|
"พุทธวงศ์ อายุขัยของมนุษย์ ภัยธรรมชาติ" โดย พระปัญญาพิศาลเถระ (พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ) | |
คำปรารภ หนังสือเรื่อง "พุทธวงศ์ อายุขัยของมนุษย์ ภัยธรรมชาติ" เล่มนี้ ข้าพเจ้าได้เรียบเรียงขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาและพิจารณาเปรียบเทียบ กับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ที่กำลังเกิดขึ้นตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ภัยธรรมชาติประเภทต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น จะมีความรุนแรงมากขึ้น ที่ยังไม่ทันเกิดก็จะเกิดในไม่ช้านี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เป็นไปตามธรรมชาติในตัวของมันเอง ไม่มีใครมีอำนาจควบคุม หรือบังคับสั่งการอะไรได้ ที่มา http://www.nakdham.com/webboard/index.php?topic=2661.0#top | |
ผู้ตั้งกระทู้ เบญจรัตน์ สีทองสุก :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-06 05:44:25 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1550458) | |
โลกที่เราอยู่มีภัยนานาประการอันเป็นผลกระทบต่อชีวิต ทำให้ได้รับความทุกข์จากภัยธรรมชาติเป็นอย่างมากทีเดียว หลายชาติในอดีตไ ด้เจอกับภัยธรรมชาติมาแล้ว เมื่อเกิดมาในชาตินี้ ขณะที่ภัยธรรมชาติ ยังไม่มาถึงตัวเราก็ไม่มีความรู้สึกเป็นทุกข์ แต่อีกไม่นานนัก เมื่อเราได้มาเกิดในโลกนี้อยู่บ่อย ๆ ชีวิตก็ต้องเจอกับภัยธรรมชาตินี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องภัยธรรมชาตินี้จะเกิดมีขึ้นในโลกมนุษย์มากขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้น ในยุคต่อไป จะมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก จะไม่มีใครในโลกนี้ เอาชนะภัยธรรมชาตินี้ได้แต่อย่างใด ภัยธรรมชาตินี้จะเกิดมีทุกฤดูกาล ฤดูแล้ง ฤดูฝน ฤดูหนาว จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ เกิดขึ้นในที่ไหนจะทำให้เกิดความเสียหายในที่นั้นๆ เป็นอย่างมากทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วาตภัย เป็นภัยที่มาอันดับหนึ่ง ถ้าไม่มีฝนตกลงมา ลมก็จะพัดเอาน้ำมหาสมุทรเป็นคลื่นขนาดใหญ่ ทำให้เรือ น้อยใหญ่ไม่สามารถวิ่งฝ่าคลื่นน้ำขนาดใหญ่ไปได้ เรือพวกพ่อค้าวาณิชที่เคยส่งน้ำมันส่งอาหาร จากประเทศนั้นไปสู่ประเทศนี้ก็จะจอดนิ่งทันที ถ้ามีบ้านเรือนที่ปลูกชิดกันกับชายฝั่งก็จะมีผลกระทบอย่างแน่นอน ประชาชนจะมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 05:45:52 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1550459) | |
วาตภัยเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ถ้ามีฝนตกลงมา จะเป็นพลังบวกกับลมอย่างรุนแรง ถ้าฝนตกลงมาแรงลมก็ เกิดขึ้นอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดน้ำท่วมในที่ต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ถ้าบ้านปลูกในที่ต่ำ น้ำก็จะท่วมอย่างหลีกหนีไม่ได้ทั้งลมก็พัด ทำให้บ้านเรือนเกิดความเสียหาย ทั้งน้ำก็ท่วมบ้าน ทรัพย์สินทั้งหลายเกิดความเสียหาย เรียกว่าสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ พอจะนำเอาติดตัวมาได้เลย คนก็จะล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงยากที่จะพึ่งใคร ๆ ได้ เครื่องบินที่เคยเหาะเหินเดินอากาศ ก็ไม่สามารถที่จะเดินทางไปไหนได้ เครื่องบินเป็นสิ่งอำนวยความ สะดวกของชีวิต ในการเดินทางไปต่างประเทศนั้นประเทศนี้ก็จะสิ้นสุดลงไปตามยุคสมัย รถเรือที่เคยให้ความสะดวกในการไปมา ก็จะพากันจอดอย่างสนิท จะวิ่งไปมาไม่ได้ เลย มนุษย์จะอยู่กันเป็น กลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ ใครอยู่กันที่ไหนก็อยู่กันไปในที่นั้นจะส่งข่าวสารติดต่อเลย ภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นอย่างไรไม่มีใคร ๆ รู้ล่วงหน้า เมื่อภัยธรรมชาติได้เกิดขึ้น มนุษย์ก็จะได้รับผลกระทบในทันที ทั้งวาตภัย อุทกภัยที่ได้เกิดขึ้น อย่างรุนแรงติดต่อกันเป็นเวลานาน มนุษย์ทั้งหลายในโลกนี้ จะอยู่กินหลับนอนกันไปด้วยความลำบาก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 05:46:56 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1550461) | |
๒. วาตภัยอีกจุดหนึ่งที่มนุษย์ต้องได้รับ นั้นคือลมใต้พื้นภิภพ จะมีความกดดันอย่างรุนแรง เปลือกโลกจุดไหนที่เสื่อมคุณภาพก็จะเกิดความกดดัน แผ่นดินจะเกิดแตกแยกจากกัน เรียกว่าลมประทุให้หินในพื้นภิภพได้แตกและกระจายอย่างกว้างไกล ถ้าเกิดบนบกก็เรียกว่า แผ่นดินไหว จะไหวมากไหวน้อยขึ้นอยู่กับความกดดันของลม มนุษย์จึงคิดคำนวณความรุนแรงออกมาเป็นริคเตอร์ เท่านั้นเท่านี้ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวในที่ชุมชนอย่างรุนแรง ก็จะทำให้บ้านอาคารมีความเสียหายเป็นอย่างมาก อาคารต่างๆ ก็จะพังทับถม หมู่มนุษย์ได้ล้มตายกันไปไม่มีใครๆ ช่วยกันได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 05:50:25 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1550462) | |
อัคคีภัย มลพิษภัย โรคภัย อาหารภัย โจรภัย อัคคีภัยที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าโน้น คนที่เกิดมาในยุคนั้นจะได้เผชิญต่อภัยธรรมชาตินี้อย่างแน่นอน จะหลบหลีกหนีไปอยู่ในมุมโลกซีกไหน ก็ไม่พ้นจากภัยธรรมชาติเหล่านี้ได้ ในยุคสมัยที่ประชากรโลก มีจำนวนประมาณ ๒ หมื่นล้านคน ภัยธรรมชาตินี้จะเกิดขึ้นเต็มรูปแบบทั่วทุกมุมโลก มนุษย์จะได้รับผลกระทบล้มตายไป เพราะอัคคีภัยเป็นจำนวนมาก ความร้อนจากแสงแดดจะเผาเพิ่มความร้อนขึ้นหลายเท่า การจะรักษาชีวิตอยู่รอดได้นั้นยากมาก นับจากวันนี้ไปความร้อนจะทวีความรุนแรงหลายเท่าตัว จะเกิดความร้อนไปทั่วทุกมุมโลก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 05:55:53 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1550464) | |
เหตุการณ์อย่างนี้จะมีเกิดขึ้นในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน ภัยธรรมชาติเหล่านี้ เมื่อไม่เกิดขึ้น กับตัวเองก็รู้สึกว่าเฉย ๆ เหมือนในยุคนี้ แม้มีภัยธรรมชาติได้เกิดขึ้นอยู่บ้างเราก็ไม่มีความเดือดร้อน ดังคำว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อัคคีภัยความร้อนในยุคปัจจุบัน ก็เริ่มมีผลกระทบอยู่แล้ว ต่อไปจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น มนุษย์จะอยู่ด้วยความลำบากเป็นอย่างมากทีเดียว ความร้อนที่เกิดขึ้นจะหาวิธีป้องกันได้ยาก เพราะเป็นภัยธรรมชาติเกิดขึ้นในตัวของมันเอง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 05:57:55 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1550465) | |
อัคคีภัยความร้อนจะมีผลกระทบต่อคลังแสง หมายถึงอาวุธที่เป็นพิษภัยที่มนุษย์ได้สร้างเอาไว้มาก เช่น ระเบิดปรมาณู นิวเคลียร์ที่เป็นพิษอย่างรุนแรง หลาย ๆ ประเทศที่เก็บอาวุธเหล่านี้เอาไว้ในสถานที่ต่าง ๆ อาวุธทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อถูกความร้อนมากขึ้นก็จะเกิดการระเบิด สารพิษก็จะกระจายขึ้นสู่อากาศ ลมก็จะพัดไปทั่วทุกมุมโลก มลพิษทางน้ำ น้ำใช้ที่เกิดการปนเปื้อนสารพิษ สารเคมี และสิ่งสกปรก จนเน่าเสีย ซึ่งมาจากการปนเปื้อนสารเคมีของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 06:01:35 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1550466) | |
หลังจากภัยธรรมชาติได้ผ่านไปแล้ว แทนที่ชีวิตความเป็นอยู่ของมวลมนุษย์จะมีความสุขสบาย ก็ตรงกันข้าม ชีวิตความเป็นอยู่ยิ่งย่ำแย่เลวร้ายลง จะได้รับมลพิษจากภัยธรรมชาติที่ตกค้างอยู่ เป็นอย่างมาก ดินฟ้าอากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงไป จะมีมลพิษภัยนานาประการได้เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มนุษย์ทั้งหลายจะอยู่กันด้วยความเป็นทุกข์ มีความลำบากอย่างแสนสาหัส ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตอยู่รอด ไม่มีใคร ๆ ช่วยเหลือกันได้ ทางฝ่ายบริหารการปกครอง บ้านเมืองเหมือนได้ถูกยุบตัวลงโดยปริยาย หน่วยงานราชการ ทุกกระทรวงทบวงกรม ก็ได้รับผลกระทบต่อภัยธรรมชาตินี้เช่นกัน เอกสารข้อมูลในการทำงานต่าง ๆ เกิดความเสียหาย ข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องรับสัญญาณจากดาวเทียมสื่อสารต่อกันไม่ได้ เพราะดาวเทียมเองก็เกิดมีปัญหาขัดข้องในการส่งสัญญาณ ไม่ทำงานสื่อสารลงมาสู่คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต หรือ เครื่องรับสัญญาณอื่นใดได้เลย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 06:04:22 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1550467) | |
ในยุคนี้สมัยนี้เราได้สร้างความเจริญไว้ในโลก มีมากมายหลายอาชีพ ได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ตัวเองและส่วนรวมเอาไว้ จะทำงานในแผนกใดจะทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทำได้ทั้งดาวเทียมการใช้สัญญาณสื่อสาร ทำเครื่องบิน รถ เรือ เพื่อเป็นสิ่งอำนวย ความสะดวกในการเดินทางจะไปไหนมาไหนได้รวดเร็วทันใจตามที่ต้องการ เมื่อภัยธรรมชาติยังไม่เกิดความรุนแรง ก็พออาศัยขับขี่ไปมาได้ ในวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อเกิดภัยธรรมชาติขึ้นรุนแรง สิ่งอำนวยความสะดวกในการไปมา ก็จะหมดยุคหมดสมัยไป มิใช่ว่ามนุษย์มีความรู้ดีมีปัญญาที่ฉลาดมีความสามารถจะรักษาไว้ได้ ตัวภัยธรรมชาตินั้นเองจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดแทนมนุษย์อยู่แล้ว เพราะเทคโนโลยีที่มนุษย์คิดขึ้นมาใช้งาน จะเป็นเพียงบางยุคบางสมัยเท่านั้น ถ้าได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของโลกว่ามีความเป็นอยู่และเป็นมาอย่างไร ก็ไม่ปรากฏว่ามีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลเหมือนในยุคปัจจุบัน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 06:05:51 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1550468) | |
เมื่อวาตภัย อุทกภัย อัคคีภัย และภัยต่าง ๆ ได้ทำลายในสิ่งอำนวยความสะดวกที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นให้หมดไปแล้ว หมู่มนุษย์ในยุคนั้นก็จะเหลืออยู่น้อย และอยู่กันเหมือนเศษมนุษย์เดนตาย จะพากันอยู่สถานที่ใดก็หาเลี้ยงชีพพอให้มีชีวิตอยู่ได้ไปวันต่อวัน ไม่มีความคิดในการเสริมสร้างพัฒนาความเจริญในทางโลก ไม่มีความเจริญในทางพัฒนาแต่อย่างใด การไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันต่างสถานที่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางเหมือนในยุคปัจจุบัน จะส่งข่างสารต่อกันด้วยวิธีใด ก็จะทำไม่ได้ว่าใครพากันอยู่ที่เมืองอะไรอยู่ที่ไหนจะไม่รู้กัน จึงเป็นต่างกลุ่มต่างอยู่ ไม่รู้กันว่าใครเป็นญาติของใคร พี่น้องอยู่ที่ไหนจะไม่รู้กัน เรื่องความไม่เชื่อต่อผลกรรมดีกรรมชั่ว เรื่องไม่เชื่อในภพชาติ ในการเกิดใหม่ ความไม่เชื่อในเรื่องอย่างนี้นั้น เป็นความเห็นเฉพาะตัวเท่านั้น ในหลักสัจธรรมความจริงจะเป็นสิ่งตายตัว ไม่เป็นไปตามความเห็นตามที่เรามีความเข้าใจอยู่นั่นเอง ที่ข้าพเจ้าได้อธิบายในเรื่องภัยธรรมชาตินี้ ก็เพื่อเตือนสติไม่ให้ประมาท ให้ตื่นตัวอยู่เสมอ ว่าอีกวันหนึ่งข้างหน้า เราต้องเจอต่อภัยธรรมชาตินี้อย่างแน่นอน เ พราะเราได้มาเกิดในยุคสมัยที่โลกกำลังแปรปรวน หรือ มาเกิดในยุคเปลือกโลกเสื่อม ไม่ควรที่จะไปกล่าวโทษต่อภัยธรรมชาตินี้ ต้องโทษตัวเองว่า เรามาเกิดในในยุคนี้ทำไม เราต้องทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะโลกเป็นอย่างนี้ โดยธรรมชาติในตัวของมันเอง อย่าไปเชื่อมั่นในเทคโนโลยี และหลักวิทยาศาสตร์จนลืมตัว สิ่งเหล่านี้มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในชั่วระยะเวลาหนึ่ง เท่านั้น เมื่อถึงกาลเวลาของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหลักวิชาการต่าง ๆ ก็ไม่สามารถช่วยเราได้เลย หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-06-06 06:11:44 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1550787) | |
อนุโมทนาสาธุกับธรรมทานนี้ค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ไม่จีรังยั่งยืน จงหมั่นทำความดี ทำทาน รักษาศีลและทำสมาธิภาวนา เพื่อเป็นเสบียงบุญไปใช้ในภายภาคหน้าต่อไปค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น หน่อย (สมศรี พวงพันธ์) (noi-92012-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-06-07 10:35:20 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1550995) | |
ขอบคุณมากค่ะ คุณเบ็ญจรัตน์ที่นำข้อเตือนใจมาให้อ่านเพื่อเตรียมตัวและทำใจ อนุโมทนาสาธุ กับธรรมทานนี้ด้วยค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Pattanan (pattanan_ya-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-06-08 00:34:49 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1551255) | |
ขอขอบคุณ...คุณเบ็จรัตน์สำหรับบทความที่นำมาให้พวกเราได้อ่านและได้ทราบถึงภัยธรรมชาติทึ่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้ค่ะ จะรีบเตรียมเสบียงบุญไว้ให้มากๆ ตามที่ท่านอาจารย์อุบลได้อบรมสั่งสอนพวกเราค่ะ สาธุ ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาพร เกษมคุณ (ทิพย์) (speedway2549-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-06-09 12:34:35 |
ความคิดเห็นที่ 13 (1551369) | |
อนุโมทนาค่ะคุณเบญจรัตน์... สงสัยพวกเราส่วนใหญ่ จะมีความรู้เฉพาะด้านมากจนเกินความจำเป็นนะเนี่ย แต่ทางที่ดีพวกเราควรจะมีความรู้รอบด้าน ที่เป็นความรู้พื้นฐาน เพื่อเอาตัวรอดในยุคต่อไปจะดีกว่า เฮ้อ..ปลูกข้าวยังไม่เป็นเล๊ยชนิดา.... น้องๆที่โรงเรียนสัตยาไส ยังทำเป็นทุกอย่างเลย
อ.อุบล จึงได้ฝึกให้ทุกคนได้เรียนรู้งานทุกอย่าง ทั้งงานปลูก งานสร้างและงานครัว.. เรียกได้่ว่า ลูกบ้านสวนฯ ต้องทำได้ทุกอย่าง มีความสามารถรอบตัว จะโยน"จอบ"ให้ก็พร้อมขุด จะโยน"อาวุธ"ให้ก็พร้อมรบ.. หรือ.. จะโยน"ทัพพี"ให้ก็ไม่ลังเลที่จะ"ทำอาหาร" ....แต่ถ้า ตอนนี้อาจารย์โยนไมค์ให้ ก็อย่าเข้าใจผิดคิดว่าอาจารย์ ให้"ร้องคาราโอเกะ"นะจ๊ะ แต่อาจารย์ให้ มาสารภาพบาปต่างหากเล่า.. ฮิฮิ..
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2011-06-10 04:38:27 |
ความคิดเห็นที่ 14 (1551721) | |
ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รัตนา จันทร์อ่อน (pouging1-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-06-12 14:14:06 |
ความคิดเห็นที่ 15 (1553466) | |
โมทาบุญกับทุกท่านสาธุๆๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว วันที่ตอบ 2011-06-22 11:37:00 |
ความคิดเห็นที่ 16 (1553667) | |
อนุโมทนา สาธุค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธันย์วรินทร์ ศรีรักษา (thanva_chanit-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-06-23 11:26:54 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1449900 |