ReadyPlanet.com


เรื่องเล่าของป้าณัฐ 2


ต่อจากตอนที่แล้วนะคะ
เรื่องเล่าจากป้าณัฐตอนที่ ๓

        มีอยู่วันหนึ่งป้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้หลังบ้าน   ที่อำเภอวังน้ำเขียว  นครราชสีมา   อากาศเย็นสบายดี ป้ารู้สึกว่าตัวเองมีความสุขและก็คิดว่าเราน่าจะแบ่งปันความสุขนี้ให้กับผู้อื่นบ้าง  ตัวเราเองก็แก่แล้วจะอยู่ได้ไม่นาน บุญกุศลก็มีน้อยอยากจะทำบุญถวายถวายเป็นพุทธบูชา  เป็นบุญใหญ่ครั้งสุดท้าย   ป้าเลยลุกไปจุดธูป ๓ ดอก   กราบเรียนพระพุทธองค์ว่า  ลูกขอถวายผืนแผ่นดินแห่งนี้เพื่อจัดทำเป็นสำนักปฏิบัติธรรม  ทั้งๆที่ป้าก็ไม่มีความรู้ความสามารถอะไรสักอย่าง  ป้าคิดแต่เพียงว่าให้ผู้ที่ฝักใฝ่ในธรรมมาใช้สถานที่ๆสงบและร่มเย็น  สำหรับการปฏิบัติ  พระพุทธองค์ก็สอนว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  ไม่มีใครมาช่วยใครได้    ป้าได้กู้เงิน  ช.พ.ค.  มาจำนวน  ๑.๒ ล้านบาท  ใช้หนี้ไปส่วนหนึ่ง เหลือเงิน

๙ แสนกว่าบาท  ป้าได้ให้ช่างทำที่พัก  ๑ หลัง  โรงทาน ๑ หลัง   จ่ายเงินไปแล้ว ๘ แสน  ยังไม่สำเร็จ  เขาให้ป้าไปเหมา

ช่างอื่นมาทำต่อป้ายังหาช่างไม่ได้เลย   ( ป้ารอเวลาว่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธ์จากเบื้องบนมาบัญชาการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ได้สำเร็จ  หรือไม่ป้าก็ยังมีบุญไม่พอ  )

เรื่องเล่าจากป้าณัฐตอนที่ ๔

        มีอยู่วันหนึ่งป้าทำงานจนเหนื่อยจึงมานั่งพักที่ศาลานั่งหลับตาสงบนิ่งสักครู่  ป้าเห็นรถคนหนึ่งสีขาว  เหมือนรถที่เขาใช้ในสนามกอล์ฟ    คนขับรถนั่งทางซ้ายมือ  ด้านขวามือ

มีคนหนึ่งนั่งอยู่เป็นฝรั่ง    ด้านหลังมีผู้หญิงสรวมชุดดำ สวยมากแปลกเหมือนอาจารย์อุบลเป๊ยบเลย      รถมาจอดที่ถนนหน้าประตูบ้านป้า  ป้าลืมตาดูภาพนั้นยังคงอยู่   ป้ากำหนดจิตเชิญท่านเข้ามาในบ้าน   ท่านอาจารย์ชายลงจากรถ  รูปร่างท่านสูงใหญ่    อาจารย์หญิงเดินเข้ามาถึงครึ่งทาง  แล้วก็กลับไป     วันหลังป้าฝันเห็นอาจารย์อุบลสอนลูกศิษฐ์อยู่

ตัวป้าเองไปไหนมาก็ไม่รู้เข้าห้องเรียนช้า     เข้ามาเจออาจารย์เป็นฝรั่งรูปร่างผอมสูงสรวมเสื้อคลุมสีขาวแขนยาวแบบนักบวชฝรั่ง   ป้าก็ขอโทษที่มาช้า  และถามชื่อท่านด้วย  ท่านชื่ออาจารย์ สมิธ   และเคยฝันเห็นมนุษย์ต่างดาวท่านมายืนคร่อมบนตัวป้า     ป้าเล่าให้ฟังถึงเรื่องแปลกๆที่เกิดกับป้า  คิดอย่างไรก็บอกป้าด้วยนะ     และป้าอยากจะกราบเรียนถามอาจารย์อุบลว่า  ป้าพอจะมีบุญวาสนาได้ทำสถานที่ปฏิบัติธรรมได้หรือไม่   ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ

เรื่องเล่าจากป้าณัฐตอนที่๔

     ป้าได้ฝึกสมาธิกับอาจารย์  ดร.อาจอง  อาจารย์อุบล

ป้าได้ทดลองนำไปปฏิบัติดู   โดย กราบพระพุทธองค์ และครูบาอาจารย์ก่อน  กำหนดจิตให้เห็นภาพของท่าน  แล้วนมัสการถามปัญหาที่เราอยากจะถาม   จิตเราก็จะรับรู้เอง

ป้าก็ไม่ทราบว่าทำเช่นนี้ถูกหรือเปล่า  แต่ก็เป็นคำตอบที่ป้าไม่ได้คิดเองนะ เช่น  ป้ากราบเรียนถามท่านว่า  ป้าจะสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมได้หรือไม่    ท่านตอบว่า  ศีล ๕  ของลูก

บริสุทธิ์หรือยัง       ป้าก็ต้องตั้งสติในการถือศีล    มีอยู่วันหนึ่งป้าผิดศีลในข้อ มุสา  ป้าก็กราบขอขมาท่าน  และกราบเรียนท่านว่า   ลูกจำเป็น   ท่านก็บอกว่าผลที่เกิดจากการโกหกนั้นเป็นประโยชน์ต่อใคร    ถ้าการโกหกนั้นเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมาก เช่น โกหกแล้วไม่ต้องเสียบ้านเสียเมืองก็พออนุโลม  แต่ที่ป้าโกหกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวป้าเอง

ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง   เราต้องใช้สติ   ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบแล้วจะเห็นทางออกที่ถูกต้องเอง   ผลจากการโกหก

ของป้านี้เองทำให้ป้าเป็นทุกข์มาโดยตลอด     (  สอบตก  )

เรื่องเล่าจากป้าณัฐตอนที่ ๕

        วันหลังป้าก็กราบเรียนถามท่านอีก     ท่านบอกว่าป้ารู้เรื่องวิชชาและจรณะหรือยัง   อาจารย์อุบลท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  จิตใจสูง  ไม่โลภ   ลูกต้องฝึกตัวเองให้ได้เหมือนท่าน   ป้าจึงรู้ว่ายากมาก  จะเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือไร  การก่อสร้างจึงมีปัญหาไม่เสร็จสักที   ป้าคิดง่ายๆว่าป้าให้สถานที่ปฏิบัติและบริการอื่นๆก็พอแล้ว    กิจกรรมอื่นๆผู้ปฏิบัติก็ทำเอง    มีแม่ชีจากนครปฐมจะมาอยู่ช่วยป้า     แต่ท่านก็บอกว่า

ป้าจะหวังพึ่งคนอื่นไม่ได้   เราเป็นเจ้าของสำนักเราต้องพร้อม

(สอบตก )

เรื่องเล่าจากป้าณัฐตอนที่ ๕

        ป้าได้กราบเรียนถามพระพุทธองค์ว่า   คนโง่ๆอย่างป้านี้จะปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะเข้าถึงพระนิพพานได้    ท่านบอกว่า   มี๒ตัว   คือฝึกสติ   และเมตตา    ป้าก็มาพิจารณาดู    ฝึกสติและเมตตานั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก    ป้าก็ขาดสติอยู่ตลอด

เช่น  ป้าไปทำบุญที่วัดแล้วก็ทานอาหารที่วัด    มีลิ้นจี่จากเชียงใหม่รสหวานอร่อยมาก   ทุกคนก็จะเอากลับไปบ้านฝากลูกหลาน    ป้าก็ลุกตามเขาไปเช่นเดียวกัน  และป้าก็มีสตินึกถึงคำสอนของอาจารย์อุบลว่าอย่าไปเอาของที่เขาไม่อนุญาต  ป้าก็เลยนำไปคืน     ลิ้นจี่นี้เราอนุญาตกันเอง   เจ้าอาวาสและพระภิกษุสงฆ์อนุญาตให้เราทานในวัด   ไม่ได้อนุญาตให้เรานำกลับไปบ้าน    ศิษย์ขอกราบขอบพระคุณ                      เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ  ท่านอาจารย์อุบลที่ได้สั่งสอนศิษย์ให้รู้หลักธรรมอันละเอียดอ่อน   สำหรับความเมตตาก็ยากมากเพราะคนเราโดยทั่วไปมักจะคิดเห็นแก่ตัวมาเป็นอับดับ หนึ่ง  การที่จะรักสงสารและเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจ  และไม่หวังผลตอบแทนนั้นหายาก    ทุกอย่างต้องมาจากใจจริงๆ  ถ้าจิตเราเมตตาจริงๆแม้แต่สุนัขมันก็รับรู้ความเมตตาของเราได้   ป้าพิสูจน์มาแล้ว   ป้าก็แค่ฝึกได้เพียงขั้นต้นงูๆปลาๆ     แต่ก็จะพยายาม   และพร้อมที่จะรับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์และผู้รู้เสมอค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ ณัฐสินี พสิษฐ์ศรี กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-13 00:10:01


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1551813)

ขออนุโมทนากับป้าณัฐสินี ด้วยนะครับที่มีความคิดที่จะทำสิ่งดีๆ

ถึงแม้จะมีอุปสรรคก็ขอให้ป้าณัฐสู้ๆ นะครับ หนทางแห่งการทำความดี

เปิดโอกาสให้ทุกคนเสมอครับ

อยู่ที่ว่าเราจะยืนดูปัญหาหรือจะลงมือแก้ปัญหา

ขอให้สิ่งที่ป้าคิด และทำให้สำเร็จดังหวังนะครับ

พระพุทธองค์ให้โอกาสคนดีเสมอครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วุฒิศักดิ์ ศรีทับทิม(ก้อง) (alfieman23-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-13 08:09:38


ความคิดเห็นที่ 2 (1551817)

โมทนาสาธุครับ

น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน

เป็นกำลังใจให้ป้า

ทรงศีล ๕ พรหมวิหาร ๔ สติ สัมปชัญญะ ให้ได้นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คงชาญพิชญ์ รัตนการย์พงศ์ (kagress-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-13 08:27:49



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.