และแล้วคุณโฆษิตก็กล้าใช้บริการอาจารย์อุบลช่วยด้วยตามคำแนะนำแล้ว

เมื่อก่อนตฤณ ก็ไม่กล้าเรียก เกรงใจอ.อุบลแต่อาจารย์บอกว่าอาจารย์ไม่ได้ไปเอง

เทวดาบ้านสวนฯท่านไปช่วย จึงค่อยกล้าใช้บริการ อ.อุบลช่วยด้วย

อาจารย์อุบลช่วยทุกครั้งที่เรียก ส่วนมากที่เรียกบ่อยๆก็ลืมของหาของไม่เจอ

เมื่อก่อนเป็นโรคหน่วยความจำสั้น

เดี๋ยวนี้ดีหน่อย เริ่มมีสติจำอะไรได้มากขึ้น

จึงไม่ค่อยได้ใช้บริการ

ใช้บริการเสร็จอย่าลืมส่งบุญให้เทวดาท่านด้วยนะค่ะ

ขอเป็นกรณีศึกษาค่ะ..

วันนี้ก่อนพักเที่ยง..หลังจากเขียนข้อความที่501..

อยู่ๆเกิดอาการปวดลึกๆบริเวณบั้นเอวด้านหลังข้างซ้าย..

กลับไปพักผ่อน..นวดเบาๆ.ก็ไม่หาย..คือทำอย่างไรไม่หาย..ปวดมากขึ้นๆๆ..

จึงตั้งจิตนึกถึงสิ่ศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวน..แล้วก็อ.อบลช่วยด้วยค่ะ..2-3รอบ

ตามด้วยแผ่เมตตา..สรุปหายค่ะ...(เพราะไม่งั้นเข้าประชุมไม่ได้ค่ะ..เดินยังลำบากค่ะ)

..ลูกกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์..โดยเฉพาะเมตตาของท่านอ.อุบลค่ะ  สาธุ..สาธุ..สาธุ

ขออนุโมทนา

กับทุกท่านด้วยค่ะ

แต่เวลาฝันเรื่องแบบนี้ทีไร

ก็ต้องมีเรื่องแอบน้อยใจเล็กๆ เพราะ

เล่าให้คนใกล้ตัวฟัง และบอกให้เค้าเตรียมตัว

ก็โดนหาว่าอ่านกระทู้มาก งมงายก็เลย

ทำให้ฝันมาก เป็นตุ เป็นตะ

ว้า....... เศร้าจัง

กราบนมัสการสิ่งสํกดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

ท่านท้าวเวสสุวรรณ และเทพบริวาร

ท่านอาจารย์มงคลและท่านอาจารย์อุบล

-------------------------------------------------------

คุณตฤณครับ

ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยใช้มากครับ

เพราะยังไม่ค่อยมั่นใจว่าตัวเองมีกำลังใจดีพอหรือไม่

มีความดีพอหรือไม่

บ่นไม่เคยฝันถึงท่านอาจารย์เลย

ก็ฝันมาสองครั้งติดกันแล้ว

ในฝันล่าสุด ท่านบอกว่าต้องมาเคาะหัว (กบาล)  

เพราะเจ้าคนนี้มันช้ามาก

ทุกวันนี้ก็จิตไม่แข็งแรง หลับ ไม่ได้ฝึกสมาธิ

ท่านคงมาเตือนเรื่องนี้ด้วย

ต้องขอขอบคุณ คุณตฤณอีกครั้งที่กรุณาให้ความรู้

ให้ธรรมทาน และกำลังใจมาตลอด

แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้ผมด้วย

ถ้าหายไป ช่วยให้ได้มาช่วยงานท่านอาจารย์ที่บ้านสวนฯ นะครับ

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของทุกท่าน บุญรักษาครับ

อนุโมทนาสาธูกับทุกคอมเม้นด้วยนะคะ จะระวังให้มากๆจะพยายามไม่ประมาท ตอนนี้ก็พยายามใช้ทุกเวลาในการแผ่เมตตา ตอนขึ้นบีทีเอสนึกได้ก็แผ่ให้คนรอบข้าง เดินๆอยู่ก็แผ่ให้คนที่เดินผ่าน แต่ยังละเลยไม่ทำเป็นนิสัย คงต้องฝึกอีก ถ้าฝึกตรงนี้ได้น่าจะมีสติมากขึ้นและลดความประมาทลงได้เยอะเลย

อนุโมทนา สาธุ ทุกท่าน

      แจ้งข่าวแผ่นดินไหว มูลนิธิเืตือนภัยพิบัติประเทศไทย

         รับ SMS  แจ้ง 0.38 น  แผ่นดินไหว 3.8 ริเตอร์  กิ่ง อ หาดสำราญ  รู้สึกได้ อ กันตัง อ ย่านตาขาว อ เมือง จ ตรัง

รับ SMS ทุกวันแผ่นดินไหวภายรอบๆๆ ประเทศไทย  จนเป็นเรื่องปกติ  แต่วันนี้ ไหวในประเทศทำให้รู้สึก ภัยพิบัติใกล้เข้ามาแล้ว

จริงๆๆ 

ขอแก้ไขเพิ่มในระบบ  ชื่อจริง  นามสกุล จริง

      ระบบ   ชื่อ นาย  ฐิติกร  ฤทธิ์ขจร 

อนุโมทนาบุญ ทุกท่าน

สวัสดีครับ

เมื่อคืนเบลล์ฝันว่าไปเที่ยวทะเลมาครับ

เป็นรีสอร์ทน้ำใสสวยงาม

และได้ไปเที่ยวที่คลองน้ำแห่งหนึ่ง

ดำผุดดำว่ายสนุกสนาน

ไม่นานก็มีคนบอกว่า

น้ำกำลังจะมา

คลื่นสูงจะมา

เบลล์และคณะที่ไปร่วมเล่นน้ำกันก็รีบเดินขึ้นจากที่แห่งนั้น

และในความฝันเบลล์ก็ได้ฝึกกสินน้ำด้วยครับ

ฝึกตอนที่ลอยกลางน้ำ

เพื่อทำให้ตัวเบลล์ลอยบนน้ำได้

โดยได้อธิษฐานจิตขอให้น้ำแข็งครับ

และได้ฝันในหลายๆเรื่องครับ

แต่จำไม่ได้ทั้งหมด

ฝันว่าลูกชายของคุณยายที่บ้าน

(ซึ่งจริงๆแล้วผู้ชายคนนี้ไม่มีตัวตนเป็นคนอยู่จริง)

เขาสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดี

ด้วยผลของบุญครับ

และเขาก็ได้ขอขมาคุณยายครับ

เบลล์ก็เป็นคนดูอยู่ห่างๆครับ

ขออนุโมทนา

กับน้องเบล์ ที่ได้เล่าเป็นธรรมทาน

ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

ขอเป็นชาวเกาะขออนุโมทนา สาธุกับทุกบุญทุกท่าน ในทุกธรรมทานทุกข้อความ ค่ะสาธุ ตอนนี้พยายามฝึกกสินทั้ง 4  ที่ท่านอาจารย์อุบลสอนไว้ และได้เห็นภาพในสมาธิบ้างในฝันบ้างและเมื่อเห็นแล้วก็จะพยายามไม่ให้ลีมก็จะเบิกบุญโอนบุญให้ทุกพระองค์ทุกท่าน  แต่ที่แย่ของตัวเองก็คือไม่ได้เข้าเน็ตมาเป็นเวลา ประมาณ 4 สัปดาห์แล้ว แต่ก็เห็นที่สำคัญเมื่อไม่นานมานี้ก้คือ เห็นองค์พีระมิด  ท่านหลวงพ่อฤษีลิงดำ  องค์สฟริงค์  แต่อย่างว่าจำไม่ค่อยได้เห็นเยอะไปหมด เมื่อเวลาฝึกกสินบ้างครั้งเห็น 1-2เหตุการณ์ แล้วไม่ได้จด  ตนเองก็เป็นคนจดจำไม่ค่อยดี แถมไม่ได้เข้าเน็ตอีก  แต่จากประสบการณ์ที่พบ ต้องพยายามทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล 5  และเจริญภาวนาอย่างที่ท่านอาจารย์สอน เพื่อเป็นเสบียงบุญไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามในอนาคต  สาธุ (เอ๋ บ่นเหมือนคนแก่มัยเนี๋ย)

วันนี้ปวดท้อง  สงสัยลำไส้อักเสบ  เข้าห้องน้ำหลายครั้งมาก  

โอ๊ย  !  ปวดอีกแล้ว   ก็ขอใช้บริการ  อ.อุบลช่วยด้วย   

ตั้งจิตยกมือพนม  อธิษฐานด้วยความเคารพอย่างสูง 

(ขอประทานโทษเจ้าค่ะ  ขณะนั่งชักโครกด้วยหล่ะ  )  

ผลปรากฎ  หายเป็นปลิดทิ้ง   

สาธุ!  ท่านอาจารย์เป็นผู้มีบุญมากจริง ๆ

แม้นจะไม่เคยได้สนทนากับท่าน  เห็นท่าน แวบ ๆ  ตอนไปบูชาเสื้อบ้านสวนที่หน้าบ้าน  ท่านเอาเสื้อให้ลูกชายท่านเลือก  ในบ้าน  เพราะเราต้องการเบอร์  XL  

เมื่อคืนนี้ฝันถึงอาจารย์อุบลด้วยคะ

จะเป็นลางบอกเหตุอะไรรึเปล่าคะ

แต่ตอนนี้ที่บ้านฝนตก และฟ้ามืดตลอดช่วงบ่ายเลยคะ

 เมื่อคืนเบลล์ฝันว่ามีลมพายุพัดแรง

เบลล์ก็ขอบารมีพระพุทธเจ้าช่วย

ขอเอาบุญให้กับเทวดา

ให้ท่านช่วยรักษาบ้านไว้ด้วยน่ะครับ

ไม่นานอึดใจเดียว

ลมพายุก็สงบ

ฝันว่าได้ไปในดินแดนแห่งหนึ่่ง

ที่ตรงนี้กว้างไกล  กว้างขวาง

มีการปลูกพืช  สมุนไพร

มีอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของครับ

ขออนุญาตเล่าความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมานะคะ

ฝันว่ายืนอยู่บนตึกสูง  ที่สามารถมองเห็นบริเวณได้ทั่ว

มองเห็นท้องฟ้ามืดครึ้มฝนกำลังตก

แต่ว่าไม่เหมือนฝนตกแบบธรมมดาทั่วไป

ฝนตกธรรมดาจะเป็นเม็ดฝนตกกระจาย

แต่ในความฝันฝนตกเหมือนกับฟ้ารั่วลงมาสู่พื้นดิน

เหมือนกับน้ำไหลออกมาจากก๊อกน้ำ

จำได้ลางๆ ว่า สถานที่ที่มองเห็นนั้นอยู่ใกล้ภูเขา

ความรู้สึกในฝันคือ  รู้สึกว่า

ถ้าตกแบบนี้นานๆ  ต้องท่วมถึงบ้าน  และตึก แน่นอน

ก็ไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ

ไม่รู้จะเป็นสัญญาณเตือนอะไรหรือเปล่า

ขออนุญาตเผยแพร่นะคะ

เมื่อคืนนี้ฝันว่าได้ยินเสียงผู้ชายบอกว่า นกหวีดได้ยินครั้งเดียวเเละตกใจตื่นดูเวลาประมาณตี3กว่า ขอบพระคูณเบื้องบนที่มาเตือนลูกหลานขอให้ปลอดภัยทุกคนนะคะ

สวัสดีพี่น้องชาวเว็ปบ้านสวนทุกท่านฯ

ผมอยู่ใกล้ๆแยกรัชโยธิน

คอยสังเกตุดินฟ้าอากาศแถวนี้ประจำ

อาทิตย์ที่ผ่านมาอากาศวิปริตแปรปวนมาก

ยิ่งสองวันนี้เหมือนว่าแดดแทบจะไม่มีเลย

เพ่งมองดูท้องฟ้า มีความรู้สึกเหมือนกับว่า

ด้านบนกำลังสะสมพลังงานอะไรบางอย่าง

เพื่อใช้ในการชำระล้างครั้งใหญ่

อาจเป็นเพราะใกล้ถึงเวลาแล้ว

ขอให้ทุกคนอย่าประมาทน่ะครับ

อย่าลืม

ศีล 5 พรหมวิหาร 4 น่ะครับ

ที่สำคัญ

นกหวีด และ รหัสลับ อาจารย์อุบลช่วยด้วย

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

วันนี้นอนกลางวันเวลาประมาณ 12.25 น. ก็นอนท่อง นะมะ พะธะ ไปเรื่อย ๆ

จนเคลิ้มเหมือนจะหลับแต่ไม่ได้หลับ เห็นท้องฟ้ามืดไปหมดเลย ก็มองท้องฟ้า

ไปเรื่อย ๆ ท้องฟ้าคลึ้มๆ ก็เปลี่ยนเป็นรูปพีระมิดแบบชัดเจน ก็หันไปเรียกเพื่อน

ให้ดู ท้องฟ้าเป็นรูปพีระมิด พอหันกลับมากลับเปลี่ยนเป็นรูปวัด ก็คิดว่าเราดูผิด

ไป ก็บอกเพื่อนว่าเป็นรูปวัด แต่ไม่ได้ดูผิดหรอกค่ะ เพราะรูปก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

เป็นวัดพระแก้ว วัดระฆัง วัดที่เคยไปทำบุญมา เป็นรูปรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 9 เหมือน

เป็นภาพสไลด์เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เยอะมาก สักพักเก้าอี้ที่นั่งอยู่ก็ลอยขึ้นไปพร้อมกับ

ตัวเรา ลอยไปเรื่อย ๆ เราก็กลัวว่าจะตกมาตาย ในความรู้สึกว่าเราจะต้องร้องเรียก

อ.อุบลช่วยด้วย ก็ร้องเรียก และก็นึกถึงพระพุทธเจ้า และก็คิดว่าถ้าลูกตายขอไปอยู่กับ

พระพุทธเจ้า ขอไปนิพพาน และแล้วเก้าอี้ก็ลอยลงมาอย่างปลอดภัย ก็รู้สึกตัว ไม่เหมือน

ฝัน และก็ไม่ได้กลัวอะไร มีความรู้สึกเหมือนกับเรื่องจริง คิดว่าท่านมาทดสอบเราหรือเปล่า

ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเราจะนึกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้หรือเปล่า หรือว่ามาบอกว่ามโยมยิทธิเป็นอย่าง

ไร คือการเห็นในสิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าหรือเปล่า เพราะตัวเองชอบไม่มั่นใจเวลานั่งฝึก

สมาธิ เพื่อน ๆ ช่วยบอกด้วยนะคะ

คิดถึงท่านอ.อุบลมากๆๆๆค่ะ..

ทำอย่างไรจึงจะจำความฝัน..ที่ฝันเห็นท่านอ.อย่างชัดเจน..ตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ..

นอนยิ้มและอธิษฐานขอฝันต่อ..ก็ชัดเจนแจ่มใสเหมือนเดิมทั้งคำพูด กิริยา ท่าทาง**

***แต่ทำไม**เวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้า..ถึงจดจำอะไรไม่ได้เลย..3- 4 ครั้งแล้วค่ะ**

                                  เฮ้อ//..เสียดายจัง...

อนุโมทนาเรื่องเล่าจากความฝันของทุกๆท่านด้วยนะคะ

ทุกคนฝันมีเรื่องราวดีเนอะ ชนิดาไม่ค่อยฝันเล๊ย

ถึงฝันก็เข้าข่ายไร้สาระยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็คล้ายๆกับว่า

เบื้องบนท่านต้องการมาทดสอบธรรมในใจของเรา

ว่าจิตใต้สำนึกของเรา คิดได้และปล่อยวางได้แค่ไหน

อะไรประมาณนั้นนะคะ... แต่จำเรื่องราวไม่ค่อยได้

เหมือนกัลล์....รู้แต่ว่่า ในฝันยังสอบตก..เต็มๆคร๊าบ..พี่น้อง

 ช่วงนี้ท้องฟ้าดูเศร้าหมอง

มาหลายวันแล้ว

แต่ขอใจเรา

จงอย่าเศร้าหมอง

ขอให้ใจอยู่กับพระพุทธเจ้า

บนพระนิพพานทุกท่านนะครับ

จิตเราจะได้สะอาดสดใจ

ตัดกิเลส

เครื่องเศร้าหมองได้

ขอขอบคุณและอนุโมทนากับญาติธรรม ทุกๆท่านด้วยครับ เคยฝันว่า เหมือนมีเหตุการณ์อะไรบ้างอย่างเกิดขึ้น ทำให้มีเหตุต้องหนีไป อยู่บน ทางด่วน และมีคนมากมายลี้ภัยไปอยู่บนนั้น เมื่อทุกอย่างสงบ ได้มุดหลบภัยมาอยู่ ในที่ใดสักแห่งสักพักก็ได้ พบท่านอาจารย์อุบล ในชุดเสื้อบ้านสวนฯสีส้มกางเกงสีส้มเหมือนกับที่เราเคยพบ ท่านที่บ้านสวนฯ   

ช่วงโค้งสุดท้ายนี้ อยากขอให้ทุกๆคน หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ ระลึกถึงพระพุทธองค์ ศีล บุญของตน และความตายอยู่ตลอดเวลานะครับ สำหรับเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่บอกเหตุอยู่ในขณะนี้คงไม่ต้องบอกไรมากมายแล้วนะครับ อย่างที่เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณท่านบอกทุกอย่างหมดแล้ว ขออย่างเดียว อย่าประมาท

วันนี้อยากขอนำเรื่องที่ท่านอาจารย์อุบลได้เคยสอนไว้ และได้ขอพรจากทุกๆพระองค์ว่า ก่อนตายให้เราได้รับรู้สัญญาณไรบางอย่างก่อนประมาณ 2 วัน ดังนั้นอยากให้ทุกๆคน อย่าประมาท หรือชะล่าใจเกี่ยวกับความฝัน หรือสิ่งบอกเหตุไรบางอย่างเกี่ยวกับตนเองนะครับ ข้อความด้านล่างนี้ผมเคยโพสไว้ในกระทู้ข่าวรายวันฯ หลังจากเบื้องบนเสด็จมาสื่อผ่านในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

2.มรณาสันนวิถี

เวลาใกล้ตายคนเรานั้นจะมีอาการแสดงให้รู้ก่อนประมาณ 20 นาทีก่อนตาย ซึ่งสิ่งที่แสดงออกมานี้ทำให้เรารู้ได้ว่า บุคคลนั้นจะไปสู่ที่ใด ง่ายๆคือกรรมต่างๆที่พวกเราทำมาจะเป็นตัวกำหนด ซึ่งกรรมเหล่านั้น อย่างเช่น

อนันตริยกรรม เช่น ฆ่าพระอรหันต์ ฆ่าพ่อแม่ ทำสงฆ์ให้แตกแยก ทำร้ายพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ทำให้ห้อพระโลหิตขึ้นไป

กรรมเคยชิน หรืออาจิณกรรม ทำอยู่นั่นแหละประเภทผิดศีล5 เช่น เจอยุงเมื่อไร ตบไม่ยั้ง(อืม มีใครตวัดลิ้นกวาดลงคอบ้างมะเนี่ย )

กรรมสักแต่ว่าทำ เช่นว่า เวลาทำความดีก็ทำไปงั้นๆแหละไม่ได้สนใจหรือมีจุดมุ่งหมายในการทำดีหรอก ทำไปส่งเดช ทำชั่วก็เช่นเดียวกัน

กรรมอารมณ์ หรือกรรมทางความคิด คิดแต่สิ่งชั่วๆ ไม่ดี เวลาก่อนตาย จิตจะนึกถึงขึ้นมา

กรรมนิมิตอารมณ์ เช่น เป็นพวกกรรมที่ใช้อุปกรณ์เป็นตัวช่วยสร้างกรรม เช่นว่า มักใช้มีดเชือดคอไก่ พวกนี้ก่อนตายก็จะเห็นมีด จิตก็จะคิดถึงแต่อกุศลกรรม ในทางกลับกัน หากทำดี เขาก็จะเห็น พระอุโบสถ วิมาน นางฟ้า สิ่งที่เป็นมงคลชีวิต โห ขั่กแท้น้อ

อนุโมทนา

ด้วยค่ะ พี่ธนา

อ่านไป ฮาไป บ่ น่าเบื่อจั๊กหน่อย

อิ อิ ม่วนหลาย สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนา

กับคำสอนของ อ.แม่อุบล ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

Anumothana satu ka khun Thana

And everyone

 โมทนาบุญกับพ่อใหญ่ธนา น่ำเด้อครับ...งานนี้ตัวใครตัวมันล่ะครับ เหลือเวลาแห่งความเป็นคนน้อยลงทุกทีแล้วครับ รีบสร้างบุญ สร้างกุศล ฝึกจิต ฝึกใจให้อยู่กับเรื่องที่เป็นกุศล ให้เข้าใจทุกอย่างว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา พร้อมทั้งการสละ ละ วางในตัวตน เพื่อผลแห่งพระนิพพานให้ได้กันนะครับ...อย่ามามัวแต่รอวันว่าเมื่อไหร่จะเกิดเหตุต่างๆ...แต่มากลัวการเกิดกันดีกว่าครับ เพราะการตายยังไงก็หนีไม่พ้นแน่นอน เอาเวลาที่เหลือมาเตรียมสติว่าทำอย่างไรจะไม่เกิดอีก 

อนุโมทนาด้วยค่ะพี่ธนา

อ่านไปยิ้มไป

สาธุค่า

ถึงแม้จะได้อ่านข้อความนี้จากพ่อใหญ่ธนามาแล้วก็ตาม

แต่เมื่อได้มาอ่านอีกครั้งก็เป็นเครื่องเตือนใจได้ดีมิใช่น้อย

แต่จับความรู้สึกจากข้อความของพ่อใหญ่ธนาที่เขียนเกริ่นแล้ว

รู้สึกว่าวันนี้มาModeเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้นะ สงสัย

คงจะ"ถึง"เวลาของใคร"หลายๆคน"แล้วแน่ๆ

เราเองก็ไม่อาจทราบได้ว่า จะเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่

ฉะนั้น ทำใจให้พร้อม นึกถึงพระพุทธองค์ นึกถึงความดี

และทำอารมณ์ให้เบิกบานอยู่เสมอนะคะ

อนุโมทนากับพ่อใหญ่ธนา พี่มหาและทุกๆท่านค่ะ สาธุ

อ่านเจอในกระทู้เวปพลังจิต

"ครูบาอาจารย์ท่านเตือน  วันที่  3  ก.ค.  ตอนเที่ยงไปให้ระวัง"   

น่าน..น้ำท่วมมาก  ..แม่น้ำน่าน  กำลังไหลรวมไป  ..สู่แม่น้ำเจ้าพระยาล่ะเน้อ

(แม่น้ำเจ้าพระยา : เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน )

ขออนุโมทนา

กับ

ธรรมทาน / เนื้อหาความฝัน

ขอทุก ๆ ท่านค่ะ

จากความฝันของแต่ละท่าน

สามารถ บ่งบอก

ถึง สื่อที่ สัมผัสได้

-*-*-*-*-*-*-

ก็เลยอยากเขียน

เล่าความฝัน

เมื่อคืนวันที่ 23-6 นี้

คือ..ได้มองเห็น

จานบินบนท้องฟ้าแบบ

ชัดเจนหลาย ลำ

ประมาณ 6 - 7 ลำ

สักพัก ก็มีลำแสง

ส่องมาใกล้ ๆ ตัวเรา

และได้มีมนุษย์

ที่ลงมากับแสง 5 คน

เป็นคนตัวสูง

แบบฝรั่ง...มาชวน

ไปเที่ยวกันไหม ?

ไปค่ะ...จากนั้น

ก็มียาน ลำเล็ก ๆ

ลงมาที่พื้นดิน

ลักษณะ เหมือนรถ

ก็ไม่ใช่ ไม่มีล้อ

ไม่เคยเห็นมาก่อน

แล้วพวกเขาเหล่านั้น

ก็พาขึ้นไปบน

ยานลำเล็ก ๆ นั้น

แต่ยานไม่ได้บินขึ้นฟ้า

กับขับเคลื่อน

ขนาบ ระนาบเดียว

ไปบนพื้นดิน

แบบรวดเร็ว..

ในฝัน..ตื่นตา ตื่นใจมาก

ไปในสถานที่ ที่ไม่รู้จัก

แล้วก็พากลับมาส่งที่เดิม

ก็ทำการขอบคุณ

ก่อนลาจาก

-*-*-*-*-*-

ก็เป็นที่ข้องใจ

ไม่ทราบว่า

มีท่านใด ต้องการสื่อ

อะไรหรือเปล่า

แต่ในฝันมีความสุข + สนุก

มากๆ ค่ะ

-ขออนุโมทนาบุญกับพ่อใหญ่ธนา..พ่อมหา(จำเริญ)..ทุกท่านค่ะ..สาธุ

กราบขออนุญาต..ท่านลุงพุฒิ เจ้าค่ะ..

ถ้าบาปมาส่งผลให้เราได้ตีตั๋วโดยไม่เต็มใจไปเจอท่านลุงพุฒิ ค่ะ

ขอให้ทุกท่านซ้อม..ซ้อม..ซ้อม ก่อนไปเจอท่านลุงพุฒิ ค่ะ..

1.ถ้าท่านถามว่าเคยบวชมั้ย..ถ้าเป็นผู้ชายที่เคยบวช**ต้องรีบตอบเด้อ..เอาแบบชัดเจน..ชัดถ้อยชัดคำค่ะ..ถ้าเป็นผู้หญิงต้องตอบว่า..มีลูกบวชให้ หรือ**เคยเป็นเจ้าภาพบวช..เคยไปร่วมงานบวชค่ะ..รีบๆๆตอบเด้อค่ะ

2.ถ้าถามถึงเรื่องบุญ..ก็ขอให้ซักซ้อม..เรียบเรียงบุญทุกบุญที่เราสร้างมาค่ะตั้งแต่ตอนนี้ค่ะ..

(ถ้านึกไม่ออกก็ระลึกถึงบุญที่มาทำที่บ้านสวนนี่แหล่ะค่ะ..เช่นบุญสร้างองค์พระ /  บุญใช้แรงกาย / บุญร่วมอนุโมทนาบุญต่างๆในบ้านสวน ) อย่ามัวแต่หย่านเด้อหล่ะ..

***ให้หมั่นตรวจดูว่าในวันหนึ่งๆๆเรารักษาศีลเป็นงัยบ้าง..มีสุข หรือทุกข์ใจ..

ปฏิบัติตามที่ท่านอ.อุบล เมตตาให้ธรรมะทานหรือไม่..เวลาเหลือแค่อึดใจแล้วค่ะ

หมั่นซ้อมตอบคำถามท่านลุงพุฒิ ค่ะ

เขียนไปด้วยใจสั่นๆไปด้วย ..

....ถ้าท่านถามคำถามอื่นกะโต๋ไผ๋โต๋มัน....

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ

อ่านของพี่ธนาแล้วสนุกขำดี

ลูกหลานบ้านสวนฯเดี๋ยวนี้ การเตือนภัยแต่ละครั้งเดี๋ยวคึกคักสนุกกันได้ตลอด

เดี๋ยวนี้ความกลัวตาย มันหนีไปเที่ยวไกลพวกเราซะแล้ว

พร้อมรับกับทุกสิ่งที่จากเกิดขึ้นเสมอทุกลมหายใจ

มีสติรู้เท่าทัน ไม่ตั้งอยู่บนความประมาท

"คนรอดก็ต้องตาย เพราะฉนั้นคนที่ตายไม่ต้องเสียใจกับ"(คำสอนของอ.อุบล)

ช่วงเวลาที่เหลืออยู่เร่งทำบุญให้มากที่สุด บุญเท่านั้นที่จากช่วยเราได้

อนุโมทนาความฝันของพี่แมวด้วยค่ะ

ตุ้ยเองก็ฝันเมือเช้านี้ค่ะ ตื่นสายเลย

ฝันว่านั่งรถกำลังจะกลับบ้าน จู่ๆ ก็มอง

ขึ้นไปบนท้องฟ้าเห็นเมฆเป็นรูปจานบิน

จึงบอกคนในรถว่า นั่นเมฆจานบินๆ

ทันใดนั้นเองเมฆนั้นก็กลายเป็น ufo บิน

พาดไปพาดมา ลงมาทางเราด้วย

จึงบอกทุกคนว่าให้เตรียมตัว

รับมือภัยพิบัติได้แล้ว

เขามาเตือนแล้ว ประมาณนี้ค่ะ

ฝันเสร็จก็ตื่นพอดี ตื่นสายด้วย อิๆ

พักนี้ลูกบ้านสวนเราทำไมฝัน

เห็น UFO และมนุษย์ต่างดาวกันบ่อยแฮะ

มันชักจะมีอารัย อารัย

ขออนุโมทนากับธรรมทานของทุกท่านๆด้วยนะครับ ถ้ากลัวเจอลุงพุฒิแล้วนึกคำตอบไม่ออกจริง ๆ ทำไม ไม่ลอง แบบว่า ทุกๆครั้งที่เราทำบุญทำความดี ขอถวายกุศล ผลบุญนี้แด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครูบาอาจารย์ ลุงพุฒิ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วจักรวาล และ เวลาเราทำบุญ ก็ ให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเป็นพยานในการทำบุญทุกๆครั้งที่เราทำ กันไว้เผื่อนึกอะไรไม่ออกจริงๆ

   พร้อมกันหรือยังครับ โค้งสุดดท้ายกันแล้วว [ ขอยืมคำจากพี่ธนาครับ ]

 ++ ลองตอบคำถามพวกนี้ดูน่ะครับ แล้วเราก็จะทราบว่า..พร้อม?

   -- วันนี้ ศีล5 ยังอยู่กันครบไห๊ม ? --

   -- วันนี้ลืมนึกถึงความตาย? --

   -- วันนี้ลืมคำภวนา พุท-โธ ? --

   -- เคยซ้อม รหัส " อ.อุบลช่วยด้วย " ? --

   -- ลองนึกถึงภาพพระ หรือ รูปพระ เราทำได้ไหม๊? --

   -- ฯลฯ 

     ลองซ้อมกันไว้ให้ชินน่ะครับ เวลาเหลือน้อยแล้วน่ะครับ  

แพลงกิ้ง /มรณานุสติกรรมฐาน 

วันนี้คุณทำแพลงกิ้ง (ในที่ปลอดภัย)

แล้วหรือยัง

  วัยรุ่นสมัยนี้เขาเจริญมรณานุสติกรรมฐานเป็นอารมณ์  โดการทำแพลงกิ้ง

โอ้! คิดได้ยังไงเนี่ย  ข้าพเจ้าก็เลยทำแพลงกิ้ง  ท่าแกล้งตายบนที่นอนบ้าง

ทำแล้ว  ประโยชน์มันก็มีนะ   เอาชัด ๆ

 เจริญมรณานุสสติกรรมฐานเพราะกรรมฐานกองนี้ เป็นกรรมฐานหลักสำหรับเจริญวิปัสสนาญาณ ท่านจะได้ดี เป็นเทวดา เป็นพรหม เป็นพระอรหันต์ ก็ต้องอาศัยการปรารภความตายเป็นปกติ แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เอง พระองค์แม้แต่จะเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ไม่ทิ้งมรณานุสสติกรรมฐาน คือนึกถึงความตายเป็นอารมณ์

 หรือผู้ใดอยากอ่านรายละเอียดก็เชิญเจ้าค่ะ (จากเวปพลังจิต)

         มรณานุสสติ แปลว่า นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ เรื่องของความตายเป็นของธรรมดาของสัตว์และมนุษย์ที่เกิดมา เมื่อมีความเกิดมาได้แล้ว ก็ต้องตายในที่สุดเหมือนกันหมด ความตายนี้รู้สึกว่าเป็นปกติธรรมดาของคนและสัตว์ทั่วไป ท่านผู้อ่านจะสงสัยว่า เมื่อความตายเป็นของธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ทราบว่าตัวจะต้องตาย แล้วพระพุทธเจ้ามาสอนให้นึกถึงความตายเพื่อประโยชน์อะไร ? ปัญหาข้อนี้ตอบไม่ยาก เพราะธรรมดาของคนที่มีกิเลสทั่วไป รู้ความตายว่าเป็นของธรรมดาจริง แต่ทว่า เห็นว่าเป็นธรรมดาสำหรับผู้อื่นตายเท่านั้น ถ้าความตายจะเข้ามาถึงตนเองหรือญาติ
คนที่รักของตนเข้า ก็ดิ้นรนเอะอะโวยวายไม่ต้องการให้ความตายมาถึงตนหรือคนที่ตนรัก พยายามทุกทางที่จะไม่ยอมตายปกติของคนเป็นอย่างนี้ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า เกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ว่าใคร
จะหนีความตายไม่ได้ การดิ้นรน เอะอะโวยวายต้องการให้ความตายไปให้พ้นนี้เป็นการดิ้นรนเหนือธรรมดาไม่มีทางทำได้สำเร็จ จะทำอย่างไร ความตายก็ต้องจัดการกับชีวิตแน่นอน เมื่อกฎธรรมดาเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอน คือย้ำตามความเป็นจริงว่า ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความตายนั้นเป็นสิ่งปกติธรรมดาไม่มีใครจะหลีกหนีพ้น ความตายนี้แบ่งออกเป็นสามอย่างด้วยกัน คือ
         ๑. สมุจเฉทมรณะ ความตายขาดตอน หมายถึงความตายของพระอรหันต์ท่านเสร็จกิจแห่งพรหมจรรย์ คือสิ้นกิเลสแล้ว เหตุที่จะต้องทำให้เกิด คือกิเลสและตัณหาที่จะควบคุมบังคับท่านให้เกิดอีกไม่มี ท่านมรณะแล้วท่านไม่ต้องกลับมาเกิดอีก เรียกว่า สมุจเฉทมรณะ แปลว่าตายขาดตอนไม่กลับมาเกิดอีก
         ๒. ขณิกมรณะ แปลว่า ตายเล็กๆ น้อย ๆ ท่านหมายเอาความตาย คือ ความดับ หรือการเคลื่อนไปของชีวิต ที่มีการเคลื่อนไปวันหนึ่ง ๆ วันเวลาล่วงไป ชีวิตก็เคลื่อนไปใกล้จุดจบสุดยอดคือตายดับทุกขณะ การผ่านไปของชีวิตท่านถือเป็นความตาย คือ ตายทุกลมหายใจออกและเกิดต่อทุกๆ ลมหายใจเข้า อาหารเก่าที่บริโภคเข้าไปเป็นการหล่อเลี้ยงชีวิตชั่วคราวเมื่อสิ้นอำนาจของอาหารเก่า ร่างกายต้องการอาหารใหม่เข้าไปหล่อเลี้ยงแทนแต่ถ้าไม่ได้อาหารใหม่เข้าไปทดแทนชีวิตก็จะต้องดับ ชีวิตที่ทรงอยู่ได้ก็เพราะอาหารใหม่เข้าไปหล่อเลี้ยงไว้ เมื่อสิ้นสภาพของอาหาร
เก่า ท่านถือว่าร่างกายต้องตายแล้วไปยุคหนึ่ง พอได้อาหารใหม่มาทดแทน ชีวิตก็เกิดใหม่อีกวาระหนึ่ง การเกิดการตายต่อเนื่องกันทุกวันเวลาอย่างนี้ ถ้าอาหารเก่าหมดสภาพไม่บริโภคใหม่ หรือลมหายใจออกแล้ว ไม่หายใจเข้า สภาพของร่างกายก็จะสิ้นลมปราณ คือตายทันที ที่ทรงอยู่ได้อย่างนี้ก็เพราะได้ปัจจัยบางอย่างค้ำจุนทดแทนกันเข้าไป ท่านสอนให้มองเห็นสภาพของสังขารร่างกายว่ามี
ความตายเป็นปกติทุกวันเวลาอย่างนี้ท่านเรียกว่า ขณิกมรณะ แปลว่า ตายทีละเล็กละน้อย หรือตายเล็ก ๆ น้อย ๆ
         ๓. กาลมรณะ และ อกาลมรณะ กาลมรณะ แปลว่า ตายตามกาลตามสมัยที่ชาวโลกนิยม เรียกว่า ถึงที่ตาย คือสิ้นอายุ อย่างชนิดที่ไม่มีการแก้ไขได้ อกาลมรณะ แปลว่า ตายในโอกาสที่ยังไม่ถึงกาลควรตาย แต่ต้องตายเพราะกรรมบางอย่างที่เป็นอกุศลเข้ามาบีบคั้นให้ตาย การตายประเภทหลังนี้พอมีทางต่อให้อายุยืนยาวต่อไปได้ตามสมควรแก่กรรมในอดีต จะต่อให้เลยพอดีนั้นไม่ได้ พวกตายตามแบบกาลมรณะตายไปแล้วเสวยผลกรรมทันที แต่พวกที่ตายตามแบบอกาลมรณะนี้ ตายแล้วยังไม่ไปเสวยผลกรรมทันที ต้องไปเป็นสัมภเวสี แสวงหาที่เกิดก่อน คือรอกาลที่จะถึงกาลมรณะก่อน เมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะได้รับผลกรรมดีและกรรมชั่วที่ทำ
ไว้ขณะที่ยังไม่ได้รับผลกรรมที่ทำไว้นั้นต้องลำบากในเรื่องอาหารและที่อยู่ ท่องเที่ยวไปตามความต้องการ พวกตายแบบอกาลมรณะนี้ ที่ชาวโลกนิยมเรียกว่า ตายโหงนั่นเอง เช่น ถูกฆ่าตายคลอดลูกตาย รถทับตาย ฟ้าผ่าตาย ฆ่าตัวตาย งูกัดตาย รวมความว่าตายแบบผิดปกติ ไม่ใช่ป่วยตายตามธรรมดาเรียกว่า อกาลมรณะ คือตายก่อนกำหนด ตายทั้งนั้น การตายแบบนี้ ถ้ามีท่านผู้รู้ช่วย
เหลือสามารถช่วยให้พ้นตายได้ เช่น ที่นิยมเรียกกันว่า สะเดาะเคราะห์หรือต่ออายุ การสะเดาะเคราะห์หรือต่ออายุนั้น ต้องทำโดยธรรมจริง ๆ และรู้จริงจึงใช้ได้แต่ถ้าต่อแบบหมอต่อยังมืดมนท์ด้วยกิเลสแล้วไม่มีทางสำเร็จผล ไม่ต่อดีกว่า ขืนต่อก็เท่ากับไปต่อชีวิตหมอให้มีความสุขส่วนผู้ต่อกลายเป็น ผู้ต่อทุกข์ไป เรื่องต่ออายุนี้มีเรื่องมาในพระสูตรคือเรื่องของท่าน อายุวัฒนสามเณร

เรื่องย่อดังนี้
         วันหนึ่ง บิดามารดาพาท่านเมื่อยังเกิดไม่กี่เดือนไปหาพระพุทธเจ้า (ขอเล่าลัด ๆ) เมื่อบิดาลาพระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า "ทีฆายุโก โหตุ" แปลว่า ขอเธอจงมีอายุยืนนาน พอแม่เข้าลาท่านก็ว่าอย่างนั้น ตอนท้าย สองผัวเมียให้ลูกชายกราบลาท่าน ท่านไม่พูด คือท่านเฉยเสีย สองผัวเมียแปลกใจ ถามว่า เมื่อเกล้ากระหม่อมฉันสองผัวเมียกราบลา พระองค์ให้พรว่าขอเธอจงมีอายุยืนนาน แต่พอเกล้ากระหม่อมฉันให้ลูกชายลา พระองค์ทรงนิ่ง เหตุอะไรจะมีแก่บุตรชายเกล้ากระหม่อมฉันทั้งสองหรือพระพุทธเจ้าข้า
         พระองค์ตรัสตอบว่า เพราะบุตรชายของเธอจะตายภายใน ๗ วันนี้ ตถาคตจึงไม่กล่าวอย่างนั้น สองผัวเมียฟังแล้วตกใจ ขอให้พระองค์ช่วยเหลือ พระองค์สั่งให้ไปปลูกโรงพิธีกลางลานบ้าน แล้วให้เอาพระไปนั่งล้อมเด็กสวดพระปริตครบ ๗ คืน ๗ วัน พอวันที่ ๗ เป็นวันตายของเด็ก เพราะยักษ์จะมาเอาชีวิตวันนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จเอง เมื่อพระองค์เสด็จ พรหมและเทวดาผู้ใหญ่มามาก ยักษ์เข้าไม่ถึง พอครบเวลาที่ยักษ์จะเอาชีวิต หมายความว่า ถ้าเลยเวลาเขาทำไม่ได้ เขาทำตามกฎของ
กรรมว่าจะให้ตายเวลาเท่าใด เวลาเท่านั้นเขาจะต้องทำให้ได้ ถ้าเลยเวลาแล้วเขาก็ไม่ทำ พอเลย
เวลาที่เด็กจะต้องตาย พระพุทธเจ้าท่านก็พาพระกลับ เลิกพิธี ก่อนกลับพระองค์ให้พรแก่เด็กว่าทีฆายุโกโหตุต่อมาเด็กคนนั้นมาบวชเณรเมื่ออายุ ๗ ปี ได้สำเร็จพระอรหันต์ ท่านมีอายุครบ ๑๒๐ปี จึงนิพพาน
         พวกอกาลมรณะนี้ต่อได้อย่างนี้ แต่การต่อต้องเป็นผู้รู้จริง ทำถูกต้องจริง และการทำให้ต้องไม่ปรารภสินจ้างรางวัล ทำเพื่อการสงเคราะห์จริงๆ จึงเกิดผลว่า จะพูดเรื่องตายเป็นกรรมฐานแอบมาเป็นหมอต่ออายุเสียแล้วขอวกกลับไปเรื่องมรณานุสสติใหม่

นึกถึงความตายมีประโยชน์
         ประโยชน์ของการนึกถึงความตาย ทำให้เป็นคนไม่ประมาท เพราะรู้ตัวว่าจะตายจะได้แสวงหาความดีใส่ตัวโดยรู้ตัวว่า ชาตินี้จนเพราะชาติก่อนให้ทานไว้น้อย ถ้าชาติหน้าไม่ยากจนอีก ก็พยายามให้ทานเสมอ ๆ ตามกำลังทรัพย์ที่พอจะให้ได้ และอย่าให้จนหมดตัว จะเกินพอดี ต้องให้พอเหมาะพอดี ไม่เดือดร้อนภายหลังนั่นแหละจึงจะควร
       รู้ตัวว่ามีโรคมาก ป่วยไข้ไม่สบายเสมอๆ ของหายบ่อย ๆ รูปร่างสวยน้อยไปคนในบังคับบัญชาดื้อด้าน วาจาไม่ศักดิ์สิทธิ์ อารมณ์ความจำเสื่อม ถ้าต้องการให้สิ่งบกพร่องเหล่านี้สมบูรณ์ในชาติหน้าจะได้พยายามรักษาศีล ๕ให้บริสุทธิ์ครบถ้วนแล้ว ก็จะได้รับอานิสงส์ มีอายุยืน รูปสวย ไม่มีโรคภัยรบกวน ไม่มีภัยจากโจรรบกวนทรัพย์สมบัติ คนในบังคับบัญชาอยู่ในโอวาทเป็นอันดี ไม่มีใคร
ดื้อด้าน มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดอะไรเป็นนั่น มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ก็ตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์
         ถ้าเห็นว่า มีปัญญาน้อย ไม่ใคร่ทันเพื่อน ก็พยายามเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐานพอมีฌานมีญาณเล็กน้อย ในชาติต่อไปก็จะเป็นคนมีปัญญาเลิศ
          ถ้าเห็นว่า ความเกิดเป็นโทษเป็นทุกข์ เพราะการเกิด ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร มีตระกูลสูงส่งประการใดก็ตาม ต้องประสบกับความทุกข์อย่างมหันต์ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องการความเกิดอีก ก็เร่งรัดเจริญสมถะให้ได้ฌานต้น แล้วเจริญวิปัสสนาญาณให้จบกิจพระศาสนา ซึ่งเป็นของไม่หนักเลยสำหรับท่านที่นึกถึงความตายเป็นปกติ หรือที่เรียกว่า เจริญมรณานุสสติกรรมฐานเพราะกรรมฐานกองนี้ เป็นกรรมฐานหลักสำหรับเจริญวิปัสสนาญาณ ท่านจะได้ดี เป็นเทวดา เป็น
พรหม เป็นพระอรหันต์ ก็ต้องอาศัยการปรารภความตายเป็นปกติ แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เอง พระองค์แม้แต่จะเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ไม่ทิ้งมรณานุสสติกรรมฐาน คือนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ วันหนึ่งพระองค์ตรัสถามพระอานนท์ว่า อานันทะ ดูก่อนอานนท์ เธอนึกถึงความตายวันละกี่ครั้ง พระอานนท์กราบทูลตอบว่า นึกถึงความตายวันละเจ็ดครั้งพระเจ้าข้า พระองค์ตรัสว่า ยังห่างมากอานนท์ ตถาคตนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก การนึกถึงความตายเป็นปกติเป็นของดี แม้แต่พระพุทธเจ้ายังเฝ้าคิดถึงความตาย เพราะผู้ที่คิดถึงความตายรู้ตัวว่าจะตายแล้วย่อมไม่สั่งสมความชั่ว คอยปลีกตัวออกจากความชั่วและมีอารมณ์ไม่หวั่นไหวในเมื่อความตายมาถึงแล้ว เพราะคิดอยู่รู้อยู่เสมอแล้วว่าเราต้องตายแน่ ความตายนี้หานิมิตเครื่องหมายไม่ได้กำหนดการเกิดหมอบอกได้แต่กำหนด เวลาตายไม่มีใครกำหนดได้แน่นอนสำหรับปุถุชนคนธรรมดา สำหรับพระอริยเจ้าหรือท่านที่ชำนาญในอานาปานุสสติกรรมฐานท่านสามารถบอก
เวลาตายที่แน่นอนของท่านได้ พระอริยาเจ้าที่จะบอกเวลาตายได้ ก็ต้องเป็นท่านที่ได้ วิชชาสามเป็นอย่างน้อย ถ้ามีความรู้พิเศษต่ำกว่านั้น ท่านก็กำหนดเวลาตายไม่ได้เหมือนกัน ท่านเปรียบชีวิตไว้คล้ายกับขีดเส้นบนผิวน้ำ ขีดพอปรากฏว่ามีเส้นแล้วในทันทีเส้นที่ขีดนั้นก็พลันสูญไปชีวิตของสัตว์ที่เกิดมาก็เช่นเดียวกันความตายรออยู่แค่ปลายจมูกถ้าสิ้นลมปราณเมื่อไร ก็สิ้นภาวะเมื่อนั้นเอาความยั่งยืนไม่ได้เลย
         ท่านเจริญมรณานุสสติกรรมฐาน เมื่อท่านคิดถึงความตายเป็นปกติ จนเห็นความตายเป็นปกติธรรมดา เตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์คือ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาพอสมควรแก่ความต้องการแล้ว ถ้าคิดให้ไกลไปอีกสักนิดว่า ความตายเป็นของมีแน่ เราไม่หนักใจแล้ว ความเกิดต่อไปก็มีแน่ จะเกิดเป็นอะไรก็ตามเต็มไปด้วยความทุกข์ หนีทุกข์ไม่พ้น เราไม่ต้องการความเกิดอันเป็น
เหยื่อของวัฏฏะอีก แม้แต่ร่างกายอันเป็นที่หวงแหนยิ่ง จะต้องพังทลายเรายังไม่มีเยื่อใย ก็สมบัติอะไรในโลกีย์ที่เราต้องการ เราไม่ต้องการอะไรอีก เทวโลก พรหมโลก เราไม่ต้องการ สิ่งที่พอใจที่สุดก็คือพระนิพพาน ทำใจให้ว่างจากความเกิด ความเกาะในชาติภพ ปรารภพระนิพพานเป็นปกติ อย่างนี้ท่านมีหวังสิ้นชาติสิ้นภพ ประสบผลอย่างยอด คือถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันแน่นอน 

     (ขอยุติมรณานุสสติไว้แต่โดยย่อเพียงเท่านี้) 
     

พูดถึง

เรื่องความฝัน

ลางสังเห่า สังหรณ์ นี่นะ

ปกติเป็นคนที่

ไม่ค่อยฝัน หรือ ฝัน ก็จำไม่ได้

แต่

เมื่อคืน ดัน ฝัน ชัด จำได้

ก่อนนอน

ทำสมาธิ วันนี้ มีลำแสงสว่าง

ส่องมาจากเบื้องบน

ขนาดหลับตา

มีใครเคยไหม

เวลาหลับตา แต่ไฟสว่าง

เปลือกตาเราก็จะยังเห็น รับแสงได้

อ.อุบล

ก็เช่นกัน ทำสมาธิเมื่อคืน

จิตสงบ เย็น สบาย พอนั่งปุ๊บ

ก็มีลำแสงฉายมาปั๊บเลย

เป็นลำแสงขนาดใหญ่มาก จะเปรียบ

ให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ

ถ้าใครเคยมอง

ท้องฟ้า

ตอนพระอาทิตย์มีเมฆบัง

แล้วมีลำแสงสาดส่องลงมาเป็นทาง

นั่นแหละ

เมื่อคืน ในสมาธิ เกิดแสงสว่าง

เช่นนั้น ตลอดเวลา

ในจิตก็คิดว่า

ใครจะมากับลำแสงหนอ

ก็ทำสมาธิต่อไปจนจบ นอนหลับ

ฝันไปว่า

ไปเดินอยู่ บนหน้าผา

ป่าเขา ลำเนาไพร มีทั้งภูเขา ต้นไม้

ใต้หน้าผา เป็นแม่น้ำ

ขณะเดินข้ามบนทาง

เหมือนเขื่อนหิน

(นึกถึงน้ำตกนางรองนะ)

ก็มีน้ำมาจากไหนก็ไม่ทราบ

ทั้งที่ไม่มีเค้า

อยู่ดี ดี ก็ไหล มา แต่น้ำไม่สูง

เพียงแค่ตาตุ่มเห็นจะได้

แต่ความแรงของน้ำ นี่แรงมาก

ทำให้เรากับเพื่อน

ตกลงไป ว่ายน้ำเล่นอยู่ในแม่น้ำ

ในฝันเพื่อนคนนี้ก็คุ้นเคยกันดี

แต่พอว่ายน้ำอยู่ดี ดี

ก็มองไปเห็น คลื่นยักษ์ กำลังมา

จากคันเขื้อนหิน ที่เราจะเดินข้ามครั้งแรก

ในใจก็บอกว่า

ถ้าคลื่นลูกนี้มา นะ ตายแน่

จะหนียังไง คราวนี้ต้องหาทาง

ขึ้นฝั่ง ขึ้นที่สูงให้ได้

ไม่ว่าเหยียบไปตรงไหน

ข้างฝั่ง ดินเละ ทั้งนั้น

แต่ฉับพลัน

ก็มีสิ่งที่ไม่มีตัวตน มองไม่เห็น

มาดึงขึ้นไปได้ ทั้ง 2 คน

พอขึ้นไปได้

ก็มองเห็นรถ หน้าตาแปลกๆ

มาจอด(รอ)อยู่ พร้อมคนขับ

รถนี้คล้ายซูบารุ แบบมีล้อหน้า 1 ล้อ

ล้อหลัง 2 ล้อ แต่ขนาดใหญ่

มีเบาะรออยู่ 2 ที่นั่ง

ด้านหน้าคนขับ 1 ใกล้คนขับอีก 1

เรียกว่า มีแค่ 2 ที่พอดี

นี่คือความฝัน

ลม ลม แล้ง แล้ง ของ อ.อุบล

แต่เบื้องบน

บอกว่า ให้มาเล่า เป็นธรรมทาน

แล้วให้ผู้อ่าน ใช้ปัญญา

พระกรรมฐาน

เอาเอง

เล่าให้ปุ๋ยฟังไปแล้ว

ปุ๋ยบอก เหมือนหนังที่หนูดูมาเลย

อ. แต่ อ.อุบล ไม่เคยดูหนัง

ที่ปุ๋ยเล่า แต่มันเป็นเรื่องราวเดียวกัน

ได้ไงก็ไม่รู้

ใครอยากรู้

ก็ต้องไปถามปุ๋ยดูนะ

ว่าหนังว่าไง

555

ฝันไปได๊

โมทนาครับอาจารย์

ลูกขอกราบพระบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ลูกขออนุญาตแปลความหมายของฝันของอาจารย์อุบลด้วยนะครับ

ขออนุญาตแปลเป็นความหมายทางธรรมะครับ

หากผิดพลาดประการใดหรือเป็นเรื่องที่มิบังควร

ลูกกราบขอขมา  มา  ณ  โอกาสนี้ด้วยนะครับ

เบลล์ขออนุญาตใช้ปัญญาอันน้อยนิดนี้

แปลความหมายฝันนะครับ

(เป็นธรรมะที่เป็นข้อคิดแก่สรรพสัตว์ทั้งสามโลก)

............................................................

..............แสงสว่าง...........พระพุทธเจ้า  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  เทพ  พรหม  เทวดา

...............ความสว่างไสวของปัญญาชำแรกแหกแทงหมอกเมฆ..........กิเลส  รัก  โลภ  โกรธ  หลง

.............ทางออก  ทางรอดของเหล่ามนุษยชาติ

 เดินอยู่ บนหน้าผา

ป่าเขา ลำเนาไพร มีทั้งภูเขา ต้นไม้

ใต้หน้าผา เป็นแม่น้ำ

..............................

เป็นการบอกว่า

โลกนี้เต็มไปด้วยการเวียนเกิด

เวียนตายปัญหา  อุปสรรค

พวกเรากำลังทำสิ่งท้าทาย  

ค้นหา

 คำตอบของเป้าหมายของชีวิต

ขณะเดินข้ามบนทาง

เหมือนเขื่อนหิน

(นึกถึงน้ำตกนางรองนะ)

ก็มีน้ำมาจากไหนก็ไม่ทราบ

ทั้งที่ไม่มีเค้า

อยู่ดี ดี ก็ไหล มา แต่น้ำไม่สูง

เพียงแค่ตาตุ่มเห็นจะได้

แต่ความแรงของน้ำ นี่แรงมาก

.............................

กิเลสทั้งหลายของมนุษย์แต่ละภพ  ชาติ

ทุกคนมอง รัก  โลภ  โกรธ  หลง  เป็นเรื่องธรรมดา

ยังไม่ตระหนักว่า  สิ่งทั้งหลาย  เป็น  อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา

น้ำของกิเลสเป็นน้ำนิ่งไหลลึก

หรือปัญหาที่เรามองว่าเล็กน้อย

แต่มีผลร้ายแรง

ทำให้เรากับเพื่อน

ตกลงไป ว่ายน้ำเล่นอยู่ในแม่น้ำ

ในฝันเพื่อนคนนี้ก็คุ้นเคยกันดี

..........................................

พลัดตก

หลงลงวังวนของการเวียนเกิดเวียนตาย

ที่เราคุ้นเคยมาหลายภพชาติ

บ้างก็เห็นว่าสนุกสนานดี

แต่พอว่ายน้ำอยู่ดี ดี

ก็มองไปเห็น คลื่นยักษ์ กำลังมา

จากคันเขื่อนหิน ที่เราจะเดินข้ามครั้งแรก

 ...............................

นานวันเข้าใจของเราเรียนรู้ว่า  โลกนี้ทุกข์  ไม่มีสุขแท้เลย

มีภัยใหญ่แฝงเร้นอยู่

ในใจก็บอกว่า

ถ้าคลื่นลูกนี้มา นะ ตายแน่

จะหนียังไง คราวนี้ต้องหาทาง

ขึ้นฝั่ง ขึ้นที่สูงให้ได้

............................

การเกิด  แก่  เจ็บ  ตาย

ในภพน้อย  ใหญ่  เป็นภัยที่เราได้เริ่มมองเห็น  ตระหนักรู้ทุกข์

 และพยายามหาทางออกจากทุกข์

ไม่ว่าเหยียบไปตรงไหน

ข้างฝั่ง ดินเละ ทั้งนั้น

.........................

เป็นการทดสอบกำลังใจ

ของคนที่กำลังจะกลับบ้านพระนิพพาน

ทางออกที่ประเสริฐที่สุด

ของสรรพสัตว์ทั้งสามโลก

แต่ฉับพลัน

ก็มีสิ่งที่ไม่มีตัวตน มองไม่เห็น

มาดึงขึ้นไปได้ ทั้ง 2 คน

............................................

มือที่มองไม่เห็น..........เป็นผลแห่งความดีที่เราได้ทำไว้  

มีผลจริง  กลับมาช่วยเราครับ

พอขึ้นไปได้

ก็มองเห็นรถ หน้าตาแปลกๆ

มาจอด(รอ)อยู่ พร้อมคนขับ

รถนี้คล้ายซูบารุ แบบมีล้อหน้า 1 ล้อ

ล้อหลัง 2 ล้อ แต่ขนาดใหญ่

มีเบาะรออยู่ 2 ที่นั่ง

ด้านหน้าคนขับ 1 ใกล้คนขับอีก 1

เรียกว่า มีแค่ 2 ที่พอดี

.............................................................................

รถซูบารุ.........  มี  สามล้อ  คือ  ทาน  ศีล  ภาวนา

เมื่อเรารักษาทาน  ศีล  ภาวนา

สุดท้ายแล้ว   ทาน  ศีล  ภาวนา   ที่เรารักษา

ก็จะกลับมารักษาเราผู้ปฏิบัติ............มีที่นั่งบนรถ...........

รถซูบารุคันนี้  น่าจะเป็นรถ  

ที่นำพาเราแล่นกลับบ้านพระนิพพาน

และที่มีสองคน.........เราต้องชวนคนอื่นให้ทำความดีด้วย

 ต้องมีเพื่อนกัลยาณมิตรที่ดีคอยช่วยเหลือ

แม้การกลับบ้านพระนิพพานจะเป็นเรื่องเฉพาะตน

แต่เราก็ต้องมีกัลยาณมิตร  ช่วยบอก  สอน  เตือน

สรุปแล้ว  ชวนเพื่อนทำดี   ชวนเพื่อนไปนิพพานด้วยกัน

คนขับรถ...............ผู้นำ.............พระพุทธเจ้า  

พระองค์เมตตาลูกหลานนำพาสรรพสัตว์กลับบ้านพระนิพพาน

รื้อสัตว์ขนสัตว์โลกทั้งสามกลับบ้านพระนิพพาน

คลื่นน้ำ  กระแสคลื่นใหญ่..............

ภับพิบัติการเวียนตายเวียนเกิดในโลกทั้งสาม

จะหลุดพ้นได้ด้วย  ทาน  ศีล  ภาวนา

ขอพระบารมีของพระพุทธเจ้าช่วยด้วย

นะโมพุทธายะ  พลังพระช่วยลูกด้วย

พลังพระเปิดโลกทั้งสาม

ที่ลูกแปลความหมายทางธรรมจากความฝันของอาจารยือุบล

ลูกไม่ได้มีเจตนาบังอาจนำอาจารย์มาเปรียบเทียบนะครับ

ลูกมีเจตนาจะแปลเป็นธรรมะครับ

ขอทุกท่านเข้าใจเบลล์ด้วยนะครับ

หากผิดพลาดหรือมิบังควรประการใด

เบลล์ขอกราบขมาอาจารย์อุบล  มา  ณ  โอกาสนี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณอาจารย์ครับ ที่เล่าให้ฟังครับ ถ้าเกิดเหตุการ์ณ์ น้ำมาแบบนั้นจริงๆ ก็เตรียมตัว เตรียมใจไว้แล้ว (ณ เวลานี้) ไม่รู้ วันนั้นจริงๆ จะคุม สติได้ไหมหรือเปล่า ไม่รู้ครับ  

ขออนุโมทนา

กับความฝันของ อ.แม่ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล ที่เล่าความฝันเป็นธรรมทานคะ

และอนุโมทนากับน้องเบลล์ ที่ใช้ปัญญา แปลความฝันของท่านอาจารย์

เป็นธรรมทานได้ดีเยี่ยมเลยคะ พี่ยังคิดไม่ได้เลยจ้ะ

คิดได้อย่างเดียวตอนสุดท้าย ว่า บุญ เท่านั้นที่จะทำให้เรารอด

อ่านไปก็แอบเอาไปประติดประต่อกับ ความฝันของตัวเองเมื่อหลายคืนก่อน

เป็นฝันแบบลุย ๆ เหมือนกำลังถูกทดสอบจิตอยู่ พอตื่นก็จำได้ดีอีกด้วย

ยังคิดเลยว่า ถ้าเราบุญน้อย เราคงจะเหนื่อยที่จะหาทางออกนะ

ไหนจะยานพาหนะที่จะพาเราไป เส้นทางที่เราจะไป และคนที่เกาะหลังเราอีก

เราจะไปตลอดรอดฝั่งไหมเนี่ย ในฝันยังรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ เลย

 กราบขอโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล ในเรื่องเล่าอันเป็นธรรมทานที่ยิ่งใหญ่ และเตือนสติไม่ให้เผลอจากการเจริญมรณานุสติได้เป็นอย่างดีครับ

เพราะทั้งวันผมมัวแต่หลงระเริงอยู่ในกิจกรรมทางโลก จนเผลอลืมตัว ลืมสติบ้าง แม้แต่กำลังอ่านเรื่องความฝันอาจารย์ที่เป็นลางสังเห่านี่ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าหอน(หรณ์)ด้วยนี่สิ หวิวๆ ชอบกล มีลุ้นอีกแล้วครับ...

อ่านแล้วเพลิดเพลินสนุกอย่างเดียวเลย พอมาอ่านที่น้องเบลล์เขียนอธิบายแล้ว โอ้โห...น้องเบลล์คิดได้ลึกซึ้งมากทีเดียวครับ พี่ยังกิเลสหนาปัญญาหยาบ คิดไม่ถึงทีเดียวครับ...ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติอีกครั้งครับ

ตอนนี้คิดไม่ออกครับอาจารย์...รู้แต่ว่า ขอเกาะล้อหลังไปด้วยก็พอครับผม ถึงแม้จะถูลู่ ถูกัง ก็ยอมครับ 

อนุโมทนากับความฝันอาจารย์แม่ด้วยค่ะ

อาจารย์แม่ถึงขั้นมาเล่าสู่กันฟังแล้ว

คงจะไม่ธรรมดาแน่ๆ

และอนุโมทนากับการอธิบายบอกเล่า

ของคุณเบลล์ด้วยค่ะ

สุดยอดจริงๆ

ปกติเป็นคนที่

ไม่ค่อยฝัน หรือ ฝัน ก็จำไม่ได้

..................................................................

สงสัยที่อาจารย์ไม่ค่อย"ฝัน"เป็นเพราะว่า

แต่ละวันต้องไปเข้าฝันคนอื่นๆซะมากกว่ารึเปล่าค๊า..

กราบอนุโมทนากับธรรมทานผ่านความฝันของอาจารย์ด้วยนะะคะ

แต่อ่านแล้วไม่ค่อยจะเหมือนฝันเลยนะคะเนี่ย.. ดูเหมือนจริงมั่กๆ

และที่สำคัญขออนุโมทนากับคำแปลจากน้องเบลล์ด้วยนะคะ

วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งถึงธรรมมากๆ ชนิดายังนึกไม่ถึงขนาดนั้นเลยนะนั่น..

น้องเบลล์เลิศมั่กๆ...มาแปลบ่อยๆนะ ชอบ ชอบ..

น้องเบลล์แปลไปสามชั้นแล้ว งั้นชนิดาขอแปลชั้นเดียวแล้วกันนะคะ

ขอแปลอิงเรื่องภัยพิบัติก็แล้วกัลล์

เท่าที่อ่านแล้ว น่าจะถึงเวลาแล้วนะคะ เพราะถ้าเดินถึงหน้าผาเมื่อไหร่

แปลว่าหมดเวลาต่อรองกับเบื้องบน ฉะนั้นน้ำจะมาแบบไม่ให้เราตั้งตัว

ทั้งๆที่ไม่มีเคล้าให้เห็นมาก่อน มาเงียบๆมาทีเผลอ อย่างที่

ท่านท้าวเวสสุวรรณเมตตามาเตือนทุกๆครั้ง คือเผลอเมื่อไหร่ก็เจอเมื่อนั้น

แต่ล็อตแรกอาจจะยังไม่หนักมาก ระดับน้ำท่วมไม่สูง

แต่ก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะภัยใต้น้ำกับสิ่งที่มองไม่เห็น

หลังจากน้ำจากฟ้ามาแบบไม่รู้ตัวผ่านไป

หลังจากนั้นคลื่นยักษ์ก็จะตามมา มาแบบชนิดที่ว่าใครเห็น

ก็คิดว่า "รอดได้ยาก" แต่ก็"บุญ"อีกนั่นแหล่ะที่จะทำให้"รอด" 

ฉะนั้น ไม่ว่าภัยพิบัติจะมาแบบไหน และเมื่อไหร่

แต่ถ้ายกจิตตนให้สูง มีบุญรออยู่ อยู่ที่ไหนก็"รอด"

เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ได้ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว คนที่จะ"รอด"

ก็ได้รับการเลือกสรรไว้แล้ว เหมือนกับที่ มีที่นั่งเหมาะเจาะ

รอท่านอาจารย์อุบลและคุณเพื่อนผู้คุ้นเคยคนนั้น

ได้ไปนั่งบนรถซุบารุสุดหรู แบบสบายๆ ไม่ต้องไปแย่งที่ใครเลย..

เดาไปเรื่อย แบบลมๆแล้งๆเหมือนกันค่ะอาจารย์ ฮิฮิ จบค่ะ

อนุโมทนาในความฝันของท่านอ.อุบล และทุกท่านที่ร่วมแปลความฝันค่ะ สาธุ

อาจารย์ได้มาย้ำเตือนพวกเราอีกแล้วว่าอย่าประมาท ภัยจะมาตอนที่เราประมาทโดยที่ไม่รู้ตัวไม่ตั้งตัว สิ่งเดียวที่ช่วยพวกเราได้ คือสิ่งที่อาจารย์พร่ำสอน คือ ทาน ศีล ภาวนา(สมาธิ) ไม่ว่าจะช่วยจากภัยพิบัติ หรือว่าหากเราไม่รอด สิ่งนีคือบุญที่จะทำให้เรารอดพ้นจากภัย หรือนำพาเรากลับบ้านพระนิพพานนั่นเอง

ไอซ์ฝันถึงท่านอ.อุบลมา ๒ คืนซ้อนแล้วค่ะ และอนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

                         ขอบพระคุณอาจารย์อุบลค่ะ ที่ได้เมตตาเล่าความฝันให้คนที่กำลังเผลอ ตื่นเลยค่ะอาจารย์

วิเคราะห์ตัวเองแล้วหนูคงไม่รอดแน่ ๆ ถ้ามีโอกาสได้เกิดเป็นคนอีก ขอเกิดในร่มโพธิ์ของศาสนาพุทธค่ะ

ขออนุโมทนาบุญ อ.อุบลและทุกๆท่านคิดถึงความตายทุกวินาที+ศีล5 +พรหมวิหาร 4  พุท-โธ    อ.อุบลช่วยด้วยชักช้อมกับลูกๆทุกคืนคะ

อนุโมทนาบุญในธรรมะทานของท่านอ.ค่ะ..

จากความฝันทำให้ทราบว่า..สิ่งที่เห็นหรือเป็นไป..

หรือมีความสุขอยู่นั้น..มันไม่จีรังยั่งยืน

เมื่อเราประมาทขึ้นในใจ..หรือเพลิดเพลินกับความสุขจอมปลอมทั้งหลาย

ก็จะประสบพบกับภัยร้ายที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน..สุดท้ายเมื่อจิตได้สำนึก..บุญเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังความพ้นทุกข์ ..**ขอให้ทุกท่าน...เตรียมเสบียงบุญให้เต็มกำลัง..เต็มความสามารถ..เพื่อเป็นพลังแสงทิพย์พาเรากลับบ้านนิพพาน..นั่นเอง/// สาธุ

อนุโมทนาบุญธรรมทานควมฝันจากท่านอาจารย์อุบลค่ะ  อ่าแล้วแปลไม่ออกเลยค่ะรู้แต่ว่าน้ำจะมา

อนุโมทนากับน้องเบลที่แปลความฝันใด้ล้ำลึกมากๆ  ของพี่ชนิดาก็เตือนใจได้ดีมากเลย  และทุกๆท่านค่ะ

จะมีสติให้มากๆจะได้ไมประมาท ในการรักษา ศีล5 ความคิด  นึกถึงความตายบ่อยๆอันนี้ไม่ค่อยนึกถึงเลยค่ะ

อนุโมนทนาความฝันของท่าน อ.อุบลด้วยค่ะ

ถ้าระดับอาจารย์ฝัน ตุ้ยคิดว่าไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดาค่ะ

คิดว่าเหตุกาณ์ต่างๆ คงใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

และขอขอบคุณนัองเบลล์ที่มาไขความฝัน

ให้พี่ ป้า น้าอา ได้ฟังกัน

บอกกงๆ ว่าลึกซึ้ง เฉียบคม

แบ่บพี่ๆ คิดไม่ได้จริงๆค่ะ

โมทนาบุญกับความฝันของอาจารย์แม่ค่ะ

ขอเกาะล้อไปด้วยคนค่ะด้วยปัญญาอันน้อยนิด

น้องเบลล์ปัญญาเป็นเลิศมากๆ

แบบนี้ป้าก็คิดไม่ได้จริงๆ...เก่งจริงๆ...ขอชม

 ที่เบลล์ได้แปลความหมายของฝันอาจารย์อุบลได้นั้น

ไม่ใช่เป็นความสามารถของเบลล์แต่ประการใด

ความดีใดที่พึงได้รับ

ขอน้อมบูชาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆพระองค์  สาธุ

 ท้องฟ้าที่สุราษฎร์ตอนนี้อึมครึม

ฝนทำท่าว่าจะตกครับ

เป็นเค้าแบบนี้มาหลายวันแล้วครับ

ขอบารมีพระพุทธเจ้า

ได้โปรดคลุมจิต  กาย   วาจาลูกตลอดเวลา

สาธุ

สาธุขออนุโมทนากับความฝันของ  อ.แม่อุบล 

เคยได้ยินพระสุปฏิปันโนท่านหนึ่ง...ท่านเล่า  ฝันของพระสุปฏิปันโน ท่านเป็นลำแสงเจิดจ้า  เฉกเช่นเดียวกับของอาจารย์แม่

สาธุ สาธุ สาธุ

ขอโมทนาธรรมทานความฝัน

ของท่าน อ.อุบลด้วยครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

คงใกล้เวลาเต็มทนแล้วมังครับ

แถวแยกรัชโยธินบ้านผมท้องฟ้ามืดมัวมาสามวันแล้ว

แทบจะไม่เห็นแสงแดดเลย คงรอวันเทครั้งใหญ่แน่ๆเลย แถวนี้มันแหล่ง....

คงจะล้างทีเดียวหมดมัง

ท่านมหาฯอยู่ใกล้ๆกันเนี่ย รู้สึกเหมือนผมหรือป่าวไม่รู้

ขออนุโมทนาบุญ

ธรรมทานความฝันของอ.อุบล

ให้สติลูก-หลานบ้านสวน

ใช้ชีวิตทุกวินาทีอย่างมีสติ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผมเป็นสมาชิกใหม่ ขออนุญาตโพสต์ ข้อความในกระดานสนธนาครับ

ก่อนอื่นต้องขออนุญาติกราบโมทนาสาธุในบุญทุกบุญ ณ บ้านสวนปิรามิดแห่งนี้ สาธุ...สาธุ...สาธุ อนุโมทามิ

และผมขออนุญาตุแล่าส่วนหนึ่งความฝันของผมบ้างนะครับ ขอย้ำว่าเป็นความฝันครับ

เมื่อราวตี ๕เศษ ผมได้ฝันว่าได้เห็นดวงอาทิตย์หลายดวงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ศูนย์กลางมีรัศมีวงกว้างสีขาวครับ มีแสงสว่างจ้ามาก

ในฝันพอทราบว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น พระอาทิตย์ดวงต่างๆก็หายไป เหลือแต่ดวงศูนย์กลางเจิดจ้า กำลังแปลงร่างเป็นรูปทรงแปลกประหลาดและได้ร้องเพลงความว่า "เหตุการณ์ได้เริ่มขึ้นแล้ว(ทำนองเพลงช้า ส่วนคำร้องจำไม่ได้ทั้งหมดครับ)"

เมื่อทราบว่าจะมีภัยพิบัติจึงได้บอกกับคนในครอบครัวทั้งหมดว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครเชื่อหรือฟังผม

หลังจากนั้นได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหนีภัยมา บอกว่ารอดชีวิตมาได้เพราะมีพระท่านหนึ่งโผล่จากดินมาช่วยไว้(ขอนุญาติไม่เอ่ยชื่อพระครับ เป็นความฝันครับ)

รายละเอียดอื่นๆก็มีครับแต่เกรงว่าจะรบกวนเกินไปครับ

ขอขอบคุณผู้มีพระคุณทุกท่านที่ให้โพสต์ความฝันครับ

พงศ์เนตร์ ภู่จินดาตระกูล

อนุโมทนาบุญกับอ.อุบลด้วยค่ะที่เมตตามาเล่าความฝันเพื่อเ้ป็นการเตือนสติ

ช่วงนี้กลับจากบ้านสวนฯ ยุ่งแต่เรื่องทางโลก มีแต่แบบทดสอบเข้ามา

รู้สึกตัวเองจิตตก แต่ก็ยังยืนยันจุดมุ่งมั่นเดิม

คนรอบข้างตือแรงผลักดันอย่างดีสำหรับเป้าหมายในชีวิตของหนู

จุดหมายปลายทางคือ พระนิพพาน ขออาจารย์เมตตาให้หนูกับลูกเกาะไปด้วยนะค่ะ

อนุโมทนาบุญกับน้องเบลส์และคุณชนิดาด้วยค่ะที่มีแปลความฝันอาจารย์ท่านให้

ตฤณเองก็คิดว่าภัยพิบัติใกล้เกิดขึ้นจริงๆแล้วค่ะ

ถ้านับจากอาจารย์ฝันก็คงไม่เกินสามวัน(เดาเอา)

เมื่อคืนตฤณเองก็ฝันถึงอาจารย์อุบลเช่นกันค่ะ

สิ่งที่ทำได้สำหรับทุกคนคือเร่งทำบุญให้มากที่สุด

รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ เจริญสมาธิ ภาวนา

ซ้อมเรียกอ.อุบลช่วยด้วย

ไม่ต้องกลัว คนดีอยู่ที่ไหนก็รอดปลอดภัย

บุญรักษาทุกๆคนค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานความฝันของอาจารย์ด้วยค่ะ

     อ่านความฝันของอาจารย์แล้ว  ใจก็คิดว่าใกล้เวลาเข้ามาทุกขณะแล้ว

ภัยพิบัติครั้งนี้  อาจจะมีเรื่องเขื่อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ดังนั้นพวกเราอย่าประมาท  เร่งสร้างบุญกันไว้นะคะ (เตือนตัวเองค่ะ)

๒ - ๓ คืนที่ผ่านมาตอนทำสมาธิ จะรู้สึกแน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่ออก ก็ขอบารมีพระพุทธเจ้าว่าถ้าการแน่นหน้าอกนี้เป็นการเตือนภัยจากเบื้องบนนั้นบัดนี้ข้าพเจ้าได้ทราบแล้ว ขอให้อาการแน่นหน้าอกนั้นหายไปด้วยเถิดพระพุทธเจ้าค่ะ อาการแน่นก็หายไป

ตอนนี้ก็เกิดอาการนั้นอีกแล้ว จึงอยากจะขอเพื่อนๆพี่ภัยมาแล้ว ท่านเตรียมตัว เตรียมจิต ไว้แล้วหรือยัง อย่าประมาทนะคะ จิตเกาะติดพระพุทธเจ้าไว้ นึกถึงที่อ.อุบลท่านสอน นึกถึงบุญที่ทำที่บ้านสวนทุกบุญ หรือทุกที่ที่คุณได้เคยทำไว้ ไม่ประมาทและซ้อมตายไว้ทุกขณะจิตด้วย

บุญรักษานะคะ สาธุ

ขอขอบคุณพี่อ้อยค่ะ

ที่ช่วยเตือนสติ

ขอบพระคุณมากค่ะ

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานความฝันของอ.อุบลด้วยค่ะ

คงใกล้เข้ามาจริง ๆ เมื่อคืนวานนี้ได้ฝันถึงองค์ในหลวงเราด้วย

ในฝันพระชนม์มายุดูเหมือน 60 ชันษาเท่านั้นเองแต่จำรายละเอียด

อย่างอื่นไม่ได้รู้แต่ว่าเห็นท่านทรงงานอยู่ ค่ะ

อนุโมทนากับการแปลของน้องเบล ทำได้ไงเนี่ย มีความรู้สึกเหมือน

คณตาลว่าภัยพิบัตินี้จะต้องเกี่ยวกับเขื่อนแน่ๆ พร้อมแผ่นดินไหว

ส่วนน้องนิพาดาคงจะหมายถึงคุณไอซ์หรือเปล่าค่ะ

อนุโมทนากับคำเตือนของคุณไอซ์

และความฝันจากทุกๆท่านอีกครั้งค่ะ

สาธุ

แต่ช่วงนี้บรรยากาศมันดูอึมครึม

เงียบๆเหงาๆ แปลกๆไงไม่รู้เนอะ....

เฮ้อ...โชคดีทุกๆคนนะคร๊าบ...พีน้อง....

ขออนุโมทนาบุญ กับท่านอาจารย์ที่เมตตาเล่าความฝันเพื่อเตือนสติลูกหลานทุกคน หวังว่าโค้งสุดท้ายนี้ ทุกๆคนคงเตรียมพร้อมทุกๆด้านแล้วนะครับ โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ คงทราบกันดีทุกอย่างแล้ว เพราะท่านอาจารย์สอนหมด เพียงแค่เราจะทำตามหรือไม่

สำหรับที่บางกอกและปริมณฑล สังเกตเห็นได้ว่าหลายวันมาแระ ฟ้าปิดตลอดเลย แบบว่าเตรียมน้ำมหาศาลไว้พร้อมแล้ว และช่วงเมื่อคืนนี้ถึงตอนนี้ ก็เรียกว่าตกยังกะฟ้ารั่วเลย ฟ้าแล่บ สว่างจ้า ตื่นเช้ามา ตลาด หรือหลายจุดในปากน้ำ น้ำท่วม ใจเราก็บอกเลยว่า เอาจริงแระ และเราคิดและรู้สึกว่า ตอนนี้ท่านให้น้ำมหาศาลมาจากฟ้าแบบเบาะๆให้คนมีบุญรู้ตัวก่อน และที่สำคัญ ดินจะอุ้มน้ำให้เต็มที่ ลำน้ำ คูคลอง รับน้ำเข้าไปให้เต็มที่ ถึงวันนั้นก็ตูมเดียวเลย และคงมาจากหลายๆแหล่ง ไงทุกๆคนก็อย่าประมาทในชีวิตทุกวินาทีนะครับ ขอให้ทุกๆคนโชคดี

กรุงเทพฯ ย่านร่มเกล้า ฝนตก ทุกๆ วัน ยิ่งเมื่อวันก่อน เมฆลอย ต่ำ  ถ้าไม่มีเมฆ    ก็อึมครึม ขอบคุณ ญาติธรรมทุกๆท่านนะครับ ทีได้เมตตา เตือนภัย เสมอมา

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานความฝันของอาจารย์อุบลและของทุกท่านด้วยค่ะ

ขออนุญาตอาจารย์ใช้สติปัญญาอันน้อยนิดของผมนี้แปลความฝันของอาจารย์นะครับ

ก่อนนอน

ทำสมาธิ วันนี้ มีลำแสงสว่าง

ส่องมาจากเบื้องบน

ขนาดหลับตา

 อาจารย์ให้เราปฏิบัติตามก่อนนอนให้ทำสมาธิเอาให้ใจสบายจะได้ไม่คราดจากความดีเพราะไม่รู้ว่าเราจะตายวันใหน

ฝันไปว่า

ไปเดินอยู่ บนหน้าผา

ให้เราระวังเพราะยังประมาทอยู่ทุกวินาทีในชีวิตประจำวัน

ป่าเขา ลำเนาไพร มีทั้งภูเขา ต้นไม้

ใต้หน้าผา เป็นแม่น้ำ

ขณะเดินข้ามบนทาง

เหมือนเขื่อนหิน

ให้ระวัง

ก็มีน้ำมาจากไหนก็ไม่ทราบ

ทั้งที่ไม่มีเค้า

อยู่ดี ดี ก็ไหล มา แต่น้ำไม่สูง

เพียงแค่ตาตุ่มเห็นจะได้

น้ำจะใหลมาจากที่สูงปริมาณอาจจะดูน้อยเหมือนไม่มีอะไรเพราะแค่ตาตุ่ม

แต่ความแรงของน้ำ นี่แรงมาก

แต่ให้พยายามสังเกตให้ดีอย่าประมาทกับสภาพอากาศที่เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นวันนี้ 

ทำให้เรากับเพื่อน

ตกลงไป ว่ายน้ำเล่นอยู่ในแม่น้ำ

เพราะถ้าเราไม่ทันคิดก็จะทำให้เราพลาดได้เสมอ

ในฝันเพื่อนคนนี้ก็คุ้นเคยกันดี

เพื่อนก็อาจจะเป็นลูกๆ ของอาจารย์ผู้ที่ปฏิบัติ น้อมนำ ไม่ดื้อ เชื่อ ศรัทธา ทำตามคำสอนของอาจารย์ โดยไม่โต้แย้ง คิดว่าตัวเองโง่อยู่เสมอ

แต่พอว่ายน้ำอยู่ดี ดี

ก็มองไปเห็น คลื่นยักษ์ กำลังมา

จากคันเขื้อนหิน ที่เราจะเดินข้ามครั้งแรก

อย่างที่เคยทราบกันดีน้ำจะมามหาศาลและเร็วโดยที่แม้แต่จะนึกถึงความตายก็อาจจะนึกไม่ทันด้วยซ้ำ

ในใจก็บอกว่า

ถ้าคลื่นลูกนี้มา นะ ตายแน่

จะหนียังไง คราวนี้ต้องหาทาง

ขึ้นฝั่ง ขึ้นที่สูงให้ได้

แต่สำหรับผู้ฝึกมาดีแล้วเท่านั้นที่จะมีสติเตรียมพร้อมนึกถึงความตายได้ทัน 

ไม่ว่าเหยียบไปตรงไหน

ข้างฝั่ง ดินเละ ทั้งนั้น

ในสถานการณ์นั้นรอบๆ ข้างไม่มีสิ่งใดที่คิดว่าเราจะรอดได้เตรียมตัวตายอย่างเดียว

แต่ฉับพลัน

ก็มีสิ่งที่ไม่มีตัวตน มองไม่เห็น

มาดึงขึ้นไปได้ ทั้ง 2 คน

แต่สุดท้ายด้วยบุญที่ลูกๆ ทำกับอาจารย์มาหรือผลบุญอื่นๆ ที่แต่ละท่านสั่งสมไว้ก็จะส่งผลอย่างน่าอัศจรรย์ เบื้องบนทุกๆ พระองค์เมตตาลูกๆ เสมอ แต่ข้อให้ปฏิบัติตามคำสอนเท่านั้น

พอขึ้นไปได้

ก็มองเห็นรถ หน้าตาแปลกๆ

มาจอด(รอ)อยู่ พร้อมคนขับ

รถนี้คล้ายซูบารุ แบบมีล้อหน้า 1 ล้อ

ล้อหลัง 2 ล้อ แต่ขนาดใหญ่

มีเบาะรออยู่ 2 ที่นั่ง

ด้านหน้าคนขับ 1 ใกล้คนขับอีก 1

เรียกว่า มีแค่ 2 ที่พอดี

ผลจากปฏิบัติตามและด้วยบุญที่เราสั่งสมไว้ก็จะทำให้เรารอดปลอดภัย จะมีที่นั่งพอดีเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งครัดเท่านั้นพอดิบพอดี

นี่คือความฝัน

ลม ลม แล้ง แล้ง ของ อ.อุบล

แต่เบื้องบน

บอกว่า ให้มาเล่า เป็นธรรมทาน

สังเกตุให้ดีทุกอย่างที่อาจารย์ทำให้เห็นมีความหมายเสมอใครให้ความสำคัญก็จะเห็นและปฏิบัติตามได้โดยไม่ผิดเพี้ยน

แล้วให้ผู้อ่าน ใช้ปัญญา

พระกรรมฐาน

เอาเอง

ผมก็ขอใช้ปัญญาอันน้อยนิดนี้เดาความฝันของอาจารย์ประมาณนี้ครับ

กราบขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หากลูกใช้ข้อความสื่อใดจาบจ่วงล่วงเกิน

ผู้ที่อยู่ใกล้หรือในบริเวณ ป่า ภูเขา ต้นไม้ หน้าผา แม่น้ำ และเขื่อน หรืออาจจะทุกๆ ที่

 โมทนาสาธุครับ

ทุกข้อธรรมของทุกท่าน

และที่พระพุธเจ้าทรงเมตตาสอนลูกหลาน

สรุปลงที่คำคำเดียว

"ไม่ประมาท"

ในการใช้ชีวิต

ทั้งทางโลก  ทางธรรม

ไม่ประมาทในวัย เด็ก  ผู้ใหญ่  คนแก่

ฯลฯ

เพื่อน้อมนำดวงจิตกลับบ้านพระนิพพาน

ขอโมทนาบุญกับ น้องเบลล์ และคุณเกียรติศักดิ์  โพธิอุ่น ที่ช่วยแปลความฝันของท่านอาจารย์อุบล คำแปลของทั้งสองท่านนี้กระจ่างแจ้งมีประโยชน์นัก จะขอนำไปปฎิบัติต่อค่ะ

ขอให้พี่น้องชาวไทยผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ รอดปลอดภัยแคล้วคลาดภัยพิบัติด้วยเทอญ.

สาธุ สาธุ สาธุ

กราบขอบคุณเบื้องบนทุกพระองค์

อนุโมทนาบุญในธรรมทานของท่านอาจารย์อุบล

และทุกๆท่านด้วยนะคะ

สาธุๆๆ

ขออนุโมทนาบุญ ของคุณเบลล์ และคุณเกียรติศักดิ์ สำหรับการแปลความฝัน ได้ประโยชน์ และมุมมองดีดี เยอะเลยครับ สาธุ ครับ

      วันนี้เงียบเหงามาก  ลูกบ้านสวนไปไหนกันหมดน๊อ

 ที่สุราษฎร์ธานีฝนกำลังจะตก

ท้องฟ้ามืดครึ้ม

ลมแรง

เรียน ท่านญาติธรรมชาวบ้านสวนพิรามิด ได้อ่าน เว็ปพลังจิตได้กล่าวถึง การเลื่อนออกไปของภัยพิบัติ ด้วยบารมีของพระเจ้าอยู่หัว จึงลอง copy มาให้อ่านกันค่ะ

"ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป" นั้นเป็นได้แค่ "ข้ออ้าง" ?

--------------------------------------------------------------------------------

คำชี้แจง

การยกเรื่องของในหลวงและพุทธประวัติมาเล่าประกอบการชี้แจงนั้น
มิได้มีเจตนาจะแก้ต่างให้กับบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่ได้ออกมาทำนายภัยพิบัติแล้วไม่เกิดตามนั้น
แต่ผมก็มิได้มีเจตนาตำหนิท่านที่ออกมาเตือน เพราะหากท่านที่เตือนทำด้วยเจตนาบริสุทธินั้นก็นับว่าน่าเห็นใจ
สมมติว่าเป็นตัวเรารู้เห็นอะไรที่เป็นอันตรายก็อดจะบอกกล่าวเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายไม่ได้
แม้แต่ตัวผมเองที่ได้ตั้งกระทู้เตือนภัยไว้ ถ้าหากถ้าคำเตือนที่ผมได้รับมานั้นมันผิดพลาดตัวผมเองก็ขอยอมรับผิดโดยดี
เพียงได้แต่หวังว่าท่านทั้งหลายจะเห็นใจและเข้าใจในกุศลเจตนา ขอได้โปรดอโหสิกรรมและอดโทษให้ด้วย

เจตนาของผมที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้น
1.เป็นโอกาสในการเล่าถึงพระราชกรณียกิจและพระเมตตาอันเปี่ยมล้นของในหลวงอันเป็นที่รักเคารพเทิดทูนของเราชาวไทย
ท่านทรงมีวิริยะอุตสาหะในการปกป้องภัยพิบัติอันตรายและความยากลำบากต่างๆที่เกิดกับลูก ๆ คือประชาชนของท่าน

2.เป็นการเล่าถึงข้อมูลตามที่ผมทราบมา ซึ่งได้ตั้งกระทู้ไว้เตือนภัย
เตือนภัยพิบัติเดือนมิถุนายน 2554 และวิธีเตรียมการอย่างมีสติ
ข้อมูลที่ผมได้รับมานั้น เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า
ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นอาจไม่ได้เป็นไปตามแรงธรรมชาติเพียงลำพัง
หากแต่ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ในทางนามธรรมที่ทำหน้าที่เหมือนเป็น "ผู้ดูแลจัดการ"
ซึ่งนับเป็นเรื่องลึกลับยากแก่การพิสูจน์ด้วยประสาทสัมผัสของปุถุชนคนมีกิเลส
แต่ก็พอเป็นแนวทางสำหรับคนที่เชื่อศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงได้นำเรื่องของ อุปฆาตกรรม ซึ่งเป็นกรรมที่สามารถเลื่อนออกไปได้
โดยหวังว่าผู้มีปัญญาและใฝ่ธรรมจะเร่งปฎิบัติเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ภัยพิบัติในอนาคตให้ผ่อนหนักเป็นเบา

เรื่องภัยพิบัตินั้นผมได้ยกพระไตรปิฎกและพุทธประวัติมาชี้แจงแล้วว่า
อาจเกิดตามธรรมชาติหรือจากผู้มีฤทธิ์ก็ได้ และผู้มีฤทธิ์ก็สามารถระงับภัยพิบัติได้
ดังเช่นเรื่องยักษ์อาฬวกแสดงฤทธิ์ที่ยกมาแสดง
อ่านเพิ่มเติมจาก พระพุทธเจ้าชนะอาฬวกยักษ์ด้วยขันติบารมี - ลานธรรมเสวนา

ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นอาจไม่ได้เป็นไปตามแรงธรรมชาติเพียงลำพัง
หากแต่ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ในทางนามธรรมที่ทำหน้าที่เหมือนเป็น "ผู้ดูแลจัดการ"
ซึ่งนับเป็นเรื่องลึกลับยากแก่การพิสูจน์ด้วยประสาทสัมผัสของปุถุชนคนมีกิเลส
แต่หากท่านผู้อ่านเคยได้อ่านเรื่องหลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
อาจจะยังเคยเห็นประโยคเหล่านี้ผ่านตากันบ้าง โปรดสังเกตคำที่ผมเน้นสีน้ำเงินไว้นะครับ
ตรงคำที่ผมเน้นไว้นั้นอาจพอจะจัดเข้าใน "คณะผู้ดูแลจัดการ" ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติในอนาคตหรือไม่ ?

เรื่องเล่ากล่าวถึง "หลวงปู่สรวง" | ไทยโพสต์

"พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก
จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรมจะอยู่รอดปลอดภัยได้"

"พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำ น้ำทะเลเต็มไปหมด"

"พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง
หลวงพ่อไม่กลัว (หลวงปู่สรวง) แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ
ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่น เขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป"

ถาม - ที่หลวงปู่สรวงพูดหมายความว่ายังไง?
ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย
คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย "คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"
ท่านบอก ให้คอยดู แต่มาเป่า นี่มันปี 2547-2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี
เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น
"คนดีไม่ตาย"
แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เราไม่ได้กบฏพระเจ้าอยู่หัว
คนที่กบฏ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น
หมายเหตุ : หลวงปู่สรวง ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง)
สรีระสังขารอันไม่เน่าเปื่อยของท่านตั้งอยู่ที่ศาลาออยเตียนสรูล วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
หากต้องกาศึกษาประวัติและคำสอนของท่านเชิญที่ลิงค์นี้
http://www.sisaket.ru.ac.th/pra-sisa...uang/index.htm

3.ต้องการชี้ให้เห็นว่าอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ไม่ควรไปปรามาสท่านที่ออกมาเตือน เพราะบางท่านนั้นไม่ใช่ฆราวาส
แต่ก็ไม่ควรไปเชื่อถืออย่างงมงาย เพราะอะไร ๆนั้นก็ไม่แน่นอน มีความแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัย
เช่นในกรณีที่ผมได้รับข้อมูลคำเตือนมานั้น
ทราบมาว่าภัยพิบัตินั้นจำเป็นจะต้องมี จำเป็นต้องเกิด เพราะยังมีเหตุการณ์ต่างๆ หลังจากนั้นรอคิวอยู่
กำหนดระยะเวลาคร่าว ๆ ที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นมีอยู่
เพียงแต่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอนนั้นเปลี่ยนแปลงได้
ตลอดจนรูปแบบภัยพิบัตินั้นก็เปลี่ยนแปลงได้
ข้อนี้นั้นจนปัญญาที่ปุถุชนคนมีกิเลสอย่างผู้เขียนจะหาหลักฐานมาแสดง
จึงได้ยกเรื่องพระราชกรณียกิจของในหลวงซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่นานนี้ยังอยู่ในยุคของเรามาแสดงประกอบไว้
และยังได้นำพุทธประวัติจากในพระไตรปิฎกมาเล่าแสดงไว้ประกอบการพิจารณาของทุก ๆ ท่าน

อีกเรื่องที่อยากแสดงความเห็นคือ เรื่องญาณจริงหรืออุปทานนั้น หากเรายังเป็นปุถุชนคนมีกิเลส
เราอาจแสดงความเห็นได้ แต่จริงเท็จเป็นอย่างไร หากเราไม่มีญาณเราก็ไม่อาจทราบได้แน่ชัด ได้แต่คาดคะเนจากเรื่องแวดล้อมเอา
เรื่องนี้เป็นเรื่องซับซ้อน หากจะเล่าต่อไปก็เกรงว่าจะเป็นการแก้ต่างแทนกันไป ซึ่งไม่ใช่เจตนาของผู้เขียนที่จะมาแก้ตัวแทนใครในกระทู้นี้
คงต้องให้เจ้าตัวออกมาชี้แจงให้ชัดเจน ขอให้ท่านลองใช้เหตุผลของท่านที่แสดงมานั้นเป็นคำถามแล้วถามโดยตรงจากเจ้า ของกระทู้นั้น ๆ เอา

ส่วนเรื่องที่ท่านว่าเรื่องในพระไตรปิฎกและพุทธประวัตินั้นเป็นเรื่องเก่าไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่ และก็ไม่ได้มีการบันทึกกัน
แต่เป็นเรื่องที่ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้มาจากที่ไหน อาจจะอุปทานทางจิตขึ้นมาก็ได้เพื่อสอนคน หรืออะไรก็ตามแต่นั้น

ในเวลานี้จะขอปล่อยความเห็นของท่านไว้ก่อน
เรื่องจริงเท็จอย่างไรขอปล่อยไว้ตามแต่ท่านจะพิจารณา ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรเถิด
ส่วนตัวผมเองไม่มีความสงสัยในข้อนั้น ไม่มีความสงสัยในพระรัตนตรัย พระรัตนตรัยเป็นสรณะอันประเสริฐ

ก่อนที่จะกล่าวว่าภัยพิบัติที่ถูกเลื่อนออกไปนั้นเป็นแค่เพียงข้ออ้าง
ลองสังเกตแม้ตัวเราเองนั้นตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะทำอะไร เมื่อใด
ยังมีบางครั้งที่ต้องเลื่อนออกไป มีสาเหตุจากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก
ถามว่าเหตุผลของเราอันนั้นเป็นข้ออ้างหรือไม่

ก่อนจะถามว่าภัยพิบัตินั้นเลื่อนได้หรือไม่
ต้องถามก่อนว่าใด ๆ ในโลกนี้เที่ยงหรือไม่

หากใด ๆ ในโลกล้วนไม่เที่ยง
ก็ภัยพิบัตินั้นรวมอยู่ในใด ๆ แล้วเหตุใดภัยพิบัติจึงจะเที่ยง
ไม่เที่ยง คือไม่แน่นอน มีความแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัย

การเลื่อนภัยพิบัติคืออะไร
กรณีที่ 1. การแก้ไขบรรเทาภัยพิบัติผ่อนหนักหนักให้เป็นเบา
กรณีที่ 2. การเลื่อนภัยพิบัติโดยการแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้ภัยพิบัติเกิดขึ้น

ภัยพิบัตินั้นย่อมมีปัจจัยทำให้เกิด
ถ้ามองในทางอุตุนิยมวิทยา ก็จะมองเห็นปัจจัยอันหนึ่ง ก็ต้องแก้ด้วยความรู้แบบวิทยาศาสตร์ เช่น การทำฝนเทียมเป็นกำแพงกั้นพายุ
แต่หากมองความรู้ทางจิตก็จะเห็นปัจจัยอีกอันหนึ่งก็ต้องแก้ด้วยการทำความดี สวดมนต์ การแผ่เมตตา

ลองดูกรณีตัวอย่างของพายุนากรีส อาจทำให้เราเข้าใจเรื่องการเลื่อนภัยพิบัติและปัจจัยในการเกิดภัยพิบัติมากยิ่งขึ้น

1. กรณีพายุไซโคลนนากรีส

พายุไซโคลน "นาร์กีส" ที่มีความเร็วลม 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซัดถล่มเมืองย่างกุ้งและบาสเซน แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี ของประเทศพม่า
เมื่อเช้าตรู่วันที่ 3 พฤษภาคม 2551จัดเป็นมหันตภัยครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย
ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะจู่โจมประเทศบังกลาเทศก่อน แต่ก็เปลี่ยนทิศทางลมมาที่ประเทศพม่าแทน
สำหรับความรุนแรงของไซโคลนนาร์กีสพัดหลังคาบ้านเรือนปลิวว่อน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั่วเมือง
ในขณะที่ทางภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศไทยก็เจอหางเลขอิทธิพลนาร์กีสเล็กน้อยซึ่งทำให้หลายจังหวัดเกิดฝนตกชุก มีน้ำท่วมขัง

มีข้อมูลเล่าว่าช่วงเกิดพายุนาร์กีส 1 อาทิตย์ลูกค้าของเค้ามาคุยให้ฟังว่า ทหารองครักษ์กลับบ้านไม่ได้เลย
เพราะในหลวงทรงขอให้ทุกคนที่ถวายงานพระองค์ท่านช่วยกันนุ่งขาวห่มขาวสวดมนต์ทั้งวันทั้งคืนอยู่กับท่าน
เพื่อให้ประเทศไทยรอดพ้นภัยจากพายุใหญ่ที่จะเข้า
ตอนนั้นคนรู้จักฟังยังนึกภาพไม่ออกว่าพายุจะหนักขนาดไหน พอผ่านไป 1 อาทิตย์มาดูข่าวจากทีวีก็ตกใจมาก
จึงนึกขอบคุณในหลวงที่ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศอีกครั้ง

นอกจากนี้ในหลวงยังรับสั่งให้ทำฝนเทียมสกัดพายุไว้ด้วย
มีเรื่องเล่าว่า....
เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึก ทหารของค่ายนเรศวร
วันแรกที่เข้าไปกะบรรยากาศครึ้มๆ ผมก็ว่า เอ... แปลกๆนะ ทำไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน
แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ พอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว

อาจารย์ เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า
"ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงานเกี่ยวกับฝนเทียม รีบทำฝนเทียม
เพื่อเป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่น ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่ทราบเรื่องนี้ก่อน

ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม๊ ... ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศพม่าด้วยซ้ำ

พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จ ด้วยความสำเร็จ...
ผลงานที่พระองค์ได้ทำ ก็ก่อให้เกิดผล

เมื่อเกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย
และสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศพม่า จนทำให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศ ...

แต่สำหรับประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสร้างไว้ก็ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย
ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก "

พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่ กับ สิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประเทศของเรา

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?...#ixzz1LML0B1Gg

ดังนั้นแม้ในปี 2551 ได้มีผู้ออกมาเตือนว่าจะมีภัยพิบัติ
แต่เมื่อปัจจัยต่าง ๆ คลี่คลายตัว ภัยพิบัติจึงไม่เกิด
แต่ในอีกมุมมองของบางท่าน ท่านถือว่าเป็นเพียงการเลื่อนออกไป เพราะปัจจัยที่จะทำให้เกิดภัยพิบัตินั้นยังมีอยู่

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าท่านมองว่าภัยพิบัติเกิดจากอะไร
ถ้ามองแบบวิทยาศาสตร์ก็ว่าภัยพิบัติเกิดจากภาวะโลกร้อน การทำลายธรรมชาติ
หากมองแบบทางจิตก็ว่าภัยพิบัติเกิดจากศีลธรรมที่ตกต่ำ
ไม่ว่ามองแบบใดก็ต้องถือว่าภัยพิบัติต่าง ๆ เพียงแค่เลื่อนออกไป
เพราะปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้วยังคงมีอยู่

2. กรณีพายุเอนเจลล่า

ขอยกพระราชดำรัสของในหลวง ทุกวันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เอาปี 38 มาให้อ่านเฉพาะตอนสำคัญ นางมณีเมขลา
วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2538 พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล

พายุเอนเจลล่า....แต่ เมืองไทยนี้วิเศษจริงๆ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีขึ้นให้น้ำท่วมนี่รู้สึกเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือดร้อน
ตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้ และทางอีสานก็มี ภาคใต้ก็มี แต่ว่าที่เดือดร้อนที่สุดก็อยู่ใกล้ที่นั่งของเราที่นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คือกรุงเทพฯ
เดือดร้อน แต่ก็เรื่องมันไม่มากนัก เพราะมีสิ่งที่ช่วยเมื่อน้ำท่วมอยู่แล้วจวนจะแห้ง
ทางกรมอุตุนิยมโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช ได้ส่งพยากรณ์อากาศมาให้
แล้วเขียนไว้เป็นโน้ตบอกว่ากรมอุตุนิยมถวาย เกี่ยวข้องกับพยากรณ์อากาศ และเกี่ยวข้องกับพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ
เขาบอกว่า ถวาย แล้วต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา หมายความว่า กรมอุตุนิยมมาใช้เรา ใช้เราเป็นผู้พยากรณ์ก็เป็นเกียรติ เขาเขียนว่าเพื่อทรงพิจารณา
ดูแล้ว ก็หนักใจอยู่เพราะว่าดูในแผนที่อากาศ พายุเอนเจลล่า อ้วนจ้ำม่ำ อ้วนเหมือนในการ์ตูน
เอนแจลล่าไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเห็นหรือเปล่า เอนเจลล่าที่เป็นอริของป๊อบอาย ไม่ทราบว่าเห็นหรือเปล่า
เห็นไหมว่าในการ์ตูนป๊อบอายมีเอนเจลล่า ตัวเบ้อเร่ออ้วนเลย นี่แหละกำลังมาเป็นอริกับเรา
แล้วก็คุณสมิทธก็บอกว่า เอนแจลล่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นน่ากลัว คร่าชีวิตในฟิลิปปินส์พันกว่า
ผ่านมาแล้ว มาในทะเลจีนใต้ ตามธรรมดาเมื่อเวลาพายุผ่านฟิลิปปินส์ มันต้องผอมลง
แต่นี่คุณเอนเจลล่ามันอ้วนขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้รับพยากรณ์อากาศนั้นตอนบ่าย
ตอนบ่ายแก่ๆ มาดูเอ เราจะทำอย่างไร ก็ดูถึงประมาณตี 1
แล้วก็รู้สึกว่าต้องดูต้องใช้ ไอทีหน่อย ใช้ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (Information Technology)
เราก็ใช้อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีแล้วรู้สึกว่า เอนเจลล่านี่จะแพ้แรง คือ แพ้แรงจะต้องบอก ต้องเผยให้ทราบ แพ้แรงมณีเมขลา
เพราะว่าเดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายก็คงเข้าใจคงรู้จักนางมณีเมขลาพอสมควรแล้ว ก็เลยบอกไปตอนตี 1 ว่า
ให้บอกกรมอุตุนิยมว่า พรุ่งนี้ จะหมายถึงพรุ่งนี้แบบไทยหรือพรุ่งนี้แบบฝรั่งก็ไม่ทราบ
แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น จากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น
และต่อไปอีก 2 วัน จะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะอยู่แถวๆ ไหหลำ ฤาเข้าไปเมืองจีนก็คงต่ำ
ข้อพิจารณาอย่างนี้ เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดูไอทีต่อไป เอ!ดีแล้ว ที่เราพูดนับว่าถูกพอสมควร ควรจะถูกพอสมควร
แต่ว่าทางวิทยุพวก CNN BBC เขาก็ยังบอกว่าเป็นไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นอีก
วันรุ่งขึ้นก็เป็นไต้ฝุ่น วันต่อไปก็เป็นซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) หมายความว่า เป็นพายุโซนร้อนที่รุนแรง
แต่ดูไม่รุนแรง เราก็ยืนยันว่าเมืองไทยไม่เป็น แล้วในที่สุด ท่านทั้งหลายเจอเอนเจลล่าที่ไหนก็คงไม่ได้เจอ
บินไปที่โน่นที่นี่ก็ไม่ได้เจอคุณเอนเจลล่าเลย คุณเอนเจลล่าก็ไม่เข้าคุณสมิทธบอกเข้า
ขอโทษคุณสมิทธ ก็หมายความว่า คุณสมิทธวันก่อนนี้มาพบ แล้วก็ถามว่ายังไง
ก็ได้บอกว่าให้นางมณีเมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี
ถ้ามาแบบที่ว่าเพราะว่าเคยมีไต้ฝุ่นใหญ่ และเข้าทะลุเมืองเวียดนาม
และเข้ามาในเมืองไทย ผ่านแถวมุกดาหาร หรือแถวอุบล เข้ามาจะเห็นว่าพังจริงๆ แต่ไม่เป็นอะไร

ฉะนั้นก็ตอนนี้จะได้โฆษณา โฆษณามณีเมขลา มณีเมขลาและหนังสือเล่มใหม่
สำนักงานมณีเมขลานี้ ท่านก็ได้ทราบว่าสำนักงานมณีเมขลานี้ได้แถลงอาการพระประชวร ก็คงนึกสำนักงานนี้เป็นอะไรแน่
เป็นสำนักงานอุตุนิยมมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เขาพระสุเมรุ ก็ถามว่าเขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน ก็มีแผนที่ให้ในเล่มนี้
มีสำนักงานมณีเมขลา เขาพระสุเมรุอยู่ที่นี่ เป็นที่ตั้งของสำนักงานมณีเมขลา

แต่ที่จริงสำนักงานมณีเมขลานี้เป็นสาขาหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล.
ท่านคงยังไม่เคยทราบว่าสำนักงาน ฝล. นี้คืออะไร สำนักงาน ฝล. คือ นี่เป็นเครื่องหมายของสำนักงาน ฝล.
ท่านที่ไม่มีกล้องส่องก็คงไม่เห็น แต่อีกหน่อยก็คงมีชื่อเสียงดีมาก
สำนักงาน ฝล. นี้ สำนักงานมณีเมขลาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล.
แต่ที่สำคัญที่สุดคือว่า นางมณเมขลานี้เป็นตัวละครสำคัญ ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกในโอกาส 50 ปีกาญจนาภิเษก
เป็นหนังสือที่กำลังทำ หวังว่าจะทำเสร็จทันสำหรับฉลอง

คือว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่เหมือนหนังสือติโตหรือนายอินทร์ หนังสือนายอินทร์ ค่อนข้างจะดุเดือดในทางราชการลับ
หนังสือติโต เป็นหนังสือทเกี่ยวข้องกับสงครามเหมือนกัน เกี่ยวข้องการต่อสู้
แต่หนังสือใหม่นี้ยังไม่บอกชื่อ มีบางคนเขาบอกว่า ควรจะโฆษณาแต่รู้สึกไม่จำเป็น
เพราะว่าเป็นหนังสือที่น่าดูมาก เอาไว้ดูเอง ในหนังสือนี้นางมณีเมขลา จะว่าเป็นนางเอกก็ไม่ใช่ ก็ไม่เชิงแต่ว่าเป็นตัวสำคัญ

ในรูปนี้จะเห็นว่ามีเรือที่แล่นในมหาสมุทรอินเดีย แล้วก็มีที่เป็นเส้นที่เกี่ยวข้องกับลม คือ เป็นเรื่องของอุตุนิยม
และตรงนี้ก็มีดวงของวัน อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับวันที่ 15 เมษา 2537 ที่ตอนนั้นแห้งแล้ง แล้วก็เกิดที่ตอนน้ำแห้ง
แห้งแล้งแล้วก็เกิดเขาบอกว่า จะเล่นสงกรานต์ไม่ได้ ก็ไม่มีน้ำ
แต่ว่าไปติดต่อนางมณีเมขลา นางมณีเมขลาก็บันดาล ให้มีฝนแล้ว
ก็นี่เป็นแผนที่ของคุณสมิทธ์เอง มันเป็นอย่างนี้จริงๆ
คุณสมิทธก็ต้องรับรองว่า แผนที่นี้ไม่ผิด ถูกต้องสำหรับวันที่ 15 แล้วก็ดวงนี้ เป็นดวงวันที่ 15 เมษายน อันนี้เป็น 2537
แต่ว่าในเรื่องนั้น ไม่เสร็จ 2537 ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ก็เป็นในระยะเดียวกัน

แล้วก็นางมณีเมขลา เป็นผู้ที่เป็นตัวสำคัญในเรื่องของทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกว่าสุวรรณภูมิ
อันนี้ก็พูดถึงว่า เมืองไทยถูกน้ำท่วม แต่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยป้องกัน ป่านนี้คงยังจมน้ำอยู่
เพราะว่าพายุอย่างคุณเอนเจลล่า ก็จะต้องเข้ามา ตอนนี้ที่จริงอยากจะพูดสักเล็กน้อย
แต่พูดมามากแล้ว พูดทุกวัน เกือบทุกวัน ที่สภากาแฟ สภากาแฟนี้ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจว่าอะไร
คือว่า ในเขตพระบรมมหาราชวังมีที่ที่ชื่อ พระราชกรัณยสภา (บางส่วนจากพระราชดำรัสของในหลวง)

YouTube - ??.????? ??????????????
YouTube - ??.????? ?????????????? 
 

นาทีที่ 4.00 ดร.สมิทธกล่าวถึงในหลวงและกรณีพายุ เอนเจลล่า

ในบางกรณีภัยพิบัติที่ถูกเลื่อนออกไปนั้นก็ยากที่จะพิสูจน์

บางทีคำถามที่ว่่าภัยพิบัติที่ถูกเลื่อนออกเป็นข้ออ้างหรือไม่

อาจไม่สำคัญเท่ากับคำถามที่ว่าเราจะเลื่อนภัยพิบัติออกไปได้อย่างไร

อย่าปล่อยให้การเลื่อนภัยพิบัติกลายเป็น "หน้าที่" ของในหลวง หรือพระอริยะสงฆ์ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

ความดี ความสามัคคี และเมตตาต่อกันคือพลังสำคัญในการเลื่อนภัยพิบัติ

มีผู้กล่าวว่าภัยพิบัตินั้นแม้จะเลื่อนออกไปแต่ในที่สุดก็ต้องเกิด

เพราะมนุษย์โลกส่วนใหญ่ยังคงประมาทและมัวเมาในกิเลสความชั่ว

หากในที่สุดถึงเวลาที่ภัยพิบัติต้องเกิด

อย่างน้อยๆ ก็ช่วยกันทำความดี และเตรียมพร้อมระวังป้องกัน เพื่อเลื่อนภัยพิบัติให้พ้นจากตัวเราและครอบครัว

ให้ตัวเราและครอบครัวเราปลอดภัยหรือบอบช้ำจากภัยพิบัติน้อยที่สุด

ถ้าทุกคนในประเทศมีความดี มีการเตรียมพร้อม ไม่ประมาท ยิ่งคนจำนวนมากปลอดภัยเท่าไหร่

ประเทศไทยก็ยิ่งปลอดภัยมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น

- update -

ถ้าหากคนที่เรารัก เช่น ลูก ๆ ของเราเจ็บป่วยหรืออาจได้รับอันตราย

ถามว่าตัวเราซึ่งเป็นพ่อจะหาวิธีป้องกันแก้ไข เลื่อนความตายของลูก ๆ เราออกไปหรือไม่

หรือจะคิดเพียงว่า ยังไงคนเราก็ต้องตาย ยังไงลูกเราก็ต้องตายในสักวัน

หากคิดเช่นนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องมีหมอ ไม่จำเป็นต้องมีโรงพยาบาลไว้รักษาคนป่วย และไม่ต้องมีหน่วยกู้ชีพ หน่วยกู้ภัย

คงไม่มีใครคิดจะเลื่อนไปให้คนรุ่นใดรับกรรมแทน

พรหมวิหาร ๔ นั้น ตั้งต้นด้วยเมตตาก่อนจะจบลงที่อุเบกขา

แม้พระอรหันต์ผู้พ้นจากโลกแล้วแต่ท่านก็ยังมีเมตตา

ยิ่งพระโพธิสัตว์หรือกลุ่มคนที่หน้าที่นั้นก็ยิ่งต้องพยายามแก้ไขกันไป

แม้ทำไปได้เหมือนแก้กันทีละเปลาะ แต่ก็โดยหวังว่าภัยพิบัติอาจไม่เกิดขึ้นในที่สุด หรือหากเกิดก็ให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด

สมมติว่าที่ผ่านมาภัยพิบัติมีการเลื่อนออกไปจริง

การเลื่อนของภัยพิบัตินั้นหากมีจริงก็ย่อมเป็นผลดี

หากมีคนเห็นภัยที่เกิดในที่ต่าง ๆ อาจตื่นตัวในการสร้างความดี

ภัยร้ายต่าง ๆ ก็อาจคลี่คลายเบาบางลง

อย่างน้อยในประเทศไทยขอให้มีคนตื่นตัวในการทำดีเพิ่มมากขึ้น

บางคนชีวิตหักเห กลับมาสนใจธรรมะและความดีมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นภัยพิบัติจากต่างประเทศ

ส่วนคนที่เห็นว่าภัยพิบัติเลื่อนออกไปแล้วกลับประมาทนั้น ก็ควรโทษผู้ที่ประมาทเอง

ไม่ใช่มาโทษผู้พยายามเตือนด้วยเจตนาบริสุทธิ์ หรือโทษผู้ที่พยายามหาทางช่วยหรือหาทางแก้ไข

เพราะผู้ไม่ประมาทนั้นมีเพิ่มขึ้น ผู้กลับตัวนั้นมีมากขึ้น ผู้ประพฤติธรรมหลายคนมีการเร่งรัดตัวเองมากขึ้น

ผู้มีธรรมย่อมเพ่งโทษตัวเอง มิใช่เพ่งโทษผู้อื่น เช่นว่าเพราะเตือนแล้วภัยพิบัติไม่เกิดเลยทำให้ตนประมาท เป็นต้น

ก็ผู้ที่ไม่ประมาทนั้นยังมีอยู่ ผู้ไม่ประมาทนั้นเมื่อภัยพิบัติยังไม่เกิดก็พากันโล่งใจ และพยายามปฏิบัติธรรมต่อไป

เหมือนนักกีฬาที่อุตสาหะได้ต่อเวลาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ต่างก็เร่งพยายามทำแต้มชัยโดยไม่ย้อท้อ

ลองคิดดูว่าหากภัยพิบัติไม่ได้มีการเลื่อนออกไป

คนอาจจะไม่ได้ตื่นตัวเรื่องภัยพิบัติเท่านี้

ประเทศที่ได้รับภัยพิบัติเป็นประเทศแรก ๆ เช่น เฮติ ญี่ปุ่น นั้นน่าสงสาร

ประเทศต่าง ๆ ควรช่วยเหลือและนำมาเป็นกรณีศึกษา ไม่ใช่คิดเพียงว่าเราคงไม่โชคร้ายแบบเขาหรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

หากภัยพิบัติมีการเลื่อนออกไปจริง ก็นับเป็นโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้เตรียมตัวมากยิ่งขึ้น

แต่ก่อนเมืองไทยนั้นหากพูดถึงเรื่องซึนามิ แผ่นดินไหว หรือน้ำท่วมโคราช คนคงว่าบ้าแน่นอน หาคนเชื่อได้น้อยเต็มที

สมมติว่าภัยพิบัติใหญ่เลื่อนออกไปเหลือไว้แต่เพียงภัยพิบัติย่อย ๆ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นคำเตือนมาเป็นระยะ ย่อมทำให้คนตื่นตัวมากขึ้น

ตอนนี้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ของไทย เริ่มตื่นตัวกันบ้างแล้ว แม้ไม่มากนัก

บางพรรคการเมืองนำมาเป็นนโยบายหาเสียง (หวังว่าไม่ใช่แค่เพียงหวังผลในการเลือกตั้ง) บางคนเสนอเรื่องภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ

คนไทยที่เคยหัวเราะเยาะเรื่องการเตรียมเป้ฉุกเฉิน เริ่มหันมาหาความรู้เรื่องนี้กันมากขึ้น คนใกล้ ๆ ตัว เริ่มมาถามว่าจะหาซื้ออะไรจากที่ไหน

หลาย ๆ คนที่เคยมัวเมากับการใช้ชีวิตเริ่มหันกลับมาค้นหาความหมายของชีวิต ค้นหาทางพ้นทุกข์ในวัฏะสงสารแห่งนี้

อย่างน้อย ๆ ก็มีคนกลับตัวเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง ผมยืนยันได้

ข้อความหนึ่งจากเวปพลังจิต  :  ของ คุณพุทธิวัฒน์

"หลังเลือกตั้งเสร็จอาจมีภัยพิบัติเกิดขึ้นถ้าคนไม่ดีเข้าสภาเยอะๆ "

กราบนมัสการสิ่งสํกดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์

ท่านท้าวเวสสุวรรณ และเทพบริวาร

ท่านอาจารย์มงคลและท่านอาจารย์อุบล

-------------------------------------------------------

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของทุกท่าน

ความฝันของผมครั้งหนึ่งที่จำได้แม่น คือ

วันนึงฝันว่า ฝนตกแรงมาก ที่ห้องครัวที่ติดห้องนอนผม

มีน้ำไหลทะุลุหลังคาลงมาคล้ายท่อประปารั่ว แรงและปริมาณมาก

เลยกลับเข้าห้องตัวเอง

พบว่า ไม่มีน้ำไหลเข้ามา ทีี่หน้าต่างมีเพียงละอองฝนเท่านั้น

ที่ลอยเข้ามาแบบฝนสาด ก็เลยเอื้อมมือไปปิดบานเกล็ดหน้าต่าง

------------------------------------------------------------------------

ผมเข้าใจว่า ท่านคงมาเตือน

แต่ที่อุ่นใจก็อาจคิดไปว่า เหตุที่ห้องนอนผมไม่มีปริมาณน้ำมาก

เหมือนห้องข้าง ๆ นั้น คงเป็นเพราะ

ที่ห้องมีองค์ปิระมิด ธนบัตรขวัญถุง องค์สฟิงซ์

ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านสวนอยู่ภายในห้องครับ

ขออนุโมทนาบุญ ความฝันของท่าน อ.อุบล และ ทุกท่านที่แสดงความคิดเห็น บอกเล่า เตือน ในทุกข้อความด้วยค่ะ สาธุ

     ข้าพเจ้าได้ฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติ เมื่อวันที่ 24-25 มิถุนา ที่ผ่านมา

     เช้าวันที่ 24 ฝันว่า ข้าพเจ้านั่งมองท้องฟ้าผ่า่นหน้าต่างบ้านที่ฝนกำลังตกหนัก เสียงก็ดังมาก เมฆก็ดำ ท้องฟ้าก็เป็นสีส้มเข้ม ในใจก็คิดว่า "นี่เราคิดดีแล้วหรือ ที่จะรอให้เกิดเหตุก่อน แล้วค่อยย้ายออกมา" (เพราะตอนนี้ที่บ้าน เริ่มประมาทแล้วล่ะค่ะ ติดตามข่าวเรื่องภัยพิบัติกันน้อยลง...เฮ้อ..)

      และเช้ามืดวันที่ 25 (หลังจากฝันแล้วตื่นมาตอนประมาณตี 5) ฝันว่า ข้าพเจ้ายืนอยู่บนตึกแห่งหนึ่ง มองลงมาแล้วเห็นเมืองๆหนึ่ง ที่มีตึกมากมายอยู่ติดๆกัน ทั้งตึกสูง ตึกเตี้ย บ้านเรือน อาคารต่างๆ ถนนหนทาง ซอกซอยมากมาย แต่เมื่อมองเข้าไปชัดๆแล้วจะเห็นว่า  มีน้ำท่วมขังอยู่ระดับหนึ่ง ไม่นานน้ำก็ค่อยๆลดลง จากนั้นก็มีหมอกขาวๆหนามากเกิดขึ้น(มันเหมือนผุดขึ้น เร็วมากค่ะ) ไม่นานก็ปกคลุมไปเกือบทั่วทั้งเมือง หลังจากนั้นก็มีน้ำมาจากด้านหนึ่งซัดเข้ามาแรงและเร็วมาก (ทั้งๆที่เมืองนั้นยังปกคลุมไปด้วยหมอกขาวหนายั่งงั้นน่ะนะ) ข้าพเจ้ามองไม่เห็นสภาพเมืองมากนักขณะที่เกิดเหตุเพราะเห็นแต่หมอกปกคลุมไปเกือบทั่ว ในใจตอนนั้นก็คิดว่า "ถ้าเป็นแบบนี้ที่นั่นต้องมีคนบาดเจ็บ ล้มตายมากแน่เลย" หลังจากนั้นไม่นาน... ก็ตื่นขึ้นมามองดูนาฬิกาค่ะ

     ข้าพเจ้าอาจจะคิดมากไป เลยฝันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ยังไงก็ให้ทุกๆท่านอย่าประมาทนะค่ะ ขอโทษที่มาเล่าช้าไปเป็นสัปดาห์เลย... สวัสดีค่ะ

อนุโมทนากับคำแปลความฝันของท่านอ.อุบล

เวอร์ชั่นของคุณเกรียติศักดิ์ ด้วยนะค๊า  จะเห็นได้ว่า

ต้นไม้หนึ่งลำต้น สามารถแตกกิ่งก้านสาขาได้รอบทิศทางทีเดียว

ซึ่งแต่ละกิ่ง แต่ละใบก็ล้วนแล้วแต่โน้มเข้าหาแสงสว่างทั้งสิ้น

ฉะนั้น ไม่ว่าจะแปลไปในแง่มุมใด ผู้อ่านก็ได้ธรรมะไปพิจารณาทั้งนั้น..

กลายเป็นองค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ ยังประโยชน์แก่ผู้เขียนและผู้อ่าน.. อนุโมทนาค่ะ

และขออนุโมทนากับคุณ วทันยา และ กระทู้ที่คุณ ชัชวลีนำมาโพสต์ด้วยนะคะ

เคยอ่านมาบ้างเหมือนกันในเว็บพลังจิต

และอนุโมทนากับความฝันจากคุณ โฆษิต

คุณ รภัทภรและทุกๆท่านด้วยค่ะ สาธุ 

ขออนุญาตพ่อใหญ่ธนาค่ะ..

กราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ สาธุ..

ขออนุญาตนำโอวาทธรรมะของท่านอ.อุบล

ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ค.54       มาให้แก่ลูกๆบ้านสวนทุกคนค่ะ

**รหัส..อ.อุบล ช่วยด้วย..เป็นรหัสลับของจักรวาล**

1.หนังสือนิพพานที่อ.แจกไปต้องอ่านให้ครบภายใน 3 วัน

2.จักรวาลได้ส่งผู้มีบุญได้มาฉุดช่วยโลก..เป็นจำนวนมาก..ส่วนใหญ่ที่ลงมาแล้ว

และไม่สามารถดำเนินการต่อได้**เพราะหลงอัตตา หลงลาภสักการะ**

3.ตอนนี้มิติต่างๆได้เปิดที่บ้านสวน

4.ข้อนี้สำคัญ..ผู้ที่ลงมาทำหน้าที่ได้มาฉุดช่วยโลก..ต้องไม่ยึดตัวตน..ผลของการจริงใจที่ปกป้องบ้านสวนจะทำให้พบกับความอัศจรรย์เพื่อเป็นการยืนยันว่า**จักรวาลทั่วโลกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน**

5.จิตที่ออกจากฌาณ4..ถึงจะออกไปนิพพาน หรือเป็นพรหมได้

6.การละนิวรณ์ นั้นมีดังนี้

         6.1 ต้องละความโกรธ ความอาฆาตได้

         6.2 พิจารณาดูจิตยังรำคาญสิ่งที่มากระทบภายนอกอยู่ได้หรือไม่

         6.3 ยังสงสัยในผลของการปฏิบัติ

         6.4 ยังหลงในรสอร่อย กลิ่นหอม หลงความสวย..

         6.5 ยังมีความง่วงงาวหาวนอน ขี้เกียจ

7.ประโยชน์การฝึกกสิณ..

        7.1 เป็นวิธี ฝึกจิตให้เป็นอัตโนมัติให้มีปัญญารู้ด้วยตนเอง

        7.2 เพื่อก้าวข้ามจากกสิณธรรมดา

8.การฝึกวิปัสสนากรรมฐาน

        8.1 สมถะ ..เพื่อยับยั้งพฤติกรรมได้**แต่ไม่พ้นทุกข์**

        8.2 วิปัสสนากรรมฐาน..เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาหามูลเหตุความดี และชั่ว             (ไม่มีความรู้สึกใดๆต่อปัญหาที่เกิดขึ้น)

9.ถ้ายังอยากไปนิพพานจะไปไม่ได้..***แต้ต้องทำทุกอย่าง เตรียมคุณสมบัติ..หาหนทางเตรียมตัวไปให้ได้..ไม่ใช่อยากอย่างเดียว**ให้เราใช้จิตอย่างชาญฉลาดเพราะใกล้ที่จะตายแล้ว

10. ***การซ้อมตาย***ให้พิจารณาต่อว่า  ตายก็ดีจะได้ไปนิพพาน.ไม่สนใจว่าจะเกิดภัยพิบัติวันไหน..วันที่จะเกิดคือวันที่เราประมาท**

11. การมาบ้านสวน..คนที่ยังลำบาก..ไม่ต้องเอาอะไรมา..ไม่ต้องซื้ออะไรมา..ให้มาใช้แรงกาย..แล้วทำการค้นหากรรม..อุทิศบุญ (ไม่ต้องขอค่ะ)

12. **ขอให้ทุกท่านได้ซ้อมตายและออกฌาณ4**

      .. โดยตั้งจิตอธิษฐาน..ขอบารมีพระพุทธองค์..ช่วยนำพาจิตเข้าเฝ้าพระองค์

ขอทิ้งร่างกายนี้เลย ซึ่งก่อนตายจะมีเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น..ถ้าตัดไม่ได้..ขอบุญกุศลที่ทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้ช่วยด้วย..ดวงจิตจะได้ไปสู่สุคติภูมิ สวรรค์ชั้นต่างๆ หรืออาจเป็นพรหม..

13.เรื่องทุกข์ เช่น 1.การเงิน 2.การเจ็บป่วย ถ้ายังละ 2 สิ่งนี้ไม่ได้ก็ละกิเลสไม่ได้

14.การมีหนี้ทำอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์ ทำอย่างไรให้มีสุขกับการใช้หนี้

15.การกอบกู้จักรวาล..ผู้ช่วยอ.ลูกบ้านสวน อาจต้องมีหน้าที่บำบัดทุกข์

คนที่มารักษาโรค..โดย

                 15.1 ให้กรอกเอกสาร

                 15.2 ให้สารภาพหน้ากล้อง

                 15.3 ให้อุทิศบุญกุศล

***จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องมาบ้านสวนก็ได้..

ให้ทุกท่านพิจารณาว่า หลักคำสอนถ้าผิดจากศีล 5 หรือวิธีการที่ต้องใช้เงินทอง..

ไม่ใช่แน่ๆ อย่าเชื่อถือ..

สุดท้าย..ท่านอ.อุบล บอกว่าเวลาเราไปนิพพานไม่ได้เอาเสื้อผ้าไป เอาดวงจิตเท่านั้น

ขอให้ทุกท่านได้พิจารณา สังขาร ทั้งกายและจิตค่ะ สาธุ

ปล.เขียนมาเยอะมาก..จะมีคนอ่านจนจบมั้ยน้อ..พ่อมหานั่งใกล้ๆ..รอบนี้รอดตัวไป..อดชำเรืองข่อย..แต่ขอให้มาทำมาหากินซ่อยกันเด้อค่ะ

 จากใจ..นางงามจักรยานค่ะ(ภูมิใจนำเสนอเพราะท่านอ.ตั้งให้ค่ะ..อ.เมตตาอย่างแรงถามว่าจักรยานเอาไว้ทำอะไรจ๊ะ..ตอบว่าเอาไว้ถีบค่ะพร้อมกับส่งยิ้มค่ะ)

...ขอเอาบุญที่ร่วมสร้างวิหาร สมเด็จองค์ปฐม

และบุญทุกบุญที่ทำในบ้านสวนมา

....ให้ทุกท่านได้โมทนาบุญค่ะ..สาธุ

ขออนุโมทนา

กับทุกความฝันด้วยค่ะ

และอนุโมทนากับคุณสุริวรรณ์

ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 อนุโมทนาบุญทุกบุญกับคุณสุริวรรณ์ด้วยค่ะ

มีสิ่งดี ๆ  มาบอกกล่าวใครจะไม่อ่านหละค่ะ

ถ้าผู้อ่านสนใจอ่าน  ก็หวังว่าคงมีผู้ใจบุญนำสิ่งดี ๆ มาแบ่งกันนะคะ

สาธุ  สาธุ

โอ้..สาธุค่ะ น้องนิพาดา และน้องตาลค่ะ..

         ขอให้ได้บุญเท่ากันน่ะจ๊ะ สาธุ

ขออนุโมทนากับคุณสุริวรรณ์ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 โมทนากับพี่สุด้วยนะครับ

ส่วนของผมฝันถึงแต่พระบรมสารีริกธาตุอยู่บ่อยๆประมาณว่าให้นึกถึงพระเป็นปกติ ปฏิบัติตามที่ท่านสอน โดยเฉพาะ (ศีล5)  จะได้ปลอดภัยและ ยังฝันถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านแสดงลักษณะร่างกายของท่านให้กลายเป็นศพน่าเกลียดน่ากลัว ในฝันวิปัสสนาญาณผุดขึ้นมาว่า ในสุดท้ายร่างกายของเราก็เหมือนกับท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์ เป็นการตัดละวางขันธ์5 เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ บ้านสวนทุกท่านเร่งตัดกันบ่อยๆนะครับ และ ช่วงหลังๆจะฝันว่าเจอศพอยู่เรื่อยๆครับ

ขอโมทนากับทุกๆการบอกเล่าด้วยนะคะ

ขออนุโมทนากับคุณ สุริวรรณ์ และทุกๆท่าน ที่มาเล่าให้ฟังครับ

 ขอขอบคุณ คุณ ชัชวลี กะลัมพะเหติ เเละ คุณ สุริวรรณ์ ตีรวัฒนประภา เเละท่านทั้งหลาย กับข้อมูลดี ๆ  ครับ สาธุ

ส่วนของผมฝันถึงแต่พระบรมสารีริกธาตุ

อยู่บ่อยๆประมาณว่าให้นึกถึงพระเป็นปกติ

ปฏิบัติตามที่ท่านสอน โดยเฉพาะ (ศีล5) 

จะได้ปลอดภัยและ

ยังฝันถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

ท่านแสดงลักษณะร่างกายของท่านให้กลายเป็นศพน่าเกลียดน่ากลัว

ในฝันวิปัสสนาญาณผุดขึ้นมาว่า

ในสุดท้ายร่างกายของเราก็เหมือนกับท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์

เป็นการตัดละวางขันธ์5 เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ

บ้านสวนทุกท่านเร่งตัดกันบ่อยๆนะครับ

และ ช่วงหลังๆจะฝันว่าเจอศพอยู่เรื่อยๆครับ

..................................................

สาธุ  สาธุ  สาธุ

เบลล์ขอโมทนาด้วยนะครับคุณนพดล ชื่นเกษร

แม้ในเวลาหลับการทำดีก็ไม่หลับใช่หรือไม่ครับ

นี่เป็นเรื่องที่ดีมากนะครับ

ที่ความดีของเรามีตลอดได้บุญตลอด  24  ชั่วโมง

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของท่านอาจารย์อุบล

ขออนุโมทนาบุญกับคุณสุริวรรณ์และทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

 เรียนทุกท่านค่ะ..

ขอมอบข้อความนี้พิเศษสำหรับผู้ที่มีความเห็นผิด หรือเห็นต่างค่ะ(รู้ว่าท่านเข้ามาอ่านเช่นกันค่ะ)

ท่านอ.อุบล..แนะว่าให้สงสารเขา..และถ้าใครเข้ามาปรามาสบ้านสวน....เราต้อง

เมตตา+กรุณา เขาก่อนค่ะ..หรือทำเป็นเห็นพ้องต้องกันไปก่อน คือ เป็นพวกเดียวกัน

กับเค้าก่อนค่ะแล้วค่อยหาทางอธิบาย เพิ่มเติมว่า..กลุ่มบุคคลที่ทำอย่างนี้ หรือทำกับ

ใครก็ช่างที่เขาไม่รู้ข้อเท็จจริงโดยเฉพาะผู้มีบุญบารมี..

มักจะประสบแต่ปัญหา **ไม่ว่าการเงิน  การงาน  ความรัก ครอบครัว ความเจ็บป่วย **

ถ้าคุณอยากเป็นเหมือนเขาก็เชิญทำตามนั้นค่ะ

**เราจะไม่เสียเวลา เสียสมองส่วนหนึ่ง กับพวกที่..มีบ่าไว้ตั้งศีรษะอย่างเดียวค่ะ

เพราะเวลาเราเหลือน้อยมาก..

 **สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ**

ขอให้ได้บุญเท่ากันน่ะค่ะ สาธุ..

ขอให้บารมีบุญส่งผลให้ลูกบ้านสวน..คือ

คุณจรัญญะฌา..น้องเบลล์..คุณวีร์พสุตม์ ..คุณธนากร ..คุณหน่อย

ได้กายสังขารที่แข็งแรง มีกำลังใจ+กาย ที่เข้มแข็ง

เอาไว้ที่สร้างบารมีต่อๆไปค่ะ สาธุ..

ขอโมทนาบุญกับน้องเบลล์ด้วยค่ะ  สาธุ

สาธุเบลล์ขอโมทนาทุกประการครับพี่สุ

เมตตาเบลล์เหลือเกินครับขอบคุณนะครับ

พรใดที่พี่ให้น้องมาขอพรนั้นจง

เป็นของพี่สุเช่นกันนะครับ

ร้อยเท่าพันทวีนะครับ

ขออนุโมธนาบุญให้กับทุกๆความฝันด้วยนะคะ.....สาธุ  สาธุ  สาธุ     

มาอ่านกระทู้ต่างๆแล้ว.......   เมื่อเดือนที่แล้ว  ตัวเองได้ฝันว่า....มียานอวกาศ ลำใหญ่มากทีเดียว ลอยลงมา   และมารับเอา ตัวเองโดยการฉายแสงสีขาว ๆ ลงมา เหมือนในหนังเลยอ่ค่ะ  และตัวเองก็ได้ขึ้นไปอยู่บนยานด้วย แต่พบเห็นแต่ความว่างเปล่า..สีขาวๆ  ไม่พบใครสักคนเลย  ไม่มีอะไร  หรือ ใคร ๆ เลย   แล้วก็ อาจจจะตื่น.......เพราะจำไม่ได้อีก...  ในฝันยังดีใจ....แปลกใจ...และก็เกิดอาการกลัวด้วยนิดๆ  เพราะไม่พบใครเลย  คิดว่าทำไมนะ จึงไม่มีใครเลย... เขาจะนำเราไปที่ไหนน้า....แล้วจะเหมือนในหนังไหมนะ ที่เขามาจับเอามนุษย์ไปทดลอง อะไร ต่างๆ นา ๆ ...  ตื่นมายังเล่าให้ลูกสาวฟังเลย ว่าแม่ฝันเห็นยานอวกาศมารับขึ้นไปบนยานด้วย......ลูกสาวยังว่า  แม่  เพ้อเจ้อ รึเปล่า...ตัวเองก็ได้แต่คิดเสมอว่า ตัวเองคงจะเพ้อเจ้อไปเหมือนกับที่ลูกบอก  ฝันได้ประมาณ  1-2 ครั้ง  ตอนแรกก็คิดตามลูกว่า  เพ้อเจ้อ  แต่พอมาอ่านกระทู้ต่าง ๆแล้ว ก็เลยคิดว่า ตัวเราเองนี่นะถึงจะคิดเสมอว่าเป็นคนที่มีความไม่ดี  ถึงอาจจะมีบุญ บ้าง แต่ก็มีแค่น้อยนิด เพียงเท่านั้นเอง  แต่ท่านก็ยังให้โอกาส ได้ปรับปรุงตัวเอง  กลับใจเสียใหม่...ฉะนั้นแล้วไซร้ ....เราจะต้องรีบพยายามตามคนอื่นๆ  ไปให้ทัน ให้ได้  น่ะค่ะ

เรียนคุณน้องjeab ค่ะ..

ขอมอบความปราถนาดีมายังน้องค่ะ..ขออนุญาตแนะนำน้องดังนี้ค่ะ..

1.กรุณาแจ้งเปลี่ยน ชื่อ- สกุล จริงค่ะ ทันทีน่ะค่ะ**ที่อ่านจบ

2.เปลี่ยนแล้ว register เข้ามาใหม่ค่ะ

3. **ถ้ายังสงสัย เข้าอ่านกฏ กติกา สมาชิก ที่หน้าแรกค่ะ

      **อนุโมทนาบุญ ในบุญครั้งนี้ค่ะ  สาธุ **

ขอขอบคุณ พี่สุริวรรณ์ มากนะคะ

    พอดีเพิ่งจะมาเป็นสมาชิกใหม่อ่ะค่ะ  ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง ช่วย กรุณา เตือน ให้หน่อยนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างสูงอ่ะค่ะ  ตอนนี้เข้าไปเปลี่ยนมาแล้ว  ไม่ทราบว่า ทำถูกหมดรึยัง  จริงๆแล้วก็ ไม่ค่อยจะเข้าใจ อ่ค่ะิ  พยายามจะถามลูก เขาก็ไม่ค่อยอยากจะช่วยดูให้ อ่ะค่ะ  แต่คิดว่าตัวเองกรอกเอกสารตามความจริงหมดแล้วอ่ะค่ะ  ขอขอบคุณอีกสักพันครั้งนะคะ  อิอิ   สาธุ  สาธุ  สาธุ  ค่ะ