ภัยพิบัติที่จะเกิดกับภาคใต้ ปี54

        ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัด น้ำท่วมสูง
ศาลกรมหลวงชุมพรจะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์
          จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไป
เนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่ง
ที่กลบกลื่นหมู่เกาะให้หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว
          เกาะสมุย จะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
เนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและ
เกิดพายุรวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเกาะทั้งเกาะจมหายลงไปในท้องทะเลอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
          อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคลื่นยักษ์ซัดหาย
         ภูเก็ต ถูกพายุถล่มอย่างบ้าคลั่งจะกระทั่งเกาะทั้งเกาะหายไปจากแผนที่โลก
มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 40,000 – 60,000 คน
         กระบี่จะถูกพายุพัดกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออกจะหายไป
ชาวประมง ประมาณ 180 คนจะถูกกลืนหายไปในท้องทะเล   
         นครศรีธรรมราชน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน
พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืนจมหายลงไปในท้องทะเล
         เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูงและพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำ
เกาะหายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ
        จังหวัดสงขลาน้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะจมหาย
จะเหลือเพียงหาดใหญ่บางส่วนที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร
        เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน
รวมทั้งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าใส่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งไม่มีนราธิวาส หลงเหลืออยู่ในแผนที่โลก
         ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง แผ่นดินหาย
เหลือเพียงเกาะเล็กๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า“เกาะยะลา”     
         ปัตตานี ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั้งจังหวัด
แต่ วัดช้างไห้ ของหลวงปู่ทวด จะปลอดภัย
รูปปั้นหลวงปู่ทวดจะแสดงปาฎิหารย์ ลอยน้ำขวางกระแสน้ำเชี่ยว
น้ำจะแห้ง วัดช้างไห้จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

ภัยพิบัติที่จะเกิดกับภาคเหนือ   ปี54
             
         เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะพังหลาย กระแสน้ำที่เชี่ยวกราดจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันที่ประมาณ 200 คนเกิดภูเขาไฟระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาถที่จังหวัดอุตรดิตถ์

ภัยพิบัติที่จะเกิดกับภาคตะวันตก

         กาญจนบุรี เขื่อนศรีนครินทร์จะมีปัญหาน้ำไหลอ้อมเขื่อนท่วมด้านล่างเสียหายบางส่วนรวมทั้งน้ำท่วมสูงแผ่นดินหายถาวรครึ่งจังหวัด
 
          ทุกจังหวัดในประเทศไทยต่างก็ได้รับความบอบช้ำด้วยกันทั้งสิ้นจะมากน้อยต่าง กันไป บริเวณใดที่มีผู้คนมีศีลธรรมอาศัยอยู่อาจได้รับการปกป้อง บรรเทาภัยพิบัติให้เบาบางลงไปได้บ้าง
          ข้อมูลทุกอย่างที่กล่าวมานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้แต่ระดับความรุนแรงจะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
       ดัง เช่นภูเขาไฟที่กล่าวว่าจะเกิดในสถานที่หลายแห่งนั้นอาจเกิดระเบิดกึกก้อง กัมปนาถรวมกันในสถานที่แห่งเดียวแต่จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติกล่าวคือ  อาจมีลาวาจะพุ่งสู่ท้องฟ้าสูงเป็นพิเศษถึง 6 กิโลเมตร เป็นต้น

เมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่ม เป็นกุศล เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามาก ขึ้น เพราะกลัวตาย... สำหรับท่านนักปฏิบัติที่เจริญสมาธิจิตก็จะเร่งรัดตัวเองกำลังใจก็จะมี สมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิดก็จะใช้ผลของอภิญญาและ ญาณต่างๆที่ได้จากสมาธิและวิปัสสนาญาณเอามาช่วยบรรดาพุทธบริษัท ทั้งหลาย ให้มความสุขปลอดภัยขอให้ทุกท่านยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้าที่ให้ไว้ คือ

1.สังคหวัตถุ 4ได้แก่
         1.1 ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สร้างความ รักเข้าไว้ อย่างสร้างศัตรู
         1.2 ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุขเขาจะรักเรา เราก็ มีความสุข
         1.3 อัตถจริยา ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน
         1.4 สมานัตตตา ไม่ถือตัวไม่ถือตน

2.พรหมวิหาร 4 ได้แก่
         2.1 เมตตา ความรัก
         2.2 กรุณา ความสงสาร
         2.3 มุทิตา มีจิตอ่อนโยน เห็นใคร ได้ก็ยินดีด้วย
         2.4 อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่ดิ้นรนยอมรับตาม ความเป็นจริง

        จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงในคุณพระ รัตรตรับ 3 ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาอย่างยิ่ง ให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า ‘‘ พุทธโธ ’’ ก่อนจะหลับให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกว่า ‘‘ พุทธ ’’ หายใจออกนึกว่า ‘‘ โธ ’’ และเวลาตื่นนอนใหม่ๆทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไหร่ก็ทำใจให่นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า ‘‘ พุทโธ ’’ เป็นปกติอย่างนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงไตร
         สรณคมน์ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการ จิตของท่าน จะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้าจะทำจิตใจของท่านให้เยือกเย็นมี ความสุข อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลายก็จะพ้นภัยด้วย อำนาจของ พุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ ถ้าจิตของเราไม่นิยมในขันธ์ 5 หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จิตเราเกาะองค์พระสัมมาพุทธเจ้าว่า พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น ท่านจะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพาน ได้...

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(3จบ)

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ......ข้าพเจ้าขอถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งระลึก
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ .....ข้าพเจ้าขอถือพระธรรมเป็นที่พึ่งระลึก
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ….ข้าพเจ้าขอถือพระสงฆ์เป็นที่พึ่งระลึก
.         
         พ.ศ. 2550 ถึง 2555 ปีนี้คือปีนาค (มังกรหรืองูใหญ่)  "หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่านาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

คำทำนายเมื่อผ่านเข้าสู้ยุค ศิวิไลจะจริงตามทำนาย ดูได้ที่ธรรมชาติ

มีคำทำนาย อินทร์ตก อินตื่น ที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตอีกมากมายในจักรวาล ไว้ว่าดังนี้

         มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้ จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงามและมีอายุขัย ที่ยาวจนหน้าประหลาดใจ
มีอารบธรรมเจริญก้าวหน้า โดยที่ไม่ได้สร้างเทคโนโลยีที่ก่อปัญหาให้กับโลกมากมาย เช่นปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังสามารถ ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้
ซึ่งแม้ปัจจุบันบางคนก็ไม่เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม
        ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลกและเป็น
ประเทศแรกที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาล ได้เป็นแห่งเดียวของโลก
โดยใช้พลังจิต (อภิญญาญาณ+เทคโนโลยี) ในการขับเคลื่อนโดยไม่ใช้เชื้อเพลงในการเผาไหม้ให้เกิด
พลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติของโลกให้เสียหาย เหมือนอย่างเช่นปัจจุบัน
        นอกจากนี้ต่อมไพนิลหรือตาที่ 3 ของมนุษย์ จะถูกฟื้นฟูขึ้นมา (ตรงกับ crop circle)
ให้มี ประสิทธิภพมากยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้น (ละกิเลสได้โดยอัตโนมัติ คือ ใจไม่ติดใดๆ)
กว่าในอดีตในระยะเวลาไม่นานนัก (ภายใน6ปี )

               ขอให้ผู้ที่มีโอกาศได้รับรู้คำทำนายนี้แล้วขอให้รักษาศีล 5 ให้มั่นคง ทำนุบำรุงพระศาสนาซึ้งเป็นงานอันแท้จริงของความเป็นมนุษย์ และ เตรียมพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ปัจจัย4เป็นพื้นฐานยามเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงดังคำทำนาย
ช. วิไลซ์

 ข้อมูลเกี่ยวกับ พีระมิด ของชาวมายัน เป็นข้อมูลคนในยุคอดีต ส่งถึงคนในยุคปัจจุบัน
พีระมิดมายัน
         พีระมิดของชาวมายามีความสูงกว่า 150 ฟุต บนยอดพีระมิดจะแบนราบแตกต่างไปจากของอียิปต์ที่ปลายแหลม ประกอบด้วยบันไดทางขึ้น 4 ด้าน บันไดด้านละ 91 ขั้น รวมกับยกพื้นที่ฐานของพีระมิดอีกนับรวมเป็นได้ 365 ครบหนึ่งปี ถือเป็นปฏิทินถาวรอย่างหนึ่งของชาวมายา หนึ่งปีของชาวมายามี 13 เดือน และฤดูกาลอีก 4 ฤดู
         ช่วงนี้เรากำลังไต่อยู่บนบันได(อาจเรียกว่าคลื่นหรือวงรอบ)ขั้นที่ 9 ของบันได 9 ขั้นแห่งการเปลี่ยนแปลง(ปรากฎเป็นพิรามิด 9 ขั้นแห่งมายัน) นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นแห่งสรรพสิ่งและจักรวาล ซึ่งบันไดขั้นนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ตุลาคม 2011 ให้พวกเราเตรียมตัวกันให้พร้อม เพราะพวกเรากำลังเข้าสู่ช่วงแยกวิกฤติของ Time wave Zero นั่นเอง แยกนี้จะมี 2 ทางเลือกขึ้นอยู่กับพวกเรา 1.พินาศหมดสิ้นซึ่งอารยธรรม และ 2.เลื่อนระดับสู่สากลจักรวาล ดังคำกล่าวของผู้มาเยือนแห่งโบราณกาลที่ได้กล่าวเอาไว้ว่า
"..We will either become the LIGHT... or BE The DARK...That is the future for us all..."
         
         นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมนี้ไปพวกเราทั้งหมดจะก้าวเข้าสู่บันไดขั้นที่ 9 พร้อมกัน จนกระทั่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ตุลาคม 2011นี้ และนับตั้งแต่วันนี้(28/10/11)ไปจนถึงธันวาคม 2012 คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงหรือ Great Revolution ถึงวันนั้น..เรามาจับตาดูความเปลี่ยนแปลงของพวกเราและโลกใบนี้ไปด้วยกันเถอะ
 

ขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดนี้จาก

http://ufokaokala.com/index.php?topic=2619.msg22125;topicseen

ปู่บอกว่าภัยพิบัติจะเกิดตามหนังสือพุทธทำนายไว้ จะแรงบ้างหรือเบาบ้างขึ้นอยู่กับว่าครูบาอาจารย์ได้ช่วยไว้หรือไม่ แต่ปลายปี 2555 ต่อเนื่องปี 2556 เหตุการณ์จะรุนแรงมาก ด้วยเหตุ 3 อย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ประการแรก บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ หาก..... ละสังขาร ประการสอง พายุจะถล่มเมืองไทย และที่อื่นๆ ประการสามน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในโลก หลายๆประเทศจะต้องเกิดเหมือนกัน จะรุนแรงไปเรื่อยๆ ผู้คนจะตายมากเป็นประวัติการณ์ ผู้คนจะเหลือแค่ 30% ของประชากรที่นั้นๆ

ปัจจุบันนี้ผู้คนไม่มีศีลธรรม ไม่ละอายแก่บาป เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กรรมของใครๆ แต่นี่คือวัฎรจักรของโลก บ้านเมืองเจริญขึ้น แต่จิตใจมนุษย์เจริญลง ยิ่งการสมสู่มนุษย์ต่อกันเดียวนี้ไม่มีเลือกผัวเลือกเมียหรือลูกหลาน นี่แหละกลียุคตามคำทำนายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธโคดม เหตุดังกล่าวจะเบาลงและสิ้นสุดปี 2560 ผู้คนที่รอดพ้นจากภัยพิภัยคือผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ในศีลธรรม กตัญญูต่อบิดามารดา ละอายแก่บาป จงเป็นผู้รู้ในกิเลส และผู้ตื่นจากกิเลส สุดท้ายก็ไกลจากกิเลส

ภัยพิบัติที่จะเกิด เมืองไทยจะมีการเตือนภัยล่วงหน้า จากในหลวงของเรา และท่านสมิทธ ธรรมสโรช (พูดแบบภาษาธรรม พระองค์ท่านในหลวงและคุณสมิทธมีสื่อจากผู้ดูแลมนุษย์ในโลกนี้ จะบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้คนเตรียมตัวหนีจากภัยที่จะเกิด) ส่วนเส้นทางหลบหนีปู่บอกว่าผู้คนจะหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ และรถจะติดมากผู้คนต่างแย่งกันโกลาหลน่าดู และสุดท้ายหางแถวจะหนีไม่รอดนั้นเอง สระบุรีตั้งที่องค์พระนั่งสูง ตรงนั้นแผ่นดินจะยุบตัวลง เพราะข้างล่างเป็นบ่อน้ำใต้บาดาล ส่วนถนนที่พอจะรอดก็คือ กบินทร์-นครราชสีมา,นครนายก หรือเส้นทางอื่นๆที่ไม่ใช่มิตรภาพ แต่ส่วนมากผู้คนจะเลือกเส้นทางมิตรภาพมากเพราะไปได้ทั้งเหนือและอีสาน ขอเตือนไม่จำเป็นจะต้องไปอีสานอย่างเดียวนะครับ ภาคเหนือก็ไปได้

(ปู่บอกแล้วเตือนแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุญของเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมส่วนมากจะรอด แม่บอกอย่างนี้) มนุษย์จากตัวใหญ่ลงมาถึงตัวเล็ก และกำลังเปลี่ยนแปลงจากเล็กไปหาใหญ่เรื่อยๆ สังเกตุจากลูกหลานจะเริ่มสูงใหญ่กว่าพ่อแม่แล้ว และค่อยเป็นค่อยเปลี่ยนไปตลอด

ปล.ลูกเมืองสกลฯ องค์ปู่อินทร์,ปู่ปิยะ และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ คือพ่อ

ที่มา

พระ ผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "หลวงปู่ประเสริฐ"

"หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้ง และลูกศิษย์ ก็เห็นมาหลายคน ใครเคยประสบด้วยตนเอง ช่วยมาโพสต์ในนี้ให้เพื่อนๆอ่านด้วยค่ะ (แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่อง อภิญญา ของหลวงปู่ เพราะมันเยอะ พิมพ์ไม่ไหว) แต่เมย์จะเล่าเรื่อง วาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ

เมย์ ไปพบท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง ไปกับกลุ่มของเพื่อนคุณพ่อค่ะ วันนั้นไปกันราว 10 คน พวกเรานั่งรถตู้ของเพื่อนคุณพ่อเมย์ นั่งรถตู้จากกรุงเทพ 8.00 น. กว่าจะถึง สำนักสงฆ์ของท่าน ก็เกือบเที่ยงอ่ะค่ะ เส้นทางวกวน เหมือนเขาวงกต เพราะสำนักสงฆ์อยู่บนเขาสูง (แถวนั้นเรียกว่า "ลำพญากลาง") สูงจากพื้นดินมากค่ะ เพราะทุกคนในรถตู้รู้สึก "หูอื้อ" ทุกคน พอไปถึงก็ยังไม่พบท่านหรอกค่ะ เพราะท่านอยู่ใน กุฏิ ด้านหลัง ซึ่งห้ามไม่ให้ใครเข้า สภาพของสำนักสงฆ์เรียบง่าย มีกุฏิ 2 หลัง, มีวิหารเล็กๆ 1 หลัง, มีโรงครัวเล็กๆ 1 หลัง, มีห้องน้ำราว 10 ห้อง ทั้งหมดมาจากเงินจากผู้บริจาค ของผู้ที่มากราบท่านทั้งสิ้น

เพราะ หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. 2502 มาตั้งแต่ที่นี่ยังเป็นป่าอยู่เลย ยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ป่าทั้งนั้น พอท่านอยู่ไปก็มี ผู้คนไปกราบไหว้ รวมคนที่ไปกราบท่านจนถึงปัจจุบันก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 คนค่ะ

แล้ว หลวงปู่ท่านก็เดินลงมา แล้วตรงมาที่กลุ่มของเมย์ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม (น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่ชั้นจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คน และคนอื่นๆ

ท่าน ก็เริ่มเทศนาว่า... แท้จริง ประเทศไทย และ ทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับความหายนะครั้งใหญ่ จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 แต่ที่มันไม่เกิด ก็เพราะว่า มีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษาโลกมนุษย์ ช่วยกัน อธิษฐานจิต ให้เหตุการผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริง มันได้แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆเหตุการณ์ภัยธรรมชาตใหญ่ิ และความหายนะครั้งใหญ่ ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

นับ แต่เวลาี้นี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถอธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไป ภัยธรรมชาติ และความหายนะครั้งใหญ่ จะค่อยๆปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูงท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมด และสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ

ทุกอย่าง จะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบ จะถูกภัยธรรมชาติใหญ่ คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมาก จะเสียสติไปเลย เพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้ละกันนะ คนจะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 % ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะเหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆเท่านั้นเอง

หลัง ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษย์ชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่ เรียกว่ายุคศิวิไลซ์ เนื่องจากคนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30 %) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็น มหาอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติ ในการดำเนินชีวิตใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้น ผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ บำเพ็ญบุญ-กุศล

ท่าน ว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบๆทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆกันด้วยนะ ลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ชั้นก็มีเรื่องจะบอกเท่านี้แหละนะ เจริญพร.......ทุกคนก็กราบท่าน ด้วยความกลัว ใจหวิวๆ บอกไม่ถูกค่ะ

ตอน จะกลับ เมย์ว่าจะถ่ายรูปของหลวงปู่ มาให้เพื่อนๆใน "เว็บพลังจิต" ดูซะหน่อย แต่ทางสำนักสงฆ์ ติดป้ายไว้ว่่า "ห้ามถ่ายรูป" อ่ะค่ะ ...เอาไว้เพื่อนๆลองไปกราบหลวงปู่ท่านเองละกันนะคะ เมย์บอกที่อยู่ให้แล้วอ่ะค่ะ

เมย์ขอปิดท้ายค่ะ ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า พุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นอยู่ที่ ในวันภัยพิบัติ คนที่จะรอดชีวิต ต้องมีศีลมีธรรมจริงๆเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะรอดค่ะ

ที่มา

ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลทั้งหมดค่ะ

จะตั้งใจและพยายามทำความดีให้ได้มากที่สุด

จะพยายามเตือนตัวเองบ่อยที่สุดว่าไม่มีเวลาอีกแล้ว

ขอบคุณ

และ

อนุโมทนา กับ ธรรมทาน

เตือนภัย อันยิ่งใหญ่ และ ล้ำค่า

ของคุณชนิดา

ที่นำมาเตือน มาบอก มาเรียกจิตสำนึก

ทั้งหมดนี้ คือ เรื่องเดียวกัน กับ ที่ อ.อุบล

รับรู้ รับสื่อสาร ทุกวี่ทุกวัน และ บอกแทบทุก

วี่ทุกวันเช่นกัน แต่ มีคุณชนิดามาช่วย

บอกตรง บอกหมด บอกชัดๆ อีกที

อีกแรง ขอบคุณ นะ น้องรัก (ที่แสนน่ารัก)

นี่คือ หน้าที่ของเจ้า ที่ต้องทำต่อไป

จากวันนี้เจ้าหยุดไม่ได้อีกแล้ว

เจ้าต้องช่วยพี่เจ้าแล้ว

ทูนหัว อย่ามัว

แต่กลัวนะ

คนดี

ว่าแต่ว่า

อักษร อ. น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญ

นี่มันยังไงกัน ช่วยขยายด้วยนะ

อย่ามาทำให้คนอ่านเดา

มั่วมาหา อ.อุบล

นะทูนหัว

มา

อธิบาย ซะ ดีๆ

คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก
เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย
เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง
น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
เป็นประชาจนเต็มพระนคร
ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร
องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส
แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
จะมีการต่อตีกันกลางเมือง
ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประนาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ
 มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน
พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถมทับนับเทเวศ
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ

ฝากคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ไว้เตือนสติเตือนใจญาติธรรมที่รักทุกท่านด้วยครับ

อ่านคำทำนาย

ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทีไร

น้ำตาจะไหล ซะ ทุกที ทำไมต้อง

.............ถึงเพียงนี้ เมื่อไหร่

นารี

จะออกมา

หรือว่า ยังไม่มีม้าขาว

พวกเราช่วยหากันหน่อย เร็ว

ทั้งนารี ทั้งม้าขาว อยู่ไหน

ทราบแล้วออกมา

ด่วน

 ขอบคุณ คุณพี่ชนิดาที่นำมาให้อ่านเป็นธรรมทานนะครับ

ผมไม่เคยอ่านเรื่องราวที่ละเอียดเหล่านี้ เพียงแต่รับฟังจากท่านอาจารย์อุบล มาหลายรอบแล้ว แต่พอได้อ่าน ก็อึ้งนิดหน่อยกับสิ่งที่ตรงกัน แล้วให้รู้สึก สลด สังเวชย์ ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ แต่ก็ไม่ควรที่จะมานั่งเป็นทุกข์กับมัน(เตือนตัวเอง)

รู้สึกเดียดายนิดๆ กับชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แต่คิดไม่ถึงว่าหน้าที่คืออะไร ความต้องการคืออะไร มัวแต่มุ่งหาสิ่งอันเป็นกิเลสมาใส่ตัว หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่ได้ช่วยให้ตัวเองหลุดพ้นจากกองทุกข์นี้ไปได้...แต่บางท่านก็สำนึกในทุกข์ที่ตัวเองเผชิญ จนกลับตัว และหันเข้าหาทางพ้นทุกข์ได้ทัน อันนี้ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

ส่วนใครที่จะมานั่งรอ "นารีขี่ม้าขาว" ก็คงไม่ไหวล่ะครับ รีบปรับเปลี่ยนตัวเองเสียแต่วันนี้ดีกว่านะครับ เพราะนารีและม้าขาวก็คงแบกพวกเราผู้มีกรรมและตาดำๆ ทั้งหมดก็คงไม่ไหวแน่ มาร่วมกันละวางทุกสิ่งในตัวตนให้มันเกิดความเบาให้มากที่สุด เผื่อจะได้เกาะแค่หางม้าขาวไม่ให้ท่านระคายเคืองก็น่าจะเพียงพอแล้ว...

ท่านอาจารย์อุบล ฝากบอกว่า "ทำจิตใจ ให้ร่าเริง อยู่เสมอนะจ้ะ" 

ถ้าจิตของเราไม่นิยมในขันธ์ 5 หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จิตเราเกาะองค์พระสัมมาพุทธเจ้าว่า พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น ท่านจะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพาน ได้...

เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น

รักษาศีล 5 ให้มั่นคง ทำนุบำรุงพระศาสนาซึ่งเป็นงานอันแท้จริงของความเป็นมนุษย์

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน  สาธุ  สาธุ  สาธุ

-ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ ของพี่ชนิดานะคะ

หลายๆ ข้อมูลตรงกันกับที่ท่านอ.อุบลเคยพูดมาตลอดค่ะ

แต่ที่ชัดเจน และจำได้ดีที่สุดก็คือ

ในยุคนั้น ผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย

แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ

บำเพ็ญบุญ-กุศล

อันนี้ท่านอ. เคยเขียนลงเว็บไซต์

บอกพวกเราหลายครั้งแล้วค่ะ

ลองสังเกตกันดูค่ะ

อนุโมทนาสาธุคะพี่ชนิดา

ขอบคุณสำหรับคำทำนาย

คงต้องรีบบอกท่านอื่น ๆ

ญาติพี่น้อง

ให้หันมารักษาศีล ทำความดี

เตรียมพร้อมกันมากขึ้น นับจากนี้เสียแล้ว

เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที

สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น

รักษาศีล 5 ให้มั่นคง ทำนุบำรุงพระศาสนาซึ่งเป็นงานอันแท้จริงของความเป็นมนุษย์

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงพร้อมทั้งขออนุโมทนา กับทุกๆๆธรรมทาน

ที่ทำให้ทุกวันมีค่ามากที่สุด

ขอบคุณสำหรับธรรมทาน

ของพี่ชนิดาเป็นอย่างมากเลยนะคะ

ขอยอมรับค่ะ...

ว่าอ่านแล้วก็เกิดอาการจิตใจเศร้าหมอง

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้า

ก็เคยได้อ่าน

ได้ทราบเหตุการณ์ทำนองนี้แล้วเช่นกัน

แต่เพราะเป็นลูกบ้านสวนฯ

และมีหน้าที่ต้องกู้

ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ที่สำคัญก้อย วินิตา สุทธิวรา

ได้มอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

จะพยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง

มั่นคง

ไม่หวั่นไหว

จิตใจเบิกบาน

พร้อมจะแผ่บุญกุศล

ส่งไปกับฉัพพรรณรังษีของพระพุทธองค์

ไปถึงผู้ประสบภัย และมนุษย์ทุกท่าน

เวลานี้จะเร่งสร้างแต่ความดี

รักษาศีลให้บริสุทธิ์

และจะเร่งเผยแพร่ธรรมทานต่าง ๆ

ทั้งจากที่ได้รับจากอาจารย์

และพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคนในบ้านสวนแห่งนี้

ลูกขอกราบพระบาทองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หลวงพ่อปาน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ท่านปู่ ท่านย่า

ท่านท้าวเวสสุวรรณ

พระอาจารย์รัตน์

ลุงพุฒิ

องค์เทพสฟิงซ์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์

และท่านอาจารย์อุบล

ที่เมตตาลูก ให้ลูกมีดวงตาเห็นธรรม

มีชีวิตที่มีแต่ความสุขมากยิ่งขึ้นค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ด้วยความเคารพครับ

ขอขอบพระคุณ คุณชนิดา มากๆ เลยครับ

ที่ได้นำมาลงมาให้อ่านกัน เป็นการเตือนสติอีกครั้งเมื่อได้อ่าน

ผมเคยไปอ่านที่นี่ครับจะคล้ายๆ กัน

http://www.mongkoldham.com/text/sanRMC_929.pdf

เรื่อง เจาะลึกภัยพิบัติ โดย 8 วิทยากร เมื่อ 19 ธ.ค. 2553(2011)

โดยเป็น บทความของท่าน อ.มงคล กริชติทายาวุธ ครับ 

ขออนุโมทนาบุญและขอบคุณสำหรับข้อมูลที่น้องชนิดานำมาเป็นธรรมทาน  เคยอ่านมาบ้างแล้วนิดหน่อยเป็นบางส่วนแต่ไม่ได้สนใจและรู้สึกเฉยๆ  (ความโง่และบาปกรรมยังเยอะ)  แต่ ณ วันนี้  เชื่อโดยไม่มีข้อแม้  อ่านแล้วจิตตกไปมากเหมือนกันคิดถึงคนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัว  พ่อแม่ และญาติพี่น้อง  แต่ก็พยายามทำใจให้เป็นอุเบกขา เหมือนที่อาจารย์แม่อุบลสอนไว้  ต่อไปจะตั้งใจอย่างสุดความสามารถและสุดชีวิต  ขอมอบกายถวายชีวิตต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์  ลูกจะขอสร้างแต่ความดี  ตลอดไป  สาธุ  สาธุ  สาธุ

ขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับพี่ชนิดาคะ

เป็นข้อมูลที่อยากทราบมานานแล้ว

ข้อมูลแบบตรง ๆ แบบไม่ต้องแปลแบบนี้คะ

และมาบอกได้ถูกเวลาด้วยคะ ช่วงที่ช่วยกระตุ้นได้

เพราะมีตัวอย่างวิกฤติให้เห็นจะ จะ ในเวลานี้

ทุกคนที่มีโอกาสได้รับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

และรู้จักท่านอ.อุบลและบ้านสวนพีระมิด

โชคดีมาก ๆ โชคดีที่ยังมีโอกาสได้เตรียมตัวเตรียมใจ

ขอบพระคุณมาก ๆ คะ ทุกท่าน

(ขออนุญาติเผยแพร่นะคะ ขอบคุณคะ)

ขอขอบพระคุณ คุณชนิดา  กับข้อมูลเตือนภัยที่มีประโยชน์  สำหรับเตรียมพร้อม เตรียมตัว เตรียมใจ คะสาธุ

แมว

ขออนุโมทนาบุญ กับธรรมทาน

" คำทำนายเรื่องภัยพิบัติปี 54 และ 55

ค่ะ คุณชนิดา

อ่านกี่ครั้ง ก็ ขนลุก ทุกครั้ง

อะแฮ่ม ... จากทีเคยได้อ่านและมีคำถามในใจมานาน

ได้มีโอกาสฟัง อ.อุบล กรุณา

ก็ได้คำตอบ ของสถานที่...ที่ข้องใจ...สาธุ

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล อย่างสูงค่ะ

ที่ได้มอบโอกาส ... และความรู้

****************************************************

ตั้งมั่น ยึดมั่น ปฏิบัติดี

ละอายต่อบาป ... รักษา ศิล 5

และที่สำคัญ อีกข้อที่อ.อุบล ย้ำนัก ย้ำหนา

ให้ละเว้นวงจร การฆ่าชีวิต ลดการอาฆาตรแค้น

โดย หันมาทาน มังสวิรัติ กันเถอะค่ะ

เช้าวันอาทิตย์

13 มี.ค.54

พระพุทธองค์

ทรงโปรดแต่เช้า

ให้เข้าไปเขียนเตือนในเวปไซด์

แล้วให้รีบออกไปบอกเตือนญาติธรรม

ที่มาใช้แรงกายสร้างพีระมิด

ว่าให้เร่งงานก่อสร้างพีระมิด 5 องค์ ข้างหน้า

ให้เสร็จก่อนสงกรานต์

ไม่ต้องเน้นความสวย แต่เน้นการใช้งาน

คือ

ให้ปิดไม้ มวลสาร ดิน ปูน ให้ถึงยอด ทุกองค์

เหมือนองค์ที่ทำองค์แรก ก็พอแล้ว แล้วก็เทพื้นให้พอใช้ได้

เพราะหลังสงกรานต์

ลูกหลานที่มีบุญวาสนา จะได้มาอาศัยหลบภัย

กัมมันตภาพรังษี ที่ล่องลอยมาตามลม

จะทำร้าย ทำลายชีวิต ผู้คน

ที่ไม่มีพระธรรม

เป็นที่พึ่ง

ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ

แล้วให้เร่งฝึกจิต ยกใจ เจริญพรหมวิหาร 4

เร่งเตรียมทำสิ่งที่จำเป็นที่สุดก่อน

แล้วให้รีบเร่งระดมคน

ผู้ใกล้จะหมด

กรรม

ให้มาขุดบ่อน้ำ

เพื่ออานิสงส์ใหญ่ คือ พ้นภัยจากน้ำ

พ้นภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ

ก่อนจะสายเกินกาล

ประมาณ

9 โมง จึงรีบไปบอก

พี่มหา คุณธนา และ ท่านที่กำลังสร้าง

พีระมิดอยู่ด้านหน้า ให้เปลี่ยนแผนการก่อสร้าง

แบ่งหน้าที่ กระจายงาน แล้ววันนี้

ทุกคนทำงานกันเป็นระบบ

กระจายกันทำทั่ว

หลายงาน

พร้อมกัน ขานรับพุทธบัญชา

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมี

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

ควบคุมดูแล ทุกอย่าง อย่างใกล้ชิด

ขอเชิญพี่มหา คุณธนา

และ

ผู้อยู่ในเหตุการณ์

เล่าต่อได้ตามอัธยาศัยค่ะ

ส่วนท่านที่มาขุดบ่อน้ำ

ก็โรคเรื้อรังที่เป็นมานาน หายอย่างอัศจรรย์

อนุโมทนา สาธุ กับท่านที่พ้นทุกข์ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานที่คุณชนิดานำมาให้อ่านค่ะ

ขอเชิญพี่มหา คุณธนา

และ

ผู้อยู่ในเหตุการณ์

เล่าต่อได้ตามอัธยาศัยค่ะ

***********************************************

ช่วยมาเล่า กันไว ไว หน่อย..เด้อ..ค่ะ

มัวแต่ ยักแย่ ยักยัน

อาย ฒ.ผู้เฒ่าเน้อ.....2 หนุ่ม Duo

*******************************************

ศิริขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญขออนุญาตเรียกพี่ชนิดานะค่ะที่หาข้อมูลทั้งหมดได้มาให้อ่านเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นข้อความเหล่านี้ตรงแบบไม่ต้องแปลเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆศิริขอขอบคุณพระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ท่านอ.อุบลที่ได้มีเมตตาให้ได้รับรู้เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว ศิริจะตั้งใจและตั้งจิตให้เกาะติดพระพุทธองค์และขออนุญาตจะทำการบอกต่อให้ทุกคนปฏิบัติสิ่งที่ดีและปฏิบัติธรรมเป็นการต่อไปค่ะ

ด้วยความเคารพค่ะ สาธุ  สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนาสำหรับธรรมทาน

เคยอ่านเจอบ้าง แต่ก็ยัง ไม่เจอที่ละเอียดแบบนี้

และขอบคุณคุณสุมิตรด้วยน่ะค่ะที่แนะนำเวปไซด์

สาธุ สาธุ สาธุ

พี่ชนิดาขา เกดขอ

อนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่

นี้ด้วยนะค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับ

ทุกๆ ท่านที่ได้มาเขียนกระทู้นี้ด้วยขอให้มี

คนมาอ่านกระทู้นี้เยอะๆ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวรับมือ

กับภัยพิบัตินี้ทัน

กราบฝ่าพระบาท พระพุทธองค์

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หลวงพ่อเสงี่ยม หลวงพ่อปาน พระอาจารย์รัตน์

ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ท่านดตาจินิน มนุษย์ต่างดาว

เทวดาที่คอยช่วยเหลืออ.แม่อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งสารทิศ

และอ.แม่อุบล ลูกขอให้บารมีของท่านทั้งหลาย จนช่วยให้สามีของ

ลูกเดินได้เร็วๆ ด้วยเทิดค่ะ ลูกจะได้ไปร่วมบุญใช้แรงงานขุดบ่อน้ำและ

แรงกายอื่นๆ ที่บ้านสวนพีระมิด ลูกอยากไปเต็มทีแล้วเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ว่าแต่ว่า

อักษร อ. น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญ

นี่มันยังไงกัน ช่วยขยายด้วยนะ

อย่ามาทำให้คนอ่านเดา

มั่วมาหา อ.อุบล

นะทูนหัว

มา

อธิบาย ซะ ดีๆ

ฮ่า ฮ่า ไม่มีคำอธิบายค่ะอาจารย์..แต่คำตอบที่ถูกต้องทุกคนคงรู้อยู่แล้วในใจ ..

ไม่ได้ยอกย้อนนะค๊า แบบว่า"หนูไม่รู้ จริงจริ๊ง" ตอนไปอ่านเจอตอนแรก ก็"อึ้งๆ"เหมือนกัน

ว่าอะไรจะละเอียดขนาดนั้น แต่ต้องขอขอบคุณผู้ที่ใช้นามปากกาว่า OBEANE จากเว็บเขากะลาค่ะ 

ซึ่งข้อความส่วนบนทั้งหมดผู้เขียนน่าจะเป็นอ.ปริญญา ตันสกุล นะคะ

บอกตามตรงว่า อ่านเจอตอนแรกก็หดหู่เหมือนกัน แล้วก็คิดว่าจะบอกคนอื่นๆแบบไหนดี

สำหรับทุกคนในเว็บนี้อาจจะบอกได้ไม่ยากนัก แต่คนนอกอ่ะ...ยากชะมัด

แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย และที่ต้องรอเป็นเดือนๆ..

ก็เพราะว่าถ้าเตือนก่อนหน้านี้ อาจจะไม่มีผลอะไรมากก็ได้..

ต้องรอให้หนังตัวอย่างจากญี่ปุ่นมาช่วยกระตุ้นซะก่อน...

แหะ แหะ แม้จะยัง"กลัวๆ"อย่างที่อาจารย์ว่า แต่ก็จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดค่ะ

แต่มันแปลกดีเนอะ เราเตือนคนอื่นๆพอได้ แต่คนใกล้ตัวเรามากที่สุด

ยังบอกอะไรมากไม่ได้เลย เพราะ"เขา"รับไม่ได้ ต้องคอยป้อนข้อมูลที่ละเล็กละน้อย

ทีละคน ขนาดแค่คนในครอบครัวตัวเอง ยังต้องเตรียมคำพูด และต้องรอพูดให้ถูกจังหวะอีก

เฮ้อ...แค่นี้ยังเหนื่อยเลย พอมองกลับไปที่ภาระของอ.อุบลทำมาเป็นปีๆ

โอ้วววว....ถ้าเป็นชนิดาคงถอนหายใจวันห้าร้อยรอบกระมัง...

ส่วนพี่มหา และ คุณธนา ชนิดาก็รออ่านด้วยคนนะคะ อย่าให้แฟนคลับตั้งตารอนานนะค๊า...

อนุโมทนากับข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับภัยกัมมันตภาพรังสีจากอ.อุบล

และเว็บไซต์แนะนำจากคุณสุมิตร และความคิดเห็นของทุกๆท่านนะคะ สาธุ...

การเตรียมตนเองและ จิตวิญญาณเพื่อการผจญภัย

 ขอบคุณ คุณพี่ชนิดาอีกครั้ง ที่พยายามอย่างตั้งใจที่จะสรรหาเรื่องราวมาให้เราได้เตรียมตัวกัน...

พอดีผมมีงานให้ต้องตาม ต้องคุยกับชาวบ้านอีกซีกโลกหนึ่งด้านตะวันตก เลยต้องตื่นก่อนไก่โห่ แล้วก็หลับไม่ลง ก็ต้องแวะมาอ่านเรื่องราวตื่นเต้นในเว็บบ้านสวนฯ ซึ่งนับวันก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ...อย่างคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา(12 มี.ค.) มีเหตุการณ์จำลอง ก็คือไฟฟ้าดับช่วงกำลังสนทนาเรื่องภัยพิบัติ ซึ่งตอนนั้นก็ราวๆ เกือบเที่ยงคืน มืดตึ๊บจริงๆ ครับ ไม่สามารถมองเห็นอะไรโดยสิ้นเชิง

อย่างที่ท่านอาจารย์อุบล ได้กล่าวไว้ นั่นคือ ตอนนี้งานทุกอย่างในบ้านสวนฯ ต้องเร่งทุกโครงการเพื่อให้ทันรองรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ฉนั้นหลายๆ ท่านที่ไปบ้านสวนฯ ช่วงนี้ อาจจะเห็นผมและคุณธนา หรืออีกหลายท่านที่รับบัญชาจากท่านอาจารย์อุบล จะคอยแนะนำหรือรุกเร้าให้ทำโน่นทำนี่ ก็ต้องขออภัยไว้ก่อนล่วงหน้านะครับ เพราะทุกอย่างที่เร่งเร้าและทุ่มเทก็เพื่อส่วนรวมทั้งหมดตามลำดับการเร่งด่วน

เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(13 มี.ค.) ขณะที่ทุกท่านกำลังขะมักเขม้นสร้างบุญด้วยแรงกายอันบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะขุดบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สร้างห้องน้ำ ทำครัว หรืออื่นๆ ส่วนตัวผมก็กำลังลุยงานองค์พีระมิดด้านหน้า...ท่านอาจารย์อุบลก็เดินมาอย่างว่องไว รีบมาบอกว่าเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ มาเตือน อ.อุบล แต่เช้า ว่าให้รีบสานงานองค์พีระมิดด้านหน้าให้เสร็จก่อนสงกรานต์ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมท่านจึงเร่ง...หลังจากนั้นท่านอาจารย์อุบลก็เดินกลับเข้าบ้านไปอีกครั้ง แล้วเปิดดูข่าวความเคลื่อนไหวเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่น ก็ถึงบางอ้อเมื่อเห็นข่าวเตาปฏิกรณ์ปรมาณูได้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งสารกัมมันตภาพรังสีจะแผ่ขยายมาถึงเมืองไทยในช่วงหลังสงกรานต์ แล้วท่านอาจาร์อุบลก็รีบมาเฉลยให้บรรดาผู้ใช้แรงงานอีกรอบ...

คำว่า "สุดยอด" สำหรับเบื้องบนนั้น คงไม่มีอะไรยิ่งไปกว่านี้อีกแล้วนะครับ ถ้าท่านไม่มีพระเมตตาคอยเตือนพวกเรา คงไม่ต้องนึกถึงวันนั้นเลยครับ ว่าชะตาของเหล่ามนุษย์จะเป็นยังไงกัน...ช่วงนี้ต้องคอยติดตามพุทธบัญชา และพระบัญชาอย่างใกล้ชิดนะครับ 

อย่างที่พี่สิทธิ์เล่ามานี่แหละครับ แปลกอยู่อย่างนะครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมกลับรู้สึกร้อนใจ อยากช่วยท่านอาจารย์เร่งทำองค์พีระมิดให้เสร็จเร็วๆ และเห็นว่าไม่มีความคืบหน้ามาสองอาทิตย์แล้ว พอไปถึงวันเสาร์ตอนบ่ายสามกว่าๆ เห็นทุกคนกำลังช่วยกันขุดบ่อน้ำพีระมิด ก็เลยชวนพี่สิทธิ์ว่า เรามาช่วยกันสร้างองค์พีระมิดต่อกันเถอะ มีกำลังเท่าไหร่เอาเท่านั้น ได้สักหน่อยก็ยังดี รู้สึกอยากสร้างองค์พีระมิดมาก ก็เลยช่วยกันเท่าที่มีอยู่และมีพี่ๆเพื่อนๆบางท่านก็มาช่วยกัน โดยเฉพาะหญิงเหล็ก นามว่า แม่หญิงปุ๊ก โห แม่เจ้า ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ขุดบ่อน้ำพีระมิดไม่พักเลย แถมไม่ได้ทานข้าวมาแต่เช้า แต่เท่าที่ผมและพี่สิทธิ์สังเกตดูพบว่า แรงคุณเธอไม่ตกเลย หากทุกคนเห็นจะรู้ว่า แรงเธอเยอะมั่กกกก น้องปุ๊กไม่ยอมหยุดมาสร้างองค์พีระมิดต่อแบบ non-stop เลย ขอร้องให้หยุดบ้าง ทานข้าวก่อนก็ไม่ยอม ไงก็ขออนุโมทนาบุญกับความตั้งใจทำความดีด้วยนะครับ

มาเล่าต่อถึงตอนเช้าวันอาทิตย์ ก็เริ่มลุยสร้างองค์พีระมิดกันแต่เช้าเลย สักพักเห็นท่านอาจารย์เดินมาแจ้งว่า เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณเร่งให้สร้างองค์พีระมิดให้เสร็จก่อนสงกรานต์ ผมก็เลยคุยกับพี่สิทธิ์ว่า แสดงว่า จะต้องมีไรเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่งั้นท่านอาจารย์คงไม่แจ้งข่าวแบบนี้ แล้วก็ทำงานกันต่อ ต่อมาท่านอาจารย์ก็ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มหลังจากท่านได้ดูข่าวในทีวีว่า โรงงานไฟฟ้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของญี่ปุ่นระเบิดแล้ว และมีโอกาสลอยมาถึงเมืองไทยประมาณหลังสงกรานต์ ถึงตรงนี้ ต้องบอกว่าร้อง จ๊ากก ในใจ ถึงบางอ้อเลย และคนที่ได้รับมีโอกาสเป็นมะเร็งไทรอยด์ ขนลุกซู่ไปหมด คิดในใจว่า เวลากระชั้นชิดมากก ยังไม่ทันปรับอารมณ์เท่าไหร่ ตอนบ่ายๆท่านอาจารย์ได้ยินท่านแจ้งข้อมูลเพิ่มว่า การที่เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณเร่งงานมาอย่างนี้ หมายถึงอาจมีไรบางอย่างเกิดขึ้นกับประเทศไทยในช่วงหลังสงกรานต์และเดือนพฤษภาคม แต่ว่าท่านอาจารย์ยังไม่ได้ทูลถามเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณว่าคือเหตุการณ์ไร มาถึงตอนนี้ ทุกคนตื่นเต้นเหมือนกับผมไหมครับ แฮ่ๆๆ และกว่านั้นท่านบอกว่า ท่านอาจารย์มงคลเพิ่งได้ดูข่าวว่า โหร คมช. โสรัจจะ ได้ทำนายไว้ว่า ประมาณพฤษภาคมภูเก็ตอาจจมหายไปกับน้ำส่วนหนึ่ง และเชียงใหม่อาจโดนแผ่นดินไหวรุนแรง โอวว มาย ก๊อด นี่เรียกว่าแต่ละข่าวเขย่าหัวใจน้อยๆของลูกหลานเหลือเกิน เง้อออ เท่าที่ผมจำได้นะครับ เขาบอกกันว่า ที่น่ากลัวคือว่าแผ่นดินไหวที่เหนือจะส่งผลโดยตรงกับกรุงเทพเพราะว่าเป็นแผ่นดินในแนวรอยต่อเดียวกัน หากเชียงใหม่ไหวรุนแรง กรุงเทพเราก็อาจต้องเตรียมตัว โดยเฉพาะเขื่อนต่างๆในด้านตะวันตก เช่น เขื่อนศรีนครินทร์ ผมจำได้ว่าศิษย์ของท่านพระอาจารย์รัตน์ท่านเล่าให้ฟังว่า พระอาจารย์รัตน์แจ้งว่าแผ่นดินรอยต่อของไทยหลายๆแผ่นได้มีการปรับตัวลงสู่ระนาบที่เหมาะสมแล้ว ยกเว้นเหลือที่เดียวคือที่กาญจนบุรี ที่ยังเหลื่อมล้ำกันอยู่ เรียกว่า พวกเราต้องลุ้นกันตัวโก่งเลยทีเดียว ที่เล่ามาไม่ได้ให้ทุกท่านกลัวนะครับ แต่ให้ทุกคนมีสติ พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ให้ระลึกถึงความตายอยู่เสมอๆ รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ เคารพพระรัตนตรัย เพื่อเป็นพระโสดาบัน ตามที่ท่านอาจารย์ได้เมตตาสอนพวกเราตรงจุดนี้ เห็นท่านย้ำมาก ช่วงหลังๆนี้ว่า ให้พากันปฏิบัติเพื่อเป็นอริยะบุคคลให้ได้นะ ท่านบอกว่ายุคใหม่จะเหลือแต่พระอริยะบุคคลทั้งนั้น โลกนี้จึงจะผาสุกได้

และในกลางคืนวันเสาร์ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านเร่งงานมาให้เสร็จโดยเร็ว เพราะว่าเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว และท่านบอกตรงๆให้ฟังเลยว่า ในช่วงเกิดวิกฤต ในวันนั้นประตูมิติทุกมิติจะเปิดพร้อมกันหมด เราจะได้ยลโฉมสัตว์นรกที่ขึ้นมา ที่เราเรียกว่า เจ้ากรรมนายเวรของพวกเรา มาเอาคืน ท่านไหนไม่เคยมีสัมผัส ตาทิพย์มาก่อนก็จะได้เห็นเต็มสองตาท่านเอง ไม่ต้องรอ CNN ถ่ายทอดสดให้เสียเวลา เสือสมิงที่คนคิดว่าไม่มีจะได้เห็น ดังนั้นทุกๆคนต้องเริ่มกันแต่วันนี้คือหยุดเบียดเบียนสัตว์ คือเลิกทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพราะว่าสัตว์แต่ละตัวก่อนตายเขาสาปแช่งไว้ เลือดทุกหยด เนื้อทุกชิ้นของเขา ใครกินเขาจะสาปแช่งทุกคนที่กิน มีแต่ความอาฆาต ดังนั้นหากเราไม่เลิกเบียดเบียนเขา วันนั้นมาถึงเราอาจรอดแต่พิการ ง้านก็ต้องเลือกเอาเน้ออ   

ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั้นครูบาอาจารย์บางท่าน เช่นหลวงปู่ประเสริฐที่คุณเมย์ได้นำมาเล่าให้เวปไซต์ต่างๆนั้นผมก็มีโอกาสลุยป่าลุยเขาไปกราบท่านดุ่ยๆคนเดียว ท่านก็มีเมตตาเล่าให้ฟังอย่างที่ได้อ่านนั่นละครับ อ้อ นิดหนึ่งนะครับ บทกลอนที่เขียนบอกว่า เป็นคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น ไม่ใช่นะครับ ซึ่งทางเวปไซต์วัดท่าซุงได้ประกาศแล้วว่าไม่ใช่ของหลวงพ่อ แต่มีการแอบอ้างกันหลายเวปไซต์เพื่ออาจให้ดูน่าเชื่อถือ แต่ของหลวงพ่อท่านกล่าวไว้จริงๆจะอีกแบบหนึ่งครับ ลองหาอ่านได้นะครับ พอดีผมเป็นแฟนติดตามข่าวคราวภัยพิบัติมานานหลายปีครับ ฮ่าๆๆ แบบว่าโรคจิต ไม่รู้ว่าทำไมชอบติดตามข่าวเรื่องนี้โดยเฉพาะ  

คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านเลย เอามาให้อ่านดู

อัฟเดทข่าวล่าของสุริยจักรวาลจากพระอาจารย์รัตน์

 RE: ข่าวจากพระอาจารย์รัตน์ 22.50 น. 1 ก.พ. 2554

การหมุนรอบตัวเองของสุริยจักรวาลครั้งใหม่นี้  จะเป็นอีกสาเหตุที่แมกม่า จะกระตุ้นให้ภูเขาไฟระเบิด ซึ่งต้องสังเกตระยะเวลาที่ภูเขาไฟในประเทศอินโดนีเซียที่เริ่มปะทุขึ้นแล้วใกล้บาหลี หลังจากที่อินโดนีเซีย อาจย้ายมาที่นิโคบาร์ และใต้แหลมอินโดจีน ที่จะเป็นอีกสาเหตุให้เกิดสึนามิครั้งร้ายแรงขึ้นแก่ภาคใต้ของประเทศไทย เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นก่อน 9 พ.ค. 2556 เนื่องจากเหตุปัจจัยกระตุ้นให้ภูเขาไฟระเบิดนั้น เริ่มเคลื่อนตัวแล้ว นับตั้งแต่ 1 ก.พ. 2554  ส่วนที่เป็นภูเขาไฟที่เคยระเบิดมาก่อนก็จะเริ่มขึ้นก่อน และที่อินโดนีเซียอาจมีเหตุร้ายแรงมาก ชาวดาวอังคาร ถึงมาทำเครื่องหมายเตือนครั้งสุดท้าย Crop Circle

ที่มา :  http://ainews1.com

พระอาจารย์นั่งสมาธิและพบว่า
ระบบสุริยะได้เปลี่ยนทิศทางการหมุนกลับทิศเป็นซ้ายไปขวาแบบสมบูรณ์แล้ว ผลก็คือ
1. คนที่ไม่เคยชินจะเวียนศีรษะ จะล้ม อาเจียน ความดันจะขึ้น มนุษย์จะต้องหัดหมุนซ้ายไปขวาตาม เพื่อให้สุขภาพดี
2. ผลคือน้ำทะเลจะกระแทกฝั่ง ลาวาจะเปลี่ยนทิศทางการหมุน และปะทุขึ้นเป็นที่ๆ เป็นอันตรายมากๆ
เส้นแรงแม่เหล็กจะพุ่งลงเรื่อยๆ ลองคิดดูว่าจะมีผลตามมาเพียงใด
ทั้งนี้ เหมือนกับ crop circle อันใหม่นี้ที่เขามาเตือนว่าโลกได้เปลี่ยนทิศทางการหมุนแล้ว

ขอบคุณพี่ชนิดา ท่านอ. อุบล คุณธนา

และทุกๆ ท่านที่ให้ข้อมูลดีๆ ทุกท่านนะคะ

ยอมรับว่าอ่านแล้วก็ต้องยอมรับความเป็นจริงค่ะ

เราหนีไม่พ้น ทุกท่านต้องเผชิญกับมัน แต่เราจะทำให้ดีที่สุด

ก่อนที่จะถึงวันนั้นค่ะ ขอให้พวกเราช่วยกันรักษาศีล 5

ให้ได้เป็นพื้นฐานก่อนนะคะ แล้วเมื่อคืนนี้ไม่รู้เป็นไร

นอนทำสมาธิ จิตก็แว่บไปที่ พีระมิด5 องค์ตลอด

อยากจะผสมปูน อยากไปร่วมสร้างมากๆ

คือทุกนาทีผ่านไปล้วนเสียดายเวลามากๆ

อยากกินนอน และสร้างพีระมิดทุกวัน

 เวลา จนบางครั้งแอบคิดว่าไม่อยากจะทำงานใดๆ

แล้ว แต่ขันธ์ 5 ยังคงต้องบริโภคอยู่

ไม่ได้ไปบ้านสวน 1 สัปดาห์ มันกระสับกระส่าย

มากมายค่ะ เดี๋ยว ส-อา นี้ต้องไปแน่นอนค่ะ

 อยากสร้างพีระมิดให้เสร็จทันสงกรานต์ให้ได้

เพื่อเพื่อนมนุษย์บนโลกนี้ค่ะ

เมื่อวันเสาร์ได้มีโอกาสไปกราบพระอาจารย์รัตน์ ได้มีโอกาสสนทนาและท่านได้เมตตาตอบคำถามที่พวกเราถามกัน

ท่านบอกว่า ท่านเคยบอกลูกศิษย์ของท่านไว้ตั้งแต่ทองบาทละ 4,200 บาท ให้เก็บทองไว้ เพราะทองจะขึ้นถึง สองหมื่น และเมื่อทองแตะสองหมื่น คือ จะมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างเกิดขึ้น ท่านบอกว่าตอนนี้ทองแตะสองหมื่นหรือยัง? เห็นไหมมันมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างในหลายประเทศ แล้วท่านก็ถามว่าทองแตะสองหมื่นเมื่อไหร่ เลยตอบท่านว่าประมาณต้นปี (นี่คือจุดเริ่มแล้ว)

แล้วท่านเสริมว่าให้ดูราคาน้ำมันนะ เป็นอีกจุดสังเกตหนึ่ง คือ ถ้าราคาน้ำมันไปแตะที่ 150 ดอลล่าร์/บาร์เรล ตอนนั้นเศรษฐกิจโลกจะพังคลืน ให้จับตาดูไว้จะได้ไหวตัวทัน

ถามท่านว่า แล้วพระอาจารย์คิดว่า เมืองไทยจะเกิดภัยจากสงคราม(ทะเลาะกัน) หรือภัยพิบัติจะมาก่อน ท่านบอกว่า อาตมาคิดว่ามันมาพร้อมกัน คือ มีสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างแรง แต่ฝ่ายหนึ่งคิดว่าตัวเองกำลังชนะ ยื้อกันไปมา แล้วอีกแป๊ป แผ่นดินยุบลงไป คนลงไปตาย ที่เหลือเห็นด้งนั้นเลิกทะเลาะกันทันที กลับตัวได้

แล้วท่านก็เสริมว่า อาตมาก็คิดๆ นะว่า คนกรุงเทพเค้าก็ทำบุญกันมาเยอะ บุญจะไม่ช่วยเค้าเชียวหรือ แล้วท่านก็เห็นว่าถึงแม้จะมีกรรมแต่ก็มีบุญดีที่มาช่วยคือ เช่น ถ้าน้ำจะท่วมกรุงเทพถาวร จะมีของเทียมมาก่อน เช่น จะมีน้ำท่วมหลอกๆ ขังไว้ระยะหนึ่งแล้วลด แล้วคนกรุงเทพจะรู้ว่า อือ อยู่ไม่ได้แล้วนะ ต้องเตรียมอพยพ แล้วของจริงจึงจะตามมา

ท่านบอกว่า ตอนนี้อาตมาทำเครื่องเรียกฝน ปรับอากาศ แต่ตอนนี้ยังไม่เป็นที่เผยแพร่เท่าที่ควร อาตมาทำแล้วได้ผลดีไปขอดูได้ มีติดตั้งไว้หลายที่ แต่ยังขาดคนช่วยเผยแพร่ อาตมาเป็นพระลำบากที่จะไปเผยแพร่ ท่านทำหน้าที่ของท่านแล้วโดยการคิดค้นเครื่องมือ อยากให้ผู้คนไปช่วยเผยแพร่ จะได้ช่วยลดมลภาวะ (ช่วยๆ กันหน่อย อันนี้เติมเอง )

ถามท่านว่า ที่ท่านเคยบอกว่า จะมีลูกน้ำแข็งใหญ่ๆ หล่นมาจากฟ้า มันจะเกิดเพราะอะไร เป็นอย่างไร ท่านตอบว่า ตอนนี้บรรยากาศมีละองน้ำมันลอยอยู่ (คาร์บอนมอนน๊อกไซด์) แล้วพอเกิดกระทบกับคลื่นความถี่สูง (ไม่แน่ใจว่าเป็นพวกรังสีแกมม่าหรือเปล่า อันนี้เดาเอา) ท่านบอกว่าอาตมาไม่รู้ว่าอะไร แต่รู้ว่าเป็นคลื่นความถี่สูง เมื่อมากระทบกับไอพวกนี้ ก็จะจับตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็งแล้วหล่นมาเป็นลูกๆ เลย (ใหญ่มาก)

อีกเรื่องคือ ถามท่านเรื่องตอนนี้มีน้ำท่วมอินโดอย่างไร้ฝน และมีเสียงแผ่นดินไหวคำรามจากใต้ดิน ท่านบอกว่า ตรงใต้อินโดมีหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากเส้นแรงแม่เหล็กตี อินโดอาจจะหล่นไปในหลุมนี้ได้ ให้สังเกตแก๊สด้วย ถ้าตรงไหนมีหลุมมีกลิ่นแก๊สให้รีบย้ายออก มันเกิดขึ้นที่ทะเลด้วย เลยทำให้ปลาตายจำนวนมาก แล้วปลามันก็หนีมาที่อ่าวไทย มาตายกันตรงนี้

เลยเล่าให้ท่านฟังเรื่องปลาตายจำนวนมากที่ระนองปลายปีที่แล้ว ที่ชาวประมงดำน้ำลงไปจับปลาแล้วน้ำร้อนขึ้นมาทำให้ดำลงไปไม่ได้ แล้วเจอฟองอากาศปุดๆ มาจากใต้ทะเล และมีกลิ่นแก๊สด้วย หลังจากนั้นปลาก็ตายจำนวนมาก ท่านบอกว่านั่นแหล่ะแสดงว่าข้างล่างมีหลุมใหญ่อยู่

ที่มา : ขอบคุณ คุณFalkman : www.palungjit.com

ข้อมูลด้านล่างนี้เผื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยข้อมูลนี้ได้มาจากเวปพลังจิต และคิดว่ามีกระจายอยู่หลายๆเวป ในช่วงเดือนกันยายน ถึงปลายๆปีที่แล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาที่พวกเราต้องเตรียมตัวทั้งทางร่างกาย การวางแผนต่างๆไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะทางจิตใจ ต้องเร่งรีบพัฒนาจิตใจโดยใช้ธรรมะของพระพุทธองค์เข้าชำระล้าง ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

พระราชดำรัสให้แจ้งให้ทราบ "ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์..แตก!!! ช่วยส่งต่อด้วยครับ

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้แจ้งประชาชนให้ทราบ
"ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์..แตก!!!

นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ (มท.3)

"อยากชี้แจงให้นักท่องเที่ยวทราบว่าถ้าแผ่นดินไหวแล้วทำให้เขื่อนแตก
น้ำก็จะใช้เวลาเดินทางไปยังที่ต่างๆประมาณ 15 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวยังสามารถหลบหนีได้ทัน"

นายสิทธิชัย กล่าวว่า การตรวจเขื่อนครั้งนี้
เนื่องจากประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงวิตกว่าหาก
เกิดแผ่นดินไหวอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในแนวลุ่มน้ำของจังหวัดได้
เพราะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของ เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง
คือ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ตั้งอยู่บนแนวแขนงรอยเลื่อน
ศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์
ที่แยกจากแนวรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า. -สำนักข่าวไทย

ประเด็นสำคัญสำหรับเรื่องนี้ก็คือ
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้แจ้งประชาชนให้ทราบ "ความจริง" ตรงจุดนี้
กรณีเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหว ตรงรอยเลื่อน และเขื่อนแตกออก

"ผลก็คือ"
- ด้วยพลังงานของน้ำ ที่มีปริมาณมหาศาล ตัว จ. กาญจนบุรี
และพื้นที่ใกล้เคียงในแนวเส้นทางน้ำหลากลงมาราบเป็นหน้ากลองแน่นอน
มีเวลาอพยพ 5 ชั่วโมง ดังนั้นท่านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องมีการเตรียมตัว กันเอาไว้บ้างแล้วครับ

- เป้ฉุกเฉิน
- แผนอพยพของครอบครัว..เส้นทางอพยพ

- จังหวัด ที่อยู่ในเส้นทางน้ำในระดับต่อลงมา ย่อมเกิดผลกระทบตามไปด้วยแน่นอน
และระดับพลังงานการ ทำลายล้าง ไม่น้อยกว่าสึนามิ

- สำหรับกรุงเทพมหานคร หากเขื่อนศรีแตก มีเวลาอพยพ 35 ชั่วโมง
ซึ่งต้องคำนวนเผื่อกรณีที่ รวบรวมคนทั้งครอบครัว เผื่อรถติดหาเส้นทางอพยพ
ที่ไม่สวนกระแสน้ำเพราะน้ำวิ่งมาตามถนนสายหลักอย่างเพชรเกษมแน่นอน
ที่สำคัญหากน้ำทะเลหนุน ระดับน้ำที่คำนวนเอาไว้อาจสูงเกิน 2 เมตร หรือตึก 2 ชั้นได้
ดังนั้นตั้งสติเอาไว้ ใช้ปัญญาพิจารณา หาแนวทางป้องกันตัวเองอย่าได้ประมาทในการทั้งปวงครับ

สาธุ สาธุ สาธุ ท่านพี่ธนาสำหรับคุณธรรมความรู้เป็นที่สุดของที่สุดธรรมทานในบั้นปลายชีวิต

หากแรงกายของหนูคนเลวสุดขั้วคนนี้จะพอช่วยงานอะไรได้บ้าง ถึงจะเป็นแค่เศษเสี้ยวเท่าเพียงรูเข็ม

หนูขอช่วยหมดใจที่สุดๆๆๆเท่าที่ใจสั่งมาเลยค่ะ

ขอบกราบพระคุณอย่างที่สุด....ยิ่งค่ะ

คำทำนายต่อไปนี้ อ่านแล้วอย่าตกใจเกินงามนะครับพี่น้อง เพราะว่าผมอ่านไปขนลุกซู่ๆๆๆๆๆ เพราะว่าตรงกับที่ท่านอาจารย์อุบลแจ้งให้รีบสร้างพีระมิดโดยด่วนให้เสร็จก่อนสงกรานต์ และท่านกล่าวว่าน่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับประเทศไทยในช่วงหลังเมษายนและพฤษภาคมที่จะถึงนี้เลย โดยคำทำนายนี้เป็นของพระอริยะสงฆ์ที่น่ากราบไหว้บูชาอีกองค์หนึ่ง หากเป็นคำทำนายของท่านจริงๆ พวกเราต้องวางแผนไรกันบางอย่างดีๆนะครับ

วัดร่มโพธิธรรม จังหวัดเลย

หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลาเช้า ขณะหลวงพ่อท่านกำลังฉันภัตตาหารเช้า ท่านได้มีเมมตาเรียกเข้าไปให้นั่งคุยด้วย - ส่วนตัว ด้วยเสียงเบาๆได้ยินเฉพาะตัว คือ หลังจากเทศนาและถวายสังฆทานเสร็จ ก็มีคนเข้าไปถวายของแด่หลวงพ่อ เราก็นั่งรออยู่ด้านหน้าค่อนไปทางขวามือของท่าน ห่างออกมาสัก 4 วา พอคนว่างและท่านเตรียมฉัน ท่านก็ถามว่า "ไง ละเอียด ว่ายังไง" เราก็คลานเข้าไปกราบและนั่งดยู่ด้านหน้าค่อนไปทางขวาของท่าน ห่างออกมาประมาณ 2 วา ท่านก็ชี้ให้ไปนั่งข้างหน้าของท่าน "นี่ มาที่นี่" เราก็คลานเข้าไปกราบและนั่งลงข้างหน้าของท่าน ท่านก็เริ่มฉันภัตตาหารและเริ่มคุยด้วย ด้วยเสียงที่เบามาก ได้ยินเพียง 2 คนเท่านั้น เรื่องภัยพิบัติ สักครู่หนึ่งเราก็หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นำออกมาจดการสนทนากับท่าน

1. ภัยพิบัติเกิดขึ้น ทั่วโลก ชายทะเลจะลำบาก ผู้มีอธิวาสนาถ้าไม่รู้จักสละก็จะใช้กรรมพ่วงไปด้วย กลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนต้องเคลียร์ตัวเอง ยอมทิ้ง สละ ออกจากพื้นที่......? เหนือและภาคอีสานจะพ้นภัย(ให้รีบเคลียร์) จะได้ไม่ทุลักทุเล สนามบินยังอยู่ สนามบินยังอยู่ บางประเทศหายไป... ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลังนะลูก.... น้ำจะแห้ง ตึกจะทรุดตัวลง เขื่อนจะแตก แผ่นดินจะแยก(("ฉับพลันไหมครับ" - ฉับพลัน))

2.กลางเดือนเมษายนต้องเคลียร์ตัวเองแล้ว ต้องดับรอเลยนะลูก

...... เดือนพฤษภาคมไม่น่าอยู่ที่ กทม. แล้วนะครับ ("ไม่น่าอยู่แล้วก็แสดงว่าต้องออกก่อนเดือนพฤษภาคมใช่ไหมครับ?") เดือนพฤษภาคมไม่น่าอยู่ที่กทม แล้วนะลูก เป็นเวลาที่ไม่น่าอยู่แล้ว ไม่ใช่เวลาที่จะ ตัดสินใจ แล้ว (ต้องตัดสินใจก่อนหน้านั้นแล้ว)

"ตายกันเยอะมาก นั้นน่าสะเทือนใจจังครับ" - ไม่ต้องหนักใจ(ไม่ต้องสะเทือนใจเพราะ ไม่ใช่วิสัยของโพธิสัตว์ มหาโพธิสัตว์

ไว้มาต่อนะครับ ยังมีอีกครับ  เคลียร์ธุระก่อน

ที่มา : ดร.ละเอียด ศิลาน้อย : www.palungjit.com

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะคุณธนา

ที่สรรหาธรรมทานดีๆมีประโยชน์ในเวลาเร่งด่วน

          สาธุ สาธุค่ะ

ต่อเลยนะครับ

ยังมีต่ออีกนะครับ เรื่องสำคัญๆอยู่อีก ว่าแต่อยากอ่านต่อไหมครับ กลัวจะเครียด มัวแต่กังวลกันไปซะก่อน

อนุโมทนากับเรื่องเล่าจากพี่มหา และคุณธนา และที่สำคัญขอบคุณค่ะ

ที่นำข้อมูลต่างๆมาช่วยกันกระตุ้นเตือนให้ทุกคน

รีบๆตัดสินใจและเตรียมพร้อมไว้ทั้งกายและใจ...

ใครที่อ่านตอนแรกจะเครียดจะตกใจ ฉะนั้น ต้องเข้ามาอ่านบ่อยๆค่ะ

จะได้เริ่มชิน และ ตั้งสติwfh ถ้ามันมาจริงๆ ก็บอกตัวเองว่า... "ตูว่าแล้ว" มาจริงๆด้วย ฮ่า ฮ่า..

อย่างน้อยคนที่ได้อ่านก็โชคดีกว่า เพราะมีเวลาได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาแล้ว...

โชคดีนะคะทุกๆคน....

 คุณธนานี่มีแบบเข้ามาแหย่ๆ แบบเช็คเรทติ้งก่อนว่าใครรับได้ ใครรับไม่ได้มั่ง แล้วค่อยๆ โผล่มาทีละชุด...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พรวดมาชุดใหญ่เลยดีกว่ามั้งครับ ใครรับไม่ได้ก็ข้ามไป ไม่อ่าน หรือไปอ่านกระทู้โมทนาบุญดีกว่า จะได้เก็บเกี่ยวบุญบ้างไม่มากก็น้อย

พยายามคิดเป็นธรรมทานนะครับ ว่าเรื่องราวต่างๆ ต้องการบอก ต้องการสอนเราอย่างไร ซึ่งยังไงก็ไม่พ้นเรื่องของกรรม และให้เรามุ่งทำแต่ความดี อยู่ในศีล 5 อย่างจริงจัง ละวางตัวตน ไม่ยึดติดกับทุกๆ สิ่ง ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ให้ถือว่าของทุกอย่างเราแค่ยืมเค้าใช้เท่านั้นเอง รวมทั้งร่างกายเราเองด้วย...แล้วนำจิตเกาะเกี่ยวติดไปกับพระพุทธองค์ จะภาวนา พุทธ-โธ ไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรก็ได้ครับ

ขอให้ธรรมะรักษาทุกๆ ท่านครับผม 

ขออนุโมทนากับธรรมทานบอกเล่า และเป็นอภิมหาพระคุณอย่างยิ่ง

หากท่านพี่ธนาได้มาเพิ่มเติมความรู้ประกอบองค์ให้ครบจนหมดความ

สาธุ สาธุ สาธุ นะเจ้าค่ะ

วันนี้หนังตัวอย่างหรือเปล่าเจ้าค่ะ อยู่บ้านคนเดียวฝนตกฟ้าร้องไฟดับ ตกใจน้อยที่สุดที่เคยเป็นมา สติค่อนข้างมา แต่ร้องตะโกนลั่นบ้าน อ.อุบลที่เคารพรักที่สุด ช่วยหนูด้วย กลัวง่าจิค่ะ ตอนที่ขี่มอไซกลับจากราชเทวี ผ่านเส้นวิภา โห หน้าฝนยังไม่กระหน่ำแบบเดียวดาย วิ่งรถทุกวันนี้รู้สึกเหงาค่ะ รู้สึกแปลกๆว่า เอ้ยผู้คนไปไหนกันหมด หรือว่าพวกเขาหนีกรุงไปกันหมดแล้วจริงๆๆหรอ แล้วเรามัว ตุบตับเม่อลอยอะไร ในกรุงกันนี้ คิดได้ก็เผ่นเลยทิ้งงานเลยค่ะ บิดกลับบ้านด้วยความเปล่าเปลี่ยวเ อ กา อยู่ ใน ใจ

ขอบพระคุณทุกๆๆธรรมทานบุญอันใหญ่หลวงมา ณ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

สาธุ สาธุ สาธุ

ฮ่าๆๆ พี่สิทธิ์ก็ รู้ทันไปหมด ไม่ได้ตั้งใจแหย่หรอกครับ เพราะว่าไฟล์ที่ได้มา มีปัญหา ก๊อป***แล้วโพสเลยไม่ได้ กลายเป็นภาษาต่างดาวตลอดเวลา เปลี่ยนฟอนต์ก็ไม่ได้ ลองหลายวิธีแล้ว ก็เลยต้องนั่งพิมพ์เอา แต่ว่าเยอะมั่กก ก็เลยถามทางดู ฮ่าๆๆ เดี๋ยวผมโพสเป็นไฟล์รูปภาพแทนนะครับ คิดว่าน่าจะอ่านได้ชัดเหมือนกัน

 รูปสวยจัง...อยู่ไซ๋ล่ะอ้าย แนมบ่อเห็นจั๊กเทื่อ...หรือว่าต้องมีฤทธิ์ถึงจะเห็น 

โอว้วว แสดงว่าฝีมือการโพสของผมยังแย่อยู่มั่ก ตอนนี้ผมส่งไฟล์ไปให้พี่สิทธิ์ช่วยดูและโพสให้แระนะครับ โทษทีนะครับ ฝีมือการโพสยังแย่เสมอ แต่อยากให้ได้อ่านนะครับ แบบว่า ท่านทำนายไว้ละเอียดยิบว่าจะเกิดไรขึ้น ระหว่างรอพี่สิทธิ์ช่วยโพส ผมสรุปย่อๆไปก่อนนะครับ

- แผ่นดินจะแยก แผ่นน้ำจะสะท้านสะเทือน จะเกิดแบบกระทันหันแบบมนุษย์โลกจะไม่รู้ตัว จะล้มหายตายหากกันเยอะ เพื่อล้างโมหะของสัตว์โลก

- ประเทศไทยก็จะไม่เหลือเท่าเก่า ส่วนหนึ่งที่มันจมหายไปในทะเล ก็มีถนนหนทางก็จะไม่เหมือนเดิม

- สิ่งไหนที่ชาวโลกประดิดประดอยสร้างกันขึ้นมามอมเมากัน ไม่มีประโยชน์ต่อโลกจริงๆก็จะถูกล้างไป

- ในกรุงเทพฯ ตึกสูงๆใหญ่ๆอะไรก็ทรุดเยอะ ไม่เหลือหรอหรอก เหลือบางส่วน เล็กๆน้อยๆ ก็เรียกว่าสละให้ดูเลย สละเองไม่เป็นใช่ไหม สละให้ดูเลย

- เอาเป็นว่างวดนี้คนตายเยอะนะ มันจะเกิดขึ้นจาก 5 ประการ ดิน น้ำ ลมไฟ สี่ประการแรกเกิดจากเหตุธรรมชาติ(แผ่นดินแยก น้ำท่วมใหญ่ ลมพายุรุนแรง ไฟจากใต้โลก) ส่วนที่ห้านั้นคือการฆ่ากันตายเอง มันจะเกิดการทะเลาะกัน ก็กรรมมันสุกงอม

- น้ำในทะเลก็จะเป็นพิษทั้งหมด สาเหตุเพราะบางโซนมันถูกเก็บนิวเคลียร์ ประเทศมหาอำนาจมันไม่มีที่เก็บมันก็ไปเก็บไว้ที่ใต้ทะเล ไปทำห้องอยู่ข้างล่าง ที่นี้มันก็ทนทางต่อรอยแยกไม่ไหว นิวเคลียร์จะเลยแตกรั่ว เกิดการระเบิดใต้ท้องทะเล น้ำก็เป็นพิษ

- จะเกิดข้าวยากหมากแพงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดี๋ยวนี้อะไรๆเริ่มแพง ทุกสิ่งจะอัตคัตขัดสน

- ประเทศที่อยู่ตามชายทะเล ทั้งหลายนี่ เละตุ้มเป๊ะเลย จะไม่เหลือหรออะไร

นี่แค่ย่อๆนะครับ รายละเอียดอีกเยอะมากครับ ไงไว้รอพี่สิทธิ์ช่วยโพส ค่อยอ่านรายละเอียดทั้งหมดนะครับ

 เอ้า...ลองดูมั่ง ตั้งใจเอามาลงเพื่อเป็นธรรมทานนะครับ และเป็นการไม่ประมาทในการใช้ชีวิต รวมทั้งเพื่อการเจริญมรณานุสติครับ 

ทดสอบ...

 อ้าาา...ใช้ได้ งั้นต่อเลยนะครับ...ทั้งหมดมี 8 หน้า 

 ขออภัยท่าน สว. ทั้งหลายนะครับ...มันสามารถแปะได้แบบรูปภาพอย่างเดียว ก็เลยไม่สามารถขยายตัวอักษรได้...ใช้วิธีขยายหน้าจอแทนเอานะครับ คือ ปรับตัวเลขด้านขวาบน ที่เป็น 100% ก็เพิ่มขนาดตามต้องการได้ครับ 

หมดแล้วครับ...ขออภัยจริงๆ ที่ไม่สามารถขยายตัวอักษรได้ครับผม 

ไม่เป็นไรครับ ให้อภัยเสมอ แต่ที่เป็นปัญหาคือ ผมมองไม่เห็นภาพเหมือนกันก๊าบพี่มหา      เง้ออ

มองไม่เห็นเช่นกันค่ะ

 อ้าววว...นั่งโพสท์ทุกความเห็น ก็มีครบนะครับ หลบไปแซวกระทู้ ลึกลับ ซับซ้อนฯ หน่อยเดียว...กลับมาดูอีกที หายเกลี้ยงเลย...หรือว่าเทคนิคเราก็โง่เหมือนกัน...ฮิฮิ

กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์นะครับ ถ้าข้อความดังกล่าว ไม่สมควรที่จะนำมาเผยแพร่ ได้ 

ผมกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ที่ได้นำข้อมูลนี้ลงมาเผยเพื่อ จุดประสงค์เพื่อเป็นธรรมทาน ให้ทุกๆคนได้มีโอกาสรับรู้และเตรียมตัว หากการกระทำนี้เป็นการไม่สมควร ผมกราบขออโหสิกรรม ขอขมาทุกๆพระองค์ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ

อย่างที่ผมได้บอกพี่สิทธิ์ตอนโทรไปหาว่า ตอนพิมพ์โพสข้อมูลนี้ต่อ ปวดไหล่ บริเวณหลังมาก ใจผมก็คิดๆว่า เป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ ยิ่งตอนโพสเป็นภาพตอนหลังๆนี่ตอนโพสก็เห็นภาพปกติ แต่สักพักก็หายไปเลย ยิ่งตอนแรกที่ยังไม่ได้โพส แค่อ่าน ขนลุกซู่ๆๆๆ ไปหมดเลย เพราะว่าเหมือนกับที่ท่านอาจารย์อุบลได้แจ้งเลยว่า ให้รีบสร้างองค์มหาพีระมิดให้เสร็จก่อนสงกรานต์ ไงทุกๆท่านอย่าประมาทนะครับ

คุณธนา คุณสิทธิ์ เล่น ไร ครับ อิ อิ

โพสต์อะไรกันจ๊ะ

พี่มัวแต่ไป ลึกลับ ซับซ้อน ฯ

กลับมากระทู้ด้านล่าง เล่นไรกัน

โอ๋ ... ใจเย็น ๆ จ๊ะ

ส่งมาให้พี่...ได้นะ...อาจจะได้ ก็ได้นะ

อยาก อ่านน่ะ

- ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาครับ

- ขออนุญาต บอกว่าเคยอ่าน บทความเช่น ที่คุณชนิดา นำมาเป็นธรรมทานนี้   เมื่อ 20 กว่าปีก่อน(ประมาณ ม.3  นำไปเล่าให้เพื่อนฟังสมัยนั้นเพื่อนว่าเราบ้า)   การที่บอกอย่างนี้  มิได้จะอวดว่าเราได้รู้มานานแล้ว   แต่อยากจะช่วย Confirm ว่าบทความหรือคำทำนายเหล่านี้  ได้ทำนายไว้ล่วงมาแล้วหลายปี  แต่บังเอิญว่าตรงหรือใกล้เคียงกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่กำลังประสบกันอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของโลก   ดังนั้น ขอ เพื่อน พี่ น้อง ผู้ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย  ที่ยังคงสงสัยอยู่  ได้พึ่งระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  และอาจารย์อุบล   แล้วนำมาปฏิบัติตน  เพื่อให้ได้มีโอกาสหลุดพันบ่วงทุกข์ (มิได้หมายแต่พิบัติภัย แต่หมายถึงการเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร  ตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน) และตัวผมเองซึ่งไม่สงสัยแล้ว ก็จะขอปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ให้ยิ่งยิ่งขึ้นไป ถึงแม้จะพร่อง บ้าง ขาด บ้าง แต่จะมีเป้าการปฏิบัติอยู่ที่คำว่า ยิ่ง ยิ่ง ขึ้นไป   สาธุ สาธุ สาธุ

คุณเอกหายหน้าหายตาจากหน้าจอไปนานเลยนะค๊า...

แต่จริงๆเรื่อง ภัยพิบัติ เป็นสิ่งที่ทุกคนได้ยินได้ฟังมาพอสมควร..

จนเกือบ"ตายใจ"ไปแล้วว่าคงจะเป็นแค่ข่าวลือ.. กระมัง

ฉะนั้น สิ่งที่พวกเราทุกคนควรจะตระหนักอยู่เสมอก็คือว่า

ไม่ควรใช้ชีวิตแบบประมาทอีกต่อไป เพราะไม่ว่า ภัย จะมาในรูปแบบไหน

เมื่อไหร่ เราก็ควรจะพร้อมสู้เสมอ...ชิมิ ชิมิ

ส่วนคุณธนาและพี่มหาเนี่ย มาร่วมด้วยช่วยกันนำเสนอ "ปริศนาธรรม"อันล้ำลึก รึเปล่าค๊า.....

ประมาณว่า ถ้าใครเข้ามาอ่านคำเตือนเหล่านี้ แล้วเกิดเครียด จิตตก

ก็จงพึงระลึกไว้ว่า อ่านเสร็จแล้ว รู้แล้ว ... ก็จงวางทั้งหมดลง...

เมื่อวางอุเบกขาได้ แล้วจิตก็จะว่าง.....

อย่างกระทู้แห่งนิพพาน(กระทู้แห่งความว่างเปล่า)

ที่คุณธนา และ คุณสิทธิ์ ช่วยกันโพสต์ไว้ให้เป็น "สัญลักษณ์" เตือนใจ...ผู้อ่านทุกทุ๊กคน...

โอ้วววว...สุดยอดเจงๆเลย คู่หูดูโอ แห่งวิกบ้านสวนฯ..เนี่ย... ฮิฮิ

สงสัยต้องรบกวนคุณมาร์ค เว็บมาสเตอร์ ให้ช่วยลบออกไปบ้างดีไหม๊คะ

เหลือกระทู้ที่ว่างๆไว้เป็นอนุสรณ์ ซักกระทู้ก็พอเนอะ...

*** ได้ลบความคิดเห็นที่เป็นหน้าว่างๆออกไปบางส่วน ตามคำแนะนำของคุณชนิดาเรียบร้อยแล้วครับ
-เว็ปมาสเตอร์บ้านสวนพีระมิด-

ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ อย่างที่สุด ด้วยน่ะค่ะ

ลุ้นติดขอบ จิ้ม F5 นาทีต่อนาที

หากหนูผู้ด้อยปัญญาคนนี้ ร้องขออนุญาต คุณมาร์ค เว็บมาสเตอร์ ฝากลบข้อความของนู๊ด้วยคนจะได้ไหม เจ้าค่ะ

ของนู๊ความเห็นที่ 55 (1536120) น๊างับ

นอนคิดนั่งคิด ไม่ดี ไม่ดี รู้สึกไม่ดีอย่างที่สุด ไม่เหมาะที่สุด

ขอกราบขอขมาพี่ๆๆทุกๆๆท่าน อย่างสุดซึ้ง

หนูขอโทษน่ะค่ะ  

*** ได้ทำการลบ ความคิดเห็นที่55 (1536120) ตามที่นู๊ปุ๊กแจ้งมาเรียบร้อยแล้วครับ
- เว็ปมาสเตอร์บ้านสวนพีระมิด -

                                  ขอบคุณสำหรับข้อมูลของทุก ๆ ท่าน มันทำให้เราไม่ประมาทในชีวิตและมีสติติดตัวตลอดเวลา  อนุโมทนากับทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ ดีใจที่มีโอกาสได้ไปบ้านสวนพีระมิด  ดีใจที่ได้รู้จักเวีปบ้านสวนพีระมิดค่ะ

ใช่เลยครับ อย่างที่คุณชนิดาบอก ขอบคุณมากครับที่ช่วยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส   เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ สุดท้ายรู้แล้วก็ปล่อยวาง เหลือแต่ความว่าง หากว่าเราจะตาย อย่างไรก็ต้องตาย หนีไม่พ้น ทำใจให้สบาย ปล่อยวาง เร่งสร้างบุญกุศล ไม่ประมาทคือ หัดตายก่อนตาย ดีกว่าครับ

ขอบคุณในความปรารถนาดี ของทั้งคุณพี่ธนา

และพี่สิทธิ์นะคะ ที่ต้องการนำข้อมูลตรงนี้มาเผยแพร่

โดยส่วนตัวตุ้ยคิดว่าการนำมาเผยแพร่เป็นข้อดีนะคะ

ถึงแม้แรกๆ ที่รู้ข้อมูลจะอดที่จะตกอกตกใจไม่ได้

 แต่หลังๆ เราก็เริ่มชินกับมัน

มองมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ

สร้างเหตุเช่นไรก็ได้รับผลเช่นนั้น

ในการนำข้อมูลมาลง

แล้วมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ (ลงไม่ได้ ภาพหาย)

เบื้องบนท่านคงจะเห็นว่ามันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าคะ

(ลองตรวจสอบดูอีกทีก็ได้ค่ะ)

หรืออาจเป็นการผิดกฎสวรรค์หรือเปล่าค่ะ

(อันนี้ก็คิดเอาเองนะคะ) 

 ถึงจะลงไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ

พวกเราก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ

มีหน้าที่อะไรก็เร่งทำ เร่งสร้างกันค่ะ

นี่ก็คือการเตรียมรับมือภัยพิบัติที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่นำความรู้มาให้อ่านกันค่ะ

ยอมรับว่ามีหลายข้อมูลที่มารู้เอาที่นี่ นี่เองค่ะ สาธุ

ขอบกราบขอบพระคุณ พี่มาร์ค อย่างมากจริงๆๆ คะ
   สาธุ สาธุ สาธุ 

สุดท้ายรู้แล้วก็ปล่อยวาง เหลือแต่ความว่าง หากว่าเราจะตาย อย่างไรก็ต้องตาย หนีไม่พ้น ทำใจให้สบาย ปล่อยวาง เร่งสร้างบุญกุศล ไม่ประมาทคือ หัดตายก่อนตาย ดีกว่าครับ

ขอร่วมอนุโมทนาขอบพระคุณพี่ธนาเป็นอย่างสูงอีกเช่นกันค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

หมดแล้วครับ...ขออภัยจริงๆ ที่ไม่สามารถขยายตัวอักษรได้ครับผม 

*******************************

น่าจะพออ่านกันได้ค่ะ ... ลองดูใหม่ค่ะ มีทั้งหมด 8 หน้า

ขอบคุณ ทุกท่านที่ให้ความกระจ่าง น่ากลัวจริงๆ แล้วลูกชัาง จะทำใงดี บุญที่ทำสะสมไว้ก็ยังใม่พอแน่ บ้านก็อยู่-ปู๊น-ใกลเสียด้วย แถมยังใม่มีโอกาศมาบ้านสวนพีระมิดสักที ความฝันสลายเพราะวันเข้าค่ายรุ่นที่ 8 เลื่อนวันไปเสียแล้ว  มีหวังน้ำท่วมแน่ๆ แถม ฝนก็ตกทั้งวันเสียด้วย ใม่เห็นแสงแดดอากาศก็หนาวผิดปกติทั้งๆที่หลายวันก่อนยังอากาศร้อนอยู่เลย  หวังว่าเหตุรัายยังใม่มาก่อนกำหนด

Every Body

 สุดท้ายรู้แล้วก็ปล่อยวาง เหลือแต่ความว่าง

 หากว่าเราจะตาย อย่างไรก็ต้องตาย หนีไม่พ้น

ทำใจให้สบาย ปล่อยวาง

เร่งสร้างบุญกุศล ไม่ประมาทคือ หัดตายก่อนตาย ดีกว่าครับ  

โอ้โห พี่แมว ขอบคุณมากครับ อย่างที่ท่านบอกไว้ช่วงสุดท้ายดีมากเลยครับ บทสรุป.   "ทุกอย่างลงสู่การรู้จักวางตัวมันเองทั้งนั้น จิตก็คือวางจิตนั่นแหละ" ตอนนี้เราห้ามภัยธรรมชาติไม่ได้ แต่เราห้ามกรรมชั่วของตัวเราเองได้ ปล่อยวางกรรมชั่วลง เดินทางกลับบ้านที่แท้จริงตามที่ท่านอาจารย์อุบลกำลังนำพาพวกเราไปดีกว่า   

ขออนุโมทนากับธรรมทานที่สุดยอดของพี่ธนาด้วยนะคะ

แต่สุดท้ายและท้ายสุด

ก้อยเห็นด้วยกับพี่แมวทุกประการค่ะ

ในเมื่อตอนนี้เรายังอยู่ในเมืองมนุษย์

เราก็ควรรักษาศีล 5

เคารพในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

และทำทุกอย่างตาหน้าที่ให้ดีที่สุด

และเมื่อเราตาย

จุดมุ่งหมายปลายทางมีจุดเดียว

ก็คือเข้าสู่พระนิพพานตามพระพุทธองค์

ลูกขอระลึกถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่

ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่ให้แสงสว่าง

ให้ลูกมีเส้นทางในชีวิตที่สวยหรูขนาดนี้เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

อยาก....กลับ....บ้าน!!

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลค่ะ  และอนุโมทนาบุญทุกท่านคะ่

ขอบคุณคุณมาร์ค เว็บมาสเตอร์มือขยันมากๆค่ะ ทำงานได้รวดเร็วทันใจ

และถูกใจแฟนคลับเว็บบ้านสวนฯเป็นที่สุ๊ดดดด....

และอนุโมทนากับคุณแมวด้วยนะคะ ที่ในที่สุดก็ "หนูทามได้"แย้ว ฮิฮิ

บอกแล้วฝ่ายเทคนิคในเว็บบ้านสวนฯต้องเป็นหน้าที่ของคุณแมวเหมียว..

ขอบคุณคุณธนาอีกครั้งนะคะ และอนุโมทนากับทุกๆท่านที่มาเฝ้าตามติด

การอัพเดทเรื่องภัยพิบัติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะถ่ายทอดโดยพระอริยสงฆ์หรืออริยบุคคลท่านใด

ก็จะมีเนื้อหาคล้ายๆกัน เพราะ"ท่านๆ"เหล่านั้น ได้รับรู้และได้เห็น "ความเป็นจริง"ที่จะเกิดขึ้น

ได้"เหมือนกัน"นั่นเอง

ทำใจให้สบาย หายใจช้าๆลึกๆ เอาเวลาที่เหลืออยู่ มานั่งคิดดีกว่าจะ"เตรียมตัว"อย่างไรต่อไป....

และลองค้นหาว่า ในแต่ละภาคของประเทศ บริเวณใดเป็นบริเวณที่ถูก"มาร์ค" ไว้ว่าจะเป็น

เขตปลอดภัย ถ้ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ทุกคนจะได้มุ่งหน้าไป ณ ที่นั้นๆ

ส่วนชาวบ้านสวนฯ ที่อยู่ใกล้บ้านสวนฯ คงโชคดีไป

เพราะรู้อยู่แล้วว่า "เขตบ้านสวนฯ" เป็น "เขตปลอดภัยพิบัติ" ชัวร์ๆ..

มีต่อ...ของคุณธนา อีก 4 หน้าค่ะ

(^/^) ขอน้อมอนุโมทนาบุญ กับ ทุกๆท่าน ด้วยนะครับ ที่ได้นำความจากครูบาอาจารย์ที่ได้เมตตากล่าวเตือนและจากการทราบต่อกันมา
ได้นำมาบอกต่อด้วยความห่วงใย หากมีโอกาสบุญสัมพันธ์กัน เราก็คงจะได้เจอกันนะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ...

ใครที่เข้ามา่อ่านแล้วรู้สึกเครียด สลด หดหู่ แลเหนื่อยใจ โปรดตั้งสติให้ดีๆ

อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้น ค้างอยู่ในใจเรานานเกินไปนะคะ

เพราะเราควรจะใช้เวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นมากที่สุด

ซึ่งจริงๆแล้วพวกเราทุกคนในนี้คือกำลังสำคัญ ที่มีหน้าที่

ที่จะ้ต้องแบ่งเบาภาระของอาจารย์อุบลให้มากที่สุดอีกด้วย....

โธ่

ช่วยแบ่งเบาภาระกันหน่อยนะ

คนดี

แค่นี้ ยังไม่ถึงวันจริง

อ.อุบล ก็แทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอนอยู่แล้ว

ให้มาช่วยกันหน่อยนะ หลายๆ คน

เพราะมันไม่ใช่หน้าที่

ของ อ.อุบล

คนเดียว

แต่

เป็นหน้าที่ของทุกคน

ที่ต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด

พึ่งผู้อื่นให้น้อยที่สุด ต่อจากนั้น ก็

ช่วยผู้อื่นด้วย ให้มากที่สุด

นะจ๊ะคนดี

อนุโมทนาค่ะอาจารย์ แบบว่าก็อปมาจาก กระทู้ "อานุภาพพีระมิดจำลองฯ"

บอกตัวเองเสมอว่า "อย่ากลัว" เพราะถ้ายิ่งกลัว ก็ยิ่งเกิด....นะจ๊ะ...

คลิกดูรายละเอียดตรงรูปค่ะ

[url=http://www.seasondl.com/index.php?topic=5653.0/][img]http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=612733&stc=1&d=1245191221[/img][/url]

ลองทำดูได้รึเปล่าหว่า

อิ อิ ไม่ได้ รายละเอียดที่ กระทู้นี้ค่ะ  www.seasondl.com/index.php

แล้วนครนายกหายไปไหนล่ะครับ

ขออนุมโทนาสาธุ  สาธุ  กับทุกข้อความที่ โพสต์มาเพื่อเตือนสติ

ส่วนตัวเองจะพยายามบอกต่อให้คนรอบข้าง ทำความดี รักษาศีล 5 ให้มั่นคง

เพื่อจะได้รอดพ้นภัยพิบัตในครั้งนี้ค่ะ  สาธุ  สาธุ

 มีหลากหลายท่านกล่าวว่า ด้วยพระอัจฉิริยะภาพและพระบารมีในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเรา พระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก นั้นมิได้เป็นเพียงบทพระราชนิพนธ์ธรรมดา แต่ยังบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าหลายๆอย่างไว้ในบทพระราชนิพนธ์ ทั้งจากรูปภาพและทุกพระอักษรที่ทรงพระราชนิพนธ์ เราลองมาดูกันนะครับ เผื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกๆคนในยามวิกฤตนี้

ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 8

จากตอนที่แล้วพระโพธิสัตว์ เมื่อทรงทราบว่า เรือจะต้องอับปางแน่นอน จึงได้รีบเสวยน้ำตาลกรวดคลุกกับเนยจนอิ่ม จากนั้นก็นำผ้าเนื้อเกลี้ยงสองผืนที่ชุบน้ำมันจนชุ่ม ทรงนุ่งให้กระชับ ประทับยืนเกาะเสากระโดง แล้วก็ทรงปีนขึ้นไปประทับยืนบนยอดเสากระโดงนั้น

ในเวลาเรือจมลง ก็ทรงกำหนดทิศที่ตั้งของเมืองมิถิลา แล้วก็กระโดดจากยอดเสากระโดงไปทางทิศนั้น ข้ามพ้นฝูงปลาร้ายไปตกอยู่ในที่ไกลจากเรือ 

พระมหาชนกนั้น ทรงเพียรแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทร จนถึงวันที่ ๗ ได้ทรงสังเกตเห็นพระจันทร์เต็มดวง ก็ทรงรู้ว่าวันนี้เป็นวันอุโบสถ จึงใช้น้ำทะเลบ้วนพระโอษฐ์ และทรงสมาทานอุโบสถศีล 

ในวันนั้น นางมณีเมขลาได้มาตรวจตรามหาสมุทร ก็เห็นพระมหาชนกโพธิสัตว์ กำลังทรงแหวกว่ายอยู่กลางมหาสมุทรจึงคิดว่า “ถ้าพระมหาชนกสิ้นพระชนม์ในมหาสมุทร เราจะมีความผิดอย่างมหันต์” จึงรีบเหาะมาสถิตอยู่ในอากาศ เหนือท้องมหาสมุทรตรงที่พระโพธิสัตว์กำลังว่ายน้ำอยู่

นางเกิดความอัศจรรย์ใจ ว่าแม้ฝั่งก็มองไม่เห็น แล้วพระองค์จะว่ายไปทำไม จึงถามว่า “ใครหนอ แม้จะแลไม่เห็นฝั่งก็ยังพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ท่านเห็นประโยชน์อะไรจึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้”

พระโพธิสัตว์ จึงตรัสตอบว่า “เราเห็นปฏิปทาของโลกและอานิสงส์แห่งความเพียร จึงพยายามเรื่อยไป หากไม่พากเพียรแล้วจะพบความสำเร็จได้อย่างไร”

นางมณีเมขลาได้ฟังความตั้งใจอันแน่วแน่ของพระโพธิสัตว์แล้ว ก็อัศจรรย์ เกิดกำลังใจใคร่จะฟังธรรมจากพระโพธิสัตว์ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จึงถามต่ออีกว่า “มหาสมุทรลึกจนประมาณไม่ได้ แม้ฝั่งก็ไม่ปรากฏ ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่านทำไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่ทันถึงฝั่งท่านก็จะต้องตายอย่างแน่นอน ท่านจะเพียรพยายามไปทำไมกัน”

พระมหาชนกตรัสว่า “ท่านพูดอะไรอย่างนั้น เราทำความพยายาม แม้จะตายก็พ้นคำครหา บุคคลเมื่อกระทำความเพียร แม้จะตายก็ได้ชื่อว่า ไม่เป็นหนี้ในระหว่างหมู่ญาติ กับทั้งบิดามารดาและเทวดา อนึ่ง บุคคลเมื่อทำกิจอย่างลูกผู้ชาย ย่อมไม่เดือดร้อนใจในภายหลัง ดูก่อนเทพธิดา บุคคลเมื่อทำความเพียร แม้จะตายก็ไม่เป็นหนี้ ย่อมไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่ญาติ แม้เทวดาและพรหมก็สรรเสริญ”

เทพธิดากล่าวแย้งว่า “ท่านมหาบุรุษ การงานอันใด แม้ทุ่มเทจนสุดกำลังแล้ว ก็ยังไม่บรรลุผลสำเร็จ การงานนั้นก็นับว่าไร้ผล เป็นความสูญเสียเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ การทำความพยายามในฐานะอันไม่สมควรจนตัวเองต้องตาย ความพยายามนั้นจะมีประโยชน์อะไร”

พระมหาชนกได้สดับแล้ว เมื่อจะทรงยืนยันว่าความเพียรเป็นสิ่งที่ควรทำ แม้ชีวิตจะวอดวายไปก็ตาม จึงตรัสต่อไปว่า “ดูก่อนนางเทพธิดา ผู้ใดรู้แจ้งว่าการงานที่ทำจะไม่ลุล่วงไปได้ ถ้าผู้นั้นละความเพียรนั้นเสีย ก็ชื่อว่าไม่รักษาชีวิตของตน พึงรู้เถิดว่า นั่นเป็นผลแห่งความเกียจคร้านโดยแท้ 

ดูก่อนเทพธิดา คนบางพวกในโลกนี้ มองเห็นผลแห่งความประสงค์ของตน จึงประกอบการงานทั้งหลาย ไม่ว่าการงานเหล่านั้นจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม 

ดูก่อนเทพธิดา ท่านก็เห็นประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ คนอื่นๆ จมลงในมหาสมุทรหมดแล้ว มีแต่เราคนเดียวยังว่ายอยู่ ก็เพราะความเพียรพยายามนี้เอง จึงทำให้เราได้เห็นท่านซึ่งมาสถิตอยู่ใกล้ๆ เรานั้นจักพยายามอย่างสุดความสามารถ จะทำความเพียรที่บุรุษควรทำ เพื่อไปถึงฝั่งแห่งมหาสมุทรนี้ให้จงได้”

เทพธิดาได้สดับพระวาจาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของพระโพธิสัตว์ ก็รู้สึกอัศจรรย์ในหัวใจที่ปราศจากความย่อท้อของพระมหาชนก นึกเลื่อมใสในคำภาษิตของพระองค์ 

จึงกล่าวสรรเสริญ พร้อมทั้งเชื้อเชิญให้ขึ้นจากมหาสมุทรว่า “ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ด้วยกิจคือความเพียรของบุรุษ ไม่ยอมจมลงในห้วงมหรรณพซึ่งกว้างใหญ่ประมาณมิได้เห็นปานนี้ ท่านนั้นจงไปยังสถานที่ที่ท่านชอบใจเถิด” 

เราจะเห็นได้ว่า ผู้มีความเพียรอย่างแท้จริงนั้น แม้ทอดสายตาออกไป จะไม่เห็นขอบฝั่งแห่งทะเล แต่จิตใจของท่านก็ไม่ท้อแท้ เมื่อรู้ว่าทะเลย่อมมีฝั่ง จึงคิดแต่จะว่ายไปให้ถึงฝั่งให้ได้ เมื่อเรี่ยวแรงยังไม่สิ้นสุด ท่านก็จะไม่หยุดยั้งในการทำความเพียร เพราะผู้ที่มีความเพียรแม้จะไม่สำเร็จก็ย่อมได้รับการสรรเสริญ 

ท่านทั้งหลาย คงได้ทราบถึงหัวใจที่กว้างใหญ่เกินฟ้าครอบของพระโพธิสัตว์กันแล้ว ว่าจะไม่ยอมหยุดทำความเพียรจนกว่าจะถึงเป้าหมาย แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต ซึ่งเมื่อนางมณีเมขลาได้ฟังถ้อยคำที่มุ่งมั่นของท่านแล้ว ก็ได้กล่าวสรรเสริญ 

เทพธิดาได้ถามพระโพธิสัตว์ว่า ท่านประสงค์จะไปในที่ใด เมื่อพระโพธิสัตว์ตรัสว่า มิถิลานคร นางจึงได้อุ้มพระมหาชนกโพธิสัตว์ขึ้นจากน้ำ โดยใช้แขนทั้งสองประคองให้นอนแนบทรวง พาเหาะไปในอากาศเหมือนมารดาอุ้มบุตรอันเป็นที่รัก ฉะนั้น

ขณะนั้น พระโพธิสัตว์มีผิวกายซูบซีดเศร้าหมองเปื่อยยุ่ย เพราะทรงแช่อยู่ในน้ำทะเลตลอด ๗ วัน ครั้นได้รับสัมผัสอันเป็นทิพย์ที่อบอุ่นนุ่มนวลของนางเทพธิดา ร่างกายก็กลับคืนสู่สภาพปกติได้บรรทมหลับไปอย่างมีความสุข 

นางมณีเมขลาได้นำพระมหาชนกไปถึงมิถิลานคร ให้บรรทมบนแผ่นมงคลศิลาในสวนมะม่วงโดยคลุมผ้าไว้ และมอบให้ภุมเทวดาในสวนอารักขาต่อไป แล้วจึงกลับไปสู่ที่อยู่ของตน

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=desertcity&month=09-2007&date=11&group=1&gblog=30

ที่มา : คุณเกษม : www.palungjit.com

 ในพระราชนิพนธ์พระมหาชนก
ตอนเรือของพระมหาชนกแล่นกลางมหาสมุทร และเผชิญกับพายุร้ายที่พัดโหมกระหน่ำจนเรือใกล้แตก พระองค์ทรงประเมินสถานการณ์ด้วยสติปัญญาว่าเรือต้องจมเป็นแน่ จึงทรงคิดหาทางเอาตัวรอดด้วยปัญญา พระองค์ไม่กลัว ไม่ฟูมฟายร่ำไห้อ้อนวอนเทพเจ้าให้ช่วยดั่งคนบ้าเช่นพ่อค้าวานิชทั้งหลาย ดังความในพระราชนิพนธ์ว่า

คัดลอกข้อความจาก นายกรเพชร - สายธารวรรณศิลป์ - ความสำเร็จแห่งชีวิต ใน พระมหาชนก (ตอนที่ 3) 

"เรือแล่นด้วยกำลังคลื่นที่ร้ายกาจ ไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ แผ่นกระดานก็แตกด้วยกำลังของคลื่น น้ำเข้ามาแต่ที่นั้นๆ เรือก็จมลงในกลางมหาสมุทร มหาชนกลัวมรณภัย ร้องไห้คร่ำครวญกราบไหว้เทวดาทั้งหลาย พระองค์ทรงทราบว่าเรือจะจม"

การพึ่งตนเองเป็นคุณสมบัติของนักปราชญ์ 
ดังพุทธสุภาษิตที่ว่า "อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" 
พระมหาชนกทรงคิดวิธีเอาตัวรอด

"จึงคลุกน้ำตาลกรวดกับเนย เสวยจนเต็มท้อง แล้วชุบผ้าเนื้อเกลี้ยงสองผืนด้วยน้ำมันจนชุ่ม ทรงนุ่งให้มั่น ทรงยืนเกาะเสากระโดง ทรงกำหนดทิศว่า เมืองมิถิลาอยู่ทิศนี้ ก็กระโดดจากยอดเสากระโดงล่วงพ้นฝูงปลาและเต่าไปตกในที่สุดอุสภะหนึ่ง (70 เมตร) เพราะพระองค์มีพระกำลังมาก"

มีคำถามว่า ทำไมพระมหาชนกต้องรีบเสวยน้ำตาลกรวดกับเนยจนเต็มท้อง ทรงเห็นแก่กินหรือ ในขณะเกิดพายุโหมกระหน่ำอย่างนี้ยังจะมีจิตใจแสวงหาของกินอยู่หรือ? 

ก็ต้องตอบว่า นี่คือความฉลาดรอบรู้ของพระองค์ ทรงมีสติคิดได้ว่า การเสวยน้ำตาลกรวดกับเนยนั้นจะให้พลังงานสูง ให้ความอบอ่นแก่ร่างกายได้เพราะพระองค์จะต้องกระโดดลงน้ำและต้องว่ายน้ำไป อีกไกลและนานแค่ไหนไม่รู้ได้ จึงต้องเสวยเอาพลังานไว้ให้มากที่สุดก่อน

อีกคำถามหนึ่งคือ ทำไมพระองค์ต้องเอาผ้าชุบน้ำมันพันกายให้กระชับมั่น คำตอบก็คือ ผ้าชุบน้ำมันนั้นจะไม่ชุ่มน้ำ อมน้ำจนทำให้ตัวหนัก และยังปกป้องร่างกายไม่ให้เปียกน้ำทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนในร่างกายไป

ส่วนที่พระมหาชนกปีนไปอยู่บนเสากระโดงเรือก็เพราะเสากระโดงสูงสมารถมองเห็น ไปได้ไกล สามารถกำหนดทิศทางที่จะว่ายน้ำไปยังฝั่งได้ อีกประการหนึ่งพระองค์สามารถกระโดดให้ห่างไกลจากเรือที่กำลังจมซึ่ง ท้องมหาสมุทรเต็มไปด้วยฝูงปลาและเต่าที่จ้องจะมากินคน



- จบข้อความที่คัดลอกมา-

ผมขอเปรียบเทียบด้งนี้....

เมื่อภัยจะมาถึงให้มีสติ และพึ่งตัวเอง อย่าเพียงคิดพึ่งเทวดา 

การเสวยน้ำตาลกรวดกับเนย อาจเปรียบถึงการเตรียมเสบียงอาหารอย่างฉลาด 

การใช้ผ้าชุบน้ำมันพันกาย อาจเปรียบถึงเสื้อชูชีพสำหรับลอยตัวในน้ำ 

การปีนขึ้นเสากระโดงเรือ อาจเปรียบถึงการขึ้นที่สูง 

การกำหนดทิศ อาจเปรียบถึงการมีเป้าหมายและมุ่งหน้าไปยังทิศที่ปลอดภัย 

การกระโดดออกให้ไกลจากเรือที่กำลังจะจม อาจเปรียบถึงการออกให้ไกลจากพื้นที่ซึ่งเสี่ยงภัย 
*** วิธีที่ดีที่สุดในการรับภัย คือ การหลบภัย ****


ในพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ยังมีเนื้อความว่า (ขอเล่าโดยย่อ) 
แม้ขณะพระมหาชนกท่านกำลังว่ายน้ำกลางมหาสมุทร และว่ายน้ำมาแล้วถึง 7 วัน
เมื่อทราบว่าเป็นวันวันอุโบสถ (วันพระ) ท่านก็สมาทานศีล 8 
แสดงให้เห็นว่าท่านย่อมมีศีล 5 เป็นปกติ และสมาทานศีล 8 ในวันพระ
อาจเปรียบถึงการมีศีล 5 และ ศีล 8 จึงจะปลอดภัย

นางมณีเมขลาเทพธิดามาช่วยหลังจากว่ายน้ำมาถึง 7 วัน 
อาจเปรียบถึง ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตนก่อน 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมช่วยผู้ที่คิดจะช่วยเหลือตัวเองก่อน
อาจเปรียบถึงการมีความเพียร อดทนจนกระทั่งหน่วยกู้ภัยหรือความช่วยเหลือมาถึง

ส่วนพวกที่ยึดเรือไว้ หวงเรือไว้ไม่ไปไหน หรือปล่อยไปตามยถากรรม หรือมัวอ้อนวอนเทพเทวดา ต่างกลายเป็นเหยื่อน้ำและสัตว์ในน้ำ

หากหลายๆท่านได้อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ที่พระองค์ท่านทรงเตือนผ่านบทพระราชนิพนธ์ และ ส.ค.ส ที่พระองค์ท่านพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย อ่านบทวิเคราะห์แล้วรู้สึกอึ้ง เพราะว่าทั้งรูปภาพและข้อความมีความหมายทั้งหมด เช่น พายุนากีส ที่เกิดขึ้นแล้ว และเหตุการณ์อื่นๆ ทุกอย่างเรียกว่า เป๊ะๆ ที่ระบุเหตุการณ์ต่างๆผ่านภาพและข้อความ แล้วจะรู้ว่าพระองค์รักพวกเรามากแค่ไหน

อ้อ ลืมบอกไปครับ กระทู้ล่าสุดด้านบนมาจากเวปพลังจิตเช่นกันนะครับ 

กราบคุณแม่ และ คุณพ่อ

                 และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                        ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่ 

                           ขออนุโมทนาบุญกับ พี่ชนิดา คุณธนา คุณแมว และ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่นำข้อความมาโพสต์ให้ได้อ่าน ครับ

               ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ได้นำข้อความมาใ้ห้อ่านกันค่ะ  และทุก ๆความคิดเห็นก็เป็นประโยชน์

                มาก ๆ เลยสำหรับการเตรียมจิตใจ  เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

                     อย่างแรกต้องเร่งเสบียงบุญให้มากขึ้น บ่อย ขี้นและไม่ปล่อยให้จิตตก

                                 มีคำถามเหมือนคุณอ๋อยค่ะ นครนายกจะหายไปด้วยหรือคะ