พอดีคืนวันเสาร์ได้คุยกับท่านอาจารย์อุบล และท่านอาจารย์ได้กล่าวถึงเรื่องพลังพีระมิด และการวัดค่าพลังงาน HADO ซึ่งเพื่อนสมาชิกบางท่านอาจได้เคยลงให้อ่านบ้างแล้ว พอดีว่าเห็นมีคนลงไว้ในเวปพลังจิตเมื่อเร็วๆนี้เอง ก็เลยคิดว่า น่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนสมาชิกใหม่อีกหลายๆท่านที่ยังไม่เคยทราบหรือว่าได้รู้จัก พลังแห่งน้ำ

ท่านอาจารย์อุบลกล่าวว่าในโลกนี้มีคนสามารถใช้เครื่องวัดพลัง Hado นี้ได้เพียงแค่ 3 ท่านเท่านั้นเอง เพราะว่าเครื่องนี้นอกจากจะราคาแพงมากแล้วยังต้องใช้กับผู้มีจิตใจสูงเท่านั้น และนอกจากจะใช้วัดพลังงานอันมหัศจรรย์ของน้ำแล้ว ยังสามารถวัดและบ่งบอกลักษณะจิตใจของคนได้ด้วย ว่าดีหรือไม่ดี (หากจำผิดพลาดต้องกราบขออภัยด้วยนะครับ)

หากได้ดูคลิปฉบับย่อนี้แล้ว คงทราบได้ว่า จิตใจ หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม จะส่งผลโดยตรงต่อน้ำ ดังนั้นหากเราทราบแล้วเราก็จะสามารถนำมาประยุกต์หรือรู้จักสร้างสิ่งดีๆแก่ชีวิตเราได้ เช่น การสวดมนต์ทุกๆวันนั้น น้ำหรือเลือดในร่างกายจะได้รับพลังงานที่ดีมากมายแค่ไหน ก็ดูตัวอย่างผลึกในคลิปก็พอจะทราบใช่ไหมครับ การคิดดี ทำดีจากภายใน จึงส่งผลโดยตรงต่อร่างกาย และอื่นๆของคนเราโดยตรงมากมาย เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบในร่างกายถึงประมาณ 75% เลยทีเดียว ยิ่งทำดี พูดดี คิดดี ก็คิดเอานะครับว่า ตัวเราจะได้รับผลดีสุดๆเยี่ยงไร

พอพูดถึงพลังน้ำพีระมิด ก็ต้องพูดถึงพลังฮาโดะ เพราะน้ำพีระมิดนั้นให้พลังค่าฮาโดะที่สูงมาก หากผมจำไม่ผิดเคยมีผู้เรียกน้ำพลังพีระมิดว่า เป็นน้ำที่จากสรวงสวรรค์หรือนิพพาน เพราะค่าพลังงานที่ได้ออกมานั้นสามารถรักษาโรคและอื่นๆมากมาย ดังนั้นน้ำพีระมิดที่เราได้จากบ้านสวนฯและเราทำเองโดยใช้องค์พีระมิดจำลอง จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมลูกหลานบ้านสวนฯจึงพบปาฏิหารย์และมีสุขภาพร่างกายและชีวิตที่ดีขึ้นทุกๆด้าน

ขออนุโมทนากับพี่ธนา ด้วยครับ

-เวลาเราคิด ไม่ดี กับคนอื่น น้ำในร่างกายเราก็ จะ มาทำร้าย ตัวเราเองครับ มนุษย์เรามีน้ำในร่างกายประมาณ 70 เปอร์เซนต์ เวลาเราคิดไม่ดีกับคนอื่น น้ำในร่างกายเรามันก็ย่อมเกิดผลึกที่ไม่สวยงาม ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยเทศน์ว่า เวลาเราคิดจะทำร้ายใคร เหมือนกับ จุดไฟ มันย่อมไหม้ตัวผู้จุดก่อน เป็นอันดับแรก ฉะนั้นเจริญพรหมวิหาร 4 ดูแลจิตใจของเราให้คิดแต่สิ่งดีดีครับ

ขออนุโมทนาด้วยครับ

อนุโมทนาค่ะพ่อใหญ่ธนา ถึงแม้จะเคยอ่านและเคยดูในรายการมาแล้ว

แต่ได้มาอ่านอีกทีก็ดีเหมือนกันค่ะ

ต้องเตือนบ่อยๆแบบนี้แหล่ะ เน้อ..

อะไรๆก็รู้ไปหม๊ด แต่บทจะ"โง่" ก็เผลอ และ"ลืม"ได้บ่อยๆเหมือนกัน..

แถมช่วงนี้โทรหาคุณพี่"ปัญญา" ไม่ค่อยติดเล๊ย..

สายไม่ว่างตาหล๊อด มีแต่สายเรียกซ้อนจากมิสเตอร์โง่ดักดาน

เรียกเข้ามาตาหล๊อด..โอ้ววววว...เบื่อตัวเองเหมือนกัลล์

ขออนุโมทนาบุญกับพี่ธนาด้วยนะคะ

คิดว่ามีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบข้อมูลตรงนี้

ถือว่าเป็นประโยชน์มากทีเดียวค่ะ

ตัวตุ้ยเองขอแนะนำเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ

คือเมื่อเรารู้พลังมหัสจรรย์ของน้ำ ของจิตเราแล้ว

ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

เช่นระหว่างทำงาน ทำอาหาร

หรือกิจกรรมอื่นใดก็ตาม

หากคิดแต่สิ่งที่ดี พูดแต่เรื่องดีๆ ก็สามารถส่งผลให้ทำสิ่งต่างๆ

ออกมาดี มีค่าบวกได้ค่ะ ไม่ว่าจะทำงาน

ทำอาหาร ขับถ่าย สามารถทำได้หมด

เพราะรอบตัวเราล้วนมีน้ำเป็นส่วนประกอบ

เพราะธรรมมะคือธรรมชาติค่ะ

ขอบคุณคุณธนา พ่อใหญ่ธนาหลายๆ เด้อค่ะ

เพิ่งรู้จริงๆค่ะ ที่อาจารย์ท่านบอกว่า ผลึกน้ำจะเรียงตัวสวยงามเป็นไง

ขออนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

อนุโมทนากับพี่ธนา และพี่ตุ้ยด้วยค่ะ

ไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้เลยค่ะ

นับว่ามีประโยชน์มาก

จะได้นำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเองค่าาา

อนุโมทนากับคุณธนาด้วยนะคะ

ที่นำสิ่งดี ๆ มาเล่าสู่กันฟัง

สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนาค่ะ คุณธนา

คิดดี  ทำดี  พูดดี

อารมณ์แจ่มใสเสมอ

ผลึกน้ำ ในร่างกายจะได้สวย

( บอกตัวเอง..สวดมนต์ ร้องเพลงเข้าไว้ )

 อนุโมทนากับพ่อใหญ่ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 อนุโมครับพี่ธนา

ใจปกติกายก็ปกติไปด้วย

ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับคนปกติก็ปกติด้วย

ขอบคุณคะคุณธนา ที่ช่างสรรหาเรื่องน่ารู้มาให้

หมอก็มีเรื่องที่เพื่อนส่งมาให้เกี่ยวกับ ผลเสียจากการใช้ microwave ปรุงอาหาร

โดยเขาทดลองต้มน้ำโดยใช้ เตาแก๊ส และ microwave หลังจากปล่อยให้น้ำเย็นแล้วเอาน้ำทั้งสองชนิดมารดต้นไม้สองต้นที่มีทุกอย่างเหมือนกัน ผลปรากฏว่าภายในหนึ่งอาทิตย์ ต้นที่ใช้น้ำที่ต้มโดยใช้microwave เหี่ยวเฉาตายไปในที่สุด โดยเขาอธิบายว่า microwave ไปทำให้molecul ของน้ำเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะมีผลเสียต่อร่างกายของเราเช่นกัน ดูๆแล้วก็คงเหมือนการทดลองที่คุณธนาเล่าเรื่องผลึกของน้ำเปลี่ยนแปลงจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ เสียดายที่เขาไม่ได้เอามาส่องกล้องดูว่าผลึกของน้ำจะเป็นยังไงบ้าง ว่าแต่บริษัทที่สร้างmicrowave ขายคงไม่ชอบให้ทดลองหรอกนะ ตั้งแต่นั้นมาหมอก็เลิกใช้ microwave

ที่น่าแปลกพอเล่าให้ใครๆฟังกลับไม่มีใครสนใจทุกคนก็ยังใช้ microwave แทนเตาแก๊สอย่างเดิม

ขออนุโมทนาบุญกับคุณธนาที่นำสาระดีๆ มาให้ลูกบ้านสวนได้อ่านกันอีกแล้ว

เคล็ดลับอยู่ที่ คิดดี ทำดี พูดดี ชีวิตก็มีสุข

สาธุ .........

โอ้ อนุโมทนาบุญกับคุณหมอใจดีด้วยครับ บทความนี้ผมเคยอ่าน และเคยได้พูดให้เพื่อนๆฟังกันหลายท่านเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่ผมก็คิดว่า ไมโครเวฟ ขนาดวางใกล้ๆทีวี เวลาสายเข้ายังทำให้ภาพสั่นสะเทือนไหวได้มากมาย และเขายังเคยทดลอง นำเม็ดข้าวโพดที่ทำป๊อบคอร์นมั้ง มาวางไว้ตรงกลาง และนำมือถือวางไว้รอบๆ และโทรเข้าพร้อมๆกันทุกเครื่อง เชื่อไหมครับ เม็ดข้าวโพดแห้ง พองตัวแตกกระจุยกลายเป็นป๊อบคอร์นระเบิดไปเลย เรียกว่า พิษภัยของคลื่นไมโครเวฟนี่ร้ายเหลือจริงๆนะครับ

ว่าแระ ตอนนี้บ้านสวนฯท่านอาจารย์อุบลกำลังทำถ่านจากฟืน และเศษไม้ต่างๆในบ้านสวนฯ ง้านเราฉงฉัยต้องกลับมาหุงเตาถ่านหรือฟืน ไว้รองรับชีวิตหลังภัยพิบัติแล้วม้างก๊าบบคุณหมอ

ขออนุโมทนากับทุกๆท่านค่ะ

เคยได้ยินข้อมูลเรื่องไมโครเวฟที่คุณหมอว่าเหมือนกัน

ท่านผู้รู้ ( แนวธรรมชาติบำบัด )

บอกมาว่าคลื่นไมโครเวฟ

เป็นคลื่นที่ย้อนสนามแม่เหล็กโลก

เลยสรุปเองว่า ในเมื่อมันไม้ได้สอดคล้องกับธรรมชาติ

มันก็คงไม่เป็นมิตรกับร่างกายเราซี

ฉะนั้น เราอยู่ห่างๆมันน่าจะดีกว่านะ

ไม่มีมันเราก็ใช้อุปกรณ์อื่นก็ได้

แต่ที่แปลกใจสุดๆ

เมื่อเร็วนี้ คุณหมอจาาก รพ.ศิริราช ( ถ้าจำไม่ผิด )

ออกมายืนยันว่ามันปลอดภัย

ใช้อุ่นหรือ ปรุงอาหารได้ ???????

โดยส่วนตัวแล้ว ยังไงๆๆๆ ก็ไม่มั่นใจ

--------------------------------------------

น้ำที่มีผลึกสวยงามมี hado สูงดังว่านี้

มีข้อพิสูจน์ว่า สามารถช่วยกำจัดยาฆ่าแมลง ฯลฯ

ที่เค้าแถมมากับผัก ผลไม้ที่เราซื้อมาได้อีกด้วย

หลังจากแช่ทิ้งไว้สักพัก

เราจะได้บริโภคผักผลไม้ออร์แกนิกส์

ที่มี hado  สูง รสชาติธรรมชาติเดิมๆด้วย

ขอบคุณและอนุโมทนาคะ คุณธนา

จะว่าไป ช่วงหลังๆ ตั้งแต่เจอเชื้อ อีโคไล ในผักต่างๆเนี่ย..

ชนิดาก็เลยใช้น้ำพีระมิดล้างและแช่ผักตาหล๊อดเลย

รู้สึกว่าน่าจะปลอดภัยหายห่วงที่สุด แหม่..เชื้อโรคเล่นมาทุกทางเลยนิ..

ส่วนเรื่องเตาไมโครเวฟ อันตรายมากๆจริงๆจ๊า เคยอ่านเหมือนกัน

เป็นอันตรายทั้งต่อสุขภาพร่างกายและมีผลต่อจิตใจ

ถ้าเราทานอาหารที่อุ่นด้วยเตาไมโครเวฟ นานๆไปจะส่งผล

ทำให้ออร่าหรือแสงพลังชีวิตของเรารั่วและฉีกขาดได้..

ซึ่งทุกๆท่านก็คงจะทราบดีว่า เมื่อออร่ารั่วและฉีกขาด

แล้วทำให้พลังชีวิตลดลง จิตใจก็จะห่อเหี่ยว ก็ป่วยกันได้ง่ายๆ

แม้กระทั่งทีวี จอคอมพ์ และอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ทั้งหลาย

ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อ"ออร่า"เราทั้งสิ้น..

ฉะนั้น จึงมีผู้รู้หลายๆท่าน เพิ่มพลังออร่าของตนด้วยการ

สวมเครื่องประดับที่เสริมเพิ่มพลัง อย่างเช่นเพชร

ทองคำ แพลทตินั่ม เงิน ทับทิม ฯลฯ อย่างลูกบ้านสวนฯ

ก็สวมแหวนพีระมิด ต่างหู และจี้.. หรือมี สิ่งมงคลต่างๆติดตัว

สวดมนต์ ภาวนาตลอดเวลา ก็เพิ่มพลังชีวิตให้เราได้..

รายละเอียดลึกๆมันเยอะมั่กๆ เขียนเท่าที่เข้าใจและจำได้นะคะ..

อนุโมทนากับทุกท่านค่ะ สาธุ

ขอบคุณข้อมูลความรู้จากคุณหมอวัฒนา พี่ชนิดาด้วยจ้า

เพิ่งจะรู้จริงๆค่ะ

ต่อไปจะพยายามไม่ใช้ไมโครเวฟ

และสิ่งต่างๆที่มันทำลายออร่าของตัวเองค่ะ

ยิ่งไม่ค่อยจะมีอยู่ด้วย ฮิฮิ

อนุโมทนาด้วยค่า

อนุโมทนาบุญกับคุณหมอวัฒนาค่ะ สาธุ

กำลังมีความอยากได้ไมโครเวฟ เครื่องใหม่

ก็เลยจะได้ไปดูเตาแก๊สมาใช้แทน

ขอบคุณค่ะ

   ขออนุโมทนาบุญกับคุณธนาและทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ ที่นำสิ่งดีๆ มาบอกกล่าวให้ได้รับรู้กัน ขอบคณค่ะ