ReadyPlanet.com


ฉันไปทำ.."เสน่ห์ยาแฝด"..


ฉันไปทำ.."เสน่ห์ยาแฝด"..

 

 

 

 

ท่านผู้เข้ามาในกระทู้นี้คงมีจิตเป็นสงสัยเรานี้ขอน้อมกล่าววาจาเราผ่านอักษราสู่ท่าน
จงพิจารณาทุกอักษราจักเข้าใจ
หาเช่นนั้นไม่แล้วจักเกิดอกุศลต่อท่านเอง
หากปรามาสจิตออกไป
โดยมิคำนึงในเหตุแลปัจจัย

ผลิว่าเห็นดีงาม

เราจึงนำมาให้พินิจในความนี้

 

“....ปู่ฤาษี คือผู้ที่เพื่อนฉันพาไปหาเพื่อนบอกว่าท่านเก่ง ญาติของเพื่อนสามีหนีไปอยู่กับเมียน้อยท่านก็เป็นคนเรียกกลับมา ทุกวันนี้ทั้งรักทั้งหลงภรรยาไม่ไปมีใหม่อีกเลย....ย้ำ!!!............ อ่านจนจบถึงจะอึ้งๆๆๆๆๆๆ

 

 

 


หมายเหตุ : เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน แต่ควรอ่านให้จบ!!!!!จักได้มิเป็นอกุศล

   
ฉันกับแฟนคบกันมา 4 ปี มีโครงการจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้แต่แล้วจู่ ๆเค้าก็มาบอกว่า เราเลิกกัน เค้าไม่ได้รักฉันแล้วตอนนี้เค้าพบคนใหม่ ตลอดเวลาเค้าหลอกฉันมาตลอดว่ารัก เค้าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สิ้นปีนี้
ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อจะฉุดรั้งเค้ากลับมา ฉันถามว่าฉันผิดตรงไหนไม่ดีตรงไหน ฉันจะปรับปรุงตัวใหม่ เค้าต้องการอะไรฉันทำให้ได้ทุกอย่างและยอมทุกอย่างขอเพียงแค่ กลับมาเหมือนเดิมแต่สิ่งที่ฉันได้รับคือความเฉยชา,หงุดหงิด,รำคาญทำอะไรก็ผิดไปหมด เพื่อนแนะนำฉันให้ ไปทำเสน่ห์

   
ปกติฉันเป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยวไม่อยากเข้าใกล้แต่.... ณ จุดจุดนี้ไม่ได้แล้ว ความรักบังตาฉันยอมทุกอย่าง ขอเพียงได้เค้ากลับคืนอะไรก็ได้สำหรับฉัน ณ ตอนนี้
ปู่ฤาษี คือผู้ที่เพื่อนฉันพาไปหาเพื่อนบอกว่า ท่านเก่งญาติของเพื่อน สามีหนีไปอยู่กับเมียน้อยท่านก็เป็นคนเรียกกลับมา ทุกวันนี้ทั้งรักทั้งหลงภรรยาไม่ไปมีใหม่อีกเลย
บ้านปูนชั้นเดียว มีลานจอดรถที่พอจอดรถยนต์ได้ประมาณ10 คัน วันแรกที่ฉันไปมีรถยนต์จอดอยู่3 คัน มองเข้าไปในบ้านมีคนนั่งจนล้นออกมาข้างนอกมีเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระยะเพื่อนพาฉันเข้าไปภาพที่ฉันเห็น ชายหนุ่มอายุน่าจะประมาณ28 – 29 ปี ผมยาวมีลายสักเต็มตัว นัยต์ตาหวานเยิ้มมือคีบบุหรี่พูดไปยิ้มไปปล่อยมุกสนุกสนานทำให้ผู้ที ่เข้ามาหาหัวเราะเป็นระยะๆ นุ่งชุดลายเสือดูดีมีเสน่ห์คน นี้เรอะที่เพื่อนบอกว่าเป็นปู่ฤาษีทำไมยังหนุ่ม แต่ ณ วินาทีนั้นความรักบังตาไม่ได้คิดอะไรเพื่อนบอกว่าดี ฉันก็เชื่อโดยที่ไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้าเลย

เราสองคนนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่เข้ามาล็อตแรกก็ออกไปถึงคิวของฉัน เพื่อนแต่งขันธ์ห้า(ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ พร้อมเงิน 100 บาท ให้ฉันเขียนชื่อ-นามสกุลพร้อมที่อยู่ของฉันและของแฟนยื่นให้
ปู่ฤาษี “.........(เอ่ยชื่อฉัน)ดวงไม่ดีจะถูกแย่งของรัก .......(เอ่ยชื่อแฟน) คนนี้เป็นแฟนใช่มั๊ย?”
ฉันตอบ ใช่ค่ะ” ′มีอะไรจะถาม?” ท่านถามฉัน......เงียบ ......ฉันก็ไม่รู้จะถามอะไรเพื่อนหันมาสะกิดตอบไปซิก็ไม่รู้จะตอบอะไร.......... ท่านนั่งหลับตาสวดคาถาประมาณ5-10 คำ แล้วหันมาถามรักเค้ามากตอนนี้ใจเศร้าหมองในสมอง มีแต่คิดจะฆ่าตัวตาย .........อยากได้เค้ากลับมามั๊ย?”ท่านหันมาถาม

อยากได้ค่ะฉันตอบ
ถ้าอยากได้คืนจะช่วยแต่จะต้องจ้างน่ะมีเงินเท่าไหร่?” “สองพันค่ะท่านหลับตาสักพักไม่ใช่หรอก ในกระเป๋าตังค์มีเงินห้าพันบาทในสมุดบัญชีมีเงินอีก 3 หมื่นฉันตกใจท่านรู้ได้อย่างไง ถ้าอยากได้คืนปู่คิดค่าจ้าง 3 หมื่น
ตกลงค่ะ!ฉันตอบตกลง จะบ้าเหรอ.....3 หมื่นน่ะแก ไม่คิดก่อนหรือไงเพื่อนฉันตกใจรีบหันมาถามฉัน แต่สำหรับฉันตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการได้แฟนกลับคืนมาปู่ฤาษี มองหน้ายิ้มๆ
ให้ไปเอา...................................ท่านสั่งให้ฉันนำสิ่งของมาเข้าพิธีรุ่งขึ้นเดินทางไปหาปู่ฤาษี


ไปถึงก็มีคนมารอท่านเต็มอาศรมไปหมด รายแรก....มากันประมาณ 5-6คน แต่งขันธ์ 5จานเดียวใส่เงิน 100 บาท แต่มีรายชื่อในกระดาษประมาณ10 ชื่อได้ท่านรับขันธ์ 5 ไปหลับตาสวดมนต์ดูให้ทีละคน การทำนายของท่านแม่นเหมือนตาเห็น ท่านจะทักเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยก่อนว่า เป็นลักษณะไหนอยู่ตรงไหนมีอะไรเป็นจุดเด่น (มาทราบภายหลังว่าท่านไม่ได้ดูจากวันเดือนปีเกิด แต่จะส่งจิตไปยังบ้านที่เราอาศัยอยู่เพื่อไปตรวจสอบยังสถานที่ ท่านจึงต้องถามว่าสถานที่ที่ท่านไปถูกต้องหรือไม่) ท่านจะทักแต่ละคนตามรายชื่อที่เขียนไป
จนกระทั่งไปสะดุดที่ชื่อของลูกสาวของคนที่มาดู มันหนีออกจากบ้านไปใช่มั๊ย?” (จริงๆ แล้วท่านจะพูดเป็นภาษาอีสาน แต่ว่าฉันแปลเป็นภาษาภาคกลางให้เพื่อจะได้เข้าใจ


ใช่จ๊ะคนเป็นแม่พูดน้ำตาเริ่มไหล ท่านหลับตาสวดมนต์สัก5-10 คำมันหนีไปกับผู้ชายตอนนี้มันอยู่กาฬสินธ์อยู่บ้านเค้า”“ปู่ช่วยหน่อย ตามมันกลับมาให้หน่อยแม่พูดไปพร้อมเช็ดน้ำตา ฉันเองก็พาลจะน้ำตาไหลตามไปด้วยท่านสวดมนต์สักพัก

เออ....ปู่จะช่วย วันจันทร์มันจะกลับมา พอมันมาแล้วให้พามันมาหาปู่..ท่านพูดปลอบใจเขาสักพักแล้วก็เริ่มสอนให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตของมนุษย์เป็นคำ สอนตามแบบของศาสนา จนพ่อแม่ของน้องผู้หญิงผ่อนคลายหายเศร้าท่านจึงให้กลับ

    รายที่สอง .. เป็นชาวบ้านมาประมาณ 4-5 คน รายนี้ภรรยาหนีตามชู้ไป ทิ้งสามีกับลูกสองคน สามีเค้ารักภรรยามากอยากได้ภรรยาคืน ฤาษีท่านดูไปแล้วทักว่า ภรรยาของแกหนีตามผู้ชายข้างบ้านไป ผู้ชายคนนั้นก็มีภรรยาแล้วใส่เสน่ห์ภรรยาของแกด้วยพอท่านพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงที่มาด้วยบอกว่าเป็นสามีของแกเอง ปู่จึงหันมาถามว่าจะเอาคืนด้วยหรือ ฝ่ายหญิงตอบว่าไม่เอาปู่จึงหันไปถาม ฝ่ายชายว่าจะเอาคืนจริงๆ หรือ ไม่รังเกียจเค้าหรือที่เค้าทำแบบนี้โกรธเค้าไหมเกลียดเค้ามั๊ยซึ่งฝ่ายชายก็ ยืนยันคำเดียวว่าจะเอาคืนท่านถามซ้ำ 3 ครั้ง ฝ่ายชายก็ยังยืนยันคำเดิมท่านรับปากว่าจะช่วยแล้วให้บูชาของสิ่งหนึ่งไป เรียกเก็บเงิน 500 บาท
   
    ฉันเริ่มสงสัยเอ...ทำไมของฉัน 3 หมื่นส่วนของคนนี้แค่ 500 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ถามตอนนั้น รายที่ 3 เป็นคุณยาย พาหลานสาวมากราบท่าน บอกว่าเป็นคนนี้ที่หนีออกจากบ้านแล้วให้ท่านตามมาให้ กลับมาแล้วตามที่ท่านบอก ท่านเรียกน้องผู้หญิง(อายุประมาณ 16-17 ปี) เข้ามานั่งต่อหน้าท่านแล้วเริ่มสอน ซึ่งคำสอนของท่านฉันฟังแล้วน้ำตาแทบไหล.....
   
    “เห็นหน้ายายมั๊ยแกเสียใจขนาดไหน เค้าเลี้ยงเรามากี่ปี แต่ผู้ชายอีกคนพึ่งเจอกันไม่เท่าไหร่ ทำไมถึงทุ่มเททุกอย่างให้เค้าได้ขนาดนั้น ยายเค้าเสียใจขนาดไหนเห็นมั๊ย? (คุณยายเริ่มเช็ดน้ำตา) ที่ปู่ช่วยไม่ได้อยากช่วยเราน่ะ ปู่สงสารยายของเราถึงได้ช่วยเรียกกลับมาท่านสอนอยู่นานพอควร
   
    เกือบบ่าย 2 ถึงคิวฉันซะทีท่านหันมายิ้ม เดี๋ยวจะทำน้ำมนต์ให้อาบ” ... ท่านให้ฉันอาบน้ำมนต์โดยท่านเป็นผู้ปลุกเสก จะมีผู้ชายอีกคนเป็นคนอาบให้ ในระหว่างที่อาบเค้าก็จะสวดคาถาไปด้วย .....หลังจากอาบน้ำมนต์เสร็จ ท่านก็ให้นำของที่เตรียมมาให้ทำพิธีอยู่ประมาณ10 นาที หลังเสร็จพิธีท่านผูกแขนให้ฉันแล้วสั่งให้ฉันปฏิบัติตามคำสั่ง
   
    1. ทุกวันตอนเย็นให้ฉันเดิน 999 ก้าว โดยให้นับทีละก้าวห้ามนับผิด หากนับผิดหรือไม่แน่ใจให้เริ่มนับใหม่
    2. ก่อนนอนให้สวดมนต์ 99 จบ
    3. ให้คุยกับ คุณพ่อหรือคุณแม่ทุกวันเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังให้หมดห้ามปิดบังและโกหก
    4. ไม่ให้รับรู้หรือพูดคุยกับแฟนโดยเด็จขาดภายใน 15 วัน หากผิดคำสัญญาจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่จนกว่าจะครบ15 วัน
   
    ท่านให้ฉันปฏิบัติอยู่15 วันแล้วให้กลับมาหาท่านใหม่ ซึ่งท่านสัญญาว่าภายใน15 วัน หากฉันทำได้ตามคำสั่งแฟนของฉันจะกลับมาหาฉันแน่นอน ฉันรับปาก และเริ่มปฏิบัติตามที่ท่านสั่งไว้......เวลาเริ่มผ่านไปจากวันที่หนึ่ง เป็นวันที่สองวันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้า.......วันที่สิบห้า วันที่ 15 ครบจำนวนวันที่ท่านสัญญาไว้

 

ฉันเดินทางไปหาท่านแต่เช้า....... เป็นไง.....รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่าท่านถาม

    “ค่ะ สบายใจขึ้นมากแล้วค่ะ

    “รักเค้ามากเลยหรือท่านถาม

    “ค่ะ

    “ได้โทรหาแม่ทุกวันหรือเปล่า

    “โทรค่ะ

    “แม่ว่าไงเค้าเสียใจมั๊ย

    “แม่ไม่ว่าอะไรค่ะท่านจะคอยปลอบใจ แล้วท่านก็เสียใจมากค่ะ

    “แม่เสียใจแล้วเราเสียใจมั๊ย” .....ฉันเงียบ เริ่มคิดเสียใจค่ะ

    “ตอนเราร้องไห้แม่เค้าว่าไง

    “......แม่เค้าก็ร้องไห้ค่ะ....

    “รักแม่มั๊ย” “รักค่ะ

    “ใครทำให้เราเสียใจ?...ใครทำให้เราเป็นแบบนี้? ผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย”.......ฉันนั่งนิ่งน้ำตาเริ่มไหล.......ทำงานมาเคยให้เงินแม่บ้างมั๊ย....เวลาไปตลาดเห็นกับข้าวเคยจำได้มั๊ยว่าแม่ ชอบกินอะไร จำได้หรือเปล่าว่าตัวเราชอบกินอะไร........ทุกวันนี้กับข้าวที่ซื้อมากิน เป็นที่เราชอบหรือเป็นที่ผู้ชายคนนั้นชอบ........ทำไมต้องให้เค้ามามี อิทธิพลอยู่เหนือตัวเองขนาดนั้น เค้าทิ้งเราไปเพราะอะไร.......ตอบได้มั๊ย” “.......เค้าไปมีคนใหม่ค่ะ” “ทำไมเค้าไปมีคนใหม่”“......ไม่ทราบค่ะ
   
    ฉันตอบไปพลางเช็ดน้ำตาเพราะสันดาน......เข้าใจคำว่าสันดานมั๊ยคนดีจะคิดดี ทำดี พูดดีคนไม่ดี ความคิดมันก็เลวไปด้วย อยากจะทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตก็จะเอามันคืนให้ แต่ถ้าอยากจะมีความสุข ไม่อยากให้แม่เสียใจมีชีวิตที่ดี เจอคนดีๆ ก็เลิกกับมันซะ
   
    ปู่ไม่เคยเห็นใครตายเพราะอกหัก แต่ที่คนมันตายก็เพราะมันสิ้นคิดเพราะแพ้ใจตัวเอง ใจอ่อนแอ ถ้าไม่คิด ไม่นำจิตไปวางไว้กับมันมันก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง บังคับตัวบังคับกายมันทำได้ แต่การบังคับใจถ้าไม่แกร่งจริงมันก็ยาก แต่ใจมันเป็นของเราถ้าเรายอมแพ้มัน เราก็จะแพ้ไปตลอดชีวิต ถ้าเราเคยเอาชนะมันได้บังคับมันได้เราก็จะไม่มีทุกข์ ไม่มีใครช่วยเราได้หรอกหมอที่ไหนก็รักษาให้ไม่ได้ มีแต่ตัวเรากับเวลาเท่านั้นที่ช่วยตัวเราได้

 

......สิบห้าวันผ่านมาเป็นไงบ้าง” “ไม่ได้คิดอะไรก็รู้สึกดีค่ะ” “ทำต่อไปน่ะ ตัดใจซะ มันทำไม่ได้ทันทีหรอกแต่มันจะค่อยๆ ดีขึ้นคิดถึงแม่ไว้ให้มาก ๆ ไม่สบายใจอะไรก็เล่าให้เค้าฟังให้มีสติ อย่าไปจดจ่ออยู่กับมัน 15 วันผ่านมาไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ไม่เห็นจะตายไม่ใช่หรือตัดใจซะเอาสมาธิไปจด จ่ออยู่กับสิ่งอื่นอย่าไปใส่ใจกับมัน คนมันไม่ดีก็ปล่อยมันไปตามวิถีชีวิตของมัน........
   

    ปู่ฤาษีหันไปหยิบของในย่ามเป็นเงิน 3 หมื่นบาทยื่นคืนให้ฉัน เงิน 3 หมื่นปู่ไม่เอาหรอกให้เอาไปเก็บไว้ 2 หมื่น เอาให้แม่ 5 พันอีก 5 พันไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์ แต่งตัวใหม่ให้ดูดีกว่านี้" พูดจบแกก็หัวเราะ " จำคำปู่ไว้อย่าเชื่อใจคน อย่ามองเพียงแค่ภายนอก แล้วอย่าไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก"
   
    ทุกคนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้วเพียงแต่เสน่ห์ที่เรามีจะถูกใจใครเท่า นั้นพวกนุ่งผ้าเหลืองผ้าขาว บางคนสักแต่เอาผ้ามาห่มแต่ใจมันไม่ใช่คน เราเป็นผู้หญิงต้องระวังตัวให้ดีถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอพวกไม่ดีเราจะเสียทั้งตัวเสียทั้งเงินเสียทั้งใจ จะไปโทษใครบอกใครก็ไม่ได้เราโง่เอง ...หยุด...ห้ามไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก จำคำปู่ไว้ให้ขึ้นใจวันนี้แฟนเราจะมาหา ก็ตัดสินใจเอาก็แล้วกัน
   
    ฉันกลับที่พักเริ่มนั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆที่ผ่านมา ความเจ็บปวดที่เคยมี ทุกครั้งฉันแทบจะทนไม่ได้ถ้าคิดถึงเค้า แต่ตอนนี้ทำไมความเจ็บปวดมันลดลง เริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆที่ผ่านมาจิตใจที่เคยอ่อนแอ มันเริ่มแข็งแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันไม่รู้ น้ำตาที่เคยไหลไม่หยุดหากเมื่อไหร่ที่คิดถึงเค้าทำไมมันหายไปไหน คำสอนของปู่ก้องอยู่ในสองหู ฉันตัดสินใจ.....จากนี้ต่อไปฉันต้องเข้มแข็ง ...........
   
    เสียงเคาะประตูหน้าห้อง.....ใครค่ะ?” ฉันถาม เราเองเหมือนที่ปู่บอกไว้ไม่ผิดเค้ามาจริงๆ ใจที่เคยเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่หายไปไหนหมดหัวใจเต้นแรงใจเริ่มอ่อนเริ่มหวั่น ไหว........
   
    “มีธุระอะไร?”ฉันไม่ยอมเปิดประตู

    “.....เราคิดถึง.....เปิดประตูให้เราหน่อย”.......

    ฉันเริ่มสับสนน้ำตาเริ่มไหล จะทำไงดี...คิดถึงคำพูดของปู่ฤาษีคิดถึงหน้าแม่....... กลับไปก่อนน่ะ วันนี้เรายังไม่อยากคุย ตอนนี้เราอยู่กับแม่กลับไปเถอะฉันโกหกเพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอ หากเจอเค้าวันนี้ฉันต้องใจอ่อนแน่นอน ........

       ทุกวันนี้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ถ้าไม่มีท่านฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตของฉันจะต้องพบเจออะไร อาจจะเจอสิ่งที่เลวร้าย เจอพวกซาตานในคราบนักบุญต้องเสียทั้งตัวเสียทั้งใจ จึงอยากจะขอเตือนเพื่อนๆ ที่คิดจะไปทำเสน่ห์ให้ไตร่ตรองให้ดี ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเหมือนฉันเสมอไปน่ะคะ

 

เราขออนุโมทนาทุกท่านที่อ่านบทความนี้จนจบ
เป็นบทความหนึ่งที่บังเอิญไปอ่านพบมานะท่าน
จงพิจารณาทุกอักษราจักเข้าใจ
หาเช่นนั้นไม่แล้วจักเกิดอกุศลต่อท่านเอง
หากปรามาสจิตออกไป
โดยมิคำนึงในเหตุแลปัจจัย

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ เวฬุวัน ว.มุจลินทร์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-10 10:13:56


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1544733)

อนุโมทนากับเรื่องเล่าด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 14:54:27


ความคิดเห็นที่ 2 (1544739)

ขอ อนุโมทนา สาธุ ค่ะ โอ้ อ่านแล้วก็รู้สึก ได้ว่า คนเรา อย่า มองกัน แค่ เปลือก ภายนอก (คำๆนี้ ท่องไว้) สติ เท่า นั้น ที่จะทำให้เรา ผ่าน อุปสรรค ต่างๆ ไปได้ สาธุ สาธุ จ้ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พลังบุญ/วิสรีร์ ถิรเลิศจุมพล (wiky20092009-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 15:45:15


ความคิดเห็นที่ 3 (1544807)

อนุโมทนากับเรื่องเล่าเป็น

ธรรมทานค่ะ

คุณเวฬุวัน

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 21:38:48


ความคิดเห็นที่ 4 (1544831)

ขออนุโมทนาในธรรมทานด้วยค่ะและขอบคุณที่เตือนก่อนอ่านนะคะทำให้ระมัดระวังความคิดมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 00:00:19


ความคิดเห็นที่ 5 (1544848)
ผู้แสดงความคิดเห็น เวฬุวัน ว.มุจลินทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 07:59:10


ความคิดเห็นที่ 6 (1545434)

ขออนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร (pan_cnp-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-14 16:05:22


ความคิดเห็นที่ 7 (1545672)

ขออนุโมทนาบุญ

กับ

เรื่องเล่าที่เป็นธรรมทาน

ได้รับรู้ว่าเครื่องแบบไม่ได้เป็นสิ่งที่บ่งบอก

ว่าเป็นคนดีหรือไม่

แต่สิ่งที่อยู่ข้างในเราคือใจต่างหากล่ะ

เป็นสิ่งที่น่าจะแต่งมากที่สุด

ให้พิจารณาตัวเองให้มากๆเข้าไว้

เหมือนกับหลายๆท่านที่ได้พบหรือดู

ท่านแม่แล้วปรามาสท่านไป

ก็คงไม่ต่างจากเรื่องด้านบนนะครับ

หลังจากที่ทุกท่านได้มาสัมผัสกับวิธีการ

ของท่านแม่แล้วมีแต่คนเลื่อมใสในตัวท่าน

ท่านแม่อุบล..ยังบอกให้ทุกๆคนที่มาบ้านสวน

อย่ายึดติดในตัวท่านจนเกินไป

ให้ยึดในหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เพราะหลักคำสอนไม่เคยหายไปไหน

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก/พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 20:01:10


ความคิดเห็นที่ 8 (1545710)

ขออนุญาตินำไปพิมพ์แจกเพื่อเป็นธรรมทานนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 22:35:49


ความคิดเห็นที่ 9 (1546837)

สูเจ้ าไม่คิดหลอกหรือ ไม่ใช้สติปัญญาหลอกหรือ

ว่าในฝากฟ้านั้นมีอะไร  

      มนุษย์มีหน้าที่ตักเตือนซึ้งกันและกันด้วยขันติธรรม

นี้คือสีงที่พระเจ้าได้บอกไว้

นมัสเตคุณเวฬุวัน

ผู้แสดงความคิดเห็น sobiday (sobiday9-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-20 23:08:16


ความคิดเห็นที่ 10 (1552415)

อนุโมทนาบุญคะสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-16 10:16:02


ความคิดเห็นที่ 11 (1552428)

อนุโมทนากับธรรมทานนี้ด้วย

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วิจิตร เขตเจริญ (jit7777-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-16 11:29:59



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.