ข้อความนี้เป็นบางส่วน ที่ผมบันทึกจากเสียงคำสอนหลวงพ่อในหมวด จรณะ ๑๕ นะครับ

สามารถหาฟังได้เต็ม ๆ จากคำสอนของหลวงพ่อหมวด ก. ครับ

ถ้าจะมีสิ่งผิดพลาดใด ๆ จากการโพสนี้ ขอยอมรับผิดแต่ผู้เดียวครับ

============================================================

สีลสัมปทา การถึงพร้อมด้วยศีล

บางทีบรรดา ภิกษุ สามเณร ทั้งหลายอาจจะคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

บรรดาพุทธบริษัท ที่เป็นชาวบ้านง่ายอยู่ เพราะว่าสิกขาบทน้อย

นี่สำหรับภิกษุ สามเณร คิดว่าสิกขาบทมาก

"ทำยังไงเราจะทรงศีลให้บริสุทธิ์ได้"

ถ้าเราจะทรงศีลให้บริสุทธิ์จริง ๆ สำหรับภิกษุสามเณร

เราก็ต้องเป็นผู้มีสติสมบูรณ์ และก็มีสัมปชัญญะอยู่ด้วย

จำพระบาลีไว้ส่วนหนึ่งว่า

อัตตนา โจทยัตตานัง จงเตือนตนด้วยตนเอง

นี่ก็หมายความว่า สิกขาบท ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงห้าม

มีอะไรบ้าง เราทำหมดทุกอย่าง คำว่าทำหมายความว่า

ละเว้นทุกอย่าง ท่องให้ได้ จำให้ได้ คิดไว้เสมอ ไม่ลืืมตัว

ถ้ามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์อย่างนี้ ความจริงคนที่ไม่ใช่พระอรหันต์

หรือพระที่ไม่ใช่พระอรหันต์ จะถือว่าเป็นผู้มีสติสมบูรณ์จริง ๆ ไม่ได้

แต่ต้องอาศัยระวัง มีความพากเพียร นึกไว้เสมอ

ว่าสิกขาบทใดบ้าง ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอน

เรียกว่าสั่ง ห้ามไม่ให้กระทำตามนั้น เราไม่ทำ

ถ้าเกรงจะลืมไปก็ถือนวโกวาทสักเล่มหนึ่ง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท

"ศีล ๕ ประการของท่าน ที่จะสมบูรณ์แบบได้ก็เพราะอาศัย พรหมวิหาร ๔"

๑. จิตมีความเมตตาปราณีเป็นปกติ ไม่คิดประทุษร้ายบุคคลอื่น

๒. มีความสงสาร ปรารถนาในการเกื้อกูลบุคคลอื่น สัตว์อื่นให้มีความสุข

๓. จิตไม่มีอารมณ์ อิจฉาริษยาบุคคลอื่น

๔. วางเฉย เมื่อกฎของกรรมเข้ามาถึงตน

สำหรับพรหมวิหาร ๔ นี่ ภิกษุ สามเณร มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

จะต้องปฏิบัติประจำใจ ถ้าท่านทั้งหลายขาดพรหมวิหาร ๔ นี้แล้ว

ก็เป็นอันว่า... ท่านหาความดีอะไรมิได้

ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าความชั่วมันจะหลั่งไหลเข้ามาสู่ใจ

เป็นปัจจัยของท่านให้เกิดความทุกข์

ความทุกข์ก็จะมีทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ

ท่านที่มีศีลไม่บริสุทธิ์ ย่อมมีความเดือดร้อนอยู่เสมอ

จะหาความสุขกาย สุขใจ อะไรไม่ได้เลย ทั้งนี้เพราะอะไร

เพราะภาคพื้นแห่งความดีประเภทหยาบ ท่านไม่สามารถจะรักษาได้

เมื่อเรารักษาความดีไม่ได้ ความชั่วมันก็เข้ามาถึงใจ

ใจชั่ว มันก็สั่งให้ กายทำชั่ว สั่งให้วาจาทำชั่ว

เมื่อความชั่วอยู่ที่ไหน ความทุกข์มันก็อยู่ที่นั่น

============================================================

จากหนังสือ "รอยยิ้มของในหลวง"

พระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙

"... การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจ

และความต้องการของมนุษย์ จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า

แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว ซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่

แล้วพอกพูนขึ้น อย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว... "

รวบรวมมาบ้าง จากที่ได้ดูได้ฟัง อ.อุบล ครับ

จากรายการคุยไปแจกไป วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๓

"ความรักที่บริสุทธิ์ที่ปราศจากเงื่อนไข สามารถรักษาโรคได้

ถ้าเราสามารถรักลูกคนอื่นได้เท่ากับลูกของเราเอง

สามารถรักคนอื่นได้เท่ากับรักตัวของเราเอง... ก็จะรักษาโรคได้"

จากรายการคุยไปแจกไป วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๓

"เจริญพรหมวิหาร ๔ ไม่ต้องไปนรก แถมไปนิพพานได้ด้วย"

จากเว็บไซต์บ้านสวนพีระมิด

"เราอาจเข้าใจศีล ๕ ไม่ละเอียด เราคิดว่าแค่ลงมือทำ

แต่กรรมความคิดเราดันลืม

ซึ่งมันใหญ่โตและเกิดง่าย เกิดได้นาทีละหลายหน"

ถ้ามีข้อความผิดพลาดประการใดเกิดขึ้น ขอรับผิดแต่ผู้เดียวนะครับ

เพราะว่ารวบรวมเอง พยายามปฏิบัติเองครับ