ReadyPlanet.com


36 แผนที่ชีวิตของพ่อ ของอนุญาตนำเผยแผ่(อีกครั้ง)เป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่คะ


36 แผนที่ชีวิตของพ่อ (พระบรมราโชวาท พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)

 

1. รักษา "ความลับ" ให้เป็น

2. อย่าอายหากจะบอกใครว่า "ไม่รู้"

3. อย่าถกเถียงธุรกิจภายในลิฟต์

4. อ่านหนังสือ ธรรมะ ปีละเล่ม

5. พูดคำว่า "ขอบคุณ" ให้มาก ๆ

6. ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี

7. อย่าหยิ่งหากจะกล่าวคำว่า "ขอโทษ"

8. ประเมินคุณค่าของการให้ "อภัย" ให้สูง

9. หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่

10. ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน

11. ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกจานอย่างจริงใจ

12. ปฏิบัติต่อคนอื่น เช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา

13. ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง

14. อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก "ปัญญา" และ "ความกล้าหาญ"

15. เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนัก คิดเสมอว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว

16. เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

17. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิ และรู้แก่ใจว่าเป็นจริง

18. "เพื่อนใหม่" คือของขวัญให้กับตัวเอง

          ส่วน "เพื่อนเก่า" หรือ "มิตร" คือ อัญมณีที่นับวันจะเพิ่ม

19. จงอย่าใช้จุดแข็ง เอาชนะจุดอ่อน

20. อย่าดึงต้นกล้าให้โตไว ๆ (อย่าใจร้อน)

21. คนไม่รักเงิน คือคนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต

22. ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนดวันเวลาแล้วเสร็จ

23. ดาวและเดือนที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีน "บันไดสูง"

24. เหรียญเดียวมี 2 หน้า ความสำเร็จ กับ ความล้มเหลว

25. ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน

26. ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อ ๆ ไป ก็ผิดหมด

27. จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด

28. อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้น ล้วนตามใจตัวเองทั้งสิ้น

29. ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อนคือผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี

30. ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำงานเลยซักวัน ทุกวันเป็นวันสนุกหมด

31. ระลึกถึงความตายวันละ 3 ครั้ง ชีวิตจะมีความสุข มีอภัย มีให้

32. ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

33. หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม

34. การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นต้นทางแห่งความไม่ประมาท

35. มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานอันมากมายในชีวิต จงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ

36. เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เราพูด

 

หลายวันก่อนคุณแม่นำมาให้อ่าน เมื่ออ่านแล้วเห็นว่าได้ประโยชน์

จึงอยากนำมาแบ่งปันแก่เพื่อน ๆ หากจะเป็นประโยชน์บ้างก็คงจะดีไม่น้อย

หากพิมพ์ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ แหวน โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-21 12:12:32


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1523037)

พี่แมวขอขอบคุณ..คุณแม่

และ นู๋แหวน

นะคะ

ที่แบ่งปันสิ่งที่ดี ๆ ให้พวกเรา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว วันที่ตอบ 2010-12-21 12:19:17


ความคิดเห็นที่ 2 (1523041)

ขออนุญาต แถมอีกนิดนะคะ

 

ข้อเท็จจริงของมนุษย์

 

1. ศัตรูที่แท้จริงของมนุษย์ คือ ตัวเอง

2. ที่สุดของความล้มเหลว คือ การหลงทะนงตน

3. ที่สุดของความเขลา คือ การโกหกหลอกลวง

4. ความเศร้าโศกที่สุดของมนุษย์ คือ การมีจิตอิจฉาริษยา

5. ที่สุดของการบกพร่อง คือ การละเลยต่อหน้าที่

6. ความผิดพลาดที่สุดของมนุษย์ คือ การหลอกลวงตนเอง

7. อุปนิสัยที่น่าเวทนาที่สุดของมนุษย์ คือ การน้อยเนื้อต่ำใจตนเอง

8. อุปนิสัยที่น่ายกย่องที่สุดของมนุษย์ คือ การพยายามจนประสบความสำเร็จ

9. การสิ้นเนื้อประดาตัวของมนุษย์ คือ การสิ้นหวัง

10. โชคลาภอันประเสริฐสุดของมนุษย์ คือ การมีสุขภาพดี

11. หนี้สินที่ใหญ่หลวงที่สุดของมนุษย์ คือ หนี้บุญคุณ

12. ของขวัญอันระเสริฐสุดของมนุษย์ คือ จิตใจที่กว้างขวางและการให้อภัย

13. ที่สุดของการขัดสนที่สุดของมนุษย์ คือ การขาดแคลนความรู้

14. ความสุขสบายใจของมนุษย์ที่แท้จริง คือ การเป็นผู้ให้

 

 

ขอให้ทุกท่านได้พบความสุขสบายใจที่แท้จริงทุกคนนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-21 12:24:22


ความคิดเห็นที่ 3 (1523042)

ด้วยความยินใจคะ พี่แมว

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-21 12:28:07


ความคิดเห็นที่ 4 (1523047)

เป็นข้อคิดที่ดีที่สุดเลยค่ะคุณแหวน

น้องทรายขออนุโมทนาบุญสำหรับธรรมทานดี ๆ ด้วยนะค่ะ

................

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องทราย (lukkana_1234-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-21 12:47:25


ความคิดเห็นที่ 5 (1523257)

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณแหวนด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล วันที่ตอบ 2010-12-22 11:57:58


ความคิดเห็นที่ 6 (1523423)

30 วิธีทำบุญ เพื่อสุขภาพใจและสุขภาพสังคม (พระไพศาล วิสาโล)


ทำอย่างไร ถ้าไม่มีเวลาเข้าวัด ?

ถ้าคุณยังมีเวลาหายใจ ก็อย่าห่วงว่า จะไม่มีเวลาทำบุญ
เพราะบุญนั้น ทำได้ทุกเวลาและทุกที่

แค่หายใจให้เป็น เช่น รู้จักใช้ลมหายใจ สะกดกลั้นความโกรธ
หรือคลายความเครียดโดยการหายใจเข้าลึกๆ
หายใจออกช้าๆ หลายๆ ครั้ง นั่นก็เป็นบุญแล้ว

ถ้าทำแล้วสงบเย็น เป็นประโยชน์ขอให้มั่นใจได้ว่า
นั่นแหละคือบุญ

• “บุญแปลว่าเครื่องชำระจิตใจให้ สะอาดบริสุทธิ์
ทำอะไรก็ตาม ถ้าช่วยลดความโลภ ความเห็นแก่ตัว
และอารมณ์เศร้าหมอง ทำให้จิตใจเอิบอิ่มยิ่งขึ้น
หากเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย ก็ถือว่าเป็นบุญ


วิธีทำบุญรูปแบบต่างๆ

- สละทรัพย์อย่างฉลาด

- ทำชีวิตให้โปร่งเบา

- เกื้อกูลด้วยแรงกาย

- ฝึกจิตชำระใจ

- ทำบุญ 10 วิธีในพุทธศาสนา

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-23 01:33:44


ความคิดเห็นที่ 7 (1523424)

สละทรัพย์อย่างฉลาด

เวลาจะทำบุญ คนไทยมักนึกถึงพระอยากถวายของให้พระ
แต่ถ้าจะให้เกิด ประโยชน์คุ้มค่า
ควรเลือกถวายของที่ท่านจะได้ใช้จริงๆ
มีของหลายอย่างที่คนชอบถวายจนล้นวัด
เช่น ผงซักฟอก สบู่ แปรงสีฟัน ผ้าอาบน้ำฝน

ของบางอย่างก็ใช้ไม่ได้ เช่น ใบชา น้ำบรรจุขวด
เพราะมีกลิ่นผงซักฟอก ติดมาด้วย
ถังสังฆทานบางถังมีอาหาร เช่น ข้าวสาร น้ำปลา เกลือป่น
ที่คุณภาพต่ำ เนื่องจากญาติโยมซื้อมาจากร้านทั้งถัง
โดยไม่ได้เปิดดู จึงไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร

ใส่ใจสักนิด แล้วคิดตรองดูว่าอะไรบ้างที่พระจำเป็นต้องใช้
แต่ผู้คนมักจะมองข้าม ถ้ายอมเสียเวลาไปเลือกหา
แล้วซื้อถวายท่าน จะได้บุญมาก
เพราะผู้ถวายก็อิ่มใจ ผู้รับก็ใช้ประโยชน์ได้

วัดหลายแห่ง ไม่ได้ใช่เทียนพรรษาแล้ว แต่ใช้ไฟฟ้าแทน
ทำบุญด้วยหลอดไฟ หรือโคมไฟก็นับว่าสมสมัย
แต่อย่าให้ล้นเกิน พระท่านก็อยากจะช่วยประหยัดพลังงาน
ติดไฟหลายๆ ดวง จะสิ้นเปลืองพลังงาน และค่าไฟ

การถวายเครื่องเขียน และหนังสือ ธรรมะ
เป็นการส่งเริมการศึกษาของพระสงฆ์
ชาวพุทธควรสนับสนุนให้มากๆ

หนังสือบางอย่าง เช่น คู่มือดูแลสุขภาพ
นอกจากเป็นประโยชน์ต่อท่านโดยตรงแล้ว
ท่านยังเอาไปใช้แนะนำสั่งสอนญาติโยมได้อีกด้วย

หลายแห่ง พระสงฆ์ ต้องเป็นช่าง ซ่อมแซม กุฏิวิหารเอง
ดังนั้นเครื่องมืองานช่าง ไม่ว่าช่างไฟหรือช่างก่อสร้าง
เช่น ค้อน ตะปู เลื่อย ไขควง จึงเป็นสิ่งจำเป็น
และที่ทุกวัดขาดไม่ได้ก็คือ อุปกรณ์ทำความสะอาด
เช่น ไม้กวาด ไม้ถูพื้น

ยารักษาโรค สมุนไพร ตลอดจน เครื่องติดก้นครัว
เช่น จาน ชาม หม้อ แก้วน้ำ ก็เป็นประโยชน์มาก
นอกจากพระท่านเองจะใช้เองแล้ว
ยังสามารถสงเคราะห์ญาติโยมได้ด้วย โดยเฉพาะในชนบท

การให้ทานแก่ผู้อื่นนอกจากพระสงฆ์ ก็เป็นบุญเช่นกัน
มีผู้คนมากมายในสังคมที่เราควรให้ความเอื้อเฟื้อ
เช่นเด็กยากจน เด็กกำพร้า เด็กเร่รอน ฯลฯ

เติมความรักและความหวังให้แก่เด็กเหล่านี้
ด้วยการบริจาคหนังสือเรียนเสื้อผ้า อาหาร ยา
หรือให้ทุนการศึกษา ผ่านมูลนิธิหรือองค์กร
ที่ทำงานด้านเด็กใกล้บ้านหรือที่ทำงานของเรา
อาจมีเด็กเหล่านี้ที่เราสามารถช่วยเหลือได้โดยตรง

สิ่งหนึ่งในเมืองที่เด็กในเมืองต้องการมากก็คือสนามเด็กเล่น
ช่วยกันสละเงิน คนละนิดละหน่อย เพื่อให้มีสนามเด็กเล่น
เป็นการช่วยสร้างคนดี ให้แก่สังคมในระยะยาว

เด็กและเยาวชนในสถานพินิจ ก็ต้องการความรักจากเราเช่นกัน
เสื้อผ้า อาหาร หนังสือ สามารถเป็นสื่อแสดงน้ำใจจากเราได้

การบริจาคเงินช่วยเหลือคนพิการ
ผ่านมูลนิธิและสถาบันการศึกษาสำหรับคนพิการ
เป็นการทำบุญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้สังคมของเราน่าอยู่มากขึ้น

ช่วยคนแล้ว อย่าลืมนึกถึงสัตว์สงเคราะห์แมวและสุนัขเร่ร่อน
ก็เป็นบุญเช่นกัน เอาเขามาเลี้ยงในบ้าน
อาจช่วยรักษาชีวิตเขาไว้ได้
หรือไม่ก็บริจาคเงินให้แก่หน่วยสงเคราะห์สัตว์

ไถ่ชีวิตสัตว์ที่ถูกฆ่า เป็นบุญที่มีอานิสงส์มาก
ถ้าเป็นวัวควาย ไถ่แล้วให้ชาวนาเลี้ยงใช้งาน
ก็เป็นประโยชน์อีกทางหนึ่ง

ทานอีกอย่างที่สำคัญคือธรรมทาน
เช่น แจกหนังสือธรรมะ สมัยนี้มีซีดีรอมบรรจุพระไตรปิฎกครบชุด
พร้อมหนังสือธรรมะน่าสนใจ และคำเทศนาดีๆ
รวมอยู่แผ่นเดียวกัน ราคาไม่แพง สะดวกแก่การแจกมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-23 01:35:05


ความคิดเห็นที่ 8 (1523425)

ทำชีวิตให้โปร่งเบา

ทำบุญไม่ได้แปลว่าให้ทานเสมอไป
ไม่มีเงินเลยก็สามารถทำบุญ ได้เหมือนกัน
การทำชีวิตให้ปลอดโปร่งจากสิ่งเสพติด
เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องใช้เงินเลย แถมมีเงินเหลือเสียอีก

แม้ไม่เข้าวัด แต่ถ้างดเข้าบ่อน บาร์ หรือสถานเริงรมย์
ก็ได้บุญเต็มๆ ถ้ายังละไม่ได้ ลดการดื่ม เล่น
และเที่ยวให้น้อยลงก็ยังดี เป็นบุญทั้งแก่ตัวเองและครอบครัว

อะไรที่ทำให้ชีวิตยุ่งยาก เป็นภาระแก่ตัวเอง
สิ้นเปลืองเงินทองและเวลา เช่นติดนิสัยช็อปปิ้ง จนเป็นหนี้สิน
หรือติดอินเตอร์เน็ตจนไม่เป็นอันทำงาน และไม่มีเวลาให้ครอบครัว
เข้าพรรษาเป็นโอกาสที่จะลดละสิ่งเหล่านี้

ใครที่รู้สึกว่ากินเนื้อมากไป เป็นห่วงสุขภาพ
และไม่อยากเบียดเบียนสัตว์
ขอสมาทานมังสวิรัติตลอดสามเดือนก็เข้าที

ทำคนเดียวอาจไม่มีกำลังใจ ก็ชวนเพื่อนๆ มาทำร่วมกัน
อธิษฐานหรือกำหนดจิตตั้งมั่น ว่าจะลดหรือเลิกละอะไรบ้าง
ในสามเดือนนี้ แล้วมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในกลุ่ม
เล่าความคืบหน้าเป็นระยะ และกำลังใจกัน

ถ้ายังทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่งที่น่าทำได้
คือ ประพฤติตนไม่ให้ผู้อื่นเดือนร้อน
นอกจากศีล 5 ที่คนไทยรู้จักกันดีแล้ว
การไม่ทำลายทรัพย์สิน ส่วนรวม ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
ไม่ก่อความลำคาญในที่สาธารณะก็เป็นคุณธรรมที่ควรรักษา

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-23 01:36:12


ความคิดเห็นที่ 9 (1523426)

เกื้อกูลด้วยแรงกาย

สละเงิน สละพฤติกรรม ที่ไม่ดีแล้ว
สละอีกอย่างหนึ่งที่เป็นบุญ คือ สละแรงกาย
เห็นใครลำบากก็เขาไปช่วยเขา
อะไรที่เป็นงานส่วนรวม ก็เข้าไปเสริม

เด็กมากมายในเมืองและชนบทต้องการครู
สามเดือนนี้ไปช่วยกันเป็นครู สอนเด็กกันดีไหม
มีความรู้ความสามารถ หลายอย่าง ที่เด็กต้องการ
เช่น ภาษาไทย ความรู้ทางช่างยนต์ ช่างตัดผม
ดนตรีไทย งานประดิษฐ์ต่างๆ
ตลอดจนทักษะทางการกีฬา ต่างๆ อาทิ ฟุตบอล ว่ายน้ำ

ครูสอนศิลปะให้แก่เด็กๆ หรือเป็นพี่เลี้ยงในค่ายเด็ก
เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ
เด็กเป็นอันมาก ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า
คนที่พร้อม จะสละเวลาให้กับเขา

ตามโรงพยาบาลต่างๆ มีเด็กเล็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง
นอนป่วยตามลำพัง รอใครสักคนมาอุ้มเขาด้วยความรัก
อาสาสมัคร อุ้มเด็ก ไม่ต้องมีคุณสมบัติอะไรมาก
นอกจากใจที่เมตตา

อาสาสมัครในบ้านพักคนชรา และอาสาสมัครรับโทรศัพท์
จากคนที่มีปัญหาชีวิต อยากคิดสั้น เป็นงานบุญที่มีอานิสงส์มาก
เพราะช่วยต่อชีวิตของผู้คนให้ยืนยาวและเป็นสุขกว่าเดิม

ถ้าไม่มีเวลา เพียงการ์ดสักใบที่คุณเขียนจากใจ
มอบให้เด็ก ด้อยโอกาส เช่น เด็กสถานพินิจ
ก็ช่วยให้พวกเขามีความหวัง ที่จะดำเนินชีวิตต่อไป

คนจำนวนไม่น้อยที่ทำบุญปิดทอง หลังพระ ด้วยการปลูกป่า
หรือเก็บขยะตามอุทยาน ถ้ามีคนอย่างนี้มากๆ
ป่าจะดกดื่นรื่นรมย์ไปทั้งทั่วประเทศ

หลายคนชักชวนเพื่อนๆ ไปช่วยกันสร้างกุฏิให้วัด
ทั้งๆ ที่มีเงิน แต่อยากสละแรงกาย มากกว่า
แม้ไม่ใช่ช่างแต่ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะเป็นกุฏิดิน
ไม่เปลืองไม้ อยู่แล้วเย็นสบาย

มีน้ำใจช่วยพาคนพิการหรือคนแก่ข้ามถนน
ลุกให้หญิงมีครรภ์นั่ง
เจอคนประสบอุบัติเหตุ ช่วยพาส่งโรงพยาบาล
บุญแบบนี้ประเสริฐนักเพราะให้ความสุขแก่ทั้งสองฝ่าย

ชักชวนเพื่อนบ้านร่วมแก้ปัญหาขยะในชุมชน
รักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ดูแลเยาวชน ให้พ้นภัยยาเสพติด
ตรวจตราชุมชนให้ปลอดโจรผู้ร้าย น้ำท่วมก็ช่วยกันแก้ไข
ทำได้อย่างนี้ คนก็เปี่ยมบุญชุมชนก็เปี่ยมสุข

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-23 01:37:38


ความคิดเห็นที่ 10 (1523427)

ฝึกจิตชำระใจ

ไม่ต้องใช้เงินก็ได้บุญอีกวิธีหนึ่ง
ก็คือ การทำจิตรักษาใจให้เป็นกุศล มีความสงบ
ไม่ฟุ้งซ่าน ขุ่นเคือง ขึ้งเครียด ด้วยการทำสมาธิ

สมาธิมิใช่เรื่องลึกลับไกลตัว จดจ่อจิตอยู่กับลมหายใจ
เข้าและออกอย่างสม่ำเสมอ ทำครั้งละ 15 นาที
เช้าและเย็น หรือเวลาเครียดกับงาน ไม่นานจะเห็นผล
ถ้าขยันขึ้นก็ทำให้นานเท่าๆ กันเวลาอาบน้ำแปรงฟัน

ใช้เวลาชำระกายนานเท่าไร ก็พึงชำระใจนานเท่านั้น
ชีวิตจะสมดุลและโปร่งเบาขึ้น แผ่เมตตาสม่ำเสมอ
แม้กับคนที่เราโกรธเกลียด รวมทั้งรู้จักให้อภัย
เป็นวิธีดับความเร้าร้อนภายในใจได้ อย่างวิเศษ
เป็นบุญที่ให้ผลมากกว่าการทำทาน

ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ตั้งว่าจะยิ้มทั้งเช้าแม้มีเรื่องกระทบใจ ก็ยังยิ้ม
เป็นการฝึกจิตอีกแบบหนึ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ ทำแล้วใจสบาย

ใจสว่างไสว คือ ใจที่เปี่ยมบุญ ใจสว่างไสวได้เพราะปัญญา
คนแต่ก่อนจึงชอบเข้าวัดฟังธรรม เพราะจะได้เกิดปัญญา
มีความรู้ความเข้าใจในชีวิตมากขึ้น

ทำบุญพรรษานี้ให้โอกาสจิตใจได้สดับรับรู้ธรรมบ้าง
ถ้าไม่สะดวกไปฟังพระเทศน์ที่วัด
หาเทปธรรมะมาเปิดฟังยามว่างหรือตอนรถติด
ก็น่าจะดีหรือหาหนังสือธรรมะมาอ่าน
ทุกคืนก่อนนอน ตลอดทั้งพรรษา

ชักชวนเพื่อนๆ มาสนทนาธรรมกันทุกวันพระ
หรือวันหยุดสุดสัปดาห์อ่านพระไตรปิฎกร่วมกัน
แล้วมาอภิปรายกันว่า มีสาระที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตอย่างไร
เป็นการทำบุญที่สมสมัยอย่างยิ่ง

ถ้าติดอินเตอร์เน็ต เลิกไม่ได้
วันหนึ่งๆ ลองสละเวลาสัก 15 นาที เปิดดูเว็บไซต์ธรรมะ
ซึ่งมากมายให้เลือก อาจได้ ข้อคิดสะกิดใจ
ที่หาไม่ได้จากเว็บไซต์อื่น

แต่อยากพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างจริงจัง
หาเวลาทั้งพรรษาไปฝึกสมาธิภาวนาให้เห็นธรรมด้วยตนเอง
เป็นดีที่สุดมีวัดและสำนักปฏิบัติธรรมมากมาย
ที่เปิดรับผู้สนใจตลอดพรรษา

ความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ถือตัว ถือตนหรือดูถูกผู้อื่น
แม้กับคนที่มีอายุน้อยกว่า ฐานะต่ำกว่า
หรือเรียนมาน้อยกว่า เป็นบุญอีกอย่าง
ที่ช่วยให้จิตใจเบาสบายผู้คนก็รักใคร่

ใครทำความดี ก็ยินดีด้วย ไม่อิจฉา
หาว่าเด่นกว่าหรือค่อนแคะว่าอยากดังชื่นชมเขาด้วยใจจริง

เผื่อแผ่ ความดีให้ผู้อื่นได้มีส่วนร่วม หรือได้รับส่วนบุญด้วย
ไม่หวงไว้กับตัวคนเดียว มีข้อคิดดีๆ ที่เป็นคติธรรม
ก็แบ่งปันให้ผู้อื่นได้รับรู้ นี่ก็เป็นบุญ เหมือนกัน

คิดดี คิดชอบ ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง
แต่คำนึกถึงส่วนรวม หรือความดีงามเป็นหลัก
เตือนตัวเสมอว่าถูกใจไม่สำคัญ เท่ากับถูกต้อง
เป็นบุญที่น่าสรรเสริญ

ก่อนนอน ลองสำรวจว่า
วันนี้เราได้ทำบุญ สร้างความดีอะไรไว้บ้าง
ระลึกถึงบุญเหล่านั้นด้วยความชื่นชมยินดี
แล้วน้อมใจอุทิศบุญทั้งหมด ให้แก่ผู้อื่น มีญาติมิตรเป็นต้น
โดยกล่าวข้อความว่า
อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
ขอญาติทั้งหลาย จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด"

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-23 01:38:40


ความคิดเห็นที่ 11 (1523428)

ทำบุญ 10 วิธี ในพุทธศาสนา

บุญในพุทธศาสนาทำได้มากมายหลายวิธี สรุปได้เป็น 10 วิธีคือ

1. การบริจาคเงินและสิ่งของ
เรียกว่า ทานมัย

2. การลดละความพฤติที่ไม่ดี และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เรียกว่า ศีลมัย

3. การฝึกจิตรักษาใจให้สงบเกิดปัญญา
เรียกว่า ภาวนามัย

4. การสละแรงกายช่วยเหลือผู้อื่นส่วนรวม
เรียกว่า ไวยาวัจจมัย

5. ความอ่อนน้อมถ่อมตัว เรียกว่า อปจายนมัย

6. ความยินดีในการทำความดี ของผู้อื่น
เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย

7. การเผื่อแผ่ความดี ให้ผู้อื่นได้มีส่วนร่วม หรือได้รับส่วนบุญ
เรียกว่า ปัตติทานมัย

8. การฟังธรรมและศึกษาข้อคิด ที่ดีงามเรียกว่า ธรรมสวนมัย

9. การให้ธรรมะและข้อคิดที่ดีงามแก่ผู้อื่น เรียกว่า ธรรมเทศนามัย

10. การนึกคิดในทางที่ถูกต้อง ดีงามเรียกว่า ทิฏฐุชุกรรม

โดย พระไพศาล วิสาโล เครือข่ายชาวพุทธ
เพื่อพุทธศาสนาและสังคมไทย


 

ที่มา http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9980


 

ขออนุญาตช่วยหนูแหวนสักนิด นานๆจะเห็นหนูแหวนตั้งกระทู้ รู้สึกยินดี

เลยต้องช่วยหน่อย เป็นกำลังแรงใจ ปรกติผมดูแลเว็บบอร์ดอยู่เว็บหนึ่ง ตอบปัญหาธรรมะอยู่

หากต้องการรู้จักผมในอีกด้านหนึ่ง เชิญมาเยี่ยมผมได้ที่

http://www.madchima.org/forum/index.php

น้ำชา กาแฟ ก๋วยเตี้ยว ข้าวผัด สั่งได้ครับ พร้อมรับรองเพื่อนๆทุกคน

ขอให้ธรรมคุ้มครอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ้ม ณฐพลสรรค์ (nathaponson-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-23 01:47:05


ความคิดเห็นที่ 12 (1523568)

ขอบคุณคะพี่

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-12-23 17:04:30


ความคิดเห็นที่ 13 (1523643)

ขอบคุณทั้งคุณแหวนและคุณปุ้ม

แหะ แหะ บอกตามตรงว่า อ่านแบบสแกนก่อน เดี๋ยวมาเก็บตกใหม่อ่านให้ละเอียดกว่าเดิม

แหม...ช่วงนี้มีแต่กระทู้น่าสนใจ ทั้งนั้นเลย..

ชักเริ่มตามไม่ทันซะแล้ว ... แต่จะพยายามตั้งสปีดให้เร็ว ตามให้ทันนะค๊า...

 

คิดแล้วอยากจะกราบอาจารย์อุบล จังเลย อาจารย์ทำได้ไงเนี่ย ตั้งหลายสิบอย่างในวันเดียว

ชนิดาก็มี 24ชม. เหมือนกัน แต่ทำได้...ไม่กี่อย่างเอง..

.และไอ้ไม่กี่อย่างที่ว่า ก็ดันมีพ่วงเรื่องไร้สาระมาซะด้วย...สิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา วันที่ตอบ 2010-12-24 06:25:42


ความคิดเห็นที่ 14 (1523648)

 

อ่านแล้วสบายใจทั้งคุณแหวนและคุณปุ้มสาธุ...สาธุ...สาธุ...

ผู้แสดงความคิดเห็น วี วันที่ตอบ 2010-12-24 07:25:37


ความคิดเห็นที่ 15 (1523741)

 

ขอบคุณทั้งคุณแหวนและคุณปุ้ม   ยังติดตามไม่หมดจะหาเวลาเข้ามาอ่านค่ะ  น่าสนใจทุกอย่าง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น วันที่ตอบ 2010-12-24 15:45:06


ความคิดเห็นที่ 16 (1523776)

   ขออนุโมทนาบุญ..คุณแหวน..ชายกลาง.เป็น

อะไร..ที่โดน..ถ้าทุกๆท่านสามารถนำมายึด

ในชีวิตประจำวันได้..thank u...ฮ่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-24 21:53:47


ความคิดเห็นที่ 17 (1523832)

 

 

                     ขอขอบคุณคูณแหวนและขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ.........ส่าธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางสาวกุลภัต ชาครประดิษฐ์ วันที่ตอบ 2010-12-25 11:22:26


ความคิดเห็นที่ 18 (1525939)

 

แจ้งให้ทราบทั่วกันว่า บทความเรื่อง 36 แผนที่ชีวิตของพ่อนี้ ไม่ใช่พระบรมราโชวาท หรือพระราชดำรัสของในหลวงนะครับ สำนักราชเลขาธิการเคยมีหนังสือแจ้งเวียนให้ทราบทั่วกันนานแล้ว (ลองเซิร์ซหาข้อมูลในกูเกิ้ลก็น่าจะเจอ)
 
ต้นฉบับจริงเป็นของฝรั่งนะครับ หากฝรั่งมาอ่านพบเข้า ก็คงดูหมิ่นดูแคลนคิดว่าในหลวงทรงไปก็อป***ฝรั่งมา จะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติพระองค์ท่านนะครับ
 
รักพ่อหลวง   อย่าทำลายพระเกียรติของพระองค์ท่านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เลยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น watta วันที่ตอบ 2011-01-08 00:45:33


ความคิดเห็นที่ 19 (1525944)

 

 
แม้ว่าเป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิตที่ดีมากเพียงใด แต่ข้อเท็จจริงคือต้นฉบับจริงเป็นของฝรั่งนะครับ หากฝรั่งมาอ่านพบเข้า ก็คงดูหมิ่นดูแคลนคิดว่าในหลวงทรงไป copy ฝรั่งมา จะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติพระองค์ท่านนะครับ
 
รักในหลวง   อย่าทำลายพระเกียรติของพระองค์ท่านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เลยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น watta (wat36-at-msn-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-08 03:50:40


ความคิดเห็นที่ 20 (1526023)

 

 

กราบอาจารย์อุบล

               และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆ ท่านครับ

                    ก่อนอื่นผมขออนุโมทนากับคุณแหวน และ คุณปุ้ม ที่นำบทความดีๆ และ มีความหมายต่อชีวิต มาให้ได้อ่านกันครับ

                    และ ขอขอบคุณ คุณ watta ที่ชี้แนะแหล่งที่มาของบทความครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น กร(ลำปาง) วันที่ตอบ 2011-01-08 18:32:44


ความคิดเห็นที่ 21 (1544204)

ต้องทำทันทีกับทุกข้อมูล

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-07 09:17:00


ความคิดเห็นที่ 22 (1544251)

ขอขอบคุณ

และอนุโมทนาด้วยค่ะ

คุณแหวน และคุณแม่  สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-07 15:59:37



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.