ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 901 (1561563)

 

น้ำท่วมหลายจังหวัด รับผลกระทบจากพายุนกเตน
 
 

อิทธิพลพายุนกเตน ทำให้หลายจังหวัดฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ เชียงใหม่ แพร่ ลำปาง น้ำท่วมขยายวงกว้าง
จังหวัดลำปาง
น้ำป่าลงลำห้วยแม่ต๋า และลำน้ำแม่สอย จนเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าวและไร่ข้าวโพด ในเขตเทศบาลตำบลแจ้ห่ม ตำบลวิเชตนคร และตำบลเมืองมาย อำเภอแจ้ห่ม
ส่วนที่อำเภอแม่เมาะ น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านห้วยเป็ด บ้านหางฮุง บ้านสบเมาะ บ้านปงชัย และบ้านห้วยคิง น้ำมาอย่างรวดเร็วพัดทรัพย์สินของชาวบ้านสูญหายไปกับน้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บ้านหางฮุง และบ้านห้วยเป็ด บางจุดกระแสน้ำไหลเชี่ยวไม่สามารถใช้เรือยางได้ ต้องใช้คนโยงเชือกเข้าไปนำตัวชาวบ้านออกมายังที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักยังทำให้ระดับน้ำวังเพิ่มสูงขึ้น โดยในส่วนของเขตเทศบาลนครลำปาง สูงกว่า 60 เซนติเมตร ขณะที่เขื่อนกิ่วลม ได้ทำการปล่อยน้ำเหนือเขื่อน ในปริมาณ 400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะทำให้น้ำที่ผ่านแม่น้ำวังไหลเชี่ยว และปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงย้ำเตือนประชาชนที่อยู่ใกล้น้ำให้เพิ่มความระมัดระวัง
จังหวัดแพร่...น้ำป่าเข้าท่วมหลายจุดของอำเภอลองแล้ว เช่น ที่วัดสะแล่ง ตำบลห้วยอ้อ พระสงฆ์ต้องเก็บข้าวของหนีน้ำกันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ก.ค.) ขณะที่สะพานข้ามลำห้วยโป่งหมื่น น้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร จนปิดเส้นทางเข้าออกวัด นอกจากนี้ที่บ้านแม่ลู้ หมู่ 7 ตำบลแม่ปาน ชาวบ้าน 43 ครอบครัวต้องหนีมาอาศัยถนนสายแม่ลู้-แม่ปาน เป็นที่พักชั่วคราวหลังน้ำป่าและน้ำยมหนุนสูง ขณะที่เส้นทางการรถไฟระหว่างสถานีรถไฟบ้านปิน และสถานีแก่งหลวง ใช้การไม่ได้ หลังรางรถไฟถูกน้ำท่วม
จังหวัดเชียงใหม่...น้ำป่าจากห้วยแม่ฮ่องฮัก ทะลักท่วมถนนสายเชียงใหม่ดอยสะเก็ด บ้านเรือน ไร่นาของเกษตรกรที่อยู่ริมสองฝั่งลำห้วยถูกน้ำท่วมสูง รวมทั้งที่ทำการไปรษณีย์อำเภอดอยสะเก็ดก็ถูกน้ำท่วมสูง และน้ำจากอำเภอดอยสะเก็ดได้ไหลบ่าลงไปยังพื้นที่ของอำเภอสันกำแพง ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอสันกำแพง มีบ้านเรือนนับร้อยหลังคาเรือนถูกน้ำท่วม
จังหวัดน่าน...น้ำกัดเซาะถนนทางเข้าหมู่บ้านสบแก่น ตำบลนาปัง อำเภอภูเพียง เป็นแนวยาวและบางจุดถนนยังแตกร้าวอีกด้วย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา...น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา สูงขึ้นอีก 10 เซนติเมตร ทางสำนักงานเจ้าท่า ย้ำเตือนเรือขนสินค้า ให้ระวังช่วง 2 โค้งอันตราย คือ โค้งชลประทานบางบาน ช่วงผ่านสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หรือสะพานหัวดุม ตำบลภูเขาทอง และโค้งหัวแหลม ตำบลประตูชัย เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว
จังหวัดหนองคาย...น้ำท่วมในเขตตัวเมือง คลี่คลายไปมาก หลังเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำถุงยังชีพขึ้นรถบรรทุกหกล้อ ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนบริเวณซอยดอนดู่, หมู่บ้านเทพปราณี ซึ่งน้ำท่วมสูง
จังหวัดนครพนม...น้ำป่าจากภูลังกา ลงลำห้วยเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ในตำบลนางัว และตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านพืชผล ตำบลไผ่ล้อม ต้องหยุดการเรียนการสอน หลังน้ำป่าเข้าท่วมขังอาคารเรียนทุกหลัง

-

พายุพัด ระยองบ้านพังเสียหายกว่า 100 หลัง 
  

1 สค. 2554 17:13 น.

เวลา 11.30 น. จังหวัดระยอง ได้รับอิทธิพลจากพายุนกเตน พัดถล่มพังบ้านของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแกลง เสียหาย นอกจากนี้ยังทำให้สวนผลไม้ของชาวสวนเสียหาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบสภาพบ้านเรือนของชาวบ้านหมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 6 และหมู่ 8 ตำบลพังราด อ.แกลง พังเสียหายไปกว่า 100 หลังคาเรือนเนื่องจากได้รับอิทธิพลพายุนกเต็นพัดถล่มเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ นอกจากนี้สวนผลไม้ เช่น เงาะ ทุเรียน อายุกว่า 30 ปี ยังถูกพายุนกเต็นดังกล่าว พัดถล่ม ทำให้โค่นล้มไปกว่า 200 ไร่ด้วยกัน ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากเห็นพายุหมุนเป็นงวงช้างมาซ้อนกันถึง 3 ลูก มาเพียงไม่กี่นาที ทุกอย่างก็อย่างที่เห็น บ้านพังและสวนผลไม้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ลังเกิดเหตุทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำโดยนายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดอำเภอแกลง ก็ได้สำรวจ และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยได้ประสานองค์การบริหารส่วนตำบลพังราด ให้จัดหาซื้อกระเบื้องให้ชาวบ้านไปแก้ไขปรับปรุงหลังคาบ้านแล้ว รวมกว่า 2,300 แผ่นแล้ว ส่วนความเสียหายในสวนผลไม้ ก็จะได้ประสานให้เกษตรอำเภอออกมาสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

-------------------------------------------------------

น้ำปายเอ่อล้นไหลเข้าท่วมไร่ นา 500 ไร่ 
  

1 สค. 2554 18:25 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่อำเภอปาย ปางมะผ้า และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ทำให้ปริมาณน้ำจากอำเภอปาย ไหลลงสู่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ในช่วงบ่ายวันนี้ 1 สิงหาคม 2554 ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำปายเพิ่มสูงขึ้นอย่างราวเร็ว เข้าท่วมพื้นที่ไร่ นา ของราษฏรตำบลปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอนเป็นจำนวนมาก
นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปดูสถานการณ์ปริมาณน้ำในลำน้ำปาย ที่บริเวณถนนเสี่ยงเมือง 108 สะพานปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ กล่าว ว่า “ ขณะนี้ปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ไร่ -นา ของเกษตรกรบ้านปางหมู กว่า 500 ไร่ และถนนสายเสี่ยงเมือง 108 ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 15 - 20 ซ.ม. ยาวประมาณ 400 เมตร รถยนต์ยังสามารถผ่านได้ สำนักงานแขวงการทางแม่ฮ่องสอน ได้นำป้ายมาปักเตือนประชาชนที่ใช้ถนนสาย ฯ ดังกล่าวว่ามีน้ำท่วมถนน
ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประกาศผ่าน สถานีวิทยุกระจายเสี่ยงแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ประชาชนเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยงให้ขึ้นมาอยู่บนพื้นที่สูงโดยด่วน เพราะเกรงว่าในช่วงกลางคืนปริมาณน้ำอาจจะเพิ่มอย่างต่อเนื่องก็เป็นได้
------------------------------

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:32:05


ความคิดเห็นที่ 902 (1561565)

"โพนนาแก้ว" จ.สกลนคร เจอหนักฤทธิ์ "นกเตน"

วันที่ 01/08/2554 20:41 (ผ่านมา 32 นาที)



ที่จ.สกลนครผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมพื้นที่การเกษตรจังหวัดสกลนคร ได้รับผลกระทบน้ำท่วมแล้ว 9 อำเภอ สำหรับ อ.โพนนาแก้ว ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักที่สุด มีพื้นที่การเกษตรจมใต้น้ำแล้วหลายหมื่นไร่
ที่จ.นครราชสีมา นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมเรือท้องแบนเครื่องสูบน้ำ รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำ รถไฟฟ้า ส่องสว่าง เครื่องจักรกลขนาดหนัก เครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ไว้ให้การสนับสนุนตามที่มีการ ร้องขอ สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ ปภ. เขต 5 นครราชสีมา และสำนักงาน ปภ.จังหวัด โทรศัพท์สายด่วนนิรภัย1785

----------------

สันกำแพงอ่วม น้ำสูง1เมตร เร่งช่วยเหลือ ปชช.

 





ภัย "นกเตน" ส่งผลให้สันกำแพงอ่วมหนัก ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ รร.ต้องปิดการเรียนการสอนกะทันหัน ขณะที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มต่อเนื่อง บาแห่งสูง 1 เมตร...

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 1 ส.ค. นายบำเพ็ญ บินไทยสงค์ นายอำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ พร้อมนายสุเทพ ปัญญาแก้ว นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันกำแพง ได้นำเจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ที่ได้รับผลกระทบพายุนกเตนทำให้ฝนตกลงมาอย่างหนักเสียหายแทบทุกตำบลในอำเภอสันกำแพง เบื้องต้นได้ออกสำรวจ และช่วยเหลือประชาชน ขนของหนีน้ำซึ่งไหลมาอย่างรวดเร็ว ทั้งในเขตเทศบาลตำบลสันกำแพง และนอกเขต ทำโรงเรียนหลายแห่งในอำเภอสันกำแพง ต้องปิดลงอย่างกะทันหัน ส่วนความเสียหายคงจะมีมากตามมาซึ่งในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ทางอำเภอจะได้รับรายงานจากเทศบาล อบต.กำนันผู้ใหญ่เป็นการด่วน
นอกจากนี้ ทางกาชาดจังหวัดและอำเภอกำลังจัดเตรียมถุงยังชีพ เพื่อจะนำไปแจกจ่ายให้ผู้ที่ได้รับความเดือดก่อน ส่วนเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้นำเรือท้องแบบมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่รายงานข่าวยังไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องบางแห่งระดับน้ำสูงถึง 1 เมตรส่วนรถทุกชนิดได้ติดยาวนับกิโลเมตรที่เข้ามาในอำเภอสันกำแพง.

---------------

รฟท.หยุดเดินรถ กรุงเทพ-เชียงใหม่ 4 ขบวน เหตุน้ำท่วมทางรถไฟ


วันนี้(1 ส.ค.) นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟในเส้นทางสายเหนือ ว่า ฝนที่ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้เส้นทางรถไฟขบวนสายเหนือได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต้องประกาศงดเดินขบวนรถที่ออกจากกรุงเทพ คือ
1. ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 11 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 18.00 น.
2. ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 18.10 น.
3. ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 13 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 19.35 น.
4.ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ออกกรุงเทพ เวลา 22.00 น.
ส่วนขบวนรถเร็วที่ 109 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นขบวนรถไฟฟรี ออกจากกรุงเทพ เวลา 14.30 น. เดินรถได้ถึงสถานีเด่นชัยเท่านั้น โดยไม่มีการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ ซึ่งผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางได้สามารถติดต่อขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้ เต็มราคาที่นายสถานีรถไฟทุกแห่งโดยผู้โดยสารติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ทาง เว็บไซด์รฟท.
WWW.RAILWAY.CO.TH หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:37:03


ความคิดเห็นที่ 903 (1561566)

ชัยนาท-เขื่อนเจ้าพระยาเตรียมพร่องน้ำรับน้ำเหนือ

 

ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 คาดน้ำเหนือจะไหลบ่าลงมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในอีก 10 วันข้างหน้า เตรียมพร้อมระบายน้ำออกจากเขื่อน และพร่องน้ำลดผลกระทบพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน

นายฎรงค์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 กล่าวว่า ก่อนที่พายุนกเตนจะพัดผ่านประเทศไทย ได้มีฝนตกมาก่อนหน้าแล้ว โดยเฉพาะในภาคเหนือมีปริมาณน้ำอยู่มากพอสมควร ส่วนเขื่อนเจ้าพระยาได้ทำการพร่องน้ำไว้แล้วเพื่อเตรียมพร้อม ขณะนี้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 14.80 ม.ร ทก. ท้ายเขื่อน 12.42 ม.รทก. ระบายน้ำ 1,172 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังจากเกิดพายุนกเตนมีฝนตกจำนวนมาก จะทำให้มีน้ำเหนือไหลมาเพิ่มอีกประมาณวันที่ 7-10 สิงหาคม ในวันนี้ (1 ส.ค.) น้ำที่ระบายที่สถานีวัดน้ำ C2 นครสวรรค์ ประมาณ 1,493 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าช่วงที่น้ำมาจะมีน้ำผ่านถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นอกจากระบายออกท้ายเขื่อนแล้ว ยังมีการระบายออกแม่น้ำสายต่างๆทั้งซ้ายและขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรจำนวน 5 ล้านไร่ พื้นที่การเกษตรดังกล่าวมีปริมาณฝนไม่มากจึงทำให้การบริหารจัดการน้ำได้ง่ายขึ้น และจะระบายออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด คือ ประมาณ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ปัจจัยที่อาจจะต้องมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้น คือมีพื้นที่นาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว และไม่สามารถระบายน้ำเข้าพื้นที่ได้ อาจจำเป็นต้องระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ก็จะเริ่มมีผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท้ายเขื่อน เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง สำหรับการรับมือไม่ให้น้ำมีผลกระทบต่อกรุงเทพฯมีมาตรการอีก คือ หลังเดือนกันยายนเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว จะระบายน้ำเข้าทุ่งให้ได้มากที่สุดซึ่งตรงนี้จะช่วยลดผลกระทบได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:38:41


ความคิดเห็นที่ 904 (1561567)

พบโลมาตายเกยตื้นบริเวณตากอากาศบางปู

 

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากโลมมาเสียชีวิต มาเกยตื้นติดอยู่ที่ริมเขื่อนหินหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่โครงการอนุรักษ์โลมาในอ่าวไทย ตอนใน องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลหรือ WWF ประจำประเทศไทย กำลังตรวจสอบซากโลมาที่เสียชีวิตตัวดังกล่าว ซึ่งมีความยาวประมาณ 120 เซนติเมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโลมาที่ยังไม่โตเต็มที่ และอาจถูกคลื่นลมของพายุซัดขึ้นมาติดบนเขื่อนหินจนเสียชีวิต

 

 

นางสาวสายสุนีย์ จักษุอินทร์ ผจก.โครงการอนุรักษ์โลมาในอ่าวไทย ตอนใน กล่าวว่า ซากโลมาที่พบในวันนี้ เป็นโลมาหัวบาตรหลังเรียบ ขนาดลำตัวมีความยาว 1.20 เมตร ซึ่งยังไม่โตเต็มที่แต่ไม่ใช่ลูกโลมา จากการพิสูจน์เบื้องต้น พบว่าผิวหนังภายนอกไม่มีบาดแผล มีเพียงลอยถลอกซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเสียชีวิต และจากการผ่าพิสูจน์พบว่าในกระเพาะอาหารและลำไส้ของโลมาตัวดังกล่าว ไม่พบอาหารมีแต่เศษปากปลาหมึกที่ตกค้างอยู่ คาดว่าจะเป็นอาหารที่กินเข้าไปเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมา ส่วนบริเวณปอดไม่พบอาการผิดปกติ คาดว่าโลมาตัวดังกล่าว อาจจะป่วย หรือถูกคลื่นพายุซัดเข้าสู่ฝั่ง และเกยตื้นบนเขื่อนหิน จนทำให้กลับลงทะเลไม่ได้ และเสียชีวิตดังกล่าว

 

-----------------------------------------

 

ฝรั่งถ่ายปั๊บ! วัตถุลึกลับสว่างจ้า เหนือโฮจิมินห์


 


มันคืออะไรกันแน่?-- ตลอด 7 วันที่ผ่านมาถึงวันนี้ ผู้เข้าไปชมคลิปชิ้นนี้กว่า 354,000 ครั้ง ผู้นำขึ้นโพสต์ กล่าวว่า ถ่ายจากอพาร์ตเมนต์ในเขต 3 นครโฮจิมินห์
       
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ชาวเว็บในเวียดนามเช่นเดียวกับในทั่วโลก กำลังโจษจันเกี่ยวกับคลิปสั้นๆ ชิ้นหนึ่งที่มีผู้นำขึ้นโพสต์ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏเป็นลำแสงสว่างจ้า เคลื่อนที่ในแนวนอน ในท้องฟ้าเหนือนครโฮจิมินห์ ก่อนจะเร่งความเร็วหายไปในพริบตา
       
สำนักข่าวออนไลน์หลายแห่งในเวียดนาม นำคลิปออกเผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากผู้ที่ใช้ชื่อ “อันตวนปัลลาร์” (Antoinepallard) นำขึ้นเผยแพร่ในวันจันทร์ 25 ก.ค. โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ถ่ายเอาไว้ได้เวลาประมาณเที่ยงคืนวันอาทิตย์ จากอาคารพาร์ตเมนต์ในเขตอำเภอที่ 3 แต่เจ้าตัวไม่ได้ยืนยันว่าเป็นอะไร
       
ในคลิปความยาวเพียง 25 วินาทีนี้ ยังมีเสียงสนทนาของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งถกเถียงกันว่าที่เห็นเป็นลำแสงอยู่นั้น เป็นวัตถุบินลึกลับ หรือ ยูเอฟโอ (Unidentified Flying Object) หรือไม่
       
“ผมไม่ทราบว่ามันเป็นยูเอฟโอหรือไม่” เจ้าตัวซึ่งเป็นผู้นำคลิปขึ้นโพสต์ในยูทิวบ์กล่าว และ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมคลิปกว่า 350,000 ครั้ง คนจำนวนมากเข้าไปถกเถียงกันแสดงความสงสัยเกี่ยวกับวัตถุลึกลับในคลิปชิ้นนี้
       
ปีที่แล้วเคยมีเรื่องฮือฮาคล้ายกันนี้ในท้องฟ้าเหนือกรุงฮานอย มีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก และมีผู้ถ่ายคลิปเอาไว้ความยาวหลายนาที แต่ทางการยืนยันว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากลำแสงแห่งดวงอาทิตย์กระทบกับไอร้อนจากเครื่องยนต์ของเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง ในยามพลบค่ำ ทำให้มองดูเป็นลำแสงประหลาดสีแดงส้ม

 

----------------------------------------------------------------

น้ำท่วมเวียงจันทน์ ผลงาน “นกเตน” ลาวเหนือส่อเค้าเละ



ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทุกอย่างเป็นไปตามที่พยากรณ์ล่วงหน้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พายุนกเตนที่พัดเข้าสู่ภาคภาคเหนือกับภาคกลางของลาว แม้จะอ่อนกำลังลงเป็นเพียงดีเปรสชัน ก็ยังทำให้เกิดน้ำท่วมสูงถนนในนครเวียงจันทน์ และ ฝนตกทั้งวันทั้งคืนในคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา
       
วิดีโอคลิปที่มีผู้นำขึ้นโพสต์บนยูทิวบ์ เมื่อวันอาทิตย์ 31 ก.ค.2554 ได้แสดงให้เห็นน้ำท่วมในระดับสูงบนถนนสายหนึ่งที่เข้าใจว่า เป็นย่านที่อยู่อาศัยชั้นในของนครเวียงจันทน์ ผู้ถ่ายทำนั่งพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ “คูโบต้า” ลากจูง สองข้างทางมีรถยนต์จอดเสียหลายคัน และรถติดบนท้องถนน เนื่องจากหลายคันเครื่องยนต์ดับจอดนิ่ง
       
“ทุกๆ แห่งเต็มไปด้วยน้ำจากพายุโซนร้อนนกเต็นที่พัดเข้าลาว” ผู้ที่ใช้นามว่า choccohoney22 ที่นำคลิปขึ้นโพสต์บนเน็ตเขียนบรรยายลงใต้วิดีโอคลิป ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า ถ่ายทำเมื่อวันอาทิตย์ขณะที่ฝนยังตกโปรยปราย หลังจากตกมาข้ามคืนข้ามวัน และเข้าใจว่าจะยังไม่หยุดตกในอีกวันหรือสองวันข้างหน้า
       
พายุนกเตนพัดเข้าจังหวัดภาคกลางตอนบนและภาคเหนือตอนล่างเวียดนาม ในคืนวันเสาร์ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะพัดเข้าสู่ดินแดนลาวในกลางดึกวันเดียวกัน ตามเส้นทางพายุไห่หม่าในสัปดาห์ปลายเดือน มิ.ย.
       
พายุลูกที่แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คนในเวียดนาม กับอีกอย่างน้อย 12 ราย ในแขวงเซียงขวาง บอลิคำไซ และแขวงไซยะบูลี ของลาว สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เส้นทางคมนาคม ถนนใช้การไม่ได้หลายสายสะพานหลายแห่งถูกน้ำพัดหายไปหรือพังลงตัดขาดการคมนาคมระหว่างแขวง
       
ลาวยังคงเยียวยาความเสียหายและช่วยเหลือราษฎรนับหมื่นคนที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกที่แล้ว ขณะที่สื่อของทางการยังไม่รายงานความเสียหายที่เกิดจากพายุลูกล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแขวงภาคเหนือ ที่มีโอกาสจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก กับภัยพิบัติอื่นๆ เช่นเมื่อครั้งที่แล้ว
       
ไห่หม่าสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างขึ้นไปจนถึงแขวงหัวพันติดชายแดนภาคเหนือเวียดนาม และ ใต้ลงไปจนถึงแขวงคำม่วนในภาคกลาง สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้
       
“นกเตน” เป็นชื่อไต้ฝุ่นในแปซิฟิกตะวันตกที่ตั้งตามชื่อในภาษาลาว ซึ่งหมายถึง “นกกระเต็น” ในภาษาไทย
       
ไต้ฝุ่นนกเตนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คนในฟิลิปปินส์ ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้และซัดตรงๆ เข้ากลางเกาะไหลำและเคลื่อนเข้าเวียดนาม
       
ยังไม่ทราบความเสียหายในจีน แต่สำหรับเวียดนามจนถึงวันจันทร์ 1 ส.ค.นี้ พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย พายุยังสร้างความเสียหายอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่ทางการกำลังเร่งสำรวจ


ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2554 15:50 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:41:00


ความคิดเห็นที่ 905 (1561569)
สถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสาน-เหนือ ยังน่าเป็นห่วง




การรถไฟต้องยกเลิกการเดินรถสายเหนือทุกขบวนหลังฝนที่ตกหลายพื้นที่ทำให้เกิดดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ขณะที่หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคเหนือถูกน้ำป่าเข้าท่วม โดยที่จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องอพยพชาวบ้านหนีน้ำไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ ต้องเร่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง 5 หมู่บ้าน ในตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ไปพักอาศัยยังแฟลตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ หลังน้ำอ่างเก็บน้ำท่าสียังคงล้นอ่างเข้าท่วมพื้นที่

ขณะที่ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา และ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วม เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก และอุตรดิตถ์ ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ แม้ว่าฝนจะหยุดตก แต่ยังมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำของเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยเฉพาะที่ชุมชนศรีปิงเมือง และ ชุมชนตลาดประตูก้อม ตำบลหายยา ขณะเดียวกันฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ยังทำให้เกิดดินสไลด์ปิดทับรางรถไฟ จนการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องยกเลิกเดินรถสายเหนือทุกขบวน

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังทรงตัวแต่ทางจังหวัดได้สั่งทุกอำเภอติดตามสถานการณ์น้ำป่าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่อำเภอปาย ที่มีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านแม่ของ และ บ้านนาจร ตำบลแม่นาเติง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพนักท่องเที่ยวไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ขณะที่จังหวัดอุดรธานีปริมาณน้ำจากลำน้ำโสมเข้าท่วมตำบลโนนทอง อำเภอนายูง สูงกว่า 1 เมตร และ ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น เช่นเดียวกับตำบลหนองแวงที่ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง โดยทางจังหวัดประกาศพื้นที่เสี่ยงภัยจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันแล้ว 146 หมู่บ้าน ใน 57 ตำบล 19 อำเภอ

เช่นเดียวกับตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม และ เขตรอบนอกอำเภอเมือง จังหวัด สกลนคร และ อำเภอโพนนาแก้ว ที่ถูกน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือน และ พื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

ส่วนจังหวัดเลยสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอเชียงคาน นาด้วง ปากชม และ อำเภอเมือง เริ่มคลี่คลาย แต่ทางจังหวัดยังแจ้งเตือนให้ชาวบ้านริมแม่น้ำเลยเฝ้าระวังต่อไปอีกระยะ

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบการระบาดของโรคฉี่หนูและโรคตาแดง ส่วนการป้องกันเหตุน้ำท่วมได้ให้แต่ละจังหวัดเตรียมแผนการป้องกันไว้แล้ว เช่นการป้องกันน้ำท่วมสถานพยาบาลสำรองยาที่จำเป็นการอพยพผู้ป่วย และ การออกหน่วยบริการประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมในปีที่แล้ว


Thaipbs
01/08/2011 - 19:58



เกาะติด นํ้าท่วม พายุนกเตน



เกาะติดสถานการณ์นํ้าท่วมจากอิทธิพลพายุนกเตนพัดผ่านประเทศไทย

1 ส.ค. 2554

รัฐบาล 18.02 น.  ครม.ไม่ได้อนุมัติงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ แต่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในการจัดการปัญหาน้ำท่วมขัง ฟื้นฟูความเป็นอยู่ ตลอดจนแก้ไขปัญหาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เสียหาย ด้านกรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานการคาดการณ์ว่าในปีนี้น้ำจะมามากกว่าปกติ ขอให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 17.43 น. วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยได้รายงานสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยที่เกิดจากผลกระทบจากพายุนกเตนต่อ ครม.ว่าขณะนี้มีทั้งหมด 10 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาจขยายไปในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

จันทบุรี  17.13 น. ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ 5 หมู่บ้าน ในตำบลลางกะไชย ถูกลมฝนพัดกระหน่ำ หลังคาบ้านที่เป็นกระเบื้องปลิวไปกับพายุลมแรง นอกจากนี้มีเสาไฟฟ้าล้มจำนวน 2 ต้น และต้นไม้ล้มหักโค่นกีดขว้างถนน บ้านบางหลังกระเบื้องหลังคาถูกแรงลมพัดปลิวหายไปเสียหายกว่า 100 แผ่น โดยยังมีร้านขายอาหารกุ้ง กระเบื้องหลังคาปลิวหายไปกว่า 200 แผ่น อาหารกุ้งถูกน้ำฝนเสียหายกว่า 300-400 กระสอบ หลังทำการตรวจสอบพบบ้านเรือนเสียหายจำนวน 42 หลัง ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนหนัก

ลำปาง 16.55 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาล และ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ เร่งอพยพชาวบ้าน หมู่บ้านหางฮุง และ ห้วยเป็ด ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ออกจากพื้นที่ หลังน้ำจากห้วยแม่เมาะไหลทะลักเข้าท่วมตั้งแต่เช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมประสานงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปางเพื่อขอสนับสนุนเรือท้องแบน รวมทั้งรถยนต์ขนาดใหญ่ เข้าไปช่วยผู้ประสบภัย  ส่วนระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แม่ฮ่องสอน 16.10 น. ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายผลผลิตทางการเกษตรหนีน้ำ หลังแม่น้ำปายเอ่อท่วมบ้านทุ่งกองมู และ บ้านสบสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ล่าสุดนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนสั่งนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอติดตามสถานการณ์น้ำป่าอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะที่อำเภอปาย หลังน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตำบลแม่นาเติง นํ้าท่วมสูง รีสอร์ตกว่า 10 หลังได้รับผลกระทบนักท่องเที่ยวบางส่วนติดค้างอยู่ในที่พัก จนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปอยู่ในที่ปลอดภัย

เชียงใหม่ 15.30 น. เหนือนํ้าเชี่ยวจัด รางรถไฟสายเหนือขาด ไปไม่ถึงเชียงใหม่ สถานีรถไฟเชียงใหม่คืนเงินค่าตั๋วผู้โดยสาร รอดูสถานการณ์

หนองคาย  14.33 น.น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมตัวเมือง โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจบางจุด ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้น้ำยังท่วมสถานีขนส่ง เจ้าหน้าที่ต้องตั้งโต๊ะขายตั๋วริมถนนพนังชลประทาน สายหนองคาย-โพนพิสัย ส่วนที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม น้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติภูลังกา ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน 20 หมู่บ้าน ชาวบ้านกว่า 1,000 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โรงเรียนต้องประกาศหยุด 2 แห่ง

อุดรธานี 13 .56 น. ฝนตกหนัก อำเภอเมือง เขตเทศบาล เกิดน้ำท่วมบนถนนกว่า 10 สาย ระดับน้ำสูงสุดมากกว่า 70 ซม. ทำให้ต้องระดมสูบน้ำลงลำห้วยหมากแข้ง ลำห้วยมั่ง ออกจากนอกเมือง

พะเยา 12.48 น. น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนพหลโยธิน และถนนซูเปอร์ไฮเวย์สายหลัก ทำให้รถขนาดเล็กสัญจรอย่างยากลำบาก

พิษณุโลก 11.39 น..น้ำเพิ่มสูงขึ้น นาข้าวเสียหายสิ้นเชิงกว่า 4,000 ไร่ ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดระแวง นอกจากนี้ ถนนสายชาติตระการ-บ่อภาค ถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านไม่สามารถออกจากบ้านเรือนได้

แพร่ 10.21 น. ถนนเขตเทศบาลเมืองแพร่ถูกน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะที่สถานีขนส่ง รถโดยสารต้องออกมาจอดด้านนอก เพื่อรับส่งผู้โดยสารแทน ล่าสุดมีรายงานว่า เกิดเหตุเรือท้องแบนล่ม ขณะเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน ต.ร้องเข็ม อ.ร้องกวาง มีผู้สูญหาย 2 คน

อุตรดิตถ์ 09.45 น. น้ำป่าไหลหลากอย่างรวดเร็วเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฎรใน  ทำให้ในหลายพื้นที่มีระดับน้ำท่วมสูง 2-4 เมตร ชาวบ้านจำนวนเกือบ 1,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก รถยนต์ของชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คัน ต้องจมอยู่ในน้ำ


Mthai News


ระยองพายุพัดถล่มบ้านเสียหายกว่า100หลัง



พายุนกเตน ถล่มพังบ้านของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแกลง เสียหายไปกว่า 100 หลังคาเรือน สวนผลไม้เสียหายไปกว่า 200 ไร่

บ้านเรือนของชาวบ้านหมู่ 3, 4, 5, 6 และ 8 ตำบลพังราด อ.แกลง พังเสียหายไปกว่า 100 หลังคาเรือน เนื่องจากได้รับอิทธิพลพายุนกเตนพัดถล่ม เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้เมื่อเวลา 05.30 น. นอกจากนี้สวนผลไม้ เช่น เงาะ ทุเรียน อายุกว่า 30 ปี ยังถูกพายุนกเตนดังกล่าวพัดถล่ม ทำให้โค่นล้มไปกว่า 200 ไร่ ด้วยกัน ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก เห็นพายุหมุนเป็นงวงช้างมาซ้อนกันถึง 3 ลูก เพียงไม่กี่นาที ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น บ้านพัง และสวนผลไม้ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดอำเภอแกลง ก็ได้สำรวจ และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยได้ประสานองค์การบริหารส่วนตำบลพังราด ให้จัดหาซื้อกระเบื้องให้ชาวบ้านไปแก้ไขปรับปรุงหลังคาบ้านแล้ว รวมกว่า 2,300 แผ่นแล้ว ส่วนความเสียหายในสวนผลไม้ ก็จะได้ประสานให้เกษตรอำเภอ ออกมาสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป


INN

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:43:09


ความคิดเห็นที่ 906 (1561571)

โอ้ววว..ฤทธิ์"นกเตน" ร้ายแรง เหลือหลาย จริงๆ

ส่งผลทั่วไทย ขนาดนี้เชียวหรือ

ท่วมมิดหลังคาก็มีเลยอ่ะ.....


ขอให้พี่น้องบ้านสวนฯทุกคน

อยู่รอด ปลอดภัย และแคล้วคลาด ด้วยค่ะ สาธุ


ขอบคุณเจ๊ตาล และ คุณ อาริยา ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:48:13


ความคิดเห็นที่ 907 (1561572)
ฝนตกหนักที่โซมาเลีย เกาหลีเหนือน้ำท่วมหนัก



ที่โซมาเลียหลังจากต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งและความอดอยาก ล่าสุดก็ต้องเจอกับฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ขณะที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ก็เผชิญกับน้ำท่วมเช่นกัน

ชาวโซมาเลียหลายหมื่นคนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนจากปัญหาภัยแล้งไปอยู่ที่พักชั่วคราวที่ทำจากแท่งไม้ กระป๋องนมและเศษผ้าในกรุงโมกาดิชูก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ผู้อพยพต้องอยู่กันอย่างยากลำบากเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นและฝนที่ตกต่อเนื่อง ผู้อพยพในหลายค่ายต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ขณะที่สหประชาชาติยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลมากขึ้นหลังจากเกิดการปะทะกันครั้งใหม่ในโอกาดิชูซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งความช่วยเหลือไปให้ผู้อพยพ โดยกลุ่มติดอาวุธที่มีชื่อว่า "อัล-ชาฮับ " ต่างก็ขัดขวางองค์กรบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่ และเกรงว่าชาวโซมาเลียที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ควบคุมของกลุ่มอัล-ชาฮับ จะเสียชีวิตเพราะความอดอยากไปแล้วหลายหมื่นคน

ที่เอเชียซึ่งตอนนี้หลายประเทศกำลังเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย ที่เกาหลีเหนือในวันนี้สถานีโทรทัศน์ของทางการได้แพร่ภาพความเสียหายจากน้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา รายงานระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดดินถล่ม บ้านเรือนและถนนหลายสายได้รับความเสียหาย พื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้น้ำ รายงานระบุว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้กองทัพเกาหลีเหนือต้องหยุดการซ้อมรบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลจีนเตรียมจัดส่งความช่วยเหลือมายังเกาหลีเหนือ

ส่วนเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ สำนักงานพยากรณ์อากาศเตือนว่า กรุงโซล, พื้นที่บางส่วนของเมืองเกียงกีและทางใต้เมืองชงชอง จะเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงในวันนี้ พร้อมทั้งเตือนพื้นที่ใกล้เชิงเขาอาจเกิดดินถล่มซ้ำลงมาอีก



อิตาลี..ภูเขาไฟเอ็ตน่าระเบิดอีกครั้ง



ภูเขาไฟเอ็ตน่าบนเกาะซิซิลี ทางตอนใต้ของอิตาลี เริ่มระเบิดอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยส่งเปลวเพลิงและประกายไฟสูง 250 เมตรขึ้นสู่อวกาศ และปล่อยลาวาไหลลงมาตามทางลาดของภูเขา

แม้จะมีความกังวลว่า เถ้าถ่านภูเขาไฟอาจปิดกั้นเที่ยวบินต่างๆ ที่จะออกจากสนามบินกาตานีอา ที่อยู่ข้างเคียง แต่ลมได้พัดเถ้าถ่านออกจากสนามบินไปทางตะวันออก มุ่งสู่ทะเลไอโอเนียน จึงไม่มีเที่ยวบินใดถูกยกเลิกหรือเสียเวลา-สถาบันภูเขาไฟวิทยาแห่งชาติอิตาลี เปิดเผยว่า กิจกรรมภูเขาไฟของภูเขาไฟเอ็ตน่าเริ่มขึ้นเมื่อเช้าวันเสาร์ และดำเนินไปตลอดทั้งวันทั้งคืนจนถึงวานนี้-นี่เป็นการระเบิดครั้งที่ 4 ของภูเขาไฟเอ็ตน่า และเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อเดือนที่แล้ว หลังสงบมา 6 เดือน โดยน้ำพุลาวาพุ่งสูงถึง 500 เมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการบาดเจ็บเสียชีวิต

ภูเขาไฟเอ็ตน่า ความสูง 3 พัน 329 ฟุต หรือ 1 หมื่น 922 ฟุต เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่คุกรุ่นที่สุดในโลก ตลอดช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เกิดการระเบิดขึ้นบ่อยครั้งมาก และลาวาที่ไหลบ่อยครั้งก็คุกคามหมู่บ้านต่างๆที่อยู่โดยรอบปากปล่องภูเขาไฟ-ภูเขาไฟเอ็ตน่าตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะซิซิลี ใกล้กับเมืองเมสซีนาและเมืองกาตานีอา

 


 

 


พอร์ทมอร์สบี 1 ส.ค.- สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริกเตอร์นอกชายฝั่งทางเหนือของปาปัวนิวกินีเช้าวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน และไม่มีการเตือนภัยสึนามิ

เว็บไซต์สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นลึกลงไป 16.8 กิโลเมตรเมื่อเวลา 09.38 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 06.38 น.วันนี้ตามเวลาในไทย และว่าปาปัวนิวกินีเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งแต่ไม่ค่อยเกิดความเสียหายเท่าใดนัก.-สำนักข่าวไทย

นายรามอสเปิดเผยว่า คนงานบ่อปลา 2 คนจมน้ำเสียชีวิต เมื่อเรือของพวกเขาพลิกคว่ำทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา และพบเด็ก 2 คนเสียชีวิตในเหตุดินถล่ม ท่ามกลางฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในเหมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดโบโฮลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่พายุโซนร้อนนกเตนเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ หลังคร่าชีวิตประชาชนไป 57 คน




ครอบครัวข่าว 3

ฝนตกหนักในเกาหลีเหนือมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน


โซล 1 ส.ค.- สำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนือ หรือเคซีเอ็นเอรายงานว่า เกิดพายุและฝนตกหนักในเกาหลีเหนือในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บและสูญหาย และอีกหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย

เคซีเอ็นเอรายงานว่า เกาหลีเหนือถูกพายุโซนร้อนกระหน่ำเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเกิดฝนตกหนักเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายรวม 2,900 หลัง และมีประชาชนราว 8,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วม ทำให้เป็นที่วิตกต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตรในปีนี้

รายงานระบุว่า กระแสลมแรงและน้ำท่วมยังทำให้เสาไฟฟ้าล้มถึง 300 ต้น นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้ข้างทางหักโค่นอีก 8,400 ต้น อาคารและโรงงานเสียหายอีก 170 หลัง ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2550 เกาหลีเหนือเคยเผชิญน้ำท่วมหนัก มีประชาชนเสียชีวิตหรือสูญหายอย่างน้อย 600 คน

ทอร์นาโดพัดถล่มเมืองห่างไกลในรัสเซีย


มอสโก 1 ส.ค.- เจ้าหน้าที่ของทางการรัสเซียเปิดเผยว่า เมืองบลาโกเวชเชนสค์ของรัสเซียซึ่งตั้งอยู่ติดพรมแดนจีน กำลังฟื้นตัวจากเหตุพายุทอร์นาโดพัดถล่ม ซึ่งคร่าชีวิตผู้ชายไปหนึ่งคนและสร้างความเสียหายรุนแรงคิดเป็นมูลค่ามากถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 90 ล้านบาท

รายงานระบุว่า เมื่อค่ำวานนี้ พายุทอร์นาโดขนาดยักษ์พัดถล่มเมืองบลาโกเวชเชนสค์ ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอามูร์ เขตตะวันออกไกล โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนการคาดการณ์ในเบื้องต้นระบุว่า ความเสียหายอาจมีมูลค่าราว 50-80 ล้านรูเบิล และว่า อิทธิพลของทอร์นาลูกโดดังกล่าวทำให้ผู้บาดเจ็บ 4 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บอีก 28 คนและผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย 1 คนอีกด้วย

แถลงการณ์ของฝ่ายบริหารท้องถิ่นระบุว่า ทอร์นาโดลูกดังกล่าวทำให้ต้นไม้ 150 ต้นล้มระเนระนาด รถยนต์กว่า 150 คันพลิกคว่ำ หลังคาบ้านเรือนและอาคารอื่นๆ กว่า 100 หลังปลิวหายไป นอกจากนี้ ยังทำให้ประชาชนราว 10,000 คนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้อีกด้วย.

ไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนในฟิลิปปินส์


มะนิลา 1 ส.ค.- พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้ากำลังเคลื่อนตัวออกจากทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ หลังทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน ทั้งที่ไม่ได้พัดเข้าหาฝั่งแต่อย่างใด

นายเบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 175 กม./ชม. และลมกระโชกแรงสูงสุด 210 กม./ชม. ขณะเคลื่อนตัวห่างจากชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะลูซอนในวันนี้ และมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของไต้หวันและญี่ปุ่น

นายรามอสเปิดเผยว่า คนงานบ่อปลา 2 คนจมน้ำเสียชีวิต เมื่อเรือของพวกเขาพลิกคว่ำทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา และพบเด็ก 2 คนเสียชีวิตในเหตุดินถล่ม ท่ามกลางฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในเหมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดโบโฮลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่พายุโซนร้อนนกเตนเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ หลังคร่าชีวิตประชาชนไป 57 คน



แผ่นดินไหวปาปัวนิวกินี 6.8 ริกเตอร์


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 03:48:17


ความคิดเห็นที่ 908 (1561661)

หินร่วงถล่มปิดทับเส้นทาง ถ.พหลโยธินขาขึ้นลำปาง-พะเยา


วันอังคาร ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554




ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้ดินและหินถล่มปิดทับเส้นทาง ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-พะเยา ขาขึ้นใกล้ค่ายทหารประตูผา อ.แม่เมาะ จ.ลำปางถูกปิดไป 1 ช่องทางการจราจร เจ้าหน้าที่เร่งกู้

09.00 น. วันนี้ (2 ส.ค.) เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ของ จังหวัดลำปางทำให้ดินและหินร่วงถล่มปิดทับเส้นทางลำปาง-งาว อ.แม่เมาะ ลำปาง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางดินรถไป 1 ช่องจราจร จากฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา

โดยจุดเกิดเหตุ เป็นถนนพหลโยธิน ลำปาง-งาว ช่วงขาขึ้น บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 746-747 เขตบ้านจำปุย หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ก่อนถึงค่ายฝึกรบพิเศษประตูผา ลำปางเพียง 2 กิโลเมตร

ล่าสุดเจ้าหน้าที่แขวงการทางลำปางและเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะลำปาง ต้องนำป้ายเตือนให้ผู้ขับขี่ ขับขี่ผ่านจุดดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง

เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังมีเศษหินและดินบนภูเขา หล่นลงมาอีกจากฝนที่ยังตกลงมาอีกและยังไม่หยุด เกรงว่าจะจากฝนตกดังกล่าวจะทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่ ที่ใกล้จะหล่นลงมา และเกิดอันตรายขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงระยะนี้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย

-----------------

ย่านเศรษฐกิจเมืองน่านอ่วมซ้ำ-น้ำทะลักกลางเมืองแล้ว

น่าน - ลำเหมืองหลวงน้ำเอ่อล้นท่วมถนนย่านเศรษฐกิจเมืองน่านซ้ำ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน

รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา มีฝนตกตลอดทั้งคืน ส่งผลให้ ระดับน้ำในลำเหมืองหลวง ซึ่งเป็นคลองน้ำกลางเมืองน่าน เป็นจุดรับน้ำมาจากลำน้ำห้วยลี่ ถนนสี่เลน และรับน้ำมาจาก ต.ไชยสถาน และ ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน มีระดับน้ำสูง และเอ่อล้นเข้าท่วมถนนอนันตวรฤทธิเดช ซึ่งเป็นถนนเขตเศรษฐกิจใจกลางเมืองน่าน บริเวณสี่แยก ธ.ก.ส.น่าน และตลาดโต้รุ่ง มีระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร รถทุกชนิดยังสามารถขับผ่านได้ แต่ก็ทำให้การสัญจรติดขัด และส่งผลกระทบต่อร้านค้าผู้ประกอบการที่ต้องคอยระวังคลื่นน้ำซัดเข้าร้าน สร้างความเสียหายได้

โดยทางเทศบาลเมืองน่าน ต้องเร่งเปิดฝาท่อระบายน้ำ พร้อมนำแผงกั้น เพื่อเตือนระวังผู้สัญจรไปมา รวมทั้งขอให้ใช้ความระมัดระวังในการสัญจรผ่านเส้นทางนี้ด้วย

นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน โดยแบ่งเปิด 2 เส้นทางน้ำ คือ ระบายน้ำลงสู่คลองเจ้าฟ้า แยกฟ้าธนิน และ ระบายน้ำลงบริเวณต้นโพธิ์ท่าน้ำ โรงเรียนสตรีศรีน่าน บ้านดอนศรีเสริมกสิกร ซึ่งน้ำสามารถระบายได้ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านมีระดับต่ำกว่า แต่ด้วยปริมาณน้ำที่มาก ทำให้การระบายได้ช้า และน้ำจากลำเหมืองหลวง เอ่อล้นเข้าท่วมถนนอนันตวรฤทธิเดช แต่ก็ยังสามารถรับมือได้

อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันต่อไปอีก เนื่องจากจังหวัดน่านในช่วงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่มีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน และหากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีความรุนแรง ก็จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ แม้จะไม่มีพายุ แต่สภาพอากาศลักษณะเช่นนี้ ก็จะทำให้จังหวัดน่าน มีความเสี่ยงที่จะเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้

โดยล่าสุดสภาพอากาศจังหวัดน่าน ยังมีเมฆฝนปกคลุมเหนือท้องฟ้าน่าน มีฝนตกโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ก็ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาอย่างต่อเนื่องออกไปอีก

อุตฯ ยัน"ไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า"

ไม่กระทบไทย

 

จากแผนที่อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงเช้าของวันนี้ ยังคงเห็นแนวร่องฝนหรือร่องความกดอากาศต่ำที่เป็นเส้นคู่สีแดงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางด้านตะวันตกของภาคกลางและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มบริเวณภาคเหนือต้องระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในระยะ 1-2 วันนี้ โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพื้นที่ฝนตกหนักที่สุดในประเทศคือ อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย วัดได้ 178.5 มิลลิเมตร
สำหรับคลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งถึงวันพรุ่งนี้
ส่วนเรื่องของพายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ย้ำว่า จะไม่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย เนื่องจากขณะนี้พายุได้เคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ และมีแนวโน้มเคลื่อนไปทางเกาะโอกินาวา ของประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคมนี้

--------------------

หลายจังหวัดภาคอีสานน้ำท่วมหนัก

สวนยางพาราใน อ.เจริญศิลป์ บ้านม่วง และวานรนิวาส ซึ่งถูกกระแสลมจากพายุนกเต็นพัดถล่มจนล้มระเนระนาด สร้างความเสียหายกว่า 5000 ไร่ ซึ่งชาวบ้านไปร้องเรียนกับนายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.สกลนคร เพื่อให้การช่วยเหลือเพราะบางคนถึงกับหมดเนื้อหมดตัว
ส่วนน้ำที่ท่วมขังใน 9 อำเภอของ จ.สกลนคร ระดับน้ำยังคงทรงตัว เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน เพราะพื้นที่รอบนอกถูกน้ำท่วม ชาวบ้านบางพื้นที่เริ่มขาดแคลนอาหาร เนื่องจากระดับน้ำยังสูงออกจากหมู่บ้านไม่ได้ ถนนสายบ้านคำตะกร้า บ้านวังเย็น และถนนสายอากาศอำนวย บ้านหนองบัวแดง ระดับน้ำยังสูงกว่า 1 เมตร รถทุกชนิดวิ่งผ่านไม่ได้
ส่วนที่ จ.นครพนม เมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนัก และมีน้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้ไหลทะลักเข้าท่วมใน ต.ไผ่ล้อม และ ต.นางัว โดยระดับน้ำสูงเกือบ 50 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้าน 29 หมู่บ้านกว่า 1,000 ครัวเรือนเดือดร้อน ข้าวของได้รับความเสียหายเพราะขนย้ายไม่ทัน
เช่นเดียวกับที่ จ.มุกดาหาร ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะมีน้ำป่าไหลลงมาจากเทือกเขาภูพาน เจ้าหน้าที่ต้องนำกระสอบทรายกั้นเป็นกำแพง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมวัดศรีมงคลเหนือ และอีก 5 ชุมชนในตัวเมืองมุกดาหาร ขณะที่นาข้าวใน อ.ดงหลวง ว่านใหญ่ และดอนตาลกว่า 2,000 ไร่ ยังจมอยู่ใต้น้ำ
ส่วนที่ จ.หนองคาย ระดับน้ำท่วมตัวเมืองลดลงแล้ว ถนนประจักษ์รถวิ่งได้ตามปกติ ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ประชาชนเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือน ร้านค้าเปิดขายสินค้าบางแล้ว และในช่วงสายของวันนี้ เทศบาลเมืองหนองคายจะระดมเจ้าหน้าที่เก็บกวาดทำความสะอาดถนน และโรงเรียนต่างๆ ที่มีโคลนทับถมอยู่ เพื่อกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง พร้อมทั้งทำความสำรวจค่าความเสียหาย เพื่อเข้าไปทำการฟื้นฟู

---------------------------

ยอดเหยื่อ 2 พายุ "นกเต็น-มุ่ยฟ้า" ในฟิลิปปินส์พุ่งเป็น 70 ราย

สภาพน้ำท่วมในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ จากอิทธิพลพายุนกเต็น
 
เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมจากวาตภัย 2 ระลอกที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ทั้งพายุโซนร้อนนกเต็น และไต้ฝุ่นมุ่ยฟ้า เพิ่มขึ้นเป็น 70 ราย ขณะที่รัฐบาลเตือนให้ระวังภัยพายุอีกลูก ที่กำลังเตรียมซัดฟิลิปปินส์ด้วย

ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 54 รายก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีรายงานว่าเด็ก 2 คนเสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม ที่เหมืองหินแห่งหนึ่งบนเกาะโบโฮลในวันอาทิตย์ (31 ก.ค.) และเหยื่อจากพายุนกเต็นอีก 14 ราย

สภาบริหารจัดการ และลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์เผยว่า ผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมด 178 คนได้รับความช่วยเหลือจากนอกท่าเรือเมืองอิโลอิโยแล้ว

ขณะที่ไต้ฝุ่นมุ่ยฟ้า ซึ่งตั้งชื่อตามดอกไม้ของจีน ยังอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของเกาะลูซอน ในทะเลฟิลิปปินส์ แต่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และคลื่นลมทะเลรุนแรง โดยในวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) ไต้ฝุ่นลูกนี้ล้มเรือลำหนึ่งในอ่าวมะนิลา ทำให้คนงานจับปลาบนเรือ 2 คนจมน้ำเสียชีวิต

ส่วนพายุนกเต็น ซึ่งถล่มเกาะลูซอน 2-3 วันก่อนหน้านั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 66 ราย และอีก 17 รายสูญหาย ตามรายงานยอดผู้เสียชีวิตของสภาบริหารจัดการภัยพิบัติดังกล่าว

โรงเรียนในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ประกาศหยุดการเรียนการสอนในวันนี้ (2) เนื่องจากบริเวณชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะลูซอนยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาเป็นพายุได้อีก กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก และอาจเกิดน้ำท่วมได้ด้วย

ทั้งนี้ ในแต่ละปี ฟิลิปปินส์ต้องประสบกับพายุ และไต้ฝุ่นราว 20 ลูก ส่วนใหญ่เป็นพายุรุนแรง โดยพายุนกเต็น ซึ่งตั้งชื่อตามนกของลาว เป็นพายุลูกที่ 10 ของปี ส่วนมุ่ยฟ้าเป็นพายุลูกที่ 11

------------------

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 14:53:17


ความคิดเห็นที่ 909 (1561666)

ญี่ปุ่นเร่งตรวจสอบหลังเจอระดับรังสีสูงสุดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ยังมีกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะของญี่ปุ่น
 
เอเอฟพี - โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เท็ปโก) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์(1) ตรวจพบระดับกัมมันตภาพรังสี ณ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดดิจิ สูงที่สุดนับตั้งแต่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม

เท็ปโกเปิดเผยว่าระดับสารกัมมันตรังสีอย่างต่ำ 10 ซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ใกล้ซากหักพังที่กองอยู่ระหว่างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1 และหมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่ยังไม่มีทีท่าสิ้นสุด

สถิติสูงสุดก่อนหน้านี้คือการตรวบพบระดับกัมมันตภาพรังสี 3 ถึง 4 ซีเวิร์ตต่อชั่วโมงภายใต้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา

"เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้า 3 คน ได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณ 4 มิลลิซีเวิร์ต ขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบระดัมสารกัมมันตรังสี" โฆษกหญิงของเท็ปโกระบุ "เรากำลังตรวจสอบว่าอะไรเป็นต้นตอของกัมมันตภาพรังสีสูงถึงขนาดนี้"

รัฐบาลและเท็ปโกยืนยันว่าพวกเขายังวางเป้าหมาย ทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เย็นลงและปิดตัวเองได้ในเดือนมกราคม และอย่างน้อยจนถึงตอนนี้ก็สามารถติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำได้แล้ว

ความพยายามสร้างความเสถียรแก่วิกฤตนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายนับตั้งแต่เหตุการณ์เชอร์โนบิลเมื่อ 25 ปีก่อน ยังดำเนินไปอย่างไม่ลดละหลังจากแผ่นดินไหว 9.0 ก่อสึนามิที่สร้างความเสียหายแก่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นำมาซึ่งภาวะหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์และพ่นกัมมันตภาพรังสีสู่สภาพแวดล้อม

 

เตือน! รับมือพายุสุริยะ ชี้ส่อแววรุนแรงปี 2013 ระบบสื่อสารล่ม

จับตา พายุสุริยะ รุนแรง ปี 2013 เผยน่าห่วงกว่าอุกาบาศชนโลก
รองศาสตร์จารย์ บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสำนักวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยผ่านรายการชั่วโมงเตือนภัย วันที่ 25 มิถุนายน 2554 เผยข้อมูลมุมมองทางวิทยาศาสตร์ กรณีข่าวลือปรากฏการณ์ ปี 2012 ที่มีกระแสข่าววันสิ้นโลก โดยจะมีอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก และแกนโลกสลับขั้วฉับพลันทำให้เกิดรังสีคอสมิกจากดวงอาทิตย์พุ่งมายังโลก และจะเกิดความเสียหายครั้งใหญ่ตามกระข่าวที่เกิดขึ้น
เผยดาวหาง "นิบิรุ" แค่ข่าวลือ
รศ. บุญรักษา กล่าวว่า กรณีดาวหาง หรืออุกกาบาตขนาดใหญ่ โดยฉพาะดาวหาง นิบิรุ จะเข้ามาในระบบสุริยะจักรวาล และจะชนโลกในปี 2012 มีโอกาสเป็นได้น้อยมาก แม้ในอดีดเมื่อ 60 ล้านปีจะเคยมีอุกกาบาตชนโลกจนทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธ์ โลกมีระบบเทคโนโลยีที่สามารถเฝ้าระวังและจับตาสิ่งผิดปกติที่หลุดเข้ามาในวงโคจรของระบบสุริยะจักรวาลได้ อย่างไรก็ตามในระบบสุริยะจักรวาล มีเศษอุกกาบาต ดาวหางอยู่ถือเป็นเรื่องปกติ โอกาสชนโลกมีแต่น้อยมาก
" อย่างกรณีที่มีข่าวว่า ในปลายปี 2554 จะมีเศษอุกกาบาตเคลื่ยนที่เฉียดโลก ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยเพราะอยู่ห่างไกลโลกมาก ดาวหางหรืออุกกาบาตชนโลกจะบอกว่าไม่เคยเกิดก็ไม่ได้ เพราะในอดีดเคยเกิดมาแล้ว แต่ในปีหน้าหรือปี 2012 จะไม่มีอุกกาบาตชนโลกแน่นอน " รศ.บุญรักษา กล่าว

เผย พายุสุริยะ ของจริง เตรียมรับมือ เตือนระวังดาวเทียมล่ม
รองศาสตราจารย์บุญรักษา กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงใน ปี 2013 คือสนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์กลับขั้ว ซึ่งจะเกิดทุก ๆ 11 ปี เกิดสนามแม่เหล็กรุนแรงทำให้เกิด พายุสุริยะ ที่จะเริ่มตั้งแต่ 2012 และจะรุนแรงในปี 2013 ผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตคงไม่น่าวิตก แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือขณะที่เกิดพายุสุริยะ จะทำให้ระบบการสื่อสาร โทรคมนาคม การทำธุรกรรมที่ต้องใช้ระบบดาวเทียมขัดข้อง ซึ่งในอดีดในปี พ.ศ. 2402 และ พ.ศ. 2532 เคยเกิดพายุสุริยะ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ระบบการสื่อสาร ในอเมริกา และยุโรปไม่สารถใช้งานได้

 

 

 

--------------------------

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 15:02:58


ความคิดเห็นที่ 910 (1561670)

ฝนถล่มเชียงใหม่ น้ำป่าทะลัก เสียหายหนัก7อ


 

อิทธิพลจากพายุ "นกเตน" ทำให้เกิดฝนตกในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 7 อำเภอ บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรเสียหายหนัก ขณะที่ รฟท. ประกาศหยุดให้บริการเส้นทางสายเหนือบางจุด ...

วันที่ 2 ส.ค.2554 ที่ จ. เชียงใหม่ อิทธิพลของพายุ "นกเตน" ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายอำเภอ คือ อ.เมือง อ.แม่ออน อ.สันกำแพง อ.สันทราย อ.สันป่าตอง อ.ดอยสะเก็ด โดยที่ อ.ดอยสะเก็ด เกิดน้ำป่าจากห้วยแม่ฮ่องฮัก และจากคลองชลประทานผาแตก ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชน และฝายขนาดเล็กได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น ที่ ต.ป่าเมียง ยังพบว่าระดับน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร ทำให้การจราจรจากเชียงใหม่ไปเชียงราย เป็นปัญหา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินรถที่สำคัญ

นายบำเพ็ญ บินไทยสงค์ นายอำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในอำเภอสันกำแพง มี 10 ตำบล 100 หมู่บ้านได้รับความเสียหาร ทั้งพืชไร่นาเสียหายมากเป็นบริเวณกว้าง โรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกาชาดจังหวัดและกาชาดอำเภอสันกำแพง จะมาแจกถุงยังชีพให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ขณะที่ ต.แช่ช้าง ซึ่งอยู่ทางใต้สุด ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ราษฎรไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป

ที่ อ.แม่ออน น้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ไร่นา และบ้านเรือนประชาชนในหลายตำบล ขณะที่ อ.สันกำแพง ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม น้ำก็ท่วมสูงหลายพื้นที่เช่นกัน ทั้งนี้ มีรายงานว่าที่บ้านม้งดอยปุย มีเหตุดินสไลด์ด้วย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้าน นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า น้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมทางรถไฟสายเหนือ ช่วงสถานีบ้านปิน-แก่งหลวง อ.ลอง จ.แพร่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้และยังท่วมสูงอยู่ รฟท.จึงประกาศงดเดินขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 9 กรุงเทพ-เชียงใหม่ ที่มีกำหนดออกจากสถานีกรุงเทพฯเวลา 08.30 น. วันนี้ ส่วนรถไฟสายเหนือขบวนอื่นๆ ที่ต้องผ่านจุดน้ำท่วม รฟท.จะประเมินสถานการณ์และจะประกาศให้ผู้โดยสารได้รับทราบเป็นระยะ ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1690 ตลอด 24 ชม.
ฝนถล่มเชียงใหม่ น้ำป่าทะลัก เสียหายหนัก7อ. - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 15:14:03


ความคิดเห็นที่ 911 (1561671)

แพร่น้ำท่วมหนัก!! ถนนหลายสายถูกตัดขาด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2554 09:21 น.

     
  สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.แพร่ เข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง หลังจากมีฝนตกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำสาขาต่างๆ ไหลมาสมทบน้ำในแม่น้ำยม ที่มีระดับสูงขึ้น โดยระดับน้ำที่จุดวัดน้ำที่บ้านน้ำโค้ง อ.เมืองแพร่ เมื่อเวลา 08.00 น.ระดับน้ำสูงถึง 10.16 เมตร ทำให้ทุกพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูง หมู่บ้านต่างๆ ที่ติดอยู่ริมตลิ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม พื้นที่การเกษตรเสียหายอย่างหนัก ทางการไฟฟ้าต้องตัดกระแสไฟ เนื่องจากบางจุดน้ำท่วมเกือบชั้น 2 โรงเรียนในสังกัดเทศบาลได้ประกาศหยุดเรียน ถนนสาย อ.วังชิ้น เถิน ศรีสัชนาลัย สุโขทัย ถูกตัดจาดไม่สามารถผ่านได้ ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านมา
        ทั้งนี้ นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด เพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์ และสั่งให้ทุกท้องที่ออกสำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งระดมเจ้าหน้าที่ออกให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น

 

 -------------------------------------------------------------

 

น้ำท่วมปางช้างเชียงใหม่-น่านท่วมอ่วมกว่า1พันครัวเรือน

น้ำแม่แตง ล้นตลิ่ง "ปางช้างแอลลี่" ขนของ อพยพช้าง 7 เชือกไปอยู่ที่ปลอดภัย อ.นาน้อย น่าน ท่วม 4 ตำบล เดือดร้อนกว่าพันครัวเรือน

นางอัญชลี กัลมาพิจิตร เจ้าของปางช้างแอลลี่ แม่ตะมาน  ตั้งอยู่ในอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่แตงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและล้นตลิ่งเข้าท่วมปางช้างแอลลี่ จึงสั่งให้พนักงานเร่งเก็บสิ่งของและทรัพย์ไว้บนที่สูง รวมทั้งนำช้างที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 7 เชือกไปผูกไว้ในพื้นที่ปลอดภัยก่อน แม้ว่าฝนบางจุดจะหยุดตกแล้วแต่ทางบนของปางช้าท้องฟ้ายังครึ้มฝนและยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอยู่  

สำหรับน้ำแม่แตงที่ไหลผ่านปางช้างแอลลี่ไหลมาจากพื้นที่ต้นน้ำใน ต.กึ้ดช้างอ.แม่แตงที่อยู่ทางตอนบน และต้นน้ำจากอ.เชียงดาวที่ไหลลงมาสมทบในแม่น้ำแม่แตงก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง  ซึ่งในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมานี้ปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี  ส่วนหนึ่งเพราะมีการตัดไม้ทำลายป่าจึงไม่มีต้นไม้อุ้มน้ำและชะลอการไหลของน้ำ  จะสังเกตได้ว่าน้ำท่วมทุกครั้งจะมีเศษไม้และท่อนซุงไหลลงมาตามกระแสน้ำด้วย  จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามขบวนการตัดไม้ทำลายป่า

น่านท่วม 4 ตำบลอ่วมนับพันครัว
นายกฤชทิพ ชะนิดไทย  ปลัดอาวุโส อำเภอนาน้อย จ.น่าน เปิดเผยว่า  อำเภอนาน้อยประสบปัญหาอุทกภัยหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องถึง 2 คืน 1 วัน  ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำกึ๋น แม่น้ำหิน และแม่น้ำแหง  มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม ซึ่งมีทั้งพื้นที่เกษตรกรรม นาข้าว ไร่ข้าวโพด บ่อปลา ฯลฯ  รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกติดติมแม่น้ำ เบื้องต้นมี 4 ตำบลที่ได้รับผลกระทบ คือ ต.สถาน ต.เชียงชอง ต.บัวใหญ่ และต.ศีรษะเกษ  รวม 33 หมู่บ้านจากทั้งหมด 68 หมู่บ้าน ประเมินการณ์มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 1,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้อำเภอได้ระดมเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชนและสำรวจความเสียหายแต่ยังทำได้ไม่เต็มที่เพราะบางจุดน้ำยังท่วมขังสูง  อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นยังมีระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งรุนแรงและหนักกว่าครั้งนี้มาก นอกจากนี้ประชาชนในพื้นที่ประสบการณ์จากน้ำท่วมปีก่อนจึงเตรียมขนย้ายสิ่งของไวบนที่สูงเรียบร้อยแล้ว




พิษนกเต็น ไทยตอนบนยังมีฝนหนาแน่น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

อุตุเตือน เหนือ อีสาน กลาง ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในระยะ1-2 วันนี้

ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2554
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในระยะ1-2 วันนี้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2554

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น หมุ่ยฟ้า ด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปทางเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุน ในช่วงวันที่ 4-5 ส.ค. นี้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 15:15:21


ความคิดเห็นที่ 912 (1561672)

อุตุฯเตือนระวังน้ำท่วม-น้ำป่า-น้ำล้นตลิ่ง 1-2 วันนี้





เตือน 4 จังหวัด

อีสานอุทกภัย

วาตภัย และดินถล่ม

02-08-2554 | 03:16 l ชมทั้งหมด 14
ที่จังหวัดหนองคาย หลายพื้นที่ยังวิกฤติหนัก ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ต้องนำอาหารใส่รถยูนิม๊อค ไปแจกให้กับผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งช่วยเหลือขนย้ายข้าวของให้กับประชาชนที่เดือดร้อนด้วย นอกจากนี้ยังช่วยกันทำกระสอบทราย 2,000 ชุด ทำคันกั้นนำในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำโขงเอ่อเข้ามาสมทบ จนอาจจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีก

สถานการณ์น้ำท่วมใน 9 อำเภอของจังหวัดสกลนคร ล่าสุดยังคงขยายวงกว้างมากขึ้น และถือว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปี พื้นที่อำเภอวานรนิวาส, อากาศอำนวย, คำตากล้า และบ้านม่วง ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร นาข้าวกว่า 500,000 ไร่จมอยู่ใต้น้ำ ถนนสายบ้านคำตากล้า-บ้านวังเวิน และสายอากาศอำนวย-บ้านหนองบัวแดง น้ำสูง 2-3 เมตร รถทุกประเภทผ่านไม่ได้

ที่จังหวัดบึงกาฬ ระดับน้ำที่ท่วมขังในอำเภอศรีวิไล ระดับน้ำได้ลดลงจนสู่ปกติแล้ว ชาวบ้านเริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน แต่ในส่วนของพื้นที่ลุ่ม ยังคงมีน้ำท่วมนาข้าว และพื้นที่การเกษตรอีกกว่า 10,000 ไร่

ขณะที่ศุนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 จ.นครราชสีมา ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยใน 4 จังหวัดของภาคอีสานตอนล่างคือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ให้ระวังอันตรายจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุนกเตน และยังจะมีพายุตัวใหม่ “หมุ่ยฟ้า” เข้ามาอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 15:19:49


ความคิดเห็นที่ 913 (1561673)

รายงานแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (20.90,100.08) ขนาด 3.8 วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เวลา 06:22:19 น.
1 สิงหาคม 3097, 6:22:19
2554-08-01 06:22:19 น.
Lat. 20.90 , Long. 100.08
ขนาด 3.8
ลึก 11 กม.

แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (19.45,97.78) ขนาด 2.6 วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เวลา 05:42:42 น.
1 สิงหาคม 3097, 5:42:42
2554-08-01 05:42:42 น.
Lat. 19.45 , Long. 97.78
ขนาด 2.6
ลึก 9 กม.

แผ่นดินไหว ประเทศพม่า (20.43,99.73) ขนาด 2.9 วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เวลา 04:09:29 น.
1 สิงหาคม 3097, 4:09:29
2554-08-01 04:09:29 น.
Lat. 20.43 , Long. 99.73
ขนาด 2.9
ลึก 9 กม.

แผ่นดินไหว ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน (19.05,97.97) ขนาด 1.7 วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เวลา 00:34:17 น.
1 สิงหาคม 3097, 0:34:17
2554-08-01 00:34:17 น.
Lat. 19.05 , Long. 97.97


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 15:24:34


ความคิดเห็นที่ 914 (1561742)

ชาวบ้านตื่น!! ก้อนน้ำแข็งยักษ์ ลอยติดริมอ่าว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้อ่าวกูส โคฟ เมืองนิวฟาวด์แลนด์ ทางตะวันออกของแคนาดา ต้องตกตะลึง เมื่อมีก้อนนำแข็งยักษ์ขนาดมหึมาลอยมาใกล้ฝั่ง โดยภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้โดย จีน แพที ช่างภาพที่อยู่ในบริเวณนั้น

ทั้งนี้หลายคนคาดว่า ก้อนน้ำแข็งยักษ์ น่าจะเป็นส่วนที่หลุดออกมาจากก้อนใหญ่ที่กรีนแลนด์ ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของโลก และลอยตามกระแสน้ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาติดอยู่ที่อ่าวกูส โคฟ ดังกล่าว
Mthai news

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 18:21:15


ความคิดเห็นที่ 915 (1561745)

กทม.คาดน้ำเหนือทะลักเข้ากรุงเทพฯ 10 ส.ค.นี้ เตรียมรับมือเต็มที่



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)

 

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการกทม. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงผลกระทบจากพายุโซนร้อนนกเตนว่า คาดว่าประมาณวันที่ 10 ส.ค.นี้ กทม.จะได้รับผลกระทบปริมาณน้ำจากภาคเหนือ

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (ผอ.สนน.) จึงทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 27 ก.ค.54 ถึงผู้อำนวยการสำนักการโยธา ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการเขตและผู้อำนวยการกองโรงงานช่างกล ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.54 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ สนน.จะเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรือน ขณะเดียวกันยังได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่องด้วย

สำหรับมาตรการป้องกันน้ำท่วม หากปริมาณน้ำเหนือจำนวนมากไหลผ่านกทม. นั้น เจ้าหน้าที่ได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว โดยนำกระสอบทรายไปกั้นปิดทางน้ำไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องได้ในระยะนี้

นายพรเทพ ยังกล่าวอีกว่า ทางกทม. มีศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำน้ำท่วม ตรงข้ามห้างซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ และเมื่อเร็วๆนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมฝั่งธนบุรีอีกหนึ่งแห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว
โดยได้เตรียมเจ้าหน้าที่ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกลต่างๆ ไว้รับมือเต็มที่ และยังมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งระบบสารสนเทศ เพื่อติดตามสภาพฝน ตรวจวัดปริมาณน้ำฝน ระบบเฝ้าระวังน้ำท่วมถนน ระบบเฝ้าระวังน้ำล้นคลอง ซึ่งระบบสารสนเทศต่างๆ จะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมดังกล่าวตลอดเวลา
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 18:23:02


ความคิดเห็นที่ 916 (1561747)

หมอกควันไฟป่าอิเหนา

คลุมยะลา

วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2554 เวลา 11:56 น




สสจ.แนะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน พร้อมสั่งเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นพิเศษ
วันนี้ ( 2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าบนท้องฟ้าทั่วทั้ง จ.ยะลา มีหมอกควันไฟจากประเทศอินโดนีเซียเข้าปกคลุมอีกระลอก ส่งผลให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นระยะไกลไม่ชัดเจน โดยเฉพาะบนท้องฟ้ามีความหนาแน่นของหมอกควันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากบดบังทัศนียภาพ และมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเทือกเขา แต่ในภาคพื้นดินที่ต่ำลงยังคงมองเห็นได้ชัด ทั้งนี้ปัญหาหมอกควันเข้าปกคลุมท้องฟ้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนก.ค. 54 ที่ผ่านมา ก็พบเข้ามาปกคลุมแล้วถึง 2 ครั้ง

นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ทาง สสจ.ยะลา ก็ได้มีการประกาศประชาสัมพันธ์ ทางเว็บไซต์ เสียงตามสายไปยังหมู่บ้านต่างๆ รวมทั้งเอกสารแผ่นพับที่แจกจ่ายไปตามสาธารณสุขอำเภอต่างๆ นอกจากนั้นก็ยังให้ตามโรงพยาบาลต่างๆ สำรวจว่ามีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจเข้ารักษาตัวเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ในช่วงนี้ และได้มีการเน้นย้ำกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ เช่นหอบหืด ถุงลมโป่งพอง ให้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นพิเศษ และให้สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่โล่งที่พบว่ามีปริมาณหมอกควันหนาแน่น

“คนที่ร่างกายแข็งแรงก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ ก็จะมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกบ้าง แต่บางรายที่เป็นโรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอ ก็อาจจะมีอาการมากขึ้น สำหรับการดูแลตัวเองขอแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ประชาชนทุกคน ควรจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำปิดจมูก ในขณะที่อยู่นอกบ้าน” นายแพทย์ สสจ.ยะลา กล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 18:24:08


ความคิดเห็นที่ 917 (1561749)

พายุทอร์นาโดในรัสเซีย และสารพัดสัตว์บนที่ปัดน้ำฝน ตั้งแต่น่ารักยันน่ากลัว !!


นกบนที่ปัดน้ำฝน ไม่ยอมบินไปไหนแม้ที่ปัดน้ำฝนกำลังทำงานอยู่

 


นอกจากนกแล้วก็ยังมีงูที่อยู่หน้ารถ ดูแล้วคนละอารมณ์กับนกเลย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 18:24:54


ความคิดเห็นที่ 918 (1561755)

กทม.พร้อมรับมือ"นกเตน" คาด10สค.น้ำเหนือเข้ากรุง

2 สค. 2554 14:56 น.


นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวถึงอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ถึงปัจจุบัน ว่า คาดว่าประมาณวันที่ 10 ส.ค. กทม.จะได้รับผลกระทบปริมาณน้ำจากภาคเหนือ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) จึงทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 27 ก.ค.54 ถึงผู้อำนวยการสำนักการโยธา(สนย.) ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.)ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) และผู้อำนวยการเขตทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายพรเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สนน. จะเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรือน ขณะเดียวกันยังได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมาตรการป้องกันน้ำท่วม หากปริมาณน้ำเหนือจำนวนมากไหลผ่านกทม. เจ้าหน้าที่ได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว โดยนำกระสอบทรายไปกั้นปิดทางน้ำไว้ทั้งหมดแล้ว และกทม.ยังมีระบบสารสนเทศเพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมดังกล่าวตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องได้ในระยะนี้

น้ำวังไหลหลาก-สั่งปิดรร.ในอ.เกาะคาน้ำสูง 2 เมตร

2 สค. 2554 14:27 น.


แม่น้ำวังไหลหลากพื้นที่ อำเภอเกาะคา จ.ลำปาง หลายแห่งอ่วม อบต.นาแสง -สถานอนามัยปิดทำการ-โรงเรียนปิดเรียน ระดับน้ำสูง 2 เมตร
นายศรีโรจน์ นิมมานพัชรินทร์ นายอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ประสบภัยทางธรรมชาติ จากอิทธิพลของพายุนกเตน ขณะนี้พื้นที่ อ.เกาะคา มี 3 ตำบล ที่ประสบภัย ได้แก่ ต.ลำปางหลวง ต.นาแส่ง และ ต.นาแก้ว ซึ่ง ที่ ต.นาแส่ง ถือว่าประสบภัยหนักที่สุด โดยแม่น้ำวัง ไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเป็นบริเวณกว้างกว่า 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎร ได้รับความเดือดร้อนกว่า 600 หลังคา รือน พื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะ นาข้าว จมอยู่ในน้ำกว่า 4,000 ไร่ บางพื้นที่กลายเป็นบึงใหญ่ เนื่องจาก น้ำท่วม จมมิด ไม่เห็นนาข้าว
นอกจากนี้ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลนาแส่ง สถานีอนามัยบ้านนาแส่ง วัดบ้านนาแส่ง โรงเรียนบ้านนาแส่ง - แม่ไฮ โรงเรียนบ้านสบต๋ำ ต.นาแก้ว อ.เกาะคา ก็ถูกน้ำท่วมหนัก ระดับสูงเกือบ 2 เมตร ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลนาแส่ง สถานีอนามัยบ้านนาแส่ง ต้องประกาศหยุดทำการ ส่วนรงเรียนข้างต้น ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนออกไปอย่างไม่มีฃ นอกจากนี้ถนนในหมู่บ้าน ที่เชื่อม ต่อสายลำปาง - เกาะคา - สบปราบ เขตบ้านสบต๋ำ ต.นาแก้ว ที่ประชาชนใช้เดินทางไปมาระหว่างอำเภอเกาะคา และสบปราบ น้ำจากแม่น้ำวัง ยังไหลตัดผ่านถนน ความสูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้
ขณะนี้ ทางอำเภอเกาะคา ได้สั่งการให้ทุกฝ่าย ติดตามความเดือดร้อน และเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว แต่การเช้าไปสำรวจและช่วยเหลือ นั้นถือว่ายากลำบาก เนื่องจาก ต้องเดินลุยน้ำและต้องใช้เรือแล่นเข้าไปเท่านั้น บางจุดน้ำไหลเชี่ยวกราดก็ถือว่า เป็นอุปสรรคต่อการเข้าไปและ สิ่งที่ผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด คือ อาหาร และน้ำดื่มที่ขาดแคลน ซึ่งทางอำเภอเกาะคา จะได้เร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน



ปภ.น่าน เผยนกเตนทำประชาชน 4 อำเภอ เดือดร้อน

2 สค. 2554 14:23 น.


นกเตน ทำประชาชน 4 อำเภอ กว่า 2.1 หมื่นคนเดือดร้อน ระบุสถานการณ์คลี่คลาย-น้ำเริ่มลดระดับ ขณะที่นายทม.น่าน เปิดประตูระบายน้ำเร่งระบายท่วมน้ำขัง
นายธวัช เพชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่านตอนนี้คลี่คลายแล้ว โดยน้ำท่วมนั้นเป็นน้ำล้นลำห้วยและน้ำป่าไหลหลาก ไม่ใช่น้ำจากลำน้ำน่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก โดยน้ำน่านขณะนี้อยู่ที่ระดับ 4 เมตร ห่างจากระดับวิกฤตที่ระดับ 7 เมตร สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากอันเนื่องมาจากพายุโซนร้อนนกเตนจากการสำรวจตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม-2 สิงหาคม พบในพื้นที่ 4 อำเภอ ทั้งอ.เมือง อ.นาหมื่น อ.ภูเพียง และอ.เวียงา
พบว่ามีผู้ประสบภัยทั้งหมด 21,497 คน จำนวน 7,208 ครัวเรือน ทั้งหมด 19 ตำบล 142 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวน 10,744 ไร่ ถนนได้รับความเสียหายจำนวน 29 สาย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้คลี่คลาย ระดับน้ำที่ไหลเข้ามาเริ่มมีการระบายน้ำและใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่แม่น้ำน่านแล้ว โดยได้ระบายน้ำลง 2 เส้นทาง คือทางคลองเจ้าฟ้าและบริเวณต้นโพธิ์ท่าน้ำ โรงเรียนสตรีศรีน่าน แต่น้ำระบายได้ค่อนข้างเนื่องจากน้ำจากสาขาต่างๆ ได้ไหลเอ่อเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ได้ไหลเข้าท่วมบริเวรถนนอนันตวรฤทธิเดช ซึ่งถือเป็นย่านการค้าสำคัญของจังหวัดน่าน


ชัยภูมิเร่งระบายน้ำเขื่อนลำปะทาวรับมือพายุลูกใหม่

2 สค. 2554 13:32 น.


อิทธิพลจากพายุนกเตนถึงแม้จะอ่อนแรงลงแล้วก็ตาม แต่ยังคงทำให้เกิดฝนตกตลอดทั้งวันต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยเฉพาะพื้นที่เทือกเขาภูแลนคา ในเขตรอยต่อ อ.หนองบัวแดง จุดต้นกำเนิดแม่น้ำชี อ.แก้งคร้อ และอ.เมืองชัยภูมิ จนล่าสุดทำให้มีปริมาณน้ำป่าหลากเข้าล้นสันเขื่อนลำปะทาวขึ้นมาสูงกว่า 12 ซม. ซึ่งเขื่อนลำปะทาวตอนบน ความจุ 44 ล้าน ลบ.ม.และตอนล่าง ความจุ 16 ล้าน ลบ.ม.
ด้านนายสมบัติ มีลักษณะสม รักษาการหัวหน้าโครงการชลประทาน จ.ชัยภูมิ ต้องเร่งลงพื้นที่สำรวจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ส.ค. เพื่อให้มีการเร่งระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนลำปะทาว เพื่อเตรียมรับมือน้ำป่าอีกจำนวนมากยังคงจะไหลเข้าสู่ตัวเขื่อนอีกจำนวนมาก
ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดระดับน้ำที่ล้นสันเขื่อนลำปะทาว ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 12 ซม.ต่อเนื่อง โดยทางเขื่อนลำปะทาวจะต้องเร่งทยอยระบายน้ำออกผ่านตัวเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ให้ได้กว่าวันละ 100,000 ลบ.ม. เพื่อไม่ให้กระทบกับคนในตัวเมืองชัยภูมิที่อาจจะเกิดน้ำท่วมขังล้นตลิ่งสูงขึ้นมาท่วมบ้านเรือนเสียหายได้ ถ้าหากปล่อยน้ำจำนวนมากมหาศาลกว่า 7 ล้าน ลบ.ม.ลงมาทีเดียว
ทางหน่วยงานชลประทานจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองชัยภูมิ จึงต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำด้วยฟ้าแรงดันสูง ไว้รองรับให้เรียบร้อยก่อนกว่า 10 จุด ในเขตตลอดลำห้วยเสว ซึ่งเชื่อมต่อลำปะทาว เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากเขื่อนลำปะทาวให้ไหลผ่านตัวเมืองชัยภูมิ ให้รวดเร็วขึ้นและไม่ให้เกิดน้ำล้นตลิ่งขึ้นมาท่วมขังได้ เพื่อเร่งผลักน้ำจากเขื่อนลงสู่หนองตาดำ ผ่านต.บุ่งคล้า ไปลงสู่ลำชีผ่านเข้านครกาหลง อ.คอนสวรรค์ ผ่านเข้าจ.ขอนแก่นต่อไป
สถานการณ์ล่าสุดยังสามารถรับมือการเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนลำปะทาว ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดน้ำท่วมในตัวเมืองชัยภูมิไว้ได้ ถ้าไม่มีพายุลูกอื่นเข้ามาซ้ำอีก และทางจ.ชัยภูมิ จำเป็นต้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อ.เมืองชัยภูมิ ไว้ก่อนว่าไม่ควรประมาท และให้คอยติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนจากทางจังหวัดอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ซึ่ง ถึงแม้ว่าขณะนี้ระดับน้ำล้นสันเขื่อนลำปะทาวสูงอยู่ที่ 12 ซม.ยังสามารถรับมือได้ แต่ถ้าล้นสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50 ซม.ขึ้นไป ถือว่าเป็นจุดอันตรายที่จะต้องมีการประกาศแจ้งเตือนภัยจังหวัดให้ทราบทันที ซึ่งประชาชนยังคงต้องคอยติดตามระดับล้นสันเขื่อนจากทางจังหวัดช่วงนี้ให้ต่อเนื่อง เพราะยังมีน้ำจากบนเทือกเขาภูแลนคายังคงมีฝนตกลงมาไม่หยุดต่อเนื่องที่ยังจะมีน้ำป่าจำนวนมากไหลเข้าสู่ตัวเขื่อนลำปะทาวได้อีกต่อเนื่องหรืออาจะเพิ่มมากขึ้นได้อีกเช่นเดียวกันในช่วงนี้


ทน.ลำปางเร่งติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำท่วมขังลงสู่แม่น้ำวัง

2 สค. 2554 13:18 น.


เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครลำปางพร้อมชาวบ้านในชุมชน ทองประเสริฐเขตเทศบาลนครลำปาง นำกระสอบบรรจุทรายลงกั้นทางน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำหลักไหลเข้าบ้านเรือน พร้อม เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังในชุมชนหลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมาจนถึงเช้าทำให้น้ำป่าบนภูเขาพระบาทไหลลงมามีปริมาณสะสมจำนวนมาก และเอ่อทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนทองประเสริฐกว่า 200 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ชลประทานลำปางได้นำเอาเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงการเกิดน้ำท่วมขังเข้าบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลจำนวน 12 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง
ด้านนาย ดร.นิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เปิดเผยว่ า จากสถานการณ์ดังกล่าวทางเทศบาลนครลำปางได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เฝ้าติดตามระดับน้ำในแม่น้ำวัง หลังจากมีฝนตกลงมาจำนวนมากและมีปริมาณสะสม อาจจะเอ่อไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปาง ที่อาศัยอยู่ที่ลุ่ม 2 ฝั่งแม่น้ำ ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำวังใกล้ถึงระดับที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อเป็นการแจ้งเตือนประชาชน พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือได้ทันที



เขื่อนสิริกิติ์ หยุดระบายน้ำออก ช่วยปชช.


สค. 2554 13:11 น.


เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายธนรัชต์ ภูมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า แม้พายุนกเตนจะพัดผ่านประเทศไทยไปแล้ว แต่เขื่อนสิริกิติ์ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และได้ตรวจสอบปริมาณน้ำท้ายน้ำ ตามคลองสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแม่น้ำปาด อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งรับน้ำจาก อ.ฟากท่า อ.น้ำปาด และไหลมารวมกับแม่น้ำน่านที่ด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำมากถึง 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 3 เครื่อง จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูง ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่านได้รับผลกระทบ ทางเขื่อนสิริกิติ์จึงได้ประสานงานกรมชลประทาน ขอลดการระบายน้ำเหลือ 0 ล้านลูกบาศก์เมตร
"เขื่อนสิริกิติ์ จะทำการควบคุมปริมาณน้ำท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด เมื่อปริมาณน้ำของลำน้ำสาขาลดลงแล้ว ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 วันน่าจะอยู่ช่วงปกติ ทางเขื่อนสิริกิติ์จะได้ประสานกับชลประทานเพื่อปรับแผนระบายน้ำต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำ ระดับน้ำอยู่ที่ 154.62 เมตร รทก. ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7,664.66 ล้าน ลบ.ม. หรือ 80.91 % จากความจุ 9,510 ล้าน ลบ.ม.และ สามารถรับน้ำได้อีก 1,815 ล้าน ลบ.ม.หรือ 19.14 % หากวัดเป็นเมตรยังรับได้อีก 7.38 เมตร ” นายธนรัชต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ต่างโทรศัพท์สอบถามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังระดับน้ำน่านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น จนบางจุดเกิดน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนชาวบ้าน เนื่องจากไม่สามารถเข้าตรวจสอบสถานการณ์น้ำผ่านทางเวปไซด์ของเขื่อนสิริกิติ์ได้ ผลมาจากมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการจำนวนมากส่งผลให้เวปดังกล่าวล่ม

น้ำแม่ยมเอ่อท่วมตัดขาดอำเภอวังชิ้น จ่อท่วมสุโขทัย


2 สค. 2554 13:08 น.


แพร่ - แม่ยมเอ่อท่วมตัดถนนสาย อ.วังชิ้น -ไป อ.เถิน-อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัยแล้ว ระดับน้ำเฉลี่ย 2-3 เมตร ปภ.เผย น้ำแม่ยมไหลท่วมสุโขทัยภายใน1-2 วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์พายุนกเตน เคลื่อนตัวเข้าสู่ จ.แพร่ ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลกระทบเนื่องจากมีฝนตกในทุกพื้นที่ของ จ.แพร่ โดยแม่น้ำยมมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และในวันนี้ตั้งแต่เวลา 02.00 น.เป็นต้นมา ระดับน้ำแม่ยมช่วงไหลผ่าน อ.วังชิ้น ก่อนที่จะเข้าสู่ จ.สุโขทัย เพิ่มระดับน้ำที่สูงขึ้น จนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน อ.วังชิ้น ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยระดับน้ำบางจุดสูงถึง 3 เมตร ทำให้ทางอำเภอวังชิ้น ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือราษฎร อย่างเร่งด่วนเร่งด่วนโดยน้ำแม่ยมได้เข้าท่วม ถนนสายเชื่อมระหว่างวังชิ้น บริเวณ ต.บ่อเหล็กลอง อ.วังชิ้น-กับ อ.เถิน จ.สุโขทัย และ ต.บ่อเหล็กลอง ไป อ.ศรีสัชนาลับ จ.สุโขทัย มีระดับน้ำ สูง 1เมตร
นอกจากนี้ น้ำแม่ยมยังเอ่อเข้าท่วม บ้านเรือนราษฎรใน 17 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่1-10 ต.วังชิ้น หมู่ 1 และ หมู่ 5 ต.แม่เกิ๋ง และ หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่ 10 ต.แม่ป้าก โดยมีระดับน้ำสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ถนน เข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด ขณะที่ยังมีฝนตกและระดับน้ำที่สูงขึ้น บริเวณที่ว่าการอำเภอวังชิ้น น้ำแม่ยมได้เข้าท่วมสูงถึง 2 เมตร ประชาชนที่เข้ามาติดต่อจะต้องพายเรือเข้ามา แต่เจ้าหน้าที่ยังสามารถทำงานได้ และหากฝนยังตกต่อเนื่องจนระดับเพิ่มสูงขึ้น ก็จะต้องอพยพไปทำงานที่ชั้นที่สองของอำเภอวังชิ้น โดยประชาชนสามารถมาติดต่องานราชการได้ตลอดเวลา
นายสมคิด ผานุการณ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ระดับน้ำ แม่ยมขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นวัดได้ที่ สถานีวัดระดับน้ำอุทกวิทยาวัดน้ำโค้ง อ.เมือง จ.แพร่ เมื่อเวลา 11.00 น.วัดได้ 10.30 เมตร โดยพื้นที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมจะถูกน้ำท่วมทั้งหมด และน้ำเหล่านี้จะไหลลงไปที่ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตร ภายใน 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะ จ.สุโขทัย จะได้รับผลกระทบมากที่สุด

สุโขทัยสั่งปิด3โรงเรียน หลังน้ำท่วม

2 สค. 2554 12:59 น.


ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเต็มทั้งสองฝั่งระดับน้ำสูงขึ้น โดยวัดจากจุดตรวจวัดระดับน้ำของกรมชลประทาน ณ.จุดตรวจวัดสถานี Y4 ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำสูงถึง 7.20 เมตร ทำให้เกิดภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 1 , 2 , 4 และ หมู่ที่ 6 ต.ปากแคว อ.เมือง รวมทั้งระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งยังกำลังไหลบ่าเข้าท่วมถนนสายบายพาสรอบเมืองสุโขทัยอีกด้วย โดยระดับน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรหลายจุดรวมทั้งไหลบ่าข้ามถนนสายสุโขทัย - ศรีสำโรง ช่วงหน้าที่ทำการประปาและด้านหน้าสถานีไฟฟ้าสุโขทัยระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ระดับน้ำสูงจากผิวถนน 50 - 60 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์เล็กผ่านได้ลำบาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน
เช่นเดียวกันที่ หมู่ที่ 4 บ้านสามหมื่น และหมู่ที่ 6 บ้านวังกุ้ง ต.ปากพระ อ.เมือง ก็ประสบปัญหาภาวะน้ำท่วมในพื้นที่สูงจากแม่น้ำยมล้นตลิ่งเช่นเดียวกัน รวมทั้งระดับน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมยังไหลบ่าข้ามถนนสาย 1293 ตอนสุโขทัย - บางระกำ ระยะทางยาว 1.6 กม. ระหว่างหลัก กม.ที่ 8.700 - 10.300 โดยระดับน้ำสูงกว่าระดับพื้นผิวถนน 40 เซ็นต์ติเมตร รถเล็กผ่านลำบากและต้องปิดการจราจรชั่วคราว
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัยเขต 1 สั่งปิดโรงเรียนจากผลกระทบภาวะน้ำท่วมได้แก่ โรงเรียนวัดปากแคว ต.ปากแคว , โรงเรียน เทศบาลวัดไทยชุมพล และโรวเรียนบ้านลัดทรายมูล
ขณะเดียวกันนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ซึ่งออกติดตามสถานะการณ์ระดับน้ำอย่างใกล้ชิดได้สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระดมกำลังพร้อมอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเข้าพื้นที่ทำการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนพร้อมทั้งออกประกาศเตือนชาวบ้านทั้งสองฝั่งของแม่น้ำยมที่ไหลผ่านจังหวัดสุโขทัยให้เตรียมความพร้อมในการอพยพขนข้าวของขึ้นไว้ในที่สูงรวมทั้งระมัดระวังภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่งฉับพลันโดยติดตามข่าวสารของทางราชการที่ออกประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำหลากท่วมอำเภอเกาะคาลำปาง

2 สค. 2554 12:34 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากชาวบ้านที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำวัง ในตัวเมืองลำปาง ได้รับผลกระทบน้ำในแม่น้ำวังไหลเข้าท่วม จนชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำ ล่าสุด ที่ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายอดุลย์ กันธิดา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ได้ออกสำรวจพื้นที่หลายหมู่บ้านในตำบลลำปางหลวง หลังน้ำหลากจากลำน้ำแม่ตาล ลำน้ำแม่เถาวัลย์ และน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาขุตาลไหลเข้าท่วมบ้านราษฎรในพื้นที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก
โดยเฉพาะที่บ้านนางเหลียว หมู่ 4 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ชาวบ้านต้องเร่งขนของไปไว้ในที่สูงเพื่อหนีน้ำ บ้านบางหลังได้ถูกน้ำไหลทะลักเข้าไปในตัวบ้าน ถนนบางเส้นในหมู่บ้านมีระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร

นายอดุลย์ กล่าวว่าจากการสำรวจทั้ง 13 หมู่บ้าน ที่หนักสุดคือบ้านนางเหลียว บ้านม้าและบ้านจู๊ด เบื้องต้นตนได้นำรถแบ็คโฮเข้าขุดเพื่อเร่งเปิดทางระบายน้ำแล้วเพื่อระบายที่ไหลให้ลงสู่น้ำวังแล้ว นอกจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่พนักงานเทศบาลนำกระสอบทรายแจกจ่ายกับชาวบ้านเพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าบ้านมากกว่านี้และหากฝนยังตกไม่หยุดติดต่อกันหลายวันเทศบาลจะได้นำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป

ทน.ลำปางเร่งติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำท่วมขังลงสู่แม่น้ำวัง


2 สค. 2554 12:22 น.



เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครลำปางพร้อมชาวบ้านในชุมชน ทองประเสริฐเขตเทศบาลนครลำปาง นำกระสอบบรรจุทรายลงกั้นทางน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำหลักไหลเข้าบ้านเรือน พร้อม เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังในชุมชนหลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมาจนถึงเช้าทำให้น้ำป่าบนภูเขาพระบาทไหลลงมามีปริมาณสะสมจำนวนมาก และเอ่อทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนทองประเสริฐกว่า 200 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ชลประทานลำปางได้นำเอาเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงการเกิดน้ำท่วมขังเข้าบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลจำนวน 12 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง

ด้านนาย ดร.นิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เปิดเผยว่ า จากสถานการณ์ดังกล่าวทางเทศบาลนครลำปางได้จัดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เฝ้าติดตามระดับน้ำในแม่น้ำวัง หลังจากมีฝนตกลงมาจำนวนมากและมีปริมาณสะสม อาจจะเอ่อไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปาง ที่อาศัยอยู่ที่ลุ่ม 2 ฝั่งแม่น้ำ ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำวังใกล้ถึงระดับที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อเป็นการแจ้งเตือนประชาชน พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือได้ทันที

เขื่อนสิริกิติ์ หยุดระบายน้ำออก

2 สค. 2554 12:20 น.


นายธนรัชต์ ภูมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า แม้พายุนกเตนจะพัดผ่านประเทศไทยไปแล้ว แต่เขื่อนสิริกิติ์ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และได้ตรวจสอบปริมาณน้ำท้ายน้ำ ตามคลองสาขาต่างๆ

โดยเฉพาะแม่น้ำปาด อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งรับน้ำจาก อ.ฟากท่า อ.น้ำปาด และไหลมารวมกับแม่น้ำน่านที่ด้านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำมากถึง 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 3 เครื่อง จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูง ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่านได้รับผลกระทบ ทางเขื่อนสิริกิติ์จึงได้ประสานงานกรมชลประทาน ขอลดการระบายน้ำเหลือ 0 ล้านลูกบาศก์เมตร

"เขื่อนสิริกิติ์ จะทำการควบคุมปริมาณน้ำท้ายน้ำอย่างใกล้ชิด เมื่อปริมาณน้ำของลำน้ำสาขาลดลงแล้ว ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 วันน่าจะอยู่ช่วงปกติ ทางเขื่อนสิริกิติ์จะได้ประสานกับชลประทานเพื่อปรับแผนระบายน้ำต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำ ระดับน้ำอยู่ที่ 154.62 เมตร รทก. ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 7,664.66 ล้าน ลบ.ม. หรือ 80.91 % จากความจุ 9,510 ล้าน ลบ.ม.และ สามารถรับน้ำได้อีก 1,815 ล้าน ลบ.ม.หรือ 19.14 % หากวัดเป็นเมตรยังรับได้อีก 7.38 เมตร ” นายธนรัชต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ต่างโทรศัพท์สอบถามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังระดับน้ำน่านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น จนบางจุดเกิดน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนชาวบ้าน เนื่องจากไม่สามารถเข้าตรวจสอบสถานการณ์น้ำผ่านทางเวปไซด์ของเขื่อนสิริกิติ์ได้ ผลมาจากมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการจำนวนมากส่งผลให้เวปดังกล่าวล่ม

เชียงใหม่ น้ำปิงวิกฤต เร่งขนกระสอบทราย

2 สค. 2554 11:58 น.


สถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงใหม่ยังน่าเป็นห่วง โดยระดับน้ำในแม่นำปิงที่ไหลผ่าตัวเมืองเชียงใหม่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเรื่อง ล่าสุดในเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ส.ค.ที่จุดตรวจวัดสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 3.74 เมตร เกินจุดวิกฤตที่ 3.70 เมตร โดยน้ำเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุดริมถนนช้างคลานย่านชุมชนป่าพร้าวนอก ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ร่วมกับกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 33 เร่งจัดเตรียมกระสอบทรายเพื่อนำไปทำแนวป้องกันน้ำท่วมหลายจุดที่คาดว่าน้ำจะเข้าท่วมเป็นพื้นที่แรก ทั้ง ถนนเชียงใหม่ - ลำพูน ถนนช้างคลาน ย่านไนท์บาร์ซ่าซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ ถนนเจริญประเทศ ถนนป่าแดด รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ อีกหลายแห่ง
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้จัดเตรียมกระสอบทรายไว้ทั้งหมด 120,000 ใบ พร้อมทราย โดยมีศูนย์แจกจ่ายอยู่ที่แขวงกาวิละ ซึ่งตลอดช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ของเทศบาลได้ร่วมกับกำลังพลทหารเร่งบรรจุกระสอบทรายเพื่อนำไปสร้างแนวป้องกันและจัดเตรียมให้กับประชาชนที่ต้องการมารับไปใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีนำแผงปูนสูง 1 เมตร เข้าทำแนวป้องกันน้ำท่วมตลอดริมฝั่งแม่น้ำปิงด้านถนนเชียงใหม่-ลำพูน เพื่อป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันได้จัดรถออกประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมการรับมือ

นายเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ระบุว่า แม้ข้อมูลจากศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนจะระบุว่าระดับน้ำที่จุดวัด P67 อ.สันทราย ซึ่งอยู่เหนือ อ.เมืองเชียงใหม่ จะเริ่มลดลงตามลำดับซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำใน อ.เมืองเชียงใหม่ เริ่มทรงตัวและจะค่อย ๆ ลดลงระดับลง แต่หากมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีกอาจทำให้น้ำที่อยู่ในจุดวิกฤตอยู่แล้วทะลักท่วมพื้นที่ อ.เมือง ได้ จึงต้องมีการเตรียมการเฝ้าระวังกันอย่างเต็มที่


หมอกควันไฟป่าอินโดปกคลุมยะลารอบสาม

2 สค. 2554 11:51 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า บนท้องฟ้าทั่วทั้งจังหวัดยะลา มีหมอกควันไฟจากประเทศอินโดนีเซียเข้าปกคลุมอีกระลอก ส่งผลให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นระยะไกลไม่ชัดเจน โดยเฉพาะบนท้องฟ้า มีความหนาแน่นของหมอกควันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากบดบังทัศนียภาพ และมอบด้วยตาเปล่าไม่เห็นเทือกเขา แต่ในภาคพื้นดินที่ต่ำลง ยังคงมองเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ปัญหาหมอกควันเข้าปกคลุมท้องฟ้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกรกฎาคม 54 ที่ผ่านมา ก็พบเข้ามาปกคลุมแล้วถึง 2 ครั้ง
นายแพทย์สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในกรณีเกิดหมอกควันจากไฟป่า ในประเทศอินโดนีเซีย ที่พบว่าเข้ามาปกคลุมในพื้นที่จ.ยะลาอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีที่ผ่านมา ทาง สสจ.ยะลา ก็ได้มีการประกาศประชาสัมพันธ์ ทางเวปไซด์ เสียงตามสายไปยังหมู่บ้านต่างๆ รวมทั้งเอกสารแผ่นพับที่แจกจ่ายไปตามสาธารณสุขอำเภอต่างๆ นอกจากนั้นก็ยังให้ตามโรงพยาบาลต่างๆ สำรวจว่ามีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ เข้ารักษาตัวเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ในช่วงนี้ และได้มีการเน้นย้ำกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ เช่นหอบหืด ถุงลมโป่งพอง ให้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นพิเศษ และให้สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่โล่งที่พบว่ามีปริมาณหมอกควันหนาแน่น

“คนที่ร่างกายแข็งแรง ก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ ก็จะมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกบ้าง แต่บางรายที่เป็นโรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอ ก็อาจจะมีอาการมากขึ้น ในช่วงมีหมอกควันมากขึ้น สำหรับการดูแลตัวเองในช่วงนี้ ก็จะขอแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ประชาชนทุกคน ควรจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำปิดจมูก ในขณะที่อยู่นอกบ้าน” นายแพทย์ สสจ.ยะลา


น้ำป่าทะลักท่วมลับแล อุตรดิตถ์

2 สค. 2554 11:06 น.


เมื่อเวลา 08.00 น. นายเจษฎา ศรุติสุต นายกเทศมนตรีตำบลศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้ประสานขอกำลังพล 50 นายจากค่ายพระศรีพนมมาศ (ป.พัน 20) พร้อมระดมเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน เข้าไปยังฝายกั้นน้ำทุ่งป่ายาง หมู่ 4 บ้านหัวร้อง ต.ฝายหลวง เพื่อช่วยกันนำท่อนไม้ ซากปรังหักพัง ซึ่งไหลมาปิดกันประตูระบายน้ำ ประกอบกับฝนที่ตกหนักติดต่อกันกว่า 2 วันที่ อ.ลับแล น้ำจากเทือกเขาน้ำตก ที่ล้อมรอบ อ.ลับแล จึงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านและพื้นที่การเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านและกำลังพล ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อนำเศษไม้และซากปรังหักพังที่ปิดเส้นทางระบายน้ำออก เนื่องจากมีความหนาแน่นจนชาวบ้านสามารถลงเป็นเดินบนซากปรังหักพังดังกล่าวได้ ทั้งนี้น้ำที่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านมีสีแดง ขุ่นข้น ไหลลงสู่คลองแม่พูล คลองแม่พร่อง อย่างรวดเร็วและล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน นาข้าว และเขตเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ ชาวบ้านต่างเร่งเก็บสิ่งของขึ้นไว้ที่สูง ขณะที่เทศบาลตำบลศรพนมมาศระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายออกแจกจ่ายให้ชาวบ้านนำมาปิดกั้นบริเวณหน้า
นายเจษฎา ศรุติสุต นายกเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักตามภูเขาที่อำเภอลับแล ได้นำเศษไม้ ซากปรังหักพัง ที่ไหลตามน้ำมาปิดประตูระบายน้ำที่ฝายทุ่งป่ายาง มีความหนาแน่นจนชาวบ้านสามารถเดินทางไปเหยียบได้ ส่งผลทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ต.ฝายหลวง และ เทศบาลตำบลศรีพนมมาศกว่า 300 หลังคา พื้นที่การเกษตร ที่เป็นนาข้าวกว่า 5000 ไร่ จึงต้องเร่งนำซากปรังหักพังออกเพื่อเปิดเส้นทางน้ำ ขณะเดียวกันฝนที่ยังคงต้องในพื้นที่ ได้แจ้งเตือนชาวบ้านเฝ้าระวัง เก็บสิ่งของไว้ที่สูงและผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ซึ่งอาศัยอยู่ตามบ้าน ย้ายไปที่โรงพยาบาลลับแลก่อนเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามอำเภอลับแล เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสีแดงอันดับ 1 ของจังหวัดอุตรดิตถ์และเคยเกิดดินโคลนถล่มมาแล้วเมื่อปี 2549 ดังนั้นจึงมีการแจ้งเตือนชาวบ้านให้เฝ้าระวัง ติดตามข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.ทองแสนขัน ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ชาวบ้านทยอยขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง กลับเข้าบ้านและทำความสะอาดและยังมีเพียงบางส่วนที่อาศัยอยู่ที่ลุ่ม ระดับน้ำยังคงท่วมขัง ทางเทศบาลตำบลทองแสนขันจึงนำเครื่องสูบน้ำบริการสูบน้ำออกเพื่อให้ชาวบ้านได้เข้าพักอาศัยตามปกติ โรงเรียนบ้านแสนขัน และโรงเรียนบ้านท่าช้าง เทศบาลตำบลทองแสนขัน ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงและหยุดการเรียนการสอน วันนี้ ( 2 ส.ค.) ครูและนักเรียนต่างช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียนและจะเปิดสอนในวันที่ 3 ส.ค.นี้

ดิน-หินสไลด์ ปิดเส้นทางลำปาง-งาว

2 สค. 2554 10:37 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดฝนตกหนักและติดต่อกันอย่างต่อเนื่องมา ตลอดทั้งคืนในพื้นที่ จ.ลำปาง ปรากฏว่าได้เกิดดินและก้อนหินบนภูเขาถล่มลงมาทับและปิดเส้นทาง บนถนน ลำปาง-งาว ขาขึ้นหลักกิโลเมตรที่ 746-747 เขตบ้านจำปุย หมู่ 4 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ก่อนถึงค่ายฝึกรบพิเศษประตูฝาประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางลำปางและเจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.บ้านดง ต้องนำป้ายมาติดตั้ง ก่อนถึงจุดที่ดินและหินถล่มลงมา เพื่อเตือนให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเส้นทางดังกล่าว ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีเศษหินและดินบนภูเขาหล่นลงมาอย่างต่อเนื่องและต้องปิดการเส้นทางถนน 1 ช่องจราจร สามารถเดินรถได้เพียงเลนเดียว ที่สำคัญเกรงว่าจากฝนตกที่ตกอย่างหนัก อาจจะทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ใกล้จะหล่นลงมาและเกิดอันตรายขึ้นได้ จึงของให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงระยะนี้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย ซึ่งขณะทางเจ้าหน้าที่ กำลังนำเครื่องจักรกล เร่งเปิดเส้นทางแล้ว

แม่น้ำวังน้ำเพิ่มระดับ ตัวเมืองลำปางยังวิกฤต

2 สค. 2554 10:27 น.


นายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกเทศบาลนครลำปาง เปิดเผยว่า เข้าสู่วันที่ 2 แล้ว หลังจากยังมีฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมาในแม่น้ำวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเทศบาลคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรในตัวเมืองลำปางต่อไป เนื่องจากน้ำในแม่น้ำวังยังมีระดับที่สูง ขึ้นเรื่อย ๆ และท่วมบ้านเรือนราษฎรสองฝั่งแม่น้ำวัง ในเขตเทศบาลนครลำปาง อย่างต่อเนื่อง
สำหรับเขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปาง ล่าสุดมีการระบายน้ำออก 150 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที แต่ปริมาณน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาสู่แม่น้ำวังถือว่ามีปริมาณที่สูงกว่า 190 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ทำให้น้ำในแม่น้ำวังยังมีปริมาณที่สูงมากไหลเชี่ยวกราก และยังอยู่ในระดับที่วิกฤต
จากการตรวจสอบ น้ำในแม่น้ำวังที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครลำปาง มีปริมาณการไหล 485 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที อยู่ในระดับที่ทรงตัว แต่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาสมทบและทำให้ปริมาณน้ำในแม่วังมีระดับที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชุมชนท่านางลอย ชุมชนหลังวัดพระแก้วดอนเต้า ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนปงสนุก และชุมชนบ้านดง บ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน ระดับที่ไหลเข้าท่วมอยู่ในสูง 1-2 เมตร ล่าสุด ที่แขวงการทางลำปาง ถนนพหลโยธิน ใกล้กับทางรถไฟ แยกดอนปาน ระดับน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลและแขวงการทางได้เฝ้าระวังคาดว่าจะสูงขึ้นอีก

ด้านนายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผอ.เขื่อนกิ่วลม จ. ลำปาง กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณ น้ำในเขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปางยังคงมีปริมาณ น้ำอยู่ที่ 93 ล้านลูกบาศเมตร จากปริมาณความจุเขื่อน 106 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 87 เปอร์เซนต์ ส่วนเขื่อนกิ่วลมยังสามารถรองรับน้ำได้อีก และขณะนี้ทางเขื่อนกิ่วลม ได้ระบาย150 ล้านลูกบาศเมตร/วินาที ส่วนการปล่อยน้ำหรือพร่องน้ำดังกล่าว อาจจะส่งผลให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ท้ายเขื่อน คือ เขตเทศบาลนครลำปาง เขต อ.เมือง เขต อ.เกาะคา จะได้รับผลกระทบบ้าง ส่วนปริมาณน้ำวัง ยังคงจะมีปริมาณที่สูงมากล้นตลิ่งบ้างเป็นบางพื้นที่

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-02 18:28:22


ความคิดเห็นที่ 919 (1561834)

ภาวะแล้งในจีน ทำให้ประชาชนราว 4.28 ล้านคน
ขาดแคลนน้ำดื่ม


เนื่องจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด ประกอบกับฝนแล้งทำให้เขต Mongolia Autonomous Region, Ningxia Hui Autonomous Region, เขตมณฑล Gansu, Guizhou และ Hunan ได้รับผลกระทบอย่างหนัก




A farmer carries corns afflicted by drought in Bangxiang Village of Sansui County, southwest China"s Guizhou Province, Aug. 1, 2011. The severe drought in Guizhou left 1.816 million people in short of drinking water, affected 550,200 hectares of farm field and caused direct economic losses of 1.82 billion yuan (about 283 million U.S. dollars). (Xinhua/Ou Dongqu)


A farmer walks past the dried corn field in Bangxiang Village of Sansui County, southwest China"s Guizhou Province, Aug. 1, 2011. The severe drought in Guizhou left 1.816 million people in short of drinking water, affected 550,200 hectares of farm field and caused direct economic losses of 1.82 billion yuan (about 283 million U.S. dollars). (Xinhua/Ou Dongqu)

 
A farmer irrigates farmland in Bangxiang Village of Sansui County, southwest China"s Guizhou Province, Aug. 1, 2011. The severe drought in Guizhou left 1.816 million people in short of drinking water, affected 550,200 hectares of farm field and caused direct economic losses of 1.82 billion yuan (about 283 million U.S. dollars). (Xinhua/Ou Dongqu)


http://news.xinhuanet.com/english201...31023303_3.htm
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:17:53


ความคิดเห็นที่ 920 (1561835)

นกเตน’อ่อนกำลัง

แต่ทุกภาคฝนยังหนัก

อุตุฯจับตา"หมุ่ยฟ้า"จ่อไทย


หมุ่ยฟ้า′จ่อถล่มอีกลูก
 วันที่ 1 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุหลังจากพายุ‘นกเตน’ พัดผ่านประเทศไทยไปยังพม่า อาจมีพายุ‘หมุ่ยฟ้า’ พัดเข้าสู่พื้นที่อีสานและเหนือ อีกลูก โดยหมุ่ยฟ้า เป็นชื่อภาษีจีน แปลว่า ดอกพลับบาน เป็นพายุโซนร้อนที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ เส้นทางเดินพายุพัดผ่านฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว และอาจเข้าไทยแต่อ่อนกำลังเป็นดีเพรสชั่น หรือแผ่อิทธิพลทำให้เกิดฝนตกหนักในไทยได้
 นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมครม. ว่า นายกฯ ได้เชิญนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาชี้แจงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเร่งระบายน้ำ รวมทั้งให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดที่มีปัญหาอุทกภัย ใช้งบประมาณฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือประชาชนเป็นกรณีเร่งด่วน
 
ฝนยังหนักทุกภาค
 นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้พายุนกเตน ได้อ่อนกำลังลงและสลายตัวไปแล้ว แต่ประเทศไทยโดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก จะยังคงได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุนกเตนอยู่ โดยจะทำให้มีฝนตกกระจายเพิ่มขึ้นเกือบทั่วประเทศในระยะนี้ไปอีก 1-2 วัน อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งได้ในระยะนี้ ตั้งแต่ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท ส่วนภาคใต้ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะยังมีฝนตกทั่วพื้นที่และทะเลมีคลื่นสูง ไม่เหมาะแก่การเดินเรือไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค. ขอให้ประชาชนทั่วประเทศติดตามข่าวสารด้านสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง
 อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ส่วนพายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์และมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวไปทางตอนเหนือของเกาะไต้หวันในวันที่ 4 ส.ค. ยังไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อไทยในระยะนี้ แต่จะติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
 
 
ศพแรกสังเวยน้ำท่วมที่อุดรฯ

 ส่วนผลกระทบจากพายุดีเพรสชั่น‘นกเตน’ ที่จ.อดรฯ น้ำท่วมหนักที่ อ.น้ำโสม และอ.นายูง โดยไหลบ่าจากต้นน้ำเทือกเขาภูพานน้อย บ้านเทพโพธิ์เงิน ม.7 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม ไหลท่วมผ่านบ้านนาเกร็น ต.หนองแวง และผ่านบ้านวังเลา ม.3 ต.เนินทอง อ.นายูง ประกอบกับแม่น้ำโขงหนุนบ่า ทำให้ระดับน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะที่บ้านวังเลา สูงถึง 3-4 เมตร ส่วนที่อ่าวปากโสม เขตรอยต่อ ต.เนินทอง อ.นายูง จ.อุดรฯ กับอ.สังคม จ.หนองคาย น้ำไหลลงมาและดึงดินลงมาทำให้ต้นยางล้มระเนระนาด นาข้าวกลายเป็นทะเลสาบ

 นอกจากนี้ กระแสน้ำที่ไหลบ่ามาตั้งแต่เมื่อกลางดึก (31 ก.ค.) และพัดพาร่างนายทองล้วน โยธากุล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.6 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม หายไปนั้น ล่าสุด พบเป็นศพรายแรกจากพิษพายุ‘นกเตน’ แล้ว โดยเมื่อเวลา 13.50 น. พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ทองเนียม รอง ผกก.สส.สภ.น้ำโสม จ.อุดรฯ รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธาธรรมน้ำโสม และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธาธรรมอุดรธานี ที่ช่วยกันงมหาร่างของนายทองล้วน ว่าพบศพแล้วในแม่น้ำโสม หลังโรงเรียนน้ำโสมประชาสรรค์ ม.6 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม

เลยน้ำป่าทะลักกลางดึก  

 โดยที่จ.เลย หลังฝนตกหนักติดต่อกันมา 3 คืน 3 วัน เวลา 01.00 น. วันที่ 1 ส.ค. นำป่าทะลักไหลจากเขาภูข้าว อ.นาด้วง ผ่านบ้านท่าสะอาดไปยังบ้านท่าสวรรค์ ในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านท่าสวรรค์ หมู่ 2 บ้านโนนสวาท หมู่ 5 บ้านงามวงวาน ประมาณ 60 หลัง ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องขนของตั้งแต่ 02.00 น. ของคืนที่ผ่านมา กันอย่างอลหม่าน ขณะที่ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าสวรรค์ สั่งปิดเรียน 1 วัน

 นายนรงค์ จีนอ่ำ นายอำเภอนาด้วง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อส.และหน่วยกู้ภัยของอำเภอเข้าให้การช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา  หลายๆ โรงเรียนในอ.ปากชม เช่น โรงเรียนบ้านห้วยพิชัย โรงเรียนบ้านนาข่า ได้สั่งปิดโรงเรียนเช่นเดียวกัน เนื่องจากน้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าโรงเรียน

สันกำแพงก็อ่วม

 ที่จ.เชียงใหม่ น้ำจากลำน้ำแม่ออนไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนที่บ้านออน ม.14 และบ้านน้อย ม.9 อ.สันกำแพง ทั้งหมด ส่วนศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ.สันกำแพง (กศน.) สันกำแพง ซึ่งในอดีตเป็นโรงเรียนประถมที่อดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยเรียน ถูกน้ำท่วมต้องปิดการเรียนการสอน

 นายสุเทพ ปัญญาแก้ว นายกเทศบาลตำบลสันกำแพง อ.สันกำแพง จัดรถบรรทุกกระสอบทรายนำลงแจกจ่ายประชาชนที่เดือดร้อนแล้ว กว่า 200 หลังคาเรือน และประสานกับทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.) ขอให้นำทรายและกระสอบทรายลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน เนื่องจากน้ำป่าสมทบกับลำน้ำแม่ออนไหลลงมาท่วมบ้านเรือนจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา เชื่อว่าตลอดทั้งวันที่ 1-2 ส.ค.นี้น้ำยังจะเพิ่มมากขึ้น

แม่เมาะขนของหนีน้ำจ้าละหวั่น

 ที่จ.ลำปาง น้ำป่าจากลำห้วยแม่เมาะไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน 5 หมู่บ้าน คือ บ้านห้วยเป็ด บ้านหางฮุง บ้านสบเมาะ บ้านปงชัย และบ้านห้วยคิง พัดพาทรัพย์สินศูนย์หายไปกับน้ำหลายรายการ โดยเฉพาะชาวบ้านหางฮุง และห้วยเป็ด มีประชาชนทั้งคนชรา เด็ก และผู้หญิงติดอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก ระดับน้ำได้มีความสูงมากถึง 1.50 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลแม่เมาะและเจ้าหน้าที่ กฟผ.แม่เมาะ ใช้เรือยางติดเครื่องยนต์ทำงานแข่งกับเวลาและอันตรายจากระแสน้ำเชี่ยวกราก เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน

 นอกจากนี้ บางจุดที่กระแสน้ำเชี่ยวกลากมากจนไม่สามารถใช้เรือยางได้ ต้องใช้เชือกผูกโยงให้คนไต่ เพื่อนำตัวออกมาอย่างทุลักทะเล ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมาะ กู้ภัยเทศบาลแม่เมาะและผู้ใหญ่บ้านต้องเร่งช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นขึ้นไปไว้บนที่สูง ส่วนรถยนต์ รถจักรยายนต์ และอื่นๆ ช่วยกันขนไปไว้ที่วัดประจำหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บนเนิน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

 ที่บ้านผาลาดหมู่ 4 ต.พระบาท อ.เมือง น้ำป่าที่ไหลลงมาจากดอยพระบาท ไหลทะลักข้ามถนนและเข้าท่วมบ้านเรือราษฎรจำนวนหลายหลัง สถานการณ์ทั่วไปยังคงหน้าห่วงเพราะยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องประสานเรือท้องแบนจากหลายหน่วยงานเพื่อใช้ในการอพยพคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ กางเต็นท์และเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ดินถล่มปิดรางรถไฟ

 นอกจากนี้ บริเวณทางรถไฟ บ้านแม่ตาลน้อย ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร เกิดดินสไลด์ลงมาปิดทับรางรถไฟระยะทางยาวกว่า 10 เมตร หนาถึง 1.50 เมตร ทำให้รถไฟไม่สามารถใช้เส้นทางได้ ขบวนรถสปรินเตอร์ กรุงเทพ-เชียงใหม่ วิ่งออกจากสถานีนครลำปาง ไปยังเชียงใหม่ ต้องถอยหลังกลับมาที่สถานีรถไปนครลำปาง ขนถ่ายผู้โดยสารขึ้นรถยนต์เดินทางต่อไปจนถึงปลายทาง เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงรถไฟเร่งเข้าไปดำเนินการแก้ไขแล้ว คาดว่าต้องใช้เวลาเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางตลอดทั้งวัน

 ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอต่างๆ อาทิ อ.เมืองปาน และ อ.แจ้ห่ม เป็นเพียงน้ำหลากไหลเข้าท่วมพืชสวนไร่นาและสิ่งสาธารณูปโภคได้รับความเสียหาย โดยไม่รุนแรงมากนัก ส่วนในเขตเทศบาลนครลำปางชาวบ้านเริ่มวิตกกังวล เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำวังเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านกลัวจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2549 จึงโทรศัพท์สอบถามผ่านศูนย์วิทยุภูธรลำปางถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนกิ่วลม ได้รับคำตอบว่าปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ลงสู่แม่น้ำวังทางเขื่อนกิ่วลมไม่ได้มีการระบายน้ำแต่อย่างใด แต่ทางเทศบาลนครลำปางเตรียมรับมือไว้ในเบื้องต้นแล้ว

หวั่นท่วมหนักกว่าช่วงพ.ค.
 
 นายนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวว่า เทศบาลพร้อมออกไปให้การช่วยเหลือ ยังจัดเตรียมทรายพร้อมถุงบรรจุและเครื่องสูบน้ำ โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งเหตุมาที่หมายเลข 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสำนักการช่างเทศบาลนคร เร่งขุดลอกคูคลองท่อระบายน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาปัญหา คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเท่ากับหรือมากกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อวันที่ 9-11 พ.ค.ที่ผ่านมา

แม่น้ำยมวิกฤต-แพร่ท่วมหนัก 

 จ.แพร่ หลังฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน 2 คืนทั้ง 8 อำเภอ น้ำป่าที่รุนแรงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่ในขั้นวิกฤต โดยเวลา 14.00 น. วัดได้ 9.41 เมตร และมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายพื้นที่รถยนต์ไม่สามารถวิ่งได้ เช่นถนนสายแม่ปาน-อ.ลอง ถนนสายทุ่งแล้ง-ไปอ.ลอง ถนนจากทุ่งแล้งไปบ้านวังเคียน  พร้อมทั้งถนนสายทุ่งแล้งวังชิ้น ที่ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง หมู่ 1 และหมู่ 9 ระดับน้ำบางจุดเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 2 เมตร

 นอกจากนี้ น้ำท่วมได้กระจายไปทั้งจังหวัด โดยเฉพาะที่ อ.สองห้วยแม่สะกึ๋น ห้วยแม่สอง ทำให้ไร่ข้าวโพดและนาข้าว ในต.สะเอียบ ต.เตาปูน ต.บ้านกลาง ได้รับความเสียหาย อ.ร้องกวาง อ.หนองม่วงไข่ ที่ห้วยแม่คำมี ห้วยแม่เติก แม่ถาง พืชผลเกษตรเสียหาย ในเขตอ.เมือง น้ำป่าไหลเข้าท่วมตัวเมืองบริเวณสี่แยกสนามบินและหน้าโรงพยาบาลแพร่ และบริเวณต้นน้ำมีดินเคลื่อนตัวทำให้ถนนหลายแห่งและย่านชุมชนในบ้านแม่ลัว ประสบปัญหาหนัก ชาวบ้านไม่สามารถเข้าออกได้ด้วยรถยนต์

ผวาเจออีกลูกท่วมใหญ่
 อ.สูงเม่น น้ำแม่มาน น้ำแม่สาย มีน้ำป่าออกมากเช่นกัน เข้าท่วมบ้านสบสาย สูงถึง 1 เมตร อ.เด่นชัย ลำห้วยแม่พวกซึ่งเป็นลำห้วยขนาดใหญ่ที่สุดของอำเภอมีน้ำป่าออกอย่างรุนแรง ท่วมโรงเรียนบ้านห้วยไร่ ชุมชนหลายแห่ง พืชผลเกษตรและสัตว์เลี้ยงจำพวกโคกระบือหนีน้ำไม่ทันเสียชีวิตหลายตัว อ.ลอง น้ำแม่ต้า น้ำป่าทำให้บริเวณทางเข้าสถานีรถไฟบ้านปินถูกตัดขาดชั่วขณะ น้ำป่าเข้าตัดทางรถไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของการรถไฟได้ส่งพนักงานเข้าซ่อมอย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถใช้การได้ไม่ต้องหยุดเดินรถ

 เมื่อถึงช่วงเย็น จุดที่เกิดน้ำป่าคลี่คลายลงบ้างแต่แม้น้ำยมยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัว นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าฯ แพร่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เตรียมพร้อมในการช่วยเหลือ เพราะพยากรณ์อากาศล่าสุดจะมีพายุลูกใหม่เข้ามาอีก และถ้าน้ำยมยังคงระดับอยู่จะทำให้ปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจนอาจท่วมในเขตเศรษฐกิจก็เป็นได้ แต่จังหวัดมีมาตรการรองรับไว้แล้ว

กรุงเก่าเร่งป้องกันโบราณสถาน 

 ที่จ.พระนครศรีอยุธยา มีการกั้นเขื่อนชั่วคราวบริเวณวัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม ด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคนงานของกรมศิลปากรพระนครศรีอยุธยา เร่งยกแผ่นเหล็ก หรือแผ่นบังเกอร์ ป้องกันนั้นท่วมแบบสำเร็จรูป ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน 

 นายสุพจน์ พรหมมาโนช ผอ.สำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เผยว่า วัดไชยวัฒนาราม เป็นโบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นโดยเหลืออีกประมาณ 80 ซ.ม. จะท่วมถึงสันเขื่อน จึงต้องเร่งทำเขื่อนชั่วคราว แผ่นเหล็กจะสามารถป้องกันน้ำท่วมในระดับความสูง 2 เมตรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากระดับน้ำสูงกว่านี้ก็สามารถต่อความสูงของเขื่อนป้องกันน้ำท่วมขึ้นไปอีกได้ สำนักศิลปากรที่ 3 เร่งดำเนินการป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานติดแม่น้ำ มั่นใจเตรียมความพร้อมทันเวลา ที่โบราณสถานวัดธรรมมารามติดแม่น้ำพบว่ามีการก่อสร้างเขื่อนป้อมกันน้ำท่วมไว้แล้ว ส่วนโบราณสถานหมู่บ้านโปรตุเกสยังไม่ได้รับผลกระทบเพราะอยู่บนที่สูงกว่าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานทุกแห่งยังมาเที่ยวได้ตามปกติ
 
ดินถล่มปิดถนนที่แม่ฮ่องสอน
 น้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยป่าเห้ว และลำน้ำปอน ทะลักเข้าท่วมในพื้นที่บ้านเรือนราษฏร์หมู่ที่ 1 ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม ข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหาย คลองส่งน้ำถูกกระแสน้ำตัดขาด พื้นที่ไร่นาถูกกระแสน้ำในลำน้ำปอน ไหลเอ่อเข้าท่วมหลายสิบไร่ บ้านของ นายพิชิต  พิทาคำ ถูกกระแสน้ำจนเสาหลุดลอยขึ้นมา
 ที่ต.แม่เงา นายสิทธิชัย บูญระชัยสวรรค์ นายกอบต.แม่เงา เผยว่า กระแสน้ำจากลำห้วยต่างๆ ไหลลงมารวมกัน จนเกิดกระแสน้ำเชี่ยวกรากไหลท่วมพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ไร่นา ส่วนทางหลวงสายบ้านต่อแพ– บ้านประตูเมือง ระหว่างหลักกิโลเมตร ที่ 5- 6 ดินจากภูเขาสูงเกิดการสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทาง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:23:42


ความคิดเห็นที่ 921 (1561836)

ปภ.แถลงพิษพายุนกเตนคร่าชาวอุดรฯ 1 ศพ

วันที่ 02/08/2554 16:48





อธิบดี ปภ.แถลงพายุนกเตนทำให้น้ำท่วมแล้ว 14 จ. มีตายแล้ว 1 ศพที่อุดรธานี เตือนจุดเสี่ยง 37 จ.เหนือ-อีสาน ให้ระวังดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันในช่วง 1-2 วัน...

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อนนกเตน ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร รวม 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่อุดรธานี

อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

ทั้งนี้ หากปริมาณน้ำมีมากจึงจำเป็นที่จะต้องมีการพร่องน้ำออกเพื่อรักษาเขื่อน จึงอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่างและตอนกลาง ต่อพืชผลทางการเกษตร จึงต้องเข้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เกษตรกร จะต้องเร่งเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร ส่วนที่เพิ่งจะเพาะปลูก จะต้องจัดหาพื้นที่รองรับน้ำเพื่อรองรับผลกระทบที่จะตามมา โดยที่ผ่านมา มีบทเรียนจากสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว มีน้ำท่วมกระจายในหลายพื้นที่ ดังนั้น การทำงาน ระหว่างหน่วยงานจะต้องมีการบูรณาการการทำงานกันมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ การประสานงานบูรณาการเป็นไปอย่างดี มีการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกัน และมีศูนย์เฉพาะกิจแต่ละจังหวัด อำเภอ และแยกย่อยไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีการประสานไปยังระดับล่าง เตรียมการป้องกันภัยในทุกรูปแบบ และมีการซักซ้อมมาโดยตลอด

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม 37 จังหวัด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วง 1 – 2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนสี เป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ฝนตกหนักนานกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ ให้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ดังนั้นให้รีบอพยพออกนอกพื้นที่ทันที ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

ปภ.อุดรฯส่งเรือท้องแบนช่วย 20 ชีวิตติดเกาะ 3 คืน

วันที่ 02/08/2554 19:48





ปภ.อุดรธานีส่งเรือท้องแบนช่วย 20 ชีวิตติดเกาะ 3 คืน ในสวนยางเชิงเขาภูพาน เนื่องจากน้ำจากลำห้วยโสมล้นตลิ่งเข้าท่วมล้อมรอบบริเวณทั้งหมด...

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. จากอิทธิพลของพายุนกเตนที่พัดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.น้ำโสม และ อ.นายูง ที่มีภูมิประทศติดกับ จ.เลย และหนองคาย ทำให้ระดับน้ำในลำห้วยราง และลำห้วยโสม ยังคงกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎร บ.นาเกน ม.3 ,8,11 ต.หนองแวง อ.น้ำโสม 465 หลังคาเรือน และ บ.วังเลา ม.1 ต.โนนทอง อ.นายูง 117 หลังคาเรือน ระดับน้ำลึกมากกว่า 1 เมตร และไหลท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง

เมื่อเวลา 11.00 น. นายบัญชา ตะวงษา นายก อบต.นายูง พร้อมเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.นายูง และ ปภ.อุดรธานี ได้นำเรือท้องแบนจากบ้านวังเลา ขึ้นรถ 6 ล้อ เดินทางไปช่วยเหลือราษฎรที่ บ.สว่าง ม.2 ต.นายูง อ.นายูง 6 ครอบครัว 20 คน ติดอยู่ในสวนยางเชิงเขาภูพาน ซึ่งมีสภาพเป็นเกาะ น้ำจากลำห้วยโสมล้นตลิ่ง ท่วมล้อมรอบบริเวณ ทั้งหมดไปปลูกสร้างที่พัก และกระท่อมนา เพื่อทำไร่ ทำนา และกรีดยาง โดยติดอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่คืนวันที่ 30 ก.ค. จนถึงขณะนี้มีเด็กหลายคนป่วย เจ้าหน้าที่ได้นำเรือเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากชาวบ้านลุยน้ำลอยคอออกมาส่งข่าว และนำทางเข้าไปยังพื้นที่โดยเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และระดับน้ำลึกมากในบางจุด ต้องฝ่าทุ่งน้ำที่เป็นเทือกสวน ไร่ นา และสวนยางพารา ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถทยอยนำชาวบ้าน ออกกลับมายังหมู่บ้านด้วยความปลอดภัย โดยมีการนำตัวเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดออกมาก่อน และนำตัวเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนายูงทันที

นายสนั่น โคกสถาน อายุ 45 ปี ราษฎรบ้านสว่าง เปิดเผยว่า เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในสวนเพื่อ ทำนา ทำไร่ และสวนยางพารา ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพราะเป็นที่สูงน้ำไม่ท่วม ที่ผ่านมาหากฝนตกน้ำท่วมก็ไม่ไปไหน จะรอจนน้ำลดจึงจะออกมา แต่ครั้งนี้เป็นคืนที่ 3 แล้วที่น้ำท่วมและไม่ยอมลด แต่เพราะ ด.ช.สุรพล โคกสถาน อายุ 12 ปี หลานชายไปเล่นน้ำในช่วงฝนตก จนเมื่อคืนเกิดมีไข้ขึ้นสูง จึงต้องหาหนทางกลับเข้าหมู่บ้าน จึงขอแรงให้เพื่อนบ้านออกมาแจ้งข่าว

นางพานิตา เข็มพรมมา อายุ 44 ปี ราษฎร บ้านสว่าง เปิดเผยว่า เข้ามากรีดยางกับสามี ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. เมื่อน้ำป่าไหลมาท่วมก็ไปไหนไม่ได้ นอนพักแรมอยู่ที่กระท่อมนามา 3 คืนแล้ว มีเสบียงอาหารพอประทังชีวิตอยู่ แต่เพราะเวลามันล่วงมาหลายวัน เป็นห่วงลูกๆ อยู่บ้านเพียงลำพัง จึงอยากจะออกมาดูแลลูก ไม่เหมือนที่ผ่านมาเพียงวันเดียวน้ำก็ลดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศาลากลางบ้านนาเก็น ต.หนองแวง อ.น้ำโสม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ศ.กิตติคุณ นพ.ดำรง เหรียญประยูรรองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อพึ่ง (ภา) ยามยากเป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ชาวบ้านนาเก็น หมู่ 3 หมู่ 8 และหมู่ 11 ที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 750 ชุด ซึ่งยังความปลื้มปิติแก่ราษฎรที่มาคอยรับถุงยังชีพครั้งนี้.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย somsweet : เมื่อวานนี้ เมื่อ 09:28 PM
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:29:50


ความคิดเห็นที่ 922 (1561837)

พบกรุงวอชิงตันร้อนที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาในเดือนกรกฎาคม ทุบสถิติในรอบ 140 ปี !!

 

 


Pawsing: A hot pooch lays on a sprinkler at a dog park on the Upper East Side of New York City on July 21


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:30:26


ความคิดเห็นที่ 923 (1561838)

น้ำทะลหนุนภูเก็ต ซัดบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 
 


เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ภูเก็ต ว่า ได้เกิดเหตุน้ำทะเลหนุนสูงและมีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าใส่บ้านเรือนของชาวไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก หมู่ที่ 4 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จำนวนหนึ่งและบริเวณบ้านเรือนของประชาชนบริเวณชุมชนซอยหาดแสนสุข หมู่ที่ 7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 6 หลัง ซึ่งสร้างอยู่ติดริมทะเลได้รับความเสียหาย นอกจากนี้เขื่อนกันคลื่นก็ได้รับความเสียหายหลายจุดด้วย โดยเฉพาะบริเวณบ้านแหลมตุ๊กแก สาเหตุเนื่องจากในระยะนี้ฝั่งทะเลอันดามันเป็นช่วงมรสุมโดยมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาทำให้มีคลื่นลมในทะเลแรง และบางครั้งก็มีฝนตกด้วย

นายประยูร บางหรง ชาวบ้านไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก กล่าวว่า น้ำทะเลที่หนุนสูงทำให้พื้นซิเมนต์หลังบ้านแตกหักเสียหาย เกรงว่าจะร้าวมาจนถึงตัวบ้านจึงต้องอพยพออกมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่บ้านอยู่ริมทะเลต่างก็ตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคลื่นสูงและมีความแรงมาก

ขณะที่นางมีนะ ศรีนวล อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่บ้านเดียวกัน กล่าวว่า คลื่นขนาดใหญ่ดังกล่าวได้ซัดเข้าใส่บ้านมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงที่น้ำทะเลขึ้น โดยเกิดวันละ 2 รอบ แต่วันนี้มีคลื่นใหญ่กว่าเมื่อวาน และคาดว่าพรุ่งนี้น่าจะรุนแรงกว่านี้ ก็ไม่กล้าที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย และอยากเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือโดยเฉพาะการสร้างเขื่อนกันคลื่น และควรจะสร้างให้ห่างไปจากหมู่บ้านเล็กน้อยไม่ใช่สร้างติดกับหมู่บ้าน เนื่องจากเมื่อคลื่นซัดเข้ามาก็ทำให้น้ำกระแทกกับบ้านเรือนของประชาชนได้

ส่วนของชาวบ้านรายหนึ่งบริเวณชุมชนซอยหาดแสนสุข ซึ่งได้รับความเสียหายจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง บอกว่า ลักษณะคลื่นลมแรงที่พัดเข้าฝั่งอย่างหนักเป็นมาประมาณ 2-3 วันแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะสูงขาดทะลุหลังคาบ้านขึ้นไป โดยบ้านเรือนในชุนที่ได้รับความเสียหายมีจำนวน 6 หลัง เช่น หลังคา พื้นบ้าน ผนังบ้านพัง เป็นต้นก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้วย

--------------

ฝนกระหน่ำมะนิลาจมบาดาล

02 สิงหาคม 2554 เวลา 19:57 น. |เปิดอ่าน 366 |


ถนนหลายสายในกรุงมะนิลามีระดับน้ำท่วมสูงถึงเอว หลังฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดคืนจราจรเป็นอัมพาต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ถนนหลายสายในกรุงมะนิลาเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ถูกน้ำท่วมขัง โดยบางแห่งมีน้ำท่วมสูงถึงระดับเอว หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนวานนี้ จากอิทธิพลของพายุหมุ่ยฟ้า ขณะที่โรงเรียนและหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งต้องปิดทำการ นอกจากนี้น้ำท่วมยังทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การสัญจรไปมาต้องล่าช้าในหลายพื้นที่ของกรุงมะนิลา อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมครั้งนี้

ด้านทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเข้าไปเตรียมอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ตามแนวฝั่งแม่น้ำและลำคลองแล้ว เนื่องจากระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนนกเตน และพายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า พัดถล่มฟิลิปปินส์ล่าสุด เพิ่มขึ้นเป็น 70 คน



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:33:00


ความคิดเห็นที่ 924 (1561839)

รฟท.หยุดให้บริการเส้นทางสายเหนืออีกครั้ง หลังน้ำท่วมรางรถไฟ

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท. จำเป็นต้องหยุดการเดินรถไฟสายเหนืออีกครั้ง เนื่องจากยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำกลับมีระดับสูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำท่วมทางรถไฟในเส้นทางสายเหนือ ทำให้ขบวนรถไม่สามารถผ่านไปได้ ในเส้นทางระหว่างสถานีแก่งหลวง-บ้านปิน / ระหว่างสถานีบ้านปิน-ผาคัน และระหว่างสถานีแม่ตานน้อย-ขุนตาน จังหวัดลำปาง การรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องปิดการเดินรถในเส้นทางสายเหนือเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติและสามารถเดินรถได้อย่างปลอดภัย

สำหรับขบวนรถสายเหนือที่ประกาศงดเดินขบวนรถที่ออกจากกรุงเทพมหานครในวันนี้(2 ส.ค.54) มีทั้งหมด 4 ขบวน คือ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 11 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ออกกรุงเทพ เวลา 18.00 น. /ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 1 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ออกกรุงเทพ เวลา 18.10 น. / ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 13 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ออกกรุงเทพ เวลา 19.35 น. และขบวนรถด่วนที่ 51 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ออกกรุงเทพ เวลา 22.00 น.

ทั้งนี้ การรถไฟขอให้ประชาชนที่เดินทางโดยสารรถไฟในขณะนี้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ที่
WWW.RAILWAY.CO.TH หรือ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางได้สามารถติดต่อขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้เต็มราคาที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรฟท. แจ้งว่าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) ทางการรถไฟต้องรอประเมินสถานการณ์และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเป็นระยะ

------------------------

เทศบาลเมืองแปดริ้วเร่งตรวจภายในท่อระบายน้ำทั่วเมืองแก้ปัญหาน้ำท่วม

ฉะเชิงเทรา - เทศบาลเมืองแปดริ้ว เร่งเดินหน้าเอ็กซ์เรย์ส่องภายในแนวท่อระบายน้ำทั่วทั้งเมือง หลังเกิดปัญหาน้ำท่วมเขตพื้นที่ในตัวจังหวัดบ่อยครั้ง ระบุต้นตอของปัญหาเกิดจากหลากหลายด้าน ทั้งลำน้ำบางปะกงหนุนสูง ทั้งพื้นที่เคยถูกน้ำท่วมขาประจำอยู่ในระดับต่ำและเกิดจากสิ่งปฏิกูลที่ถูกปล่อยทิ้งแบบมักง่ายลงไปภายในท่อบำบัดทำให้เกิดการอุดตัน พร้อมเตรียมผุดโครงการยกถนนหนีน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว

วันนี้(2 ส.ค.54) นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายบุญทวี สุขรัตน์อมรกุล รองนายกฯ ได้นำคนงานเจ้าหน้าที่แผนกบำบัดน้ำเสีย จากกองช่างสุขาภิบาล เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เข้าทำการตระเวนเปิดฝาท่อระบายน้ำ ตลอดแนวถนนทั่วทั้งในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะในวันนี้ได้เข้าทำการตรวจสอบดูภายในของแนวท่อระบายน้ำ
ที่บริเวณตลาดสดบ่อบัว

ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนแออัด และมีเศษขยะนานาชนิดในปริมาณสูง มากกว่าในเขตพื้นที่อื่นๆ เพื่อค้นหาสาเหตุให้ถึงต้นตอของปัญหาน้ำท่วมภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราที่ในระยะหลังนั้น มักจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำและบ่อยครั้ง หลังจากเกิดฝนตกใหญ่ ที่มีปริมาณน้ำในพื้นที่มากจนระบายออกสู่แม่น้ำบางปะกงไม่ทัน

โดย นายกลยุทธ กล่าวว่า ในวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่มาทำการดูดลอกท่อระบายน้ำหลังจากฝนตกหนักแล้วเกิดน้ำท่วม โดยจะเร่งสำรวจในจุดที่มีความเสี่ยงในการอุดตันจนทำให้น้ำท่วม โดยเฉพาะในแหล่งชุมชนแออัดย่านตลาดสด ที่ตลาดบ่อบัวแห่งนี้ จึงต้องเข้ามาดูว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ที่จะเข้าไปทำให้ท่อระบายน้ำอุดตันอยู่ภายในหรือไม่ จึงต้องเข้ามาไล่เรียงเปิดดูในแต่ละจุด เพราะหากไม่เปิดสำรวจก็จะไม่รู้ปัญหา และเมื่อหากพบปัญหาก็ต้องเร่งแก้ไข เพราะที่ผ่านมาหลังจากเกิดฝนตกหนักแล้ว มักทำให้เกิดน้ำท่วม

โดยบางจุดเมื่อเปิดฝาท่อออกมากลับไปพบกับแนวของท่อประปา ที่มักจะมีการขุดวางท่อปรับเปลี่ยนกันอยู่เป็นประจำตลอดเวลา วางขวางทางเดินของน้ำอยู่ภายในท่อระบายน้ำก็ต้องแจ้งไปยังหน่วยงานประปาให้เข้ามาทำการแก้ไข หรือหลบเลี่ยงไม่ให้วางขวางทางเดินของน้ำ

ขณะที่นายบุญทวี กล่าวว่า หลังจากทำการเปิดสำรวจภายในท่อระบายน้ำดูแล้วหลายครั้งได้พบกับสิ่งที่ไม่น่าพบอยู่ภายใน ทั้งลูกมะพร้าวขนาดใหญ่ ขวดของเครื่องดื่มชูกำลัง
และมีเศษกิ่งไม้ ใบไม้ รวมทั้งไม้หน้าสาม ที่เข้าไปติดอยู่ภายในและอุดตัน นอกจากนี้ยังพบเศษถุงพลาสติก และเศษไขมันที่เข้าไปจับตัวกันเป็นก้อนแข็งติดอยู่ภายใน ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน ซึ่งก็มักจะพบบ่อยอยู่เป็นประจำ

ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมก็มาจากการที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ช่วยกันดูแลระวังรักษาตรงส่วนนี้ด้วย หากช่วยกันดูแลปัญหาก็จะเกิดขึ้นน้อยลง ระบบบำบัดก็จะทำงานน้อยลง ค่าใช้จ่ายของเทศบาลก็จะน้อยลงตามไปด้วย

ส่วนปัญหาที่บริเวณถนนศรีโสธรตัดใหม่ ที่มักจะเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำในเวลาฝนตกหนักทุกครั้งนั้น สาเหตุ คือ น้ำในแม่น้ำบางปะกงหนุนขึ้นมาสูง ประกอบกับพื้นที่ในบริเวณนั้นเป็นที่ต่ำ จึงเป็นศูนย์รวมของน้ำในเขตตัวเมือง ที่จะรับน้ำทั้งหมดมาจากที่สูงในเขตเทศบาลจนระบบระบายน้ำที่มีอยู่ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทันจึงทำให้น้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันก็ได้ทำการติดตั้งปั้มระบายน้ำขนาดใหญ่ เพื่อช่วยในการสูบระบายน้ำออกจากตัวเมืองอยู่แล้ว เพื่อให้การระบายน้ำที่ท่วมขังออกได้เร็วขึ้น หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอีก ก็จะสามารถระบายน้ำออกไปได้หมดอย่างรวดเร็ว

ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยาวนั้น ทางเทศบาลได้มีนโยบายที่จะทำโครงการยกระดับถนนในพื้นที่บริเวณนั้นให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น เพื่อให้พ้นจากระดับน้ำท่วม

---------------

แผ่นดินไหวเกิน 6 ริกเตอร์ 4 วันติดกัน 5 หน

MAP 6.2 2011/08/01 14:58:09 34.635 138.443 10.0 NEAR THE SOUTH COAST OF HONSHU, JAPAN
MAP 6.8 2011/07/31 23:38:58 -3.569 144.844 16.8 NEAR NORTH COAST OF NEW GUINEA, P.N.G.
MAP 6.2 2011/07/31 14:34:53 -17.064 171.570 48.0 VANUATU REGION
MAP 6.4 2011/07/30 18:53:52 36.966 141.058 43.5 NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN
MAP 6.7 2011/07/29 07:42:23 -23.651 179.822 521.7 SOUTH OF THE FIJI ISLANDS
__________________


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:35:02


ความคิดเห็นที่ 925 (1561840)

เจาะประเด็น : เตรียมรับมือน้ำเหนือ

ก่อนอื่น ต้องบอกว่าสถานการณ์น้ำในอำเภอบางบาลจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยด้วยกัน อย่างแรก คือ ปริมาณน้ำฝน ปัจจัยต่อมา คือ สถานการณ์น้ำเหนือ และการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนในอัตรา 1,176 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ใช่อัตราที่กระทบต่อ จ.พระนครศรีอยุธยาก็ตาม แต่การระบายน้ำในขณะนี้ก็ได้ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยซึ่งเป็นแม่น้ำสาขา มีระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยวันละเกือบ 10 เซนติเมตร ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง บ้านเรือนในเขตอำเภอบางบาล รวมถึงอำเภอเสนา ได้รับผลกระทบก่อนพื้นที่อื่นในเขตพระนครศรีอยุธยา

---------------------------------------------

พิษนกเตน14จังหวัดยังท่วมหนัก

ปภ.สรุปพื้นที่ประสบภัยจากอิทธิพลพายุนกเตน เผย 14 จังหวัดยังท่วมหนัก พบตาย1ที่อุดรฯ ขณะที่แพร่สูญหาย1คน



นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน "นกเตน" ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้พบว่ามีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งสิ้น 14 จังหวัด 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

1. จ.แพร่ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลำห้วยแม่ยาง ลำห้วยแม่หล่าย ลำห้วยแม่แคม  ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ และร้องกวาง

2. จ.เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 3,593 ครัวเรือน 6,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย สันกำแพงดอยสะเก็ด แม่ออน พร้าว แม่ริม อมก๋อย ไชยปราการ และฮอด

3. จ.น่าน น้ำในอ่างเก็บน้ำแก่นล้นสปริงเวย์เข้าท่วมพื้นที่อำเภอภูเพียง

4.จ.ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลี้

5. จ.ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง แจ้ห่ม งาว  แม่เมาะ วังเหนือ และห้างฉัตร

6. จ.แม่ฮองสอน น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า

7. จ.อุตรดิตถ์ น้ำป่าจากภูเขาไหลลงสู่ห้วยน้ำพี้ เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ทองแสนขัน น้ำปาด และฟากท่า

8. จ.พิจิตร น้ำในลุ่มน้ำยมไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิประทับช้าง และโพทะเล

9. จ.พิษณุโลก น้ำในลำน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่อำเภอชาติตระการ

10.จ.นครพนม น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านแพง ท่าอุเทน และนาทม

11. จ.อุดรธานี น้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนายูง น้ำโสม และเพ็ญ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว และอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู

12. จ.หนองคาย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอโพนวิสัย และมีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย บริเวณถนนประจักษ์ตลอดสาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว รถสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่

13. จ.บึงกาฬ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเซกา และศรีวิไล

14.จ.สกลนคร เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังบ้านเรือนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร คำตากล้า และโคกศรีสุพรรณ

ด้าน นายสมคิด ผานุการณ์ รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.แพร่ กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้ประสบภัยน้ำท่วมสูญหาย 1 คนที่ ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 2 ส.ค. โดยผู้สูญหายได้ออกไปหาหน่อไม้ใกล้บริเวณบ้าน ขณะที่น้ำเริ่มท่วม จากนั้นได้สูญหายไป พบเพียง รถจักรยานยนต์ล้มอยู่ในบริเวณลำน้ำร่องเสี้ยว
 

ทีมข่าวได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากหัวหน้าโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับเราว่า ขณะนี้กรมชลประทาน ได้มีการวางแผนการพร่องน้ำในระบบเพื่อเตรียมรองรับกับน้ำฝนและน้ำเหนือไว้แล้ว แต่หากสถานการณ์พายุนกเตนยังคงรุนแรงและฝนยังตกต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าอีกไม่กี่วัน จะทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นจนถึงะดับ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อถึงตอนนั้นทั้ง อ.บางบาลและ อ.เสนา จะได้รับผลกระทบเต็มๆ

เป็นการคาดการณ์ที่สอดคล้องกับเกษตรอำเภอบางบาล ที่หวั่นว่าหากภายในสัปดาห์น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางบาลจริงอย่างที่คาดไว้ ภาคการเกษตรในพื้นที่จะได้รับผลกระทบมากกว่าปีที่แล้ว

นับตั้งแต่พายุนกเตนเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย จนถึงเวลานี้ หลายพื้นที่ทยอยได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสาน อิทธิพลของพายุส่งผลให้ฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ล่าสุด เชียงใหม่ แม่น้ำปิงเกินจุดวิกฤติ ที่ 3.70 เมตร เริ่มเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด, แพร่ ระดับน้ำในแม่น้ำยม ทะลักเข้าท่วมถนนทุกสายที่เข้าสู่เทศบาลเมือง, ลำปาง น้ำในแม่น้ำวัง เพิ่มสูงอยู่ในขั้นวิกฤติ, สุโขทัย ถนนเส้นสุโขทัย-บางระกำถูกตัดขาดเป็นระยะกว่า 1 กิโลเมตร ขณะที่ฝั่งอีสาน นอกจากถนนหนทางจะชำรุด ที่นครพนม สวนยางของเกษตรกรยังจมน้ำกว่า 100 ไร่

จากสถานการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงมีคำเตือนถึงพื้นที่ในภาคกลางให้เตรียมรับมือ โดยเฉพาะที่ อำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยา ที่จะถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ปีนี้ น้ำมาไว ยิ่งต้องเร่งป้องกัน แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุนกเตนโดยตรง แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา แทบทุกครั้งน้ำมา พื้นที่บางบาล จะท่วมก่อนเพื่อน รวมถึงครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน หลายตำบล อ.บางบาล ได้รับผลกระทบไปแล้ว ชาวบ้านเดือดร้อน ภาคการเกษตรเสียหาย ที่น่าห่วง คือ หากในไม่กี่วันข้างหน้า สถาการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสักยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เป็นไปได้ว่า ชาวบางบาลอาจต้องรับชะตากรรมไม่ต่างจากเหตุน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา หรืออาจจะมากกว่า ติดตามเรื่องนี้ในเจาะประเด็น

ก่อนอื่น ต้องบอกว่าสถานการณ์น้ำในอำเภอบางบาลจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยด้วยกันค่ะ อย่างแรก คือ ปริมาณน้ำฝน ปัจจัยต่อมาคือ สถานการณ์น้ำเหนือ และการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนในอัตรา 1,176 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ใช่อัตราที่กระทบต่อ จ.พระนครศรีอยุธยาก็ตาม แต่การระบายน้ำในขณะนี้ก็ได้ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขา มีระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยวันละเกือบ 10 เซนติเมตร ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง บ้านเรือนในเขตอำเภอบางบาล รวมถึงอำเภอเสนา ได้รับผลกระทบก่อนพื้นที่อื่นในเขตพระนครศรีอยุธยา

ทีมข่าวได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากหัวหน้าโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับเราว่า ขณะนี้กรมชลประทาน ได้มีการวางแผนการพร่องน้ำในระบบเพื่อเตรียมรองรับกับน้ำฝนและน้ำเหนือไว้แล้ว แต่หากสถานการณ์พายุนกเตนยังคงรุนแรงและฝนยังตกต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าอีกไม่กี่วัน จะทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อถึงตอนนั้นทั้ง อ.บางบาลและ อ.เสนา จะได้รับผลกระทบเต็มๆ

เป็นการคาดการณ์ที่สอดคล้องกับเกษตรอำเภอบางบาล ที่หวั่นว่า หากภายในสัปดาห์ น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.บางบาลจริงอย่างที่คาดไว้ ภาคการเกษตรในพื้นที่จะได้รับผลกระทบมากกว่าปีที่แล้ว

จากการลงพื้นที่ ทำให้เราได้เห็นเลยว่าพื้นที่บางส่วนของ อ.บางบาล นั้นถูกน้ำท่วมไปแล้วอย่างที่ได้มีการคาดการณ์กันไว้ ขณะเดียวกัน เราได้ข้อมูลจากชาวบ้านว่า เฉพาะปีนี้ นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ขนของหนีน้ำกันมาแล้ว2 ครั้ง จากภาวะน้ำล้นตลิ่ง มาถึงครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 และดูท่าทางจะหนักหนากว่า2 ครั้งที่ผ่านมา ยอมรับว่าปีนี้น้ำมาไว ยังดีที่ทางท้องถิ่นเองไหวตัวทัน เตรียมแจ้งเตือนชาวบ้านกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

---------------------------------

อยุธยาท่วมแล้ว 4 อำเภอ จ่ออีก 5 พบศพลอยติดหน้าวัดบางไทร


ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 2 สิงหาคม ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ริมแม่น้ำน้อยเร่งขนย้ายสิ่งของ และทำสะพานไม้ใช้เดินเข้าบ้าน หลังน้ำจากแม่น้ำน้อยได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนมานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้วและมีระดับสูงขึ้นทุกวัน โดยวันที่ 2 สิงหาคม ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่ใต้ถุนบ้านมีระดับน้ำท่วมสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร จำเป็นต้องใช้เรือพายเข้า-ออกบ้าน

นายสิทธิพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.บางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ และ อ.บางปะหัน แต่ท่วมเฉพาะชุมชนสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำน้อย, แม่น้ำลพบุรี โดยหาก 3 แม่น้ำยังเพิ่มระดับต่อไปและแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นมาอีก และยังมีพื้นที่เสี่ยงภัยอีก 5 อำเภอ คือ อ.นครหลวง อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.ลาดบัวหลวง

สำหรับล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ไม่สวมเสื้อสักยันต์เต็มตัว ศพลอยน้ำมาติดบริเวณหน้าวัดบางไทร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร ได้ตรวจสอบไม่พบบาดแผลแต่อย่างไร คาดว่าจมน้ำมาจากต้นน้ำ และลอยมาตามกระแสน้ำ หากญาติใครหายให้มาติดต่อได้ที่ สภ.บางไทร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:40:27


ความคิดเห็นที่ 926 (1561841)

สหรัฐเตือนอันตรายของพายุโซนร้อน Emily ที่กำลังเพิ่มระดับความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคน และจะเข้าพัดถล่มฟลอริดาภายในสุดสัปดาห์นี้

โดยกรมอุตุฯสหรัฐได้ออกคำเตือนเขตชายฝั่งสหรัฐ และฟลอริดาถึงพายุโซนร้อนได้เริ่มก่อตัวที่ทะลแคริบเบียน คาดจะเพิ่มกำลังความแรงลมเกิน 74 MPH ล่าสุดได้เข้าพัดถล่มหมู่เกาะแคริบเบียนทำให้ฝนตกกระหน่ำ น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และทำลายถนนเสียหายไปแล้ว


Dangerous: The last hurricane to hit Florida was Jeanne in 2004, and this picture of boats at the Davis Island Yacht Club,
in Tampa shows its power



Power: Highway US1 was washed away along the Indian River in Brevard Country,
Florida when hurricane Jeanne hit land seven years ago
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:44:42


ความคิดเห็นที่ 927 (1561842)

ปภ.ลำปาง สรุปน้ำท่วมเสียหาย 6 อำเภอ


วันอังคาร ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554
 

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลำปาง สรุปผลกระทบจากพายุนกเตนทำให้เกิดน้ำท่วม เสียหาย 6 อำเภอ ทั้งบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร ขณะที่หลายพื้นที่เช้านี้ ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

นายกฤษเพชร เพชรบูรณนิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารรณภัย จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่าทางจังหวัดได้รับความเสียหาย จากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ รวม 6 อำเภอ 29 ตำบล และ 107 หมู่บ้าน กับอีก 1 เทศบาล ได้แก่ อำเภอแจ้ห่ม งาว เมือง แม่เมาะ วังเหนือ และ ห้างฉัตร

ซึ่งพื้นที่ที่เสียหายส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร เช่น นาข้าว และไร่ข้าวโพด ถูกน้ำป่าพัดหลากเสียหายเป็นจำนวนมาก และยังมีฝายน้ำล้น สะพาน เสียหาย ส่วนบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม วันนี้เจ้าหน้าที่ ปภ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละแห่ง จ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:46:16


ความคิดเห็นที่ 928 (1561843)

ชาวนานครสวรรค์

เกี่ยวข้าวใต้น้ำ

นับหมื่นไร่   ทั้งน้ำตา
 

 
 


น้ำท่วมที่นาชาวบ้านตำบลบางเคียน อำเภอชุมแสง นับหมื่นไร่ ต้องระดมชาวบ้านมาช่วยกันเกี่ยวข้าวใต้น้ำก่อนกำหนด บางคนถึงกับร้องไห้เพราะสิ้นเนื้อประดาตัว หวังอีกแค่ 1 สัปดาห์จะถึงกำหนดเก็บเกี่ยวและขายข้าวได้
ชาวนาตำบลบางเคียน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ถูกน้ำท่วมที่นานับหมื่นไร่ หลังเตรียมกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณริมคลองบางเคียน ยาวนับกิโลเมตร แต่กระแสน้ำเชี่ยวได้เซาะเอากระสอบทราย ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหลือแค่อีก 1 สัปดาห์จะถึงเวลาเก็บเกี่ยว แต่วันนี้ต้องมาเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด ใต้น้ำที่สูงระดับอก บางรายถึงกับรับไม่ได้จนร้องไห้ เพราะหวังจะได้เงินจากการเก็บเกี่ยวข้าวในครั้งนี้ แต่ต้องหมดตัวไปกับน้ำท่วม
นางระยอง วัฒนะ อายุ 46 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลบางเคียน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าของนาข้าวจำนวน 30 ไร่ เปิดเผยว่าหลังจากน้ำทะลักเข้าท่วม จนต้องจ้างชาวบ้านและให้ญาติมาช่วยเกี่ยวข้าวใต้น้ำ และต้องทำให้เสร็จภายในคืนนี้ เพราะหากปล่อยไว้ต้นข้าวจะเน่าตาย แม้จะเกี่ยวข้าวตอนนี้ก็ไม่ได้กำไรอะไร แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ต้นข้าวเน่าตายโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย และไม่รู้ว่าข้าวที่เกี่ยวนั้นจะขายได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามชาวนาได้วอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนขณะนี้


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:47:59


ความคิดเห็นที่ 929 (1561845)

 

ข่าวนี้ น่ารัก

อึ้ง! น้องหมา

ในวัดญี่ปุ่น   นั่งสวดมนต์ได้

 

 




อึ้ง! น้องหมาในวัดญี่ปุ่นนั่งสวดมนต์ได้

เอเอฟพี/เอเจนซี – โคนัน สุนัขพันธุ์ชิวาวาตัวน้อยกลายเป็นที่สนใจของชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปไหว้พระที่วัดพุทธนิกายเซนแห่งหนึ่งบนเกาะโอกินาวา หลังได้เห็นความน่ารักของเจ้าโคนันขณะนั่งสวดมนต์อยู่กับเจ้าของ

โคนัน สุนัขเพศผู้ วัย 2 ปี เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาผู้ที่เดินทางมาไหว้พระที่วัดจิเงนินบนเกาะโอกินาวา ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น หลังมันเลียนแบบท่านั่งสวดมนต์จากเจ้าของซึ่งเป็นพระที่วัดดังกล่าว โดยการยกขาหน้าทั้ง 2 ข้างขึ้นประกบกัน จึงทำให้ดูเหมือนเจ้าโคนันกำลังนั่งพนมมือสวดมนต์ไปโดยปริยาย

“โคนันเริ่มเลียนแบบท่านั่งสวดมนต์ของอาตมา มันกลายเป็นจุดสนใจอย่างมาก เพราะทุกสัปดาห์จะมีผู้คนที่รู้ข่าวเดินทางมาถ่ายรูปมันอยู่เสมอ ซึ่งก็ทำให้มีผู้คนโยเฉพาะวัยรุ่นเดินทางมาไหว้พระที่วัดเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์” โจเอะ โยชิกูนิ พระที่วัดจิเงนินซึ่งเป็นเจ้าของของเจ้าโคนันกล่าว

โยชิกูนิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เขากำลังพยายามสอนเจ้าโคนันให้นั่งสมาธิอีกด้วย

“อาตมาแค่พยายามสอนให้โคนันนั่งนิ่งๆ ขณะที่อาตมากำลังนั่งสมาธิอยู่ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะสอนให้โคนันนั่งขัดสมาธิเหมือนคน” พระรูปเดิมกล่าว

ทั้งนี้ทุกเช้าและเย็นเจ้าโคนันจะมานั่งสวดมนต์อยู่ข้างๆ เจ้าของของมันที่หน้าแท่นบูชาภายในวัด แถมยังทำท่ามองขึ้นไปที่พระพุทธรูปซึ่งวางอยู่ตรงหน้าเหมือนเจ้าของไม่ผิดเพี้ยนอีกด้วย

ขณะที่คาซูโกะ โอชิโระ ชายชรา วัย 71 ปี ซึ่งเดินทางมาไหว้พระที่วัดแห่งนี้เป็นประจำมานานกว่า 25 ปี กล่าวว่า เขารู้สึกตลกมากที่เห็นเจ้าโคนันนั่งสวดมนต์อยู่กับเจ้าของ

“เจ้าโคนันจะโกรธหากเห็นใครเดินเข้าไปนั่งตรงที่ของมัน มันคงคิดว่าที่ตรงนั้นเป็นที่พิเศษสำหรับมัน” ชายชรากล่าวติดตลก



ที่มา : www.manager.co.th
 
 
 -------------------------------------------------------------------------------
 
อุรังอุตังแอบขุดอุโมงค์ไปหาคู่รัก หลังโดนจับแยก !‏


 

|


|



 เว็บไซต์ออเร้นจ์นิวส์นำเสนอข่าวซึ้ง ๆ ของอุรังอุตังตัวหนึ่งที่ไม่สามารถจะอยู่ห่างคู่รักของมันได้แม้ซักวินาที จนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไปหา แม้ต้องขุดอุโมงค์ใต้ดินที่ไม่รู้จะยาวสักเท่าไหร่ก็ตาม โดย La Tewhen และ เผยเผย คือ คู่รักอุรังอุตังที่อยู่ในสวนสัตว์เปิดยูนนาน ประเทศจีน แต่เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่พบว่า  La Tewhen อุรังอุตังเพศเมียได้ตั้งท้อง เจ้าหน้าที่จึงทำการแยก La Tewhen ให้ไปอยู่อีกบริเวณหนึ่งเพื่อคอยดูแล และป้องกันการรบกวนจาก  เผยเผย  แต่หลังจากแยก La Tewhen ไปได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่กลับพบว่า เผยเผย มีอาการเศร้าสลดลงอย่างมาก พร้อมกันนี้มันยังไม่ยอมกลับเข้าไปด้านในของบริเวณที่อยู่ของมัน แต่กลับนั่งอยู่ด้านนอกทั้งคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า มันคงคิดถึงคู่รักของมันมาก และนั่งรอด้วยความหวังว่า La Tewhen อาจกลับมาได้ทุกเมื่อ

          แต่วันต่อมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ต้องแปลกใจอย่างมาก เมื่อพบว่า Pei Pei กำลังขุดหลุมใต้ตินเพื่อเป็นอุโมงค์
เชื่อมไปยังบริเวณที่ La Tewhen อยู่ด้วยความตั้งใจมาก และเมื่อเจ้าหน้าที่เรียกมัน มันถึงกับสะดุ้งกระโดดตัวโหยง
แต่ก็ยังหันไปมองอุโมงค์ที่มันกำลังขุดอยู่ ก่อนจะวิ่งหนีไป



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 02:58:18


ความคิดเห็นที่ 930 (1561847)
 

 

 


ไมอามี 2 ส.ค.-ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า พายุโซนร้อนลูกใหม่กำลังก่อตัวขึ้นในทะเลแคริบเบียน จึงมีคำเตือนไปยังหมู่เกาะหลายแห่งให้ระมัดระวัง

พายุโซนร้อน “เอมิลี” ห่างจากกรุงซานฮวนของเปอร์โตริโกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 565 กิโลเมตร   ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ มีคำเตือนไปยังหมู่เกาะหลายแห่ง เช่น เปอร์โตริโก และกวาเดอลูป และแนะนำให้โดมินิกัน เฮติ และหมู่เกาะเวอร์จินติดตามความเคลื่อนไหว   ทั้งนี้ มีรายงานว่า พายุเอมิลีกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่คาดว่าจะลดความเร็วในการเดินทางลงเล็กน้อยในช่วง 1-2 วันข้างหน้า

สำหรับความเร็วลมสูงสุดที่จุดศูนย์กลางของพายุเอมิลีอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า  ทิศทางการเคลื่อนที่อยู่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลแคริบเบียน และจะเข้าสู่เกาะฮิสปานิโอลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโดมินิกันและเฮติในค่ำวันนี้  อิทธิพลของพายุจะทำให้ฝนตกหนัก
ประมาณ 6-10 นิ้วในเปอร์โตริโกและโดมินิกัน และเกิดคลื่นขนาดใหญ่ในทะเล

สำนักข่าวไทย


 

"ยูจีน"ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนในหาสมุทรแปซิฟิก


ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ เอ็นเอชซี รายงานว่า พายุ "ยูจีน" ทวีความรุนแรงขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก กลายเป็นเฮอริเคนลูกที่ 5 ของฤดูกาล วานนี้ แม้จะยังพัดอยู่ห่างจากชายฝั่งเม็กซิโก

เอ็นเอชซี ระบุว่า ยูจีน มีความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างไปทางใต้ของเมืองซีอัวตาเนโค ของเม็กซิโกราว 650 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเตือนภัยจากผลกระทบของพายุลูกดังกล่าว แต่เตือนว่ายูจีน ซึ่งขณะนี้เป็นเฮอริเคนระดับ 1 จะทวีความรุนแรงขึ้นอีก


ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2554


 

ทอร์นาโดถล่มเมืองทางตะวันออกไกลของรัสเซีย


 


พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองทางตะวันออกไกลของรัสเซียซึ่งไม่ไกลจากพรมแดนที่ติดกับประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน

พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองบลาโกเวชเชสก์ ทางภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียไม่ห่างจากพรมแดนที่ติดกับประเทศจีน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 220,000 คน โดยพายุหมุนซึ่งพัดกระหน่ำถึง 13 นาที ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน ในจำนวนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาล 4 คน ซึ่งมีอาการสาหัส 1 คน ทั้งนี้แรงลมทำให้ต้นไม้ใหญ่กว่า 150 ต้นหักโค่น หลังคาโลหะที่มีน้ำหนักเบาปลิวออกจากตัวอาคาร บ้านและร้านค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังทำให้รถยนต์กว่า 150 คันรวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่พลิกคว่ำ ขณะที่สายไฟฟ้ายาวกว่า 30 กิโลเมตร และเสาไฟ 50 ต้นได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้คนกว่า 10,000 คนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

ขณะที่ชาวเมืองหลายคนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ด้านสำนักข่าวของทางการรายงานว่าพายุทอร์นาโดลูกนี้ได้สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 87 ล้านบาท และถือเป็นพายุทอร์นาโดลูกแรกที่พัดถล่มเมืองใหญ่ของรัสเซีย

Thaipbs
 

Thaipbs




 

อิรักอากาศร้อนจัด ชิลีหนาวจัด


 


อิรักประกาศให้เมื่อวานนี้เป็นวันหยุดราชการเนื่องจากอากาศร้อนจัด ขณะที่ชิลีเจออากาศหนาวที่สุดในรอบหลายสิบปี

อากาศที่ร้อนจัดถึง 51 องศาเซลเซียส ทำให้รัฐบาลอิรักต้องประกาศให้เมื่อวานนี้เป็นวันหยุดราชการ ในกรุงแบกแดด และจังหวัดอื่นๆทางภาคใต้ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขต้องออกคำเตือนประชาชน ไม่ให้ออกไปเจอแดดข้างนอก

อากาศร้อนทำให้หลายครอบครัว ต้องใช้น้ำช่วยคลายร้อนให้เด็กๆ ขณะที่บรรดาชายหนุ่มฉวยโอกาสวันหยุด ออกไปว่ายน้ำเล่นความร้อนยังส่งผลต่อโครงข่ายไฟฟ้าทั่วประเทศ ทำให้หลายเมืองไม่มีไฟฟ้าใช้ ประชาชนต้องไปเข้าแถวรอซื้อน้ำมันจากสถานีบริการน้ำมัน

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาอิรักคาดว่า อากาศจะร้อนต่อไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ก่อนกลับสู่สภาพปกติ

ส่วนที่ชิลี กลับต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยหิมะที่ตกหนักตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สร้างความปั่นป่วนให้กับการจราจรบนทางหลวงสายหลัก ที่เชื่อมกรุงซันติอาโก กับภาคเหนือ

ส่วนที่เขตทะเลทราย อาตากามา ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งและร้อนที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ก็เจอกับหิมะที่ตกหนากว่า 15 เซนติเมตร ส่งผลให้ต้องเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากนี้หิมะยังสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังด้วย เนื่องจากหลังคารับน้ำหนักไม่ไหวจนพัง


ครอบครัวข่าว 3


ชาวบ้านตื่น!! ก้อนน้ำแข็งยักษ์ ลอยติดริมอ่าว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้อ่าวกูส โคฟ เมืองนิวฟาวด์แลนด์ ทางตะวันออกของแคนาดา ต้องตกตะลึง เมื่อมีก้อนนำแข็งยักษ์ขนาดมหึมาลอยมาใกล้ฝั่ง โดยภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้โดย จีน แพที ช่างภาพที่อยู่ในบริเวณนั้น

ทั้งนี้หลายคนคาดว่า ก้อนน้ำแข็งยักษ์ น่าจะเป็นส่วนที่หลุดออกมาจากก้อนใหญ่ที่กรีนแลนด์ ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของโลก และลอยตามกระแสน้ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาติดอยู่ที่อ่าวกูส โคฟ ดังกล่าว


 

 

พายุโซนร้อนลูกใหม่ก่อตัวในทะเลแคริบเบียน


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 03:04:35


ความคิดเห็นที่ 931 (1561850)
ศาลจีนตัดสินโทษตายผู้ผลิต “สารเร่งเนื้อแดง”


|


เอเยนซี - ศาลประชาชนชั้นกลางจีนในมณฑลเหอหนัน ตัดสินโทษประหารชีวิตผู้ผลิต “สารเร่งเนื้อแดง” ขณะที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสารดังกล่าวอีก 4 คน ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 9 เดือน จนถึงตลอดชีวิต
       
       ศาลประชาชนชั้นกลางเทศบาลเมืองเจียวโจว มณฑลเหอหนัน ได้ตัดสินโทษประหารชีวิต นายหลิว เสียง โดยรอลงอาญา 2 ปี ในข้อหาผลิตและขายสารเคมีต้องห้ามเคลนบูเทอรอล (clenbuterol) หรือ สารเร่งเนื้อแดง มากกว่า 2,700 กิโลกรัม ขณะเดียวกัน นายสี จงเจี๋ย ผู้ร่วมผลิตและจำหน่ายสารดังกล่าวถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต
       
       นอกจากนี้ นายเฉิน อี้ว์เหวย และ นายเสี่ยว ปิง ถูกตัดสินโทษจำคุก 14 ปี และ 15 ปีตามลำดับ ในข้อหาจำหน่ายสาร ขณะที่ นางหลิว หงหลิน ภรรยาของ นายหลิว เสียง ถูกตัดสินจำคุก 9 ปี ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับสามีผลิตสารต้องห้ามดังกล่าว
       
       นายหลิว และ นายสี ซึ่งเคยเป็นพนักงานบริษัทยาด้วยกันมาก่อน ได้ร่วมกันผลิตและจำหน่ายสารเร่งเนื้อแดงแก่บรรดาเกษตรกรในมณฑลต่างๆ 8 แห่ง รวมทั้ง อันฮุย ซานตง และ เหอหนัน โดย นายหลิว ได้เริ่มผลิตสารต้องห้ามดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2550 และมีโรงงานอยู่ที่อำเภอหนันจัง มณฑลหูเป่ย มีรายได้จากการขายสารดังกล่าวทั้งสิ้นมากกว่า 2.5 ล้านหยวน(ราว 11.5 ล้านบาท)
       
       สำหรับ นายเสี่ยว ปิง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสารเร่งเนื้อแดงในมณฑลเหอหนัน ได้ซื้อสารจากนายหลิวในราคากิโลกรัมละ 2,000 หยวน (ราว 9,200 บาท) มาขายให้เกษตรกรในมณฑลอันฮุย และ เหอหนัน ในราคากิโลกรัมละ 3,000-4,000 หยวน (ราว 13,800-18,400 บาท) มีรายได้โดยรวมจากการขายสาร 600,000 หยวน (ราว 2.7 ล้านบาท) ขณะที่ นายเฉิน อี้ว์เหวย ได้ขายสารต้องห้ามดังกล่าวไปมากกว่า 600 กิโลกรัม ได้เงินมามากกว่า 700,000 หยวน (ราว 3.2 ล้านบาท)
       
       นอกจากนี้ ศาลประชาชนฯ ได้ตั้งข้อหาทำลายความมั่นคงสาธารณะด้วยวิธีการอันตราย แก่จำเลยทั้ง 5 คน
       
       เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สื่อจีนได้รายงานข่าวอื้อฉาวความปลอดภัยด้านอาหาร โดยนำภาพเกษตรกรเลี้ยงสุกรในมณฑลเหอหนัน กำลังผสมสารเคมีต้องห้ามดังกล่าวลงในอาหารสุกร นอกจากนี้ ยังได้เผยภาพกลุ่มผู้ตรวจสอบทำไม่รู้ไม่เห็นการละเมิดดังกล่าว หลังจากที่รับสินบนจากผู้เลี้ยง
       
       ขณะที่สถานีโทรทัศน์กลางจีน หรือ ซีซีทีวี ได้เผยเมื่อเดือน มี.ค.ว่า บริษัท จี้หยวนซวงฮุ่ย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซวงฮุ่ย กรุ๊ป ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อหมูรายใหญ่สุดของประเทศจีน ได้รับซื้อสุกรจากฟาร์มสุกรที่เลี้ยงด้วยสารเร่งเนื้อแดงโดยไม่ตรวจสอบ และนำเนื้อสุกรปนเปื้อนสารไปขาย
       
       หลังจากที่เหตุอื้อฉาวสุกรปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงดังกล่าวได้แพร่ออกไป ส่งผลให้บริษัท จี้หยวนซวงฮุ่ย ขาดทุนกว่า 30 ล้านหยวน (ราว 138 ล้านบาท) ยอดขายเนื้อหมูในช่วงปีที่ผ่านมาลดลงถึง 49.76 เปอร์เซ็นต์ และส่งผลให้ฟาร์มเลี้ยงสุกรหลายแห่งขาดทุนโดยรวมกว่า 160 ล้านหยวน (ราว 737 ล้านบาท)
       
       เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลประชาชนชั้นกลางเมืองชิ่นหยัง มณฑลเหอหนัน ได้ตัดสินจำคุก 5-6 ปี อดีตเจ้าหน้าที่สถานีตรวจสอบโรคระบาดเมืองชิ่นหยัง จำนวน 3 คน ได้แก่ นายหวัง เอ๋อร์ถวน นายหยัง เจ๋อ และ นายหวัง หลี่หมิง ในข้อหาละเลยหน้าที่ จากกรณีที่ปล่อยให้เกษตรกรนำหมูไปขายกว่า 38,000 ตัว โดยไม่ตรวจสอบก่อน
       
       ขณะที่รัฐบาลจีนได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าของสำนักงานดูแลปศุสัตว์ 3 แห่งในมณฑลเหอหนัน พร้อมทั้งลงโทษเจ้าหน้าที่อีกราว 30 คน จากการปล่อยให้มีการขายสุกรปนเปื้อนสารต้องห้ามดังกล่าว
       
       ซวงฮุ่ย กรุ๊ป ได้ปลดพนักงานรวมทั้งผู้จัดการทั่วไปของบริษัท จี้หยวนซวงฮุ่ย เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งประกาศว่าจะทำลายเนื้อหมูที่ต้องสงสัยว่าปนเปื้อนสารดังกล่าวราว 3,800 ตัน
       
       กระทรวงเกษตร กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานอาหารและยาของจีน ได้สั่งห้ามใช้สารเคลนบูเทอรอล ตั้งแต่เมื่อปี 2545 แต่เกษตรกรจำนวนมากเสี่ยงที่จะฝ่าฝืนกฎ เนื่องจากการขายสุกรที่เลี้ยงด้วยสารดังกล่าว ได้ผลกำไรดี
       
       ทั้งนี้ เคลนบูเทอรอล หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “สารเร่งเนื้อแดง” เป็นสารที่ช่วยให้สัตว์เจริญเติบโตโดยไม่มีไขมันสะสม เพิ่มความแน่นของกล้ามเนื้อ ผู้เลี้ยงจึงชอบผสมในอาหารสัตว์ที่เลี้ยงเอาเนื้อ สำนักงานดูแลความปลอดภัยและคุณภาพอาหารแผ่นดินใหญ่ ได้ห้ามการใช้สารเคมีนี้ในการเลี้ยงสุกรเพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน แขนขาหมดแรง มือสั่น เป็นต้น หากสารฯดังกล่าวสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดความผิดปกติในโครงสร้างโครโมโซม และเป็นมะเร็ง อีกทั้งอาจทำให้เป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง




โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 03:16:37


ความคิดเห็นที่ 932 (1561859)

เจอข่าว ชาวนาเกี่ยวข้าวใต้น้ำ ทั้งน้ำตา แล้วเศร้าจังหนอ..

อ่านแล้วก็รันทดจริงๆ เพราะใกล้จะได้เวลาเก็บเกี่ยวอยู่แล้ว..

ฮึ่ม..นี่แหล่ะ ชีวิต ... คาดหวัง..ผิดคาด พลาด ก็ ทุกข์ เห็นๆ


อนุโมทนากับคุณ อาริยา คนขยันเช่นเคยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-03 06:15:29


ความคิดเห็นที่ 933 (1562055)

แม่น้ำ Minjiang ในจีน ถูกผักตบชวาคุกคามอย่างรุนแรง

ปลาในแม่น้ำเริ่มตายเพราะขาดอ๊อกซิเจนหายใจ






A ship clears water hyacinth near the Shuikou hydropower station on the Minjiang River in East China"s Fujian province, August 2, 2011. [Photo/Xinhua]


 

 

--------------------------------------------------------------------------

 

จากผลกระทบของภาวะโลกร้อน ทำให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ แตกและละลายอย่างรวดเร็ว



August 2, 2011ARCTIC CIRCLE – An analysis of prehistoric “Heinrich events” that happened many thousands of years ago, creating mass discharges of icebergs into the North Atlantic Ocean, make it clear that very small amounts of subsurface warming of water can trigger a rapid collapse of ice shelves. The findings, to be published this week in Proceedings of the National Academy of Sciences, provide historical evidence that warming of water by 3-4 degrees was enough to trigger these huge, episodic discharges of ice from the Laurentide Ice Sheet in what is now Canada

 

----------------------------------------------------------------------------------

 

ภูเขาไฟ Etna อิตาลี่ เริ่มปะทุรุนแรงมากขึ้น

‪Italy"s Mount Etna erupts for the eighth time this year - no comment‬‏ - YouTube

 

---------------------------------------------------------

 

น้ำในทะเลสาป รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา กลายเป็น สีแดง

เนื่องจาก เท็กซัส ต้องประสบปัญหาภัยแล้งขั้นรุนแรง จนน้ำในทะเลสาปแห้งเกือบหมด และปลาตายนับพันตัว ล่าสุด เกิดเชื้อแบคทีเรียทำให้น้ำตกตะกอนกลายเป็นสีแดง




End Times? It is for a blood-red Texas lake - Technology & science - Science - LiveScience - msnbc.com

 

ประมวลภาพ เหตุการณ์ความสูญเสีย จากเหตุน้ำท่วม และโคลนถล่มที่เกาหลีใต้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:11:14


ความคิดเห็นที่ 934 (1562056)
เกาะติดสถานการณ์นํ้าท่วม พายุนกเตน 3 ส.ค. 2554


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) 18.00 น. ประกาศเตือนประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 12 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย และหนองบัวลำภู เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก เนื่องจากพายุเคลื่อนตัวผ่าน อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ช่วงวันที่ 3-4 สิงหาคมนี้

เพชรบูรณ์ 17.00 น. ระดับน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลอำเภอหล่มสัก น้ำเริ่มลดลงแล้ว ชาวบ้านเริ่มเดินออกมาจับจ่ายเครื่องอุปโภค-บริโภคแล้ว แต่การสัญจรไปมาโดยรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ยังคงเป็นไปด้วยความลำบาก

ตาก 16.40 น. เกิดพายุฝนตกอย่างต่อเนื่องมากว่า 3 วัน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาแม่ระเมิงและดอยผาหม่นไหลทะลักลงลำห้วยแม่สลิด ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง – กระแสน้ำได้กัดเซาะคอสะพานที่เชื่อมระหว่างโรงเรียนระดับประถม และมัธยมของโรงเรียนบ้านแม่สลิดวิทยา จนสะพานเริ่มทรุด และกระแสน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนบ้านแม่อุสุ ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง โรงเรียนต้องประกาศปิดการเรียนการสอน

สุโขทัย 15.30 น. น้ำท่วมยังคงขยายวงกว้างไปทั้ง 5 อำเภอที่แม่น้ำยมไหลผ่านคือ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง และ อ.กงไกรลาศ โดยสถานการณ์ที่หนักที่สุดยังคงอยู่ที่พื้นที่หลายตำบลของ อ.เมืองสุโขทัย

แม่ฮ่องสอน 15.25 น. เกิดดินถล่มเนื่องจากฝนตก ทับบ้านเรือนประชาชน บ้านปู่ท่า หมู่ 6 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 4 ราย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาผู้สูญหาย

อุตรดิตถ์ 13.15 น. ฝนตกทั้ง 9 อำเภอ และมีอำเภอที่ถูกน้ำท่วม ได้แก่ อำเภอทองแสนขัน อำเภอน้ำปาด อำเภอฟากท่า อำเภอเมือง  และอำเภอลับแล มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน11,051 ครัวเรือน รวม 36,767 คน

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15.00 น. นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้โรงเรียนได้รับผลกระทบรวม 80 โรง ในจำนวนนี้ปิดการเรียนการสอนไป 27 โรงเรียน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) 14.00 น. สรุปผลกระทบจากพายุนกเตน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบรวม 15 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อน 200,000 คน  ภาคการเกษตรเสียหาย 20,000 ไร่

เชียงใหม่ 13.40 น. น้ำจากลำน้ำแม่ปูคาและลำน้ำแม่ออน ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า ถนน บริเวณอ.สันกำแพง ระดับสูงกว่า 1 เมตร ตั้งแต่สี่แยกบ่อสร้างเป็นต้นไป กระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยว

ประจวบคีรีขันธ์ 11.40 น. น้ำป่าไหลทะลักจากต้นน้ำเพชรบุรีจนมาถึงแม่น้ำปราณบุรี เข้าท่วมพื้นที่ในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่และตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ้านเรือนและชาวบ้านปลอดภัย – เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดน้ำตกป่าระอูชั่วคราว

นครพนม 11.30 น. ยังคงมีน้ำท่วมใน 4 อำเภอ คือ อ.เมือง , อ.บ้านแพง , อ.นาทม และอ.ศรีสงคราม ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีห้องน้ำใช้ ไฟฟ้าถูกตัดขาด – ผู้ว่าฯนำเจ้าหน้าที่ ลงเรือท้องแบนเข้าตรวจสอบให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ใน ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง

สุโขทัย 10:17 น. สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัยยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำยมที่เพิ่มสูงได้ไหลกัดเซาะคันดินริมตลิ่งจนทรุดตัวเป็นแนวยาวทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้างมากขึ้น

แม่ฮ่องสอน 10.00 น. สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.แม่ฮ่องสอน ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดน้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่ อ.แม่สะเรียง พัดโค่นเสาไฟฟ้าล้มขวางถนนแม่สะเรียง-สบเมย จนท.ต้องตัดกระแสไฟฟ้าในบางพื้นที่ ขณะที่มีดินสไลด์ทับถนนสายแม่สะเรียง-ป่าหมาก (MCOT)

ลำปาง 09.25 น. ชาวบ้านใน อ.เกาะคา จ.ลำปาง เดือดร้อนอย่างหนักจากน้ำท่วม โดยแม่น้ำวังระดับน้ำสูงขึ้นอีก 1 ม. ทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน และมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่พื้นที่อื่นที่ไม่ถูกน้ำท่วม ขณะนี้เริ่มขาดแคลนน้ำดื่ม วอนภาครัฐเร่งช่วยเหลือ (MCOT)

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 09.20 น. ประกาศงดเดินขบวนกทม.-เชียงใหม่ วิ่งถึงแค่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่

แพร่ 09.15 น. น้ำจากแม่น้ำยมท่วมสูงถึงชึ้นสองของบ้านชุมชนด้านในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ประชาชนวอนให้ปู้ว่ารื้อแนวกระสอบทรายเพื่อให้น้ำไหลเข้าสู่เขตเทศบาลเมืองแพร่ได้ - อำเภอวังชิ้นรถผ่านไม่ได้


Mthai news
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:24:22


ความคิดเห็นที่ 935 (1562057)
กทม.เสริมแนวป้องกันน้ำ พร้อมรับมือน้ำท่วม


 


กรุงเทพมหานครสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้พาระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อป้องกันปริมาณน้ำเหนือและนำทะเลหนุนสูง

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยแผนรับมือน้ำท่วมในช่วงงฤดูฝนที่จะมาถึงว่า กรุงเทพมหานครได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้พาระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อป้องกันปริมาณน้ำเหนือและนำทะเลหนุนสูงความยาวรวม 77 กิโลเมตร

ปัจจุบันก่อนสร้างแล้วเสร็จ 75.80 กิโลเมตร โดยแนวป้องกันน้ำท่วมนี้จะสามารถป้องกันน้ำในแม่นำเจ้าพระยาได้ที่ระดับความสูง 2 เมตร 50 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงมั่นใจว่าจะสามารถระบายน้ำได้ทั้งพื้นที่กทม.พื้นที่ชั้นในและชั้นนอก พร้อมระบุ โครงการอุโมงยักษ์ระบายน้ำพระราม 9 มีศักยภาพเพียงพอต่อการระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว 240 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมที่ระบายได้เพียง 95 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสามารถระบายน้ำจากคลองลาดพร้าว, คลองแสนแสบ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้โดยตรงเป็นการบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ครอบคลุมพื้นที่ 6 เขต ได้แก่ ลาดพร้าว, วังทองหลาง, บางกะปิ, ห้วยขวาง, บึงกุ่ม และสะพานสูง รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งได้พร่องน้ำจากคลองแสนแสบออกแม่น้ำเจ้าพระยาในระดับ 70-100 เซนติเมตร เพื่อรองรับน้ำในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังเฝ้าระวังเขตพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกแนวคันกั้นนี้จำนวน 13 เขตใน 27 ชุมชน และจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง


Thaipbs


 

ปภ.เตือน12จว.อีสานระวังดินถล่ม-น้ำท่วม


 


ปภ. ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย 12 จว. ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยว่า ปภ. ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม รวม 12 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย และ หนองบัวลำภู เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก เนื่องจากพายุเคลื่อนตัวผ่าน อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 54 จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนสี เป็นสีเดียวกันกับดินบนภูเขา ฝนตกหนักนานเกินกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ โดยให้สันนิษฐานว่า อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มขึ้นได้ ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ในทันที

ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับมิสเตอร์เตือนภัย เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัย ในระยะนี้เป็นพิเศษ ตลอดจนจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และดินถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป


INN


 

ช่วงวันที่ 3-5 ส.ค. ประเทศไทยกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง


กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายสภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 3-5 ส.ค. ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนคลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนสูง 2-3 เมตรในระยะนี้

ส่วนในช่วงวันที่ 6-9 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป ส่วนบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรในระยะนี้

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น หมุ่ยฟ้า ด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน ประเทศจีน เกาหลีและญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำหรับชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2วันนี้


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:25:14


ความคิดเห็นที่ 936 (1562058)

[

ขอสรรเสริญ
ความเมตตาของลิงตัวนี้
ลิงชิมแปนซีไทยทำหน้าที่แทน “แม่” ป้อนนมลูกเสือ



 

|



|



|



เทเลกราฟ - “ดูดู้” ลิงชิมแปนซีเพศผู้อายุ 2 ปีครึ่ง ทำหน้าที่ป้อนนมลูกเสือโคร่งให้กับฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ มานานกว่า 1 ปี
       
       เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลดูดู้เปิดเผยว่า ตอนแรกเพียงต้องการทดสอบความสามารถของลิงชิมแปนซีตัวนี้ แต่เจ้าดูดู้ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวลูกเสือโคร่ง บรรดาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จึงฝึกสอนมัน จนกระทั่งดูดู้สามารถป้อนนมลูกเสือ และทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นกิจวัตรประจำวัน
       
       “มันฝึกไม่ยาก เพราะดูดู้รู้วิธีจับขวดนมอยู่แล้ว เราแค่สอนมันถือขวด สอนให้มันอยู่กับลูกเสือ เราสอนมันทุกๆ วัน จนมันทำได้” เจ้าหน้าที่สวนสัตว์รายหนึ่งเล่า
       
       ปัญหาเดียวของดูดู้ คือ มันมักไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่การให้อาหาร โดยมัวแต่ห่วงเล่นกับลูกเสือที่อายุประมาณ 3 - 5 เดือน เสียมากกว่า
       
       ทั้งนี้ ทางฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการระบุว่า ท้ายที่สุดบรรดาลูกเสือทั้งหลายก็จะโตเกินกว่าที่ดูดู้จะดูแลได้ และจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายไปไว้ยังสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป

 

 



 

 

 

 


------------------------------------------

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:25:58


ความคิดเห็นที่ 937 (1562059)
จีนอากาศแปรปรวน
ทั้งฝนตก-แห้งแล้ง



สภาพอากาศในจีนยังแปรปรวนหนักทั้งร้อนแห้งแล้งและฝนตกหนัก สร้างความสูญเสียทั้่งชีวิตและทรัพย์สิน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

นครฉงชิ่งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำต้านหนิง เพิ่มสูงกว่า 4 เมตรภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงและน้ำได้เอ่อท้นไหลทะลักเข้าท่วมตลาด นอกจากนี้ยังมีน้ำไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนและเกิดหินพังถล่มจากภูเขาลงมาทับบ้านเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน ฝนที่ตกหนักยังสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพืชผลการเกษตรที่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้ในเร็วๆ นี้
 
ส่วนพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้และภาคกลางของจีนต้องเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายแบบตรงข้ามจากความแห้งแล้งที่แผ่ปกคลุมไปทั่ว เนื่องจากฝนทิ้งช่วงส่งผลให้ประชาชนกว่า 4 ล้านคนกำลังขาดแคลนน้ำ ทางการต้องระดมความช่วยครั้งใหญ่เพื่อบรรเทาวิกฤตภัยแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่พืชผลการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนักจากผืนดินที่แตกระแหง ทำให้พืชผักเหี่ยวเฉาล้มตาย


Thaipbs



ไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าเข้าพัดถล่มชายฝั่งจีน6สค.



พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ที่มีความเร็วลมถึง 175 ก.ม./ช.ม. กำลังจะพัดเข้าชายฝั่งจีน ในช่วงเย็นวันที่ 6 ส.ค

ศูนย์กลาง เตือนพายุโซนร้อน ได้ออกประกาศเตือนประเทศจีน เกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุดยอดพายุไต้ฝุ่น โดยมีความเร็วลมถึง 175 ก.ม./ช.ม. จะพัดผ่าน วันที่ 6 ส.ค ในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ภาคตะวันออกพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งพายุจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และมีฝนตกอย่างหนัก


INN


เฮติเตรียมพร้อมรับมือพายุโซนร้อน"เอมิลี่"



ชาวเฮติเตรียมพร้อมรับมือ กับอิทธิพลของพายุโซนร้อน"เอมิลี่" และคาดว่าจะเคลื่อนตัวพัดถล่มเฮติ และอาจทำให้เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่ม ซ้ำเติมชะตากรรมของชาวเฮติที่ยังอาศัยอยู่ในเต้นท์ที่พักชั่วคราว หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง เมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้ว

คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี ได้เริ่มใช้มาตรการปกป้องประชาชนในค่ายที่พักชั่วคราว จากภาวะน้ำท่วม ด้วยการนำกระสอบทรายมาวางเป็นกำแพงกั้นน้ำในพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมและดินถล่ม หลังจากมีคำเตือนว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน"เอมิลี่" จะทำให้เริ่มมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของเฮติ ในช่วง กลางดึกวันนี้ ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มตามมา ซ้ำเติมชาวเฮติ ที่รอดพ้นจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง เมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ประสบภัยจำนวนมาก พักอาศัยภายในเต้นท์ที่พักชั่วคราว ซึ่งต้องใช้ชีวิตยากลำบากอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามทางการเฮติ ได้เรียกร้องให้ประชาชนในค่ายที่พักชั่วคราว อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้อิทธิพลของพายุ"เอมิลี่" จะส่งผลกระทบต่อเฮติแล้ว มีรายงานว่าประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเกาะฮิสพานิโอล่า ของสาธารณรัฐโดมินิกัน และ เปอร์โต ริโก้ ได้รับอิทธิพลจากพายุนี้ด้วยเช่นกัน ขณะนี้พายุโซนร้อน"เอมิลี่" มีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองซาน ฮวน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเปอร์โต ริโก้ 300 กิโลเมตร ด้วยความเร็วลม 50 ไมล์ต่อชั่วโมง


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:30:26


ความคิดเห็นที่ 938 (1562060)
อย.ปรับสถานะยาแก้หวัด เป็นยาควบคุมพิเศษ



|


อย.สั่งปรับสถานะยาแก้หวัดสูตรผสม ซูโดอีเฟดรีน เป็นยาควบคุมพิเศษจำหน่ายเฉพาะในสถานพยาบาล เนื่องจากมีสารเสพติดผสม
 
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการยาวันนี้มติให้ปรับสถานะยาแก้หวัดชนิดเม็ด/แคปซูล ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน 3สูตร ได้แก่ สูตร Pseudoephedrine และ Triprolidine สูตร Pseudoephedrine และ Brompheniramine และ สูตร Pseudoephedrine และ Chlorpheniramine จากยาอันตรายให้เป็น“ยาควบคุมพิเศษ" โดยมีเงื่อนไขให้จำหน่ายได้เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน โดยจะเสนอรัฐมนตรีออกเป็นประกาศฯ และลงนามในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
 
ซึ่งในระหว่างการดำเนินการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว อย. จะขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิต/นำเข้ายาให้จำหน่ายยาดังกล่าวเฉพาะสถานพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนทันทีเพื่อควบคุมสถานการณ์ปัญหา
 
นอกจากนี้ อย. จะเพิ่มการเข้าถึงยาทดแทนในการบรรเทาอาการคัดจมูก คือ ยาที่มีส่วนประกอบของเฟนิลเอฟริน โดยคณะกรรมการยาได้มีมติให้ปรับสถานะของยาที่มียาเฟนิลเอฟรินเป็นส่วนประกอบ เป็นยาที่ได้รับการยกเว้น “ไม่เป็นยาอันตราย" ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) และร้านขายยาบรรจุเสร็จฯ (ขย.2) ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้น




http://news.voicetv.co.th/thailand/14711.html
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:34:31


ความคิดเห็นที่ 939 (1562062)

ปลาน๊อคน้ำ-ราคาหน้าฟาร์มลดฮวบโลละ15 บาท

พษน้ำท่วมทำปลาน๊อคน้ำ ผู้ประกอบการบริษัท "คิงฟิช" เผยเร่งจับปลาน๊อคน้ำขาย ส่งผลราคาหน้ากระชังลดฮวบกิโลกรัมละ 15 บาท เหลือเพียง 55-60 บาท ระบุหากไม่เร่งจับราคาจะเหลือเพียงกิโลกรัมละ 20-30 บาท-ขายทำปลาร้า ขณะที่ปลาแช่แข็งส่งโมเดิร์นเทรดราคาลดกิโลกรัมละ 10 บาท ระบุน้ำท่วมเสียหายเบื้องต้นแล้วกว่า 6 แสนบาท
นางสาวหัสวรรณ พิชัยยุทธ ผู้จัดการบริษัท คิงฟิช จำกัด ศูนย์ส่งเสริมการเลี้ยงปลาครบวงจรรายใหญ่ในภาคเหนือ มีกระชังปลาในพื้นที่เชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และพิษณุโลก ผู้ผลิตและจำหน่ายปลาแช่แข็งจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด เปิดเผยว่า หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้กระชังปลาที่เลี้ยงได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่จังหวัดอุตรดิตถ์และเชียงใหม่ ส่งผลให้ปลาน๊อคน้ำเป็นจำนวนมาก ต้องเลื่อนคิวเร่งจับปลาขึ้นมาจำหน่ายไม่เช่นนั้นจะทำให้ปลาราคาตก

กระชังจังหวัดเชียงใหม่ปลาเริ่มน๊อคน้ำตั้งแต่เมื่อวาน (2 ส.ค.) ปลาที่เลี้ยงไว้ 2-3 ตันได้รับความเสียหาย ขณะที่จังหวัดอุตรดิตถ์พบว่าเสียหายว่า 6 ตัน ขณะนี้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากปลาเกือบทั้งหมดน๊อคน้ำทำให้ต้องเร่งจับปลาขึ้นมาจำหน่ายทำให้ราคาหน้ากระชังลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 55-60 บาท จากราคาปกติกิโลกรัมละ 71-72 บาท หรือราคาลดลงกิโลกรัมละกว่า 15 บาท
หากไม่จับขึ้นในทันทีโดยรออีก 1-2 วัน ก็จะทำให้ปลาราคาตกเหลือเพียงกิโลกรัมละ 20-30 บาทเท่านั้น โดยจำหน่ายให้ทางภาคอีสานเพื่อนำไปปลาร้า ในส่วนของการส่งขายให้กับโมเดิร์นเทรดก็ถูกกดราคาลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากปลาไม่ได้ขนาดตามที่ต้องการผนวกกับจำนวนปลาในท้องตลาดที่มีมากทำให้เกิดการตัดราคา จากปกติเคยส่งปลาแช่แข็งให้โมเดิร์นเทรดกิโลกรัมละ 78 บาท ลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 68 บาทเท่านั้น

สำหรับความเสียหายเบื้องต้นนั้นต้องขาดทุนกระชังละ 30,000 บาท โดยแต่ละวันจะมีการจับปลาทั้งหมด 15-20 กระชัง หรือคิดเป็นความเสียหายแล้วกว่า 450,000-600,000 บาท ในส่วนของปลาที่ยังไม่น๊อคน้ำที่เหลือในกระชังตอนนี้ก็ต้องให้คนเลี้ยงเฝ้ากระชังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์น้ำ หากน้ำมามาก็จะเป็นต้องดึงปลาเข้าฝั่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:37:56


ความคิดเห็นที่ 940 (1562063)

ประมวลภาพ"นกเตน"แผลงฤทธิ์"พ่นฝนกระหน่ำ น้ำท่วม(เกือบทั่ว)ไทย จมบาดาลหลายจังหวัด

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปตามๆกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก รวมถึงภาคใต้ ของไทย จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน นกเตน ที่แม้ตอนนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ก็ยังทำให้ฝนตกหนักติดต่อกันมาต่อเนื่องมาตั้งแต่ประมาณวันที่ 29 กรกฎาคม จนถึงปัจจุบัน(2 สิงหาคม) ทำให้ปริมาณน้ำสะสมจากยอดเขาสูงๆ ไหลท่วมบ่ากลายเป็นน้ำป่า หลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเบื้องล่าง รวมถึง พืชผลการเกษตรเสียหาย การคมนาคมสัญจรลำบาก ความเสียหายโดยรวมยังประเมินไม่ได้ เกิดเป็นความทุกข์ยากของพี่น้องชาวไทยในหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะ จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำหลักสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก เลย หนองคาย อุดรธานี อยุธยา ฯลฯ ที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติครั้งนี้

มติชนออนไลน์ ประมวลภาพความเสียหายจากน้ำท่วม ในจังหวัดต่าง ๆ มาให้ผู้อ่านได้ชมกัน เพื่อทราบถึงความยากลำบากของพี่น้องชาวไทย เพื่อที่เราจะได้หาทางช่วยเหลือ บริจาคสิ่งของ เงินทองในการฟื้นฟู ซ่อมแซม และบูรณะบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมชาติต่อไป

 


 

จ.แพร่


 

อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน



 

จ.เชียงใหม่
 


 

จ.หนองคาย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:42:13


ความคิดเห็นที่ 941 (1562064)

ภาพถ่ายจากนาซ่าเผยให้เห็น ภูเขาไฟ Anak Krakatau หรือ ที่รู้จักกันว่า Krakatoa เริ่มส่งสัญณาณปะทุขึ้น


 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:44:44


ความคิดเห็นที่ 942 (1562065)

วันที่ 2 สิงหาคม    เราเริ่มเห็นจุดดับ 1261 และ 1263 เคลื่อนตัวมาเรียงในแนวเดียวกับโลก และมีปริมาณจุดดับมากสุดถึง 130

31 กรกฎาคม #101

1 สิงหาคม #128

2 สิงหาคม #130
เวลา 6:19 UTC เกิดพลังงาน X-ray ระดับ M1 และเกิดพายุสุริยะขนาดใหญ่ และมีพลังงานบางส่วนมาทางโลก ซึ่งคาดว่าโลกจะได้รับผลกระทบระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม พี้นที่ๆ เสี่ยงภัยมากเป็นพิเศษได้แก่บริเวณ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หรือประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก ลองลงมาจะเป็นประเทศบริเวณตะวันออกกลางหรือยุโรป และ ทวีป แอฟริกา จากการคำนวณโดยละเอียดพบว่าหน้าคลื่นของพายุสุริยะจะมาถึงประมาณวันที่ 4 สิงหาคม เวลา 11 UTC +/- 7 ชั่วโมง มวลหลักของพายุสุริยะจะมาถึงประมาณวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 20 UTC +/- 14 ชั่วโมง


ระเบิดของวันที่ 2 (Class M1) จะมีพายุสุริยะขนาดใหญ่ พฤหัสที่ 4 และศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พื้นที่เสียงภัยมากเป็นพิเศ
​ษ --> เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก พายุสุริยะจะมาถึงประมาณ(ช่​วงเวลา 4 สิงหา เวลา 11 โมงเช้า -- เที่ยงคืนวันพฤหัส)
มวลหลักจะมาถึง ประมาณ ศุกร์ที่ 5 สิงหาคม (ช่วงเวลา บ่ายโมง ถึง เสาร์ที่ 6 ประมาณ ห้าโมงเย็น)

สรุป วันศุกร์ที่ 5 สิงหา เวลากลางคืน ควรระวัง เพราะจุดเสี่ยงพิเศษ คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (หรือแถวแปซิฟิก)

------------------------

พายุลูกใหม่มาแล้ว ชื่อว่าเจ้า Merbok

 

Daily Satellite Images
08/03

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 01:46:34


ความคิดเห็นที่ 943 (1562183)

ขอบคุณข่าวเรื่องน้ำๆ ข่าวร้อนๆ

ที่ส่งตรงถึงบ้านทุกๆวัน

ไม่เว้นแม้กระทั่ง

วันหยุดราชการจากคุณ อาริยา ด้วยนะค๊า..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 18:20:04


ความคิดเห็นที่ 944 (1562213)

จ.น่าน เตือน 7 อำเภอ

เสี่ยงดินถล่ม

วันที่ 04/08/2554 20:00 (ผ่านมา 5 นาที)





จ.น่าน สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม ใน 7 อำเภอ หลังวัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร และพบดินบนภูเขาชุ่มน้ำเสี่ยงดินถล่ม...

นายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า หลังฝนตกติดต่อกันหลายวัน สำรวจพบพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย-ดินถล่ม ใน 7 อำเภอ 10 ตำบล 16 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่บ้านน้ำรีพัฒนาและบ้านกิ่วจันทร์ ต.ชุนน่าน , อ.สองแคว บ้านปางไฮ บ้านน้ำพัน บ้านผาหมี ต.นาไร่หลวง ,อ.ปัว บ้านส้าน ต.สถาน ,อ.บ่อเกลือ บ้านห้วยลอย ต.ภูฟ้า , อ.สันติสุข บ้านกิ่วม่วง ต.ดู่พงษ์ บ้านปางช้าง บ้านหัวนา ต.พงษ์ , อ.เวียงสา บ้านน้ำ*** บ้านวนาไพร ต.น้ำมวบ ที่บ้านห้วยหลอด ต.ยาบหัวนา และ อ.นาน้อย บ้านไร่น้ำหิน บ้านป่ากล้วย ต.สถาน และบ้านทัพม่าน ต.บัวใหญ่

นอกจากนี้ยังได้รับการแจ้งเตือนจากกรมทรัพยากรธรณี ประกาศเตือนภัยว่าในพื้นที่จังหวัดน่าน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.นาหมื่น และ อ.นาน้อย ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยง ที่อาจจะเกิดดินถล่มจากฝนตกหนัก ระหว่าง 1 - 2 วันนี้ เนื่องจากวัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ดินบนภูเขาชุ่มน้ำอาจถล่มลงมาได้

ทั้งนี้จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงสูงจะเกิดดินถล่ม ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงและเคยเกิดดินถล่มมาแล้ว โดยอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มในพื้นที่ ได้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุ พร้อมที่จะแจ้งเตือนประชาชน ในหมู่บ้านได้รับทราบ เพื่ออพยพอย่างทันท่วงที และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเข้าพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 21:58:05


ความคิดเห็นที่ 945 (1562215)

ผู้ว่าฯพิจิตรเตือน-คนริมน้ำยม-น้ำน่านอพยพด่วน

คาดตี 2 คืนนี้น้ำเข้า

วันที่ 04/08/2554 19:22 (ผ่านมา 37 นาที)





พิจิตร - ผู้ว่าฯเมืองชาละวัน เตือนชาวบ้านริมน้ำยม และน้ำน่าน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงด่วน หลังน้ำเหนือเริ่มทะลักเข้าพิจิตรแล้ว คาดตี 2 คืนนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงอีกร่วมครึ่งเมตรแน่

วันนี้ (4 ส.ค.54) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ดูระดับน้ำ ในเขตลุ่มน้ำน่านและลุ่มน้ำยม ซึ่งขณะนี้มีน้ำเหนือไหลบ่าเข้ามาถึงจังหวัดพิจิตร โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมของอำเภอสามง่าม ล้นตลิ่งแล้ว 34 ซม. และน้ำก็กำลังไหลบ่าเข้า อ.โพธิ์ประทับช้าง และ ต.บางลาย อ.โพทะเล รวมถึง อ.บึงนาราง ด้วย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวระดับน้ำเหลืออีกแค่ 4 ซม. ก็จะล้นตลิ่งด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในแม่น้ำน่านหน้าตลาดเทศบาลเมืองพิจิตรเหลืออีกแค่ 10 ซม. ก็จะล้นตลิ่ง

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร บอกว่า ขอประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มขอให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นไปอยู่ในที่สูงโดยเร็วที่สุดเดี๋ยวนี้

นายสุวิทย์ บอกว่า ขณะนี้ก็ยังมีน้ำจากภาคเหนือไหลเข้าพิจิตรเป็นวงกว้าง และคาดว่าก่อนตี 2 คืนนี้ระดับน้ำทั้งแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านจะสูงขึ้นอีก 30-40 ซม. ซึ่งจะส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมในทุกพื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมอย่างแน่นอน ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ได้หาแนวทางช่วยเหลือราษฎรไว้พร้อมแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 21:58:59


ความคิดเห็นที่ 946 (1562216)

ระดับน้ำแม่กวงยังวิกฤต!!

หลายพื้นที่ จ.ลำพูน

ยังจมบาดาล

ระดับน้ำในลำน้ำแม่กวง ที่ไหลผ่านในหลายพื้นที่ จ.ลำพูน ขณะนี้อยู่ที่ 6 เมตร จากระดับวิกฤตปกติที่ 5 เมตร ส่งผลให้พื้นที่ อ.เมืองลำพูน ทั้ง 7 ตำบล คือ ต.เหมืองง่า ต.อุโมงค์ ต.เวียงยอง ต.บ้านกลาง เทศบาลเมืองลำพูน ต.บ้านแป้น ต.ต้นธง ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 1,000 หลังคาเรือน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ถือว่าระดับน้ำกวงขณะนี้ยังคงทรงตัว เพราะฝนในพื้นที่ไม่ตกลงมาเพิ่ม และบางพื้นที่เริ่มมีแดดออกมาแล้ว
ด้านนายชุมพร อินตะเทพ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลำพูน กล่าวว่า หากวันนี้ฝนยังไม่ตกลงมาซ้ำอีก เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

ลำพูน-น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤต


วันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554
 

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดลำพูนเข้าขั้นวิกฤต ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนแล้วกว่า 3 พันครัวเรือน เนื่องจากฝนยังคงติดต่อกัน บวกกับน้ำเหนือที่ไหลมาสมทบ ทำให้ระดับยังเพิ่มสูงขึ้น
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดลำพูน มีบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอลี้ อำเภอบ้านธิ ถูกน้ำท่วมหนักกว่า 3,000 ครัวเรือน เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำสูง 8 เมตร 50 เซนติเมตร ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน วัด โรงเรียน หลายแห่ง ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมต้องปิดการจราจร
ขณะที่ชาวบ้านยังวิตกว่าถ้าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 9 เมตร 20 เซนติเมตร หากฝนยังคงตกติดต่อกันและมีนน้ำเหนือไหลเข้ามาสมทบ มีโอกาสที่ระดับน้ำจะเข้าท่วมตัวเมืองลำพูน บริเวณถนนหน้าศาลากลางจังหวัดได้
สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดลำพูนตอนนี้ถือว่าเข้าขั้นวิกฤต เพราะระดับน้ำในแม่น้ำกวง, น้ำลี้ ยังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำกวงและน้ำลี้ เป็นน้ำเส้นหลักที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ชาวบ้านนอนไม่หลับต้องเฝ้าระวังกลัวน้ำจะเข้าท่วมบ้านเรือน พร้อมวอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน

----------------------

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 22:00:56


ความคิดเห็นที่ 947 (1562220)

ญี่ปุ่น จีน เตรียมรับมือไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า"


วันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554


จีนและญี่ปุ่น เตรียมพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า"ที่เตรียมจ่อจะพัดถล่มภายในวันสองวันนี้ โดยเฉพาะที่เมืองโอกินาวะของญี่ปุ่น อิทธิพลของพายุ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีรายงานสภาพอากาศเลวร้ายหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นฝนฟ้าคะนอง ภัยแล้ง และพายุทราย ในพื้นที่ต่าง ๆ ของจีน อีกด้วย

สำนักงานสภาพอากาศของญี่ปุ่น ออกคำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังกระแสลมแรงจัด บริเวณเกาะโอกินาวะ และเกาะใกล้เคียง ซึ่งอยู่ในเส้นทางผ่านของพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" ที่มีความเร็วลม 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแม้จะยังเคลื่อนตัวไม่ถึงญี่ปุ่น แต่อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นดังกล่าว ได้ทำให้เที่ยวบินเกือบทั้งหมด ในสนามบินนาฮา บนเกาะโอกินาวะต้องถูกยกเลิก ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างตามสนามบินเป็นจำนวนมาก

โดยขณะนี้พายุไต้ฝุ่น "หมุ่ยฟ้า" เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุ่งหน้าชายฝั่งทางตะวันออกของจีน ส่งผลให้หลายพื้นที่ของมณฑลเจอเจียง มีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ทางการจีนต้องเรียกเรือประมงราว 1 พันลำกลับเข้าฝั่ง และอพยพนักท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทั้งนี้คาดกันว่า พายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" จะขึ้นฝั่งที่จีน ช่วงกลางดึกวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเข้าญี่ปุ่นต่อ

อย่างไรก็ตามมีรายงานล่าสุดเกี่ยวกับสภาพอากาศเลวร้ายที่จีนเพิ่มเติมเข้ามา เริ่มที่นครเซี่ยงไฮ้ ที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับอิทธิพลของไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าแต่อย่างใด โดยในช่วงเวลาสั้นเกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้ 30 มิลลิเมตร และในช่วงเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง ก็เกิดฟ้าแลบถึง 3,091 ครั้ง เป็นเหตุให้เที่ยวบินที่สนามบินในนครเซี่ยงไฮ้ล่าช้า

ขณะที่มณฑลกุยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีประชาชน 1,750,000 ประสบกับภาวะภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ไม่มีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร ทางการต้องยื่นมือเข้าช่วย ทุ่มงบ 60 ล้านหยวน ใช้ในการขุดบ่อน้ำให้กับชาวบ้านมีน้ำกินน้ำใช้

ส่วนที่เมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองพิเศษซินเจียง อุยกูร์ เผชิญกับพายุทรายพัดถล่ม ทำให้ทัศนวิสัยเลวร้าย มองไม่เห็นในระยะ 200 เมตร

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 22:22:31


ความคิดเห็นที่ 948 (1562221)

ภัยน้ำท่วมพบผู้ป่วย7พันรายดับ9ศพสูญหาย2ราย



ปลัด สธ.เผยวิกฤติน้ำท่วมส่งผลให้มียอดผู้ป่วยพุ่ง 7,000 ราย เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 2 ราย พร้อมสั่งผลิตยาชุดน้ำท่วมช่วยผู้ประสบภัยเพิ่มอีก 300,000 ชุด...

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุดมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 17 จังหวัด วิกฤติสุดที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ขณะนี้มีสถานบริการสาธารณสุขถูกน้ำท่วมทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ที่สำนักงานควบคุมป้องกันโรคจังหวัดเชียงใหม่ 1 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) 8 แห่ง ประกอบด้วยลำปาง 2 แห่ง พิษณุโลก 1 แห่ง และที่แพร่ 5 แห่ง ซึ่งยังคงปิดบริการชั่วคราว 2 แห่ง คือ รพ.สต.สบสายและรพ.สต.ปงพร้าว อำเภอสูงเม่น น้ำท่วมประมาณ 80 เซนติเมตร และมีโรงพยาบาล 1 แห่ง คือ  โรงพยาบาลสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย น้ำท่วมขังทางเข้าโรงพยาบาลสูงประมาณ 1 เมตร ต้องใช้เรือรับส่งผู้ป่วยเข้าออกแแทน

ส่วนการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จนถึงวันที่ 4 ส.ค. พบผู้ป่วย 7,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ผื่นคัน มีบาดแผล มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ที่จังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย สุโขทัย สกลนคร แพร่ อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย แม่ฮ่องสอน 3 ราย สูญหายที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ 2 ราย ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งยาชุดน้ำท่วม 10,000 ชุด ไปให้จังหวัดแพร่และลำปางจังหวัดละ 5,000 ชุด และสั่งการให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตยาชุดน้ำท่วมเพิ่มอีก 300,000 ชุด รวมที่ส่วนกลางมียาสำรอง 500,000 ชุด พร้อมจัดส่งให้จังหวัดอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ายามีเพียงพอ หากประชาชนรายใดที่เจ็บป่วยและเดินทางออกมาไม่ได้ขอให้โทรแจ้งทีมแพทย์ ฉุกเฉินที่ 1669 กระทรวงสาธารณสุขจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเป็นการด่วน           

นพ.สุรินทร์ สุมนาพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ได้ตั้งวอร์รูมช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลแพร่ สถานการณ์น้ำท่วมวันนี้หนักสุดที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 3 ทีม ที่อำเภอวังชิ้น 2 ทีมและอำเภอสูงเม่น 1 ทีม เข้าไปให้บริการผู้ประสบภัยถึงบ้านร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นทั้งทางรถและทาง เรือ ผลการออกหน่วยแพทย์ที่ผ่านมามีประชาชนเจ็บป่วย 2,800 ราย ยังไม่พบการระบาดของโรค.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการศึกษา
4 สิงหาคม 2554, 21:00 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 22:24:20


ความคิดเห็นที่ 949 (1562222)

อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย น้ำเริ่มสูงขึ้น รุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี




หมู่ 1 บ้านหนองปลาหมอ ตำบลย่านยาว อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นจุดที่ห่างจากแม่น้ำยมไม่ถึง 200 เมตร น้ำไหลแรงและเร็ว ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ระดับน้ำที่สูงขนาดนี้ รุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี

โดยถนนเส้นนี้วิ่งจากตัวอำเภอสวรรคโลกเข้าสู่ตัวเมืองสุโขทัยได้ จะพบว่ามีน้ำท่วมเส้นทางหลายจุดด้วยกัน ซึ่งที่หมู่ 1 แห่งนี้มีบ้านเรือน 125 หลังคาเรือน จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 2 วันแล้ว ระดับน้ำท่วมถึงชั้นบนของบ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่ภายในบ้าน ขณะที่ทั้งตำบลย่านยาวมีด้วยกัน 12 หมู่บ้าน และถัดไปในพื้นที่ติดกัน คือ ตำบลคลองกระจง ยังมีอีก 9 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งประเด็นหลักของที่นี่ก็คือ พื้นที่กว่า 80% ของทั้ง 2 ตำบลปลูกต้นกล้วยเพื่อตัดใบตองขาย แต่ 2 วันมานี้ ชาวสวนไม่สามารถเข้าไปตัดใบตองได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงและเชี่ยว และยังไม่มีพื้นที่เก็บใบตองด้วย

สำหรับภาพรวมของอำเภอสวรรคโลก ปริมาณน้ำท่วมที่ถนนจรดวิถีถ่อง ตั้งแต่แยกเข้าโรงพยาบาลสวรรคโลกไปจนถึงโรงเรียนสวรรคอนันต์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาระดับน้ำยังคงทรงตัว

แต่ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสวรรคโลก ยังคงมีน้ำท่วมสูงกว่า 60 เซนติเมตร ร้านค้าต่างๆต้องคอยสูบน้ำออกจากร้าน และ บรรดาพ่อค้าแม่ค้านับร้อยรายก็ต้องหอบข้าวของมาขายกันริมถนน ส่งผลให้การจราจรบริเวณนั้นค่อนข้างติดขัด

------------------------

น้ำเหนือเชี่ยวกราก

กำลังหลากลงกรุง...!!

 

วันนี้ท้องฟ้าภาคเหนือเริ่มสว่างหลังจากไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันมานาน 4 วันเต็ม ตั้งแต่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ 3 สิงหาคม จากพายุนกเต็น ทำให้น้ำป่าหลากจากที่สูงสู่แม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน และกำลังไหลเชี่ยวกรากไปบรรจบพร้อมกันที่ปากน้ำโพนครสวรรค์ในเร็ววันนี้ ตามข่าวว่าอาจเป็นวันที่ 9 หรือ 10 สิงหาคมนี้จะถึงกรุงเทพฯ น่าเป็นห่วงผู้คนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งเจ้าพระยา โปรดได้เตรียมรับสถานการณ์น้ำจากเหนือล้นฝั่งเจ้าพระยาค่ะ
ดิฉันถ่ายคลิปในวันที่น้ำหลากมาในระดับสูงสุดคือวันที่ 1 สิงหาคม ขณะเดินทางไปทำงานจากตัวเมืองลำปางไปอำเภองาว


 






คลิปบน..น้ำปาหลากลงมาจากดอย ระหว่างเดินทางไปทำงานข้ามอำเภอ น้ำขุ่นคลั่กเลย มันชะหน้าดินลงมามากจากป่าไม้ถูกทำลายนั่นแหละ

คลิปล่าง..ถ่ายจากสะพานโยงแห่งแรกของประเทศไทย อ.งาว ลำปาง แม่น้ำงาวกำลังไหลเชี่ยวลงแม่น้ำยม ส่วนหนึ่งล้นทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน ศูนย์อนามัยเด็กเล็กก็ถูกท่วมด้วย

นอกจากนี้ถนนสายลำปาง - งาว ระยะทาง 84 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางโค้งคดเคี้ยวขึ้นเขาลงดอย โดยเฉพาะ กม.ที่ 30 เป็นต้นไป ปกติก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยอยู่แล้ว ยิ่งวันฝนตกถนนลื่นดิฉันเคยเดินทางกลับบ้านพบเห็นอุบัติเหตุระหว่างทาง 4 รายซ้อน ฉะนั้นใครขับรถเส้นทางนี้โปรดขับด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะท่านที่ไม่คุ้นเคยเส้นทาง...ถนนสายนี้เป็นถนนสายปราบเซียนค่ะ


หินก้อนใหญ่ไถลร่วงมามาเหลือใช้หนึ่งช่องทางจราจร ขณะนี้กรมทางหลวงเคลียร์พื้นที่ (น่าจะเรียบร้อยแล้ว)



นี่เป็นหนึ่งในหลายจุดที่เนินดินข้างทางทรุดลงมา กอไผ่ร่วงลงมาทั้งกอเลย



 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-04 22:25:50


ความคิดเห็นที่ 950 (1562252)

น่าหนักใจจริงๆ ไม่รู้ว่า "หมุ่ยฟ้า" จะมาถึงไทยไหม๊เนี่ย..

แค่เจอ"นกเต็น" ก็แย่แล้ว ถ้า"หมุ่ยฟ้า"มาอีก...


จะไปหลบอยู่มุมไหนกันเนี่ย...


ขอบคุณคุณ อาริยา ผู้ส่งข่าว ซักร้อยพันครั้งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 05:17:31


ความคิดเห็นที่ 951 (1562269)

ด่วน !!! งานนี้ขอให้พวกเราอย่าได้ประมาท

วัน 4 สิงหาคม เวลา 4: 40 UTC เกิดเหตุระเบิดที่ดวงอาทิตย์อย่างรุนแรง รอบทิศทาง พลังงานส่วนใหญ่มาที่โลกคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างรุนแรง ระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคม ประชาชนที่อยู่ในพี้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติในช่วงสัปดาห์ก่อนอาจต้องเตรียมรับมือมากเป็นพิเศษ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเหตุฉุกเฉินโปรดติตตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พี้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวมากเป็นพิเศษได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย และ ประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ หรืออาจมีพี้นที่อืนๆซึ่งอาจจะเป็นภัยธรรมชาติรูปแบบอื่น

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 09:37:17


ความคิดเห็นที่ 952 (1562270)

พายุ"นกเต็น"ชื่อลาวแผลงฤทธิ์ไปแล้วอีกไม่นานก็ถึงคิวพายุชื่อไทย"กุหลาบ"

วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 17:00 น



จากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ไม่พ้นไปจากอากาศวิปริตในปีนี้เช่นกัน ปัญหาอุทกภัยจากฝนตกหนักในไทยมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมแทบทุกปี แต่ปี พ.ศ.2554 นี้ฝนฟ้าได้จัดหนักกว่าทุกปีมาเร็วกว่าทุกปี ทำให้ภาคเหนือและภาคอีสาน รวมถึงภาคกลาง ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างไม่คาดคิดมาก่อน อย่างเช่นฤทธิ์เดชของพายุ”นกเต็น” ที่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ดังที่ได้รับทราบจากข่าวคราวในเวลานี้ รวมทั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่อีกหลายประเทศในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลี เป็นต้น

เมื่อพายุ “นกเต็น” ได้ผ่านพ้นไป ก็มีพายุอีกลูกที่ชื่อว่า “หมุ่ยฟ้า” ที่กำลังอาละวาดแผลงฤทธิ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกในชณะนี้ ซึ่งคาดกันว่าพายุลูกนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเหมือนอย่างพายุ “นกเต็น” แต่ประเทศไทยก็จะต้องเจอพายุในปี พ.ศ.2554 นี้อีกประมาณ 19-20 ลูกที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมิใช่พายุทั้งหมดจะพัดถล่มประเทศไทย จากการคาดการณ์จะมีพายุเพียง 2-3 ลูกเท่านั้นที่จะส่งผลกระทบถึงประเทศไทยที่ยังไม่มีใครทราบล่วงหน้าได้ว่าจะรุนแรงมากน้อยขนาดไหน

สำหรับพายุที่พัดเข้าประเทศไทยนั้น จะเรียกว่าพายุไต้ฝุ่น (Typhoon) ซึ่งเป็นพายุหมุนเขตร้อนความเร็วลมสูงสุด ก่อตัวขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแหซิฟิก พายุไต้ฝุ่นนี้ไม่มีการกำหนดฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เพราะพายุไต้ฝุ่นก่อตัวขึ้นตลอดทั้งปีก็ว่าได้ พายุใต้ฝุ่นส่วนมากก่อตัวขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือเป็นบริเวณที่เกิดพายุหมุนเขตร้อนบ่อยครั้งที่สุดและรุนแรงที่สุดในโลก

หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยชื่อพายุตามแถบภูมิภาคของโลกที่ต่างกันนั้น ที่เรียกว่าเฮอร์ริเคน บ้าง ไซโคลน บ้าง มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งความจริงนั้นก็คือพายุหมุนเขตร้อนชนิดเดียวกัน แต่ที่มีชื่อเรียกต่างกันนั้นก็เป็นไปตามถิ่นที่เกิดของพายุเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกกลาง ๆ คือ “พายุหมุนเขตร้อน” (Tropical cyclone)

ขอจำแนกถิ่นที่กำเนิดพายุหมุนเขตร้อนที่มีการเรียกชื่อต่างกันดังนี้ ถ้าเกิดขึ้นในชายฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเรียกว่า เฮอร์ริแคน (Hurricane) ถ้าเกิดขึ้นในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า ไซโคลน (Cyclone) ถ้าเกิดขึ้นแถบนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย เรียกว่า วิลลี่-วิลลี่ (Willy-willy) ถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า ไต้ฝุ่น (Typhoon) แต่ถ้าเกิดขึ้นในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เรียกว่า บาเกียว (Baguio)

ใครที่ได้ติดตามชื่อของพายุมานานนม คงพอจะทราบว่าเมื่อก่อนนี้ชื่อของพายุนั้น มักจะเป็นชื่อฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ และบางครั้งก็เป็นชื่อที่อ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นชื่อของสตรี ซึ่งวัตถุประสงค์คงต้องการให้ฟังดูแล้วอ่อนโยน จนกระทั่ง พ.ศ. 2543 ประเทศและดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 14 แห่งที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการพายุไต้ฝุ่นขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organizations Typhoon Committee) ได้มีการจัดระบบการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในแถบนี้ใหม่ โดยแต่ละประเทศ ได้ส่งชื่อพายุในภาษาของตนประเทศละ 10 ชื่อ รวมทั้งหมด 140 ชื่อ โดยกำหนดให้ใช้ภาษาท้องถิ่นในแต่ละประเทศในการตั้งชื่อพายุ ได้แก่ กัมพูชา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

สำหรับ ชื่อพายุที่ประเทศต่าง ๆ ส่งชื่อมาให้นั้นจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 28 ชื่อ  เรียงตามชื่อประเทศตามลำดับของตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจากกัมพูชา เรื่อยไปจนถึงเวียดนามซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย โดยไทยเราอยู่อันดับที่ 12 เมื่อใช้หมด 1 กลุ่มก็จะขึ้นชื่อแรกในกลุ่มที่ 2 เรียงกันเรื่อยไปจนครบทุกกลุ่ม แล้วจึงกลับมาใช้ชื่อแรกของกลุ่มที่ 1 ใหม่อีกครั้ง

สำหรับประเทศไทยนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยาจึงได้ตั้ง "คณะกรรมการพิจารณารายชื่อและความหมายของชื่อ" ขึ้นเพื่อเสนอชื่อพายุในภาษาไทย จนได้ชื่อพายุของไทยตามลำดับได้แก่ พระพิรุณ ทุเรียน วิภา รามสูร เมขลา มรกต นิดา ชบา กุหลาบและขนุน

พายุ “นกเตน” (Nok-ten) ได้รับรู้กันแล้วจากทางสื่อต่าง ๆ ว่าเป็นชื่อพายุที่ประเทศลาวเป็นผู้ตั้งชื่อไว้เป็นชื่อพายุอยู่ในอันดับ 6  ซึ่ง “นกเตน” ก็คือ นกกระเต็นที่คนไทยเรียกกันนั่นเอง ส่วนพายุ “หมุ่ยฟ้า” (Muifa) เป็นชื่อพายุในอันดับ 7 ที่แผลงฤทธิ์อยู่ในเวลานี้ เป็นชื่อที่ทาง “มาเก๊า” เป็นผู้ตั้งชื่อมีความหมายว่า “ดอกบ๊วย” ส่วนชื่อพายุลูกถัดไปที่เป็นชื่ออันดับ 8 ถึงคิวชื่อของประเทศมาเลเซีย ตั้งชื่อไว้ว่า “เมอร์บุก” (Merbok) ซึ่งเป็นชื่อของนกชนิดหนึ่ง

ชื่อพายุที่ประเทศไทยได้ตั้งไว้ใช้ชื่อว่า “กุหลาบ” อยู่ในอันดับที่ 11 คาดว่าอีกไม่นานเกินรอพายุ”กุหลาบ” คงจะได้ก่อตัวขึ้นมาในมหาสมุทรแปซิฟิก และประชาชนคนไทยจะต้องเฝ้าติดตามดูว่า “พายุกุหลาบ” ที่มีชื่อไทยจะพัดถล่มทำความเสียหายให้แก่ประเทศไทยหรือไม่ หรือพัดถล่มเข้าประเทศอื่นแทน.

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 09:40:08


ความคิดเห็นที่ 953 (1562273)

ชอบรูปลิงป้อนนมเสือจังคะ น่ารักจังเลย

เหมาะกับเทศกาลวันแม่ดีเหมือนกันนะคะ

 

ขอบคุณทุกท่านที่อัพเดทข่าวทุก ๆ วันคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (vann_ult-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 09:46:04


ความคิดเห็นที่ 954 (1562275)

ขอบพระคุณนะคะ

ผู้รายงายข่าว ทุกท่าน

อัพเดท สด ๆ ร้อน ๆ ทุกวันเลย

ขอบคุณคร๊า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 10:31:52


ความคิดเห็นที่ 955 (1562283)

ท้าวเวสสุวรรณ

บอกไว้แล้ว

ว่า

น้ำจะมาจากฟ้า

 

อย่าประมาท

ให้ลูกบ้านสวนพีระมิด

ขอ

บารมีพระพุทธเจ้า

 

ใช้พีระมิดจำลอง

 

เรียก อ.อุบล ช่วยด้วย

 

ยามจำเป็น

 

แล้วอย่าลืม

มาขอบคุณด้วยนะ

ทางเวปก่อน

 

แล้วถ้าไปได้

ค่อยไปด้วยตนเอง

 

ถ้าอยู่ใกล

ก็ไม่ต้องไป ให้ทำความดี

รักษาศีล 5 ตอบแทน

นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 11:19:27


ความคิดเห็นที่ 956 (1562297)

ขอบคุณพี่อาริยาค่ะ

ที่ update ข่าวให้ทุกวันเลยค่ะ

ดูข่าวแล้วตอนนี้ บ้านเรา ทางเหนือ

ทั้งสุโขทัย แพร่ ฯลฯ

หนักที่สุดในรอบหลายสิบปีค่ะ

เวลาดูข่าวเห็นน้ำท่วมมิดหลังคา

ท่าน อ.อุบลเคยบอกว่าให้เราใช้กสิณ

แล้วช่วยทำให้น้ำลดได้นะคะ

ช่วยกันหลายๆ คน จะยิ่งเห็นผลค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 13:05:23


ความคิดเห็นที่ 957 (1562300)

สัตว์ทะเลราคาพุ่งเจอมรสุมออกเรือไม่ได้

วันศุกร์ ที่ 05 สิงหาคม 2554 เวลา 9:46 น

 
พ่อค้าแม่ค้าสัตว์น้ำบ่นคลื่นลมแรงเรือประมงจอดสัตว์น้ำลดจำนวน สัตว์น้ำทะเลขาดตลาด ราคาพุ่ง ปลาทู กก.ละ 80-100 บาท ปลาสำลี กก.ละ 280 บาท ปลาอินทรีย์ กก.ละ 180 บาท
วันนี้ ( 5 ส.ค.) ที่บริเวณแผงขายสัตว์น้ำตลาดสดเทศเมืองระนองเขตเทศบาลเมืองระนอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าในแต่ละร้านมีสัตว์น้ำมาจำหน่ายในจำนวนน้อยกว่าที่ผ่าน ๆ มา พร้อมทั้งราคาสัตว์น้ำมีราคาสูงขึ้น 10-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็เข้าในในสถานการณ์ดังกล่าว ส่วนบรรยากาศที่องค์การท่าเทียบเรือสะพานปลา ม.1 ต.ปากน้ำ อ.เมือง ซึ่งเป็นจุดใหญ่ในจังหวัดระนอง ที่ชาวประมงจะนำสัตว์น้ำมาขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่มารอรับซื้อ เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าและขายต่อ เป็นไปด้วยความเงียบเหงาเช่นกัน

นายทวีศักดิ์ รักษาผล พ่อค้าจำหน่ายสัตว์น้ำในตลาดสดเทศเมืองระนอง กล่าวว่า ช่วงที่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ จำนวนสัตว์น้ำที่ไปรับซื้อมามีจำนวนลดลง บางวันก็ไม่ได้สัตว์น้ำมาจำหน่ายเลย อีกทั้งราคายังพุ่งขึ้นสูงเป้นอย่างมาก เมื่อนำมาขายต่อในตลาด จำเป็นต้องขึ้นราคาอีกประมาณ 10-30 เปอร์เซ็นต์ ได้สอบถามชาวประมงและพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่นำสัตว์น้ำทะเลมาขายทราบว่า ช่วงนี้คลื่นลมแรง อีกทั้งจำนวนสัตว์น้ำในทะเลอันดามันมีจำนวนลดลง จึงจับได้น้อย แต่รายจ่ายในการออกไปจับสัตว์น้ำกลับเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องขึ้นราคา อีกทั้งทราบว่ามีเรือที่เข้าไปทำการประมงในน่านประเทศพม่าหยุดทำการประมงกันเป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ นายสุรินทร์ โลสงค์ นายกสมาคมประมงระนอง ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ในทะเลอันดามันอยู่ในช่วงฤดูมรสุม คลื่นลมแรง ทำให้เรือประมงไม่สามารถอกทำประมงได้ โดยเฉพาะเรืออวนดำกว่า 90 % ต้องนำเข้าฝั่งจอดเทียบท่ามานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ส่วนเรืออวนลากที่มีขนาดใหญ่ยังสามารถออกทำประมงได้เป็นบางช่วงเวลา ส่งผลให้สัตว์น้ำทะเลทุกชนิดขาดตลาด และราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น ปลาทู กิโลกรัมละ 80-100 บาท ปลาสำลี กิโลกรัมละ 280 บาท ปลาอินทรีย์ กิโลกรัมละ 180 บาท เป็นต้น ส่วนปลาไก่กิโลกรัมละ 7 บาท แต่สำหรับปลาแปรรูปในโรงงานยังพุ่งสูงขึ้นไม่มากนัก
 
 
           ตื่นน้ำท่วมปากน้ำโพแห่ซ่อมเรือเตรียมรับมือ

วันศุกร์ ที่ 05 สิงหาคม 2554 เวลา 11:13 น
  


เนื้อหาข่าว



ชาวบ้านเมืองปากน้ำโพ วิตกฤทธิพายุนกเตน เร่งนำเรือเก่าออกมาซ่อมแซม พร้อมรับมือภัยน้ำท่วม
วันนี้(5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน ต.เกรียงไกร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่อาศัยริมแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน นำเรือเก่าออกมาปรับปรุงซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง หลังสถานการณ์น้ำในขณะนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี โดยบ้านเรือนส่วนใหญ่จะมีเรือติดบ้านไว้เกือบจะทุกหลังคาเรือน โดยนายสุนทร มนุษย์นิ่ม อายุ 44 ปี กล่าวว่า หลังจากที่ทางการประกาศให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือที่เดินทางจาก จ.พิจิตร มาถึงจ.นครสวรรค์ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยมและน่าน เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ทั้งเรื่องการเก็บข้าวของหนีน้ำและการเร่งต่อเรือเพื่อใช้เป็นพาหนะรับมือน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยเพื่อนบ้านที่มีความชำนาญเรื่องช่างไม้มาทำการซ่อมแซมเรือตะเข้ 7 ที่นั่ง ให้ชาวบ้านที่มีอยู่ตามใต้ถุนบ้านแทบทุกบ้าน เพราะว่าชาวบ้านเก็บเรือไว้หลายปีไม่ได้ใช้งานเริ่มชำรุดผุพัง ใช้การไม่ได้ จึงต้องนำออกมาซ่อมแซมเพื่อใช้ในช่วงน้ำท่วมนี้ นอกจากนี้ชาวบ้านยังจะได้มีเรือใช้สัญจรอีกทั้งยังต้องยึดอาชีพหาปลาเป็นรายได้หลักอีกด้วย

ด้านนายพิเชษฐศักดิ์ ศักดิ์พิพัฒน์ ชลประทาน จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักในเขตพื้นที่ภาคเหนือจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “นกเตน” และร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้ระดับน้ำ-ปริมาณน้ำท่าของแม่น้ำน่าน แม่น้ำยมเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องใน จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และจากการติดตามสถานการณ์ในลำน้ำน่าน ที่ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ วันที่ 5 ส.ค. ทราบว่ามี ปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,187 ลบ.ม./วินาที (ความจุลำน้ำ 1,370 ลบ.ม./วินาที) ซึ่งมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก จะส่งผลให้พื้นที่ในเขตอำเภอชุมแสง และบางส่วนของอำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอเมืองนครสวรรค์ เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบ เพื่อขนย้ายทรัพย์สิน และของมีค่าไว้ในที่สูง และปลอดภัยจากน้ำท่วม พร้อมรับมือกับภาวะน้ำท่วมต่อไป สำหรับในเขตอำเภอชุมแสง จะมีผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในช่วง 1 – 2 วันนี้

“เพื่อเป็นการป้องกัน และบรรเทาภัยจากน้ำ จึงประสานมากับท่าน เพื่อแจ้งให้อำเภอ อบจ.เทศบาล อบต. และหน่วยงานในท้องถิ่น เตรียมรับสถานการณ์ล่วงหน้าในพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบจากลุ่มน้ำ และลุ่มน้ำสาขาต่างๆดังกล่าวได้ทราบ และเพื่อความไม่ประมาทควรให้เจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องติดตามข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์โครงการชลประทานนครสวรรค์ จะรายงานสถานการณ์น้ำ ให้ทราบเป็นระยะ หรือหากต้องการให้โครงการช่วยเหลือประสานงานมาได้ที่ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ โครงการชลประทานนครสวรรค์ โทรศัพท์ 056229253,056222209 โทรสาร 056233419 ปัจจุบันโครงการชลประทานนครสวรรค์ ส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ณ วันที่ 5 ส.ค. เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ 12,200 ไร่ เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทานจำนวน 8 เครื่อง” ชลประทานจังหวัดนครสวรรค์กล่าว.
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 13:36:14


ความคิดเห็นที่ 958 (1562345)

 ท้าวเวสสุวรรณ

บอกไว้แล้ว

ว่า

น้ำจะมาจากฟ้า

 

อย่าประมาท

ให้ลูกบ้านสวนพีระมิด

ขอ

บารมีพระพุทธเจ้า

 

ใช้พีระมิดจำลอง

 

เรียก อ.อุบล ช่วยด้วย

 

ยามจำเป็น

 

แล้วอย่าลืม

มาขอบคุณด้วยนะ

ทางเวปก่อน

 

แล้วถ้าไปได้

ค่อยไปด้วยตนเอง

 

ถ้าอยู่ใกล

ก็ไม่ต้องไป ให้ทำความดี

รักษาศีล 5 ตอบแทน

นะจ๊ะ

............................................

อ่านแล้วขนลุกเลยครับอาจารย์แม่

โมทนาครับ

กราบขอบพระคุณครับ

สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 17:36:13


ความคิดเห็นที่ 959 (1562358)

อาริยาขอกราบขอบพระคุณท่าน อาจารย์เเม่ อุบล ที่คอยห่วงลูกทุกคน ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ช่วยกันลงข่าวค่ะ  สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

ตอนนี้ฝนตกหนักเเถวเจริญกรุงขอให้ทุกท่านปลอดภัยในการเดินทางค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:10:57


ความคิดเห็นที่ 960 (1562359)
ญี่ปุ่นวิกฤติหนักกัมมันตภาพรังสีสูงระดับเสียชีวิต



ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีระดับเข้มข้น 10,000 มิลลิซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ในพื้นที่บริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ หากสัมผัสร่างกายโดยตรงอาจเสียชีวิตได้...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า ทางการญี่ปุ่นตรวจพบกัมมันตภาพรังสีระดับอันตรายถึงชีวิต ในพื้นที่บริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ซึ่งเสียหายจากพิบัติภัยแผ่นดินไหวรุนแรง และสึนามิโถมถล่มตั้งแต่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กัมมันตภาพรังระดับอันตรายดังกล่าวความเข้มข้นถึง 10 ซีเวิร์ต หรือ 10,000 มิลลิซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ถูกตรวจพบบริเวณใต้เครื่องระบายอากาศภายในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่ง หากกัมมันตรังสีความเข้มข้นขนาดดังกล่าว สัมผัสร่างกายมนุษย์โดยตรงเพียงไม่กี่วินาที ก็จะนำไปสู่การเสียชีวิตได้อย่างง่ายดาย.


-------------------------------------------

อิทธิพลพายุนกเต็น

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุนกเต็น ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักใน 14 จังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เขื่อนของ กฟผ. 2 แห่ง คือ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่เขื่อนอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน
โดยเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมด 7,788 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 81.91 ของความจุอ่าง สามารถรองรับน้ำได้อีกเพียง 1,722 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมด 8,583 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 63.76 ของความจุอ่าง สามารถรองรับน้ำได้อีก 4,879 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอที่จะรับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนตลอดฤดูฝนนี้ได้อย่างปลอดภัย
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ไม่น่าเป็นห่วง แม้เกือบทุกเขื่อนจะมีปริมาณน้ำกักเก็บล่าสุดเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ก็ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก
ส่วนการระบายน้ำเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน จะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นอันดับแรก จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กฟผ. จะดำเนินการติดตามสถานการณ์น้ำ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเกิดผลกระทบต่อประชาชนทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนน้อยที่สุด

--------------------------------------------

 

น้ำก้อนใหญ่ถึง อ.แม่พริก จ.ลำปางแล้ว



พื้นที่ตอนใต้สุด จ.ลำปางคือ อ.แม่พริกซึ่งเป็นอำเภอสุดท้าย น้ำวังก้อนใหญ่มาถึงแล้ว น้ำท่วม 70 หลังคาเรือน ที่หมู่บ้านวังสำราญ ต.แม่พริก ความสูงน้ำกว่า 1.50 เมตร นายอำเภอเร่งสั่งนำเรือท้องแบน 3 ลำเข้าช่วยเหลือราษฎรแล้ว


5 ส.ค.54 เกิดเหตุน้ำวังเอ่อล้นไหลทะลักเข้าบ้าน วังสำราญ ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง มีบ้านเรือนราษฎรจำนวน 70 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบแล้ว หลังชาวบ้านได้เฝ้าระวังกันมาตลอดทั้งคืน

โดยการนำกระสอบทรายมาขวางกั้นลำน้ำวังไว้ แต่น้ำวังก้อนใหญ่ที่ไหลมาแรงและเชี่ยวกราก ทำให้กระสอบทรายรับน้ำไม่อยู่ กระสอบทรายจึงพัง ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชน บ้านวังสำราญ ดังกล่าว ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ซึ่งชาวบ้านได้อพยพและขนของเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ซึ่งไม่ได้รับความสูญมากเท่าไรนัก มีเพียงบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมเท่านั้น ส่วนพืชผลทางการเกษตร เช่น นาข้าว ไร่ข้าวโพดเสียหายเป็นจำนวนมาก

ด้านนาย สุรพล บุรินทราพันธ์ นายอำเภอแม่พริกและเจ้าหน้าที่ ปภ.จ.ลำปางนำเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านของ อ.แม่พริก เป็นการด่วนแล้ว





น้ำก้อนใหญ่ถล่มลำปาง-รับไม่ไหวเสียหายยับ

น้ำวังเอ่อล้นไหลท่วม บ้านวังสำราญ ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง กระสอบทรายกั้นน้ำ รับไม่ไหวพังถล่ม ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร
เกิดเหตุน้ำวัง เอ่อล้นไหล ทะลักเข้าบ้านวังสำราญ ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง มีบ้านเรือนราษฎร จำนวน 70 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบแล้ว หลังชาวบ้าน ได้เฝ้าระวังกันมาตลอดทั้งคืน โดยการนำกระสอบทรายมาขวางกั้นลำน้ำวังไว้ แต่น้ำวังก้อนใหญ่ ที่ไหลมาแรง และเชี่ยวกราก ทำให้กระสอบทรายรับน้ำไม่อยู่ กระสอบทรายจึงพัง ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชน บ้านวังสำราญ ดังกล่าว ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ซึ่งชาวบ้านได้อพยพ และขนของ เตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งไม่ได้รับความสูญมากเท่าไรนัก มีเพียงบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมเท่านั้น ส่วนพืชผลทางการเกษตร เช่น นาข้าว ไร่ข้าวโพดเสียหายเป็นจำนวนมาก
ด้าน นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ นายอำเภอแม่พริก และเจ้าหน้าที่ ปภ. ลำปาง นำเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านของ อ.แม่พริก เป็นการด่วนแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:15:48


ความคิดเห็นที่ 961 (1562360)

 

 

 

คาดสถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย

จะวิกฤตอีก 8-10 วันต.ปากแคว เป็นจุดรับน้ำแรกและรับน้ำหลัก จากทางเหนือ ก่อนจะไหลเข้าสู่ตัวเมืองสุโขทัย แต่หลังจากน้ำท่วมมานานหลายวัน พนังกั้นน้ำตำบลนี้หลายจุดก็ต้านกระแสน้ำไม่ไหวพังตัวลงมา ทำให้มวลก็แตกตัวแผ่เข้าท่วมพื้นที่โดยรอบ ก่อนเข้าถึงตัวเมือง

สภาพพนังกั้นน้ำภายในหมู่ 6 บ้านบางคลอง ตำบลปากแคว อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ได้รับความเสียหายอย่างหนัก น้ำจากน้ำยมไหลเข้าท่วมหมู่บ้านทั้ง 150 หลังคาเรือน ชาวบ้านบอกกับเราว่า น้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบสิบปี นับตั้งแต่ปี 2538 ภายในปีนี้ถูกน้ำท่วมไปแล้วถึง 2 ครั้ง ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายหนัก ทั้งนาข้าวและไร่ยาสูบ ชาวบ้านแทบทุกคนกังวลว่า พนังกั้นน้ำจะพังตัวเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะทราบว่ายังมีน้ำจากทางเหนือกำลังไหลลงมาอีก บางคนเครียดจนนอนไม่หลับ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนทำพนังกั้นน้ำบริเวณให้แข็งแรงในระยะยาว เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมหนักในพื้นที่


เช่นเดียวกับพื้นที่โดยรอบนอกเมือง โดยเฉพาะตำบลปากแคว ยังมีน้ำท่วมสูง ทางจังหวัด ปภ.พร้อมด้วยอาสาสมัครจากหลายหน่วยงาน เช่น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จึงได้ตั้งเต้นท์เป็นศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน โดยได้นำรถเสบียง และรถประปาสนาม เข้ามาช่วยเหลือ ส่งข้าวกล่องแจกจ่ายในพื้นที่เดือดร้อน ไม่ต่ำกว่าวันละสามพันชุด และผลิตน้ำประปาไม่ต่ำกว่าวันละหนึ่งหมื่นลิตร เนื่องจากระบบสาธารณูปโภคยังไม่สามารถใช้การได้เป็นปกติ โดยเฉพาะการไฟฟ้าและน้ำประปาที่ถูกน้ำท่วมเช่นกัน

นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ปลัดจังหวัดสุโขทัย บอกว่า ปริมาณน้ำที่มาจากทางเหนือในครั้งนี้ มากกว่าเมื่อเดือนก่อน แต่ความรุนแรงของน้ำมากกว่า จึงทำให้น้ำแผ่ออกไปในหลายอำเภอก่อนเข้าสู่อำเภอเมือง โดยเฉพาะตำบลปากแควจุดรับน้ำแรกของอำเภอเมือง ที่พนังกั้นน้ำพังลงไป มวลน้ำที่ไหลสู่ตัวเมืองเขตเศรษฐกิจจึงลดปริมาณลงรอดพ้นจากจุดวิกฤตไปได้ แต่ยังทรงอยู่ที่ 7 เมตร ทางจังหวัดจึงยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงสองถึงสามวัน เนื่องจากมวลน้ำจากจังหวัดแพร่ยังไหลลงมาสบทบอย่างต่อเนื่อง

จากสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่ จ.สุโขทัย ทำให้บ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายในครั้งนี้รวม 9 อำเภอ 53 ตำบล 47,452 คน พื้นที่การเกษตร 136,651 ไร่ และมีผู้เสียชีวิต 1 นาย คือ นายอำนาจ ทองยัง อายุ 38 ปี เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล หมู่ที่ 3 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก สาเหตุเนื่องจากไฟฟ้าดูดเสียชีวิตในบ้านที่ถูกน้ำท่วม
สำหรับอำเภอที่มีผลกระทบมากที่สุด คือ อ.เมือง อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.กงไกลาศ ขณะนี้น้ำในลำน้ำยมจากเขต อ.วังชิ้น จ.แพร่ ได้ไหลลงมายังเขตจังหวัดสุโขทัยที่ อ.ศรีสัชนาลัย แล้ว และคาดว่าระดับน้ำในเขต จ.สุโขทัย จะยังคงอยู่ในระดับวิกฤตต่อไปอีกประมาณ 8-10 วัน ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ พร้อมกับเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอย่างต่อเนื่อง


 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:21:14


ความคิดเห็นที่ 962 (1562361)

น้ำท่วมกำแพงเมืองน่าน-มรดกโลกเสียหาย

วันศุกร์ ที่ 05 สิงหาคม 2554 เวลา 15:54 น





ส่วนวัดไชยวัฒนาราม กรุงเก่า เหลืออีกครึ่งเมตรจมน้ำ กรมศิลฯเร่งตรวจสอบสภาพโบราณสถานทั่วไทย

วันนี้ (5 ส.ค.) นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมโบราณสถานในหลายพื้นที่แล้ว พบว่า ในจ.แพร่มีน้ำท่วมโบราณสถานบางส่วนไม่ได้รับความเสียหาย แต่ในจ.น่าน มีกำแพงเมืองเก่าอายุประมาณ 400 ปี ได้รับความเสียหายจากน้ำกัดเซาะเล็กน้อย ส่วนที่น่ากังวล คือ ที่จ.สุโขทัย แหล่งมรดกโลกศรีสัชนาลัย ได้จมอยู่ในน้ำมา 2 วันแล้ว มีลักษณะเป็นน้ำขัง โดยสภาพความแข็งแรงของโบราณสถานถือว่า สามารถทนกับสภาพน้ำขังได้ แต่เมื่อน้ำลดลงแล้ว จะประสบปัญหาทางด้านความชื่นส่งผลให้เนื้ออิฐเปี่อยยุ่ยได้ ขณะที่แหล่งโบราณสถานเมืองสุโขทัย ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพราะอยู่บนเนินสูง นอกจากนี้ในส่วนของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม ยังเหลืออีก 50 เซนติเมตรที่ระดับน้ำท่วมถึง ซึ่งไม่น่ากังวล เนื่องจากขณะนี้กรมศิลปากรได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากน้ำลด กรมศิลปากร จะเร่งประเมินความเสียหาย เพื่อรายงานให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)รับทราบ ในการรายงานต่อรัฐบาลต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:23:35


ความคิดเห็นที่ 963 (1562362)
เมฆที่มีรูปร่างเหมือนใบหน้าคนเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ
 

MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปวีดิโอ ขณะลมพัดผ่านสนามหญ้าหลังบ้านของนายเดนิส ฟาร์เมอร์ ในเมืองแกรนด์ฟอลล์ รัฐนิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา ปรากฏก้อนเมฆเป็นรูปใบหน้าคน

โดยก้อนเมฆค่อยๆลอยไป ตามกระแสลมก่อนจะปรากฏรูปใบหน้าที่ มีจมูก ตา และปากเปื้อนยิ้ม นานเกือบ 1 นาทีมันก่อนจะปลี่ยนรูปไป สร้างความตกตะลึงให้กับนายเดนิสอย่างมาก

ทั้งนี้ หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้เข้าชมกว่า 20,000 คน หลายคนลงความเห็นว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนจากพระเจ้าก็เป็นได้ เพราะใบหน้าดังกล่าวคล้ายกับพระเยซู บางคนบอกว่า มันคล้ายกับใบหน้าที่กำลังบึ้งตึงของพระเจ้า ขณะที่บางคนบอกว่ามันดูเหมือนปีศาจร้าย




 




http://news.mthai.com/world-news/125317.html
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:27:11


ความคิดเห็นที่ 964 (1562363)

เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และฟ้าแลบจำนวนมาก ที่เมือง Fujian ประเทศจีน ขณะพายุหมุ่ยฟ้าเตรียมถล่ม

Lightning tears up the sky in Quanzhou city, E China’s Fujian province, on August 4, 2011. Strong typhoon Muifa brought rainstorms to the city. [Photo/CFP]


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:29:29


ความคิดเห็นที่ 965 (1562364)

เกิดรอยแยกประหลาดบนถนน ยาว 200 ม. ที่เมือง Tucapel ประเทศชิลี





ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:30:29


ความคิดเห็นที่ 966 (1562365)

จีนทลายแหล่งผลิตวัตถุเจือปนอาหารเถื่อน จับผู้ต้องสงสัยนับพัน

แฟ้มภาพเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ชาวจีนกำลังเลือกชิ้นเนื้อหมูที่ตลาดในเมืองอี๋ชัง มณฑลหูเป่ย ทั้งนี้ จีนลุยกวาดจับผู้ต้องสงสัย 2,000 คน ที่มีส่วนพัวพันกับการผลิตวัตถุเจือปนอาหารผิดกฎหมาย พร้อมทั้งสั่งปิดกิจการอาหารอีกเกือบ 5,000 แห่ง (ภาพเอเอฟพี)
เอเอฟพี - จีนลุยกวาดจับผู้ต้องสงสัย 2,000 คน ที่มีส่วนพัวพันกับการผลิตวัตถุเจือปนอาหารผิดกฎหมาย พร้อมทั้งสั่งปิดกิจการอาหารอีกเกือบ 5,000 แห่ง หลังเกิดเหตุอื้อฉาวอาหารปนเปื้อนสารพิษจุดกระแสวิตกกังวลทั่วสังคมจีน

รัฐบาลจีนได้ดำเนินปฏิบัติการทลายแหล่งผลิตวัตถุเจือปนอาหารผิดกฎหมายในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุอื้อฉาวอาหารปนเปื้อนจำนวนมาก อาทิ เนื้อหมูที่พบตามท้องตลาด มีเชื้อแบคทีเรียเรืองแสงในที่มืด ถั่วงอกปนเปื้อนสารไนเตรตซึ่งก่อมะเร็ง ซาลาเปานึ่งมีส่วนผสมของสารกันบูดที่ห้ามใช้ และเมล็ดข้าวปนเปื้อนโลหะหนัก เป็นต้น

คณะกรรมการความปลอดภัยอาหาร เผยในแถลงการณ์ว่า “ขณะนี้เรากำลังสอบสวนกิจการอาหารเกือบ 6 ล้านแห่ง โดยได้สั่งปิดไปแล้วมากกว่า 4,900 แห่ง เนื่องจากพบว่ามีการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย”

“นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกทลายแหล่งผลิตอาหารเถื่อน พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกราว 2,000 คน” พร้อมเสริมว่า “หากสืบสวนแล้วพบว่าผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกลงโทษสถานหนัก”

ทั้งนี้ หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของนมปนเปื้อนสารเมลามีนเมื่อปี 2551 ซึ่งคร่าชีวิตทารกอย่างน้อย 6 คน และเด็กล้มป่วย 3 แสนคน ทำให้ความปลอดภัยด้านอาหารกลายเป็นประเด็น ที่สังคมวิตกกังวลมาเป็นอันดับหนึ่ง ต่อมาจีนได้ให้คำมั่นว่าจะยกเครื่องอุตสาหกรรมอาหารเสียใหม่ และได้ผ่านร่างกฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารในปี 2552 แต่ก็ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของอาหารปนเปื้อนสารพิษได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:31:51


ความคิดเห็นที่ 967 (1562366)

ตื่นน้ำท่วมปากน้ำโพแห่ซ่อมเรือเตรียมรับมือ




ชาวบ้านเมืองปากน้ำโพ วิตกฤทธิพายุนกเตน เร่งนำเรือเก่าออกมาซ่อมแซม พร้อมรับมือภัยน้ำท่วม
วันนี้(5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน ต.เกรียงไกร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่อาศัยริมแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน นำเรือเก่าออกมาปรับปรุงซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง หลังสถานการณ์น้ำในขณะนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี โดยบ้านเรือนส่วนใหญ่จะมีเรือติดบ้านไว้เกือบจะทุกหลังคาเรือน โดยนายสุนทร มนุษย์นิ่ม อายุ 44 ปี กล่าวว่า หลังจากที่ทางการประกาศให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือที่เดินทางจาก จ.พิจิตร มาถึงจ.นครสวรรค์ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยมและน่าน เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ทั้งเรื่องการเก็บข้าวของหนีน้ำและการเร่งต่อเรือเพื่อใช้เป็นพาหนะรับมือน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยเพื่อนบ้านที่มีความชำนาญเรื่องช่างไม้มาทำการซ่อมแซมเรือตะเข้ 7 ที่นั่ง ให้ชาวบ้านที่มีอยู่ตามใต้ถุนบ้านแทบทุกบ้าน เพราะว่าชาวบ้านเก็บเรือไว้หลายปีไม่ได้ใช้งานเริ่มชำรุดผุพัง ใช้การไม่ได้ จึงต้องนำออกมาซ่อมแซมเพื่อใช้ในช่วงน้ำท่วมนี้ นอกจากนี้ชาวบ้านยังจะได้มีเรือใช้สัญจรอีกทั้งยังต้องยึดอาชีพหาปลาเป็นรายได้หลักอีกด้วย

ด้านนายพิเชษฐศักดิ์ ศักดิ์พิพัฒน์ ชลประทาน จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักในเขตพื้นที่ภาคเหนือจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “นกเตน” และร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้ระดับน้ำ-ปริมาณน้ำท่าของแม่น้ำน่าน แม่น้ำยมเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องใน จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และจากการติดตามสถานการณ์ในลำน้ำน่าน ที่ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ วันที่ 5 ส.ค. ทราบว่ามี ปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,187 ลบ.ม./วินาที (ความจุลำน้ำ 1,370 ลบ.ม./วินาที) ซึ่งมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก จะส่งผลให้พื้นที่ในเขตอำเภอชุมแสง และบางส่วนของอำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอเมืองนครสวรรค์ เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบ เพื่อขนย้ายทรัพย์สิน และของมีค่าไว้ในที่สูง และปลอดภัยจากน้ำท่วม พร้อมรับมือกับภาวะน้ำท่วมต่อไป สำหรับในเขตอำเภอชุมแสง จะมีผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในช่วง 1 – 2 วันนี้

“เพื่อเป็นการป้องกัน และบรรเทาภัยจากน้ำ จึงประสานมากับท่าน เพื่อแจ้งให้อำเภอ อบจ.เทศบาล อบต. และหน่วยงานในท้องถิ่น เตรียมรับสถานการณ์ล่วงหน้าในพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบจากลุ่มน้ำ และลุ่มน้ำสาขาต่างๆดังกล่าวได้ทราบ และเพื่อความไม่ประมาทควรให้เจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องติดตามข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์โครงการชลประทานนครสวรรค์ จะรายงานสถานการณ์น้ำ ให้ทราบเป็นระยะ หรือหากต้องการให้โครงการช่วยเหลือประสานงานมาได้ที่ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ โครงการชลประทานนครสวรรค์ โทรศัพท์ 056229253,056222209 โทรสาร 056233419 ปัจจุบันโครงการชลประทานนครสวรรค์ ส่งเครื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:32:54


ความคิดเห็นที่ 968 (1562368)

หามเด็กนร.กว่าครึ่งพันส่งรพ.หลังดื่มนมบูด


 

เด็กนร.กว่า500คน จาก4ร.ร. ในพื้นที่อ.พุทธมณฑลหลังดื่มนมบูดจากสหกรณ์โคนมนครปฐมแล้วเกิดอาการปวดท้อง อาเจียน ต้องหามส่งรพ.ในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน สาธารณสุขจว.ระงับการจำหน่ายนมทั้งหมด ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุนมบูด


5 ส.ค.54 เวลา 10.30 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้รับรายงานว่ามีเด็กดื่มนมโรงเรียนเกิดอาการปวดท้อง อาเจียน ต้องหามส่งรพ.พุทธมณฑล และรพ.ในพื้นที่ใกล้เคียง เป็นจำนวนมาก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบยังรพ.พุทธมณฑล โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ,เจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ้ง,เจ้าหน้าที่มูลนิธิเทศบาลไร่ขิง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพจากรพ.พุทธมณฑล,รพ.นครชัยศรี ,รพ.มหาชัย 2 ,รพ.ห้วยพลู

ช่วยกันลำเลียงเด็กจากโรงเรียนต่าง ๆ ที่มีการป่วยจากการดื่มนมโรงเรียน ประกอบด้วย นักเรียนจาก รร. วัดมะเกลือ จำนวน 200คน ,รร.บ้านคลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 108 คน ,รร.บุณยศรีสวัสดิ์ จำนวน 110 คน และรร.บ้านคลองโยงอีกจำนวนกว่า 100 คน ซึ่งเบื้องเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฯได้ระดมกำลังลำเลียงเด็กนักเรียนทั้งหมดกระจายส่งรพ.ในพื้นที่อ.พุทธมณฑลและพื้นที่ใกล้เคียงประกอบด้วย รพ.ศาลายา ,รพ.พุทธมณฑล ,รพ.วัดหลวงพ่อเปิ่น,ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก,รพ.ราชพิพัฒน์ สาย 3 เพื่อทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากรับรายงานก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังรร.ในพื้นที่ที่รับนมในวันนี้ ให้ระงับการดื่มนมของนักเรียน พร้อมทั้งติดต่อไปยังรถที่นำนม รร.ดังกล่าวมาส่งให้ระงับการส่งนมไปยังรร.ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับนมอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างนมที่นำมาแจกนักเรียนในวันนี้ ส่งตรวจยังสาธารณสุขเพื่อหาสาเหตุที่นักเรียนดื่มนมแล้วเกิดอาการปวดท้องและอาเจียนในครั้งนี้ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่และได้มีการระงับการส่งนมทั้งหมดในพื้นที่ตั้งแต่วันนี้และวันต่อๆ ไป จนกว่าจะทราบผลตรวจที่แน่นอนว่านมที่ได้รับในวันนี้เป็นนมหมดอายุ หรือบูดกันแน่
พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังเด็ก ๆ ในรร.ต่าง ๆ ที่ดื่มนมในวันนี้ว่ามีอาการอย่างไร เพื่อจะได้ทำการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ส่วนนมที่เด็กนักเรียนดื่มนั้นเป็นนมที่ทางเทศบาลและอบต.ในพื้นที่เป็นผู้จัดซื้อมาให้ ทางโรงเรียนและอำเภอไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย นพ.วัฒนา เทียมปฐม ผู้อำนวยการรพ.พุทธมณฑล กล่าวว่า เด็ก ๆ ที่ป่วยในวันนี้ยังมีอาการที่ไม่ถึงขั้นรุนแรงมาก เพียงแต่ปวดท้องและอาเจียนเท่านั้น จะมีบางรายที่เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมบ้าง แต่ก็ยังไม่ถือว่ารุนแรงเท่าไร
ซึ่งเบื้องต้นนั้น ทางรพ.ได้รับเด็กนักเรียนที่ป่วยจาก รร.วัดมะเกลือเข้ามาแล้วกว่า 100 คน ,จากรร.บุณยศรีสวัสดิ์,รร.บ้านคลองโยงและ,รร.บ้านคลองมหาสวัสดิ์ รวมกว่า 300 กว่า คน โดยจะมีการทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ และเด็กที่อาการไม่รุนแรงมากทางเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเช็คร่างกาวยพร้อมทั้งให้ยาทานเบื้องต้นก่อน ที่จะดำเนินการต่อไป
ซึ่งทางรพ.ของเรามีความพร้อมในการดูแลรักษาเด็กอย่างเต็มที่ นายฐปนพันธ์ เปี่ยมศิริ ครู รร.บ้านคลองมหาสวัสดิ์ บอกว่า นักเรียนใน รร.มีทั้งหมด 108 คน ซึ่งทุกคนจะได้รับนมไปดื่มในช่วงเวลาหลังเลิกเข้าแถวเคารพธงชาติทุกวัน แต่วันนี้หลังจากเด็กดื่มนมไปได้ไม่ถึงชั่วโมงก็มีอาการปวดท้อง อาเจียนขึ้น ทางครูจึงได้แจ้งให้ทางอำเภอทราบก่อนนำส่งรพ.ดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นก็พบว่ามีเด็กปวดท้อง อาเจียนกว่า 10 คน แต่เมื่อพาเด็กมารพ.แล้วก็ได้รับแจ้งจากทางรร.ว่ามีเด็กที่ดื่มนมทั้งหมดเริ่มจะมีอาการปวดท้องและอาเจียนทั้งรร.แล้ว
ด.ญ.สรณีย์ กาญจำนงค์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4/2 รร.วัดมะเกลือ เล่าว่า หลังจากเข้าแถวแล้ว คุณครูประจำชั้นก็จะเอานมมาแจกพวกหนูและเพื่อน ๆ ดื่มกันก่อนที่จะเข้าห้องเรียน ซึ่งหลังจากเปิดถุงก็พบว่านมในถุงนั้นเป็น ฟองและเมื่อดื่มเข้าไปก็รู้สึกมีเนื้อเป็นเม็ด ๆ และกลิ่นเหม็นคาว มีรสเปรี้ยว แต่หนูก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะนมที่มาแจกนั้นเพิ่งจะนำออกมาจากถังแช่เย็น และยังเย็นๆ อยู่เลย ทุกคนจึงดื่มกันหมดถุงเลย จากนั้นไม่นานหนูก็มีอาการปวดท้องมาก ก่อนที่จะอาเจียนออกมา ซึ่งเด็กที่มีอาการเช่นเดียวกับหนูและเพื่อน ๆ ก็จะเป็นเด็กชั้น ป.4-ป.6 ส่วนน้อง ๆ อาจจะยังไม่ได้ดื่มก็เป็นได้
นายสมศักดิ์ เสือสิงห์ อายุ55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ผู้ปกครองของ ด.ญ. วนิดา ลีวานิชย์ เด็กนักเรียนชั้น ป.6 รร.บุณยศรีสวัสดิ์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ช่วงปิดเทอมทางรร.ก็ได้แจกนมให้กับลูกสาวตนกลับไปดื่มที่บ้าน แต่เมื่อดื่มเข้าไปแล้วมีรสเปรี้ยว ตนจึงได้ให้ลูกสาวนำนมทั้งหมดไปทิ้ง แล้วกำชับไม่ให้ลูกสาวนำนมกลับมาบ้านอีก แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะกลับมาเกิดกับเด็กนักเรียนกว่าครึ่งพันในวันนี้ ซึ่งตนก็แปลกใจว่าการนำนมมาแจกให้เด็กนักเรียนดื่มนั้นทางรร.มีการจตรวจเช็คบ้างหรือเปล่า
ดร.นพ.ถวัลย์ พบลาภ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงาน ตนก็ได้เดินทางมายังรพ.พุทธมณฑล เพื่อตรวจเยี่ยมเด็กนักเรียนที่ป่วย ซึ่งตอนนี้เราก็ได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ดูแลเด็กอย่างเต็มที่ ซึ่งรับรองว่าทางเจ้าหน้าที่ของเรามีมากพอกับเด็กแน่นอน และตอนนี้เด็กก็มีอาการดีขึ้นหลังจากได้รับยาและการดูแลจากเจ้าหน้าที่แล้ว
ส่วนทางด้านนมที่เป็นต้นเหตุนั้น ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเพื่อไปตรวจแล้ว ก่อนที่จะประสานไปยังสหกรณ์โคนมนครปฐม จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 95 หมู่ 2 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมเพื่อระงับการจำหน่ายนมออกทั้งหมด พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่า
นมบูดเสียในครั้งนี้เกิดจากขั้นตอนไหน ทั้งการผลิต การเก็บรักษาและการขนส่งจากโรงผลิต ก่อนที่จะถึงมือเด็กนักเรียน ต้องมีการตรวจเช็คให้แน่นอนก่อนที่จะดำเนินการต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:36:44


ความคิดเห็นที่ 969 (1562369)

พายุ"นกเต็น"ชื่อลาวแผลงฤทธิ์ไปแล้วอีกไม่นานก็ถึงคิวพายุชื่อไทย"กุหลาบ"

วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 17:00 น



จากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ไม่พ้นไปจากอากาศวิปริตในปีนี้เช่นกัน ปัญหาอุทกภัยจากฝนตกหนักในไทยมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมแทบทุกปี แต่ปี พ.ศ.2554 นี้ฝนฟ้าได้จัดหนักกว่าทุกปีมาเร็วกว่าทุกปี ทำให้ภาคเหนือและภาคอีสาน รวมถึงภาคกลาง ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างไม่คาดคิดมาก่อน อย่างเช่นฤทธิ์เดชของพายุ”นกเต็น” ที่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ดังที่ได้รับทราบจากข่าวคราวในเวลานี้ รวมทั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่อีกหลายประเทศในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลี เป็นต้น
---------------------------------

กทม.ระทึก10ส.ค.น้ำก้อนใหญ่เข้าพื้นที่

วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 17:32 น




กรมชลประทาน เตือนจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รับผลกระทบจากน้ำเหนือ เร่งเสริมคันกันน้ำป้องกันน้ำท่วม เผยน้ำก้อนใหญ่เข้า กรุงเทพฯ 10 ส.ค.นี้

วันนี้ ( 4 ส.ค.) นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือจากพายุนกเตนว่าน้ำก้อนใหญ่จะไหลเข้ากรุงเทพฯประมาณวันที่ 10 สิงหาคมนี้ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเตรียมพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอดเวลาเพราะสภาพอากาศในปีนี้มีความแปรปวนอย่างหนัก มั่นใจว่ากรุงเทพฯชั้นในจะไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯนอกคันกั้นน้ำควรจะเสริมแนวคันกันน้ำเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเล็กน้อยกว่าปี 2553 ซึ่งไม่ควรประมาทเพราะไม่ว่าพายุจะเข้ามาอีกกี่ลูกต้องเตรียมรับมืออย่างเต็มที่

นายชลิต  กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ปริมาณน้ำจากแม่น้ำยม จำนวน 2,326 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจะไหลเข้าท่วมจังหวัดสุโขทัยแน่นอน ซึ่งสามารถรับน้ำได้เพียง 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้นดังนั้นจังหวัดสุโขทัยต้องจมน้ำ ขณะนี้ได้การให้สำนักชลประทานในพื้นที่พยายามลดผลกระทบให้มากที่สุดโดยระบายน้ำไปยังจุดอื่นให้มากที่สุด ซึ่งสถานการณ์ลุ่มน้ำยม มีปริมาณน้ำที่รุนแรงขนาดนี้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดพิษณุโลกด้วยเพราะแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนที่จะชะลอน้ำและกักเก็บน้ำไว้ได้เลย ซึ่งต่างจากแม่น้ำน่าน ที่มีเขื่อนสิริกิตส์ และเขื่อนแควน้อย เป็นตัวช่วยกักเก็บน้ำไว้ด้วยจำนวนมากทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำน่านคลี่คลายไปได้แต่ปริมาณน้ำจากแม่น้ำบางส่วนจะมาสมทบกับปริมาณแม่น้ำยม ที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน

“ในวันที่ 5 สิงหาคม ปริมาณน้ำก้อนใหญ่จากลุ่มน้ำยมจะไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาในระดับ 2,500 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที  จำเป็นต้องตัดยอดน้ำเข้าสู่ลำน้ำสาขาใน 8 จังหวัดภาคกลางเพื่อบรรเทาลดความแรงของน้ำก่อนเข้ากรุงเทพฯ ประมาณวันที่ 10 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตามกรมชลประทานได้เตรียมรับมือและวางแผนการระบายน้ำไว้ตั้งแต่ต้นเพื่อลดผลกระทบไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักเหมือนปี 2549 โดยเฉพาะได้พร่องน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ไว้ล่วงหน้าแล้ว” อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

ด้านนายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าได้ประชุมทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกับผู้ว่าราชการ 4 จังหวัดคือ จังหวัดสุโขทัย แพร่ พิจิตรและพิษณุโลก เพื่อประเมินความเสี่ยงในอนาคตที่เกิดน้ำท่วมหนักซ้ำขึ้นอีกในช่วงฤดูฝนที่ยังเหลืออีก 4 เดือน ซึ่งจังหวัดต่างๆที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำจำนวนมากในแม่น้ำยมโดยเฉพาะตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาต้องเตรียมเสริมคันกันน้ำและวางแนวคันกระสอบทรายเพิ่มขึ้นด้วย ไว้รับมือน้ำที่จะไหลมาจากเขื่อนเจ้าพระยา รวมทั้งสอบถามความต้องการของแต่ละพื้นที่ว่าต้องการความช่วยเหลือด้านใดบ้าง โดยประเมินความเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ต่อไป คือพื้นที่ภาคตะวันตก เพราะมีปริมาณฝนหนักตกเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง พร้อมกับสั่งการให้เร่งพร่องน้ำในเขื่อน 50-60 เปอร์เซนต์เพื่อเตรียมพื้นที่ไว้รับน้ำและชะลอน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด.

เมื่อพายุ “นกเต็น” ได้ผ่านพ้นไป ก็มีพายุอีกลูกที่ชื่อว่า “หมุ่ยฟ้า” ที่กำลังอาละวาดแผลงฤทธิ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกในชณะนี้ ซึ่งคาดกันว่าพายุลูกนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเหมือนอย่างพายุ “นกเต็น” แต่ประเทศไทยก็จะต้องเจอพายุในปี พ.ศ.2554 นี้อีกประมาณ 19-20 ลูกที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมิใช่พายุทั้งหมดจะพัดถล่มประเทศไทย จากการคาดการณ์จะมีพายุเพียง 2-3 ลูกเท่านั้นที่จะส่งผลกระทบถึงประเทศไทยที่ยังไม่มีใครทราบล่วงหน้าได้ว่าจะรุนแรงมากน้อยขนาดไหน

สำหรับพายุที่พัดเข้าประเทศไทยนั้น จะเรียกว่าพายุไต้ฝุ่น (Typhoon) ซึ่งเป็นพายุหมุนเขตร้อนความเร็วลมสูงสุด ก่อตัวขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแหซิฟิก พายุไต้ฝุ่นนี้ไม่มีการกำหนดฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เพราะพายุไต้ฝุ่นก่อตัวขึ้นตลอดทั้งปีก็ว่าได้ พายุใต้ฝุ่นส่วนมากก่อตัวขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือเป็นบริเวณที่เกิดพายุหมุนเขตร้อนบ่อยครั้งที่สุดและรุนแรงที่สุดในโลก

หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยชื่อพายุตามแถบภูมิภาคของโลกที่ต่างกันนั้น ที่เรียกว่าเฮอร์ริเคน บ้าง ไซโคลน บ้าง มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งความจริงนั้นก็คือพายุหมุนเขตร้อนชนิดเดียวกัน แต่ที่มีชื่อเรียกต่างกันนั้นก็เป็นไปตามถิ่นที่เกิดของพายุเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกกลาง ๆ คือ “พายุหมุนเขตร้อน” (Tropical cyclone)

ขอจำแนกถิ่นที่กำเนิดพายุหมุนเขตร้อนที่มีการเรียกชื่อต่างกันดังนี้ ถ้าเกิดขึ้นในชายฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเรียกว่า เฮอร์ริแคน (Hurricane) ถ้าเกิดขึ้นในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า ไซโคลน (Cyclone) ถ้าเกิดขึ้นแถบนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย เรียกว่า วิลลี่-วิลลี่ (Willy-willy) ถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า ไต้ฝุ่น (Typhoon) แต่ถ้าเกิดขึ้นในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เรียกว่า บาเกียว (Baguio)

ใครที่ได้ติดตามชื่อของพายุมานานนม คงพอจะทราบว่าเมื่อก่อนนี้ชื่อของพายุนั้น มักจะเป็นชื่อฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ และบางครั้งก็เป็นชื่อที่อ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นชื่อของสตรี ซึ่งวัตถุประสงค์คงต้องการให้ฟังดูแล้วอ่อนโยน จนกระทั่ง พ.ศ. 2543 ประเทศและดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 14 แห่งที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการพายุไต้ฝุ่นขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organizations Typhoon Committee) ได้มีการจัดระบบการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในแถบนี้ใหม่ โดยแต่ละประเทศ ได้ส่งชื่อพายุในภาษาของตนประเทศละ 10 ชื่อ รวมทั้งหมด 140 ชื่อ โดยกำหนดให้ใช้ภาษาท้องถิ่นในแต่ละประเทศในการตั้งชื่อพายุ ได้แก่ กัมพูชา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

สำหรับ ชื่อพายุที่ประเทศต่าง ๆ ส่งชื่อมาให้นั้นจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 28 ชื่อ  เรียงตามชื่อประเทศตามลำดับของตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจากกัมพูชา เรื่อยไปจนถึงเวียดนามซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย โดยไทยเราอยู่อันดับที่ 12 เมื่อใช้หมด 1 กลุ่มก็จะขึ้นชื่อแรกในกลุ่มที่ 2 เรียงกันเรื่อยไปจนครบทุกกลุ่ม แล้วจึงกลับมาใช้ชื่อแรกของกลุ่มที่ 1 ใหม่อีกครั้ง

สำหรับประเทศไทยนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยาจึงได้ตั้ง "คณะกรรมการพิจารณารายชื่อและความหมายของชื่อ" ขึ้นเพื่อเสนอชื่อพายุในภาษาไทย จนได้ชื่อพายุของไทยตามลำดับได้แก่ พระพิรุณ ทุเรียน วิภา รามสูร เมขลา มรกต นิดา ชบา กุหลาบและขนุน

พายุ “นกเตน” (Nok-ten) ได้รับรู้กันแล้วจากทางสื่อต่าง ๆ ว่าเป็นชื่อพายุที่ประเทศลาวเป็นผู้ตั้งชื่อไว้เป็นชื่อพายุอยู่ในอันดับ 6  ซึ่ง “นกเตน” ก็คือ นกกระเต็นที่คนไทยเรียกกันนั่นเอง ส่วนพายุ “หมุ่ยฟ้า” (Muifa) เป็นชื่อพายุในอันดับ 7 ที่แผลงฤทธิ์อยู่ในเวลานี้ เป็นชื่อที่ทาง “มาเก๊า” เป็นผู้ตั้งชื่อมีความหมายว่า “ดอกบ๊วย” ส่วนชื่อพายุลูกถัดไปที่เป็นชื่ออันดับ 8 ถึงคิวชื่อของประเทศมาเลเซีย ตั้งชื่อไว้ว่า “เมอร์บุก” (Merbok) ซึ่งเป็นชื่อของนกชนิดหนึ่ง

ชื่อพายุที่ประเทศไทยได้ตั้งไว้ใช้ชื่อว่า “กุหลาบ” อยู่ในอันดับที่ 11 คาดว่าอีกไม่นานเกินรอพายุ”กุหลาบ” คงจะได้ก่อตัวขึ้นมาในมหาสมุทรแปซิฟิก และประชาชนคนไทยจะต้องเฝ้าติดตามดูว่า “พายุกุหลาบ” ที่มีชื่อไทยจะพัดถล่มทำความเสียหายให้แก่ประเทศไทยหรือไม่ หรือพัดถล่มเข้าประเทศอื่นแทน.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:40:00


ความคิดเห็นที่ 970 (1562370)

พายุ"นกเต็น"ชื่อลาวแผลงฤทธิ์ไปแล้วอีกไม่นานก็ถึงคิวพายุชื่อไทย"กุหลาบ"

วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 17:00 น



จากสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ไม่พ้นไปจากอากาศวิปริตในปีนี้เช่นกัน ปัญหาอุทกภัยจากฝนตกหนักในไทยมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมแทบทุกปี แต่ปี พ.ศ.2554 นี้ฝนฟ้าได้จัดหนักกว่าทุกปีมาเร็วกว่าทุกปี ทำให้ภาคเหนือและภาคอีสาน รวมถึงภาคกลาง ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างไม่คาดคิดมาก่อน อย่างเช่นฤทธิ์เดชของพายุ”นกเต็น” ที่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ดังที่ได้รับทราบจากข่าวคราวในเวลานี้ รวมทั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่อีกหลายประเทศในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลี เป็นต้น
---------------------------------

กทม.ระทึก10ส.ค.น้ำก้อนใหญ่เข้าพื้นที่

วันพฤหัสบดี ที่ 04 สิงหาคม 2554 เวลา 17:32 น




กรมชลประทาน เตือนจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รับผลกระทบจากน้ำเหนือ เร่งเสริมคันกันน้ำป้องกันน้ำท่วม เผยน้ำก้อนใหญ่เข้า กรุงเทพฯ 10 ส.ค.นี้

วันนี้ ( 4 ส.ค.) นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือจากพายุนกเตนว่าน้ำก้อนใหญ่จะไหลเข้ากรุงเทพฯประมาณวันที่ 10 สิงหาคมนี้ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเตรียมพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอดเวลาเพราะสภาพอากาศในปีนี้มีความแปรปวนอย่างหนัก มั่นใจว่ากรุงเทพฯชั้นในจะไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯนอกคันกั้นน้ำควรจะเสริมแนวคันกันน้ำเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเล็กน้อยกว่าปี 2553 ซึ่งไม่ควรประมาทเพราะไม่ว่าพายุจะเข้ามาอีกกี่ลูกต้องเตรียมรับมืออย่างเต็มที่

นายชลิต  กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ปริมาณน้ำจากแม่น้ำยม จำนวน 2,326 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจะไหลเข้าท่วมจังหวัดสุโขทัยแน่นอน ซึ่งสามารถรับน้ำได้เพียง 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้นดังนั้นจังหวัดสุโขทัยต้องจมน้ำ ขณะนี้ได้การให้สำนักชลประทานในพื้นที่พยายามลดผลกระทบให้มากที่สุดโดยระบายน้ำไปยังจุดอื่นให้มากที่สุด ซึ่งสถานการณ์ลุ่มน้ำยม มีปริมาณน้ำที่รุนแรงขนาดนี้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดพิษณุโลกด้วยเพราะแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนที่จะชะลอน้ำและกักเก็บน้ำไว้ได้เลย ซึ่งต่างจากแม่น้ำน่าน ที่มีเขื่อนสิริกิตส์ และเขื่อนแควน้อย เป็นตัวช่วยกักเก็บน้ำไว้ด้วยจำนวนมากทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำน่านคลี่คลายไปได้แต่ปริมาณน้ำจากแม่น้ำบางส่วนจะมาสมทบกับปริมาณแม่น้ำยม ที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน

“ในวันที่ 5 สิงหาคม ปริมาณน้ำก้อนใหญ่จากลุ่มน้ำยมจะไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาในระดับ 2,500 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที  จำเป็นต้องตัดยอดน้ำเข้าสู่ลำน้ำสาขาใน 8 จังหวัดภาคกลางเพื่อบรรเทาลดความแรงของน้ำก่อนเข้ากรุงเทพฯ ประมาณวันที่ 10 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตามกรมชลประทานได้เตรียมรับมือและวางแผนการระบายน้ำไว้ตั้งแต่ต้นเพื่อลดผลกระทบไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักเหมือนปี 2549 โดยเฉพาะได้พร่องน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ไว้ล่วงหน้าแล้ว” อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

ด้านนายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าได้ประชุมทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกับผู้ว่าราชการ 4 จังหวัดคือ จังหวัดสุโขทัย แพร่ พิจิตรและพิษณุโลก เพื่อประเมินความเสี่ยงในอนาคตที่เกิดน้ำท่วมหนักซ้ำขึ้นอีกในช่วงฤดูฝนที่ยังเหลืออีก 4 เดือน ซึ่งจังหวัดต่างๆที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำจำนวนมากในแม่น้ำยมโดยเฉพาะตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาต้องเตรียมเสริมคันกันน้ำและวางแนวคันกระสอบทรายเพิ่มขึ้นด้วย ไว้รับมือน้ำที่จะไหลมาจากเขื่อนเจ้าพระยา รวมทั้งสอบถามความต้องการของแต่ละพื้นที่ว่าต้องการความช่วยเหลือด้านใดบ้าง โดยประเมินความเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ต่อไป คือพื้นที่ภาคตะวันตก เพราะมีปริมาณฝนหนักตกเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง พร้อมกับสั่งการให้เร่งพร่องน้ำในเขื่อน 50-60 เปอร์เซนต์เพื่อเตรียมพื้นที่ไว้รับน้ำและชะลอน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด.

เมื่อพายุ “นกเต็น” ได้ผ่านพ้นไป ก็มีพายุอีกลูกที่ชื่อว่า “หมุ่ยฟ้า” ที่กำลังอาละวาดแผลงฤทธิ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกในชณะนี้ ซึ่งคาดกันว่าพายุลูกนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเหมือนอย่างพายุ “นกเต็น” แต่ประเทศไทยก็จะต้องเจอพายุในปี พ.ศ.2554 นี้อีกประมาณ 19-20 ลูกที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมิใช่พายุทั้งหมดจะพัดถล่มประเทศไทย จากการคาดการณ์จะมีพายุเพียง 2-3 ลูกเท่านั้นที่จะส่งผลกระทบถึงประเทศไทยที่ยังไม่มีใครทราบล่วงหน้าได้ว่าจะรุนแรงมากน้อยขนาดไหน

สำหรับพายุที่พัดเข้าประเทศไทยนั้น จะเรียกว่าพายุไต้ฝุ่น (Typhoon) ซึ่งเป็นพายุหมุนเขตร้อนความเร็วลมสูงสุด ก่อตัวขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแหซิฟิก พายุไต้ฝุ่นนี้ไม่มีการกำหนดฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เพราะพายุไต้ฝุ่นก่อตัวขึ้นตลอดทั้งปีก็ว่าได้ พายุใต้ฝุ่นส่วนมากก่อตัวขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือเป็นบริเวณที่เกิดพายุหมุนเขตร้อนบ่อยครั้งที่สุดและรุนแรงที่สุดในโลก

หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยชื่อพายุตามแถบภูมิภาคของโลกที่ต่างกันนั้น ที่เรียกว่าเฮอร์ริเคน บ้าง ไซโคลน บ้าง มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งความจริงนั้นก็คือพายุหมุนเขตร้อนชนิดเดียวกัน แต่ที่มีชื่อเรียกต่างกันนั้นก็เป็นไปตามถิ่นที่เกิดของพายุเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกกลาง ๆ คือ “พายุหมุนเขตร้อน” (Tropical cyclone)

ขอจำแนกถิ่นที่กำเนิดพายุหมุนเขตร้อนที่มีการเรียกชื่อต่างกันดังนี้ ถ้าเกิดขึ้นในชายฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเรียกว่า เฮอร์ริแคน (Hurricane) ถ้าเกิดขึ้นในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า ไซโคลน (Cyclone) ถ้าเกิดขึ้นแถบนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย เรียกว่า วิลลี่-วิลลี่ (Willy-willy) ถ้าเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า ไต้ฝุ่น (Typhoon) แต่ถ้าเกิดขึ้นในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เรียกว่า บาเกียว (Baguio)

ใครที่ได้ติดตามชื่อของพายุมานานนม คงพอจะทราบว่าเมื่อก่อนนี้ชื่อของพายุนั้น มักจะเป็นชื่อฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ และบางครั้งก็เป็นชื่อที่อ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นชื่อของสตรี ซึ่งวัตถุประสงค์คงต้องการให้ฟังดูแล้วอ่อนโยน จนกระทั่ง พ.ศ. 2543 ประเทศและดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 14 แห่งที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการพายุไต้ฝุ่นขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organizations Typhoon Committee) ได้มีการจัดระบบการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในแถบนี้ใหม่ โดยแต่ละประเทศ ได้ส่งชื่อพายุในภาษาของตนประเทศละ 10 ชื่อ รวมทั้งหมด 140 ชื่อ โดยกำหนดให้ใช้ภาษาท้องถิ่นในแต่ละประเทศในการตั้งชื่อพายุ ได้แก่ กัมพูชา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

สำหรับ ชื่อพายุที่ประเทศต่าง ๆ ส่งชื่อมาให้นั้นจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 28 ชื่อ  เรียงตามชื่อประเทศตามลำดับของตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจากกัมพูชา เรื่อยไปจนถึงเวียดนามซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย โดยไทยเราอยู่อันดับที่ 12 เมื่อใช้หมด 1 กลุ่มก็จะขึ้นชื่อแรกในกลุ่มที่ 2 เรียงกันเรื่อยไปจนครบทุกกลุ่ม แล้วจึงกลับมาใช้ชื่อแรกของกลุ่มที่ 1 ใหม่อีกครั้ง

สำหรับประเทศไทยนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยาจึงได้ตั้ง "คณะกรรมการพิจารณารายชื่อและความหมายของชื่อ" ขึ้นเพื่อเสนอชื่อพายุในภาษาไทย จนได้ชื่อพายุของไทยตามลำดับได้แก่ พระพิรุณ ทุเรียน วิภา รามสูร เมขลา มรกต นิดา ชบา กุหลาบและขนุน

พายุ “นกเตน” (Nok-ten) ได้รับรู้กันแล้วจากทางสื่อต่าง ๆ ว่าเป็นชื่อพายุที่ประเทศลาวเป็นผู้ตั้งชื่อไว้เป็นชื่อพายุอยู่ในอันดับ 6  ซึ่ง “นกเตน” ก็คือ นกกระเต็นที่คนไทยเรียกกันนั่นเอง ส่วนพายุ “หมุ่ยฟ้า” (Muifa) เป็นชื่อพายุในอันดับ 7 ที่แผลงฤทธิ์อยู่ในเวลานี้ เป็นชื่อที่ทาง “มาเก๊า” เป็นผู้ตั้งชื่อมีความหมายว่า “ดอกบ๊วย” ส่วนชื่อพายุลูกถัดไปที่เป็นชื่ออันดับ 8 ถึงคิวชื่อของประเทศมาเลเซีย ตั้งชื่อไว้ว่า “เมอร์บุก” (Merbok) ซึ่งเป็นชื่อของนกชนิดหนึ่ง

ชื่อพายุที่ประเทศไทยได้ตั้งไว้ใช้ชื่อว่า “กุหลาบ” อยู่ในอันดับที่ 11 คาดว่าอีกไม่นานเกินรอพายุ”กุหลาบ” คงจะได้ก่อตัวขึ้นมาในมหาสมุทรแปซิฟิก และประชาชนคนไทยจะต้องเฝ้าติดตามดูว่า “พายุกุหลาบ” ที่มีชื่อไทยจะพัดถล่มทำความเสียหายให้แก่ประเทศไทยหรือไม่ หรือพัดถล่มเข้าประเทศอื่นแทน.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:40:01


ความคิดเห็นที่ 971 (1562371)
เมฆที่มีรูปร่างเหมือนใบหน้าคนเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ



MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปวีดิโอ ขณะลมพัดผ่านสนามหญ้าหลังบ้านของนายเดนิส ฟาร์เมอร์ ในเมืองแกรนด์ฟอลล์ รัฐนิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา ปรากฏก้อนเมฆเป็นรูปใบหน้าคน

โดยก้อนเมฆค่อยๆลอยไป ตามกระแสลมก่อนจะปรากฏรูปใบหน้าที่ มีจมูก ตา และปากเปื้อนยิ้ม นานเกือบ 1 นาทีมันก่อนจะปลี่ยนรูปไป สร้างความตกตะลึงให้กับนายเดนิสอย่างมาก

ทั้งนี้ หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้เข้าชมกว่า 20,000 คน หลายคนลงความเห็นว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนจากพระเจ้าก็เป็นได้ เพราะใบหน้าดังกล่าวคล้ายกับพระเยซู บางคนบอกว่า มันคล้ายกับใบหน้าที่กำลังบึ้งตึงของพระเจ้า ขณะที่บางคนบอกว่ามันดูเหมือนปีศาจร้าย


 

บอกว่า มันคล้ายกับใบหน้าที่กำลังบึ้งตึงของพระเจ้า ขณะที่บางคนบอกว่ามันดูเหมือนปีศาจร้าย






http://news.mthai.com/world-news/125317.html

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:46:15


ความคิดเห็นที่ 972 (1562372)

ผู้ว่าฯพิจิตรเตือน-คนริมน้ำยม-น้ำน่านอพยพด่วน คาดตี 2 คืนนี้น้ำเข้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2554 19:22 น.

Share



พิจิตร - ผู้ว่าฯเมืองชาละวัน เตือนชาวบ้านริมน้ำยม และน้ำน่าน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงด่วน หลังน้ำเหนือเริ่มทะลักเข้าพิจิตรแล้ว คาดตี 2 คืนนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงอีกร่วมครึ่งเมตรแน่
       
       วันนี้ (4 ส.ค.54) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ดูระดับน้ำ ในเขตลุ่มน้ำน่านและลุ่มน้ำยม ซึ่งขณะนี้มีน้ำเหนือไหลบ่าเข้ามาถึงจังหวัดพิจิตร โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมของอำเภอสามง่าม ล้นตลิ่งแล้ว 34 ซม. และน้ำก็กำลังไหลบ่าเข้า อ.โพธิ์ประทับช้าง และ ต.บางลาย อ.โพทะเล รวมถึง อ.บึงนาราง ด้วย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวระดับน้ำเหลืออีกแค่ 4 ซม. ก็จะล้นตลิ่งด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในแม่น้ำน่านหน้าตลาดเทศบาลเมืองพิจิตรเหลืออีกแค่ 10 ซม. ก็จะล้นตลิ่ง
       
       โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร บอกว่า ขอประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มขอให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นไปอยู่ในที่สูงโดยเร็วที่สุดเดี๋ยวนี้
       
       นายสุวิทย์ บอกว่า ขณะนี้ก็ยังมีน้ำจากภาคเหนือไหลเข้าพิจิตรเป็นวงกว้าง และคาดว่าก่อนตี 2 คืนนี้ระดับน้ำทั้งแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านจะสูงขึ้นอีก 30-40 ซม. ซึ่งจะส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมในทุกพื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมอย่างแน่นอน ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ได้หาแนวทางช่วยเหลือราษฎรไว้พร้อมแล้ว
       
       ขณะเดียวกันพบว่ามีบ้านเรือนราษฎรที่หมู่ 5 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร ที่สร้างบ้านอยู่ริมแม่น้ำยมได้เกิดตลิ่งทรุดตัวและบ้านกำลังจะพังลงไปในสายน้ำ แต่ชาวบ้านได้ช่วยกันลงแขกเร่งรื้อบ้านหลังดังกล่าวและช่วยกันอพยพขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเป็นการด่วนแล้ว ซึ่งนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และนายสัลเลข คำใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ก็ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนและรับว่า จะช่วยหางบเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไปอีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:47:05


ความคิดเห็นที่ 973 (1562373)

ผู้ว่าฯพิจิตรเตือน-คนริมน้ำยม-น้ำน่านอพยพด่วน คาดตี 2 คืนนี้น้ำเข้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2554 19:22 น.

Share



พิจิตร - ผู้ว่าฯเมืองชาละวัน เตือนชาวบ้านริมน้ำยม และน้ำน่าน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงด่วน หลังน้ำเหนือเริ่มทะลักเข้าพิจิตรแล้ว คาดตี 2 คืนนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงอีกร่วมครึ่งเมตรแน่
       
       วันนี้ (4 ส.ค.54) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ดูระดับน้ำ ในเขตลุ่มน้ำน่านและลุ่มน้ำยม ซึ่งขณะนี้มีน้ำเหนือไหลบ่าเข้ามาถึงจังหวัดพิจิตร โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมของอำเภอสามง่าม ล้นตลิ่งแล้ว 34 ซม. และน้ำก็กำลังไหลบ่าเข้า อ.โพธิ์ประทับช้าง และ ต.บางลาย อ.โพทะเล รวมถึง อ.บึงนาราง ด้วย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวระดับน้ำเหลืออีกแค่ 4 ซม. ก็จะล้นตลิ่งด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในแม่น้ำน่านหน้าตลาดเทศบาลเมืองพิจิตรเหลืออีกแค่ 10 ซม. ก็จะล้นตลิ่ง
       
       โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร บอกว่า ขอประกาศให้ชาวบ้านที่อยู่ในที่ลุ่มขอให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นไปอยู่ในที่สูงโดยเร็วที่สุดเดี๋ยวนี้
       
       นายสุวิทย์ บอกว่า ขณะนี้ก็ยังมีน้ำจากภาคเหนือไหลเข้าพิจิตรเป็นวงกว้าง และคาดว่าก่อนตี 2 คืนนี้ระดับน้ำทั้งแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านจะสูงขึ้นอีก 30-40 ซม. ซึ่งจะส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมในทุกพื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมอย่างแน่นอน ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ได้หาแนวทางช่วยเหลือราษฎรไว้พร้อมแล้ว
       
       ขณะเดียวกันพบว่ามีบ้านเรือนราษฎรที่หมู่ 5 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร ที่สร้างบ้านอยู่ริมแม่น้ำยมได้เกิดตลิ่งทรุดตัวและบ้านกำลังจะพังลงไปในสายน้ำ แต่ชาวบ้านได้ช่วยกันลงแขกเร่งรื้อบ้านหลังดังกล่าวและช่วยกันอพยพขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเป็นการด่วนแล้ว ซึ่งนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และนายสัลเลข คำใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ก็ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนและรับว่า จะช่วยหางบเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไปอีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:47:06


ความคิดเห็นที่ 974 (1562376)

ชาวบ้านสหรัฐฯช่วยชีวิตเด็กถูกทรายชายหาดถล่มทับฝังทั้งเป็น

 


 

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 สิงหาคม 2554 05:23 น.



 
 
 

 

 สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวินาทีนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่เร่งมือช่วยชีวิตเด็กวัยรุ่นรายหนึ่งที่ถูกทรายฝังทั้งเป็นนานกว่าครึ่งชั่วโมงบนชายหาดแห่งหนึ่งในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังอุโมงค์ที่เขาสร้างขึ้นพังถล่มลงมาทับ สุดท้ายหนุ่มน้อยรายนี้ก็หลุดรอดความตายมาได้อย่างฉิวเฉียด

นักท่องเที่ยวหลายสิบคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเร่งมือขุดทรายในความพยายามช่วยเหลือ แมตต์ มินา วัย 17 ปี ที่ติดอยู่เบื้องล่างลึกลงไปกว่า 7 ฟุต ทว่าพวกเขากลับเจอปัญหาใหญ่เพราะทรายที่ขุดขึ้นมานั้นไหลย้อนกลับลงสู่อุโมงค์ขนาดใหญ่

แต่ท้ายที่สุดแล้วหน่วยดับเพลิงก็สามารถฉุดเขาขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยในสภาพที่หมดสติ และในเวลานี้ มินา อยู่ในสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี หลายชั่วโมงหลังอุบัติเหตุอันน่าตื่นตระหนกบนชายหาดนิวพอร์ตในช่วงบ่ายวันพุธ(3) ตามเวลาท้องถิ่น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 20:53:31


ความคิดเห็นที่ 975 (1562377)

"หมุ่ยฟ้า"พัดเข้าญี่ปุ่น ส่งผลคลื่นลมแรง-ปิดสนามบิน

พายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าได้พัดเข้าชายฝั่งเกาะโอกินาวา ของญี่ปุ่นแล้ว ด้วยความเร็วลม 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นลมแรงในทะเล และมีฝนตกในพื้นที่ชายฝั่ง สนามบินในเมืองนาฮาต้องยกเลิกเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น รายงานว่า อิทธิพลของพายุหมุ่ยฟ้าจะทำให้เกิดกระแสลมแรงเป็นเวลานาน เพราะพายุจะเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 21:01:52


ความคิดเห็นที่ 976 (1562379)
... หาความสุขได้ที่ไหน...
 

ในตอนกลางดึกมีหญิงชราคนหนึ่งกำลัง คลำหาอะไรอยู่สักอย่างรอบๆ
เสาไฟฟ้าข้างถนน สักครู่หนึ่งมีหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเห็นหญิงชรา
ผู้นั้นกำลังคลำหาอะไรอยู่ เลยถามขึ้นว่า "ยาย..ยาย ยายกำลังหาอะไรอยู่?"


หญิงชราผู้นั้นตอบว่า "ยายกำลังหาเข็มเย็บผ้าอยู่ ยายทำตกหายไป ช่วย
ยายหาหน่อยซิ" พวกหนุ่ม สาวกลุ่มนั้นจึงช่วยกันหาทั่วไปหมด แต่ก็หา
ไม่เจอ ในที่สุดพวกเขาก็ สงสัยจึงถามยาย


"ยาย..ยาย..ยายทำเข็มเย็บผ้าหล่นหายไปที่ไหน"
ยาย ตอบว่า "ยายกำลังเย็บผ้าอยู่ในห้องยาย แล้วก็ทำเข็มเย็บผ้า
หล่นหายไป แต่ห้องยายมันมืด ยายมองไม่ค่อยเห็น ยายก็เลยออกมาที่
ถนนเพราะมีแสงสว่าง จากไฟฟ้า


"...พอพวกหนุ่มสาวกลุ่มนั้นได้ยินเช่นนั้นก็เลย หัวเราะ แล้วเดินหนีไป


เมื่อเราทำของหาย เราก็ต้องไปหาในที่ๆเราทำหาย มันจะมีประโยชน์
อะไรที่จะไปหาที่อื่น เช่น เดียวกัน เมื่อเราแสวงหาความสุข
เราก็ต้องหาในจุดที่เราได้สูญเสีย ความสุขไป


มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะหาความสุขที่ไนท์คลับ หรือสถานเริงรมย์ต่างๆ
หรือไปหาที่ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือไปหาที่คนอื่น


ความสุขของเราได้สูญหายไปจากตรงไหน?
คำ ตอบก็คือ เราได้ทำหายไปจากใจของเรา ได้สูญเสียความสุขจากตัวเรา
จากใจเรา ดังนั้น เราก็ต้องแสวงหาความสุขที่จุดนั้น คือ ในตัวเรา



ที่มา : จาก "แนวทางสู่ความสุข" โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 21:12:35


ความคิดเห็นที่ 977 (1562380)
 
พอดีเห็นบทความ
ที่มีประโยชน์มากๆ
จากท่าน ดร อาจองค่ะ
 
คุณคิดว่า
... หาความสุขได้ที่ไหน...
 

ในตอนกลางดึกมีหญิงชราคนหนึ่งกำลัง คลำหาอะไรอยู่สักอย่างรอบๆ
เสาไฟฟ้าข้างถนน สักครู่หนึ่งมีหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเห็นหญิงชรา
ผู้นั้นกำลังคลำหาอะไรอยู่ เลยถามขึ้นว่า "ยาย..ยาย ยายกำลังหาอะไรอยู่?"


หญิงชราผู้นั้นตอบว่า "ยายกำลังหาเข็มเย็บผ้าอยู่ ยายทำตกหายไป ช่วย
ยายหาหน่อยซิ" พวกหนุ่ม สาวกลุ่มนั้นจึงช่วยกันหาทั่วไปหมด แต่ก็หา
ไม่เจอ ในที่สุดพวกเขาก็ สงสัยจึงถามยาย


"ยาย..ยาย..ยายทำเข็มเย็บผ้าหล่นหายไปที่ไหน"
ยาย ตอบว่า "ยายกำลังเย็บผ้าอยู่ในห้องยาย แล้วก็ทำเข็มเย็บผ้า
หล่นหายไป แต่ห้องยายมันมืด ยายมองไม่ค่อยเห็น ยายก็เลยออกมาที่
ถนนเพราะมีแสงสว่าง จากไฟฟ้า

"...พอพวกหนุ่มสาวกลุ่มนั้นได้ยินเช่นนั้นก็เลย หัวเราะ แล้วเดินหนีไป


เมื่อเราทำของหาย เราก็ต้องไปหาในที่ๆเราทำหาย มันจะมีประโยชน์
อะไรที่จะไปหาที่อื่น เช่น เดียวกัน เมื่อเราแสวงหาความสุข
เราก็ต้องหาในจุดที่เราได้สูญเสีย ความสุขไป


มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะหาความสุขที่ไนท์คลับ หรือสถานเริงรมย์ต่างๆ
หรือไปหาที่ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือไปหาที่คนอื่น


ความสุขของเราได้สูญหายไปจากตรงไหน?
คำ ตอบก็คือ เราได้ทำหายไปจากใจของเรา ได้สูญเสียความสุขจากตัวเรา
จากใจเรา ดังนั้น เราก็ต้องแสวงหาความสุขที่จุดนั้น คือ ในตัวเรา



กราบขอบคุณ ที่มา : จาก "แนวทางสู่ความสุข" โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 21:12:37


ความคิดเห็นที่ 978 (1562389)

ไทยเจ๋ง! ผลิตวัคซีนหวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็นสำเร็จ


 


ไทยประสบความสำเร็จผลิตวัคซีนหวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็นสำเร็จ พร้อมผลิตในระดับอุตสาหกรรมปี 57 ควบคู่วัคซีนชนิดเชื้อตาย พร้อมยืนยันผลทดลองปลอดภัยสูง จากการติดตามผลอาสาสมัครไร้อาการข้างเคียง ขณะที่ อย.ขึ้นทะเบียนแล้ว...

หลังจากทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 คร่าชีวิตผู้ป่วยจำนวนมาก กระทั่งองค์การอนามัยโลกได้สนับสนุนงบประมาณ 150 ล้านบาทให้แก่ประเทศไทย โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อทำการพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็น ตั้งแต่ปี 2552 นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) แถลงข่าว "ความสำเร็จในการพัฒนาและผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็น" ว่า หลังจากองค์การอนามัยโลก และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาวัคซีนชนิดนี้ อภ.ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยการแพทย์ หรือ IEM (Institute of Experimental Medicine) ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย ในการรับเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2552 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้นำหัวเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 ( H1 N1 2009) มาถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับที่ประเทศไทย ได้รับไข่ไก่ปลอดเชื้อจากประเทศเยอรมนีเพื่อใช้ในการผลิตวัคซีน

นพ.วิชัย กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาและผลิตวัคซีนครั้งนี้ มี ดร.ไอรินา วี. คิเซเลวา นักวิทยาศาสตร์จากรัสเซีย เป็นผู้ทำการผลิตวัคซีนลอตแรก และฝึกสอน ซึ่ง อภ.ยังได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ คือ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยใช้เวลาในการทดลองราว 2 ปี ในที่สุดจึงประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ชนิดเชื้อเป็น แบบพ่นทางจมูก และได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2554

อย่างไรก็ตาม แม้วัคซีนดังกล่าวที่ผลิตขึ้นมาได้ ยังเป็นเพียงหัวเชื้อที่ยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ แต่ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบฯ 1,411.7 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนชนิดเชื้อตาย ขึ้นที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีศักยภาพในการผลิตวัคซีนชนิดเชื้อเป็นได้ ในกรณีที่เกิดการระบาดขึ้น

ประธาน อภ. กล่าวอีกว่า วัคซีนชนิดเชื้อเป็นมีข้อดีคือ ผลิตได้เร็วกว่าแบบเชื้อตายถึง 10-30 เท่า การใช้ง่ายกว่าแบบเชื้อตาย เพราะสามารถพ่นเข้าจมูกได้เลย ขณะที่ประสิทธิผลในการรักษานั้น มีผลวิจัยรับรองจากทั่วโลกแล้วว่า วัคซีนแบบเชื้อเป็นมีประสิทธิผลในการรักษา ไม่แตกต่างจากวัคซีนเชื้อตาย ทั้งนี้ คาดว่าโรงงานดังกล่าว จะสามารถเริ่มผลิตวัคซีนได้ในปี 2557 ส่วนวัคซีนชนิดเชื้อตาย อภ. จะนำไปทดลองต่อยอด และคาดว่าจะประสบความสำเร็จในปี 2555 หลังจากที่ต้องหยุดทดลองไป เนื่องจากในขณะนั้นเกิดการระบาดของโรคนี้จำนวนมาก จึงจำเป็นจะต้องพัฒนาวัคซีนชนิดเชื้อเป็นก่อน เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ผลิตได้เร็วกว่าเชื้อตาย

"การที่ต้องมีวัคซีนทั้งสองชนิด เนื่องจากวัคซีนชนิดเชื้อ เป็นยังมีข้อจำกัดในการใช้อยู่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยรองรับถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นหากใช้ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี รวมถึงคนที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงต้องมีวัคซีนเชื้อตายมารองรับคนทั้ง 3 กลุ่มนี้ด้วย ซึ่งคาดว่า ในปี 2557 ประเทศไทยจะสามารถผลิตวัคซีนได้ทั้ง 2 ชนิด เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มได้" นพ.วิชัย กล่าว             

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า เกิดปัญหากับอาสาสมัครที่เข้าทดลอง ทำให้เกิดข้อกังวลถึงเรื่องความปลอดภัย นพ.วิชัย กล่าวว่า จากการทดลองไม่มีอาสาสมัครเสียชีวิต ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวโคมลอยทั้งสิ้น ส่วนเรื่องการแตกของไข่ที่ใช้ในการทดลองนั้น เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากไข่พิเศษถูกส่งมาจากเยอรมนี เม็กซิโก จึงอาจะเกิดข้อผิดพลาดในการขนส่งได้ เพราะต้องเดินทางไกล และบางครั้งเครื่องบินเกิดดีเลย์ คุณภาพของไข่ก็ใช้ไม่ได้ เพราะอุณหภูมิไม่คงตัว ซึ่งปัญหาทั้งหมดทาง อภ. ได้แก้ไขปัญหาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของไข่ปลอดเชื้อจำเพาะ ที่ใช้ในการทดลองวัคซีนนั้น ขณะนี้ทราบมาว่าทางกรมปศุสัตว์ ว่าสามารถผลิตได้เองแล้ว           

พญ.พรรณี ปิติสุทธิธรรม หน้าภาควิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยามหิดล กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนในการทดลองวัคซีนเชื้อเป็นนั้น ใช้อาสาสมัครทั้งสิ้น 324 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปี กลุ่มอายุ 18-49 ปี และกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 49 ปีขึ้นไป และต้องไม่มีภูมิต้านทานเชื้อหวัด ใช้เวลาในการติดตามผลการทดลองทั้งหมดประมาณ 1 ปีครึ่ง พบว่า อาสาสมัครทุกคนปลอดภัย ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 22:04:27


ความคิดเห็นที่ 979 (1562390)
"น้ำลดยานผุด"ตะลึง พบซากยานโคลัมเบียระเบิด โผล่ทะเลสาบในเท็กซัสหลังน้ำลด


|


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่องค์การบริหารการบินและอวกาศหรือนาซา เปิดเผยว่า ซากยานอวกาศโคลัมเบียซึ่งประสบเหตุระเบิดเมื่อปี ค.ศ.2003 ได้ถูกพบในทะเลสาบนาค๊อกดอชส์ ในรัฐเท็กซัส หรือ 8 ปีนับตั้งแต่ประสบเหตุระเบิดดังกล่าว

ซากดังกล่าวถูกพบในเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในทะเลสาบทางฝั่งตะวันออกของรัฐเท็กซัส เป็นชิ้นส่วนถังรูปทรงกลมใช้เก็บพลังงาน ซึ่งแตกแยกเหนือท้องฟ้ารัฐเท็กซัส ขณะที่ยานโคลัมเบียได้เข้าสู่ห้วงบรรยากาศในช่วงใกล้สิ้นสุดภารกิจทางอวกาศเป็นเวลา 16 วัน โดยโฆษกนาซ่า เปิดเผยว่า ถังดังกล่าวเต็มไปด้วยโคลน และสาเหตุเดียวที่มีการพบซากยานโคลัมเบียนี้ก็เพราะเกิดภาวะแห้งแล้งในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้น้ำลดในทะเลสาบ และเปิดเผยให้เห็นถังยานโคลัมเบีย และว่า เจ้าหน้าที่บางรายซึ่งเคยทำงานในนาซามากว่า 30 ปี ยังคงจำถังดังกล่าวได้ด้วย
 
รายงานระบุว่า เหตุยานอวกาศโคลัมเบียระเบิดส่งผลให้นักบินอวกาศ 7 ราย เสียชีวิต และจนถึงขณะนี้ มีการประมาณการณ์ว่าซากยานราว 38-40 % ได้ถูกพบและกู้ได้ ส่วนซากที่เหลือเชื่อว่าบางส่วนถูกเผาไหม้ระหว่างผ่านชั้นบรรยากาศ หรืออาจยังคงตกอยู่ในรัฐเท็กซัส หรือหลุยส์เซียน่า ทั้งนี้ สำหรับเหตุยานอวกาศโคลัมเบียระเบิด นับเป็นเหตุโศกนาฎกรรมครั้งสองของนาซา หลังเกิดเหตุยานแชนเลนเจอร์ ประสบเหตุระเบิดเมื่อปี ค.ศ. 1986 ทำให้นักบิน 7 รายเสียชีวิต




http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312359980&grpid=&catid=06&subcatid=0600
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 22:08:03


ความคิดเห็นที่ 980 (1562391)
ชาวยุโรปเกินครึ่ง ดีเอ็นเอเดียวกับ "ฟาโรห์ ตุตันคาเมน"


|


ผลการศึกษาของนักพันธุศาสตร์เผย ชาวยุโรป 50 เปอร์เซ้นต์ ดีเอ็นเอตรงกับกษัตริย์ฟาโรห์ ตุตันคาเมน แสดงให้เห็นว่าสืบสายมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ถึงผลการศึกษาล่าสุดของนักพันธุศาสตร์สวิตเซอร์แลนด์ เผยว่า ชาวยุโรปจำนวนครึ่งหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับกษัตริย์ ฟาโรห์ ตุตันคาเมน ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอียิปต์เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว



โดยนักวิทยาศาสตร์ จาก iGENEA ศูนย์ศึกษาวงศ์ตระกูลจากดีเอ็นเอ ปะติดปะต่อสารพันธุกรรมของฟาโรห์ บุตรของกษัตริย์อาเคนาเต ซึ่งขึ้นครองอียิปต์แทนพระบิดาเมื่ออายุเพียง 9 ปี ซึ่งผลปรากฏว่าพันธุกรรมของชาวยุโรปตะวันตกกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ตรงกับของกษัตริย์ฟาโรห์ ตุตันคาเมน ด้วยโครโมโซม haplogroup R1b1a2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชายกลุ่มดังกล่าวสืบสายมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ขณะที่ปัจจุบันนี้ชาวอียิปต์มีโครโมโซม haplogroup ต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์



โรมัน โชล์ซ ผู้อำนวยการศูนย์ iGENEA เผยว่า "การค้นพบครั้งนี้น่าสนใจมาก ว่าฟาโรห์มีกลุ่มพันธุกรรมอยู่ในยุโรป และเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าในอียิปต์เองก็จะมีดีเอ็นเอซึ่งเชื่อมโยงกัน เราเชื่อมานานว่าบรรพบุรุษอาศัยอยู่ในคอเคซัส ราว 9,500 ปีก่อน การศึกษาครั้งนี้คาดการณ์ได้ว่า โครโมโซม haplogroup R1b1a2 อพยพสู่ยุโรปในช่วงต้น หรือ 7,000 ปี ก่อนคริสตกาล"

ทั้งนี้ ชาวอังกฤษมีดีเอ็นเอเดียวกับกษัตริย์ฟาโรห์ 70 เปอร์เซ็นต์ สเปน 70 เปอร์เซ็นต์ ฝรั่งเศส 60 เปอร์ซ็นต์ แต่อย่างไรก็ดีนักพันธุศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่า เชื้อสายวงศ์ตระกูลของฟาโรห์ ตุตันคาเมน มีเชื้อชาติอียิปต์ดั้งเดิมหรือไม่ และก่อนหน้านี้ราวปีที่แล้ว รายการสารคดีจากช่อง ดิสคัฟเวอรี่ เคยนำเสนอผลการศึกษาในห้องแลปว่า กษัตริย์ตุตันคาเมน มีเชื้อสายจากยุโรปด้วยเช่นกัน อนึ่ง ศูนย์ iGENEA ตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อหาญาติผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกษัตริย์ตุตันคาเมน.





http://www.thairath.co.th/content/oversea/190960
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 22:09:56


ความคิดเห็นที่ 981 (1562392)

น้ำเหนือ ไหลบ่าทะลักท่วมสุโขทัย

 
Pic_191853

 

น้ำเหนือไหลบ่า ถึง จ.สุโขทัย แล้ว ทำน้ำยมล้นตลิ่ง ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง แล้ว...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ น้ำยมได้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ยางซ้าย และ ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใต้สุดของจังหวัด ก่อนที่ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล จะไหลระบายออกไปทาง อ.บางระกำ ของ จ.พิษณุโลก มีรายงานว่าทางหลวงหมายเลข 1293 เส้นทางสุโขทัย-บางระกำ ถูกกระแสน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรุนแรง จนถนนบางช่วงขาด และมีระดับน้ำสูงประมาณ 50ซม.-80 ซม. ชาวบ้านบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะที่ บ้านสามหมื่น ม.4 ต.ปากพระ และ บ้านวังกุ้ง ม.6 ต.ปากพระ ต้องรีบขนย้ายข้าวของที่จำเป็น ตลอดจนทรัพย์สินมีค่า หนีน้ำกันจ้าละหวั่น สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา และ ไร่ยาสูบ ซึ่งต้องจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด ยังประเมินความเสียหายไม่ได้

ด้าน นายชาติชาย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมืองสุโขทัย ได้นำเจ้าหน้าที่ อส. และ ทหารจาก จทบ.พิษณุโลก ออกให้ความช่วยเหลือวางแนวกระสอบทรายเพิ่มเติม พร้อมกับ มอบอาหารและน้ำดื่ม ตลอดจนยารักษาโรคที่มากับน้ำ ในเบื้องต้นแล้ว

 


ทั้งนี้ นายสมพงษ์ อ้นคง อายุ 32 ปี ชาวบ้านวังกุ้ง บ้านเลขที่ 96/3 ม.6 ต.ปากพระ พร้อมญาติ ได้ช่วยกันฝ่ากระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ช่วยกันตอกเสาทำสะพานไม้ไผ่ ข้ามจากถนนสายสุโขทัย-บางระกำ เข้ามาที่ตัวบ้าน อย่างทุลักทุเล เพราะเกรงว่าจะมีใครจมน้ำ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ระดับน้ำค่อนข้างสูงกว่าครึ่งเมตร

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ทางหลวงหมายเลข 1195 (สายสุโขทัย-วังไม้ขอน) ช่วงหลักกม.ที่ 4-5 บ้านบางคลอง ม.6 ต.ปากแคว มีน้ำจากแม่น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมถนนอย่างรุนแรง กัดเซาะบางช่วงยุบหายไปแล้ว ระดับสูงประมาณ 30ซม.-50ซม. แขวงการทางต้องนำป้ายประกาศ ให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว เปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 101(จรดวิถีถ่อง)แทน

ขณะที่ นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะ เดินทางไปมอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ชุด แก่ราษฎรที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ณ.วัดชัยสิทธิ์ ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 22:12:30


ความคิดเห็นที่ 982 (1562397)
ฝรั่งเศส, ประเทศที่ "ซึมเศร้า" ที่สุดในโลก


ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนในฝรั่งเศสต่างป่าวประกาศว่า ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ "มีความทุกข์ระทมที่สุดในโลก" หลังจากรายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่สหรัฐฯเปิดเผยว่า ชาวฝรั่งเศสมีแนวโน้มที่จะ ต้องเข้ารับการรักษาความซึมเศร้ามากที่สุด
 
รายงานการศึกษาโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ตีพิมพ์ในสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ก่อน ชี้ให้เห็นว่า ชาวฝรั่งเศสมีแนวโน้มที่จะป่วยจากการก่อตัวของภาวะความซึมเศร้าภายในช่วงชีวิตของตนมากที่สุด ซึ่งสร้างกระแส และตกเป็นหัวข้อแสดงการวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อกระแสหลักของฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก
 
ผลการศึกษา ซึ่งจัดทำขึ้นโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ นิวยอร์ค วิทยาเขตสโตนี บรู๊ค ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจด้านสุขภาพจิตที่ริเริ่มโดยองค์การอนามัยโลก ที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางวารสารทางการแพทย์บีเอ็มซี เมดิซีน โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 90,000 คน จาก 18 ประเทศ ทั้งที่มีฐานะร่ำรวยและยากจน
 
ผลการสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มาจากประเทศด้อยพัฒนา มีแนวโน้มที่จะประสบกับปัญหาภาวะซึมเศร้าน้อยกว่า ณ ช่วงหนึ่งช่วงใดของชีวิต ขณะที่ประชาชนที่มาจากประเทศพัฒนาแล้ว มีแนวโน้มความซึมเศร้าสูงกว่ามาก
 
ข้อมูลดังกล่าวยิ่งเป็นเชื้อไฟที่โหมกระแสต่อผู้ที่ยึดถือลัทธิมองโลกในแง่ร้าย (pessimist) ที่มักจะสร้างคำจำกัดความของ "ภาวะความซึมเศร้า" (tristesse) ในแบบฝรั่งเศสอย่างหาตัวจับยาก โดยหัวข้อการสนทนาหนึ่งในเว็บไซต์ด้านสุขภาพจิตของฝรั่งเศส Psychiatrie.fr ได้แสดงการกล่าวโทษสิ่งต่างๆที่เป็นต้นเหตุของความซึมเศร้าของคนในประเทศ อาทิ ปัญหาด้านเศรษฐกิจ นโนบายการเพิ่มอายุการเกษียณของรัฐบาล การกินยาต้านซึมเศร้ามากเกินไป
 
การแสดงความเห็นทางอินเตอร์เน็ตไปไกลยิ่งกว่านั้น บางรายกล่าวว่า เป็นเพราะชาวฝรั่งเศสมีความเป็น"ปัญญาชน"มากเกินตัว ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นโดยสันดาน หรือแม้แต่เพราะพวกเขากินยาเพื่อผ่อนคลาย เพื่อให้ผ่านพ้นจากภารกิจและหน้าที่ในแต่ละวันน้อยเกินไป ตามข้อมูลของผู้แสดงความเห็นรายหนึ่งที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว กล่าวว่า ชาวอังกฤษและชาวแคนาดา สามารถเอาชนะปัญหาและความเศร้าโศกต่างๆได้ด้วยการเสพโคเคนและยาบ้า
 
นายซาวิเยร์ บริฟโฟลท์ นักวิจัยด้านสุขภาพจิต จากสถาบันวิจัยแห่งชาติฝรั่งเศส แสดงความเห็นว่า การถามคำถามเดียวกันต่อคนที่อยู่ในฝรั่งเศสและอินเดีย แน่นอนว่าจะไม่ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน เขากล่าวว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ผู้คนมักจะมีความคุ้นเคยต่อการได้ฟังหรือการพูดถึงความซึมเศร้าอย่างเปิดอก ขณะที่ในประเทศกำลังพัฒนาก็ถือเป็นอีกกรณีหนึ่ง รวมถึงการแปลและการดัดแปลงคำถามให้เข้ากับวัฒนธรรมนั้นๆ เพื่อทำให้คำถามดังกล่าวสามารถเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างมากขึ้น
 
อย่างไรก็ดี เขาปฏิเสธว่าระดับการใช้ยาต้านอาการเศร้าซึมที่มากเกินไปของชาวฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในหลักฐานที่บ่งชี้ว่าชาวฝรั่งเศสเป็นเช่นนั้นจริง โดยให้เหตุผลว่า มันชี้ให้เห็นว่าเป็นความประสงค์ของแพทย์ที่ต้องการสั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยเท่านั้น
 
ขณะที่ในอีกเว็บบอร์ดหนึ่ง มีผู้แสดงความเห็นว่า ฝรั่งเศสกำลังตกอยู่ในภาวะเศร้าซึม และทุกคนควรจะได้ทราบว่าเพราะเหตุใด "มันชัดเจนอยู่แล้วว่า เราใช้เวลาในการอ่านผลการศึกษามากเกินไปนั่นเอง"




http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312359659&grpid=&catid=06&subcatid=0600
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-05 22:24:43


ความคิดเห็นที่ 983 (1562410)
นาข้าวพิจิตรจมน้ำแล้วหลายหมื่นไร่-ระดมฝีพายช่วยลงแขกเกี่ยวข้าววุ่น

วันที่ 05/08/2554 15:40 (ผ่านมา 4 ชั่วโมง 53 นาที)





พิจิตร - ลุ่มน้ำน่านและลุ่มน้ำยม เจอน้ำเหนือไหลบ่าเอ่อล้นตลิ่ง แถมน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลเทกระหน่ำซ้ำ ทำนาข้าวนับหมื่นไร่จมใต้น้ำ ชาวนาระดมชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านที่เป็นฝีพายเรือศรทอง ช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าวช่วงเช้า พอตกบ่ายค่อยลงสนามซ้อมพายเรือ

วันนี้ ( 5 ส.ค. 54 ) นายชำนาญ ภู่นิ่ม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 บ้านวังอ้ายนุ้ย ต.บ้านบุ่ง อ.เมือง จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ทำนา 30 ไร่ ปลูกข้าวพันธุ์ กข.41 ต้นข้าวตั้งท้องออกรวงแก่เต็มที่อายุครบ 105 วันพอดี ตั้งใจรอรถเกี่ยว และเห็นกำไรเงินแสนอยู่ข้างหน้า แต่แล้วเพียงแค่ 2 วัน ก็เกิดน้ำป่าไหลหลากมาจากภาคเหนือเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำน่าน - น้ำยม อีกทั้งมีน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลเทซ้ำลงมา ทำให้นาข้าวของเขา และเพื่อนบ้านที่ตั้งท้องออกรวงนับพันไร่ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ จะปล่อยทิ้งก็ขาดทุนเห็นๆ จะไปหาคนงานเกี่ยวข้าวก็หาไม่ได้ ไม่มีใครมารับจ้างอีกทั้งก็เรียกค่าแรงสูงถึง 200-300 บาท จึงตัดสินใจไม่ว่าจ้าง

สุดท้ายจึงหันไปขอให้ลูกชาย และบรรดาฝีพายเรือศรทอง ทีมแข่งเรือประจำหมู่บ้าน ที่เก็บตัวฝึกซ้อมพายเรือยาวกับอาจารย์เบื๊อก ปราชญ์ชาวบ้านเรื่องการแข่งขันเรือยาว และมีฝีพายในสังกัดกว่า 60 คน ให้ช่วยกันมาลงแขกเกี่ยวข้าว ซึ่งถ้าขายข้าวเปลือกได้เงิน ก็จะแบ่งให้เอาไว้เป็นทุนซ้อมพายเรือ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 01:29:36


ความคิดเห็นที่ 984 (1562411)

ชาวนาหนองคายระทมต้นข้าวถูกน้ำท่วมเน่าตาย

วันที่ 05/08/2554 15:21 (ผ่านมา 5 ชั่วโมง 13 นาที)



หนองคาย - ชาวนาที่หนองคายกำลังระทมทุกข์ อิทธิพลนกเตนยังทำให้น้ำท่วมไร่นา ต้นข้าวที่เพิ่งปักดำเพียง 2 เดือนถูกน้ำท่วมขังเน่าตาย

แม้ว่าพายุนกเตนจะเคลื่อนตัวไปแล้วแต่ยังคงสร้างความเสียหายให้กับชาวหนองคาย โดยเฉพาะชาวนาที่บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย ชาวนากำลังเป็นกังวลเนื่องจากน้ำยังคงท่วมไร่นาและพื้นที่ทางการเกษตร โดยเกษตรกรรายหนึ่งบอกว่า เพิ่งปักดำข้าวได้ 2 เดือน พื้นที่ประมาณ 18 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังทั้งหมด เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่น้ำขุ่นเสี่ยงต่อต้นข้าวเน่าตายทั้งหมด

ด้านนายฉลอง คงสมของ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงฝนตกน้ำท่วมหนัก พบว่ามีนาข้าวได้รับผลกระทบเบื้องต้น 120,000 ไร่ มากที่สุดอยู่ที่อำเภอโพนพิสัย และอำเภอเมืองหนองคาย หากนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมขัง น้ำยังใสอยู่ต้นข้าวสามารถอยู่ได้ 15 วัน แต่หากน้ำที่ท่วมขังเป็นน้ำขุ่น ต้นข้าวจะทนได้เพียง 7 วัน ก็จะเริ่มเน่าตาย

ขณะนี้เกษตรจังหวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายทั้ง 9 อำเภอของจังหวัดหนองคาย หลังจากน้ำลด เพื่อรายงานความเสียหายทางการเกษตรอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามที่รัฐกำหนดเป็นจำนวนเงินที่รัฐชดเชยในอัตราความเสียหายไร่ละ 606 บาท ซึ่งจะต้องรอผลการรวบรวมรายงานข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะสามารถระบุตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 01:30:36


ความคิดเห็นที่ 985 (1562412)

จีนประกาศเตือนภัยสีเหลืองรับไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า"


วันศุกร์ ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554
 

สำนักอุตุนิยมวิทยาของจีน ประกาศเตือนภัยระดับสีเหลือง เตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" ที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะจีนตะวันออก ในบ่ายวันนี้ และจ่อจะขึ้นฝั่งในมณฑลเจอเจียง และ เจียงสู ในอีก 2 วันข้างหน้า

พายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 9 ของปีนี้ และมีกำลังแรงที่สุดของจีน กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนตะวันออก ด้วยความเร็วลม 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในบ่ายวันนี้ ทำให้สำนักอุตุนิยมวิทยาของจีน ได้ออกประกาศเตือนระดับสีเหลือง เพื่อให้ประชาชนเตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า"

นอกจากนี้ยังได้ประกาศเตือนภัยระดับสีส้ม เกี่ยวกับการเกิดคลื่นสูงอีกด้วย ล่าสุดหน่วยงานประมงท้องถิ่นที่มณฑลเจอเจียง ได้เรียกเรือประมงกว่า 2,000 ลำกลับเข้าฝั่ง ก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้ เช่นเดียวกับมณฑลฟูเจี้ยน ที่เรียกเรือประมงกว่า 5 พันลำกลับเข้าฝั่ง เพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวไปทางเหนือ ส่งผลให้พื้นที่ชายฝั่งและลึกเข้าไปในแผ่นดินในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีฝนตกหนักอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุ ก่อนที่พายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ที่มณฑลเจอเจียง และ เจียงสู ในอีก 2 วันข้างหน้า

โดยก่อนหน้านี้อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" ได้ทำให้เกิดฝนตกหนักในนครเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนมากกว่า 10 สาย ทางการต้องเร่งระดมสูบน้ำ ระบบการจราจรเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 01:36:49


ความคิดเห็นที่ 986 (1562413)

น้ำก้อนใหญ่ถึง อ.แม่พริก จ.ลำปางแล้ว


วันศุกร์ ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554
 

พื้นที่ตอนใต้สุด จ.ลำปางคือ อ.แม่พริกซึ่งเป็นอำเภอสุดท้าย น้ำวังก้อนใหญ่มาถึงแล้ว น้ำท่วม 70 หลังคาเรือน ที่หมู่บ้านวังสำราญ ต.แม่พริก ความสูงน้ำกว่า 1.50 เมตร นายอำเภอเร่งสั่งนำเรือท้องแบน 3 ลำเข้าช่วยเหลือราษฎรแล้ว

5 ส.ค.54 เกิดเหตุน้ำวังเอ่อล้นไหลทะลักเข้าบ้าน วังสำราญ ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง มีบ้านเรือนราษฎรจำนวน 70 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบแล้ว หลังชาวบ้านได้เฝ้าระวังกันมาตลอดทั้งคืน

โดยการนำกระสอบทรายมาขวางกั้นลำน้ำวังไว้ แต่น้ำวังก้อนใหญ่ที่ไหลมาแรงและเชี่ยวกราก ทำให้กระสอบทรายรับน้ำไม่อยู่ กระสอบทรายจึงพัง ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชน บ้านวังสำราญ ดังกล่าว ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ซึ่งชาวบ้านได้อพยพและขนของเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ซึ่งไม่ได้รับความสูญมากเท่าไรนัก มีเพียงบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมเท่านั้น ส่วนพืชผลทางการเกษตร เช่น นาข้าว ไร่ข้าวโพดเสียหายเป็นจำนวนมาก

ด้านนาย สุรพล บุรินทราพันธ์ นายอำเภอแม่พริกและเจ้าหน้าที่ ปภ.จ.ลำปางนำเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านของ อ.แม่พริก เป็นการด่วนแล้ว

 

--------------------------------------------------------

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 01:38:50


ความคิดเห็นที่ 987 (1562414)

หลายพื้นที่น้ำยังท่วมหนัก


 

การช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมบางจุดยังเข้าไปยากลำบาก เนื่องจากเส้นทางเข้าหมู่บ้านยังมีดินสไลด์ลงมาทับเส้นทาง พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังดินถล่มในระยะนี้ เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกหนัก
โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยน้ำป่าบ้านปู่ทา ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย พันเอกสุทัศน์ จารุมณี รักษาราชการผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 บอกว่า ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยการนั่งรถยนต์ไปทางอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ก่อนจะลงเรือที่ท่าเรือแม่ตะวอ ล่องตามลำน้ำเมย สู่ลำน้ำสาละวิน จนถึงบริเวณปากลำห้วย บ้านปู่ทา และเดินทางอีก 2 ชั่วโมงเข้าไปจุดประสบภัย ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางเข้าพื้นที่น่าจะไม่เกิน 7 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มในพื้นที่บ้านปู่ทาเพิ่มอีกรายแล้ว รวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ถึง 7 ราย ส่วนผู้สูญหายนั้นมี 1 ราย

ส่วนที่จังหวัดน่าน ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนดินถล่มในพื้นที่เสี่ยง 7 อำเภอ 10 ตำบล 16 หมู่บ้าน เนื่องจากวัดปริมาณน้ำสะสมได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ดินภูเขาชุ่มน้ำอาจถล่มลงมาได้

ที่จังหวัดลำปาง แม่น้ำวังไหลหลากอีกระลอกเข้าพื้นที่บ้านวังสำราญ ตำบลแม่พริก ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนถึง 70 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก จนกระสอบทรายที่กั้นน้ำต้านไม่อยู่พังลงมา น้ำเข้าท่วมที่ลุ่มสูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร

ที่จังหวัดแพร่ แม้ว่าระดับน้ำยมจะเริ่มลดลงแต่ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านพื้นที่น้ำท่วม ล่าสุดเกิดดินทรุดในพื้นที่ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น ทำให้บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ติดกับลำน้ำยมเดือดร้อนไปด้วย 3 หลังคาเรือน

ส่วนที่จังหวัดตากยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เส้นทางสายแม่สอด-ท่าสองยาง-แม่สะเรียง มีดินสไลด์ลงมาปิดเส้นทางหลายแห่ง ขณะที่บ้านแม่สลิดหลวงตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง ซึ่งถูกน้ำป่าถล่มเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าไปฟื้นฟู โดยพบว่าบ้านเรือนเสียหาย 37 หลังคาเรือน โรงเรียนแม่สลิดหลวงต้องสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัย ขณะที่สะพานขาดช่วงตำบลแม่ตื่น อำเภอแม่ระมาด จนชาวบ้านกว่า 10 หมู่บ้าน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะนี้ยังขาดแคลนเรื่องถุงยังชีพ

ด้านกรมชลประทานเตือนจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับมือน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากปริมาณน้ำยมและน้ำน่าน สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำน่านจะไหลมาร่วมกับน้ำยมและน้ำปิง ที่จังหวัดนครสวรรค์ ก่อนที่ปริมาณน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งทางกรมชลประทานคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำสูงสุดที่จะไหลมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาจะอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2 พัน 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

พร้อมกันนี้จะใช้เขื่อนเจ้าพระยา และระบบชลประทานในการบริหารจัดการน้ำหลาก โดยรับน้ำส่วนหนึ่งเข้าระบบชลประทานที่ได้ทำการพร่องน้ำไว้แล้ว และควบคุมน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรวินาที ทั้งนี้ปริมาณน้ำดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยามีระดับสูงขึ้น และอาจจะเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำช่วงวันที่ 8 ถึง 10 สิงหาคมนี้

-------------

พบศพชายจมน้ำเสียชีวิตอีก 1 พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 1.3-1.4 แสนไร่

แนะทางแก้ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ได้แล้ว





ผู้ว่าฯ จ.สุโขทัย เผย ล่าสุดพบศพชายจมน้ำเสียชีวิตอีก 1 พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 1.3-1.4 แสนไร่ แนะทางแก้ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ได้แล้ว


นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังวหวัดสุโขทัย เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ที่ ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง พบศพ ชายอายุ 20 ปี ลอยน้ำมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กู้ศพมาแล้ว คาดว่า จะถูกน้ำป่าพัดจนจมน้ำเสียชีวิต ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก และพื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 1.3-1.4 แสนไร่ แล้ว

ส่วนทางแก้ไขในอนาคตนั้น ทางแก้ทางเดียวคือ ต้องสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำยม คือ โครงการแก่งเสือเต้น ที่มีปัญหากันอยู่หลายสิบปีแล้ว คุ้มค่ากว่าการปล่อยให้เสียหายเช่นนี้ โดยส่วนตัวคิด ให้ต้องเสียค่าเวนคืนเท่าไร ก็ให้ประชาชนไป เพราะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เดือดร้อนทุกปี พอหน้าแล้งก็ไม่มน้ำเหลือเลย และแนวโน้มก็หนักขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 01:41:59


ความคิดเห็นที่ 988 (1562415)

น้ำท่วมสุโขทัยตายเพิ่มอีก 1 ชาวบ้านนับร้อยแห่ประท้วงเขื่อนไม่ระบายน้ำ‏

วันที่ 05/08/2554 18:21 (ผ่านมา 2 ชั่วโมง 7 นาที)





สุโขทัย - สถานกาณณ์น้ำท่วมสุโขทัยตายเพิ่มแล้วอีก 1 ผู้ว่าฯ เร่งลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ ฟากชาวบ้านโอดยุง-ริ้นรุมกัดนอนไม่หลับ แถมเครียดเข้าบ้านไม่ได้ ส่วนคนศรีสำโรงหนีน้ำมานอนบนรถอีแต๋นข้างถนน หลังผวากระแสน้ำยมไหลแรงทำบ้านพังหลายหลัง ระะทึก! ชาวบ้านร่วม 300 บุกเขื่อนหาดสะพานจันทร์โวยชลประทานไม่เร่งกำจัดสวะปิดประตูระบายน้ำแถมตั้งป้อมไล่ผู้ดูแลพ้นหน้าที่ ร้อนผู้ว่าฯ ต้องออกแรงเคลียร์-ขอรถแบ็กโอมาจัดการถึงยอมแยกย้าย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 01:53:35


ความคิดเห็นที่ 989 (1562461)

แม่น้ำวังไหลเอ่อล้นท่วม อ.แม่พริก เดือดร้อนแล้ว70หลัง

วันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำวังเอ่อล้นไหลทะลักเข้าบ้านวังสำราญ ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง มีบ้านเรือนราษฎรจำนวน 70 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบและคาดว่าจะไหลเข้าท่วมหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำวัง ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงได้เฝ้าระวังกันมาตลอดทั้งคืนโดยนำกระสอบทรายมาขวางกั้นลำน้ำวังไว้ แต่น้ำวังก้อนใหญ่ที่ไหลมาแรงและเชี่ยวกราก ทำให้กระสอบทรายรับน้ำไม่อยู่ กระสอบทรายพังส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ส่วนพืชผลทางการเกษตร ทั้ง นาข้าว ไร่ข้าวโพด เสียหายเป็นจำนวนมาก

นายสุรพล บุรินทราพันธ์ นายอำเภอแม่พริก และเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ได้นำเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ เข้าช่วยเหลือแจกจ่ายถุงยังชีพอาหารและน้ำดื่มแล้วชาวบ้านที่ประสบภัยเป็นการด่วนแล้ว ล่าสุดปริมาณน้ำวังยังขยายวงกว้างเข้าท่วมโรงเรียนต้นธงวิทยา ต.แม่ปุ ทำให้อุปกรณ์การเรียนถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วบางส่วน

--------------------------------------

 

เกาหลีเหนือเจออุทกภัยใหญ่ มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า30ศพ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 สิงหาคม 2554 00:27 น.
 
 
 
เกาหลีเหนือเจอฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงปลายเดือน นำมาซึ่งอุทกภัยครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 30 ราย บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายมากกว่า 6,750 หลัง สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์(5)

อุทกภัยครั้งนี้ยังส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 15,800 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายกว่า 120,000 เอเคอร์(ราว 3 แสนไร่) อันกระทบร้ายแรงต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ รายงานต่อว่าโรงงานต่างๆและอาคารราชการอีกกว่า 350 หลังได้พังถล่มลงมาท่ามกลางพายุฝนและกระแสน้ำที่ไหลบ่า นอกจากนี้ดินถล่มยังก่อความเสียหายแก่ทางเดินรถไฟและสะพานต่างๆ อันกระทบต่อความพยายามลำเลียงเครื่องบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ประสบภัย


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 14:15:47


ความคิดเห็นที่ 990 (1562462)

15 จว.ยังเผชิญน้ำท่วม มวลน้ำเริ่มไหลลงภาคกลาง อยุธยาท่วมแล้ว 3 อำเภอ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ ว่า ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินรวม 18 จังหวัด 144 อำเภอ อาทิ จ.แพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย นครพนม ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ เลย และเพชรบูรณ์ ราษฎรเดือดร้อน 314,732 ครัวเรือน 1,029,716 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 619,723 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 17 ราย จ.แม่ฮ่องสอน สูงสุด 7 ราย สูญหาย 1 ราย สถานการณ์คลี่คลาย 3 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน หนองคาย และประจวบคีรีขันธ์

ขณะที่ จ.พิจิตร แม่น้ำยมบริเวณ อ.สามง่าม มีระดับน้ำสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยบริเวณสองฝั่งแม่น้ำยมมีระดับสูงขึ้น จ.ตาก น้ำจากแม่น้ำวังเริ่มล้นตลิ่ง เข้าท่วมในพื้นที่ อ.สามเงา บางพื้นที่แล้ว

จ.นครสวรรค์ น้ำจากแม่น้ำน่านเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ชุมแสง และ อ.เก้าเลี้ยว และ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลลงสู่คลองบางหลวงจนล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.เสนา และ อ.ผักไห่

---------------------------

เตือนภาคเหนือยังอ่วมพายุฝน

 



ร่องมรสุมกำลังปานกลาง พาดผ่านประเทศไทย อุตุฯเตือนทั่วไทยยังเจอฝน ภาคเหนือหนัก ส่วนชาวบ้านเชิงเขาต้องระวังดินถล่ม

(วันนี้ 2 ส.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในระยะ1-2 วันนี้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2554

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น หมุ่ยฟ้า ด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปทางเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุน ในช่วงวันที่ 4-5 ส.ค. นี้


---------------------------

 

น้ำท่วมสุโขทัยตายเพิ่ม อีก 1 ศพ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และคณะได้นำถุงยังชีพไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3,4 และหมู่ 6 ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง กับที่ ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย รวม 2,500 ชุด โดยชาวบ้านต่างพากันโอดครวญต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จากยุงและตัวริ้นที่มารุมกัด จนนอนกันไม่ได้ และรู้สึกเครียดกันมาก เพราะไม่ได้นอนในบ้านมาหลายคืนแล้วส่วนชาวบ้าน ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง ก็ต้องพากันมากางมุ้งนอน บนรถอีแต๋นที่จอดอยู่ข้างถนน ไม่สามารถเข้าไปนอนในบ้านได้ เพราะกระแสน้ำยมแรงมาก จึงกลัวว่าบ้านจะพัง เพราะก่อนหน้านี้มีพังไปแล้ว 4 หลังคาเรือนนอกจากนี้ ยังพบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย คือ นายหนั่น บัวแก้ว อายุ 78 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก โดยเมื่อ 2 วันก่อน นายหนั่นได้เดินลุยน้ำไปเอาเรือมาผูกที่เสาบ้าน แต่ถูกกระแสน้ำพัดจมหาย กระทั่งพบเป็นศพลอยมาโผล่ที่ ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง ห่างจุดเกิดเหตุมาประมาณ 10 ก.ม.สำหรับความเสียหาย ล่าสุดพบมี 9 อำเภอ 61 ตำบล 397 หมู่บ้าน 18,833 ครัวเรือน 56,152 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 136,651 ไร่ ถนนพัง 74 สาย สะพาน 5 แห่ง โรงเรียน 9 แห่ง วัดอีก 8 แห่ง และมีผู้เสียชีวิต 2 รายอย่างไรก็ตาม นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สุโขทัย เร่งดำเนินการฉีดพ่นยากำจัดยุง ในพื้นที่ประสบภัยแล้ว รวมทั้งมีการตั้งโรงครัวกันข้างถนนหมู่ 6 ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงชาวบ้านที่เดือดร้อน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 14:19:21


ความคิดเห็นที่ 991 (1562463)

พิษณุโลกเตรียมรับน้ำจากแพร่-สุโขทัยไหลท่วมเพิ่ม

จ.พิษณุโลก ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในหลายอำเภอ โดยที่น่าเป็นห่วงคือการที่ในพื้นที่มีน้ำท่วมขังในระดับสูงอยู่แล้ว และชลประทานจังหวัดคาดว่าน้ำจาก จ.แพร่ และ สุโขทัย จะมาถึงเต็มพื้นที่ในอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์รุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้นในพื้นที่ต่ำริมแม่น้ำยมทั้งหมด โดยเฉพาะที่ อ.บางระกำ ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของจังหวัด

------------------------

"แม่พริก-เถิน"น้ำยังท่วมสูง นาข้าวจมเสียหายกว่า 4 พันไร่

ถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลำปาง ส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังเหลือพื้นที่ 2 อำเภอคือ อ.แม่พริก และ อ.เถิน โดยที่ อ.แม่พริก น้ำวังยังเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 100 หลัง ส่วนนาข้าวจมน้ำกว่า 4,000 ไร่

ขณะที่ อ.เถิน น้ำวังยังไหลล้นตลิ่ง ระดับความสูง 1 เมตร เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลล้อมแรด เร่งขนกระสอบทรายกว่า 3,000 ลูก อุดรูรางระบายน้ำเพื่อกั้นน้ำแม่วังที่ไหลเอ่อล้น และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 300 แรงม้า จำนวน 3 เครื่อง เพื่อป้องกันน้ำวังหนุนสูงไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน ซึ่งเป็นย่านคมนาคม ขนส่ง และสถานที่ราชการ



ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 14:23:15


ความคิดเห็นที่ 992 (1562464)

รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เผชิญกับคลื่นความร้อนและภัยแห้งแล้งที่สุดในประวัติศาสตร์

 



August 5, 2011 – DALLAS – Unprecedented heatwave: The Texas power grid operator has scrambled this week to meet soaring electricity demand in the face of a brutal heat-wave, and residents of the second most populous U.S. state are one power plant shutdown away from rolling blackouts. Power demand for Electric Reliability Council of Texas, Inc, or ERCOT, which runs the power grid for most of the state, hit three consecutive records this week as Texans cranked up air conditioners to escape one of the hottest summers on record. Another record was not likely on Thursday, ERCOT said. The grid operator on Thursday cut power to some big industrial users, and businesses and households face a repeat of the rolling blackouts they suffered in February, when a bitter cold snap interrupted power supplies. Though ERCOT has done a good job balancing supply and demand, “You always have to expect the unexpected can happen,” said Arshad Mansoor, senior vice president at the Electric Power Research Institute. “A unit can shut. The wind may not blow.” -Reuters

--------------------------------

ประชาชนอีรัค ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 52 องศา

-----------

ภูเขาไฟ Kīlauea ที่ฮาวาย ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นทะเลสาบลาวา





ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 14:28:28


ความคิดเห็นที่ 993 (1562466)

ไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าอาจทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนักในจีน

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า เมื่อเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 525 กม. โดยมีความเร็วลมสูงสุด 162 กม./ชม. ทั้งนี้ คาดว่าไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. จะพัดขึ้นชายฝั่งระหว่างเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง และเมืองฉี่ตง มณฑลเจียงซู ในค่ำวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ โดยอิทธิพลของไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวอาจทำให้เกิดกระแสลมแรงบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศในช่วง 3 วันข้างหน้า และอาจทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของมณฑลเจ้อเจียง มณฑลเจียงซู มณฑลอานฮุย มณฑลชานตง มณฑลเหอเป่ย์ และมณฑลเหลียวหนิง อย่างไรก็ตาม คลื่นความร้อนยังคงปกคลุมในหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยอุณหภูมิในบางพื้นที่ของมณฑลเจียงซี มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลกวางตุ้ง และเขตปกครองตนเองกว่างซี จะอยู่ที่ 37-38 องศาเซลเซียส ในวันนี้ นอกจากนี้ พยากรณ์อากาศยังคาดว่า อุณหภูมิในหลายพื้นที่ของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และมณฑลกานซู อาจสูงถึง 38 องศาเซลเซียส ในช่วง 3 วันข้างหน้า.




พายุโซนร้อนเอมิลีคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 4 คน

พายุโซนร้อนเอมิลี ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 5 ในฤดูพายุเฮอริเคนมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ ได้ลดกำลังลงเมื่อปะทะภูเขาบนเกาะฮิสปานิโอลา แต่อิทธิพลของพายุลูกนี้ทำให้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 3 รายในโดมินิกัน และอีกอย่างน้อย 1 คนที่เฮติ นอกจากนี้ ยังทำให้ประชาชนหลายพันคนในโดมินิกันและเฮติต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หมู่บ้านหลายสิบแห่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเพราะน้ำท่วม

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวเตือนว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ เชื่อว่ามีโอกาสประมาณ 70% ที่พายุเอมิลีจะกลับมีกำลังแรงกลายเป็นพายุไซโคลนในระหว่าง 48 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่สำนักงานอากาศของรัฐบาลสหรัฐ เพิ่มการคาดการณ์พายุเฮอริเคนในปีนี้ จะมีจำนวนพายุเฮอริเคน 7-10 ลูก ซึ่ง 3 ใน 5 จะเป็นพายุใหญ่ที่มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป โดยมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางอย่างน้อย 178 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

---------------------

“หมุ่ยฟ้า” จ่อปะทะจีน-ไต้หวันรอดหวุดหวิด



ความคืบหน้าสถานการณ์ภัยธรรมชาติในทะเลจีนตะวันออก เมื่อวันที่ 5 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไต้ฝุ่น “หมุ่ยฟ้า” เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมประมาณ 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุ่งหน้าเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ บริเวณมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลเจียงซู โดยจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาจีน ไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งในตอนดึกของวันที่ 6 ส.ค. หรือช่วงเช้าตรู่วันที่ 7 ส.ค.

ขณะที่ทางการจีนประกาศเตือนภัยระดับ “สีส้ม” ในหลายพื้นที่ ซึ่งสีส้มถือเป็นระดับเตือนภัยสูงสุดที่รัฐบาลจีนประกาศในปีนี้ ทั้งนี้ ไต้ฝุ่น “หมุ่ยฟ้า” มิได้ขึ้นฝั่งไต้หวันอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า กระนั้นบริเวณภาคเหนือของเกาะก็มีรายงานลมกระโชกระดับปานกลางและฝนตกเบาบาง

ขณะเดียวกัน ศูนย์พยากรณ์สภาพอากาศสหรัฐฯประเมินภัยแล้งบริเวณพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานินญา ระบุสภาพอากาศอาจกลับมาร้อนระอุอีกครั้งในอีก 6 เดือนข้างหน้า ยกเว้นรัฐเท็กซัสอาจได้รับผลกระทบเร็วสุดเดือน ต.ค.หรือ พ.ย.นี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดภัยแล้งไม่มีน้ำใช้ ส่วนนักภูมิอากาศรัฐเท็กซัสประกาศให้เป็นภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดของรัฐนับตั้งแต่ยุค ค.ศ.1950

อนึ่ง ที่เมืองดัลลัสพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ เพราะอากาศที่ร้อนจัดถึง 42.8 องศาเซลเซียส ขณะที่รัฐบาลประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งการเกษตรและปศุสัตว์ไว้ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
6 สิงหาคม 2554, 06:15 น
.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 14:38:48


ความคิดเห็นที่ 994 (1562467)

หมีขั้วโลกขย้ำวัยรุ่นผู้ดีดับ 1 สาหัสอีก 4 ทางเหนือของนอร์เวย์



http://www.thairath.co.th/media/cont...hr1667/630.jpg
นักท่องเที่ยวหนุ่มวัย 17 ปี ชาวเมืองผู้ดี เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ หลังถูกหมีขั้วโลกตัวหนึ่งขย้ำจนเสียชีวิต ขณะกำลังร่วมงานปาร์ตี้ที่ค่ายพักแรม ณ ธารน้ำแข็ง "ฟอน พอสต์บรีน" บนเกาะสวาลบาร์ด ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ขณะเดียวกันมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกอย่างน้อย 4 ราย...


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า โฮราทิโอ แชพเพิล นักท่องเที่ยวหนุ่มวัย 17 ปี ชาวเมืองผู้ดี เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ หลังถูกหมีขั้วโลกตัวหนึ่งขย้ำจนเสียชีวิต ขณะกำลังร่วมงานปาร์ตี้ที่ค่ายพักแรม ณ ธารน้ำแข็ง "ฟอน พอสต์บรีน" บนเกาะสวาลบาร์ด ทางตอนเหนือของนอร์เวย์

รายงานข่าวระบุว่า เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่สมาชิกของสมาคม "British Schools Exploring Society" ประมาณ 80 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 16-20 ปี กำลังสนุกสนานอยู่ในงานเลี้ยงกลางแจ้งที่ค่ายพักแรมดังกล่าว โดยในเบื้องต้นมีข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตคือ หนุ่มน้อยแชพเพิล วัย 17 ปี ขณะเดียวกันมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกอย่างน้อย 4 ราย ซึ่งทั้งหมดได้ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยทรอมโซแล้ว

 


บีบีซี/สกายนิวส์ - หมีขั้วโลกตัวหนึ่งบุกโจมตีค่ายทัศนศึกษาของเยาวชนอังกฤษ ที่พากันมาตั้งแคมป์ในนอร์เวย์ อาละวาดฆ่าเด็กเสียชีวิตไป 1 รายและบาดเจ็บสาหัส 4 คน ขณะที่หมีตัวนี้ก็ถูกเจ้าหน้าสังหารในเวลาต่อมา

ค่ายทัศนศึกษาที่มีเด็กเข้าร่วมราว 80 คนถูกโจมตีโดยสัตว์ตัวนี้ขณะกำลังตั้งแคมป์บนธารน้ำแข็งวอน พอสต์บรีน บนเกาะสปิตส์เบอร์เกน เกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์ ในแถบขั้วโลกเหนือ


สภาพของค่ายทัศนศึกษาของชมรม British Schools Exploring Society หลังจากถูกหมีขั้วโลกเล่นงาน
เยาวชนที่เข้าร่วมทั้งหมดเป็นเด็กผู้ชายและการตั้งค่ายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมทัศนศึกษาเกาะของชมรม British Schools Exploring Society

ทางบีเอสอีเอสบอกกว่า ไมเคิล รีด และ แอดรูว์ รุค หัวหน้าทีมทัศนศึกษาก็ถูกหมีขย้ำได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับเด็กวัยรุ่น 2 รายคือนาย แพทริค ฟลินเดอร์ส และ สกอตต์ สมิธ "เยาวชนที่เข้าร่วมค่ายครั้งนี้อายุระหว่าง 16 ถึง 23 ปี" โฆษกระบุ พร้อมเปิดเผยด้วยว่าหมีถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน

กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกลำเลียงขึ้นเฮลิคอปเตอร์นำตัวมายังลองเยียร์เบียน จากนั้นก็ส่งต่อไปรักษาตัวที่เมืองทรอมโซ ทางเหนือของนอร์เวย์ ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ใช้โทรศัพท์มือถือผ่านดาวเทียมขอความช่วยเหลือ


หมีขั้วโลกตัวก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ปลิดชีพในเวลาต่อมา
ถ้อยแถลงจากทางการนอร์เวย์ระบุว่า "ทางการสวาลบาร์ดยืนยันมีผู้เสียชีวิต 1 รายหลังถูกหมีขั้วโลกบุกเล่นงาน ณ วอน พอสต์บรีน ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย"

"ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นหนึ่งในกลุ่มทัศนศึกษาของอังกฤษ โดยผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังโรงพยาบาลลองเยียร์เบียน แต่ต่อมาได้มีคำขอให้ส่งเครื่องบินพยาบาลนำตัวคนไข้ไปรักษาในทรอมโซ" ถ้อยแถลงระบุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-06 14:43:52


ความคิดเห็นที่ 995 (1562503)

น้ำวังทะลักท่วม “บ้านตาก” 630 ครัวเรือนจมบาดาล

วันที่ 06/08/2554 16:12 (ผ่านมา 1 ชั่วโมง 15 นาที)





ตาก - น้ำวังทะลักท่วมพื้นที่อำเภอบ้านตาก ล่าสุดบ้านยางโองน้ำ เจอหนักสุด 630 ครัวเรือน ชาวบ้านเกือบ 3 พันคนได้รับผลกระทบ พืชผลทางการเกษตรนับหมื่นไร่จมน้ำ ขณะที่หลายหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ 10 หมู่บ้านปากะญอ ที่ถูกกระแสน้ำแม่ตื่นตัดสะพานเชื่อมทางเข้าออกโลกภายนอกขาดสะบั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตาก ถึงสถานการณ์น้ำท่วม วันนี้(6 ส.ค.) ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำวัง ที่รองรับน้ำจากจังหวัดลำปาง ยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดตาก โดยสถานีวัดน้ำ บ้านวังหมัน อ.สามเงา จ.ตาก วัดระดับน้ำได้สูงขึ้นถึง 6.76 เมตร เลยจุดวิกฤติที่ 6.03 เมตรมีปริมาณ น้ำ 725.50 ลบ.ม./วินาที (ค่าปกติที่ 313 ลบ.ม./วินาที) ทะลักตลิ่งและแนวคันดิน เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ใน 2 อำเภอ ลุ่มแม่น้ำวัง ได้แก่ อำเภอสามเงาและอำเภอบ้านตาก ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะ พืชไร่ ข้าว ข้าวโพด และพืชเศรษฐกิจของเกษตรชาวจังหวัดตาก ได้แก่ ลำไย , ฝรั่ง และกล้วยไข่ เบื้องต้น มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย มากกว่า 8,000 ไร่

ด้านนายธานินทร์ วิชิตะกูล นายอำเภอบ้านตาก ได้ระดมเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและท้องถิ่น นำเรือท้องแบน เข้าไปช่วยเหลือราษฎร ในหมู่บ้านยางโองน้ำ หมู่ที่ 4,5 และ 11 ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ ได้รับความเสียหายมากที่สุด ทั้งหมดจำนวน 630 ครัวเรือน ราษฎร 2,800 คน โดยล่าสุด แม่น้ำวังได้ทะลัก เข้าท่วมทั้งหมู่บ้านสูง กว่า 80-120 ซม.การสัญจรทางบกไม่สามารถทำได้ ชาวบ้าน ต้องใช้เรือหรือเดินลุยน้ำอย่างเดียว ทั้งนี้ ได้อพยพ เด็กและคนชรา ออกจากพื้นที่ไปพักบ้านญาติต่างหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กม.

ส่วนสะพานข้ามลำน้ำแม่ตื่น ต.แม่ตื่น อ.แมระมาด ที่ถูกน้ำพัดขาด พ.อ.ประสาน แสงศิริลักษณ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด-พ.ต.ท.บุรินทร์ ชื่นอารมณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 อ.แม่สอด -นายวีระชัย ระก่ำทอง ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดตากที่ 2 แม่สอด ได้นำกำลังพลทั้งทหาร - ตชด. และเจ้าหน้าที่แขวงการทาง เดินทางเข้าไปให้การช่วยเหลือราษฎรปากะญอ จำนวน 10 หมู่บ้าน ประมาณ 6,000 คน ที่อยู่อีกฝั่งของลำน้ำแม่ตื่นที่ถูกน้ำไหลหลากตัดขาด

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเรือติดเครื่องยนต์นำน้ำดื่มและอาหาร-ยาเวชภัณฑ์ -น้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อไปช่วยเหลือราษฎร ที่กระแสน้ำซัดสะพานข้ามแม่น้ำขาดแยก 2 ท่อน ซึ่งขณะนี้ชาวปากะญอกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่สามารถเดินทางสัญจรผ่านไป-มา ได้

ด้านนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ประสานให้แขวงการทางตากที่ 2 แม่สอด ได้ไปสำรวจสภาพสะพานที่ถูกตัดขาด เพื่อเร่งทำสะพานแบริ่งเชื่อมต่อสะพานที่ขาด เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านไป-มาได้โดยเร็วที่สุด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 00:48:42


ความคิดเห็นที่ 996 (1562504)

จีนอพยพ 200,000 ระงับ 200 เที่ยวบิน รอปะทะ"หมุ่ยฟ้า"คืนนี้

วันที่ 06/08/2554 14:10 (ผ่านมา 3 ชั่วโมง 38 นาที)





ทางการจีนสั่งอพยพชาวบ้าน 200,000คน ในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ และสั่งยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 200 เที่ยวบิน หลังมีประกาศเตือน ว่า พายุใต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" จะขึ้นฝั่งทางตะวันออกของจีน ในคืนวันที่ 6 ส.ค. นี้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า สำนักข่าวซินหัวของประเทศจีนรายงานว่ารัฐบาลจีนสั่งอพยพผู้คนกว่า 2แสนคน ในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศไปยังที่ปลอดภัย และสั่งยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 200 เที่ยวบิน เพื่อเตรียมรับมือกับพายุใต้ฝุ่น "หมุ่ยฟ้า" ซึ่งมีระดับความรุนแรงในระดับสูงสุดและกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศจีนในพื้นที่ มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลเจียงซู ด้วยความเร็วลมประมาณ 162กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาของจีนคาดการณ์ว่า ใต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า จะขึ้นฝั้ง ในช่วงดึกของวันที่6 ส.ค. หรือช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 7 ส.ค.

ขณะที่ทางเซี่ยงไฮ้ ประกาศเตือนสำนักการรถไฟในพื้นที่ โดยสั่งให้รถไฟความเร็วสูงที่เปิดให้บริการในช่วงพายุเข้ายกเลิกหรือ วิ่งให้ช้าลง ด้วยเกรงว่า จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย เหตุรถไฟความเร็วสูงชนกันซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต39 ศพ และบาดเจ็บมากกว่า 200 ราย เมื่อสองสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ทางการจีนยังสั่งการให้เรือประมงกว่า 9,000 ลำกลับเข้าเทียบท่า และยกเลิกการให้บริการ เรือข้ามฟากทั้งหมด เนื่องจากอิทธิพลของใต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้า ทำให้เกิดพายุฝนรุนแรง และมีคลื่นสูงถึง4.5เมตร และคาดว่า อาจสร้างคลื่นสูงได้มากกว่า 12 เมตรเลยทีเดียว.

ไทยรัฐออนไลน์

----------------------------- 

"หมุ่ยฟ้า"เข้าถล่มเกาะโอกินาวา ก่อนเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่จีน

เกาะโอกินาวะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ถูกพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" พัดถล่มอย่างหนัก มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน และมีไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่จีนเตรียมพร้อมรับมือ ก่อนที่พายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" จะเคลื่อนตัวพัดถล่มจีนแผ่นดินใหญ่ ภายในค่ำวันนี้ หรือไม่ก็เช้าวันพรุ่งนี้

สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ได้ออกคำเตือน กระแสลมที่พัดแรงบนเกาะโอกินาวะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุ"หมุ่ยฟ้า" ด้วยกำลังแรง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีรายงานต้นไม้หักโค่นใส่บ้านเรือนประชาชน โดยสื่อท้องถิ่นระบุว่ามีคนได้รับบาดเจ็บจากกระแสลมที่พัดแรง อย่างน้อย 29 คน และทำให้ประชาชนกว่า 6 หมื่นครัวเรือนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เที่ยวบินเกือบทั้งหมดในสนามิบนนาฮา ต้องถูกยกเลิก ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างอยู่ภายในสนามบินเป็นจำนวนมาก

สำหรับเส้นทางของพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" ก่อนหน้านี้ได้พัดถล่มทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ จากนั้นก็เคลื่อนตัวผ่านเกาะโอกินาวะของญี่ปุ่นก่อน และคาดกันว่าพายุไต้ฝุ่น"หมุ่ยฟ้า" กำลังมุ่งหน้าไปอย่างช้า ๆ ที่มณฑลเจอเจียง และ เจียงสู ของจีน ในค่ำวันนี้ หรือไม่ก็เช้าวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้ทางการจีน ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมรับมือ

โดยได้ประกาศเตือนภัยระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับเตือนภัยสูงสุดอันดับสอง ให้กับเหล่าชาวประมงนำเรือ กลับเข้าฝั่ง ขณะที่สายการบินไชน่า เซาธ์เทิร์น ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 140 เที่ยว ที่จะเดินทางไปภาคตะวันออก ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ และอพยพนักท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ออกจากพื้นที่เสี่ยง 

       
ขณะนี้พายุกำลังเคลื่อนตัวช้าๆ มุ่งสู่จีนแผ่นดินใหญ่แล้ว


-------------------------------

สลด! รถชนกันบนทางด่วนจีน ดับ 17 เจ็บ 4

เกิดอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน บนทางด่วนในมณฑลทางตอนใต้ของประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย และ บาดเจ็บอีก 4 คน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า ในช่วงรุ่งสางของวันเสาร์ที่ 6เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสามคันและรถตู้โดยสารชนกันบนทางด่วนในพื้นที่มณฑลเจียงซีของประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 12 ราย และมาเสียชีวิตที่ดรงพยาบาลอีก 5 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 4 คน โดยมีรายงานจากสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า อบัติเหตุเกิดเพราะ รถบรรทุกวิ่งไปชนท้ายรถคันหน้า แล้วพลิกคว่ำไปขวางเส้นทางเดินรถที่มีรถวิ่งสวนมาและเกิดการชนกันอีกครั้ง

อนึ่ง อุบัติเหตุรุนแรงทางการจราจรในประเทศจีนนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เรื่องจากพฤติกรรมการขับรถโดยประมาท การบรรทุกสินค้าเกิดกำหนด และสภาพถนนที่ย่ำแย่.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 00:50:27


ความคิดเห็นที่ 997 (1562505)

แม่ฮ่องสอน-การช่วยเหลือบางจุด อ.สบเมยยังเข้าไม่ถึง


วันเสาร์ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554
 

นายอำเภอสบเมยเร่งมอบถุงยังชีพให้การช่วยเหลือราษฏรที่ประสบภัยน้ำป่า ขณะที่การเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงสิ่งของไม่มีปัญหา หลายพื้นที่ประสบภัยเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ แต่อำเภอสบเมยบางจุดยังเข้าไม่ถึงเนื่องจากติดปัญหาเรื่องเส้นทาง

เจ้าหน้าที่เตรียมฟื้นฟูทั้งด้านจิตใจและสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหาย
นายศุภมิตร เลื่อนสุพรรณ นายอำเภอสบเมย ระบุว่า ล่าสุดนั้น การนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ส่งถึง โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยด้วยความปลอดภัยโดยมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 รายที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนต้องนำส่งโรงพยาบาล ท่าสองยาง ซึ่งใกล้สุด และ อีก 1 ราย เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลสบเมย

สำหรับ การเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงสิ่งของไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม บ.ปู่ทา ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จากเส้นทางเดิมซึ่งรถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางนำสิ่งของไปลงเรือที่ บ.แม่ตะวอ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งทาง หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 35 จะเป็นหน่วยรับสิ่งของต่อเพื่อนำไปหมู่บ้านที่ประสบภัย ซึ่งนำโดย พันเอก สุทัศน์ จารุมณี รักษาราชการ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 และ พันเอกคชาชาต บุญดี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 อำนวยการและสั่งการ ติดตามการปฏิบัติให้เป็นได้ด้วยความเรียบร้อย และ สามารถลำเลียงสิ่งของ การช่วยเหลืออื่น ๆ เข้าพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 00:51:51


ความคิดเห็นที่ 998 (1562506)

ปภ.ประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม28จังหวัด

ข่าวสังคม วันเสาร์ที่ 6 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 18:15 น.




ปภ.ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมฉุกเฉิน 28 จ. เสียชีวิต 17 คน สูญหาย 1

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมฉุกเฉิน 28 จ. 15 อำเภอ อาทิ แพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย นครพนม แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่าล้านคน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 619,723 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 17 คน ที่แม่ฮ่องสอน สูงสุด 7คน สูญหาย 1คน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 3 จ. ได้แก่ น่าน หนองคาย และประจวบคีรีขันธ์

ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 35 (ฉก.ทพ.35) ขนอาหาร ยา และน้ำดื่ม ช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งชาวไทย และชาวพม่า ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน บ้านแม่สลิดหลวง ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง หลังน้ำหลากท่วมจนถูกตัดขาดจากภายนอก ล่าสุดระดับน้ำลดลงบ้าง แต่ยังอยู่ในภาวะเชี่ยวกราก และเป็นอันตราย ทางด้านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่เขตเทศบาล และโรงพยาบาลแม่สอด จนสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว

ในขณะที่ จ.พิจิตร ปริมาณแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน อ.สามง่าม และ อ.โพธิ์ประทับช้าง มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต.สามง่าม และ ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม น้ำล้นตลิ่งไหล เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยที่บ้านรายชะโด ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของไปไว้บนชั้นสองของบ้านและบนถนน โดยเทศบาลเมืองพิจิตร เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ตลอดแนวของแม่น้ำในเขตเทศบาล เพื่อเตรียมรับมือกับน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

-----------------------------

 

สุโขทัย 3 อำเภออ่วมน้ำท่วมหนัก คาด 5 วันเข้าสู่ภาวะปกติ 
  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมยังคงขยายเป็นวงกว้าง มีรายงานความเสียหายจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุโขทัย สรุปล่าสุด พื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 9 อำเภอ 70 ตำบล 536 หมู่บ้าน ผลกระทบชาวบ้านจำนวน 76,265 คน 26,694 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 180,984 ไร่ โรงเรียนน้ำท่วม 10 โรงเรียน วัด 8 แห่ง โดยสถานการณ์น้ำท่วมหนักยังคงอยู่ใน อ.สวรรคโลก , อ.ศรีสำโรง และ บางส่วนของ อ.เมือง ระดับน้ำในแม่น้ำยมเริ่มลดลงอย่างช้า ๆ มีทีท่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องโดยทางจังหวัดคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่คงจะคลี่คลายอย่างรวดเร็วภายใน 5-7 วันที่จะถึงนี้

--------------------------------

อยุธยา-เร่งเทหินกว่า 2,000 ตันทำเขื่อนริมเจ้าพระยา


วันเสาร์ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554
 

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มอีก 100 ลบ.ม/วินาที กรมเจ้าท่าสั่งบริษัทเรือน้ำตาลล่มเร่งเทหินจำนวนกว่า 2,000 ตัน ทำเขื่อนป้องแนวตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาพังยาวกว่า 60 เมตร ขณะที่ตลิ่งริมเจ้าพระยาอีกหลายจุดเริ่มพังเช่นเดียวกัน

บ่ายวันนี้(6 ส.ค.) เขื่อนเจ้าพระยาที่จ้งหวัดชัยนาทได้เพิ่มการระบายลงมาท้ายเขื่อนด้วยความเร็วน้ำ 1,446 ลูกบาศม์เมตรต่อวินาที ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 100 ลูกบาศม์เมตรต่อวินาที แต่นับว่ายังโชคดีของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดที่อยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไม่ได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้สืบเนื่องจากน้ำทะเลหยุดหนุนทำให้ปริมาณน้ำที่ปล่อยระบายลงมาไม่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระสูงขึ้นในระยะนี้

แต่อย่างไรแล้วขอให้ประชาชนอย่าได้ประมาท เพราะสภาพธรรมชาติปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ถ้าน้ำทะเลหนุนขึ้นมาเมื่อไรระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะสูงขึ้นทันที ในขณะนี้ก็พบว่ามีแนวตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาหลายจุดเริมพังทลาย โดยที่ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองเพื่อรักษาตลิ่งหน้าบ้านของตัวเองโดยการซื้อหินก้อนขนาดใหญ่สำรองทิ้งทำแนวเขื่อนชั่วคราว

ในขณะเดียวกันกรมเจ้าท่าวันนี้ได้เร่งให้บริษัทเรือน้ำตาลล่ม ที่ทำให้แนวตลิ่งของชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา พังเป็นแนวยาวกว่า 60 เมตร น้ำกัดเซาะจนบ้านพังต้องรื้อย้ายหนีไปแล้ว 2 หลัง

ซึ่งในวันนี้ทางผู้ประกอบการเรือน้ำตาล ได้ใช้เรือโป๊ะขนาดใหญ่ขนย้ายบรรทุกแบคโฮ จำนวน 2 คัน เข้ามาจอดเทียบท่าบริเวณจุดที่แนวตลิ่งพัง เร่งดำเนินการตักขนย้ายก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนกว่า 2,600 คิว ทิ้งทำฐานเขื่อนแนวตลิ่งป้องกันดินพังทลายเพิ่ม โดยจะเร่งทำงานแข่งกับกระแสน้ำที่ไหลแรง คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์จึงจะดำเนินการทิ้งหินกันเป็นเขื่อนป้องกันแนวตลิ่งพังได้สำเร็จ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 01:07:03


ความคิดเห็นที่ 999 (1562507)

STEC

เป็นตัวย่อของเชื้อ

E.Coli สายพันธุ์หนึ่ง

ที่สร้างสารพิษที่ชื่อว่า Shiga Toxin จึงมีชื่อเต็มๆว่า Shiga toxin-producing Escherichia coli ซึ่งเชื้อนี้เป็นเชื้อต้นเหตุที่เป็นข่าวเรื่องการระบาดชองโรคท้องร่วงที่ยุโรปโดยเฉพาะที่ประเทศเยอรมันที่เป็นต้นตอ

เชื้อนี้จะทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และสารพิษที่สร้างขึ้นมีผลทำลายเยื่อบุต่างๆของอวัยวะภายใน ดังนั้นอาการเด่นคือท้องเสียรุนแรงและจะมีเลือดปนออกมากับอุจจาระด้วย

ความร้ายกาจของเชื้อนี้ไม่ได้อยู่ที่ทำใ
ห้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงเท่านนั้นแต่สารพิษจากเชื้อนี้ยังมีผลทำลายเยื่อบุอื่นๆด้วยโดยเฉพาะที่ไต เกิดสภาวะที่เรียกว่า Hemolytic Uremic Syndrome (HUS) ซึ่งจะทำให้ไตพังและตายได้ในที่สุด

ขณะนี้ที่เยอรมันมีผู้ป่วยเกิดอาการ HUS แล้วกว่า 700 ราย เสียชีวิตแล้ว 15 ราย

ดังนั้นผู้ที่กลับจากการเดินทางไปยุโรป หากมีอาการท้องเสียผิดปกติให้รีบไปพบอพทย์ทันที เชื้อนี้รักษาไม่ยากหากพบแต่เนิ่นๆ

หน้าตาของเชื้อ Shiga Toxic-producing E. coli O157:H7

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 01:14:49


ความคิดเห็นที่ 1000 (1562508)

แม่น้ำยมไหลท่วมอ.บางระกำ ระดับน้ำเพิ่มวันละ15ซม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพิษณุโลกวันที่ 6 สิงหาคม 2554 อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กำลังได้รับผลกระทบวงกว้าง แม่น้ำยมที่ท่วมจ.สุโขทัยเริ่มไหลมาลงสู่อ.บางระกำ และได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วเฉลี่ยวันละ 15 เซนติเมตร ส่งผลให้สภาพน้ำท่วมขยายวงกว้าง โดยเฉพาะบ้านวังกุ่ม ม.15 ต.บางระกำ จุดบรรจบของแม่น้ำยมกับคลองบางแก้ว แม่น้ำยมและน้ำจากคลองบางแก้วเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมท้องนาที่ต่ำจนหมดแล้ว ประชาชนต้องพึ่งเรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเพียงอย่างเดียว

โดยระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ Y 16 อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก วันที่ 6 สิงหาคม 2554 แม่น้ำยมมีความสูง 8.50 เมตร เพิ่มจากวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ที่วัดได้ 8.35 เมตร และสูงเกินกว่าจุดวิกฤติล้นตลิ่งที่ 7.15 เมตร และขณะนี้ ยังคงมีน้ำปริมาณมากกำลังไหลมาจากอ.เมืองและอ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย คาดว่าระดับน้ำในอ.บางระกำจะเพิ่มอีกเฉลี่ยวันละ 10 เซนติเมตร

-------------------------------------------------------------------------

โบสถ์เก่าสมัยกรุงศรีอยุธยาในเมืองปราจีนถูกน้ำเซาะใกล้ทรุดลงแม่น้ำปราจีนบุรี


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าอาวาสวัดกระแจ วอนผู้ใจบุญ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณะโบสถ์งสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หลังถูกแม่น้ำปราจีนฯ กัดเซาะใกล้ทรุดลงตัวแม่น้ำ

วันนี้(6 ส.ค.) พระครูสมุห์จุฬา รักขิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดกระแจะ หมู่ 5 ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าชมสภาพพระอุโบสถหลังเก่าของวัดกระแจะ ซึ่งก่อสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายที่ถูกคุ้งน้ำกัดเซาะจนเหลือเฉพาะกำแพง 4 ด้านและพระประธานในพระอุโบสถ โดยเหลือระยะห่างตลิ่งเพียงวาเศษปัจจุบันมีสภาพใกล้ทรุดตัวลงแม่น้ำปราจีนบุรี

ทั้งนี้ พระอูโบสถหลังเก่า เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งทรงเคยใช้เป็นที่พักทัพหลังฝ่ากองทัพพม่า ก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองจันทบุรี

“ขณะนี้ต้องการให้ผู้ใจบุญ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาดูแลและบูรณะโบสถ์ที่กำลังจะทรุดตัวลงยังแม่น้ำ ด้วยการสร้างแนวเขื่อนป้องกันเพื่อรักษาหลักฐานทางโบราณคดีดั ”พระครูสมุห์จุฬา กล่าว




ที่มา: ผู้จัดการ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-07 01:19:48



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.