ReadyPlanet.com


++ ประกาศ !!! “บุคคลที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์กับพระยายม”


++ ประกาศ !!! “บุคคลที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์กับพระยายม

 

อัธยาศัยจิตใจของบุคคลทั้งหลาย สรุปได้ ๔ คือ

 

. บุคคลบางคนในโลกนี้มีอัธยาศัยจิตใจชอบบาเพ็ญกุศลมาก

 

. บุคคลบางคนในโลกนี้มีอัธยาศัยจิตใจชอบในการกุศลและอกุศลเท่าๆ กัน

 

. บุคคลบางคนในโลกนี้มีอัธยาศัยจิตใจชอบในอกุศลมากกว่ากุศล

 

. บุคคลบางคนในโลกนี้มีอัธยาศัยจิตใจชอบในอกุศลฝุายเดียว

 

บุคคลประเภทที่ ๑ ในขณะใกล้ตายย่อมระลึกนึกถึงกุศลได้มาก ฉะนั้นบุคคลจาพวกนี้ย่อมพ้นจากการไปบังเกิดในอบายภูมิ

 

บุคคลประเภทที่ ๒ ถ้าตัวเองพยายามระลึกถึงกุศลให้มากหรือญาติบุคคลใกล้ชิดช่วยเตือนสติให้ระลึกถึงกุศล ก็สามารถช่วยให้พ้นจากการบังเกิดในอบายภูมิ

 

บุคคลประเภทที่ ๓ ทาอกุศลมากกว่ากุศล ลาพังตัวเองจะนึกถึงกุศลนั้นย่อมนึกถึงไม่ได้ นอกจากจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเท่านั้น แต่ต้องเป็นการช่วยเหลืออย่างพิเศษจึงจะช่วยได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างพิเศษแล้วบุคคลจาพวกนี้ย่อมจะต้องไปสู่อบายแน่นอน

 

ส่วนบุคคลประเภทที่ ๔ นั้น ย่อมไม่พ้นจากการไปสู่อบายได้เลย นอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อัครสาวก มหาสาวกเท่านั้นที่จะช่วยเหลือได้ และการที่จะได้รับความช่วยเหลือจากท่านเหล่านี้ได้บุคคลผู้นั้นก็จะต้องมีกุศลอปราปริยเวทนียกรรม(กุศลในชาติก่อนๆ)ที่มีกาลังมาก(ตัวอย่างเช่นโจรเคราแดงในบทเรียนชุดที่๗) ฉะนั้นถ้าบุคคลจาพวกนี้ต้องไปสู่นรกแล้ว ก็ไปสู่นรกโดยตรง ไม่มีโอกาสที่จะได้พบกับพระยายมราช

 

เฉพาะบุคคลประเภทที่ ๒ และ ๓ ถ้าต้องไปสู่นรกแล้วก็มีโอกาสได้พบกับพระยายมราชเพื่อทาการสอบถาม ๕ เรื่อง หรือเรียกว่า เทวทูต ๕ เสียก่อน แล้วจึงไปเสวยทุกข์ในนรกนั้นๆ ภายหลัง

 

คำถามของพระยายมราช มี ๕ เรื่อง คือ

 

. ความเกิด ได้แก่ ทารกที่แรกเกิด

 

. ความแก่ ได้แก่ คนชรา

 

. พยาธิ ได้แก่ ผู้ปุวยไข้

 

. คนต้องราชทัณฑ์ ได้แก่ ผู้ที่ถูกลงโทษตามกฎหมาย

 

. มรณะ ได้แก่ คนตาย

 

เกิด

พระยายมราชผู้มีจิตกรุณาจะไต่ถามว่า

นี่แน่ะเจ้า! เราจะถามเจ้าว่า เมื่อเจ้ายังอยู่ในมนุษย์โลกนั้นได้เคยเห็นเด็กแรกเกิดนอนเปื้อนมูตรคูถของตนเองบ้างไหมถ้าสัตว์นรกตอบว่าข้าพเจ้าเคยเห็นพระยายมราชจะถามต่อไปว่า ๑๗

ในขณะที่เจ้าเห็นเด็กแรกเกิดนั้น เจ้าเคยนึกถึงตนเองบ้างไหมว่า ตัวของเจ้าเองนี้จะต้องเกิดอีกเช่นเดียวกัน และได้เคยพยายามสร้างทาน ศีล ภาวนา

 

เพื่อจะได้เป็นหนทางที่จะช่วยตัวเองให้พ้นไปจากความเกิดอันเป็นชาติทุกข์บ้างไหมสัตว์นรกได้ฟังคาถามของพระยายมราชแล้ว ถ้าระลึกถึงกุศลได้ในขณะนั้นก็จะพ้นจากนรกโดยทันที ได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ หรือเทวดา ถ้าระลึกถึงกุศลไม่ได้ในขณะนั้นก็จะกล่าวตอบว่าข้าพเจ้าเคยเห็นเด็กแรกเกิดก็จริง แต่ก็ไม่มีความนึกคิดอะไร คงมีแต่ความยินดี พอใจเพลิดเพลิน สนุกสนานไปตามวิสัยของชาวโลกเท่านั้น

 

พระยายมราชจึงกล่าวต่อไปว่าเจ้าเป็นผู้มีความประมาท ไม่ทาความดีทางกายวาจาใจ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ความประมาท เพลิดเพลินสนุกสนานของเจ้าที่ได้กระทาไปแล้ว ล้วนแต่เป็นความประมาทที่เกิดขึ้นจากตัวของเจ้าทั้งนั้น ไม่ใช่บิดามารดา บุตร ภรรยา มิตรสหาย หรือเทวดาทั้งหลายมากระทาให้เจ้า ฉะนั้นเจ้าก็ต้องได้รับผลที่เจ้าได้กระทาไว้แล้วนั้นด้วยตนเองไม่มีผู้ใดจะมารับโทษแทนเจ้าได้ต่อจากนั้นพระยายมราชจะถามปัญหาที่ ๒ ต่อไป

 

แก่

พระยายมราชผู้มีจิตกรุณาจะถามต่อไปว่าเจ้าเคยเห็นคนแก่ หลังโก่งงอ ผมหงอก หนังเหี่ยว ตกกระ บ้างไหม ในขณะที่เจ้าเห็นนั้น เจ้าเคยนึกถึงตนเองบ้างไหมว่า ตัวของเจ้าเองนี้จะต้องแก่เช่นเดียวกัน และได้เคยพยายามสร้างทาน ศีล ภาวนา เพื่อจะได้เป็นหนทางที่จะช่วยตัวเองให้พ้นไปจากความแก่อันเป็นชราทุกข์บ้างไหมสัตว์นรกได้ฟังคาถามของพระยายมราชแล้ว ถ้าระลึกถึงกุศลได้ในขณะนั้นก็จะพ้นจากนรกโดยทันที ได้เกิดเป็นมนุษย์ หรือเทวดา

 

ถ้าระลึกถึงกุศลไม่ได้ในขณะนั้นก็จะกล่าวตอบว่าข้าพเจ้าเคยเห็นคนแก่ก็จริงแต่ไม่มีความนึกคิดอะไร คงมีแต่การใช้ชีวิตที่พอใจเพลิดเพลิน สนุกสนานไปตามวิสัยของชาวโลกเท่านั้น๑๘

พระยายมราชกล่าวต่อไปว่าเจ้าเป็นผู้ประมาท ฯลฯ ฉะนั้นเจ้าก็ต้องได้รับผลที่เจ้าได้กระทาไว้แล้วนั้นด้วยตนเอง ไม่มีผู้ใดจะมารับโทษแทนเจ้าได้ต่อจากนั้นพระยายมราชจะถามปัญหาที่ ๓ ต่อไป

 

เจ็บ

พระยายมราชผู้มีจิตกรุณาจะถามต่อไปว่าเจ้าเคยเห็นคนปุวยไข้ที่กาลังได้รับความทุกข์เวทนาบ้างหรือไม่ ในขณะที่เจ้าเห็น เจ้าเคยนึกถึงตนเองบ้างไหมว่า ตัวของเจ้าเองนี้จะต้องเจ็บปุวยเช่นเดียวกัน และได้เคยพยายามสร้างทาน ศีล ภาวนา เพื่อจะได้เป็นหนทางที่จะช่วยตัวเองให้พ้นไปจากความเจ็บปุวยอันเป็นพยาธิทุกข์บ้างไหม

 

สัตว์นรกได้ฟังแล้ว ถ้าระลึกถึงกุศลได้ในขณะนั้นก็จะพ้นจากนรกโดยทันที ฯลฯ ถ้าระลึกถึงกุศลไม่ได้ ฯลฯ พระยายมราชจึงกล่าวต่อไปว่าเจ้าเป็นผู้ประมาท ฯลฯ ฉะนั้นเจ้าก็ต้องได้รับผลที่เจ้าได้กระทาไว้แล้วนั้นด้วยตนเอง ไม่มีผู้ใดจะมารับโทษแทนเจ้าได้ต่อจากนั้นพระยายมราชจะถามปัญหาที่ ๔ ต่อไป

 

นักโทษ

พระยายมราชผู้มีจิตกรุณาจะถามต่อไปว่า

เจ้าเคยเห็นคนที่ถูกจองจา เช่น โจร ผู้ร้าย ผู้กระทาผิด ซึ่งถูกลงโทษด้วยวิธีต่างๆ เช่น โบยด้วยแส้ หวาย ตีด้วยกระบอง ถูกตัดมือ เท้า หู จมูก ยิงเปูา แขวนคอบ้างหรือไม่ ในขณะที่เจ้าเห็นเจ้าเคยนึกถึงตนเองบ้างไหมว่า ตัวของเจ้าเองนี้จะต้องเพียรเร่งสร้างความดี เพื่อจะได้เป็นหนทางที่จะช่วยตัวเองให้พ้นไปจากความทุกข์บ้างไหม? สัตว์นรกได้ฟังแล้ว ถ้าระลึกถึงกุศลได้ในขณะนั้นก็จะพ้นจากนรกโดยทันที ฯลฯ ถ้าระลึกถึงกุศลไม่ได้ ฯลฯ

 

พระยายมราชกล่าวต่อไปว่าเจ้าเป็นผู้ประมาท ฯลฯ ฉะนั้นเจ้าก็ต้องได้รับผลที่เจ้าได้กระทาไว้แล้วนั้นด้วยตนเอง ไม่มีผู้ใดจะมารับโทษแทนเจ้าได้ต่อจากนั้นพระยายมราชจะถามปัญหาที่ ๕ ต่อไป

 

ตาย

พระยายมราชผู้มีจิตกรุณาจะถามต่อไปว่า

เจ้าเคยเห็นคนตายบ้างหรือไม่ ในขณะที่เจ้าเห็น เจ้าเคยนึกถึงตนเองบ้างไหมว่าตัวของเจ้าเองนี้จะต้องตายเช่นเดียวกัน และได้เคยพยายามสร้างทาน ศีล ภาวนา เพื่อจะได้เป็นหนทางที่จะช่วยตัวเองให้พ้นไปจากความตายอันเป็นมรณทุกข์บ้างไหมสัตว์นรกได้ฟังแล้ว ถ้าระลึกถึงกุศลได้ในขณะนั้นก็จะพ้นจากนรกโดยทันที ฯลฯ ถ้าระลึกถึงกุศลไม่ได้ ฯลฯ

 

พระยายมราชจึงกล่าวต่อไปว่าเจ้าเป็นผู้ประมาท ฯลฯ ฉะนั้นเจ้าก็ต้องได้รับผลที่เจ้าได้กระทาไว้แล้วนั้นด้วยตนเอง ไม่มีผู้ใดจะมารับโทษแทนเจ้าได้เมื่อเป็นเช่นนี้ พระยายมราชก็พยายามช่วยระลึกให้ว่า สัตว์นรกผู้นี้ได้สร้างกุศลอะไรไว้บ้าง เพราะบุคคลบางคนเมื่อทากุศลแล้วก็แผ่ส่วนกุศลให้แก่พระยายมราช พระยายมราชผู้เคยได้รับส่วนกุศลก็จะพยายามช่วยให้สัตว์นรกนึกถึงกุศลที่เคยทาไว้ เมื่อระลึกถึงกุศลกรรมของตนได้เช่นนี้ ในขณะนั้นก็พ้นไปจากนรก

 

แต่ถ้าพระยายมราชช่วยแล้วก็ยังระลึกไม่ได้ก็จะนิ่งเสีย แล้วนายนิรยบาลก็จะนาตัวไปลงโทษในนรกต่างๆ เสวยกรรมในนรกไปจนกว่าจะหมดกรรม พระยายมราชเป็นราชาแห่งเปรตที่มีวิมาน ในคราวหนึ่งเสวยทิพยสมบัติ ในคราวหนึ่งเป็นธรรมิกราชเสวยวิบากกรรม พระยายมราชเองก็ปรารถนาความเป็นมนุษย์และได้พบ ได้ฟังธรรม ได้รู้ธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

หน้าที่ของพระยายมราช คือเป็นผู้ซักถามผู้ทาบาปที่ถูกนาตัวเข้าไป หลักซักถาม ๕ อย่างข้างต้น ถ้าพิจารณาดูตรงๆ ก็ยากที่จะเข้าใจว่าจะใช้เป็นกฎเกณฑ์สาหรับวินิจฉัยได้อย่างไร แต่เมื่อพิจารณาโดยหลักธรรม ก็อาจจะเห็นความมุ่งหมายว่า คนที่ทาบาปทุจริตต่างๆ นั้น ก็เพราะมีความประมาท ไม่ได้คิดพิจารณาว่าเกิดมาแล้วจะต้องแก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา

 

ที่มา  บทเรียนพระอภิธรรมทางไปรษณีย์ ชุดที่ ๖.๑ ภพภูมิ



ผู้ตั้งกระทู้ ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com) โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-07-19 21:12:37


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1501889)

อนุโมทนา สาธุ ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อรุณรัตน์ เปรมฉัตรปริพัต วันที่ตอบ 2010-07-20 00:20:44


ความคิดเห็นที่ 2 (1544524)

โมทนาบุญจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-09 14:28:14


ความคิดเห็นที่ 3 (1544560)

ขออนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-09 17:03:44


ความคิดเห็นที่ 4 (1544643)

 ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ ตอนที่เรายังมีวิตอยู่หมั่นสร้าง ทาน ศิล ภาวนา เพื่ิอจะำได้กำจัดกิเลสออกไปจากจิตใจ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้ว (nut-cha2000-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 01:57:54


ความคิดเห็นที่ 5 (1545468)

โมทนาสาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น kuris (kurissala-at-william-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-14 18:43:39


ความคิดเห็นที่ 6 (1545473)

อนุโมทนาบุญค่ะ  

พยายามตั้งใจสร้างบุญ

เพิ่มกุศลตลอดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น Srisomporn Emrach Tanakachane (sreesompawn-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-14 18:57:04


ความคิดเห็นที่ 7 (1545604)
image

 

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

แหมคุณปุ้ม หายไปไหนตั้งนานๆๆๆ

เป็นอย่างไร สบายดีหรือ ได้ข่าวไม่ค่อยสบาย หายแล้วหรือไร

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su22-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-15 00:29:13



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.