ReadyPlanet.com


สิ้นแล้ว “เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ” ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า


 

 

http://youtu.be/8zflOH484vM
พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
......................เย็นวันนี้ 27 กรกฎาคม 2554 ท้องฟ้าเหนือกรุงเทพมืดครึ้มเหมือนฝนกำลังตั้งเค้า ประหนึ่งเป็นการอาลัยครั้งสุดท้ายต่อการสิ้นพระชนม์ของ "เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ" พระราชธิดาพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6) ตลอดพระชนม์ชีพ 85 พรรษา พระองค์ทรงเป็นราชนารีในมหาจักรีบรมราชวงศ์ มิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง ตราบจนถึงวาระสุดท้ายของพระองค์

 




......................เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติ ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง ก่อนที่สมเด็จพระบรมชนกนาถจะเสด็จสวรรคตในอีกหนึ่งวันต่อมา
พระนาม เพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นพระนามที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานในพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คำนำหน้าพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ออกคำนำหน้าพระนามเป็น สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ และคำนำหน้าพระนามนี้ยังใช้จนถึงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน พระองค์ทรงเป็นพระกุลเชษฐ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ในปัจจุบัน
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นเครือญาติของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา[1][2]
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.37 น. ด้วยพระอาการติดเชื้อในพระกระแสโลหิต ณ ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราช สิริรวมพระชนมายุ 85 พรรษา

 

ที่มาhttp://board.palungjit.com/f8/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81

%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E2%80%9C%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0

%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8

%95%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AF%E2%80%9D-%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%

B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1

%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%

B9%89%E0%B8%B2-299687.html



ผู้ตั้งกระทู้ คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-28 07:02:51


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1560673)

 

 

สำนักพระราชวัง
ประกาศสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์

................สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ได้เสด็จประทับรักษาพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต ณ ตึก 84 ปี ชั้น 5 ด้านตะวันออก โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2554
แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ พระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ และสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 16 นาฬิกา 37 นาที วันที่ 27 กรกฎาคม 2554 รวมพระชันษา 85 ปี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐาน พระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง 
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป
อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 13 นาฬิกา ถึงเวลา 16 นาฬิกา วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2554
สำนักพระราชวัง
27 กรกฎาคม พุทธศักราช 2554

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-28 07:04:45


ความคิดเห็นที่ 2 (1560674)

 



สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีเป็นพระราชธิดา
เพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน 2468 เวลา 12.52 น. ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง ก่อนที่สมเด็จพระบรมชนกนาถจะเสด็จสวรรคตในอีกหนึ่งวันต่อมา


ขณะที่ประสูตินั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประชวรอย่างหนักอยู่บนพระแท่น ทรงทอดพระเนตรพระราชธิดาเป็นครั้งสุดท้ายแห่งพระชนมชีพ เพราะในคืนนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เสด็จสวรรคต

พระนม (แม่นม) ของสมเด็จเจ้าฟ้าพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 คือ คุณบุปผา พนมวัน ณ อยุธยา ซึ่งเป็นพระนมโดยตำแหน่ง เพราะสมเด็จเจ้าฟ้าพระราชธิดาในรัชกาลที่ 6 เสวยพระกษิรธาราจากพระชนนี มีคณะพยาบาลจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ถวายอภิบาลในเบื้องต้น จากนั้นจึงมีคณะพระอภิบาลจำนวน 12 คน ซึ่งเป็นอดีตคุณพนักงานในรัชกาลที่ 6 โดยผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าอภิบาลจนทรงเจริญพระวัยพอสมควร

พระนามพระนามของสมเด็จเจ้าฟ้าพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นั้นได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2468และมีคำนำพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ (ภาติกา หมายถึง หลานสาวที่เป็นลูกสาวของพี่ชาย) โดยก่อนหน้านี้มีการสมโภชน์ ได้มีการคิดพระนามไว้ 3 พระนาม ได้แก่ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชอรสา สิริโสภาพัณณวดี, สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนจุฬิน สิริโสภิณพัณณวดี และสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ท้ายที่สุด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงเลือกพระนามสุดท้ายพระราชทาน

เมื่อทรงพระเยาว์หลังจากประสูติแล้วไม่นาน สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอฯ และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ได้ทรงย้ายไปประทับ ณ ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อทรงเจริญวัยขึ้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงว่าสมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอฯ จะไม่มีสถานที่ทรงวิ่งเล่นเพราะในพระบรมมหาราชวังมีบริเวณคับแคบ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายออกมาประทับ ณ พระตำหนักสวนหงษ์ พระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นที่กว้างขวางร่มรื่น แวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เหมาะแก่การสำราญพระอิริยาบถของสมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอฯ

ขณะสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ยังทรงพระเยาว์ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงพระเมตตาเอาพระราชหฤทัยใส่ดูแลทั้งด้านพระอนามัยและความเป็นอยู่มาโดยตลอด ด้วยเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระประชวรหนักนั้น ได้มีพระราชดำรัสกับสมเด็จพระมาตุจฉาเจ้าว่า “ขอฝากลูกด้วย” ต่อมา สมเด็จพระพันวัสสามาตุจฉาเจ้ายังได้มีพระราชกระแสถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “เจ้าฟ้านี่ ฉันตายก็นอนตาไม่หลับ พระมงกุฎฝากฝังเอาไว้”

หลังจากความวุ่นวายทางการเมือง เมื่อเกิดเหตุการกบฎบวรเดชและการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ผ่านพ้นไป พระนางเจ้าสุวัทนาฯ จึงทรงพระกรุณาโปรดให้สร้างตำหนักที่ประทับ สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอฯขึ้น บนที่ดินริมถนนราชสีมาตัดกับถนนสุโขทัยแล้วเสร็จใน พ.ศ.2477 พร้อมกับพระราชทานนามตำหนักแห่งนี้ว่า สวนรื่นฤดี

เมื่อประทับในสวนรื่นฤดีได้ระยะหนึ่ง พระนางเจ้าสุวัทนาทรงสังเกตได้ว่า พระอนามัยของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ มีลักษณะพิเศษ เช่น ทรงมีความสามารถทางด้านการคำนวณ การจดจำทิศทางและความสนใจจดจ่อต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว ที่ผิดแผกจากเด็กสามัญทั่วไป จึงมีพระดำริจะทรงพาสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯไปทรงศึกษาต่อ และไปประทับรักษาพระองค์ ณ ประเทศอังกฤษ โดยทรงประทับ ณ ตำหนัก แฟร์ฮิลล์ เมืองแคมเบอร์เลย์

ครั้นเมื่อพระอนามัยของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ดีขึ้น และสภาวะการในประเทศไทยเป็นปกติสุขเรียบร้อย กอปรกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรแล้วระยะหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ จึงเสด็จกลับมาประทับในประเทศไทยเป็นการถาวร เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนพ.ศ. 2502

พระราชกรณียกิจสำคัญที่ทรงมุ่งมั่นปฏิบัติด้วยพระวิริยภาพมาโดยตลอด ที่สำคัญคือ การปฏิบัตพระราชกรณียกิจแทนองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในโอกาสต่างๆ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ได้ทรงรับสถาบันและองค์กรต่างๆ ไว้ในพระอุปถัมภ์เป็นจำนวนกว่า 30 แห่ง

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ มีพระปณิธานอันแน่วแน่ในการทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจ ดังปรากฏในพระดำรัสที่พระราชทานในงานฉลองพระชนมายุ 61 พรรษา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 ณ วชิราวุธวิทยาลัย ความตอนหนึ่งว่า

“ฉันขอกล่าวต่อท่านทั้งปวงว่า จะพยายามบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง ด้วยความจงรักภักดีต่อบ้านเกิดและต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทั้งจะได้รักษาเกียรติศักดิ์แห่งความเป็นราชนารีในมหาจักรีบรมราชวงศ์ไว้ชั่วชีวิต”

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-28 07:05:43


ความคิดเห็นที่ 3 (1560897)

อนุโมทนาค่ะน้องเบลล์

เพิ่งทราบประวัติแบบละเอียดของพระองค์วันนี้เอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-29 03:57:00


ความคิดเห็นที่ 4 (1561040)

ขออนุโมทนากับน้องเบลล์ด้วยคะ

อาทิตย์ก่อนไปเที่ยวที่พระราชวังมฤคทายวัน

ได้เห็นภาพของท่านในอดีต แต่ไม่ทราบประวัติเท่าไหร่

ตอนนี้ได้ทราบประวัติอย่างละเอียดแล้ว

ท่านทรงเป็นราชนารีแห่งราชวงศ์จักรีที่น่ายกย่อง

ขอดวงวิญญาณของท่าน ไปสู่สุคติภูมิเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-29 23:42:42


ความคิดเห็นที่ 5 (1561183)

 

 

อนุโมทนาด้วยนะคะ คุณเบลล์ พึ่งจะได้ทราบข่าวจากกระทู้ของคุณเบลล์ในวันนี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้ว (hun_ny18-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-31 00:02:44


ความคิดเห็นที่ 6 (1561300)

ขออนุโมทนากับน้องเบลล์ด้วยค่ะ

ทำไมหนูน่าร้กจังเลย  แม่หมวย

ไม่มีปัญญารู้ประวัติพระองค์ได้ดี

ถ้าหนูไม่ให้ธรรมทานเรื่องนี้

คืนนี้พึ่งกลับมาจากสวดศพยาย

รู้สึกคิดถึงยายเขามาก มีธรรม

ทานจากบ้านสวนฯ นี่เหละ

ที่ช่วยให้สุขใจขึ้น ขอบคุณน้อง

เบลล์มากค่ะ ขอให้มีความสุข

ความเจริญ ทำอะไรก็ขอให้

สำเร็จทุกประการเทอญ

สาธุ ๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย พรรณสรลี ชูตระกูล (wattanachai-dot-chut-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-31 23:49:38


ความคิดเห็นที่ 7 (1561337)

 อนุโมทนาสาธุครับพี่ชนิดา  พี่แหวน  พี่ณัชชา  พี่หมวย

ขอน้อมรับพรจากพี่ๆครับ

ขอความดีและความสุขที่ลูกพึงได้รับ

น้อมบูชาทุกๆพระองค์

และบูชาพระคุณของเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ

ขอพระองค์สูสวรรคาลัย  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-01 07:05:21



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.