ReadyPlanet.com


บทกวีคำคมคำสอนคติพจน์ที่น่าสนใจ


พระพุทธองค์ตรัส

บางคนในโลกนี้

เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์

เว้นขาดจากการลักทรัพย์

เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม

เว้นขาดจากการพูดเท็จ

เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด

เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ

เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ

ไม่มีความอยากได้ของผู้อื่น

มีจิตไม่ปองร้าย

มีความเห็นที่ถูกตรง

บุคคลนั้นเมื่อตายไป

ย่อมเข้าถึงความเป็นมนุษย์

เขาย่อมเลี้ยงตนในโลกมนุษย์

ย่อมตั้งอยู่ในความเป็นมนุษย์

ด้วยอาหารของมนุษย์

แม้ทำทานให้แก่ผู้ล่วงลับนั้น

ทานก็ไม่เข้าไปสำเร็จแก่มนุษย์นั้น

แต่ผู้ให้ทานนั้นเองย่อมมีผล

เป็นผู้ไม่ไร้ผลในทาน

...จากพระไตรปิฏก ภาษาไทย ฉบับหลวง เล่มที่ 24

       "ชาณุสโสณีสูตร" ข้อที่ 166

        (สหายธรรมทุกๆท่าน ร่วมแชร์ได้นะครับ)



ผู้ตั้งกระทู้ ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-14 21:33:38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1558046)

       "อะไรก็ไม่ได้"

?...?...?...?...ฯลฯ

คนเราต้องเป็นทุกข์เพราะ.....อะไรก็ไม่ได้ เริ่มต้นด้วย

-ทำไมเขา...ทำไมเรา...ทำไม...

-ต้องอย่างนั้น...ต้องอย่างนี้...ต้อง...

-เคยอย่างนี้...เคยอย่างนั้น...เคย...

-ไม่เอ๊า...ไม่เอา...

และจบลงด้วยความทุกข์ที่เพิ่มขึ้น เพราะว่า...

"อะไรๆ  ก็ไม่ได้"

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-14 21:44:20


ความคิดเห็นที่ 2 (1558048)

 

"อะไรๆ  ก็ไม่ได้ "

เกิดจากการยึดติด

ติดมาก ผิดหวังมาก

ทุกข์มาก ชิมิ ชิมิ

น้องรัก..อิ อิ

ตัวเล็ก เอ๋ย

รูปนี้ใช้ไม่ได้  ไม่หล่อ

มองแล้วคิดว่า

คุณชูวิด  No.5

เปลี่ยน ๆ ให้ไวนะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-14 21:55:04


ความคิดเห็นที่ 3 (1558052)

  "อะไรก็ได้"

 วันหนึ่งๆเราทำความดีอะไร เพื่อตนเองและ

คนอื่นบ้าง?

        ความเก่งให้พลังสร้างสรรค์ แต่ความดี

เป็นพลังช่วยให้ความเก่งก้าวไปข้างหน้าได้

รวดเร็วและมั่นคง

       มีคนเก่งและคนดีมากมายแต่เราไม่ค่อย

ได้พบ เพราะว่าท่านทั้งหลายนั้นมักจะเก่งไม่

ถูกที่ และไม่ถูกเวลาเท่านั้นเอง

   คิดดีและทำดี ดีกว่าคิดแล้วพูด...พูด...พูด

แล้วไม่ทำ

                     ******/*******/*******/*********

"อะไรก็ได้ หรือ แค่นี้พอ"

1.เปลี่ยนความล้มเหลวให้เป้นประสบการณ์

2.เปลี่ยนปัญหาให้เป้พลัง ความสำเร็จอยู่แค่

   เอื้อม

3.ความสำเร็จทุกอย่างไม่ยาก เพียงแต่ทำ

   จริงๆ กับทำบ่อยๆเท่านั้นเอง

     จะเป็นอะไรก็ได้ที่เรา ได้ทำ และอะไรก็ได้ที่

เรา ทำได้       การรู้ แต่ไม่ทำ ตามที่รู้ ก็ไม่ได้ประ

โยชน์อะไรเลย คนที่ไม่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็

ไม่เปลี่ยน และการแพ้ไม่ใช่การจบ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-14 22:02:33


ความคิดเห็นที่ 4 (1558123)

สุขทุกข์อยู่ที่อุปทาน   สุขสำราญอยู่ที่การปล่อยวาง  โมทนาบุยกับตัวเล็ก +แมว และทุกท่านสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 10:13:57


ความคิดเห็นที่ 5 (1558187)

"อาการยึดติด"

จิตปุถุชนทั่วๆไป  มีกิเลสครอบงำ

ไม่เห็นการกระทบที่เกิดขึ้น

และ

ดับไปเป็นปัจจุบันขณะ

จึงมักจะยึดติดอยู่ข้างหนึ่งข้างใดเสมอ

คือ

ถ้าไม่ยึดติดการกระทบจากภายนอก

ด้วยการได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส รู้สัมผัส

ก็มักจะติดการกระทบจากภายใน

คือ

การรับรู้อารมณ์การปรุงแต่งจากธาตุรู้ของใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 20:54:11


ความคิดเห็นที่ 6 (1558188)

ถ้ามีความสะอาด  ของคู่กันคือ  ความสกปรก จะปรากฏขึ้น

ถ้ามีความสว่าง ของคู่กันคือ  ความมืด จะปรากฏขึ้น

ถ้ามีความสงบ ของคู่กันคือ ความวุ่นวาย จะปรากฏขึ้น

ถ้ามีความสว่าง ของคู่กันคือ ความมีอยู่ จะปรากฏขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:09:17


ความคิดเห็นที่ 7 (1558190)

เมื่อบุคคลเป็นอิสระ

พ้นไปจากอำนาจของใจได้แล้ว

พึงควรระวังอย่าก้าวพลาด

ตกไปอยู่ในบ่วงแรงดึงของใจอีก

ต้องรู้เท่าทันการปรุงแต่งของใจ

หากบางครั้งต้องใช้"ใจ"ทำงาน

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:16:16


ความคิดเห็นที่ 8 (1558192)

ใจ เป็นผู้นำสรรพสิ่ง

ใจ เป็นใหญ่(กว่าสรรพสิ่ง)

สรรพสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ

ถ้าพูดหรือทำสิ่งใดด้วยใจบริสุทธิ์

ความสุขย่อมติดตามเขา

เหมือนเงาติดตามตน

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:24:14


ความคิดเห็นที่ 9 (1558193)

การให้ธรรมะ เป็นทานนั้น

ถือว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่

แต่บุญที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

ก็คือ

การรับธรรมะและปฏิบัติธรรมะ

นั้นด้วยตัวของท่านเอง

(สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:27:52


ความคิดเห็นที่ 10 (1558195)

ถ้าจิตใจของเราท่านทั้งหลาย

ทุกรูปทุกนาม บำเพ็ญภาวนาให้เต็มที่

ไม่ย่อท้อต่อข้อปฏิบัติแล้ว

มรรคผลนิพพานต้องตามมา

ให้ผลทีเดียว มรรคผลนิพพานอยู่ที่ไหน

อยู่ใต้ดิน อยู่ใต้น้ำ หรือ อยู่บนฟ้า

บนอากาศ หรือ ไม่ใช่ทั้งนั้น

เมื่อไม่ใช่ อยู่ที่ไหน "อยู่ที่จิตใจ"

                                 (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:40:10


ความคิดเห็นที่ 11 (1558199)

ผู้มีกุศลในใจ คือมีบุญในใจ

หนักแน่นใครด่า ใครว่า ติเตียนก็ไม่เสียใจ

ไม่โกรธ ไม่เกลียด เพราะว่าใจมีบุญ

เป็นเครื่องอยู่ ตรงกันข้ามกับใจที่มีกิเลส

เป็นเครื่องอยู่ กิเลสอยู่ในใจก็มีแต่ปั่นจิตใจ

ให้เดือดร้อนวุ่นวาย

(หลวงปู่เหรียญ วรลาโก)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:49:20


ความคิดเห็นที่ 12 (1558203)

คนที่ตายไปแล้ว หากคนมีชีวิตอยู่

เขาสามารถจดจำ หรือคิดถึงอยู่

ผู้นั้นได้ชื่อว่า"ไม่ตาย"

แต่คนที่มีชีวิต

อยู่กลับไม่มีใครกล่าวถึง หรือคิดถึงเลยนั้น

คือ

"ผู้ตายไปแล้ว"

(หลวงปู่เงิน พุทธโชติ)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 21:57:15


ความคิดเห็นที่ 13 (1558204)

"...วัตถุภายนอก มิใช่เป็นสิ่งที่เรา

จะนำติดตัวไปด้วยได้

ถ้าเราไม่ทิ้งมันไป

มันก็ทิ้งเราไปวันหนึ่ง

ฉนั้นจึงควรรีบสะสม

แต่บุญภายในไว้ให้มาก

เพราะเราจะได้นำติดตัวไปด้วย..."

(ท่านพ่อลี ธัมมธโร)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 22:06:50


ความคิดเห็นที่ 14 (1558208)

สมบัติที่เป็นของกาย

เรียกว่า

"โลกีย์ทรัพย์"

สมบัติที่เป็นของใจ

เรียกว่า

"อริยทรัพย์"

สมบัติของกายอาศัยใช้ได้

เฉพาะ

แต่ในโลกนี้

แต่

สมบัติของใจ

ใช้ได้

สำหรับโลกหน้า

(ท่านพ่อลี ธัมมธโร)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 22:16:39


ความคิดเห็นที่ 15 (1558215)

พระท่านสอนว่า

ผู้ที่เดินทางสายกลางได้

คือ

ไม่ยินดียินร้ายกับคำตำหนิ และคำสรรญเสริญ

ผู้นั้นแหละ

เรียกว่า

ผู้มีอำนาจที่แท้จริง

คือ

อำนาจเหนือกิเลสในตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 22:23:26


ความคิดเห็นที่ 16 (1558222)

การเบียดเบียนคนอื่น

ด้วยคำพูดนั้น

แม้จะสร้างทุกข์ให้คนอื่นได้บ้างก็จริง

แต่

มันก็สร้างทุกข์ อันมากมาย

และ

ยาวนานให้แก่ตัวคนพูดไปพร้อมๆกัน

ฉะนั้น

จงคิดทุกคำที่พูด

แต่

อย่าพูดทุกคำที่คิด

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 22:29:16


ความคิดเห็นที่ 17 (1558229)

"มีมาร-ไม่มีมาร"

มารไม่มี บารมี ยิ่งไม่แก่

จะมีแต่ ถอยถด หมดความหมาย

ไม่มีพลัง สร้างวิบาก ให้มากมาย

หรือสอบไล่ ให้เรา เข้าใจตัว

****************

มารยิ่งมี บารมี ยิ่งแก่กล้า

ยิ่งรุดหน้า สามารถ ในธรรมทั่ว

สร้างวิบาก ได้มากมาย ไม่เนียนัว

ให้ดอกบัว เบ่งบาน สะท้านสะเทือน

*******************

แล้วประหัต ปะหาร มารร้ายให้ตายเตียน

ได้แนบเนียน ไม่มี อะไรเหมือน

เมื่อมารมี ก็เหมือนมาร มาตักเตือน

ให้พบเงื่อน งำกล้า ฆ่ามารเอง

***************************

                  (ท่านพุทธทาส ภิกขุ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 22:47:04


ความคิดเห็นที่ 18 (1558230)

ผู้อื่นไม่ได้ทำจิตของเราเศร้าหมอง

หรือ

ผ่องแผ้ว

เราเองเป็นผู้ทำจิตของตน

เศร้าหมองผู้อื่นช่วยไม่ได้

แม้พระพุทธเจ้า ก็ช่วยไม่ได้

ท่านทรงเป็นเป็นผู้บอกทางให้เท่านั้น

ผู้ปราถนา ความเจริญ ความสุข

ต้องหมั่นฝึกฝนอบรมตนเอง ทำเอง รู้เอง

ได้เอง ใครทำใครได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 22:56:17


ความคิดเห็นที่ 19 (1558231)

ถ้าคุณเอาแต่นั่งทุกข์ใจ

รอว่าเมื่อไหร่จะหมดเวร หมดกรรม

แล้วคุณจะได้สบายลืมตา อ้าปากเสียที

คุณก็อาจจะพบว่า เวรกรรมไม่เคยหมดไป

จากคุณเลยตลอดชีวต

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-07-15 23:00:30



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.