มาโม้ต่อนะ

เรื่องที่คุยค้างไว้

คือ เรื่อง บทกลอน ที่เกี่ยวกับ

นารีขี่ม้าขาว ฯ

ซึ่งเป็นข้อถกเถียงกัน

เรื่อง

หลวงพ่อไม่ได้แต่ง

กลอนบทนี้

มีคนยกกลอนนี้มาทีไร

ก็จะมีคนออกมาปกป้องรักษาเกียรติ

ให้หลวงพ่อทุกครั้งไป

วันที่หล่อพระปฐมบรมธรรมบิดาฯ

วันเสาร์กลางคืน

(24 มี.ค.55)

เพื่อนพี่มหา ซึ่งเป็นวิศวกร

มาบ้านสวนพีระมิด เป็นครั้งแรก

ได้มาร่วมหล่อพระกับเรา

ตอนกลางคืน

อ.อุบล

ขับรถไปจอดหน้าบริเวณ

ที่หล่อพระ

(ขับไป-กลับ ตลอด เริ่มขี้เกียจเดิน

เดินไป เดินมา ชักไกล ไม่ทันใจวัยรุ่น)

พอ อ.อุบล

เดินลงจากรถ

เพื่อนพี่มหาคนนี้

(ลืมชื่ออีกแล้ว วันนี้ก็มา)

แกก็ไปพูดกับพี่มหาว่า

อ.อุบล นิมนต์พระมาทำพิธีเหรอ

(นี่ตอนกลางคืนนะ)

เพราะแกเห็นมีพระเดินลงรถ

มากับ อ.อุบล

แล้วก็เดินตามหลังมา

แกไปพูดกับพี่มหา

แล้วแกก็มองดูอีกที ก็ไม่เห็น

พี่มหา ก็เลย

มาเล่าให้ อ.อุบล ฟัง

เขาถามลักษณะกันมาก่อน

ว่าพระรูปร่างหน้าตายังไง

เห็นยังไง ได้มโนยิทธิรึเปล่า

เขาบอกว่า

เขา ไม่ได้ มโนมยิทธิ

เขาเห็นด้วยตาเปล่าจริงๆจะๆ

เขาไม่เห็นหน้าพระเพราะมืด

แต่เห็นลักษณะท่าทาง ท่าเดิน

แล้วเขาก็เดินให้ดู

ซึ่งพี่มหาก็รู้ทันทีว่า

เป็น

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

พอ อ.อุบล ทราบ

ก็เลย ถามเค้าว่า เขาเป็นศิษย์

หลวงพ่อฤาษีรึเปล่า

เค้าบอกเปล่า

ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อเลย

---------

ส่วนอีกคน

มาจากใต้ ที่คุณเกศร เรียกซ้อ

ก็เห็นพระอุ้มบาตรอยู่หลัง อ.อุบล

คนนี้ก็ไม่รู้จักหลวงพ่อฤาษี

แต่พอ เอารูปให้ดู เธอบอกใช่เลย

พระองค์นี้แหละ ที่อยู่ข้างหลัง

อ.อุบล วันหล่อพระ

ตอน อ.อุบล นั่งอยู่ท้ายรถกระบะ

กับ อ.มงคล

-----------------

คุยซะยาว ยังไม่เข้าเรื่อง

ซักกะทีเลย

รอไปก่อนนะ คนขี้โม้

ก็งี้แหละ

แต่

มีข้อสังเกตุว่า

ทุกคนที่เห็นหลวงพ่อ

ในงานหล่อพระปฐมบรมธรรมบิดา

ที่บ้านสวนพีระมิด

ล้วนแต่

เป็นบุคคลที่

1.ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก่อน

2.พึ่งมาบ้านสวนพีระมิด เป็นครั้งแรก

3.เห็นด้วยตาเปล่า ตาเนื้อ

ไม่ใช่ทิพยจักขุญาณ

4.หลวงพ่อ เดินตาม อยู่ด้านหลัง

อ.อุบล ทุกครั้งที่มีคนเห็น

(คุมประพฤติตาหลอด)

อิ อิ อิ

คราวนี้ก็เข้าเรื่อง

ที่ว่า

กลอนบทนี้ ใครแต่ง

เกี่ยวกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หรือไม่อย่างไร

เพื่อยุติข้อสงสัย

ข้อพิพาท อ.อุบล จึงต้อง

กราบนมัสการขอความเมตตา

จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

แล้วท่านก็เมตตา ตอบ อ.อุบล มา

ส่วนคำตอบ

จะไปขัดใจใครนั้น

ก็ช่วยไม่ได้ อันนี้ เป็นการถาม

ด้วยจิต ของ อ.อุบล เอง

และก็

จิตดวงนี้แหละ ที่ใช้ถาม

พระพุทธองค์

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ฯลฯ

ถึงวิบากกรรม ของคนที่เจ็บป่วย

หรือ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ

มาให้ อ.อุบล ช่วยคลี่คลาย

อ.อุบล คนนี้ เป็นคนไม่มีปัญญา

ไม่มีความสามารถที่จะรู้

ที่จะทำให้ใครหายป่วยทันทีได้

ไม่สามารถทำให้ใคร

โชคดี ทันที ทำให้น้ำไม่ท่วมบ้าน

ทำให้ คนใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ได้ผลฉับพลันทันทีได้

แต่

อ.อุบล ได้อาศัย

บารมีพระพุทธองค์

หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

คือ

ถามท่านทุกอย่าง

ขอบารมีท่านทุกอย่าง

อันนี้ต้องบอกก่อนว่า

ปรากฎการณ์บ้านสวนพีระมิด

อ.อุบล คนนี้

ใช้ดวงจิต ขอพึ่งบารมี

ท่านที่กล่าวมาแล้วข้างต้นตลอด

ดังนั้น

การถามเรื่อง

บทกลอนที่มีผู้ยกมา

แล้ว บอกว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ได้บอกไว้ นั้น ท่าน ว่าอย่างไร

ได้รับคำอธิบาย

ว่า

1.ท่านไม่ได้เป็นผู้แต่ง

บทกลอนบทนี้

2. เนื้อหาสาระ ในบทกลอน

เป็นสิ่งที่ท่าน เคยบอกศิษย์ไว้จริง

3.หลวงพ่อเกี่ยวข้องกับ

บทกลอนนี้หรือไม่

ก็ตอบว่า

เกี่ยวข้อง โดยเนื้อหา สาระ

ไม่เกี่ยวข้อง ในการแต่งกลอน

หวังว่า

คำตอบของหลวงพ่อ

จะเป็น ที่ยุติข้อพิพาท ได้

แล้วหลวงพ่อ

กำชับ ด้วยว่า หากใคร

ยังสงสัยอยู่อีก

ก็ให้มันมาถามข้าเอง

เอาแต่สงสัย

เอาแต่ ว่าคนนั้น ว่าคนนี้

แต่

เอาดีไม่ได้ มโนมยิทธิ ก็มี

ทำไมไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักฝึก

ศิษย์ข้าจริง

ต้องมีเมตตา ต้องมีเหตุผล

ไม่ใช่ ตะบี้ตะบัน ปกป้องข้า

แบบไม่ลืมหูลืมตา ข้าไม่ปลื้ม

ศิษย์ข้า

ต้อง ใช้ กาลามสูตร

พิสูจน์ทุกอย่าง ไม่ใช่ เบ่ง

ไม่ใช้บ้าอำนาจ ข้าไม่เคยสอน

ให้ใคร ปกป้องข้า ด้วยวิธีนักเลง

เที่ยวตำหนิคนโน้น ว่าคนนี้

ถ้าเอ็งมีดี ก็มาแข่งดี

ไปนิพพาน ชาตินี้ให้ได้ ดีกว่า

มาคอย จับผิด คนยกกลอนมา

ให้คนอ่าน จะดีกว่านะ

สาธุค่ะ หลวงพ่อ

นอกจากได้นมัสการ

ถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เรื่อง กลอนบทนี้ เกี่ยวข้องกับ

หลวงพ่อหรือไม่ อย่างไร แล้ว

ก็เลย ได้คืบ จะเอาศอก

ขอกราบนมัสการ ถามหลวงพ่ออีกว่า

เมื่อไหร่

นารีขี่ม้าขาว จะออกมา

ช่วยเหลือผู้คน

หลวงพ่อตอบว่า

ตอนนี้ เขาก็ช่วยอยู่ ไม่งั้น

แย่ยิ่งกว่านี้อีก

แล้วเมื่อไหร่

นารีขี่ม้าขาว จะปรากฎตัว

ให้คนยอมรับเจ้าคะหลวงพ่อ

เขาก็ปรากฎตัวอยู่แล้ว

ส่วนใครจะยอมรับ หรือ ไม่นั้น

ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

หน้าทีเขา

คือ

มาช่วยเฉพาะคนที่พอช่วยได้

คือ

บัว 3 เหล่า เท่านั้น

ที่เขารับอาสามา ส่วนบัวเหล่าที่ 4

พระพุทธองค์ ก็ทรงหลีก

ไม่ใช่หน้าที่ของเขา

เขาก็จะไม่ยอมรับความดี

ไม่นับถือพระพุทธเจ้า

ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม

พวกนี้ นารีขี่ม้าขาว

หรือ

พระเจ้าองค์ไหน ก็ช่วยไม่ได้

ให้ลูกหลาน

จงคอยดูกันไป สังเกตไป

คนที่เชื่อ จะมีผลอย่างไร กับชีวิตเขา

คนที่ไม่เชื่อ

ชีวิตเขาจะเป็นอย่างไร

อีกไม่นานหรอกลูก

จะได้เห็นกันแน่ๆ

ส่วนใครคือนารีขี่ม้าขาวนั้น

ข้ารู้ว่า พวกเจ้าอยากรู้

และก็ อยากเดา

ถ้าพวกเจ้า ทำดี มีศีล 5

ประจำตัว ประจำใจ

ยังไง พวกเจ้าก็จะได้รู้ ได้เห็น

ข้อสำคัญ

อย่าทำผิดศีลกัน

จนด่วน ตายก่อน

บ้าเสียสติกันก่อนที่จะได้รู้จัก

นารีขี่ม้าขาว กันล่ะ

ข้าสงสารลุงพุฒิ

กับพยายม

และบริวาร อีกไม่นาน

งานจะเข้า หนัก

วันนี้

เห็นมีแต่คน

เข้ามาอ่าน กระทู้นี้เยอะมาก

แต่

ไม่ได้ร่วมสนทนา

ไปดีกว่า

ขี้เกียจคุยคนเดียว

กราบขอบพระคุณพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่ทรงเมตตาลูกหลานเจ้าค่ะ  

พฤติกรรมตอนสร้างสมเด็จท่านบ่งบอกปริมาณบารมีของเราและเราได้รับอนุญาตมาสร้างท่านหรือไม่ พิจารณาพฤติกรรมตอนสร้างพระองค์แล้ว ลูกไม่ได้ใช้แรงเต็มที่เจ้าค่ะ พักดื่มน้ำบ่อย ระหว่างทำบางครั้งจิตก็ฟุ้งซ่าน ลูกขอกราบขอขมาพระพุทธองค์ เทวดารักษาตัวท่านอ.อุบลทุกๆพระองค์และท่านอ.อุบลเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณที่สงเคราะห์เน้นย้ำให้ลูกพากเพียรบำเพ็ญบารมียิ่งๆขึ้นไป

หนูไม่อยู่ในช่วงวันหล่อพระปฐมฯ สงสารคนที่ไม่ได้ทำเต็มที่ในช่วงนั้น

ถึงคนที่ไม่ได้ทำเต็มที่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกว่าความผิดที่ผ่านมาถือว่าเป็นครู หนูเชื่อว่าพระพุทธองค์และท่านอาจารย์เมตตาเตือนสติให้เราพิจารณาตัวเองและสร้างกำลังใจลูกหลานให้ตั้งใจสร้างบุญ+ทำความดีให้มากขึ้น สม่ำเสมอตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเพื่อความหลุดพ้น 

************

ลูกจะตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์และกรรมบถ 10 ตามกำลังใจที่มีเจ้าค่ะ กราบขอขมาหากลูกพลั้งเผลอขาดสติปล่อยให้จิตเลวครอบงำแต่จะทำเต็มที่ตอบแทนพระคุณพระรัตนตรัยและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ค่ะ ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ลูกขอเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา ที่ทำมาทุกภพชาติ ถวายแด่ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์และเทวดารักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ สาธุ

ข้อสำคัญ

อย่าทำผิดศีลกัน

จนด่วน ตายก่อน

บ้าเสียสติกันก่อนที่จะได้รู้จัก

นารีขี่ม้าขาว กันล่ะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

กราบ ๆ ๆ ค่ะ

ความรู้สึกของ จิต

สั่งให้รู้ได้ว่า 

  นารีขี่ม้าขาว คือใคร?

แว๊บ.บ.บ เดียวที่ทำให้

มั่นใจ สุด ๆ .. จนถึงนาทีนี้

จนได้พบ และ เห็น

ฟ้าสีทอง ผ่องอำไพ

และรู้สึก วูบ วาบ ไปทั่วร่างกาย

-*-*-*-*-*-*-

หากไม่มี อ.อุบลบ้านสวนพิรามิด

แมว ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็น

ฟ้าสีทอง ผ่องอำไพ ค่ะ

บุญที่ลูกได้ทำมา ทั้งหมด

ขอมอบแด่ เทวดาประจำตัว

ของ อ.อุบล และมอบแด่

อ.อุบล และครอบครัวค่ะ

ด้วยความเคารพ

 ส่วนใครคือนารีขี่ม้าขาวนั้น

ข้ารู้ว่า พวกเจ้าอยากรู้

และก็ อยากเดา

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

กราบท่านอ.อุบลครับ

เบสอยากรู้จริงๆครับว่า นารีขี่ม้าขาวคือใคร

แต่คิดว่ารู้แล้วครับ อิอิ

เบสคิดว่าเบสพบแล้ว รับรู้ได้ด้วยจิตของตัวเอง แล้วก็มั่นใจสุดๆเลยล่ะครับว่าต้องใช่แน่นอน

 ^ ^

หนูอยากอยู่ถึงวันเปิดตัวได้รู้จักนารีขี่ม้าขาว

ไม่ทราบว่าตัวเองจะตายก่อนหรือเป็นบ้าเสียสติไปก่อนรึป่าว

ตอนนี้หนูเพียงแต่ทราบว่าชีวิตของหนูมีแต่ความสุขสงบตั้งแต่เชื่อท่านอาจารย์อุบล

หนูจะคอยสังเกตดูและ

ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์จากท่านอาจารย์ต่อไปตามกำลังใจที่มีค่ะ

สาธุ ขอบพระคุณธรรมะของหลวงพ่อและท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

เตือนสติเพื่อให้ลูก มีเมตตา รักคนอื่นเหมือนรักตัวเรา

ไม่ตำหนิใคร ไม่ยุ่งกับจริยาของบุคคลอื่น

มีเหตุผล ใช้หลักกาลามสูตรพิสูจน์ทุกอย่าง

ให้สนใจแต่ทำความดีเพื่อพระนิพพานในชาตินี้

ซึ้งในพระคุณของหลวงพ่อและท่านอาจารย์อุบลจริงๆค่ะ

แล้วก็ดีใจกับคนที่ได้เห็นหลวงพ่อด้วยตาเนื้อนะคะ

อยากทราบจังว่าลูกหลานที่เพิ่งมาใหม่ที่ไม่รู้จักแล้วได้เห็นหลวงพ่อ

จะรู้สึกและคิดอย่างไรบ้าง 

วันที่

หล่อองค์พระปฐมเสร็จ

ท้องฟ้าทั่วบ้านสวนพีระมิด

ก็เป็นสีทองผ่องอำไพ

ชนิดไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต

ซึ่งตอนนั้น

กำลังจะมืดแล้ว

เดินไปโรงทาน กำลังจะกลับ

เข้าบ้าน

ปรากฎว่า เห็นทุกอย่าง

เป็นสีเหลืองทอง

ก็เลยเอะใจ เกิดอะไรขึ้น

มองไปรอบๆ ตัว อะไร ก็สว่างไสว

เป็นสีทองไปหมด

แสงสว่างเกิดขึ้น

ทั้งที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว

ตอนออกจากบ้าน จะมาโรงทาน

กำลังจะมืดแล้ว

อยู่ดีๆ ก็สว่างวาบ

ขึ้นมาเฉยๆ แต่แสงสว่าง

กลับเป็นสีทอง สุก สดใส

จนอดใจไม่ได้ ต้องเรียกพวกเรา

ที่อยู่ในโรงทานออกมาดู

ทุกคนมัวแต่ตะลึง

จนลืมถ่ายรูป พอเตือนเรื่อง ถ่ายรูป

ก็มีบางคนวิ่งไปเอากล้องมา

ซึ่งแสงก็เริ่มเป็นสีทองจางๆแล้ว

แต่ขนาดจางแล้ว

ก็ยังเป็นสีทองอยู่ดี เพราะเดิม

สีทองมากที่สุด

ขณะนั้น

ได้กราบนมัสการ

ถามพระปฐมบรมธรรมบิดา

ว่าแสงนี้ เกิดด้วยเหตุใด

พระพุทธเจ้าค่ะ

สมเด็จพ่อ

เมตตาตอบว่า

เป็นแสงฉับพรรณรังสี

และ

สัตรังสี รัศมี 6 ประการ

และ

7 ประการ

ที่พระองค์ และ พระพุทธเจ้า

ทุกพระองค์ที่เสด็จมา

ร่วมอนุโมทนาบุญกับพิธีหล่อ

สมเด็จพระพุทธปฐมบรมธรรมบิดาฯ

เสร็จสิ้นลง ด้วยบารมีเต็ม

ของลูกหลาน

ทรงประทานให้

เป็นขวัญและกำลังใจ

ให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาเนื้อ

ไม่ต้องใช้มโนยิทธิ

หรือ

ทิพยจักขุญาน

เพราะ

ทุกคนที่หล่อองค์ท่าน

จิตเข้าสู่ฌานกันเป็นส่วนใหญ่

จึงเห็นสมควรที่จะรับ

ฉัพพรรณรังสีได้ ด้วยตาเนื้อ

ผู้ไดได้อาบ

ฉัพพรรณรังสี และ สัตรังสี

จะมีแต่ความสุขเกษมเปรมปรี

จิตจะซาบซ่าน เอิบอิ่มเอม

มิอาจเปรียบประมาณกับสิ่งใด

ต่อไป

ทุกคนที่ได้ร่วมสร้างพระองค์

จนเสร็จสมบูรณ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ

จะได้เห็นปรากฎการณ์

เหนือธรรมชาติ ด้วยตาเนื้อ

อีกทั้ง

ได้รับพรอันประเสริฐ

ให้แสงฉัพพรรณรังสีนี้

ห่อหุ้ม คุ้มครองร่างกาย จิตใจ

จากภัยอันตราย นานา

ไม่ว่าจะเป็น

ภัยพิบัติ จากน้ำ ฟ้า ดิน ไฟ

ฉัพพรรณรังสี คุ้มครอง

ต้านทานได้นิรันดร์

สาธุ

สาธุ กราบ ๆๆ ค่ะ

อย่าลืมนะ

วันที่เกิดภัยพิบัติ

ไม่มีหมอ ไม่มีโรงพยาบาล

ไม่มียา

ถึงมี

ยาแผนปัจจุบัน

ก็รักษาโรคกรรมไม่ได้

รักษาตอนเกิดภัยพิบัติไม่ได้

นอกจาก

ยา อ.อุบล ช่วยด้วย

พีระมิด เสื้อ ปะโตเมตัง

และ

ฉัพพรรณรังสี

เท่านั้น

 ถึงมี

ยาแผนปัจจุบัน

ก็รักษาโรคกรรมไม่ได้

รักษาตอนเกิดภัยพิบัติไม่ได้

นอกจาก

ยา อ.อุบล ช่วยด้วย

พีระมิด เสื้อ ปะโตเมตัง

และ

ฉัพพรรณรังสี

เท่านั้น

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

กราบอาจารย์อุบลครับ ที่คอยเมตตาย้ำเตือน

ให้ลูกหลานไม่ประมาทในการใช้ชีวิต  กราบๆๆๆ  สาธุครับ ^ ^

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์และทุกท่าน

ที่ได้ร่วมหล่อองค์พระปฐมฯและได้รับฉัพพรรณรังสี สัตรังสี พรอันประเสริฐที่สุดในชีวิต สาธุ  

ต้องเร่งทำความดีให้สม่ำเสมอ ให้มากขึ้น

จะได้มีบุญพอไปร่วมสร้างองค์ท่านจนถึงเสร็จสมบูรณ์

"ยา อ.อุบล ช่วยด้วย พีระมิด เสื้อ ปะโตเมตัง และ ฉัพพรรณรังสี"

กราบขอบคุณท่านอาจารย์ค่ะที่เมตตาเตือน ขอให้หนูไม่ลืมๆ

  น้องหญิงจ๋า

นอกจากนั้นนะ

เงิน

ยังทำให้เราซื้อตั๋วทัวร์นรก

ได้อย่างสบายๆ

เลยหละ

กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

ที่มาย้ำเตือนว่า เงิน

ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง

แต่บุญต่างหาก ที่จะทำให้เรามีความสุข

***************************************************

กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

ถึงแม้ตอนนี้ นารีขี่ม้าขาว 

ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมาแน่ชัด

สำหรับตัวหนูเองก็คิดว่าคงไม่ผิด

จากที่ความรู้สึกได้บอกมาแน่

และคิดว่าคงไม่ใช่ท่านนายกคนปัจจุบันแน่นอนค่ะ

ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ถึงวันนั้นหรือเปล่า

แต่ได้เกิดมาพบอ.แม่

และได้รับธรรมะ คำสั่งสอน

ความเมตตา จากอ.แม่ แค่นี้

ก็ถือว่าเป็นบุญที่สุดของคนชั่วๆอย่างหนูแล้วค่ะ

สาธุ สาธุ ค่ะ

 อ่าน  คิดถึง  บทกลอน  ........จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง  ..........แล้วขนลุก  มีความสุขทุกครั้งไปครับ เหมือนมีความหวังในยามวิกฤติ  เป็นกำลังใจได้มาก

กราบโมทนาในธรรมทานของหลวงพ่อ

อาจารย์แม่เจ้าค่ะ

ที่ท่านเมตตาให้ความกระจ่างในเรื่องบทกลอน

และนารีขี่ม้าขาว

 *********

อย่าลืมนะ

วันที่เกิดภัยพิบัติ

ไม่มีหมอ ไม่มีโรงพยาบาล

ไม่มียา

ถึงมี

ยาแผนปัจจุบัน

ก็รักษาโรคกรรมไม่ได้

รักษาตอนเกิดภัยพิบัติไม่ได้

นอกจาก

ยา อ.อุบล ช่วยด้วย

พีระมิด เสื้อ ปะโตเมตัง

และ

ฉัพพรรณรังสี

เท่านั้น

*********

กราบขอบคุณอาจารย์แม่ที่เมตตา

เตือนลูกหลานอยู่เสมอ ไม่ให้ประมาทในชีวิต

เมื่อวันนั้นมาถึง ใครก็ช่วยเราไม่ได้

นอกจากบุญ(ทาน ศีล ภาวนา)

และความดีที่สะสมมา

ร่วมกับความศรัทธา

 ยา อ.อุบล ช่วยด้วย

พีระมิด เสื้อ ปะโตเมตัง

และ

ฉัพพรรณรังสี

เท่านั้น

สาู สาธุ สาธุ

ขอกราบขอบพระคุณ ในธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบล ครับ 

เรื่อง " นารีขี่ม้าขาว" นี่ ด้วยความเห็นส่วนตัวก็ เห็นว่ามีอยู่คนเดียว จริงๆ ที่ มาช่วย "บำบัดทุกข์" ทำให้คนที่มีทุกข์ หมดหวัง จะด้วยอาการป่วย ที่แม้ในทางโลก จะไม่สามารถ ทำได้ เมื่อได้พบแล้วก็ มี"ความหวัง" มากขึ้น

และ "แสงสีทองผ่องอำไพ" ที่ ได้พบในวันนั้น ก็เป็นสิ่งที่ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก จริงๆ ครับ รู้สึกปิติมากๆ ครับ เมื่อได้รู้ว่าเป็นแสงฉัพพรรณรังสี

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อป ถ้าไมไ่ด้มาที่นี่คงไม่ได้มาสร้างบุญและพบเจอสิ่งดีดี แบบนี้ แน่นอน

เรื่องนารีขี่ม้าขาว

อย่าพึ่งมาเหมาว่าเป็น

อ.อุบล นะ

เพราะว่า

นารี คนที่หลวงพ่อ บอก

ต้องเป็นผู้นำระดับประเทศได้

ซึ่ง

อ.อุบล

ไม่มีความสามารถ

ไม่ฝักใฝ่การเมืองเลยจริงๆ

ดังนั้น

ตัดผู้ต้องสงสัย

ว่าจะเป็น อ.อุบล ออกไปได้เลย

อ.อุบล มีโลกแคบ

อยู่แค่บ้านสวนพีระมิดนี่แหละ

และอีกอย่าง

ศิษย์หลวงพ่อที่ใกล้ชิด

ที่ได้ยินกับหู

ก็มายืนยันแล้ว ว่าคือ

นายกหญิง นายกปู นั่นเอง

คุณป้าทั้งสองเขาทึกทักเองนี่ก๊าบ ส่วนของจริงนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแต่ เดี๋ยวธรรมะจัดสรรค์ให้รู้เอง ว่าผู้ที่นำพาผู้คนสู่ความศิวิไลซ์ พบแต่ความสุข และปลายทางคือพระนิพพาน ตามคำสอนของพระพุทธองค์คือใคร

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ใครอยากเดาอะไรก็ว่าไป ส่วนผมไม่เดาแว้ววว....

กราบขอบพระคุณสมเด็จพ่อ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

กราบขอบพระคุณหลวงปู่ปาน หลวงปู่พระราชพรหมยาน

กราบขอบพระคุณเสด็จปู่ท่านท้าวเวสสุวรรณ เทพเทวา

สิ่งศักดิ์ทุกๆ พระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล และผู้มีพระคุณทุกท่าน

ที่ได้ถ่ายทอดทุกๆ อย่างเป็นธรรมทาน

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่าน ที่ทำบุญทุกๆ บุญ ทุกๆ อย่าง

เพื่อพระนิพพาน สาธุ

กราบ ๆ ๆ

ในพระเมตตาของสมเด็จองค์ปฐมฯ

และพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์คะ

อ่านที่อาจารย์เขียนทีไร รู้สึกมีความสุขทุกครั้ง

ปลาบปลื้มใจ แบบบอกไม่ถูก

และรู้สึกว่า ที่เราทำบุญแรงกายไปนั้น ยังไม่พอ

ยังไม่เต็มที่ เราต้องทำมากกว่านี้ มันคิดตลอด

แต่ก็รู้สึกมีความสุข เมื่อคิดถึงบุญที่ทำไปแล้วทุกครั้งคะ

วันที่หล่อพระเย็นวันเสาร์

ไม่ได้ไปดูแสงฉับพลันรังสีที่หน้าโรงทานคะ

แต่ตอนนั้นกำลังอยู่ตรงที่สร้างพระปฐม

ว่าจะเป็นกะสอง แบบที่อาจารย์บอกคะ

แต่ก็ได้มองท้องฟ้า

เห็นเป็นสีส้มทอง ๆ สว่างไสว

มีพี่ ๆ น้อง ๆ ชี้ชวนกันดูท้องฟ้า..

หนูก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกคะ แต่ช่วงที่เดินกลับ รู้สึกมีความสุข

กับชีวิตจริง ๆ สบายใจ สุขใจมากคะ พอมาอ่านจึงรู้เหตุผล

ว่าท่านประทานพรมาให้นี่เอง สาธุ..

ดีใจมาก ที่ยุคสิวิไลซ์ใกล้มาถึงแล้ว

และสำหรับนารีขี่ม้าขาว หลายคนคงได้พบแล้ว

แต่ด้วยธรรมชาติของโลกนี้...

คนเราเห็นสิ่งเดียวกัน ฟังสิ่งเดียวกัน

ยังตีความต่างกัน เข้าใจต่างกันได้เลย

คนไหนจะเห็นว่าใครคือ นารีขี่ม้าขาว

ก็สุดแต่บรรทัดฐาน ความคิด วิสัยทัศน์

และบุญ-กรรม ของแต่ละคนแล้วคะ

นารี คนที่หลวงพ่อ บอก

ต้องเป็นผู้นำระดับประเทศได้

....

อ.อุบล มีโลกแคบ

ช่วงนี้

สัญญาณต่างๆ

ส่อเค้า ไปในทาง ไม่ค่อยดีเลย

ทั้ง อาวุธสงคราม ก็ฮึ่มๆ กันอยู่

ดูข่าวกันมั่งนะ

และถ้า

เมื่อไหร่ มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์

พระพุทธองค์ทรงเมตตา

ให้บอกลูกหลานว่า

ภายใน 8 ชั่วโมง

ให้พวกเราหนี ไปหาที่ปลอดภัย

ถ้าไม่มีที่ไป

ให้ทำสมาธิ เอาพีระมิด

ครอบตัว ครอบบ้านเราไว้

ครอบที่ทำงาน คนที่เรารักไว้

จะบันเทาได้ แต่ใจต้องนิ่ง

ไม่วิตก กังวล

สำหรับคนที่

อยู่ในบริเวณบ้านสวนพีระมิด

จะปลอดภัย

คนที่มีพีระมิดจำลอง

สิ่งของ ทุกอย่างของบ้านสวน

ให้เอาติดตัวไว้ตลอด

จะปลอดภัย

แต่ต้องไม่ตกใจกลัวนะ

ปีนี้

จะมีภัยหลายรูปแบบ

ขอให้ทุกคน นึกถึงแต่บุญ

ที่มาสร้าง ในบ้านสวน ไว้ตลอดนะ

ให้จิตใจ เกาะเกี่ยว อยู่กับบุญ

จนชิน นะ จะปลอดภัย

จ้า

กราบขอบพระคุณคะ

เวลา 8 ชั่วโมงที่มี

เราจะหนีกรรมได้ทันมั้ย?

คิดแล้วก็น่ากลัวนะคะ

พวกเรานับว่าโชคดีกว่าอีกหลายล้านคน

ที่ไม่รู้ ไม่เชื่อ ไม่สน ไม่เตรียมตัว ไม่สะสมเสบียง(บุญ)

เรามีพระพุทธองค์ มีอ.อุบล คอยช่วย คอยเตือนเสมอ

แถมให้อาวุธครบมือ อุปกรณ์เสริมทุกอย่าง

(เพราะท่านรู้ว่าจิตเรายังไม่นิ่ง)

ช่วงนี้ ต้องฝึกจิตให้นิ่งมากกว่าเดิม

และคิดถึงแต่ภาพที่มาสร้างบุญที่บ้านสวนฯ

คิดแล้วมีความสุขที่สุดเลยคะ

 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ครับ

เห็นด้วยกับพี่แหวน ครับ

คิดถึงวันที่ได้ไปร่วมสร้างสมเด็จองค์พระปฐมฯแล้วก็ รู้สึกปิติมากๆ

ถึงแม้จะมีส่วนร่วมไม่มากเท่าไหร่ เพราะต้องทำหน้าที่รับรถขนกรวด

แต่ก็ยังถือว่าได้ทำบ้าง ตั้งแต่เริ่มขุดฐาน เทฐาน

จนองค์ท่านหล่อเสร็จ แค่นี้ก็สุดๆ แล้ว ไม่เสียชาติเกิดแล้วจริงๆ

แต่ในใจก็ยังแอบหวัง เห็นวันที่องค์ท่านประดับแก้ว

คงจะสวยงามมากๆ

สาธุ กราบขอบคุณความเมตตาของท่านอาจารย์เจ้าค่ะ 

กลัวตอนเกิดเหตุการณ์ กรรมอาจจะบังให้คิดไม่ออก เป็นกระต่ายตื่นตูม โห ถ้าตายตอนจิตกลัว อาจต้องลงข้างล่างแน่เลย

ต้องพากเพียรฝึกจิตแล้วทุกเวลาที่ว่าง

ต้องฝืนกิเลสตัวเองให้ได้ ความตายจะมาถึงตัวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

สาธุ  กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลที่เมตตาเตือนนะครับเรื่องภัยพิบัติ

คนที่มีพีระมิดจำลอง

สิ่งของ ทุกอย่างของบ้านสวน

ให้เอาติดตัวไว้ตลอด

จะปลอดภัย

แต่ต้องไม่ตกใจกลัวนะ

ปีนี้

จะมีภัยหลายรูปแบบ

ขอให้ทุกคน นึกถึงแต่บุญ

ที่มาสร้าง ในบ้านสวน ไว้ตลอดนะ

ให้จิตใจ เกาะเกี่ยว อยู่กับบุญ

จนชิน นะ จะปลอดภัย

จ้า

.......................................

กราบอนุโมทนา

ในคำเตือนค่ะอาจารย์

จะพยายามให้จิต

เกาะเกี่ยวพระพุทธองค์

หรือเกาะเกี่ยวบุญ

ให้ชินค่ะอาจารย์

...............

กราบขอบพระคุณอาจารย์

ที่เมตตามาชี้แจงทุกข้อสงสัยด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

...................

แล้วก็ยินดีในบุญกับทุกๆท่าน

ที่ได้รับแสงฉับพรรณรังสี

จากพระพุทธองค์ด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

กราบขอบพระคุณอาจารย์ครับ ที่ได้ถ่ายทอดให้ทราบ

ถึงสิ่งที่พระพุทธองค์ประทานพระโอวาทต่างๆ มา

หรือสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวของหลวงพ่อฤาษี

ท่านเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณ และสิ่งศักดิ์ทุกๆ พระองค์

ได้รับทราบเรื่องราวต่างๆ แล้วเกิดปีติขนลุกทุกครั้งเลยครับ

เหมือนกับเราไม่ได้พบเจอท่านหรือจากท่านไปนานๆ

พอได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับท่าน ทำให้หายคิดถึง

เหมือนท่านอยู่ใกล้ๆ เราตลอด

แม้ว่าจะไม่เคยพบองค์ท่านหรือหลวงพ่อเลย  

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลมากๆ ครับ

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ได้เมตตาเตือนลูกหลาน

และหาทางรอดให้ลูกหลาน

กราบขอบพระคุณค่ะ

 ขอบพระคุณอาจารย์ที่เมตตาเจ้าค่ะ

ถ้าเราเห็นพฤติกรรม

คน

แล้วเราจะรู้ว่า

ทำไม ต้องเกิด ภัยพิบัติ

ก็

เพราะ

คนเลว

มีมากเหลือเกิน

มาก

จนไม่สามารถ

เปลี่ยนแปลงเค้าได้

ต้องใช้

ภัยพิบัติอย่างเดียวเท่านั้น

จัดการกับคนพวกนี้

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

30 มี.ค.55

ไปพัทยามา พาพี่ต้อย พี่เทวี

ไปทานอาหาร ร้านนางนวล

พี่ต้อย พี่เทวี

ไปชลบุรี ไปเยี่ยมญาติ

เราเลยนัดเจอ ที่พัทยา

ซึ่งพี่เค้าจะมาอยู่แล้ว

กว่าจะหาที่จอดรถได้

เดินซะไกลเลย

ระหว่างเดิน

ไปร้านนางนวล

ก็มองสองข้างทางตลอด

มองไปทางไหน

ก็เห็นแต่แหล่งอบายมุข

ครบสูตรเลย

ทั้ง ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน

ดูกาลเล่น เล่นการพนัน

เกียจคร้านทำการงาน

คบคนชั่วเป็นมิตร

ก็เลยมานั่งคิด

ระหว่ารอพี่เค้าที่ร้านอาหาร

ว่า

ทำไมภัยพิบัติ

ต้องจัดการกับเมืองชายทะเลก่อน

ก็เพราะ

อย่างนี้ นี่เอง

เมืองชายทะเล

เต็มไปด้วย ผู้คนทำบาป

ไม่สนใจ บุญกุศล ความดีใด

แถมการประมง

ล่าชีวิตสัตว์น้ำ ทำให้เค้า

ต้องตายกัน นับไม่ถ้วน

ล้วนเป็นที่ รวมพลังแค้นไว้

รอวันเอาคืน

ดังนั้น

เมืองชายฝั่งทะเล

จึงเป็นเป้าหมายแรก

ของเจ้ากรรมนายเวร

กราบขอบคุณธรรมทานค่ะท่านอาจารย์

น่าสงสารคนที่ประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับการฆ่า 

คนที่ส่งเสริมการฆ่า กินเนื้อสัตว์ เที่ยวสนุกไปวันๆ

เค้าเหมือนทำบาปกรรมเป็นชีวิตประจำวัน 

คงไม่มีวิธีอื่นแล้วที่จะเปลี่ยนจิตเค้า 

นอกจากให้หยุดประกอบกรรมด้วยภัยพิบัติ 

 กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

เป็นอย่างนี้นี่เอง

ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็มีจิตใจ

และความรู้สึกด้วยกันทั้งสิ้น

อีกไม่นานก็คงถึงเวลา

ที่"ผู้ถูกกระทำ"จะได้มีโอกาส

ถูกปลดปล่อยให้ออกมา

ทำหน้าที่เป็น"ผู้กระทำ"บ้าง

เมื่อก่อนช่วงที่ยังกินเนื้อสัตว์

ไม่เคยคิดเลยว่าเวลาที่สัตว์ถูกฆ่า

เค้าจะทรมานแค่ไหน

แต่เวลาเห็นสัตว์ถูกฆ่าก็สงสาร

ทั้งๆที่เราเป็นต้นเหตุให้เค้าถูกฆ่า

เพราะไม่มีคนกิน ก็คงไม่มีคนฆ่า

แค่เรากินเค้า 

สัตว์เค้าก็แค้นมากพอแล้ว

และคิดว่าทุกครั้ง

ที่เราคิด หรือพูดออกมาว่า

"อร่อยจัง" คงเพิ่มความแค้นให้เค้า

เป็นร้อยเท่าทวีคูณ

ตอนนี้เห็นใครบอกว่าอร่อย

ก็ทำให้ไม่อยากกลับไปกินเนื้อสัตว์อยู่ดีค่ะ

เพราะไม่อยากแพ้

ให้กับ "กิเลส" ของตัวเองอีกแล้ว

เราออกมาจากจุดๆนั้นได้

ถือว่าโชคดีที่สุดแล้วค่ะ

ดังนั้น

เมืองชายฝั่งทะเล

จึงเป็นเป้าหมายแรก

ของเจ้ากรรมนายเวร

""""""""""""""""""""""

ขนาดแวะไปพักผ่อน

อาจารย์ยังมีธรรมทาน

มาฝากชาวบ้านสวนฯให้พิจารณา

และแฝงมาด้วยคำเตือนที่ตร๊งตรง

แบบไม่ต้องเดา...กันเลย

ฉะนั้น ใครที่อยู่ชายฝั่งทะเล

สงสัย ใกล้จะถึงเวลาที่ต้อง

"อพยพด่วน..."

รึเปล่าคะเนี่ย

กราบอนุโมทนาด้วยนะคะอาจารย์

สาธุ สาธุ สาธุ

 ขออนุโมธนาที่นำความรู็เกี่ยวกับภับพิบัติมาบอกค่ะ 

ถึงเมืองชายฝั่งทะเล

จะเป็นเป้าหมายแรกของเจ้ากรรมฯ

แต่

ไม่ได้หมายความว่า

เมือง ไกล ชายฝั่งทะเล

จะรอดพ้นไปได้

ที่ไหน

เป็นแหล่งรวมคนบาป

คนชั่ว

ที่ไม่กลับตัว ไม่เปลี่ยนใจ

ที่นั่นก็คือ

เป้าหมาย ของเค้า

เช่นกัน

กราบอนุโมทนาคะ

อาจารย์ได้เตือนมานานมากแล้ว

ว่าที่ ที่ใกล้ทะเล อันตรายมาก

เพราะนอกจากกรรมจากการฆ่าสัตว์มากแล้ว

ยังมีสถานที่ที่อโคจรรวมกันอยู่มาก

กรรมส่วนรวม มันมีผล เป็นพลังลบมาก

เราจึงควรอยู่ห่างจากแหล่งอโคจรทั้งหลาย

และก็แหล่งรวมคนชั่วทั้งหลาย ด้วยนั่นเอง

สาธุ สาธุ ค่ะ อาจารย์

ฉะนั้นเราควรจะทำตัวเป็น "คนดี"

อยู่ห่างจาก "คนชั่ว"

และอยู่ให้ไกลจากสถานที่ อโคจร

สาธุ....สำหรับคำเตือนของอาจารย์แม่อุบลเจ้าค่ะ

สถานที่อโคจร

มันล่อตาล่อใจไปด้วย แสง สี และเสียง

ได้ดีกว่าการเข้าวัดหรือเข้าในสถานที่บริสุทธิ์มั้งค่ะพี่ชนิดา

แต่เดี๋ยวนี้คนใต้คงลดการอยู่ใกล้สถานที่อโคจรซึ่งมีผู้คนค่อนข้างเยอะแล้วมั้งค่ะเพราะว่าคงกลัว "พี่เบิ้ม"กัน

..........

คนชั่ว

หรือบัวเหล่าที่ 4 นี่

พระพุทธเจ้าทรงหลีก

คือ

ไม่โปรด

ไม่สงเคราะห์ เพราะ

จิตยังมืดบอดด้วย

แรงกรรมอบาย

ไม่ว่าฟังธรรมใด

คำสอนใด

ก็หล่อหลอม ซึมซาบ

เข้าไปในใจ คนเหล่านี้ไม่ได้

พระองค์จึงทรงหลีกเสีย

แล้วก็มีคำสอน

ในอบายมุข 6 อย่าง

ข้อสุดท้าย

คือ

ไม่ให้คบคนชั่วเป็นมิตร

ทำไมไม่ให้คบ

ก็เพราะ

คนชั่ว จะโยน ความผิด

โยนความไม่ดี มาให้เราได้ง่ายๆ

เรื่องนี้

เห็นมาแล้วมากมาย

ในบ้านสวนพีระมิด

ไป ไป มา เรา อุปการะ คนชั่ว

พอเค้าทำผิดอะไร

เค้า บอก อ.อุบล เป็นคนทำ

นี่เห็นๆ เลย

ดังนั้น

ถ้าเราจำเป็น

ต้องเลือก ระหว่าง

ไม่มีเพื่อน

กับ

มีเพื่อนชัว

หรือ

มีเพื่อนดีน้อยคน

กับ

มีเพื่อนชั่วหลายคน

เราจะเลือกแบบไหนดีล่ะ

คิดว่า

หลายคนก็คงตอบได้

ว่า

เลือกไม่มีเพื่อน

กับ

เลือกมีเพื่อนดี แต่น้อยคน

ดีกว่ามีเพื่อนเลว(หลายคน)

นี่แหละ

พระพุทธเจ้าท่านสอนเรา

เพราะว่า

ท่านก็เจอมาก่อนเรา

คนสมัยเก่า กับ คนสมัยใหม่

มันก็คล้ายกันนั่นแหละ

มีดี มี ชั่ว ปะปนกัน

ไม่งั้นพระพุทธเจ้าไม่บอกไว้

ตรงหมด และ ทันสมัย

ขนาดนี้หรอก

ส่วนพระเลว

พระพุทธเจ้า ให้ลงโทษ

โดย

ไม่ให้พระสงฆ์ร่วมสังฆกรรม

และ

ไม่ให้พูดคุยด้วย

หรือ

คุยด้วยก็น้อยที่สุด(เท่าที่จำเป็น)

ไม่ให้เข้าใกล้

หรือ

เข้าใกล้ ก็ไม่ให้คุยด้วย

ฯลฯ

พวกเราลอง

หันมาดู ตัวพวกเรา

แล้วก็ดูคนที่เข้ามาบ้านสวนซิ

เห็นบางคนบอกว่า

ยิ่งใครชั่วมาก

ก็มีคนไปใกล้ ไปห้อมล้อม

นั่งฟังเขาหลอกมาก

ฟังชนิดหูละห้อยเลยก็มี

บางคน

ไม่ฟังเปล่า

ตามเค้าไปไหนไหน

ด้วยเลยแหละ

เป็นไงล่ะ

คนมาหา อ.อุบล

บ้านสวนพีระมิด ด้วยศรัทธา

แต่มาแล้ว

มาเจอ อาจารย์ดี คนใหม่

เลยลืมไปเลย

ว่ามาหา อ.อุบล

555

มีมิตรเลวหลายคน

เป็นไงล่ะ

คนมาหา อ.อุบล

บ้านสวนพีระมิด ด้วยศรัทธา

แต่มาแล้ว

มาเจอ อาจารย์ดี คนใหม่

เลยลืมไปเลย

ว่ามาหา อ.อุบล

555

.....................................

ก็เพราะว่า มีหลายๆคนที่เป็นแบบนี้

อาจารย์ถึงได้เมตตาทำทุกอย่าง

ให้พวกเรา มีปัญญา เพื่อจะได้ใช้

ปัญญา นี้ พิจารณา "คน"ให้ดี

ก่อนที่จะเชื่อ หรือ จะทำอะไรลงไป

กราบอนุโมทนาค่ะ อาจารย์

ราตรีสวัสดิ์นะค๊า

กราบอนุโมทนากับอ.อุบล

และพี่ชนิดาด้วยคะ

ที่ชีวิตเรามีปัญหามาตลอด

เพราะเราไม่พิจารณาว่า

เราคบกับอบายมุขทุกข้อ

โดยเฉพาะคบเพื่อนเลวหรือป่าว

เพราะเราเองก็เลวและโง่มาตลอดเหมือนกัน

ถ้าไม่มีอาจารย์ มาชี้ทางสว่าง

มาสร้างปัญญาให้เรา

เราก็คงไม่มีวันพ้นทุกข์ไปได้แน่คะ

 กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

นี่คือ 1 เหตุผลที่อ.แม่

ให้พวกเรารักษาศีลให้บริสุทธิ์

เพราะคุณงามความดีที่เราสะสมมา

จะช่วยไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อ

ของคนเหล่านี้ได้ง่ายๆ

เพราะหากใจเรายังไม่มั่นคงพอ

และความดียังมีน้อยกว่าชั่ว

เราก็อาจจะต้องหลงไปกับขั้วเดียวกัน

และอาจตกรถไฟกระบวนสุดท้ายของชาตินี้ก็เป็นได้

กราบ กราบ กราบ

ตอนนี้ผมกังวลว่าอาจจะเกิด

แผ่นดินไหว ขนาดมากกว่า 8.8 ริกเตอร์

เกิดขึ้นตามมาอีกในไม่ช้า จากนี้ไป

น่าจะมีแผ่นดินไหวถี่ขึ้นกว่าเดิม

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านบอกว่าจะมี

แผ่นดินไหวใหญ่ตามมาอีกหลังจากนี้

(มาทางทิศตะวันตก) แต่จะเสียหาย

ในประเทศอื่นๆ เมืองไทยจะยังกระทบไม่มาก

แต่เมื่อไหร่ที่แผ่นดินไหวมาจากทะเล

ทางทิศตะวันออกพร้อมกับมหาพายุ นั่นแหละ

จะเป็นเหตุแห่งความย่อยยับ ซึ่งจะเป็นภัยภิบัติ

ที่ท่านเคยเตือนบอกไว้ก่อนหน้านี้ ครับ

ที่คนเขากลัวกันว่าจะเหตุการณ์

จะเลื่อนอีกนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ครับ

ถ้าจะมีการเลื่อน ก็น่าจะเป็นการ

เลื่อนเข้ามาเร็วกว่าเดิมมั้งครับ

ตอนนี้ในโลกอันเร้นลับ

แผ่นดินกำลังเคลื่อนที่แล้วครับ

................................................................

อนุโมทนาข้อมูลจากคุณ Aunyasit

จากเว็บพลังจิต ด้วยค่ะ สาธุ

วันนี้

12 เม.ย.55

ที่บ้านสวนพีระมิด

เห็น UFO. จำนวนมาก

และ

เห็นแสงสว่างดวงหนึ่งเหมือนดาว

แต่สว่างมาก และ ใกล้มาก

หยุดนิ่งอยู่

บอกให้คุณแมว+คุณเตี้ย ดู

คุณแมวยังบอกว่า

เดี๋ยวจะหายไป

แล้วก็เดินเข้าบ้าน อ.กัน

สัก 20 นาที

อ.อุบล ออกมา ก็ไม่มีแล้ว

แต่เห็นอีกดวง

สีแดงส้ม

อยู่เหนือยอดมะม่วง

หลังวิหารพระปฐม

สักครู่ ก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นมา

แล้วก็ตีโค้งไปทาง

วิหารแดง

เรียกพวกหนูเหมี่ยว

ด.ช.อมร ไอซ์ มาดู

พี่เทวี เรียกพี่ต้อยมาดู

ส่วนดวงที่แปลกที่สุด

คือ

ดวงที่เห็นแสง

ลอดจากกอไผ่หน้าบ้าน

แล้วค่อยลอย สูงขึ้นๆ

สักพัก เลี้ยว

หักมุมฉากเลยต่อหน้าต่อตา

นึกถึง

คำพูด คุณพ่อ ดร.อาจอง

ท่านบอกว่า

เครื่องบินเลี้ยวหักมุมไม่ได้

บินถอยหลังไม่ได้

อีกดวงหนึ่ง

อันนี้ เห็นครั้งแรก

บอกทุกคนว่า นี่คือเครื่องบิน

ตอนนั้น

ไปรวมกันอยู่หน้าบ้าน

ไปลุ้น อ.มงคล+ลุงเบิ้ม

ปีนเสาไฟฟ้า

วันนี้

เค้ามาต่อหม้อไฟ

สายตรงให้แล้ว เพิ่มเป็น

30 แอมป์ด้วย

ไฟจะได้ไม่ตกอีกต่อไป

จ่ายไปแล้ว

170,000 ไฟเลยไม่ตก

ขณะลุ้นอยู่

ก็เห็นเครื่องบิน

อ.อุบล ก็บอกทุกคนว่า

นี่เครื่องบินนะ

ไม่ใช่ยาน

ทันใดนั้น

วัตถุลอยได้ที่คิดว่า

เครื่องบินนั้น

ก็เปิดไฟสว่างจ้าสีขาวนวล

ส่องมาทางพวกเรา

ไฟดวงใหญ่มาก

จนยายเหมี่ยว

ดีอกดีใจ ว่าเค้ารู้ ว่าดูเค้าอยู่

พอพวกเราดีใจ

ที่เห็นไฟดวงใหญ่ส่องสว่าง

เค้าก็เลยปิดไฟดวงนี้

แล้วเปิดไฟสีแทน

ดวงเล็กกว่า

เล่นเอา

แต่ละคน อึ้ง ตื่นเต้น

ไปตามๆกัน

เออ

ดีเหมือนกันเน๊าะ

คนขับเครื่องบินสงสัยจะรู้

ว่าพวกเราดูเค้าอยู่

เลยเปิดไฟทักทาย

ดวงใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเลย

พอเรากรี๊ดกัน

ก็เลยปิดไฟ ซะงั้น

เปิดไฟแสงสี

แทน

ยายเหมี่ยว

คนช่างคิด เลยถามว่า

เค้ามาทำไมกัน มากมายคะ

อาจารย์ วันนี้

หรือว่าเค้ามาร่วมบุญสงกรานต์คะ

อันนั้นก็คงใช่นะ

แต่

อีกส่วนหนึ่ง คนมาดูพวกเรา

มาคอยเตือน ว่า อย่าประมาท

ภัยใหญ่กำลังมาแล้ว

แล้วก็เลย

หันไปแซวลุงเบิ้ม

ว่า

ลุง อาคาร 3 ชั้นเรา

จะรับแผ่นดินไหว ได้ไหม

โอ๊ยสบายครับ อ.

แต่ถ้า แบบเดิม รับไม่ได้แน่ครับ

วันนี้โป๊ก

ขี่มอไซด์มายามดึก

เอาสายรัดเอวมาให้ ด.ช.อมร

บอกว่า

พรุ่งนี้ลุงบุญ

จะมาช่วยเทคาน

ที่จริงจะมาตั้งแต่วันนี้

แต่กลัวคนน้อย

ดูสิ

นี่ลุงบุญ ลานะ

แต่ยัง จะมาช่วยทำงาน

 สมเด็จองค์ปฐมเป็นที่ตั้ง หากแม้วันนี้มีบุญอันใดเกิดขึ้นที่บ้านสวนพีระมิด

ลูกขออนุโมทนาบุญในการครั้งนี้ พร้อมขอให้ผลของการอนุโมทนาบุญนี้จงสำเร็จแด่เทพเทวาที่ปกปักรักษา อ.อุบลด้วยเถอะ

สาธุ สาธุ สาธุ

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

วันนี้ UFO มารวมตัวกัน

และมาแสดงตัวให้พวกเรา

ได้เห็นที่บ้านสวนฯมากมายขนาดนี้

สงสัยจะเมตตา มาส่งข่าวอย่างที่อาจารย์ว่า

"ภัยใหญ่ กำลังจะมา อย่าประมาท"

แน่ๆเลยค่ะอาจารย์... แต่จะว่าไป

เดี๋ยวนี้พี่น้องบ้านสวนฯแต่ละคน

ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย สามารถ

สื่อสารกับยูเอฟโอ ได้สบายๆเลย

แล้วพวกเค้าก็โต้ตอบกับพวกเรา

ได้น่ารักดีนะคะ ...

กราบขอบพระคุณอ. อุบลเหลือเกินค่ะ ที่บอกกล่าวให้ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ
ที่เคยข้องใจมากช้านาน และเรื่องภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดขึ่น ทั่วโลกอยู่ขณะนี้ค่ะ

**********************************************************************************

ขอบคุณน้อง ชนิดา คนงามที่เปิดกระทู้นี้ขึ้นมา โมทนาสาธุค่ะ
สุขสันติ์ วันปีให่มไทยนะค่ะ สุข สด ชื่่น สมหวัง จงบังเกิดแก่น้องตลอดกาลนะค่ะ
อ้อ แล้วก็อย่าเปียกปอนให้มากนักนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วย อากาศที่
โปรแลนด์คงจะยังหนาวอยู่

กราบสวัสดีวันปีใหม่ไทย และขอบคุณ

สำหรับคำอวยพรค่ะพี่นนนี่ สุดสวย อิอิ

อากาศที่โปแลนด์ยังหนาวมั่กๆอยู่เลย

แบบว่า เล่นสงกรานต์ในใจ

จนเปียกปอนไปหมดแย้วว...อ่ะล้อเล่น

ไงก็ขอบคุณมากๆนะคะ ที่แวะเวียน

เข้ามาพิจารณาเรื่อง ภัยพิบัติ ในกระทู้นี้

อนุโมทนาด้วยค่ะ

คำเตือนจากท่านอ.อุบล

ขณะนี้

เปลือกโลก

กำลังได้รับการกระทบกระเทือน

ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่

โดยเฉพาะที่อยู่ในแนวเพลตเดียวกัน

จะได้รับผลกระทบก่อน

แล้วหลังจากนั้น

ก็จะส่งผลในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

คนที่อยู่ใกล้แนว

รอยเลื่อน

และ

เขื่อน + ทะเล

ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

.................................

ความคิดเห็นจากพ่อใหญ่ธนา

กราบ ขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างที่สุด ที่เมตตาลูกหลาน ถึงแม้ท่านอาจารย์ไม่ได้รับอนุญาติจากเบื้องบนให้บอกลูกหลานตรงๆ ถึงวันเวลาและสถานที่

แต่ จากข้อมูลที่ท่านอาจารย์เมตตาแจ้งเตือนมา ก็เป็นข้อมูลที่เรียกว่าห้ามเผลอสติ และประมาทเด็ดขาด สำหรับพี่น้องที่อยู่ใกล้เขื่อน+ทะเล

วันนี้ พี่น้องบ้านสวนฯระหว่างวันมีการสำรวจกันและกันว่า ใส่แหวนองค์เทพสฟริงซ์กันรึยัง ก่อนกลับท่านอาจารย์ก็เมตตาถามถึงน้องเอิ้นด้วยว่าแหวนไปไหน ทำไมไม่ใส่ ซึ่งน้องเอิ้นเก็บไว้ในกระเป๋า ห้ามประมาทกันเด็ดขาดเลยเน้ออพี่น้อง

ตอน นี้นอกจากบุญ และจิตใจที่มั่นคงในพระพุทธเจ้าและความดีแล้ว ขอให้ทุกคนอย่าลืมที่ท่านอาจารย์เตือนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นนกหวีด เป้ฉุกเฉิน เสื้อบ้านสวนฯ แหวนพีระมิด&เทพสฟริงค์ จี้ องค์พีระมิดจำลอง และอื่นๆ ให้พกไว้ติดตัว ที่บ้าน และที่ทำงานกันเด้อครับพี่น้อง...

............................................

พ่อใหญ่ธนาเอ๋ย

เดิมทีเดียว อ.อุบล คิดว่า

จะให้คนเข้าบ้านสวนพีระมิดได้

แบบปล่อยผี ดูสักที เพื่อจะได้

ฉุดช่วยผู้คนที่บาปหนา

ให้บางลงบ้าง

และ

เป็นการ

ทดสอบความแข็งแกร่ง

ของจิตใจ และ ภูมิธรรม

ของพวกเรา

ว่า

พร้อมหรือยัง

ที่จะแสดงความเมตตา

ต่อผู้หลงผิด

โดย

ไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข

ปรากฏว่า

เสด็จพ่อไม่ทรงอนุญาต

แป่ววววว

ด้วยเหตุผลที่ว่า

1.อย่า

คบคนชั่วเป็นมิตร

2.อย่าเสียเวลา

กับคนที่ไม่รอด ถ้ายามีจำกัด

(ต้องช่วยคนที่พอช่วยได้ก่อน)

3.เวลาเหลือน้อยแล้ว

ต้องเร่ง ยกระดับจิตของคนที่

พอมีหวัง

4.ต้องช่วยเฉพาะ

คนที่พร้อมที่จะช่วยตัวเอง

เท่านั้น

5.อย่าดึงพลังลบ

เข้ามามากเกินไป ต้องให้

ภูมิต้านทาน คนเก่า แข็งแรงจริงๆ

เสียก่อน มิฉะนั้น อาจติดเชื้อ

(พิษสุนัขบ้า 555)

6.สถานที่ใด

มีพลังงานลบมาก

สถานที่นั้น คือพื้นที่เสี่ยงภัย

สถานที่ใด

มีพลังงานบวกมาก

สถานที่นั้น คือ ที่ปลอดภัย

ดังนั้น

เสด็จพ่อให้พวกเรา

เร่ง

การพัฒนา ระดับจิตใจ

ให้สะอาด บริสุทธิ์

ให้เร็วและมากที่สุด

อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง

เดี๋ยวต้องไปอยู่

กับลุง(พุฒิ)

ไม่รู้ด้วย

กราบอนุโมทนาในคำเตือน

จากท่านอาจารย์อุบล

และความคิดเห็นจากพ่อใหญ่ธนา

ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนา สาธุ คะที่อาจารย์อุบลเตือนว่าภัยใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว

คุณหมอวัฒน์

การ์ตูน น่ารัก อ่ะ

ขออนุโมทนากับข้อมูลของคุณชนิดาด้วยค่ะ

ที่ได้นำคำเตือนของท่านอาจารย์อุบล และจากแหล่งข้อมูลอื่นๆมาบอกกล่าวอีกครั้ง เพื่อให้ได้เตรียมตัวและเตรียมพร้อมเสมอ จะได้ไม่ประทาทค่ะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์อุบลค่ะ

ขอบคุณideaดีๆ เจ้าของการ์ตูนที่น่ารักที่หมอcopyมาณที่นี้ด้วยคะ

ขอบคุณคะ อาจารย์อุบล คะ

ตอนนี้หมอรู้สึกกังวลว่า แล้วเราจะต้องวิ่งอย่างนี้ไปกันอีกนานแค่ไหนน้า

ขอให้พี่น้องชาวภูเก็ตอย่าประมาทโดยเด็ดขาดนะครับ อย่างไรซะก็เอาแบบปลอดภัยไว้ก่อนนะครับ ขอให้ทุกๆคนปลอดภัยนะครับ

ที่มา : http://board.palungjit.com/f178/การเตรียมตัว-เตรียมใจ-ไปสู่ยุคภัยพิบัติ-330377-45.html

 ขอบคุณพี่ธนาที่นำข่าว

มาแจ้งให้ทราบค่ะ

รู้สึกช่วงนี้ทางภาคใต้จะแผ่นดินไหวบ่อยด้วย

ไหนจะข่าวเรื่องสึนามิอีก

ยังไงขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน

เตรียมตัวรับมือให้พร้อม

แล้วอย่าลืมรหัส อ.อุบลช่วยด้วย นะคะ

อนุโมทนากับพ่อใหญ่ธนา

ด้วยเช่นกันค่ะ อ่านแล้วก็ต๊กกะใจ

เหมือนกันนะคะเนี่ย

เพราะถ้าภูเก็ตจมหายไปทั้งเกาะ

นั่นแสดงว่า ต้องเกิดจาก

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่มากๆ

ทั้งบนดิน ทั้งใต้ทะเล ...

และเหตุการณ์นี้

ก็น่าจะส่งผลทั่วโลก เช่นกัน

ฉะนั้น ทุกคนทุกพื้นที่

ทั่วไทยและทั่วโลก

ก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน

อย่าลืมนะคะ

จิตเกาะพระพุทธองค์ตลอดเวลา

ทำแต่ความดีในทุกๆนาที

และละความชั่วทุกชนิด

ทั้งทางความคิด คำพูดและการกระทำ

ขอให้ความดี คุ้มครองทุกๆท่าน

ให้รอดปลอดภัยค่ะ

เอามาเพื่อให้ข่าวครบถ้วนค่ะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะประมาทค่ะ

ปอย งง! ชื่อแม่ถูกอ้างเป็นย่ามุก เตือนภูเก็ตจะจม

อยู่ดี..ไม่ว่าดี มาแอบอ้างกันโต้งๆ !! คราวนี้ถึงของสาวสวยปอย ตรีชฎา ที่โดนเอาชื่อคุณแม่ไปแอบอ้าง เกี่ยวกับกรณีข่าวโคมลอยที่ระบุว่า เกาะภูเก็ต จะจมลงทั้งเกาะ ซึ่งกำลังเป็นกระแสข่าวลือที่ฮือฮาอยู่ในโลกโชเชียลเน็ตเวิร์กในขณะนี้

ล่าสุด สาวปอย ได้นำข้อความที่แอบอ้างแม่ตัวเองมาโพสต์ชี้แจงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมกับระบุว่า "ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวโคมลอยและถูกผู้ไม่หวังดี นำชื่อปอยและแม่ของปอยไปแอบอ้าง"

สำหรับข้อความข่าวโคมลอยดังกล่าว มีข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่าน เกิดเหตุหญิงสาว 2 คน ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน หนึ่งในนั้นถูกแอบอ้างว่าเป็นแม่ของปอย ตรีชฎา ที่จู่ๆ เกิดอาการแปลก ร้องไห้ทุกข์ทน และอ้างว่าเป็น ย่ามุก กับ ย่าจัน หรือ ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร 2 วีรสตรีแห่งเกาะภูเก็ต ซึ่งมาบอกให้ชาวภูเก็ตอพยพออกจากเกาะ ก่อนวันที่ 28 เมษายน เพราะเกาะกำลังจะจมลงจากเหตุภัยธรรมชาติ

ข้อความดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่ต่อกันเป็นวงกว้างในโชเชียลเน็ตเวิร์ก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในตอนนี้ บางคนระบุว่าเหตุดังกล่าวไม่มีมูลความเป็นจริง เป็นข้อความที่ผู้ไม่หวังดี ต้องการสร้างสถานการณ์ในคนภูเก็ตแตกตื่น หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวบนเกาะภูเก็ต เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) เท่านั้นเอง

จาก http://news.sanook.com/1112495/ปอย-งง-ชื่อแม่ถูกอ้างเป็นย่ามุก-เตือนภูเก็ตจะจม/#print

สาธุ ขอให้เป็นแค่ข่าวโคมลอยของผู้ไม่หวังดีเท่านั้นจ้ะ แต่ทุกนก็ต้องเตรียมพร้อมไม่ประมาทไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

     ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลครับ ที่ได้เมตตาเตือน ลูกหลาน วันนั้นขากลับท่านอาจารย์ก็ได้เตือนเรื่องแหวนทีนึง เหมือนที่พี่ธนา เล่าน่ะครับ โชคดีที่สุดแล้วครับ ที่มีครูบาอาจารย์ที่ห่วงใยเรา ยังไงก็ขอให้ทุกๆคนปลอดภัยนะครับ 

     ขออนุโมทนากับ พี่ธนา พี่ชนิดา ด้วย ครับที่แจ้งข่าว ให้พวกเราได้เตรียมตัวกัน ขนาดเหตุการณ์ภัยพิบัติ ขนาดนี้ ยังมีคนปล่อยข่าวโคมลอย อีก เฮ้อ ! คนเรา  

ขอบคุณ คุณอัญมณีมากครับที่นำข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ได้รับทราบ

แต่อย่างไรทุกคนอย่าประมาทนะครับ เพราะผมได้อ่านข่าวและพบว่า ถึงขณะนี้จังหวัดภูเก็ตได้มีการสั่นสะเทือนแล้วทั้งสิ้นประมาณ 40 ครั้ง

ซึ่งแปลกตรงที่ว่า เป็นครั้งแรกเลยที่พบว่ามีจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่อำเภอถลาง ภูเก็ต ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยปรากฏมาก่อน

เรียกว่าให้ทุกคนจับตาดูให้ใกล้ชิดเลยนะครับ

ที่สำคัญอยากบอกว่า เดี๋ยวนี้ข่าวสารข้อมูลต้องพิจารณากันเองครับ บางทีจริง ก็มีฝ่ายมาบอกว่าไม่จริง บางทีไม่จริงก็พากันออกมาบอกว่าจริง

และที่สำคัญตอนนี้ผมว่าเราต้องพึ่งตนเอง เชื่อในสิ่งที่เราเห็นเพราะการพยากรณ์หรือการดูแลจากหน่วยงานต่างๆคงพึ่งได้ลำบาก เพราะนั่นเป็นเพียงแค่การควบคุมสถานการณ์มิให้คนตื่นตระหนกกลัวและคาดการณ์เท่านั้นเอง

  จากคุณ Falkman 

 ขยายส่วนข้อความ

ขอขอบคุณคุณอัญมณีค่ะ ที่ได้นำข้อมูลดีๆ มาให้รับทราบค่ะ

ขอบคุณที่มา :

http://board.palungjit.com/f2/เจ้าหญิง-kaoru-nakamaru-of-japan-พูดถึงการเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่-5-ของโลก-and-3-วันแห่งความมืดมิด-335713.html

ขอบคุณ : คุณชยุตมากครับที่แปล

 ขอบคุณคลิปจากกระทู้ ธรรมชาติเอาคืน..พี่อาริยา ด้วยครับ

PRINCESS KAORU NAKAMARU of Japan - Featured Guest Speaker at the PYTHAGORAS CONFERENCE 2012 - YouTube

เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru of Japan พูดถึงการเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ของโลก & 3 วันแห่งความมืดมิด

กระทู้นี้เป็นการถอดความจากวีดีโอข้างบนนี้นะครับ
แต่ว่าผมก็ฟังไม่ออกทั้ง 100% หรอกนะครับ
แต่ก็น่าจะราวๆ 95% อยู่มั๊ง..พอให้จับใจความได้บ้าง

โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลทุกๆอย่างเสมอนะครับ
............................................................

...ฉันชื่อ เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่น

ในปี 1976 ฉันเคยมีประสบการณ์ทางจิตที่น่าประหลาดใจมากอันหนึ่ง และนับตั้งแต่นั้นมา ตาที่สามของฉันก็เปิดออก ดังนั้น ฉันจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับ UFO, ผู้คน
และรวมถึงผู้ที่อยู่ใต้พื้นโลกได้ ซึ่งพวกเขาเป็นอารยธรรม ที่มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าห้องสมุด ของโลกใต้พิภพคนนั้น ฉันก็ได้ติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย

และจากข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งหมดเหล่านี้ที่ฉันมี ทำให้ฉันเชื่อว่า ในปี 2012
วันที่ 22 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป มันจะมี 3 วันที่โลกใบนี้ จะเข้าไปสู่มิติที่ 5
เมื่อโลกผ่านเข้าไปสู่สถานที่แห่งนั้นแล้ว มันจะมี 3 วัน 3 คืนที่เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้
มันจะเป็นคืนวันที่มืดมิดสนิทจริงๆ จะไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีดวงดาว ไม่มีแสงสว่างใดๆทั้งสิ้น พวกเราจะอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน

แต่ยังไม่มีสื่อสารมวลชนใด หรือข้อมูลข่าวสารใด ออกมาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้เลย แต่รัฐบาลลับทั้งหลายรู้เรื่องนี้กันดี และพวกเขาก็เตรียมความปลอดภัยไว้ให้ตัวเองแล้ว พวกเขาพยายามที่จะหนีออกไปจากโลกใบนี้ หรือไม่ก็กำลังขุดอุโมงค์สร้างเมืองใต้ดินกันอยู่ อยู่ใต้ประเทศ? นอร์เวย์ ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรเลีย
ซึ่งในนั้นจะจุคนได้ประมาณ 1 หมื่นคน และปลอดภัยอยู่ในนั้น

แต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรอกนะ เพราะว่าพวกเราจำเป็นจะต้อง
ชำระสะสางสภาวะจิตของตัวเราเองให้บริสุทธิ์ ทั้งทางด้านกายภาพ-และทางด้านจิตวิญญาณ ฉันจะบอกพวกคุณว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพสูงสุด และพระผู้สร้าง คือพลังงาน และความรัก และแสงสว่าง ซึ่งส่วนหนึ่งของพลังงานความรักที่ว่านี้ ก็มีอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกๆคน
เราสามารถโกหกคนอื่นๆได้ แต่เราไม่สามารถที่จะโกหกตัวเราเองได้  นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าจิตสำนึกหละ

มนุษย์โลกแต่ละคน มีส่วนที่สวยงามนั้นของพระผู้สร้าง อยู่ในวิญญาณของเราทุกๆคน
ซึ่งวิญญาณนี้เองที่เป็นผู้ที่จะไปเวียนว่ายตายเกิด และเป็นส่วนที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ และอยู่ในตัวพวกเราทุกๆคน ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าจะชำระสะสางวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์หละก็  เราต้องมองดูชีวิตของตัวเราเองด้วยจิตสำนึกอันนั้น เพื่อดูว่า ทุกๆ 5 ปีหรือราวๆนั้น นับตั้งแต่ตอนที่เราเกิด เราประพฤติตัวอย่างไร เราค้นหาอย่างไร เราพูดอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถที่จะชำระสะสางได้ ด้วยการมองดูชีวิตของตัวเราเองทุกๆ 5 ปี จนถึงบัดนี้

ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ทุกๆครั้งที่เราพบว่า เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นการทำร้ายคนอื่นหละก็ แล้วเราก็จะสามารถชำระสะสางมัน และทำให้มันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราค้นพบมัน หัวใจของเราจะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วเราจะสามารถหายใจได้ลึกมากขึ้น
และทุกๆครั้งที่เรามีประสบการณ์นี้ความมืดมิดอันนี้ทั้งหมด ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาจากหัวใจของเรา แล้วแสงสว่างสีทอง ก็จะเข้ามาสู่หัวใจของเราแทน ด้วยวิธีการนี้
เราจะสามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้พวกเรายังพอมีเวลาอยู่ จนกว่าจะถึงปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012
ในทางกายภาพแล้ว พวกเรายังสามารถชำระสะสางร่างกายเนื้อของเราได้ด้วย
โดยวิธีการแรกที่สุด พวกเราไม่ควรจะดื่ม "น้ำผลไม้กระป๋อง" หรือ "เบียร์กระป๋อง"
เพราะว่าอลูมิเนียม เป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อร่างกายของเรามากๆ และโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราจึงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้

ดังนั้น พวกเราแต่ละคนจึงสามารถที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วยวิธีการทำนองนี้ และการออกกำลังกายบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย และทุกๆวันเราก็สามารถที่จะ สะท้อน (ไม่ชัวร์นะครับ ฟังไม่ค่อยออก - ผู้แปล) จิตวิญญาณของเราได้ด้วยอย่างที่มันเป็น

ในแก่นแท้ของพวกเราทุกๆคน พวกเราก็คือแสงสว่าง และ ความรัก เพราะว่าพวกเราทุกคน มีส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างอยู่ในหัวใจของพวกเรา ซึ่งก็คือสิ่งที่ลงมาเวียนว่ายตายเกิดนี้ โดยการมามีชีวิตภพชาติแล้ว ภพชาติเล่า อยู่ในร่างกายเนื้อของเรา ที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณของเรา จะเทียวเข้าเทียวออก ร่างกายโน้น ไปร่างกายนี้อยู่ตลอดเวลา

บนโลกใบนี้ ฉันระลึกชาติได้ว่า ฉันเคยเกิดมาหลายพันชาติแล้ว นอกจากนี้ฉันยังเคยไปเกิดในส่วนต่างๆของโลกมาแล้วมากมายหลายแห่งอีกด้วย การระลึกชาติของฉัน ทำให้ความทรงจำฉันกลับคืนมา และทำให้ฉัน สามารถพูดภาษาที่ฉันยังไม่เคยเรียนมาเลยได้ด้วย

ดังนั้น ในทางกายภาพแล้ว ฉันมีประสบการณ์กับทฤษฎีการเวียนว่ายตายเกิดนั่นก็ถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่ฟังการบรรยายครั้งนี้อยู่ ฉันคิดว่าผู้คนเหล่านี้น่าจะปลอดภัย

พวกเรามีการแบ่งแยกกันเหลือเกิน ตั้งแต่ปี 1913 เพราะว่าคนที่เชื่อในเรื่องแบบนี้
กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็จะแบ่งแยกห่างออกจากกันลึกลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น ผู้คนในส่วนที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ก็จะไม่เชื่อในเรื่องนี้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่มืดบอดด้านจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะได้ไปเกิดในดาวดวงอื่น ที่เหมือนกับโลกใบนี้ ซึ่งที่นั่นก็จะมีความรุนแรง และมีสงครามเหมือนกัน แต่จะเป็นดาวดวงอื่น

เอาหละคะ ตอนนี้พวกเราก็ได้เสร็จสิ้นการประชุมดีๆแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างรวดเร็ว

ขอบคุณมากคะ

 ด้วยความเต็มใจค่ะคุณธนา คุณมยุรฉัตร

ดิฉันขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบลที่เสียสละมาพร่ำเตือนพร่ำสอน ทุกท่านที่เกี่ยวข้องในบ้านสวนพีระมิดทั้งที่สถานที่จริงและในเว็บ และทุกๆท่านที่มาแชร์ข้อมูลตั้งแต่ต้นค่ะ

อยากขอบคุณก่อนที่จะไม่มีโอกาส อันที่จริงควรทำตั้งแต่ต้นแล้วแต่นิสัยไม่ดีไม่มีมารยาท ต้องขอโทษด้วยค่ะ

ขออนุโมทนา

กับพี่ธนา และคุณอัญมณี

ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ขอให้ชาวภูเก็ตเตรียมตัวไว้ก็ดีกว่า

ไม่เตรียมอะไรเลยนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ชาวภูเก็ต

ทุกท่านค่ะ 

ขอบคุณคะ คุณธนา และ คุณอัญมณีที่ได้นำข้อมูลต่างๆมาให้ได้รับรู้กัน ขอเป็นกำลังใจให้ชาวภูเก็ต ทุกท่านเช่นกันคะ

อาจารย์อุบลช่วยด้วย อย่าให้มีเหตุร้ายๆ เกิดขึ้นเลย

ขอกราบขอบพระคุณในคำเตือน

และธรรมทานของท่าน อ.อุบล

และธรรมทานจากทุกๆท่าน ด้วยค่ะ

ขอให้ทุกๆท่านปลอดภัย ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ข้อมูลล่าสุดจากเว็ปพลังจิต....ใครที่มีญาติพี่น้องอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ พี่น้องภาคใต้ให้ระวังด้วยคะ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ขอบคุณทุกๆข้อมูลจากคุณหนึ่ง เจิดหทัย

คุณ อัญมณี และพ่อใหญ่ธนา ด้วยนะค๊า

ใครไปอ่านเจออะไรดีๆ ที่น่าพิจาณา

ก็นำมาแบ่งปันกันได้เลยนะคะ

อนุโมทนาล่วงหน้าค่ะ

จากเว็บพลังจิต โดย Karan20

กระทู้ การเดินทางและความคิดของกาขาว (เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ)

อะไรเป็นสัญญาณก่อนเกิดภัยพิบัติครั้งรุนแรง ?

สัญลักษณ์อาร์เธอร์นอล Arternall Symbol
ไม่เกิน ๘ ปีถ้าท่านไม่ตายก่อนจะได้เห็นสัญลักษณ์นี้
เขียนโดย อริโศก

ในปี 2553 ผู้เขียนได้พบหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า
สัญลักษณ์อาร์เธอร์นอล (Arternall Symbol) เขียนโดยผู้ใช้นามว่า อริอโศก

ในหนังสือดังกล่าวได้เล่าถึงประสบการณ์เร้นลับต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เรื่องประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมและเรื่องเร้นลับต่างๆ ซึ่งหลายเรื่องเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ในหนังสือได้กล่าวถึงพระอาจารย์ดำ เจ้าอาวาสแห่งวัดป่ารัตนพรชัย

ว่าพระอาจารย์ดำเป็นครูบาอาจารย์ของท่านผู้ที่ใช้นามว่า อริอโศก

เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือของผู้ที่ใช้นามว่า อริอโศก ดังกล่าว
ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด ขอเชิญท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณ

สัญลักษณ์อาเธอร์นอล นั้นหมายถึงสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี และอำนาจทำลายล้าง
ถ้าคนดีได้ครอบครองก็จะเป็นประโยชน์แก่โลกและบุคคลทั้งหลาย
แต่หากคนชั่วได้ครอบครองก็จะเป็นอาวุธทำลายล้างโลก เป็นหายนะแก่โลกและชีวิต

ลักษณะของสัญลักษณ์อาเธอร์นอล มีลักษณะเป็นดวงแก้วกลมใสสว่างภายในมีรูปปิรามิด
และมีรูปดวงตาอยู่ตรงกลางปิรามิด สัญลักษณ์นี้จะปรากฏก็ต่อเมื่อประเทศทั่วโลกถึงกาลวิบัติ
และเกิดความวุ่นวาย ผู้คนล้มตาย โรคระบาดอย่างรุนแรง แผ่นดินทรุดตัว น้ำท่วมโลก

สัญลักษณ์อาเธอร์นอลจะปรากฏพร้อมกับผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง
ซึ่งเป็นผู้ที่จะครอบครองสัญลักษณ์อาเธอร์นอลเพื่อช่วยเหลือโลกและสร้างเมืองขึ้นมา

ในยุคแห่งพระเจ้าจักรพรรดินั้น บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองวิวัฒนาการเจริญก้าวหน้ากว่าทุกยุคสมัย

ในช่วงนั้นจะบังเกิดผู้มีบุญ 2 ท่านสำคัญคือ อาญาสิทธิ์และอาญาธรรม

อาญาสิทธิ์

คือพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีอำนาจเด็ดขาด

เป็นผู้ปกป้องศาสนาและสร้างโลก สร้างเมืองใหม่ ขจัดความอยุติธรรมทั้งหลายและยังเป็นผู้ทำลาย

อาญาธรรม

นั้นคือผู้นำศาสนาที่นำความเจริญแห่งพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสู่โลก

ก่อนจะถึงศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย

ท่านทั้งสองนี้จะบังเกิดขึ้นแก่โลกในระยะเวลาไม่นานนับจากนี้

ก่อนที่บุคคลทั้งสองจะปรากฏตัว ทุกๆประเทศในโลกจะต้องได้พบกับภัยพิบัติ

และมีการสูญเสียดินแดนและสูญเสียประชากรครึ่งหนึ่งของประเทศ

ผู้คนทั่วโลกจะล้มตายเป็นจำนวนมาก เพราะน้ำมากถึงสามส่วน ดินมีแค่ส่วนเดียว

มนุษย์ทุกคนต่างหนีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ แต่บุคคลที่จะรอดได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลที่มีศีลธรรม

หรือทำความดีไว้มากกว่าทำความชั่ว จึงจะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้

เฉพาะประเทศไทยนั้นจะมีผู้เสียชีวิตถึงสามสิบล้านคน

น้ำจะท่วมตั้งแต่เกาะสิงค์โปร์ ประเทศมาเลเซีย ภาคใต้ทั้งหมดถึงกรุงเทพมหานครจะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด

เนื่องมาจากคลื่นยักษ์ที่มีความเร็วมากกว่าที่เคยมีมาและสูงมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร

จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและจะทำลายล้างทุกพื้นที่ในทางใต้ของประเทศทั้งหมด

สำหรับภาคเหนือนั้นจะเกิดพายุหมุนที่มีความรวดเร็วรุนแรงและสูงมากกว่าร้อยเมตร

หรือจะเรียกว่ามหาซุปเปอร์ทอร์นาโดร์เช่นเดียวกัน

อีกทั้งแผ่นดินจะเกิดการทรุดตัวทำให้เกิดความเสียหายเป็นอันมาก

พายุลมและคลื่นน้ำจะมาบรรจบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

และจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างพินาศราบเป็นหน้ากลอง

บุคคลที่ขาดคุณธรรมความดีจะถูกทำลายล้าง ผู้มีคุณธรรมความดีจะอยู่รอดจากภัยพิบัติ

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้สิ่งที่จะต้องพบภายในประเทศบ้านเมืองนี้คือ
ผู้คนภายในประเทศจะขาดความสามัคคี
ใส่ร้ายป้ายสียุยงให้แตกแยก แย่งชิงอำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
ใครที่ขัดผลประโยชน์ก็คิดหาทางกำจัดออกไป เกิดการเปลี่ยนแปลง
แย่งชิงอำนาจในระดับผู้นำทำให้บ้านเมืองเสียหายนำมาสู่ความล่มจม
ส่วนประชาชนต่างแบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่มีความสามัคคี
จนเกิดเหตุการณ์บานปลายก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองทำให้ผู้คนเสียชีวิตมากมาย
นอกจากนี้ยังเกิดโรคระบาดร้ายแรงตามมาอีกก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นอันมาก
ภายหลังจากเกิดสงครามผู้คนล้มตายจำนวนมากจากการแย่งชิงอำนาจแล้วบ้านเมืองขาดผู้นำ
ในช่วงนั้นก็จะเกิดภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใหญ่โตด้วยพายุลมและคลื่นน้ำที่บังเกิดขึ้นพร้อมกัน
และพัดทำลายทุกสรรพสิ่งในสภาวะอันน่าสะพรึงกลัวนั้น

 สาธุกับธรรมทานของคุณ  เบญจรัตน์ สีทองสุก

 ช่วงสงกรานต์ได้เดินทางกลับบ้านแฟนที่จ.สกลนครพร้อมลูกชายตัวน้อย

ซึ่งข้างๆบ้านเป็นสถานธรรมของพระโพธิสัตว์กวนอิม

ไปตากผ้าก็ได้ยิน คำเตือนของพระโพธิสัตว์กวนอิมเรื่องภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้

เนื้อหาส่วนใหญ่ก็เหมือนที่อ.แม่อุบลได้พยายามสื่อกับลูกหลานบ้านสวนเลยคะ

โดยเฉพาะทะเลจะถาโถมโลกเรา....และทางรอดคือการรักษาศีลให้บริสุทธิ์

นอกจากนี้ท่านก็เน้นเรื่องน้ำทิพย์ที่จะใช้ดื่มกินในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ

(ตอนที่ได้ยิน...ก็ทำให้นึกถึงน้ำพลังพีระมิดของบ้านสวนจริงๆคะ)

เบื้องบนท่านเมตตาเรามาโดยตลอดแต่เพราะจิตเราไม่สะอาด เต็มไปด้วยกิเลส

ลูกขอขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่บ้านสวนพีระมิด รวมถึงศาสดาของทุกๆศาสนาที่แม้ยามที่ภัยพิบัติจะมาเยือนโลกใบนี้ ทุกๆพระองค์ก็ทรงเมตตาลูกหลาน

สัญลักษณ์อาเธอร์นอล

จะปรากฏพร้อมกับ

ผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง

ซึ่งเป็นผู้ที่จะครอบครอง

สัญลักษณ์อาเธอร์นอล

เพื่อช่วยเหลือโลกและสร้างเมืองขึ้นมา

...............................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณ เบญจรัตน์ ด้วยนะคะ

น่าติดตามมากๆว่า

ผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง

ที่จะครอบครองสัญลักษณ์

"อาเธอร์นอล" นี้ คือ ผู้ใด

เดาย๊ากยาก นะเนี่ย

แต่ที่แน่ๆเห็นองค์พีระิมิด

แถวๆบ้านสวนฯ เยอะมั่กๆ อิอิ

......................

คุณหนึ่งคะ ถ้าอ่านคำทำนาย

จากหลายๆแหล่งที่มาแล้ว

จะเห็นว่า

มีความคล้ายคลึงกันทั้งสิ้นค่ะ

ฉะนั้น เราจึงรับรู้ได้ว่า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาล

ต่างมีเมตตา มาคอยสอน คอยเตือน

มนุษย์ตาดำๆ อย่างพวกเรา

มาโดยตลอด..

 นารีขี่ม้าขาว ตอนนี้ทราบแล้วค่ะ

กระทู้นี้

มีคำตอบที่น่าสนใจ

ที่ควรแก่การค้นหา ติดตาม

เพราะใกล้เวลาแล้ว

กระทู้นี้

มีคำตอบที่น่าสนใจ

ที่ควรแก่การค้นหา ติดตาม

เพราะใกล้เวลาแล้ว

.......................................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

ที่เมตตามาเตือนแบบสั้นๆ

แต่มีความหมาย...ลึกซึ้ง

อ่านแล้วต้อง"วิปัสสนา"หลายๆชั้น

ฉะนั้น ขอยกวัน D-Day มาให้

พี่น้องพิจารณาก็แล้วกันนะคะ

คือ วันที่ 28/04/55และ  5/5/55

ส่วนรูปแบบของภัยพิบัติ

ก็มีความเป็นไปได้ ทั้ง แผ่นดินไหว

ภูเขาไฟประทุ เขื่อนแตก ซึนามิ

น้ำท่วมหนัก พายุหมุน

เหตุการณ์นองเลือด  ภัยสงคราม

ความอดอยาก

อ่านแล้ว เห็น"ความทุกข์"

กันได้ชัดเจน พอไหม๊ค๊า

อุตส่าห์เลือกเกิดมา ในยุคภัยพิบัติ

แต่กลับไม่สนใจเรื่อง"ภัยพิบัติ"

พิจารณาแล้ว ก็ต้องบอกว่า

ผู้ใดที่ไม่สนใจเรื่องภัยพิบัติ

แสดงว่าผู้นั้น

ไม่เห็นโทษภัยของการ

เวียนว่าย ตาย เกิด

ฉะนั้น ก็อาจจะเวียนตาย เวียนเกิด

ไปอีกหลายภพหลายชาติ

จนกว่า"จิต" จะพบ"ทางสว่าง"

........................................................................

ป.ล. พ่อใหญ่ธนา หรือใครก็ได้

มาช่วยกันวิเคราะห์หน่อยเร็ว

ว่าค.ห. ที่ 681ท่านอาจารย์ต้องการ

เน้นเตือน เรื่องใดเป็นพิเศษน๊า

ฮ่า ฮ่า มาช่วยสุมศรีษะกันหน่อย

นะคร๊าบ..พี่น้อง

รอบนี้อาจารย์ออกข้อสอบ

ยากจังเลยนะค๊า

ประมาณว่า ให้นักเรียนไปตั้งโจทย์เอง

แล้วก็ค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ด้วย ...

สงสัยส่งกระดาษเปล่า...กันเพียบเล๊ย

อ.อุบล

ทำรายการ ที.วี.

เตือนภัยพิบัติมากับ

คุณพ่อ ดร.อาจอง ตั้งแต่ ปี 50

ไม่มีสื่อไหนขานรับเลยสักรายเดียว

แล้วก็เคยเขียนไว้ในกระทู้ไหนไม่ทราบ

ว่า ต่อไป สื่อต่างๆ ต้องขานรับ

บัดนี้ ถึงเวลาแล้วนะ

ที.วี.ทุกช่อง

เขาเล่นเรื่องแผ่นดินไหว

เรื่องดินร้อน เรื่องภัยพิบัติกันแล้ว

อ.อุบล

เลยไปเล่นเรื่อง

พาคนไปนิพพานแทน

อิ อิ อิ

มีคนทำหน้าที่กันแล้ว

เราก็เลยไปทำอย่างอื่น

กันดีกว่าเน๊าะ

เล่นเหนื่อย

อยู่คนเดียวมาตั้งนาน

เอ้ย

ไม่ใช่คนเดียว

คุณพ่อ ดร.อาจอง

ด้วย

(ท่านมีบทบาทสำคัญเลยหละ)

ก็คงจะเป็นไปตามสเต็ปนะคะอาจารย์

เพราะอาจารย์และท่านดร.อาจอง

เตือนมานานและอย่างต่อเนื่อง

จนทำให้คนส่วนใหญ่

ตระหนักถึงเรื่องภัยพิบัติ

และศึกษาค้นคว้ากันมากขึ้นๆ

จนในที่สุด ทุกๆคน ก็เกิดความคิด

ไม่อยากจะติดตามเรื่องภัยพิบัติแล้ว

แต่กลับเห็นโทษภัยของการเวียนว่ายตายเกิด

ที่เป็นวัฏจักร ดังเช่น

การเกิดภัยพิบัติ แทน

สุดท้ายก็คิดได้ว่า  หนทางที่จะทำให้

"พ้นจากภัยพิบัติ"ทั้งปวงได้ตลอดไป

มีทางเดียว คือ ต้องไปนิพพานเท่านั้น.. 

และท่านอาจารย์ก็เมตตา

มายกจิตพวกเรา

ให้เกาะ"พระนิพพาน"

ให้ได้ตลอดเวลาและอย่างต่อเนื่อง

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์

และครอบครัวอีกครั้งค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 กราบอนุโมทนากับอ.แม่และพี่ชนิดาด้วยค่ะ

หากเรามีโอกาสรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้

โอกาสที่ทุกคนจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนดีก็คงมาก

และโอกาสที่จะได้ไปนิพพานก็คงมากเช่นกัน

เพราะยุคศิวิไลซ์จะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ และความสุข

แต่หากเราต้องมาตายเพราะภัยพิบัติ

ไม่รู้อีกกี่ชาติที่เราจะได้มาเกิดเป็นคนอีก

และไม่รู้อีกกี่ชาติที่เราจะโชคดีเหมือนชาตินี้

เพราะชาตินี้เหมือนเป็นชาติที่พระอรหันต์ 

หรือผู้มีบุญญาธิการทุกๆพระองค์

ล้วนลงมาเกิดเพื่อช่วยลูกหลาน

ให้กลับนิพพานทั้งสิ้น

เพราะฉนั้นเราควรดีใจ

กับการเกิดครั้งสุดท้ายของเราในชาตินี้กันเถอะค่ะ

เพราะเราจะได้ไม่ต้องทุกข์

และสุขชั่วนิรันดร์

แต่หากเราต้องมาตายเพราะภัยพิบัติ

ไม่รู้อีกกี่ชาติที่เราจะได้มาเกิดเป็นคนอีก

และไม่รู้อีกกี่ชาติที่เราจะโชคดีเหมือนชาตินี้

......................................