000 พระธรรมขันธ์โดยรวมยอดย่อที่สุดนั้นคืออะไร

                     ขอตอบตามที่พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาไว้ในพระอภิธรรมทั้ง 7 โดยล้ำลึกละเอียดยิ่งนั้นย่อจาก 84000 พระธรรมขันธ์แล้วมี 4 อย่าง คือ

                  1) จิต คือทำจิตให้สะอาดแจ่มใสด้วยการนึกถึงความตายเป็นอริยสัจ นึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระนิพพาน คุณพระอริยสงฆ์ เป็นการห้ามจิตไม่คิดวิตกกังวลฟุ้งซ่านเป็นทั้งสมาธิและวิปัสสนาญาณรวมกัน

                     2) เจตสิก คือ อารมณ์จิตทั้งหลายแหล่แส่ส่ายไปทั่วโลก ก็หัดห้ามอารมณ์ใจให้เป็นหนึ่ง คือ มีเมตตาและวางเฉยในเมื่อสุข ๆ ทุกข์ ๆ เกิดขึ้นให้มีอารมณ์เดียวเป็นสมาธิมีปัญญาดี

                    3)  รูป คือ รูปร่างกายที่จิตเรานั้นมาอาศัยอยู่ชั่วคราวจิตอย่าไปหลงรักรูปร่างกายเรา รูปร่างกายเขาหรือทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญใด ๆ ในโลกเพราะรูปวัตถุ คน สัตว์ เหล่านี้แปรปรวนเสื่อมสลายพังไปไม่มีอะไรเหลือในที่สุด

                    4) พระนิพพาน ให้ตั้งจิตตั้งใจไว้ว่า ร่างกายที่สกปรกเน่าเหม็นเป็นที่พักอาศัยของจิตชั่วคราว ทั้งรูปทั้งนาม คือ ขันธ์ 5 แตกสลาย ตายไปเมื่อไรจิตเรามีจุดหมายปลายทางที่ไป คือ พระนิพพาน                     

แต่รวมยอดสันที่สุดก็คือ  จิตเราไม่มีวันตายเป็นอมตะ ไม่สูญสลาย จิตมีจริง พระนิพพานก็เป็นของจริง รูปร่างกายเจตสิกอารมณ์ดีชั่วต่าง ๆ เป็นของปลอมไม่ต้องสนใจของปลอมของสมมุติ ให้สนใจของจริง คือ จิตและพระนิพพานเป็นของง่ายที่สุด ถ้าแยกจิตออกจากกายได้ ก็ชื่อว่าผู้นั้นเข้าใจ 84000 พระธรรมขันธ์ 

     ผู้ไม่ติดใจขันธ์ 5 ชื่่อว่ามีพระไตรปิฎกที่อยู่ในจิต พระธรรมทั้ง 84000 พระธรรมขันธ์ ทั้งหมดก็มาลงที่ให้ละทิ้งปล่อยวางขันธ์ 5 เรา ขันธ์ 5 เขาทั้งนั้น

ขอตอบโดยย่อจาก 84000 พระธรรมขันธ์ นั้นให้เหลือเพียง 2 อย่างคือ

1. โลกียธรรม คือ ธรรมที่คนสัตว์อยู่ร่วมกันในโลกอย่างสันติสุข คือ เมตตา ให้ทาน มีศีล 5 ครบ ถ้าตอบตามแบบพระอภิธรรม คือ รูปร่างกายคน สัตว์ สิ่งของเป็นของเสื่อมสลาย รวมทั้งเจตสิกอารมณ์ทั้ง 52 ชนิดก็ไม่ถาวรเกิด ๆ ดับ ๆ หายไป ไม่ใช่ของจริงเป็นของชั่วคราวทั้งสิ้นในโลกนี้

2. โลกุตตรธรรม คือ ความจริงที่ยกระดับจิตคน เทพ พรหม เป็นพระอริยเจ้าสู่พระนิพพาน ถ้าจะตบแบบนักอภิธรรม คือ ของจริงแท้มีแต่จิตกับพระนิพพาน นอกจากจิตและพระนิพพานแล้วนอกนั้นเป็นของปลอมของสมมุติทั้งสิ้น โลกุตตรธรรม จึงเป็นธรรมะเหนือโลกไม่มีการเวียนเกิดเวียนตายไม่สูญสลายไปด้วยอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีอยู่ 2 อย่างคือ จิตและพระนิพพานเป็นของจริง ตาเนื้อมองไม่เห็นจิตหรือนิิพพานแต่รู้ได้ด้วยทิพย์จักขุญาณคือจิตเป็นทิพย์ ผู้ที่จะเข้าใจจิตและพระนิพพานได้ถูกต้อง คือ พระอริยเจ้าตั้งแต่ขั้นพระโสดาปฏิมรรคถึงพระอรหัตผล สำหรับพระโยคาวจร คือ เราท่านผู้ปฏิบัติธรรมที่ฝึกมโนมยิทธิได้โดยพระเมตตาขององค์สมเด็จพระศากยมุนีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดช่วยยกจิตให้เหล่าพุทธบริษัทได้เข้าอภิวาทกราบแทบพระบาทพระพุทธองค์ได้ง่าย ๆ ได้เข้าใจในสภาวะพระนิพพานตามความเป็นจริงจะได้ก้าวหน้าเข้าใจพระธรรมคำสอนบรรลุอริยมรรคอริยผลตามองค์พระตถาคตได้ง่ายรวดเร็วว่องไวในชาติปัจุบันนี้

(ธรรมะจากพระไตรปิฎก โดยคุณเกษร  สุทธจิต จันทร์ประภาพ หนังสือธรรมประทานพร เล่ม 4)

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 14:05:53


ความคิดเห็นที่ 37 (1555432)

 ขออนุโมทนาสาธุค่ะคุณ ชนิดา และญาติธรรมทุกท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จินตนา(แขก) อัลลาร์ด (jintana1963-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 14:38:40


ความคิดเห็นที่ 38 (1555433)

ขออนุโมทนากับธรรมทานของคุณชนิดาและทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น (coffe-dot-i-joker-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-01 14:43:19


ความคิดเห็นที่ 39 (1555521)

เพิ่งเข้าไปอ่านมา

เห็นด้วยกับพี่ชนิดาจริงๆค่ะ

ที่ว่าศัพท์แต่ละคำทำเอาวัยสะรุ่นอย่างเรา

มึนตึ๊บเลยที่เดียว ฮ่า ๆ

ขอลองไปศึกษา ไปอ่านและทำความเข้าใจกับศัพท์ให้มากกว่านี้ก่อนนะคะ

แล้วจะมาสรุปกะคนอื่นเค้าบ้าง ฮิฮิ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-02 03:10:14


ความคิดเห็นที่ 40 (1555605)

 ขออนุโมทนา  สาธุด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัจฉราพรรณ อุสาย (ann_1985-at-live-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-02 16:50:11


ความคิดเห็นที่ 41 (1556137)

เคยอ่านมาก่อนแต่ไม่ค่อยรู้เรื่องตอนนี้ว่างเมื่อไหร่ก็จะหยิบมาอ่านพอจะเข้าใจบ้างคะวันได้อ่านพระไตรปิฎกฉบับประชาชนว่าด้วยพระประสูตรศีลมี 3ระดับ 1.อย่างเล็กน้อย(จูฬศีล) 2.ศีลอย่างกลางมัชฌิมศีล(อย่างกลาง) 3. ศีลอย่างใหญ่ (มหาศีล) มีข้อย่อยหน้า101 - 102 พิมพ์ไม่เก่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-05 13:25:08


ความคิดเห็นที่ 42 (1556310)

อนุโมทนากับคุณพี่สมจิตด้วยนะคะ

ที่นำเนื้อหาบางส่วนมาฝากทุกๆคน

 

แล้วก็อนุโมทนากับคุณพี่ บุญภิบาลด้วยค่ะ

ที่ได้เริ่มอ่านพระไตรปิฏกบ้างแล้ว..

 

ช่วงโค้งสุดท้ายนี้ รู้สึกว่าลูกบ้านสวนฯจะขยันๆกันทั้งนั้น..

หมั่นสั่งสมบุญและศึกษาธรรมกันอย่างขมักเขม้น

ไม่มีใคร ยอมใครเลยทีเดียว...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-06 06:44:19


ความคิดเห็นที่ 43 (1556502)

 โมทนาบุญธรรมทาน  สังฆทาน  วิหารทาน  ปฏิบัติบูชา  กับทุกท่านนะครับ

ลูกๆ  หลานๆ  บ้านสวนพีระมิดทุกท่านน่าสรรเสริญยิ่งนัก

ท่านอาจารย์อุบลเป็นศาสดาที่มีเมตตาจริงๆครับ

เบลล์กะว่าจะไปหาซื้อหนังสือพระไตรปิฎกฉบับที่ทำให้ง่ายแล้วมาอ่านอยู่ครับ

ขอบคุณอาจารย์อุบลมากๆนะครับที่ได้ปลูกฝังให้ลูกรักในความดีเพื่อพระนิพพานในชาตินี้

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-07 00:20:51


ความคิดเห็นที่ 44 (1557158)

 

 

 

ขออนุโมทนาบุญคุณฃนิดา  เชิงสะอาด และคุณสมจิต  โพธิ์นิล ที่ให้ธรรมะเป็นธรรมทาน

ผู้แสดงความคิดเห็น ศุภรัฐ ปานธุเดช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-10 14:07:55


ความคิดเห็นที่ 45 (1557318)

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ (ktkanlayani-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-11 12:03:45


ความคิดเห็นที่ 46 (1558002)

จากพระไตรปิฎกเล่มที่ 30 หน้า 293

          พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

      อมตะนิพพาน คือ ความสงบจากความคิดฟุ้งซ่านทั้งปวง ความสละคายคืน

กิเลสทั้งปวงความหมดสิ้้นความอยากในโลกทั้งสาม ความคลายกำหนัดออกจากเครื่องร้อยรัด

            พระนิพพาน ไม่มีรูป วัตถุ รูปคน ขันธ์ 5 ไม่มีดิน น้ำ ลม ไฟ  แต่ว่ามีอายตนะ

ทิพย์ของนิพพาน ตา หู จมูก ลิ้น กายทิพย์ จิตนิพพานยังมีอยู่ กายเป็นกายธรรมกายนิพพาน ละเอียดงดงามกว่ากายเทพ กายพรหม มีแสงสว่างไสว กายนิพพานเบายิ่งกว่าลม อิสระ

เสรีไปไหน ๆ ได้ทันทีรวดเร็ว ตามี หูมี มือมี  เท้ามี แขนมี ขามี มีศรีษะ แต่ขาดอวัยวะ

ภายใน หัวใจ ตับ ปอด สมอง เลือด อุจจาระ ปัสสาวะไม่มี ไม่มีระบบประสาท วิญญาณ

ไม่มี ขันธ์ 5 รูปนามความรู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมานไม่มี กายทิพย์นิพพานจะปรับเปลี่ยนใหญ่เล็กลงได้แต่จิตนิพพานยังคงอยู่เป็นสุขยอดเยี่ยมบรรยายอย่างไรก็ไม่มีวันเข้าใจ หรือ

หมดสิ้นเพราะพระนิพพานมีทุกอย่างที่โลกไม่มี มีความมหัศจรรย์สมปรารถนาทุกประการ

มีความรู้ยิ่งอยากรู้อะไรรู้ไดทันที นอกจากว่า จิตของท่านผู้นั้นสัมผัสสภาวะนิพพานได้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-14 18:04:37


ความคิดเห็นที่ 47 (1558285)

 เอามาฝากครับ

http://www.dhammathai.org/buddhism/tripitaka.php

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-16 09:30:20


ความคิดเห็นที่ 48 (1563711)

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากทุกท่านครับ

สาธุ สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-13 23:47:26


ความคิดเห็นที่ 49 (1563722)

 ขออนุโมทนาบุญดว้ยคนนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อิสรีย์ เพเตอร์ (info-at-issaree-dot-de) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-14 04:53:32


ความคิดเห็นที่ 50 (1563742)

 โมทนาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-14 12:08:17


ความคิดเห็นที่ 51 (1565695)

โมทนาบุญคุณชนิดาและทุกท่านเหมือนอ.ว่าเลยชวนคนทำความดีหาอยากจังเหมือนหานักแสดงหนังสั้นของน้ำตาลเรื่อง  มาสมาทานศีล 5 กันเถอะหาอยากจังนิ ยังต้องผู้แนะนำเพราะไม่มีประสบการณ์เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-24 12:42:43



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.