คำทำนายเรื่องภัยพิบัติปี54 และ...

คำทำนายเรื่องภัยพิบัติปี54 และ 55
ลูกขอกราบอาราธนาขอบารมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้โปรดปกป้องคุ้มภัยให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเุิุิถิด ถ้าการนำเสนอข้อมูลนี้เป็นการแทรกแซงกรรมผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ทำให้"ผู้อ่าน"เป็นทุกข์และจิตตก ยิ่งขึ้น ขอบารมีพระพุทธ จงดลบันดาลให้ผู้ที่เข้ามาอ่านทุกๆท่าน มีจิตหลุดพ้นและมีดวงตาเห็นธรรม และมีจิตที่เข้มแข็งและกล้าหาญ ด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ.. ชนิดาได้คัดลอกข้อมูลทั้งหมดโดยไม่ได้เรียบเรียงใหม่นะคะ เพราะคิดว่าแฟนคลับเว็บบ้านสวนฯส่วนใหญ่ ถือว่า ได้รับการฝึกจิตมาแล้วไม่มากก็น้อย ฉะนั้น เมื่ออ่านข้อมูลเหล่านี้ โปรดนำไปพิจารณาอีกที และอาจจะมีบางข้อมูลที่กล่าวซ้ำๆกันบ้าง และในบางข้อมูลก็อาจจะเขียนดูห้วนๆไปบ้าง.. หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆท่านนะคะ...
ผู้ตั้งกระทู้ ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-14 03:36:26

<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4] 5 6 7 8 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 301 (1539995)
สวัสดีค่ะ โมทนาสาธุกับทุกกระทู้ค่ะ ติดตามข่าวสารจากเวปบ้านสวนมาโดยตลอด มีประโยชน์มากๆๆ ขอกราบนมัสการนอบน้อมส้่งศักดิ์ในบ้านสวนทุกๆท่าน จงเมตตาช่วยปกป้องคุ้มครองรักษาลูกๆ หลานๆ ให้ปลอดภัยทุกๆคนด้วยเจ้าคะ ขอความอนุเคราะห์ส่งข่าว ถึงบ้านสวน คือได้้โอนเงินมาแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2554 เวลา 14.18 น. ประสงค์บูชาองค์พีระมิดจำลอง 5 องค์ และธนบัตรขวัญถุง จำนวน 3 ฉบับ จำนวนเงินที่โอน 1,300 บาท ตอนนี้ยังไม่ได้รับเลยคะ จากเชียงใหม่ กรุณาส้ง ธนพร เชียงพรหม ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนพร เชียงพรหม วันที่ตอบ 2011-04-12 12:18:38

ความคิดเห็นที่ 302 (1540021)

อนุโมทนาค่ะคุณเบณจรัตน์ จดหมายฉบับที่ 2 ความยาว 22 หน้า ได้ทั้ง

ความละเอียดของภัยซึนามิที่จะเกิดขึ้นในภาคใต้ การวางแผนการป้องกันอย่างละเอียดรอบคอบ

(อย่างกับวางแผนออกศึก) และที่สำัคัญได้รับรู้เรื่องประวัติศาสตร์ไทยในเชิงลึกมากขึ้น

และแล้วท่านพระยาเสือ ในอดีต หรือ ท่านพระอาจารย์ กัมมัฎฐาน ปวตตโน ในชาติปัจจุบัน

ท่านก็ได้กลับมาทำหน้าที่ของท่านอย่างสุดความสามารถ เพื่อปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของคนไทย

ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...... อีกครั้ง...

สำหรับเหตุการณ์บ้านเมือง ที่ผู้คนวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ อาตมาคิดว่า ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเกิดขึ้น คนไทยเราจะหันมาสามัคคีกันอีกครั้ง เพราะนิสัยคนไทยเราตั้งแต่สมัยโบราณอย่างหนึ่งคือ ยามศึกเรารบ ยามสงบเราตีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ซึ่งจะเป็นการเปิดช่องให้อริราชศรัตรู มาแสวงหาประโยชน์จากความแตกแยกของประชาชนชาวไทยเรา ดังเช่นเหตุการณ์ในปัจจุบัน และภายหลังเหตุการณ์ในปีนี้ อาตมาขออาสาเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชาวไทยทั้งประเทศมาสามัคคีกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด พุทธ คริสต์ อิสลาม จะเล่นกีฬาสีอยู่สีอะไรก็ตาม สีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน สีกากี สีขี้ม้า สีเขียวฯลฯ แต่ทั้งหมดคือพวกเราก็คือ “คนไทย”เหมือนกัน เรามีในหลวงและพระราชินี พระบรมสานุวงศ์ ที่เป็นร่มโพธิสมภารของพวกเรา

กราบอนุโมทนาสาธุ กับท่านพระยาเสือ หรือ พระกัมมัฎฐาน ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด วันที่ตอบ 2011-04-12 15:19:51

ความคิดเห็นที่ 303 (1540253)

หลายๆท่านอาจจะ"อ่าน"เรื่องภัยพิบัติจนเบื่่อ หรือ เบื่อที่จะอ่าน แล้วก็ได้

เพราะช่วงนี้มีแต่"คำทำนาย" ออกมามากมาย บางคนก็คิดไปว่าเป็นกระแสบ้าง

แต่ไม่ว่าใครจะมองหรือคิดอย่างไรก็แล้วแต่ จงพึงระลึกอยู่เสมอว่า "อย่าประมาท"

และจงหมั่นทำแต่ความดีทั้งระดับทาน ศีล และภาวนา

และชนิดาก็ไปเจอ คำเตือนล่าสุดที่น่าสนใจ ซึ่งประเด็นหลักที่น่าสนใจ ก็คือ

ต่อจากนี้ไปไม่ควรทานอาหารทะเล และจำพวกสัตว์ปีกอีกต่อไป แม้กระทั่งไข่ก็อันตรายเ่ช่นกัน...

สรุปว่า หันมาทาน"เจ" ปลอดภัยและปลอดบาปที่สุด..ค่ะ

ถ่ายทอดผ่านท่านผู้รับผิดชอบด้านภัยพิบัติ จากเบื้องบน วันที่ 12 เม.ย.54

ค่ำ คืนของวันที่ 12 เมษายน 2554 เวลา 18.45 น. จากปากคำของท่านผู้หนึ่งจากเบื้องบน (ลักษณะของท่านผู้นี้เหมือนเซนทอร์ คือ ครึ่งบนเป็นคน ครึ่งล่างเป็นม้า หน้าตาคลายชาวละตินอเมริกัน ผิวสีแทน ผมยาวถึงเหนือราวนม หยักศก กำยำ มีกล้ามครบทุกมัด)

ตามสาส์ นจากผู้ทรงศีล เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา ท่านว่าให้ระวัง ดูสัญญาณวันที่ 12 เมษายน (จะมีฝนตก และสัญญาณจากที่ต่าง ๆ ท่านให้สังเกตุ) และแล้ว วันที่ 12 ก็มาถึง ทั้งที่อากาศร้อนทั้งวัน และช่วงเย็นบางครั้งก็มีฝนตกซู่ลงมาบ้าง แต่ไม่เคยหนัก แต่พอเวลา 17.30 น.ท้องฟ้ามืดครึ้มเห็นเมฆคล้ำลอยมาแต่ไกล ฟ้ากระหึ่มเหมือนตีกลองรบ รัวและแรงแทบไม่ขาดระยะ ฝนเริ่มตกลงมาพร้อมกับลมที่แรง ค่อนข้างน่ากลัว ออกไปดู ฝนตกแรงมากจริงๆ แบบที่ไม่มีเค้ามาก่อนในหลายวันที่ผ่านมา ดิฉันจำต้องออกเดินทางไปอยู่เวรยามกับสามีที่วิทยาลัยฯ ตามหน้าที่ แต่ก็กังวลเล็กน้อย ตามที่ปู่ได้บอกไว้ แต่ก็ต้องไปแต่ก่อนออกไปปู่บอกว่า ไปเถอะ ไปทำหน้าที่ อย่าทิ้งหน้าที่ ดิฉันจึงตัดสินใจออกไป

พอ ออกไปนอกบ้าน ฝนสาดมาไม่ขาดสาย เพียงแต่เป็นเพียงฝนเม็ดไม่โตนัก ไม่น่ากลัวเหมือนมองอยู่ในบ้าน (เราต้องสัมผัสด้วยกายนะอันนี้ ดูด้วยตาเปล่าไม่ได้เลย คิดว่าหนัก แต่ไม่หนักอย่างที่คิด) ก่อนขึ้นรถเบื้องบนให้ชูมือ โบกไปทั่วบ้านแล้วว่าคาถาปลอบประโลมที่เคยให้ได้เช่นเคย humburabi zugaya ว่าแบบนี้อยู่หลายรอบแล้วขึ้นรถ ท่านให้ไปบอกพี่สาวท่านนึงที่เรานับถือว่า "ให้ดูน้ำ ระวังน้ำ" พอไปบอกพี่สาวบอกว่า "รถกำลังรอช่าง น้ำกลั่นหมด" (เหตุการณ์นี้ พี่สาวโทรมาบอกตอน 22.49 น. ว่า "เกิดจากน้ำกลั่นอย่างเดียวจริงๆ น้ำกลั่นหมด พอเติมไปก็วิ่งฉิว พาลให้เราได้คิดเลยว่า น้ำเพียงเล็กน้อยนี้ ช่างมีอิทธิพลต่อพวกเราจริงๆ น้ำมากไปก็ลำบาก น้อยไปก็ลำบาก" )

ขณะเดินทางมีท่านผู้ หนึ่งจากเบื้องบน (ที่อธิบายลักษณะไปแล้วข้างต้น) ได้ส่งวาจากบอกเรื่องราวไว้เยอะ เกี่ยวกับโลก ณ ปัจจุบัน ท่านว่า "ปีศาจใต้ทะเล กำลังเริงร่า มิได้เป็นการกลั่นแกล้ง เพียงแต่เป็นหน้าที่ ที่ได้ลงนามสัญญาไว้เป็นหมื่น ๆ ปีมาแล้ว พวกข้าก็เช่นกัน มีหน้าที่ในการสร้างภัยพิบัติให้เกิดแก่โลก หากไม่ทำ ก็หมายความว่า ข้าละทิ้งหน้าที่ มันเป็นเพียงหน้าที่เท่านั้น และหากไม่ทำต่อไป จิตมนุษย์นั่นแหละที่จะเผาผลาญ รอนราญเผาไหม้ จิตมนุษย์ด้วยกันเองเป็นไฟ โลกก็จะยิ่งระอุมากยิ่งขึ้นเท่านั้น" บางส่วนดิฉันก็ไม่สามารถจะจดจำได้หมด จึงหาปากกามาจดไว้ ได้ความบ้างดังนี้

1) จากนี้เรา (กลุ่มของท่านผู้นี้) จะทำงานกัน 2 ทิศในประเทศนี้ (ไทย) คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ น้ำจะเซาะร่องเขา โคลนไหลไม่เหลือแม้แต่หญ้า ตกลงมารวมกันตรงกลาง (ภาพที่เห็นไม่ได้หมายความว่าถล่มมากมายนะคะ แต่หมายถึงภูเขาทางทิศดังกล่าวจะไหลลงแบบที่ว่า ภูเขาทางเหนือ จะไหลฝั่งทิศใต้ ภูเขาทางใต้จะไหลด้านทิศเหนือ ดังนั้นตรงกลางของภาคกำลังจะตกอยู่ในอันตราย) ท่านว่าเมื่อใด ที่เริ่มเห็นสัญญาณนี้ จังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่ตอนกลางของทิศตะวันออก 3 จังหวัดจะต้องเริ่มระวัง

2) จังหวัดที่ประมาทไม่ได้คือ นครสวรรค์ คนไทยจะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน แต่อย่าลืมว่า น้ำจะหนุนท่วมได้แน่นอน อย่าประมาท)

3) 13 เมษายน 2554 อุณหภูมิจะอยู่ที่ 27-34 องศา ไม่ร้อนจัดไม่หนาวจัด (แต่สำหรับดิฉันคิดว่าร้อนนะ)

4) จอมพล......... (อยู่ต่างประเทศ - เพื่อนบ้าน ) จะเลื่อนตำแหน่งคนวงในให้สูงขึ้น (ขออภัยไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ สุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวเองอย่างมาก)

5) ข้อนี้สำคัญมากเลย เพราะมีการเอ่ยชื่อประเทศด้วย คือ ทะเลจะหนุ่นสะเทือนจากใต้พิภพ และเอ่อท้นเป็นวงกว้าง (ถามแล้ว ท่านว่าไม่หนักหนาเหมือนสึนามิ) ทั่วทุกประเทศที่ติดกับมหาสมุทร จะเกิดภัยได้ แหล่งแรกที่เกิดภัยคืออเมริกา แห่ลงตามมาคือเนเธอร์แลนด์ สาร ที่ปล่อยสู่ทะเลไปนั้นเหนือการคาดเดาของมนุษย์ เขาไม่ได้ปิดข่าว แต่พวกเขาไม่รู้ได้ เพราะวิทยาการของโลกเบื้องบนนั้น ยิ่งใหญ่และกว้างไกลเกินกว่ามนุษย์บนโลกจะคาดเดาได้สิ่งสำคัญ ณ ขณะนี้คือ

อย่า ลงน้ำทะเลในช่วง 2-3 เดือนนี้เป็นอันขาด เพราะจะได้รับสารพิษนั้นโดยตรง (ภาพที่เห็นคือ พอมือจุ่มลงน้ำ ก็เห็นว่าปลายนิ้วมือเป็นเป็นสีม่วงคล้ำ และเริ่มดำลง น่ากลัว)

เมื่อเดินทางออกไปไหน ให้สวมใส่เสื้อ กางเกงที่ปกปิดมิดชิด เพราะจะได้รับสารนี้จากทางอากาศ (ภาพที่เห็นคือ คนที่สวมเสื้อแขนสั้น พอเหงื่อออก จะเห็นน้ำเหงื่อผุดมาพร้อมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ คน ๆ นั้นจะรู้สึกเหมือนร้อนผิดปกติ ร้อนจนแทบทนไม่ได้) สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นโรคติดต่อ เพราะมันไม่สามารถติดต่อได้จากคนสู่คน แต่ติดได้จากพาหะในอากาศ ในน้ำทะเลเท่านั้น

ดังนั้น พวกเจ้าอย่ากินอาหารทะเลในช่วงนี้ สัตว์ปีกก็อันตรายเช่นกัน พวกไข่ไก่ หากจะซื้อมาเก็บไว้ ให้ซื้อไว้ตั้งแต่รอบนี้ เพราะหากรอไปอีกเพียงเดือนเดียว แม้ไข่ไก่ก็จะไม่ปลอดภัย (ดิฉันเข้าไปดูฟาร์มไก่ เค้าเลี้ยงไก่ด้วย เปลือกของสัตว์ทะเล เพื่อเสริมแคลเซี่ยมให้เปลือกไข่แข็งแรง จึงทราบสาเหตุว่าทำไมไข่ และ ไก่-เป็ด จึงไม่ปลอดภัยเช่นกัน)

6) อย่ากักตุน ดื่มกิน ของหมักดอง ของเมา หากใครได้ติดสารนี้เข้าไปในร่างกายแล้ว ยังกินสิ่งพวกนี้เข้าไปอีก จักยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายอ่อนแรง และเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว นักวิทยาศาสตร์ก็หาสาเหตุไม่ได้ มักตีความไปว่าอาหารเป็นพิษ ตับแข็ง หรือ ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ

นอกจากนั้นท่านยังให้รีบบันทึกข้อความนี้ด้วยความรวดเร็ว (ตอนจด ดิฉันอยู่ในรถ แต่ก็รีบเท่าที่จะเก็บมาได้) ดังนี้ "

พวกข้าจักสรรเสริญพวกเจ้าไซร้

หากช่วยกันยกระดับจิตใจคน

เทวดาจักสวดมนต์หากพวกเจ้าทำความดี เวลานี้อย่าจรลีหนีหน้า

อย่าทำตัวโอหังอหังการ์ พื้นพสุธามิรอใคร

หากผู้ใดกระทำผิด มวลหมู่ชีวิตจะหาไม่ไ

ม่ต้องคอยหลบลี้หนีภัย อีกไม่นานจิตสว่างไซร้จักคืนรังใ

ห้พวกเจ้าเร่งกำลังทำไปก่อน แล้วจักได้หย่อนใจในภายหลัง

หากมัวแต่พะว้าพะวัง พักผ่อนอย่างเดียวนั้นจะบรรลัย

พวกมนุษย์จักหนีหน้า หมู่นกกาจักอาศัย

หลบบนเรือนหนีโพยภัย ส่วนพวกเจ้าไซร้ไปอยู่รังอี

กมินานฟื้นคืนถิ่น เข้าสู่ดินแดนแห่งความหวัง

พวกเจ้าจงปลอบใจหมู่ชนด้วยพลัง จงสร้างสรรค์ความงามทางจิตใจ

ไอ้พวกระเบิดปรมาณู มิได้อยู่บนพสุธาที่อาศัย

ผู้ทำความงามให้บรรลัย พวกมันแหละไซร้จักถูกกลืนกิน

โลกจักเกิดอาเพท ไปทั่วเขตแดนดับดิ้น

พสุธาสร้างฤทธาเป็นอาจิณ น้ำไม่สูญสิ้นพลังภัย

พวกเจ้าจงทำดีให้เป็นนิจ ทำเป็นกิจอย่าสงสัย

แล้วจักรอดพ้นบ่วงภัย กันพิษต่างต่างได้นานัปประการ"

สิ่ง เหล่านี้ ดิฉันไม่ได้คิดแล้วพิมพ์เอง แต่ได้รับสัญญาณนี้มาจริง จากนั้นท่านผู้นี้บอกว่าจะไปทำงาน กระทำภัยต่อ ท่านจากไปตอน 19.30 น. พอดิบพอดี

จากนั้นเกลอเก่าจากดาว Alumianus ก็มา และบอกว่า คืนนี้ (วันที่ 12) จะมีงานของผู้นำที่อเมริกา ทุกคนจะร่วมอวยพร ชื่นมื่น และแฝงเรื่องของการเมือง และสงครามไว้ด้วย Juyulis บอกว่า เป็นครั้งแรกที่เค้าต้องเข้าไปแฝงตัวกับมนุษย์ แต่กระนั้นก็ส่งไปได้แต่สัญญาณภาพ เพราะมนุษย์ก็ยังคงไม่สามารถสัมผัสกายพวกเค้าได้ จะเป็นอันตรายต่อตัวมนุษย์เอง

นี่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นอีกเหมือนกัน เพราะถึงขนาดว่าเกลอดิฉันต้องทำงานด้านนี้ ทั้งที่มีหน้าที่ชี้จุดที่จะเกิดภัยพิบัติ แต่กลับต้องไปทำหน้าที่นี้ชั่วคราว (เลยทำให้ดิฉันและสามีเดาว่า ผู้ทำหน้าที่ภัยพิบัติไปลงภาคสนาม ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มอัตราศึกแล้วก็เป็นได้ จึงไม่มีใครว่างพอจะทำงานนี้อีก จึงต้องให้ Juyulis มาทำแทนก็เป็นได้ นี่เป็นเพียงการคาดเดานะคะ เพราะเค้าก็ไม่ได้บอกอะไรเราเหมือนกัน)เมื่อคืนที่ฝนตก มันตกแค่รอบหมู่บ้านที่ดิฉันอยู่เท่านั้น รอบนอกหมู่บ้าน ถนนแห้งเลย ไม่มีตกเลยค่ะและเหล่านี้คือข้อความที่ได้รับมาเมื่อคืนนี้ค่ะ (เมื่อคืนตอน 20.19 น. เสียงนกบินกลับรัง ร้องเหมือนตีฆ้องบอกภัยพวกพ้องเค้ายังไงไม่รู้ อาจคิดไปเอง แต่ก็เป็นการยากที่นกจะกลับรังตอนสองทุ่มกว่าแบบนี้ ก็น่าคิด เพราะท่านตูนีคีย่าเคยบอกไว้ว่าให้ดูสัญญาณจากนกด้วย)

*** หมายเหตุ *** กรุณาอ่านและใช้วิจารณญาณ พิจารณาด้วยจิตตนนะคะ สวัสดีค่ะ

http://www.facebook.com/Baansanghangtaam

ที่มาข้อมูล

http://board.palungjit.com/f2/%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%99-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-12-%E0%B9%80%E0%B8%A1-%E0%B8%A2-54-a-287576.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด วันที่ตอบ 2011-04-15 05:01:02

ความคิดเห็นที่ 304 (1540256)

ขออนุโมทนากับพี่ชนิดาสำหรับธรรมทาน

ข้อมูลเตือนภัยด้วยน่ะค่ะ

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา คู่วิรัตน์ (นู๊ปุ๊ก) วันที่ตอบ 2011-04-15 08:11:56

ความคิดเห็นที่ 305 (1540281)

ขอบพระคุณมากค่ะ

พี่จ๋าว เป็นบุญของเกดจริงๆ

ที่ได้อ่านกระทู้นี้ เกดขอปรึกษาพี่ชนิดา

หน่อยค่ะ คือว่า สิ้นเดือนเนี๊ยะ(30/4/54)เป็นวันเกิด

ของลูกชาย (สามี(พี่ตี๋)) แล้วเค้าอยากไปทะเลเกดก็บอกต่างๆ นาๆ

แล้วว่าไม่ควรไป แต่เค้าก็จะไปกัน (เค้าคงไม่เชื่ออ่ะค่ะ) รวมทั้งพี่ตี๋ด้วย

เกดจะทำยังไงให้พวกเค้าเลิกล้มความตั้งใจนี้ดีค่ะ เกดไม่อยากไป

แต่ถ้าพี่ตี๋ไปเกดก็ต้องไปด้วย แล้วเค้าก็ตามใจลูก เกดจะทำ

ยังไงดี รบกวนผู้รู้ช่วยแสดงความคิดเห็น บอกคนโง่ๆ

คนนี้ด้วยเถอะค่ะ ขอขอบพระคุณอย่างสูง

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊กตาฝน (tee-ged-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-15 13:13:25

ความคิดเห็นที่ 306 (1540308)
ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ ธรรมทาน ของคุณชนิดาด้วยค่ะ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ปรางทิพย์ วันที่ตอบ 2011-04-15 21:22:15

ความคิดเห็นที่ 307 (1540392)

หนูเกดถามคำถามยากจัง คิดว่า คำถามแบบนี้ต้องเป็นคำถามยอดฮิตติดในใจของทุกๆท่าน

ที่ได้เข้ามาอ่านและได้รับรู้เรื่องภัยพิบัติแบบนี้ทุกๆคนแน่ๆ

แล้วก็หาคำตอบได้ยากซะด้วยสิ..น้องเกดเอ๋ย...

เอางี้นะ ไม่ตอบคำถามได้ไหม๊ แต่ขอตั้งคำถามกลับไปว่า...

ถ้าเกดยืนอยู่บนฝั่ง แล้วมองเห็นพี่ตี๋กำลังดำผุดดำโผล่อยู่ในน้ำ

อาจจะจมก็ได้เพราะสายน้ำไหลแรงมากๆ ถามว่าเห็นแบบนี้ แล้วหนูเกดจะทำยังไง..

1. ด้วยความรักมาก ไม่ได้คิดอะไร เห็นแบบนั้น ก็รีบโดดลงไปช่วยทันที

แต่ตัวเองว่ายน้ำแข็งพอรึเปล่าไม่รู้ ไม่ได้คิด เพราะมัวแต่ห่วงชีวิตคนอื่น

2. พอจะ"ตั้งสติ"ได้ ก็เลย หาเชือกยาวๆ กะว่าโยนไปให้พี่ตี๋จับเพื่อลากมาขึ้นฝั่ง

แต่ถ้าทำแบบนี้ต้องโยนให้ดีๆนะ เผื่อโยนพลาดไปตีหัวคุณพี่ตี๋สลบไปก่อน ก็ไม่รอดเหมือนกัน...

ฮ่า ฮ่า มีให้เลือกแค่สองข้อ.. ถ้าเลือกข้อหนึ่ง เราก็ต้องทำใจ ทำไงได้รักจนเกินห้ามใจ

แม้ตายก็ยอม..(ซึ้งซะไม่มี) ถ้าเป็นแบบนี้จะให้ทำยังไงล่ะจ๊ะหนูเกด อาจารย์อุบล

ถึงได้ย้ำนักย้ำหนาว่า "ฝึกให้ตัด" มิใช่ "ให้ผูก" แต่ถ้าตัวเองว่ายน้ำแข็งพอ รับมือได้

กระโดดลงไปช่วยทัน ก็รอดหมู่ แต่ถ้าัตัวเองเอาชีวิตตัวเองยังไม่รอด

กระโดดลงไปปุ๊บก็ลงไปตายเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง....

ส่วนถ้าเลือกข้อสอง การยื่นเชือกให้จับ ก็เหมือนกับการให้"ธรรมะ" หรือ คำเตือน

และคำสอนต่างๆแก่เค้า แต่ถ้าเค้าไม่คว้าเชือกเอาไว้ หนูเกดจะทำยังไง

หรือโยนเชือกไป แต่เค้ามองไม่เห็น หรือมองเห็นก็ไม่อยากคว้าไว้ เพราะอาจจะคิดว่า

ระดับน้ำไหลแค่นี้ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย จะตื่นเต้นไปทำไม.. เพราะเค้าพอใจที่จะ

ว่ายน้ำดำผุดดำโผล่ของเค้าไปแบบนั้นเรื่อยๆ

ฉะนั้น คำตอบที่เกดอยากได้ก็อยู่ใน"คำถามเหล่านี้"แหล่ะ...

พยายามพิจารณาดูวิธีที่อ.อุบลใช้สื่อกับพวกเรา ที่พวกเราฟังแล้ว ทำไมเราเชื่อทันที

คำพูดแบบไหน หรือวิธีการแบบใดที่อาจารย์ทำมาโดยตลอด แต่ที่รู้กันชัดๆ

สิ่งที่อาจารย์มีมาโดยตลอด ก็คือ ความอดทนอย่างต่อเนื่อง พร่ำสอนและพูดมานาน

ฉะนั้น เกดไปพูดแค่ไม่กี่ครั้ง จะให้เค้าเชื่อและทำตามใจเราต้องการเลย..มันอาจจะ"ยาก" ก็ได้

ฉะนั้น ก็ให้เวลาแก่เค้า แล้วก็ให้เวลาตัวเองด้วย... ดีไหม๊...เพราะดูๆแล้ว

พี่ตี๋เค้าก็เชื่อเรื่อง กฏแห่งกรรม และไปที่บ้านสวนฯมาแล้ว ไม่น่าจะ"ยาก"เท่าไหร่นะ พีว่า..

ฉะนั้น จึงต้องอดทน อดทน และเมตตาต่อทุกๆคน

อย่าไปหงุดหงิดถ้าเค้าไม่ทำตามที่เราบอก..นะจ๊ะ..

ป.ล. แล้วคุณพี่ตี๋ ไม่คิดจะว่ายน้ำเข้าหาฝั่งเองบ้างเหรอ..เนี่ย...ฮิฮิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด วันที่ตอบ 2011-04-17 03:36:14

ความคิดเห็นที่ 308 (1540393)

และนี่เป็นคำเตือนล่าสุด จากคุณ Kananun จากเว็บพลังจิต เมือวันที่ 15/04/11

ในขณะนี้ มีภัยพิบัติเล็กๆน้อยๆกระจาย

ตัวเพิ่มขึ้นมาเป็นระลอกในหลายพื้นที่ครับ

1.โรคระบาดเริ่มค่อยๆเกิดขึ้น เช่นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่

เริ่มระบาดในหลายประเทศ โดยเฉพาะทางอเมริกา และยุโรป

ทางไทยเราตอนนี้โรคท้องร่วงและอหิวาตกโรคก็ระบาด

โดยเฉพาะหน้าร้อนและเทศกาลแบบนี้

รักษาสุขภาพกันด้วยครับ

2.วิกฤตการขาดน้ำจืดน้ำสะอาดของโลก อันรวมไปถึงการขาดน้ำ

เพื่อการเกษตร กำลังจะนำไปสู่ทุพภิกขภัย ครั้งใหญ่

ขณะนี้มีการยิงดาวเทียมเพื่อตรวจดูแหล่งน้ำจืดบนโลกอย่างเดียวโดยเฉพาะ

และต่อไปการคุมอำนาจโลกจะขยับเปลี่ยนจากน้ำมันมาเป็นน้ำ

ไทยเราเองขณะนี้ทางเหนือ ทางอีสาน

และอีกหลายจังหวัดก็แล้งขาดน้ำกันมากครับ

ดังนั้น บอก เตือนให้เพื่อนๆเราในทุกจังหวัด

เร่งเก็บกักน้ำ เตรียมน้ำดื่มน้ำสะอาดเอาไว้กันครับ จะได้ไม่ลำบากกันมาก __________________
จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป

http://board.palungjit.com/f178/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%86%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88-3906-1215.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด วันที่ตอบ 2011-04-17 04:05:50

ความคิดเห็นที่ 309 (1540395)

การเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ ที่อาศรมพรหมธาดา

ครูบาเจ้าตรัยเทพ จันทวัณโณ ท่านพำนักอยู่ที่อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน ตั้งอยู่บนภูเขาลูกหนึ่งในอำเภอ จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านครูบาเจ้าตรัยเทพ จันทวัณโณ เป็นชาวเชียงใหม่ตั้งแต่กำเนิด บิดาทำอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ ส่วนมารดามีอาชีพเป็นแม่บ้าน ท่านครูบาเจ้าสนใจการปฏิบัติ ภาวนา ศึกษาธรรมมะมาตั้งแต่เยาว์วัย มีโอกาสได้เข้าศึกษาธรรมมะและวิชาความรู้ต่างๆ กับท่านครูบาอาจารย์หลายท่าน ทั้งที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ และเป็นฆราวาส ซึ่งล้วนเป็นที่นับถือของประชาชนทั่วไป

awinchita สมาชิก

เมื่อวานได้พาเพื่อนจาก กทม.ไปกราบพระเจดีย์ และกราบครูบาเจ้าตรัยเทพที่อาศรมพรหม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พอดีได้มีโอกาสคุยกับลูกศิษย์ของท่านที่มาจากดูไบ บอกว่าที่อาศรมตอนนี้ครูบาท่านให้ตุนอาหารไว้เตรียมรองรับภัยพิบัติไว้แล้ว เพราะอีกหน่อยท่านบอกว่าผู้คนจะหนีตายมาพึ่งที่นี่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลอาศรมพรหมธาดา จะครอบคลุมดูแลในรัศมี 3 กิโลเมตร

ฝากข่าวไว้เผื่อใครอยู่ใกล้ หากเกิดภัยพิบัติก็สามารถไปที่นี่ได้อีกแห่งหนึ่ง และอีกแห่งหนึ่งคือ พระบรมธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า จะทรงพระพุทธศาสนาจนครบ ๕,๐๐๐ ปี (หาอ่านจากประวัติของวัดพระธาตุฯได้)

15-04-2011, 02:07 PM

ที่มา

http://board.palungjit.com/f178/พญานาค-อภิญญา-กับ-ภัยพิบัติโลก-285626-5.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด วันที่ตอบ 2011-04-17 04:12:11

ความคิดเห็นที่ 310 (1540458)

อนุโมทนาบุญค่ะ คุณชนิดา..

ได้ความรู้ตรึมเลยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ สุขวัจนี วันที่ตอบ 2011-04-17 16:41:03

ความคิดเห็นที่ 311 (1540516)

ขออนุโมทนาในธรรมทานค่ะ ปูเลยได้อนิสงค์

ไปจัดการกับสามีจอมดื้อเช่นกันค่ะขอบคุณคุณชนิดาและคุณเกด

ที่ตั้งคำถามดีดีเป็นประโยชน์ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ วันที่ตอบ 2011-04-17 23:37:42

ความคิดเห็นที่ 312 (1540589)
อนุโมทนาบุญกับน้องชนิดาค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น สวรส วันที่ตอบ 2011-04-18 13:10:09

ความคิดเห็นที่ 313 (1540607)

สาธุ้......

หลายๆ ค่ะพี่จ๋าว

เกดซึ้งมากค่ะ และก็เข้าใจทุกอย่าง

เกดอยากให้พี่ตี๋มาอ่านกระทู้มั่งจัง แต่คงยาก

เวลาจะให้อ่านทีไรต้องบังคับ พอเกดพูดบ่อยๆ เค้าก็รำคาญ

เวลาเกดเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับในกระทู้เค้าก็ไม่ค่อยเชื่อ(ดูจากสีหน้านะค่ะ)

เกดบอกให้อ่านกระทู้เยอะๆหน่อยจะได้รู้อะไรมากขึ้น เค้าก็ฟังเกด

ไปอย่างงั้นแหละ เกดตัดสินใจแล้วค่ะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

อย่างที่อ.แม่ บอกการพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมชาติ

พี่ตี๋เค้าเป็นคนที่รักลูกไม่ถูกทางหน่ะค่ะ

ตามใจเรื่อยเปื่อย ขนาดข่าวเค้า

ออกมาอย่างนี้ยังจะไปให้ได้

กลัวลูกเสียใจที่ไม่ได้ไป

สรุป เกดไม่ไปดีกว่า

เค้าอยากไป

ช่างเค้า

เกดก็บอกว่า

วันเกิดให้ไปสร้างบุญที่

บ้านสวนดีกว่า ลูกจะได้มีสิ่งดีๆ ในวันเกิด

เค้าก็กลัวเสียเวลา กลัวเปลืองน้ำมัน กลัวลูกไม่ไป

ไม่เข้าใจความคิดเค้าเลย ขอบคุณพี่ชนิดามากนะค่ะเป็น

นางฟ้าที่อยู่ในใจเกดจริงๆ สาธุ

คุณปูขา

(หัวอกเดียวกัน)

เอาเป็นว่าพยายามให้สามี

คุณปูไปบ้านสวนได้เร็วๆ นะค่ะ เกดขออวยพร

ให้สามีคุณปูมีจิตเข้าถึงธรรมในเร็ววันค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ๊กตาฝน (tee-ged-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-18 15:30:24

ความคิดเห็นที่ 314 (1540699)

สาธุกะธรรมทานที่คุณชนิดาแสนดี นำมาอัพเดทให้ทุกท่านได้อ่านกันตลอดๆๆ นะคะ

สาธุ สาธุ ด้วยคนนะคะ เนื่อจากสามีพี่ก็ไม่ยอมเข้าถึงธรรม ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย

แค่บอกให้สวดมนต์ก่อนนอนยังไม่ทำเลย ขอให้คุณปู คุณเกด ได้นำพาสามีไปบ้านสวน

ให้ได้ด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ วันที่ตอบ 2011-04-18 22:30:56

ความคิดเห็นที่ 315 (1540718)

ขออนุโมทนาและขอบคุณพี่ชนิดาในความดีทุกประการของพี่นะคะ

และขอเป็นกำลังใจให้คุณเกด คุณปู และทุกท่าน (รวมถึงตัวเองด้วย)

ให้รวบรวมกำลังใจที่เข้มแข็งไว้ให้ได้ทุกคนนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร วันที่ตอบ 2011-04-18 23:16:47

ความคิดเห็นที่ 316 (1540776)
ขอบคุณคุณชนิดามากๆ ค่ะ ที่ให้ข้อมูลเป็นธรรมทาน และช่วยเตือนสติให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง...ให้ปฎิบัติอยู่ในศีลในธรรม สาธุ ค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น รัชฎาพร วันที่ตอบ 2011-04-19 10:40:41

ความคิดเห็นที่ 317 (1540843)

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง กับคำเตือนของทุกๆ ท่าน และทุกๆ ความคิดเห็น หนูจักช่วยเผยแพร่คำเตือนนี้เท่าที่หนูจะทำได้นะค่ะ

สุดท้ายขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยนะค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุตามณฑน์ พูลผล วันที่ตอบ 2011-04-19 13:30:53

ความคิดเห็นที่ 318 (1540881)

ขออนุโมทนาในทุกธรรมทานและความหวังดี

ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันของทุกๆท่าน ทุกๆข้อมูลมีค่ามหาศาล

ขอให้มนุษย์ทุกๆคนรอดปลอดภัย ด้วยเทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su22-at-windowslive-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-19 15:40:37

ความคิดเห็นที่ 319 (1540896)

ขอขอบคุณในกำลังใจดีดีค่ะ

ปูคิดว่าถ้าวันนึงเรามีบารมีมากพอก็คงจะสามารถ

ชักนำเค้าได้ตอนนี้ต้องสั่งสมบารมีด้วยการทำตัวเองให้ดีก่อนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ วันที่ตอบ 2011-04-19 16:17:08

ความคิดเห็นที่ 320 (1540987)
ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา (iceteaza-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-19 21:23:46

ความคิดเห็นที่ 321 (1541664)

สวัสดีค่ะ เพิ่งมาเจอเวบนี้ค่ะ ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร

แต่ขออนุโมทนา ทุก ๆ ท่านที่นำข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ พร้อมแนวทางแก้ไข มาให้รับทราบ ค่ะ

ขออานิสงค์นี้หนุนส่งให้ทุกท่านแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งมวล ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น phontawa lastthink วันที่ตอบ 2011-04-22 13:10:44

ความคิดเห็นที่ 322 (1541766)

ยินดีด้วยค่ะ คุณ Phontawa

ที่ได้มารู้จัก เวปบ้านสวนพีระมิด

อนุโมทนาด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-23 00:35:25

ความคิดเห็นที่ 323 (1541788)

ข้อความเหล่านี้เขียนโดย คุณ Aunyasit แห่งเว็บพลังจิต พิจารณาดูนะคะ น่าสนใจทีเดียว...

ยังดีที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านให้สร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ไว้ เพื่อขอพระบารมียับยั้งภัยพิบัติสำหรับผู้ที่อยู่ในศีลธรรมและผู้บำเพ็ญบารมีอยู่ในร่มโพธิ์ของพระศรีฯ

ก็ได้แต่หวังว่า "พระตถาคต" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำบรรจุพระบรมสารีริธาตุส่วนต่างๆ ทั้งห้าพระองค์ (ที่ พระมหากัสสปะสร้างจากพุทธดำรัส(สร้างล่วงหน้า) เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวพุทธผู้ที่ถูกฆ่าและทำลายในประเทศอินเดีย จนพุทธศาสนาล่มสลายในกาลต่อมา) และนำมาประดิษฐานในที่เร้นลับ 5 แห่งในสุวรรณภูมิ(เขตประเทศไทย)

พระตถาคต เป็นพระพุทธรูปที่วิเศษ พูดได้แบบคน สอนธรรมได้เหมือนพระพุทธเจ้า(คุณวิเศษของพระบรมสารีริกธาตุของแท้) ครูบาอาจารย์หลายรูปท่านได้รับธรรมจากพระตถาคต เช่น พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ทองทิพย์ จ. หนองคาย ดังที่หลวงปู่ท่านบอกว่า "เฮา เรียนธรรมกับพระพุทธเจ้า บ่เห็นโต(ตัว) ในวันงานบุญสำคัญท่านจะเสด็จมาที่วัด มาอยู่ที่ต้นโพธิ์ เป็นแสงสว่างเท่าผลส้ม ตอนดึกๆ ท่านก็เสด็จกลับ" และพ่อแม่ครูบาอาจารย์มหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด เมื่อพระตถาคตไปเยี่ยมหลวงตาบัว หลวงตาท่านก็จะปิดกุฏิสนทนาธรรมกับพระตถาคตจนพระตถาคตเสด็จกลับ และ หลวงปู่ศรี จ.หนองบัวลำพู ผู้ที่เฉียดตายมาหลายครั้ง เมื่อใกล้จะตายทุกครั้ง พระตถาคตก็จะเสด็จมารักษาโรคให้ พระตถาคตท่านบอกว่า เป็นการตอบแทนที่ท่านเคยอุปัฏฐากพระตถาคต นอกจากนั้น พระตถาคตก็ยังได้สนทนากับบุคคลสำคัญของประเทศในหลายวาระ ท่านเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น ผู้มีบุญญฤทธิ์ทั้งสิ้น

นี่แหละแผ่นดินไทย จึงเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีศีลธรรมซึ่งปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์จะสามารถรอดจากภัยพิบัติ ได้ด้วยบารมีแห่งพระพุทธองค์

และหากไม่สามารถอัญเชิญพระตถาคต ขึ้นมาปรากฏได้ทันเวลา เมื่อท่านรามสูรผู้ยิ่งใหญ่กลับเข้าไปสู่โลกภายในซะก่อน มหาวิบัติก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเช่นกัน

และเมื่อถึงเวลา พระตถาคตทั้งห้าพระองค์จะได้ถูกอัญเชิญขึ้นมาเพื่อสอนโลก
พระมหากัสสปะ ท่านก็จะปรากฏและอัญเชิญพระคถาคต ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ขึ้นมาและจะมีการสถาปนา พระยาธรรมิกราช ให้ปรากฏแก่ชาวโลก และศาสนาจะเป็นหนึ่งเดียว และ ราชอาณาจักรไทยก็จะเป็นมหาอำนาจของโลก

แม้ว่าจิตของพระพุทธองค์และพระอรหันต์ จะเข้าพระนิพพานไปแล้ว แต่ธาตุตัวแทนท่าน ยังอยู่ก็สามารถเป็นตัวแทนทำหน้าที่ได้เช่นกัน(ศีลธรรมของพระพุทธองค์และพระ อรหันต์) เมื่อครบห้าพันปีจึงจะถึงวาระรวมธาตุ เทศนาธรรมเจ็ดวัน เจ็ดคืน เข้าสู่ "ธาตุนิพพาน"

พระตถาคต ทั้งห้าพระองค์ จะเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ที่ จ. หนองคาย ถ้าใครโชคดีมีวาสนา ก็จะได้อยู่รอดูความเจริญรุ่งเรืองของพระศาสนาในยุคศิวิไล หลังจากมหาภัยพิบัติผ่านพ้นไป

ความลับสวรรค์ พูดมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ

******************************************

ที่จริงการสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย วิธีแบบนี้ ผมทำมานานหลายปีแล้ว เมื่อจะทำงานหรือทำพิธีบางอย่างก็ต้องถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นครูบา อาจารย์เสียก่อน ว่าทำอย่างไรถูกต้องและบรรลุวัตถุประสงค์ได้ง่าย รวมทั้งถามเรื่องมารและอุปสรรคต่างๆ

ที่ปรึกษาใหญ่ของผมคือ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ก็สื่อสารกับท่านมามากกว่า 5 ปีแล้ว บางครั้งก็ถามหลวงปู่ทองทิพย์ หรือบางเรื่องที่พระท่านไม่ตอบ ก็จะถามปู่ฤษีองค์ต่างๆ ถ้าหากจะไล่ลำดับภพชาติ ลำดับยุคสมัย ก็ต้องถามปู่ฤษี เพราะพระท่านจะไม่ค่อยตอบเรื่องพวกนี้ เนื่องจากผมมีครูบาอาจารย์เป็นปู่ฤษีมากมาย ก็ถามองค์โน้นบ้าง องค์นี้บ้าง แล้วมาประกอบกัน จากนั้นก็ไปในสถานที่ที่ตนเองเคยอยู่ของภพชาติเดิมแล้วก็พิสูจน์ ถามภพภูมิจิตวิญญาณที่เขายังไม่จุติ ถ้าเราเคยเกี่ยวข้องกันเขาก็มาทักทาย ชื่อที่เขาเรียกเราก็คือชื่อเดิมในอดีต ก็ถามเขาในเรื่องที่เราสงสัย ถ้าเป็นจริงก็สามารถพิสูจน์ได้ไม่ยาก รู้แล้วก็ทิ้งไป หากมีภาระที่ต้องสงเคราะห์ก็ทำไป ก่อนทำก็อธิษฐานถามครูบาอาจารย์เสียก่อน

เรื่อง ภัยพิบัติก็เช่นกัน ส่วนใหญ่ผมไม่ได้ถามครูบาอาจารย์หรอก เพราะเบื่อที่จะรู้แล้ว เมื่อครูบาอาจารย์ท่านมา ท่านบอกเอง อย่างในคราวที่ปู่ฤษีจักรวาล(พระอริยฤษี)ท่านลงมาอัญเชิญญาณพระแก้วมรกตไปสถิตที่องค์พระศรีฯ ที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ (เรื่อง ญาณพระแก้วมรกตนี่หลวงปู่ทวดท่านเคยบอกผมมาก่อนหน้าแล้วว่า ในงานสมโภชน์พระอุปคุต(วันมาฆบูชา)นั้นพระแก้วมรกตท่านจะเสด็จมาเป็นประธาน ให้จัดพิธีให้ถูกต้องสมบูรณ์) จากนั้นไม่นานปู่ฤษีจักรวาลท่านก็ลงมาอัญเชิญญาณพระแก้วมรกต เมื่อเสร็จแล้วปู่ฤษีจักรวาลท่านก็บอกว่า "ให้ลูกหลานเร่งสร้างบารมีกันนะ ภัยพิบัติเข้ามาใกล้ตัวมากแล้ว" ท่าน ประกาศบอกเทพเทวาว่า ให้เว้นไว้เฉพาะมนุษย์ที่มีศีลธรรมเท่านั้น มนุษย์ผู้ไม่มีศีลธรรมจะตายหมด ท่านก็บอกว่าท่านเองก็สงสารมนุษย์แต่กรรมมนุษย์มีมาก ก็ต้องให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรม

อย่างหลวงปู่ทวด ท่านก็ปรารภเรื่องภัยพิบัติเหมือนกัน ท่านบอกว่า "ภาคใต้นั้นที่น้ำ มันท่วมเพราะแผ่นดินมันยุบตัว" ผมก็ถามว่า "ยุบถึงขนาดไหนปู่" ท่านบอกว่า "ยุบถึงยอดเขา" ท่านบอกว่า "น่าสงสาร สมเพท เวทนามาก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม้แต่พระอริยะก็ไม่สามารถยับยั้งภัยพิบัติได้" แต่ท่านบอกว่า "ไม่ต้องตื่นตระหนก ตกใจ ไม่ใช่จะเกิดในวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน มันจะค่อยเป็นค่อยไป ให้หมั่นสร้างบุญกุศลไว้"

ผมถามหลวงปู่ทวดแม้กระทั่งว่า "ตอนปู่เหยียบน้ำทะเลจืด ปู่เหยียบยังไง ใช้เท้าไหนเหยียบ ทำไมน้ำเค็มถึงจืดได้" ปู่ทวดท่านบอกว่า "ไม่ ใช่ว่าเหยียบ ปู่เดินไปที่ท้ายเรือแล้วก็ใช้เท้าขวาหย่อนลงในน้ำแล้วก็อธิษฐานว่าทุกอย่าง คือสมมติ น้ำเค็มก็เป็นสมมติ ก็ขอให้น้ำนี้ใช้ดื่มกินได้" หลวงปู่บอกว่า "ปู่ทำแค่นั้น ทำภายนอกเป็นสัญญลักษณ์เท่านั้น ที่เหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านทำ เทวดาที่เขาอนุโมทนาบารมีกับหลวงปู่เขาเป็นผู้ทำ" ท่านบอกว่าผู้ที่ปฏิบัติถึงระดับนี้ อย่าง "ทองทิพย์ ชินบัญชร มหาบัว ก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะทำได้แต่เฉพาะปู่"

ผมก็ถามเรื่องกรุงเทพฯว่า "กรุงเทพฯจะจมน้ำเมื่อไหร่ปู่" ท่านไม่ตอบ ท่านตอบแต่เพียงว่า "ไอ้ชายแกจะให้ปู่เป็นผู้ทำนายทายทักเรอะ" ผมก็เลยไม่ได้ถามต่อ ก็เข้าใจว่าถ้ากรุงเทพฯจะจมน้ำเมื่อไหร่ หลายๆหลวงปู่ท่านคงจะมาบอกผมแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมัน ครับ

สิ่ง ที่น่ากลัวในกรุงเทพฯ ในเวลาอันใกล้นี้ ผมคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ที่จะพัฒนาเป็นสงครามกลางเมือง ซึีงผู้คนจะล้มตายกันอีกมาก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Aunyasit : 14-04-2011 เมื่อ 05:21 AM

*******************************************************

เรื่อง การปฏิบัติ วิธีที่ผมให้ลูกศิษย์ผมทำ ไม่ยากเลยครับ ผมทำโดยการให้เขาอธิษฐานขันธ์ห้าเป็นขันธ์กรรมฐาน มี ธูป 10 ดอก เทียน 10 เล่ม ดอกบัว 10 ดอก หมากพลู 5 คำ ถวายบูชาพระพุทธองค์และอธิษฐานถึงครูบาอาจารย์ของเขา ให้เขาสามารถสื่อสารถกับครูบาอาจารย์ของเขา ผมเองทำแค่ช่วยอธิษฐานหรือเชื่อมญาณให้เท่านั้น จากนั้นก็ให้เขาพากันนั่งสมาธิ เท่าที่เห็นภายใน 1 เดือน ถ้าเขามีหน้าที่มาในศาสนา เขาจะสามารถเชื่อมญาณวิถีเดิมของเขาได้ไม่ยาก และสามารถสื่อสารกับครูบาอาจารย์ภายในของเขาได้เลย ทีนี้เขาก็มีครูของเขาคอยแนะนำการปฏิบัติเอง บางคนสื่อสารกับครูบาอาจารย์ยังไม่ค่อยได้เพราะครูบาอาจารย์ภายในส่วนใหญ่ ท่านจะใช้ภาษาจิตสื่อสาร นักปฏิบัติใหม่ๆจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง ผมก็จะให้เขาสื่อสารทางข้าง คือให้คนที่สามารถสื่อสารกับครูบาอาจารย์ภายในได้ชำนาญแล้ว ช่วยสื่อสารให้และก็บอกต่อ ครับ

สำหรับคนที่จะเข้ามาฝึกด้วยวิธีนี้ได้ ผมจะตรวจก่อน โดยการอธิษฐานรู้ด้วยตัวเองบ้าง หรือบางครั้งก็จะถามครูบาอาจารย์ว่า คนนี้มีวาสนามาสร้างบารมีกับกลุ่มผมหรือไม่ ถ้าเขามีวาสนามาผมก็จะให้เขาขึ้นกรรมฐาน อธิษฐานถวายขันธ์ห้า หน้าองค์พระ ก็เป็นอันเสร็จหน้าที่ผม ที่เหลือเขาก็จะบำเพ็ญภาวนา ทำความสงบตามความหนัดของแต่ละคน เมื่อเขาสงสัยหรือติดขัดอะไร ก็ค่อยมาคุยกัน ตอนนี้มีเด็กหนุ่ม ราวๆ 20-24 ปี ประมาณ 20 กว่าคน สามารถเข้าถึงครูบาอาจารย์ทางจิตวิญญาณของเขาได้แล้วด้วยวิธีแบบนี้

เด็กพวกนี้ผมจะคัดเลือกเอาเฉพาะคนที่ถูกกำหนด(ส่งมาเกิด)มาทำหน้าที่ในทาง พุทธศาสนาร่วมกับผมเท่านั้น บางคนเขามีบริวารของเขา เขาก็จะคัดเลือกชักจูงกันมาเอง และมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่เขามีสิ่งเหล่านี้ติดตัวมา แม้เขาอาจจะมีที่มาต่างกันแต่เมื่อมีหน้าที่มาในศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือครูบาอาจารย์ที่อยู่กับเขา ก็จะบอกเองว่าต้องมาทำอะไร ซึ่งหลายคนที่ผมกล่าวถึง ต่อไปจะเป็นกำลังสำคัญของศาสนา ในยุคนี้เทพพรหม จะมีหน้าที่ลงมาดูแลศาสนา ในช่วงเวลาแบบนี้ ครูบาอาจารย์ท่านอนุญาตให้ใช้วิธีการขึ้นกรรมฐานแบบนี้เนื่องจากต้องเร่งให้ ผู้ที่จุติลงมาทำหน้าที่ทางศาสนา เข้าถึงสภาวะและหน้าที่ของตนเองให้เร็วขึ้น

สำหรับที่ จ.ภูเก็ตนั้น ผมมีอดีต อยู่ที่เขานาคเกิด เทวดาเขามาตามให้ไปเปิดพระพุทธบาทแห่งนึงที่เขานาคเกิด เขาแสดงภาพให้ดูและบอกตำแหน่งมาให้ทราบแล้ว แต่ผมยังไม่มีเวลาไป ก็กะว่าจะหาเวลาลงไปเปิดพระพุทธบาทเอาบุญซะหน่อย ก่อนที่คลื่นซึนามิ ขนาดเท่าเกาะภูเก็ตจะเข้ามาซะก่อน เคยเห็นในนิมิต เป็นคลื่นขนาดเท่าเกาะภูเก็ต คลื่นม้วนตัวซัดเข้ามาบนเกาะครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งคน กระเด็นกระดอน กระจายไปทั่วเกาะ ส่วนใหญ่คลื่นจะม้วนเอาจมไปในน้ำ ภาพน่าสมเภทเวทนาแบบหลวงปู่ทวดท่านบอกนั่นแหละครับ

สำหรับ เรื่องภัยพิบัติที่กล่าวถึงกันเกี่ยวกับเมืองกาญจนบุรี เข้าใจว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ภาคตะวันตก แถว จ.ตาก และ จ. กาญจนบุรี จะมีความเสี่ยงในเรื่องของภัยพิบัติมากขึ้น เนื่องจาก พระพุทธรูปที่มีพุทธานุภาพ สามารถยับยั้บภัยพิบัติได้( 1ใน 5 พระองค์ที่พระมหากัสสปะท่านสร้าง ภายในบรรจุด้วยพระบรมสารีริกธาตุ)นั้น จะมีการอัญเชิญเสด็จสู่ จ. หนองคายในเดือนพฤษภาคม(เป็นพระบัญชาของพระตถาคต) ซึ่งหลังจากนั้นผมเข้าใจว่าเขตภาคตะวันตกก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิด ภัยพิบัติ เนื่องจากพุทธานุภาพของการยับยั้ังภัยพิบัติในเขตนั้นจะลดลง

อย่าง ไรก็ตาม คนในภาคตะวันตกนั้นต้องกราบขอบคุณหลวงตาบัว(พระนเรศวร์หรือพระองค์ดำ-ท่านละ แล้วผมเลยพอจะเปิดเผยได้ว่าใครเป็นใคร) ที่ท่านเมตตาให้อัญเชิญพระพุทธรูปที่มีมหาพุทธานุภาพ 1 ใน 5 มาไว้ที่เมืองกาญจน์ เพื่อจุดประสงค์ของการสงเคราะห์ในภูมิภาคนั้น แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องอัญเชิญกลับแล้ว

อีกไม่นานจากนี้ไป ผมคิดว่า จะสามารถรวบรวมพระพุทธรูปที่พระมหากัสสปะท่านสร้างได้ครบทั้ง 5 พระองค์ บางพระองค์ตอนนี้ก็ยังอยู่ในมิติเร้นลับ เมื่อถึงเวลาก็ต้องอัญเชิญเสด็จมา อันนี้เป็นหน้าที่ของพระมหากัสสปะ ผมมีหน้าที่รับช่วงต่อจากท่านอีกทีนึง นี่แหละคือการหน้าที่ทางศาสนา สร้างบารมีกันมาแบบนี้ ตั้งแต่สมัยพระเวสสันดร จนถึงพุทธกาล มาทำหน้าที่ในยุคสร้างพระธาตุพนม หน้าที่ในยุคของพระเจ้าอโศก ฯลฯ จวบจนถึงยุคปัจจุบันต้องลงมาสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เมื่อเป็นลูกหลานพระเวสสันดรมา ก็ต้องมาทำหน้าที่ในศาสนาของท่าน จากยุคนี้ไปจนกว่าจะถึง 5000 ปี หลวงปู่ทวดท่านบอกว่า เทวดาเขาจะให้ผมลงมาทำหน้าที่อีกครั้งนึง คือลงมาบูรณะพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ กระนั้นก็ยังไม่หมดหน้าที่ ในยุคพระศรีฯก็ต้องไปทำหน้าที่ให้พระศรีฯท่านอีก จนสิ้นภัทรกัปป์นี้

ก็ขอให้อ่านด้วยความพิจารณา ครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Aunyasit : 17-04-2011 เมื่อ 02:08 AM

ที่มาข้อมูล

http://board.palungjit.com/f178/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2555-2560-%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%86%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-273906-6.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-23 07:59:24

ความคิดเห็นที่ 324 (1541799)
ขอบคุณคุณชนิดามากค่ะ ที่สรรหาข้อมูลดีๆมาเผื่อแผ่
ผู้แสดงความคิดเห็น พเยาว์ นนทวงศ์ (tingnaja-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-23 10:42:10

ความคิดเห็นที่ 325 (1541808)
อ่่่ามาแล้วถูกทุกความคิดเห็น สุดท้ายสรุปว่า ทุกอย่างบนโลก นี้ ไม่ว่าคน สัตว์ พีช แม้แต่สิ่งประดิษฐ์ มีชีวิต ไม่มี ชีวิต รากเง้าของสิ่งเหล่านี้เกิดจากธรรมชาติ แล้วเมื่อธรรมชาติจะให้ตายสูญสลาย หายไป ก็ไม่มีอะไรแย้งได้ และก็ไม่ผิด ที่ธรรมชาติจะให้ใครอยู่ใครไป อยู่มาถึงขนาดนี้แล้วขอขอบคุณธรรมชาติ ที่ให้เรามีโอกาสตรงนี้ และหากเราทำอะไรเป็นที่โกรธ ไม่ถูกต้อง ก็ขอ อโหสิกรรมต่อกันไปเลยในภพนี้ ในโลกใบนี้ เผื่อจะไปเกิดในโลกใหม่ภพใหม่ จะได้ไม่ตามไปสู้รบ กับโลกใบใหม่ต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ เกิดแสงสว่าง
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้มาจากธรรมชาติ วันที่ตอบ 2011-04-23 11:49:29

ความคิดเห็นที่ 326 (1541827)

เกดขอกราบขอบพระคุณอันสูงส่งของ

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระพุทธรูป 5 พระองค์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก

ลูกขอบารมีของท่านช่วยให้ลูกและผู้มีพระคุณของลูก

และผู้ที่เคยได้ร่วมสนธนาธรรมกับลูกทุกคน

ได้รอดพ้นภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

ให้ได้อยู่เห็นยุคศิวิลัย

ที่จะมีขึ้นใน

อนาคตกาลเทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-23 15:59:11

ความคิดเห็นที่ 327 (1541875)

ขออนุญาติกับ อ.อุบลค่ะ

คือหนูขออนุญาติคัดลอกข้อความที่เป็นประโยชน์มาใส่ใน word นะคะ(เพื่อนำมาอ่านค่ะ)

สายตามองคอมมากมันปวดตาน่ะคะ

ขอความกรุณาจากอาจารย์ด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น aemon ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-23 23:22:20

ความคิดเห็นที่ 328 (1541892)

วันที่ 23 เมษายน 2554

ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก ‘ท่านผู้เตือน’
ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว
ข้อความบางอันที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่เตือนเฉพาะบุคคลก็ได้ถูกตัดออกด้วย

ข้อความมีดังนี้

---------------------------------------------------------------

ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะเกิดบนแผ่นดินไทยใจกลางกรุง
มนุษย์ทุกวันนี้อยู่ด้วยความประมาท มิสนใจทำความดีกัน
ความดีไม่ทำยังทำความชั่วอีก ถ้ายังมีสติจงรีบแก้ไข

การเตรียมตัวก่อนภัยจะมาถึงตัว จงตั้งหมั่นอยู่ในความดี คิดดี ด้วยจิตใจ
อย่าทำเพียงให้ตนรอด การทำเช่นนั้นจะยิ่งไม่มีประโยชน์
ก่อนภัยจะมาถึง จะมีพายุเข้า ฝนจะตกหนัก ลมจะแรงมาก
ฟ้าจะร้องติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน บ้านเรือนจะพังด้วยรับความรุนแรงไม่ไหว
น้ำจะตีเข้ากรุงเทพทุกทิศ ผู้คนมากมายไม่ทันตั้งตัว จึงมีผู้เสียชีวิตทันทีมากมาย
ฟ้าที่ดังกึกก้องมีความรุนแรงจนทำให้แก้วหูเราแตกในทันที
ความรุนแรงทำให้ตึกสูงทรุดตัวเข้าทับกันเป็นจำนวนมาก
ถนนสีลมจะมีความรุนแรงมาก จะมีแผ่นดินไหวที่นั้นด้วย

ผู้มีบุญจงรวมตัวกัน จงช่วยกัน
ถ้าทุกคนมีความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือกัน ไม่เห็นแก่ตัว จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
จงอยู่รวมกันโดยใช้สติ ให้ทุกคนนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่ง คิดถึงคุณพระศรีอาริยะเมตไตรย์
ขอบารมีพระองค์ทรงคุ้มครองและส่งบุญบารมีให้มนุษย์ผู้อื่นด้วย
ขอบุญบารมีจงถึงมนุษย์ผู้กำลังตกอยู่ในภัยพิบัติ ขอจงรอดพ้นจากภัยพิบัติเทอญ

ก่อนวันที่น้ำจะเข้ากรุงเทพสองวัน จะมีฝนตกหนัก
จนบางคนไม่สามารถจะออกไปทำงานได้ แต่ผู้ที่ห่วงงานก็จะไปทำงาน
จงระวังตัวให้มากโดยเฉพาะถนนสีลมจะมีปัญหามาก จงใช้ทางอื่น
สองวันนี้จงอย่านำรถไป มีอันตรายมากเดี๋ยวจะเป็นห่วงรถ

วันนั้นในบางสถานที่จะมีการรวมตัวกัน แต่คืนนั้นคนบางส่วนจะไม่กล้าหลับเพราะความกลัว
จงมีสติ จงเตรียมตัวให้พร้อม ข้าวปลาอาหารน้ำดื่ม
ในบางสถานที่แม้น้ำจะมากแต่ก็ไม่รุนแรง แต่เสียงของฟ้าจะดังมากจนหูแทบแตก
จงหาอะไรอุดหูไว้พอจะช่วยได้
ความแรงของน้ำในบางสถานที่จะรุนแรงมาก

จะทำอะไรก็รีบทำเดี๋ยวจะไม่ทัน

- จบข้อความ -

---------------------------------------------------------------

ข้อสังเกตและความเห็นจากผู้เขียน

1. " วันที่ควรต้องระวัง 16 - 18 มิถุนายน 2554 จุดสังเกตก่อนวันที่น้ำจะเข้ากรุงเทพสองวัน จะมีฝนตกหนัก
ระวังตัวให้มากโดยเฉพาะถนนสีลมจะมีปัญหามาก จงใช้ทางอื่น สองวันนี้จงอย่านำรถไป"
คงหมายถึง รถยนต์ส่วนตัว จะมีอันตรายมากเดี๋ยวจะเป็นห่วงรถ
ใครที่มีรถส่วนตัวต้องเช็คเรื่องประกันรถที่ตัวเองมีอยู่นะครับว่าครอบคลุมถึงภัยจากน้ำท่วมหรือภัยพิบัติหรือไม่

2. "ในบางที่แม้น้ำจะมากแต่ก็ไม่รุนแรง แต่เสียงของฟ้าจะดังมากจนหูแทบแตก
จงหาอะรไอุดหูไว้พอจะช่วยได้" "จงหาอะไรอุดหูไว้พอจะช่วยได้"
คงต้องหาทีี่อุดหูเตรียมไว้ใกล้ ๆ มือ อย่าเก็บไว้ลึกลับมากเดี๋ยวหาไม่เจอ หยิบไม่ทัน

3. "อย่าทำเพียงให้ตนรอด การทำเช่นนั้นจะยิ่งไม่มีประโยชน์"
"ผู้มีบุญจงรวมตัวกัน จงช่วยกัน ถ้าทุกคนมีความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือกันไม่เห็นแก่ตัวจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
จงอยู่รวมกันโดยใช้สติ ให้ทุกคนนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่งคิดถึงคุณพระศรีอาริยะเมตไตรย์
ขอบารมีพระองค์ทรงคุ้มครองและส่งบุญบารมีให้มนุษย์ผู้อื่นด้วย
ขอบุญบารมีจงถึงมนุษย์ผู้กำลังตกอยู่ในภัยพิบัติ ขอจงรอดพ้นจากภัยพิบัติเทอญ"
ต้องพยามเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะไม่เป็นภาระ และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ไม่เตรียมพร้อม
ถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมอาหารน้ำดื่ม ชูชีพ ที่อุดหูและอื่น ๆ สำหรับเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นด้วย

4. "ก่อนภัยจะมาถึง จะมีพายุเข้า ฝนจะตกหนัก ลมจะแรงมาก ฟ้าจะร้องติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน"
ถ้าวันที่ 16 - 17 มิถุนายน 2554 มีอะไรแปลก ๆ ดูท่าทางไม่ดี ให้ยึดหลักว่าไม่ประมาทและปลอดภัยไว้ก่อน น่าจะดีที่สุดนะครับ
ควรเร่งสร้างความดีเผื่อว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2554 จะเป็นวันสุดท้ายของบางคน

5. "จงอยู่รวมกันโดยใช้สติ ให้ทุกคนนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่งคิดถึงคุณพระศรีอาริยะเมตไตรย์
ขอบารมีพระองค์ทรงคุ้มครองและส่งบุญบารมีให้มนุษย์ผู้อื่นด้วย

ขอบุญบารมีจงถึงมนุษย์ผู้กำลังตกอยู่ในภัยพิบัติ
ขอจงรอดพ้นจากภัยพิบัติเทอญ"
พวกเราอย่าเห็นแก่ตัว และต้องมีสติ แผ่เมตตาให้กัน
และมีคำยืนจากท่านผู้เตือนว่ายังไม่ใช่ภัยพิบัติใหญ่ครั้งสุดท้ายนะครับ ยังจะมีตามมาอีก
ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบสิ้นหรือโลกจะแตก เป็นภัยพิบัติอีกครั้งหนึ่งที่มีความเสียหายมาก มีคนตายมาก

********************************************************

ผมเห็นในหลายๆ ความคิดเห็นของบางท่าน
ถามในลักษณะที่ว่ามีอะไรเป็นหลักฐานยืนยัน
หรือต้องการทราบความจริงและหลักฐานที่สามารถอธิบายได้

ผมมีคำถามเช่นเดียวกันครับว่า ในขณะที่ภัยพิบัติได้เกิดขึ้นแล้วเกือบทั่วโลก
ท่านมีหลักฐานอะไรยืนยันบ้างหรือไม่ว่ามันจะไม่เกิดในประเทศไทยหรือในกรุงเทพ

ผมเข้าใจว่าที่ท่านถามหาหลักฐานคงหมายถึง "หลักฐานทางวิทยาศาสตร์"
ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามารถรับรู้ได้โดยผ่านเฉพาะ อายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย

ผมมีหลักฐานมากมายว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นั้นก็มีความผิดพลาด
หรืออย่างน้อยก็คงมีคนเจตนาปกปิด หรือบิดเบือน

หลักฐานของผมก็คือ ประเทศญี่ปุ่น อเมริกา และอีกหลายๆ แห่งในโลก
หลักฐานของผมคือ ถ้าหลักฐานวิทยาศาสตร์ใช้ได้จริงกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง เช่น ญี่ปุ่น
คงไม่ประสบกับความสูญเสียมากขนาดนี้

ก่อนหน้าที่จะมีท่านผู้หนึ่งเตือนว่าอาจมีภัยพิบัติในวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 นั้น
ครั้งหนึ่งในการสนทนาผมได้สอบถามกับท่านผู้เตือนว่า
ช่วยเตือนภัยหรือบอกเหตุการณ์อื่น ๆ ล่วงหน้าได้ไหม
ช่วยบอกเหตุการณ์อื่น ๆ ที่จะเกิดก่อนวันที่ 18 มิถุนายน 2554 เป็นระยะ ๆ ได้ไหม
ถ้าเหตุการณ์มันตรงจะได้มีคนเชื่อคำเตือนมากยิ่งขึ้น
ผมยังถามต่อไปว่าการกระทำอย่างนี้ของผมจะเป็นการกระทำการเกินตัว เกินกำลังหรือไม่
หรือเป็นการไปฝืนกฏแห่งกรรมเกินไปหรือไม่ (ผมค่อนข้างระมัดระวังเรื่องนี้)

ท่านตอบว่า (ผู้เขียนจำเนื้อหาของข้อความได้แม้ไม่ใช่ชนิดคำต่อคำ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่ายังคงจำใจความสำคัญได้)
ท่านว่า "ไม่ต้องพยายามขนาดนั้น ผมไม่ต้องไปพยายามขนาดนั้น"
"คนที่จะเชื่อเขาก็เชื่อเอง ส่วนคนที่ไม่เชื่อเขาก็ไม่เชื่อ เป็นอย่างนั้น"

ท่านยังบอกอีกว่า
"มนุษย์นั้นชอบพิสูจน์ว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันนั้นจะจริงไหม

อันนู้นจะจริงไหม คำเตือนจะจริงไหม
มนุษย์แสวงหาของจริง แต่ตัวเองล่ะเป็นของจริงหรือยัง"

ผู้เขียนได้แต่นิ่งและครุ่นคิดว่า ในความหมายอันนี้ของท่าน คือ
ท่านว่า...เราเป็นคนจริง มีสัจจะ มีความดีจริงหรือยัง
หากเราเป็นคนจริงเมื่อนั้นก็จะพบของจริงเอง

ผมคิดต่อไปว่าคำเตือนของ "ท่านผู้เตือน" นั้นเตือนด้วยความเมตตากรุณา
แต่ก็มีอุเบกขา คือไม่ได้ร้อนใจว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
ไม่ได้ร้อนใจว่าจะต้องพิสูจน์หรือต้องการได้รับการยอมรับใด ๆ

ผมมาพิจารณาว่าอันที่จริงเราไม่ควรแสดงกริยาอาการหรือคำพูดเสมือนว่า
ท่านผู้เตือนติดค้างหรือเป็นหนี้บุญคุณอะไรจากเรา

ถ้าท่านต้องการจะพิสูจน์
ในตอนนี้ผมมีข้อมูลเพียงว่าให้ท่านลองสังเกตวันที่ 16 - 17 มิถุนายน 2554
ถ้ามีอะไรแปลก ๆ ผิดปกติ ท่านก็ดำเนินการตามแผนรับภัยพิบัติที่ท่านได้เตรียมไว้ได้เลยครับ

คำถามคือ ท่านคิดว่ารัฐบาลมีแผนเตรียมการอันนั้นหรือยัง ???

คำถามที่สำคัญที่สุดคือ แล้วท่านล่ะมีแผนเตรียมการอันนั้นหรือยัง ???

**************************************************

อนุโมทนากับคุณ Karan20 แห่งเว็บพลังจิตด้วยนะคะ สาธุ

ที่มาข้อมูล

http://board.palungjit.com/f178/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99-2554-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4-287787-3.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 06:20:37

ความคิดเห็นที่ 329 (1541893)

การเตรียมพร้อมอย่างมีสติสำหรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2554

การเตรียมภายใน
1. นับจากนี้สวดมนต์ทุกวัน (ที่ผ่านมาอาจย่อหย่อนไปบ้าง)
2. พาตัวเองและคนในครอบครัวไปทำบุญปล่อยปลา เลือกเอาปลาที่กำลังจะถูกฆ่าจากในตลาดสด
3. บริจาคโลหิต บริจาคอวัยวะ
4. เร่งรัดตัวเองในการปฏิบัติธรรมในทุกทาง ทาน-ศีล-ภาวนา
5. เจริญสติ เจริญพรมหวิหาร 4 รักษาศีลเป็นปกติตลอดเวลา
อย่างน้อยศีล 5 กรรมบถ 10 หรือศีล 8 หากพลั้งเผลอให้สมาทานใหม่
ส่วนในวันที่คาดว่าจะมีภัยพิบัติให้สมาทานศีล 8

ต่อจากนี้ไปประมาณ 60 วัน เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างบารมี
เพื่อเป็นเสบียงทั้งในภพนี้และภพหน้า

การเตรียมภายนอก
หากท่านได้พิจารณาคำแนะนำต่อไปนี้
จะเห็นว่าไม่มีข้อใดเลยที่ดูว่าเป็นการตื่นตระหนกโดยขาดสติ

1. ถ้าเห็นว่าสมควร อาจจะ Print คำเตือนและคำแนะนำนี้แจกจ่ายคนในครอบครัว
ใครไม่เชื่อไม่เป็นไร อย่าเสียเวลาเถียงกัน จะเสียกำลังใจและเสียเวลาปฏิบัติธรรม
หากเกิดขึ้นจริงแล้วเรามีสติ เราอาจจะพอเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ คนอื่น ๆ จะหันมาฟังเราเอง

2. อย่าเชื่ออย่างงมงาย ให้ติดตามข่าวจากแหล่งข่าวต่าง ๆ เช่น พยากรณ์อากาศ และในเว็บแห่งนี้
ซึ่งมีหลาย ๆ ท่านมีน้ำใจคอยแจ้งความเคลื่อนไหวและสิ่งผิดปกติอยู่เสมอ
เช่นหากใกล้ ๆ วันดังกล่าวมีประกาศว่าพายุจะเข้า ก็แสดงว่ายิ่งเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติ

3. สังเกตความผิดปกติของสัตว์หรือการอพยพของสัตว์ เช่น มด งู สุนัข

4. สังเกตท้องฟ้า มีคำเตือนว่า "ท้องฟ้าสีแดง"
ผู้เขียนคาดว่าอาจเป็นไปได้ว่ากลางวันของวันดังกล่าวนั้นท้องฟ้าจะกลายเป็นสีแดง
สังเกตด้วยถ้าฝนตกต่อเนื่องกันเป็นเวลานานก็ให้ระวังภัยให้ดี

5. ดำเนินชีวิตและทำงานต่อไป แต่งดการเดินทางไปในสถานที่อโคจร งานมหรสพ
และสถานที่ที่มีคนแออัดพลุกพล่าน เช่น ผับบาร์ คาราโอเกะ โรงหนัง งานคอนเสริ์ต งานเลี้ยงสังสรรค์
โดยเฉพาะในช่วงค่ำของวันดังกล่าว เพราะเสี่ยงต่อการแตกตื่นชุลมุนหากมีความผิดปกติของธรรมชาติเกิดขึ้น
แม้ตามท้องถนนก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะท่านอาจจะติดอยู่ในรถบนถนน บนทางด่วนท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดไปไหนไม่ได้

ข้อนี้ท่านอย่าติงเลยว่าคำเตือนนี้เป็นการทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
เชื่อเถอะว่ามีไม่กี่คนหรอกที่จะเชื่อและทำตามที่แนะนำนี้
ผู้คนส่วนใหญ่ซึ่งประมาทนั้นเขาก็จะใช้ชีวิตไปตามปกติของเขาอยู่นั่นเอง

6. เตรียมสถานที่ให้พร้อม หากเป็นที่บ้านก็ให้เก็บของสำคัญ เอกสารสำคัญขึ้นที่สูง
และห่อสิ่งของที่อาจเสียเมื่อโดนน้ำด้วยถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่น
ในช่วงใกล้ ๆ วันดังกล่าว เมื่อเสร็จธุระการงานแล้วให้รีบกลับบ้าน
อยู่ในที่พักหรือที่หลบภัยที่ท่านได้เตรียมไว้ เราไม่ได้บอกว่าที่นั่นปลอดภัย
แต่อย่างน้อยท่านก็พร้อมที่จะตั้งรับด้วยเสบียงและอุปกรณ์ยังชีพที่ท่านมีอยู่
ตลอดจนท่านน่าจะรู้ทางหนีที่ไล่ได้ดีกว่าการไปอยู่ตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารหรือในสถานที่ท่องเที่ยวแปลก ๆ
อันที่จริงเราอยากแนะนำวัด แต่ปัญหาคือในยามค่ำคืนวิกาลนั้นจะมีวัดใดที่เชื่อและให้เป็นแหล่งพักพิง

7. ตรวจสอบความพร้อม ตรวจเช็คอุปกรณ์ยังชีพและเสบียงต่างๆ ว่าพร้อมหรือไม่
บางท่านจนถึงตอนนี้แล้วอาจยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย บางท่านเพิ่งเริ่มเตรียมแต่ยังไม่พร้อม
ส่วนบางท่านพร้อมแต่เก็บอุปกรณ์ไว้นานแล้ว ลองตรวจเช็คดูว่ายังพร้อมใช้งานเหมือนเดิมหรือไม่

ควรมีชุดชูชีพสำหรับทุกคนในครอบครัว
เตรียมถ่านในไฟฉายให้พร้อม
ชาร์จแบตเตอรี่มือถือให้เต็ม
น้ำดื่มและอาหารให้เพียงพออย่างน้อย 3-7 วัน

หากอุปกรณ์ยังชีพใดยังขาด มีไม่ครบ หรือชำรุด ให้รีบจัดหาโดยด่วนเผื่อว่าภัยนั้นมาเร็วกว่าระยะเวลาที่เตือนไว้

การเตรียมอาหารแนะนำให้เตรียมอาหารแบบที่ไม่ต้องปรุงและให้มีความหลากหลาย
เพราะผู้เขียนเองก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ ลังเลว่าภัยพิบัติจะเกิดในวันดังกล่าวแน่นอนหรือไม่
ดังนั้นหากเราเตรียมอาหารที่มีความหลากหลายไว้
แม้ไม่เกิดภััยพิบัติใด ๆ ในวันดังกล่าว เราก็ยังสามารถเอามาปรุงอาหารได้ในวันอื่น ๆ ตามปกติ
แต่ถ้าท่านตุนไว้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างเดียว แล้วภัยพิบัติไม่เกิดในวันดังกล่าว
ท่านคงต้องเซ็งกับการกินมาม่าไปอีกหลายมื้อ พาลจะนึกด่าผู้เขียนอีกด้วย

8. ก่อนถึงวันเวลาที่ได้เตือนไว้ให้พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเก็บแรงไว้ผจญภัย
หากนอนไม่หลับให้ สวดมนต์ ฟังธรรมะหรือนั่งสมาธิ
เพราะ 3 อย่างนี้มักเป็นยานอนหลับขนานเอก
สำหรับใครบางคนที่บ่นว่านอนไม่หลับ แต่พอให้นั่งสมาธิทีไรหลับได้ทุกที
หากสวดมนต์ นั่งสมาธิหรือฟังธรรมะแล้วไม่หลับก็ยังเป็นเรื่องดี เพราะได้กุศลความดี มีแต่ได้กับได้

9. งดเว้นสุรา ของมึนเมาที่ทำให้ขาดสติรู้ตัว รวมถึงยาแก้ไข้ต่าง ๆ ที่อาจทำให้ท่านหลับเหมือนสลบ
โดยเฉพาะในวันเวลาที่ได้เตือนไว้ พยายามมีสติ
หากกลัวให้ระลึกถึงพระพุทธคุณ สวดอิติปิโส ขอพึ่งพุทธบารมี

10. ในวันเวลาดังกล่าวหากเป็นไปได้ควรจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนกันนอน อาจตั้งนาฬิกาปลุกไว้
โดยเฉพาะช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีสามของวันดังกล่าวที่ได้เตือนไว้ ลองตื่นขึ้นมาเช็คข่าวเสียหน่อย
เปิดโทรทัศน์ วิทยุ คอมพิวเตอร์ไว้ เผื่อว่ามีข่าวเตือนภัยหรือความเคลื่อนไหวต่าง ๆ
ที่ผ่านมาปรากฏว่า Facebook และเว็บต่าง ๆ รายงานข่าวได้เร็วกว่าสื่ออื่น ๆ
หากมีภัยเกิดขึ้นจริงต้องระวัง ปิดแก๊ซและตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อไม่ให้ไฟไหม้หรือถูกไฟดูด

การเตรียมภายใน 5 ข้อ และการเตรียมภายนอก 10 ข้อนี้
คงไม่เกินวิสัยและไม่เป็นการตื่นตระหนก

ผมเชื่อว่าก่อนถึงวันที่เกิดภัยพิบัตินั้นน่าจะมีสิ่งผิดปกติเตือนเราเป็นระยะ
ขอให้เราช่วยกันเตือน ช่วยกันสังเกตธรรมชาติและสัตว์ต่าง ๆ

คงจะดีที่ไม่ประมาทและเตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือตัวเองและครอบครัว
อาจได้ช่วยเหลือคนอื่นที่ไม่ได้เตรียมตัวอีกด้วย

อย่าลืมว่ามีเพียง "พระพุทธเจ้า" เท่านั้นที่เป็นสัพพัญญูรู้แจ้ง
คำทำนายหรือภาพนิมิตต่าง ๆ จากผู้อื่นล้วนมีโอกาสคลาดเคลื่อนไม่มากก็น้อย

หากไม่มีเกิดอะไรขึ้น วันรุ่งขึ้นก็กลับไปทำงาน กลับไปใช้ชีวิตต่อไป

ขออภัยและขออโหสิกรรม หากทำให้ท่านเป็นทุกข์และตื่นตระหนก
ได้แต่หวังว่าท่านจะเห็นใจและเข้าใจในเจตนาของผู้เขียน

ชี้แจงเรื่องการปรับปรุงและการเพิ่มข้อมูล (Update)

เพื่อความสะดวกในการติดตามข้อมูลที่ถูกปรับปรุงและข้อมูลที่ถูกเพิ่มเข้ามา
ผู้เขียนจะทำการอัพเดทข้อมูลที่หน้าแรกและหน้าสุดท้าย
คือบางท่านไม่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์หรือเข้ามาอ่านเฉพาะหน้าแรก
ท่านเหล่านั้นก็จะได้ข้อมูลสำคัญครบถ้วน

ส่วนการอัพเดทที่หน้าสุดท้ายนั้นจะมีการอ้างอิงถึงข้อมูลเดิมด้วย
เพื่อผู้ที่มาอ่านย้อนหลังจะได้ทราบว่ามีข้อมูลอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง

ในกระทู้ของเว็บแห่งนี้จะมีการบันทึกวันและเวลาของการเขียนโพสต์ข้อความ

อนุโมทนากับข้อมูลของคุณ Karan 20 แห่งเว็บพลังจิตอีกครั้งค่ะ

ที่มาข้อมูล

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 06:35:48

ความคิดเห็นที่ 330 (1541896)

ขอบคุณคุณชนิดาอีกครั้งค่ะ เข้ามาทีไร ได้ข้อมูลสดใหม่กลับไปทุกที

ผู้แสดงความคิดเห็น tingnaja (tingnaja-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 06:51:54

ความคิดเห็นที่ 331 (1541898)

อนุโมทนาอีกครั้งกับผู้เมตตาเขียนเตือนในทุกๆข้อมูล

ที่ชนิดานำมาเผยแพร่ในนี้ รวมถึงทุกๆท่าน

ที่เข้ามาอ่านและ เข้ามาโพสต์ด้วยนะคะ...

สาธุ สาธุ สาธุ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 07:07:00

ความคิดเห็นที่ 332 (1541904)
อนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) วันที่ตอบ 2011-04-24 10:39:39

ความคิดเห็นที่ 333 (1541908)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีเมตตา

ช่วยเตือนมาโดยตลอด

และขอขอบคุณ คุณชนิดาที่กรุณา นำข่าวสารมาแจ้งเตือนเป็นระยะ ๆ

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (cha2508-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-24 11:21:55

ความคิดเห็นที่ 334 (1541920)

เกดขออนุโมทนา

กับพี่ชนิดาด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ปริ้น ไปเลยได้ใช่มั๊ยะค่ะ อุ๊ย! แต่เกด ปริ้น

ไม่ได้อ่ะค่ะ ไม่รู้เป็นไร อ้อ! รู้แล้ว ก็บ้านเฮาไม่มี

เครื่องปริ้นนี่หน่า

เฮ้อ..... ถามเอง ตอบเอง

เหงาจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 13:25:02

ความคิดเห็นที่ 335 (1541929)

อนุโทนาบุญและขอบคุณสำหรับข้อมูลที่คุณชนิดานำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ชาวบ้านสวนได้อ่านกันเป็น (ขา) ประจำแล้ว ขอให้สาวไทย ณ โปแลนด์ มีความสุขจากพลังบุญที่นำข้อมูลดีๆ มาร่วมแบ่งปันนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ.........

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ (eawnarak-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 14:30:22

ความคิดเห็นที่ 336 (1541931)

ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับพีชนิดา และทุกท่านที่โพสต์เตือน

จากแหล่งที่มาต่าง ๆ ด้วยนะคะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-24 15:10:56

ความคิดเห็นที่ 337 (1541957)

ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อความแจ้งเตือนภัยค่ะ

และขอกล่าวทักทาย คุณแหวน พัทธ์ธีรา ด้วยนะคะ

ไม่ทราบว่ายังจำได้หรือเปล่าคะ ที่เราไปเจอกันตอนที่คุณแหวน และครอบครัว

ได้ไปใช้แรงกายขุดบ่อน้ำค่ะ ( เพื่อนจากราชบุรี)

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรางทิพย์ วันที่ตอบ 2011-04-24 20:20:18

ความคิดเห็นที่ 338 (1541958)

สวัสดีคะ คุณปรางทิพย์

จำได้แน่นอนคะ สวยซะขนาดนั้น

ไม่ทราบว่ามีโอกาสได้ไปบ้านสวนอีกไหมคะ

ถ้ามีโอกาสดี ๆ อีก เราคงได้พบกันที่บ้านสวนอีกนะคะ

(คุณปรางทิพย์ ลืมถามชื่อเล่นคะ จะได้เรียกง่าย ๆ )

วันที่ตอบ 2011-04-24 20:46:16

ความคิดเห็นที่ 339 (1541968)

อนุโมทนาสาธุกับคุณชนิดาและทุกท่านสำหรับธรรมทานค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วิยะดา ขุมทอง @ ลำปาง (lemon_aaor-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-24 22:25:13

ความคิดเห็นที่ 340 (1541992)
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ผู้มาใหม่ ผม ขอขอบคุณท่านที่เอากระทู้ของผมไป ทำเป็นเมลล์แล้วทำการส่งต่อๆกันไปในหลายพื้นที่ แต่ผมอยากจะบอกคนเหล่านั้นว่าให้ใช่สติพิจารณาอย่าตื่นตามข่าวและให้ใช้ วิจารณญาณในการรับข่าวสารครับ อย่าเชื่อเพียงคนใดคนหนึ่งบอกว่าข่าวนี้เป็นความจริง ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมเห็นและได้เตือนไปนั้นเป็นความจริงมากน้อย แค่ไหน อีกอย่างผมอยากจะพิสูจน์เหมือนกันว่าสิ่งที่ผมรู้ผมเห็นมานั้นมันจะเกิดขึ้น จริงไหมเหมือนหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาหรือเปล่า ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงผมก็ดีใจที่ได้เตือนในสิ่งที่ผมเห็นและทำให้ หลายๆคนรอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้ ผมมาครั้งนี้เพื่อมาเพิ่มเติมในสิ่งที่ผมเห็นอีกครั้ง ผมยอมเสียสัตย์ตัวเองที่บอกว่าจะเข้ามาปิดกระทู้ครับ เพราะผมเห็นว่าการช่วยคนอื่นให้พ้นภัยไปได้ย่อมดีกว่าการรักษาสัตย์ที่ตัว เองกำหนดไว้ครับ หลังจากที่ผมตั้งกระทู้ไว้ผมมีเหตุการที่จะมาเพิ่มเติมคือ เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นจริงจะส่งผลค่อนข้างร้ายแรง คนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจะเดือดร้อนหนักเพราะภัยทางน้ำ และที่ใจกลางกรุงเทพที่สีลม และที่แถวๆราชประสงค์จะเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ ผมขอให้ทุกท่านได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับมือในครั้งนี้ถ้ามันไม่เกิด ขึ้นจริงก็ถือเป็นการซ้อมรับมือในภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เหตุที่ผมกล้าเอาเบอร์มือถือของผมใส่ลงไปด้วยนั้น ผมเพื่อต้องการยืนยันว่าผมมีตัวจริง ไม่ได้แอบอ้างใคร ใครจะโทรมาสอบถามหรือโทรมาด่าผมยินดีรับฟังในสิ่งที่ท่านพูดมาครับ ทุกอย่างทุกคำพูดผมกล้ายืนยันว่าเป็นของผมเอง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผมเขียนลงไปครับ ความตายทุกคนจะต้องเจอแต่บางคนลืมไปว่าสักวันเราต้องตาย อนุโมทนากับคำเตือนล่าสุดจาก คุณผู้่มาใหม่ ด้วยนะคะ ที่มาข้อมูล http://board.palungjit.com/f178/%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-2554-a-276184-9.html
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด วันที่ตอบ 2011-04-25 05:24:40

ความคิดเห็นที่ 341 (1542034)

ขออนุโมทนา

"ผู้มาใหม่" และพี่จ๋าว

ด้วยก๊าบ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-25 12:59:11

ความคิดเห็นที่ 342 (1542041)

สวัสดีคะ คุณปรางทิพย์

จำได้แน่นอนคะ สวยซะขนาดนั้น

ไม่ทราบว่ามีโอกาสได้ไปบ้านสวนอีกไหมคะ

ถ้ามีโอกาสดี ๆ อีก เราคงได้พบกันที่บ้านสวนอีกนะคะ

(คุณปรางทิพย์ ลืมถามชื่อเล่นคะ จะได้เรียกง่าย ๆ )

ถึง คุณแหวน ชื่อเล่น จำปาค่ะ พรุ่งนี้จะเข้าไปที่บ้านสวน เพื่อไปขุดสระน้ำอีกค่ะ ไปกัน 2 คน เหมือนเดิม ตั้งใจว่าจะขุดให้ได้มากที่สุดค่ะ (แอบลาพักร้อนไปค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรางทิพย์ วันที่ตอบ 2011-04-25 13:45:16

ความคิดเห็นที่ 343 (1542044)

ขออนุโมทนากับพี่ชนิดดา และคำเตือนจากคุณผู้มากใหม่ด้วยนะคะ

และขออนุโมทนากับคุณจำปา และแฟน ล่วงหน้าคะ

ขุดเยอะ ๆ เต็มที่เลยนะคะ สาธุๆๆๆ

วันที่ตอบ 2011-04-25 13:55:51

ความคิดเห็นที่ 344 (1542063)

ขอบคุณทุกท่านมากๆ

โดยเฉพาะคุณชนิดาที่เผยแพร่ข้อมูลที่มีประโยชน์และเสียสละเวลามาอัพเดทอยู่เสมอ

เป็นอีกหนึ่งคนค่ะที่อยากบอกสิ่งที่ได้รับรู้ผ่านทางบ้านสวนพีระมิดให้ทุกคนทราบ และระวังตัว

แต่แค่เริ่มจะพูดก็เห็นสายตาที่ว่าเรางมงายแทนการฟังที่ตั้งใจทุกที

อยากให้ทุกท่านได้อ่าน ได้พบกับเวปของบ้านสวนด้วยตนเอง จะต้องทำอย่างไรคะ ก่อนที่จะสาย

ขออนุญาต สิ่งศักดิ์สิทธ์ อาจารย์อุบล และท่านที่เป็นเจ้าของกระทู้ที่เป็นประโยชน์

ขออนุญาต คัดลอก แล้วปริ๊น ให้หลายคนที่ไม่มีโอกาศได้รับรู้ได้อ่านจะได้ไหมคะ

ถ้าหากเป็นการกระทำที่เกินตัวหรือบังอาจเกินไปขอให้ส่งข้อความนี้ไม่สำเร็จ

และเป็นกำลังใจน้อยๆให้อาจารย์อุบล และทุกท่านที่ทำดีค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกันยา จรพินิจ (g-dot-greengreen-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-25 15:40:42

ความคิดเห็นที่ 345 (1542065)

ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุกันยา จรพินิจ (g-dot-greengreen-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-25 15:43:18

ความคิดเห็นที่ 346 (1542080)
ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-04-25 17:05:27

ความคิดเห็นที่ 347 (1542326)
ขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะที่ให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างมาก
ผู้แสดงความคิดเห็น ริมน้ำ วันที่ตอบ 2011-04-27 00:54:19

ความคิดเห็นที่ 348 (1542336)

ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา พูดถึงภัยพิบัติ ในงานเข้าค่ายครั้งที่ 8

เรียบเีรียงและถ่ายทอด โดย คุณตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์

เช้าวันเสาร์ที่ 23 เม.ย.54 ประมาณ 9.00 น.
ดร.อาจองท่านก็มาถึงนะคะ ท่านพูดว่า
ให้พวกเราค้นหาความจริง ความจริงคือการไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีเกิด แก่ เจ็บตาย
นั่นก็คือ นิพพาน ซึ่งนิพพานอยู่ในตัวของทุกคน มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง

และท่านได้พูดถึง การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกด้วย
เปลือกโลกที่เคลื่อนไหวตัวเร็วที่สุดคือ เปลือกโลก อินเดีย+ออสเตรเลีย
ซึ่งอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ภูฏาน เนปาล ธิเบต จีนตอนใต้ ฯลฯ
เปลือกโลกนี้จะดันเข้ามาถึงพม่า พอพม่าไหวก็ส่งผลมาถึง

ภาคเหนือของไทย และฝั่งตะวันตกของไทย
โดยเฉพาะ จ.กาญจนบุรี ต้องระวัง และอาจส่งผลมาถึงด้านฝั่งทะเลอันดามัน

ซึ่งอาจเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิได้

ทางภาคใต้ฝั่งอันดามันให้ระวังระบบเตือนภัยด้วย

อาจแจ้งไม่ทันคือมีเวลาแจ้งเตือนประมาณ ครึ่งชั่วโมงค่ะ

ส่วนญี่ปุ่นจะได้มีโอกาสจะหายไปทั้งประเทศ

ซึ่งได้รับผลกรรมจากเมื่อตอนสงครามโลก
ได้ฆ่าคนไปเยอะ ผลกรรมนี้ จึงทำให้คนญี่ปุ่นต้องมาตาย

ซึ่งเป็นกรรมส่วนรวม ทางวิทยาศาสตร์เราเรียกว่า

เปลือกโลกดันกันจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหว ผู้คนล้มตาย
และทุกครั้งที่แผ่นดินไหว แกนโลกก็จะเอียงทีละนิดๆ

และถ้าเกิดแผ่นดินไหวที่ฟิลิปปินส์ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย อาจได้รับผลกระทบ

แต่จะได้รับการเตือนภัยล่วงหน้า 16 ชั่วโมง
ซึ่งอาจเกิดคลื่นสูง 6-7 เมตรได้ ซึ่งตรงนี้เราได้ เวียดนาม

และเขมร เป็นกำบัง ให้เราก่อน
ทำให้กรุงเทพฯ ไม่โดนหนัก ซึ่งอาจเกิดคลื่นไม่เกิน 2 เมตร

จุดเสี่ยง ในกรุงเทพฯ ก็คือ
บางขุนเทียน จังหวัด สมุทรฯ ต่างๆ

และท่านยังได้กล่าวด้วยว่า ปีหน้า ไทย-ลาว อาจมีหิมะตกบนดอยสูง
เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก กาญจนบุรี

มีรอยเลื่อนเยอะ อาจเกิดแผ่นดินไหวได้
ถ้าเขื่อนที่กาญจน์ แตก น้ำจะท่วมเมืองภายใน 5 ชั่วโมง

แล้วไหลมานครปฐม ฝั่งธน กรุงเทพน้ำจะท่วม 2 ม.

และภาคเหนือของไทยจะเกิดแผ่นดินไหวแน่นอน หากแผ่นดินไหว
ท่านบอกให้เราหลบอยู่ใกล้ๆ เสา อย่าไปหลบใต้โต๊ะ กลางห้อง

เพราะเป็นจุดอันตรายเสาจะทำหน้าที่ค้ำยัน

และรับน้ำหนักสิ่งที่ยุบ พังลงมาได้
พอแผ่นดินไหวเริ่มสงบ ให้เรารีบหนีออกไปข้างนอกกลางถนน (แต่ควรดูรถด้วย)

ทางตอนใต้มีรอยเลื่อน ประจวบฯ ระนอง สุราษฎร์

อาจจะเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 5 ริกเตอร์
ทางอีสานโชคดีค่ะ ไม่มีรอยเลิ่อนเลย และน้ำในแม่น้ำโขง

จะแห้งสนิท เพราะน้ำแข็งบนเทือกเขา
หิมาลัย มันละลายเยอะแล้ว (ภาวะโลกร้อน)

อีก 20-30 ปี ภาคกลางจะหายไปหมด ลพบุรี สระบุรี นครนายก

ครึ่งหนึ่งจะเป็นทะเล

------------------------

เท่านี้ก่อนนะคะ ให้พี่ๆ ท่านอื่น มาเหลา กันต่อบ้างค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-26 18:24:56

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 03:32:40

ความคิดเห็นที่ 349 (1542357)

คุณชนิดา จ๋า ไปแวะดูคลิปนี่หรือยังจ๊ะ

รวมภาพ เสียง และคลิปวิดีโอเก็บตกจากค่ายรุ่น8

ดร. อาจอง ท่านเมตตามากเลยค่ะ ขอถอดเทปเป็นตัวอักษรดังนี้นะคะ

(ไปฟ้งด้วยหูตนเองกันนะคะ..น้ำตาไหลเวลาฟัง ปีติล้น)

โลกของเรากำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นยุคที่จะมีแต่ความดีงาม เป็นยุคที่เรารอคอยมานานแล้ว เป็นยุค่ี่ที่ทุกคนจะเจริญก้าวหน้าไปสู่นิพพาน เพราะฉนั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ในโลกของเรา แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าสู่นิพพานได้ในยุคข้างหน้า เพราะงั้นคนที่ไม่พร้อมก็ต้องรอคอยในยุคต่อๆไปซึ่งก็จะเป็นส่วนใหญ่ พวกเราถือว่าเป็นบุคคลที่กำลังแสวงหาแนวทางชีวิต การที่มาที่นี่ก็แสดงว่ามีความตั้งใจในการค้นพบสิ่งที่ดีที่งามในชีวิตของเรา นอกนั้นเค้าก็จะมีโอกาสแต่เค้าก็ต้องรอคอยในยุคต่อไป เพราะฉนั้นช่วงนี้ก็จะมีการแยกบุคคนที่พร้อมกับไม่พร้อม เราจะเห็นได้ว่ามีปัญหามากมายในโลกของเราในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายแล้วใกล้ๆขั้นสุดท้ายแล้วที่โลกของเราจะต้องกรองให้เหลือบุคคลที่พร้อมจริง ๆ ที่จะเข้าสู่ยุคของความสงบสุข ยุคที่พวกเราจะได้มีโอกาสไปสู่สิ่งที่ดีที่งาม ไปสู่นิพพาน เราทุกคนต้องเริ่มแสวงหาความจริงกัน ต้องรู้ว่าความจริงคืออะไร เราต้องเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ยุคใหม่ที่กำลังจะถึง คนที่ไม่พร้อมเราก็เริ่มเห็นแล้วว่าเค้าทะเลาะกัน ตีกัน หาเรื่องใ่ส่กัน แย่งชิงอำนาจกัน บุคคลเหล่านี้ถือว่ายังไม่พร้อมจะเข้าสู่ยุคใหม่ และมันก็จะเกิดปัญหามากมาย เราเห็นปัญหาเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เค้าแย่งชิงอำนาจกัน ตีกัน ฆ่ากันมั่วไปหมดเลยรวมทั้งแอฟฟิกา หลายประเทศด้วยเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันเราก็เจอภัยพิบัติมากมาย ซื่งก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะมีปัีญหามากขึ้น ซึ่งนั่นคือวิธีการที่เรากรองกันเอง มันเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างปัญหาให้กับตัวเอง เราสร้างกรรมให้กับตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นผลของการกระทำของมนุษย์เราเองที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นฝีมือมนุษย์เราเองที่สร้างปัญหาให้ตัวเอง แต่นั่นแหละครับใกล้ ๆ จะถึงจุดสิ้นท้ายแล้ว และแต่นั้นไปโลกของเราก็เริ่มจะสงบสุข จะเริ่มก้าวไปทางที่ดีต่อไป ช่วงนี้ฝากไว้เรื่องเดียวว่าเราจะต้องแสวงหาความจริง ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของพวกเราที่จะเข้าสู่ยุคใหม่กัน ค้องแสวงหาความจริงให้ได้ อะไรคือความจริง ความจริงคือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง ความจริง จริงอย่างไรในวันนี้ก็ต้องจริงในวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้เป็นพรุ่งนี้ของพรุ่งนี้ก็ต้องจริงไปเรื่อย ๆ ความจริงจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ เมื่อเราแสวงหาความจริงทั่วไป ก็เจอว่ามีแต่ความเปลี่ยนแปลงตลอด ไม่มีอะไรมั่นคงถาวร เราดูทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัววันนี้มีแต่เมื่อก่อนไม่มี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเห็นที่เราสัมผัสทั่วโลกนี่มีการเกิด มีการเปลี่ยนแปลงมีการดับ แม้กระทั่งร่างกายของเรา มีการเกิด ในที่สุดก็ต้องตายไป มันไม่ใช่ความจริง จริง ๆ เราแสวงหาทั่วไปหมด เราก็ไม่เจอ โลกของเราเกิดมาเมื่อ 4500ล้านปีที่แล้ว อีก 4500ล้านปี ดวงอาทิตย์ของเราจะขยายใหญ่ขึ้น 10 เท่าของปัจจุบัน อย่างกระทันหันถึงตคอนนั้นโลกเราก็จะโดนเผาไหม้ และก็โดนการทำลายไม่เหลืออะไร โลกก็มีการเกิดและในที่สุดก็ต้องดับ แล้วเราดูจักรวาลของเราทั้งหมด นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเกิดจากบิ๊กแบงค์การระเบิดครั้งยิ่งใหญ่เมื่อประมาณ 15000 ล้านปีที่แล้ว ก้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเกิดอย่างนั้น และเกิดหลุมดำขึ้นในอวกาศทั่วไปหมดเลย และหลุมดำเหล่านั้นก็ค่อย ๆดูด โลก ดวงดาว ไปสู่ตัวมันเอง ที่เราอาศัยอยู่ในทางช้างเผือก และมีหลุมดำอยู่ตรงกลางทางช้างเผือก เราโชคดีที่โลกอยู่ตรงปลาย ๆ แถวทางช้างเผือก ในที่สุด หลุมดำในอวกาศ มีหลายจุดในจักรวาลของเรา ในที่สุดมันจะมีแรงดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปหาตัวของมัน และจักรวาลของเราในที่สุดก็จะหายแว๊บไปกับตา เพราะฉนั้น จักรวาลก็มีการเกิดและก็ต้องมีการดับนี่คือธรรมชาติของทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมันมีการเกิด การดับ มันก็ไม่ใช่ความจริง เพราะความจริงคือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง นักวิทยาศาสตร์ค้นหาความจริงทัี่วไปหมดแต่ไม่เจอ นักวิทยาศาสตร์ลืมไปครับมีอยู่ที่เดี่ยวที่ยังไม่ได้หา นั่นก็คือในใจของเรา เรามัวแต่หาทั่วไปหมด เราพยายามแสวงหาความจริงทุกหนทุกแห่ง วิทยาศาสตร์ศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา แต่แปลกไม่ยักศึกษาในจิตใจของมนุษย์เราเอง นี่ค่อปัญหาของวิทยาศาสตร์ที่ล้มเหลวที่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง เพราะว่าเค้าลืมไปว่ามีที่ที่ไม่ได้ค้นหาคือในจิตใจของเรา เพราะฉนั้นเราต้องค้นหาแสวงหาความจริงในจิตใจของเราเป็นที่เดี่ยวที่เรายังไม่ได้ค้นหา กันอย่างจริงจัง และเมื่อเราเข้าไปในจิตใจของเรา เราจะเริ่มค้นพบ ความจริง ความจริงจะเริ่มปรากฎขึ้นมาและความจริงนั้นไม่มีการเกิดการดับไม่มีการเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นก็คือนิพพาน นิพพานอยู่ในจิตใจของเรา ลึกอยู่ในจิตใจของเรา ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหน อยู่ในตัวเราตลอดเวลา ค้นในจิตใจของเราแล้วเราจะพบกับความจริงที่ถาวร ไม่มีการเกิดไม่มีการดับไม่มีการตาย เป็นสภาพที่มั่นคงถาวรตลอด และนั่นคือความจริงอยู่ในจิตใจของเรา พวกเราทุกคนต้องรู้จักหันกลับเข้าไปในจิืตใจของตนเอง ค้นพบกับความจริงอันนี้ให้ได้ และนี่คือยุคที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในโลกของเรา คนที่เหลืออยู่เป็นบุคคลที่มีความพร้อมที่จะแสวงหาความจริงและเราก็จะค้นพบนิพพานและเราก้จะเข้าไปอยู่ในนิพพาน และเราก็จะกลายเป็นอมตะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีการเกิดไม่มีการตายอีกต่อไป เพราะเราก็คือนิพพาน ในที่สุด นั่นคือข้อเท็จาจริง นั่นคือความจริง ที่ตอนนี้มันจะต้องเริ่มปรากฎขึ้นมาแล้วในโลกของเรา และตอนนี้ก็ต้องขอฝากไว้ให้พวกเราได้เริ่มคิดกันในตอนนี้ว่า เราคือนิพพาน แต่เราไม่รู้ตัว เมื่อไม่รู้ตัวเราก็หลงอยู่ในโลกของเรา ของการเกิดแก่เจ็บตาย ของการเปลี่ยนแปลงซึ่งมันไม่ใช่ความจริง ตอนนี้เราต้องเริ่มตื่นกันแล้ว ตื่นแล้วก็ค้นหาความจริงอันนี้ ซึ่งอยู่ในตัวเราตลอด เรามัวแต่หากันทั่วไปหมด ทุกหนทุกแห่ง ทั่วจักรวาล แต่เราลืมไปความจริงอยู่ในตัวเราไม่ต้องไปหาที่ไหน..

ไปเช็ดน้ำตาก่อนนะจ๊ะ..

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 07:47:23

ความคิดเห็นที่ 350 (1542386)
ขอบคุณค่ะขออนุโมทนาบุญคุณชนิดาและคุณพิชญ์นันท์เช่นเคยนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) วันที่ตอบ 2011-04-27 11:06:11

ความคิดเห็นที่ 351 (1542402)

ขออนุญาติถอดคำอวยพร อ. อุบล ตอนรดน้ำ ดร. อาจอง นะคะ

“ขอ อาราธนาบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก พระอรหันตสาวกทุกพระองค์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ พระเสื้อเมือง พระสยามเทวาธิราช ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ พระยายมราช นายนิรยบาลและบริวารของท่านทั้งหลาย มนุษย์ต่างดาวทุกดวงดาว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล ท่านดตาจินิน บารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช และทุกพระองค์ที่เสด็จมาเป็นสักขีพยานประทานพรในพิธีรดน้ำดำหัว ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ในวันนี้ ขอให้บารมีของท่านกับบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมาในทุกภพทุกชาติจนถึง ชาติปัจจุบัน จงรวมตัวกันมีอานุภาพยิ่งใหญ่ไพศาล ไปตัดรอนวิบากกรรมที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เคยทำมาในทุกภพทุกชาติจนถึงชาติ ปัจจุบัน และข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมบุญนี้ถวายแด่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ขอให้บุญส่งผลตามที่ข้าพเจ้าปรารถนา จนถึงซึ่งนิพพานในชาตินี้ และนำพาทุกจิตวิญญาณติดตาม ดร. อาจองไปด้วยเทอญ.”

มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดดัง ๆ เช่นนี้ค่ะ

อาริยะ สัจจธรรม

อ.อุบล ได้มีโอกาสสอบถามในภายหลัง (ขออภัยจำชื่อไม่ได้)

ทราบว่า เธอมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ต้อง จนต้องพูดออกมา..เป็นพรที่ประทานมาจาก พระศรีอริยเมตตรัย..ท่านมาเป็นสักขีพยานในพีธีรดน้ำดำหัวครั้งนี้ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 12:40:35

ความคิดเห็นที่ 352 (1542404)

ถอดพร ดร. อาจอง ให้เห็นปณิธานของพระโพธิสัตว์เดินดินนะคะ

"ขอให้พรที่ทุกท่านให้ผม ได้กลับคืนไปหลายร้อยเท่า

ให้ได้รับสิ่งที่ดีที่งาม ที่ท่านได้ปราถนาจะให้กับผม

ขอให้ทุกท่านได้มีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้าในชีวิต

และไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน

สักวันหนึ่งเราก็จะได้พบกันในนิพพาน

แต่ถึงตอนนั้นเราก็ไม่มีตัวตนอย่างนี้แล้วนะครับ

เราก็จะกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นพลังเดียวกัน

แต่ก็ต้องบอกกับพวกเราไว้ว่า

ผมจะขอเป็นคนสุดท้ายที่จะเข้านิพพาน

ขอให้ทุกท่านไปก่อน

ผมจะคอยช่วยเหลือคนอื่นให้ได้เข้าก่อน ผมจะเข้าทีหลัง

เพราะว่าผมได้ตั้งปณิธานไว้ คำมั่นสัญญา ตั้งแต่อายุ 15

ว่าถ้าเผื่อมีสวรรค ผมจะไม่ไป ผมจะขอตกนรก

เพราะว่าสวรรค มีแต่คนดี ผมช่วยอะไรเค้าไม่ได้หรอกครับ

เค้าดีอยู่แล้วเค้าถึงอยู่ในสวรรค

ผมจะขอลงไปนรก เพราะว่ามีแต่คนที่เดือดร้อนมีความทุกข์

ซึ่งเราต้องช่วยเหลือกัน ให้เค้าได้ฟื้นขึ้นมาไปสู่สวรรคเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นคำปณิธานนี้ ก็คือผมจะไม่ไปนิพพานตอนนี้

ขอเป็นคนสุดท้ายครับ

พอได้ช่วยเหลือทุกคนทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมแล้ว

ทุกคนเข้านิพพานกันหมด ไม่มีใครให้ผมช่วย ผมถึงค่อยไป"

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอไปเช็ดน้ำตาก่อนนะคะ...

ถอดเทปไปร้องไห้ไปด้วย..เค้าเรียกปีติ..

แง๊ แง๊

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 12:42:12

ความคิดเห็นที่ 353 (1542440)
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-04-27 15:43:18

ความคิดเห็นที่ 354 (1542471)

ขออนุโมทนาในทุกๆธรรมทานและคุณชนิดา ด้วยค่ะ

ข้อมูลดีมากๆ เป็นประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

ขอให้คุณชนิดา มีความสุขมากๆนะคะ ไปเข้าค่ายครั้งที่ 8 มาด้วย

ได้ฟังท่านอาจารย์ ดร.อาจอง กล่าวแล้ว ทำให้จิตสงบมากค่ะ

มีคำบางคำของท่านที่ฟังแล้วรู้สึกเบาและปลงได้มาเล่าค่ะ

ถ้าเราไม่รอดต้องจากไป ถ้าเราทำความดีเอาไว้ ความดีจะช่วยให้เราไปนิพานได้

แต่เราไปนิพานไม่ได้ เราจะได้ไปเกิดในที่ที่ดี มีความสุขด้วยผลของการทำความดี

(จำเป็นคำพูดของท่านไม่เป๊ะ นะคะ แต่เนื้อความเป็นดังนี้)

ท่านพูดให้ความคิดดีมากๆๆค่ะ

ในการเข้าค่ายครั้งนี้ ได้บุญมากน้อยเท่าไหร่

ขอยกบุญให้คุณชนิดาและทุกๆท่านทั้งหมดเลยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น กัญญ์วิญาณ์ (tata_su22-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 16:47:44

ความคิดเห็นที่ 355 (1542474)

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นายคมกริช นามมงคุณ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 16:54:17

ความคิดเห็นที่ 356 (1542521)

ขออนุโมทนาบุญกับท่านที่ได้มีโอกาสเข้าค่ายรุ่น 8 และได้นำธรรม มาเผยแพร่

และขออนุญาตนำข้อความไปเผยแพร่ให้เกิดบุญต่อไปอีก นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จรัล โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2011-04-27 21:10:17

ความคิดเห็นที่ 357 (1542565)

ลูกขอระลึกนึกถึงพระคุณของ

พระวิสุทธิ์พุทธรังสีบรมธรรมบิดา

พระคุณของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระคุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทกๆพระองค์

ลูกขออนุโมทนาบุญ

กับทุกๆ ท่านนะครับ

หลังจากไปบ้านสวนพีระมิดมา

ทุกวันนี้เบลล์มีความสุขมาก

ทั้งทางกาย

และโดยเฉพาะทางใจ

รู้สึกว่ากายเบาใจเบา

การปฏิบัติก็ดีขึ้น

ลูกขอขอบคุณ

อาจารย์อุบล

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด

ทุกๆพระองค์

อยู่ทุกครั้งครับ

ขอบุญนี้เป็นบุญอัศจรรย์

หมุนแผ่ไปตลอดเวลา

ด้วยพลังแสงทิพย์อริยธรรม

ด้วยพลังแสงฉัพพรรณรังสีรัสมีหกประการ

หมุนตลอดเวลา

ด้วยพระบารมีอันมิอาจประมาณ

ของพระวิสุทธิ์พุทธรังสีบรมธรรมบิดา

ด้วยพระบารมีของพระพุทธเจ้า

ด้วยบารมีของพระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์

ผลบุญใดที่ลูกได้กระทำมา

จากชาติแรกถึงปัจจุบัน

ทั้งทาน ศีล ภาวนา

รวมกับบุญที่ลูกขออนุโมทนาสาธุ

กับบุญทุกบุญในบ้านสวนพีระมิด

รวมกับบุญที่ลูกขออนุโมทนา

กับองค์พระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์

รวมกับบุญที่ลูกอนุโมทนากับพระอริยเจ้าทุกพระองค์

รวมกับบุญที่ลูกอนุโมทนากับพระมหาโพธิสัตว์พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์

รวมกับบุญที่ลูกอนุโมทนากับพรหมเทพเทวดาทุกๆ พระองค์

รวมกับบุญทุกบุญของทุกท่าน

ทั่วเขตแดนโกฏิจักรวาล

อนันตจักรวาล

ลูกขอน้อมถวายบูชาพระคุณ

พระบรมธรรมบิดา

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

พระอรหันตเจ้าทุกๆพระองค์

พระอริยเจ้าทุกๆพระองค์

พระมหาโพธิสัตว์เจ้าพระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์

พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์

มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และพระบรมวงศานุวงศ์เป็นที่สุด

เทพไท้เทวดาพรหมทุกๆพระองค์

คุณบิดามารดาทุกๆหลายแสนชาติ

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆพระองค์

บรรพบุรุษไทยทุกๆ ท่าน

สรรพสัตว์ทั่วทั้งสามโลก

เจ้ากรรมนายเวร

พี่น้องบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน

ผี สัมพเวสี เปรต อสูรกาย สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน

ขอจงร่วมอนุโมทนาบุญดังกล่าว

กรรมใดที่ลูกได้ประมาทพลาดพลั้งไป

ตั้งแต่ชาติแรกถึงปัจจุบัน

ทั้งตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี

รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี

ทาง ใจ วาจา กาย

ในคุณพระรัตนตรัย

ในเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์

ในคุณบิดามารดาครูอาจารย์ทุกๆพระองค์

ในทุกๆท่าน

ขอทุกท่านโปรดจงอโหสิกรรมให้ลูกด้วย

ขอให้กรรมขาดจากกันบัดนี้

กรรมใดที่ใครๆทำกับข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าอโหสิกรรม

น้อมถวายเป็นอภัยทาน

แด่พระเบื้องบนพระนิพพานทุกๆพระองค์

ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้

ขอให้ความไม่มี

ไม่ได้ซื้อคือไม่ได้เรียนรู้ธรรมะ

ไม่ได้ขายคือไม่ได้เผยแผ่ธรรมะ

ไม่หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งกายและใจ

ไม่ได้ช่วยเหลือคนให้พ้นทุกข์

ไม่ได้ช่วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

จงอย่าบังเกิดปรากฎมีแก่ลูก

สัมปติจฉามิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิพพานปัจจโยโหนตุ

นิพพานปรมังสุขขัง

บุญนี้ที่ลูกจะพึงได้รับเพียงใด

ขอน้อมให้ทุกท่านและเทวดาประจำตัวท่านได้รับเช่นกัน

รวมทั้งทุกท่านแม้ไม่ได้อ่านข้อความนี้ก็ตาม

ขอให้ท่านและเทวดาประจำตัวท่านพึงได้รับเช่นกัน

โดยอัตโนมัติ

ฝากไปกับแสงทิพย์อริยทรัพย์

และแสงฉัพพรรณรังสีรัศมีหกประการ

ส่งไปทาง

ทุกๆแสง สี และวัตถุธาตุที่ได้พบเห็น

ทุกเสียงที่ได้ยิน

สาธุ สาธุ สาธุ

สัมปติจฉามิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิพพานปรมังสุขขัง

อานิสงส์ของบุญดังกล่าวมีเพียงใด

ลูกขอน้อมถวาย

แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ทั้งหมดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นายคมกริช นามมงคุณ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-27 22:19:38

ความคิดเห็นที่ 358 (1542596)

โอ้ววววววววววว....คุณน้องเลิศที่สุด ถอดเทปเก่งแบบนี้

เป็นคุณสมบัติเด่นของเด็กป.โท..แต๊ๆ ฉะนั้นพวกเราก็เลย

ได้รับอานิสงค์กันถ้วนหน้า อนุโมทนาด้วยนะคะ คุณน้อง

อยากจะขอบคุณร้อยพันครั้ง และที่สำคัญอ่านทุกๆตอน

แล้วมีอาการจริงๆ อ่านคำอวยพรจากอ.อุบลก็ขนลุกซู่

ส่วนคำขอบคุณจากดร.อาจอง อ่านแ่ล้วก็อยากจะร้องไห้และ

เดินไปกราบท่านสักร้อยครั้ง จิตท่านประเสริฐจริงๆ

เฮ้อ..ว่าแล้ว ก็เซ็งตัวเองชะมัด จะทำดีเพื่อตัวเองแท้ๆ

ยังบ่ายเบี่ยงอยู่บ่อยๆเลย แต่พอมองกลับไปที่อ.อุบล

และท่านดร.อาจอง แล้วก็ขอยกให้เป็นไอดอล...

เพราะมีความเสียสละทั้งทางกายและใจ สาธุ...

และขออนุโมทนารับบุญใหญ่จากคุณกัญญ์

และทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-28 02:34:14

ความคิดเห็นที่ 359 (1542631)

ขอกราบขอบพระคุณค่ะ

สำหรับข้อมูลที่สำคัญมาก

ขออนุญาตส่งต่อให้ท่านที่รู้จักและไม่รู้จักนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ริมน้ำ วันที่ตอบ 2011-04-28 08:25:09

ความคิดเห็นที่ 360 (1542661)

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เข้าค่ายรุ่น8 ท่านอ.อุบล ท่านดร.อาจอง และคุณพิชญ์นันท์ ผู้ให้ข้อมูลด้วยค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-28 11:01:17

ความคิดเห็นที่ 361 (1542690)

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชธภัค (nutthaphak-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-28 13:16:12

ความคิดเห็นที่ 362 (1543030)
อ่านไปซึ้งไปค่ะ น้ำตาเกือบไหล ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยค่ะ สาธุๆๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น ศิรดา ออร์ซีนี่ (siradaor-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-04-30 07:29:00

ความคิดเห็นที่ 363 (1543032)

โมทนาบุญกับคุณน้องนะครับ ที่ถอดข้อความมาให้อ่านกันอย่างจุใจและจดจำ...สาธุ สาธุ สาธุ

แต่ถึงผมจะยังมีวัยที่พอจะรุ่นๆ เหลืออยู่บ้าง แต่สายตาก็อาจกว้างไกลมองเห็นสิ่งไกลๆ ได้ดีกว่า ฉนั้นก็ขออนุญาตขยายตัวอักษรนะจ้ะ...

เป็นการถอดเทปจากช่วงแรกสุด ท่านอาจารย์ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะเริ่มพิธีรดน้ำ

ดร. อาจอง ท่านเมตตามากเลยค่ะ ขอถอดเทปเป็นตัวอักษรดังนี้นะคะ

(ไปฟ้งด้วยหูตนเองกันนะคะ..น้ำตาไหลเวลาฟัง ปีติล้น)

โลกของเรากำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นยุคที่จะมีแต่ความดีงาม เป็นยุคที่เรารอคอยมานานแล้ว เป็นยุค่ี่ที่ทุกคนจะเจริญก้าวหน้าไปสู่นิพพาน เพราะฉนั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ในโลกของเรา แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าสู่นิพพานได้ในยุคข้างหน้า เพราะงั้นคนที่ไม่พร้อมก็ต้องรอคอยในยุคต่อๆไปซึ่งก็จะเป็นส่วนใหญ่

พวกเราถือว่าเป็นบุคคลที่กำลังแสวงหาแนวทางชีวิต การที่มาที่นี่ก็แสดงว่ามีความตั้งใจในการค้นพบสิ่งที่ดีที่งามในชีวิตของเรา นอกนั้นเค้าก็จะมีโอกาสแต่เค้าก็ต้องรอคอยในยุคต่อไป เพราะฉนั้นช่วงนี้ก็จะมีการแยกบุคคนที่พร้อมกับไม่พร้อม

เราจะเห็นได้ว่ามีปัญหามากมายในโลกของเราในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายแล้วใกล้ๆขั้นสุดท้ายแล้วที่โลกของเราจะต้องกรองให้เหลือบุคคลที่พร้อมจริง ๆ ที่จะเข้าสู่ยุคของความสงบสุข ยุคที่พวกเราจะได้มีโอกาสไปสู่สิ่งที่ดีที่งาม ไปสู่นิพพาน เราทุกคนต้องเริ่มแสวงหาความจริงกัน ต้องรู้ว่าความจริงคืออะไร เราต้องเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ยุคใหม่ที่กำลังจะถึง คนที่ไม่พร้อมเราก็เริ่มเห็นแล้วว่าเค้าทะเลาะกัน ตีกัน หาเรื่องใ่ส่กัน แย่งชิงอำนาจกัน บุคคลเหล่านี้ถือว่ายังไม่พร้อมจะเข้าสู่ยุคใหม่ และมันก็จะเกิดปัญหามากมาย เราเห็นปัญหาเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เค้าแย่งชิงอำนาจกัน ตีกัน ฆ่ากันมั่วไปหมดเลยรวมทั้งแอฟฟิกา หลายประเทศด้วยเช่นเดียวกัน

ในขณะเดียวกันเราก็เจอภัยพิบัติมากมาย ซื่งก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะมีปัีญหามากขึ้น ซึ่งนั่นคือวิธีการที่เรากรองกันเอง มันเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างปัญหาให้กับตัวเอง เราสร้างกรรมให้กับตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นผลของการกระทำของมนุษย์เราเองที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นฝีมือมนุษย์เราเองที่สร้างปัญหาให้ตัวเอง แต่นั่นแหละครับใกล้ ๆ จะถึงจุดสิ้นท้ายแล้ว และแต่นั้นไปโลกของเราก็เริ่มจะสงบสุข จะเริ่มก้าวไปทางที่ดีต่อไป

ช่วงนี้ฝากไว้เรื่องเดียวว่าเราจะต้องแสวงหาความจริง ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของพวกเราที่จะเข้าสู่ยุคใหม่กัน ค้องแสวงหาความจริงให้ได้ อะไรคือความจริง ความจริงคือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง ความจริง จริงอย่างไรในวันนี้ก็ต้องจริงในวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้เป็นพรุ่งนี้ของพรุ่งนี้ก็ต้องจริงไปเรื่อย ๆ ความจริงจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ เมื่อเราแสวงหาความจริงทั่วไป ก็เจอว่ามีแต่ความเปลี่ยนแปลงตลอด ไม่มีอะไรมั่นคงถาวร เราดูทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัววันนี้มีแต่เมื่อก่อนไม่มี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเห็นที่เราสัมผัสทั่วโลกนี่มีการเกิด มีการเปลี่ยนแปลงมีการดับ แม้กระทั่งร่างกายของเรา มีการเกิด ในที่สุดก็ต้องตายไป มันไม่ใช่ความจริง จริง ๆ เราแสวงหาทั่วไปหมด เราก็ไม่เจอ

โลกของเราเกิดมาเมื่อ 4500ล้านปีที่แล้ว อีก 4500ล้านปี ดวงอาทิตย์ของเราจะขยายใหญ่ขึ้น 10 เท่าของปัจจุบัน อย่างกระทันหันถึงตคอนนั้นโลกเราก็จะโดนเผาไหม้ และก็โดนการทำลายไม่เหลืออะไร โลกก็มีการเกิดและในที่สุดก็ต้องดับ แล้วเราดูจักรวาลของเราทั้งหมด นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเกิดจากบิ๊กแบงค์การระเบิดครั้งยิ่งใหญ่เมื่อประมาณ 15000 ล้านปีที่แล้ว ก้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเกิดอย่างนั้น และเกิดหลุมดำขึ้นในอวกาศทั่วไปหมดเลย และหลุมดำเหล่านั้นก็ค่อย ๆดูด โลก ดวงดาว ไปสู่ตัวมันเอง ที่เราอาศัยอยู่ในทางช้างเผือก และมีหลุมดำอยู่ตรงกลางทางช้างเผือก เราโชคดีที่โลกอยู่ตรงปลาย ๆ แถวทางช้างเผือก ในที่สุด หลุมดำในอวกาศ มีหลายจุดในจักรวาลของเรา ในที่สุดมันจะมีแรงดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปหาตัวของมัน และจักรวาลของเราในที่สุดก็จะหายแว๊บไปกับตา

เพราะฉนั้น จักรวาลก็มีการเกิดและก็ต้องมีการดับนี่คือธรรมชาติของทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมันมีการเกิด การดับ มันก็ไม่ใช่ความจริง เพราะความจริงคือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง นักวิทยาศาสตร์ค้นหาความจริงทัี่วไปหมดแต่ไม่เจอ นักวิทยาศาสตร์ลืมไปครับมีอยู่ที่เดี่ยวที่ยังไม่ได้หา นั่นก็คือในใจของเรา

เรามัวแต่หาทั่วไปหมด เราพยายามแสวงหาความจริงทุกหนทุกแห่ง วิทยาศาสตร์ศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา แต่แปลกไม่ยักศึกษาในจิตใจของมนุษย์เราเอง นี่ค่อปัญหาของวิทยาศาสตร์ที่ล้มเหลวที่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง เพราะว่าเค้าลืมไปว่ามีที่ที่ไม่ได้ค้นหาคือในจิตใจของเรา เพราะฉนั้นเราต้องค้นหาแสวงหาความจริงในจิตใจของเราเป็นที่เดี่ยวที่เรายังไม่ได้ค้นหา กันอย่างจริงจัง และเมื่อเราเข้าไปในจิตใจของเรา เราจะเริ่มค้นพบ ความจริง ความจริงจะเริ่มปรากฎขึ้นมาและความจริงนั้นไม่มีการเกิดการดับไม่มีการเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นก็คือนิพพาน นิพพานอยู่ในจิตใจของเรา ลึกอยู่ในจิตใจของเรา ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหน อยู่ในตัวเราตลอดเวลา ค้นในจิตใจของเราแล้วเราจะพบกับความจริงที่ถาวร ไม่มีการเกิดไม่มีการดับไม่มีการตาย เป็นสภาพที่มั่นคงถาวรตลอด และนั่นคือความจริงอยู่ในจิตใจของเรา พวกเราทุกคนต้องรู้จักหันกลับเข้าไปในจิืตใจของตนเอง ค้นพบกับความจริงอันนี้ให้ได้ และนี่คือยุคที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในโลกของเรา

คนที่เหลืออยู่เป็นบุคคลที่มีความพร้อมที่จะแสวงหาความจริงและเราก็จะค้นพบนิพพานและเราก้จะเข้าไปอยู่ในนิพพาน และเราก็จะกลายเป็นอมตะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีการเกิดไม่มีการตายอีกต่อไป เพราะเราก็คือนิพพาน ในที่สุด นั่นคือข้อเท็จาจริง นั่นคือความจริง ที่ตอนนี้มันจะต้องเริ่มปรากฎขึ้นมาแล้วในโลกของเรา

และตอนนี้ก็ต้องขอฝากไว้ให้พวกเราได้เริ่มคิดกันในตอนนี้ว่า เราคือนิพพาน แต่เราไม่รู้ตัว เมื่อไม่รู้ตัวเราก็หลงอยู่ในโลกของเรา ของการเกิดแก่เจ็บตาย ของการเปลี่ยนแปลงซึ่งมันไม่ใช่ความจริง ตอนนี้เราต้องเริ่มตื่นกันแล้ว ตื่นแล้วก็ค้นหาความจริงอันนี้ ซึ่งอยู่ในตัวเราตลอด เรามัวแต่หากันทั่วไปหมด ทุกหนทุกแห่ง ทั่วจักรวาล แต่เราลืมไปความจริงอยู่ในตัวเราไม่ต้องไปหาที่ไหน..

ไปเช็ดน้ำตาก่อนนะจ๊ะ..

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก วันที่ตอบ 2011-04-27 07:47:23

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) (surasit2010-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-04-30 07:57:42

ความคิดเห็นที่ 364 (1543033)

เราจะต้องแสวงหาความจริง ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของพวกเราที่จะเข้าสู่ยุคใหม่กัน...ความจริงคือสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง ความจริง จริงอย่างไรในวันนี้ก็ต้องจริงในวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้เป็นพรุ่งนี้ของพรุ่งนี้ก็ต้องจริงไปเรื่อย ๆ ความจริงจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้...

...เราต้องค้นหาแสวงหาความจริงในจิตใจของเราเป็นที่เดี่ยวที่เรายังไม่ได้ค้นหา กันอย่างจริงจัง และเมื่อเราเข้าไปในจิตใจของเรา เราจะเริ่มค้นพบ ความจริง ความจริงจะเริ่มปรากฎขึ้นมาและความจริงนั้นไม่มีการเกิดการดับไม่มีการเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นก็คือนิพพาน...

...เราคือนิพพาน แต่เราไม่รู้ตัว เมื่อไม่รู้ตัวเราก็หลงอยู่ในโลกของเรา ของการเกิดแก่เจ็บตาย ของการเปลี่ยนแปลงซึ่งมันไม่ใช่ความจริง

ได้อ่าน ได้ทบทวนให้กับตัวเองในส่ิงที่ได้ฟังมาอีกครั้ง ก็ยังคงเกิดปิติอีกเช่นกัน...สิ่งที่ผมพยายามหาทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายนอกกายของผมทั้งสิ้น แต่ไม่เคยสนสิ่งที่อยู่ภายในกายเลย แล้วก็ปล่อยให้สิ่งที่อยู่ภายนอก มากระทบใจตัวเอง กระทบจิตตัวเอง แล้วก็จ้องโทษว่าสิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี โดยไม่ได้มองเข้ามาที่จิตของเรา ว่ามันคิดไปถึงไหน ตามไปเท่าไหร่ก็ไม่ทัน เผลอหน่อยเดียวก็เกิดเป็นอารมณ์ปรุงแต่งไปต่างๆ นาๆ โดยเราไม่รู้ตัว หรือรู้ได้ไม่เท่าทันจิตของตัวเอง...แต่ถ้าเราค้นหาทุกอย่างภายในกาย ภายในจิตของตัวเราเอง สิ่งที่เจอก็ไม่ได้หนีไปจากความจริงที่เที่ยงแท้แน่นอนที่สุด คือ นิพพาน

วันที่ตอบ 2011-04-30 08:15:00

ความคิดเห็นที่ 365 (1543067)
ขอกราบเรียนด้วยความเคารพอย่างสูง และขออนุโมทนากับทุกท่าน แต่มีเรื้องชี้แนะสักนิดนึงคือ เรื่องคำทำนายที่เป็นบทกลอนที่บอกว่าเป็นของ หลวงพ่อฤาษีนั้น อยากแจ้งว่าคำทำนายนี้ไม่ใช่ของท่านครับ ผมทราบจากพระลูกศิษย์ของท่านโดยตรง และทางเจ้าหน้าที่ของเวป วัดท่าซุงก็ได้ชี้แจงแล้วนะครับ อยากให้ผู้ที่เคารพในองค์หลวงพ่อทราบ จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดกันนะครับ ขออนุโมทนากับทุกท่านอีกครั้งครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น วสุ (sodsai_artdrink-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-04-30 12:17:17

ความคิดเห็นที่ 366 (1543166)

อนุโมทนากับธรรมะสอนใจจากพี่มหาด้วยนะคะ

และขอชี้แจงกับคุณวสุว่า เรื่องนี้ทุกคนทราบแล้วค่ะ

และคุณแมวเคยเขียนชี้แจงไปแล้วในกระทู้ก่อนๆโน้น..ค่ะ

ไม่แน่ใจว่าชื่อกระทู้อะไร.. แต่ก็ขออนุโมทนากับคำชี้แนะนะคะ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-01 01:32:41

ความคิดเห็นที่ 367 (1543167)

เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2554

ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก ‘ท่านผู้เตือน’
ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว

และอื่น ๆ แต่เนื้อหาใจความสำคัญยังคงอยู่
ข้อความบางอันที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่เตือนเฉพาะบุคคลก็ได้ถูกตัดออกด้วย

ข้อความบางส่วนอาจซ้ำซ้อนกัน เพราะเป็นการกล่าวในต่างวาระกัน
แต่ผู้เขียนนำมารวมไว้ที่เดียวกัน โดยเปลี่ยนแปลงถ้อยคำต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด

ข้อความมีดังนี้

----------------------------------------------------------------------------------

วันที่เกิดภัยพิบัติ วันนั้นท้องฟ้าจะเป็นสีแดงดังเลือด
ลมก็จะแรง แรงมากจนบ้านเรือนพัง ทุกคนจะอยู่ในที่ของตัวเอง
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จงมีสติ วันนั้นจะมีคนเสียขวัญมากมาย
คนมีสติจงเป็นกำลังใจให้คนอื่น ๆ ผู้เป็นผู้นำอย่าเสียใจให้คนอื่นเห็น พวกที่รอดจะได้เอาเป็นแบบอย่าง
หลังท้องฟ้าเปิดทุกสิ่งจะเปลี่ยนหมด ความดีจะปรากฎ
จงเตรียมพร้อม เวลาที่เกิดเป็นเวลากลางคืน ของวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2554 เวลาตี 3

วันนั้นจะเกิดลมพายุตีเข้ามาอย่างแรงทุกทิศทุกทางของจังหวัดอุตรดิษถ์
ตีขึ้นมาจนถึงกรุงเทพ หลังจากนั้น 3 วันน้ำจะเริ่มลด
มีความสูญเสียของมนุษย์ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย

นับจากวันนี้จงเตรียมพร้อมรับกับภัยพิบัติเพราะมันอาจมาเร็วกว่านั้น
วันที่เกิดนั้นท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีและจะมีลมแรงตลอดเวลา
ท้องฟ้าแดงดังสีเลือด ฝนจะตกหนักติดต่อกัน บ้านเรือนจะเริ่มพัง
น้ำจะเริ่มเข้ามาจนทำให้น้ำท่วมเต็มถนนหนทาง จะได้เห็นถึงการเปลี่ยนของท้องฟ้า
หลังจากนั้นรอบตัวของผู้ที่รอดจะมีแต่น้ำและผู้ที่บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตมากมาย
พอน้ำเริ่มลดถนนหนทางที่ขาดอันเนื่องจากภัยพิบัติกว่าจะกลับมาใช้งานได้ดังเดิมก็หลายวัน
หลายคนที่รอดไม่สามารถไปทำงานได้เพราะสถานที่มีความเสียหาย

ในวันนั้นบางคนอาจกำลังเดินทาง ออกไปทำธุระข้างนอก
เมื่อมีลมพายุฝนก็อาจเสียหายทั้งรถทั้งคน
ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนเป็นต้นไปถนนอาจจะเริ่มขาดเสียหายแล้วบางส่วน

วันที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงคืน

คืนนั้นจะมีบางสิ่งเข้ามา มันอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้เลยทีเดียว
คืนนั้นจะมีน้ำตีเข้ามาจากทางเหนือ เข้าด้วยความเร็วสูง
ถึงจะมีการเตรียมการอย่างไรก็ยังมีการสูญเสีย
ความแรงของน้ำจะนำเอาบ้านเรือนติดตามมาด้วย
ความเสียหายจะมากมายทั้งทรัพย์สินเงินทองและชีวิต
ถนนหนทางจะพังพินาศ แถวสีลมจะมีการทรุดตัวของตึกสูง พื้นแผ่นดินจะมีการขยับตัว
ถ้ามีตึกหนึ่งเท อีกตึกหนึ่งก็พากันล้มตามกันเป็นแถว
ลมนั้นจะเรียกว่าพายุก็ได้ ถนนเส้นสาทรก็มีผลเช่นกัน
สองฝั่งถนนจะมีแต่ผู้คนหนีตายทั้งน้ำทั้งลมรวมถึงฟ้า
ถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์จะต้องคิดว่าตนต้องตายแน่นอน
ผู้ที่กลัวขอให้ตั้งสติ ขอพึ่งบารมีคุณพระศรีอาริยเมตไตรย์

ฝนฟ้าจะเปลี่ยนกันเป็นระยะ เช่นวันนี้ร้อนจัด อีกวันฝนตกหนัก อีกวันหนาวจัด
ถ้าเป็นแบบนี้ เตรียมได้เลย เกิดภัยพิบัติแน่ ๆ
ก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นจะมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน

จนน้ำในกรุงเทพเริ่มท่วมตามถนน

วันที่ 5 พ.ค. จะยังไม่เกิด แต่อาจมีพายุเข้าเท่านั้น

ไม่ว่าจะเห็นหรือได้ยินอะไรจงมีสติและระลึกถึงพระศรีอาริยเมตไตรย์

----------------------------------------------------------------------------------

ท่านย้ำว่า วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงคืน
แต่ดูตามปฏิทินวันที่ 18 เป็นวันเสาร์

เราคาดว่าตามความหมายของท่านนั้น ท่านหมายถึง
เที่ยงคืนของวันที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อที่เปลี่ยนจากวันเสาร์เข้าไปสู่วันอาทิตย์
(ไม่ใช่เที่ยงคืนที่เป็นรอยต่อจากวันศุกร์เปลี่ยนไปเป็นวันเสาร์)

________________________________________________

เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2554

ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก ‘ท่านผู้เตือน’
ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย
เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว และอื่น ๆ แต่เนื้อหาใจความสำคัญยังคงอยู่

1. สำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่มีภัยพิบัติควรทำอย่างไร
หากนึกถึงบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรย์จะช่วยได้ไหม
การที่มนุษย์มีความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็สามารถขอพึ่งบารมีต่อพระองค์ได้
คนดีทำด้วยจิตใจโดยแท้นั้นคิดสิ่งใดหวังสิ่งใดก็จะสำเร็จ

2. สำหรับประชาชนทั่วไปที่เชื่อคำเตือน หากในวันที่ 16 มิถุนายน เริ่มเกิดความผิดปกติของธรรมชาติ
หรือเริ่มเกิดภัยพิบัติ ควรให้ประชาชนที่เชื่อถือไปอยู่ในสถานที่แห่งใด
ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย รอก่อน หากเห็นว่าจะมีที่ใดเป็นที่กันภัยจะบอกให้อีกที

3. เราพอจะนัดแนะสถานที่บอกเขาไว้ก่อนได้หรือไม่ว่าให้ไปในสถานที่ใด
และเราพอจะเตรียมสถานที่ไว้รองรับเขาเหล่านั้นที่เชื่อเราได้หรือไม่
พอจะมีสถานที่ใดที่ใหญ่ ๆ เช่น วัด โรงเรียน ที่พอเป็นที่พักได้บ้าง
เห็นข่าวสึนามิที่ญี่ปุ่น คนที่ญี่ปุ่นต้องไปพักและรักษาพยาบาลกันในสนามกีฬา
ในกรุงเทพพอจะมีสถานที่แบบนั้นหรือไม่
(สมมติว่ามีคนเชื่อเราสัก 100 – 200 คน จะรวมคนกลุ่มนี้ไว้อย่างไร จะช่วยเขาได้หรือไม่)
ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย

4. หลังจากภัยพิบัติแล้วพอครบสามวันน้ำก็ลดลงหมดเลยทีเดียว หรือน้ำจะค่อย ๆ ลดลง
น้ำที่เข้ามามีจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นต้องใช้เวลาหลายวันจนอาจเป็นเดือน
เพราะถึงตอนนั้นทุกที่จะมีแต่น้ำ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานที่

5. ต้องเตรียมอาหารและน้ำสำหรับกี่วัน
การจัดเตรียมอาหารต้องมากหน่อย เพราะการเดินทางไปไหนมาไหนมันยากลำบากมาก
จัดเตรียมให้มากหน่อย อาจจะต้องติดอยู่หลายวัน

6. หลังจากภัยพิบัติเกิดแล้ว จะนัดแนะล่วงหน้าไว้ได้หรือไม่ว่าจะให้ประชาชนที่รอดชีวิตมารวมตัวกัน
หรือเดินทางมารับความช่วยเหลือได้ที่ไหน
การมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อถึงวันนั้นการเดินทางเป็นเรื่องยากลำบาก
การจะระบุว่าให้ไปรวมตัวกันที่ไหนเป็นเรื่องยาก
เมื่อถึงวันนั้นจะมีผู้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิต

7. การที่จะช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นจะต้องทำอย่างไร เตรียมการอย่างไร
จะรวบรวมคนมาช่วยได้อย่างไร จะรวมกลุ่มกันทำงานช่วยเหลือคนได้หรือไม่
การที่มีจิตคิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นั้นเป็นเรื่องดีและถูกต้องที่สุดแล้ว
แต่การรวมตัวกันในสถานการณ์เช่นนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

8. จะสามารถนัดแนะกลุ่มคนที่รอดชีวิตมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างไร
เพราะหากไม่นัดแนะไว้ก่อน กลัวว่าถึงเวลาจะติดต่อกันไม่ได้
เพราะการสื่อสารต่าง ๆ อาจเสียหาย โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตใช้การไม่ได้
การนัดหมายให้ทำเมื่อวันสุดท้ายของการเตือนภัย มิฉะนั้นจะมีปัญหาตามมามากมาย
จะมีผู้มาสร้างปัญหาให้วุ่นวาย แต่ถ้าแจ้งวันสุดท้ายพวกเขาจะจำได้ดี

9. ต้องเตรียมเรือไว้ช่วยคนหรือไม่
ในสถานการณ์เช่นนั้นเรือมีความจำเป็น ถ้าคนมีกำลังพอจะเตรียมไว้ก็ดีและได้ใช้แน่นอน

10. ทำอย่างไรจะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้มากที่สุด
การจะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับบาดเจ็บนั้น

จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการขนย้าย
ลำพังมนุษย์ด้วยกันจะทำได้ไม่เต็มที่ คนที่เชื่อในคำเตือนมีมากอยู่
แต่หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้วทุกคนมีการสูญเสียกัน
ทุกคนจึงไม่มีจิตใจที่จะไปช่วยใคร บางทีตัวเองยังเอาไม่อยู่เลย

11. ในวันนั้นระบบการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตจะยังใช้เพื่อแจ้งข่าวได้หรือไม่
ในวันที่ 16 – 18 มิถุนายน ยังใช้แจ้งข่าวหรือติดต่อกันได้หรือไม่
ก่อนภัยจะมาทุกส่งเริ่มมีปัญหาแล้ว น่าจะใช้การไม่ได้แล้ว

12. วิทยุสื่อสาร (วอ หรือวิทยุเครื่องสีแดง ๆ แบบที่ รปภ.ใช้)

จะยังใช้การได้หรือไม่ในเวลาเกิดภัยพิบัติ
หากเตรียมไว้จะมีประโยชน์หรือไม่
ไม่มีประโยชน์ (ผู้เขียน : แต่อาจมีประโยชน์หลังภัยพิบัติ ?)

13. จังหวัดที่เกิดภัยพิบัตินั้น มีจังหวัดอะไรบ้าง หรือเฉพาะกรุงเทพ
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดทั่วโลก หรือเกิดเฉพาะในประเทศไทย
ภัยพิบัติครั้งนี้มิใช่เกิดขึ้นทั้งโลก เป็นเพียงประเทศไทย
แต่อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ ต้องดูตอนใกล้ ๆ อีกที
ภัยครั้งนี้อาจเกิดโดยทั่วกันหลายจังหวัด มากน้อยอยู่ที่ผู้ปฏิบัติดีหรือชั่ว
ถ้าดีก็เสียหายน้อย ถ้าชั่วก็เสียหากยมาก

14. เมื่อเกิดภัยพิบัติแล้วจะฟื้นฟูระบบต่าง ๆ กลับมาได้ทัน ก่อนที่จะมีภัยพิบัติครั้งต่อไปหรือไม่
การสื่อสารต่าง ๆ จะกลับมาใช้งานได้ทัน เพราะสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับมนุษย์มาก
อาจจะกลับมาใช้งานได้เร็วกว่าการช่วยชีวิตคนเสียอีก
แม้สถานที่ทำงานบางที่จะเกิดความเสียหายแต่ก็ไม่มาก แต่อาจจะต้องหยุดงานกันเป็นเดือน
(ผู้เขียน : แสดงว่ากรุงเทพยังคงไม่สูญสิ้น ถ้ารอดตายยังต้องกลับมาทำงานอีก)

15. ในหลวงจะทรงปลอดภัยหรือไม่
ในหลวงท่านจะเสด็จย้ายไปต่างจังหวัดหรือจะยังอยู่ในกรุงเทพ
ในหลวงท่านเป็นผู้มีบุญบารมีมาก พระองค์ท่านจะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พระองค์ทรงอยู่เพื่อประชาชนของพระองค์
ท่านรู้ทุกสิ่งแม้แต่ภัยพิบัติ ท่านอยู่เพื่อประชาชนของท่าน
(ผู้เขียน : แต่อาจมีคนอื่นที่หวังดีพาท่านเสด็จไปที่อื่นหรือไม่ ?)

อนุโมทนากับคำเตือนจากคุณKaran20 แห่งเว็บพลังจิตค่ะ

ที่มาข้อมูล

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-01 01:45:28

ความคิดเห็นที่ 368 (1543170)

คำเตือนและข้อสังเกตจากคุณ ผู้มาใหม่ จากเว็บพลังจิต

เมื่อวันที่25-04-11

อนุโมทนาด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

เหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดแผ่นดินไหว

วันนี้ผมมาเพิ่มเติมอีกครั้งนะครับ
ก่อนเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

จะมีพระเกจิอาจารย์อิสานชื่อดังท่านจะละสังขาร

ในวันอังคารครับเวลาประมาณ 01.30 น.ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-01 05:22:01

ความคิดเห็นที่ 369 (1543179)

ขออนุโมทนากับ ผู้มาใหม่ และพี่ชนิดาคะ

ขออนุญาติเผยแพร่คะ

วันที่ตอบ 2011-05-01 09:11:34

ความคิดเห็นที่ 370 (1543183)

ขออนุญาตินำไปเผยแพร่ต่อเช่นกันนะคะ

อนุโมทนาค่ะ..

เศร้า..แต่ละท่าน ต่างละสังขารกัน..

เหมือนจะบอกเรา ๆ ท่าน ๆ ว่าถึงวาระแล้วลูกเอย

ผู้แสดงความคิดเห็น พิชญ์นันท์ (pitcha_nate-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-01 10:23:12

ความคิดเห็นที่ 371 (1543188)

พระองค์ท่านจะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น พระองค์ทรงอยู่เพื่อประชาชนของพระองค์

ปลื้มปิติน้ำตาไหลค่ะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาก

ขออนุโมทนาบุญกับคุณชนิดาและเจ้าของข้อมูลค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-01 10:49:32

ความคิดเห็นที่ 372 (1543298)

ข้อความนี้เขียนโดยคุณ Kananun แห่งเว็บพลังจิต

ขออนุโมทนากับคุณKananun ด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ..

ตั้งแต่ วันฉัตรมงคล ที่ 5 พฤษภาคม 2554 ถึง 5 ธันวาคม 2554และตลอดไป จะมีการร่วมใจกัน ลงมือ ทำความดีถวายองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดยความดีดังกล่าวนี้ ตั้งใจให้แต่ละท่าน ลงมือ ทำความดีให้ครบ พันประการ พันสิ่ง พันครั้ง

เมื่อผู้คน แสนคน แสนดวงใจ ร่วมใจกันทำความดี สร้างกุศล บุญย่อมปรากฏมากมายหาที่สุดไม่ได้ เป็นอภิจิต บุญมหากุศลที่มารวมเป็นหนึ่งเดียว

และย้อนกลับมาเป็นบุญคุ้มครอง ผู้คนในชาติ คุ้มครองพระบวรพุทธศาสนนาและองค์พระมหากษัตริย์ต่อไป

เมื่อบุญมวลรวมประชาชาติถักทอร่วมกัน ย่อมกางกั้นภัยพิบัติทั้งหลายให้บรรเทาเบาลงไป

ขอให้ทุกท่านผู้มีจิตอันเป็นมหากุศล มีปัญญาอันละเอียดลึกซึ้งตรึกคิดเห็นในอานิสงค์ที่พึงเกิดต่อส่วนรวม มาร่วมใจกัน

ลงมือทำความดีพันประการ

เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน

เพื่อให้ความดีแทนคุณพระบวรพุทธศาสนาและให้ความดีนี้สืบต่ออายุพระศาสนาตราบห้าพันปี

เพื่อสนองพระเดชพระคุณองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำความดีให้บ้านเมืองของเราในทุกวิถีทาง

เพื่อความดีงามในสังคมอันมี ศานติสุข ร่มเย็น

เพื่อขัดเกลาใจเราให้เป็นกุศล

และเพื่อความดีที่เราทำนั้นจะได้น้อมนำเราสู่เพื่อพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ __________________

ความดีพันประการที่ส่งผลต่อตัวผู้ทำความดีนั้นเอง

เมื่อผู้ทำความดีได้ลงมือสร้างมากขึ้น ดังเป็นการเอาน้ำดีมาไล่น้ำเสียออกไป โดยเราเองไม่ต้องไปเปรียบเทียบ ไปแข่ง ไปวัด ไปดู ไปติง ไปติคนอื่น เพียงเอาความดีที่ตั้งใจและได้ลงมือทำนั้นไปไล่ น้ำเสียหรืออกุศลออกจากใจของเราเองนั่นเอง เมื่อทำความดีคือกุศลมากเข้า ความชั่วก็ละลายค่อยๆหายไปจากจิตใจ ผลสะท้อนกลับทางโลกที่จะเห็นได้ก็คือ

ใจเราอยากช่วยเหลือแบ่งปัน มากกว่าเป็นผู้เบียดเบียน
ใจเรามีความสุขจากการให้ มากกว่าการเป็นผู้รับ ผู้กอบโกย
ใจเราจดจ่ออยู่กับการทำความดี มากกว่าการคิดชั่ว คิดลบ
ใจเราเกิดเมตตาจิต มากกว่าความคิดอาฆาตแค้นพยาบาท

เราจะพบว่าจิตเราเป็นกุศลเป็นบุญเกิดความสุขความอิ่มเต็มภายในใจ เมื่อจิตเป็นกุศลก็ย่อมดึงดูดสิ่งดีงามมาสู่ชีวิต

เมื่อจิตใจดี การคิดการเบียดเบียนกันก็ลดลง ศีลห้าก็พลอยบริสุทธิ์ พรหมวิหารสี่ก็พลอยเต็ม

เป็นคนดีจากภายในใจ เป็นคนดีในความรู้สึกสัมผัสของคนรอบข้าง

คิด พูด ทำแต่สิ่งที่สร้างสรรค์สังคม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มีชาติศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นที่ตั้ง

และแม้ความดีรวมตัว บารมีเต็มกุศลหนุนนำ ความดีนั้นย่อมส่งผลต่อมรรคผลทางธรรมได้

หากความดีในแต่ละวันที่เราตั้งใจลงมือทำนั้น มี

1.รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์
2.มีความเคารพในพระรัตนไตรด้วยจิตนอบน้อมอ่อนโยนสิ้นสงสัยในธรรมทั้งปวง
3.พิจารณาในธรรม อันได้แก่ความไม่เที่ยงแห่งร่างกายอัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไปในที่สุด ด้วยความไม่ประมาทในสังขาร
4.มีพรหมวิหารสี่เมตตาเต็มบริบูรณ์
5.รักษาจิตให้เป็นกุศล ละดับอกุศลทุกประการ ประคองจิตให้ผ่องแผ้วเบิกบานใสประภัสสรเอาไว้

จนธรรมทั้งห้าประการเป็นปกติของใจ เป็นธรรมชาติของจิต ก็จัดเป็นกำลังใจแห่งพระโสดาบัน พระอริยเจ้าเบื้องต้นแห่งพระพุทธศาสนา ปิดประตูนรกและอบายภูมิทั้งปวง

ความดีพันประการที่ตั้งใจทำนั้น หากเราตั้งใจนำวาระแห่งนี้ พลิกจิตยกใจเราสูงขึ้นสู่กระแสโลกุตตระแล้วก็ยิ่งเป็น บุญ เป็นกุศลมหาศาลหาประมาณไม่ได้ จนเป็นเกราะแก้วคุ้มครองชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ได้อย่างอัศจรรย์

จิตอันตั้งไว้ดีแล้วย่อมนำประโยชน์สุขต่อตนเอง ต่อสังคมและส่วนรวมในที่สุด __________________

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 02:11:35

ความคิดเห็นที่ 373 (1543339)

ขอบคุณ

และอนุโมทนา

กับคุณ Kananun และ

พี่ชนิดา ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 12:37:01

ความคิดเห็นที่ 374 (1543348)

การเตรียมการกรณีเกิดภัยภิบัติน้ำท่วม สถานการณ์
๑. น้ำท่วมใช้พื้นที่ชั้นล่างของอาคารไม่ได้ ระดับน้ำสูงประมาณ ๒ เมตร
๒. ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าจากการบริการของภาครัฐ
๓. การสื่อสารทางโทรศัพท์ ไม่สามารถใช้การได้
๔. ระดับน้ำลดลงสู่สภาวะปกติภายในระยะเวลา ๗ วัน และสามารถฟื้นฟูสู่สภาพปกติใน ๑ เดือน
หมายเหตุ รายการและจำนวนสิ่งของที่แนะนำไว้นี้สำหรับระยะเวลา ๗ วัน หากสถานการณ์รุนแรงนานเกินกว่านั้น อาจต้องเพิ่มรายการและจำนวนสิ่งของเพิ่มเติม
สภาพแวดล้อม
๑. มีฝนตกในปริมาณ ๒๐๐ มม. (ฝนตกหนักสลับกับฝนปรอยตลอดวัน)
๒. อุณหภูมิ ๑๘-๓๕ องศาเซลเซียส

รายการอุปกรณ์	บรรยายรายละเอียดของความต้องการ และจำนวน	การใช้งานในสถานการณ์
๑. อุปกรณ์กรองน้ำ	๑.๑ ร่างกายประกอบไปด้วยน้ำ ๗๐% (หากเราน้ำหนัก 50 กิโล จะเท่ากับมีน้ำอยู่เท่ากับ ๓๕ กิโล คิดเป็นน้ำประมาณอย่างคร่าวๆ ๓๕ ลิตร) หากน้ำหายไปเพียง 1% หรือประมาณ ๓.๕ ลิตร เราจะมีปัญหาอื่นๆตามมา ตั้งแต่ปวดหัว เป็นไข้ ผิวแห้ง การร้อนใน ปัญหาการขับถ่ายหรือท้องผูก เนื่องจากมนุษย์ต้องการน้ำดื่มในปริมาณ ๕-๖ ลิตร/วัน การเตรียมน้ำดื่มในปริมาณมากจะกินพื้นที่ในการเก็บรักษา รวมถึงจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายเทเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำอยู่เป็นประจำ อุปกรณ์กรองน้ำที่มีคุณภาพพอที่จะเปลี่ยนน้ำทั่วๆ ไป ให้กลายเป็นน้ำดื่ม ถือเป็นสิ่งจำเป็น (จำนวน ๑ ชุด/ครอบครัว)	๑.๑ กรองน้ำดื่ม ๑.๒ ใช้ที่กรองน้ำขนาดเล็กพกพาได้ขนาดใหญ่กว่าปากกาเล็กน้อยสำหรับใส่เป้ ๑.๓ ใช้ที่กรองน้ำแบบเป็นถุงถ่ายน้ำเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน
๒. ไฟแสงสว่างสำรอง	จากสภาพขาดแคลนไฟฟ้า แสงสว่างในเวลากลางคืนเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งในการค้นหา ให้สัญญาน หรือ แจ้งเตือนผู้บุกรุก ๒.๑ ไฟฉายหรือไฟฉายแบบคาดหัวรวมถึงถ่านไฟฉาย (เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน) ขนาดเล็กสำหรับพกพาใช้ควรเลือกแบบที่กันน้ำได้ หรือใส่ไว้ในถุงพลาติกใส่แล้วใช้หนังยางรัดเพื่อป้องกันน้ำ ถ่านไฟฉายใช้แบบที่สามารถหาได้ง่าย (จำนวน ๑ ชุด/คน) ๒.๒ ตะเกียงเจ้าพายุพร้อมใส้สำรอง(แบบใช้น้ำมันเบนซิน) เนื่องจากว่าหากใช้สิ่งที่ให้ความสว่างจากถ่านไฟฉายโดยทั่วไปแบบที่เป็น ตะเกียงจะใช้ได้ประมาณ ๑๐-๕๐ ชั่วโมง ต่อการเปลี่ยนถ่าน 1 ชุดเท่านั้น (จำนวน ๑ ชุด/ครอบครัว) พร้อมน้ำมันสำรอง (๒ ลิตร)	๒.๑ ใช้ค้นหาสิ่งของ ส่งสัญญาน ๒.๒ ใช้ในการให้แสงสว่างในเวลากลางคืน เพื่อความสะดวก และ ป้องปรามผู้บุกรุก ๒.๓ ใช้ตะเกียงน้ำมันในกรณีเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน ๒.๔ ใช้ตะเกียงใส่ถ่านไฟฉายขนาดเล็กเก็บไว้ในเป้
๓. เตาประกอบอาหาร	การ เตรียมอาหารโดยใช้ความร้อนเป็นการทำให้สุขอนามัยพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ ที่ฉุกเฉิน หากมีการเจ็บป่วยเพิ่มเติมเนื่องจากขาดแคลนอาหาร หรือ อาหารเป็นพิษจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นไปอีก ๓.๑ เตาน้ำมันเบนซิน ๑ ชุด เนื่องจากการรับประทานอาหารที่ไม่ปรุงสุกในสภาพไม่พร้อมอาจทำให้เกิดโรคทาง เดินอาหาร หากเกิดอาการป่วยในสภาพขาดการบริการทางการแพทย์อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และแก๊สหุงต้มที่ใช้งานปกติส่วนมากมักจะอยู่ในห้องครัวซึ่งอยู่ชั้นล่าง จะไม่สามารถใช้งานได้ การใช้น้ำมันเบนซินจะมีข้อดีเนื่องจากอ่อนตัว จัดหาได้ง่าย และ ให้พลังงานที่พอเพียง (๑ ชุด/ครอบครัว) น้ำมันสำรอง ๕ ลิตร	๓.๑ ใช้ประกอบอาหาร ให้ความร้อน ๓.๒ ใช้เตาน้ำมันเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน ถ้าเตามีขนาดเล็กสามารถเก็บไว้ในเป้ได้เลย) ๓.๓ ใช้แอลกอฮอล์แข็ง หรือเตาใช้แก็สขนาดเล็กเก็บไว้ในเป้
๔. มีดพับชุดและชุดอุปกรณ์อเนกประสงค์	ใน สภาวะที่ฉุกเฉินหรือแม้กระทั่งในสภาวะปกติ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น คีม มีด ไขควง เป็นสิ่งที่ควรจะมีไว้แก้ไขปัญหาเล็กน้อย ถ้าเราใช้อุปกรณ์ขนาดเต็ม จะยากต่อการพกพา(๑ ชุด ต่อ ครอบครัว)	ใช้พกติดตัวเพื่อใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าอาทิเช่นไขนอต จับสิ่งของเล็กๆที่ใช้มือจับยาก ตัดสิ่งของขนาดเล็ก
๕. เสื้อผ้าสำรอง	การ ใช้ชีวิตอยู่ ๗ วัน โดยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอาจเป็นไปได้แต่ก็ไม่สมควรที่จะทำ ควรจะมีเสื้อผ้าสำรอง ๒-๓ ชุด รวมถึงเสื้อกันหนาวด้วย (ถ้ากันน้ำด้วยยิ่งดี) (๒-๓ ชุดต่อคน)	ควรเป็นชุดที่สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
๖. ภาชนะใส่อาหาร น้ำ	การต้มน้ำ และภาชนะใส่น้ำ อาหาร รวมถึงช้อน ส้อม (๑ ชุด ต่อ คน)	ควรเป็นชุดเล็กทำจากภาชนะที่เบา ไม่แตกง่าย อาทิเช่น อลูมิเนียม พลาสติก
๗. ชุดยาสำรอง	ยาเฉพาะของแต่ละบุคคล และยาทั่วๆ ไป เบื้องต้น พวก ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อักเสบรวมถึงอุปกรณ์ปฐมพยาบาล(ครอบครัวละ ๑ ชุด)	ใช้รักษาพยาบาลยามฉุกเฉิน
๘. วิทยุขนาดเล็ก	การ รับรู้เรื่องราวจากภายนอกเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะจะได้รับรู้ถึงความก้าวหน้า ของสถานการณ์เพื่อจะเป็นเครื่องตัดสินใจว่าจะอยู่รอการช่วยเหลือหรือจะต้อง อพยพ (ครอบครัวละ ๑ ชุด)	ใช้ฟังข่าวสารภายนอก
๙. อุปกรณ์ส่งสัญญาน	การส่งสัญญานขอความช่วยเหลืออาจใช้อุปกรณ์ส่งเสียงเช่น กระจก นกหวีด ไฟกระพริบ สัญญานควัน พลุไฟหรือแท่งเคมีเรืองแสงในเวลากลางคืน(คนละ ๑ ชนิด)	ใช้ส่งสัญญานตามที่ได้นัดหมาย หรือขอความช่วยเหลือ
๑๐. ถ่านไฟฉายสำรองหรือที่ชาร์จถ่านและแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือพลังไดนาโม	ใน เมื่อเราจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็น ถ่านไฟฉายเป็นสิ่งจำเป็นควรเตรียมไว้อย่างพอเพียงสำหรับการใช้งาน ๗ วันหรือสามารถใช้ร่วมกับที่ชาร์จถ่านพลังไดนาโม (ใช้มือหมุน) เพื่อใช้ชาร์จถ่านและแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ	ใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้า
๑๑. กระเป๋า หรือเป้หลัง	การเก็บสิ่งของต่างๆ ควรเก็บรักษาให้เป็นหมวดหมู่ และสามารถเดินทางได้ทันที (คนละ ๑ ชุด)	บรรจุสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่ และพร้อมออกเดินทาง
๑๒. อุปกรณ์จุดไฟ	การ จุดไฟเตาหุงหาอาหาร หรือตะเกียงให้แสงสว่าง ควรมีอุปกรณ์จุดไฟสำรองที่สามารถจุดได้เมื่อเปียก อาจใช้ แท่งจุดไฟ ไฟแช๊คกันน้ำ หรือ ไม้ขีดซึ่งห่อหุ้มวัสดุกันน้ำ และยังสามารถใช้จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นอีกด้วย (คนละ ๑ ชุด)	ใช้จุดไฟสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟ
๑๓. มีดขนาดใหญ่	การ ใช้งานอุปกรณ์อเนกประสงค์ใช้ได้เฉพาะงานเบา ถ้าเป็นงานหนักๆ ประเภทตัดหรือสับไม้ จะต้องใช้ใบมีดซึ่งใหญ่กว่า ความยาวของใบมีดควรจะมีขนาดตั้งแต่ ๘ นิ้วขึ้นไป(ครอบครัวละ ๑ เล่ม)	สำหรับตัดกิ่งไม้ หรือใช้กับงานหนัก
๑๔. ยากันยุงและแมลง	แมลง มีพิษ และไม่มีพิษต่างๆ เมื่อน้ำท่วมอาจหนีน้ำขึ้นมาอยู่ในบริเวณที่แห้งจึงควรจะมีน้ำยากันแมลง และน้ำยากันยุง เพื่อป้องกันโรคติดต่อและความรำคาญ (คนละ ๑ ชุด)	ป้องกันแมลงรบกวน
๑๕. อุปกรณ์ทำความสะอาด	การรับประทานอาหาร หรือใช้เสื้อผ้า ที่มีจำนวนจำกัด จำเป็นจะต้องมีการทำความสะอาด ควรจะเป็นน้ำยาบรรจุขวดขนาดเล็ก(คนละ ๑ ชุดเล็ก)	ใช้ชำระล้างทำความสะอาด
๑๖. ผ้ากันน้ำ	หลัง เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสิ่ง ก่อสร้างต่างๆ อาจมีการเสียหาย ในสภาพฝนตกหรือมีน้ำค้างควรจะมีผ้ากันฝนซึ่งจะใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่ปูนั่งชั่วคราว มุงบังพื้นที่ กันแดด ฝน ฯลฯ (๒ คน ต่อ ๑ ชุด)	กันน้ำฝน ควรมีความกว้างไม่ต่ำกว่า ๓X๔ เมตร
๑๗. เครื่องนอน	การ นอนในสภาพที่ไม่คุ้นเคย และอากาศแปรปรวน อาจทำให้นอนได้ยาก ควรมีเครื่องนอนฉุกเฉิน อาทิเช่น ถุงนอนขนาดเล็ก หรือ ผ้าห่มแบบพกพา(คนละ ๑ ชุด)	ใช้สำหรับอำนวยความสบายในการนอน
๑๘. เชือกขนาดเล็กและขนาดใหญ่	เชือก ขนาดเล็กใช้ผูกรัดสิ่งของและใช้งานอเนกประสงค์อาทิเช่น ทำราวตากผ้า ผูกยึดผ้ากันฝน ฯลฯ ควรเป็นเชื่อกที่มีความเหนียวอาทิเช่น เชือกร่ม (คนละ ๑ ชุดเล็ก ประมาณ ๒๐ เมตร) เชือกใหญ่ความยาวประมาณ ๒๐ เมตร ใช้ช่วยชีวิตคน	ใช้ผูกมัดสิ่งของและช่วยชีวิต
๑๙. เทปกาว	ใช้ในการการติดยึด หรือซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ ที่ชำรุดด้วยความรวดเร็ว(คนละ ๑ ม้วน ประมาณ ๑๕ เมตร)	ใช้ติดปะ ซ่อมแซมอุปกรณ์ชั่วคราว
๒๐. กระดาษชำระ	ใช้ในการเช็ดล้างทำความสะอาดในเรื่องทั่วๆ ไป และใช้เช็ดล้างระหว่างขับถ่าย (คนละ ๑ ม้วน)	ใช้เช็ดทำความสะอาด
๒๑. ถุงขยะและหนังยางรัด	ใช้ทำสุขาฉุกเฉิน เก็บอุจาระและปัสสาวะ เพื่อสุขลักษณะที่ดี เก็บขยะสิ่งปฏิกูลต่างๆ ควรมีไว้ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ ใช้เก็บส่งของที่อาจชำรุดเพราะเปียกน้ำ (ขนาดยาว ๓๐ นิ้ว คนละ ๑๐ ใบ สำหรับ ๗ วัน )	ใช้เก็บสิ่งปฏิกูลเพื่อสุขอนามัยที่ดี
๒๒. อาหารสำรอง	อาจ เป็นจำพวกที่เก็บรักษาได้นานและคละกันไป เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่แตกต่างและไม่เบื่อ อาจจะเป็น พวกอาหารสำเร็จรูป เช่น โจ๊กพร้อมปรุง , บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป , อาหารกระป๋อง , ข้าวสาร และควรเปลี่ยนทุกๆ ๓ เดือน (แต่ละคนเตรียมเองคนละ ๑๔ - ๒๑ ชุด สำหรับ ๗ วัน)	เพื่อเป็นอาหารสำรอง
๒๓. น้ำมันสำรอง	ใช้ในการให้แสงสว่าง และหุงต้ม (คนละ ๑ ลิตร)	ใช้จุดเตาและตะเกียง
๒๔. ของใช้ส่วนตัว	สบู่ , แชมพู , ยาสีฟัน , แปรงสีฟัน ฯลฯ (คนละ ๑ ชุด)	อำนวยความสะดวกส่วนบุคคล
๒๕. ชุดชูชีพ และเรือยาง-ห่วงยาง-แพยางเป่าลม พร้อมอุปกรณ์สูบลม	ชูชีพคนละ ๑ ชุด เรือยางและห่วงยางเป่าลมใช้เป็นอุปกรณ์สำรองสำหรับช่วยชีวิตผู้อื่น ขนย้ายผู้ป่วย ขนย้ายสัตว์เลี้ยงและสิ่งของ	กรณีน้ำสูงเกินระดับที่พัก หรือหากจำเป็นต้องอพยพเคลื่อนย้ายที่พัก
๒๖. ท่อพีวีซี (PVC) ยาวประมาณ 1.5 – 2 เมตร	ใช้สำหรับทำไม้เท้า หยั่งดูความลึกของน้ำ ไล่สัตว์มีพิษ ดัดแปลงเป็นอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น หอก ฉมวก เครื่องมือจับงู
๒๗. โทรศัพท์มือถือในถุงกันน้ำ และวิทยุสื่อสาร (ถ้ามี)	ใน ช่วงระยะแรกของภัยน้ำท่วมและช่วงหลังภัยน้ำท่วมจะสามารถใช้โทรศัพท์ได้เพื่อ ขอความช่วยเหลือ ทั้งยังใช้ฟังธรรมะหรือเสียงสวดมนต์เพื่อให้จิตใจสงบได้	เตรียมบัตรเติมเงินสำหรับโทรศัพท์ด้วย
๒๘. แว่นตาว่ายน้ำและที่อุดหู ถุงมือยาง	แว่น ตาว่ายน้ำช่วยป้องกันดวงตา โรคตาแดงที่มากัยภัยน้ำท่วม ที่อุดหูช่วยป้องกันฟ้าร้องฟ้าคะนองที่ผู้รู้บางท่านเตือนว่าอาจมีเสียงดัง มาก ๆ จนแก้วหูได้รับอันตรายหรือขวัญกระเจิง
๒๙. ผ้าขาวม้า	ผ้าสารพัดประโยชน์ เอนกประสงค์
๓๐. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่อง หนังสือสวดมนต์	พระเครื่องบางรุ่นสร้างมาเพื่อใช้ทำน้ำมนต์ได้ และใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจ

ที่มาhttp://board.palungjit.com/f178/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8
%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-51726-100.html

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 13:48:04

ความคิดเห็นที่ 375 (1543358)

สาธุ

ขออนุโมทนา

มากๆ เลยค่ะ คุณเบญจรัตน์

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 15:52:19

ความคิดเห็นที่ 376 (1543404)
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยนะค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น สำราญ เลสกิเนน (samrantu-at-hotmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-05-02 21:37:52

ความคิดเห็นที่ 377 (1543409)

ขออนุโมทนา สาธุ ๆ ๆ

กับ คุณเบญจรัตน์ ค่ะ

*****************************

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 21:51:36

ความคิดเห็นที่ 378 (1543413)

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ชี้แนะ

โดยเฉพาะ

พี่ชนิดา คุณเบญจรัตน์ และคุณสิทธิ์

หวังว่าจะได้รับการป้องเตือนตลอดไปนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตัวเล็ก/พงษ์เดช ชาวไทย (phongdech1665-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 21:56:41

ความคิดเห็นที่ 379 (1543424)

ขอโมทนาบุญค่ะ

ขออนุญาตขยายตัวอักษรค่ะ

ความเห็นที่ 374 (1543348)

รายการอุปกรณ์

บรรยายรายละเอียดของความต้องการ และจำนวน

การใช้งานในสถานการณ์

๑. อุปกรณ์กรองน้ำ ๑.๑ ร่างกายประกอบไปด้วยน้ำ ๗๐% (หากเราน้ำหนัก 50 กิโล จะเท่ากับมีน้ำอยู่เท่ากับ ๓๕ กิโล คิดเป็นน้ำประมาณอย่างคร่าวๆ ๓๕ ลิตร) หากน้ำหายไปเพียง 1% หรือประมาณ ๓.๕ ลิตร เราจะมีปัญหาอื่นๆตามมา ตั้งแต่ปวดหัว เป็นไข้ ผิวแห้ง การร้อนใน ปัญหาการขับถ่ายหรือท้องผูก เนื่องจากมนุษย์ต้องการน้ำดื่มในปริมาณ ๕-๖ ลิตร/วัน การเตรียมน้ำดื่มในปริมาณมากจะกินพื้นที่ในการเก็บรักษา รวมถึงจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายเทเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำอยู่เป็นประจำ อุปกรณ์กรองน้ำที่มีคุณภาพพอที่จะเปลี่ยนน้ำทั่วๆ ไป ให้กลายเป็นน้ำดื่ม ถือเป็นสิ่งจำเป็น (จำนวน ๑ ชุด/ครอบครัว) ๑.๑ กรองน้ำดื่ม
๑.๒ ใช้ที่กรองน้ำขนาดเล็กพกพาได้ขนาดใหญ่กว่าปากกาเล็กน้อยสำหรับใส่เป้
๑.๓ ใช้ที่กรองน้ำแบบเป็นถุงถ่ายน้ำเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน

๒. ไฟแสงสว่างสำรอง จากสภาพขาดแคลนไฟฟ้า แสงสว่างในเวลากลางคืนเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งในการค้นหา ให้สัญญาน หรือ แจ้งเตือนผู้บุกรุก
๒.๑ ไฟฉายหรือไฟฉายแบบคาดหัวรวมถึงถ่านไฟฉาย (เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน) ขนาดเล็กสำหรับพกพาใช้ควรเลือกแบบที่กันน้ำได้ หรือใส่ไว้ในถุงพลาติกใส่แล้วใช้หนังยางรัดเพื่อป้องกันน้ำ ถ่านไฟฉายใช้แบบที่สามารถหาได้ง่าย (จำนวน ๑ ชุด/คน)
๒.๒ ตะเกียงเจ้าพายุพร้อมใส้สำรอง(แบบใช้น้ำมันเบนซิน) เนื่องจากว่าหากใช้สิ่งที่ให้ความสว่างจากถ่านไฟฉายโดยทั่วไปแบบที่เป็น ตะเกียงจะใช้ได้ประมาณ ๑๐-๕๐ ชั่วโมง ต่อการเปลี่ยนถ่าน 1 ชุดเท่านั้น (จำนวน ๑ ชุด/ครอบครัว) พร้อมน้ำมันสำรอง (๒ ลิตร) ๒.๑ ใช้ค้นหาสิ่งของ ส่งสัญญาน
๒.๒ ใช้ในการให้แสงสว่างในเวลากลางคืน เพื่อความสะดวก และ ป้องปรามผู้บุกรุก
๒.๓ ใช้ตะเกียงน้ำมันในกรณีเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน
๒.๔ ใช้ตะเกียงใส่ถ่านไฟฉายขนาดเล็กเก็บไว้ในเป้

๓. เตาประกอบอาหาร การ เตรียมอาหารโดยใช้ความร้อนเป็นการทำให้สุขอนามัยพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ ที่ฉุกเฉิน หากมีการเจ็บป่วยเพิ่มเติมเนื่องจากขาดแคลนอาหาร หรือ อาหารเป็นพิษจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นไปอีก
๓.๑ เตาน้ำมันเบนซิน ๑ ชุด เนื่องจากการรับประทานอาหารที่ไม่ปรุงสุกในสภาพไม่พร้อมอาจทำให้เกิดโรคทาง เดินอาหาร หากเกิดอาการป่วยในสภาพขาดการบริการทางการแพทย์อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และแก๊สหุงต้มที่ใช้งานปกติส่วนมากมักจะอยู่ในห้องครัวซึ่งอยู่ชั้นล่าง จะไม่สามารถใช้งานได้ การใช้น้ำมันเบนซินจะมีข้อดีเนื่องจากอ่อนตัว จัดหาได้ง่าย และ ให้พลังงานที่พอเพียง (๑ ชุด/ครอบครัว) น้ำมันสำรอง ๕ ลิตร ๓.๑ ใช้ประกอบอาหาร ให้ความร้อน
๓.๒ ใช้เตาน้ำมันเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ฉุกเฉิน ถ้าเตามีขนาดเล็กสามารถเก็บไว้ในเป้ได้เลย)
๓.๓ ใช้แอลกอฮอล์แข็ง หรือเตาใช้แก็สขนาดเล็กเก็บไว้ในเป้

๔. มีดพับชุดและชุดอุปกรณ์อเนกประสงค์ ใน สภาวะที่ฉุกเฉินหรือแม้กระทั่งในสภาวะปกติ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น คีม มีด ไขควง เป็นสิ่งที่ควรจะมีไว้แก้ไขปัญหาเล็กน้อย ถ้าเราใช้อุปกรณ์ขนาดเต็ม จะยากต่อการพกพา(๑ ชุด ต่อ ครอบครัว) ใช้พกติดตัวเพื่อใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าอาทิเช่นไขนอต จับสิ่งของเล็กๆที่ใช้มือจับยาก ตัดสิ่งของขนาดเล็ก

๕. เสื้อผ้าสำรอง การ ใช้ชีวิตอยู่ ๗ วัน โดยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าอาจเป็นไปได้แต่ก็ไม่สมควรที่จะทำ ควรจะมีเสื้อผ้าสำรอง ๒-๓ ชุด รวมถึงเสื้อกันหนาวด้วย (ถ้ากันน้ำด้วยยิ่งดี) (๒-๓ ชุดต่อคน) ควรเป็นชุดที่สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน

๖. ภาชนะใส่อาหาร น้ำ การต้มน้ำ และภาชนะใส่น้ำ อาหาร รวมถึงช้อน ส้อม (๑ ชุด ต่อ คน) ควรเป็นชุดเล็กทำจากภาชนะที่เบา ไม่แตกง่าย อาทิเช่น อลูมิเนียม พลาสติก

๗. ชุดยาสำรอง ยาเฉพาะของแต่ละบุคคล และยาทั่วๆ ไป เบื้องต้น พวก ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อักเสบรวมถึงอุปกรณ์ปฐมพยาบาล(ครอบครัวละ ๑ ชุด) ใช้รักษาพยาบาลยามฉุกเฉิน

๘. วิทยุขนาดเล็ก การ รับรู้เรื่องราวจากภายนอกเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะจะได้รับรู้ถึงความก้าวหน้า ของสถานการณ์เพื่อจะเป็นเครื่องตัดสินใจว่าจะอยู่รอการช่วยเหลือหรือจะต้อง อพยพ (ครอบครัวละ ๑ ชุด) ใช้ฟังข่าวสารภายนอก

๙. อุปกรณ์ส่งสัญญาน การส่งสัญญานขอความช่วยเหลืออาจใช้อุปกรณ์ส่งเสียงเช่น กระจก นกหวีด ไฟกระพริบ สัญญานควัน พลุไฟหรือแท่งเคมีเรืองแสงในเวลากลางคืน(คนละ ๑ ชนิด) ใช้ส่งสัญญานตามที่ได้นัดหมาย หรือขอความช่วยเหลือ

๑๐. ถ่านไฟฉายสำรองหรือที่ชาร์จถ่านและแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือพลังไดนาโม
ใน เมื่อเราจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็น ถ่านไฟฉายเป็นสิ่งจำเป็นควรเตรียมไว้อย่างพอเพียงสำหรับการใช้งาน ๗ วันหรือสามารถใช้ร่วมกับที่ชาร์จถ่านพลังไดนาโม (ใช้มือหมุน) เพื่อใช้ชาร์จถ่านและแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ
ใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้า

๑๑. กระเป๋า หรือเป้หลัง การเก็บสิ่งของต่างๆ ควรเก็บรักษาให้เป็นหมวดหมู่ และสามารถเดินทางได้ทันที (คนละ ๑ ชุด) บรรจุสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่ และพร้อมออกเดินทาง

๑๒. อุปกรณ์จุดไฟ การ จุดไฟเตาหุงหาอาหาร หรือตะเกียงให้แสงสว่าง ควรมีอุปกรณ์จุดไฟสำรองที่สามารถจุดได้เมื่อเปียก อาจใช้ แท่งจุดไฟ ไฟแช๊คกันน้ำ หรือ ไม้ขีดซึ่งห่อหุ้มวัสดุกันน้ำ และยังสามารถใช้จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นอีกด้วย (คนละ ๑ ชุด) ใช้จุดไฟสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟ

๑๓. มีดขนาดใหญ่ การ ใช้งานอุปกรณ์อเนกประสงค์ใช้ได้เฉพาะงานเบา ถ้าเป็นงานหนักๆ ประเภทตัดหรือสับไม้ จะต้องใช้ใบมีดซึ่งใหญ่กว่า ความยาวของใบมีดควรจะมีขนาดตั้งแต่ ๘ นิ้วขึ้นไป(ครอบครัวละ ๑ เล่ม) สำหรับตัดกิ่งไม้ หรือใช้กับงานหนัก

๑๔. ยากันยุงและแมลง แมลง มีพิษ และไม่มีพิษต่างๆ เมื่อน้ำท่วมอาจหนีน้ำขึ้นมาอยู่ในบริเวณที่แห้งจึงควรจะมีน้ำยากันแมลง และน้ำยากันยุง เพื่อป้องกันโรคติดต่อและความรำคาญ (คนละ ๑ ชุด) ป้องกันแมลงรบกวน

๑๕. อุปกรณ์ทำความสะอาด การรับประทานอาหาร หรือใช้เสื้อผ้า ที่มีจำนวนจำกัด จำเป็นจะต้องมีการทำความสะอาด ควรจะเป็นน้ำยาบรรจุขวดขนาดเล็ก(คนละ ๑ ชุดเล็ก) ใช้ชำระล้างทำความสะอาด

๑๖. ผ้ากันน้ำ หลัง เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสิ่ง ก่อสร้างต่างๆ อาจมีการเสียหาย ในสภาพฝนตกหรือมีน้ำค้างควรจะมีผ้ากันฝนซึ่งจะใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่ปูนั่งชั่วคราว มุงบังพื้นที่ กันแดด ฝน ฯลฯ
(๒ คน ต่อ ๑ ชุด) กันน้ำฝน ควรมีความกว้างไม่ต่ำกว่า ๓X๔ เมตร

๑๗. เครื่องนอน การ นอนในสภาพที่ไม่คุ้นเคย และอากาศแปรปรวน อาจทำให้นอนได้ยาก ควรมีเครื่องนอนฉุกเฉิน อาทิเช่น ถุงนอนขนาดเล็ก หรือ ผ้าห่มแบบพกพา(คนละ ๑ ชุด) ใช้สำหรับอำนวยความสบายในการนอน

๑๘. เชือกขนาดเล็กและขนาดใหญ่
เชือก ขนาดเล็กใช้ผูกรัดสิ่งของและใช้งานอเนกประสงค์อาทิเช่น ทำราวตากผ้า ผูกยึดผ้ากันฝน ฯลฯ ควรเป็นเชื่อกที่มีความเหนียวอาทิเช่น เชือกร่ม (คนละ ๑ ชุดเล็ก ประมาณ ๒๐ เมตร) เชือกใหญ่ความยาวประมาณ ๒๐ เมตร ใช้ช่วยชีวิตคน
ใช้ผูกมัดสิ่งของและช่วยชีวิต

๑๙. เทปกาว ใช้ในการการติดยึด หรือซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ ที่ชำรุดด้วยความรวดเร็ว(คนละ ๑ ม้วน ประมาณ ๑๕ เมตร) ใช้ติดปะ ซ่อมแซมอุปกรณ์ชั่วคราว

๒๐. กระดาษชำระ ใช้ในการเช็ดล้างทำความสะอาดในเรื่องทั่วๆ ไป และใช้เช็ดล้างระหว่างขับถ่าย (คนละ ๑ ม้วน) ใช้เช็ดทำความสะอาด

๒๑. ถุงขยะและหนังยางรัด ใช้ทำสุขาฉุกเฉิน เก็บอุจาระและปัสสาวะ เพื่อสุขลักษณะที่ดี เก็บขยะสิ่งปฏิกูลต่างๆ ควรมีไว้ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ ใช้เก็บส่งของที่อาจชำรุดเพราะเปียกน้ำ (ขนาดยาว ๓๐ นิ้ว คนละ ๑๐ ใบ สำหรับ ๗ วัน ) ใช้เก็บสิ่งปฏิกูลเพื่อสุขอนามัยที่ดี

๒๒. อาหารสำรอง อาจ เป็นจำพวกที่เก็บรักษาได้นานและคละกันไป เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่แตกต่างและไม่เบื่อ อาจจะเป็น พวกอาหารสำเร็จรูป เช่น โจ๊กพร้อมปรุง , บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป , อาหารกระป๋อง , ข้าวสาร และควรเปลี่ยนทุกๆ ๓ เดือน (แต่ละคนเตรียมเองคนละ ๑๔ - ๒๑ ชุด สำหรับ ๗ วัน) เพื่อเป็นอาหารสำรอง

๒๓. น้ำมันสำรอง ใช้ในการให้แสงสว่าง และหุงต้ม (คนละ ๑ ลิตร) ใช้จุดเตาและตะเกียง

๒๔. ของใช้ส่วนตัว สบู่ , แชมพู , ยาสีฟัน , แปรงสีฟัน ฯลฯ (คนละ ๑ ชุด) อำนวยความสะดวกส่วนบุคคล

๒๕. ชุดชูชีพ และเรือยาง-ห่วงยาง-แพยางเป่าลม พร้อมอุปกรณ์สูบลม
ชูชีพคนละ ๑ ชุด เรือยางและห่วงยางเป่าลมใช้เป็นอุปกรณ์สำรองสำหรับช่วยชีวิตผู้อื่น ขนย้ายผู้ป่วย ขนย้ายสัตว์เลี้ยงและสิ่งของ
กรณีน้ำสูงเกินระดับที่พัก หรือหากจำเป็นต้องอพยพเคลื่อนย้ายที่พัก

๒๖. ท่อพีวีซี (PVC) ยาวประมาณ 1.5 – 2 เมตร
ใช้สำหรับทำไม้เท้า หยั่งดูความลึกของน้ำ ไล่สัตว์มีพิษ ดัดแปลงเป็นอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น หอก ฉมวก เครื่องมือจับงู

๒๗. โทรศัพท์มือถือในถุงกันน้ำ และวิทยุสื่อสาร (ถ้ามี)
ใน ช่วงระยะแรกของภัยน้ำท่วมและช่วงหลังภัยน้ำท่วมจะสามารถใช้โทรศัพท์ได้เพื่อ ขอความช่วยเหลือ ทั้งยังใช้ฟังธรรมะหรือเสียงสวดมนต์เพื่อให้จิตใจสงบได้
เตรียมบัตรเติมเงินสำหรับโทรศัพท์ด้วย

๒๘. แว่นตาว่ายน้ำและที่อุดหู ถุงมือยาง
แว่น ตาว่ายน้ำช่วยป้องกันดวงตา โรคตาแดงที่มากัยภัยน้ำท่วม ที่อุดหูช่วยป้องกันฟ้าร้องฟ้าคะนองที่ผู้รู้บางท่านเตือนว่าอาจมีเสียงดัง มาก ๆ จนแก้วหูได้รับอันตรายหรือขวัญกระเจิง

๒๙. ผ้าขาวม้า
ผ้าสารพัดประโยชน์ เอนกประสงค์

๓๐. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่อง หนังสือสวดมนต์
พระเครื่องบางรุ่นสร้างมาเพื่อใช้ทำน้ำมนต์ได้ และใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจ

ที่มาhttp://board.palungjit.com/f178/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E
0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-51726-100.html

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก วันที่ตอบ 2011-05-02 13:48:04

ผู้แสดงความคิดเห็น ณี (punnee-dot-nee-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-02 22:30:51

ความคิดเห็นที่ 380 (1543446)

อนุโมทนากับการเตรียมพร้อมอย่างเป็นรูปธรรมจากคุณเบญจรัตน์ด้วยนะคะ เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ แล้วรายการที่ต้องเตรียมก็ไม่ได้ดูเยอะเกินไปด้วยค่ะ

และขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้เข้ามา่อ่านกระทู้นี้อีกครั้งนะคะ และหวังว่าทุกๆข้อมูลเหล่านี้คงจะเป็นข้อมูลเพื่อ"ปลุก"บางท่านที่กำลังหลับใหลอยู่ให้"ตื่น" ขึ้นมา เพื่อ"ความไม่ประมาท"ทั้งทางโลกและทางธรรม..นะคะ

อย่าทำให้การรับรู้ข้อมูลเหล่านี้ ส่งผลให้ท่าน"จิตตก หดหู่ หรือ เครียด"เลยนะคะ แต่จงรับรู้เพื่อเตรียมพร้อมให้ดีที่สุด และเมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็จงปล่อยวาง ทำใจให้สบาย ฝึกเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานให้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร นะคะ ...

เพราะช่วงก่อนชนิดา ได้ดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งชื่อ The Road บอกตามตรงว่า"จิตตก"มากๆ เพราะปรกติอ่านข้อความเตือนภัยมาตลอด แต่ไม่เคยจิตตกเลย ... แต่พอมาดูหนังเรื่องนี้ โอ้ววว...ทั้งเนื้อเรื่่อง การแสดง และเทคนิคการถ่ายทำ ที่ถ่ายทอดมานั้น บอกตามตรงว่า เป็นข้อมูลที่ส่งตรงไปที่จิต ให้จิตหม่นหมองไปเลยทันที เหมือนได้รับรู้ความรู้สึกจริงๆในสิ่งที่จะเกิด เพราะสิ่งที่"น่ากลัว"ที่สุด คือ ภัยจากคน.. น่ากลัวมากๆ ...โหดร้ายที่สุด....

จิตหมองอยู่เป็นอาทิตย์ๆ ไม่สามารถสัมผัสพลังจากองค์พีระมิดได้เลย เหมือนดวงจิตถูกปิดกั้นสัญญาณ(อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน) เพราะเราปล่อยให้จิตตกลงไปอยู่ในย่านความถี่ต่ำๆจึงสัมผัสพลังในย่านความถี่สูงๆไม่ได้ ก็พยายาม"ยกจิต"หลายๆวิธี ทั้งอ่านข้อความสอนใจ เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ก็ยังมี"ความหดหู่"คาใจอยู่ สุดท้าย ต้อง"กรรมฐาน"เท่านั้น ค่ะ ที่จะช่วยยกจิตเราได้ ถึงแม้จะนั่งไปฟุ้งไป..บ้าง แต่ก็ทำให้"จิตแกร่ง"ขึ้น ค่ะ.......(แหะ แหะ แอบขี้เกียจอยู่ตั้งนาน)

ขอให้ทุกท่านโชคดีและมี"สติ"อยู่กับตัวนะคะ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-03 02:27:00

ความคิดเห็นที่ 381 (1543507)
ขอบคุณคุณชนิดาค่ะตอนนี้ปูปล่อยว่างได้บ้างแล้วค่ะ แต่ไม่รู้วันจริงจะเป็นไงนะคะขอให้อยู่ได้อย่างมีสติเถิด สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ปูค่ะ (kajadu-at-sanook-dot-com) วันที่ตอบ 2011-05-03 11:30:55

ความคิดเห็นที่ 382 (1543551)
ขออนุโทนาสาธุกับทุกๆความเห็นด้วยครับ และขอให้ข้าพเจ้าและทุกท่านจงอยู่รอดปลอดภัยเพื่อจะได้ช่วยกันทำนุบำรุงและสืบทอดศาสนาพุทธของเราให้อยู่คู่โลกใบนี้จนครบ 5000 ปีครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น suchat (tor-dot-ozone-at-gmail-dot-com) วันที่ตอบ 2011-05-03 16:27:28

ความคิดเห็นที่ 383 (1543650)

ขอแทรกสักนิดนะครับ อยากให้ทุกๆคน กระจายข่าวไปตามกระทู้ต่างๆของบ้านสวน อยากให้ทุกๆคนเข้าดูกระทู้

มารวมพลังใจกัน..ส่งบุญถวายแด่ในหลวงนะคะ (ชนิดา เชิงสะอาด)

ร่วมส่งจิตอธิษฐานขอให้คำอธิษฐานของท่านอาจารย์อุบล สัมฤทธิ์ผล เพื่อในหลวงของพวกเราทุกๆคน เพราะพระองค์สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-03 22:49:44

ความคิดเห็นที่ 384 (1543692)

5 Things for Survival (5 สิ่งที่ควรต้องมีในเป้ยังชีพ)

5 สิ่งที่ควรต้องมีในเป้ยังชีพ Survival Bag

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
หากผิดพลาดต้องขออภัย....ขอให้ผู้รู้ช่วยชี้แนะ

เคยนำเสนอเรื่อง 10 Things for Survival (10 สิ่งที่ควรต้องมีในเป้ยังชีพ) ไปแล้ว
แต่เนื่องจากยังไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในกรณีภัยพิบัติแบบฉับพลันที่อาจจะเกิดกับประเทศไทยในอนาคต (ลองนึกถึงกรณีซึนามิที่ญี่ปุ่น)
โดยเฉพาะหากเราต้องอยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ คงยังไม่ลืมว่าประเทศเราเคยเกิดขึ้นน้ำท่วมเกือบครึ่งประเทศ

โจทย์ของเราคือ เราต้องการอุปกรณ์ยังชีพแบบที่มีประโยชน์ในภัยพิบัติแบบฉับพลัน
และเราสามารถพกพาไปกับเราได้เกือบตลอดเวลาและในเกือบทุกๆที่
โดยที่ไม่ดูเหมือนตัวตลกหรือบ้าหอบฟางในสายตาของคนทั่วๆไป

ดังนั้นอุปกรณ์ยังชีพของเราจึงต้องลดจำนวนลงอีก
คือจาก 10 อย่าง หรือเพียง 5 อย่างเท่านั้น
และอุปกรณ์เหล่านี้จะต้องกระทัดรัดซ่อนอยู่ในกระเป๋าหรือเป้ของเราแบบเนียนๆ
เราสามารถพกพาไปกับเราได้ตลอดในชีวิตประจำวันโดยไม่สร้างภาระให้กับเรามากนัก

5 สิ่งที่ควรต้องมีในเป้ยังชีพ Survival Bag

1. กล่องชุด Survival Kit เล็กๆ ซึ่งประกอบไปด้วย มีดพับเอนกประสงค์ แท่งจุดไฟ ไฟแช๊ค นกหวีด กระจก เข็มทิศ เข็มและด้าย

2. ไฟฉาย 2 ตัว คือแบบพลังงานไดนาโม และแบบใช้ถ่าน ต้องกันน้ำได้ หรือบรรจุในถุงกันน้ำ

3. โทรศัพท์มือถือ โทรขอความช่วยเหลือ ฟังวิทยุ MP3 เสียงสวดมนต์และธรรมะได้ พร้อมที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบไดนาโม บรรจุในถุงกันน้ำ

4. กระติกน้ำ (ที่มีน้ำ) พร้อมเครื่องกรองน้ำภายในตัว (หรือแบบแยกชิ้นก็ได้)

5. เสื้อชูชีพ และห่วงยางเป่าลม

อุปกรณ์เช่นไฟฉายเราต้องเลือกแบบที่ขนาดเบาและไม่ใหญ่

อุปกรณ์ที่ต่างจากกระทู้เรื่อง 10 Things for Survival
คือข้อที่ 5 เป็นเสื้อชูชีพ และห่วงยางแบบเป่าลม

กรณีภัยพิบัติในประเทศไทยที่อาจเกิดอย่างฉับพลันแต่เราอาจพอจะรับมือได้บ้างคือ ซึนามิ คลื่นสูง และน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน

ดังนั้นเสื้อชูชีพจึงมีความสำคัญมาก
แต่ปัญหาคือเสื้อชูชีพไม่ใช่ชุดว่ายน้ำ ใส่แล้วไม่ค่อยน่าดู
และเราไม่สามารถใส่เสื้อชูชีพไว้ด้านในแล้วใส่ชุดทำงานหรือเสื้อสูทปิดทับไว้ได้
คงดูตลกหากเราใส่เสื้อชูชีพไปไหนมาไหนในชิวิตประจำวัน

ดังนั้นโจทย์ของเราคือ
เราต้องการเสื้อชูชีพหรืออุปกรณ์ช่วยลอยตัวที่กระทัดรัดและสามารถพกพาหรือพับเก็บไว้ในกระเป๋าเป้ของเราได้

เราลองมาช่วยกันคิดว่าอะไรจะตอบโจทย์ข้อนี้ของเราได้ ?

คำตอบแรก แต่อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของเราอาจเป็น

" เสื้อชูชีพอัดอากาศ "

5 สิ่งที่ควรต้องมีในเป้ยังชีพ Survival Bag เหล่านี้
เราคิดว่ามันเป็นภาระหนักหรือไม่
ถ้าคิดว่าหนัก ขอให้รู้ 5 สิ่งที่เป็นภาระหนักอันแท้จริงคือ ขันธ์ 5 ของเรานี้

ถ้าตายในภัยพิบัติครั้งนี้ ..... ขันธ์ 5 เลวๆ แบบนี้เราขอเลิกคบกับมัน
เราขอนิพพานชาตินี้

ที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติอย่างถาวรแท้จริงมีที่เดียวเท่านั้น คือ พระนิพพาน

--------------------------------------------------------------------------------------------

ที่มาข้อมูล

http://board.palungjit.com/f178/5-things-for-survival-5-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E-286944.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-04 01:50:21

ความคิดเห็นที่ 385 (1543717)

อนุโมทนากับคุณชนิดาและทุกๆท่านด้วยครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนาธิป(ตั้ม) (cntip-dot-m-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-04 09:34:26

ความคิดเห็นที่ 386 (1543779)

ขออนุโมทนา

กับพี่จ๋าวจุดจ๋วยด้วยก๊าบ

สาธุ สาธุ สาธุ.......................

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-04 13:35:14

ความคิดเห็นที่ 387 (1543856)

ข้อความบางส่วนจาก คุณ อริยะบุญ แห่งเว็บพลังจิต (ชอบ..อ่ะ)

๑๙. สำหรับท่านที่ไปแจ้งเตือนท่านอื่น แล้วเขาไม่เชื่อ มิหนำซ้ำยังโดนหาว่าบ้าบ้าง โดนด่าบ้าง ครับมันเป็นสิทธิของท่านเหล่านั้น เพราะเราไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จะมายืนยัน และพวกเราเองก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดจริงหรือไม่ วิบากกรรมของใครของมัน หากเกิดจริง ท่านที่เตรียมตัวไว้ก็ไม่หนักเท่ากับท่านที่ไม่ได้ตระเตรียมอะไรไว้เลย เอาง่ายๆ เรื่องการอยู่การกิน หากน้ำท่วมจริง ตลาดสดที่ไหนเขาคงไม่มาขายกัน เซเว่นคงไม่เปิด เมื่อนั้นละครับคนที่ยังประมาทก็จะลำบากหนัก แต่หากว่ามันไม่เกิดก็ถือว่าเป็นการซ้อมจริง ทุกอย่างพร้อม ทั้งของใช้ ร่างกาย จิตใจ เมื่อลองนำมาเทียบกันระหว่างคน ๒ กลุ่มนี้ ท่านคิดว่า กลุ่มไหนจะรับสภาพได้เร็วกว่ากัน หรือมีความลำบากน้อยกว่ากัน

๒๐. ประเด็นเกี่ยวกับที่ว่าเพ้อเจ้อไร้ สาระ และเทียบการศึกษาในระดับภาคบังคับในวิชาวิทยาศาสตร์เป็นศูนย์นี้ ก็น่าเห็นใจท่านที่มีแนวคิดแบบนี้ครับ ถูกตีกรอบจนหาทางออกจากสัญญาตนเองไม่เจอ ผมเองเรียนจบระดับปริญญาโทครับ ปริญญาตรีจบมาทางสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ และเมื่อสองปีที่แล้วเคยวางแผนจะเรียนต่อระดับปริญญาเอก แต่เมื่อมาเจอหลักแห่งพุทธะนี้ ผมไม่สนใจที่จะเรียนต่ออีก เหตุผล คือ มันไม่ใช่หนทางที่พอจะมาทำให้พ้นทุกข์ มิหนำซ้ำยังหาบกิเลสตัวหลงมาสุมหัวเจ้าของ ผมจึงสนใจมาฝึกตามแนวพุทธ ทั้งสมถะ และวิปัสสนา อย่างเต็มกำลัง
ลอง พิจารณาดูเองครับ ท่านที่จบดอกเตอร์ต่างๆ หรือนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย รวมทั้งระดับโลกบางท่านที่เมื่อได้มาเรียนรู้หลักแห่งพุทธะนี้ ทุกท่านล้วนกราบศิโรราบ ต่อหลักพุทธนี้ทั้งสิ้น เพราะมันเป็นหลักแห่งความจริง ที่ศึกษาย้อนเข้ามาหาตนเองอยางล้ำลึก ครับผมมองว่าพุทธคือหลักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง และจริงแท้ที่สุด ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ลองพิจารณาดูดีๆครับ

๒๑. เรื่องการ เลื่อนไปของวันเกิดเหตุการณ์ รวมทั้งอาจไม่หนักหนาอย่างที่ตุ้ยบอกไว้ ประเด็นนี้น่าคิดครับ เพราะเมื่อปลายเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ที่ตุ้ยบอกวันที่ ๕ นั้น ยังกะจะสิ้นเมือง แต่เมื่อห่างไปอีก ๑ เดือน ( ดูเมื่อปลายเดือนเมษายน ๒๕๕๔ ) ระดับความรุนแรงลดลงเยอะ และวันที่เกิดก็เคลื่อน เป็นวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ หากพิจารณาตามรูปการแล้ว ประเด็นเรื่องการผ่อนหนักให้เป็นเบานี่ ผมว่าท่านผู้อ่านที่เข้าใจเรื่องพวกนี้ คงพอรู้กันนะครับว่า เพราะอะไร ครับขอให้เป็นดังนั้น และไม่เกิดขึ้นยิ่งดีครับ

_______________________________________________

และข้อความนี้เขียนโดย คุณ Karan20

เรื่องบางเรื่องมันไม่ได้เป็นความลับ เพียงแต่คนตัดสินไปตามความเชื่อส่วนตัวโดยไม่สนใจจะค้นหาความจริง ตอนยังไม่เกิดขึ้นเราก็เป็น "เทพโพธิ์งาม" (คนอื่นหัวเราะเรา) พอมันเริ่มเกิดขึ้นจริงเมื่อไหร่ ถ้าเราพร้อมและมีสติ ตอนนั้นเราอาจกลายเป็น เทพบุตร เทพธิดา ลงมาโปรดเชียวล่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-05 05:35:47

ความคิดเห็นที่ 388 (1543879)

นะโม องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังสีบรมธรรมบิดา

(นะโมองค์สมเด็จพระพุทธปฐมบรมธรรมบิดา นะโมองค์สมเด็จอนุตตรธรรมมารดา นะโมท่านทรงปราบมาร นะโมเสด็จพ่อเกิดเสด็จแม่เกิด)

นะโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้า

นะโมพุทธายะ พลังพระเปิดโลกทั้งสาม

นะโมสัพพะพุทธานัง นะโมสัพพะธัมมานัง นะโมสัพพะสังฆานัง

นะโมอิติอิติพระโพธิสัตว์

โอมแสงทิพย์อริยธรรม โอมแสงฉัพพรรณรังสี โอมข่ายเพชรพระพุทธเจ้า

โอมท่านท้าวสักกะเทวราช

โอมท่านท้าวจาตุระมหาราช

โอมท่านท้าวจาตุระมหาพรหม

โอมท่านท้าวพระยายมราช

ลูกขอตั้งจิตอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลผลบุญใด ๆ

ที่ได้กระทำเป็นกรรมดีมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้

ฝากไปกับพลังแสงทิพย์อริยธรรมรวมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี6ประการ

ที่แผ่ไปทั้งสามโลกด้วยอิทังปุญญะผะลัง

ขอได้โปรดดลบันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก

เจ้ากรรมนายเวร สรรพวิญญาณ รวมทั้งบริวารญาติมิตรได้มีความสุขสำเร็จในชีวิต

ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติแห่งการเวียนว่ายตายเกิดโดยสิ้นเชิง

และขอให้ทุกดวงจิตได้มีปัญญาฉลาดเข้าใจและรีบโมทนารับบุญ

ที่ได้แผ่ผ่านไปกับพลังแสงทิพย์อริยธรรมและแสงฉัพพรรณรังสีรัสมี6ประการนี้

ด้วยพระบารมีอันมิอาจประมาณ ลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจ

ขอให้สรรพสัตว์ทั้งสามโลก เจ้ากรรมนายเวร สรรพวิญญาณ ญาติมิตรและจิตลูกได้สะอาดสว่างสดใส ได้หลุดพ้นไซร้กลับบ้านพระนิพพานพร้อมด้วยบริวารทุกท่านด้วยเทอญ

สัมปะติจฉามิ สัมปะจิตฉามิ

โสตัสตะภิญญา ขีณาสวา อนิจยตา

นิพพานะสุขขัง

เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา

ผู้แสดงความคิดเห็น นายคมกริช นามมงคุณ (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-05 11:18:53

ความคิดเห็นที่ 389 (1543931)
ขออนุโมทนา สาธุกับคำเตือนทั้งหลายที่ได้รับมาค่ะ ได้บอกต่อและเตือนญาติๆ และเพื่อนฝูง แม่และลูกเชื่อ แต่สามีไม่เชื่อ เพื่อน ๆ ก็พากันหัวเราะ หาว่าเราเป็นเอามาก โดยส่วนตัวแล้วก็นั่งสมาธิบ้าง ฝึกมโนมยิทธิบ้าง พยามยามฝึกตายไว้ให้ได้นิพพาน แต่ดูเหมือนยากจัง เดี๋ยวจะลองทำพีระมิดไว้ที่บ้านเอาไว้รับพลัง จะได้ช่วยคนที่บ้านได้ ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้อยู่กันพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว จะได้ช่วยกันคิดกันอ่านได้ โดยส่วนตัวแล้วชอบหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ สุดท้ายก็เจอบ้านสวนพีระมิด หวังว่าสักวันจะได้มาฝึกที่บ้านสวนพีระมิดนะคะ ก่อนเกิดสิํนามิทั้งแรกนั้น ได้ฝันว่าคุยกับมนุษย์ต่างดาวที่ยานอวกาศตก และบางตัวตาย ฝันว่ายานตกในทะเลด้วย คุยกับเขาเป็นตุเป็นตะเลย และก่อนเกิดเหตุฝันเห็นคนลอยขึ้นฟ้า เต็มท้องฟ้าทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชาย-หญิง คนแก่เต็มไปหมดเลย และเห็นน้ำในตุ่มเป็นน้ำเลือด หลังจากนั้นไม่นานเกิดสิ๊นามิมีคนตายเยาะเลย และตอนนี้เอาอีกแล้ว ประมาณกลางปี 53 ฝันว่าเกิดสิ๊นามิขั้นฝั่งทะเลอ่าวไทยและเราได้ตะโกนว่าหนีเร็ว สิ๊นามิมา แล้วเราก็วิ่งขึ้นที่สูงประมาณชั้นสามของอาคารที่ทำงาน แต่ทำไมเห็นที่ทะเล แต่ตอนหนีทำไมหนีที่ทำงานย่านราชเทวีได้ก็ไม่รู้ และที่เห็นจุดที่เกิดสิ๊นามินั้นเหมือนหาดที่มีภูเขาหินสูงที่ไหนไม่รู้ และเห็นเรือรบของไทยเราช่วยคนได้เยอะนะ ลำใหญ่มาก ๆ ใช่เรือรบหรือเปล่าไม่รู้ และเอาอีกแล้ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฝันว่าตัวเองอยู่ในบ้านที่ไหนไม่รู้ แต่น้ำท่วมมิดเลยนะ เหมือนว่าเราอยู่ช่วยฝรั่ง 2 คน ง่ะ ที่ไหนไม่รู้ แสดงว่าใกล้เข้ามาแล้วหล่ะ แต่สามีเราไม่เชื่อเลย หาว่าเราไม่ปลง เพื่อนที่ทำงานไม่มีใครเชื่อเลย จนเราต้องบอกว่าไม่ได้บ้านะคะ สติสัมปชัณญะ สมบูรณ์ 100 % ไม่เพี้ยน แต่กลัวว่าจะพาแม่และลูกๆ หนีไม่ทันเพราะมีรถคันเดียว สามีขับได้คนเดียวซะด้วย จะยังไงก็ตามก่อนวันเกิดเหตุขอให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเตือนก่อนสักวัน สองวัน สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น พิมพ์ วันที่ตอบ 2011-05-05 16:44:25

ความคิดเห็นที่ 390 (1544030)

เจ๊ยยย...ว่าจะไป"นอน"แล้วเชียว ไม่น่า"แว๊บ"เข้าไปอ่าน

กระทู้สุดฮิตของ"น้องตุ้ยและคุณพ่อ"เลยเรา

ก็เลยอดใจไม่ได้ที่จะก็อปมาฝากทุกๆท่านค่ะ

อนุโมทนากับคุณ อริยะบุญ แห่งเว็บพลังจิตด้วยนะคะ

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อริยะบุญ

สวัสดีครับทุกท่าน ที่ติดตามและให้กำลังใจ

ตอนนี้พึ่งจะเป็นวันที่ ๕ พ.ค. ๕๔ เองครับ อย่าได้พึ่งวางใจ เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิด หรือไม่เกิด แต่ตุ้ยก็บอกว่าเขาเห็นชัดแจ๋วครับ และวันนี้ก็เริ่มมีเมฆปกคลุม และฝนก็เริ่มลงแล้ว ก็ให้เฝ้าระวังกันต่อไปครับ หากไม่ชอบมาพากลก็ทำตามแผนที่ได้ซ้อม ได้เตรียมไว้ครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับที่อยู่ในพื้นที่แจ้งเตือน

จากที่หลายท่าน วิพากษ์ วิจารณ์ ถึง ถนนสาย ๓ ที่ตุ้ยพูดถึง เมื่อคืน (๔ พ.ค.๕๔) เลยให้ตุ้ยเจาะเข้าไปดูสถานที่เกิดหลุมยุบทั้งสามหลุมครับ ผลเป็นดังนี้ครับ
๑.เขายืนยันว่าเกิดหลุมยุบ จริงครับ ๓ หลุม และก็เกิดถนนสาย ๓ ที่ว่านี้ครับ
๒.ถนน สาย ๓ คือที่ไหนนั้น เขาบอกว่า ป้ายชื่อถนนที่ว่านี้มีเศษปูนแผ่นใหญ่ทับไว้จนแบนติดพื้น เขาเห็นรูเล็ก จึงเข้าไปส่องดูป้ายชื่อถนนนี้ มีเลข 3 ครับ อันนี้เขาบอกไม่ได้ว่ามันคือถนนสายไหน แต่ป้ายชื่อถนนนั้นมีเลข 3 กำกับอยู่ด้วย
๓. หลุมที่ยุบลงไป หลุมใหญ่สุดจะมีบ้านตกลงไปด้วย มีรถตกลงไปด้วยหลายคัน ทั้งรถบรรทุก รถยนต์ และมอเตอร์ไซด์ครับ มีคนเสียชีวิตด้วย กองรอมกันเหมือนซากขยะเลย

สำหรับเรื่องวันที่นั้น เมื่อคืนเขาไปดูเฉพาะเรื่องหลุม เลยไม่ดูวันที่ที่จะเกิด ยังไงยังยืนยันวันเดิมครับ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะรีบแจ้งในทันที

ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่ให้กำลังใจ เมื่อวานเอารถไปต่อทะเบียนครับเลยไม่ได้เข้ามา

...................................................................................

และแถมอีกคำเตือน จาก คุณหนุมาน ผู้นำสาร

*** ขอเตือนไว้ก่อน ****

แผ่นดินแถวสะพานพระราม๖
สายฟ้าขนาดยักษ์ จะ Spark ลงพื้นดิน
จนแผ่นดินระเบิดออก แบบภูเขาไฟระเบิด
ลาวาจะไหลออกมา ลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ตลิ่งทั้งสองข้าง จะไหลลงทะเลไปหมด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

..................................................................................................

*** นึกถึง ****

พุทธมณฑล สาย ๓
แผ่นดินก็ทรุดตัวมาก ทรุดมานานพอสมควร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

____________________________________________________

ส่วนข้อความนี้โพสต์โดยคุณ @.COM แห่งเว็บพลังจิต เช่นกันค่ะ

กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้นดินเหนียว ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นหินปูน จึงไม่เกิดหลุมยุบ แต่การสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดแผ่นดินทรุดได้ กรุงเทพฯ ยังคงมีการทรุดตัวทุกปี จึงต้องมีการห้ามสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในบางพื้นที่
สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู่ใกล้เขาหินปูน

1. ให้สังเกตว่ามีเสียงดังคล้ายฟ้าร้องจากใต้ดินหรือเปล่า ซึ่งเกิดจากการถล่มของเพดานโพรงหินปูที่หล่นลงกระแทกผืนถ้ำใต้ดิน อาจะเกิดก่อนหลายนาที หรือ หลายชั่วโมง หรือเป็นวันก็ได้

2. สังเกตว่ามีน้ำทะลักพุ่งขึ้นจากใต้ดิน หลังจากได้ยินเสียงแปลกๆ หรือไม่

3. ก่อนการยุบตัว ดินรอบข้างจะมีรอยร้าวอย่างผิดสังเกต ซึ่งรูปร่างส่วนใหญ่จะกลม หรือ เป็นวงรี คล้ายร่างแห หรือ ไยแมงมุม ขนาดรอยร้าวจะใกล้เคียงกับโพรงหรือถ้ำที่อยู่ใต้ดิน ทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร

4. สิ่งก่อสร้างที่หยั่งลึกลงใต้ดิน เช่น ท่อน้ำ เสา รั้ว จะมีลักษณะคดโค้งหรือเลื่อนตัวผิดสังเกต

5. บางครั้งพบว่า น้ำตามบ่อบาดาล หรือ บ่อน้ำใกล้เคียง สีขุ่นข้น หรือเป็นโคลน จากการพังทลายของผนังถ้ำใต้ดิน

มาตบท้ายกันที่ข้อปฏิบัติของพวกเรา ในกรณีที่พบสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบกันนะคะว่าต้องทำอะไรบ้าง

1. ถ้าได้ยินเสียงดังๆ หรือพบสิ่งบอกเหตุอื่นๆ ให้รีบออกจากบริเวณนั้นทันที ถ้าเป็นเขตบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ให้อพยพออกไปอย่างน้อยห่าง 100 เมตร

2. รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือ กำนัน ผู้ใหญ่แล้ว แล้วทำการกั้นเขตไว้โดยสัญลักษณ์ เช่น ไม้ ด้าย เชือก ธง ฯลฯ

3. สังเกตขนาดและทิศทางของหลุม ถ้าลักษณะเป็นแนวยาวก็กั้นเพิ่มขึ้น 2 เท่า เพราะแปลว่าหลุมอาจเป็นแนวยาว ไม่ใช่แค่วงกลม

4. ทำป้ายประกาศเตือนภัยตามแบบประกาศเตือนภัยหลุมยุบของกรมทรัพยากรธรณี หรือ ป้ายเตือนให้เห็น 4 ด้าน ชัดเจนจากระยะ 50 เมตร

5. หลังเกิดสิ่งบอกเหตุ หลุมยุบอาจจะเกิดขึ้นเลยในเวลาไม่กี่นาที หรือ ขยายไปหลายวัน ดังนั้น ไม่ควรใกล้พื้นที่ดังกล่าว แม้จะไม่เกิดหลุมยุบก็ตาม แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแทน

ลอกเขามา
http://irw101.ldd.go.th/irw101.ldd/t...old.php?page=9

อันนี้เพิ่มเติม วิกฤตน้ำบาดาล
http://www.pwa.co.th/document/deepwell.html
วันนี้มีหล่อพระแม่ธรณี ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะครับ ขอขมาไว้ก่อน ก่อนที่จะไม่ได้ขอขมา

ที่มาข้อมูล

http://board.palungjit.com/f178/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-288061-70.html

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-06 06:02:48

ความคิดเห็นที่ 391 (1544097)

ขอบคุณและ

อนุโมทนาด้วยค่ะพี่จ๋าว

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-06 14:43:01

ความคิดเห็นที่ 392 (1544645)

ข้อความนี้เขียนเมื่อวันที่8 พ.ค. 54 โดยคุณ Karan20

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ข้อมูลที่ผมได้รับมาและบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าเดือนพฤษภาคมนี้จะยังไม่มีภัยพิบัติในกรุงเทพ

วันนี้มีข้อมูลที่ได้รับมาล่าสุดว่า....ตอนนี้ภัยพิบัติได้ถูกเลื่อนออกไป
แม้แต่คำเตือนที่เคยได้รับมาแจ้งไว้ที่กระทู้

เตือนภัยพิบัติเดือนมิถุนายน 2554 และวิธีเตรียมการอย่างมีสติ

ซึ่งมีคำเตือนว่าจะมีภัยพิบัติในวันที่ 18 มิถุนายน 2554 นั้นก็ยังไม่แน่นอน
เนื่องจากกำลังมีการ "จับตาดู" และ "ประเมินผลใหม่" อีกครั้ง

จริง ๆ แล้วท่านที่เตือนนั้นไม่ได้ใช้คำพูดแบบนี้และยังได้อธิบายมากกว่านี้
แต่เกรงว่าถ้าเล่าไปตามที่ได้ยิน ผู้เล่าคงดูเหมือนคนบ้าเพ้อเจ้อหนักเข้าไปทุกวัน

ถ้าเรามองว่าภัยพิบัิตินี้เป็นภัยที่เกิดตามธรรมชาติล้วน ๆ
เราอาจจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องการเลื่อนภัยพิบัติออกไป
แต่หากเราเชื่อว่าภัยพิบัติเป็นธรรมชาติที่มี "ผู้ดูแล" หรือมี "ผู้จัดการ" และนอกจากนั้นยังถูกแทรกแซงได้
ดังเช่นที่เราเห็นฟ้าดินปลอดโปร่งเหมือนเทวดาเป็นใจในงานพิธีสำคัญ ๆ
เราคงมองเห็นความเป็นไปได้ของโอกาสที่คำเตือนจะคลาดเคลื่อน

ข้อมูลที่ได้มายังมีว่า...
ไม่ใช่ว่าภัยพิบัติจะไม่เกิด เพียงแต่เลื่อนออกไป
ขอให้มนุษย์เร่งทำความดี มีแต่ความดีเท่านั้นที่ช่วยได้

แทนที่จะมองว่า ภัยพิบัติที่ไม่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้นเป็นการ "เลื่อนเวลา"
หากเรามองว่าเป็นการ "ต่อเวลา"
ผู้ไม่ประมาทจะได้มีโอกาสเร่งตรียมความดีในตนให้มากขึ้นเพื่อให้พ้นจากภัยพิบัติ
ดังพุทธพจน์ที่ว่า ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
ส่วนผู้ที่เพิ่งมาเร่งทำความดีเพราะกลัวตายนั้น เมื่อมีการต่อเวลาออกไปก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าดีเทียมหรือดีแท้แค่ไหน

ท่านผู้เตือนยังบอกว่า การทำดีไม่ใช่แค่เพียงการถวายสังฆทานหรือไปวัดเท่านั้น
แต่หมายถึงการมีจิตใจที่ดีงามในแต่ละวันของชีวิต

ท่านบอกว่าภัยพิบัติในวันที่ 18 มิถุนายน 2554 นั้นก็ยังไม่แน่นอน
เอาไว้ใกล้ ๆ จะบอกเตือนอีกครั้ง

สิ่งที่เราต้องมีคือความไม่ประมาท
ถึงแม้ข้อมูลเราจะไม่ตรงกันบ้างในเรื่องวัน-เวลาที่เกิด
แต่ข้อมูลเหตุการณ์นั้นกับคล้ายกันอย่างน่าแปลกประหลาด
(บางส่วนผมไม่ได้เล่าไว้แต่กลับไปตรงกับคำเตือนของท่านเจ้าของกระทู้นี้

อนาคตังสญาณ เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย)

ถึงแม้ข้อมูลเรื่องวัน-เวลาที่เกิดภัยจะต่างกันกับข้อมูลที่ผมได้รับมา
แต่ในวันที่ 5 พ.ค. เรื่อยมาผมก็ระมัดระวังเป็นพิเศษ และเตือนคนในครอบครัวให้ระมัดระวัง
และเมื่อมีเหตุต้องออกไปต่างจังหวัด ผมก็เอาเสื้อผ้าและของใช้หลายอย่างใส่ถุงพลาสติกและถุงกันน้ำไว้
พอกลับถึงกรุงเทพแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เอาของออกจากถุงพลาสติกและใช้ชีวิตต่อไป

ฯ ๗๑

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-10 04:05:34

ความคิดเห็นที่ 393 (1544654)

ขอบคุณพี่ชนิดาคะ

ที่เกาะติดความเคลื่อนไหวให้อีกทางหนึ่ง

และช่วยรายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

เลื่อนออกไป หรือไม่เกิดเลยก็ยิ่งดีนะคะ

แต่เตรียมตัวไว้ตลอดก็ไม่เสียหายอะไร

และยิ่งช่วยให้เรานึกถึงความตายไว้ด้วย

อย่าประมาท!!!

วันที่ตอบ 2011-05-10 08:11:46

ความคิดเห็นที่ 394 (1544701)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกคนที่นำคำเตือนดีๆมาบอกกล่าวกัน จะได้เตรียมตัวไห้พร้อมกับภัยพิบัตที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดวันไหน ตอนไหน ยังไงก็เกิดแน่นอน เตรียมไว้ก่อนที่จะสายเกินไป แล้ว หาอะไรเตรียมไม่ได้เลยดีกว่า

ตอนนี้ก็เริ่มตุนอาหารแห้ง พวก มาม่า อาหารกระป๋อง น้ำ และอื่นๆ ไว้บ้างแล้ว แต่ยังไม่พอ ก็จะ สะสมไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงวันนั้น คงไม่ขาดมากนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น BEE (beenavee-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-10 12:38:27

ความคิดเห็นที่ 395 (1544816)

ขอบคุณพี่ชนิดาด้วยคนค่ะ

ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้อีกแรงนึง

ถึงอยู่ไกลแต่ใจเต็มร้อยจริงๆพี่จ๋าวคนนี้

อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-10 22:02:54

ความคิดเห็นที่ 396 (1544835)

วันนี้เลิกงานรู้สึกง่วงๆเหนื่อยๆ ก็เลยตั้งใจว่าจะนอนเร็ว

แต่พอแว๊บไปเช็คข้อมูลเตือนภัย ก็กลับได้ข่าวใหม่

ที่ระทึกใจ ...จึงต้อง...ส่งต่อมาให้ทุกท่านได้อ่าน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความไม่ประมาท"และ

เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ให้ได้ในทุกๆขณะจิตนะคะ

อนุโมทนากับคุณ Karan20อีกครั้งค่ะ สาธุ

เขียนเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 54

ข้อมูลล่าสุดที่ได้รับจาก "ท่านผู้เตือน" บอกว่า
มีการเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้งเรื่องคำเตือน คือ
ภัยพิบัติในกรุงเทพนั้นจะไม่เลื่อนออกไปจากที่เคยแจ้งไว้และอาจจะเร็วยิ่งขึ้น
ลักษณะเหตุการณ์ภัยพิบัติอาจเปลี่ยนไปด้วย ครั้งนี้ภัยจากน้ำยังอาจไม่รุนแรงเท่าภัยจากธรณี หรือแผ่นดิน

สิ่งที่เตือนขอให้ทุกคนเร่งทำความดี ความดีเท่านั้นที่จะปกปักรักษา
ภัยพิบัตินั้นจำเป็นต้องเกิด มิฉะนั้นสิ่งต่าง ๆ จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้
สำหรับผู้ที่ยังไม่ถึงฆาต คือเป็นเพียง "อุปฆาตกรรม" หากท่านเป็นคนดีก็จะปลอดภัย
คำว่า "ทำดี" หรือเป็น "คนดี" นั้นท่านว่าไม่ใช่แค่ถวายสังฆทานหรือไปวัด
แต่ท่านหมายถึงให้มีจิตใจดีไม่เบียดเบียนผู้อื่น คือ มีพรหมวิหาร เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา
ซึ่งนับเป็นความดีที่เราทำได้ในทุกที่ ในทุกนาทีของชีวิต แต่ก็อาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน

ผู้เขียนเห็นว่าพรหมวิหารนี้ปฏิบัติยากกว่าศีล
เพราะเมื่อมีพรหมวิหารแล้ว ศีลก็จะมีเอง รักษาศีลได้เองเพราะจิตใจไม่คิดเบียดเบียนใคร นั่นเป็นความดีที่มาจากจิตใจที่ดี
แต่คนมีศีลบางคนนั้นอาจไม่มีเมตตาก็ได้ ที่มีศีลนั้นเป็นแต่เพียงเกรงกลัวต่อบาปจากการละเมิดศีลหรือเพราะยังไม่มีโอกาสที่จะละเมิดศีล

นอกจากนั้นขอให้ทุกคนตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนก มีสติเมื่อมีความผิดปกติหรือภัยต่าง ๆ เกิดขึ้น
หากมีความเปลี่ยนแปลงหรือคืบหน้าอย่างไรจะนำมาแจ้งอีกครั้ง

หากท่านผู้อ่านมีความสงสัยว่า จะเปลี่ยนแปลงอะไรหนักหนา ขอแบบชัวร์ๆไม่ได้หรือ ?

ขอแจ้งว่าตามข้อมูลที่ได้รับมา
ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ
แต่เป็นภัยพิบัติที่มี "ผู้ดูแลจัดการ" สิ่งต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่ คณะผู้ดูแลจัดการเขาจะตกลงกัน

ทั้งนี้สุดแล้วแต่ท่านผู้อ่านจะพิจารณา
ผู้เขียนเป็นเพียงผู้นำมาเล่าตามที่ได้รับทราบมาเท่านั้น
หากไม่เชื่อก็คิดเสียว่าเป็นเพียงนิทานเรื่องเล่า

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย karan20 : เมื่อวานนี้ เมื่อ 12:53 PM

____________________________________________________

กำหนดเดิมที่แจ้งไว้คือ 16-18 มิถุนายนครับ

โดยวันที่ 18 จะหนักที่สุด

อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดเร็วกว่านั้น

ท่านว่าเดือนพฤษภาคมนี่ก็อาจเริ่มมีให้เห็นแล้ว

ข้อมูลยังไม่แน่นอน จะคอยแจ้งเป็นระยะนะครับ

แจ้งได้เท่าที่ทราบและท่านอนุญาต

ภัยพิบัตินี้ท่านว่าแม้เกิดขึ้นแล้ว แต่จะมีต่อไปเป็นระยะ ๆ

ขอให้ทุกคนเร่งทำความดี ปลูกความดีงามขึ้นในจิตใจ

ที่มาข้อมูล

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-11 04:19:35

ความคิดเห็นที่ 397 (1544889)

เกดขออนุโมทนา

แขอบคุณมากค่ะ พี่จ๋าวและคุณKaran20

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นิพาดา (tee-ged-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-11 11:47:35

ความคิดเห็นที่ 398 (1544927)

ขอบคุณคุณชนิดามากนะคะที่ได้ลงข่าวให้ได้ทราบอย่างต่อเนื่อง

ขออนุโมทนาบุญทุก ๆ บุญค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา (coffe-dot-i-joker-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-11 15:08:27

ความคิดเห็นที่ 399 (1545191)

คัดลอกมาจากเว็ปพลังจิตค่ะ

ผมได้รับโทรศัพท์จากทศ คืนวันพุธ เกือบๆเที่ยงคืน แล้ววันพฤหัสที่ 25 มีนาคมก็ไปเลย

เป็นการนัดรวมตัว Emergency Call โดย อ. ซินดี้ เจคอป

อย่างที่รู้กันว่าท่านเป็นวิทยากรอยู่ที่ค่ายอนุชน ที่เชียงใหม่ แต่อาจารย์ได้รับการเร้าใจพิเศษ

แทนที่จะเดินทางไปที่ ฟิลิปปินส์เลย อ.ท่าน ตัดสินใจเรียกประชุมทุกคจ.เป็นการด่วน

ประมาณ ว่าบอกปุ๊ป จัดประชุมด่วนปั๊ปภายใน 1-2 วัน ทางคจ.ใจสมาน ก็งงปุปปับ จัดสถานที่และทีมนมัสการแบบ เร่งด่วน ทำให้เกิดการรวมตัวด่วนจากทุกคจ.ในเวลาอันรวดเร็ว ทุกคนมาแบบอึนๆมึนๆแต่ก็มากัน งงไปงงมาไม่น้อย

อาจารย์ซินดี้ ยินดีจ่ายค่าเดินทางทั้งหมดโดยไม่ขอให้คจ.ไทยช่วย อ.ซินดี้ ถือว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ถวายพระเจ้า เพื่อจะสื่อสาร สารด่วนจากพระเจ้าครั้งนี้

ผมไม่อาจเหล่าทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด เนื่องจากจำได้ไม่หมด แต่สามารถเล่าสิ่งที่สำคัญๆ ได้

เนื้อหานี้ผมได้เล่าปาก ปล่าวไป 4-5 คนแล้ว ถ้ามีเนื้อหาตกหล่น ก็ให้คนที่ไปด้วยช่วยเสริมนะครับ

เนื้อหา :

อาจารย์ซินดี้ได้รับนิมิต เกี่ยวกับประเทศไทยจากพระเจ้า ซึ่งใกล้เคียงกับที่ อ.ผู้เผยที่อยู่กับท่านได้รับ

คือ “ประเทศจะถูกฉีกเป็น 3 ส่วน ด้วย Violence(ความรุนแรง), Death(ความตาย), Bloodshed(การหลั่งเลือด), Civil War(สงครามกลางเมือง)” และจากอาจารย์ท่านอื่นๆ เห็นประมาณว่า “งู ใหญ่เคลื่อนอยู่และถูกฟันแยกเป็น 3 ส่วน เล็งถึงประเทศนี้”

แต่นิมิตที่ ทำให้ อาจารย์ ร้อนใจจนต้องรีบสื่อสารก็คือการที่อาจารย์เห็นนิมิตในที่พักของอ. โดยอ.ซินดี้ยืนที่หน้าต่างกระจกของคอนโดที่ท่านพัก เมื่อมองออกมากลับเห็นภาพทั้งๆ ที่ลืมตา คือเห็น ทหารถือปืนเดินไปเดินตามท้องถนน ซอกซอยที่อาจารย์มองลงไป อ.พยายามปิดตาแล้วเปิดใหม่ ก็ยังเห็นนิมิตทั้งๆที่ลืมตาเหมือนเดิมถึง 3 ครั้ง อาจารย์ถามจนพระเจ้าบอกกับอาจารย์ว่า “คอมมิวนิสจะเข้ามาแทรกแซงประเทศไทย ซาตานกำลังฉีกประเทศนี้ และคอมมิวนิสจะแทรกเข้ามาในขณะที่ประเทศไทยกำลังอ่อนแอถึงที่สุดด้วยความ วุ่นวายต่างๆ”

อาจารย์ซินดี้กล่าวว่า การเห็นนิมิตทั้งๆที่ลืมตาแบบนี้ เกิดขึ้นน้อยมากใน ชีวิตของอาจารย์ และทุกครั้งที่เห็นนิมิตแบบนี้ที่ผ่านๆมา หมายความว่า This nation is in grave danger (ประเทศนี้อยู่ในความอันตรายรุนแรงสุดขีด)

We must act NOW. We must pray NOW. WAKE UP! WAKE UP! เราต้องกระทำการแล้ว พวกเราทุกคนต้องอธิษฐานและต้องอธิษฐาน”เดี๋ยวนี้” ตื่นได้แล้ว ตื่นขึ้นได้แล้ว อดอาหารอธิษฐานได้แล้ว ประเทศกำลังจะถูกทำลาย ถ้าเราไม่ลุกขึ้นต่อสู้กับมารจริงจัง This nation will be destroyed ประเทศนี้ก็จะถูกทำลาย

ดูอย่างเมืองนีนะเวห์ที่พระ เจ้ากำลังจะทำลาย แต่ประชากรของประเทศได้ลุกขึ้นอดอาหาร จนพระเจ้าได้ละเว้นเมืองนั้น และตอนนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานะนั้น

อย่ากลัวคำเตือน นี้ ความกลัวไม่ได้มาจากพระเจ้า This is the warning. And don’t afraid! แต่จงสวมความกล้าและ เข้าต่อสู้ในฝ่ายวิญญาณ อดอาหารเผื่อประเทศจริงจัง เริ่มพรุ่งนี้เลยได้ยิ่งดี This is urgent นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน

พระ เจ้ารักประเทศนี้ แต่ซาตานเกลียดแผนงานของพระเจ้าที่มีต่อประเทศนี้ มันจะทำลายแผนงานทุกอย่าง ตามคำพยากรณ์ทุกอย่างที่พระเจ้ามีต่อประเทศไทย มันไม่ต้องการให้แผนดินที่จะกลายเป็นหัวหอกสำคัญของอาณาจักรใน South-East Asia นี้สามารถสำเร็จตามแผนของพระเจ้า และถ้าซาตานทำให้คอมมิวนิสยึดครองได้สำเร็จมันเชื่อว่าจะสามารถล้มแผนงานของ พระเจ้าได้ มันไม่ต้องการให้ใครรู้แผนของมัน เพราะฉะนั้น ตอนนี้มันพลาดท่าแล้ว! (Amen!) ทุกคนในที่นี่รู้แผนของมันแล้ว จงบอกต่อและเริ่มอดอาหารอธิษฐานเดี๋ยวนี้ เพื่อประเทศไทย

There is no national solution.. There is no political solution.. There is more than political problem.. There is the work of devil.. This land is desperate.. It needs Miracles.. And we here all know who can make the miracle! Amen! ไม่ีมีทางออกของประเทศชาติ ไม่มีทางออกทางการเมือง ประเทศนี้ไม่เหลือทางออก มันมากกว่าปัญหาทางการเมืองและประชาชน ตอนนี้มันมีปัญหาของอำนาจมืดของซาตานเข้ามาเกี่ยวด้วย และประเทศนี้สิ้นหวังแล้ว ประเทศนี้ต้องการ ปาฏิหารย์ และพวกเราที่นี่ทุกคนรู้ว่าผู้ใดที่จะสร้างปาฏิหารย์ให้ประเทศนี้ได้ เอเมน!

จง อธิษฐานเดี๋ยวนี้ จงตื่นตัวเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เวลาสำหรับการรวมตัวเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์แล้ว แต่เป็นเวลาของประเทศนี้ และของพระเจ้า พระนามพระเยซูจะครอบครองประเทศนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกคนที่อยู่ที่นี่พระเจ้าทรงเลือกท่านแล้วให้ อธิษฐานเผื่อแผ่นดินนี้ และให้บอกต่อให้ทุกคนร่วมกันอธิษฐาน

The great shaking (การเขย่าครั้งยิ่งใหญ่) จะเกิดขึ้นในเมืองไทยเร็วๆนี้ ภายใน 1-2 ฤดูนี้ (Seasons) พระเจ้ามิได้บอกชัดว่าจะเป็น แผ่นดินไหวเหมือนในเฮติ หรือว่าจะมาในรูปแบบอื่นๆ แต่มีแน่นอนในช่วงอันใกล้นี้ อย่างในเฮติ เขาได้ยกประเทศให้เป็นของ พระวูดู (Voodoo) ไม่กี่ปีก่อนการแผ่นดินไหว จนเกิดการกลับใจมาหาพระเจ้า การฟื้นฟูครั้งใหญ่ตามมาในเฮติ (คริสเตียนรวมตัวกันอธิษฐานที่เดียว 1 ล้านคน..!?!) พระเจ้าให้สัมผัสถึงสิ่งที่คล้ายๆกันในเมืองไทยนี้

อาจารย์เห็น อุโมงค์ Tunnel ที่ใช้ลักลอบบุกเข้าจู่โจมเมืองไทยหลายอันที่ชายแดน อาจารย์บอกว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดที่อเมริกา อ.ซินดี้ เห็นอุโมงค์จึงให้คริสเตีียนอธิษฐาน ทำให้ไม่กี่วันต่อมา ตำรวจเจออุโมงค์ที่ว่านี้ที่เขตชายแดนแถวๆเม๊กซิโก ใหญ่ขนาดรถบรรทุกขับผ่านได้ !? ซึ่งถ้ามีอุโมงค์ที่ว่านี้จริงในเมืองไทย จะมีผลต่อความมั่นคงของชาติอย่างมาก ให้เราช่วยกันอธิษฐานป้องกันการจู่โจมจากเส้นทาง ที่มองไม่เห็นเหล่านี้ด้วย

พวกเราจงอธิษฐานเผื่อ..

- เผื่อ The King ขอพระเจ้าพิทักษ์รักษาในหลวงของเรา

- เผื่อ ผู้นำประเทศและรัฐบาล และผู้ถือสิทธิอำนาจในฝ่ายชอบธรรม ให้มีสติปัญญาและแก้ไขปัญหาต่างๆได้

- ให้พระเจ้าจัดการและทำลายแกนนำและผู้นำฝ่ายอธรรม ผู้ขับเคลื่อนแผนการทำลายประเทศนี้

- ผูกมัดอำนาจวิญญาณแห่งความรุนแรง ความตาย การหลั่งเลือด สงครามกลางเมือง

- การโจมตีที่จะเข้ามาในเมืองไทย (และอาจเกี่ยวกับอุโมงค์ Tunnel)

อาจจะมีอีกหลายอย่างมาก ที่อาจตกหล่น ขออภัยด้วย มันเยอะจริงๆในช่วง 2 ชั่วโมงนั้น

ฝากสื่อสารข่าวด่วนไปในทุกๆ กลุ่มเครือนะครับ

มีอะไรสามารถถามได้ เพิ่มเติม ขอพระเจ้าเสริมกำลังพี่น้อง และจงตื่นตัวกันนะครับ ยุคเวลานี้ช่างตื่นเต้นเสียจริง ในเมืองไทยเรา

- ปิเก้ -

ที่มา

http://umm.magazinewoof.com/?p=429

ผู้แสดงความคิดเห็น tingnaja (tingnaja-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-12 23:36:03

ความคิดเห็นที่ 400 (1545216)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี

น้องใหม่ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พีระ ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2011-05-13 09:39:53

<< ก่อนหน้า 1 2 3 [4] 5 6 7 8 ถัดไป >>