ReadyPlanet.com


พระขีณาสพ เสาร์30/04/54


 

 
พระขีณาสพ เสาร์30/04/54
แจ้งลบกระทู้


 

 
 
    สวัสดีทุกๆคน ทั้งลูกทั้งหลานของท่านพระมหาวีระ ถาวโรและสมเด็จเจ้ากวนอิมแห่งบรมมหาโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นมารดาของทุกๆคน ดีใจที่ได้มาพบนะอาตมามาไม่มีอะไรจะสอนเห็นว่าทุกๆคน ได้ปฏิบัติธรรมกันดีก็เลยจะแวะมาเยี่ยมทักทายผู้ใดปฏิบัติธรรมได้ดีผู้นั้นย่อมอยู่ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้าวันนี้ก็มีโอวาทสั้นๆมาฝากพวกเธอทุกๆคนที่จะได้ฟังกัน อาตมามีชีวิตอยู่นั้นได้พบกับพระวิมุตติธรรมธรรมแห่งความบริสุทธิ์ สิ้นสุดซึ่งการเวียนว่ายตายเกิด วัฏฏะแห่งการเวียนว่ายอาตมาได้ใช้ชีวิตหลังจากวันนั้นที่ได้ผ่านพ้นนั้นแล้ว ก็มีชีวิตเหมือนท่อนซุงมีชีวิตอยู่เพื่อใช้ทำประโยชน์ ใช้สังขารร่างกายนั้นให้คุ้มค่านั่นคือการบำเพ็ญเพียรภาวนา ก็มีมากมายหลายคนที่ไม่ชอบไม่เคารพในอาตมาแต่ก็ไม่แปลกเพราะแต่ละคนก็มีบุญสัมพันธ์กันมาแตกต่างกันไม่เหมือนกัน   ใครจะว่าเช่นไรอาตมาขอให้กำลังใจเธอทุกคนว่า ไม่ต้องสนใจถ้าเธอทำอะไรเป็นสิ่งที่ดีงามแล้วอยู่ในความถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาก็ขอให้เธอทำไป คำชม คำสรรเสริญ หรือคำนินทา คำว่าร้ายทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นมีอยู่เกิดขึ้นกับเธอทุกคน และไม่ใช่เฉพาะเธอเท่านั้นแต่มีเกิดขึ้นทั่วกันทั้งโลกสัตว์ถ้ายังอยู่ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดที่จะหนีคำนินทาและคำชมได้ ดังนั้นเธอไม่ต้องสนใจในสิ่งใด ปฏิบัติทำตามหน้าที่ดูแลจิตใจของตนเองให้ดีไม่สอดส่ายไปในที่อื่นเราก็จะสงบได้ เราไม่ต้องเสาะแสวงหาสถานปฏิบัติธรรมที่ใดเพราะสมัยนี้นั้นก็ไม่เหมือนกับสมัยของอาตมาแล้ว ทำให้อาตมามองดูมองเห็นแล้วว่าสมันนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายที่จะวิเวกนั้นก็หาไม่ได้ หรือวัดวาอารามที่จะสงบจริงก็หาได้ยาก ดังนั้นเธอไม่ได้ต้องไปไกลกระทำตามอาตมาสั้น ๆ ดังนี้นะ  
      จำไว้ให้จิตใจของเธอเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและให้รูปกายของเธอเป็นวัดวาอาราม   เท่านี้เธอก็จะอยู่ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้าและอยู่ในวัดตลอดเวลาแล้ว แบบนี้เธอก็ไม่ต้องไปสอดส่าย แสวงหา การปฎิบัติที่อื่นก็จะสามาถทำได้ด้วยตัวของเธอเอง   หมั่นเพียรภาวนาอยู่เสมอ มีสิ่งใดมากระทบก็จงชักดาบออกมา   คือตัวปัญญาที่อาตมาสอนและให้จำเอาไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนิจจังท้ายสุดก็เป็นอนัตตา หากเธอยึดไว้ความสุขก็ดีก็จะเป็นทุกข์ด้วยว่าสุขนั้นไม่ถาวรหรือทุกข์ที่เธอมีและยึดไว้ก็จะยิ่งก่อให้เธอหนักยิ่งขึ้นไป 
     เพราะฉะนั้นคนสมัยนี้ชอบอวดดีกัน อวดเก่งกัน อวดดีนั้นให้เรามีดีจริง ๆแล้วอวด อย่าอวดดีในทางมิจฉาทิฏฐิ แต่จงอวดดีในทางสัมมาทิฏฐิ ดีในที่นี้หมายถึงอะไร ดีคือทำตัวของเราให้ดีให้หลุดพ้นจากความเป็นสัตว์ให้ได้ ถ้าเรายังไม่สามารถทำตัวให้หลุดพ้นจากสัตว์ได้แล้วจะมาเรียกว่าอวดดีอย่างนี้ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว   ถ้าเรามีดีจริงก็ให้อวดที่ดีจริงให้มันถูกต้อง อวดเก่งก็ให้มันเก่งจริงคือ ชนะกิเลส ชนะตัณหาให้ได้ ตัวกิเลส คือ ตัวที่ทำให้เธอมีอารมณ์เศร้าหมองกลัดกลุ้มในจิตใจ   ตัวตัณหาคือความทะยานอยาก อยากมี อยากได้อยากครอบครองให้คงอยู่ เหล่านี้ทั้งสิ้นที่เธอจะต้องอวดดี อวดเก่งกับมัน ถ้าเธอชนะมันได้ก็เท่ากับว่าเธอได้มีดี มีเก่ง ให้อวดแล้วไม่ใช่อวดดีแข่งกันกับใครหรืออวดเก่งแข่งกันกับใคร เพราะฉะนั้นให้เรามีดีจริงแล้วอวด มีเก่งจริงแล้วอวด อวดกับพระพุทธเจ้าให้พระพุทธเจ้าท่านมาโมทนา ไม่ใช่อวดดีอวดเก่งในทางมิจฉาทิฏฐิให้กิเลสมารซาตานมาโมทนา ให้เธอเลือกเอาว่าจะให้พระพุทธเจ้ามาโมทนาหรือให้มารซาตานมาโมทนา เพราะฉะนั้นผู้จะมีดีได้นั้นผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พูดน้อยแต่ฟังมากและในขณะที่ฟังก็คิดใคร่ครวญในคำพูดนั้นหากเราพูดมากเราก็จะคิดไม่ทันกลายเป็นคนไม่ฉลาด กลายเป็นคนที่โง่ไปคือเป็นคนฉลาดทางซาตาน เป็นคนที่โง่ทางพระพุทธศาสนา ผู้ที่ฉลาดทางพระพุทธศาสนา ให้ลูกจำไว้ว่าผู้นั้นจะฟังมากและคิดวิปัสสนาพร้อมกับมีสติรู้เท่าทันในคำพูดเหล่านั้นแล้วพยายามพูดให้น้อยระมัดระวังในคำพูดคิดให้รอบคอบก่อนแล้วจึงเอ่ยวจีกรรมออกไปเหล่านี้สมกับเป็นพระอริยะ  
     ถ้าลูกยังไม่มีดังนี้ก็อย่าหลงว่าตัวเองเป็นพระอริยะแล้ว เป็นพระโสดาแล้ว ให้เราดูตัวเอง ยุ่งอยู่กับตัวเอง ปฏิบัติตัวเองแล้วเธอจะรู้ว่าโลกข้างนอกนั้นวุ่นวายเต็มไปด้วยข่าวสารต่างที่เข้ามากระทบกับอารมณ์เราทั้งนั้น ข่าวการเมืองที่ดีก็กระทบกับอารมณ์เราให้ดี แล้วก็มีความหวัง และความหวังนั้นก็เป็นอนาคต ถ้าเธอไปยึดติดกับข่าวสารที่ดีก็เป็นทุกข์เพราะยังมาไม่ถึง ทีนี้ข่าวสารที่มันเป็นทุกข์เมื่อเธอเข้าไปยึดติดก็จะยิ่งเป็นทุกข์ด้วยความกระวนกระวาย แต่ถ้าเธอเป็นนักปฏิบัติจริง เธอก็จะไม่ตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้นแต่จะวางและรู้เท่าทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้โลกของเราใบนี้ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ก็มีเรื่องราวมากมายให้ต้องได้คิด ให้ต้องได้ทำอยู่เรื่อยแต่หน้าที่ของเธอคือจะต้องทำอย่างไร ให้หลุดพ้นจากอารมณ์ที่เข้ามากระทบเหล่านั้นได้ ถ้าเธอยังทำไม่ได้แล้วเธอจะไปบอกให้ผู้อื่นทำได้อย่างไร ผู้ที่จะมานั่งพูดธรรมมะได้นั้นจะต้องรู้จริง รู้จริงมาจากการลงมือปฏิบัติ รู้จำคือผู้ที่ท่องจำตามตัวอักษรของหนังสือแล้วมาพูด  
     ดังนั้น ให้เธอรู้จริงจากการปฏิบัติแล้วมาพูด อาตมาก็ไม่ได้เรียนอะไรมากมายไม่ได้เก่งกาจสามารถอะไร ไม่มีอะไรดีให้อวดไม่มีอะไรเก่งให้อวดแต่อาตมามีอย่างเดียวคือ รู้ที่จะปฏิบัติและเอาผลของการปฏิบัตินั้นมาสอนเธอทั้งหลายให้เข้าใจถึงสภาวะอันตรายของโลกที่เต็มไปด้วยสัตว์เท่านั้นที่อยู่กันปะปนปนกัน ที่เต็มไปด้วยกามฉันทะ ตัณหา ความอยากทั้งสิ้นทั้งมวลสิ่งเหล่านี้เป็นตัวล่อเหมือนเอาขนมหวานมาล่อ เมื่อเธอไปติดกับดักของกิเลสนั้นเธอก็จะไม่สามารถออกมาได้ ลืมรสพระธรรมไปหมดสิ้นแต่ถ้าเธอเอาชนะความอยากไม่ไปกินขนมหวานที่กิเลสล่อนั้น เธอก็จะอยู่ได้ด้วยความสงบโดยตัวของเธอเอง และค้นพบสิ่งที่อยู่ในใจของเธอนั้นนั่นคือจิตใจของเธอ แท้จริงแล้วใสสะอาดและบริสุทธิ์ เพียงแต่ที่ตอนนี้มันมืด มันมัวมันเทานั้น ก็เพราะตัวกิเลสเข้ามาบดบังแต่ถ้าเธอจะเอาชนะเธอต้องฉีกกิเลสออกให้หมดสิ้นแล้วจะพบธรรมมะแห่งวิมุตติที่บริสุทธิ์จริงอย่ากังวลในภายภาคหน้า อย่าเหมือนกับคนที่ขี้เกียจกวาดใบไม้กะเขย่าต้นไม้ให้ใบไม้เก่าล่วงมาให้หมดเพื่อกวาดให้หมดในวันเดียว จะเป็นไปได้อย่างไรเพราะพรุ่งนี้ก็จะมีใบมีที่สุกกรอบรอล่วงมาให้กวาดอีกเหมือนกับผู้ที่คาดหวังในอนาคตในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงให้เธออยู่กับปัจจุบัน อดีตก็ไม่ต้องยึดติดเพราะผ่านมาแล้วทั้งสิ้น อนาคตก็ยังมาไม่ถึงอย่าไปเร่งรัด ทำปัจจุบันของเธอให้ดี สร้างบารมีให้เต็มเพื่อที่จะชนะภัยพาลเข้าสู่พระนิพพานได้ 
    พระวิมุตติเป็นของเธอทุก ๆ คนหากเธออยากใกล้ชิดพระพุทธเจ้าจงจำไว้ให้พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในใจ และร่างกายนี้เป็นวัดวาอารามเธอก็จะหาความสงบได้แม้อยู่ในที่เสียงดังเพียงใดเธอก็จะชนะได้ แต่อยู่ที่ว่าเธอทำได้หรือไม่ มิใช่ว่าจะอยู่ในวัด ในป่า ในดงแล้วจะสงบ หากจิตใจเธอไม่มีพระพุทธเจ้าไม่มีการตัดอารมณ์ฟุ้งซ่านเธอก็จะไม่มีทางพบความสงบได้เลยแต่ถ้าจิตใจเธอมีพระพุทธเจ้า ร่างกายเป็นวัดวาอารามก็เท่ากับว่าเธออยู่ที่วัดและสามารถปฏิบัติได้ทั้งวันทั้งคืน
    การปฏิบัติอย่าให้มีวันเวลา แต่จงปฏิบัติลืมวันลืมคืน นั้นคือ มีความเพียรอยู่เสมอไม่คิดไปในเรื่องอื่น ทำในเรื่องของตนเองให้ดีที่สุด ไม่สอดส่ายไปในเรื่องอื่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง รักษาอารมณ์ของเราให้ดีแล้วเธอทุกคนก็จะพบกับสันติสุขแห่งรสพระธรรม และสามารถรู้จักพระนิพพานที่ถูกต้องไม่ใช่นิพพานปลอมแต่ปากปากบอกรู้จักนิพพานแต่ตัวไม่สามารถสัมผัสนิพพานได้ คนที่รู้จักนิพพานจริง คือผู้ที่สัมผัสได้ ผู้ที่สัมผัสได้ คือ มีความสงบ มีความเย็น ใบหน้ายิ้มแย้มและผ่องใสการที่พระพุทธเจ้าสอน ให้มีจิตที่ผ่องใสตลอดเวลาไม่ทำความชั่ว ประพฤติตนอยู่แต่ในความดี ละวางทุกอย่างได้นี่แหล่ะคือผู้ที่รู้จักนิพพานจริง
    ผู้ที่ยังมีอารมณ์โกรธ อารมณ์หลงในร่างกายของตัวเอง หลงในข้าวของ หลงในคำพูดคำจาหลงในทรัพย์สมบัติ บริวาร เช่นนี้ ผู้นั้นไม่รู้จักนิพพานรู้จักแต่ปากก็จะไม่ถึงนิพพาน แต่ผู้ที่ถึงนิพพานนั้น จะถึงหรือไม่ถึงก็ไม่ต้องให้พระที่ไหนทำนาย ไม่ต้องให้ใครชี้ ดูที่ตัวของเราเอง ถ้าเราสงบมีรอยยิ้ม เรามีจิตที่ผ่องใส ไม่คิดที่จะทำชั่ว คิดที่จะทำแต่ความดี มีความละอายประพฤติดำเนินแต่ในทางที่ดีอย่างนี้เธอถึงนิพพานโดยที่ไม่ต้องให้ใครมานั่งบอกว่าเธอถึงหรือเธอไม่ถึง คนที่รู้มีแค่เธอเท่านั้น พระอรหันต์องค์ใดหรือพระองค์ใดท่านก็ไม่พูดว่าใครถึงไหน รู้กันที่ตัวเอง วัดกันที่ตัวเอง
    เพราะฉะนั้นวันนี้อาตมาก็ขอฝากสั้นๆ  ไม่มีอะไรมาก มาเยี่ยมเยียนกันและต้องการให้โอวาทสั้นๆกับทุกๆคน เพื่อที่เธอจะได้ปฏิบัติที่ปฏิบัติกันนั้นก็ดีอยู่แล้วให้ปฏิบัติกันให้มากยิ่งๆขึ้นไป ไม่ว่าเธอจะเดินจงกรม สวดมนต์ หรือจะภาวนาหรือทำกรรมฐานก็ให้จำไว้ว่า จิตใจของเธอนั้นเป็นที่ประทับนั่งของพระพุทธเจ้าร่างกายของเธอนั้น คือ วัดวาอารามเพราะฉะนั้นการเข้าวัดก็จะต้องมีความสงบเรียบร้อย ให้เกียรติพระพุทธเจ้าก็ให้เธอรักษาความสงบเรียบร้อยนี้ ให้เกียรติพระพุทธเจ้าเช่นนี้การที่เธอจะผิดในกรรมบถทั้ง 10 นั้นก็ยากศีลของเธอก็จะบริสุทธิ์ได้ เพราะเธอมีความระมัดระวังไม่ประมาททำอะไรก็ให้เกียรติพระพุทธเจ้า เพราะนึกถึงว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ตรงนี้รู้เห็นทรงสัพพัญญู รู้เท่าทันทุกอย่าง
     เพราะฉะนั้นหากเธอทุกๆคนได้ทำอะไรที่เป็นความผิด เช่น มุสาก็ดีมีอารมณ์หลงก็ดี มีอารมณ์ตัณหาก็ดีและไม่ตัดออกก็เท่ากับว่าเธอได้เหยียบย่ำพระพุทธเจ้า ได้ผ่านข้ามท่านไปไม่มองถึงพระธรรมซึ่งเป็นตัวแทนของพระองค์ ดังนั้น จงระวังคำพูดการแสดงอาการต่างๆ อาการโลภ อาการหลง อาการโกรธ ก็ให้ระมัดระวังว่าบัดนี้พระพุทธเจ้าอยู่กับเราให้อายท่านบ้างแต่ถ้าเธอมีสติ เธอก็จะไม่มองผ่านข้ามท่านไป อาตมาสอนอย่างนี้แล้วก็เชื่อว่าเธอทุกๆคนจะมีความเข้าใจ รู้คิดเป็น ฉลาดไม่ต้องมานั่งอธิบายอะไรกันให้มากมาย ให้มันถึงแก่นธรรมะนี้ให้สำหรับผู้ที่มีปํญญาที่จะเข้าใจธรรม
       เห็นแก่เวลาอันควรพอเหมาะที่เธอได้มานั่งฟังธรรม และก็ดีใจที่ได้มาพบกันขอให้ทุกคนจงมีกำลังใจว่าอาตมาและพระท่านรับรู้ถึงการนึกถึงพระของพวกเธอทุกคนอยู่เสมออยู่และขอให้กำลังใจทุกคนที่ปฏิบัติดีอยู่แล้ว ให้ปฏิบัติขยันต่อไป ให้สำเร็จ มรรค ผลนิพพาน ตามที่ตั้งใจ
   เธอจงจำไว้ว่าถึงนิพพานหรือไม่ถึงนิพพานอยู่ที่ตัวของเธอเองขณะนี้ ความตายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอย่าประมาทถึงหรือไม่ถึงสังเกตดูอารมณ์ของตัวเอง อย่าไปยุ่งเรื่องของเพื่อนว่าเขาจะถึงหรือไม่ถึงอย่ามัวตัดสินดูตัวเราเองว่าถึงไม่ถึง เฉกเช่นนี้จะปลอดภัย คราดสักนิดอาจจะตกจากนิพพานได้
       ดังนั้นหากเธอยังไม่สำเร็จวิมุตติธรรมเพียงใดเหมือนดังที่พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ท่านสำเร็จ ก็จะถึงนิพพานไม่ได้ จำไว้หน้าที่ของเราไม่ต้องตัดสิน ข่าวอะไรๆก็ตาม ไม่ต้องไปยุ่งไปตัดสินทั้งนั้นสนใจอยู่ที่ตัวเรา ข่าวการเมือง ข่าวการก่อการร้าย ก็ไม่ต้องไปสนใจ สนใจที่ตัวเราเพราะไม่รู้ว่าจะตายขณะนี้หรือตอนไหนก็ให้รู้อยู่ที่ตัวเราเสมอ ธรรมะก็จะคุ้มครองทุกคนให้หลุดพ้นได้ใครจะทำอะไรก็ให้เขาทำไป เขาจะปฏิบัติชอบหรือไม่ชอบไม่ต้องตัดสินดูตัวเองพอ นี่คือหน้าที่ของเรา และคิดไว้เสมอว่านี่คือชาติสุดท้ายเรื่องการช่วยเหลือผู้อื่นถ้าใครรับได้ก็สอนเขาเต็มที่ใครรับไม่ได้ก็ปล่อยเขาไป จำไว้ว่าธรรมะจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์ดูตัวของเธอเอง สงบจิตให้ดีมีความเพียรอยู่เสมอหมั่นที่จะทรงสติและภาวนาอาตมาขออ้างคุณพระศรีรัตนตรัย อันมีคุณพระพุทธเจ้า อันมีคุณธรรมเจ้าอันมีคุณสงฆ์เจ้า ที่จะอวยพรให้พวกเธอลูกหลานพระมหาวีระ ถาวโรและสมเด็จพระโพธิสัตว์กวนอิม ให้บารมีของท่านอวยพร อวยชัย ให้เธอทุกๆท่าน คิดดีคิดชอบ อวดดี อวดเก่ง ให้กับพระพุทธเจ้า อย่าอวดให้กับมารซาตาน อีกต่อไปเมื่อรู้ทางปฏิบัติแล้วให้เธอเริ่มสร้างความดี ขอเธอทุกคนจงสำเร็จ มรรค ผล นิพพานตามที่ตั้งใจ
เจริญพรเอวังฯ
พระขีณาสพ วันเสาร์ที่ 30/04/54
 

 
ผู้ตั้งกระทู้ อ.จิตทิพย์ นิพพาน :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-05 21:54:41 IP : 49.48.246.115


ผู้ตั้งกระทู้ นายคมกริช นามมงคุณ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-06 00:38:59


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1544153)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-06 22:06:40


ความคิดเห็นที่ 2 (1544157)

ท่าทางน้องเบลล์จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของอาจารย์จิตทิพย์ หรือน้องสา นะครับ ขอโมทนาบุญด้วยนะครับ น้องสา หรืออาจารย์จิตทิพย์เป็นผู้ที่มีจิตใจประเสริฐมากครับ รักษาศีลเคร่งครัด ทุกๆคนที่บ้านน้องสานั้นเป็นผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้นกันทุกๆคน ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ของอาจารย์จิตทิพย์นั้นพระเบื้องบนพระนิพพานจึงมาสื่อผ่านร่างสอนธรรมะให้ผู้คนระแวกนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้ไกลได้รับพระธรรมอันบริสุทธิ์ ผมได้สัมผัสผู้คนเหล่านั้น เขาต่างคนต่างเล่าประสบการณ์ทางธรรมอันวิเศษที่เปลี่ยนชีวิตเขาอย่างมากมาย รอยยิ้มของทุกๆคนที่ได้มาปฏิบัติธรรมที่บ้านอาจารย์จิตทิพย์นั้นมีค่ามากมาย เพราะทุกคนตั้งใจมั่นสู่พระนิพพานกัน ก่อนกลับครอบครัวอาจารย์จิตทิพย์ยังเมตตาได้มอบหนังสือธรรมะจากเบื้องบนพระนิพพานที่สื่อผ่านมา  รู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของทุกๆท่านเสมอมา ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์จิตทิพย์/ครอบครัว และน้องเบลล์นะครับที่นำธรรมะดีๆมาเผยแพร่ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-06 22:19:55


ความคิดเห็นที่ 3 (1544159)

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตฤณ (voravee_pat-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-06 22:23:33


ความคิดเห็นที่ 4 (1544681)

 

 

                                             อ่านแล้วซาบซึ้ง เข้าใจอย่างชัดแจ้ง ไม่ลังเลสงสัยในคำสอน

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐธิญาณ์ อนุรักษ์ (phupang-at-tdim-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-10 10:15:37


ความคิดเห็นที่ 5 (1544871)

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

จะตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น NOI (noi-92012-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-11 10:05:12



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.