 |
|
 | |
กุศลกรรม และอกุศลกรรม ต้องคัดกรองจัดสรร กรรมที่กระทำผิดศีล ทั้งห้าข้อ ที่สำเร็จด้วย กาย วาจา ใจ ที่คิดวันนั้นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทำไปทำมา ทำแล้วทำอีกจนเคยชิน กลายเป็นนิสัยและสันดาน ทั้งปิดทั้งบังไว้ ทั้งกล้ากลัวคนเห็นคนรู้ ต้องซ่อนอำพรางไว้ บังไม่อยู่ปิดไม่มิด อ.อุบล บอกว่า “กรรมไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์และนขัตฤกษ์ กรรมไม่เคยลืม เก็บสะสมไว้ดอกเบี้ยอาน” รอวันที่กรรมรวมตัวเบ่งบานแล้วให้ผล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยทำร้ายเรา วิบากกรรมต่างหาก ที่รอจังหวะกำลังบุญเราอ่อนลง กฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด เป็นผลต้องประสบเคราะห์กรรม โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า การงานการเงิน ย่ำแย่ ธุรกิจย่อยยับ ความรักไม่สมหวัง หย่าร้าง บริวารกระด้างกระเดื่อง เป็นวิบากกรรม ทั้งนั้น
ผู้ปรารถนาความสุข ควรใส่ใจกับการดำเนินชีวิตให้มีสุขต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การละทิฎฐิมานะ ลดความมีอัตตาตัวตน สำนึกในกรรมที่ทำ กรรมใหม่ต้องไม่สร้างเพิ่ม ขอขมากรรมไม่ต้องรอการอโหสิกรรม หมั่นสร้างบารมี 10 สร้างบุญ อุทิศกุศล ไม่กลับเข้าสู่วังวนเดิม ยกระดับจิตไปสู่หนทางพระนิพพาน ให้อภัยทาน และ สร้างธรรมทาน ขอเชิญท่านมาบอกเล่าประสบการณ์ อยากให้ธรรมเป็นทาน และผู้อ่านได้รับทานเป็นธรรม ... เพื่อหยุดยั้งการประกอบกรรมชั่วทั้งปวง...
... ประกอบกรรมดี...
... มีร่างกายเข้มแข็งชำระจิตให้เบิกบานผ่องแผ้ว... สาธุ | |
ผู้ตั้งกระทู้ เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล)   :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-24 03:09:51 |
| [1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1620989) | |
อนุโมทนากับพี่อมรด้วยค่ะ ที่มาเปิดช่องทางและอำนวยความสะดวก ให้พวกเราได้เข้ามาเขียน ธรรมะ เพื่อเป็น ทาน แก่ผู้อ่าน สาธุ สาธุ ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA วันที่ตอบ 2012-07-24 04:44:37 | |
ความคิดเห็นที่ 2 (1620996) | |
อนุโมทนากับพี่อมรด้วยนะคะ ธรรมทานเป็นบุญที่ใหญ่มากๆ ที่ท่านอ.แม่ เน้นให้พวกเราสร้างบ่อยๆ เพราะทำง่าย ไม่ต้องใช้แรง แถมได้บุญเยอะด้วย และยังได้ช่วยผู้อื่นอีกด้วย
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี วันที่ตอบ 2012-07-24 07:09:39 | |
ความคิดเห็นที่ 3 (1621010) | | ||||
สาธุ....ค่ะสำหรับธรรมทาน โอ้โห...พี่ชายเรา มา แลร็ง.ง.ง.ง. บุญ..ธรรมทาน ที่ อ.อุบล สั่งสอน และบอกเตือนให้พวกเราทำ อย่างทิ้ง..บุญ โดยที่ท่านได้ปฏิบัติ เป็นตัวอย่างโดยมอบ ธรรมทาน ให้พวกเรา..อ่าน ตลอดเวลา..แต่ จะซึมซับ เก็บเกี่ยวกันได้แค่ไหน ก้อ ตัวใคร ตัวมัน จริง ๆ ค่า | |||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) วันที่ตอบ 2012-07-24 09:13:24 | |||||
:: วันที่ลงประกาศ 2012-07-24 03:09:51ความคิดเห็นที่ 4 (1621040) | |
"ผู้ปรารถนาความสุข ควรใส่ใจกับการดำเนินชีวิตให้มีสุขต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การละทิฎฐิมานะ ลดความมีอัตตาตัวตน สำนึกในกรรมที่ทำ กรรมใหม่ต้องไม่สร้างเพิ่ม ขอขมากรรมไม่ต้องรอการอโหสิกรรม หมั่นสร้างบารมี 10 สร้างบุญ อุทิศกุศล ไม่กลับเข้าสู่วังวนเดิม ยกระดับจิตไปสู่หนทางพระนิพพาน ให้อภัยทาน และ สร้างธรรมทาน" อนุโมทนากับพี่อมร ด้วยนะครับ การให้ธรรมทานเป็นบุญใหญ่ที่ไม่ต้องใช้กำลังกายมาก แต่ ใข้กำลังใจสูง เป็นการละอัตตา สังฆทาน วิหารทาน อย่างมากก็ใช้แค่ปัจจัย แรงกาย สิ่งของ สละความโลภ ในทรัพย์สมบัติ แม้ว่าบางทีเราจะหามาอย่างยากลำบาก แต่้้เราก็ยังยินดี สละมันเพื่อคนอื่น เพื่อส่วนรวม ส่วนธรรมทานเล่าเรื่องของตัวเองที่ทำบาป และผลของบาปเป็นการทำเพื่อคนอื่น เป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่น เพื่อไม่ให้เขาต้องเป็นอย่างเราเป็นการยุติการประกอบกรรม เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น ที่ต้นเหตุ อย่างแท้จริง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) วันที่ตอบ 2012-07-24 11:58:52 | |
ความคิดเห็นที่ 5 (1621105) | |
คุณอมรคะ
อ.อุบล ขอแสดงความเห็น นิดหน่อยนะคะ ว่า การเปิดกระทู้ใหม่เยอะแยะเนี่ย
พอนานไป ข้อความ+กระทู้ของเรา ก็จะตกไป ถ้ากระทู้เรา ไม่ ฮ๊อต จริงๆ
ทำให้ธรรมทานของเรา ไม่มีความเคลื่อนไหว ไม่มีคนอ่าน
เพราะบุญธรรมทาน เกิดจาการที่มึคนมาอ่าน มากๆ
ดังนั้น เมื่อเขียนธรรมทานแล้ว ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอ่าน บุญธรรมทาน ก็ไม่เกิด
เหมือนเรา ไปขายของ อยู่ในหุบเขา ซึ่งไม่มีลูกค้า หรือ ผู้คน สัญจรเข้าไปเลย เราจะขายได้อย่างไร
ดังนั้น ทุกคน น่าจะไปเขียนธรรมทาน ในกระทู้ที่ ฮ๊อต ไม่ตกอันดับ จะได้บุญแรง มีความเคลื่อนไหว อยู่ตลอด
มีคนอ่านตลอด บุญก็จะเดินตลอด
อันนี้ ลองพิจารณาดูนะคะ จะทำตามหรือไม่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะ เห็นว่า อุส่าห์เหนื่อยเขียน แต่ อานิสงส์ของบุญเกิดน้อยนิด หรือ แทบไม่เกิดเลย และนานวัน บุญไม่เกิดเลย แทนที่ ยิ่งนาน ดอกเบี้ยบุญยิ่งเพิ่ม จากการที่มีคนอ่านมากขึ้น
วัตถุประสงค์ ของธรรมทาน ที่พระพุทธเจ้า ให้เราเร่งทำคือ
เมื่อคนรู้เรื่องของเราแล้ว จะหยุดยั้งการประกอบกรรม หรือ เมื่อประกอบกรรมแล้ว มีทางออก
โดยมีตัวเรา เป็นผู้ทำให้เขา ได้หยุดกรรมนี้ โดยนำเรื่องราวของเรา ให้เขาได้อ่าน
แต่ถ้าเราเขียนแบบแก้บน ไม่ต้องการให้ใครอ่าน ไม่อยากให้ใครรู้
อันนี้ ท่านไม่เรียกว่า ธรรมทาน ค่ะ แต่กลับเป็น กรรมทาน ค่ะ
แล้วธรรทาน ต้องเร่ง และ รีบทำ ให้หนีบาป ที่ทำทุกวัน ให้ทัน
วันหนึ่ง ทำบาปตั้งมากมาย แต่มาเขียนธรรมทานนิดหน่อย จะเอาไปหักล้าง ลบล้าง กันได้อย่างไร
ไหนจะกรรมเก่า ที่ยังไม่ได้รับการชำระอีกตะหาก
แล้วเขียนธรรมทาน ไม่ต้องร่างลงกระดาษก่อนหรอกค่ะ
เขียนเลย ในเวปนี่แหละ
พระพุทธเจ้าท่านก็ บอกนัก บอกหนาว่า
ทำความดี ให้ทำทันที ทำแบบง่ายๆ สม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และมากขึ้น
เราลองถามตัวเราเองซิว่า เราทำแบบนั้นไหม
หรือว่าเรา ลีลาเยอะ ท่า เยอะมาก ในการทำความดี
แล้วภาษาที่ใช้ ไม่ต้องดัด ให้สูงส่งหรอก มันขัดกับ ชีวิตจริง ขัดกับธรรมชาติ
แต่อย่าใช้คำหยาบคายก็พอ
เพราะจะไปขุม 4 แทน แทนที่จะได้บุญธรรมทาน
เอาเป็นภาษาบ้านๆ ที่เราใช้กันจริงๆ
เวลาเราเห็นคุณโชค หรือใครออกมาใช้ภาษาหรู มันดูน่ารำคาญไหมล่ะ
อย่าโฆษิตเงี๊ยะ ร่ายยาว มีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ น่าเบื่อที่สุด
คนอ่านก็รู้สึกเหมือนกัน มันไม่ได้ดูว่าเราความรู้สูงหรอก แต่มันน่าเบื่อ น่ารำคาญมากกว่า
มันดูไม่จริงใจ แล้วก็ไม่รู้ว่า จริงๆแล้ว ต้องการสื่ออะไร มันกำกวม วนเวียน เวียนหัว เน๊าะ
เอาเป็นว่า ใช้ภาษาะธรรมดา เขียนทันที ไม่ต้องมีร่าง
ให้มันออกจากใจ ไม่ใช่ออกจากกระดาษ
ขอฝากทุกคนด้วยนะจ๊ะ อยากให้ได้บุญเยอะๆ ไม่ใช่ เหนื่อยเกือบตาย ไม่ได้อะไรเลย
จน ก็จน เหมือนเดิม
เขียนธรรมทานมาตั้งนาน ไหนว่า อานิสงส์แรง
คราวนี้ จะได้รู้ จะได้เข้าใจ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ วันที่ตอบ 2012-07-24 17:33:24 | |
ความคิดเห็นที่ 6 (1621116) | |
กราบขอโทษและ กราบขอบพระคุณอย่างสูง
ครับอาจารย์ ที่ให้สติปัญญา ขอน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไขทันทีครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) วันที่ตอบ 2012-07-24 18:08:07 | |
ความคิดเห็นที่ 7 (1623005) | |
ณัชชาขออนุโมทนาบุญกับคุณอมร ที่สร้างกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อย้ำเตือน ให้กับทุกคน เร่งทำบุญด้วยธรรมทาน เพื่อหยุดยั้งการกระทำที่ชั่วทั้งปวง สาธุ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้้ว (nutchacha28-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2012-08-08 01:44:00 | |
| [1] |
| Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
| Visitors : 1449727 |
 |