ทำไปได้!รถบรรทุกพุ่งทะลุกำแพงห้อยต่องแต่งบนอาคาร

เดอะซัน - สื่ออังกฤษนำเสนอภาพอุบัติเหตุแบบแปลกๆ รถบรรทุกคันหนึ่งอยู่ในสภาพห้อยหัวแกว่งไปแกว่งมาจากชั้น 2 ของอาคารแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก สหรัฐฯ หลังคนขับคุมรถไม่อยู่ขับกำแพงจนทะลุแต่โชคดีที่รอดชีวิตแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

เจ้าหน้าที่ใช้รถบันไดดับเพลิงช่วยคนขับวัย 56 ปีรายนี้ออกมาได้ หลังรถบรรทุกของเขาไถลพุ่งชนทะลุกำแพงของศูนย์ซ่อมรถแห่งหนึ่ง แต่โชคดีที่มันหยุดทันเวลาหลังตัวรถผ่านพ้นผนังของอาคารมาได้ครึ่งคัน

เกิดเหตุเครื่องบินลำแดงชนขณะแสดงโชว์การบิน ในงาน Bournemouth Air Festival

คาดตกใกล้บริเวณสนามบิน Bournemouth




Downed: A rescuer is seen at the site of the crash, just south of Bournemouth Airport


 

-----------------------------------------------

เกิดเพลิงป่าเผาวอดพุ่มไม้กินพื้นกว่า 136 เอเคอร์ ใน Round Mountain เท็กซัส

โดยเจ้าหน้าที่เร่งเข้าดับเพลิงกว่าอีก 75% ที่เพลิงยังคงลุกลาม ไม่พบรายงานบ้านเรือนเสียหายเบื้องต้น

 

----------------------------------------------------------------------

เมืองพิตซ์เบิร์กของสหรัฐ

ถูกพายุ 2 ลูกพัดถล่ม

เมืองพิตซ์เบิร์กของสหรัฐถูกพายุ 2 ลูกพัดถล่มอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลัน 4 รายเป็น สตรี 2 ราย เด็กอีก 2 ราย และทำให้เมืองกลายเป็นเมืองบาดาลรถยนต์นับ 10 คันต้องจมอยู่ใต้น้ำ โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยถูกตัดไฟฟ้า เจ้าหน้าที่บอกว่า เหตุน้ำท่วมฉับพลันในรัฐเพนซิลวาเนีย ทำให้ระดับน้ำพุ่งสูงถึง 9 ฟุต บนถนนสายวอชิงตัน บูเลวาร์ด ในเขตไฮแลนด์พาร์ค ที่อยู่ขนานกับแม่น้ำอัลเลอแกนนี
ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยสาธารณะประจำเมืองพิตซ์เบิร์ก บอกว่าชาวเมืองที่สัญจรไปมาด้วยรถยนต์ต้องว่ายน้ำหนีเอาตัวรอดอย่างทุลักทุเล สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นสตรี 1 ราย และเด็ก 2 รายนั้น ติดอยู่ในรถที่ถูกน้ำพัดไปติดอยู่กับต้นไม้ และระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนท่วมหลังคารถ ส่วนหน่วยกู้ภัยได้แล่นเรือท้องแบนผ่านไปโดยไม่รู้ว่า มีรถยนต์หลายสิบคันถูกน้ำท่วมอยู่ข้างใต้
ส่วนหัวหน้าตำรวจประจำเมือง เนท ฮาร์เปอร์ บอกสื่อมวลชนว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 4 เป็นสตรีวัย 70 ปี จมหายไปกับกระแสน้ำ และตำรวจได้ช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในรถได้ทั้งหมด 11 คน บางส่วนกำลังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล
แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่ถนนถูกปกคลุมไปด้วยโคลน จึงต้องปิดถนนต่อไปอีกจนถึงวันนี้ และเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำความสะอาดและเก็บกวาดซากรถที่ลอยค้างอยู่กลางถนน
สนามบินนานาชาติเมืองพิตส์เบิร์ก ต้องยกเลิกเที่ยวบินชั่วคราว หลังเกิดฟ้าผ่าอย่างต่อเนื่อง และโรงพยาบาล 2 แห่ง ในเมืองโอคแลนด์ต้องใช้เครื่องปั่นไฟเป็นเวลานาน เนื่องจากถูกพายุพัดถล่มเช่นกันจนเกิดไฟฟ้าดับ

ชัยนาท-อ.สรรพยา ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม 3 ตำบล

จังหวัดชัยนาทประกาศให้อำเภอสรรพยา ในพื้นที่ 3 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเนื่องจากอุทกภัย

นายปรีชา ทองคำ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ประจำปี 2554 จังหวัดชัยนาท แจ้งว่าเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2554 ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ได้รับแจ้งจากนายประภาส วันเดีย นายอำเภอสรรพยาว่า ได้เกิดเหตุน้ำท่วมขังพื้นที่นาข้าวของราษฎร จำนวน 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน รวมผู้ได้รับความเดือดร้อน 1,731 ครัวเรือน นาข้าวถูกน้ำท่วมขังประมาณ 10,400 ไร่

จากการตรวจสอบน้ำท่วมขังในพื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่ พบว่าเป็นน้ำที่ไหลบ่ามาจากอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ประกอบกับฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ และน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหนุนขึ้นสูง ทำให้น้ำที่ไหลมาไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ จึงได้ไหลเข้าท่วมขังในพื้นที่นาข้าวที่อยู่ระหว่างรอการเก็บเกี่ยว ในพื้นที่ 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ของอำเภอสรรพยา ประกอบด้วย ตำบลเขาแก้ว (หมู่ที่ 1-6) ตำบลโพนางดำออก (หมู่ที่ 1-8) และตำบลโพนางดำตก (หมู่ที่ 1-6) เป็นเหตุให้เกษตรกรได้รับผลกระทบ 1,731 ครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 10,400 ไร่

เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว นายจำลอง โพธิ์สุข ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย

เขื่อนแก่งเสือเต้น ไม่ช่วยน้ำท่วม เก็บน้ำได้แค่ 20%

สทอภ.เสนอ นายกรัฐมนตรี หลังพบภาพถ่ายดาวเทียมลุ่มน้ำยมสามารถเก็บน้ำได้เพียง 10%-20% ชี้ สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ไม่ได้ช่วยน้ำท่วม ชี้ ต้นเหตุที่แท้จริง คือพื้นที่ป่าลดลง...

ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า สทอภ.เตรียมนำข้อมูลแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมลุ่มน้ำยมเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เตรียมแผนป้องกันอุทกภัยที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีมเป็นประธานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เนื่องจากปัญหาอุทกภัยในเขตภาคเหนือตอนล่างโดยเฉพาะสุโขทัย อุตรดิตถ์ และน่าน จนเกิดการเรียกร้องให้มีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังข้อถกเถียงจากชาวบ้านและนักอนุรักษ์ที่จังหวัดแพร่ว่า ช่วยในการป้องกันน้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดสุโขทัยและอุตรดิตถ์ได้หรือไม่

ดร.อานนท์ กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลน้ำฝนที่ตกในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำยมพบว่าตั้งแต่ปี 2495-2523 ปริมาณน้ำฝนที่ตกไม่มีความสัมพันธ์กับระดับน้ำในแม่น้ำยมซึ่งหมายความว่าแม้ฝนตกมากขึ้นแต่ไม่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงจนท่วมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้

แต่ในช่วงปี 2533-2551 พบว่าหากมีฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าวระดับน้ำในแม่น้ำกลับสูงขึ้นตามปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ทั้งนี้สาเหตุอาจมาจากพื้นที่ป่าตอนบนลดลง รวมทั้งปริมาณตะกอนในแม่น้ำที่สะสมเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ภาพแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมลุ่มน้ำยมพบว่ามีลุ่มน้ำย่อยมากกว่า70สาขา ที่ไหลจากตอนเหนือลงมา และจุดทีสร้างเขื่อนก็อยู่นอกการกักเก็บของเขื่อนและอาจสามารถเก็บน้ำได้แค่ 10-20% เท่านั้น ดังนั้น จึงสรุปว่าถึงมีเขื่อนแก่งเสือเต้นไม่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้เลย

น้ำท่วมตลาดเก่าเมืองกบินทร์ทำประชาชน 200 หลังคาเรือน

เดือดร้อน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตลาดเก่าเมืองกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จมน้ำที่ไหลล้นฝั่งเข้าท่วมชุมชนที่อยู่ติดแม่น้ำ จนมีระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือนร้อน เทศบาลตำบลกบินทร์บุรีเร่งให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งอยู่บนต้นแม่น้ำปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างแควพระปรง กับแควหนุมานว่า น้ำได้ไหลล้นฝั่งท่วมชุมชนที่อยู่ติดต้นแม่น้ำ โดยมีระดับสูงกว่า 60 เซนติเมตร และมีชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเข้าท่วมจนต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนชั้นที่ 2ของตัวบ้าน

นอกจากนี้ น้ำได้เริ่มไหลล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏร ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านต้องนำเรือไว้สำหรับบรรทุกและสัญจนไปมา แทนการใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ในเบื้องต้นเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี ได้นำข้าวสาร อาหารแล้งและน้ำดื่มออกแจกจ่ายประชาชน พร้อมจัดเรือท้องแบน 2 ลำไว้บริการในชุมชนอีกด้วย

ยันเขื่อนสิริกิติ์ยังปลอดภัย

รับน้ำได้อีก 10%

พร่องน้ำ 57 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

อุตรดิตถ์ - ผช.ผอ.เขื่อนสิริกิติ์ เผยปริมาณน้ำในเขื่อนยังรับได้อีก 10 % วางแผนปล่อย 57 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ยันเขื่อนยังแข็งแรงดี

นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ถือว่ามีปริมาณน้ำมาก ระดับน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 157.63 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง และเขื่อนสิริกิติ์ยังคงสามารถรับน้ำได้อีก 10% หรือ 1,096.83 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแผนการปล่อยน้ำ 57 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า เขื่อน ยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี มีความปลอดภัยสูง และได้บริหารการระบายน้ำโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเขื่อน และการบรรเทาอุทกภัยด้านท้ายน้ำ ตามแผนของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย หากได้รับข้อมูลที่น่าสงสัยว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 0 - 5544 - 1840 ตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำเหนือไหลบ่า กรุงเก่าจมน้ำสูงกว่า 2 เมตร
 

น้ำเหนือไหลบ่าหนัก 7 กรุงเก่าอ่วม จมใต้บาดาลสูงกว่า 2 เมตร ไร่นาเสียหายหนัก ชาวบ้านเร่งขนของย้ายขึ้นที่สูง...

วันที่ 20 สิงหาคม 2554 นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.ว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ที่บริเวณหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาไหลมารวมกันแล้วไหลลงสู่ อ.บางปะอิน อ.บางไทรแล้วไหลผ่าน จ.ปทุมธานี

โดยมีนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.อยุธยา และนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยาให้การต้อนรับและกล่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทได้ปล่อยน้ำมาที่ท้ายเขื่อน 1870 ลบม./วินาที ทำให้ระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง10-20 ซ.ม.ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียน และสถานที่ราชการที่ตั้งอยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำได้รับความเดือดร้อนจำนวน 7 อำเภอได้แก่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.มหาราช อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร ระดับน้ำท่วมขังสูง 50-140 ซ.ม.ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหายจำนวน 24,314 ไร่ ชาวบ้านขนของไว้ที่สูง จึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอเร่งช่วยเหลือประชาชนโดยมีเงินฉุกเฉินสำรองช่วยเหลืออำเภอละ 1 ล้านบาท

ส่วนสถานที่น่าเป็นห่วงคือ พระตำหนักสิริยาลัย วัดไชยวัฒนาราม วัดธรรมมาราม ระดับน้ำเหลืออีกเพียง 40 ซ.ม.จะล้นตลิ่ง อ.บางบาล น้ำจากคลองบางหลวงและคลองบางบาล ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน อย่างหนักที่ ต.บางหัก ต.บางหลวง ต.บางหลวงโดด ต.วัดตะกู ต.ไทรน้อย น้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องหนุนของหนีน้ำขึ้นอีกครั้ง บางส่วนอพยพไปอาศัยอยู่ริมถนนพร้อมกับสัตว์เลี้ยง

ส่วนที่ อ.เสนา น้ำจากแม่น้ำน้อยยังไหลทะลักท่วมตลาดเสนา(ตลาดบ้านแพน)เพิ่มสูงขึ้นราว 30-60 ซ.ม.ชาวบ้านและร้านค้าต้องขนของหนีและย้ายไว้ที่สูงส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่แม่น้ำน้ำท่วมสูงกว่า 160 ซ.ม. ระดับน้ำที่หน้าประตูระบายน้ำคลองขนมจีน ต.สามกอ สูงกว่า3 เมตร ต้องรอชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวก่อนสิ้นเดือนนี้ อ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าคลองเมืองรอบเกาะเมืองอยุธยาไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองต้องขนของและสัตว์เลี้ยงหนีไว้ที่สูง

ต่อมา นายวิทยา บุรณศิริ รมต.ว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจดูน้ำท่วมที่บริเวณวัดจุฬามณี ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล โดยมีนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปร่วมพร้อมแจกถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกอภัยน้ำท่วมจำนวน 1,350 ชุด จากนั้น ได้เดินทางไปตรวจที่ อ.บางปะอิน พร้อมแจกถุงยังชีพอีกจำนวน 300 ชุด และตรวจดูน้ำที่บริเวณวัดไชยวัฒนาราม

นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า สถานการณ์การน้ำท่วมที่อยุธยาซ้ำซาก สมัยโบราณมีการขนส่งทางน้ำ น้ำไหลหลากก็ท่วมเป็นประจำ การจัดการน้ำเมื่อก่อนทำนาปี พอจัดการบริหารน้ำดี ชาวนาทำนาปลัง และบางที่ก็ทำนาตลอดทั้งปี ดังนั้นเจ้าหน้าที่กรมชลประทานจัดการบริหารน้ำให้ดีน้ำก็จะไม่ท่วม ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องหันไปคิดย้อนหลังและแก้ไข

ผู้ว่าฯ อุบล ระบุ 10 อำเภอ ประสบภัยน้ำท่วมกว่า 1 แสนคน เดือดร้อน

นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 10 อำเภอ 40 ตำบล 548 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 27,304 ครัวเรือน ทั้งสถานที่ราชการ พื้นที่การเกษตร บ่อปลา สะพาน ถูกน้ำท่วมเสียหายหลายแห่ง ทั้งนี้ได้มีอำเภอที่ถูกน้ำจากแม่น้ำโขงหนุนสูง ได้แก่ อ.เขมราฐ, นาตาล, ศรีเมืองใหม่, โขงเจียม, โพธิ์ไทร, กุดข้าวปุ้น, ตระการพืชผล พื้นที่ถูกน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม ได้แก่ อ.เมือง, เดชอุดม, ดอนมดแดง ขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือทุกภาคส่วน โดยได้รับความร่วมมือมอบเรือท้องแบน ให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ได้สัญจรไปมา มอบถุงยังชีพแก่ราษฎร ผู้ประสบภัย พร้อมทั้งได้ออกสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม

น้ำเอ่อเข้าอ่างทอง เร่งสร้างคันกั้นตลอดแนวแม่น้ำ

 

ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวภูมิภาค 20 สิงหาคม 2554, 20:46 น.


ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้น ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ใน จ.อ่างทอง ต้องเร่งระบายน้ำออก  และสร้างคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่เร่งออกให้ความช่วยเหลือ ปชช. ที่ไม่สามารถอาศัยในบ้านได้ ...

วันที่ 20 ส.ค. ที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้น และกระแสน้ำได้ผุดทะลุพื้นดินไหลทะลักเข้าท่วมในวัดชัยมงคล ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง พระครูวิเศษชัยวัฒน์ เจ้าอาวาสต้องนำเครื่องสูบน้ำออก ขณะเดียวกันเทศบาลเมืองอ่างทอง ได้ระดมกำลังชมรมสามล้อแดง ช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อสร้างคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งก่ออิฐเสริมความสูงผนังกั้นน้ำเลียบเขื่อนริมแม่น้ำในเขตเทศบาลตลอดทั้งแนว นอกจากนั้นยังมีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมตลิ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทองแล้วด้วย

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง รับแจ้งว่ามีกระแสน้ำจากคลองลำท่าแดงไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว ต.ศาลาแดง ต.คลองวัว และต่อเนื่องไปจนถึง ต.มหาดไทย อ.เมืองอ่างทอง จมมิดเสียหาย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับเกษตรกรช่วยกันกรอกกระสอบทรายสร้างคันกั้นน้ำล้อมเอาไว้พร้อมทั้งระดมเครื่องสูบน้ำของเกษตรกรที่มีอยู่ช่วยกันสูบน้ำออก เพื่อไม่ให้ต้นข้าวที่เพิ่งออกรวง ต้องถูกน้ำท่วมจมมิดได้รับความเสียหายทั้งหมด

ส่วนที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อคืนที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 50 ซม. ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรขยายวงกว้างออกไปที่หมู่ 4-5-6 นอกจากนั้นยังถูกน้ำบางส่วนที่ไหลย้อนมาจากบ้านบางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตลบหลังเข้าท่วมซ้ำ ทำให้ระดับน้ำยิ่งไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ได้นำเรือพลาสติกจำนวน 60 ลำ และเต็นท์พักอาศัยกว่า 100 เต็นท์ พร้อมทั้งส้วมลอยน้ำไปเตรียมติดตั้งเพื่อช่วยเหลือประชาชนในตำบลโผงเผง หากถูกน้ำท่วมบ้านเรือนจนไม่สามารถพักอาศัยไ

น้ำเอ่อเข้าอ่างทอง เร่งสร้างคันกั้นตลอดแนวแม่น้ำ

 

ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวภูมิภาค 20 สิงหาคม 2554, 20:46 น.


ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้น ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ใน จ.อ่างทอง ต้องเร่งระบายน้ำออก  และสร้างคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่เร่งออกให้ความช่วยเหลือ ปชช. ที่ไม่สามารถอาศัยในบ้านได้ ...

วันที่ 20 ส.ค. ที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้น และกระแสน้ำได้ผุดทะลุพื้นดินไหลทะลักเข้าท่วมในวัดชัยมงคล ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง พระครูวิเศษชัยวัฒน์ เจ้าอาวาสต้องนำเครื่องสูบน้ำออก ขณะเดียวกันเทศบาลเมืองอ่างทอง ได้ระดมกำลังชมรมสามล้อแดง ช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อสร้างคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งก่ออิฐเสริมความสูงผนังกั้นน้ำเลียบเขื่อนริมแม่น้ำในเขตเทศบาลตลอดทั้งแนว นอกจากนั้นยังมีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมตลิ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทองแล้วด้วย

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง รับแจ้งว่ามีกระแสน้ำจากคลองลำท่าแดงไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว ต.ศาลาแดง ต.คลองวัว และต่อเนื่องไปจนถึง ต.มหาดไทย อ.เมืองอ่างทอง จมมิดเสียหาย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับเกษตรกรช่วยกันกรอกกระสอบทรายสร้างคันกั้นน้ำล้อมเอาไว้พร้อมทั้งระดมเครื่องสูบน้ำของเกษตรกรที่มีอยู่ช่วยกันสูบน้ำออก เพื่อไม่ให้ต้นข้าวที่เพิ่งออกรวง ต้องถูกน้ำท่วมจมมิดได้รับความเสียหายทั้งหมด

ส่วนที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อคืนที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 50 ซม. ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรขยายวงกว้างออกไปที่หมู่ 4-5-6 นอกจากนั้นยังถูกน้ำบางส่วนที่ไหลย้อนมาจากบ้านบางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตลบหลังเข้าท่วมซ้ำ ทำให้ระดับน้ำยิ่งไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ได้นำเรือพลาสติกจำนวน 60 ลำ และเต็นท์พักอาศัยกว่า 100 เต็นท์ พร้อมทั้งส้วมลอยน้ำไปเตรียมติดตั้งเพื่อช่วยเหลือประชาชนในตำบลโผงเผง หากถูกน้ำท่วมบ้านเรือนจนไม่สามารถพักอาศัยไ

ยอดผู้ป่วยน้ำท่วมพุ่ง 40,000ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย61ราย

วิทยา” เผยพิษน้ำท่วม 25 วัน ยอดผู้ประสบภัยป่วยพุ่งกว่า 40,000 ราย  ซึมเศร้า 254 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 61 ราย...

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่วัดจุฬามณี อ.บางบาล มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 7,863 หลังคาเรือน

ทั้งนี้นายวิทยา กล่าวว่า  ได้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 เช่นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ จำนวน 200 คนฟรี เนื่องจากผู้ประสบภัยออกไปรับบริการที่โรงพยาบาลยากลำบาก  

นายวิทยากล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ มีน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่ง 6 อำเภอ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา บางไทร บางบาล บางปะอิน ผักไห่ และเสนา ผู้ประสบภัยประมาณ 10,000 คน มีสถานบริการสาธารณสุขถูกน้ำท่วม 1 แห่ง คือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางหลวงโดด อ.บางบาล น้ำท่วมใต้ถุน 50 เซนติเมตร แต่ยังให้บริการประชาชนได้ตามปกติ ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยต่อเนื่อง และ เน้นป้องกันการเจ็บป่วย เช่นโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด รวมทั้งโรคระบาด เช่น โรคอุจจาระร่วง เป็นต้น โดยได้จัดเตรียมเรือสำหรับออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 62 ลำ เสื้อชูชีพให้เจ้าหน้าที่ใช้ออกปฏิบัติงาน 168 ตัว  

นายวิทยากล่าว ต่อว่า ผลจากน้ำท่วมในภาพรวม ตั้งแต่วันที่27 กรกฎาคม 2554 จนถึงวันนี้รวม 25 วัน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุขได้ให้การตรวจรักษา ผู้ประสบภัยใน 16 จังหวัดแล้ว 44,686 ราย สาเหตุเกิดจากโรคน้ำกัดเท้ามากเป็นอันดับ1 รองลงมาคือ ไข้หวัด ปวดเมื่อย และบาดแผลเล็กๆน้อยๆจากอุบัติเหตุ จากการขนของหนีน้ำ ผลการดูแลด้านจิตใจ หน่วยแพทย์ได้ตรวจคัดกรอง พบผู้ประสบภัยร้อยละ 10 มีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ที่พบได้ทั่วๆไปหลังประสบภัย โดยมีความเครียดสูง 125 ราย ซึมเศร้า 254 ราย เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 61 ราย ซึ่งต้อง ติดตามดูแลเป็นพิเศษจำนวน 106 ราย ได้กำชับได้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่ ให้การดูแล เยี่ยมเยียนจนกว่าระดับความเสี่ยงจะลดลง  

สำหรับการให้ความช่วยเหลือการแพทย์และสาธารณสุขแก่ผู้ประสบภัยทั้งหมด กระทรวงสาธารณสุขได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้ส่วนกลางสำรองยาเวชภัณฑ์รักษาโรค 600,000 ชุด รองเท้าบู๊ทยาง ป้องกันโรคฉี่หนู 24,000 คู่ และเคมีภัณฑ์เช่นสารส้ม คลอรีน ปูนขาว เพื่อใช้ฟื้นฟูความสะอาดบ้านเรือน ตลาดสด ภายหลังน้ำลด เพื่อส่งสนับสนุนให้จังหวัดต่างๆอย่างเพียงพอ ที่ผ่านมาได้ส่งยาให้พื้นที่น้ำท่วมไปแล้ว 245,500 ชุด มูลค่า 16 ล้านกว่าบาท

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการศึกษา
20 สิงหาคม 2554, 20:00 น.

ผจว.ลำปางนำงบ​50ล.ช่​วยปชช.ถูกน้ำท่​วม

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 21:14 น.




สถานการณ์น้ำท่วมลำปาง คลี่คลาย อยู่ในช่วงฟื้นฟูพื้นที่เสียหาย ผู้ว่าฯ อนุมัติงบช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย

นายกฤษเพชร เพชรบูรณนิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง 13 อำเภอ ถือว่า เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนพื้นที่ต่าง ๆ หลังถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการฟื้นฟู ส่วน ผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง ได้อนุมัติงบฉุกเฉิน 50 ล้านบาท ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ไปแล้ว 13 อำเภอ อำเภอละ 1 ล้านบ้าน รวม 13 ล้านบาท ซึ่งยังคงเหลือเงินอีก 37 ล้านบาท ซึ่งหากพื้นที่ใด นำงบเบื้องต้นไปใช้แล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ ก็จะมีการพิจารารณา
คณะกรรมการของ จ.ลำปาง เพื่อพิจารณาเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติมให้อีก
Link : ผจว ลำปางนำงบ​50ล ช่​วยปชช ถูกน้ำท่​วม

--------------------------------

สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ยังขยายวงกว้าง

20 ส.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ยังขยายวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม เนื่องจากยังคงมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ชาวสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเดือดร้อนจากน้ำที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร  ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ทั้งยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนหลายครอบครัว ต้องอพยพไปอาศัยถนน นอนชั่วคราว  ถนนหลายสายถูกตัดขาด

แม่น้ำกวงที่ไหลผ่านจังหวัดลำพูน ยังทะลักเข้าท่วมเขตอำเภอเมืองลำพูน ซึ่งล่าสุดขยายวงกว้างเป็น 6 ตำบลแล้ว สาเหตุมาจากฝนที่ตกติดต่อกันต่อเนื่องตลอด 2 วัน 2 คืน ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงต้องนำกระสอบทรายมาวางเสริมเป็นแนวป้องกัน ขณะที่น้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ และไหลเชี่ยวกราก  จังหวัดได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มใกล้น้ำกวง และพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขา และทางน้ำไหลผ่านเคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหาย

ส่วนที่จังหวัดพิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังน้ำเหนือก้อนใหญ่จากจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลกไหลลงมาสมทบ และถือว่าน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในพื้นที่ก็ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

แต่ที่จังหวัดสุโขทัย น้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย บางจุดระดับน้ำลดลง แต่ก็มีคันดินริมตลิ่งกั้นแม่น้ำยมพังเสียหายกว่า 10 จุดในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเร่งซ่อมแซมโดยด่วน ก่อนที่น้ำก้อนใหม่จะทะลักเข้ามาอีกรอบ

และเพื่อป้องกันน้ำท่วมในภาคกลาง เขื่อนเจ้าพระยาได้เร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อน  ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และทะลักเข้าท่วมตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง   

ที่จังหวัดสกลนคร  ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมในอำเภอเมืองและเต่างอย แต่กลับยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ทั้งที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ชาวบ้านต้องรวมตัวช่วยเหลือกันเอง ในการขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล

ส่วนภาคตะวันออกที่จังหวัดจันทบุรี แม้ยังไม่เกิดน้ำท่วม แต่ก็ได้สั่งเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำจันบุรี เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ต้นน้ำ เขตอำเภอเขาคิชฌกูฎ และอำเภอมะขามทุกวัน พร้อมกับน้ำธงสัญลักษณ์เตือนภัย มาติดบริเวณสะพานวัดจันทนารามและตรีรัตน์ ให้ประชาชนใช้เป็นจุดสังเกต

สำนักข่าวไทย

สถานการณ์น้ำท่วมหนักหลายจังหวัด วันที่ 20/08/54

น้ำท่วม 4 อภ.นครสวรรค์ ยังอ่วม

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 20:33 น.


แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4 อำเภอ จ.นครสวรรค์ จมบาดาล ปชช. เดือดร้อน 8,383 ครัวเรือน มอบอำเภอละ 1 ล้านบาท ช่วยเหลือ

นายคำรณ อิ่มเนย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครสวรรค์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่น้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้ 4 อำเภอ ซึ่งได้มีการแจกจ่ายถุงยังชีพไปแล้ว 4,200 ชุด และแจกจ่ายกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมไปแล้ว 160,000 กระสอบ และได้ระดมเครื่องสูบน้ำติดตั้งในพื้นที่น้ำท่วมแล้ว ในส่วนความเสียหาย พบ มีบ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบแล้ว 8,383 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 54,236 ไร่ ทั้งนี้ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากการที่ เขื่อนภูมิพล พร่องน้ำลงมา เพื่อรองรับน้ำเหนือระลอกใหม่

ส่วนงบประมาณ 50 ล้านบาทของทางจังหวัด ขณะนี้ ยังเพียงพอต่อการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ มอบอำนาจให้กับนายอำเภอ อำเภอละ 1 ล้านบาท ใช้ช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ นายอำเภอ สามารถเบิกงบเพิ่มเติมได้ หากไม่เพียงพอ ขณะเดียวกัน กรมอุตุฯ ได้ให้ข้อมูลว่า ร่องความกดอากาศ จะพาดผ่าน จ.นครสวรรค์ ซึ่งทำให้ทางจังหวัดนครสวรรค์ มีฝนตกชุกอีกครั้ง ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนแล้ว

Link : http://www.innnews.co.th/น้ำ

--------------------------------------------------

พิจิตร อ่วมซ้ำ นาข้าว

จมน้ำ 2 แสนไร่

น้ำยม เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลัง น้ำเหนือไหลสมทบ จมบาดาลแล้ว 8 อำเภอ น้ำไหลเชี่ยวกราก ซัดพนังกั้นน้ำพัง ชาวพิจิตร เดือดร้อนหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมของ จ.พิจิตร ล่าสุด ยังคงวิกฤติหนัก หลังจากน้ำจาก จ.สุโขทัยและพิษณุโลก ไหลบ่ามาตามลำน้ำยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงขึ้นอย่ารวดเร็ว ซึ่งทำให้พื้นที่ที่มีน้ำท่วมอยู่แล้ว มีน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นและแผ่นขยายเป็นวงกว้างออกไป ขณะนี้ น้ำท่วมแล้ว 8 อำเภอ นาข้าว จมอยู่ใต้น้ำกว่า 200,000 ไร่อยากที่จะกอบกู้สถานการณ์ได้ และล่าสุด กระแสน้ำได้ไหลแรงเชี่ยวกราก กัดเซากระสอบทรายที่ ทางเทศบาล ต.สามง่าม ได้ทำเป็นพนังกั้นน้ำสูง เกือบ 1 เมตร เพื่อป้องกันน้ำเข้าชุมชนและตลาด ได้พังทลายลง ทำให้มวลน้ำและปริมาณน้ำมหาสาร ได้ไหลทะลักเข้าท่วมอาคารบ้านเรือน ร้านค้าชุมชนตลาดเก่า อ.สามง่าม อย่างรวดเร็ว ประชาชนแม่ค้าพ่อค้า ต่างเร่งเก็บสิ่งของหนีน้ำกันอย่างอลม่าน

เตือนภัย"ฮาร์วีย์" จะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 สิงหาคม 2554 14:54 น. 

       ศูนย์บริการสถานการณ์ฉุกเฉินอเมริกากลางประกาศเตือนภัยพายุโซนร้อน "ฮาร์วีย์" วันนี้ และคาดว่าพายุลูกดังกล่าวจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคน ระหว่างเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงผ่านทะเลแคริบเบียน
        ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นเอสซี รายงานว่า พายุฮาร์วีย์มีความเร็วลมสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ และกำลังเคลื่อนไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 9 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่งผลให้ประเทศเบลีซ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเม็กซิโก ประกาศเตือนภัยพายุโซนร้อน
        นอกจากนี้ อิทธิพลของพายุยังทำให้เกิดฝนตกหนักที่นิการากัวด้วย
        ด้านเอ็นเอชซี กล่าวว่า คาดว่าลมที่มีกำลังแรงระดับเฮอร์ริเคนจะพัดอยู่เหนือหมู่เกาะเบย์ หรือเบย์ ไอส์แลนด์ ก่อนพัดถึงชายฝั่งเบลีซและคาบสมุทรยูคาทาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโกในวันนี้

--------------------------

(20 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีคลิปวิดีโอที่ระบุเป็นภาพยูเอฟโอกำลังบินว่อน อยู่เหนือท้องฟ้า ใกล้เมืองฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ในอังกฤษ ซึ่งสอดคล้องกับคำเล่าของ ผู้ประกาศสถานีวิทยุบีบีซี ไมค์ ซีเวลล์ ที่เคยเล่าเรื่องดังกล่าวออกอากาศผ่านรายการวิทยุของตัวเองจนเป็นที่ฮือฮา

โดยตามรายงานระบุว่า ภาพวิดีโอที่ถูกนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูป แสดงให้เห็นวัตถุบางอย่าง ที่มีลักษณะกลมและส่องแสง เคลื่อนที่ผ่านไปมาเหนือท้องฟ้า บริเวณถนนทางหลวงสายหลักของอังกฤษ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยันคำพูดของ ไมค์ ซีเวลล์ ที่เคยเล่าเรื่องผ่านรายการวิทยุ จนทำให้คนอังกฤษต่างฉงนสงสัยตามกัน เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ถึงแม้เหตุการณ์และสถานที่จะสอดคล้อง แต่ก็ยังเกิดข้อสงสัยในเรื่องของวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากผู้ประกาศหนุ่มได้เปิดเผยว่า เขามองเห็นแสงดังกล่าวในช่วงเช้าของวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ขณะคลิปวิดีโอดังกล่าวระบุวันที่อัพโหลดเผยแพร่ในยูทูปวันที่ 29 ก.ค. อย่างไรก็ตาม คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ตทั่วโลก และยังไม่มีการยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวคือสิ่งใด

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีของเกาหลีใต้ ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอที่ชาวเมืองเดจอน ทางตอนกลางของประเทศ สามารถบันทึกภาพวัตถุประหลาดเอาไว้ได้ ซึ่งวัตถุดังกล่าว เคลื่อนที่อยู่เหนือท้องฟ้าของเมือง ช่วงค่ำของวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนหลายรายพบเห็นเหมือนกัน ซึ่งวัตถุดังกล่าว มีลักษณะเป็นดวงไฟกลม ส่องแสงเคลื่อนที่ราว 30 นาที

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยว่า เรดาห์ตรวจจับ ไม่พบวัตถุใดๆ บินอยู่เหนือน่านฟ้าเมืองเดจอนในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งได้สร้างความสนใจแก่คนเกาหลีเป็นอย่างมาก
 

UFO ที่อังกฤษ

 

 

UFO ที่เกาหลีใต้

น้ำป่าจากเทือกเขาดอยนางนอน

ซัดเด็ก2ขวบหาย
 

ยูเอสจีเอสรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.5 ริกเตอร์ ที่ประเทศหมู่เกาะวานูอาตู ทางตะวันออกของออสเตรเลีย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย และการเตือนภัยสึนามิ...

สำนักข่าวต่างประเท ศรายงานวันที่ 21 ส.ค. โดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอส ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐวานูอาตู ประเทศหมู่เกาะ ซึ่งห่างจากประเทศออสเตรเลียไปทางตะวันออกราว 1,750 กิโลเมตร โดยวัดระดับความรุนแรงได้ 7.5 ริกเตอร์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย และการเตือนภัยสึนามิ แต่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในเขตทะเลแปซิฟิก เผยว่า แผ่นดินไหวความรุนแรงขนาดนี้ บางครั้งอาจทำให้เกิดสึนามิ ซึ่งสร้างความเสียหายให้พื้นที่รัศมี 100 กิโลเมตร จากจุดเกิดแผ่นดินไหว

โดยข้อมูลระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว อยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 40.6 กิโลเมตร ห่างจากกรุงพอร์ตวิลลา เมืองหลวงของประเทศ เพียง 62 กิโลเมตร และแรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ถึงเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,852 กิโลเมตร

ทั้งนี้ มีข้อมูลสถิติจากดัชนีความสุขโลกของสถาบันจัดอันดับนิว อีโคโนมิคส์ ฟาวเดชัน ระบุว่า สาธารณรัฐวานูอาตู เป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

น้ำท่วมน่านสูง! สั่งปิดถนนขึ้นวัด"พระธาตุแช่แห้ง"

 

นายอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน สั่งปิดถนนทางวัดพระธาตุแช่แห้งชั่วคราว หลังน้ำท่วมผิวทางจราจร 30 เซนติเมตร เตือนประชาชนริมลำน้ำแก่นและลำน้ำเกี๋ยน เห็นน้ำมีสีแดง-ตะกอน ให้รีบอพยพขึ้นที่สูงทันที...

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายชนาธิป เสมแย้ม นายอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ได้กล่าวถึงระดับน้ำบริเวณถนนทางโค้งบ้านท่าล้อ ทางไปวัดพระธาตุแช่แห้ง น้ำท่วมผิวทางจราจร 30 เซนติเมตร ทำให้รถแล่นผ่านไปมาไม่ได้ จึงได้สั่งปิดถนนชั่วคราว ไปใช้เส้นทางอื่นก่อน ซึ่งทางอำเภอภูเพียง ก็ได้แจ้งเตือนทุกตำบลให้ระวัง โดยเฉพาะลำน้ำแก่นและลำน้ำเกี๋ยน ที่เป็นลำน้ำสายหลักที่ผ่าน เพราะว่าลำน้ำน่าน น้ำไม่สูง แต่ว่าลำน้ำสาขา จะเป็นน้ำป่าที่ค่อนข้างจะมาแรงและเร็ว เพราะฉะนั้นถ้าเห็นผิดสังเกต เช่น ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำมีสีแดงมีตะกอน ก็ขอให้ราษฎรได้อพยพขึ้นไปอยู่ที่สูงก่อน สำหรับความเสียหายยังไม่ทราบเป็นที่ชัดเจน ต้องรอระดับน้ำลดลงก่อน

ทางด้าน พล.ต.ชีวัน โหละบุตร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน ได้สั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็ว เตรียมความพร้อมกำลังพล 100 นาย ยุทธโธปกรณ์ เรือพระราชทาน สมเด็จพระเทพฯ ทั้ง 3 ลำ ยานพาหนะ พร้อมช่วยเหลือประชาชนทันทีที่ได้รับการร้องขอ

ทั้งนี้ นายธวัธ เพชรวีระ ปภ.จ.น่าน ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ 15 อำเภอ ได้ทราบสถานการณ์ ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรง ยังคงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะในภาคเหนือ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง จึงให้ทุกอำเภอได้แจ้งให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มบริเวณริมสองฝั่งน้ำ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในระยะ 1-2 วันนี้

ลำพูนน้ำท่วม 2 อำเภอ

21 สค. 2554 15:23 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ระดับน้ำแม่กวงอยู่ระดับที่ 5.53 เมตร เกิดน้ำท่วมลำพูนเพิ่มเป็น 2 อำเภอแล้ว ส่วนถนนเชื่อมระหว่างอำเภอถูกน้ำท่วมตัดขาดรถไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่บางแห่งน้ำท่วมสูงถึง 1.5 เมตรแล้ว โดยน้ำแม่กวงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 2 อำเภอ คืออำเภอเมืองลำพูน 6 ตำบล และ อำเภอบ้านธิ 1 ตำบล คือ

ตำบลบ้านธิและท่วมถนนเชื่อมระหว่างอำเภอเมืองลำพูน กับอำเภอบ้านธิ 2 แห่ง รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ส่งผลให้ประชาชนต้องเดือดร้อนใช้เส้นทางอื่นต้องอ้อมไปไกล อีกกว่า 10 กิโลเมตร ส่วนถนนในหมู่บ้าน และถนนริมแม่น้ำกวงไม่น้อยกว่า 10 สาย ตอนนี้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้แล้ว เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมถนนสูงกว่า 50 เซนติเมตร ส่วนในพื้นที่ลุ่มใกล้ลำน้ำที่ท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงกว่า 1.50 เมตร สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจำนวนกว่า 350 ครัวเรือน ต้องถูกน้ำท่วมบ้านเรือนและสวนผักผลไม้

โดยตลอดทั้งวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา ชาวบ้านในเขตอำเภอบ้านธิ หลายครอบครัวตื่นขึ้นมาพบว่าบ้านเรือนตนเองชั้นล่างถูกน้ำท่วม ต้องนำเตาอั้งโล ฟืน มาหุงหาอาหารกันบนที่สูงต้องวางบนม้านั่ง สูง จากน้ำกว่า 50 เซนติเมตรเนื่องจากน้ำมาด้วยความรวดเร็ว บางแห่งท่วมสูงถึงในตัวบ้านและห้องครัวเสียหายไม่สามารถหุงหาอาหารได้จนเทศบาลตำบลบ้านธิ นำเต็นท์มาตั้งเป็นจุดให้บริการประชาชน เพื่อแจกจ่ายน้ำและอาหารให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้

--------------------------

เขื่อนสิริกิติ์เตรียมปล่อยน้ำ เตือนชาวอุตรดิตถ์ระวังน้ำล้นตลิ่ง

นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจากทางเขื่อนสิริกิติ์ว่า ฝนที่ตกหนักจากจังหวัดน่าน ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนสิริกิติ์โดยตรงกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 89.49% สามารถรับน้ำได้อีกเพียง 10.51% ดังนั้นเขื่อนสิริกิติ์จึงจำเป็นต้องพร่องน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำดังกล่าว โดยเขื่อนสิริกิติ์จะเริ่มระบายน้ำจากที่ปล่อยน้ำปกติวันละ 57 ลบ.ม. เป็นวันละ 80 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจากการระบายน้ำดังกล่าว อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นกว่าปกติและอาจล้นตลิ่งได้ในระดับพื้นที่ที่มีระดับต่ำ โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอตรอน และอำเภอพิชัย ทั้งนี้ เพื่อความไม่ประมาทจึงขอให้ประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเก็บสิ่งของหรือสัตว์เลี้ยงไว้ที่สูง รวมทั้งจัดเตรียมสิ่งของอุปโภค บริโภค น้ำดื่ม ยารักษาโรค ของใช้จำเป็นต่าง ๆสำรองไว้ และมีความพร้อมในการอพยพ และขอให้ติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศจากกรมอุตินิยมวิทยาและการประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิด 

-----------------------------------

ปภ.สรุปพื้นที่น้ำท่วมยังอ่วม 13 จังหวัด
  
21 สค. 2554 12:54 น.

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวถึงภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ว่า ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ได้แก่ น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก เลยหนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 13 จังหวัด 98 อำเภอ 680 ตำบล 5,083 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 385,214 ครัวเรือน 1,156,666 คน มีผู้เสียชีวิต 37 ราย สูญหาย 1 คน โดยจังหวัดที่ยังประสบภัยได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ นครนายก พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อ่างทอง และปราจีนบุรี
นายวิบูลย์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กรมปภ.ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกล เรือท้องแบน รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำออกให้บริการในพื้นที่ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยดินโคลนถล่มสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ปภ.จะประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

น้ำชีล้นตลิ่งชาวชัยภูมิเร่งเกี่ยวข้าวหวั่นท่วมซ้ำซาก 
  
21 สค. 2554 12:46 น.

ชาวบ้านในเขตใกล้ลำน้ำชีไหลผ่าน 2 อำเภอ ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า และ ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ ต่างเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในนา หลังปริมาณน้ำชีหนุนสูงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว จำนวนมากกว่า 10,000 ไร่ เพราะต่างกลัวว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมซ้ำซากได้อีกในปีนี้ ต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำกันแทบตลอดทั้งคืน แม้ว่าในช่วงนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกัน ทั้งนี้ข้าวยังอ่อนไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้บางส่วนก็ดีกว่าปล่อยให้นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายทิ้งเปล่าโดยไม่ได้อะไรเลย ขณะที่สถานการณ์น้ำในลำน้ำชีเริ่มมีระดับน้ำหนุนสูงขึ้นต่อเนื่องจ่อทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตร นาข้าวเสียหาย ได้ตลอดเวลาช่วงนี้ซึ่งยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง
นายเลื่อน รักจินดา วัย 66 ปี ชาวบ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ และนายนิพล วรรณโพธิ์ วัย 29 ปี ชาวบ้านหางเรียง ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า กล่าวว่า ในช่วงนี้น้ำชีเริ่มหนุนสูงขึ้นมาต่อเนื่องใกล้ล้นตลิ่งเกือบทั้งหมดแล้ว คาดว่าระดับลำน้ำชีตลอดทั้งสายอยู่ที่ 16 เมตร ทำให้น้ำเริ่มไหลเข้าที่นาชาวบ้านจำนวนมากกว่า 10,000 ไร่ ในเขตรอยต่อ 2 อำเภอ หนักสุดในต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้าเชื่อมต่อ ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ ตอนนี้จำเป็นต้องเร่งหาติดต่อรถรับจ้างเกี่ยวข้าวที่สามารถเกี่ยวได้เร็วกว่า มาช่วยเกี่ยวข้าวในที่นาออกมาก่อนให้ได้ ดีกว่าปล่อยข้าวถูกน้ำท่วมโดยไม่ได้อะไรเลย ถึงแม้ข้าวยังอ่อนอยู่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยซึ่งบางส่วนยังพอนำไปขายได้ในราคาไม่เกินกก.ละ 7.80 บาท
ปีนี้สถานการณ์น้ำในลำชีค่อนข้างมาเร็วกว่าทุกปี และทุกครั้งเมื่อน้ำชีใกล้จ่อล้นตลิ่งน้ำจะมาเร็วมาก จนแทบตั้งตัวไม่ทันไม่เกินชั่งโมง ในเขตนี้จะถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรเป็นวงกว้างทั้งหมดทันที เหมือนเมื่อปีก่อนที่ผ่านมาเรารับมือไม่ทันนาข้าวที่นี่ถูกท่วมเสียหายโดยไม่ได้อะไรเลยทั้งหมด และมาในปีนี้หากปล่อยไว้เช่นเดิมรับมือไม่ทันแน่ จึงจำเป็นต้องพากันมาเกี่ยวข้าวขึ้นหนีน้ำกันตลอดทั้งคืนก็ต้องทำเอาไว้ก่อน

ชาวบางระกำอ่วมน้ำท่วมเพิงพัก หลายครอบครัวต้องไปเช่าห้องอยู่ 
  

21 สค. 2554 12:02 น.

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลังถูกน้ำท่วมบ้านพักอาศัยมานานนับเดือน ต้องขนย้ายข้าวของเครื่องใช้มาไว้ริมถนนสายพิษณุโลก-บางระกำ บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำยม ม.7 และ ม.15 มีบ้านเรือนหลายหลังน้ำท่วมมิดหลังคา นอกจากนั้นศาลาพักร้อนยังถูกน้ำท่วมกับมิดหลังคาเช่นกัน ส่วนที่พักชั่วคราวของชาวบ้าน ปรากฏว่าเพิงพักที่ชาวบ้านสร้างไว้พักอาศัยหลับนอน ระดับน้ำยมได้เอ่อท่วมสูงขึ้นมาถึงพื้นเพิงพักของชาวบ้านซ้ำเติมอีกรอบ จนชาวบ้านต้องยกพื้นเพิงพักให้สูงกว่าเดิมเพื่อหนีน้ำ เนื่องจากระดับน้ำยังเพิ่งสูงขึ้นไม่หยุด บางรายต้องยกพื้นหนีน้ำไปแล้วถึง 2 ครั้ง ทำให้อยู่ด้วยกันลำบากมากกว่าเดิมหลายเท่า
นายทิวัตถ์ พรหมพิราม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/2 ม.7 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตั้งแต่ระดับน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนมานานร่วมเดือน ตอนแรกท่วมเฉพาะชั้นล่าง ตอนนี้ระดับน้ำถึงพื้นชั้นสองแล้ว ตนต้องยกพื้นให้สูงขึ้น 1.5 เมตร เพื่อใช้วางสิ่งของให้พ้นระดับน้ำ และได้ไปเช่าห้องพักเดือนละ 2,500 บาท ให้ครอบครัวไปหลับนอน ส่วนตนเองต้องมานอนเฝ้าทรัพย์สินในบ้าน เพราะกลัวคนร้ายเข้าขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน โดยมีเพื่อนบ้านหลายรายที่จำเป็นต้องไปเช่าห้องพักช่วงน้ำท่วม

เชียงรายน้ำป่ากัดเซาะพนังกั้นแม่น้ำคำพัง

21 สค. 2554 11:57 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ภายหลังเกิดฝนตกตลอดวันที่ผ่านมาได้ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำคำซึ่งเคยเข้าท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.แม่คำ ต.จันจว้า และ ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย และได้เพิ่มระดับขึ้นมาจนล้นตลิ่งอีกครั้ง โดยน้ำป่าจากเทือกเขาดอยหัวแม่คำได้ไหลทะลักลงสู่ลำน้ำแม่คำและกัดเซาะพนังกั้นแม่น้ำ ซึ่งได้สร้างเอาไว้กั้นไม่ให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ หมู่ 10 และหมู่ 14 ต.แม่คำ ความยาวประมาณ 15 เมตร ทำให้น้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนทั้งสองหมู่บ้านซึ่งอยู่ริมฝั่งประมาณ 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำลึกตั้งแต่ 50 ซ.ม.ถึง 1 เมตรและบางจุดลึกกว่า 1-2 เมตร ขณะเดียวกันน้ำที่เพิ่มระดับสูงขึ้นยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านม่วงหมูสี หมู่ 7 บ้านแม่คำฝั่งหมิ่น หมู่ 9 และบ้านม่วงคำ หมู่ 11 ต.แม่คำ เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ ทำให้ประชาชนที่เคยเก็บข้าวของหนีน้ำรอบแรกและเริ่มกลับไปอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนอีกครั้งต้องพากันอพยพเป็นรอบที่สองอีก โดยครั้งนี้มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขังกว่า 300 หลังคาเรือน ขณะที่สภาพอากาศยังคงอึมครึมและบางแห่งมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน
หลังเกิดน้ำท่วม นายสุขคำ เดชอูป นายกเทศมนตรีตำบลสายน้ำคำ ได้นำเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลร่วมกับอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.แม่จัน เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการขนย้ายข้าวของ แจกจ่ายน้ำดื่มและอาหารเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นายสุขคำ เดชอูป กล่าวว่า ในปีนี้แม่น้ำคำได้เข้าท่วมบ้านเรือนหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในรอบสัปดาห์และระดับน้ำยังลึกรวมทั้งเชี่ยวกราดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการที่ทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหายจากน้ำท่วมหลายครั้ง ดังนั้นนอกจากการช่วยเหลือตามปกติแล้วยังมีการจัดเวรยามเฝ้าทรัพย์สินของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

โบอิ้ง"แคนาดา"ตกที่มหาสมุทรอาร์กติก ดับ12ศพ




เกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 ตก ที่อ่าวรีโซลูต ประเทศแคนาดา ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 12 ราย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เครื่องตก อยู่ในระหว่างสืบสวน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ว่า สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศแคนาดา รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสาร รุ่น โบอิ้ง 737 ของสายการบิน "เฟิร์สต์แอร์" ตก ที่อ่าวรีโซลูต ในมหาสมุทรอาร์กติก ระหว่างเดินทางมาจากเมืองเยลโลว์ไนฟ์ ทำให้ผู้โดยสารทั้ง 15 คน รวมลูกเรือเสียชีวิต 12 ราย

ทั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ ที่จะพบผู้รอดชีวิตมากว่านี้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เครื่องตกอยู่ในระหว่างสืบสวน

อนึ่ง อ่าวรีโซลูต เป็นชื่อที่มาจากภาษา "ไอนุต" ซึ่งเป็นภาษาของเผ่าเอสกีโม มีความหมายว่า "ดินแดนที่ไม่มีรุ่งอรุณ" เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงมากของประเทศแคนาดา เนื่องจากในหน้าร้อนจะเห็นดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชม. และนายกรัฐมนตรี สเตฟาน ฮาร์เปอร์ ก็มีแผนการเดินทางไปพักผ่อนที่นี่ ในสัปดาห์หน้า.


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
21 สิงหาคม 2554, 05:15 น.

ระทึกน้ำป่าไหลเชี่ยวลากรถตกถนน คนขับปีนหนีขึ้นต้นไม้รอดตาย





  วันที่ 20 ส.ค. เวลา 19.00 น. เกิดเหตุน้ำป่าหลากที่บ้านตาแก้ว  ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน โดยระดับน้ำได้ไหลเชี่ยวกรากพัดรถยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กข.2349  น่าน ซึ่งมีนายสนั่น ชินายศ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านสนั่นการช่าง ขับผ่านมาเพื่อจะไปเยี่ยมหลาน ตกถนนไหลไปกับน้ำไกลกว่า 20 เมตร และไปติดต้นไม้ โดยนายสนั่นได้หนีออกมาจากรถยนต์และปีนขึ้นไปบนต้นไม้รอคนมาช่วย เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงและเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 3 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน และกู้ภัยอบจ.น่าน ได้นำกำลังลงเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์เข้าช่วย แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยเหลืออกมาได้อย่างปลอดภัย 
 
 อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดน่านยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ได้ออกตรวจพื้นที่น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสถานการณ์ 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านตลาดบน ถนนอนันตวรฤทธิเดช ซึ่งขณะนี้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  และได้สั่งปิดประตูระบายน้ำทั้ง 9 บานหมดแล้ว และเร่งสูบน้ำจากเครื่องสูบที่มี 4 เครื่อง และกำลังขอสนับสนุนจากสำนักงานชลประทานมาเสริมอีก จำนวน 2 เครื่อง นอกจากนั้นยังได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในเขตเทศบาลได้เตรียมพร้อม เพราะหากระดับน้ำอยู่ที่7.30 เมตรก็จะถึงขั้นวิกฤติแล้ว ทางเทศบาลเมืองน่าน สามารถสูบน้ำชะลอไม่ให้น้ำเข้าเมืองได้เพียง 10 - 12 ชั่วโมงเท่านั้น

สลด ม.2 เล่นทะเลน้ำจืดเมืองกาญจน์ โดดจากเรือปั่นจมดับ



 วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พงส.(สบ.3) สภ.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลน์ ว่าเกิดเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตบริเวณทะเลน้ำจืด ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง หมู่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าม่วง พบว่าคณะครูและทหารกำลังช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำขึ้นมาบนฝั่ง สภาพศพมีเลือดปนน้ำไหลออกมาจากปากและจมูก ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.แนน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี
 
 สอบสวนครู (ขอสงวนนาม) กล่าวว่า ด.ญ.แนน ผู้ตายเป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนกันตะบุตร เขตดุสิต กทม. ก่อนเกิดเหตุได้ร่วมคณะครู นักเรียน และทหารสังกัด ม.พัน 4 รอ. นำรถบัสทหารมาร่วมโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในหลวงฯ ที่บริเวณวัดถ้ำขุนไกร หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี จนโครงการปลูกป่าแล้วเสร็จจึงเดินทางกลับพร้อมคณะ
 
 จากนั้นคณะครูและนักเรียน ได้แวะพักผ่อนและเล่นน้ำที่บริเวณทะเลน้ำจืดท่าล้อ อ.ท่าม่วง โดย ด.ญ.แนนกับเพื่อน 3 คน ได้เช่าเรือปั่นรูปเป็ดปั่นเล่นในแม่น้ำแม่กลอง โดยเพื่อนของ ด.ญ.แนน ต่างใส่เสื้อชูชีพเพื่อป้องกันอันตราย แต่ ด.ญ.แนน ไม่ใส่เนื่องจากมีรูปร่างใหญ่โตกว่าเพื่อน ๆ และเป็นเด็กที่ว่ายน้ำเก่ง กระทั่งคณะครูได้ตะโกนเรียกเด็กนักเรียนทั้งสามคนให้กลับขึ้นฝั่งเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ กทม. เด็กนักเรียนทั้งสามคนจึงปั่นเรือรูปเป็ดเพื่อเข้าฝั่งซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดออกไปประมาณ 10 เมตร แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆ ด.ญ.แนน ก็กระโดดลงจากเรือปั่น เพื่อว่ายน้ำเข้าฝั่งก่อนที่จะจมลงไปใต้น้ำหายไป คณะทหารและครูพยายามว่ายน้ำลงไปเพื่อเข้าไปช่วยเหลือแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และพบกลายเป็นศพอยู่ใต้น้ำดังกล่าว

ฝนตกหนัก เฝ้าระวังลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

20-08-2554 | 17:30 l ชมทั้งหมด 115

หลังจากนายกรัฐมนตรี สั่งให้มีการศึกษาและจะใช้จังหวัดพิษณุโลกเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ แต่ฝนที่ยังคงตกต่อเนื่องในจังหวัดภาคเหนือตอนบนและจังหวัดพิษณุโลก วันนี้ยังคงท่วมสูง มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอำเภอบางระกำ บ้านเรือนประชาชน,วัด และโรงเรียน ยังถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านยังคงเดือดร้อนอย่างหนัก บางพื้นที่เกิดน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นแล้ว

จังหวัดน่าน เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนน และบ้านเรือนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองน่าน มีน้ำป่าจากลำห้วยลี่เอ่อท้นเข้าท่วมถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเปิดสูบน้ำระบายออกจากเขตเมือง

ฝนตกหนักทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาขาด-ตะเบาะ ได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 1,200 หลัง ในตำบลน้ำร้อน อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของไปไว้ที่สูง

ส่วนที่จังหวัดพิจิตร ชาวบ้านป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าและตาแดงกันมากขึ้น ยาที่ใช้รักษา ก็มีไม่เพียงพอ

แม่น้ำปิง,ยม,น่าน ไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์วันนี้ความเร็วน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นเป็น 2,196 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแล้ว ทำให้พื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาจากจังหวัดนครสวรรค์ลงมา น้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น อย่างที่ตำบลโผงเผงอำเภอป่าโมก น้ำขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 30 เซนติเมตร ชาวบ้าต้องเร่งของของหนีน้ำ

ที่พระนครศรีอยุธยา บริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม ระดับน้ำเกือบเสมอตลิ่งแล้ว นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ไปตรวจ และเชื่อว่า จะรองรับน้ำได้อีก 1 เมตร ขณะที่ในตลาดบ้านแพน อำเภอเสนา ยังคงถูกน้ำท่วมสูง

ขณะที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เข้าท่วมในอำเภอสามโคกและอำเภอเมืองปทุมธานี ที่อยู่ริมแม่น้ำแล้ว

ส่วนทางภาคอีสาน ฝนที่ยังตกอยู่ ทำให้น้ำเข้าท่วมอำเภอเมืองสกลนคร ส่วนมุกดาหารน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นอีก บางถนนบางช่วงถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

ขณะที่ฝนตกสะสมบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้มีน้ำป่าหลากเข้าท่วมอำเภอนาดีและอีก 3 อำเภอของจังหวัดปราจีนบุรี

น้ำท่วม3ล้านคน

ระทมทุกข์

วันอาทิตย์ ที่ 21 สิงหาคม 2554 เวลา 11:33 น



ปภ.สรุปเกิดอุทกภัยรวม 29 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด แต่อีก 13 จังหวัด ยังจมน้ำ เกือบ 1 ล้านครอบครัว 3.4 ล้านคนเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)  เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมว่า ภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยมีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 29 จังหวัด 274 อำเภอ 1,840 ตำบล 15,041 หมู่บ้าน ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ สกลนคร เลย เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา

อธิบดี ปภ. ยังระบุว่า มีราษฎรเดือดร้อน 935,359 ครัวเรือน 3,476,583 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 323 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,838,209 ไร่ ถนน 5,256 สาย ท่อระบายน้ำ 669 แห่ง ฝาย 602แห่ง ทำนบ 123 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 429 แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง 22,399 บ่อ ปศุสัตว์162,91 ตัว มีผู้เสียชีวิต 37 ราย สูญหาย 1 คน จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด  แต่อีก 13 จังหวัดยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ นครนายก พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อ่างทอง และปราจีนบุรี

เบื้องต้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกล เรือท้องแบน รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำออกให้บริการในพื้นที่ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยดินโคลนถล่มสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ปภ.จะประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป

กระสอบทรายกั้นแม่น้ำยมพิจิตรพัง น้ำทะลัก 
  

21 สค. 2554 10:05 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กระสอบทรายกั้นน้ำริมแม่น้ำยม หมู่ 6 ตำบลราชะโด อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ได้พังลงหลังแม่น้ำยมมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้กระสอบทรายที่ชาวบ้านนำมากั้นไว้สูง 5 ชั้น พังทลายลงมา โดยจุดที่กระสอบทรายพังเป็นช่วงท้ายหมู่บ้าน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร รถทุกชนิดไม่สารถสัญจรผ่านไปมาได้ นอกจากนั้นน้ำยมที่ทะลักเข้ากระสอบทรายลงมา ยังทำให้ทรัพย์สินของประชาชนเสียหายจำนวนมากเนื่องจากน้ำเข้ามาท่วมในช่วงเวลากลางคืน
ล่าสุดทางด้านวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร เปิดสถานศึกษาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม สามารถนำทรัพย์สินของมีค่า อย่างรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถอีแต๋นและเครื่องมือทางการเกษตร ไปฝากไว้ที่วิทยาลัย พร้อมเปิดบ้านพักให้ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมสามารถเข้าไปพักได้จำนวน 8 หลัง

ฝนซ้ำพิษณุโลก วัดคู-ร.ร.เทศบาล2 น้ำท่วมขังวันที่ 2 
  

21 สค. 2554 10:53 น.
ฝนตกหนักน้ำแม่น้ำน่านเอ่อเข้าท่วมวัดคูหาสวรรค์เป็นวันที่สอง ขณะที่ ร.ร.เทศาบาล 2 วัดคูคาสวรรค์ อ่วม เล็งปิดการเรียนการสอนจันทร์นี้
ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ประกอบกับระดับน้ำของแม่น้ำน่านได้ทรงตัวสูงตลอดที่ 10.10 เมตร ทำให้น้ำจากแม่น้ำน่านและน้ำในคูเมืองได้เอ่อล้นเข้าท่วมวัดคูหาสวรรค์ เป็นวันที่สองแล้ว เนื่องจากเป็นที่ต่ำ น้ำจากคูเมืองไอ้ไหลเข้าท่วมลานวัด บริเวณกุฏิพระ เมรุเผาศพ ความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร พระเณร ได้ต่อสะพานไม้เป็นทางเดินเชื่อมเข้าออก ส่วนสุนัขของวัด ได้อาศัยหลับนอนอยู่กินบนเมรุ ศาลาธรรมสังเวช ขณะที่โรงเรียนเทศบาล 2 วัดคูคาสวรรค์ที่อยู่ติดกิน น้ำจากคูเมืองได้ไหลเข้าท่วมพื้นโรงเรียน หลังจากวันที่ 20 สิงหาคม น้ำก็ไหลเข้ามาแต่ได้ลดระดับไป แต่ปรากฏว่าตลอดทั้งคืนมีฝนตกหนักตลอดเวลา ทำให้น้ำค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้น ทางโรงเรียนกำลังประเมินว่าในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม จะเปิดการเรียนการสอนหรือไม่
ทั้งนี้ วัดคูหาสวรรค์และโรงเรียนเทศบาล 2 อยู่ห่างจากแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตกประมาณ 500 เมตร ตั้งติดกับคูเมืองโบราณ เมื่อแม่น้ำน่านเพิ่มระดับสูง ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำน่านไหลย้อนเข้ามายังคูเมือง และไหลเข้าท่วมวัดคู ขณะที่การระบายน้ำในโซนนี้ออกแม่น้ำทำได้ยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำและแม่น้ำน่านยังคงมีระดับสูงมาก ขณะที่ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก ได้มาสำรวจและเตรียมการช่วยเหลือสูบน้ำในวัดคูหาสวรรค์ออก โดยจะนำกระสอบทรายมาเรียงกั้นในแนวคูเมืองด้านติดกับโรงเรียนจ่านกร้อง และจะนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำที่ท่วมขังบริเวณวัดออกสู่คูเมือง


 

น้ำป่าไหลหลากท่วมชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน

เดือดร้อน 
  

21 สค. 2554 11:44 น.

เวลาประมาณ 03.00 น. เกิดเหตุฝนตกหนักหลายพื้นที่ของ จ.ลำปาง โดยเฉพาะ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง มี น้ำป่าไหลหลากทะลักตามลำห้วยแม่ทรายคำ ไหลเข้าท่วม 3 หมู่บ้าน ใน ต.ต้นธงชัย ได้แก่ บ้าน ห้วยฮี บ้าน แม่ทรายคำ และ บ้านศรีดอนไชย ทำให้บ้านเรือนราษฎร กว่า 100 หลังคาเรือน ความสูงของน้ำสูงเกือบ 1เมตร นาข้าวของชาวบ้าน ถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 100 ไร่ ก่อนหน้านี้ ทางอบต.ต้นธงชัย โดยนายถาวร วิไลรัตน์ นายก อบต. ต้นธงชัย ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว โดยการนำกระสอบทรายไปแจกชาวบ้านเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่ความแรงของน้ำทำกระสอบทรายกั้นไม่อยู่น้ำและไหลเข้าท่วมบ้านชาวบ้านดังกล่าว ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดระดับเกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ล่าสุดนายมงคล สุกใส นายอำเภอเมืองลำปาง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อบต.ต้นธงชัย นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านแล้วเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วจำนวน 100 กล่อง นอกจากนี้ บนถนนบ้านแม่ทรายคำมีต้นไม้ใหญ่ไปขวางทางท่อน้ำลำห้วย ชาวบ้าน บ้านแม่ทรายคำได้ร่วมแรงร่วมใจ ใช้เชือกมาช่วยชักลากต้นไม้ใหญ่ที่ไปขวางท่อระบายน้ำที่ขวางทางน้ำออกมาได้แล้ว

เชียงรายน้ำป่ากัดเซาะพนังกั้นแม่น้ำคำพัง

21 สค. 2554 11:57 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า ภายหลังเกิดฝนตกตลอดวันที่ผ่านมาได้ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำคำซึ่งเคยเข้าท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.แม่คำ ต.จันจว้า และ ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย และได้เพิ่มระดับขึ้นมาจนล้นตลิ่งอีกครั้ง โดยน้ำป่าจากเทือกเขาดอยหัวแม่คำได้ไหลทะลักลงสู่ลำน้ำแม่คำและกัดเซาะพนังกั้นแม่น้ำ ซึ่งได้สร้างเอาไว้กั้นไม่ให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ หมู่ 10 และหมู่ 14 ต.แม่คำ ความยาวประมาณ 15 เมตร ทำให้น้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนทั้งสองหมู่บ้านซึ่งอยู่ริมฝั่งประมาณ 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำลึกตั้งแต่ 50 ซ.ม.ถึง 1 เมตรและบางจุดลึกกว่า 1-2 เมตร ขณะเดียวกันน้ำที่เพิ่มระดับสูงขึ้นยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านม่วงหมูสี หมู่ 7 บ้านแม่คำฝั่งหมิ่น หมู่ 9 และบ้านม่วงคำ หมู่ 11 ต.แม่คำ เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ ทำให้ประชาชนที่เคยเก็บข้าวของหนีน้ำรอบแรกและเริ่มกลับไปอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนอีกครั้งต้องพากันอพยพเป็นรอบที่สองอีก โดยครั้งนี้มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขังกว่า 300 หลังคาเรือน ขณะที่สภาพอากาศยังคงอึมครึมและบางแห่งมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน
หลังเกิดน้ำท่วม นายสุขคำ เดชอูป นายกเทศมนตรีตำบลสายน้ำคำ ได้นำเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลร่วมกับอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.แม่จัน เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการขนย้ายข้าวของ แจกจ่ายน้ำดื่มและอาหารเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นายสุขคำ เดชอูป กล่าวว่า ในปีนี้แม่น้ำคำได้เข้าท่วมบ้านเรือนหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในรอบสัปดาห์และระดับน้ำยังลึกรวมทั้งเชี่ยวกราดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการที่ทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหายจากน้ำท่วมหลายครั้ง ดังนั้นนอกจากการช่วยเหลือตามปกติแล้วยังมีการจัดเวรยามเฝ้าทรัพย์สินของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง บ้านเรือนราษฎร เสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน ความสูงของน้ำช่วง 04.00 น. ความสูงน้ำขณะนั้นราว 1 เมตร... 

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ได้เกิดเหตุฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดลำปางโดย เฉพาะเขต อ.เมือง ที่ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ทำให้มี น้ำป่าไหลหลากทะลักลงลำห้วยแม่ทรายคำ ต.ต้นธงชัย น้ำป่าทะลักเข้าท่วม 3 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่บ้าน ห้วยฮี บ้าน แม่ทรายคำ บ้านศรีดอนไชยทำให้ บ้านเรือนราษฎร ทั้ง 3 หมู่บ้าน ถูกน้ำป่าท่วมเข้าท่วมเสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน ความสูงของน้ำช่วง 04.00 น. ความสูงน้ำขณะนั้นราว 1 เมตร ซึ่งนายถาวร วิไลรัตน์ นายก อบต. ต้นธงชัย ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยการนำกระสอบทรายไปแจกชาวบ้านให้กั้นไว้ก่อนที่น้ำจะเข้าท่วม แต่ความแรงของน้ำทำกระสอบทรายกั้นไม่อยู่น้ำได้เข้าท่วมบ้านชาวบ้านเสียหายหลายหลัง ขณะที่ไร่นาข้าวของชาวบ้าน บ้านศรีดอนไชย นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมากกว่า 100 ไร่

ล่าสุดนายมงคล สุกใส นายอำเภอเมืองลำปาง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อบต.ต้นธงชัย ทำการแจกข้าวกล่องให้ชาวบ้านแล้วเพื่อช่วยเหลือจำนวน 100 กล่อง ส่วนที่บริเวณถนนบ้านแม่ทรายคำมีต้นไม้ใหญ่ไปขวางทางท่อน้ำลำห้วย ชาวบ้าน บ้านแม่ทรายคำร่วมแรงร่วมใจนำรถเครนของส่วนตัว และชาวบ้านก็ช่วยกันใช้เชือกมาช่วยชักลากต้นไม้ใหญ่ที่ไปอุดขวางท่อระบายน้ำ ที่ขวางทางน้ำออกมาได้สำเร็จ.

 

 

 

ผวจ.พิษณุโลกเตือนชาวบ้านริมฝั่งน้ำน่านรับวิกฤตเขื่อนสิริกิติ์
  

21 สค. 2554 18:54 น.

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2554 นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก และกำลังพลของกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 บริเวณ ชุมชนวัดโพธิญาณ เทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งกำลังช่วยกันสร้างแนวกั้นกระสอบทรายในพื้นที่ต่ำตลอดแนวฝั่งแม่น้ำน่านขึ้นอีก 1 เมตร เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำของแม่น้ำน่านที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกภายใน 2 วันนี้ หลังจากที่เขื่อนสิริกิติ์จะทำการระบายน้ำเพิ่มจากวันละ 60ล้านคิวบิกเมตร เป็น 70 ล้านคิวบิกเมตร นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.54) เป็นต้นไป หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงเรือท้องแบนสำรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วมเขตเมืองตลอดแนวเขตเทศบาลนครพิษณุโลกตอนเหนือและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งน้ำน่านให้เตรียมพร้อมในการอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูงไว้ก่อนด้วย

ในขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่อำเภอเมือง เขตเทศบาลนครพิษณุโลก มีความสูงที่ระดับ 10 เมตร กับอีก 8 เซนติเมตร สามารถที่จะรับน้ำได้ถึงจุดวิกฤติที่ระดับ 10 เมตร 30เซนติเมตร เท่านั้น ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์จะมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิม60 ล้านคิวบิกเมตร เป็น 70 ล้านคิวบิกเมตรตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉะนั้นจึงต้องเตรียมการรับมือกับน้ำเหนือที่จะมาถึงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เทศบาล อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ชาวบ้าน และกำลังพลจากกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 สนธิกำลังกันสร้างแนวกั้นกระสอบทรายทั้งกลางวันและกลางคืน สูงขึ้นมาอีก 1 เมตร ตลอดแนวฝั่งในพื้นที่ลุ่มซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่อาจจะถูกน้ำทะลักเข้าท่วม ขณะเดียวกันขอเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านให้เตรียมพร้อมรับมือไว้ด้วยและขนย้ายสิ่งของขึ้นไว้ในที่ปลอดภัย สำหรับบ้านเรือนที่ต้องการกระสอบทรายก็สามารถติดต่อขอได้ที่เทศบาลนครพิษณุโลกได้ตลอดเวลา

----------------------------------

ลำพูน -  ชลประทานเผยท่อน้ำอุดตันอาจทำน้ำท่วมขังลำพูนอีกหลายวัน 
  


21 สค. 2554 20:00 น.

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลำพูนยังน่าเป็นห่วง โดยเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ระดับน้ำแม่กวงอยู่ที่ 5.57 เมตร โดยน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน วัด และโรงเรียนใน อ.เมือง กับ อ.บ้านธิ ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 สั่งปิดโรงเรียนวัดศรีดอนชัย ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ชั่วคราวตั้งแต่วันพรุ่งนี้

นายสกล หาญพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานลำพูน กล่าวว่า แม่น้ำกวงเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำปิงตอนบน มีต้นกำเนิดอยู่ในเขตเทือกเขาของ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ไหลผ่าน อ.ดอยสะเก็ด และ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองลำพูน มาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่บ้านสบทา อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันยาวนานในพื้นที่ต้นน้ำจะเป็นผลให้ระดับน้ำและปริมาณน้ำในลำน้ำแม่กวงสะสมตัวเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำโดยเฉพาะในเขตตัวเมืองลำพูน

อย่างไรก็ตามน้ำท่วมขังครั้งนี้อาจกินเวลาหลายวันเนื่องจากท่อระบายน้ำบางแห่งมีเศษขยะและวัชพืชอุดตันขวางการเดินทางของน้ำ ทำให้น้ำเอ่อล้นขึ้นตามท่อระบายน้ำและระบายน้ำออกได้ช้า 
                                                                           -------------------------------------------------------

เด็กชาย 9 ขวบเพชรบูรณ์ ถูกน้ำป่าพัดเสียชีวิต 
  
21 สค. 2554 20:09 น.

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 ส.ค.54 เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มโพธิ์และชาวบ้าน ช่วยกันนำศพของด.ช.ทะนงศักดิ์ ดีเกิด อายุ 9 ปี ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดาวเรือง ต.นาป่า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเสียชีวิตจากการที่ถูกกระแสน้ำป่าพัดหายไปเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่รวมถึงชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเร่งติดตามหาร่างที่สูญหาย ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงพบร่าง ด.ช.ทะนงศักดิ์ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่และญาติพี่น้อง

จากการสอบถามนางบัวเรียน ดีเกิด มารดา บอกว่า บ้านพักอยู่ติดกับวัดดาวเรือง ซึ่งลูกชายมักมาวิ่งเล่นในวัด และลงไปเล่นน้ำในคลองวัดดาวเรืองประจำ แต่วันนี้ฝนตกอย่างหนัก และต่อเนื่องหลายวัน บนเทือกเขาเฉลียงลับ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน คาดว่าเป็นช่วงที่เด็กชายทะนงศักดิ์ ลงไปเล่นน้ำในคลอง จึงถูกกระแสน้ำพัดหายไป

ด้านนายสุชาติ ราษดุษดี ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากในช่วงนี้ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดภูเขาที่มีธารน้ำไหลผ่าน เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มได้ รวมทั้งการเตือนบุตรหลาน และดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้ลงเล่นน้ำ เพราะอาจพลัดตกน้ำเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ สำหรับ ด.ช.ทะนงศักดิ์ที่เสียชีวิต ทางจังหวัดจะให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

-------------------------

ลำพูน - ปภ.เตือนนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วม 
  


21 สค. 2554 20:55 น.

นายทวี อุปสุขิน ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต 1 กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างใน อ.เมือง และ อ.บ้านธิ ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบและยังไม่มีรายงานขอปิดการการเรียนการสอนชั่วคราวมาจาก ผู้อำนวยโรงเรียนในเขต 1 ที่ประกอบด้วย อ.เมือง อ.บ้านธิ อ.ป่าซาง และ อ.แม่ทา

อย่างไรก็ตามได้กำชับไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 4 อำเภอ ให้ติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิดในคืนนี้ ( 21 ส.ค.) เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำกวง ยังไม่ลดลงและอาจมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมได้อีก หากมีน้ำท่วมให้ใช้อำนาจสั่งปิดเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนและคณาจารย์จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยให้รายงานมาที่ สพป.เขต 1 ทันที

ด้านนายชุมพร อินต๊ะเทพ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ได้ประกาศเตือนไปถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำกวงและที่ลุ่มให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับพื้นที่นิคม อุตสาหกรรมภาคเหนือ (ลำพูน) ที่จะต้องเฝ้าระวังและต้องเตรียมความพร้อมรับมือ เพราะระดับน้ำในแม่น้ำกวงล่าสุดอยู่ที่ 5.58 เมตร หากเพิ่มสูงแตะระดับ 6 เมตร อาจไหลเข้าท่วมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้

 ไอเดียดี !

โครงการ"คุณได้ (เงิน),พวกเขาได้ (บทเรียน) ยุติการหนีเรียน"

เตือน5จังหวัดเหนือระวังดินถล่ม

21 สิงหาคม 2554 เวลา 17:06 น.


กรมทรัพยากรธรณีเตือน 5 จังหวัดภาคเหนือระวังน้ำป่า-ดินถล่ม หลังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่พร้อมพบรอยแยกบนดิน

นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง และเชียงใหม่ เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้

ทั้งนี้โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยใน อ.แม่สาย แม่จัน เทิง จ.เชียงราย อ.ปง เชียงคำ จุน จ.พะเยา อ.บ่อเกลือ ปัว เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา จ.น่าน อ.แม่ทะ ห้างฉัตร แจ้ห่ม จ.ลำปาง และอ.ฝาง แม่อาย จ.เชียงใหม่ เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตรและพบรอยแยกในบางพื้นที่

นายอดิศักดิ์กล่าวว่า ให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังที่ได้มีการอบรมไว้แล้ว

--------------------------

อยุธยา - ระทึก!บ้านมั่นคงทรุดลงคลอง

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ได้เกิดเหตุบ้าน 2 ชั้น ในโครงการบ้านมั่นคง ต.บ้านกุ่ม ริม ถนนสายอยุธยา-อ่างทอง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ของนายประวิทย์  นาคกลั่น ได้ทรุดลงคลองที่ไหลผ่านด้านข้างบ้านอย่างกระทันหัน โดย นายประวิทย์ ซึ่งกำลังติดตั้งประตูอยู่ภายในบ้าน สามารถวิ่งหลบออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยเหตุดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลประสานงานโครงการบ้านมั่นคง พร้อม พ.ต.ท.สมยศ คำอยู่ พนักงานสอบสวน สภ.บางบาล เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหาย  โดยพบว่าเบื้องต้นคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า  4 แสนบาท

นายประวิทย์  กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวสร้างขึ้นในปี 2552 โดยเป็น โครงการที่คนยากจนรวมกลุ่มกันจัดทำรูปเครือข่ายและรวมกลุ่มจัดไปกู้เงินจากธนาคารออมสิน มาดำเนินการจัดซื้อที่ดินและก่อสร้างบ้าน โดยมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เป็นผู้ดำเนินการดูแล

ทั้งนี้บ้านของตนติดลำคลอง โดย เสาบ้านบางต้นตั้งอยู่ริมที่ดินที่ถมติดคลอง ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมั่นคง อย่างไรก็ตาม สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ได้ยืนยันว่า จะรับผิดชอบสร้างบ้านให้ใหม่โดยไม่ต้องกู้เพิ่ม เพราะว่าบ้านยังมีประกันความเสียหายจากบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างอยู่

ด้าน นางนิรมล คำสด ประธานบ้านมั่งคงตำบลบ้านกุ่ม กล่าวว่า ยืนยันไม่มีการทุจริตการก่อสร้างบ้านในทุก ๆ หลัง โดยบ้านหลังดังกล่าวนี้พบว่าเสาบ้านตั้งริมที่ดินที่ถมติดคลอง และเมื่อฝนตกหนัก ดินอ่อนตัวประกอบกับระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ดินเกิดไหลตัวและเสาบ้านก็เคลื่อนทำให้บ้านทรุดเอียงลงคลองทั้งหลัง 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการตั้งข้อหาใด ๆ เพราะว่าเจ้าของบ้านและผู้รับผิดชอบโครงการตกลงจะสร้างบ้านใหม่ชดใช้ให้และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครบาดเจ็บ  โดยทางตำรวจได้ให้ลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานความเสียหายไว้แล้ว 

 

พิจิตร - น้ำท่วมชาวบ้านหวิดเปิดศึก

วันอาทิตย์ ที่ 21 สิงหาคม 2554 เวลา 20:20 น



เขื่อนสิริกิติ์ปล่อยน้ำเพิ่ม เตือนชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำน่าน อพยพขนข้าวของขึ้นที่สูงหนี ขณะที่ ชาวบ้านในพิจิตรหวิดเปิดศึก เพราะน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายโยธินศร์ สมุทรคิรีจ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ ออกประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำน่าน อพยพขนย้ายข้าวของขึ้นสู่ที่สูง เนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์มีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิมที่เคยปล่อยผ่านเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้ สูงสุดวันละ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 80  ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้น้ำในแม่น้ำน่านมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีก โดยจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 ส.ค.นี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ  สำหรับอำเภอที่จะได้รับผลกระทบคือ อ.เมือง อ.ตรอน และ อ.พิชัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน น้ำในเขื่อนมีปริมาณ 8,537.87 ล้าน ลบม. คิดเป็น 89.78% เนื่องจากมีน้ำปริมาณน้ำที่ไหลมาจาก จ.น่านเข้าสู่อ่างเก็บเมื่อวันที่ผ่านมามากถึง 128.99 ล้าน ลบม. และเขื่อนยังสามารถรับน้ำอีกเพียง 972 ล้าน ลบม.เศษ หรือ 10.22% เท่านั้น

ที่บริเวณสี่แยกวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ชาวนาจาก  อ.เมือง กว่า 100 คน  เดินทางไปปิดน้ำที่ล้นตลิ่งมาจากแม่น้ำยม และเริ่มไหลข้ามถนน เลาะแม่น้ำยมเข้าสู่เขต อ.เมือง เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าน้ำที่ไหลมาจะทำให้สวนส้มโอพันธ์ท่าข่อย ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัด และนาข้าวนับหมื่นไร่ได้รับความเสียหาย  แต่ถูกชาวบ้านใน ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง กว่า 100 คน รวมตัวขัดขวาง จนหวิดจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน

ชาวบ้านใน ต.วังจิก ให้เหตุผลว่า ขณะนี้น้ำท่วมบ้านเรือนสูงอยู่แล้ว หากยิ่งปิดน้ำก็จะทำให้น้ำท่วมสูงขึ้นจนไม่สามารถอาศัยอยู่บนบ้านได้ จึงไม่ยอมให้ชาวบ้านจากอำเภอเมืองปิดน้ำ ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จนในที่สุดชาวบ้านจาก อ.เมือง ได้รวมตัวกันเดินทางไปที่จวนผู้ว่าฯ เพื่อขอให้ นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูล ผวจ.พิจิตร ตัดสิน ซึ่งจากการเชิญทั้งสองฝ่ายเข้าหารือนานกว่า 5 ชม.ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้

เพชรบูรณ์ - น้ำทะลักกำแพงคุกหญิงพัง

วันอาทิตย์ ที่ 21 สิงหาคม 2554 เวลา 20:05 น



น้ำในแม่น้ำป่าสัก เอ่อล้นเข้าท่วมเรือนจำหญิงเก่า ใน จ.เพชรบูรณ์ แถมทำกำแพงพังเป็นแนวยาว  ผู้ว่าฯ ลุยตรวจ

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 21 ส.ค.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสน้ำที่เอ่อทะลักจากจากแม่น้ำป่าสัก ทำให้กำแพงคอนกรีตของเรือนจำหญิงหล่มสักเดิม ซึ่งอยู่บริเวณถนนพิทักษ์ ชุมชนไพรสณฑ์ เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ทรุดพังเป็นแนวยาวราว 35 เมตร และกระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าไปภายในเรือนจำ  แต่เนื่องจากเรือนจำหญิงดังกล่าวปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นที่ควบคุมนักโทษแล้ว ทำให้ไม่เกิดความวุ่นวายขึ้น แ

อย่างไรก็ตาม บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในชุมชนเดียวกันต่างตกอยู่ในภาวะจมน้ำ โดยเฉพาะทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากและเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว แต่กระแสน้ำได้เริ่มลดลงแล้ว
 
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมนายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์และนายกิตติ พั้วช่วย นายกเทศมนตรีเมืองหล่มสัก เดินทางไปตรวจสภาพน้ำท่วมในชุมชนต่างๆในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักที่ตกอยู่ภาวะจมน้ำ นอกจากนี้ ยังเดินทางไปตรวจดูแนวกำแพงเรือนจำหญิงหล่มสักที่ถูกกระแสน้ำพลัดจนทรุดพังอีกด้วย
 
นายกองเอกวิลาศ กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่เข้าท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหล่มสักครั้งนี้มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งที่ปริมาณฝนตกในพื้นที่ก็ไม่มาก แต่เนื่องจากน้ำป่าสักที่ไหลมาจากพื้นที่ตอนบนไหลเข้าหนุนทำให้แนวป้องกันของทางเทศบาลต้านไม่อยู่ ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักนั้นในระยะยาวนั้น ต้องมาดูว่าการทำบายพาสน้ำไม่ให้น้ำเข้าเมืองน่าจะเป็นไปได้หรือไม่  

เชียงราย - น้ำสายทะลักท่วมชายแดนอีก-แม่ค้าตลาดสายลมจอยขนของหนีวุ่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2554 18:40 น.






เชียงราย - ลำน้ำสายทะลักล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ตลาดสายลมจอย แหล่งท่องเที่ยวชายแดนใกล้จมบาดาล พ่อค้า-แม่ค้า ต้องขนของหนีน้ำวุ่น แถมมีน้ำป่าจากดอยนางนอนไหลหลากท่วมถนนพหลโยธินซ้ำ
       
       วันนี้ (21 ส.ค.) น้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ติดกับตลาดหน้าด่านแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บ้านสายลมจอย ม.1 ต.เวียงพางคำ บ้านเกาะทราย ม.7 บ้านไม้ลุงขน ม.10 บ้านเหมืองแดง ม.1 ต.แม่สาย ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสาย ทำให้ได้รับความเสียหาย ประชาชนต้องรีบขนข้าวของมาไว้ที่สูงเพื่อหนีน้ำกันจ้าละหวั่น
       
       ส่วนที่บริเวณใต้สะพานพรมแดน ไทย-พม่า ถูกน้ำเข้าท่วมจนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และบริเวณถนนการค้าบ้านสายลมจอย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกที่หนึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างเริ่มพากันเก็บข้าวของ เพื่อหนีภายหลังน้ำเริ่มทะลักท่วมริมฝั่ง และเพิ่มระดับขึ้นจนน้ำท่วมถึงขอบถนนและอาจจะท่วมทะลักเข้าร้านค้าได้
       
       หลังเกิดเหตุ นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.แม่สาย พร้อม นายพรชัย ประดิษฐ์ค่าย หัวหน้างานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล ต.แม่สาย นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาล อปพร.เร่งนำกระสอบทรายมาทำผนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำในแม่น้ำสายที่จะเริ่มทะลักเข้าสู่หมู่บ้านตามริมชายแดน
       
       ขณะเดียวกัน บริเวณถนนสายเข้าตัวเมืองแม่สาย บริเวณตั้งแต่หน้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.แม่สาย จนถึงบริเวณแยกไฟแดงแม่สาย-เชียงแสน น้ำป่าจากดอยนางนอน ได้ไหลเข้าถึงพื้นถนนพหลโยธินสายหลักสูงประมาณ 20 ซม.ทำให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านจะเข้าตัวเมืองแม่สาย ต้องใช้รถอย่างระมัดระวังและสามารถวิ่งได้เพียง 1 เลน และบางแห่งต้องปิดเส้นทางการจราจร รถต้องใช้เส้นทางสวนกันทางฝั่งขาออกเมืองแม่สาย
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ที่บริเวณถนนหน้าวัดถ้ำผาจม ม.1 ต.เวียงพางคำ ได้เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มมาขวางเส้นทางถนน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเวียงพางคำได้นำกำลังทำการตัดต้นไม้เพื่อเปิดทางการจราจรแล้ว

เชียงราย - น้ำสายทะลักท่วมชายแดนอีก-แม่ค้าตลาดสายลมจอยขนของหนีวุ่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2554 18:40 น.






เชียงราย - ลำน้ำสายทะลักล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ตลาดสายลมจอย แหล่งท่องเที่ยวชายแดนใกล้จมบาดาล พ่อค้า-แม่ค้า ต้องขนของหนีน้ำวุ่น แถมมีน้ำป่าจากดอยนางนอนไหลหลากท่วมถนนพหลโยธินซ้ำ
       
       วันนี้ (21 ส.ค.) น้ำในลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ติดกับตลาดหน้าด่านแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บ้านสายลมจอย ม.1 ต.เวียงพางคำ บ้านเกาะทราย ม.7 บ้านไม้ลุงขน ม.10 บ้านเหมืองแดง ม.1 ต.แม่สาย ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสาย ทำให้ได้รับความเสียหาย ประชาชนต้องรีบขนข้าวของมาไว้ที่สูงเพื่อหนีน้ำกันจ้าละหวั่น
       
       ส่วนที่บริเวณใต้สะพานพรมแดน ไทย-พม่า ถูกน้ำเข้าท่วมจนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และบริเวณถนนการค้าบ้านสายลมจอย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกที่หนึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างเริ่มพากันเก็บข้าวของ เพื่อหนีภายหลังน้ำเริ่มทะลักท่วมริมฝั่ง และเพิ่มระดับขึ้นจนน้ำท่วมถึงขอบถนนและอาจจะท่วมทะลักเข้าร้านค้าได้
       
       หลังเกิดเหตุ นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.แม่สาย พร้อม นายพรชัย ประดิษฐ์ค่าย หัวหน้างานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล ต.แม่สาย นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาล อปพร.เร่งนำกระสอบทรายมาทำผนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำในแม่น้ำสายที่จะเริ่มทะลักเข้าสู่หมู่บ้านตามริมชายแดน
       
       ขณะเดียวกัน บริเวณถนนสายเข้าตัวเมืองแม่สาย บริเวณตั้งแต่หน้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.แม่สาย จนถึงบริเวณแยกไฟแดงแม่สาย-เชียงแสน น้ำป่าจากดอยนางนอน ได้ไหลเข้าถึงพื้นถนนพหลโยธินสายหลักสูงประมาณ 20 ซม.ทำให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านจะเข้าตัวเมืองแม่สาย ต้องใช้รถอย่างระมัดระวังและสามารถวิ่งได้เพียง 1 เลน และบางแห่งต้องปิดเส้นทางการจราจร รถต้องใช้เส้นทางสวนกันทางฝั่งขาออกเมืองแม่สาย
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ที่บริเวณถนนหน้าวัดถ้ำผาจม ม.1 ต.เวียงพางคำ ได้เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มมาขวางเส้นทางถนน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเวียงพางคำได้นำกำลังทำการตัดต้นไม้เพื่อเปิดทางการจราจรแล้ว

กาฬสินธุ์ระวังพื้นที่เสี่ยงติดเขาภูพาน3อำเภอหวั่นน้ำท่วมดินสไลด์
  

21 สค. 2554 16:16 น.

ผู้ว่าราชการกาฬสินธุ์เฝ้าระวังเข้ม 3 อำเภอ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ ฝนตกติดต่อกัน 3 วันส่งผลปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวสูงขึ้นอีกกว่า 20 เซนติเมตร

จากร่องมรสุมที่พ่ดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำใถาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวสูงขึ้นประมาณ 20 เซนติเมตร ทำให้นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เร่งประสานงานเจ้าหน้าที่ในทั้ง 18 อำเภอให้เฝ้าระวังปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้ปริมาณฝนเริ่มตกชุกในพื้นที่บางแห่งมีฝนตกหนัก ทั้งนี้ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 3 อำเภอที่อาจจะเสี่ยงเกิดภาวะน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมน้ำล้นตลิ่งและปัญหาดินโคลนถล่มดินสไลด์

โดย 3 อำเภอที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือที่ อ.ฆ้องชัย เฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมน้ำล้นตลิ่งเนื่องจากเป็นที่ลุ่ม อ.คำม่วง เสี่ยงต่อปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และอ.สมเด็จที่น่าเป็นห่วงเพราะเป็นพื้นที่รอยต่อเขตเทือกเขาภูพานที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาดินโคลนถล่ม ดินสไลด์ได้

จากการสำรวจความเสียหายใน 11 อำเภอจาก 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะนี้มีพื้นที่เสียหายทั้งที่เป็นที่การเกษตรต่างๆ จำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณ 73,770,890 บาท ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจอย่างเร่งด่วน

 

จีน - "อาหารเป็นพิษ" ทำชาวซินเจียงสังเวย 11 ชีวิต ป่วยอีกกว่า 150 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2554 17:36 น.



ชาวซินเจียงที่มีอาการป่วยอาหารเป็นพิษกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลท้องถิ่น เมืองเหอเถียน เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (ภาพซีเอฟพี)

       เอเยนซี - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เผย(21 ส.ค.)ว่า ชาวซินเจียง 11 คน เสียชีวิตจากการกินอาหารปนเปื้อนสารพิษ ขณะที่มีอาการป่วยอีกกว่า 150 คน
       
       คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเมืองเหอเถียน เขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง เผยว่า ชาวบ้านมีอาการป่วยเนื่องจากอาหารเป็นพิษ หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเมื่อวันศุกร์(19 ส.ค.) และจนถึงช่วงเย็นเมื่อวาน(20 ส.ค.) มีจำนวนผู้ป่วยจากเหตุดังกล่าวแล้วมากกว่า 150 คน
       
       ชาวบ้านจากชุมชนซังจู อำเภอผีซาน เมืองเหอเถียน มีอาการวิงเวียนศีรษะอาเจียน และชักอย่างรุนแรง โดยผู้มีอาการป่วยทุกคนได้รับการนำส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงกำลังรับการรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
       
       สำหรับสาเหตุของอาหารเป็นพิษดังกล่าว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังดำเนินการสืบสวนโดยละเอียด

อุบลราชธานี น้ำยังท่วม 11 อำเภอ จนท.เร่งให้ความช่วยเหลือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2554 21:04 น. 



       นายเวชสุวรรณ อาจวิชัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมอยู่ 11 อำเภอ ซึ่งได้มีการกำหนดจุดอพยพประชาชนชั่วคราว มีราษฎรที่ได้รับผลความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยการช่วยเหลือนั้น ทางเจ้าหน้าที่สาธารณภัยจังหวัด ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมองค์กรอื่นๆ นำถุงยังชีพยารักษาโรค พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปตรวจสุขภาพแก่ประชาชนที่ถูกน้ำท่วม
       หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เตรียมปฏิบัติงานประชุม ซ้อมแผน และติดตามสถานการณ์ระดับน้ำให้ประชาชนรับฟังข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้องค์กรส่วนท้องถิ่น อบต. ในท้องที่ประสบอุทกภัย และพื้นที่เสี่ยงภัย เตือนประชาชน และให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีหากมีน้ำหลาก

สัปดาห์นี้ ภาคเหนือ ภาคอิสาน และภาคกลาง มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2554 19:37 น.

       กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายสภาพอากาศในช่วงวันที่ 20-22 ส.ค. ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันตก เฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนลดลง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวจะมีแรงขึ้น ทำให้ทั่วประเทศจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน
       ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 23-26 ส.ค. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

--------------------------

พบระดับแม่น้ำน่านสูงเกินจุดวิฤกติแล้ว

ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 21 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 21:10 น.




ระดับแม่น้ำน่าน มีระดับสูงเกินจุดวิฤกติแล้ว ผู้ว่าฯพิษณุโลก เตือนประชาชน พร้อมประสานกองทัพ เร่งกั้นกระสอบทราย


สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พิษณุโลก ขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน เกินจุดวิกฤติแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งเร่งรับมือ เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ที่สถานีวัดระดับน้ำ แม่น้ำน่าน N5A ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่าน มีความสูงถึง 11.10 เมตร ซึ่งเกินจากจุดวิกฤติที่ 10.54 เมตร และในช่วงเย็นที่ผ่านมา นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงเรือท้องแบนสำรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วม ในเขตเมือง ตลอดแนวเขตเทศบาลนครพิษณุโลก พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่าน ให้เตรียมพร้อมอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก และกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 3 ได้เร่งกั้นกระสอบทรายในพื้นที่ต่ำ ตลอดแนวฝั่งแม่น้ำน่าน ให้สูงขึ้นอีก 1 เมตร เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำของแม่น้ำน่าน ที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังจากที่เขื่อนสิริกิติ์ ได้ประสานงานมายัง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ว่าจะทำการระบายน้ำเพิ่มจากวันละ 60 ล้านคิวบิกเมตรต่อวินาที เป็น 70 ล้านคิวบิกเมตรต่อวินาที นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

อุบลฯ-ผู้ว่าฯ เตือนคนเมืองระวังน้ำท่วมฉับพลัน



ผู้ว่าราชการ จ.อุบลราชธานี เตือนประชาชนในเขตอำเภอเมืองเตรียมอพยพหนีน้ำท่วม เนื่องจากระดับแม่น้ำมูล ลำน้ำชี สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่

นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประกาศเตือนภัยน้ำล้นตลิ่งในเขตชุมชนเมือง โดยเฉพาะประชาชนที่พักอาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำมูล และแม่น้ำชี เฝ้าระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการตรวจสอบเส้นทางของแม่น้ำมูลในเขตอำเภอเมืองอุบลราชธานี และ อำเภอเขื่องใน พบพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงแล้วหลายแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย นาข้าวจมน้ำแล้วจำนวน 20,000 ไร่ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขัง  12 ตำบล 69 หมู่บ้าน และคาดว่าระดับแม่น้ำมูลจะหนุนสูงไหลบ่าลงมาสู่พื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตตัวเมืองเร็ววันนี้ จึงแจ้งเตือนประชาชนในตัวเมือง เฝ้าระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน

ส่วนการตรวจวัดระดับน้ำ ส่วนใหญ่สูงกว่าระดับตลิ่ง ( วันที่ 21 ส.ค.54 ) ระดับแม่น้ำชีที่ฝายบ้านธาตุน้อย ระดับ 117.00 ม. ( รทก. ) ระดับตลิ่ง 116.70 ม. (รทก.) สูงกว่าระดับตลิ่ง 0.30 เมตร และที่ สถานี M.7 แม่น้ำมูลใต้สะพานเสรีประชาธิปไตย ระดับ 110.86 ม. (รทก. ) ระดับตลิ่ง 112.00 ม. (รทก.) ต่ำกว่า ระดับตลิ่ง 1.14 เมตร ระดับเตือนภัย 111.50 ม. (รทก) ต่ำกว่าระดับเตือนภัยอยู่ 0.64 เมตร

สังเวยน้ำท่วมทั่วประเทศ พุ่ง37รายแล้ว



ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย เพิ่มเป็น 37 ราย ล่าสุด 13 จังหวัด สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย...

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 29 จังหวัด 274 อำเภอ 1,840 ตำบล 15,041 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 935,359 ครัวเรือน 3,476,583 คน มีผู้เสียชีวิต 37 ราย จังหวัดอุดรธานี สกลนคร อุตรดิตถ์ จังหวัดละ 1 ราย เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก นครพนม ร้อยเอ็ด เสียชีวิตจังหวัดละ 2 ราย พิจิตร 3 ราย สุโขทัย 6 ราย แม่ฮ่องสอน 7 ราย แพร่ 8 ราย สูญหาย 1 คน

ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัย คลี่คลาย แล้ว 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก เลยหนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 13 จังหวัด 98 อำเภอ 680 ตำบล 5,083 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 385,214 ครัวเรือน 1,156,666 คน ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ นครนายก พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อ่างทองและปราจีนบุรี

สังเวยน้ำท่วมทั่วประเทศ พุ่ง37รายแล้ว



ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย เพิ่มเป็น 37 ราย ล่าสุด 13 จังหวัด สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย...

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 29 จังหวัด 274 อำเภอ 1,840 ตำบล 15,041 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 935,359 ครัวเรือน 3,476,583 คน มีผู้เสียชีวิต 37 ราย จังหวัดอุดรธานี สกลนคร อุตรดิตถ์ จังหวัดละ 1 ราย เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก นครพนม ร้อยเอ็ด เสียชีวิตจังหวัดละ 2 ราย พิจิตร 3 ราย สุโขทัย 6 ราย แม่ฮ่องสอน 7 ราย แพร่ 8 ราย สูญหาย 1 คน

ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัย คลี่คลาย แล้ว 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก เลยหนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 13 จังหวัด 98 อำเภอ 680 ตำบล 5,083 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 385,214 ครัวเรือน 1,156,666 คน ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ นครนายก พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อ่างทองและปราจีนบุรี

สงครามเผ่าซูดานใต้! 4วัน ดับแล้ว500ศพ เจ็บเพียบ



เกิดเหตุโจมตีระหว่างชนเผ่า ในรัฐจุงกาลี ทางตะวันออกของประเทศสาธารณรัฐซูดานใต้ โดยผู้ก่อเหตุคือเผ่ามูร์เล ซึ่งประกาศตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะทำการแก้แค้นชนเผ่าลูนูเออร์...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ส.ค.เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศซูดานใต้คนหนึ่ง เปิดเผยต่อสำนักข่าวบีบีซีว่า เกิดเหตุโจมตีระหว่างชนเผ่า ในรัฐจุงกาลี ทางตะวันออกของประเทศตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยชนเผ่ามูร์เล ประกาศว่า จะทำการโจมตีเผ่าลูนูเออร์ และหลังจากนั้นจึงมีการโจมตีและปล้นสะดมเกิดขึ้น และจนถึงวันนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 500 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อยราย และมีผู้ถูกลักพาตัวมากกว่า 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่ในจำนวนนี้เป็นเด็ก ขณะที่วัวกว่า 40,000 ตัว ถูกปล้นสะดมไปหมด

นักรบหนุ่มของเผ่ามูร์เล ก่อเหตุโจมตีในหลายพื้นที่ ท่ีมีเผ่าลูนูเออร์อาศัยอยู่ รวมถึงโดยรอบของเมืองปิเอรี และมีเมืองอีกจำนวนมากที่ถูกเผาทำลาย

ทั้งนี้ เหตุที่เผ่ามูร์เลเปิดฉากโจมตีเผ่าลูนูเออร์ ก็เพื่อแก้แค้นที่เผ่าลูนูเออร์ เคยโจมตีพวกเขาก่อน ขณะที่เผ่าลูนูเออร์ ก็กล่าวโทษรัฐบาลซูดานใต้ว่าไม่ยอมคุ้มครองชนเผ่าของพวกเขา

อนึ่ง วัวซึ่งถูกปล้นไปนับหมื่นตัวนั้น ถือว่าเป็นสัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ เพื่อใช้ในการประทังชีวิตอย่างแท้จริง วัวถูกใช้เป็นทั้งอาหาร สินสอดทองหมั้นในการแต่งงาน และยังเป็นตัววัดขนาดของเขตครอบครองที่ดินและแหล่งน้ำอีกด้วย.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
 

ภูเขาไฟ ที่รัสเซียปะทุอีกครั้ง



Kizimen volcano located on the Kamchatka Peninsula Russia has got a burst of activity during the last 24 hours.

เกิดพายุรุนแรงพัดถล่มที่ Toronto แคนาดา ทำให้เกิดน้ำท่วมถนนหนทาง ต้นไม้โค่นล้มและประชาชนนับหมื่นไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

โดยเหตุเกิดเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


The branch of a tree broken off by the storm is seen at Airdrie Road and Hana Road.

http://www.thestar.com/news/article/...out-power?bn=1
 

,

น้ำเริ่มท่วมเมืองกรุงเก่าแล้ว ทหารเร่งกรอกกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมเมรุวัดบุญกันนาวาส

พระนครศรีอยุธยา - น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมเมืองพระนครศรีอยุธยา ประชาชนหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบ ขณะที่ทหารเร่งกรอกกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมเมรุวัดบุญกันนาวาส

เวลา 15.00 น.วันนี้ (22 ส.ค.) ที่วัดบุญกันนาวาส ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำเอ่อล้นท่วมบริเวณวัดกว่า 1 เมตร พ.อ.อิศเรส ศิลางาม หัวหน้าโรงงานซ่อมยาง กรมสรรพาวุธทหารบก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำกำลังพลกว่า 50 นาย มาระดมกรอกทรายแล้วนำไปกั้นรอบเมรุ ซึ่งเหลือเพียงแห่งเดียวภายในวัดป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเพื่อให้ประชาชนที่ต้องการใช้สถานที่เผาศพในช่วงน้ำท่วม

นอกจากน้ำจะล้นเข้าท่วมวัดดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังได้ไหลเข้าท่วมโรงเรียนวัดบุญกันนาวาส ซึ่งมีระดับน้ำสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ทำให้เด็กนักเรียนต้องเดินลุยน้ำเข้ามาเรียนหนังสือและเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านที่ปลูกข้าวโพด และกล้วย จนเสียหายยืนต้นตายหลายไร่

ที่ อ.เสนา แม่น้ำน้อย มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างหนักที่บริเวณ ต.บางนมโค หมู่ 1-5 กว่า 1,000 หลังคาเรือน น้ำท่วมขังสูงเกือบ 2 เมตร นายปรีชา ดัสดุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางนมโค ได้นำคนงานกว่า 20 คน พร้อมอุปกรณ์ไม้เร่งทำสะพานทางเดินเข้าหมู่บ้านมีระทางประมาณ 300 เมตร ใช้งบประมาณ 6-7 แสน ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม

ส่วนที่หน้าวัดจุฬามณี ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล มีกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวมากชาวเรือรับจ้างต้องหยุด ส่งเกรงอาจจะเกิดอันตราย ถ้าใช้เรือขนาดใหญ่วิ่ง รับ-ส่ง ชาวบ้านข้ามฟาก จะต้องเสียเวลาในการปล่อยเรือให้ไหลไปตามน้ำและจึงขับย้อนกลับขึ้นมา

นายชูศักดิ์ ศรีสุข อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.2 ต.บางชะนี อ.บางบาล กล่าวว่า โดยวันนี้เป็นวันแรกที่มีการหยุดวิ่งเรือดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ ต.บางชะนี และ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ต่างนำเรือเครื่องที่ใช้สำหรับหาปลามาออกวิ่งรับ-ส่งชาวบ้าน แทนการออกจับปลา หรือออกไปทำงานรับจ้าง เนื่องจากมีรายได้ต่อคนวันละ 200-300 บาท แล้วแต่ระยะทาง แต่หากเป็นการนั่งเรือข้ามฟากปกติก็จะคิดอัตราคนละ 10 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 นาที

ล่าสุด ขณะนี้มีชาวบ้านนำเรือมาขับรับจ้างไม่ต่ำกว่า 10 ลำ โดยจะแบ่งคิวกันรับ-ส่ง แล้วแต่ความใกล้ไกล ส่วนเรือที่มีขาประจำอยู่แล้ว ชาวบ้านที่รับจ้างขับเรือก็จะไม่ตัดหน้ากัน ทั้งนี้ คนขับเรือกล่าวยอมรับว่า หากระดับน้ำท่วมสูงเท่ากับปีที่ผ่านมาก็จะต้องเปลี่ยนท่าขึ้น-ลง เรือรับจ้าง และราคาก็อาจจะขยับขึ้นแต่ไม่มาก เพราะไม่อยากซ้ำเติมชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม และต้องใช้เรือข้ามฟากเป็นพาหนะ

พ่อเมืองอุบลฯบินสำรวจลำน้ำสาขาแม่น้ำมูล คาดน้ำท่วมปีนี้อาจสูงเท่าปี 45 และปี 48

อุบลราชธานี - ผวจ.อุบลราชธานี พร้อมหัวหน้าส่วนบริหารจัดการน้ำบินสำรวจลำน้ำสาขาแม่น้ำชี แม่น้ำมูล เตรียมรับมือน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งจังหวัดคาดการณ์ระดับน้ำแม่น้ำทั้ง 2 สาย จะปรับตัวสูงเท่าปี 2545 หรือปี 2548 ซึ่งทำให้มีน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ของจังหวัด

วันนี้ (22 ส.ค.) นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 7 และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี บินสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมตามลำน้ำเซบาย ตั้งแต่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ถึงเขตจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ระดับน้ำเซบายมีแนวโน้มลดลง

ส่วนแม่น้ำชีในพื้นที่ อ.เขื่องใน และแม่น้ำมูล อ.เมืองอุบลราชธานี ระดับน้ำยังปรับตัวสูง ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนเทศบาลนครอุบลราชธานี และชุมชนชานเมืองมีน้ำท่วมแล้ว 3 ตำบล 31 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 435 ครัวเรือน โดยพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเกิดจากน้ำจากลำน้ำชีและลำน้ำมูลที่สูงหนุนเข้าไปตามลำน้ำสาขา ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่ป่าไม้ แต่สถานการณ์ยังไม่รุนแรง

นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า การเฝ้าระวังขณะนี้ จะเรียกประชุมนายอำเภอตามพื้นที่ลุ่มน้ำที่คาดว่าจะถูกน้ำท่วม ให้เตรียมกำลังช่วยอพยพสิ่งของให้ประชาชน พร้อมตั้งศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพราะคาดว่าถ้าต้นเดือนกันยายนมีพายุลูกใหม่พัดเข้ามาในพื้นที่ อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล มีน้ำท่วมที่ระดับ 112 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (มรทก.) ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2548 หรืออาจสูงถึง 115 มรทก. ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2545

“การเฝ้าระวังพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้ตั้งเป้าเฝ้าระวังที่ระดับ 115 มรทก.เพื่อไม่ประมาทหากมีน้ำจากด้านเหนือจำนวนมากไหลมารวมกันที่ จ.อุบลราชธานี ในเดือนกันยายนปีนี้”

สำหรับระดับแม่น้ำมูลเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ที่สถานีวัดน้ำเอ็ม 5 อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ระดับน้ำสูง 112.42 มรทก.โดยมีระดับตลิ่งสูง 118.10 มรทก.ทำให้ปัจจุบันน้ำในสถานีวัดน้ำเอ็ม 5 ยังต่ำกว่าระดับตลิ่ง 5.68 เมตร ส่วนที่สถานีวัดน้ำเอ็ม 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำสูง 111.12 มรทก.โดยมีระดับตลิ่งสูง 112.00 มรทก.ระดับน้ำจึงต่ำกว่าตลิ่งเพียง 88 เซนติเมตร ซึ่งอยู่ในระดับเฝ้าระวังน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้

น้ำป่าทะลักเข้าท่วมโรงเพาะเห็ดหอมลำปางพังยับ

น้ำป่าทะลักเข้าท่วมโรงเพาะเห็ดหอมลำปางพังยับ

น้ำป่าทะลักเข้าท่วมโรงเพาะเห็ดหอมลำปางพังยับ

ลำปาง - น้ำป่าถล่มบ้านปางมะโอดินในหมู่บ้าน มีดินสไลด์หลายจุด ขณะที่โรงเพาะเห็ดหอมพืชเศรษฐกิจของชาวบ้านเสียหายยับ

วันนี้ (22 ส.ค.) จากที่มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดลำปาง เมื่อวานนี้ จนทำให้ป่าไหลทะลักลงจากภูเขา จนดินจากเนินเขาภายในหมู่บ้านปางมะโอ ต.วังเงิน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง สไลด์ลงมาหลายจุด โดยจุดที่มีความเสี่ยง 2 แห่ง ซึ่งหากมีฝนตกลงมาอีกอาจจะทำให้ดินพังทลายเข้าบ้านได้ คือ บริเวณบ้านของ นางบัวซอน รินทรท้าว และบ้านของ นายสุเทพ เครือต๊ะมา ซึ่งขณะนี้ทาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รายงานเข้าอำเภอแม่ทะ เพื่อขอให้หน่วยงานราชการนำเครื่องจักรเข้ามาปรับดินบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย

แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้ดินบริเวณดังกล่าวยังคงมีความชื้นมาก และดินยังร่วน หากมีการนำเครื่องจักรเข้าไปก็อาจจะทำให้ดินถล่มลงมาได้ ดังนั้นจึงต้องรอให้ดินมีความแห้งมากขึ้นกว่านี้จึงจะเข้าทำการปรับพื้นที่ได้

และจากกระแสน้ำป่าที่ไหลแรงและมีปริมาณมากเมื่อวานนี้ น้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าท่วมโรงเพาะเห็ดหอมของชาวบ้าน และซัดเอาก้อนเชื้อเห็ดไหลไปรวมกันตามแนวของลำห้วยภายในหมู่บ้านจำนวนมาก

นายสมนึก สุขพี้ ชาวบ้านบ้านปางมะโอ กล่าวว่า หมู่บ้านปางมะโอ เป็นหมู่บ้านที่มีการเพาะเห็ดหอมจำหน่ายแหล่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดลำปาง มีทั้งจำหน่ายก้อนเชื้อเห็ด และเห็ดหอมสด ซึ่งตนเป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเพาะเห็ดหอม เมื่อวานนี้น้ำป่าได้ไหลซัดเอาโรงเพาะเห็ดพังทลายไป 1 หลัง อีกหนึ่งหลังน้ำท่วมอยู่ในระดับเอว และบางส่วนน้ำได้ซัดเอาก้อนเชื้อเห็ดและเห็ดที่พร้อมเก็บผลผลิตจำหน่าย หายไปกับน้ำ

รวมถึงของเกษตรกรอีกหลายราย ก็ถูกน้ำท่วมขังและพัดเอาก้อนเชื้อเห็ดออกจากโรงเพาะหายไปกับน้ำจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนได้รับความเสียหายคนละเกือบสองหมื่นบาท ซึ่งขณะนี้สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ เมื่อมีแดดออกต้องรีบทำความสะอาดก้อนเชื้อเห็ดและโรงเรือนเพื่อเอาโคลนออก เนื่องจากเชื้อเห็ดหอมเป็นเชื้อที่สะอาดเมื่อน้ำป่าท่วมทำให้ก้อนเชื้อสกปรกก็จะทำให้เกิดเชื้อราและเน่าใช้งานไม่ได้ ดังนั้น จึงต้องเร่งทำความสะอาดให้เร็วที่สุด

น้ำท่วมทะลักกันทุกพื้นที่

แล้วยังมีแนวโน้มจะฝนตกหนักทั้งอาทิตย์อีกหรือนี่..

นึกภาพไม่ออกเลยว่า ตอนนี้ราคาอาหารในเมืองไทย

จะแพงขึ้้นขนาดไหนหน๊อ..

อนุโมทนากับคุณอาริยา ด้วยนะคะ

ที่มีน้ำใจ นำข่าวภัยพิบัติ

มาเผื่อแผ่ให้พวกเราได้พิจารณากันทุกทุ๊กวัน..

เฮอร์ริเคน "ไอรีน" ถล่มเปอร์โตริโก-พัดเข้ามะกันสุดสัปดาห์นี้
 

เฮอร์ริเคนระดับสอง "ไอรีน" พัดถล่มเครือรัฐเปอร์โตริโกของอเมริกา ขณะที่ศูนเฮอร์ริเคนสหรัฐฯ เตือนว่า ไอรีน อาจเพิ่มระดับความแรงเป็นระดับสามในวันพฤหัสบดี และมีความเป็นไปได้ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่มลรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่า เมื่อวันจันทร์ (22) พายุเฮอร์ริเคน "ไอรีน" พายุลูกแรกในหน้าพายุของสหรัฐฯ ได้พัดผ่านเครือรัฐเปอร์โตริโก ในภูมิภาคแถบทะเลแคริบเบียน ทางตะวันออกของสาธารณรัฐโดมินิกัน ทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนัก จากนั้นจึงพัดขึ้นไปทางทิศเหนือของโดมินิกัน ซึ่งศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ในเมืองไมอามี ระบุว่า ขณะนี้ เฮอร์ริเคนไอรีน ยังคงเป็นพายุระดับสอง ที่มีความเร็วลม 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่คาดว่า อาจยกระดับความรุนแรงสู่ระดับ 3 และมีความเป็นไปได้ว่า พายุจะเคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ รัฐเซาธ์ แคโรไลนา, ฟลอริดา หรือจอร์เจีย ซึ่งเป็นมลรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เฮอร์ริเคน ไอรีน สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ที่พัดผ่าน ในเครือรัฐเปอร์โตริโกอย่างมาก โดยทำให้ต้นไม้หักโค่น เสาไฟฟ้า ล้มเสียหาย ซึ่งทำให้ประชาชนกว่าล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีน้ำท่วมสูงตามท้องถนน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ

ด้านนาย หลุยส์ เฟอร์ตูโน ผู้ว่าการรัฐเปอร์โตริโก ได้ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉิน และเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ขณะที่สำนักงานรัฐและบริษัทหลายแห่ง ไม่สามารถเปิดทำการได้ ส่วนเที่ยวบินต่างๆ ในสนามบินนานาชาติซานฮวน สามารถขึ้นบินได้แล้วเมื่อบ่ายวันจันทร์

หลังจากนั้น เฮอร์ริเคนไอรีน ก็ได้เคลื่อนตัวไปยังทะเลทางตอนเหนือของสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดพายุฝนรุนแรงในพื้นที่ และเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม และน้ำท่วมตามมา และแม้ศูนย์กลางของพายุ จะไม่เข้าปะทะในประเทศเฮติโดยตรง แต่ก็ยังทำให้เกิดพายุฝนขึ้นได้

ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ คาดว่า เฮอร์ริเคนไอรีน จะกลายเป็นพายุระดับ 3 ซึ่งมีความเร็วลม 184 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงที่เคลื่อนตัวผ่านเครือรัฐบาฮามาส ทางตอนเหนือของทะเลแคริบเบียน ในวันพฤหัสบดีนี้ และยังมีกำลังแรงเพียงพอที่จะพัดเข้าสู่ชายฝั่งสหรัฐฯ.

                                 --------------------------------------

ธารน้ำแข็ง Petermann ลอยมาใกล้ชายฝั่งเกาะ Newfoundland แคนาดา ล่าสุดแตกออกเป็น 2 ส่วน

By the time the Moderate Resolution Imaging Spectroradiometer (MODIS) on NASA’s Terra satellite passed overhead on Monday August 22, 2011, the Petermann Ice Island-A (PII-A) had split in two.

The below natural-color image shows the principal pieces of PII-A off Newfoundland, just south of Bell Island. Coastlines are outlined in black.

Small clouds hover over Newfoundland, appearing as white dots. But while the clouds cast shadows, the smaller white dots around PII-A do not, and they are likely ice fragments floating in the ocean. They may be fragments that came loose during the breakup, or calved off the ice island before or after the split. In the weeks before MODIS acquired this image, the Canadian Ice Service (CIS) reported that PII-A was losing mass due to melting and calving.

PII-A is a remnant of a much larger ice island that calved off the Petermann Glacier in northwestern Greenland on August 5, 2010. Over the course of the following year, that ice island fragmented into smaller pieces, which continued drifting.

Ice island on 22 August 2011

Petermann Ice Island-A (PII-A) (right) as seen from the MODIS satellite on 26 July. Google Map view of same area (left)


NASA image courtesy Jeff Schmaltz,

.อัศจรรย์แสงเหนือ !!
เผยภาพถ่ายล่าสุดถึงปรากฎการณ์แสงออโรร่าที่กรีนแลนด์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ความมหัศจรรย์ของแสงออโรร่า

เผยภาพปรากฎการณ์ธรรมชาติเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่าที่สะพานจอร์จ วอชิงตัน ในขณะที่น้ำยังคงท่วมขังบางส่วนที่เมืองนิวยอร์ค



Strikes: A photographer captured the exact moment a lightning bolt struck the George Washington Bridge
on Friday night in New York
 

เกิดน้ำท่วมหนักที่ปากีสถาน ต้องเร่งอพยบผู้คนจำนวน 82 ราย ออกจากพื้นที่





 

เผยคลิป! พายุงวงช้างที่รัฐนอร์ธคาโรไลน่าของสหรัฐ



MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปหลายๆมุมของพายุงวงช้าง 3 ลูก เกิดขึ้นที่หาดคาโรไลน่า ของรัฐนอร์ธ คาโรไลน่า โดยพายุ 2 ลูกแรกกลายเป็นพายุทอร์นาโด และพัดเข้าประทบฝั่ง เมือวันที่18 สิงหาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม พายุงวงช้าง มีลักษณะเหมือนท่อน้ำขนาดใหญ่ เกิดตั้งฉากกับท้องฟ้าและผืนน้ำ คล้ายกับพายทอร์นาโด แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า และมักเกิดในแถบเขตร้อน แต่มักจะเกิดที่แถบเส้นละติจูดเหนือมากกว่า และเกิดขึ้นในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง
Mthai News

แพทย์บราซิลใช้เข็มติดเชื้อ HIV ปักรอบรั้วบ้าน

ที่บราซิล แพทย์หญิงรายหนึ่งที่เบื่อหน่ายที่ถูกขโมยขึ้นบ้านมา 2 ครั้ง สุดท้ายคิดวิธีแก้เผ็ดด้วยการนำเข็มฉีดยาที่มีเชื้อเอดส์มาปักไว้รอบรั้วบ้าน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองโซ-บรา-ดิน-โย ห่างจากกรุงบราซิลเลีย 22 กิโลเมตร รั้วบ้านที่เห็นนี้มีเข็มฉีดยาปักรอบรั้ว นอกจากนี้ยังมีป้ายแขวน โดยป้ายดังกล่าวมีข้อความเตือนว่า "ห้ามบุกรุก กำแพงนี้มีเลือดติดเชื้อเอชไอวี."

เจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นแพทย์หญิงไม่เปิดเผยชื่อ บอกว่าสาเหตุที่ต้องใช้วิธีนี้เพราะเธอถูกขโมยขึ้นบ้านมา 2 ครั้งแล้ว ทรัพย์สินถูกกวาดเรียบ และทนไม่ไหวแล้ว จึงนำเข็มฉีดยาที่มีเชื้อเอดส์ปนเปื้อนเหล่านี้มาปักรอบรั้วบ้าน ส่วนเข็มฉีดยานี้นำมาจากสถาบันรักษาโรคกระดูก จากโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งที่เธอทำงานอยู่

รายงานระบุว่า เธอปักเข็มที่มีเชื้อเอดส์นี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งก็สร้างความแตกตื่นให้กับเพื่อนบ้านไม่น้อยเพราะเป็นวิธีที่เป็นอันตราย ทำให้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักงานที่ดูแลเรื่องบ้านได้มีคำสั่งให้เธอนำเข็มฉีดยาออกภายใน 5 วันและยังต้องถูกปรับเป็นเงิน 112 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 3,360 บาท ซึ่งต่อมาเมื่อคืนวันอาทิตย์เธอก็นำเข็มฉีดยาออกมาจากรั้วแล้ว แต่เรื่องก็ยังไม่จบค่ะ เพราะสภาแพทย์ในเมืองดังกล่าวได้สั่งตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากมีกฏห้ามเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกจากโรงพยาบาลและว่า ทัศนคติของแพทย์หญิงรายนี้เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ตอนนี้เธอยังต้องถูกประเมินทางการแพทย์และอาจต้องถูกยึดใบประกอบวิชาชีพด้วย

หลายจังหวัดเตรียมรับมือมวลน้ำจากเขื่อนสิริกิตต์

 



สถานการณ์น้ำท่วมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ยังน่าห่วง หลายจังหวัดต้องเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่เขื่อนสิริกิติ์ปล่อยออกมา


เช่นที่จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลายตัว เพื่อสูบน้ำท่วมออกจากเขตพระรากฐาน พระราชวังจันทน์ พร้อมกันนี้ยังได้ลำเลียงกระสอบทรายมาทำแนวกั้นตลิ่งแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำ

ขณะเดียวกันทาง อบจ.พิษณุโลก และทหารกองทัพภาคที่ 3 กำลังเร่งช่วยกันกรอกกระสอบทรายจำนวน 2 หมื่นถุง เพื่อนำไปกั้นตลิ่งแม่น้ำน่านบริเวณบ้านบางพยอม ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก ไปจนถึงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำน่าน ระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมเขตเมือง หลังจากที่ปริมาณน้ำน่านที่ไหลผ่านจังหวัดพิษณุโลก มีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับที่จังหวัดนครสวรรค์ เร่งสูบน้ำจากชุมชนเดชาพัฒนา ตำบลนครสวรรค์ออก เพื่อระบายน้ำท่วมขังลงแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับระดมรถบรรทุกหินคลุกอีกนับ 10 คัน เพื่อทำแนวป้องกันน้ำล้นแนวตลิ่งระยะทางกว่า 300 เมตร โดยจะจัดสร้างเชื่อนป้องกันน้ำท่วมตั้งแต่ตลาดสะพานดำ ไปจนถึงป้อม 1 คาดว่าจะสามารถรับมือกับระดับน้ำได้

ส่วนที่จังหวัดอุทัยธานี แม่น้ำเจ้าพระยาไหลเชี่ยวกราก โดยเฉพาะที่หมู่ 2 บ้านท่ารากหวาย ตำบลเกาะเทโพ น้ำได้กัดเซาะตลิ่งริมถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ขณะที่กรมเจ้าท่า เร่งก่อสร้างเขื่อนเรียงหินริมน้ำเจ้าพระยา คาดจะแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ก่อนที่ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกัดเซาะจนน้ำไหลเข้าไปสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเรือน

และที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ตำบลบางหัก อำเภอบางบาล เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจนบ้านเรือน ไร่นา และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 300 ครัวเรือน ใน 8 หมู่บ้าน ซึ่งข้อมูลของกรมชลประทาน แจ้งว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเริ่มทรงตัว ในช่วงสามถึงสี่วันข้างหน้าจะไม่สูงมากกว่านี้

ศภช.เตือน"เกาะตราด"น้ำป่าไหลถล่ม

23 สค. 2554 17:10 น.


 

คอส.เตือน 4 จว.เสี่ยงอุทกภัยหนัก
วันที่ 23/08/2554 18:18

นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศอส. เปิดเผยว่า จากภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยมีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 30 จังหวัด ผู้เสียชีวิต 41 ราย สูญหาย 1 คน ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด รวม 90 อำเภอ 614 ตำบล 4,642 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 379,274 ครัวเรือน 1,142,712 คน พื้นที่การเกษตร คาดว่าจะเสียหาย 2,392,974 ไร่ พื้นที่ประมง คาดว่าจะเสียหาย 15,634 ไร่ ปศุสัตว์ ได้รับผลกระทบ 1,569,474 ตัว น้ำท่วมเส้นทางคมนาคม 17 สายทาง 8 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ น่าน เชียงราย นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา

จากการติดตามคาดหมายลักษณะอากาศ พบว่า แม้ในภาพรวมประเทศไทย จะมีปริมาณฝนอยู่ในเกณฑ์ลดลง แต่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้าน จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น

โดยเฉพาะในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ตราด อ.เกาะช้าง อ.คลองใหญ่ จะยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่องอีก 1-2 วัน จึงเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของทั้ง 4 จังหวัด โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา เตรียมรับมืออันตรายที่อาจเกิดจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย

รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภาวะน้ำล้นตลิ่งใน 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และบึงกาฬ เนื่องจากการตรวจสอบปริมาณน้ำที่ไหลผ่านลุ่มน้ำเจ้าพระยาบริเวณ จ.นครสวรรค์ คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์สูงสุดประมาณ 2,200-2,400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20 เซนติเมตร

จาก http://ufokaokala.com/index.php?topic=4334.msg35011;topicseen#msg35011

พระอาจารย์รัตน์แจ้งมาว่า
ตอนนี้พลังงานโลกและระบบสุริยะของเราหมุนตามเข็มนาฬิกาแล้ว 100% ตั้งแต่วันนี้ 22 สิงหาคม 2011 ตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป พลังงานทั้งหลาย(ที่มาจากนอกโลก)จะพุ่งลงตรงๆ 90 องศา (ลงกลางหัวคนพอดี) พลังงานจะพุ่งลงดินและลงพื้นโลกเลย ทั้งนี้จะทำให้เกิด

- ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น
- ภูเขาไฟจะระเบิดรุนแรง และ ถี่ขึ้น
...- แผ่นดินไหวจะแรง และ มากขึ้น
- ระบบต่างๆ จะเริ่มมีปัญหา

หลังฟ้าแดงตั้งเค้ายามค่ำคืน พายุฝนฟ้าพัดถล่มตามมา ทำให้เกิดน้ำท่วมไปทั่วกรุงลอนดอน
 

A stunning sunset over Tower Bridge in London on Monday night. According to the saying "red sky at night.." this would herald a sunny day but unfortunately the day began wet and grey for a large swathe of the country from the North-East to the South-East

Roads in Bournemouth actually cracked because of the extreme weather earlier this month

แผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ทางภาคกลางสหรัฐ

วันอังคาร ที่ 23 ส.ค. 2554

ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงาน เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางห่างไปทางใต้ของเมืองเดนเวอร์ราว 290 กิโลเมตร ซึ่งไม่ค่อยปรากฏในย่านที่อยู่อาศัยแถบภูเขาทางเขตแดนระหว่างรัฐโคโลราโดกับรัฐนิวเม็กซิโก เบื้องต้นทางหลวงและอาคารบ้านเรือนเสียหาย ซากปรักหักพังร่วงลงมาบนถนน ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

 

พิษณุโลก - คนสองแควแตกตื่น เตรียมรับมือน้ำท่วม กองทัพภาคที่ 3 ร่วมจังหวัด วางแนวป้องกันคึกคัก ผวาเขตเศรษฐกิจจมบาดาล หลังเขื่อนสิริกิติ์-แควน้อยบำรุงแดนพร่องน้ำเพิ่ม

วันนี้ (23 ส.ค.54) ที่สะพานข้ามแม่น้ำน่านถนนเลี่ยงเมือง ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ,พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 4 ,ว่าที่พันตรีวีรยุทธ ไวยภาส นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ร่วมกันระดมกำลังทหารและ อส. ร่วมพันคน วางแนวป้องกันสองฝั่งแม่น้ำน่าน เพราะเกรงว่าแม่น้ำน่านจะเพิ่มระดับ ไหลเข้าในเขตเศรษฐกิจของเมืองพิษณุโลก หลังผู้ประกอบการหลายคนต่างวิตก ว่าระยะ 1-2 วันน้ำจะท่วม

นายปรีชา เปิดเผยว่า เขตเศรษฐกิจเมืองพิษณุโลก ยังคงน่าเป็นห่วงมาก น้ำสูง 10.32 ม. แนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย พร่องน้ำเพิ่ม จึงต้องการป้องกันนำไหลเข้าเมืองพิษณุโลก โดยเฉพาะทิศเหนือตั้งแต่สะพานข้ามแม่น้ำถนนเลี่ยงเมือง อาทิ ร้านหว่อง ลงไปถึงตัวเมืองทั้งสองฝั่ง และด้านท้ายเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เนื่องจากเกรงว่าแม่น้ำน่านจะไหลย้อนเข้ามาท่วมเขตเศรษฐกิจ และส่วนที่สามคือรพ.พุทธชินราช ที่เป็นที่ต่ำ และเป็นรพ.ศูนย์ ต้องป้องกันอย่างเต็มที่

พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 4 เปิดเผยว่า วันนี้ ได้แบ่งกำลังพลออกเสริมแนวกระสอบทรายกั้นสองฝั่งแม่น้ำน่านตั้งแต่ ต.หัวรอ ต.พลายชุมพล เขตเทศบานนครพิษณุโลก ต.วัดจันทร์ ส่วนไหนที่แนวป้องกันต่ำก็จะเสริมให้สูงขึ้น และจัดกำลังพลเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

“ขณะนี้มีกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 500 นาย และกำลังจากตชด.อส.อีก 500 นาย รวมแล้ว 1,000 นาย คอยป้องกันน้ำท่วมเมืองพิษณุโลก”

นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วงนี้ต้องเฝ้าระวัง เต็มที่ ซึ่งชลประทาน พยายามรักษาระดับแม่น้ำน่านให้อยู่ที่ประมาณ 10.40 เมตร โดยประสานกับเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยตลอดเวลา ตามแผนเขื่อนสิริกิติ์ปล่อยน้ำ แล้ว 65 ล้าน ลบ.ม. และจะเพิ่มเป็น 80 ล้านในวันพรุ่งนี้(24 ส.ค.) ส่วนเขื่อนแควน้อยมีน้ำกักเก็บ 87 % น้ำไหลเข้าวันละ 31 ล้านลบ.ม. จำเป็นต้องระบายน้ำลงแม่น้ำแควน้อยวันละ 21 ล้าน ลบ.ม.
 

จ.กาญจนบุรี ซ้อมรับแผ่นดินไหวตึกถล่ม

23 สค. 2554 19:47 น.

เมื่อเวลา 14.00 น. จังหวัดกาญจนบุรี ได้ซ้อมแผนเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อพร้อมรับแผ่นดินไหว นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ใน 4 ของประเทศ ที่จัดว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว ตึกถล่ม ที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีรอยเลื่อนที่สำคัญถึง 2 รอยเลื่อน คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรองเลื่อนเจดีย์สามองค์ ที่อาจจะเกิดแผ่นดินไหวได้ตลอดระยะเวลา จึงได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับสถานการณ์อันกาจจะเกิดขึ้น โดยได้จัดซ้อมแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากเหตุภัยพิบัติ เพื่อให้ บุคคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณภัย และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น

หนองคาย-น้ำโขงขึ้นสูงปิดประตูน้ำ หวั่นโขงทะลัก
 

http://www.thairath.co.th/media/cont...hr1667/630.jpg




หนองคาย-น้ำโขงขึ้นสูงปิดประตูน้ำ หวั่นโขงทะลัก ชลประทานเร่งระบายน้ำในตัวเมือง เตือนประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.  ระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย อยู่ที่ระดับ 11.45 เมตร ขยับสูงขึ้นจากวานนี้ 31 ซม. โดยเป็นน้ำโขงที่ไหลจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มาสมทบกับน้ำจากเชียงคาน จ.เลย ซึ่งระดับน้ำอาจมีการปรับตัวสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ระหว่าง 3-8 ซม. ภายใน 1-2 วันนี้ หลังจากนั้นจะทรงตัวและเริ่มลดลง  ขณะที่เมื่อระดับน้ำโขงสูงถึง 11.30 ม. เทศบาลเมืองหนองคายจะทำการปิดประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำโขงทะลักเข้ามาท่วมในตัวเมืองหนองคาย ซึ่งตลิ่งน้ำโขงในตัวเมืองหนองคายสามารถรับน้ำได้ที่ 12.20 เมตร หากน้ำสูงกว่านี้ก็จะไหลเข้าท่วมตัวเมืองหนองคายทันที

 


ทั้งนี้ เทศบาลเมืองหนองคายได้ประสานขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจาก ชลประทานหนองคาย จำนวน 12 เครื่อง ทำการติดตั้ง 3 จุด จุดแรกบริเวณวัดธาตุ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง จุดที่สองบริเวณชุมชนสระแก้ว จำนวน 4 เครื่อง และจุดสุดท้ายที่ซอยท่าค่าย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง โดยขณะนี้ทำการสูบน้ำจากท่อระบายน้ำต่าง ๆ ในตัวเมืองลงน้ำโขงที่จุดสูบน้ำวัดธาตุและสระแก้ว 2 จุดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนจุดสูบน้ำซอยท่าค่ายจะรอดูสถานการณ์น้ำโขงว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นอีกหรือไม่ ก่อนที่จะเดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลังทุกจุด

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองคายยังได้จัดรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอันตรายจากปริมาณน้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วม ให้ติดตามสถานการณ์จากทางราชการและเก็บข้าวของขึ้นที่สูงทันทีหากได้รับการแจ้งเตือน แต่ทั้งนี้สภาพอากาศที่จังหวัดหนองคายท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆฝน คาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักลงมาซ้ำอีกสถานการณ์อาจไม่รุนแรงนัก.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์

----------------------------------------------------------------------------------------

พิจิตรอ่วมหนักทุกท้องที่ “น้ำยม-น้ำน่าน-น้ำป่าเพชรบูรณ์” กระหน่ำซ้ำ

23 สิงหาคม 2554, 12:00 น.

พิจิตร - เมืองชาละวันอ่วมหนักทั้งลุ่มน้ำยม-น้ำน่าน ล้นตลิ่งเพิ่ม หลังทั้งเขื่อนสิริกิติ์-เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปล่อยน้ำเพิ่ม แถมมีน้ำป่าจากเทือกเขาด้านเพชรบูรณ์ไหลทะลักซ้ำ

วันนี้ (23 ส.ค.) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดพิจิตรที่ขณะนี้ถูกน้ำท่วมหนักอยู่แล้วในพื้นที่ 8 อำเภอ ทั้งลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลกระทบมาจากการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ที่สามารถกักเก็บน้ำได้ 9,700 ล้านคิว รวมถึงเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ที่กักเก็บน้ำได้ 800 ล้านคิว ซึ่งทั้ง 2 เขื่อนนี้มีน้ำมากเกินกำลังกว่าที่เขื่อนจะเก็บไว้ได้แล้ว

ทั้งนี้ ตามหลักชลประทานจะต้องพร่องน้ำให้เหลือ 50% เพื่อรอรับน้ำฝนจากพายุอีกหลายลูก ดังนั้นตั้งแต่เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาเมื่อทั้ง 2 เขื่อนระบายน้ำลงมาทำให้ขณะนี้น้ำในแม่น้ำยมที่ อ.สามง่าม ทางเหนือของ จ.พิจิตร ระดับน้ำสูงล้นตลิ่งแล้ว 109 ซม. มีน้ำล้นตลิ่งตลอดระยะทาง 124 กม.ไปจนถึง อ.โพทะเล ที่อยู่ทางด้านใต้ติดกับ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ที่มีน้ำล้นตลิ่งสูง 101 ซม.

ส่วนในแม่น้ำน่านจาก อ.เมือง อ.ตะพานหิน ไปจนถึง อ.บางมูลนาก ตลอดระยะทาง 97 กม.น้ำท่วมทั้งสองฝากฝั่ง โดยมีน้ำล้นตลิ่งสูงถึง 103 ซม. จึงทำให้วันนี้พื้นที่พิจิตรต้องถูกน้ำท่วมหนักกลายเป็นเมืองใต้บาดาล

นอกจากนี้ ในพื้นที่ด้านทิศตะวันออกของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อ.สากเหล็ก ที่ติดกับ อ.วังทอง อ.เนินมะปราง ของจ.พิษณุโลก รวมถึง อ.วังทรายพูน และ อ.ทับคล้อ ที่ติดกับเขต อ.วังโป่ง เขตเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่มีฝนตกหนัก 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลบ่าจนส่งผลให้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง น้ำท่วมถนนขาดเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

อีกทั้งน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมตลาดทับคล้อ และจะไหลต่อไปยัง อ.ดงเจริญ และอ.บางมูลนาก ต่อไปอีกด้วยจึงทำให้ทุกพื้นที่ต้องระทมด้วยภัยพิบัติน้ำท่วมเสียหายกันทั่วหน้า

 

"น้ำมูล"เอ่อล้นท่วมชุมชนเทศบาลนครอุบลฯแล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 สิงหาคม 2554 12:57 น.

อุบลราชธานี-สถานการณ์น้ำท่วมอุบลฯยังน่าห่วง ล่าสุดระดับน้ำมูลเอ่อล้นท่วมชุมชนวังแดง ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ต้องอพยพหนีน้ำแล้ว ด้านพ่อเมืองประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นเหมือนกับปี 2545

วันนี้ (23ส.ค.54) สถานการณ์ระดับแม่น้ำมูลเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก มีน้ำเหนือไหลมารวมกัน ส่งผลกระทบต่อลำน้ำมูลน้อย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขา ทำให้น้ำไหลท่วมบ้านชาวชุมชนวังแดงที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี โดยบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเฉลี่ย 50-70 เซนติเมตร

ทำให้ชาวชุมชนวังแดงจำนวน 17 ครอบครัว ซึ่งมีบ้านอยู่ในจุดต่ำสุด ต้องอพยพมาอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราว ที่เทศบาลนครอุบลราชธานีจัดไว้ให้ โดยสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้ส่งรถบรรทุกน้ำใช้ พร้อมทำสุขาชั่วคราวให้ ซึ่งชาวบ้านยังมีความต้องการ น้ำดื่ม ยารักษาโรคน้ำกัดเท้าเพิ่มเติม

สำหรับระดับแม่น้ำมูล ที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 7 เซนติเมตร ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 6.22 เมตร ถือว่าอยู่ในระดับต้องเฝ้าระวัง เพราะหากระดับน้ำถึง 7 เมตร จะล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนทั้งสองฝั่ง

ขณะเดียวกันนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการช่วยเหลือและเฝ้าระวังพื้นที่ที่คาดว่าจะถูกน้ำท่วม โดยระดับน้ำปีนี้อาจสูงใกล้เคียงกับปี 2545 ซึ่งการแก้ปัญหาเบื้องต้น ได้เตรียมกำลังพลช่วยขนย้ายสิ่งของออกจากจุดน้ำท่วม พร้อมทั้งใช้เครื่องสูบน้ำผันน้ำเข้าสู่แก้มลิงที่อยู่ตามลำน้ำสาขา

ศอส.เตือนเฝ้าระวัง 9 จังหวัดน้ำล้นตลิ่ง 8 จังหวัดเสี่ยงดินถล่ม

วันที่ 23/08/2554 14:10


เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า จากการติดตามคาดหมายลักษณะอากาศ พบว่า แม้ในภาพรวมประเทศไทยจะมีปริมาณฝนอยู่ในเกณฑ์ลดลง แต่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดตราด ที่อำเภอเกาะช้าง อำเภอคลองใหญ่ จะยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่องอีก 1-2 วัน จึงขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของทั้ง 4 จังหวัด โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา เตรียมรับมืออันตรายที่อาจเกิดจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย

ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภาวะน้ำล้นตลิ่งใน 9 จังหวัด แยกเป็น 4 จังหวัดภาคกลางในพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุยา และ 5 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงและลำน้ำสาขาของลำน้ำโขง บริเวณจังหวัดหนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และบึงกาฬ เนื่องจากการตรวจสอบปริมาณน้ำที่ไหลผ่านลุ่มน้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์สูงสุดประมาณ 2,200-2,400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20 เซนติเมตร

ส่วนลุ่มน้ำโขงจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ถึงระดับวิกฤตที่จังหวัดหนองคาย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์สูงสุดช่วงวันที่ 24-25 สิงหาคม 2554 ซึ่งอาจส่งผลให้ภาวะน้ำล้นตลิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น จึงขอฝากเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำของทั้ง 9 จังหวัดเตรียมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนอย่างเคร่งครัด

นายชนม์ชื่นกล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวังดินถล่มมี 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย (อำเภอแม่สาย อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอเทิง) พะเยา (อำเภอปง อำเภอเชียงคำ อำเภอจุน อำเภอดอกคำใต้) น่าน (อำเภอบ่อเกลือ อำเภอปัว อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอสองแคว อำเภอเชียงกลาง อำเภอบ้านหลวง อำเภอท่าวังผา) ลำปาง (อำเภอแม่ทะ อำเภอห้างฉัตร อำเภองาว อำเภอแจ้ห่ม) เชียงใหม่ (อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย) พิษณุโลก (อำเภอเนินมะปราง) เพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า) ตราด (อำเภอเกาะช้าง อำเภอคลองใหญ่)

แผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา 6.0 ไม่มีรายงานความเสียหาย

วันที่ 23/08/2554 03:50





ยูเอสจีเอสรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหว ความรุนแรงระดับ 6.0ในทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการเตือนภัยสึนามิ...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 23 ส.ค. โดยอ้างข้อมูลจากสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ หรือยูเอสจีเอส ว่า เกิดแผ่นดินไหวในทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดระดับความรุนแรงได้ที่ระดับ 6.0 เมื่อเวลา 03.12 น. ตามเวลา ณ จุดเกิดแผ่นดินไหว

โดยศุนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ะเลราว 31.3 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดบันดาร์ลัมปุง บนเกาะสุมาตราไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ราว 176 กิโลเมตร

รายงานระบุด้วยว่า แรงสั่นสะเทือนยังสามารถรู้สึกได้ที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย บนเกาะชวา ซึ่งห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหว 315 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการเตือนภัยสึนามิ

ดินไหวแคชเมียร์ 5.1 สะเทือนถึงนิวเดลีแม้ห่างเกิน 500 กม.

วันที่ 23/08/2554 09:45





ยูเอสจีเอสรายงาน เกิดแผ่นดินไหวที่แคว้นแคชเมียร์ของอินเดีย วัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 5.1 เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย แม้แรงสั่นสะเทือนจะสามารถรู้สึกได้ไกลถึงกรุงนิวเดลีที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 500 กิโลเมตร...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 ส.ค.โดยอ้างสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ "ยูเอสจีเอส" ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 5.1 ที่แคว้นแคชเมียร์ทางตอนเหนือของอินเดีย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ข้อมูลของยูเอสจีเอสระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 41.6 กิโลเมตร ห่างจากเมืองเลห์ในแคว้นแคชเมียร์ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 130 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมือง ปาธานค็อต ในแคว้นปันจาบของอินเดียราว 147 กิโลเมตร

เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ แม้แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวจะสามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียที่อยู่ห่างออกไปราว 506 กิโลเมตรเช่นกัน.

---------------------------

เกิดฝนฟ้าถล่ม และ พายุลูกเห็บพัดถล่มทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

ทำให้เกิดน้ำท่วมถนนหนทาง และลูกเห็บได้สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินเป็นอย่างมาก



ชมคลิป http://dai.ly/riMTr2

Strong Hail and Rainstorm Hits Northeast China -- NTDTV.com

สุโขทัยจ่อ "จมบาดาล" รอบที่ 6 แม่น้ำยมเพิ่มสูงอีก

วันที่ 23/08/2554 15:00





แม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอีก สุโขทัยจ่อ "จมบาดาล" เป็นรอบที่ 6 ที่ถนนนิกรเกษม ต.ธานี อ.เมือง วัดได้ 7.04 เมตร ผจว.เผยปัจจัยหลักคือน้ำที่หนุนมาจาก จ.แพร่ และยังมีปริมาณน้ำฝนที่ตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่...

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่จุดวัดน้ำหน้าบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ถนนนิกรเกษม ต.ธานี อ.เมือง วัดได้ 7.04 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งวัดได้ 6.81 เมตร เนื่องจากมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทางตอนเหนือของจังหวัด ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำยม ที่ระบายลงสู่คลองทางไม้ ในเขต ต.ปากแคว ได้ไหลไปสมทบกับน้ำที่ล้นออกจากสปริงเวย์ ภายในอ่างกักเก็บน้ำขนาดยักษ์ ทุ่งทะเลหลวง ที่ ต.บ้านกล้วย ออกมาที่ระดับ 1.40 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ไหลทะลักเข้าท่วมในหลายตำบล ของ อ.เมือง เช่น ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย ต.ธานี ต.ยางซ้าย และ ต.ปากพระ อย่างรวดเร็ว นับเป็นรอบที่ 6 ของปี

ขณะที่ถนนจรดวิถีถ่อง เขต ต.บ้านกล้วย ตั้งแต่สี่แยกคลองโพธิ์ เรื่อยไปจนถึงวิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายไปได้เพียงวันเดียว ปรากฏว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา น้ำระลอกใหม่นี้ ได้ทะลักเข้าท่วมในพื้นที่อีกครั้ง ส่งผลทำให้ ถนนสายดังกล่าว เส้นทางจาก จ.สุโขทัย สู่ จ.ตาก จมบาดาลทันที ความสูงประมาณ 50-80 ซม. ตำรวจจราจร สภ.เมืองสุโขทัย ต้องนำรถยก ออกไปเคลื่อนย้ายแท่งซีเมนต์ขนาดใหญ่ ที่แขวงการทางสุโขทัย นำมาติดตั้งเป็นเกาะกลางถนน ออกไปเป็นการชั่วคราว เพื่อให้น้ำสามารถไหลระบายข้ามถนน ออกไปสู่ท้องทุ่งได้ ขณะเดียวกัน ได้ประกาศเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ ให้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางถนนสายคลองยาง-สนามบินแทน เนื่องจาก พบรอยแยกขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่บริเวณสะพานข้ามคลองแม่รำพัน หน้าวิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย ม.12 ต.บ้านกล้วย เกรงจะเกิดอันตรายขึ้น

ที่ถนนสายสุโขทัย-วังไม้ขอน ท้องที่ ม.6 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว เป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายหนัก จากน้ำท่วมต่อเนื่องกันมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ส่งผลให้ถนนสายนี้ ช่วงหลัก กม.ที่ 4-5 ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดเสียหายถึง 3 จุด ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ ชาวบ้านกว่า 400 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน นายบุญลือ อินทร์ชม อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 157/2 ม.6 ต.ปากแคว อาชีพทำไร่ยาสูบ ต้องอพยพครอบครัว ขึ้นมาอยู่ริมถนน เนื่องจากน้ำท่วมรอบที่ 6 ไหลทะลักเข้าท่วมบ้าน ไร่ยาสูบ ตลอดจน โรงเก็บใบยาสูบ จมหายไปต่อหน้าต่อตา ด้านนายชาติชาย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมืองสุโขทัย ต้องนำเต็นท์ขนาดใหญ่ จำนวน 8 หลัง มากางไว้ริมถนน เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยของชาวบ้านชั่วคราว เนื่องจากสภาพภายในหมู่บ้าน ระดับน้ำยังคงท่วมสูงอยู่ประมาณ 1 เมตร พร้อมให้กลุ่มแม่บ้าน ตั้งโรงครัวประกอบอาหาร ณ บริเวณใกล้กับจุดที่ถนนขาด เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นแล้ว
นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย นับเป็นครั้งที่ 6 ในรอบปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. เป็นต้นมา รวมระยะเวลากว่า 2 เดือน คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน่าจะรุนแรงกว่า 5 ครั้งที่ผ่านมา ปัจจัยหลักคือ น้ำที่หนุนมาจาก จ.แพร่ นอกจากนี้ ยังจะมีปริมาณน้ำฝนที่ยังคงตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่อีกด้วย จึงขอเตือนพี่น้องชาวสุโขทัย ขอให้เตรียมรับมือกับอุทกภัย ที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ นายก อบจ.สุโขทัย ได้จัดเวทีประชาคม เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาวิกฤติน้ำท่วมของ จ.สุโขทัย ขึ้น โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการระดมความคิด เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ใน จ.สุโขทัย.

เฮอริเคนถล่ม แคริบเบี่ยน

23-08-2554 | 11:30 l ชมทั้งหมด 4
พายุเฮอริเคนไอรีน ซึ่งมีความรุนแรงระดับ 2 และกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 3 ได้พัดเข้าถล่มหลายประเทศในหมู่เกาะทะเลแคริบเบี่ยน เมื่อวานนี้  โดยที่เปอร์โตริโก  เกิดลมกระโชกแรงและฝนฟ้าคะนอง  ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ประชาชนกว่า 1 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ทางการเร่งประกาศภาวะฉุกเฉินในประเทศสั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ราชการทั่วประเทศ พร้อมเร่งอพยพตามแนวชายฝั่งออกจากพื้นที่ และประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้สายไฟฟ้าและบนถนน เนื่องจากเกรงจะถูกไฟฟ้าช็อตและถูกสัตว์ทำร้ายได้ เช่นเดียวกับที่เฮติ และสาธารณรัฐโดมินิกัน ที่เตรียมรับมือกับเฮอริเคนลูกนี้เนื่องจากคาดการณ์ว่าอาจเป็นเส้นทางพัดผ่านของเฮอริเคนได้

ปภ.ลำปางเตือนอาจมีน้ำป่าไหลหลาก

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 23 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 10:47 น.



ปภ.ลำปาง เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ช่วง 1-2 วันนี้ อาจะมีนำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ด้าน ปภ. เตรียมช่วยเหลือประชาชนเต็มที่

นายกฤษเพชร เพชรบูรณณนิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลำปาง กล่าวว่า จากรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศไว้ว่า ในช่วง1-2 วันนี้ จ.ลำปาง จะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ถึงเกือบทั่วไปในจังหวัดลำปางร้อยละ 70 สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มควรระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม

นอกจากนี้ทาง สำนักงาน ปภ.ลำปาง ได้จัดเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรกล เรือท้องแบน รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำออกให้บริการในพื้นที่ประสบภัยในทุกพื้นที่ไว้แล้ว หากเกิดน้ำท่วมซ้ำซากขึ้นอีก ทั้งนี้ ประชาชนที่เดือดร้อน จากอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และผู้นำชุมชนได้ทุกแห่ง และที่ สำนักงาน ปภ. ใกล้บ้าน
Link : http://www.innnews.co.th/ปภ-ล

ปภ.ลำปางเตือนอาจมีน้ำป่าไหลหลาก

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 23 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 10:47 น.



ปภ.ลำปาง เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ช่วง 1-2 วันนี้ อาจะมีนำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ด้าน ปภ. เตรียมช่วยเหลือประชาชนเต็มที่

นายกฤษเพชร เพชรบูรณณนิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลำปาง กล่าวว่า จากรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศไว้ว่า ในช่วง1-2 วันนี้ จ.ลำปาง จะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ถึงเกือบทั่วไปในจังหวัดลำปางร้อยละ 70 สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มควรระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม

นอกจากนี้ทาง สำนักงาน ปภ.ลำปาง ได้จัดเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรกล เรือท้องแบน รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำออกให้บริการในพื้นที่ประสบภัยในทุกพื้นที่ไว้แล้ว หากเกิดน้ำท่วมซ้ำซากขึ้นอีก ทั้งนี้ ประชาชนที่เดือดร้อน จากอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และผู้นำชุมชนได้ทุกแห่ง และที่ สำนักงาน ปภ. ใกล้บ้าน
Link : http://www.innnews.co.th/ปภ-ล

อุตรดิตถ์จัดกระสอบทรายกว่าแสนใบกันน้ำล้นตลิ่ง
  
23 สค. 2554 10:06 น.

นายสุรชัย ธัชกวิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากที่เขื่อนสิริกิติ์มีแผนปล่อยน้ำออกจากเขื่อนปริมาณ 65 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่มากที่สุดโดยเริ่มตั้งแต่เวลา 22.00 น.วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา และน้ำจะไหลเข้าสู่ตัวเมืองอุตรดิตถ์จุดรับน้ำจุดแรกในเวลา 06.00 น.วันนี้ (23 ส.ค.) จังหวัดอุตรดิตถ์จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามระดับน้ำน่านท้ายเขื่อนสิริกิติ์อย่างใกล้ชิด มีการรายงานผลตลอดครึ่งชั่วโมง หวั่นเกิดน้ำท่วมหนักและรุนแรงเหมือนปี 2538 สถานการณ์ล่าสุดระดับน้ำที่สะพานท่าเสา เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จุดรับน้ำจุดแรกยังคงทรงตัว ทั้งนี้ เขื่อนสิริกิติ์ปรับแผนการปล่อยน้ำจากเดิมวันละ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 65 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อนลดลง และได้รับการประสานจาก จ.พิษณุโลกให้ลดปริมาณการปล่อยน้ำ หวั่นจะเกิดผลกระทบรุนแรง ปล่อยครั้งละ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้หารไหลของน้ำท้ายเขื่อนเป็นไปอย่างช้าๆ และเพิ่มระดับไม่มาก ซึ่งระดับน้ำเขื่อนสิริกิติ์คิดเป็นร้อยละ 91 หรือ 8700 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังอยู่ระดับวิกฤติ รับน้ำได้อีก 800 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำไหลเข้า 150 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายสุรชัย กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ปล่อยออกจากเขื่อนสิริกิติ์และแม่น้ำสาขาที่ไหลสมทบแม่น้ำน่านท้ายเขื่อนสิริกิติ์ จะไหลสมทบและเพิ่มปริมาณสูงกว่าปกติ 50 เซนติเมตร นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ในฐานะ ผอ.อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่มจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้สั่งเตรียมกระสอบทรายกว่า 1 แสนใบเตรียมป้องกันน้ำล้นตลิ่งในพื้นอำเภอตรอน และ อำเภอพิชัย ซึ่งเป็นจุดรับมวลน้ำทั้งหมดก่อนจะไหลเข้าสู่ จ.พิษณุโลกต่อไป
ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่มจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมตลิ่งน้ำน่านไหลผ่าน ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำน่านอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรับฟังการประกาศแจ้งเตือนภัย อย่างต่อเนื่อง เตรียมเก็บสิ่งของที่จำเป็น หรืออพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงหรือพื้นที่ปลอดภัยจากน้ำที่อาจท่วมถึง เตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม ยารักษาโรคและของใช้ที่จำเป็นสำรองไว้ เพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพ หากมีความจำเป็นต้องการความช่วยเหลือจากทางราชการ ให้ประสานติดต่อที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และอำเภอทุกแห่ง และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5540-3165-6 ตลอด 24 ชั่วโมง

เห็นข่าว ถนนแตก ที่อังกฤษแล้ว ก็แอบนึกถึงเมืองไทยเหมือนกันเนอะ

เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน แล้วอยู่ดีๆถ้าอากาศผิดเพี้ยน

กลายเป็นหนาวจัดติดลบเยอะๆขึ้นมา ถนนบ้านเราจะกรอบแตก

ทั้งประเทศหรือเปล่าเนี่ย.. เพราะที่ยุโรปส่วนใหญ่เวลาเค้าทำถนน

เค้าจะสร้างเผื่ออากาศไว้ตั้งแต่หนาวจัดจนถึงร้อนจัดเลย

น่าจะรองรับอุณหภูมิได้ประมาณ -40องศา จนถึง +40องศา นะ..

ว่าแล้วก็น่าคิดเหมือนกัน นอกจากน้ำจะทำลายการจราจรแล้ว

อากาศหนาวจัด และภัยอื่นๆ อาจจะทำให้เราตัดขาด

จากโลกภายนอกไปเลยก็ได้

อนุโมทนากับคุณอาริยาด้วยนะคะ

พายุลูกเห็บพัดไม้ใหญ่ล้มทับบ้าน เจ้าของนอนอยู่ถูกไม้ฟาดดับคาที่

วันที่ 24 ส.ค. ร.ต.ท.นำชัย ล้วนปิยะกุล ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรีร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้าน คนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่กลางบ้านมีผู้เสียชีวิต 1 ราย นอนอยู่ในบ้านจึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตและประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจังหวัดปราจีนบุรีนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

ร.ต.ท.นำชัย ล้วนปิยะกุล ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรีกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางญาติผู้เสียชีวิตว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่บ้านคนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงมาที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่กลางบ้านสภาพบ้านถูกไม้ทับทั้งหลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.บุญนาค ภิญโญ อายุ 47 ปี สภาพศพผู้เสียชีวิตนอนหงาย หน้าผากมีรอยช้ำแดงโดนกิ่งไม้ฟาดใส่ สาเหตุเกิดจากต้นนุ่นขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 70 ซม. ล้มใส่บ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในบ้านคนเดียว ร.ต.ท.นำชัยกล่าวในที่สุด

ด้านนางพูลทรัพย์ เดชผิว นายกเทศมนตรีตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันนี้มีลมพายุแรงและลูกเห็ดตกทำให้ต้นไม้ทับบ้านเรือนประชาชน 2 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านหลังแรกมีผู้เสียชีวิต 1 รายสภาพบ้านพังทั้งหลัง อีกรายเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นถูกลมพัดพังเสียหาย มีต้นไม้ล้มขวางถนนจำนวนมาก ทางเทศบาลได้รายงานให้ทางอำเภอเมืองปราจีนบุรีทราบแล้ว และเร่งช่วยเหลือประชาชนต่อไปนางพูลทรัพย์กล่าวในที่สุด


ข้อมูลจาก ข่าวสด

พายุลูกเห็บพัดไม้ใหญ่ล้มทับบ้าน เจ้าของนอนอยู่ถูกไม้ฟาดดับคาที่

วันที่ 24 ส.ค. ร.ต.ท.นำชัย ล้วนปิยะกุล ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรีร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้าน คนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่กลางบ้านมีผู้เสียชีวิต 1 ราย นอนอยู่ในบ้านจึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตและประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจังหวัดปราจีนบุรีนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

ร.ต.ท.นำชัย ล้วนปิยะกุล ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรีกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางญาติผู้เสียชีวิตว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่บ้านคนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงมาที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่กลางบ้านสภาพบ้านถูกไม้ทับทั้งหลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.บุญนาค ภิญโญ อายุ 47 ปี สภาพศพผู้เสียชีวิตนอนหงาย หน้าผากมีรอยช้ำแดงโดนกิ่งไม้ฟาดใส่ สาเหตุเกิดจากต้นนุ่นขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 70 ซม. ล้มใส่บ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในบ้านคนเดียว ร.ต.ท.นำชัยกล่าวในที่สุด

ด้านนางพูลทรัพย์ เดชผิว นายกเทศมนตรีตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันนี้มีลมพายุแรงและลูกเห็ดตกทำให้ต้นไม้ทับบ้านเรือนประชาชน 2 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านหลังแรกมีผู้เสียชีวิต 1 รายสภาพบ้านพังทั้งหลัง อีกรายเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นถูกลมพัดพังเสียหาย มีต้นไม้ล้มขวางถนนจำนวนมาก ทางเทศบาลได้รายงานให้ทางอำเภอเมืองปราจีนบุรีทราบแล้ว และเร่งช่วยเหลือประชาชนต่อไปนางพูลทรัพย์กล่าวในที่สุด


ข้อมูลจาก ข่าวสด

พายุลูกเห็บพัดไม้ใหญ่ล้มทับบ้าน เจ้าของนอนอยู่ถูกไม้ฟาดดับคาที่

วันที่ 24 ส.ค. ร.ต.ท.นำชัย ล้วนปิยะกุล ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรีร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้าน คนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่กลางบ้านมีผู้เสียชีวิต 1 ราย นอนอยู่ในบ้านจึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตและประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจังหวัดปราจีนบุรีนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

ร.ต.ท.นำชัย ล้วนปิยะกุล ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรีกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางญาติผู้เสียชีวิตว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่บ้านคนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงมาที่เกิดเหตุพบบ้านปูนชั้นเดียวถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่กลางบ้านสภาพบ้านถูกไม้ทับทั้งหลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.บุญนาค ภิญโญ อายุ 47 ปี สภาพศพผู้เสียชีวิตนอนหงาย หน้าผากมีรอยช้ำแดงโดนกิ่งไม้ฟาดใส่ สาเหตุเกิดจากต้นนุ่นขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 70 ซม. ล้มใส่บ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในบ้านคนเดียว ร.ต.ท.นำชัยกล่าวในที่สุด

ด้านนางพูลทรัพย์ เดชผิว นายกเทศมนตรีตำบลโคกมะกอก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันนี้มีลมพายุแรงและลูกเห็ดตกทำให้ต้นไม้ทับบ้านเรือนประชาชน 2 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านหลังแรกมีผู้เสียชีวิต 1 รายสภาพบ้านพังทั้งหลัง อีกรายเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นถูกลมพัดพังเสียหาย มีต้นไม้ล้มขวางถนนจำนวนมาก ทางเทศบาลได้รายงานให้ทางอำเภอเมืองปราจีนบุรีทราบแล้ว และเร่งช่วยเหลือประชาชนต่อไปนางพูลทรัพย์กล่าวในที่สุด


ข้อมูลจาก ข่าวสด

ชลประทานแจงเขื่อนเชียงใหม่ยังรับน้ำไหว เสนอผันน้ำแม่คาวลงน้ำปิงแก้น้ำท่วม

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชลประทานที่ 1 เชียงใหม่แจงสถานการณ์น้ำ 2 เขื่อนหลักยังรับน้ำไหว “แม่งัด” ยังรับได้อีกเยอะ ส่วน “แม่กวง” ใกล้ถึงระดับวิกฤตแต่ยันไม่มีแผนระบายน้ำหากหลังเขื่อนยังน้ำท่วม แต่ระยะยาวต้องหาทางพร่องน้ำเตรียมรับน้ำใหม่ ส่วนเหตุน้ำท่วมชี้อยู่ที่น้ำกวงรับน้ำไม่ไหว-ระบายไม่ทัน พร้อมเสนอแนวคิดผันน้ำแม่คาวมาลงน้ำปิงแทนเพื่อแก้ปัญหา

นายวินัย พงษ์จินดา ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่งของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อนแม่กวงอุดมธาราว่า ขณะนี้ที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีปริมาณน้ำ 189.297 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 71.43 ของความจุ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 75.703 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารามีปริมาณน้ำ 232.088 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 88.25 ของความจุ สามารถรองรับน้ำได้อีก 30.912 ล้าน ลบ.ม.

ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 12 แห่ง ซึ่งมีความจุรวมกันทั้งสิ้น 86.657 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 61.452 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 70.91 โดยอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเต็มความจุมีจำนวน 5 แห่ง ได้แก่อ่างเก็บน้ำแม่ออน อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ อ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง อ่างเก็บน้ำแม่โก๋น และอ่างเก็บน้ำสันหนอง

จากสถานการณ์น้ำดังกล่าว นายวินัยระบุว่า กรณีของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมากพอสมควร และยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธาราอาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนได้ หากยังมีปริมาณเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่องจนเกินระดับที่เขื่อนสามารถรองรับได้ ทั้งนี้ เขื่อนมีมาตรการในการบริหารจัดการ ด้วยการพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำเพื่อไม่ให้น้ำภายในอ่างอยู่ในภาวะวิกฤต รวมทั้งเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะเข้ามาเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม การพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำจะพิจารณาจากสถานการณ์ของพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยหากมีเหตุน้ำท่วมหรือสถานการณ์วิกฤตจะไม่มีการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำอย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาเขื่อนแม่กวงอุดมธารายังไม่มีการระบายน้ำลงพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเพื่อไม่ให้เกิดผลผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ แต่หลังจากนี้จำเป็นจะต้องพิจารณาหาช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในอ่างมีปริมาณมากจนเกินไป เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกและมีน้ำไหลเข้าสู่อ่างอีกเป็นจำนวนมากในปีนี้

สำหรับปัญหาการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.สันกำแพง และ อ.ดอยยสะเก็ด ในช่วงที่ผ่านมา มีสาเหตุมาจากการที่น้ำระบายออกจากพื้นที่ไม่ทัน เนื่องจากลำน้ำธรรมชาติที่ใช้ระบายน้ำมีสิ่งกีดขวาง มีการรุกล้ำทางน้ำ ประกอบกับ ลำน้ำแม่กวงซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่รองรับน้ำจากลำน้ำสาขาต่างๆ ในพื้นที่ที่เกิดเหตุน้ำท่วมก็มีปริมาณน้ำเพิ่มสูง จนไม่สามารถรองรับน้ำที่มาจากลำน้ำสาขาต่างๆ ได้ทัน

ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่กล่าวกับเอเอสทีวีผู้จัดการต่อไปว่า จากปัญหาดังกล่าว ได้มีการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาไว้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและบรรเทาอุทกภัย กับด้วยการขุดลอกหรือขุดขยายทางน้ำสายต่างๆ โดยเฉพาะในลำน้ำแม่กวง ให้สามารถรองรับน้ำในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และระบายน้ำได้รวดเร็วขึ้น การก่อสร้างฝายน้ำล้นคอนกรีต พนังกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำในพื้นที่เสียงตามความเหมาะสม และการผันน้ำอ้อมพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ชุมชนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ

2. การกำหนดพื้นที่การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงข้อมูลสถานการณ์น้ำ รวมทั้งเฝ้าระวังและรายงานข้อมูลความเสียหายในแต่ละพื้นที่ และ 3.การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและแก้มลิงในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม เพื่อลดปริมาณน้ำหลากที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งได้อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ในกรณีของการผันน้ำอ้อมพื้นที่เสี่ยง มีแนวความคิดที่จะผันน้ำจากต้นน้ำแม่คาวเข้าสู่แม่น้ำปิงโดยไม่ต้องผ่านลำน้ำแม่กวง ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่กวงในกรณีที่เกิดเหตุน้ำท่วม และการระบายน้ำในพื้นที่ อ.สันกำแพงได้

จากการศึกษาในเบื้องต้นเห็นว่า อาจใช้วิธีสร้างคลองส่งน้ำจากลำน้ำแม่คาวเข้าสู่แม่น้ำปิงผ่านพื้นที่บริเวณ ต.สันผีเสื้อ ความยาวประมาณ 500 ม. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังถือเป็นเพียงแนวทางการแก้ไขปัญหาเท่านั้น หากจะมีการดำเนินการจะต้องมีการศึกษาถึงผลดีผลเสียและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ผู้เลี้ยงไก่ไข่ผวาน้ำท่วมซ้ำรอย งดนำแม่ไก่เข้าเลี้ยง

ผู้เลี้ยงไก่ไข่หวั่นปัญหาน้ำท่วมซ้ำรอย งดนำแม่ไก่เข้าเลี้ยง กระทบไข่ไก่หายจากระบบ นายปรีชา สุขบุญพันธ์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคเหนือ ที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2553 เกิดความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์น้ำที่กำลังเกิดขึ้นว่า จะกระทบต่อการเลี้ยงไก่ไข่ดังเช่นที่เคยเป็น จึงชะลอการนำแม่พันธุ์ไก่ไข่เข้าเลี้ยง ส่งผลให้ปริมาณไก่ไข่ที่ออกสู่ท้องตลาดหายไปไม่ต่ำกว่า 1 แสนฟองต่อวัน “ถึงแม้ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ จะไม่ส่งผลโดยตรงกับการเลี้ยงไก่ไข่ แต่ก็ทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ที่เคยถูกน้ำท่วมจนเสียหายและเดือดร้อนอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว เกิดความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก จึงไม่กล้านำไก่เข้าเลี้ยง ทำให้ปริมาณไข่ไก่ในท้องตลาดลดลง วันละเกือบ 1 แสนฟอง ซึ่งภาวะความไม่มั่นใจในสถานะการณ์น้ำดังกล่าวจะเกิดเป็นลูกโซ่จากเหนือ สู่ภาคกลาง อีสาน ไปจนถึงภาคใต้ ตามภาวะน้ำที่จะท่วมไล่ไปเช่นนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณไข่ไก่อย่างแน่นอน” นายปรีชา กล่าวและว่า ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ที่ลดลงกว่า 10% ในปัจจุบัน เกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัญหาภาวะอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด ทำให้ไก่ไข่อ่อนแอ กินอาหารน้อยลง การให้ไข่ลดลง ที่สำคัญยังมีปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้สถานะการณ์ของโรคยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้ปริมาณไข่ไก่ที่ออกสู่ท้องตลาดน้อยลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ยังต้องประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย

แผ่นดินไหวสหรัฐฯ คนไทยไม่เจ็บแต่ทรัพย์สินเสียหายบางส่วน

กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 เวลา 13.51 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือวันที่ 24 สิงหาคม 2554 เวลา 00.51 น. ตามเวลาประเทศ ไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์ ขึ้นที่เขตเมืองมิเนอรัล (Mineral) มลรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงวอชิงตัน ประมาณ135 กิโลเมตร โดยอาคารสำนักงานต่างๆ ได้รับความสั่นสะเทือน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานกับชุมชนไทยในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า คนไทยที่อยู่ในบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่มีทรัพย์สินเสียหายบางส่วน

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ประกาศแจ้งข่าวให้ชุมชนไทยต่างๆ ทราบผ่านสื่อออนไลน์ทั้ง Twitter และ Facebook เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากมีคนไทยประสงค์ขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลข + 202-309-0610 นอกเวลาราชการ และที่หมายเลข + 202-298-4787 และ + 202-298-4812 ในเวลาราชการ

 

Earthquake Virginia 2011 Live from Washington DC USA Aug 23 2011 Earthquake 5.9 Virginia - YouTube

รวมเปิดภาพแผ่นดินไหวอเมริกา

ยอดวิหารหัก

จากเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.8 ริกเตอร์ ที่ รัฐเวอร์จิเนีย ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ จนทำให้ มหาวิหารแห่งชาติ กรุงวอชิงตัน ได้รับแรงสั่นสะเทือนถึงขนาดยอดแหลมหัก 3 ยอด
แผ่นดินไหวดังกล่าว รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนไปไกลถึงแคนาดา ขณะที่ ผู้คนในกรุงวอชิงตัน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 133 กิโลเมตร พากันวิ่งออกจากอาคารสำนักงานในช่วงพักเที่ยง และเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรัฐเวอร์จิเนียนับตั้งแต่ปี 2440
นอกจากนี้ มีรายงานว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตา ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นอร์ทแอนนาในรัฐนี้ไม่ได้รับความเสียหายแต่ถูกปิดจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย
ส่วนที่ นครนิวยอร์ก แรงสั่นสะเทือนทำให้มีการอพยพคนออกจากสำนักงานศาล ศาลากลาง ท่าอากาศยาน และต้องระงับการก่อสร้างที่ กราวน์ซีโร แรงสั่นสะเทือนยังรู้สึกได้ที่ นครบอสตัน เมืองแฮมป์สตันส์ ขณะที่ บริการโทรศัพท์ทางฝั่งตะวันออก ใช้งานไม่ได้ชั่วคราว เนื่องจาก คนโทรศัพท์หากันจ้าละหวั่น

น้ำหลากจ่อท่วมนาข้าว -พืชไร่เขตสองพี่น้อง

----------------------------------------------------------------

ชายฝั่งตอ.สหรัฐเสี่ยงเจอพายุเฮอร์ริเคน ไอรีน ขึ้นฝั่งสุดสัปดาห์

พิจิตร - ชาวบ้านเมืองเก่ากว่า300 บุกนำกระสอบทรายกั้นถนน

กทม.นำกระสอบทรายสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม

ผู้ว่าฯ กทม.และคณะตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมและแนวเรียงกระสอบทรายชั่วคราว บริเวณโรงพยาบาลศิริราช และท่าเรือพรานนก เพื่อเตรียมรับมือน้ำท่วม คาดแล้วเสร็จปีหน้า

วันนี้ (24 ส.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมและแนวเรียงกระสอบทรายชั่วคราว บริเวณโรงพยาบาลศิริราชและท่าเรือพรานนก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยกล่าวว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่จะมีระดับน้ำทะเลหนุนสูง 1.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประกอบกับมีรายงานว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา วัดได้ที่ประตูระบายน้ำที่อำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็นปริมาณที่ค่อนข้างมากกว่าปกติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานเขตในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 13 เขต ที่มีชุมชนอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ 27 ชุมชนกว่า 1,200 ครัวเรือน เตรียมความพร้อม และระมัดระวังสถานการณ์น้ำในช่วงนี้โดยการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบท่าระดับของบ้านแต่ละหลัง เพื่อแจ้งเตือนไปยังเจ้าของบ้านก่อนที่น้ำเหนือจะเดินทางมาถึงในเดือนหน้าซึ่งคาดแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ทางกรมชลประทานได้มีการทยอยปล่อยน้ำท้ายเขื่อน บางไทรอยู่ที่ระดับ 2,322 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ กทม.ยังคงรับได้เพราะศักยภาพของ กทม.นั้นรับได้ถึง 2,500-3,000 ลบ.ม./วินาที

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้าแนวคันกั้นน้ำโดยรอบโรงพยาบาลศิริราชและท่าเรือพรานนกที่มีความยาวทั้งสิ้น 300 เมตรจากโรงพยาบาลไปถึงโรงเรียนคุณเกษม คาดแล้วเสร็จภายในกลางปีหน้าความสูงอยู่ที่ 2.50 เมตร สำหรับวันนี้น้ำจะขี้นูสุดในเวลา 20.15 น.ระดับความสูงจะอยู่ที่ 88 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

น้ำมันแพงคนแห่ใช้พลังงานทดแทน

กรมธุรกิจพลังงานแจงยอดใช้น้ำมัน 7 เดือน เหตุน้ำมันแพงกว่าปีก่อน 6 บาท/ลิตร คนแห่ใช้น้ำมันกลุ่มพลังงานทดแทน-แอลพีจี –เอ็นจีวี นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วง 7 เดือนแรก ของปี 2554 (ม.ค.-ก.ค.)ว่า ระดับราคาน้ำมันในปีนี้ปรับสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงลิตรละ 6 บาท ส่งผลให้ภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันในกลุ่มพลังงานทดแทนปรับเพิ่มขึ้นทุกชนิด ทั้งนี้การใช้น้ำมันในกลุ่มแก๊สโซฮอล์อยู่ที่วันละ 12.6 ล้านลิตร ปรับเพิ่มขึ้น 6% ในขณะที่กลุ่มเบนซินยอดใช้อยู่ที่ 7.8 ล้านลิตร/วัน ลดลง 7% สำหรับน้ำมันดีเซลมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมียอดใช้อยู่ที่ 52.1 ล้านลิตร/วัน ปรับเพิ่มขึ้น 3% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายการตรึงราคาดีเซลในระดับ 29.99 บาท/ลิตร นอกจากนี้การใช้ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ในช่วง 7 เดือน ปรับเพิ่มขึ้น 22% จากวันละ 1.43 หมื่นตัน หรือ 4.33 แสนตัน/เดือน เป็น 1.74 หมื่นตัน/วัน หรือ 5.44 แสนตัน/เดือน ซึ่งเป็นการใช้ปรับเพิ่มขึ้นทุกภาค โดยการใช้ภาคขนส่งปรับเพิ่มขึ้น 31% เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่การใช้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 7% และภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 54% ส่วนยอดใช้เอ็นจีวีเพิ่มขึ้น 35% จากวันละ4,700ล้านตันเป็นวันละ 6,400 ล้านตัน ด้านการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงโดยรวม อยู่ที่ 8.57 แสนบาร์เรล/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1% โดยมูลค่านำเข้า 5.99 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% แยกเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบ 8.05 แสนบาร์เรล/วัน มูลค่า 5.7 แสนล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูป 5.2 หมื่นบาร์เรล/วัน มูลค่า 2.87 หมื่นล้านบา ทั้งนี้เป็นการนำเข้าแอลพีจีเฉลี่ย 1.18 แสนตัน/เดือน มูลค่ารวม 2.34 หมื่นล้านบาท และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชยรวม 1.55 หมื่นล้านบาท นายวีระพล กล่าวถึงยอดใช้น้ำมันเฉพาะเดือนก.ค.ปรับลดลงทุกชนิด จากเดือนมิ.ย. เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน มีลมมรสุมพัดผ่านประเทศไทย ประกอบกับหมดช่วงฤดูพืชผลจากการเกษตร โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินลดลง 5% อยู่ที่วันละ 19.8 ล้านลิตร และการใช้ดีเซลปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 49.1 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนก่อน 8% อย่างไรก็ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมาได้ปรับราคาลดลงกว่า10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลซึ่งสะท้อนความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลก โดยสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ(อีไอเอ) ได้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดเวสเท็กซัสในเดือนส.ค. อยู่ที่ 88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และไตรมาส3นี้จะอยู่ที่ระดับ 92.18 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ระวังตาบอดชั่วคราว...ขณะขัระวังตาบอดชั่วคราว...ขณะขับขี่บขี

จุลสารลด หยุด ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำเดือนสิงหาคม เรื่องนี้ต้องขยาย ระวังตาบอดชั่วคราว ขณะขับขี่ ขออนุญาตผ่านตรงนี้คัดลอกเพื่อเผยแพร่ครับ

สภาพตาบอดชั่วคราว เป็นอาการที่ผู้ขับขี่มองไม่เห็นเส้นทางในช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือเห็นภาพหลอนจากแสงไฟของถนน ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดกับการขับรถในช่วงกลางคืนและช่วงกลางวันที่ทัศนวิสัยไม่ดี เพื่อความปลอดภัยขอแนะสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดสภาพตาบอดชั่วคราวและวิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากกรณีดังกล่าว ดังนี้

สถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดสภาพตาบอดชั่วคราว กรณีขับรถสวนทางเวลากลางคืน แสงไฟของรถคันที่ขับสวนทางมาจะส่องเข้าตาตลอดเวลา ทำให้ผู้ขับขี่สายตาพร่ามัว มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน หรือเห็นภาพหลอนเหมือนมีคนกำลังข้ามถนน หากเบรกกะทันหันจะทำให้รถเสียหลักหรือถูกรถที่วิ่งตามมาชนท้ายได้

กรณีขับผ่านเส้นทางที่ไฟส่องสว่างไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงทางเข้าและออกอุโมงค์จะมีแสงสว่างบนถนนไม่สม่ำเสมอ ทำให้สายตาของผู้ขับขี่ปรับสภาพไม่ทันจึงมองเห็นทางไม่ชัดเจนเหมือนกับทางที่มีแสงระดับเดียวกัน

กรณีขับรถกลางคืนที่ทัศนวิสัยไม่ดี ฝนตกหนักและกระจกรถเป็นฝ้า ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นทางลดลงซึ่งเป็นอันตรายต่อการขับขี่อย่างยิ่ง

กรณีขับรถผ่านเส้นทางที่น้ำท่วมขัง รถที่วิ่งแซงขึ้นไปอาจทำให้น้ำที่ท่วมขังบนถนนกระจายสาดใส่หน้ารถจนมองไม่เห็นทางชั่วขณะ หากผู้ขับขี่เบรกกะทันหันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกชนท้ายได้

กรณีขับผ่านเส้นทางหรือสะพานที่เป็นทางโค้ง ทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นทางข้างหน้าในช่วง 5 วินาทีก่อนที่รถจะวิ่งถึง จึงไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ข้างหน้าได้ โดยเฉพาะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถหยุดรถได้ทัน

วิธีแก้ไขสถานการณ์ เปิดไฟหน้ารถหรือใช้แตรเตือนให้ผู้ขับขี่อื่นทราบ ชะลอความเร็ว เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ไม่หยุดรถกะทันหัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุชนท้าย หากสายตาพร่ามัวจากแสงไฟของรถคันอื่นให้มองไปที่เส้นขอบถนนและยึดเป็นแนวในการขับรถ กรณีทัศนวิสัยแย่มากจนมองไม่เห็นทางให้รีบจอดชิดริมทาง หรือบริเวณที่ปลอดภัยเพื่อพักสายตา 15-30 นาที และรอจนทัศนวิสัยดีขึ้นค่อยขับต่อ.

ไฟเหลือง

ออสเตรีย ทวีปยุโรป เผชิญกับคลื่นความร้อน - 23 Aug 2011


© europics.at
 

23. 08. 11. - 15:47
Heatwave hits Austria

The current week is expected to be the hottest of this year, meteorologists said today (Tues).

Experts explained this week’s top

 not rule out that previous temperature records for August could be broken in the coming days. The Central Agency for Meteorology and Geodynamics (ZAMG) said the Lower Austrian town of Zwerndorf registered 38.6 degrees centigrade in August 2003, one of the hottest months in the past decades.

Ice cream parlour managers and pool bosses are welcoming the news while car clubs warn drivers to pay attention. Motorists’ association Arbö said today drivers’ focus was often worsening in the heat. There are usually more accidents on extremely hot days, according to the organisation. The hottest days of 2010 were 13, 14 and 15 July. An average 94 car crashes happened on these three days, up from around 70 on three days in the same time span of 2009. Experts appealed to drivers to take breaks, drink lots of water and abstain from speeding especially when the quicksilver soars.

Meteorologists explained they could already say with certainty that the current month would go down as one of the hottest since weather records started to be taken in 1767. Thunderstorms and a slight decrease in temperatures are expected for the weekend, according to ZAMG which warned of high ozone levels for the coming days. The agency also explained a significant decline in top daytime temperatures was expected for early September. High pressure and subtropical air from North Africa are responsible for the current conditions, ZAMG said, adding that nights were set to be hotter than usual as well in the remainder of this week.

The current heatwave comes just weeks after tourism bosses expressed fears of a decline in arrivals and overnight stays due to unusually cold temperatures. Experts like Petra Stolba, who heads the Austrian Tourism Marketing Agency (ÖW), explained more and more Austrians and foreigners were deciding on whether to go on holiday or not at short notice. Stolba explained the weather played a big part in people’s decision. Several weeks of June, July and the beginning of August were dominated by low temperatures, intense rainfall and chilly winds. Daytime temperatures did not surpass 23 degrees centigrade on several days of this summer.

Around 5.76 million overnight stays were recorded by Austria’s hotels in May, down by nearly 12 per cent compared to the same month of 2010. Tourism industry businesspeople were especially challenged by a decline of vacationers from Germany (minus 28 per cent), Switzerland (minus 21.3 per cent) and the Netherlands (minus 20.4 per cent). All three countries are of immense importance to the domestic tourism sector.

Things are looking much better for Vienna. The federal capital’s hotels and guesthouses counted 5.079 million overnight stays in the first six months of this year. This was an improvement of 5.3 per cent compared to the same period of 2010. More people than ever before visited Vienna in 2010. The city registered 10.86 million overnight stays that year. Vienna takes a share of 64.7 per cent in city tourism in Austria, according to figures provided by federal statistics agency Statistik Austria. Salzburg is second with 13.1 per cent of all city trip overnight stays recorded there. Innsbruck in Tyrol lies in third place(7.9 per cent).

More than 660,000 jobs are based in or linked to the domestic tourism sector. The sector is in charge of approximately 18 per cent of Austria’s gross domestic product (GDP).
 

หวั่นโบราณสถาน"เวียงลอ"ถูกน้ำเซาะ

พะเยา - นายชำนาญ เวียงลอ นายกทต. เวียงลอ อ.จุน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำอิงของ ต.ลอ และ ต.หงส์หิน อ. จุน หลายปีติดต่อกัน ทำให้น้ำในแม่น้ำอิงเริ่มกัดเซาะตลิ่งบริเวณวัดศรีปิงเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตโบราณสถานเวียงลอ ล่าสุดพบว่าพระธาตุศรีปิงเมืองอายุยาวนานกว่า 900 ปี ที่ตั้งอยู่ภายในวัดศรีปิงเมืองเริ่มทรุดและเอียงเล็กน้อย เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีนายทุนในพื้นที่เข้าไปขุดทรายแม่น้ำอิง จนทำให้ตลิ่งแม่น้ำอิงข้างวัดศรีปิงเมืองบางส่วนเกิดการทรุดตัว ดังนั้น ทต.เวียงลอ จึง ได้ทำโครงการเรียงหินริมตลิ่งกันน้ำเซาะตลิ่งแม่น้ำอิงทั้งสองข้าง เป็นระยะทาง 1.5 ก.ม. ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งได้ทำโครงการ เสนอไปยังกรมเจ้าท่าเมื่อปีงบประมาณ 2553 แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับทราบความคืบหน้า ขณะที่ปีนี้น้ำอิงก็เริ่มเอ่อท่วมและกัดเซาะตลิ่งวัดเข้ามาอีก

ด้าน นายสมเพชร สักลอ นายกทต.หงส์หิน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวหากดำเนินการได้จะช่วยป้องกันน้ำเซาะตลิ่งไม่ให้โบราณสถานเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ ที่สำคัญพื้นที่โบราณสถานเวียงลอในเขต ต.หงส์หิน ยังไม่ได้ขุดแต่งจุดที่พบซากโบราณสถานทั้งหมดทุกจุด หากน้ำอิงเซาะตลิ่งมากขึ้น เกรงว่าพื้นที่โบราณสถานและพระธาตุเก่าริมแม่น้ำอิงจะเสียหาย

ฮือฮา"ยูเอฟโอ"เหนือท้องฟ้าปักกิ่ง

ไชน่าเดลี่รายงานว่า เมื่อ 23 ส.ค. ชาวจีนในนครเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่ง ฮือฮากับวัตถุปริศนาบนท้องฟ้า หรือยูเอฟโอ หลังจากกัปตันสายการบิน CZ6554 ของจีนเขียนในไมโครบล็อกว่า เห็นวัตถุเรืองแสงขนาดใหญ่บนท้องฟ้าเหนือเซี่ยงไฮ้ที่ความสูง 10,700 เมตร เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 ส.ค. วันเดียวกับที่มีรายงานการพบยูเอฟโอในอังกฤษและเกาหลีใต้ วัตถุเรืองแสงมีลักษณะกลมและโตกว่าดวงจันทร์หลายร้อยเท่า ซึ่งลูกเรือของอีกกว่า 10 สายการบินต่างก็พบเห็นวัตถุประหลาดเช่นกัน ด้านสำนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศภาคตะวันออกของจีน ยืนยันว่ามีรายงานการพบวัตถุลึกลับเข้ามาจริง

ด้านผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชื่อ เฉิน ซู ในกรุงปักกิ่งนำภาพยูเอฟโอที่บันทึกได้เมื่อ 20 ส.ค. มาเผยแพร่ในไมโครบล็อกและระบุว่า ตอนแรกวัตถุลึกลับมีขนาดเล็ก จากนั้นแผ่ขยายออก เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ ก่อนจะหายไปในอีกหลายนาทีต่อมา