ReadyPlanet.com


ผลิตภัณฑ์ที่บ้านสวนพีระมิด ช่วยดับทุกขเวทนาได้


สวัสดีค่ะ ตุ้ย ศิริพร นะคะ ขอเล่าเหตุการณ์ของเย็นวันเสาร์ ที่27 พ.ย. 53 ให้ฟังดังนี้นะคะ

แม่ตุ้ยรู้สึกปวดท้องจนแทบทนไม่ไหว (คุณแม่เป็นมะเร็งตับค่ะ ขนาด 10 ซ.ม.  แต่ได้ทำการรักษาแล้วคุณหมอแจ้งว่าผลการรักษาดีไม่มีเชื้อหลงเหลือแล้ว ส่วนตับที่เหลือก็เป็นตับแข็งค่ะ เฮ้อ) ปวดท้องบริเวณตับที่เป็น ปวดจนหน้าซีด ทุกคนในบ้านตกใจกันมาก เพราะไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร บ้านเรามีแต่ผู้หญิงกับเด็ก น้าสาวก็ให้รีบพาไปหาหมอ ตัวแม่เองก็ไม่ไหวแล้ว อยากจะไปโรงพยาบาลแล้ว ตุ้ยก็เครียดนะคะ เงินสำรองเราก็ไม่มีเลย ถึงแม้ว่าจะใช้สิทธิบัตรทองก็ตาม อดหวั่นไม่ได้ เลยคิดว่า ระยะทางกว่าที่แม่จะถึงโรงพยาบาล ก็คงจะใช้เวลาไม่น้อย ตุ้ยก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ แต่ก็ยังพอมีสตินะคะ ในใจก็ได้แต่ขอ บารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี ท่านท้าวมหาราช ท่านพระยายมราช ฯลฯ มากมายค่ะ อาราธนามาหมด และไม่ลืมนึกถึงอ.อุบล ด้วยนะคะ ขอให้ท่านทั้งหลาย มาช่วยให้แม่คลายทุกขเวทนานี้ด้วยเถิด หากหายจากอาการเจ็บป่วยตรงนี้ ตุ้ยจะเขียนเรื่องนี้เล่าเป็นธรรมทาน และขอบคุณสิ่งศํกดิ์ทั้งหลายลงเว็บไซต์บ้านสวนฯ  ในระหว่างที่นั้น ก็ท่องคาถาพระยายม ไปด้วย สับสน ปนเปกันไปหมดค่ะ อีกทาง ก็ได้วิ่งไปเปิดเพลงของบ้านสวนพีระมิดไปด้วย ให้แม่ฟังไปด้วย อีกทางก็รีบไปเอาน้ำพีระมิดมาฉีดบริเวณที่แม่ปวด นวดยาหม่องไปด้วยเบาๆ เพราะโดนนิดเดียวแกก็จะเจ็บมากค่ะ  ในใจก็ระลึกถึงพระพุทธองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์  หลวงพ่อฤาษี และอาจารย์อุบลตลอดเวลา ผิดบ้างถูกบ้าง ก็ทำไปเรื่อยๆ ค่ะ ตกใจ สับสน ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ จำได้แต่เพียงว่าที่ อ.อุบลเคยพูดไว้ว่า ถึงวันที่มีภัยพิบัติ หมอหรือโรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือใครได้ มีแต่สิ่งเหล่านี้แหล่ะ ที่จะช่วยผู้คนได้  ตุ้ยจำได้ไม่ลืม จึงได้ลองทำทุกวิถีทาง ลองทุกอย่าง ผลปรากฎว่าในระยะเวลา ประมาณ 10 นาทีได้นะคะ แม่ตุ้ยมีอาการสงบขึ้น แม่บอกว่าดีขึ้นแล้ว  จากนั้น แม่ก็เผลอหลับไป แบบสบายๆ เลยค่ะ สักพักพอแกดีขึ้น แกก็ลุกขึ้นมากินข้าว กินปลา ขายของ ได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยค่ะ

ตุ้ยเชื่อ และพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิด คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เราเคยท่อง ว่าขอท่านเป็นที่พึ่ง วันนี้ได้พิสูจน์มาแล้วค่ะ ใครจะว่างมงายก็ช่างเขา เรารู้ด้วยตัวเราเองแล้ว จึงได้มาเขียนขอบคุณท่านค่ะ

ตุ้ย ศิริพร



ผู้ตั้งกระทู้ ตุ้ย ศิริพร (kondee25121-at-hotmail-dot-com) โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-30 16:04:56


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1519688)

 

ขออนุโมทนา กับคุณตุ้ย ค่ะ

คำว่า งมงาย  ช่างมัน พวกเราไม่แคร์

เพราะโดนมาแล้ว...

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว (prawinakamp-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-30 16:33:44


ความคิดเห็นที่ 2 (1519718)

งมงายแล้วทำให้เรามีความสุข  ก็ทำต่อไปเถอะค่ะ  เพราะตัวเองก็มีคนจัดอยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน

เลยไม่ใช่เรื่องแปลก

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2010-11-30 20:01:56


ความคิดเห็นที่ 3 (1519746)

อ.อุบล....เป็นหัวหน้าพวกงมงาย

ไม่ใช่งมงายอย่างเดียวนะ.......โง่ด้วย 

และไม่คิดที่จะเลิกงมงายด้วยนะ........เพราะ........ตั้งแต่ที่มางมงาย

เชื่อพระพุทธเจ้า........หลวงพ่อฤาษีลิงดำ.........สิ่งศักดิ์สิทธิ์............นี่นะ

ชีวิตเปลี่ยนแปลงมาก......คืองมงายแล้วมีผลดังนี้

            1.สุขภาพดี สวนทางกับหลักวิชาการ คือหลังผ่าตัดรังไข่มดลูก

ปกติต้อง  แย่  แก่  ห่อเหี่ยว  ขาดความเชื่อมั่น  อาการวัยทอง  ร้อนๆ หนาวๆ

แต่พอมางมงาย......ไม่มีอาการอย่างที่ว่า  แต่กลับ

            มีความสุขกว่าเมื่อก่อน   สวยขึ้น  สาวขึ้น  แข็งแรงขึ้นทั้งกาย ใจ

            2.จิตใจสงบสุขมากขึ้น(ที่สุดในชีวิต) ไม่มีเวร  ไม่มีภัยกับใคร

ไม่โกรธ  ไม่เกลียด  ไม่แค้น  ไม่เคือง  ไม่อิจฉา  ริษยาใคร  มีแต่ความสงบเย็น

            3.ช่วยผู้อื่นได้  ให้เขาได้พบทางหลุดพ้นอย่างเป็นรูปธรรม  แม้จะไม่

มาก  ไม่กว้างขวาง  แต่กำลังเรามีเท่านี้  ก็ช่วยเต็มความสามารถ  ทำให้ชีวิต

ไม่เสียชาติเกิด  แต่ก่อนนี้  คิดแต่จะสร้างฐานะให้ตัวเอง  คิดว่าเราฉลาด  แต่

ลืมความตาย  ลืมว่า  ปู่  ย่า  ตา  ยาย  เราก็สร้างฐานะเป็นปึกแผ่นมา  แต่ตอน

ตาย  ไม่เห็นเอาไป  ทิ้งไว้ทั้งหมด  แล้วก็ไม่เห็นกลับมาดูแลเลย  ไปแล้วไปลับ

ไม่รู้ไปอยู่ไหนกันบ้าง  แล้วเราก็ยังโง่  จะสร้างแต่ฐานะ  ไม่สร้างความสงบใจ

            4.มีสภาพคล่องทางการเงิน  ไม่เหมือนตอนอยากรวย  เหนื่อย  ล้า

ได้เงินมากก็จริง  แต่จิตไม่สงบเย็น  รุ่มร้อน  ชีวิต  วันๆ  มีแต่งาน  มีแต่เงิน

มีแต่ครอบครัวตัวเอง  ก็ยังไม่รู้จักคิดว่า  ความสุขที่แท้จริงมันคืออะไร

             มันใช่เงินหรือเปล่า  บ้าน  รถ  ฯลฯ  เราก็เห็นคนที่เขามีเงิน ร่ำรวย 

แต่เขาก็มีทุกข์   มีโรคร้าย  รักษาไม่หาย(ด้วยเงิน)บ้าง  ลูกดื้อ  ติดยา เกเร

ครอบครัวแตกแยก  ไม่สงบสุข  มีแต่เรื่อง  มีแต่ปัญหา  เราเห็นตัวอย่างหมด

แต่เราก็ยังคิดไม่ได้  ทำไมไอ้การศึกษาสูง  ตำแหน่งหน้าที่ดี  ไม่ช่วยเราเลย

           -เงินทำไมมันทำให้โรคหายไม่ได้  ทำให้คนนับถือ  เชื่อถือไม่ได้    

          -ทำไมไอ้เล่ห์เหลี่ยมของเรามันทำให้เรามีความสุข+ฐานะมั่นคงไม่ได้

          -ทำไมตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงส่ง จึงไม่ช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้ ฯลฯ

             ไม่เอาแล้ว  ลองเปลี่ยนมางมงายดูซิ  เชื่อพระพุทธเจ้า แบบงมงาย

จริงๆ  คือ  ทำทุกอย่างดู  เพื่อพิสูจน์  ผล......ปรากฎว่า...จริง...ยิ่งกว่าจริง

              สุข...........สวย...........ไม่รวย.............แต่เหลือกินเหลือใช้

ได้แบ่งปันความสุขให้คนอื่น........ได้รู้ที่ไปของตนเอง.......ชีวิตมีเป้าหมาย

             ใครอยากงมงายอย่าง อ.อุบล  ผลก็จะเป็นอย่าง อ.อุบล

นี่พระพุทธองค์ท่านรับรองผลไว้ .......ท่านไม่สอนสงเดช  พวกอวดฉลาดนี่

อวดส่งเดช  ไม่มีผลแสดง  ไม่มีการพิสูจน์  มีแต่ความคิดเห็น....ที่เพ้อเจ้อ

ไปวันวัน.........พูด.......โดยไม่รับผิดชอบ..........และ ที่สำคัญ.....ขี้ขลาด

อวดฉลาด..........แต่ไม่กล้าแสดงตัว.........ดังนั้น.......ว่าแล้วก็งมงายดีกว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด วันที่ตอบ 2010-11-30 21:46:34


ความคิดเห็นที่ 4 (1519766)

งมงาย.....และ......หาย.....มีความสุข...ไม่แปลก.....ทำต่อไป....ไม่ต้องไปสนใจใคร?....ศิษย์บ้านสวน

ผู้แสดงความคิดเห็น วี วันที่ตอบ 2010-12-01 04:17:07


ความคิดเห็นที่ 5 (1519768)

ตรง และ ชัดเจน ทะลุกลางใจเลยค่ะอาจารย์..... 

ขอบคุณนะคะอ.อุบล ที่รักและเคารพ................


ขออนุโมทนากับเรื่องเล่าของคุณตุ้ย ศิริพร ด้วยค่ะ

และที่สำคัญยินดีด้วยนะคะ ที่คุณแม่อาการดีขึ้นแล้ว 

สู้ สู้ ค่ะ

.

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-01 04:29:36


ความคิดเห็นที่ 6 (1519782)

อนุโมทนากับคุณตุ้ยนะคะ

ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองแม่ของคุณให้ปลอดภัย

หนูก็จะเดินตามทางที่อาจารย์สอนต่อไปเช่นกันกัน ขอโง่ งมงายด้วยคน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-01 07:48:26


ความคิดเห็นที่ 7 (1519922)

 

   ขอเป็นกำลังกับคุณตุ้ย ดีใจกับอาการของคุณแม่ ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละ เกิดแก่เจ็บโง่งมงาย

เป็นเรื่องธรรมดา แต่โง่แล้วมีความสุข ทุกข์บรรเทา เพราะเราต้องยอมรับกับมันสู้กันต่อไป เรา

ยังมีอาจารย์อุบล คอยชี้แนะ ผมขอเป็นคนโง่อีกคนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-01 22:24:30


ความคิดเห็นที่ 8 (1550490)

หนูขอเป็นคนโง่ และ งมงาย เหมือนอ.อุบลด้วยคนนะค่ะ โง่แล้วมีความสุขดีค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จีรวรรณ แย้มแก้ว (jerawun_123-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-06 09:36:45



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.