ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 [15] 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1401 (1565780)

น้ำท่วมเหมืองฯในเฮยหลงเจียง แรงงานติดอยู่ข้างใน 26 ชีวิต

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-24 20:48:38


ความคิดเห็นที่ 1402 (1565810)

สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย กลับมาวิกฤติ อีกครั้ง น้ำยมเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สุโขทัย เริ่มน่าเป็นห่วงอีกครั้ง หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำยมตลอดวันยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำทางตอนเหนือที่ จ.แพร่ ได้ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำยมในพื้นที่ สุโขทัย ล่าสุด ณ จุดตรวจระดับน้ำที่วาย 4 อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงถึง 7.10 ซ.ม. รวมทั้งตลอดแนวที่แม่น้ำยมไหลผ่านใน 5 อำเภอของสุโขทัย วิกฤติระดับน้ำเลยจุดวิกฤติทุกพื้นที่ จะทำให้สร้างผลกระทบต่อพื้นที่น้ำท่วมเดิม และเพิ่มปริมาณน้ำท่วมสูงหลายพื้นที่อีกครั้ง ล่าสุด น้ำจากแม่น้ำยมที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายตำบลของอำเภอเมืองสุโขทัย ต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เป็นรอบที่ 6 ใน 68 วันแล้ว น้ำยมได้ท่วมเป็นวงกว้าง และรุนแรงที่บริเวณ ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย และ ต.กง ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ นาข้าว ชาวบ้านต้องรีบเกี่ยวข้าวที่เริ่มจะตั้งท้อง พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้

----------------------------------

ผอ.เลิศสิน เผยประเทศไทยเสี่ยงเกิดดินถล่ม 51จังหวัด

นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัยเปิดเผยในรายการชั่วโมงเตือนภัยเสาร์ที่13สิงหาคม54 ในกรณีเกิดรอยแยกที่บ้านแม่ส้านอ.แม่เมาะจ.ลำปาง และบ้านห้วยโผจ.แม่ฮ่องสอน

ปัจจัยของดินถล่มมันเกิดขึ้นมามากมายโดยเฉพาะทางภาคเหนือ เพราะขณะนี้ภาคเหนือเป็นฤดูฝนช่วงที่ผ่านมาได้รับอิทธิพลจากพายุนกเตน สาเหตุการเกิดดินถล่มจะเกิดเยอะแยะเลยที่นี้อัตราความรุนแรงของดินถล่มมันจะจำแนกออกมาที่ดินถล่ม ดินถล่มลงมาทั้งภูเขา ดินไหลลงมา ดินแยกแต่ยังไม่ทันไหล เพราะฉะนั้นที่เราพบที่แม่สะเรียงเป็นแนวยาว 300-400 เมตรอันนั้นเป็นหลักฐานดินเริ่มแยกออกจากภูเขาแต่ยังไม่ลงมา ปัจจัยของดินถล่มมีอยู่ 4 ปัจจัยด้วยกันคือ 1.คือสภาพธรณีวิทยาคือดินมันผุพังไปกับหิน เพราะฉะนั้นหินบางชนิดมันก็ปลูกง่ายมันให้ดินหนา บางชนิดก็ปลูกง่ายให้ดินบาง 2. ลักษณะภูมิประเทศถ้าภูเขาสูงชันก็มีโอกาสมากที่จะเกิดดินถล่มมากกว่าภูเขาที่มีความลาดชันต่ำ อันที่ 3. คือสภาพสิ่งแวดล้อม หรือสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณใดที่เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติโอกาสที่จะเกิดดินถล่มมันก็ยากขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าว่าป่าไม้ก็โดนทำลายไปเยอะ และเราก็ปลูกพืชที่เรียกว่า พืชเชิงเดี่ยวพืชที่ไม่รากแก้วโอกาสปัจจัยที่จะเกิดดินถล่มมันก็จะสูง และปัจจัยที่ 4 คือตัวเร่งทั้งหมดเลยคือปริมาณน้ำฝน เพราะว่าทั้งหมดทั้งปวงถ้าไม่มีฝนมาเป็นตัวกระตุ้นมันก็ยังไม่ลงมา โดยปกติแล้วประเทศไทยในภาพรวมน้ำฝนเกิน 100 มิลลิเมตรใน 1 วันมีโอกาสที่จะเกิดดินไหลดินถล่มครับผม พื้นที่หมู่บ้านห้วยโผเป็นพื้นที่เสี่ยงอยู่แล้วและเรามีการประสานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในบางส่วน ผมต้องยอมรับที่อำเภอแม่สะเรียง กับอำเภอสบเมยและเราเคยพูดคุยกับชาวบ้านบางครั้งบางหมู่บ้านเพราะเราต้องอาศัยล่าม เพราะว่าเป็นชนกลุ่มน้อยซะเยอะ เป็นพวกชาวเขาครับ ตรงนี้ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ามีการทำลายป่าค่อนข้างจะสูงมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน และหลักฐานที่เกิดรอยแยกบนภูเขามันเป็นผลมาจากฝนตกหนัก แต่ว่ามันยังหนักไม่พอสำหรับตรงนั้นมันหยุดซะก่อน เพราะฉะนั้นดินมันเริ่มขยับตัวและน้ำมันไม่กระตุ้นต่อ เพราะฉะนั้นมันก็เลยขยับตัวและก็หยุดพอเกิดเหตุลักษณะแบบนี้แล้วต่อไปฝนก็ไม่ต้องถึง 100 แล้วซัก 60 มิลลิเมตรมันก็พร้อมที่จะถล่มลงมาหมู่บ้านข้างล่างค่อนข้างอันตรายความเสี่ยงสูงมากจริง ๆ ครับพอที่จะอยู่อาศัยได้ถ้าไม่มีฝนแต่ถ้ามีฝนเมื่อไรโอกาสที่จะลงมามีสูงมาก รอยแยกที่ลำปางมีลักษณะใกล้เคียงกันเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นหินตะกอนประเภทหินโคลนสลับกับหินทราย ไม่ใช่หินแกรนิตเหมือนทางภาคใต้แต่ว่ามันถล่มลงมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นขี้โคลนสามารถที่จะถล่มทับบ้านเมืองทั้งหลังได้เลยที่บริเวณไม่ว่าจะเป็นอำเภอแม่เมาะ อำเภอแม่ทะมี 2 จุด 2 แนวที่เกิดรอยแตกบนภูเขาพร้อมที่จะถล่มลงมาเหมือนกันจุดนี้เราได้ประสานว่าถ้าเป็นไปได้ให้อพยพไปก่อน เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนของทางภาคเหนือฝนก็จะตกอยู่ตลอดอยู่แล้วไม่ต้องมีพายุอย่างอื่นมาประกอบซึ่งฝนตก 50-60 มิลลิเมตรของทางภาคเหนือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่อยากให้เสี่ยงโดยเวลานอนหลับตอนกลางคืนแล้วฝนตกดินถล่มลงมาจะสร้างความเสียหายรุนแรง จริง ๆ แล้วเราได้มีการประเมินเกี่ยวกับเรื่องจังหวัดที่มีโอกาสเสี่ยงเกิดดินถล่ม 51 จังหวัดไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันตก และก็ภาคตะวันออก ส่วนภาคอีสานก็มีน้อยมีไม่กี่จังหวัดที่จะเกิดดินถล่มรวมแล้วเป็นอำเภอก็ 6,450 หมู่บ้านคือค่อนข้างจะมีความเสี่ยงเพราะว่าชาวบ้านเริ่มอยากได้ที่ดินเพิ่มไปทำที่ทำกินอยู่บนที่ลาดชันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อัตราเสี่ยงจากการเกิดดินถล่มก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ภาคไหนเสี่ยงมากที่สุดคืออยู่กับปริมาณน้ำฝนที่ตก พื้นที่เสี่ยงคือ พื้นที่ที่มีฝนตกหนักกับพื้นที่ที่มีหินบางชนิดโดยเฉพาะหินแกรนิต คือมันเกิดแล้วความรุนแรงมันก็จะสูงแบบที่เกิดที่ภาคใต้เมื่อปลายมีนาคม ต้นเมษายนคือเวลาลงมาก็จะมีทั้งมวลดิน มีหินก้อนโต ๆ ลงมาด้วย แต่สำหรับหินแกรนิตมันเป็นหลายพื้นที่ก็เป็นหินแกรนิต ส่วนรอยแยกที่เป็นข่าวส่วนใหญ่เป็นหินตะกอนหมดเลย ส่วนใหญ่ที่ลงมามักจะได้เป็นพวกขี้โคลนทั้งหมดที่จังหวัดเชียงรายที่แม่สลองก็เพิ่งจะมีดินไหลสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้าน 2-3 หลังคาเรือน และผมเพิ่งเข้าไปคุยกับชาวบ้านเมื่อต้นเดือนนี้เองพูดคุยกับชาวบ้านให้รู้จักวิธีหลบหลีก ซึ่งก็โชคดีเมื่อเขาไปตรวจสอบไปแล้วไม่มีผู้ได้รับความบาดเจ็บเสียชีวิตมีแต่บ้านเรือนเสียหาย เรารู้นะครับว่าการที่จะบอกเขาว่าว่าไม่ให้สร้างในพื้นที่แบบนี้เป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนี้จะต้องให้เขารู้ว่าที่เขาอยู่มันเสี่ยงระดับไหนแล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์ถึงขั้นไหนถึงจะอพยพนี้ไม่ต้องรอให้เกิดดินไหล ดินถล่ม เรามีศูนย์ประสานงานอาสาสมัครสำหรับเครือข่ายของเราที่ทำงานร่วมกับเรานะครับเป็นอาสาสมัครของกรมทรัพยากรธรณีปัจจุบันนี้ก็ทำได้หลายจังหวัด หลายอำเภอ หลายหมู่บ้านแล้วรวมแล้วก็ประมาณ 56,000 คนที่รวมกันทำงานกับเรา และเรามีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่ในกรุงเทพมหานครเบอร์โทร 02-6219700-05 ซึ่งสามารถที่จะติดต่อประสานให้ข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณน้ำฝนเพราะว่าเรามองภาพดาวเทียมเราจะเห็นภาพกว้าง แต่ถ้าคนในพื้นที่แจ้งเรามาซึ่งปกติถ้าเราไปปริมาณฝนจะเท่าไร ๆ ซึ่งปกติเราไปเราจะมอบกระบอกวัดน้ำฝนแบบง่าย ๆ คือกระบอกสีเขียว สีเหลือง สีแดง ถ้าตกถึงสีเขียงไม่เป็นไร ถ้าสีเหลืองให้เฝ้าระวังต้องสังเกตต้องเตือนต้องบอกคนในหมู่บ้าน ถ้าสีแดงให้อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยซึ่งคนในหมู่บ้านก็รู้ว่าจุดไหนเป็นที่ปลอดภัยที่สุดของเขาให้หลบหนีไปซะก่อนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์  ปัจจุบันก็ต้องเรียนว่า เราไม่สามารถห้ามฝนได้ ไม่สามารถห้ามเหตุการณ์ที่ทำให้ดินถล่ม น้ำป่าไหลหลากได้ แต่ว่าเราสามารถลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าเราเข้าใจเราศึกษาถึงกระบวนการแล้วเราไม่ตัดไม้ทำลายป่าจนเกินไป การปลูกพืช
ถ้าปลูกพืชที่มีรากแก้วบริเวณที่ลาดชันก็จะช่วยทำให้โอกาสเกิดดินถล่มน้อยลง ถ้ามีรอยแยกมีแผ่นดินไหวโอกาสที่จะเกิดถล่มออกมาก็มีโอกาส แต่สำหรับประเทศไทยแผ่นดินไหวที่มีลักษณะรุนแรงจนกระทั่งเกิดดินถล่มค่อนข้างน้อยส่วนใหญ่จะเกิดแผ่นดินไหวและทำให้เกิดรอยแยกก่อน และพอหลังจากนั้นต่อมามีฝนตกหนักถึงเอารอยแยกพวกนั้นลงมาจากเขาอีกทีหนึ่งของเราแผ่นดินไหวภาพรวมแล้วไม่รุนแรงถึงขนาดสร้างความเสียหายให้เยอะ แต่สร้างความตื่นตระหนกตกใจมีแน่นอนครับ และสิ่งสำคัญที่สุดคือให้ความรู้ชาวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องของดินถล่ม ส่วนเรื่องของแผ่นดินไหวเป็นมุมที่แคบขึ้นมีเฉพาะไม่กี่หมู่บ้านที่มีความเสี่ยงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:21:26


ความคิดเห็นที่ 1403 (1565811)

ข่าวนี้ น่าสนใจ

คุณอาจเป็นสายล่อฟ้าผ่า

ดร.บัญชา เผย ลวดหรือเหล็กดัดฟัน เสี่ยงฟ้าผ่า



ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการ สนง.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เผย ลวดหรือเหล็กดัดฟัน เป็นโลหะเวลามันถูกเหนี่ยวนำโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากฟ้าผ่ามันจะร้อนขึ้น พอร้อนขึ้นปั๊บมันก็เกิดไหม้ขึ้นมา

ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ระบุ ในรายการชั่วโมงเตือนภัยเสาร์ที่2 กรกฎาคม54 ว่า ฟ้าผ่านี้มีหลายสาเหตุสาเหตุอย่างเช่นภูเขาไฟระเบิดในกลุ่มควันที่มีภูเขาไฟระเบิดก็อาจจะมีฟ้าผ่าได้แต่ว่าฟ้าผ่าที่เกิดบ่อยที่สุดและเราควรจะสนใจคือ ฟ้าผ่าที่มาจากเมฆ ฝนฟ้าคะนอง เพราะฉะนั้นในบ้านเราคงไม่มีพายุทราย ภูเขาไฟระเบิดในลักษณะนั้น และเมฆฝนฟ้าคะนองน่าจะเกิดในช่วงที่ ถ้าไม่ใช่ฤดูร้อนที่มีพายุร้อนเข้ามา ก็เป็นพายุฝนที่เราเผชิญอยู่ตรงนี้ ซึ่งมีเมฆฝนฟ้าคะนองดำเป็นก้อนใหญ่มาเลยในเมฆฝนฟ้าคะนองนี้พอเวลามันก่อตัวค่อนข้างเต็มที่เขาจะมีประจุไฟฟ้าเกิดขึ้น ประจุบวกจะอยู่ทางด้านบน ประจุลบจะอยู่ทางด้านล่างฟ้าผ่าคือการที่ประจุไฟฟ้ามันถ่ายเทจากเมฆฝนฟ้าคะนองอาจจะลงสู่พื้นก็ได้ หรืออาจจะจากเมฆสู่เมฆก็ได้ในกรณีที่ลงสู่พื้นมันก็มาผ่าตามบ้านเรือน มาลงตามทุ่งนาตามที่โล่ง ๆ หรืออาจจะลงในเมืองก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าผ่าจากเมฆสู่เมฆเราจะเห็นฟ้าผ่าออกตามแนวนอนหลายท่านคงเคยเห็นว่าฟ้าผ่ามันไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแนวดิ่ง เรื่องคนที่ได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าก็จะมี 2 อย่างคือ บางคนอาจจะไม่เสียชีวิตก็มี หากว่ากระแสไฟฟ้าไม่มีปริมาณมากเพียงพอ แต่ถ้ากระแสไฟฟ้ามีปริมาณมากเพียงพอและเข้าสู่ส่วนสำคัญอย่างเช่น ทำให้หัวใจหยุดเต้น ทำให้การสั่งงานในสมองหยุดทำงานอย่างถาวรไปเลยทำให้เสียชีวิต ความเข้าใจที่ถูกต้องคืออย่างนี้ครับฟ้าผ่าความเข้าใจของคนคือกระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าสู่ตัวคนเลย คนทั่วไปชอบคิดกันอย่างนั้น แต่จริง ๆ แล้วสถิติที่เขาทำการวิจัยกันมาคือผ่าตรง ๆ ไปที่คน หรือว่าผ่าไปที่สัตว์อะไรก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่าคืออย่างนี้ครับ คนบางกลุ่มอาจจะนั่งเล่นไฮโลอยู่ หรือนั่งเล่นกีฬาฟุตบอลอยู่ในสนามอันนี้เคยขึ้นอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เล่นอยู่ในที่โล่ง ๆ ฟ้าผ่าลงมาที่จุดจุดหนึ่ง สมมติว่าฟ้าผ่าแล้วมีฝนตกด้วยพื้นก็จะแชะกระแสไฟฟ้าที่มาจากฟ้าผ่าก็จะไหลไปตามพื้นได้คล้าย ๆ กับ เราช็อตปลา เพราะฉะนั้นต่อให้เราไม่ได้อยู่ที่จุดฟ้าผ่าพอดีแต่กระแสไฟฟ้าที่ไหลมาตามพื้นก็สามารถเข้าสู่ตัวเราได้ทำอันตรายแก่เราอันนี้ก็เป็นอันตรายจากฟ้าผ่าเหมือนกันเป็นกรณีส่วนใหญ่ด้วย ฟ้าผ่าอาจจะเกิดได้ทุกจุดแต่โอกาสที่จะเกิดมากกว่ามักจะลงที่สูงด้วยเหตุผลอย่างนี้ครับ คือเมฆเมฆที่เป็นประจุลบจะอยู่ด้านล่าง ประจุลบก็วิ่งมาสู่พื้นก็จะเลือกเส้นทางลงมาลงแบบซิกแซกเป็นรอยหยักฟ้าผ่าไม่ได้มาอย่างเส้นตรง เพราะเวลาเขาลงมาที่ละขั้นความยาวของแต่ละขั้นประมาณ 50-100 เมตรพอหยักลงมาที่หนึ่งก็จะเลือกเป้าใหม่ หากเขาเห็นเป้าที่ใกล้เขาที่สุดเมื่อไรโอกาสที่เขาจะโดดเข้าไปสู่ตรงจุดนั้นมันก็มีมากหน่อย สมมติว่าที่โล่ง ๆ มีต้นไม้โด่เด่อยู่ต้นหนึ่ง และก็ข้าง ๆ มีต้นไม้เล็กกว่าหรือว่าอาจจะไม่มีอะไรเลยฟ้าผ่าลงมากระแสไฟฟ้าที่ลงเรื่อย ๆ เขามองเห็นพื้นแต่พื้นอยู่ไกล เขามองว่ายอดต้นไม้มันอยู่ใกล้โอกาสที่เขาจะกระโดดเข้าสู่ยอดต้นไม้จะมีสูงกว่า แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่ผ่าตรงที่โล่ง ๆ ตรงที่ไม่มีต้นไม้ แต่ถ้าสมมติว่าลงมา 100 ครั้ง เกินครึ่งจะลงมาที่สูง ๆ น้อยกว่านั้นก็จะลงที่ทั่ว ๆ ไป เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเหตุฝนฟ้าคะนองและเราหลบเข้าในบ้านและในอาคารไม่ทันอย่างเข้าใต้ต้นไม้ใหญ่อันตรายที่สุดเลย จะเห็นว่ามีข่าวคนเสียชีวิตใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือพวกสัตว์ วัว ควายทั้งหลายที่ตายใต้ต้นไม้ใหญ่มากมาย เพราะว่าฟ้าผ่ามาที่ต้นไม้ก่อนจากนั้นกระแสไฟฟ้าที่ไหลมาตามต้นไม้ก็แผ่กระจายไปรอบ ๆ  ต้นไม้เข้าสู่ตัวคนหรือสัตว์ที่อยู่รอบ ๆ ต้นไม้เพราฉะนั้นเราจึงได้ยินเสมอว่าทำไมคนถึงเสียชีวิตกันหลาย ๆ คน หรือได้รับอันตรายกันหลาย ๆ คน หรือสัตว์วัว ควายล้มตายกันหลาย ๆ ตัวด้วยเหตุนี้เอง

             วิธีเอาตัวรอดคือขึ้นอยู่ว่าเราอยู่ที่ไหน สมมติถ้าเราอยู่ที่โล่งก็ควรจะหาที่ที่ปลอดภัยเช่น อยู่ในอาคารในบ้าน แต่ถ้าอยู่ในบ้านแล้วก็มีประเด็นอย่างนี้ครับมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยสอนกันเลย เราพยายามหลีกเลี่ยงการใช้พวกอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะโทรศัพท์แบบมีสายไม่ใช่ไร้สาย โทรศัพท์แบบมีสายในต่างประเทศเขาโดนมากันหลายคนแล้วโดยเฉพาะในอเมริกา คืออย่างนี้ครับโทรศัพท์แบบมีสายในขณะสายเขาก็จะเชื่อมต่อกับวงจรข้างนอกหากฟ้าผ่าเข้ามาใกล้ ๆ  มันจะเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำซึ่งทำให้กระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่สายโทรศัพท์ได้โดยตรง เพราะฉะนั้นโทรศัพท์มีสายเป็นตัวที่อันตรายกว่า เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ อย่าใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างฝนฟ้าคะนองแต่ถ้าอยู่ในรถยนต์ก็ดีอยู่แล้วในแง่ที่ว่าถ้าเราปิดกระจกก็ขับรถไปตามธรรมดาตัวโครงสร้างของรถยนต์ที่เป็นเหล็กกล้าแต่ถ้าเผื่อโชคร้ายฟ้าผ่ามาที่รถยนต์พอดีด้วยโครงสร้างรถยนต์ที่เป็นโลหะกระแสไฟฟ้ามันจะวิ่งตามโครงโลหะและมันจะกระโดดออกเรียกว่าปะทะล้อออกไปทั่งนี้ ห้ามเปิดกระจก เพราะว่าถ้าเราเปิดกระจกสายฟ้าที่วิ่งมาถึงขอบกระจกหรือตรงตีนประตูเขาอาจจะกระโดดเข้าหาเราได้อันนี้อันตราย ถ้าอยู่ในรถยนต์ให้ปิดกระจกและขับไปเรื่อย ๆ ห้ามซนไปเปิดวิทยุเล่นไม่ใช่ว่าฟ้าผ่านะครับแต่ประเด็นคืออย่างนี้ครับ ถ้าฟ้าผ่ามาที่รถยนต์แต่เสาอากาศตรงวิทยุมันอยู่นอกรถยนต์มันก็จะเข้าสู่เสาอากาศ และโยงมาตามสายต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อวิทยุหากว่าโชคร้ายจังหวะเหมาะพอดี เราไปจับวิทยุตอนที่ฟ้าผ่าลงมาก็ถูกระแสไฟฟ้าทำร้ายได้เพราะเราทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า ถ้าอยู่ในรถยนต์ก็ต้องปิดกระจกขับรถไปตามธรรมดาปกติ การที่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ สร้อย แหวน นาฬิกา เป็นคำแนะนำที่ถูกที่ไม่ให้มีของพวกนี้อยู่ใกล้ ๆ ตัว แต่ว่าเหตุผลนี้คลาดเคลื่อนสิ่งของพวกนี้ไม่ได้ร่อฟ้าผ่ามาที่ตัวมันโดยตรงถ้าเกิดเราเชื่อว่ามันร่อมาจริง ๆ เราคงจะเห็นฟ้าผ่ารถยนต์ ฟ้าผ่าอะไรที่เป็นโครงสร้างโลหะที่ใหญ่กว่านี้ หากมีฟ้าผ่าใกล้ ๆ หรือเรามีพวกเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อยู่ใกล้ ๆ ที่มีวงจรพวกนี้อยู่ หากมีฟ้าผ่าอยู่ใกล้ ๆ เราคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากฟ้าผ่าจะเหนี่ยวนำในโลหะพวกนี้ พอเกิดกระแสเหนี่ยวนำในพวกนี้ปรับมันจะร้อนขึ้น ร้อนขึ้นปั๊บมันจะทำอันตรายเรา ยกตัวอย่างในต่างประเทศเด็กที่ใส่ลวดดัดฟันอยู่ในบ้านเลยนะครับ พอฟ้าผ่าลงมาใกล้ ๆ บ้านเธอห่างประมาณ 5-6 เมตรปรากฏว่าเธอไม่ได้ถูกฟ้าผ่าเลย แต่ปรากฎว่าลวดเหล็กของเธอบวมแดงเลย เพราะว่าลวดดัดฟันมันเป็นโลหะเวลามันถูกเหนี่ยวนำโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากฟ้าผ่ามันจะร้อนขึ้น พอร้อนขึ้นปั๊บมันก็เกิดไหม้ขึ้นมาได้กรณีนี้เกิดน้อยหน่อย กรณีมากหน่อยก็อย่างเช่น เราใส่สร้อยคอ หรือสวมใส่ชุดที่เป็นโครงโลหะอยู่ หรือแม้แต่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ ๆ พวกนี้นี้ร่อฟ้าผ่ามาที่ตัวมัน แต่ว่าความพร้อมที่เกิดขึ้นจากการที่กระแสเหนี่ยวนำเกิดขึ้นจะทำให้มันเป็นอันตรายต่อเรา เพราะฉะนั้นคำแนะนำที่ให้เอาออกห่างจากตัวนี้ถูกต้อง แต่คำอธิบายที่มันร่อฟ้าผ่านี้เป็นคำอธิบายที่คลาดเคลื่อน            

             มันจะเป็นกฎข้อหนึ่งครับซึ่งทางการทหาร หรือคนที่เดินป่าเขาจะรู้คือกฎ 30 30 คืออย่างนี้ครับสมมติว่าเกิดฝนฟ้าคะนองขึ้นมาและฟ้าผ่าเราจะเห็นแสงไฟแว๊บ ๆ จากฟ้าผ่า แว๊บขึ้นมาและก็จะเกิดเสียงตามมา เพราะว่าแสงจะมาเร็วกว่าเสียงที่นี้กฎคือย่างนี้ครับ แม้ว่าเมฆฝนฟ้าคะนองจะไม่ได้อยู่บนหัวเรา คือว่ามองขึ้นไปไม่เห็นเมฆฟ้าคะนองแต่มันอยู่ไกลไปพอสมควรแต่เราเห็นสายฟ้าออกจากก้อนเมฆ ให้เราลองมองดูไปที่นาฬิกาเลยลองจับเวลาว่าเสียงที่ตามมา หากว่าระยะเวลาไม่เกิน30 วินาทีสมมตินับได้ 15วินาที 20 วินาทีแสดงว่าเรากำลังเสี่ยงกับการที่ถูกฟ้าผ่า ฟ้าผ่าสามารถผ่าออกจากก้อนเมฆมาสู่พื้นดินได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าลงบนเมฆแล้วลงสู่พื้นตรง ๆ คือออกนอกเมฆมาเลย อันนี้คือ 30 ตัวแรก ส่วน 30 ตัวที่ 2 คือ 30 นาทีหมายความว่าอย่างนี้ครับ สมมติว่าเมฆฝนฟ้าคะนองมันเริ่มจะซาซาลง คือเริ่มอ่อนพลังลงแล้วก็อย่าได้ไว้วางใจเพราะว่ามันอาจจะปลดปล่อยพลังครั้งสุดท้ายโดยการปลดปล่อยฟ้าผ่าออกมาตามกฎของทหารหรือ แม้แต่ไปเล่นกีฬาในที่โล่งต้องรอให้เมฆฝนฟ้าคะนองมันผ่านไปอย่างน้อย ๆ 30 นาทีก่อนถึงจะออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้อย่างปลอดภัย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:24:45


ความคิดเห็นที่ 1404 (1565812)

ข่าวนี้ น่าสนใจ

คุณอาจเป็นสายล่อฟ้าผ่า

ดร.บัญชา เผย ลวดหรือเหล็กดัดฟัน เสี่ยงฟ้าผ่า



ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการ สนง.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เผย ลวดหรือเหล็กดัดฟัน เป็นโลหะเวลามันถูกเหนี่ยวนำโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากฟ้าผ่ามันจะร้อนขึ้น พอร้อนขึ้นปั๊บมันก็เกิดไหม้ขึ้นมา

ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ระบุ ในรายการชั่วโมงเตือนภัยเสาร์ที่2 กรกฎาคม54 ว่า ฟ้าผ่านี้มีหลายสาเหตุสาเหตุอย่างเช่นภูเขาไฟระเบิดในกลุ่มควันที่มีภูเขาไฟระเบิดก็อาจจะมีฟ้าผ่าได้แต่ว่าฟ้าผ่าที่เกิดบ่อยที่สุดและเราควรจะสนใจคือ ฟ้าผ่าที่มาจากเมฆ ฝนฟ้าคะนอง เพราะฉะนั้นในบ้านเราคงไม่มีพายุทราย ภูเขาไฟระเบิดในลักษณะนั้น และเมฆฝนฟ้าคะนองน่าจะเกิดในช่วงที่ ถ้าไม่ใช่ฤดูร้อนที่มีพายุร้อนเข้ามา ก็เป็นพายุฝนที่เราเผชิญอยู่ตรงนี้ ซึ่งมีเมฆฝนฟ้าคะนองดำเป็นก้อนใหญ่มาเลยในเมฆฝนฟ้าคะนองนี้พอเวลามันก่อตัวค่อนข้างเต็มที่เขาจะมีประจุไฟฟ้าเกิดขึ้น ประจุบวกจะอยู่ทางด้านบน ประจุลบจะอยู่ทางด้านล่างฟ้าผ่าคือการที่ประจุไฟฟ้ามันถ่ายเทจากเมฆฝนฟ้าคะนองอาจจะลงสู่พื้นก็ได้ หรืออาจจะจากเมฆสู่เมฆก็ได้ในกรณีที่ลงสู่พื้นมันก็มาผ่าตามบ้านเรือน มาลงตามทุ่งนาตามที่โล่ง ๆ หรืออาจจะลงในเมืองก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าผ่าจากเมฆสู่เมฆเราจะเห็นฟ้าผ่าออกตามแนวนอนหลายท่านคงเคยเห็นว่าฟ้าผ่ามันไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแนวดิ่ง เรื่องคนที่ได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าก็จะมี 2 อย่างคือ บางคนอาจจะไม่เสียชีวิตก็มี หากว่ากระแสไฟฟ้าไม่มีปริมาณมากเพียงพอ แต่ถ้ากระแสไฟฟ้ามีปริมาณมากเพียงพอและเข้าสู่ส่วนสำคัญอย่างเช่น ทำให้หัวใจหยุดเต้น ทำให้การสั่งงานในสมองหยุดทำงานอย่างถาวรไปเลยทำให้เสียชีวิต ความเข้าใจที่ถูกต้องคืออย่างนี้ครับฟ้าผ่าความเข้าใจของคนคือกระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าสู่ตัวคนเลย คนทั่วไปชอบคิดกันอย่างนั้น แต่จริง ๆ แล้วสถิติที่เขาทำการวิจัยกันมาคือผ่าตรง ๆ ไปที่คน หรือว่าผ่าไปที่สัตว์อะไรก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่าคืออย่างนี้ครับ คนบางกลุ่มอาจจะนั่งเล่นไฮโลอยู่ หรือนั่งเล่นกีฬาฟุตบอลอยู่ในสนามอันนี้เคยขึ้นอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เล่นอยู่ในที่โล่ง ๆ ฟ้าผ่าลงมาที่จุดจุดหนึ่ง สมมติว่าฟ้าผ่าแล้วมีฝนตกด้วยพื้นก็จะแชะกระแสไฟฟ้าที่มาจากฟ้าผ่าก็จะไหลไปตามพื้นได้คล้าย ๆ กับ เราช็อตปลา เพราะฉะนั้นต่อให้เราไม่ได้อยู่ที่จุดฟ้าผ่าพอดีแต่กระแสไฟฟ้าที่ไหลมาตามพื้นก็สามารถเข้าสู่ตัวเราได้ทำอันตรายแก่เราอันนี้ก็เป็นอันตรายจากฟ้าผ่าเหมือนกันเป็นกรณีส่วนใหญ่ด้วย ฟ้าผ่าอาจจะเกิดได้ทุกจุดแต่โอกาสที่จะเกิดมากกว่ามักจะลงที่สูงด้วยเหตุผลอย่างนี้ครับ คือเมฆเมฆที่เป็นประจุลบจะอยู่ด้านล่าง ประจุลบก็วิ่งมาสู่พื้นก็จะเลือกเส้นทางลงมาลงแบบซิกแซกเป็นรอยหยักฟ้าผ่าไม่ได้มาอย่างเส้นตรง เพราะเวลาเขาลงมาที่ละขั้นความยาวของแต่ละขั้นประมาณ 50-100 เมตรพอหยักลงมาที่หนึ่งก็จะเลือกเป้าใหม่ หากเขาเห็นเป้าที่ใกล้เขาที่สุดเมื่อไรโอกาสที่เขาจะโดดเข้าไปสู่ตรงจุดนั้นมันก็มีมากหน่อย สมมติว่าที่โล่ง ๆ มีต้นไม้โด่เด่อยู่ต้นหนึ่ง และก็ข้าง ๆ มีต้นไม้เล็กกว่าหรือว่าอาจจะไม่มีอะไรเลยฟ้าผ่าลงมากระแสไฟฟ้าที่ลงเรื่อย ๆ เขามองเห็นพื้นแต่พื้นอยู่ไกล เขามองว่ายอดต้นไม้มันอยู่ใกล้โอกาสที่เขาจะกระโดดเข้าสู่ยอดต้นไม้จะมีสูงกว่า แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่ผ่าตรงที่โล่ง ๆ ตรงที่ไม่มีต้นไม้ แต่ถ้าสมมติว่าลงมา 100 ครั้ง เกินครึ่งจะลงมาที่สูง ๆ น้อยกว่านั้นก็จะลงที่ทั่ว ๆ ไป เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเหตุฝนฟ้าคะนองและเราหลบเข้าในบ้านและในอาคารไม่ทันอย่างเข้าใต้ต้นไม้ใหญ่อันตรายที่สุดเลย จะเห็นว่ามีข่าวคนเสียชีวิตใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือพวกสัตว์ วัว ควายทั้งหลายที่ตายใต้ต้นไม้ใหญ่มากมาย เพราะว่าฟ้าผ่ามาที่ต้นไม้ก่อนจากนั้นกระแสไฟฟ้าที่ไหลมาตามต้นไม้ก็แผ่กระจายไปรอบ ๆ  ต้นไม้เข้าสู่ตัวคนหรือสัตว์ที่อยู่รอบ ๆ ต้นไม้เพราฉะนั้นเราจึงได้ยินเสมอว่าทำไมคนถึงเสียชีวิตกันหลาย ๆ คน หรือได้รับอันตรายกันหลาย ๆ คน หรือสัตว์วัว ควายล้มตายกันหลาย ๆ ตัวด้วยเหตุนี้เอง

             วิธีเอาตัวรอดคือขึ้นอยู่ว่าเราอยู่ที่ไหน สมมติถ้าเราอยู่ที่โล่งก็ควรจะหาที่ที่ปลอดภัยเช่น อยู่ในอาคารในบ้าน แต่ถ้าอยู่ในบ้านแล้วก็มีประเด็นอย่างนี้ครับมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยสอนกันเลย เราพยายามหลีกเลี่ยงการใช้พวกอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะโทรศัพท์แบบมีสายไม่ใช่ไร้สาย โทรศัพท์แบบมีสายในต่างประเทศเขาโดนมากันหลายคนแล้วโดยเฉพาะในอเมริกา คืออย่างนี้ครับโทรศัพท์แบบมีสายในขณะสายเขาก็จะเชื่อมต่อกับวงจรข้างนอกหากฟ้าผ่าเข้ามาใกล้ ๆ  มันจะเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำซึ่งทำให้กระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่สายโทรศัพท์ได้โดยตรง เพราะฉะนั้นโทรศัพท์มีสายเป็นตัวที่อันตรายกว่า เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ อย่าใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างฝนฟ้าคะนองแต่ถ้าอยู่ในรถยนต์ก็ดีอยู่แล้วในแง่ที่ว่าถ้าเราปิดกระจกก็ขับรถไปตามธรรมดาตัวโครงสร้างของรถยนต์ที่เป็นเหล็กกล้าแต่ถ้าเผื่อโชคร้ายฟ้าผ่ามาที่รถยนต์พอดีด้วยโครงสร้างรถยนต์ที่เป็นโลหะกระแสไฟฟ้ามันจะวิ่งตามโครงโลหะและมันจะกระโดดออกเรียกว่าปะทะล้อออกไปทั่งนี้ ห้ามเปิดกระจก เพราะว่าถ้าเราเปิดกระจกสายฟ้าที่วิ่งมาถึงขอบกระจกหรือตรงตีนประตูเขาอาจจะกระโดดเข้าหาเราได้อันนี้อันตราย ถ้าอยู่ในรถยนต์ให้ปิดกระจกและขับไปเรื่อย ๆ ห้ามซนไปเปิดวิทยุเล่นไม่ใช่ว่าฟ้าผ่านะครับแต่ประเด็นคืออย่างนี้ครับ ถ้าฟ้าผ่ามาที่รถยนต์แต่เสาอากาศตรงวิทยุมันอยู่นอกรถยนต์มันก็จะเข้าสู่เสาอากาศ และโยงมาตามสายต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อวิทยุหากว่าโชคร้ายจังหวะเหมาะพอดี เราไปจับวิทยุตอนที่ฟ้าผ่าลงมาก็ถูกระแสไฟฟ้าทำร้ายได้เพราะเราทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า ถ้าอยู่ในรถยนต์ก็ต้องปิดกระจกขับรถไปตามธรรมดาปกติ การที่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ สร้อย แหวน นาฬิกา เป็นคำแนะนำที่ถูกที่ไม่ให้มีของพวกนี้อยู่ใกล้ ๆ ตัว แต่ว่าเหตุผลนี้คลาดเคลื่อนสิ่งของพวกนี้ไม่ได้ร่อฟ้าผ่ามาที่ตัวมันโดยตรงถ้าเกิดเราเชื่อว่ามันร่อมาจริง ๆ เราคงจะเห็นฟ้าผ่ารถยนต์ ฟ้าผ่าอะไรที่เป็นโครงสร้างโลหะที่ใหญ่กว่านี้ หากมีฟ้าผ่าใกล้ ๆ หรือเรามีพวกเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อยู่ใกล้ ๆ ที่มีวงจรพวกนี้อยู่ หากมีฟ้าผ่าอยู่ใกล้ ๆ เราคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากฟ้าผ่าจะเหนี่ยวนำในโลหะพวกนี้ พอเกิดกระแสเหนี่ยวนำในพวกนี้ปรับมันจะร้อนขึ้น ร้อนขึ้นปั๊บมันจะทำอันตรายเรา ยกตัวอย่างในต่างประเทศเด็กที่ใส่ลวดดัดฟันอยู่ในบ้านเลยนะครับ พอฟ้าผ่าลงมาใกล้ ๆ บ้านเธอห่างประมาณ 5-6 เมตรปรากฏว่าเธอไม่ได้ถูกฟ้าผ่าเลย แต่ปรากฎว่าลวดเหล็กของเธอบวมแดงเลย เพราะว่าลวดดัดฟันมันเป็นโลหะเวลามันถูกเหนี่ยวนำโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากฟ้าผ่ามันจะร้อนขึ้น พอร้อนขึ้นปั๊บมันก็เกิดไหม้ขึ้นมาได้กรณีนี้เกิดน้อยหน่อย กรณีมากหน่อยก็อย่างเช่น เราใส่สร้อยคอ หรือสวมใส่ชุดที่เป็นโครงโลหะอยู่ หรือแม้แต่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ ๆ พวกนี้นี้ร่อฟ้าผ่ามาที่ตัวมัน แต่ว่าความพร้อมที่เกิดขึ้นจากการที่กระแสเหนี่ยวนำเกิดขึ้นจะทำให้มันเป็นอันตรายต่อเรา เพราะฉะนั้นคำแนะนำที่ให้เอาออกห่างจากตัวนี้ถูกต้อง แต่คำอธิบายที่มันร่อฟ้าผ่านี้เป็นคำอธิบายที่คลาดเคลื่อน            

             มันจะเป็นกฎข้อหนึ่งครับซึ่งทางการทหาร หรือคนที่เดินป่าเขาจะรู้คือกฎ 30 30 คืออย่างนี้ครับสมมติว่าเกิดฝนฟ้าคะนองขึ้นมาและฟ้าผ่าเราจะเห็นแสงไฟแว๊บ ๆ จากฟ้าผ่า แว๊บขึ้นมาและก็จะเกิดเสียงตามมา เพราะว่าแสงจะมาเร็วกว่าเสียงที่นี้กฎคือย่างนี้ครับ แม้ว่าเมฆฝนฟ้าคะนองจะไม่ได้อยู่บนหัวเรา คือว่ามองขึ้นไปไม่เห็นเมฆฟ้าคะนองแต่มันอยู่ไกลไปพอสมควรแต่เราเห็นสายฟ้าออกจากก้อนเมฆ ให้เราลองมองดูไปที่นาฬิกาเลยลองจับเวลาว่าเสียงที่ตามมา หากว่าระยะเวลาไม่เกิน30 วินาทีสมมตินับได้ 15วินาที 20 วินาทีแสดงว่าเรากำลังเสี่ยงกับการที่ถูกฟ้าผ่า ฟ้าผ่าสามารถผ่าออกจากก้อนเมฆมาสู่พื้นดินได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าลงบนเมฆแล้วลงสู่พื้นตรง ๆ คือออกนอกเมฆมาเลย อันนี้คือ 30 ตัวแรก ส่วน 30 ตัวที่ 2 คือ 30 นาทีหมายความว่าอย่างนี้ครับ สมมติว่าเมฆฝนฟ้าคะนองมันเริ่มจะซาซาลง คือเริ่มอ่อนพลังลงแล้วก็อย่าได้ไว้วางใจเพราะว่ามันอาจจะปลดปล่อยพลังครั้งสุดท้ายโดยการปลดปล่อยฟ้าผ่าออกมาตามกฎของทหารหรือ แม้แต่ไปเล่นกีฬาในที่โล่งต้องรอให้เมฆฝนฟ้าคะนองมันผ่านไปอย่างน้อย ๆ 30 นาทีก่อนถึงจะออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้อย่างปลอดภัย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:24:46


ความคิดเห็นที่ 1405 (1565813)

รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ยัน จ.น่าน เคยเกิดแผ่นดินไหว6.5ริกเตอร์ กาญจนบุรี5.9ริกเตอร์

รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) ในฐานะหัวหน้า โครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย สกว.ยืนยันในการสัมภาษณ์ รายการชั่วโมงเตือนภัย เที่ยงวันนี้(26มี.ค.)ว่า จ.น่าน เคยเกิดแผ่นดินไหว6.5ริกเตอร์ กาญจนบุรี5.9ริกเตอร์ ซึ่งแผ่นดินไหวที่เกิดในจ.นานมีความรุนแรงมากกว่า ไครต์เชิร์ชเมื่อวันที่21ก.พ.2554 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3 ริกเตอร์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง182คน

รศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวว่าถึงแม้การเกิดแผ่นดินไหวที่จ.น่านจะไม่เกิดความเสียหาย แต่ไม่ได้หมายความว่า แผ่นดินไหวครั้งต่อไปจะไม่มีความเสียหายวิธีตั้งรับภัยพิบัติแผ่นดินไหวและให้ความรู้กับชาวบ้านที่อยู่พื้นที่เสียงน่าจะเป็นวิธีป้องกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายในประเทศไทย

ด้านดร.สิมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ชี้เห็นด้วย กับ รศ.ดร.เป็นหนึ่ง ที่ควรจะมีหน่วยงานลงพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้ความรู้กับชาวบ้าน พร้อมมีการซ้อมแผนอพยพหากเกิดภัยพิบัติขึ้น

อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด รองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาด พร้อมระบุว่าโดยปกติในเดือนมีนาคมเป็นเดือนที่ความชื้นน้อยที่สุดน้ำจะระเหยมากที่สุดแต่กลับกลายเป็นอากาศที่มีความชื้น อุณหภูมิลด ภาคใต้ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วม ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดมาก “อ.ปราโมทย์กล่าว”

อ.ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือการเกิดแผ่นดินไหว ตนเห็นว่าควรต้องมีผู้ดูแล ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องระดับชาติไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบเท่านั้น มาตรฐานการก่อสร้างตึกที่ทนแรงแผ่นดินไหว เขื่อนก็ต้องมีการตรวจสอบถึงความแข็งแรง ในฐานะที่ตนเคยเป็นวิศวกร ออกแบบเขื่อนได้ทำแบบทดลองเขื่อนที่ออกแบบว่าทนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวถึง 7.0-7.8 ริกเตอร์จึงมั่นใจว่าจะไม่ทำให้เขื่อนแตก ยกเว้นเขื่อนที่ตนไม่ได้เป็นคนออกแบบ จึงไม่ทราบ เช่น เขื่อนศรีนครินทร์จ.กาญจนบุรี อ.ปราโมทย์กล่าวปิดท้าย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:26:47


ความคิดเห็นที่ 1406 (1565814)

ตะลึง !แผ่นดินไหว เฮติ ,อียิปภูเขาไฟระเบิดอินโดนีเซีย ล้วนมีการเรียงตัวของดาวเคราะห์

ดร.ก้องภพ อยู่เย็นเปิดเผยในรายการชั่วโมงเตือนภัย วันเสาร์ที่ 8 มกราคม ว่าสถิติเมื่อปีที่ผ่านมาพบ แผ่นดินไหว เฮติ 7.0 ริกเตอร์  วันอังคารที่12มกราคม 2553  แผ่นดินไหวในประเทศ อียิป และแผ่นดินไหวอินโดนีเซียรวมทั้งภูเขาไฟระเบิดในอินโดนีเซีย  ล้วนมีการเรียงตัวของดาวเคราะห์

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:28:03


ความคิดเห็นที่ 1407 (1565815)
แผ่นดินไหว 5.8 ริคเตอร์เขย่าชายฝั่งตอ.สหรัฐ ทำยอดวิหารหัก รัฐสภาในวอชิงตันเสียหาย

 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างการเปิดเผยจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ02.00 น. ตามเวลาในไทยได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริคเตอร์ บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ


 

ที่มา: มติชนออนไลน์



แรงสั่นสะเทือนยังส่งผลกระทบกรุงวอชิงตัน ดีซี นอกจากนั้นกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และอาคารที่ทำการรัฐสภายังสั่งอพยพผู้คน เช่นเดียวกับนครนิวยอร์ค

อาคารมหาวิหารแห่งชาติได้รับแรงสั่นสะเทือนถึงขนาดยอดแหลมหัก 3 ยอด และทำให้อาคารรัฐสภาเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่พบรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์นอร์ทแอนนาที่อยู่ใกล้เคียงกันนี้ไม่ได้รับความเสียหาย แต่ถูกปิดจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า จุดศูนย์กลางเกิดขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย ห่างจากเมืองมิเนอรัลราว 8 กม. และห่างจากกรุงวอชิงตัน ดีซี ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 135 กม. ในระดับความลึกใต้พื้นดิน 6 กม.

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นนานประมาณ 30 วินาที รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนไปไกลถึงแคนาดา ขณะที่ผู้คนในกรุงวอชิงตัน ดีซี พากันวิ่งออกจากอาคารสำนักงานในช่วงพักเที่ยง ตามข้อมูลของยูเอสจีเอส นี่ถือเป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในชายเขตชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 1897 โดยสามารถวัดระดับความรุนแรงได้เท่ากับแผ่นดินไหวที่นครนิวยอร์กเมื่อปี 1944

ส่วนที่นครนิวยอร์ก แรงสั่นสะเทือนทำให้มีการอพยพคนออกจากสำนักงานศาล ศาลากลาง ท่าอากาศยานเจเอฟเคในนครนิวยอร์ก และท่าอากาศยานเรแกนที่กรุงวอชิงตันดีซีต้องระงับการเดินทางชั่วคราว และต้องระงับการก่อสร้างที่กราวน์ซีโร แรงสั่นสะเทือนยังรู้สึกได้ที่นครบอสตัน เมืองแฮมป์สตันส์ ขณะที่บริการโทรศัพท์ทางฝั่งตะวันออกใช้งานไม่ได้ชั่วคราวเนื่องจากคนโทรศัพท์หากันจ้าละหวั่น

ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งพักร้อนบนเกาะทางตอนใต้ของเคปคอด รัฐแมสซาชูเซตส์ ไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน และได้รับรายงานเรื่องแผ่นดินไหวจากเจ้าหน้าที่แล้วว่าไม่มีความเสียหายใหญ่และไม่มีการร้องขอความช่วยพิเศษ



   ที่มา: มติชนออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:32:51


ความคิดเห็นที่ 1408 (1565816)
เพชรเกิดจากเทียนไข อยู่ในช่วงกลางเปลวเทียนเรือนหลายล้าน


นักวิทยาศาสตร์สกอตแลนด์พิสูจน์ให้เห็นเป็นครั้งแรกว่า เปลวเทียนประกอบด้วยอนุภาคเล็กจิ๋วของเพชรที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจำนวนเป็นล้านๆ

ดร.วูซอง ซู มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ได้แยกอนุภาคเหล่านั้นออกจากส่วนตอนกลางของเปลวเทียนได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ทำให้ทราบว่าเปลวเทียน ได้ผลิตวัสดุนาโนของเพชรออกมาวินาทีละประมาณ 1.5 ล้าน วัสดุนาโนพวกนั้นล้วนแต่เป็นคาร์บอนบริสุทธิ์ทั้ง 4 รูปทรง ซึ่งเขาออกปากว่า “นับเป็นเรื่องประหลาด เพราะแต่ละรูปทรงนั้นเกิดภายใต้ภาวการณ์ต่างกัน”

ตั้งแต่เทียนไขถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในเมืองจีนเมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว เคยมีการศึกษารู้ว่า ตรงฐานของเปลวเทียนเป็นการเผาไหม้ของอณูสารไฮโดรคาร์บอน ในขณะที่ส่วนยอดเปลวจะขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา แต่ตอนกลางระหว่างโคนกับยอดนั้นยังเป็นเรื่องลึกลับมาจนกระทั่งบัดนี้

ดร.วูซองกล่าวบอกว่า “แม้อนุภาคเพชรจะโดนเผาไหม้หมดไปด้วยก็ตาม แต่การค้นพบครั้งนี้ จะทำให้เรามองเห็นเปลวเทียนเป็นภาพใหม่” และยังทำให้เกิดความหวังว่า มันอาจทำให้หาวิธีสร้างเพชรถูกๆขึ้นได้อย่างไรด้วย.


ไทยรัฐออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:37:56


ความคิดเห็นที่ 1409 (1565817)
ถึงเวลาเก็บกวาด “ขยะอวกาศ” หรือยัง?

ภาพจำลองวัตถุในวงโคจรที่ส่วนมากเป็น “ขยะอวกาศ” (ESA)

ทุกความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอวกาศนำมาซึ่งการค้นพบและองค์ความรู้ใหม่ๆ แต่อีกด้านของความก้าวหน้าเหล่านั้นคือ “ขยะอวกาศ” ซึ่งมีที่มาหลากหลาย ทั้งดาวเทียมหมดอายุมากมายที่ลอยค้างอยู่ในวงโคจร เศษซากจากการปะทะกันของดาวเทียม ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่านี้กำลังเป็นภัยคุกคามการดำเนินกิจกรรมอวกาศของมนุษย์โลก
       
       “ขยะอวกาศ” คุกคามมนุษย์อวกาศในวงโคจร
       เมื่อต้นเดือน ก.ค.11 ลูกเรือ 6 คนบนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station: ISS) ถูกปลุกขึ้นขึ้นมากลางดึกระหว่างนอนหลับพักผ่อน หลังพบว่ามีขยะอวกาศ (space debris) เข้าใกล้สถานีในระยะเพียง 500 เมตร เหตุการณ์ครั้งนั้นสเปซด็อทคอมระบุว่า ไม่ร้ายแรงถึงขั้นสั่งย้ายลูกเรือหนีไปหลบในยานโซยุซ (Soyuz) ของรัสเซีย เพียงแต่สิ่งที่น่ากังวลคือการแจ้งข่าวที่ล่าช้าจนลูกเรือไม่สามารถติดเครื่องยนต์เพื่อเคลื่อนสถานีอวกาศให้พ้นจากการถูกพุ่งชนได้
       
       ทางด้านองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ออกมาแถลงว่า ขยะอวกาศดังกล่าวมีขนาดเพียง 2 นิ้ว หรือ 5 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ยากต่อการติดตาม แต่การโคจรของสถานีอวกาศที่ความเร็วถึง 28,163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ขยะอวกาศขนาดเพียง 1 นิ้วกลายเป็นภัยคุกคามและสร้างความเสียหายได้ หากพุ่งชนเข้าในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ
       
       นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ขยะอวกาศ “ทำพิษ” โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค.ลูกเรือบนสถานีอวกาศ 3 คน ต้องหนีไปหลบอยู่ในยานโซยุซ เนื่องจากมีเศษซากเก่าๆ ของเครื่องยนต์จรวดเคลื่อนเข้าใกล้สถานีอวกาศ และอีกเหตุการณ์ในเดือน ก.ค.นาซาต้องเลื่อนกำหนดการแยกตัวจากสถานีอวกาศของยานขนเสบียงของญี่ปุ่น เนื่องจากพบการคุกคามจากขยะอวกาศ
       
       เคิร์ก ไชร์แมน (Kirk Shireman) ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการสถานีอวกาศของนาซากล่าวว่า นาซาจะมีคำสั่งให้เคลื่อนตำแหน่งสถานีอวกาศเมื่อพบโอกาส 1 ใน 10,000 ที่จะถูกขยะอวกาศพุ่งชน และนักบินอวกาศจะต้องหลบเข้าที่กำบัง (ยานโซยุซ) เมื่อมีขยะอวกาศเข้าใกล้ในพื้นที่อันตรายหรือ “เรดโซน” (red zone) และไม่มีเวลาพอที่เคลื่อนย้ายตำแหน่งสถานีอวกาศเพื่อหลบหลีก ทั้งนี้ รอบสถานีอวกาศจะถูกกำหนดบริเวณให้ปลอดจากเศษซากต่างๆ เป็นระยะ 25 กิโลเมตร และต้องไม่มีขยะอวกาศอยู่ด้านบนและด้านล่างสถานีเป็นระยะ 0.75 กิโลเมตร
       
       ตลอด50 ปีกิจการอวกาศสร้างขยะนับล้านชิ้น
       มาร์แชลล์ คาแพลน (Marshall Kaplan) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องขยะอวกาศในวงโคจรจากภาควิชาอวกาศของห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ (Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory) ในเมืองลอเรล แมริแลนด์ สหรัฐฯ กล่าวว่า เรามาถึง “จุดที่ไม่อาจหวนกลับ” ด้วยปริมาณขยะอวกาศในวงโคจรต่ำเพิ่มมากขึ้นตลอด 50 ปีที่ผ่านมาในการดำเนินกิจการอวกาศของมนุษย์
       
       ผู้เชี่ยวชาญเรื่องขยะอวกาศกล่าวถึง 2 เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดขยะอวกาศปริมาณมหาศาล เหตุการณ์แรกคือการทดลองยิงขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม (anti-satellite: ASAT) ของจีนเมื่อปี ค.ศ. 2007 ซึ่งทำให้มีจำนวนขยะอวกาศเพิ่มขึ้นถึง 25% แต่จำนวนดังกล่าวไม่สำคัญเท่าตำแหน่งที่เศษซากเหล่านั้นเข้าไปขวางวัตถุอวกาศอื่นๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ความสูง 865 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีดาวเทียมวงโคจรต่ำอยู่อย่างหนาแน่น
       
       อีกเหตุการณ์คืออุบัติเหตุการชนกันของดาวเทียมเออริเดียม 33 (Iridium 33) ของสหรัฐฯ กับดาวเทียมคอสมอส 2251 (Cosmos 2251) ดาวเทียมหมดอายุของรัสเซียเมื่อปี ค.ศ.2009 ที่ระดับความสูงใกล้เคียงกับการยิงขีปนาวุธของจีน ซึ่ง คาแพลนกล่าวว่า ตลอด 50 ปีที่มนุษย์ส่งดาวเทียมและรวมอุบัติเหตุ 2 ครั้งที่เกิดนั้น น่าจะมีขยะอวกาศสะสมอยู่ในวงโคจรที่ระดับความสูง 700-1,300 กิโลเมตร นับล้านชิ้น โดยมีขนาดตั้งแต่ไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงขนาดหลายเมตร
       
       ขยะอวกาศจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2030
       จอห์น รอช (John Roach) บล็อกเกอร์ผู้รายงานความเคลื่อนไหวของวงการอวกาศระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังติดตามวัตถุในอวกาศขนาดใหญ่กว่า 10 เซ็นติเมตรจำนวน 21,000 ชิ้น ในจำนวนนั้นมีเพียง 1,000 ชิ้นเป็นดาวเทียมที่ใช้งาน ส่วนที่เหลือเป็นดาวเทียมที่หมดอายุใช้งาน ชิ้นส่วนจรวด และขยะอวกาศอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีขยะอวกาศขนาด 1-10 เซ็นติเมตร อีกราวๆ 300,000 ชิ้น แต่ไม่ได้ถูกติดตามอย่างเป็นกิจวัตร ขยะอวกาศเหล่านี้โคจรไปรอบโลกพร้อมกับดาวเทียมที่ยังถูกใช้งานและยานอวกาศอื่นๆ
       
       “การจราจรทางอวกาศหนาแน่นขึ้น ตอนนี้เรามีกว่า 50 ชาติที่มีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมทางอวกาศ” สเปซด็อทคอมระบุคำพูดของ นายพลวิลเลียม เชลท์ตัน (Gen.William Shelton) ผู้บังคับการกองบัญชาการอวกาศของกองทัพอวกาศหรัฐฯ (U.S. Air Force Space Command) กล่าว และบอกว่าปัจจุบันมีวัตถุอวกาศกว่า 20,000 ที่ถูกติดตาม และจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 เท่าในปี ค.ศ.2030
       
       จำนวนขยะอวกาศที่จะเพิ่มมากขึ้นดังกล่าวนายพลเชลท์ตันระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอนาคตจะมีอุปกรณ์เซนเซอร์ที่ละเอียดขึ้น และอีกส่วนหนึ่งมาจากการจราจรทางอวกาศที่เพิ่มขึ้น โดยทุกวันนี้น่าจะมีวัตถุอวกาศมากกว่าที่เราจะติดตามได้ด้วยเซนเซอร์ที่มีอยู่ประมาณ 10 เท่า ซึ่งเราไม่สามารถติดตามวัตถุเหล่านั้นได้ นั่นหมายความว่าทั้งกิจการทหาร กิจการพลเรือนและกิจการเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศกำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย และไม่มีใครที่จะมีภูมิคุ้มกันจากการคุกคามดังกล่าว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเส้นทางในวงโคจรเท่านั้น
       
       “เรายังไม่พบวิธีที่น่าจะทำได้และเป็นวิธีที่ให้ความหวังเราในการลดปริมาณขยะอวกาศ วิธีดีที่สุดที่เราเชื่อว่าทำได้ คือการลดจำนวนขยะอวกาศเมื่อเราดำเนินการกิจการอวกาศของเรา เมื่อคิดว่าจะปล่อยวัตถุสู่อวกาศอย่างไร เมื่อส่งชุดดาวเทียมขึ้นไป การลดจำนวนขยะลงให้ได้เป็นเรื่องสำคัญ และเราพยายามโน้มน้าวชาติอื่นๆ ให้เห็นถึงความจำเป็นดังกล่าวด้วย” นายพลเชลท์ตันให้ความเห็น
       
       ถึงเวลาเก็บกวาด (หรือยัง)
       เมื่อขยะอวกาศกลายเป็นภัยคุกคามจึงมีความพยายามที่จะจัดการกับปัญหาดังกล่าว อย่างเช่นองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (แจกซา) ที่มีแนวคิดส่งตาข่ายคล้ายๆ แหจับปลาขึ้นไปเก็บกวาดเศษซากในวงโคจร โดยแนวคิดดังกล่าวเสนอทำตาข่ายขึ้นจากเส้นโลหะบางๆ และมีความกว้าง 2-3 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อตาข่ายกวาดขยะอวกาศแล้ว ตาข่ายโลหะดังกล่าวจะได้รับกระแสไฟฟ้าเข้าไป แล้วอาศัยสนามแม่เหล็กโลกทำให้เกิดแรงที่ม้วนขยะอวกาศลงสู่ชั้นบรรยากาศและถูกเผาไหม้ในที่สุด
       
       อย่างไรก็ดี ในมุมของคาแพลนมองว่าขยะอวกาศนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีทางลดลง ซึ่งหากเราต้องการทำความสะอาดวงโคจรก็จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก อีกทั้งหากเรายังเดินหน้าใช้ประโยชน์จากวงโคจรใกล้โลกซึ่งเป็นที่นิยมนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ความหนาแน่นและอุบัติเหตุจากการพุ่งชนของขยะอวกาศจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่ข่าวดีคือตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีปฏิบัติการเร่งด่วนในการเก็บกวาดขยะอวกาศ
       
       “ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าสถานการณ์อันไม่มั่นคงนั้นยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่หากเกิดขึ้นเมื่อไร ดาวเทียมที่ใช้การได้จะถูกทำลายด้วยอัตราที่น่าตกใจ และไม่อาจสร้างขึ้นไปทดแทน เราจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเลี่ยงไม่ได้นี้” คาแพลนกล่าว และเขายังรู้สึกด้วยว่าแนวทางการจัดการขยะอวกาศที่เสนอเข้ามาเป็นจำนวนมากนั้นยังฟังดูไม่น่าเป็นไปได้


ผู้จัดการออนไลน์
ถึงเวลาเก็บกวาด “ขยะอวกาศ” หรือยัง?

ภาพจำลองวัตถุในวงโคจรที่ส่วนมากเป็น “ขยะอวกาศ” (ESA)

ทุกความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอวกาศนำมาซึ่งการค้นพบและองค์ความรู้ใหม่ๆ แต่อีกด้านของความก้าวหน้าเหล่านั้นคือ “ขยะอวกาศ” ซึ่งมีที่มาหลากหลาย ทั้งดาวเทียมหมดอายุมากมายที่ลอยค้างอยู่ในวงโคจร เศษซากจากการปะทะกันของดาวเทียม ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่านี้กำลังเป็นภัยคุกคามการดำเนินกิจกรรมอวกาศของมนุษย์โลก
       
       “ขยะอวกาศ” คุกคามมนุษย์อวกาศในวงโคจร
       เมื่อต้นเดือน ก.ค.11 ลูกเรือ 6 คนบนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station: ISS) ถูกปลุกขึ้นขึ้นมากลางดึกระหว่างนอนหลับพักผ่อน หลังพบว่ามีขยะอวกาศ (space debris) เข้าใกล้สถานีในระยะเพียง 500 เมตร เหตุการณ์ครั้งนั้นสเปซด็อทคอมระบุว่า ไม่ร้ายแรงถึงขั้นสั่งย้ายลูกเรือหนีไปหลบในยานโซยุซ (Soyuz) ของรัสเซีย เพียงแต่สิ่งที่น่ากังวลคือการแจ้งข่าวที่ล่าช้าจนลูกเรือไม่สามารถติดเครื่องยนต์เพื่อเคลื่อนสถานีอวกาศให้พ้นจากการถูกพุ่งชนได้
       
       ทางด้านองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ออกมาแถลงว่า ขยะอวกาศดังกล่าวมีขนาดเพียง 2 นิ้ว หรือ 5 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ยากต่อการติดตาม แต่การโคจรของสถานีอวกาศที่ความเร็วถึง 28,163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ขยะอวกาศขนาดเพียง 1 นิ้วกลายเป็นภัยคุกคามและสร้างความเสียหายได้ หากพุ่งชนเข้าในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ
       
       นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ขยะอวกาศ “ทำพิษ” โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค.ลูกเรือบนสถานีอวกาศ 3 คน ต้องหนีไปหลบอยู่ในยานโซยุซ เนื่องจากมีเศษซากเก่าๆ ของเครื่องยนต์จรวดเคลื่อนเข้าใกล้สถานีอวกาศ และอีกเหตุการณ์ในเดือน ก.ค.นาซาต้องเลื่อนกำหนดการแยกตัวจากสถานีอวกาศของยานขนเสบียงของญี่ปุ่น เนื่องจากพบการคุกคามจากขยะอวกาศ
       
       เคิร์ก ไชร์แมน (Kirk Shireman) ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการสถานีอวกาศของนาซากล่าวว่า นาซาจะมีคำสั่งให้เคลื่อนตำแหน่งสถานีอวกาศเมื่อพบโอกาส 1 ใน 10,000 ที่จะถูกขยะอวกาศพุ่งชน และนักบินอวกาศจะต้องหลบเข้าที่กำบัง (ยานโซยุซ) เมื่อมีขยะอวกาศเข้าใกล้ในพื้นที่อันตรายหรือ “เรดโซน” (red zone) และไม่มีเวลาพอที่เคลื่อนย้ายตำแหน่งสถานีอวกาศเพื่อหลบหลีก ทั้งนี้ รอบสถานีอวกาศจะถูกกำหนดบริเวณให้ปลอดจากเศษซากต่างๆ เป็นระยะ 25 กิโลเมตร และต้องไม่มีขยะอวกาศอยู่ด้านบนและด้านล่างสถานีเป็นระยะ 0.75 กิโลเมตร
       
       ตลอด50 ปีกิจการอวกาศสร้างขยะนับล้านชิ้น
       มาร์แชลล์ คาแพลน (Marshall Kaplan) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องขยะอวกาศในวงโคจรจากภาควิชาอวกาศของห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ (Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory) ในเมืองลอเรล แมริแลนด์ สหรัฐฯ กล่าวว่า เรามาถึง “จุดที่ไม่อาจหวนกลับ” ด้วยปริมาณขยะอวกาศในวงโคจรต่ำเพิ่มมากขึ้นตลอด 50 ปีที่ผ่านมาในการดำเนินกิจการอวกาศของมนุษย์
       
       ผู้เชี่ยวชาญเรื่องขยะอวกาศกล่าวถึง 2 เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดขยะอวกาศปริมาณมหาศาล เหตุการณ์แรกคือการทดลองยิงขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม (anti-satellite: ASAT) ของจีนเมื่อปี ค.ศ. 2007 ซึ่งทำให้มีจำนวนขยะอวกาศเพิ่มขึ้นถึง 25% แต่จำนวนดังกล่าวไม่สำคัญเท่าตำแหน่งที่เศษซากเหล่านั้นเข้าไปขวางวัตถุอวกาศอื่นๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ความสูง 865 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีดาวเทียมวงโคจรต่ำอยู่อย่างหนาแน่น
       
       อีกเหตุการณ์คืออุบัติเหตุการชนกันของดาวเทียมเออริเดียม 33 (Iridium 33) ของสหรัฐฯ กับดาวเทียมคอสมอส 2251 (Cosmos 2251) ดาวเทียมหมดอายุของรัสเซียเมื่อปี ค.ศ.2009 ที่ระดับความสูงใกล้เคียงกับการยิงขีปนาวุธของจีน ซึ่ง คาแพลนกล่าวว่า ตลอด 50 ปีที่มนุษย์ส่งดาวเทียมและรวมอุบัติเหตุ 2 ครั้งที่เกิดนั้น น่าจะมีขยะอวกาศสะสมอยู่ในวงโคจรที่ระดับความสูง 700-1,300 กิโลเมตร นับล้านชิ้น โดยมีขนาดตั้งแต่ไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงขนาดหลายเมตร
       
       ขยะอวกาศจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2030
       จอห์น รอช (John Roach) บล็อกเกอร์ผู้รายงานความเคลื่อนไหวของวงการอวกาศระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังติดตามวัตถุในอวกาศขนาดใหญ่กว่า 10 เซ็นติเมตรจำนวน 21,000 ชิ้น ในจำนวนนั้นมีเพียง 1,000 ชิ้นเป็นดาวเทียมที่ใช้งาน ส่วนที่เหลือเป็นดาวเทียมที่หมดอายุใช้งาน ชิ้นส่วนจรวด และขยะอวกาศอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีขยะอวกาศขนาด 1-10 เซ็นติเมตร อีกราวๆ 300,000 ชิ้น แต่ไม่ได้ถูกติดตามอย่างเป็นกิจวัตร ขยะอวกาศเหล่านี้โคจรไปรอบโลกพร้อมกับดาวเทียมที่ยังถูกใช้งานและยานอวกาศอื่นๆ
       
       “การจราจรทางอวกาศหนาแน่นขึ้น ตอนนี้เรามีกว่า 50 ชาติที่มีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมทางอวกาศ” สเปซด็อทคอมระบุคำพูดของ นายพลวิลเลียม เชลท์ตัน (Gen.William Shelton) ผู้บังคับการกองบัญชาการอวกาศของกองทัพอวกาศหรัฐฯ (U.S. Air Force Space Command) กล่าว และบอกว่าปัจจุบันมีวัตถุอวกาศกว่า 20,000 ที่ถูกติดตาม และจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 เท่าในปี ค.ศ.2030
       
       จำนวนขยะอวกาศที่จะเพิ่มมากขึ้นดังกล่าวนายพลเชลท์ตันระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอนาคตจะมีอุปกรณ์เซนเซอร์ที่ละเอียดขึ้น และอีกส่วนหนึ่งมาจากการจราจรทางอวกาศที่เพิ่มขึ้น โดยทุกวันนี้น่าจะมีวัตถุอวกาศมากกว่าที่เราจะติดตามได้ด้วยเซนเซอร์ที่มีอยู่ประมาณ 10 เท่า ซึ่งเราไม่สามารถติดตามวัตถุเหล่านั้นได้ นั่นหมายความว่าทั้งกิจการทหาร กิจการพลเรือนและกิจการเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศกำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย และไม่มีใครที่จะมีภูมิคุ้มกันจากการคุกคามดังกล่าว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเส้นทางในวงโคจรเท่านั้น
       
       “เรายังไม่พบวิธีที่น่าจะทำได้และเป็นวิธีที่ให้ความหวังเราในการลดปริมาณขยะอวกาศ วิธีดีที่สุดที่เราเชื่อว่าทำได้ คือการลดจำนวนขยะอวกาศเมื่อเราดำเนินการกิจการอวกาศของเรา เมื่อคิดว่าจะปล่อยวัตถุสู่อวกาศอย่างไร เมื่อส่งชุดดาวเทียมขึ้นไป การลดจำนวนขยะลงให้ได้เป็นเรื่องสำคัญ และเราพยายามโน้มน้าวชาติอื่นๆ ให้เห็นถึงความจำเป็นดังกล่าวด้วย” นายพลเชลท์ตันให้ความเห็น
       
       ถึงเวลาเก็บกวาด (หรือยัง)
       เมื่อขยะอวกาศกลายเป็นภัยคุกคามจึงมีความพยายามที่จะจัดการกับปัญหาดังกล่าว อย่างเช่นองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (แจกซา) ที่มีแนวคิดส่งตาข่ายคล้ายๆ แหจับปลาขึ้นไปเก็บกวาดเศษซากในวงโคจร โดยแนวคิดดังกล่าวเสนอทำตาข่ายขึ้นจากเส้นโลหะบางๆ และมีความกว้าง 2-3 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อตาข่ายกวาดขยะอวกาศแล้ว ตาข่ายโลหะดังกล่าวจะได้รับกระแสไฟฟ้าเข้าไป แล้วอาศัยสนามแม่เหล็กโลกทำให้เกิดแรงที่ม้วนขยะอวกาศลงสู่ชั้นบรรยากาศและถูกเผาไหม้ในที่สุด
       
       อย่างไรก็ดี ในมุมของคาแพลนมองว่าขยะอวกาศนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีทางลดลง ซึ่งหากเราต้องการทำความสะอาดวงโคจรก็จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก อีกทั้งหากเรายังเดินหน้าใช้ประโยชน์จากวงโคจรใกล้โลกซึ่งเป็นที่นิยมนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ความหนาแน่นและอุบัติเหตุจากการพุ่งชนของขยะอวกาศจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่ข่าวดีคือตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีปฏิบัติการเร่งด่วนในการเก็บกวาดขยะอวกาศ
       
       “ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าสถานการณ์อันไม่มั่นคงนั้นยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่หากเกิดขึ้นเมื่อไร ดาวเทียมที่ใช้การได้จะถูกทำลายด้วยอัตราที่น่าตกใจ และไม่อาจสร้างขึ้นไปทดแทน เราจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเลี่ยงไม่ได้นี้” คาแพลนกล่าว และเขายังรู้สึกด้วยว่าแนวทางการจัดการขยะอวกาศที่เสนอเข้ามาเป็นจำนวนมากนั้นยังฟังดูไม่น่าเป็นไปได้


ผู้จัดการออนไลน์
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 01:39:17


ความคิดเห็นที่ 1410 (1565826)

นอกจากขยะจะล้นโลกแล้ว ยังจะล้นไปถึงอวกาศอีกนะคะเนี่ย..

ถ้างั้น ก็ถึงเวลาทีจะเก็บกวาดขยะโลก แล้วเช่นกัน..

 

อนุโมทนากับทุกๆข่าวที่นำมาฝากด้วยนะคะ คุณอาริยา..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-25 06:19:21


ความคิดเห็นที่ 1411 (1565953)

ด่วน! สั่งเฝ้าระวัง "น้ำหลาก" คืนนี้ หลังน้ำเอ่อท่วมสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง



ชาว
อำเภอเชียงดาวแตกตื่น หลังฝนตกหนักจนทำให้น้ำป่าหลากลงดอย ไหลลงแม่น้ำปิง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นท่วมทั้งสองฝั่ง ไร่พริกไร่สวนจมน้ำ ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งออกช่วยเหลือชาวสวนตาบอด-ขาลีบ ที่ติดอยู่ในกระท่อมกลางน้ำออกมา และจัดมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง...

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้เกิดฝนตกหนัก จนเกิดน้ำป่าหลากมาจากดอยต่างๆ ของ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไหลลงสู่แม่น้ำปิง ทำให้น้ำล้นฝั่งอย่างรวดเร็ว เข้าท่วมหมู่บ้านและไร่สวนของ ต.ทุ่งข้าวพวง และ ต.เชียงดาว โดยเฉพาะที่หมู่บ้าน ม่วงฆ้อง หมู่ 3 ต.เชียงดาว ที่มีสวนพริกกว้างขวางหลายพันไร่ น้ำไปเจิ่งนอง โดย "มิสเตอร์เตือนภัย" รีบออกตระเวนบอกชาวบ้านที่อยู่เส้นทางน้ำ ให้ขนของขึ้นสู่ที่สูงและอพยพออกมาก่อนในช่วงน้ำหลากรุนแรงนั้น

ทางนายสมบัติ ประชาราษฎร์ กำนัน ต.เชียงดาว ได้แจ้งมายังกู้ภัยเชียงดาว ว่ามีชาวบ้านติดอยู่กลางน้ำในสวนพริก ชื่อนายแก้ว เขื่อนขันธ์ อายุ 70 ปี คนดูแลสวนพริกที่มีสภาพร่างกายตามองเห็นข้างเดียว และขาลีบพิการ ไม่สามารถจะเดินลุยน้ำออกมาได้ จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งทีมกู้ภัย เข้าไปทำการช่วยเหลือ โดยมีนายอดิศักดิ์ คุ้มเมือง หัวหน้าทีมกู้ภัย ได้นำทีมเดินลุยน้ำเข้าไปทำการช่วยเหลือนำออกมาได้อย่างปลอดภัย



นายอดิศักดิ์ ได้เปิดเผย จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำไหลลงดอยมาจำนวนมาก เดชะบุญที่ อ.เชียงใหม่ เพิ่งมีการอบรมมิสเตอร์เตือนภัย แทบทุกหมู่บ้านจึงมีการเฝ้าระวัง เมื่อน้ำหลากลงหมู่บ้านแรก หมู่บ้านต่อๆ ไปจะได้รับการเตือนภัย และสามารถขนย้ายหรือหลบออกจากบริเวณน้ำท่วมได้ทัน และสำหรับในครั้งนี้น้ำมาเร็วมาก ดังนั้นตลอดทั้งคืนวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะต้องมีการเตรียมพร้อมทีมกู้ภัย ทั้งอุปกรณ์ ที่จะสามารถเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยได้ทันที เพราะริมแม่น้ำปิงถือว่าอยู่ในภาวะอันตราย และฝนก็ยังไม่หยุดตกลงมา จึงหวั่นจะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้น ซึ่งทางอำเภอเชียงดาวมีการเฝ้าระวังเช่นกัน

 ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:27:38


ความคิดเห็นที่ 1412 (1565954)

หวิดเกิดเหตุเครื่องบินชน! เครื่องบินจีนไม่ยอมหลีกทางให้แอร์กาตาร์ลงจอดฉุกเฉิน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 สิงหาคม 2554 15:19 น.



ในภาพเครื่องบินโดยสารสายการบินจี๋เสียง แอร์ไลน์ ในเครือจวิ้นเหยา กรุ๊ป บริษัทเอกชนรายใหญ่จีน (ภาพเอเยนซี)

       เอเยนซี - สื่อทางการจีนรายงาน (25 ส.ค.) ว่า เครื่องบินโดยสารสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ น้ำมันใกล้หมด แจ้งรหัสขอลงจอดฉุกเฉิน “เมย์เดย์” ที่สนามบินหงเฉียว แต่สายการบินจีนไม่ยอมเปิดทางให้ จนเกือบเกิดเหตุชนกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไต่สวนพฤติกรรมชวนสยองของสายการบินจีนนี้ 
       
       กรณีนี้ได้กลายเป็นข่าวฮือฮาในสังคมออนไลน์จีน ชาวเน็ตชี้นับเป็นเหตุการณ์เขย่าขวัญวงการการบินที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
       
       จี๋เสียง แอร์ไลน์ สายการบินในเครือจวิ้นเหยา กรุ๊ป บริษัทเอกชนรายใหญ่จีน ยืนยันว่า มีนักบินคนหนึ่งของสายการบิน ได้ปฏิเสธที่จะหลีกทางให้เครื่องบินโดยสารของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินหงเฉียว ของนครเซี่ยงไฮ้
       
       นักบินสายการบินกาตาร์ ได้เผยว่า “เครื่องบินโดยสารของผม มีน้ำมันเหลือพอสำหรับบินกลางอากาศอีกเพียง 5 นาที จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินหงเฉียว”
       
       สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เครื่องบินโดยสารสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ บินจากสนามบินกรุงโดฮา กำลังมุ่งไปยังเป้าหมายปลายทางสนามบินผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ แต่จำต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินหงเฉียว ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางนครเซี่ยงไฮ้ ราว 45 กิโลเมตร เนื่องจากประสบพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา
       
       เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของสนามบินหงเฉียว ได้สั่งให้นักบินของเครื่องบินโดยสารสายการบินจี๋เสียง ซึ่งบินอยู่ด้านหน้าเครื่องบินโดยสารสายการบินกาตาร์ บินวนรอบสนามบินหงเฉียว และเปิดทางให้เครื่องของกาตาร์ลงจอดก่อน แต่นักบินของสายการบินจี๋เสียงกลับปฏิเสธ
       
       โกลบอล ไทมส์ อ้างความเห็นที่โพสต์บนอินเทอร์เน็ต ว่า นักบินของสายการบินจี๋เสียง ได้อ้างว่า เครื่องบินของเขาก็บินรออยู่นานแล้ว และจำเป็นต้องลงจอดทันที เนื่องจากน้ำมันใกล้จะหมดเช่นกัน
       
       จี๋เสียง แอร์ไลน์ บริษัทสายการบินเอกชนเซี่ยงไฮ้ ซึ่งก่อตั้งในปี 2548 ได้เผยว่า ขณะนี้ทางสายการบินได้สั่งพักงานนักบิน และพนักงานบนเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวเป็นการชั่วคราวระหว่างรอผลการสอบสวน พร้อมชี้ว่า เรื่องที่โพสต์กันบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้เป็นจริงเสียทั้งหมด
       
       โฆษกสายการบินจี๋เสียง เผยว่า “ขณะนี้เหตุดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน น้ำมันของเครื่องบินสายการบินกาตาร์ใกล้หมดจริงหรือเปล่า และหากใกล้หมดจริง ทำไมเขาไม่แจ้งหอบังคับการบินของสนามบินให้เร็วกว่านี้”
       
       ขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินหงเฉียว ได้เผยว่า “หอบังคับการบินได้ประสานไปยังเครื่องบินโดยสารสายการบินจี๋เสียงแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมหลีกทางให้ และหลังจากตรวจสอบน้ำมันของเครื่องบินโดยสารจี๋เสียง แอร์ไลน์ ปรากฏว่า ยังเหลือพอให้บินได้อีกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง”
       
       โกลบอล ไทมส์ อ้างรายงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศสนามบินหงเฉียวว่า “เครื่องบินทั้ง 2 ลำเข้ามาอยู่ในระยะใกล้กันเกินไปอาจชนกันได้”
       
       เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศระดับสูงรายหนึ่ง ได้เผยว่า “เครื่องบินโดยสารสายการบินกาตาร์ได้แจ้ง “เมย์เดย์”  ซึ่งเป็นรหัสของนักบินหมายถึงกำลังประสบภาวะฉุกเฉินขั้นวิกฤตที่อาจเกิดเหตุร้ายแรงได้”
       
       กรมการบินพลเรือนจีน ได้เผยว่า ขณะนี้กำลังสอบสวนเหตุดังกล่าวและผู้ที่รับผิดชอบเหตุการณ์นี้จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก
       
       อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เครื่องบินโดยสารกาตาร์ แอร์เวย์ ก็ได้ลงจอดอย่างปลอดภัยแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:29:16


ความคิดเห็นที่ 1413 (1565955)

กรมควบคุมโรค เตือนเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก พบผู้ป่วยแล้ว 8,405 ราย เสียชีวิต 5 ราย





กรมควบคุมโรค เตือนเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก พบผู้ป่วยแล้ว 8,405 ราย เสียชีวิต 5 ราย

วันนี้(25 ส.ค). นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ตั้งวอร์รูมระดับกรม เพื่อติดตามสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก โดยจะมีการประชุมกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง  เพื่อติดตามสถานการณ์ จนถึงขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว 8,405 ราย เสียชีวิต 5 ราย โดย 4 ราย ได้รับการยืนยันว่าชีวิตจากโรคมือ เท้า ปาก ส่วนอีก 1 รายอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ทั้งนี้ในจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคมือ เท้า ปาก 4  ราย มี  1 ราย ที่สามารถตรวจยืนยันว่าเป็นเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71  หรือ อีวี 71 ซึ่งมีความรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ส่วนอีก 3 ราย อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันว่าเป็นเชื้อชนิดใด โดยมีการนำตัวอย่าง เช่น เลือด สารคัดหลั่ง หรืออุจจาระจากเด็กที่เสียชีวิตไปตรวจแล้ว โดยผลการตรวจวิเคราะห์อาจใช้เวลาเป็นเดือน

“เชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ไม่ใช้เชื้อใหม่ในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาก็มีการตรวจเจอในห้องปฏิบัติการ แต่ที่ใหม่ คือ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ในบ้านเราไม่มีการเสียชีวิตจากโรคมือ เท้า ปาก  แต่ปีนี้มีการเสียชีวิตและตรวจพบเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ในผู้เสียชีวิต 1 รายอายุ 1 ปี 8 เดือน “ นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าห่วงคือ จากเดิมเด็กที่ป่วยโรคมือ เท้า ปาก อายุเฉลี่ยเมื่อปีก่อนจะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี แต่ปีนี้อายุเด็กที่ป่วยลดลงเฉลี่ยที่ประมาณ  2 ปี นั่นหมายความว่า เด็กกลุ่มนี้ยังไม่เข้าโรงเรียนจึงจำเป็นต้องให้ความรู้กับพ่อแม่ช่วยเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ภูมิต้านทานยังไม่ดี จำเป็นต้องระวังเป็นพิเศษ และหากพบผู้ป่วยหรือเสียชีวิตจะต้องมีการฆ่าเชื้อบริเวณที่อยู่อาศัยเพื่อลดปริมาณเชื้อลง

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าห่วงและอยากเตือนไปยังผู้ปกครองคือควรหมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน หากมีไข้ ชัก มีแผลตามือ เท้า ปาก หรืออาจจะไม่มีแผลเลย ในช่วงนี้ขอให้นึกถึงโรคนี้ไว้และควรรีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะในภาคกลาง ภาคอีสานและภาคเหนือบางส่วน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:30:20


ความคิดเห็นที่ 1414 (1565956)

มะกันตื่น แผ่นดินไหว3จุด อาฟเตอร์ช็อกซ้ำ

วันพฤหัสบดี ที่ 25 สิงหาคม 2554 เวลา 22:41 น





มะกันตื่น แผ่นดินไหว 3 จุด อาฟเตอร์ช็อกซ้ำ  หวิดเมืองถล่มเพราะห่างจากศูนย์กลางแค่ 8 กม.

วันนี้(25 ส.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือนตามหลังแผ่นดินไหว วัดได้ 4.5 ริคเตอร์ ที่รัฐเวอร์จิเนียและพื้นที่โดยรอบกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนเกิดอาการตื่นตระหนก หลังจากที่เพิ่งจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.8 ริคเตอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวแห่งชาติของสหรัฐแจ้งว่า อาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.07 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 12.07 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองแค่ 8 กม.ทางทิศใต้ของเมืองไมนีรัล รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งแรก ไม่มีรายงานความเสียหาย แต่พบรอยร้าวเพิ่มเติมด้านบนของยอดอนุสาวรีย์วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:30:57


ความคิดเห็นที่ 1415 (1565957)

อนุโมทนากับข่าวจากคุณอาริยาและทุกๆท่านด้วยค่ะ

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเข้าไปอ่านข่าวเวปอื่นแล้วค่ะ

แต่มาอ่านกระทู้นี้แทน

มีครบทุกรสชาติ เหตุบ้านการเมือง

มีประโยชน์มั่กๆ

ขอบคุณมากๆเลยค่าาา

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:31:04


ความคิดเห็นที่ 1416 (1565958)
ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง"

ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2554
  ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู นครราชสีมา ขอนแก่น ระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากภาวะ
ฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรงโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะ 1-3 วันนี้

ประกาศ ณ วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ออกประกาศ เวลา 22.30 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:31:30


ความคิดเห็นที่ 1417 (1565959)

พังงาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม 3 อำเภอ-ถนนขาดหลายสาย

พังงา -น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม 3 อำเภอ มีดินสไลด์เส้นทางสัญจรขาดหลายสาย ชาวบ้านขอความช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนสถานการณ์ยังคงวิกฤต

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุฝนตกหนักในพื้นที่บ้านบางเนียง หมู่ที่ 4, 5, 6 ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่สูงขึ้น อีกทั้งมีน้ำป่าไหลหลาก ตั้งแต่บริเวณหน้าเรือ ต.813 เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดถนนและบริเวณในพื้นที่ โดยระดับน้ำอยู่ในระดับ 1 เมตร ทำให้รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ส่วนบริเวณบ้านทุ่งขมิ้น มีชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ติดอยู่ในหมู่บ้านไม่ต่ำกว่า 30-40 คน

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่แล้ว แต่การเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือได้

ส่วนถนนสายบางไทร-ปากวีป บ้านดอกแดง หมู่ที่ 5 ตำบลตำตัว อำเภอตะกั่วป่า มีดินสไลด์ ปิดเส้นทางถนนรถไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ส่วนที่บริเวณถนนเพชรเกษม สายกะปง-ตะกั่วป่า บ้านปลายวา หมู่ที่ 2 ตำบลเหมาะ อำเภอกะปง มีน้ำป่าไหลหลากเข้าน้ำท่วมครัวเรือนประมาณ 10 ครัวเรือน มีบ้านครัวเรือนพังจากน้ำป่าไหลหลากแล้วจำนวน 2 หลัง ระดับน้ำมีความสูงถึง 2 เมตร ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ให้รถยนต์ชนิดต่างๆ เลี่ยงใช้เส้นทางบ้านปากเหล ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา

นอกจากนั้น ยังพบว่า ระดับน้ำป่าไหลหลากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติทำให้เบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานมีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 50 ครัวเรือน ใน 3 อำเภอ คือ อำเภอตะกั่วป่า ตำบลตำตัว ตำบลคึกคัก ตำบลบางไทร และตำบลบางม่วง ส่วนในอำเภอกะปง มีน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ปิดเส้นทาง ในพื้นที่ ตำบลเหมาะ

โดยเฉพาะบ้านปลายวา หมู่ที่ 2 พบว่า มีชาวบ้านติดอยู่ภายในหมู่บ้านจำนวนไม่ต่ำกว่า 70 ครัวเรือน ส่วนที่อำเภอท้ายเหมือง พบว่ามีน้ำท่วมและมีน้ำป่าไหลหลากที่บริเวณ ตำบลลำภี หมู่ที่ 4 ,5,6 ตำบลทุ่งมะพร้าว หมู่ที่ 1,4,5,8,10 ระดับน้ำประมาณ 1 เมตร ครัวเรือนได้รับผลกระทบแล้ว 300-400 ครัวเรือน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลับเข้าช่วยเหลือ แต่พบว่า มีอุปสรรคในเรื่องของระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:32:51


ความคิดเห็นที่ 1418 (1565960)

ชาวบ้านผวาพบรอยแยกบนเขาเหนือหมู่บ้านเมืองปัวนับ 10 จุด ยาวกว่า 500 ม.

น่าน - โผล่อีกรอยแยกและรอยเลื่อน ดินภูเขาทรุดตัวเหนือหมู่บ้านเป็นแนวยาวหลายแห่ง ชาวบ้านเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบด่วน เกรงจะถล่มลงใส่บ้านเรือนที่มีกว่า 100 หลัง และฝายกั้นน้ำ หลังเกิดเหตุดินสไลด์ทับบ้านเรือนชาวบ้านในชุมชนแล้ว 2 หลัง


วันนี้ (25 ส.ค.) ชาวบ้านบ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลศิลาแลง, ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 น่าน เข้าตรวจสอบรอยเลื่อนและรอยแยก บนเขาเหนือหมู่บ้าน ซึ่งมีกว่า 10 จุด และเป็นแนวยาวกว่า 500 เมตร กว้างกว่า 10 เซนติเมตร ลึกกว่า 2 เมตร โดยชาวบ้านนำไผ่ที่ขนาดยาวกว่า 5 เมตร หยั่งในหลายๆ จุดที่เป็นดินแยก พบมีความลึกต่างกันไป นอกจากนั้นยังมีดินทรุดตัวลงมาแยกเป็นชั้นๆ ตามแนวดิ่งของเนินเขา

ชาวบ้านที่นำทีมเจ้าหน้าที่ดูพื้นที่บอกว่า ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้มีดินโคลนบางส่วนไหลลงสู่หมู่บ้านที่อยู่ติดเขาข้างล่าง จึงได้เข้ามาสำรวจจนพบสภาพดินภูเขาที่เกิดรอยแยกดังกล่าว

นางรำแพน โนพรวน นายกเทศมนตรีตำบลศิลาแลง กล่าวว่า ได้เตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง และจัดเวรยามตรวจอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง ในขั้นต้นนี้ได้ประสานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ให้มาตรวจสอบ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า รอยแยกของดินอาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่อยู่แนวเดียวกับรอยเลื่อนปัวที่ยังมีพลังอยู่ ชาวบ้านจึงวิตกมากเกรงจะเกิดอุบัติภัยทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่จะให้ชาวบ้านย้ายไปที่อื่น ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะบริเวณนี้ส่วนใหญ่ก็มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าเขาทั้งสิ้น

ด้าน พ.อ.ดำรงค์ คงเดช ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 น่าน กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือหากมีการร้องขอ โดยเฉพาะการขนย้ายคนและสิ่งของออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยต่อไป

สำหรับบ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ตำบลศิลาแลง มีประชากรจำนวน 136 ครัวเรือน จำนวน 580 คน ล่าสุดได้เกิดดินทรุดตัวสไลด์ลงใส่บ้าน 2 หลัง ที่สร้างติดกับเชิงเขา เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ทำความเสียหายให้แก่ตัวบ้านเกือบทั้งหมด ขณะนี้ชาวบ้านจึงเกิดความหวาดผวาหลังพบรอยแยกและรอยเลื่อนตลอดจนดินทรุดตัวเป็นแนวยาว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการป้องกันต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:34:06


ความคิดเห็นที่ 1419 (1565961)

ระนองน้ำไหลหลากท่วมบ้านประชาชนใน อ.สุขสำราญ

วันที่ 25/08/2554 17:23


ระนอง -ระนองฝนตกหนักน้ำไหลหลากท่วมบ้านกำพวน อ. สุขสำราญ ทำทรัพย์สินประชาชนเสียหายหนัก

หลังจากที่ฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง ตั้งแต่คืนวันที่ 24 ส.ค. 54 ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 25 ส.ค.ตลอดทั้งวันได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน และโรงเรียนดำรงค์ศาสน์ที่อยู่ริมคลองกำพวนพื้นที่หมู่ที่ 2 , 3 และหมู่ที่ 5 รวมทั้งตลาดกำพวน และวัดสถิตย์ธรรมมาราม ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ทางองค์การบริหารส่วนตำบลกำพวน ได้ส่งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.)เข้าไปให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนแล้ว

นายอิศมาแอล หาญจิตร นายก อบต.กำพวน กล่าวว่า พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่อยู่ริมคลองกำพวน ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากฝนตกหนักบนภูเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่รถทุกชนิยังสามารถวิ่งผ่านถนนเพชรเกษมได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่ง อบต.และอ.สุขสำราญ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยแล้ว

นายชาสันต์ คงเรือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า หลายอำเภอเกิดฝนตกหนักมาตั้งแต่คืนวันที่ 24 สิงหาคม จนถึงเย็นวันที่ 25 สิงหาคม ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำไหลหลาก และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่อ.กะเปอร์และอ.สุขสำราญ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมความพร้อมในการอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:36:28


ความคิดเห็นที่ 1420 (1565962)

กัมพูชาพบเหยื่อหวัดนกรายที่ 8


เด็กชาวกัมพูชาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ที่จ.กันดาล องค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาแถลงร่วมว่าพบผู้เสียชีวิตจากหวัดนกรายที่ 8 ของปีนี้ เป็นเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ. -- AFP PHOTO/ Tang Chhin Sothy.

เอเอฟพี - องค์การอนามัย (WHO) ระบุ เด็กหญิงชาวกัมพูชาวัย 6 ขวบ กลายเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคหวัดนกเป็นรายที่ 8 ของกัมพูชาในปี 2554

กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา และ WHO ออกแถลงร่วม ว่า เหยื่อหวัดนกรายล่าสุดมาจาก จ.กำปงจาม ทางตะวันออกของประเทศ และรายงานว่า เสียชีวิตตั้งแต่ว่าที่ 14 ส.ค.หลังจากได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H5N1

“เด็กหญิงรายนี้เป็นคนที่ 18 ในกัมพูชาที่ติดเชื้อไวรัส H5N1 และเป็นรายที่ 16 ที่เสียชีวิตจากโรคนี้นับตั้งแต่ปี 2548” ส่วนหนึ่งในแถลง และว่าเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายได้สัมผัสกับสัตวย์ปีกที่ป่วยหรือตายก่อนจะมีอาการป่วย

แถลงการณ์ร่วมระบุว่า นับตั้งแต่เดือน ม.ค.2554 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกทั้ง 8 คน โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กถึง 7 คน และนับตั้งแต่ปี 2546 ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H5N1 ได้คร่าชีวิตผู้คนในทั่วโลกไปแล้ว 331 คน
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:37:01


ความคิดเห็นที่ 1421 (1565964)

ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างยังทรงตัว

25 สค. 2554 15:55 น.


 

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เวลา 06.00 น. (25 ส.ค. 54) ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,268 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 26 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.38 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 1,798 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 68 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน ต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร ระดับน้ำท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่ง 2.37 เมตร
สำหรับจังหวัดสิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,806 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 52 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.35 เมตร จังหวัดอ่างทอง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,801 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 11 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.15 เมตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 968 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 31 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 80 เซนติเมตร
ส่วนที่คลองบางหลวง(คลองโผงเผง) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 625 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.09 เมตร คลองบางบาล มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 30 เซนติเมตร และที่อ.บางไทร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,081 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.14 เมตร
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างยังทรงตัว ฝนที่ตกน้อยลงในพื้นที่ตอนบน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทรงตัว และบางแห่งระดับน้ำลดลงบ้างเล็กน้อย ซึ่งกรมชลประทาน จะได้เร่งระบายน้ำส่วนหนึ่งออกสู่ทะเลในระยะ 2 - 3 วันนี้ ให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนต่ำมาก อย่างไรก็ตาม การเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลในระยะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางตอนล่างแต่อย่างใด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:38:00


ความคิดเห็นที่ 1422 (1565965)

ฝนที่เทลงมาอย่างหนัก ทำให้ทางตะวันตกเฉียงใต้จีนน้ำท่วมหนัก





ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:38:46


ความคิดเห็นที่ 1423 (1565966)

นอร์ทคาโรไลน่า ได้รับคำสั่งเตรียมอพยบประชาชนล่าสุด หลังเฮอร์ริเคนไอรีนได้เข้าพัดถล่มที่บาฮามาส

Evacuation order issued in North Carolina as hurricane Irene batters Bahamas with 150mph winds and heads for East Coast


 

  • Residents on U.S. east coast prepare as hurricane nears
  • 150,000 tourists given mandatory order to leave
  • Stricken Bahamas deserted as beaches closed and tourists flee
     
  • Storm expected to reach Category 4 today
     
  • Expected to make landfall in North Carolina on Saturday
  • Ocracoke Island off the coast is evacuated as precaution
  • Could threaten densely populated areas, such as New York
  • Officials urge Americans to stock up on fuel and food supplies
  • Obama currently on holiday in area of hurricane"s projected path


Gaining strength: Irene is expected to gain in intensity to Category 4 as it moves over open water
between the Bahamas and North Carolina"s Outer Banks

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:39:32


ความคิดเห็นที่ 1424 (1565967)

ปภ.ระนอง เตือนประชาชนระวังดินเลื่อนไหล-น้ำป่าไหลหลาก

25 สค. 2554 12:50 น.

 

นายชาสันต์ คงเรือง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากสภาวะอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่ จ.ระนองตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำในลำคลองสำคัญหลายแห่งเริ่มมีปริมาณน้ำสูงขึ้น ทั้งยังทำให้ดินอยู่ในสภาวะอุ้มน้ำ เสี่ยงต่อสภาวะดินเลื่อนไหว และน้ำป่าไหลหลาก ทาง ปภ.ระนอง จึงออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดสภาวะน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ รวมถึงสภาวะดินเลื่อนไหล ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในหลายพื้นที่ใน จ.ระนอง


จ.ระนองมีพื้นที่เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษในเขตพื้นที่ 2 อำเภอคือ อ.กะเปอร์ และ อ.สุขสำราญ ซึ่งอยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและ น้ำป่าไหลหลากได้ ทาง ปภ.ระนองจึงออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติในระยะนี้
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ประชาชนสังเกตุความผิดปกติของสีน้ำในลำคลองหากพบเป็นสีขุ่นข้นผิดปกติ ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอพยพยังที่ปลอดภัยทันทีเนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดดินโคลนถล่ม
พร้อมกันนี้ยังได้ออกประกาศคำเตือนเป็นกรณีพิเศษยังชาวเรือ ชาวประมง เรือโดยสารข้ามฟาก เรือรับส่งนักท่องเที่ยว ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินเรือในระยะนี้ ส่วนเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งเป็นการชั่วคราวในระยะนี้ พร้อมให้ประชาชนสำรองอาหาร เครื่องดื่ม เทียนไข และอุปกรณ์ฉุกเฉินเผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:43:42


ความคิดเห็นที่ 1425 (1565968)

เฮอร์ริเคน ไอรีน ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 3
  

25 สค. 2554 13:15 น.

พายุเฮอร์ริเคน ไอรีน ทวีกำลังแรงขึ้นมีความรุนแรงระดับ 3 ขณะพัดปกคลุมบาฮามาส มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐ และคาดว่าจะมีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 4 ในวันนี้ ก่อนจะพัดขึ้นฝั่งในสหรัฐช่วงสุดสัปดาห์
พายุเฮอร์ริเคน ไอรีน ที่มีความเร็วลม 193 กม./ชม.ได้พัดปกคลุมทั่วบริเวณหมู่เกาะบาฮามาสเมื่อวาน และคาดว่าจะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเกาะเล็กๆ 2 เกาะที่มีประชากรอาศัยเบาบางเมื่อพายุพัดขึ้นฝั่งบริเวณเกาะดังกล่าว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และคงจะยังไม่อาจประเมินความสูญเสียหรือความเสียหายได้จนกว่าพายุจะเคลื่อนตัวออกจากประเทศในวันศุกร์นี้
นายกรัฐมนตรีฮิวเบิร์ต อินเกรแฮม บอกว่า พายุลูกนี้จะเป็นเฮอร์ริเคนลูกที่ 3 ที่พัดถล่มทั่วหมู่เกาะทั้งประเทศในรอบ 145 ปี และคาดว่า พายุจะสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางต่ออาคารบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน แต่เชื่อว่าจะทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตจำนวนน้อยเท่านั้น
ขณะที่ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ คาดการณ์ว่า พายุไอรีนอาจทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 4 ภายในวันนี้ขณะเคลื่อนตัวสู่ชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐ โดยคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งแถวชายฝั่งรัฐนอร์ธแคโรไลน่าในวันเสาร์นี้ และจะขึ้นฝั่งอีกครั้งที่รัฐนิวอิงแลนด์ในวันอาทิตย์หรือจันทร์
คาดว่าประชาชนที่อาศัยแถบชายฝั่งตั้งแต่รัฐเวอร์จิเนียไปจนถึงแคนาดาจะรับรู้ได้ถึงความรุนแรงของพายุลูกนี้ที่มี และกองทัพเรือได้สั่งให้เรือทุกลำที่ประจำการอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย เตรียมพร้อมภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อเตรียมปฏิบัติการรับมือกับพายุอันตรายลูกนี้ ส่วนรัฐนิวยอร์กก็สั่งให้ทีมบรรเทาภัยฉุกเฉินเตรียมความพร้อมซึ่งมีความคืบหน้าไปถึง 70% แล้ว โดยเร่งทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ทบทวนเส้นทางอพยพ และตั้งศูนย์อพยพ



<< back  next >>



สหรัฐเตรียมรับมือ"ไอรีน"หลังถล่มหลาย ปท.แถบแคริบเบียน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 สิงหาคม 2554 12:54 น.


       สหรัฐฯ เตรียมรับมือพายุเฮอริเคน "ไอรีน" ที่อาจมุ่งหน้าเข้าถล่มชายฝั่งตะวันออกของประเทศ หลังพัดถล่มหลายประเทศในแถบแคริบเบียน
        ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ในเมืองไมอามี คาดการณ์ว่า พายุเฮอริเคนไอรีน ซึ่งเป็นเฮอริเคนลูกแรกของฤดู ในมหาสมุทรแอตแลนติก จะทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคน ระดับ 4 มีความเร็วลมสูงสุดถึง 217 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจมุ่งหน้าเข้าถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ซึ่งมีประชากรหนาแน่น ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งนครนิวยอร์ก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:44:27


ความคิดเห็นที่ 1426 (1565969)

เพชรบุรีเร่งช่วยเหยือ่พายุหมุน พบบ้านพังเกือบ 200 หลัง

เพชรบุรี - หลายฝ่ายเร่งสำรวจความเสียหายจากพายุหมุนถล่มอำเภอบ้านแหลม เมืองเพชรบุรี พบบ้านพังเกือบ 200 หลัง ด้านไฟฟ้ามอบเร่งซ่อมแซมและติดตั้งเสาไฟฟ้าและมอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตที่ประเหตุเสาไฟฟ้าล้มทับแล้ว

หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 ส.ค.) ในพื้นที่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เกิดพายุหมุนลมแรงจนทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นล้มระเนระนาดได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 34 ต้นเป็นระยะทางยาวเกือบ 2 กิโลเมตร อีกทั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงได้ล้มทับรถยนต์กระบะที่ใช้เส้นทางจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 รายนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.) นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและรับฟังข้อมูลความเสียหาย ซึ่งได้รับแจ้งว่าในพื้นที่เฉพาะเขตเทศบาลตำบลบ้านแหลมรวม 8 ตำบล

ประกอบด้วยหมู่ 1,3,4,5,6,7,8,และหมู่ 10 มีบ้านพังและได้รับความเสียหายจากพายุพัดที่ส่วนใหญ่หลังคาสังกะสี หลังคากระเบื้องพังและมีต้นไม้ใหญ่ล้มทับหลังคาบ้าน รวมทั้งสิ้น 178 หลัง ทั้งนี้ ได้มีการตั้งจุดรับแจ้งเหตุโดยใช้พื้นที่ในเทศบาลตำบลบ้านแหลม เปิดศูนย์ในการรับแจ้งเหตุทั้ง อ.บ้านแหลม

นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จากการที่ได้รับแจ้งคาดว่าพายุที่พัดเป็นพายุหมุนในลักษณะคล้ายกับพายุงวงช้างแต่ปรกติพายุงวงช้างจะเกิดขึ้นในทะเล แต่ก็อาจะเป็นไปได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้ทะเล โดยพายุพัดในลักษณะหมุนอย่างรุนแรงในลักษณะถอนรากถอนโคนจนทำให้เสาไฟฟ้าและบ้านเรือนของประชาชน วัด และสถานที่ราชการ ได้รับความเสียหาย โดยได้รับข้อมูลรายงานเบื้องต้นมีเสาไฟฟ้าล้มหักโค่น 34 ต้น มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 3 ราย และมีชาวบ้านและโรงงานได้รับผลกระทบในเรื่องของไฟฟ้า

โดยเฉพาะโรงงานเซียนหนิงซีฟู๊ด จำกัด ที่ต้องใช้ไฟในการแช่แข็งสินค้า ส่วนด้านจังหวัดจะดำเนินการช่วยเหลือตามระบบราชการหลังจากได้รับรายงานจากอำเภอบ้านแหลม และหลังจากมีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติโดยใช้งบเงินทดลองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์ประเมินค่าความเสียหายต่อไป

ด้านความเสียหายจากเสาไฟฟ้าล้มจากสาเหตุพายุหมุนพัดนั้น นายอนันต์ ทองศรีไพร ผจก.ไฟฟ้าจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 120 คน ทั่วทั้งจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือในการขนย้ายและทำการติดตั้งเสาไฟฟ้าที่ล้มเสียหายทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะทำการแล้วเสร็จและสามารถเปิดจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.)

ส่วนด้านผู้ประสบเหตุและผู้เสียชีวิตจากการถูกเสาไฟฟ้าล้มทับนั้นเบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติของนายสมชาย มั่นหมาย จำนวน 50,000 บาทและมีตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดเพื่อมาดูแลส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 รายจะออกค่าใช้จ่ายในการรักษาให้ทั้งหมด

ส่วนยานพาหนะที่ได้รับความเสียหายจะให้อู่ตีราคาและจะจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้ ทั้งนี้จากการสำรวจเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ยังไม่หักโค่นพบว่ามีรอยร้าวอีกจำนวน 16 ต้น ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเพชรบุรีจะต้องดำเนินการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าแรงสูงทั้งหมดครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 50 ต้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:46:11


ความคิดเห็นที่ 1427 (1565970)

พบน้ำท่วมป่าตองภูเก็ตหนักในรอบ 8 ปี เหตุน้ำทะเลหนุน-ก่อสร้างขวางทางน้ำไหล

ศูนย์ข่าวภูเก็ต-รองนายกป่าตองระบุน้ำท่วมป่าตองหนักสุดในรอบ 8 ปี เหตุจากน้ำทะเลหนุนและคนก่อสร้างขวางทางน้ำ ขณะที่เกิดดินสไลด์จากถนน 50 ปี ทับรถประชาชนที่จอดอยู่เสียหาย 2 คัน

นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตกล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ป่าตองว่า สืบเนื่องจากฝนตกสะสมมาตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.54) ส่งผลให้ถนนหลายสายของป่าตองประสบกับปัญหาน้ำท่วมขัง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้การระบายน้ำทำได้ยาก

ในส่วนของทางเทศบาลฯก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปแก้ปัญหา ในการขุดลอกคลองและระบายน้ำในจุดต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เนื่องจากได้มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวมถึงในส่วนของโรงพยาบาลป่าตองด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองป่าตองครั้งนี้ นับว่าหนักสุดในรอบ 8 ปี หลังจากเหตุการณ์สึนามิ เนื่องจากสาเหตุหลายๆ อย่าง นอกจากเรื่องของธรรมชาติที่มีเรื่องของน้ำทะเลหนุนสูงแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะการสร้างสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ หรือการถมทางน้ำ เมื่อประกอบกับปริมาณน้ำฝนสะสมและน้ำทะเลหนุนจึงทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก ซึ่งขณะนี้ก็ได้เร่งแก้ไขเพื่อระบายน้ำออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่เนื่องจากระยะนี้มีน้ำทะเลหนุนจึงทำให้ระบายน้ำได้ยาก รวมทั้งยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง”

นายชัยรัตน์ กล่าวไปว่า นอกจากจะมีปัญหาเรื่องของน้ำท่วมขังจนทำให้พื้นที่ป่าตอง จนทำให้การสัญจรเป็นอัมพาต ขณะในพื้นที่ยังมีปัญหาเรื่องของดินสไลด์ ที่บริเวณถนน 50 ปี ซึ่งเป็นถนนทางขึ้นเขาโดยดินได้สไลด์ลงมา เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ โดยดินที่สไลด์ลงมาได้ไหลลงไปทับรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่ข้างทางจำนวน 2 คัน ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาแล้ว

นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า ที่บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านหัวควน ต.กมลา อ.กะทู้ ได้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนประมาณ 10 หลัง โดยมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพข้าวของจากบ้านเรือนไปอยู่ในจุดปลอดภัย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:46:55


ความคิดเห็นที่ 1428 (1565971)

ผู้ว่าฯสระบุรีสั่งเตรียมรับมืออุทกภัย

25 สค. 2554 13:20 น.
 

นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี เผยถึงการเตรียมพร้อมสถานการณ์รับอุทกภัย ว่าขณะนี้อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ยังไม่ถูกผลกระทบ แม้จังหวัดใกล้เคียงได้รับผลกระทบแล้วก็ตาม แต่ จ.สระบุรี ได้เตรียมความพร้อม ขณะนี้ระบบการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบายน้ำไม่มากนัก อยู่ในระดับ ประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที แต่ถ้าวันใด ทางเขื่อนป่าสักฯ ระบายน้ำออก เกินกว่า 800 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที ก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดสระบุรี เตรียมการระบายน้ำ หากประสบปัญหา ก็จะระบายน้ำส่วนหนึ่งออกไปทางคลองระพีพัฒน์ ส่วนหนึ่งก็จะระบายน้ำออกไปทาง คลองชัยนาท-ป่าสัก อีกส่วนระบายเข้าแก้มลิง มี ที่ อ.บ้านหมอ,อ.แก่งคอย แก้มลิง ที่ อ.บ้านหมอ สามารถเก็บน้ำได้ กว่า 2,500,000 ลูกบาศก์เมตร เตรียมพร้อมสุขาเคลื่อนที่ ให้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ กำหนดจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลรับผิดชอบ แต่ละอำเภอ

"หากต้องมีการอพยพ จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องการอพยพ สถานที่อพยพ หลังจากอพยพแล้วก็มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการให้บริการ เครื่องอุปโภค-บริโภค รวมทั้งอาหารปรุงสุก หากเป็นภาวะฉุกเฉินพร้อมติดตั้งสัญญาณเตือนภัย ทั้งใน แม่น้ำป่าสัก ในพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการอาจจะเกิดโคลนถล่ม จัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบความพร้อมของเครื่องวัดอยู่เสมอ พร้อมให้ทุกอำเภอเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุอุทกภัยขึ้นมา ให้เตรียมพร้อมจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติหน้าที่ได้ทันเวลา ให้ทุกอำเภอจัดหน่วยช่วยเหลือเคลื่อนที่เร็ว โดยเฉพาะจุด ที่การช่วยเหลือเข้าไปถึงยากๆ ขอให้พี่น้องชาวสระบุรีสบายใจได้"นายถาวร กล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:47:34


ความคิดเห็นที่ 1429 (1565972)

ถึงวันนี้น้ำท่วมพิจิตรทำคนตายแล้ว 8 ศพ-นาข้าวจมบาดาลกว่า 1.2 แสนไร่

พิจิตร- น้ำท่วมเมืองชาละวันยังไม่คลี่คลาย พื้นที่ 9 อำเภอ 55 ตำบล 302 หมู่บ้าน ยังจมบาดาล ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 2 หมื่นครัวเรือน นาข้าวเสียหายเกินกว่า 1.2 แสนไร่ วัด-โรงเรียนอีกเพียบ เผยถึงวันนี้มีชาวบ้านสังเวยชีวิตแล้ว 8 ศพ

วันนี้ (25 ส.ค.54)นายประมวล ปิ่นมาศ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรทั้งลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน ที่ได้รับผลกระทบน้ำเหนือที่ไหลบ่ามาจาก จ.สุโขทัย และ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ส่งผลให้ อ.สามง่าม ทั้งอำเภอถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูงล้นตลิ่งเกือบ 2 เมตรแล้ว บ้านเรือนในเขตชุมชนเกือบ 1 พันหลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมจนถึงที่นอน การคมนาคมก็ต้องใช้รถอีโก้ง ซึ่งเป็นรถที่ใช้เพื่อการเกษตรรับส่งชาวบ้านในการสัญจรไปมา รวมถึงต้องใช้เรือพายเป็นพาหนะเท่านั้น

นอกจากนี้ ในแม่น้ำน่านก็ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ ทำให้น้ำที่จุดวัดน้ำ อ.เมือง จ.พิจิตร ระดับน้ำสูงถึง 11.33 เมตร ล้นตลิ่ง 1.22 เมตร เข้าท่วมในย่านชุมชนสถานีรถไฟของเขตเทศบาลเมืองพิจิตรย่าน ชุมชนเทวประสาท ชุมชนร่มเกล้ารวม 16 ชุมชนของเทศบาลเมืองตะพานหิน และย่านชุมชนเทศบาลบางมูลนาก

พิจิตรวันนี้ มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติรวมแล้ว 9 อำเภอ 55 ตำบล 302 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 21,662 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 126,383 ไร่ รวมถึงวัดและโรงเรียนอีกหลายสิบแห่งที่ยังไม่รายงานเข้ามาในขณะนี้

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าตลอด1เดือนที่ผ่านมา ที่เป็นช่วงเกิดอุทกภัยน้ำท่วมมีชาวบ้านที่ออกไปพายเรือหาปลารวมถึงประสบอุบัติเหตุทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมถึงผู้สูงอายุได้เสียชีวิตตกน้ำตายแล้วรวมทั้งสิ้น 8 ราย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:48:22


ความคิดเห็นที่ 1430 (1565973)

ปภ.เตือนหลายจ.ริมโขงเฝ้าระวังน้ำล้น ชี้ 25 ส.ค.น้ำขึ้นสูงสุด

ปภ.แจ้งเตือน จ.พื้นที่ริมโขงได้แก่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อํานาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และศรีสะเกษ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ระบุ วันนี้ระดับน้ำสูงสุด ขณะที่สถานการณ์


25/8/2011. 11:08 น.
น้ำทะลักท่วมพังงาแล้วถนนบางสายรถผ่านไม่ได้

พิษฝนตกหนักทำให้น้ำท่วม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีชาวบ้านกว่า 30 คนติดค้างในหมู่บ้าน ถนนเพชรเกษมสายกะปง-ตะกั่วป่า มีน้ำป่าไหลผ่าน เจ้าหน้าที่เร่งช่วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:48:53


ความคิดเห็นที่ 1431 (1565974)

ฝนถล่มภูเก็ตทำดินถล่มทับบ้านเรือนและพื้นถนน 
  


25 สค. 2554 14:05 น.

ความคืบหน้าสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่อง ที่ จ. ภูเก็ต วันที่ 25 ส.ค.ได้เกิดเหตุบ้านพักคนงาน โรงงานไอส์แลนด์ ที ลอนดรี้ ซึ่งเป็นโรงงานรับจ้างซักรีด ด้านหลังติดกับเนินเขากะทู้ ด้านบนเนินเป็นสวนยางพารา และมีบ้านไม้สำหรับที่พักคนงานตั้งอยู่ 1 หลัง ส่วนด้านข้างอาคารโรงงาน พบหลังคาและโครงเหล็กของบ้านพักพนักงานโรงงานซักรีดถล่มลงมาทับรถยนต์ 2 คันที่จอดอยู่นอกจากนี้ยังทำให้หลังคาโรงงานบางส่วนเสียหายด้วย แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีคนในโรงงานอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นายนราชัย ชุมศรี กรรมการผู้จัดการ ไอแลนด์ ลอนดรี้ เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่บนเนิน ซึ่งเป็นที่ดินของโรงงาน แต่ยังไม่มีพนักงานเข้าอยู่อาศัยแต่อย่างใด เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักจนมาถึงช่วงเช้า คาดว่า ดินอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว จึงทำให้โรงจักรรีดยางของคนงานพม่าที่รับจ้างกรีดยางพังลงมา และทำให้บ้านพักที่ตั้งอยู่ด้านล่างถัดลงมาถล่มลงมาด้วย โดยมูลค่าความเสียหายของบ้านประมาณ 2 ล้านบาท
ขณะที่นายชัยยะ สุทธิกุล รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองกะทู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกดังกล่าว ทั้งดินสไลด์ลงมายังถนนบริเวณทางขึ้นเขาป่าตองฝั่งเทศบาลเมืองกะทู้ ดินสไลด์ลงพื้นถนนบริเวณด้านหน้าสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม บ้านเรือนราษฎรในซอยสี่กอ จำนวน 2 หลังได้รับความเสียหายจากดินภูเขาสไลด์ลงมาและน้ำไหลเข้าบ้านเรือนราษฎร บริเวณซอยตาเลื่อน มีน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของเทศบาลฯ ก็ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเข้าไปช่วยเหลือในการขุดตักดินออกจากบนพื้นถนนและบ้านเรือนของราษฎร แต่ยอมรับว่าการทำงานก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากยังมีฝนตกลงมาตลอดเวลา นายชัยยะกล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:49:35


ความคิดเห็นที่ 1432 (1565975)

เทศบาลฯ ป่าตองเร่งระบายน้ำท่วม-พบดินไหลตัวทางขึ้นเขา

นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ป่าตองจากฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนว่า ล่าสุดถนนหลายสายของป่าตองยังมีสภาพน้ำท่วมขังอยู่ การสัญจรไม่สะดวก อีกทั้งยังมีฝนตกต่อเนื่องและน้ำทะเลหนุน ทำให้การระบายยากและเป็นไปอย่างล่าช้า ยังเกิดปัญหาดินไหลตัวบริเวณทางขึ้นเขาถนน 50 ปี  ซึ่งเทศบาลฯ เร่งขุดลอกคลองเปิดทางระบายน้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองป่าตองครั้งนี้นับว่าหนักสุดในรอบ 8 ปี หลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์ซัดชายฝั่งอันดามัน เมื่อปลายปี 2547 เนื่องจากหลายสาเหตุมีทั้งเรื่องของธรรมชาติที่มีน้ำทะเลหนุนสูงแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์  โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ เมื่อฝนตกหนักประกอบกับน้ำทะเลไหลหนุนจึงทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำออกไปให้เร็วที่สุด.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:51:54


ความคิดเห็นที่ 1433 (1565976)

ญี่ปุ่นตีค่ารังสีซีเซียมรั่วไหลในฟูกูชิมะเท่าระเบิดฮิโรชิมา 168 ลูก

เอเอฟพี - รายงานข่าวระบุ รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินปริมาณรังสีซีเซียม -137 ที่รั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ เทียบเท่าได้กับระเบิดที่ถล่มเมืองฮิโรชิมา 168 ลูก แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าทั้งสองกรณีมีความแตกต่างกัน และยังต้องมีการเปรียบเทียบเพิ่มเติม

หนังสือพิมพ์โตเกียวชิมบุนรายงานโดยอ้างการคำนวณของรัฐบาลว่า ปริมาณซีเซียม -137 ที่รั่วไหลออกมาจากเตาปฏิกรณ์ปรมาณู 3 เครื่อง ซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยแผ่นดินไหว และสึนามิเมื่อ 11 มีนาคมนั้น มีประมาณ 15,000 เทราเบกเคอเรล

ตัวเลขดังกล่าวถูกนำไปเทียบเคียงกับปริมาณรังสีซีเซียม-137 จำนวน 89 เทราเบกเคอเรล ที่ถูกปล่อยมาจากระเบิดยูเรเนียม “ลิตเติลบอย” ซึ่งเครื่องบินของสหรัฐฯ ทิ้งลงถล่มเมืองฮิโรชิมาในช่วงใกล้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โตเกียวชิมบุนเสริม

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังระบุว่า การประเมินดังกล่าวถูกนำเสนอต่อคณะกรรมการสภาล่างของญี่ปุ่น ด้านการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของรัฐบาลแย้งว่า การเปรียบเทียบเช่นนั้นไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากระเบิดที่ถล่มเมืองฮิโรชิมานั้นส่งคลื่นความร้อนรุนแรง และยังมีฝุ่นกัมมันตรังสี เป็นอันตรายต่อเหยื่อส่วนใหญ่

ขณะที่ การระเบิดของนิวเคลียร์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นที่ฟูกูชิมะ ซึ่งกัมมันตภาพรังสีค่อยๆ ซึมออกมาจากแท่งเชื้อเพลิงภายในเตาปฏิกรณ์ ที่ได้รับความเสียหายจากการระเบิดไฮโดรเจน

“ระเบิดปรมาณูถูกออกแบบมาเพื่อการสังหารหมู่ และทำลายล้าง โดยก่อคลื่นระเบิด และรังสีความร้อน ทั้งยังปล่อยรังสีนิวตรอน” โตเกียวชิมบุนรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาล และว่า “มันไม่สมเหตุสมผลที่จะทำการเปรียบเทียบง่ายๆ โดยอาศัยปริมาณไอโซโทปที่ถูกปล่อยออกมาเท่านั้น”

ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถออกมายืนยันรายงานข่าวนี้ได้

แรงระเบิดและฝุ่นกัมมันตรังสีจากระเบิดที่ถล่มเมืองฮิโรชิมานั้น คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 140,000 ราย ทั้งที่เสียชีวิตในทันที หรือหลายวัน และหลายสัปดาห์ต่อมา

ขณะที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ในรัศมี 20 กิโลเมตรโดยรอบถูกประกาศให้เป็นเขตอพยพ และห้ามเข้าไป หลังเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในโลก นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เชอร์โนบิลเมื่อ 25 ปีก่อน

ทั้งนี้ จากการสำรวจของรัฐบาลเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า หลายพื้นที่ภายในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบฟูกูชิมะยังมีการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีมากกว่า 500 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี หรือสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 25 เท่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:55:22


ความคิดเห็นที่ 1434 (1565977)

ชัยภูมิ -  น้ำชีทะลักเขื่อนลำปะทาวล้นหลากท่วมเมืองพญาแล

25 สค. 2554 11:13 น.

เกิดเหตุฝนถล่มหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่รุ่งเช้าไม่ถึง 3 ชั่วโมง วัดได้สูงเป็นประวัติการณ์กว่า 128 มิลลิเมตร เริ่มทำให้เกิดน้ำหลากเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ทั้ง 25 ชุมชน สูงกว่า 50-80 ซม.และยังมีฝนตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำท่วมเมืองยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านนายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ต้องสั่งเร่งติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำออกนอกเมืองเป็นการด่วนแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น พร้อมประกาศเตือนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านเข้าออกกลางใจเมืองบริเวณรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาได้แล้ว และในส่วนของสถานที่ราชการทั้งศาลากลางจังหวัด และสถานีวิทยุ สวม.ชัยภูมิ และสถานศึกษาในตัวเมืองล่าสุดต้องประกาศปิดรร.ด่วนชั่วคราวไปก่อนรวม 7 แห่ง ในช่วงนี้ประกอบด้วย โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล,มารีอุปถัมภ์,สตรีชัยภูมิ,สุนทรวัฒนา,เทศบาล 4,อนุบาลเมืองชัยภูมิ และโรงเรียนสาคริสวิทยา
ด้านต้นกำเนิดแม่น้ำชี อ.หนองบัวแดง ยังเกิดน้ำป่าทะลักสูงล้นตลิ่งในลำชีไหลเข้าผ่านอ.หนองบัวระเหว,บ้านเขว้า,จัตุรัส,เนินสง่า และเขตอ.เมืองชัยภูมิ เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและนาข้าวหลายหมื่นไร่ สูงกว่า 80 ซม.และยังมีปริมาณน้ำสูงขึ้นต่อเนื่องเนื่องจากฝนยังตกหนักอยู่ไม่หยุดบนเทือกเขาภูเขาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในโซนเศรษฐกิจเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ยังต้องเตรียมรับมือทั้งปริมาณลำน้ำชีที่ล้นตลิ่งทะลักเข้ามาสมทบในตัวเมืองเพิ่มเติมอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกเช่นกัน
รวมไปถึงจุดรับน้ำบนเทือกเข้าภูแลนคา เขตรอยต่อ อ.เมืองชัยภูมิและอ.แก้งคร้อ บนสันเขื่อนลำปะทาว ทั้งตอนบน ที่มีความจุกว่า 44 ล้าน ลบ.ม. และตอนล่าง ความจุกว่า 16 ล้าน ลบ.ม. ก็มีน้ำป่าหลากเข้าตัวเขื่อนจนมีปริมาณน้ำล้นสันเขื่อนสูงกว่า 22 ซม.แล้ว และต้องเร่งระบายน้ำผ่านเข้าตัวเมืองมาสมทบอีกด้านด้วยเช่นกัน ซึ่งทางเขื่อนสำปะทาว ฝากแจ้งเตือนขอให้ประชาชนในพื้นที่เขตอ.เมืองชัยภูมิ ต้องคอยติดตามการแจ้งเตือนจากทางจังหวัดอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ ถ้าหากมีปริมาณน้ำล้นสันเขื่อนลำปะทาว เกิดกว่า 50 ซม. ขอให้รีบอพยพสิ่งของมีค่า และประชาชนให้รีบหลบขึ้นไปอยู่ในที่สูงไว้ก่อนได้ทันทีเพื่อความปลอดภัย ซึ่งระดับน้ำป่าค่อนข้างหลากลงมาอย่างรุนแรงได้ทุกขณะนี้ในช่วงนี้ ซึ่งขณะนี้ยังมีฝนตกหนักในเกือบทุกพื้นที่ทั้ง 16 อำเภอ ของจ.ชัยภูมิ ทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมิยังคงจะมีจำนวนมากและท่วมเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:57:43


ความคิดเห็นที่ 1435 (1565978)

กรมทรัพยากรธรณีเตือนปชช.เฝ้าระวังดินถล่มใน 4 จว.ใต้ ช่วง1-2 วันนี้
 

วันที่25ส.ค. นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศประกาศกรมทรัพยากรธรณีฉบับที่ 15/2554

ให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มโดยขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่ม ของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไป ในพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา กระบี่ และภูเก็ต เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ในอ.สุขสำราญ อ.กะเปอร์ อ.เมืองระนอง จังหวัดระนอง อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง อ.ท้ายเหมือง และอ.คุระบุรี จังหวัดพังงา
เนื่องจากให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง อีกทั้งในบางพื้นที่สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตร รวมถึงเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่แล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:58:33


ความคิดเห็นที่ 1436 (1565979)

พบรอยแยกที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน หลังดินไหว

25 สค. 2554 11:25 น.





 

เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหายของสถานที่สำคัญมีเสียงที่สุดในกรุงวอชิงตัน ดีซี หลังเกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.8 ริคเตอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำนักงานอุทยานห่งชาติ ระบุว่า ทีมวิศวกรโครงสร้าง ได้พบรอยแยกเพิ่มขึ้นที่ส่วนบนสุดของอนุสาวรีย์วอชิงตัน และวิหารแห่งชาติเสียหายจากการที่มีอิฐร่วงลงมากองกับพื้น

การตรวจสอบความเสียหายครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกที่รุนแรงที่สุดในรอบ 67 ปี แต่คณะวิศวกรระบุว่า ความเสียหายเหล่านี้จัดว่าเล็กน้อยเท่านั้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า สิ่งปลูกสร้างในเมืองหลวง ทั้งในเรื่องของสถาปัตยกรรมและโครงสร้างที่ไม่เคยชินกับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวมาก่อน ได้มีความพร้อมที่จะรับมือกับแผ่นดินไหวที่รุนแรงหรือไม่ ส่วนการซ่อมแซมความเสียหาย คาดว่าจะต้องใช้งบหลายล้านดอลล่าร์ และประกันไม่ได้ครอบคลุม

แผ่นดินไหวล่าสุด ที่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ตั้งแต่รัฐจอร์เจีย ไปจนถึประเทศแคนาดา ได้ส่งให้ต้องส่งทีมวิศวกรเข้าไปสำรวจโครงสร้างของสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมทั้งสะพานและโรงงานนิวเคลียร์ ส่วนตัวเลขความเสียหาย คาดว่าจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะทราบ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันแต่อย่างใด

ย่านธุรกิจทั้งหมดในเวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว พากันปิดทำการโรงเรียนปิดการเรียนการสอนนาน 2 สัปดาห์ เพื่อให้วิศวกรเข้าไปตรวจสอบรอยร้าวของอาคารหลายแห่ง อนุสาวรีย์วอชิงตัน ซึ่งมีความสูง 555 ฟุต ได้เกิดรอยแยกบนส่วนยอดยาว 10 เซ็นติเมตร และพบความเสียหายนี้ ในระหว่างการใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้จากบนพื้นดิน ทำให้อนุสาวรีย์ที่ได้ชื่อว่า เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในกรุงวอชิงตัน ได้ปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งที่ผ่านมา ภัยธรรมชาติไม่เคยทำให้อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเหตุแผ่นดินไหวที่รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อปี 2440 และที่นิวยอร์ค เมื่อปี 2487

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 03:59:46


ความคิดเห็นที่ 1437 (1565980)

ชาวร้อยเอ็ดจับหนูนาขายประทังชีพ หลังถูกน้ำท่วมขังนายาวนาน

จำนวนคนอ่านล่าสุด 11 คน
วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:21 น.  ข่าวสดออนไลน์


ชาวร้อยเอ็ดจับหนูนาขายประทังชีพ หลังถูกน้ำท่วมขังนายาวนาน

 วันที่ 25 ส.ค. จากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ซ้ำซากในเขตตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ส่งผลทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากอาชีพเสริมอย่างนายมนตรี แสนสุข อายุ 46 ปี และนางเทวี คำภักดี อายุ 42 ปี ภรรยา ชาวบ้านตำบลนางาม ได้ออกเดินทางไปตามถนนในหมู่บ้าน นอกหมู่บ้าน และท้องนาที่กำลังถูกน้ำท่วมขัง เพื่อออกหาหนูนา เพื่อนำไปเป็นอาหารรับประทานส่วนที่เหลือก็จะนำออกขายหลังจากที่เกิดน้ำท่วมและไม่สามารถออกไปทำนาได้
 
 นายมนตรีบอกว่า วันหนึ่งจะได้หนูประมาณ 2-3 กิโลกรัม จะนำไปขายที่ตลาดในราคากิโลกรัมละ 100-120 บาท ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการดำรงชีพ โดยเฉพาะช่วงนี้หนูสามารถหาง่ายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหนูจะหนีน้ำท่วมมาอยู่ริมถนน หรือ บนที่สูงหรือแม้กระทั่งบนต้นไม้
 
 ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยังที่อำเภอเสลภูมิ ก็ยังมีระดับน้ำสูงอยู่ เนื่องจากพื้นที่อำเภอเสลภูมิเป็นที่ลุ่ม และเป็นจุดพบกันระหว่างแม่น้ำชีกับแม่น้ำยัง ทำให้ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน นอกจากนี้ยังมีหลายตำบลที่ถูกน้ำท่วมอย่างเช่น ตำบลขวาว ตำบลบึงเกลือ ตำบลวังหลวง น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:00:29


ความคิดเห็นที่ 1438 (1565981)

...

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:01:28


ความคิดเห็นที่ 1439 (1565982)

สถานการณ์น้ำป่าหลากท่วมหลายจังหวัด

 

หลายพื้นที่ฝนตกหนักตลอดคืนวานนี้ ทำให้มีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างฉับพลัน ชาวบ้านขนของหนีน้ำไม่ทัน หลายคนติดอยู่ในบ้าน
 
ที่จังหวัดพังงา เกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเย็นขวานขนถึงเวลา 06.00 น.วันนี้ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในบ้านทุ่งขมิ้นกลาง ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวอาศัยอยู่ในบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ต้องติดอยู่ในบ้านไม่สามารถออกมาได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลคึกคัก กำลังเร่งให้การช่วยเหลือออกมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงมีปริมาณ สูงประมาณ 60 เซนติเมตร

เช่นเดียวกับที่จังหวัดชัยภูมิ ฝนตกหนักทั้งคืน ส่งผลให้ช่วงเช้าตรู่เกิดน้ำท่วมเทศบาลชัยภูมิสูงกว่า 60 เซนติเมตร ชาวบ้านขนข้าวของไม่ทันหลังจากที่เมื่อคืนวานฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ทำให้ถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมฉับพลัน การจราจรติดขัด เด็กนักเรียนต้องลุยน้ำเดินทางเข้าโรงเรียน บางคนเสื้อผ้าตำราเปียกต้องเดินทางกลับบ้าน นอกจากนี้ระดับน้ำยังเพิ่มระดับความสูงขึ้นอย่างช้าๆ ชาวบ้านต่างหวั่นวิตกเกรงจะเกิดท่วมใหญ่ซ้ำรอยปีที่ผ่านมาที่เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทศบาลชัยภูมิจะแก้ไขด้วยการขุดลอกคลองลำเสียว และวางท่อขนาดใหญ่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างมหาศาลจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมเทศบาลเมืองชัยภูมิได้ เนื่องจากมีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ เป็นจุดรองรับน้ำจากลำน้ำถึง 3 สายด้วยกันคือ ทางทิศเหนือรับน้ำจากลำน้ำลำประทาว ทิศใต้รับน้ำจากลำน้ำชี และทิศตะวันตก รับน้ำจากลำน้ำห้วยยางบ่า แต่ส่วนใหญ่เส้นทางน้ำได้ถูกบุกรุกด้วยการถมดินปิดกั้นลำน้ำต่างๆจนน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้

จากฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และตกหนักในจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยังสูงขึ้นวันละ 30 ซม. ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านพันขาง หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 15 ตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ เข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านเสียหายสิ้นเชิงกว่า 4,000 ไร่ ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ถนนสายบ้านพันขาง-บ้านโพธิ์ชัน ระยะทาง 2 กิโลเมตร น้ำไหลบ่าถนนเป็นช่วงๆความยาวช่วงละ 100 เมตร ระดับน้ำสูง 30-50 ซ.ม. กว่า 5 แห่ง ยวดยานพาหนะที่สัญจรผ่านไปมาต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวและถนนลื่น ส่วนภายในหมู่บ้านเกิดน้ำท่วมบ้านแล้วเกือบ 10 หลังคาเรือน ถนนสายต่างๆในหมู่บ้านมีน้ำท่วมขัง 50-80 ซ.ม.ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกหมู่บ้าน แต่ยังสามารถใช้ยวดยานพาหนะได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:07:21


ความคิดเห็นที่ 1440 (1565983)

สุโขทัยเจอน้ำท่วมเพิ่มอีก-ย่านเศรษฐกิจจม-นร.ต้องลุยน้ำเข้าเรียน

สุโขทัย - น้ำท่วมสุโขทัย หวนกลับสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง หลังน้ำยมเพิ่มระดับ จนย่านเศรษฐกิจกลางเมืองจมบาดาล หน้าโรงเรียน-รพ.น้ำสูง 50-80 ซม. ล่าสุด ร.ร.สุโขทัยวิทยาคม ต้องสั่งปิดชั่วคราว นัดเปิดจันทร์หน้า (29 ส.ค.) ขณะที่อีกหลายโรงเรียนปิดสอนไม่ได้แล้ว ต้องให้นักเรียนลุยน้ำเข้าเรียนกันเป็นแถว
       
       วันนี้ (25 ส.ค.54) สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ตัวเมืองสุโขทัย กลับเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง หลังจากมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงเกินจุดวิกฤต ในทุกจุดตรวจวัดระดับน้ำ และได้เอ่อล้นเข้าท่วมอาคารบ้านเรือน ร้านค้า โชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ โรงแรม รีสอร์ท ปั้มน้ำมัน และถนนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ทางฝั่งตะวันตก ส่งผลให้ประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจ และผู้ใช้รถใช้ถนน ได้รับความเดือดร้อนซ้ำอีกครั้ง
       ส่วนที่ถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-เมืองเก่า ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวหลัก ไปยังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เริ่มตั้งแต่บริเวณสี่แยกคลองโพธิ์ ผ่านมาหน้าโรงพยาบาลรวมแพทย์สุโขทัย วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย โรงพยาบาลสุโขทัย วิทยาลัยนาฎศิลปสุโขทัย โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม ไปจนถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ถูกน้ำท่วมสูง 50-80 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรได้ลำบาก ล่าสุดทางโรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จึงได้มีการสั่งหยุดเรียนชั่วคราว และจะเปิดอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 29 ส.ค. 54
       
       ส่วนทางด้านวิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย วิทยาลัยนาฎศิลปสุโขทัย และวิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ไม่สามารถหยุดการเรียนการสอนได้อีกแล้ว เพราะนักศึกษาจะมีเวลาเรียนไม่พอ ทำให้นักศึกษาจำเป็นต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ รวมทั้งเดินลุยน้ำไปเรียนทุกวัน
       อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการจัดรถรับ-ส่งฟรี แก่ผู้สัญจรในเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมดังกล่าวแล้ว ขณะที่หน่วยกู้ภัยเมตตาสุโขทัย ก็ได้มีการตั้งเต็นท์พร้อมอุปกรณ์ อยู่กลางสี่แยกคลองโพธิ์ คอยให้บริการตรวจเช็ครถฟรีอีกด้วย หลังจากมีรถจำนวนมาก ที่ขับขี่ลุยน้ำมาแล้วเครื่องยนต์เกิดขัดข้อง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ จะมีมาให้ช่วยเหลือจำนวนมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:09:44


ความคิดเห็นที่ 1441 (1565984)

ผงะ! เชื้อตัวใหม่ “มือ เท้า ปาก” แรงถึงตาย สธ.เตรียมตั้งวอร์รูมรับมือหวั่นระบาด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 สิงหาคม 2554 09:44 น.




ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

       กรมควบคุมโรค เผย ตรวจพบโรคมือ เท้า ปาก เจอเชื้อตัวใหม่ เอนเทอโรไวรัส 71 ไม่เคยพบในไทย รุนแรงถึงตาย เผยตายแล้ว 5 ราย ทั่วประเทศป่วยแล้วกว่า 8 พันราย กทม.มากสุด 1,500 ราย สธ.เตรียมตั้งวอร์รูมรับมือ หวั่นระบาด ด้านกรมควบคุมโรคสั่งปิดศูนย์เด็กเล็กทันที หากพบเด็กป่วย
       
       วานนี้ (24 ส.ค.) นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก อย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้มีการตรวจพบผู้ป่วยเกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ที่ไม่เคยตรวจพบในประเทศไทยมาก่อนแต่มีรายงานการระบาดในต่างประเทศ ซึ่งมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ทั้งนี้ ส่วนมากในประเทศไทยผู้ป่วยมักเกิดจากเชื้อคอกซากี ซึ่งผู้ที่ได้รับเชื้อ และมีอาการจะไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
       
       นพ.มานิต กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในทุกจังหวัดดำเนินการมาตรการป้องกัน และเฝ้าระวังที่เข้มข้นมากขึ้นเป็นพิเศษ โดยออกเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังโรค หากพบเด็กเล็กป่วยและมีอาการน่าสงสัยให้รีบนำไปพบแพทย์ทันที อีกทั้งควบคุมสถานเลี้ยงเด็ก หรือสถานที่ที่มีเด็กเล็กมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ถ้าพบเด็กมีอาการป่วยให้แยกเด็กที่ป่วยออกและปิดสถานรับเลี้ยงเด็กหรือศูนย์เด็กเล็กเป็นการชั่วคราวทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการควบคุมโรค
       
       ด้านนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตจากโรคมือ เท้า ปากแล้ว 5 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 หรือ เชื้อคอกซากี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานข้อมูลเฝ้าระวังโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 ส.ค.2554 พบผู้ป่วย 8,405 ราย จาก 76 จังหวัด คิดเป็นอัตราป่วย 13.23 ต่อแสนประชากร กรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด จำนวน 1,513 ราย ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด 5 อันดับ แรกคือ สมุทรสงคราม ระยอง เชียงราย พัทลุง และ ปราจีนบุรี ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคกลาง 19.20 ต่อแสนประชากร พบมากในกลุ่มอายุ 0-27 วัน (1,019 ราย), 1 ปี (861 ราย), 2 ปี (666 ราย), ภาคเหนือ 15.98 ต่อแสนประชากร พบมากในกลุ่มอายุ 1 ปี (600 ราย), 2 ปี (553 ราย), 3 ปี (326 ราย), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8.44 ต่อแสนประชากร พบมากในกลุ่มอายุ 1 ปี (568 ราย), 2 ปี (524 ราย), 3 ปี (331 ราย), ภาคใต้ 6.71 ต่อแสน พบมากในกลุ่มอายุ 1 ปี (195 ราย), 2 ปี (152 ราย), 3 ปี (108 ราย),
       
       รายงานข่าวระบุว่า ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ คาดว่า กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมือ เท้า ปาก หรือวอร์รูมในระดับกระทรวง เพื่อดึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการเฝ้าระวังและควบคุมโรค เช่นเดียวกับที่เคยดำเนินการเมื่อเกิดโรคระบาดต่างๆ เช่น ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
       
       สำหรับโรคมือ เท้า ปาก ส่วนใหญ่มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หลังติดเชื้อ 3-5 วัน จะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหารร่วมด้วย พบจุดนูนแดงๆ หรือมีน้ำใสอยู่ข้างใต้ขึ้นตามเยื่อบุปาก ลิ้น และ เหงือก ต่อมาจะแตกกลายเป็นแผลตื้นๆ บางรายจะมีผื่นขึ้นที่มือและเท้า หรือแก้มก้น และกลายเป็นตุ่มน้ำเล็กๆตามมา ส่วนใหญ่มักหายได้เอง ในรายที่เป็นรุนแรง ซึ่งพบเป็นส่วนน้อย อาจมีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนรุนแรง ซึม ไม่ค่อยรู้ตัว ชัก แขนขาอ่อนแรง หรือหายใจหอบเหนื่อย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:10:49


ความคิดเห็นที่ 1442 (1565985)

กรมควบคุมโรคสั่งเฝ้าระวังไข้เลือดออกใกล้ชิด ป่วยแล้ว 4 หมื่น ตาย 28 ราย

.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง เพราะในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อากาศร้อนสลับฝนตก ส่วนพื้นที่น้ำท่วม เมื่อน้ำเริ่มลด หลังจากสถานการณ์น้ำท่วม เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงได้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1มกราคม - 17 สิงหาคม 2554 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม จำนวน 40,509 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 63.77 ต่อประชากรแสนคน และสัปดาห์ที่แล้วเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ใน จ.พิจิตร รวมผู้เสียชีวิต มีจำนวน 28 ราย คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 0.04 ต่อประชากรแสนคน เมื่อแยกเป็นราย ภาคที่มีการระบาดมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง จำนวน 20,086 ราย รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 8,823 ราย ภาคเหนือ จำนวน 8,211 ราย และภาคใต้ จำนวน 3,389 ราย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:11:38


ความคิดเห็นที่ 1443 (1565986)

น้ำน่านที่ไหลผ่านพิจิตรเกินจุดวิกฤติ กว่า 4,000 ครัวเรือน ขาดอาหารและยา

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.เมือง อ.ตะพานหิน และบางมูลนาก จ.พิจิตร ชาวบ้านต้องประสบภาวะน้ำท่วมขัง หลังน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนที่มีปริมาณน้ำเกือบเต็มเขื่อนพร่องน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ขณะนี้ระดับน้ำใน 3 อำเภอเกินจุดวิกฤตกว่า 1 เมตร ชาวบ้านกว่า 4,000 ครัวเรือน ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคและยารักษาโรคแล้ว และสถานการณ์น้ำท่วมคาดว่าจะทวีความรุนแรงขยายวงกว้างต่อไปอีก อีกทั้งน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์อาจไหลหลากเข้ามาสมทบอีก หากฝนตกลงมาซ้ำ ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรได้นำสิ่งของเครื่องใช้ น้ำ อาหาร และเวชภัณฑ์จำนวน 500 ชุด มอบแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:12:10


ความคิดเห็นที่ 1444 (1565987)

รายงานแผ่นดินไหว 7.0 ที่เปรู

วันที่ 25/08/2554 11:33





ศูนย์กลางอยู่ในป่าดงดิบชายแดนเปรู-บราซิล วัดความรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ เบื้องต้นยังไม่ได้รับความเสียหาย แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงบราซิล

วันนี้ (25 ส.ค.) สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวบริเวณพรมแดนประเทศเปรู-บราซิล ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. เวลา 00.46 น. เกิดแผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ พรมแดนประเทศเปรู-บราซิล หรือที่ละติจูด 7.53 องศาใต้ ลองจิจูด 74.38 องศาตะวันตก ความลึก 105 กิโลเมตร ขนาด 7.0 ตามมาตราริกเตอร์ ในเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย

สำหรับศูนย์กลางแผ่นดินไหว มีรายงานว่า อยู่ในป่าทางเหนือของเมืองปูเคลปาร์ ห่างจากกรุงลิม่า เมืองหลวงเปรู ไปราว 600 ก.ม. โดยทางการรายงานว่า อาคารบ้านเมืองรับแรงสั่นสะเทือน สายโทรศัพท์ และเสาไฟฟ้าล้มเสียหาย โดยสำนักธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา รายงานเบื้องต้น ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวลึกลงไปประมาณ 50 ไมล์ หรือ 80 กิโลเมตร

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า โฆษกตำรวจ บราซิล เปิดเผยว่า แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้รับรู้ได้ถึงเมือง ครุยเซอร์โรลเดอซู ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 220 ก.ม.

ทั้งนี้ เปรู เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในวันที่ 15 ส.ค. ปี 2007 ขนาด 7.9 ริกเตอร์ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตถึง 596
คน.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:13:11


ความคิดเห็นที่ 1445 (1565988)

น้ำทะลักท่วมพังงาแล้วถนนบางสายรถผ่านไม่ได้

วันที่ 25/08/2554 11:08





พิษฝนตกหนักทำให้น้ำท่วม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีชาวบ้านกว่า 30 คนติดค้างในหมู่บ้าน ถนนเพชรเกษมสายกะปง-ตะกั่วป่า มีน้ำป่าไหลผ่าน เจ้าหน้าที่เร่งช่วย...

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 25 ส.ค. มีรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่หมู่ 6 และ 7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่สูงขึ้นและมีน้ำป่าตั้งแต่บริเวณหน้าเรือ ต.813 เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่ติดถนนและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ทำให้รถเล็กผ่านไม่ได้ ส่วนบริเวณบ้านทุ่งขมิ้นมีประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ติดค้างในหมู่บ้านประมาณ 30–40 คน

ขณะเดียวกันยังพบว่า มีดินสไลด์ปิดถนนสายบางไทร-ปากวีป ช่วงบ้านดอกแดง หมู่ 5 ต.ตำตัว อ.ตะกั่วป่า ทำให้รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ ส่วนบริเวณถนนเพชรเกษมสายกะปง-ตะกั่วป่า บ้านปลายวา หมู่ 2 ต.เหมาะ อ.กะปง มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประมาณ 10 ครัวเรือน ซึ่งมีบ้านได้รับความเสียหายแล้ว 2 หลัง ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร และต้องแจ้งให้รถยนต์ชนิดต่างๆ เลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายจุดที่น้ำเริ่มท่วมเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งให้การช่วยเหลือ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:15:28


ความคิดเห็นที่ 1446 (1565989)

ตะลึง!เครื่องเดาเหตุร้าย



การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของเหตุด่วนเหตุร้าย ตั้งแต่เดือนก.ค. เป็นต้นมา ตำรวจเมืองซานตาครูส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ได้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พยากรณ์ว่าจะเกิดอาชญากรรมขึ้นที่ไหน นับเป็นความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในวงการตำรวจโลก

โปรแกรมดังกล่าวออกแบบโดยนักคณิตศาสตร์ นักมานุษย วิทยาและนักอาชญาวิทยาใช้แบบจำลองลักษณะเดียวกับที่ทำนายแผ่นดินไหว โดยวิเคราะห์จากข้อ มูลอาชญากรรมในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา แต่ละวันโปรแกรมจะแจ้งสถานที่เสี่ยงเกิดเหตุ 10 แห่ง พร้อมทั้งช่วงเวลาที่อาจเกิดเหตุ

ตัวอย่างผลงานจากโปรแกรมดังกล่าว เช่น โปรแกรมทำนายว่าลานจอดรถแห่งหนึ่งเสี่ยงต่อการเกิดคดีขโมยรถ เมื่อตำรวจไปถึง พบผู้หญิง 2 คนท่าทางมีพิรุธจึงขอตรวจค้นและพบว่าคนหนึ่งค้างใบสั่ง ส่วนอีกคนมียาเสพติด ถึงแม้จะไม่ตรงกับสิ่งที่โปรแกรมทำนายแต่ก็ทำให้ตำรวจได้ตัวคนทำผิดกฎหมายมาลงโทษ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:15:57


ความคิดเห็นที่ 1447 (1565990)

โรคอหิวาต์ระบาดเตือนกินของสุก

วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7574 ข่าวสดรายวัน

ระนอง - น.พ.ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สสจ.ระนอง เผยว่า ขณะนี้การระบาดของอหิวาตกโรค ล่าสุดได้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 7 รายแล้ว โดยเป็นชาวพม่า 6 ราย และคนไทย 1 ราย ซึ่งพบว่าผู้ป่วยมีอาชีพรับจ้างในแพปลา โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ เรือประมง ซึ่งมีสภาพสุขลักษณะที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับประทานอาหารทะเลปรุงไม่สุก เช่น หอย รวมถึงอาหารค้างมื้อ ใช้มือหยิบจับอาหารเข้าปากโดยไม่ล้างมือให้สะอาด ทำให้เชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะเชื้ออหิวาตกโรคที่มักพบในสัตว์ทะเลเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกของอหิวาตกโรค เมื่อมีอาการท้องเสียจึงถ่ายอุจจาระลงในทะเลทำให้เชื้อแพร่กระจายไปทั่ว

ดังนั้น ประชาชนต้องระมัดระวังการรับประทานอาหารทุกชนิด ต้องมั่นใจว่าอาหารนั้นปรุงสุกและสะอาดเท่านั้นจึงจะบริโภค ส่วนน้ำดื่มควรต้มทุกครั้ง รวมถึงบริเวณที่พักอาศัยของผู้ป่วย มีสภาพแออัด ใช้ห้องน้ำรวมกัน อาจส่งผลให้มีการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในพื้นที่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 04:16:52


ความคิดเห็นที่ 1448 (1566013)

ขอเสริมวิธีการป้องกันคะ

การป้องกัน

คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป ควรปฏิบัติตน เหมือนกับการป้องกันโรคติดต่อทางอาหารและน้ำอื่นๆ คือ สุก ร้อน สะอาด “กินร้อน  ช้อนกลาง  ล้างมือ”
 
สุก
ปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึง ห้ามรับประทานอาหารดิบ หรือ ดิบๆ สุกๆ เนื่องจาก เชื้อจะถูกทำลายได้โดยความร้อนที่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์
 
ร้อน
·         ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกทันที หรือสุกใหม่ๆ
·         เก็บอาหารที่ปรุงสุกแล้วอย่างระมัดระวัง เช่น ข้าวกล่อง อาหารถุง
·         กรณีจะนำมารับประทาน ต้องนำมาอุ่นให้ร้อนอย่างทั่วถึงก่อนรับประทานอีก
·         สำหรับอาหารทารก ต้องนำมารับประทานทันทีหลังปรุงสุก และไม่ควรเก็บไว้ค้างมื้อ
 
สะอาด
1.    เลือกอาหารที่มีขบวนการผลิตที่ปลอดภัย
2.    ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนและหลังรับประทานอาหาร และภายหลังการเข้าส้วม
3.    อย่าใช้มือสัมผัสอาหารที่ปรุงสุกแล้วโดยตรง ควรใช้ช้อนกลาง
4.    รักษาสิ่งแวดล้อมในครัวให้สะอาด โดยเฉพาะโต๊ะที่ใช้ปรุงอาหาร
5.    น้ำดื่ม และน้ำใช้ต้องสะอาด
6.    หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนระหว่างอาหารด้วยกัน เพื่อไม่ให้อาหารที่ปรุงสุกแล้วปนเปื้อนกับอาหารดิบ เช่น การใช้มีด เขียง ต้องแยกระหว่างอาหารดิบ และอาหารสุก เป็นต้น
 
การทำความสะอาดผัก ผลไม้
·         เลือกซื้อผัก ผลไม้ที่สะอาด ปลอดสารเคมี และยาฆ่าแมลง
·         ล้างผัก และผลไม้ให้สะอาด ก่อนนำมารับประทาน โดยการเด็ดใบ คลี่ใบล้างผ่านน้ำให้สะอาดหลายๆ ครั้ง
 
คำแนะนำ
สำหรับผู้ปรุงอาหาร ผู้เสิร์ฟอาหาร ผู้ขายอาหาร
·         ปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาลอาหาร โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดของวัตถุดิบ และน้ำ ที่นำมาประกอบอาหาร ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรค รวมทั้งการล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ
·         หากผู้ที่ป่วยเป็นผู้ปรุงอาหาร ผู้เสิร์ฟอาหาร ผู้ขายอาหาร ควรหยุดงานจนกว่าจะหายเป็นปกติ
 
แปลและเรียบเรียงโดย : นายแพทย์พรชนก รัตนดิลก ณ ภูเก็ต  สำนักโรคติดต่อทั่วไป  กรมควบคุมโรค
ผู้แสดงความคิดเห็น พีรายุ หงษ์กำเนิด (peerayu_t-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 11:54:27


ความคิดเห็นที่ 1449 (1566021)

 

โลกร้อน....โรคร้ายที่ต้องเฝ้าระวัง
โลกร้อนได้อย่างไร
ตลอดระยะเวลา 250 ปีที่ผ่านมา โลกได้เข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างมหาศาล บุกรุกแผ้วถางป่ากันอย่างบ้าคลั่ง เพื่อใช้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย ทำฟาร์มปศุสัตว์ และการเกษตรกรรม เพื่อผลิตอาหารรองรับจำนวนประชากรโลกที่สูงเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเท่ากับทำลายแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขนาดใหญ่ อีกทั้งการจัดตั้งโรงงานที่ไม่มีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีกลายเป็นแหล่งมลพิษ ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ อากาศ และพื้นดิน ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลายชนิดทั้งสิ้น สู่การทำลายก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศจำนวนมาก ทำให้ความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ส่องมายังโลกในปริมาณสูงขึ้น โดยที่ก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นผ้าห่มที่คอยเก็บกักความร้อนไว้ในบรรยากาศของโลกได้เป็นอย่างดี [1]
           นี่คือสาเหตุหลักของเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว เมื่อมันทำให้เกิดความผันแปรและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว จากหลักฐานการบันทึกข้อมูล พ.ศ.2529 เป็นต้นมา พบว่าอุณหภูมิพื้นผิวโลกสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างต่อเนื่อง [2] ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ มากมายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า อากาศหนาวเย็นผิดปกติ พายุหิมะ และพายุทอร์นาโด เป็นต้น
           ปรากฏการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ ความหลากหลายทางชีวภาพในพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เชื้อโรคบางชนิดที่เชื่อว่าได้กำจัดให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้ได้แล้ว กลับมาระบาดขึ้นอีกครั้ง โดยมีการคาดการณ์ว่าโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนจะเป็นกลุ่มโรคที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาวะของชาวโลกในอนาคต ทั้งโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ซึ่งอาจเกิดจากที่สัตว์นำเชื้อโรคเข้าสู่คนโดยตรง สัตว์เหล่านี้ทำหน้าที่เก็บกักเชื้อโรค หรือเพาะเชื้อโรค โดยมียุง แมลง เห็บ ไร ริ้น นำเชื้อโรคไปยังคนอีกทอดหนึ่ง

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ.......

ผู้แสดงความคิดเห็น พีรายุ หงษ์กำเนิด (peerayu_t-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 12:47:10


ความคิดเห็นที่ 1450 (1566079)

สหรัฐเตือนภัยพายุเฮอร์ริเคนไอรีน 
  

26 สค. 2554 08:15 น.

สหรัฐได้ยกเลิกเที่ยวบินและการจัดงานต่าง ๆ ในขณะที่พายุเฮอร์ริเคนไอรีน เคลื่อนตัวเข้าใกล้และคาดว่า พายุอันตรายลูกนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง , ไฟฟ้าดับ ฝนตกหนักและน้ำท่วมตั้งแต่นอร์ธ คาไรไลนา ไปจนถึงนิว อิงแลนด์
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ ได้ประกาศเตือนภัยพายุเฮอร์ริเคนไอรีน ที่มีความแรงลมในระดับ 3 ในพื้นที่ชายฝั่งของนอร์ธ คาโรไลน่า ตั้งแต่ ลิตเติล รีเวอร์ อินเทล ไปจนถึงพรมแดนด้านที่ติดกับรัฐเวอร์จิเนีย โดยขณะนี้ เฮอร์ริเคนกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ค่อนไปทางเหนือ ด้วยความเร็วลม 14 ไมล์ต่อชั่วโมง และคาดว่าจะมุ่งหน้าจากหมู่เกาะบาฮาม่าส์ ไปทางเหนือในช่วงเช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น
บริษัทรถไฟแอมแทร็คและสายการบินรายใหญ่ของสหรัฐ ได้เริ่มยกเลิกการเดินรถและเที่ยวบินโดยสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ได้ยกเลิกเที่ยวบิน 126 เที่ยว เมื่อวันพฤหัสบดี ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินออกจากไมอามี่ และบาฮาม่าส์ และคาดว่าจะยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มอีกในวันนี้ ส่วนการจัดพิธีรำลึกถึงมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ที่กำหนดจะมีขึ้นในกรุงวอชิงตัน วันอาทิตย์นี้ ก็ถูกเลื่อนออกไปเดือนหน้า
นายเบอร์เวอรี่ เพอร์ดู ผู้ว่าการรัฐนอร์ธ คาโรไลน่า ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายเขตทางตะวันออกของอินเตอร์ สเตท ไนน์ตี้ไฟว์ และเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงมหันตภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น คาดว่า พายุไอรีน จะพัดเข้าสู่นอร์ธ คาโรไลน่า เอ๊าเตอร์ แบงค์ ในวันเสาร์นี้ ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าไปยังพื้นที่ส่วนใหญ่ในนอร์ธอีสต์ ในวันอาทิตย์ ซึ่งจะส่งผลกระทบที่รุนแรงในเขตเมืองต่าง ๆ ในนอร์ธอีสต์ นอกจากนี้ อิทธิพลของพายุ ยังจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ 5-10ฟุต ในพื้นที่เตือนภัยพายุเฮอร์ริเคน รวมทั้ง อับเบอมาเล่ และแพมลิโก้ ซึ่งเกรงว่า จะทำให้เกิดความเสียหายเป็นบริกว้าง รวมถึงอันตรายจากคลื่นด้วย

 


นิวยอร์กประกาศอพยพปชช.ออกจากพื้นที่

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 26 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 10:10 น.

นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากพายุเฮอริเคนไอรีน เคลื่อนตัวไปทางตอนเหนือ

นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา เผยว่า พายุเฮอริเคนไอรีน ที่จะพัดผ่านนิวยอร์ก เป็นครั้งแรก ในรอบ 25 ปี ตั้งแต่คืนวันเสาร์ไปจนถึงเช้าวันจันทร์ จะส่งผลรุนแรงต่อนิวยอร์ก อย่างรุนแรง จึงทำให้ต้องมีการสั่งอพยพประชาชนทันที

นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ได้เผยว่า การอพยพประชาชครั้งนี้ จะต้องเสร็จสิ้นภายในวันศุกร์ รวมทั้งการอพยพประชาชนที่อาศัยในบ้านพักคนชราและโรงพยาบาลต่างๆ ต้องอพยพผู้คนในทันที

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า จะอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ หรือไม่ รวมทั้งอาจต้องมีการปิดระบบขนส่งทันที หลังจากที่พายุเฮอริเคนไอรีน พัดผ่านเข้ามา และได้คร่าชีวิตประชาชนบนเกาะบาฮามาส อย่างน้อย 2 คน ที่ประเทศเฮติ และ 1 คน ที่ ประเทศเปอร์โตริโก

พายุเฮอริเคนไอรีย เป็นพายุลูกแรกที่พัดผ่านมหานครนิวยอร์ก เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี หลังจากที่พายุเฮอริเคนกลอเรีย พัดกระหน่ำเมื่อเดือนกันยายน 2528


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:20:25


ความคิดเห็นที่ 1451 (1566080)

อึ้ง! ขวดนมร้อยละ 80 มีสารอันตราย
  



กุมารแพทย์ วิจัยพบสารเคมีปนเปื้อนในน้ำนม ซึ่งจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน และมีผลต่อการผลิตอสุจิได้น้อยลง แคนาดา-สหภาพยุโรป-จีน-มาเลเซีย-แอฟริกาใต้ ประกาศห้ามผลิตและจำหน่ายขวดนมที่ผลิตจากโพลีคาร์บอนเนต


พญ.รัชดา เกษมทรัพย์ กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในฐานะเลขานุการโครงการอาหารปลอดภัยเด็กไทยพ้นสารพิษพลาสติก กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตั้งคณะกรรมการควบคุมการผลิตขวดนมพลาสติกสำหรับทารกและเด็กเล็กขึ้น เพื่อพิจารณาว่าควรออกแนวทางให้ผู้ประกอบการงดผลิตขวดนมจากพลาสติกโพลีคาร์บอนเนต เนื่องจากพลาสติกดังกล่าวมีสารเคมี BPA ที่มีผลวิจัยจากทางยุโรปเมื่อประมาณปี 2551 โดยวิจัยในสัตว์ทดลองให้กินนมจากขวดนมที่ทำจากพลาสติกโพลีคาร์บอนเนตอย่างต่อเนื่อง พบว่าสารเคมีดังกล่าวปนเปื้อนมาในน้ำนมและมีผลในการไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง รวมถึงมีผลต่อการผลิตอสุจิได้น้อยลง ส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของสัตว์ทดลอง ทำให้ในประเทศแคนาดา สหภาพยุโรป จีน มาเลเซียและแอฟริกาใต้ ออกประกาศห้ามผลิตและจำหน่ายขวดนมที่ผลิตจากโพลีคาร์บอนเนตไปแล้ว

พญ.รัชดากล่าวต่อไปว่า ในประเทศไทยพบว่ามีการจำหน่ายขวดนมที่ผลิตจากโพลีคาร์บอนเนตในท้องตลาดมากกว่าร้อยละ 80 ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้สุ่มนำขวดนมที่วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมดประมาณ 30 ขวด มาทดสอบ ก็พบว่ามีสารเคมี BPA ปนเปื้อนในน้ำนมเช่นกัน  อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการวิจัยในตัวเด็กทารก เนื่องจากไทยยังขาดห้องแล็บที่สามารถทดลองในเรื่องนี้ได้ แต่ในเกาหลีและไต้หวันเคยทดลองวิจัยปัสสาวะของเด็กทารกที่ดื่มนมจากขวดนมที่ทำจากพลาสติกชนิดนี้  พบว่ามีสารเคมี BPA ปนเปื้อนเช่นกัน ดังนั้น จึงอยากให้พ่อ แม่ เลือกซื้อขวดนมที่ผลิตจากพลาสติก โพลีพรอพพีลีน หรือ PP โดยสังเกตข้างขวดจะมีเขียนไว้ว่า BPA Free หรือ PP หรือสังเกตก้นขวดนมจะมีสัญลักษณ์ มีเลข 5 ตรงกลางและมีรูปลูกศรล้อมรอบ แต่หากเป็นขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกโพลีคาร์บอนเนต  บริเวณก้นขวดจะมีสัญลักษณ์เลข 7 อยู่ตรงกลางและมีลูกศรล้อมรอบ

ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวว่า คณะกรรมการฯได้พิจารณาแล้ว พบว่า การควบคุมการผลิตขวดนม อย.ไม่มีอำนาจควบคุม จึงนำผลวิจัยที่เกี่ยวกับสาร BPA เสนอไปยังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อพิจารณาแล้ว.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:21:47


ความคิดเห็นที่ 1452 (1566081)

ฝนถล่มกรุงส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหลายจุด

ข่าวสังคม วันศุกร์ที่ 26 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 07:54 น.


เกิดฝนตกหนัก ถล่มกรุงเทพฯ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหลายจุด

หลังฝนตกอย่างหนัก ในหลายพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุช่วงกลางดึกที่ผ่านมาหลายจุดด้วยกัน คือ
-บริเวณปากซอยสายไหม 34 เป็นรถกระบะชนกัน 2 คัน ไม่มีคนเจ็บ แต่กีดขวางเลนกลาง
-ช่วงกลางแยกตากสิน เป็นรถกระบะ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์
-ถนนพหลโยธิน ขาออก ช่วงใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต รถจักรยานยนต์ เสียหลักชนขอบทางเลนซ้าย
-ถนนลาดพร้าว ขาออก หน้า สน.โชคชัย รถชนกัน 3 คัน มีคนเจ็บ กีดขวางเลนกลาง

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 04.00 น. ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร รายงานว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนกำลังอ่อนปกคลุมกระจายโดยทั่วไป แนวโน้มลดลงใกล้หยุดตก ปริมาณฝนสูงสุด เขตหนองแขม 103.0 มิลลิเมตร

 

ฝนถล่มใต้ "พังงา-ภูเก็ต"อ่วม

เผยรุนแรงที่สุด หลังสึนามิปี 47
ครม.อนุมัติแล้ว 8พันล.ช่วยนาล่ม



มิด"ป่าตอง" - นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องขึ้นนั่งบนรถบรรทุกแทนการเดินลุยน้ำ หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหาดป่าตอง สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 ส.ค.

ลามใต้แล้ว! พิษฝนหนัก ทำภาคใต้อันดามันจมน้ำ เกิดน้ำป่าไหล ดินสไลด์หลายพื้นที่ ทั้งพังงา-ระนอง ด้านภูเก็ตก็จมทั่วเมือง หนักสุดหลัง"สึนามิ" ภาคเหนือก็ยังอ่วม "น่าน"พบรอยแผ่นดินแยก หวั่นดินถล่ม ร้องเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ "ตะพานหิน" ท่วมเขตเศรษฐกิจแล้ว ชาวบ้านฮือรื้อกระสอบทรายอีกรอบ หวัง น้ำลด ทุ่งทะเลหลวง"สุโขทัย"ก็ล้นท่วมเมือง ครม.ปูประชุมนัดแรกหลังแถลงนโยบาย อนุมัติวงเงิน 8 พันล้านบาท ช่วยเกษตรกรไร่นาเสียหาย นายกฯเตรียมลงพื้นที่อ.บางระกำ 28 ส.ค.นี้ 

 

 ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ส่งข้อความเตือนภัยมาว่า

ในเดือนกันยายนจะเป็นช่วงทีมีภัยพิบัติค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน

ควรจะมีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้

ทางเมืองไทยมีข่าวว่าน้ำเยอะมาก และอาจจะสมทบเพิ่มอีกซึ่งทำให้เสี่ยงต่อสภาพน้ำท่วมครับ


อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ขอให้เตรียมความพร้อมสูงหน่อยนะค่ะ ด้วยความห่วงใยจากใจเลยจ้า



อีกแหล่งข้อมูลที่คล้ายกัน

ในช่วงที่ผ่านมาเราได้สังเกตุเห็นภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน และมีขึ้นต่อเนื่องกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เบื้องต้น และเป็นไปได้ที่จะมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในเดือนกันยายน โดยเฉพาะในระหว่างวันที่ 7-15 กันยายน อาจจะมีเหตุการณ์ขนาดใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งแนะนำให้มีการเตรียมพร้อมรับมือเกี่ยวกับภัยพิบัติในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับภัยน้ำท่วมเป็นหลัก



 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:26:25


ความคิดเห็นที่ 1453 (1566083)

ฝูงนกปากห่างนับหมื่นตัวอพยพหนีน้ำท่วม-ขาดอาหาร 
  
26 สค. 2554 10:34 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝูงนกยักษ์จำนวนกว่าหมื่นตัว ทั้งหากินในนาข้าวและบินวนอยู่บนท้องฟ้า ที่แปลงนาชาวบ้านหมู่ 8 บ้านไร่อ้อย ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เป็นประจำทุกวันเช่นนี้มานานกว่า 1 เดือน แม้ขณะที่ชาวนาไถนาก็บินตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นชาวนากลับระบุว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะฝูงนกยักษ์ดังกล่าวกินหอยเชอรี่เป็นอาหาร
นายมนัส วงษ์ไชย เจ้าของนา กล่าวว่า ฝูงนกยักษ์ดังกล่าวมาอาศัยตามแปลงนาของชาวบ้านที่หมู่ 8 บ้านไร่อ้อยมานานกว่า 1 เดือนแล้ว มีขนาดใหญ่ ปากและคอยาวบางตัวน้ำหนักเกือบ 10 กิโลกรัม เชื่อว่าจะเป็นนกปากห่าง น่าจะอพยพหนีน้ำท่วม เพราะขาดอาหาร เพราะนกปากห่างจะกินหอยเป็นอาหาร เมื่อที่นาหลายพื้นที่น้ำท่วม จึงอพยพหาแหล่งอาหารใหม่
ที่ ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน น้ำไม่ท่วม ฝนที่ตกเป็นผลดีทำให้ชาวนาไถหว่าน ทำนาได้ตลอดทั้งปี จึงกลายเป็นจุดให้นกปากห่างอพยพฝูงใหญ่กว่า 1 หมื่นตัวมาฝังตัวอยู่ เป็นเรื่องที่ดี ชาวนาต่างเป็นปลื้ม เพราะนกดังกล่าวช่วยกำจัดหอยเชอร์รี่ในนาข้าว ศัตรูสำคัญของชาวนา จึงเป็นแหล่งอาหารโปรดชั้นดีที่มีให้กินตลอดทั้งปี มันจึงไม่ยอมไปไหนนับวันจะกลายเป็นนกประจำท้องถิ่นเข้าไปทุกที เพราะมีการขยายพันธุ์มากขึ้น คนที่ผ่านไปมาต่างเห็นต่างแวะชมถ่ายรูป โดยเฉพาะภาพที่ชาวนาไถ่นาแล้วมีฝูงนกบินตามหลัง หากฝูงนกเหล่านี้ไม่อพยพหนีก็จะกลายเป็นแหล่งชมนกแห่งปากห่างแห่งใหม่
นางวรรณี นาคบัว นายสัตวแพทย์ระดับชำนาญการพิเศษ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า นกปากห่างซึ่งมีมากแถบภาคกลาง เพราะมีแหล่งอาหาร คือ หอยโข่ง หอยเชอร์รี่ และน่าจะเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่ประสบกับภัยน้ำท่วม เนื่องจากไม่มีที่นาให้ลงไปหาอาหารโปรด ต้องอพยพหาแหล่งอาหารแห่งใหม่ เป็นนกขนาดใหญ่จากปลายปากจดปลายหาง 70-80 ซม. ตัวผู้ตัวเมียคล้ายๆกัน ขายาว คอยาว ปากใหญ่แต่ส่วนกลางของปากห่าง ขนตามตัวสีขาวหางสีดำแกมน้ำเงิน ขนปลายปีกสีดำ พบทั่วไปในไทย ลาว อินเดีย พม่า เวียดนาม เชื่อว่าหากระดับน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ ฝูงนกเหล่านี้ก็จะอพยพกลับถิ่นของตน หรือเมื่อต้นข้าวโต ไม่มีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ก็จะย้ายถิ่นไป เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอตรอน ลงพื้นที่ให้ความรู้ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว โดยเฉพาะหากพบนกตายโดยไม่รู้สาเหตุอย่านำมาบริโภค และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หวั่นในเรื่องของไข้หวัดนก ซึ่ง จ.อุตรดิตถ์ ปลอดโรคดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว

ใครอยู่กรุงเทพสังเกตุเห็นเหมือนผมมั้ย คืนข้างแรม 11 ค่ำ
แถมเมฆฝนปกคลุมทั่วหมด แต่ทำไมกรุงเทพดูสว่างเหมือนคืนข้างขึ้น
ปกติผมจะใช้คอนโดใกล้ๆที่เป็นสีขาวในการสังเกตุ นี่เห็นชัดเจนมาก
ปกติข้างแรมจะมองไม่ชัด บนท้องฟ้าก็มีเมฆสีแดงๆ เป็นจุดใหญ่
เหมือนมีอะไรสว่างๆในนั้น ไม่รู้ต่างจังหวัดเป็นแบบผมเห็นหรือเปล่านะ
 
สังเกตเหมือนกัน ว่าฟ้าสว่างมาก เมฆเป็นสีส้ม
ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 แล้ว ดวงอาทิตย์แผดแสงสีส้มสุดๆ ออกมา ราวกับว่าอยู่อีกมิติ เหมือนตอนนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ ที่เราๆ ยังหาไม่เจอกั
ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:31:02


ความคิดเห็นที่ 1454 (1566084)

ลำปาง-น้ำป่าซัดรางรถไฟขาดช่วงสถานีขุนตาล

วันศุกร์ ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

น้ำป่าจากดอยขุนตาลซัดรางรถไฟสายเหนือก่อนถึงถ้ำขุนตาลประมาณ 1 กม.เสียหาย ต้องหยุดเดินรถไฟสายเหนือ ขณะที่ 2 หมู่บ้านในตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วม ระลอก 2


การรถไฟฯ แจ้งว่าช่วงเช้าวันนี้(26 ส.ค.) รถไฟสายเหนือทั้งขาขึ้นและขาล่องต้องหยุดให้บริการเดินรถอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเมื่อคืนวานนี้ น้ำป่าจากดอยขุนตาลและอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ ไหลหลากลงมากัดเซาะรางรถไฟเสียหายบริเวณสถานีขุนตาล อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ก่อนถึงปากทางเข้าถ้ำขุนตาลประมาณ 1 กม ทำให้รางและหมอนรองรางรถไฟในจุดดังกล่าวได้รับความเสียหาย ซึ่งส่งผลให้ขบวนรถไฟสายเหนือไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งขณะนี้หน่วยซ่อมทางของการรถไฟฯ เร่งนำเครื่องจักรเข้าไปซ่อมรางในจุดดังกล่าวเป็นการด่วนแล้ว และยังไม่ทราบว่าจะสามารถเปิดใช้บริการรถไฟได้เมื่อใด

นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ทำให้มีน้ำป่าจากอุทยานดอยขุนตาลเขตติดต่อ จังหวัดลำพูน และ ลำปาง ไหลหลากทะลักลงสู่ลำห้วยแม่ตานซึ่งเป็นลำน้ำสายหลัก และยังไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 7 บ้านปาง-ปง-ปาง-ทราย และหมู่ที่ 8 บ้านแม่ตานน้อย ตำบลเวียงตาน อำเภอห้างฉัตร โดยมีบ้านเรือนกว่า 70 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนสิงหาคม ขณะเดียวกันชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ต้องรีบตื่นมาช่วงเช้ามืด เร่งเก็บข้าวของหนีไว้บนที่สูง

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:35:06


ความคิดเห็นที่ 1455 (1566085)

หญิงจีนกะจะกินไข่ต้ม อึ้ง! เจอ “ไข่ซ้อนไข่”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2554 08:33 น.





       ไชน่าเดลี - หญิงจีนเมืองเอี๋ยนอาน มณฑลซานซี ถึงกับตกใจ (23 ส.ค.) ต้มไข่กะว่าจะรับประทานให้สบายท้อง แต่พอกระเทาะเปลือกนอกเท่านั้น ไข่ก็บี้เละ เจออีกหนึ่งฟอกเล็กซ้อนอยู่ข้างใน “อุ้ย!.... ไข่ซ้อนไข่”
       
       โดยทั่วไป ไข่ที่มี 2 ไข่แดงอยู่ข้างในก็พบกันบ่อยครั้ง แต่ว่าไข่ที่ซ้อนกันแบบมีเปลือกด้วยนั้น พบได้น้อยเหลือเกิน ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า หากแม่ไก่ไม่ออกไข่เป็นเวลา 2 วัน ก็อาจเกิดการประสมกันระหว่างไข่ 2 ฟอง ซึ่งก็มีเปอร์เซ็นต์การเกิดไม่มากนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:45:52


ความคิดเห็นที่ 1456 (1566087)

ศอส.เตือน 8 จังหวัด จับตาน้ำป่าไหลหลาก-น้ำล้นตลิ่ง

วันที่ 26/08/2554 15:16


นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการ และการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า แจ้งเตือนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งใน 8 จังหวัด ดังนี้ 3 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี และตราด รวมถึง 5 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา และบุรีรัมย์

ทั้งนี้ ศอส.ได้สั่งกำชับให้ทั้ง 8 จังหวัด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ภัย ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำในลุ่มน้ำสำคัญอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา และที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำของจังหวัดดังกล่าว

 

น้ำป่าถล่ม รีสอร์ท อ.ปาย เร่งอพยพวุ่น

วันที่ 26/08/2554 14:00


น้ำป่าถล่มรีสอร์ทหลายแห่ง ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วิกฤตเจ้าหน้าที่ต้องใส่ชูชีพลอยน้ำออกช่วยเหลือประชาชน...

เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเข้า บ.แก่งทรายมูล ม.14 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สร้างเรียงรายลงมาตามลำห้วยแม่ตื๋น ที่ไหลลงสู่แม่น้ำกก โดยทันที ที่เกิดเหตุ พ.อ.วิษณุ สุนทรารักษ์ หน.ฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภ.3 ส่วนแยก 1 นำกำลังทหารพรานเข้าช่วยเหลืออพยพราษฏร์ออกจากพื้นที่ ร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง อบต.ท่าตอน และ ตร.สภ.อ.แม่อาย ทำให้มีบ้านเรือนถูกกระแสน้ำพัดทั้งดินโคลน และรากไม้ทับบ้านจำนวน 15 หลังคาเรือน เสียหายทั้งหลังจำนวน 3 หลังคาเรือน ข้าวสารเสียหาย 2 เกวียน รถยนต์ 1 คัน สัตว์เลี้ยงจำนวนหนึ่ง

ล่าสุด นายเสกสรร ไตรลึก ปลัด อบต.ท่าตอนนำรถแบ็คโฮ พร้อม จนท.เข้าช่วยเหลือราษฏร์ รวมถึงเปิดทางน้ำ ให้น้ำ นำดินโคลน และรากไม้ออกจากลำห้วย ส่วนสาเหตุเกิดจากราษฏร์สร้างบ้านเรือนลุกเข้าไปปิดลำห้วย ทำให้ลำห้วยแคบน้ำไหลไม่สะดวก

ส่วนที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักลงมาตลอดทั้งคืน ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.จนถึงเช้าวันที่ 26 ส.ค. จนทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาจากดอยสูงเข้าเอ่อล้นเต็มถนนเส้นทางเส้นทาง 1095 สายเชียงใหม่-ปาย ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่ อ.ปาย

จากนั้นได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและรีสอร์ท ริมแม่น้ำปายย่านรอยต่อระหว่างบ้านทุ่งโป่งและ บ้านห้วยทราย อ.ปาย ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองปายเพียงเล็กน้อย ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น บ้านเรือนและรีสอร์ทหลายแหล่งจมน้ำได้รับความเสียหาย ทางอำเภอ ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พร้อมประกาศเตือนภัยน้ำป่าที่อาจจะเข้ามาสมทบอีกระลอกหนึ่ง

ทางด้าน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สภาวะฝนที่ตกหนักตลอดคืนบนดอยหลวงเชียงดาว ทำให้เกิดน้ำทะลักลงมาอีกระลอก เข้าท่วมพื้นทีไร่สวนของบ้าน หมู่ 7 ต.เชียงดาว และน้ำในแม่น้ำปิงไหลเชี่ยวกราก ได้พัดเอาเศษไม้และขยะไหลเข้ากระแทกสะพานแขวนที่เพิ่งทำการสร้างมาเพียง 4 ปี มูลค่า 500,000 บาทใช้เป็นเส้นทางสัญจรเดินข้ามไปมาและใช้เป็นสถานที่จัดลานลอยกระทง และงานพิธีขอขมาแม่น้ำปิง ได้พังขาดสะบั้นไหลไปกับน้ำ

และทางทีมงานกู้ภัยเชียงดาว นำโดย นายอดิศักดิ์ คุ้มเมือง หัวหน้ากู้ภัย และ เป็น ส.ท.ตำบลเชียงดาว ได้นำเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อชูชีพ ลอยคอออกสำรวจช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ตามกระท่อมเฝ้าสวนหรือบ้านเรือนใกล้น้ำเพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:49:40


ความคิดเห็นที่ 1457 (1566088)

เชียงรายจมบาดาล ประกาศ 7 อำเภอประสบภัยพิบัติ

วันที่ 26/08/2554 19:25





จ.เชียงราย ฝนตกหนัก จมบาดาลประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 7 อำเภอ รวด...

สภาพฝนตกหนักท่วมถนนพหลโยธินสายใน เขตเทศบาลนครเชียงราย และถนนอีกหลายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ที่สัญจรไปมาและที่อยู่สองฟากถนนต้องพากันนำกระสอบทราบมาปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในตัวอาคารสร้างความเสียหายได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ จ.เชียงราย ตลอดคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมขังในหลานพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย บริเวณถนนธนาลัย ถนนพหลโยธินสายใน ถนนสถานพยาบาล และถนนราชโยธา มีน้ำท่วมขังสุงกว่า 30 ซม.บางช่วงรถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ประชาชนที่อยู่สองฟากถนนต้องนำเอากระสอบทรายมาปิดกั้นทางเข้าตึกเอาไว้ป้องกันน้ำทะลักเข้าไปในตัวอาคารทำให้ข้าวของได้รับความเสียหาย รวมทั้งทางเทศบาลนครเชียงราย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่สูบน้ำออกจากตัวเมืองลงสู่แม่น้ำกกแล้ว ส่วนอำเภอรอบนอก เช่น อ.แม่จัน แม่สรวย แม่สาย เชียงแสน และอ.เทิง มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างทางเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปตรวจสอบสภาพความเสียหายแล้ว

นายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากสถานการณ์การเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งทำให้พื้นที่การเกษตรและพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดย จ.เชียงราย ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินหรือเกิดอุทกภัยจำนวน 7 อำเภอ คือ แม่จัน พาน เวียงป่าเป้า เชียงแสน แม่สรวย เชียงของ และเวียงแก่น สรุปความเสียหายเบื้องต้นพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 68,292 ไร่,ปศุสัตว์ 320 ตัว,บ่อปลา 1,829 บ่อ,ถนน 358 สาย,ท่อส่งน้ำประปา 2 แห่ง,สะพานกับคอสะพาน 38 แห่ง,ฝาย 146 แห่ง,ท่อระบายน้ำ 309 แห่ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันนำเอาสิ่งของไปแจกประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว

 

 

บึ้มเละ!สำนักงานยูเอ็นในไนจีเรีย

เมื่อ 26 ส.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดพลีชีพโจมตีสำนักงานของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ในกรุงอาบูจา เมืองหลวงของไนเจีเรีย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของสถานทูตต่างชาติ และไม่ไกลจากสถานทูตสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 7 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก และยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากที่รอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
แรงระเบิดทำให้อาคารพังเสียหายอย่างรุนแรง โดยยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มอิสลามโบโกฮารัม ที่ก่อเหตุระเบิดมาแล้วหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
เยมี อาจายี โฆษกตำรวจ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาล เช่นเดียวกับศพผู้เสียชีวิตที่กู้ได้ แต่ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ระเบิดเกิดขึ้นเมื่อรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าของคนร้ายขับพุ่งผ่านประตูด้านหน้าและพุ่งเข้าชนอาคาร
เจ้าหน้าที่ยูเอ็นที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า มีหลายคนติดอยู่ชั้นบนของอาคาร จำเป็นต้องใช้รถเครนมาพาคนออกไป

 

กัวเตมาลาทางตะวันออกเฉียงใต้ ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติ (ระดับสีแดง) หลังจากถูกพายุฝนพัดถล่ม ทำให้น้ำท่วมหนัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-26 21:59:36


ความคิดเห็นที่ 1458 (1566096)

พีอาริยา ขออนุโมทนาบุญกับคุณตาล เเละ คุณพีรายุ เเละ คุณชนิดา ค่ะ

ดีใจจังที่ทุกท่านผู้ใจบุญได้ช่วยกันลงข่าวทันเวลาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 00:52:41


ความคิดเห็นที่ 1459 (1566097)

ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง"

ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2554

     ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงยังคงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 26-29 สิงหาคม นี้
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 16.30 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:15:14


ความคิดเห็นที่ 1460 (1566098)

ตรวจพบการสั่นไหวถี่นับ 10,000 ครั้ง บริเวณพรมแดนเยอรมัน-สาธารณรัฐเช็ก



Epicentre of a 3.6 magnitude earthquake which struck on Friday. Image (click to enlarge) Google Maps


The Geophysical Institute, Academy of Sciences of the Czech Republic says it has recorded almost 10,000 earthquakes during the last three days in West Bohemia, a region located close to the Czech Republic’s western border with Germany.

The earthquake swarm started late on Tuesday and continued through Friday. While many have gone unnoticed by the local population some of the larger tremors, including eight quakes exceeding 3 magnitude have been felt in the towns of Chemnitz, Karlovy Vary, Birch, and Luby.

The most recent earthquake measured 3.6 magnitude on the Richter Scale and hit at 0645hrs GMT on Friday at a shallow depth of three miles. The quake epicentre was located 81 miles (129 km) NE of Nürnberg 82 miles (131 km) SW of Dresden, 90 miles (144 km) W of Praha, 128 miles (204 km) NW of Budejovice, 131 miles (210 km) NNW of Schärding, and 227 miles (364 km) NW of Wien.

Commenting on the latest earthquake swarm, the Geophysical Institute, Academy of Sciences of the Czech Republic stated: “The activity started in the evening of 23 August and is almost continuous till now (26 August morning). Almost 10 000 events were recorded in total up to now. Already eight events M>3.0 and 200 M>2.0 occurred. The location of hypocenters directly below the NKC station, so it appears a new patch of the fault plane is being activated”.

In recent years, scientists have noted an increase in the movement of magma towards the earth’s surface in the Cheb Basin, western Czech Republic. They say rising magma could be one of the causes of the earthquake swarms, which regularly occur in the Vogtland, North-West Bohemia, the Fichtelgebirge and the Upper Palatinate. The last earthquake swarm to occur before this week’s activity was in 2008.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:16:27


ความคิดเห็นที่ 1461 (1566099)

ภูเขาไฟ Stromboli ที่อิตาลีเริ่มส่งสัญญาณปะทุ เมื่อพ่นควันเถ้าถ่านออกมาล่าสุด

 

----------------------------------------------------------------

 

ชาวบ้านตะลึง ! พบเห็น UFO กันชัดๆ ที่เปรู

 Meteorite Fireball Over Cusco Peru?

UFO, Meteorite Fireball Over Cusco Peru?

UFO, Meteorite Fireball Over Cusco Peru? - YouTube

 

--------------------------

พบปลานับพันตัว บวมลอยตายเป็นปริศนาที่ทะเลสาบ Enid ในรัฐโอกลาโฮม่า

Enid ในรัฐโอกลาโฮม่า

 

A dead fish floating in a lake is not uncommon, but Enid officials were notified Tuesday of a sight rarely seen. Nearly 1,000 dead crappie were floating at Meadowlake Park.

"Some had been decaying for three or four days," Rob Camp said, Deputy Director of Enid Public Works. "We found some, just regular skeletons."

Camp said they found no evidence of contamination and other lake wildlife seem to be fine.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:18:05


ความคิดเห็นที่ 1462 (1566100)

น้ำท่วมเชียงรายหนักหลายจุด ทางไปเชียงใหม่รถวิ่งเลนเดียว-ชายแดนไทย-พม่าอ่วม

 

 
 
 

เชียงราย - เชียงรายเร่งประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยง 7 อำเภอ หลังฝนตกหนักต่อเนื่องทำปริมาณน้ำพุ่ง ล่าสุดอ่างเก็บน้ำรับไม่อยู่น้ำทะลักเข้าเขตตัวเมือง ถนนหลายสายน้ำท่วมทำการจราจรติดขัดต่อเนื่อง ด้านถนนเส้นแม่จัน-แม่อายต้องปิดเหลือเลนเดียว ส่วนชายแดนแม่สายน้ำเอ่อท่วมทั้งสองฝั่ง พ่อค้าแม่ค้าไทย-พม่าเก็บของหนีน้ำกันอลหม่าน

วันนี้ (26 ส.ค.54) นายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้มีการวัดปริมาณน้ำฝนแล้วพบว่ามีปริมาณสูงถึง 110 มิลลิเมตร ทำให้หลายพื้นที่โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำคำเขต อ.แม่คำ มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมในรอบใหม่ได้ทุกเมื่อ จึงได้ประกาศเตือนให้พื้นที่ลุ่มน้ำทุกแห่งที่เคยเกิดน้ำท่วมได้ระมัดระวังแล้ว

ขณะเดียวกันทางจังหวัดเชียงรายได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินหรือเกิดอุทกภัยจำนวน 7 อำเภอ คือ แม่จัน พาน เวียงป่าเป้า เชียงแสน แม่สรวย เชียงของ และเวียงแก่น และสรุปความเสียหายเบื้องต้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาว่า มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 68,292 ไร่ ปศุสัตว์ 320 ตัว บ่อปลา 1,829 บ่อ ถนน 358 สาย ท่อส่งน้ำประปา 2 แห่ง สะพานกับคอสะพาน 38 แห่ง ฝาย 146 แห่ง ท่อระบายน้ำ 309 แห่ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงคืนที่ผ่านมา (25 ส.ค.) ได้เริ่มเกิดเหตุน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ โดยน้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมถนนพหลโยธินสายใน ถนนประสพสุข ถนนสถานพยาบาล ถนนวินิจฉัยกุลตั้งแต่หน้าค่ายเม็งรายมหาราชไปจนถึงโรงไฟฟ้าจนทำให้ถนนถูกตัดขาดชั่วคราว และการจราจรในตัวเมืองติดขัดอย่างหนักเนื่องจากเป็นย่านธุรกิจและมีร้านค้าตั้งอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้น้ำยังเอ่อล้นไปจนถึงถนนธนาลัยหน้าสวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติฯ บริเวณแยกไฟแดงยาวไปถึงหน้าสำนักงานยาสูบด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ปริมาณฝนที่มากดังกล่าว ทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยสักและอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มซึ่งเป็นอ่างดินขาดเล็กไม่สามารถรับปริมาณน้ำไว้ได้ ทำให้น้ำล้นอ่างไหลบ่ามาตามลำห้วยแม่ข้าวต้ม ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรในหมู่บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด ต.ท่าสุด อ.เมือง และทางเข้าหมู่บ้านโครงการฟ้าไทย จำนวนกว่า 50 หลังคาเรือน โดยพื้นที่บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องเดินลุยน้ำในการสัญจรไปมา โดยชาวบ้านต่างนำกระสอบบรรจุทรายมากั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้าไปในตัวบ้าน พร้อมกับขนย้ายทรัพย์หนีน้ำกันอย่างอลหม่าน

นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังทำให้เกิดน้ำท่วมถนนสาย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ไปทางอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกไฟแดงแม่จัน บางจุดมีระดับน้ำสูงถึง 50 เซ็นติเมตร ส่งผลให้การจราจรเป็นไปด้วยความลำบาก รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่องนำแผงเหล็กมากั้นปิดถนนสี่เลนและอนุญาตให้ใช้ได้เพียงช่องทางเดียว

ขณะที่ชายแดนไทย-พม่า ด้านตลาด อ.แม่สาย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ได้เกิดเหตุนลำน้ำสายซึ่งเป็นพรมแดนเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดชายแดนทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ตลาดซอยสายลมจอยในฝั่งไทยและตลาดท่าล้อฝั่งพม่า ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องขนสินค้าหนีน้ำกันอย่างอลหม่าน นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมในอีกหลายหมู่บ้านโดยเฉพาะบริเวณบ้านเกาะทราย ม.7 ต.แม่สาย บ้านเหมืองแดง ม.1 ต.แม่สาย พบว่าไร่นาและพืชสวนถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหายจำนวนมาก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:20:29


ความคิดเห็นที่ 1463 (1566101)

น้ำป่า“ขุนตาล”ทะลักซ้ำ-เซาะบ้านเรือนชาวบ้านใกล้พัง ถนน-สะพานขาด

 

ลำปาง - น้ำป่าดอยขุนดาลทะลักซ้ำ เซาะตลิ่งลึกถึงบ้านเรือนชาวบ้านแล้ว 1 หลังคาเรือน ส่วนอีกรายที่ดินหายไปร่วม 5 เมตร กับเหตุน้ำป่าทะลักซ้ำ 2 บอกเหตุครั้งแรกยังไม่ได้รับการเยียวยา กลับเกิดซ้ำอีก ขณะที่ชาวบ้านหลายสิบหลังคาเรือนต้องเดินข้ามทางรถไฟแทนถนน หลังกระแสน้ำซัดคอสะพาน-ถนนขาด

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า หลังจากมีฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในเขต จ.ลำปาง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลากลง สู่ลำน้ำแม่ต๋ำ เขต ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง ทำให้น้ำในลำห้วยแม่ต๋ำไหลแรงและเชี่ยวกราก กัดเซาะแนวถนนทางหลวงชนบท บ้านเฟือง-บ้านเอื้อม กม.ที่ 11 ริมตลิ่งถนน พังเสียหายไปครึ่งช่องทาง และเสาไฟฟ้าแรงสูงในจุดนี้ ล้มหลายต้น จนพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ของต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคลำปาง ได้เร่งเข้าดำเนินการแก้ไข คาดว่าในช่วงเย็นนี้ จะทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านใช้ ตามปกติได้

ขณะที่บริเวณบ้านแม่ตาลน้อย อ.ห้างฉัตร ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยนายเพชร หอมหา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านแม่ตาลน้อย หมู่ 8 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ออกสำรวจความเสียหายภายในหมู่บ้าน หลังจากช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติขุนตาล ได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง

เบื้องต้นพบความเสียหายคือ คอสะพานทรุดสองแห่ง รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ถนนภายในหมู่บ้านถูกน้ำซัดขาด โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดแม่ตาลน้อย กว่า 20 หลังคาเรือน เดือนร้อนหนัก ถนนที่ใช้สัญจรถูกน้ำซัดหายไปกว่า 10 เมตร รถทุกชนิดเข้าออกไม่ได้ ต้องอาศัยการเดินข้ามรางรถไฟที่ผ่านหมู่บ้านเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้บ้านเลขที่ 22/4 ของนางสีลา จันทร์ดี ที่ถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งเข้าไปถึงตัวบ้านแล้ว และจนถึงขณะนี้กระแสน้ำยังไหลเชี่ยวและแรง เกรงว่าตัวบ้านจะทรุดลงมาได้ตลอดเวลา
ขณะที่บ้านเลขที่ 7/5 ซึ่งเป็นบ้านนางเทียมจันทร์ ใจวรรณ์ บ้านทั้งสองหลังปลูกติดกันและอยู่ติดกับลำห้วยแม่ตาน น้ำได้กัดเซาะที่ดินไปกว่า 5 เมตร แม้จะมีการนำกระสอบทรายและไม้มาปักเป็นแนวกั้นแต่ก็ยังไม่สามารถทนกระแสน้ำที่ไหลหลากอย่างรุนแรงได้ ตั้งแต่เกิดเหตุครั้งที่ผ่านมามีเพียงเจ้าหน้าที่เข้ามาถ่ายรูปเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด จนกระทั่งวันนี้(26 ส.ค.54)ถูกน้ำป่าทะลักกินพื้นที่เข้าไปอีก

อย่างไรก็ตามนายเพชร หอมหา ผู้ใหญ่บ้านแม่ตาลน้อย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับอันตราย เนื่องจากตนได้ใช้หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปในที่ปลอดภัย ก่อนที่น้ำป่าจะไหลหลากทะลักเข้าหมู่บ้าน จนกระทั่งฝนหยุด และในวันนี้จึงได้ออกสำรวจความเสียหายเพื่อที่จะรายงานให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือต่อไป

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:23:58


ความคิดเห็นที่ 1464 (1566102)

เตือนคนขึ้นลงดอยสุเทพ-ระวังอันตราย หลังดินสไลด์หลายจุด

 

 เชียงใหม่ - พบ
ดินสไลด์ริมทางขึ้นดอยสุเทพ หลายจุด ทั้งมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทาง จนท.เร่งเคลียร์แล้ว พร้อมนำกรวยจราจรวางเตือนคนเดินทางขึ้น-ลง ระวังอันตราย

วันนี้ (26 ส.ค.) นายอุดม บุตรคำดี หัวหน้าด่านตรวจห้วยแก้ว อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ได้รับแจ้งว่า มีดินสไลด์ต้นไม้ทรุดลงมาทับถนนทางขึ้นดอยสุเทพ ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ที่บริเวณกิโลเมตรที่ 7-8 ตั้งแต่ช่วงเช้า จึงนำเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจไปตรวจสอบ พบต้นไม้ปอขนาดใหญ่ จำนวน 2 ต้น ล้มมาทับบริเวณถนนเลนช่องทางขาลงดอย หลังก่อนหน้านี้มีฝนตกอย่างหนัก ทำให้ดินสไลด์ต้นไม้หลุดมาทั้งราก ทางเจ้าหน้าที่อุทยานจึงนำเครื่องมือมาตัดกิ่งและขนย้ายต้นไม่ดังกล่าวออก

นายอุดม เปิดเผยว่า จากฝนตกคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้าทำให้เกิดดินไสลด์บนถนนขึ้นดอยสุเทพหลายจุด ซึ่งที่หนัก ก็มีต้นไม้ร่วงทับถนนบริเวณกิโลเมตรที่ 7-8 ส่วนถนนช่วงอื่นก็มีดินไสลด์ลงมาไม่เยอะมาก ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บกวาดเข้าไหล่ทาง หากตรงจุดไหนมีร่องรอยการไสลด์ของดินที่อาจทำให้ต้นไม่หักโค่นลงมาได้ ก็จะได้ตั้งกรวยจราจร และป้ายบอกป้องกันเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนขึ้นดอยสุเทพ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:32:35


ความคิดเห็นที่ 1465 (1566103)

น้ำท่วมปากีสถานล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 33 ราย อีกนับสิบสูญหาย


More and more areas are being inundated as floods spread south © Abdul Majeed Goraya/IRIN

The death toll as a result of rain-triggered flash floods in the northwestern region of Pakistan has risen to at least 33, while dozens remain missing, officials said on Friday.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:34:48


ความคิดเห็นที่ 1466 (1566104)
พักข่าวคลายเคลียด กับการ
 
ชาร์จมือถือ? แค่"เดิน"แบตฯก็เต็มได้

 

นักวิจัยพบวิธีใหม่ในการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน โดยอาศัยการเคลื่อนไหวของมนุษย์ แค่เดินเล่นชิลๆ ก็เพียงพอต่อการสร้างพลังงานไฟฟ้า เพื่อชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน

ความลับของเทคโนโลยีนี้จะถูกซ่อนอยู่ใต้รองเท้า โดยอุปกรณ์กำเนิดพลังงานไฟฟ้าจะจับพลังงานจากการกดทับหยดของเหลวเล็กจิ่ว เพื่อแปลงการเปลียนแปลงดังกล่าวเป็นกระแสไฟฟ้าได้ (พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจากการย่ำเดินด้วยเท้าจะมีมากถึง 20 วัตต์ต่อข้าง) ซึ่งการชาร์จประจุไฟฟ้าด้วยพลังงานจลน์ (Kinetic Charging) ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในแก็ดเจ็ตที่ต้องการพลังงานต่ำอย่างเช่น นาฬิกา และเซ็นเซอร์ต่างๆ เทคโนโลยีการชาร์จประจุไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่สามาร์ทโฟนด้วยการเคลื่อนไหวนี้เป็นผลงานของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร Nature Communications


"พูดง่ายๆ ก็คือ คนเราเป็นเครื่องจักรผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีศักยภาพสูงมากๆ" ศาสตราจารย์ Tom Krupenkin แผนวิศวกรรมเครื่องกลของมหาวิทยาลัยฯกล่าว "ในขณะที่คุณวิ่งเร็วๆ คุณจะสามารถสร้างกำลังไฟฟ้าได้มากถึงหนึ่งกิโลวัตต์เลยทีเดียว" ซึ่งอ้างตามคำกล่าวของนักวิทยาศาสตร์ พลังงานไฟฟ้าที่ได้นั้นมากเกินพอที่จะใช้ชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเสียอีก แม้วิธีสร้างพลังงานไฟฟ้าแบบนี้จะพบได้ในแก็ดเจ็ตอิเล็กทรอนิกส์ทีใช้พลังงานต่ำ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พบกลไกใดที่สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าได้เท่ากับเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้ในระดับหน่วยเป็น"วัตต์"เลยทีเดียว


สำหรับการใช้งานเทคโนโลยีนี้ในสเกลที่ใหญ่ขึ้นจะอยุ่ใต้พื้นของสถานีรถไฟโตเกียวที่จะคอยเก็บแรงสั่นสะเทือนของผู้คนนับพันที่เดินไปมา โดยพลังงานเหล่านี้จะถูกแปลงไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงประตูไฟฟ้าอัตโนมัติของสถานี กลไกการสร้างกำลังไฟฟ้าส่วนบุคคลแบบใหม่ (new personal mechanism) จะใช้การแปลงพลังงานจากการเปลี่ยนแปลงของของเหลวขนาดเล็กหลายๆ หยดไปเป็นกระแสไฟฟ้า เมื่อมันถูกติดตั้งเข้าไปในรองเท้า ของเหลวขนาดจิ๋วหลายพันหยดจะสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้มากพอที่จะชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน หรือแม้แต่โน้ตบุ๊ค


ความท้าทายยิ่งกว่าก็คือ การทำให้มันสามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เช่น การติดตั้งพอร์ต USB บนรองเท้า เอ่อ...มันอาจจะฟังดูไม่เหมาะในทางปฏิบัติ ซึ่งอาจจะเลี่ยงไปใช้การส่งผ่านพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สายแทน เป็นต้น ฟังดูเท่ดีนะครับ ประเด็นคือ มันไม่ใช่เรื่องคิดเล่นๆ แต่สามารถทำได้จริงๆ ทีมนักวิจัยตั้งใจว่า จะพัฒนาเทคโนโลยีนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถวางจำหน่ายได้ โดยใช้บริษัทที่พวกเขาได้ก่อตั้งไว้เมื่อเร็วๆ นี้ชื่อว่า InStep NanoPower ในอนาคต ถ้าเราเห็นใครวิ่งเหยาะอยู่กับที่แล้วหันมาบอกเราว่า เขากำลังชาร์จแบตฯให้มือถืออยู่ ก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกนะครับ

www.arip.co.th
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:38:53


ความคิดเห็นที่ 1467 (1566105)
ฮือฮา!เศรษฐีมะกันทุ่มงบสร้างประเทศตัวเองกลางมหาสมุทร‏



 

|



เดอะซัน - มหาเศรษฐีสหรัฐฯทำฮือฮาวางแผนสร้างประเทศของตนเอง ด้วยการสรรค์สร้างอาณาจักรบนแท่นลอยน้ำขนาดมโหฬารและล่องลอยอยู่ในเขตน่านน้ำสากล
       
       ปีเตอร์ ธีล ผู้ก่อตี้ง Paypal เตรียมควักทุนดำเนินโครงการดังกล่าว ที่มีเจตนาสร้างสังคมที่มีการปกครองใหม่ๆในวิธีการแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับระบอบรัฐแบบดั้งเดิม โดยชุมชนในดินแดนลอยน้ำแห่งนี้จะปกครองด้วยแนวคิดอิสระเสรีและมีที่พักอาศัยอันใหญ่โตตั้งอยู่บนแท่นที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร
       
       นิตยสารฉบับหนึ่งระบุว่าเกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นดินแดนแห่งนโยบายอิสระที่ขจัดความเห็นต่างด้วยการลงคะแนน และไม่จำเป็นต้องมีระบบสังคมสงเคราะห์ ประมวลข้อบังคับอาคาร ไม่มีค่าแรงขั้นต่ำ ยกเว้นเพียงข้อจำกัดด้านอาวุธเพียงเล็กน้อย และเกาะตัวอย่างแรกสำหรับทดลองของโครงการอันสุดโต่งนี้จะถูกสร้างขึ้นนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโกอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า

ธีล วัย 43 ปี ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ว่าจ้างสถาบัน Seasteading Institute เป็นจำนวน 763,000 ปอนด์ สำหรับวางแผนก่อสร้างประเทศลอยน้ำ แต่ทางสถาบันแห่งนี้ชี้แจงว่าโครงการนี้เป็นเพียงทางเลือกสำหรับสร้างสังคมใหม่ๆบนโลกใบนี้เท่านั้น
       
       สถาบันแห่งนี้บริหารงานโดยนายปาตรี ฟรีดแมน หลายชายของนายมิลตัน ฟรีดแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ทั้งนี้นายปาตรี ระบุว่า "รัฐดังกล่าวยังขาดประสิทธิภาพทางอุตสาหกรรมเพราะมีอุปสรรคในการเข้าถึง และหากต้องการมีสถานะเทียบเท่ากับรัฐต่างๆที่อยู่บนผืนแผ่นดิน คุณจำเป็นต้องชนะสงคราม ชนะเลือกตั้งหรือปฏิวัติ"
       
       ธีล ยอมรับว่ามีหลายคนที่มองว่าแนวคิดสร้างสังคมใหม่ในมหาสมุทรเป็นเพียงแค่แผนบ้าๆบอๆ "มีคนจำนวนมากคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่นั่นถือเป็นเรื่องดี เราไม่ต้องไปสนใจคนพวกนี้มากนักหรอก เพราะทันทีที่พวกเขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็จะไม่สนใจเรา และพวกเขาก็จะได้ไม่พยายามหยุดยั้งเรา และจนกว่าพวกเขาจะรู้ตัวมันก็สายเกินไปเสียแล้ว"



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:40:36


ความคิดเห็นที่ 1468 (1566106)
ฮือฮา!เศรษฐีมะกันทุ่มงบสร้างประเทศตัวเองกลางมหาสมุทร‏



 

|



เดอะซัน - มหาเศรษฐีสหรัฐฯทำฮือฮาวางแผนสร้างประเทศของตนเอง ด้วยการสรรค์สร้างอาณาจักรบนแท่นลอยน้ำขนาดมโหฬารและล่องลอยอยู่ในเขตน่านน้ำสากล
       
       ปีเตอร์ ธีล ผู้ก่อตี้ง Paypal เตรียมควักทุนดำเนินโครงการดังกล่าว ที่มีเจตนาสร้างสังคมที่มีการปกครองใหม่ๆในวิธีการแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับระบอบรัฐแบบดั้งเดิม โดยชุมชนในดินแดนลอยน้ำแห่งนี้จะปกครองด้วยแนวคิดอิสระเสรีและมีที่พักอาศัยอันใหญ่โตตั้งอยู่บนแท่นที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร
       
       นิตยสารฉบับหนึ่งระบุว่าเกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นดินแดนแห่งนโยบายอิสระที่ขจัดความเห็นต่างด้วยการลงคะแนน และไม่จำเป็นต้องมีระบบสังคมสงเคราะห์ ประมวลข้อบังคับอาคาร ไม่มีค่าแรงขั้นต่ำ ยกเว้นเพียงข้อจำกัดด้านอาวุธเพียงเล็กน้อย และเกาะตัวอย่างแรกสำหรับทดลองของโครงการอันสุดโต่งนี้จะถูกสร้างขึ้นนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโกอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า

ธีล วัย 43 ปี ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ว่าจ้างสถาบัน Seasteading Institute เป็นจำนวน 763,000 ปอนด์ สำหรับวางแผนก่อสร้างประเทศลอยน้ำ แต่ทางสถาบันแห่งนี้ชี้แจงว่าโครงการนี้เป็นเพียงทางเลือกสำหรับสร้างสังคมใหม่ๆบนโลกใบนี้เท่านั้น
       
       สถาบันแห่งนี้บริหารงานโดยนายปาตรี ฟรีดแมน หลายชายของนายมิลตัน ฟรีดแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ทั้งนี้นายปาตรี ระบุว่า "รัฐดังกล่าวยังขาดประสิทธิภาพทางอุตสาหกรรมเพราะมีอุปสรรคในการเข้าถึง และหากต้องการมีสถานะเทียบเท่ากับรัฐต่างๆที่อยู่บนผืนแผ่นดิน คุณจำเป็นต้องชนะสงคราม ชนะเลือกตั้งหรือปฏิวัติ"
       
       ธีล ยอมรับว่ามีหลายคนที่มองว่าแนวคิดสร้างสังคมใหม่ในมหาสมุทรเป็นเพียงแค่แผนบ้าๆบอๆ "มีคนจำนวนมากคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่นั่นถือเป็นเรื่องดี เราไม่ต้องไปสนใจคนพวกนี้มากนักหรอก เพราะทันทีที่พวกเขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็จะไม่สนใจเรา และพวกเขาก็จะได้ไม่พยายามหยุดยั้งเรา และจนกว่าพวกเขาจะรู้ตัวมันก็สายเกินไปเสียแล้ว"



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:40:36


ความคิดเห็นที่ 1469 (1566107)

เขื่อนสิริกิติ์กักน้ำ93% อีกเพียง2เมตรครึ่งจ่อล้น

วันที่ 26/08/2554 17:32 (ผ่านมา 8 นาที)






สถานการณ์ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์จ่อวิกฤติ พบปริมาณไหลเข้าสู่เขื่อนวันละประมาณ100ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีปริมาณกักเก็บอยู่ที่ร้อยละ 93% เหลืออีกไม่ถึง 2 เมตรครึ่งน้ำจะเต็มเขื่อนฯ...

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ส.ค. นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวถึงสถานการณ์ของการระบายน้ำ โดยยอมรับว่า ระดับน้ำเหนือเขื่อนในขณะนี้อยู่ในระดับควบคุมสูงสุดแล้ว ในขณะที่เลี่ยงการเปิดประตูระบายน้ำฉุกเฉินด้วยการเดินเครื่องปั่นไฟฟ้าใน ขั้น Maximum Load หรือเดินเครื่องสูงสุด จำนวน 4 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ถึงวันละ 67 ล้านลูกบาศก์ และผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 130 เมกกะวัตต์ต่อ 1 เครื่อง ในขณะนี้ได้มีคำสั่งจากส่วนกลางให้การไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ได้ชะลอการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อบรรเทาสภาวะวิกฤติหนักทางด้านท้ายน้ำที่มีน้ำหนุนจากฝนตกและแม่น้ำสาขาต่างๆ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่านน้ำจะไหลลงมาที่เหนือเขื่อนสิริกิติ์

"ซึ่งสถานการณ์ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนฯ ตอนนี้ปริมาณไหลเข้าสู่เขื่อนวันละประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในขณะที่การระบายน้ำออกเพียงวันละประมาณ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เกิดประมาณน้ำตกค้างในเขื่อน ณ ขณะนี้ปริมาณกักเก็บอยู่ที่ร้อยละ 93% แล้ว เหลืออีกไม่ถึง 2 เมตรครึ่ง น้ำก็จะเต็มเขื่อนฯแล้ว ฉะนั้นเพื่อเป็นการพร่องน้ำเพื่อรอรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่เหลืออีก ประมาณ 2 เดือนให้ถึง 1,600 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าหากสามารถระบายน้ำได้อย่างเช่นนี้อีกประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ก็จะเข้าสู่สภาวะปกติแล้วแต่ต้องอยู่กับสถานการณ์การว่าฝนจะตกมากน้อยขนาดไหนเพราะถ้าเราปล่อยน้ำจากเขื่อนมากไปกว่านี้จะมีผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำน่าน และที่ อำเภอตรอน อำเภอพิชัย" ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ฯ กล่าว

นายธนรัชต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนทางจังหวัดพิษณุโลกน้ำอาจจะเอ่อล้นท่วมในตัวเมืองได้เพราะน้ำที่เขื่อนแควน้ำ จังหวัดพิษณุโลกซึ่งในขณะนี้มีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีประกอบกับทางชลประทาน ได้ประสานกับทางเขื่อนฯให้ปล่อยน้ำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:42:17


ความคิดเห็นที่ 1470 (1566108)

น้ำป่าถล่ม รีสอร์ท อ.ปาย เร่งอพยพวุ่น

วันที่ 26/08/2554 14:00 (ผ่านมา 3 ชั่วโมง 46 นาที)



น้ำป่าถล่มรีสอร์ทหลายแห่ง ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วิกฤตเจ้าหน้าที่ต้องใส่ชูชีพลอยน้ำออกช่วยเหลือประชาชน...

เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเข้า บ.แก่งทรายมูล ม.14 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สร้างเรียงรายลงมาตามลำห้วยแม่ตื๋น ที่ไหลลงสู่แม่น้ำกก โดยทันที ที่เกิดเหตุ พ.อ.วิษณุ สุนทรารักษ์ หน.ฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภ.3 ส่วนแยก 1 นำกำลังทหารพรานเข้าช่วยเหลืออพยพราษฏร์ออกจากพื้นที่ ร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง อบต.ท่าตอน และ ตร.สภ.อ.แม่อาย ทำให้มีบ้านเรือนถูกกระแสน้ำพัดทั้งดินโคลน และรากไม้ทับบ้านจำนวน 15 หลังคาเรือน เสียหายทั้งหลังจำนวน 3 หลังคาเรือน ข้าวสารเสียหาย 2 เกวียน รถยนต์ 1 คัน สัตว์เลี้ยงจำนวนหนึ่ง

ล่าสุด นายเสกสรร ไตรลึก ปลัด อบต.ท่าตอนนำรถแบ็คโฮ พร้อม จนท.เข้าช่วยเหลือราษฏร์ รวมถึงเปิดทางน้ำ ให้น้ำ นำดินโคลน และรากไม้ออกจากลำห้วย ส่วนสาเหตุเกิดจากราษฏร์สร้างบ้านเรือนลุกเข้าไปปิดลำห้วย ทำให้ลำห้วยแคบน้ำไหลไม่สะดวก

ส่วนที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักลงมาตลอดทั้งคืน ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.จนถึงเช้าวันที่ 26 ส.ค. จนทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาจากดอยสูงเข้าเอ่อล้นเต็มถนนเส้นทางเส้นทาง 1095 สายเชียงใหม่-ปาย ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่ อ.ปาย

จากนั้นได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและรีสอร์ท ริมแม่น้ำปายย่านรอยต่อระหว่างบ้านทุ่งโป่งและ บ้านห้วยทราย อ.ปาย ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองปายเพียงเล็กน้อย ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น บ้านเรือนและรีสอร์ทหลายแหล่งจมน้ำได้รับความเสียหาย ทางอำเภอ ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พร้อมประกาศเตือนภัยน้ำป่าที่อาจจะเข้ามาสมทบอีกระลอกหนึ่ง

ทางด้าน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สภาวะฝนที่ตกหนักตลอดคืนบนดอยหลวงเชียงดาว ทำให้เกิดน้ำทะลักลงมาอีกระลอก เข้าท่วมพื้นทีไร่สวนของบ้าน หมู่ 7 ต.เชียงดาว และน้ำในแม่น้ำปิงไหลเชี่ยวกราก ได้พัดเอาเศษไม้และขยะไหลเข้ากระแทกสะพานแขวนที่เพิ่งทำการสร้างมาเพียง 4 ปี มูลค่า 500,000 บาทใช้เป็นเส้นทางสัญจรเดินข้ามไปมาและใช้เป็นสถานที่จัดลานลอยกระทง และงานพิธีขอขมาแม่น้ำปิง ได้พังขาดสะบั้นไหลไปกับน้ำ

และทางทีมงานกู้ภัยเชียงดาว นำโดย นายอดิศักดิ์ คุ้มเมือง หัวหน้ากู้ภัย และ เป็น ส.ท.ตำบลเชียงดาว ได้นำเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อชูชีพ ลอยคอออกสำรวจช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ตามกระท่อมเฝ้าสวนหรือบ้านเรือนใกล้น้ำเพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:43:26


ความคิดเห็นที่ 1471 (1566109)

US ประกาศภาวะฉุกเฉิน-เตรียมรับมือ “เฮอร์ริเคนไอรีน” คาดขึ้นฝั่งเสาร์นี้

วันที่ 26/08/2554 16:04 (ผ่านมา 57 นาที)



ภาพถ่ายจากดาวเทียมบันทึกภาพพายุเฮอร์ริเคนไอรีน เมื่อวันพุธ (25) เอเอฟพี - ประชาชนหลายล้านครัวเรือนในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ วันนี้ (26) กำลังเตรียมรับมือกับพายุเฮอร์ริเคนที่นานครั้งจะพัดผ่านแถบนี้ ขณะที่พายุไอรีนกำลังเคลื่อนตัวสู่สหรัฐฯ หลังพัดถล่มบาฮามาส จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย

ทางการสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐนอร์ทแคโรไลนาไปจนถึงรัฐนิวยอร์กได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประชาชนจำนวนมากถูกสั่งให้อพยพขึ้นที่สูง โดยพายุไอรีนซึ่งมีความรุนแรงระดับ 3 กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ

ทั้งนี้ มีการพยากรณ์ว่าพายุไอรีนจะขึ้นฝั่งสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (27) ทางการของรัฐต่างๆ ได้แจ้งเตือนแก่ประชาชนกว่า 65 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุ ให้เตรียมตัวรับมือกับเฮอร์ริเคนลูกนี้

วันนี้ เวลา 0600 GMT มีรายงานว่าตำแหน่งของพายุไอรีนอยู่ห่างจากชายฝั่งรัฐฟลอริดาประมาณ 740 กิโลเมตร ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ รายงาน โดยพายุไอรีนเคลื่อนตัวขึ้นทิศเหนือด้วยความเร็ว 22 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามทิศทางการเคลื่อนตัวปัจจุบัน พายุไอรีนจะเข้าถล่มรัฐนอร์ทแคโรไลนาในช่วงเช้าตรู่วันเสาร์

ขณะที่ทางฝั่งทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแอตแลนติกมักเผชิญกับภัยจากพายุเฮอร์ริเคนเป็นประจำ ทว่าบริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ไม่เคยประสบวาตภัยครั้งใหญ่ ตั้งแต่พายุเฮอร์ริเคนกลอเรียเมื่อปี 1985 ซึ่งถล่มพื้นที่ในรัฐนิวยอร์ก

ทั้งนี้ นับเป็นเหตุการณ์ผิดปกติครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ของพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ หลังจากเมื่อวันอังคาร (23) เพิ่งเกิดแผ่นดิวไหว 5.8 เขย่าเมืองใหญ่ต่างๆ ซึ่งรวมทั้งกรุงวอชิงตัน

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ส่วนกองทัพสหรัฐฯ แถลงว่า มีกองกำลังรักษาดินแดน (National Guard) จำนวน 98,000 นาย เข้าประจำการ พร้อมออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:44:19


ความคิดเห็นที่ 1472 (1566110)

สหรัฐผวาหนักพายุไอรีนจ่อขึ้นฝั่ง

วันที่ 26/08/2554 13:46 (ผ่านมา 4 ชั่วโมง 1 นาที)



สหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินแจ้งอพยพประชาชนชายฝั่งตอ.เฝ้าระวังพายุเฮอร์ริเคน“ไอรีน”ขึ้นฝั่งสุดสัปดาห์นี้

เมื่อวันนี้ (26 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฮัตเตอราส รัฐนอร์ธ แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ประชาชนชาวอเมริกันจำนวนมากที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศ ได้รับคำแนะนำให้อพยพขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย หลังได้รับรายงานเรื่องการเคลื่อนตัวของพายุเฮอร์ริเคน “ไอรีน” ซึ่งได้พัดเข้าถล่มหมู่เกาะบาฮามาสไปแล้ว แม้จะยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่พายุเฮอร์ริเคนลูกนี้ก็ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 5 ศพ ตามเส้นทางพาดผ่าน เช่น 2 ศพที่เฮติ 2 ศพที่สาธารณรัฐโดมินิกัน และอีก 1 ศพที่เปอร์โตริโก้

ข่าวแจ้งว่าทางการของรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า ไปจนถึงรัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว พร้อมกับอพยพผู้คนขึ้นที่สูงก่อนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่พายุเฮอร์ริเคน ไอรีน เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมพัดเข้าสู่จุดศูนย์กลาง 185 กม.ต่อชั่วโมง มุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่รัฐนอร์ธแคโรไลน่าเช้าวันเสาร์นี้ ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไปยังรัฐนิวยอร์ก ซึ่งคาดว่าจะพัดเข้าถล่มในวันอาทิตย์นี้ ทั้งนี้นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กได้กล่าวเตือนว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามตึกสูงระฟ้าของนครนิวยอร์ก เชื่อว่ามีปลอดภัยเพียงพอ แต่ก็เตือนให้เตรียมพร้อมหากต้องอพยพเพื่อความปลอดภัย.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:45:26


ความคิดเห็นที่ 1473 (1566111)

เตือน! รับมือโรคมือ เท้า ปากชนิดใหม่ อีวี71 ทำเด็กเสียชีวิตแล้ว 1ราย

 

 

รคมือเท้าปาก26ส.ค.54 รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (25ส.ค.)นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกแถลงข่าวหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กเล็กแล้วเสร็จ ว่า
ปีนี้ถือเป็นปีแรกในรอบ 5 ปีที่พบผู้เสียชีวิตจากโรคมือ เท้า ปาก โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ซึ่งที่ผ่านมาไทยจะพบเชื้อมือ เท้า ปาก ชนิดที่เรียกว่า ค็อกซากี (Coxsackie) ไวรัส ชนิดเอ 16 แต่จากการเฝ้าระวังการระบาดตั้งแต่ปี 2554 พบว่ามีเชื้อเอ็นเทอโรไวรัส 71 (Entero Virus 71) หรืออีวี 71 ที่ทำให้สถานการณ์ของโรคดังกล่าวระบาดรุนแรงขึ้น
ปกติโรคดังกล่าวจะระบาดเฉพาะเด็กอายุตั้งแต่ 3ขวบขึ้นไป แต่ครั้งนี้เด็กอายุต่ำกว่า 2ปี ก็มีการระบาดอยู่ด้วย โดย 1 ในผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วอายุเพียง 1 ปี 8 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้การที่อายุของการระบาดต่ำลงทำให้เกิดความยากลำบากในการดูแล เพราะเด็กเล็กไม่สามารถบอกความผิดปกติได้เท่าเด็กโต ทำให้อาการทรุดหนักและเสี่ยงที่จะเสียชีวิต
การระบาดที่รุนแรงครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากระบบเฝ้าระวังบกพร่อง แต่เกิดจากลักษณะของเชื้อที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น รวมทั้งเด็กมีอายุน้อยลง ทำให้ภูมิต้านทานลดลง การควบคุมโรคทำได้ยาก ดังนั้นกรมควบคุมโรคจะสืบประวัติของผู้ป่วยเด็กเล็กที่มีอาการหนักและเสียชีวิตในห้องไอซียู และผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงย้อนหลัง เช่น มีแผลในปาก มีการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจรุนแรง มีอาการชัก เป็นต้น เพื่อเฝ้าระวังต่อไป” นพ.สุวรรณชัยกล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:48:23


ความคิดเห็นที่ 1474 (1566112)

ฟิลิปปินส์ มีสุญหาย 1 คน จาก พายุ Nanmadol ถล่ม

1 missing as strong typhoon skirts Philippines

Philippine Times
Friday 26th August, 2011  
(Source: San Diego Union-Tribune)


MANILA, Philippines -; At least one fisherman is reported missing and several towns in the northern and central Philippines are flooded as a slow-moving typhoon gains strength while drifting toward Taiwan.

Forecasters say Nanmadol is expected to become a super-typhoon later Friday with winds of up to 150 miles (240 kilometers) per hour as it ... ...

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:49:34


ความคิดเห็นที่ 1475 (1566113)

ฟิลิปปินส์ มีสุญหาย 1 คน จาก พายุ Nanmadol ถล่ม

1 missing as strong typhoon skirts Philippines

Philippine Times
Friday 26th August, 2011  
(Source: San Diego Union-Tribune)


MANILA, Philippines -; At least one fisherman is reported missing and several towns in the northern and central Philippines are flooded as a slow-moving typhoon gains strength while drifting toward Taiwan.

Forecasters say Nanmadol is expected to become a super-typhoon later Friday with winds of up to 150 miles (240 kilometers) per hour as it ... ...

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:49:34


ความคิดเห็นที่ 1476 (1566114)

 
ชาวอเมริกัน 65 ล้านคนเตรียมรับมือเฮอริเคนไอรีน
ความเสียหายจากการพัดถล่มของเฮอริเคนไอรีน ที่หมู่เกาะบาฮามาสเมื่อวานนี้ ทำให้บ้านเรือน 100 หลังพังเสียหาย ล่าสุดเตรียมพัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯและจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี

เมื่อวานนี้ประชาชนบนหมู่เกาะบาฮามาสต้องเผชิญทั้งลมแรงและฝนตกอย่างหนักจากการพัดถล่มของเฮอริเคนไอรีน เกาะแอ็คลินส์และเกาะครุก ได้รับความเสียหายหนักที่สุด บ้านเรือน 90 เปอร์เซนต์ได้รับความเสียหาย ส่วนที่เกาะมายากัวน่า กระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด รายงานระบุว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายราว 100 หลังคาเรือน อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

ล่าสุดเฮอริเคนไอรีนได้เคลื่อนตัวไปทางเหนือ มุ่งไปทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ และจะทวีกำลังเป็นเฮอริเคนระดับ 3 ความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะเป็นเฮอริเคนที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปีที่จะพัดถล่มพื้นที่ตะวันออกสหรัฐฯในสุดสัปดาห์นี้ รายงานบางกระแสระบุว่า เฮอริเคนไอรีนจะเป็นฝันร้ายของชาวอเมริกันในแถบตะวันออกเลยทีเดียว พยากรณ์อากาศคาดว่า ไอรีนจะขึ้นฝั่งที่รัฐนอร์ท แคโรไลน่าเป็นจุดแรกในวันพรุ่งนี้และจะเกิดคลื่นสูง 5 ถึง 10 ฟุตด้วย

ทางการสหรัฐฯได้ประกาศเตือนภัยประชากร 65 ล้านคนตั้งแต่รัฐนอร์ท แคโรไลน่าไปจนถึงนิว เจอร์ซี่และบางส่วนของรัฐเซาท์ แคโรไลน่า และเตือนประชาชนใกล้ชายฝั่งและนักท่องเที่ยวให้อพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่รัฐนอร์ท แคโรไลน่า,เวอร์จิเนีย,แมรี่แลนด์,เดลาแวร์ นิวยอร์คและนิว เจอร์ซี่ ผู้ว่าการรัฐได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ขณะที่โรงกลั่นในแถบชายฝั่งตะวันออก ก็เตรียมหยุดการทำงานล่วงหน้าก่อนพายุพัดถล่ม

รายงานระบุว่า เมืองใหญ่ในสหรัฐฯทั้งที่กรุงวอชิงตันดีซี. เมืองบอสตั้นและนครนิวยอร์ค จะได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนไอรีย. โดยที่กรุงวอชิงตัน ดีซี.เจ้าหน้าที่เป็นห่วงมหาวิหารแห่งชาติที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้ จะเสียหายหนักขึ้นไปอีก ส่วนที่นครนิวยอร์ค นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีได้เตือนประชาชน โดยเฉพาะที่เกาะลอง ไอร์แลนด์ เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบหนักสุด ทางการประกาศเตือนให้ประชาชนกักตุนอาหารและของจำเป็น ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ ขอให้อพยพไปยังที่ปลอดภัย พร้อมทั้งเตือนว่า ระบบขนส่งมวลชนในนิวยอร์คอาจต้องปิดให้บริการสองถึงสามวัน

ผู้เชี่ยวชาญเฮอริเคนคาดว่า ความรุนแรงของไอรีนที่จะพัดถล่มนครนิวยอร์ค จะอยู่ที่ระดับ 1 หรือ 2 ขึ้นอยู่กับเส้นทางการพัดถล่ม โดยปกติแล้วพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯมักจะไม่ค่อยเกิดเฮอริเคน เนื่องจากทะเลในภูมิภาคดังกล่าวมีความหนาวเย็นมากกว่า จึงมักจะเกิดเพียงพายุที่มีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:51:11


ความคิดเห็นที่ 1477 (1566115)
 
ฟิลิปปินส์เตือนปชช.ระวังไต้ฝุ่นนันมาดอล

ไต้ฝุ่นนันมาดอล ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่พัดผ่านทางตอนเหนือและตอนกลาง ของประเทศฟิลิปปินส์ทำให้เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนประชาชน

นักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ ออกมาประกาศเตือนประชาชนทางตอนเหนือ และตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ให้ระมัดระวังอิทธิพลของไต้ฝุ่นนันมาดอล หลังจากที่มีการคาดคะเนว่า จะมีโอกาสเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ซึ่งจะมีความเร็วลมสูงถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ทางการฟิลิปปินส์ ได้เตือนเกษตรกรในจังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วม และได้เตือนชาวประมงให้ระมัดระวังคลื่นสูง 5 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง หลังจากที่มีชาวประมงหายสาบสูญไปแล้ว 1 ราย


INN
วันศุกร์ที่ 26 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 14:45 น.


 
 
หลายเมืองในฟิลิปปินส์เผชิญน้ำท่วมจากอิทธิพลไต้ฝุ่นนันมาดอล


มะนิลา 26 ส.ค. – หลายเมืองทางตอนเหนือและตอนกลางฟิลิปปินส์ถูกน้ำท่วม และมีรายงานชาวประมงอย่างน้อย 1 คนสูญหาย ขณะที่ไต้ฝุ่นนันมาดอลทวีกำลังและเคลื่อนตัวไปทางไต้หวัน

นักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์คาดว่า ไต้ฝุ่นนันมาดอลจะทวีกำลังเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นในเย็นวันนี้ โดยมีความเร็วลมสูงสุด 240 กม./ชม. ขณะเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ 170 กม. รายงานระบุว่า บรรดาเกษตรกรในจังหวัดทางตะวันออกเฉียง เหนือ ต่างเร่งรับมือด้วยการเสริมกระสอบทรายขณะที่น้ำเริ่มท่วมในหลายเมือง นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเตือนให้งดออกเรือและระมัดระวังคลื่นสูง 5 เมตรไปถึงบริเวณอ่าวมะนิลา.


 
เฮอริเคนไอรีนถล่มเฮติ


เฮติ 26 ส.ค.-เฮอริเคนไอรีนยังพัดถล่มประเทศแถบทะเลแคริบเบียนต่อเนื่อง ล่าสุดทำให้ฝนตกหนักในบาฮามาสและเฮติ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน

รักษาการหัวหน้าฝ่ายจัดการภัยพิบัติในจังหวัดไคเบอร์ปัคตุนควา เปิดเผยว่า เกิดน้ำท่วมหุบเขาคุนเดียน สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนหลายหลังและสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่น ๆ ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะสะพานและถนนหลายสายที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วยังไม่ได้รับการซ่อมแซม แต่เจ้าหน้าที่ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์  2 ลำไปช่วยเหลือแล้ว เมื่อวานนี้ และหวังว่า จะสามารถส่งเฮลิคอปเตอร์ไปอีกในวันนี้ โฆษกหน่วยจัดการภัยพิบัติเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คนและประชาชนอีก 38 คนยังคงสูญหาย ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็ก 8 คน ทั้งนี้
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานคาดการณ์ว่า จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าวติดต่อกันอย่างน้อย 24 ชม.


 
น้ำท่วมหมู่บ้านในปากีสถาน มีผู้เสียชีวิต 33 คน

เปชาวาร์ 26 ส.ค. – เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติปากีสถานเปิดเผยวันนี้ว่า เกิดฝนหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 คน และสูญหายอีกหลายสิบคน

รักษาการหัวหน้าฝ่ายจัดการภัยพิบัติในจังหวัดไคเบอร์ปัคตุนควา เปิดเผยว่า เกิดน้ำท่วมหุบเขาคุนเดียน สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนหลายหลังและสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่น ๆ ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะสะพานและถนนหลายสายที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วยังไม่ได้รับการซ่อมแซม แต่เจ้าหน้าที่ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์  2 ลำไปช่วยเหลือแล้ว เมื่อวานนี้ และหวังว่า จะสามารถส่งเฮลิคอปเตอร์ไปอีกในวันนี้ โฆษกหน่วยจัดการภัยพิบัติเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คนและประชาชนอีก 38 คนยังคงสูญหาย ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็ก 8 คน ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานคาดการณ์ว่า จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าวติดต่อกันอย่างน้อย 24 ชม

สำนักข่าวไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:54:29


ความคิดเห็นที่ 1478 (1566116)

รพ.ป่าตองภูเก็ตยังวิกฤตหลังน้ำท่วมห้องกำเนิดไฟฟ้า เปิดรับผู้ป่วยในไม่ได้/ปภ.เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม

ศูนย์ข่าวภูเก็ต-โรงพยาบาลป่าตองภูเก็ตยังวิกฤตไม่สามารถรับผู้ป่วยในได้ เหตุน้ำท่วมจุดกำเนิดระบบไฟฟ้า คาดวันจันทร์นี้เปิดรับผู้ป่วยได้ตามปกติ ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ห่วงพื้นที่เชิงเขาเสี่ยงภัยดินถล่มเฝ้าระวังใกล้ชิด

วันนี้ (26 ส.ค.54) นายแพทย์ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมโรงพยาบาลป่าตอง ว่า หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานเมื่อวานนี้ ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมลานจอดรถและชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นห้องกำเนิดผลิตไฟฟ้าของโรงพยาบาล สูงกว่า 1 เมตร

ล่าสุดขณะนี้บริเวณชั้นใต้ดิน และลานจอดรถของโรงพยาบาลยังมีน้ำท่วมขังประมาณ 50 ซม. ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออก คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการสูบน้ำออก

ส่วนการให้บริการรักษาผู้ป่วย ในวันนี้โรงพยาลยังไม่สามารถรับผู้ป่วยในเข้ารับการรักษาได้ เนื่องจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้ายังถูกน้ำท่วมอยู่ส่งผลให้ห้องผ้าตัด ห้องเอกซเรย์ ห้องคลอดและห้องอื่นๆที่ต้องใช้ไฟฟ้าฉุกเฉินยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้

ขณะที่ผู้ป่วยในที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้จำนวนกว่า 40 ราย โรงพยาบาลได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งสามารถกลับบ้านได้แล้ว

ส่วนการให้บริการของโรงพยาบาล เปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเปิดให้บริการของโรงพยาบาลเต็มรูปแบบจะเปิดให้บริการได้ประมาณวันจันทร์หากฝนไม่ตกลงมาอีก

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตตามปกติ การสัญจรของรถจากตัวเมืองเข้าป่าตอง ซึ่งต้องผ่านเนินเขาป่าตองที่มีปัญหาเรื่องของดินสไลด์และเสาไฟฟ้าล้มเนื่องจากฝนตกหนัก ขณะนี้รถสามารถสัญจรไปมาได้แล้วเช่นกัน และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากำลังเร่งกู้เสาไฟฟ้าแล้วเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ขณะที่นายสันติ์ จันทรวงษ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในภูเก็ตกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงภัยดินถล่มบริเวณเชิงเขาต่างๆในพื้นที่มีการสร้างที่อยู่อาศัย การเปิดหน้าดิน ทั้งในเขตป่าตอง กมลา และกะทู้ หากมีฝนตกลงมาอีกอาจเสี่ยงต่อภัยดินถล่มได้ ซึ่งในช่วงที่มีฝนตกหนักเริ่มมีดินถล่มลงมาแล้วในหลายจุด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามการเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ได้ออกประกาศเตือนสถานการณ์ฝนตกในฝั่งอันดามันไปถึงวันที่ 27 สิงหาคมนี้

ส่วนความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ ในเบื้องต้นมีบ้านเรือนของประชาชนได้รับผลกระทบหลายร้อยหลังคาเรือน เช่น ในพื้นที่ ต.ฉลอง ต.เทพกระษัตรีทั้งในเขตเทศบาล พื้นที่ ต.กมลา และพื้นที่ตำบลป่าตองที่ถูกน้ำท่วมหนัก ซึ่งขณะนี้จังหวัดภูเก็ตประกาศให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นเขตภัยพิบัติ แล้วเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากภัยน้ำท่วมได้ทันที

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:55:20


ความคิดเห็นที่ 1479 (1566117)

 

เชื่อหรือไม่! ผู้เฒ่ามะกันหายหูดับ เพราะแผ่นดินไหว

โรเบิร์ต วัลเดอร์แซค วัย 75 ปี สูญเสียการได้ยินไปเพราะหกล้มเมื่อเดือน มิ.ย.ปีนี้ แต่หลังจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเป็นประวัติกาล ในกรุงวอชิงตันสงบลง เขาก็กลับมาได้ยินเสียงต่างๆ อีกครั้งในทันที...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าเกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับ นายโรเบิร์ต วัลเดอร์แซค ชายชราวัย 75 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อเดือน มิ.ย. เขาสูญเสียการได้ยินไป ในตอนที่เขาหกล้ม จากนั้นมาเขาก็ต้องเขารับการตรวจและรักษาจากศูนย์พยาบาลเวอร์จิเนียมาตลอด และต้องใช้เครื่องช่วยฟัง เพื่อให้พอได้ยินเสียงรอบข้างบ้าง

แต่เร่ืองประหลาดที่ว่า ก็ได้เกิดขึ้นในวันอังคารที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ที่รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งมาถึงกรุงวอชิงตัน ซึ่งขณะนั้น นายวัลเดอร์แซค กำลังนอนอยู่บนเตียง ระหว่างที่ลูกชายทั้ง 4 ของเขามาเยี่ยมที่บ้าน ก็เกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 13.51 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเมื่อแผ่นดินไหวหยุดลง นายวัลเดอร์แซค รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ เขาได้ยิงเสียง ประสาทการได้ยินของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว

เขาบอกว่า ตอนที่เกิดแผ่นดินไหว เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในหัวของเขา จากนั้นเขาก็สามารถได้ยินสรรพเสียงทุกอย่างทันที ซึ่งเรื่องนี้ แม้นาย รอส เฟลตเชอร์ หมอผู้ทำการรักษาเขายังรู้สึกประหลาดใจ"ที่เขาสูญเสียการได้ยินในตอนแรก อาจเป็นเพราะน้ำในหู หรือกระดูกหู เกิดผิดปกติขึ้นมา ซึ่งการที่เขากลับมาได้ยินอีกครั้ง ทำให้ผมแปลกใจมาก ซึ่งผมอยากจะทำการตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้รู้ข้อเท็จจริง" เขากล่าว

แต่นายวัลเดอร์แซค กล่าวว่า เขาไม่สนใจจะตรวจอะไรอีกแล้ว เพราะเขารู้ว่าทำไม เขาถึงหายเป็นปกติ"สำหรับผมนะ นี่คือปาฏิหาริย์ เป็นพรจากพระเจ้าเบื้องบน ไม่มีวันไหนดีกว่านี้อีกแล้ว".

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 01:58:21


ความคิดเห็นที่ 1480 (1566118)

 

นิวยอร์กอพยพขณะเฮอริเคน

ไอรีนมุ่งตอนเหนือ



นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐสั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยง และประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์กแล้ว ขณะที่เฮอริเคนไอรีนเคลื่อนตัวสู่ตอนเหนือ และจะเป็นเฮอริเคนลูกแรกที่พัดกระหน่ำนครนิวยอร์กในรอบกว่า 25 ปี


สภาพรถติดในช่วงอพยพด่วน ......



Grid lock: Cars last night clog the roadway to the Hampton Roads Bridge Tunnel in Norfolk, Virginia
as Hurricane Irene approaches

ประชาชนซึ้อของตุนด่วน เตรียมรับมือ !

Panic: Shoppers in New York stock up on supplies in preparation for the storm


อุปกรณ์ฉุกเฉิน



Emergency kit: A woman looks at kits containing a generator, a five-gallon gas container
and a power cord at a Home Depot store in Kitty Hawk in the North Carolina Outerbanks

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:05:51


ความคิดเห็นที่ 1481 (1566120)

พังงาประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน 5 อำเภอ

26 สค. 2554 12:31 น.

นายสมเกียรติ อินทรจันทร์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพังงา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่ฝนตกหนักในเขตจังหวัดพังงาตั้งเมื่อช่างกลางดึกของวันที่ 25 ส.ค. ทำให้หลายพื้นที่ได้ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรและทรัพย์สินอื่นๆในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ท้ายเหมือง 6 ตำบล ได้แก่ ต.ท้ายเหมือง ต.ลำแก่น ต.ทุ่งมะพร้าว ต.ลำภี ต.บางทอง และ ต.นายเตย อ.ตะกั่วป่า 4 ตำบล ได้แก่ ต.บางม่วง ต.คึกคัก ต.โคกเคียน และ ต.บางไทร อ.กะปง 4 ตำบล ได้แก่ ต.เหมาะ ต.ท่านา ต.เหลและ ต.กะปง อ.คุระบุรี 4 ตำบล ได้แก่ ต.บางวัน ต.เกาะพระทอง ต.แม่นางขาว และ ต.คุระ อ.และ 5 อ.ตะกั่วทุ่ง 3 ตำบล ได้แก่ ต.กะโสม ต.ถ้ำ และ ต.คลองเคียน รวม 21 ตำบล ประชาชนเดือดร้อน 5,210 ครอบครัว จำนวน 24,904 คน
ซึ่งในด้านทรัพย์สินอื่นของประชาชน ๆรวมทั้งทรัพย์สินทางราชการตลอดจนถนนหนทางและสะพาน ทางท้องถิ่นจะรายงานเข้ามาอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นในแต่ละพื้นที่ การประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินก็เพื่อความสะดวกในการช่วยเหลือประชาชนตามหลักเกณฑ์ราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่า ขณะนี้ในจังหวัดพังงา ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ลดระดับความแรงลงกว่าเมื่อวานนี้ ซึ่งพบว่าประชาชนที่ขนของหนีน้ำเมื่อวานเริ่มที่จะกลับมาทำความสะอาดบ้านเรือนและขนของกลับมาแล้วในบางพื้นที่ ในส่วนพื้นที่ใกล้แม่น้ำใหญ่อย่างแม่น้ำตะกั่วป่า และคลองทุ่งมะพร้าว ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังคงรอท่าทีจากฝนที่จะตกลงมาว่ามากหรือน้อย ในส่วนขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้นำน้ำดื่มและจัดอาหารกล่องให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้ว และในส่วนของถนนหนทางสายใหญ่อย่างถนนเพชรเกษมขณะนี้ได้ใช้ได้ตามปกติทุกจุดแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:07:47


ความคิดเห็นที่ 1482 (1566121)

ไม้ใหญ่ล้มขวางเปิดถนน 1095 เข้าแม่ฮ่องสอน จนท.เร่งเคลียร์คาดบ่ายนี้เปิดได้

 

แม่ฮ่องสอน - ฝนตกหนักในพื้นที่แม่ฮ่องสอน ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 4 คนโอบล้มขวางทางหลวงแผ่นดิน 1095 รถยนต์ผ่านไม่ได้ หมวดการทางแม่ฮ่องสอน เร่งระดมกำลัง จนท.เคลียร์แล้ว คาดบ่ายวันนี้ (26) เปิดได้ ขณะที่น้ำปาย-ลำน้ำแม่สะงี กลับล้นตลิ่งอีก

เมื่อช่วงวันนี้ (26 ส.ค.) นายวีรพล วงศ์พุฒิ หมวดการทางแม่ฮ่องสอน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่หมวดการทางแม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งอุปกรณ์ (เลื่อยยนต์) ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 4 คนโอบที่ล้มกีดขวางการจราจรทางหลวงแผ่นดิน 1095 สายแม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า หลักกิโลเมตรที่ 194 เพื่อเร่งตัดต้นไม้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นถนนสายหลักไปยังอำเภอปางมะผ้า-ปาย และจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (26 ส.ค ) รถยนต์ทุกชนิด น่าจะผ่านบริเวณที่ต้นล้มกีดขวางการจราจรได้อย่างแน่นอน

นายวีรพล กล่าวว่า ทางหลวงแผ่นดิน 1095 มีดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางและมีต้นไม้ล้มลงมาทับเส้นทางเป็นระยะๆ ขอใช้ผู้รถถนนสายดังกล่าวควรระมัดระวัง ซึ่งหมวดการทางฯก็ได้ออกตรวจบนเส้นทางตลอดเวลาในระยะนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่ใช้รถบนท้องถนน

นายพีรัตน์ เรืองสุกใส ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ระยะนี้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำปาย เพิ่มขึ้นและเริ่มเอ่อล้นเข้าพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ตำบลปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ น้ำในลำน้ำแม่สะงี ก็เริ่มเอ่อล้นเข้าพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ตำบลหมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ด้วยเช่นกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:09:21


ความคิดเห็นที่ 1483 (1566122)


เวลาที่เราจะให้ของอะไรๆ กับผู้อื่น เรามักจะเลือกหาของดีๆ ให้เขา เพราะเรารู้ว่าเป็นธรรมชาติของคนที่อยากจะได้แต่ของดีๆ ไม่มีใครอยากได้ของไร้ค่าหรือมีค่าน้อย บางคนเกร็งเกินไป ไม่กล้าให้ของเล็กน้อยแก่ผู้อื่น เพราะเกรงจะไม่เป็นที่ถูกใจ จึงสรรหาของมีค่ามากไปให้จนผู้รับไม่กล้าใช้ เพราะมันดีเกินไป ได้แต่เก็บใส่ตู้โชว์ ไม่ยอมใช้จนตายไป ลูกหลานก็เอาไว้โชว์ต่อไปอีก มันน่าขำจริงเชียว !

ญาติโยมโดยทั่วไปก็เหมือนกัน เวลาทำอาหารถวายพระ มักจะเน้นพวกแกง ต้ม ผัด เอาไว้ก่อน ถึงจะทำประณีตอย่างไรก็ตาม พระท่านก็ฉันไม่ใคร่ได้หรอก เพราะท่านฉันจำเจอยู่ทุกๆ วัน อยู่แล้ว มันเบื่อได้เหมือนกัน ไม่ใคร่มีใครเอาน้ำพริก ผักไปถวาย ลองเอาไปถวายซิ ท่านฉันข้าวได้มากเลยแหละ

น้ำพริก ผัก เป็นอาหารที่ปรุงแต่งรสน้อยกว่าพวกแกง ผัดซึ่งปรุงแต่งรสจนบางครั้งเพียงได้กลิ่นก็เกิดอาการคลื่นเหียนเวียนหัว เสียแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามน้ำพริกว่าเป็นอาหารเล็กน้อย ไม่สำคัญ เพราะน้ำพริกนี่แหละทำให้ชาวนาชาวไร่มีร่างกายสมบูรณ์


กรณีที่ผมเล่ามานี้ เคยมีกรณีข้างเคียงเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เรื่องมีว่า

สมเด็จฯ โต ได้รับนิมนต์ให้ไปฉันในพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนไตรแพร สมเด็จฯ โตท่านก็เอาไตรแพรนั้นเช็ดปาก เช็ดมือยุ่งไปหมด พระจอมเกล้าฯ ทรงทักว่า “ไตรเขาดีๆ เอาไปเช็ดเปรอะหมด”

สมเด็จฯ โต ตอบสวนมาทันทีว่า “อะไรๆ ก็ถวายได้ ผ้าเช็ดมือถวายไม่ได้ อาตมาภาพก็ต้องเอาผ้าไตรของอาตมาเช็ดอาตมาเอง เป็นอันได้บริโภคของทายกแล้ว ไม่เป็นศรัทธาไทยวิบัติ” ผ้าเช็ดมือผืนเล็กๆ ราคาผืนไม่กี่บาท แต่ไม่มีใครคิดซื้อหามาถวายพระไม่รู้ว่าเพราะอะไร อะไรๆ ก็ถวายได้ แต่ผ้าเช็ดมือถวายกันไม่ได้

การกระทำของสมเด็จฯ โต เป็นการสอนให้รู้ว่า อย่าเห็นแต่สิ่งของสำคัญจนลืมของเล็กๆ น้อยๆ เพราะบางทีของเล็กน้อยก็สำคัญไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน

ธรรมะเดลิเวอรี่


เวลาที่เราจะให้ของอะไรๆ กับผู้อื่น เรามักจะเลือกหาของดีๆ ให้เขา เพราะเรารู้ว่าเป็นธรรมชาติของคนที่อยากจะได้แต่ของดีๆ ไม่มีใครอยากได้ของไร้ค่าหรือมีค่าน้อย บางคนเกร็งเกินไป ไม่กล้าให้ของเล็กน้อยแก่ผู้อื่น เพราะเกรงจะไม่เป็นที่ถูกใจ จึงสรรหาของมีค่ามากไปให้จนผู้รับไม่กล้าใช้ เพราะมันดีเกินไป ได้แต่เก็บใส่ตู้โชว์ ไม่ยอมใช้จนตายไป ลูกหลานก็เอาไว้โชว์ต่อไปอีก มันน่าขำจริงเชียว !

ญาติโยมโดยทั่วไปก็เหมือนกัน เวลาทำอาหารถวายพระ มักจะเน้นพวกแกง ต้ม ผัด เอาไว้ก่อน ถึงจะทำประณีตอย่างไรก็ตาม พระท่านก็ฉันไม่ใคร่ได้หรอก เพราะท่านฉันจำเจอยู่ทุกๆ วัน อยู่แล้ว มันเบื่อได้เหมือนกัน ไม่ใคร่มีใครเอาน้ำพริก ผักไปถวาย ลองเอาไปถวายซิ ท่านฉันข้าวได้มากเลยแหละ

น้ำพริก ผัก เป็นอาหารที่ปรุงแต่งรสน้อยกว่าพวกแกง ผัดซึ่งปรุงแต่งรสจนบางครั้งเพียงได้กลิ่นก็เกิดอาการคลื่นเหียนเวียนหัว เสียแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามน้ำพริกว่าเป็นอาหารเล็กน้อย ไม่สำคัญ เพราะน้ำพริกนี่แหละทำให้ชาวนาชาวไร่มีร่างกายสมบูรณ์


กรณีที่ผมเล่ามานี้ เคยมีกรณีข้างเคียงเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เรื่องมีว่า

สมเด็จฯ โต ได้รับนิมนต์ให้ไปฉันในพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนไตรแพร สมเด็จฯ โตท่านก็เอาไตรแพรนั้นเช็ดปาก เช็ดมือยุ่งไปหมด พระจอมเกล้าฯ ทรงทักว่า “ไตรเขาดีๆ เอาไปเช็ดเปรอะหมด”

สมเด็จฯ โต ตอบสวนมาทันทีว่า “อะไรๆ ก็ถวายได้ ผ้าเช็ดมือถวายไม่ได้ อาตมาภาพก็ต้องเอาผ้าไตรของอาตมาเช็ดอาตมาเอง เป็นอันได้บริโภคของทายกแล้ว ไม่เป็นศรัทธาไทยวิบัติ” ผ้าเช็ดมือผืนเล็กๆ ราคาผืนไม่กี่บาท แต่ไม่มีใครคิดซื้อหามาถวายพระไม่รู้ว่าเพราะอะไร อะไรๆ ก็ถวายได้ แต่ผ้าเช็ดมือถวายกันไม่ได้

การกระทำของสมเด็จฯ โต เป็นการสอนให้รู้ว่า อย่าเห็นแต่สิ่งของสำคัญจนลืมของเล็กๆ น้อยๆ เพราะบางทีของเล็กน้อยก็สำคัญไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน

ธรรมะเดลิเวอรี่


เวลาที่เราจะให้ของอะไรๆ กับผู้อื่น เรามักจะเลือกหาของดีๆ ให้เขา เพราะเรารู้ว่าเป็นธรรมชาติของคนที่อยากจะได้แต่ของดีๆ ไม่มีใครอยากได้ของไร้ค่าหรือมีค่าน้อย บางคนเกร็งเกินไป ไม่กล้าให้ของเล็กน้อยแก่ผู้อื่น เพราะเกรงจะไม่เป็นที่ถูกใจ จึงสรรหาของมีค่ามากไปให้จนผู้รับไม่กล้าใช้ เพราะมันดีเกินไป ได้แต่เก็บใส่ตู้โชว์ ไม่ยอมใช้จนตายไป ลูกหลานก็เอาไว้โชว์ต่อไปอีก มันน่าขำจริงเชียว !

ญาติโยมโดยทั่วไปก็เหมือนกัน เวลาทำอาหารถวายพระ มักจะเน้นพวกแกง ต้ม ผัด เอาไว้ก่อน ถึงจะทำประณีตอย่างไรก็ตาม พระท่านก็ฉันไม่ใคร่ได้หรอก เพราะท่านฉันจำเจอยู่ทุกๆ วัน อยู่แล้ว มันเบื่อได้เหมือนกัน ไม่ใคร่มีใครเอาน้ำพริก ผักไปถวาย ลองเอาไปถวายซิ ท่านฉันข้าวได้มากเลยแหละ

น้ำพริก ผัก เป็นอาหารที่ปรุงแต่งรสน้อยกว่าพวกแกง ผัดซึ่งปรุงแต่งรสจนบางครั้งเพียงได้กลิ่นก็เกิดอาการคลื่นเหียนเวียนหัว เสียแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามน้ำพริกว่าเป็นอาหารเล็กน้อย ไม่สำคัญ เพราะน้ำพริกนี่แหละทำให้ชาวนาชาวไร่มีร่างกายสมบูรณ์


กรณีที่ผมเล่ามานี้ เคยมีกรณีข้างเคียงเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เรื่องมีว่า

สมเด็จฯ โต ได้รับนิมนต์ให้ไปฉันในพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนไตรแพร สมเด็จฯ โตท่านก็เอาไตรแพรนั้นเช็ดปาก เช็ดมือยุ่งไปหมด พระจอมเกล้าฯ ทรงทักว่า “ไตรเขาดีๆ เอาไปเช็ดเปรอะหมด”

สมเด็จฯ โต ตอบสวนมาทันทีว่า “อะไรๆ ก็ถวายได้ ผ้าเช็ดมือถวายไม่ได้ อาตมาภาพก็ต้องเอาผ้าไตรของอาตมาเช็ดอาตมาเอง เป็นอันได้บริโภคของทายกแล้ว ไม่เป็นศรัทธาไทยวิบัติ” ผ้าเช็ดมือผืนเล็กๆ ราคาผืนไม่กี่บาท แต่ไม่มีใครคิดซื้อหามาถวายพระไม่รู้ว่าเพราะอะไร อะไรๆ ก็ถวายได้ แต่ผ้าเช็ดมือถวายกันไม่ได้

การกระทำของสมเด็จฯ โต เป็นการสอนให้รู้ว่า อย่าเห็นแต่สิ่งของสำคัญจนลืมของเล็กๆ น้อยๆ เพราะบางทีของเล็กน้อยก็สำคัญไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน

ธรรมะเดลิเวอรี่
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:12:06


ความคิดเห็นที่ 1484 (1566123)

ปภ.เตือนชาวเขาพนมระวังดินโคลนถล่มจากฝนตกหนัก

วันที่ 26/08/2554 11:33


กระบี่-ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เตือนชาวเขาพนม ระวังดินโคลนถล่ม จากฝนตกหนักเหตุเป็นพื้นที่เสี่ยง

นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ทางกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2554 มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ ๒ เมตร สำหรับชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ดังนั้น เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะอากาศดังกล่าว อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และผลิตผลทางการเกษตร ของประชาชน

จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ ให้ประชาชนเตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 6 - 7 วันนี้ โดยพื้นที่เสียงของจังหวัดกระบี่ได้แก่พื้นที่ในอำเภอเขาพนม ซึ่งเป็นที่ที่เคยประสบอุทกภัยภูเขาถล่มจากฝนตกหนักเมื่อต้นปีที่ผ่าน
มา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:13:32


ความคิดเห็นที่ 1485 (1566124)

 

เบรกสักหน่อยค่ะ..นิทานเซน "ปุ่มเร่งเวลา"
 
ขอขอบคุณ  http://ufokaokala.com/index.php?topic=2619.msg35248;topicseen#msg35248

ตามปรัชญาเซน มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเวลาที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง กล่าวถึง
ชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้ที่มีนิสัยใจเร็วด่วนได้ ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใดล้วนไม่สามารถสงบจิตสงบใจ เพราะต้องการเร่งรัดให้ทุกสิ่งเป็นไปดั่งใจตน
ครั้งหนึ่ง เขานัดพบคนรักที่ใต้ต้นไม้ แต่ทว่ามาก่อนเวลานัดมากเกินไป ด้วยนิสัยใจร้อนไม่ชอบรอทำให้เดินวนไปวนมา
กระสับกระส่ายอยู่ใต้ต้นไม้แห่งนั้น
 
ยามนั้นเอง ปรากฏอาจารย์เซนซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเซียนวิเศษผู้หนึ่ง เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผู้นั้น
พร้อมทั้งยื่นวัตถุทรงกลมชิ้นหนึ่งให้ พลางกล่าวว่า "นี่เป็นของวิเศษ หากเจ้าไม่ชอบการรอคอย
ก็จงหมุนปุ่มนี้ไปทางขวาหนึ่งรอบ เจ้าก็สามารถที่จะย่นระยะเวลาจากความเป็นจริงให้เร็วขึ้นไปตามที่เจ้าต้องการ"
เมื่อชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น ยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เมื่อเขาลองหมุนปุ่มไปตามคำบอก
พลันคนรักของเขาก็ปรากฏกายขึ้น ทั้งยังส่งสายตาหวานซึ้งให้กับเขา
ในใจชายหนุ่มบังเกิดความอยากครอบครองจึงคิดว่าหากเร่งเวลาไปจนทั้งสองแต่งงานกันได้คงดียิ่ง
จากนั้นหมุนปุ่มไปอีกรอบหนึ่ง ก็พลันพบว่าตนเองกลายเป็นเจ้าบ่าวอยู่ในงานแต่งงานอันเลิศหรูอลังการ
ส่วนคนรักของเขาอยู่ในชุดเจ้าสาวงดงามรายรอบไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย
จากนั้นชายหนุ่มจึงคิดอยากใช้เวลาอยู่กับเจ้าสาวของเขาในห้องหอตามลำพังจึงได้หมุนปุ่มวนไปด้านขวาอีกครั้ง
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ยังคงหมุนปุ่มวิเศษไปเรื่อยๆ ไปถึงตอนที่เขามีบุตรชาย กระทั่งมีหลานชาย
ทั้งยังมิใช่เพียงคนเดียวแต่มีบุตรหลานเต็มบ้าน กระทั่งบุตรหลานสร้างเนื้อสร้างตัวกลายเป็นขุนนางใหญ่ไปปกครองทั่วทุกสารทิศ
ผู้คนต่างพากันเคารพนับถือ...ถึงตอนนี้ ในใจชายหนุ่มเต็มไปด้วยความปีติยินดี
 
จากนั้นเมื่อหมุนปุ่มอีกรอบ ชายหนุ่มกลับกลายเป็นเฒ่าชรา โรคร้ายรุมเร้านอนรอความตายอยู่บนเตียง
บรรดาบุตรหลานอกตัญญูบางส่วนพากันมาขนทรัพย์สินภายในบ้านออกไปจนเกลี้ยง ทั้งยังใจดำอำมหิตนำเฒ่าชราไปทิ้งยังชายป่า
ชายที่ตอนนี้ทั้งชราทั้งป่วยไข้อดอยากหิวโหย ค่อยๆ อ่อนแรงลง ลมหายใจขาดช่วง ก้าวเข้าสู่ความตายทีละน้อย...ถึงตอนนี้
ชายหนุ่มแตกตื่นตกใจจนขนหัวลุก หยาดเหงื่อไหลโทรมกาย
"เป็นอย่างไรบ้าง?" เสียงอาจารย์เซนดังขึ้น "พ่อหนุ่ม ท่านยังอยากให้เวลาหมุนไปอย่างรวดเร็วอยู่หรือไม่?"
"ข้าจวนจะจบชีวิตแล้ว ยังจะต้องการให้เวลาหมุนไปเร็วอันใดอีกเล่า" ชายหนุ่มตอบอย่างทอดอาลัย
อาจารย์เซนจึงรับของวิเศษจากมือของชายหนุ่มกลับคืนมา พลันทุกสิ่งล้วนกลับคืนสู่สภาพเดิม
พาชายหนุ่มย้อนกลับไปตอนที่เขายังคงยืนรอคนรักอยู่ที่ใต้ต้นไม้
ในยามนั้น ชายหนุ่มจึงค่อยสัมผัสถึงความอบอุ่นของแสงแดดที่สาดส่องลงมา
สดับเสียงร้องอันไพเราะของนกน้อย มองเห็นผีเสื้อโผบินเหนือมวลดอกไม้
 
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกว่า การรอคอยอะไรบางอย่างนั้น ถือเป็นความสุขที่หอมหวานที่พึงรักษาไว้นะตอนนี้

 
มีอดีตเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
มีอนาคตเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
.......รักษาจิตไว้ให้สดชื่นดีกว่า
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:18:44


ความคิดเห็นที่ 1486 (1566125)

ข่าวด่วนจากพระอาจารย์รัตน์


ขอขอบคุณ ข้อมูล จาก War Room Falkman. B1http://board.palungjit.com/f178/war-room-อาสาสมัครเตรียมการ-เฝ้าระวัง-ประสานงานเตรียมพร้อม-ช่วงนี้ถึงธันวาคม-2011-a-288866-401.html


ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ส่งข้อความเตือนภัยมาว่า ในเดือนกันยายนจะเป็นช่วงทีมีภัยพิบัติค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน
ควรจะมีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้

ทางเมืองไทยมีข่าวว่าน้ำเยอะมาก และอาจจะสมทบเพิ่มอีกซึ่งทำให้เสี่ยงต่อสภาพน้ำท่วมครับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ขอให้เตรียมความพร้อมสูงหน่อยนะค่ะ

อีกแหล่งข้อมูลที่คล้ายกัน

ในช่วงที่ผ่านมาเราได้สังเกตุเห็นภัยพิบัติที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน และมีขึ้นต่อเนื่องกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เบื้องต้น และเป็นไปได้ที่จะมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในเดือนกันยายน โดยเฉพาะในระหว่างวันที่ 7-15 กันยายน อาจจะมีเหตุการณ์ขนาดใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งแนะนำให้มีการเตรียมพร้อมรับมือเกี่ยวกับภัยพิบัติในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับภัยน้ำท่วมเป็นหลัก
เนื่องกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เบื้องต้น และเป็นไปได้ที่จะมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในเดือนกันยายน โดยเฉพาะในระหว่างวันที่ 7-15 กันยายน อาจจะมีเหตุการณ์ขนาดใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งแนะนำให้มีการเตรียมพร้อมรับมือเกี่ยวกับภัยพิบัติในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับภัยน้ำท่วมเป็นหลัก

--------------------------------

ล่าสุดเขื่อนภูมิพลจุน้ำได้13,462 ล้านลูกบาศเมตร วันนี้ปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ที่ 10,400 ล้านลูกบาศเมตร เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนที่จุน้ำได้มากสุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ยังจะล้นแล้ว

--------------------------------------------

 




พระอาจารย์รัตน์แจ้งมาว่า

ตอนนี้พลังงานหมุนตามเข็มนาฬิกาแล้ว 100%

ตั้งแต่วันนี้ 22 สิงหาคม 2011 ตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป

พลังงานทั้งหลายจะพุ่งลงตรงๆ 90 องศา (ลงกลางหัวคนพอดี)

พลังงานจะพุ่งลงดินและลงพื้นโลกเลย ทั้งนี้จะทำให้เกิด

- ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น
- ภูเขาไฟจะระเบิดรุนแรง และ ถี่ขึ้น
- แผ่นดินไหวจะแรง และ มากขึ้น
- ระบบต่างๆ จะเริ่มมีปัญหา

ให้เริ่มระวังตัวเอาไว้กัน


_________________

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 02:26:19


ความคิดเห็นที่ 1487 (1566126)

แม้จะมีกรรมทำให้เกิดเป็นสุนัข แต่ก็ยังมีใจรักในการปฏิบัติธรรม




ณ วัดพุทธศาสนานิกายเซน ภาคใต้ ญี่ปุ่น มีสุนัขพันธุ์ชิวาวาตัวหนึ่ง
“ซาบซึ้งรสพระธรรม” มาก ถึงขั้นนั่งสวดมนต์ ก่อนกินอาหารเช้าและเย็น
หมาน้อยไม่ธรรมดาตัวนี้ ชื่อ “โคนัน” อายุขวบครึ่ง ขนสีดำ-ขาว
วัตรปฏิบัติคือเคียงข้างพระภิกษุ โยเออิ โยชิคูนิ เจ้านายผู้อุปถัมภ์
ที่วัดชูริ คันนันโดะ เมืองนะฮะ จังหวัดโอกินาวา
สวดมนต์เช้าสวดมนต์เย็นประจำทุกวัน เจ้าโคนันจะนั่งตัวตรงบนสองขาหลัง
ส่วนสองขาหน้ายกขึ้น อุ้งเท้าป้อมปุ้มปุ้ยประกบกัน “พนมมือ” ไหว้ปลกๆ เบื้อง
หน้าโต๊ะหมู่บูชาพระประธานในโบสถ์ ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู
หมาน้อยโคนันใช้เวลาแค่ 2-3 วัน เรียนรู้กรรมวิธีปฏิบัติศาสน
กิจดังกล่าว ปัจจุบันกลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์”
ร่ำลือกล่าวขวัญถึงอัจฉริยะโคแนนกันทั่วบ้านทั่วเมือง
“ข่าวสารผ่านสื่อ บอกเล่าปากต่อปาก ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักใฝ่ธรรมะเข้าวัดเพิ่มขึ้นเยอะเลย”

พระโยอิ โยชิคูนิ เจ้าอาวาสวัดเซนชูริ-คันนันโดะ กล่าวว่า ทุกๆ วันเวลาพระเริ่มสวดในโบสถ์เจ้าโคนันจะเข้ามานั่งด้วย จ้องมองพระพุทธรูปในวัด พร้อมกับทำท่ายืนด้วยขาหลัง ส่วนขาหน้าทั้งสองขาจะยกขึ้นมาประกบกันเหมือนเวลาคนเราพนมมือสวดมนต์ เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาญาติโยมที่มาพบเห็นและบอกกันไปปากต่อปาก จนปัจจุบันมีทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแห่มาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองว่า โคนันสวดมนต์ได้จริงหรือไม่

"ทุกวันนี้สถิติคนที่มาที่วัดเพิ่มขึ้น มากกว่าในอดีตถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โคนันใช้เวลาเรียนรู้หัดทำท่าสวดมนต์ได้ภายใน 2-3 วันเท่านั้นเอง อาตมาคิดว่ามันทำแบบนี้เพราะเห็นอาตมาทำทุกวันเลยอยากทำตามอย่างบ้าง หรือไม่ก็อาจทำเพื่อขอบคุณที่วัดเราคอยดูแลมัน" พระโยอิกล่าว และว่า ขณะนี้กำลังทดลองฝึกให้โคนันนั่งสมาธิ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่นั่งขัดสมาธิเหมือนคน เพียงแค่อยากให้มันนั่งนิ่งๆ อยู่เฉยๆ ในช่วงที่พระนั่งทำสมาธิเท่านั้น

ด้านนายคาซูโกะ โอชิโร วัย 71 ปี ชาวบ้านที่มาทำบุญสวดมนต์ที่วัดชูริเป็นประจำ กล่าวว่า สิ่งที่โคนันทำนั้นทั้งขำและทั้งแปลก ถ้ามีใครมานั่งทับที่ประจำของมันขณะสวดมนต์มันจะออกอาการหงุดหงิดฉุนเฉียว ในแต่ละสัปดาห์มีคนมาที่วัดเพื่อขอถ่ายรูปคู่กับโคนันจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 03:03:14


ความคิดเห็นที่ 1488 (1566136)

อนุโมทนากับคุณอาริยา คุณตาล

และคุณพีรายุด้วยนะคะ สาธุ

 

ส่วนชนิดาก็ยังคง"กินแรง"

เข้ามาอ่านอย่างเดียว..จ๊า..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 06:38:57


ความคิดเห็นที่ 1489 (1566140)

คุณอาริยาค่ะ   เห็นชื่อคุณเข้าร่วมสมโภชน์สมเด็จองค์ปฐมฯ   26-28   สค. นี้

คุณก็ยังคงทำหน้าที่เสนอข่าว เตือยภัย ตลอดเวลาเลยนะคะ

ดิฉันขอชื่นชมคุณจริง ๆ  ค่ะ

ความรับผิดชอบอยู่ในสายเลือด

สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาล (ฉวีวรรณ นภาพรรณราย) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 08:34:13


ความคิดเห็นที่ 1490 (1566173)

 
ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง " 
ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2554
 
 
     ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปอีก ขอให้ประชาชนในที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยาน่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 27-29 สิงหาคม นี้ 
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ 

ประกาศ ณ วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554 
ออกประกาศ เวลา 16.30 น. 

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา 
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
 
 
ที่มา   http://www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=2728

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 16:52:39


ความคิดเห็นที่ 1491 (1566174)

 โมทนาสาธุกับการเตือนภัย

ธรรมทานใหญ่ของพี่อริยาและทุกท่านนะครับ

ให้เราเห็นถึงโทษทุกข์ภัยใหญ่ของการเกิดมา

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) (komkom-dot-ko-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-27 16:54:12


ความคิดเห็นที่ 1492 (1566268)
ดินถล่มปิดถนนปาย-เชียงใหม่ รถติดกว่า 50 คัน

วันอาทิตย์ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เกิดเหตุดินภูเขาถล่มปิดทับเส้นทางบริเวณหลัก กม.ที่ 53 บ้านแม่เลา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้รถนักท่องเที่ยวและรถโดยสารกว่า 50 คัน ติดในที่เกิดเหตุติดในที่เกิดเหตุกว่า 3 ชม.เคลื่อนตัวไม่ได้


เมื่อเวลา 16.45 น. วันนี้ (28 ส.ค.) เกิดเหตุดินภูเขาทั้งลูกถล่มลงมาปิดทับเส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 1095 บริเวณหลัก กม.ที่ 53 ก่อนถึงร้านโอเคมาร์ท จุดพักรถประมาณ 1 กม. ส่งผลให้มีรถตู้รับผู้โดยสารของบริษัทเปรมประชา และ รถตู้รับนักท่องเที่ยว และ รถส่วนตัวของประชาชนทั่วไป ติดอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 70 คัน

นางศิริอร รังสิริตานนท์ เจ้าของบริษัท ทีเอ็นทัวร์ จำกัด เล่าว่า รถของบริษัทที่ไปส่งนักท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 คัน ต้องมาติดที่บริเวณดังกล่าว โดยในขั้นต้นได้แจ้งไปยังป้องกันภัยจังหวัดเชียงใหม่แล้ว แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใด เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และจากการรายงานของพนักงานที่ติดในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะต้องใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าดำเนินการขุดดินภูเขา ที่สไลด์ลงมาปิดทับเส้นทาง ไม่ต่ำกว่า 3 วันเนื่องจากพบว่า ดินภูเขาที่อยู่ด้านบนยอดเขาบริเวณจุดดังกล่าว ยังคงไหลและเคลื่อนตัวลงมาเรื่อยๆ ซึ่งหากมีฝนตกลงมาอีกจะส่งผลให้การแก้ไขปัญหายากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม

หากทางแขวงการทางจังหวัดเชียงใหม่ ไม่เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนแล้ว จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างหนัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากเชียงใหม่ที่จะเดินทางไปเที่ยวที่อำเภอปาย ต้องยกเลิกการเดินทางทั้งหมดทุกกรุ๊ปทัวร์

นายเพิ่มวิทยา กันทะทรง รักษาราชการแทน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเดินทางจากแม่ฮ่องสอน ไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ และอยู่ระหว่างการเดินทางกลับแม่ฮ่องสอน ซึ่งติดอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น พบว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ในเชียงใหม่ชักช้าเกินเหตุ ทั้งที่ได้มีการประสานงานไปยังแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 3 เพื่อประสานลงมายังหมวดการทางแม่แตง กว่า 3 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ใดใด เข้ามาในจุดเกิดเหตุแต่อย่างใด

สำหรับเหตุดินถล่มปิดทับเส้นทางดังกล่าว ได้ส่งผลให้เกิดความกังวลขึ้นในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจขนส่ง และรวมไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ เพราะหากจะเดินทางไปเชียงใหม่ จะต้องนั่งรถจากอำเภอปายวกกลับเข้ามายังตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านไป อำเภอแม่สะเรียง และ เข้าอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะทำให้มีระยะทางถึง 475 กม. นอกจากนั้นบริเวณสะพานห้วยหยวก พื้นที่ อำเภอแม่ลาน้อย ถนนที่ขาดยังซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จ เป็นการถมดินเพื่อให้รถวิ่งได้เพียงชั่วคราว หากเกิดฝนตกหนักขึ้นมาอีก จะทำให้เส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน กับ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอัมพาตทันที และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบการท่องเที่ยว , การขนส่ง และ อื่นๆ อีกนานาประการ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:19:37


ความคิดเห็นที่ 1493 (1566269)
28/08 ผอ.อุตุนิยมวิทยาลำพูนเตือนพท.เสี่ยงระวังระดับน้ำแม่กวงเพิ่มชม.ละ2ซม.




นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูนกล่าวว่า ช่วงนี้ยังคงมีร่องมรสุมพัดผ่านทางภาคเหนือจึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านระมัดระวัง ทั้งนี้ระดับน้ำแม่กวงมีแนวโน้มเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยขึ้นชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร แต่ยังถือว่าอยู่ในสภาวะปกติในช่วงเวลาดังกล่าว ประชาชนที่อยู่ตามพื้นที่เสี่ยงภัย จึงควรเฝ้าติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์ระดับน้ำโดยใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับป้องกันภัยล่วงหน้า ไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2554

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:20:25


ความคิดเห็นที่ 1494 (1566270)

เฮริเคนไอรีน ทำลายบ้าน 2.5 ล้านหลัง และธุระกิจ ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปิดตัวลง NY


Event: Complex Emergency
Location: USA State of New York New York City

Situation:
Hurricane Irene knocked out power to 2.5 million homes and businesses, forced two nuclear plants to shut and idled oil ports and refining as it advanced toward New York City early on Sunday. Mid-Atlantic coast states reported more power losses even as the hurricane spun northward and blackouts in Delaware, New Jersey and New York jumped. The category 1 hurricane made landfall in New Jersey before dawn with 75 mile-per-hour/120 kph winds, dumping heavy rain and provoking storm surges. In New York City, more than 70,000 customers had power outages. Consolidated Edison , which powers nearly 3 million homes and businesses in the city, warned that flooding could prompt wider power cuts in downtown Manhattan. Two East Coast nuclear power plants shut to ensure safety. Aluminum siding flew off a building in Maryland and slammed into a transformer at CENG"s Calvert Cliff reactor early Sunday, forcing it to shut. The plant declared an "unusual event," or low-level emergency, but said the reactor was safe. As a precaution against winds, Exelon Corp took its Oyster Creek nuclear power plant in New Jersey offline on Saturday. The plant normally supplies electricity to as many as 600,000 homes. Several East Coast oil refineries throttled back operations and ConocoPhillips shut its Bayway plant in New Jersey.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:21:36


ความคิดเห็นที่ 1495 (1566271)

เฮริเคนไอรีน ทำลายบ้าน 2.5 ล้านหลัง และธุระกิจ ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปิดตัวลง NY

Amazing Hurricane Irene Wind Video - Nassau, Bahamas (Paradise Island)

 
 
Event: Complex Emergency
Location: USA State of New York New York City

Situation:
Hurricane Irene knocked out power to 2.5 million homes and businesses, forced two nuclear plants to shut and idled oil ports and refining as it advanced toward New York City early on Sunday. Mid-Atlantic coast states reported more power losses even as the hurricane spun northward and blackouts in Delaware, New Jersey and New York jumped. The category 1 hurricane made landfall in New Jersey before dawn with 75 mile-per-hour/120 kph winds, dumping heavy rain and provoking storm surges. In New York City, more than 70,000 customers had power outages. Consolidated Edison , which powers nearly 3 million homes and businesses in the city, warned that flooding could prompt wider power cuts in downtown Manhattan. Two East Coast nuclear power plants shut to ensure safety. Aluminum siding flew off a building in Maryland and slammed into a transformer at CENG"s Calvert Cliff reactor early Sunday, forcing it to shut. The plant declared an "unusual event," or low-level emergency, but said the reactor was safe. As a precaution against winds, Exelon Corp took its Oyster Creek nuclear power plant in New Jersey offline on Saturday. The plant normally supplies electricity to as many as 600,000 homes. Several East Coast oil refineries throttled back operations and ConocoPhillips shut its Bayway plant in New Jersey.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:21:36


ความคิดเห็นที่ 1496 (1566272)

น้ำท่วมเหมืองเฮยหลงเจียง 4 วัน ช่วยได้เพิ่ม 3 ค้างอีก 23 คน

ชาวเหมืองที่รอดชีวิตจากเหมืองน้ำท่วม ในอำเภอปั๋วลี่ มณฑลเฮยหลงเจียง เมื่อ 27 ส.ค. สามารถช่วยเพิ่มได้อีก 3 ชีวิตและยังเหลือติดอยู่อีก 23 คน (ภาพซินหวา)
เอเอฟพี/ไชน่าเดลี - หลังจากติดอยู่ในเหมืองนานกว่า 4 วัน ขณะนี้หน่วยช่วยเหลือได้ยื้อชีวิตแรงงานให้รอดพ้นจากพญามัจจุราชได้เพิ่มอีก 3 คน แต่ยังอยู่ในระหว่างช่วยเหลืออีก 23 คน สืบจากอุบัติเหตุน้ำท่วมเหมืองในมณฑลเฮยหลงเจียงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหวารายงานว่า “เหมืองดังกล่าวประกอบการอย่างผิดกฎหมาย ได้ถูกน้ำท่วมทะลักเมื่อวันอังคาร (23 ส.ค.) ในขณะนั้นมีแรงงานติดอยู่ในอุโมงค์ 45 คน โดยหลังจากเกิดอุบัติเหตุก็สามารช่วยขึ้นมาได้ทันที 19 คน เหลืออีก 26 คน จนกระทั่งเวลาผ่านไปราว 4 วัน จึงช่วยเพิ่มได้อีก 3 คน นับเป็นความคืบหน้าล่าสุด

ซินหวาอ้างคำกล่าวของหน่วยช่วยเหลือว่า “หน่วยฯ ได้ระดมท่อสูบน้ำออกจากเหมือง จนกระทั่งวันเสาร์ (27 ส.ค.) บ่ายก็สามารถระบายน้ำออกได้ 56,150 คิวบิกเมตร สามารถลดระดับน้ำในเหมืองได้กว่า 10 เมตร”

เมื่อวันพุธ (24 ส.ค.) รัฐบาลท้องถิ่นอำเภอปั๋วลี่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองดังกล่าว ชี้ว่า ได้ไล่เจ้าหน้าที่ซึ่งละเลยหน้าที่ในด้านอุบัติเหตุเหมืองออกไป 2 คน รวมทั้งหัวหน้าหน่วยราชการอำเภอปั๋วลี่ด้วย

รัฐบาลมณฑลเฮยหลงเจียงสั่งให้เหมืองดังกล่าวของบริษัทเหิงไท่ โคล ไมนิ่ง โค หยุดการทำงานมาตั้งแต่ปี 2550 แต่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. เจ้าของเหมืองก็เริ่มเดินหน้าทำเหมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก

น้ำท่วมเกิดขึ้นหลังจากแรงงานทำการขุดเจาะผิดพลาดไปยังเหมืองข้างเคียง ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมเหมืองดังกล่าวฯ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินจีนเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำจนได้ชื่อว่าเป็นงานที่อันตรายที่สุดในโลก ซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจีนได้ดำเนินแนวนโยบายล่าสุดมาใช้เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ หลักความปลอดภัย 6 ประการ ซึ่งรวมถึงการให้ติดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกในการกู้ภัยทุกเหมืองภายใน 3 ปี

สำนักสถิติจีนฯ เผย ในปี 2553 มีแรงงานเสียชีวิตในอุบัติเหตุเหมืองจำนวน 2,433 คน ซึ่งเฉลี่ยประมาณวันละกว่า 6 คน ขณะที่กลุ่มสิทธิแรงงานชี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงมากกว่าที่ทางการเปิดเผย เนื่องจากนายเหมืองไม่ยอมบอกตัวเลขที่แท้จริง เพราะเกรงจะสูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการลงโทษจากรัฐบาล

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:22:49


ความคิดเห็นที่ 1497 (1566273)

น้ำป่าทะลักท่วม อ.ดอยสะเก็ด - ชาวบ้านถูกน้ำซัด
หน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายหน่วยงาน ระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นการด่วน หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำจากภูเขาไหลบ่าสู่พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด เข้าท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งคาดว่า จะมีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 1,000 หลังคาเรือน
ทั้งนี้ มีชาวบ้านตำบลตลาดใหญ่ อ.ดอยสะเก็ด จำนวน 1 คน ถูกน้ำพัดหายไปขณะช่วยเพื่อนบ้านดึงเศษขยะและกิ่งไม้ออกจากหน้าสะพาน และขณะนี้ยังไม่สามารถตามหาเจอ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก
ด้านนายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสภาพโดยรวมขณะนี้ว่า พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด ที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วยตำบลแม่โป่ง ตำบลแม่ฮ้อยเงิน ตำบลตลาดใหญ่ และตำบลแม่คือ ซึ่งขณะนี้ไม่มีฝนตกซ้ำลงมา จึงคาดว่า สถานการณ์จะคลี่คลายไปในไม่ช้า
พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด ประสบปัญหาน้ำท่วมแล้วเป็นรอบที่ 4 นับเหตุจากอิทธิพลพายุนกเตนด้วย จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงตามที่ราบเชิงเขา หรือที่ลุ่มริมน้ำ ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรับฟังการแจ้งเตือนจากทางจังหวัด ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถลดความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกายได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งการแจ้งเตือนผ่านทางหอกระจายข่าว มิสเตอร์เตือนภัย อปพร. และทางสื่อสารมวลชนด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:23:55


ความคิดเห็นที่ 1498 (1566274)

เชียงราย-อ.แม่จัน เชียงแสน น้ำยังคงท่วมสูง


วันอาทิตย์ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บ้านเรือนประชาชนกว่า 300 หลังใน 4 ตำบล 2 อำเภอแม่จัน และเชียงแสน ยังถูกน้ำท่วมสูงบางหลังสูงเกือบ 1 เมตร ส่วนนาข้าวเน่าเสียกว่า 20,000 ไร่

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายล่าสุดยังท่วมสูงใน 2 อำเภอ คือที่อำเภอเชียงแสน 3 ตำบลจันจว้า ศรีดอนมูล และ ตำบลป่าสัก รวมทั้งอำเภอเชียงแสน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำคำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านรอบที่ 3 เป็นวันที่ 2 โดยเฉพาะในบ้านม่วงหมูสี ตำบลจันว้าใต้ บ้านแม่คำน้ำลัด บ้านแม่คำหัวฝาย ตำบลจันจว้า และบ้านศรีบุญยืน ตำบลศรีดอนมูล บ้านเรือนกว่า 200 หลังซึ่งขณะระดับยังท่วมบ้านสูง บางหลังน้ำยังสูงเกือบ 1 เมตร ชาวบ้านยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บ้านชั้นเดียวเข้าอยู่อาศัยไม่ได้ต้องอาศัยบ้านญาติเป็นที่หลับนอน ในขณะที่ล่าสุดพบว่านาข้าวในตำบลแม่คำ ตำบลจันจว้า ตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน ตำบลป่าสัก ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน ซึ่งถูกน้ำท่วมติดต่อกัน 3 ครั้งในรอบ 3 สัปดาห์ ต้นข้าวตายและเน่าเสียกว่า 20,000 ไร่ แม้ว่าในอำเภอแม่จัน และอำเภอเชียงแสน ฝนได้หยุดตกมาตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ แต่ระดับในแม่น้ำคำยังสูงเลยจุดวิกฤติ ชาวบ้านที่น้ำเริ่มลดลงงคงนำทรัพย์สินไว้บนที่สูง เกรงว่าน้ำคำจะล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเป็นระลอกที่ 4

ขณะที่ทางจังหวัด ประกาศเตือนให้ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหล และที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ เฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลันจากน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำล้นตลิ่งในระยะ 1- 2 วันนี้ อย่างใกล้ชิด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:25:22


ความคิดเห็นที่ 1499 (1566276)

กต.ยันไม่มีคนไทยในสหรัฐฯ เจ็บจากอิทธิพล"ไอรีน"

วันที่ 28/08/2554 17:21 (ผ่านมา 49 นาที)



นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทยในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนไอรีน ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก ให้ติดตามดูแลคนไทยอย่างใกล้ชิด โดยมีคนไทยในนครนิวยอร์ก 10,000 คน บอสตัน 5,000 คน และ นอร์ธคาโรไรน่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา นักธุรกิจ แพทย์ และผู้ประการร้านอาหาร ขณะนี้ยังไม่ผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ล่าสุดสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้ประสานไปยังเครือข่ายคนไทย กลุ่มแพทย์ สมาคมคนไทยในนิวยอร์ก และวัดไทย 7 แห่ง ให้ดูแลช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ และเร่งจัดหาที่พักชั่วคราวโดยด่วน พร้อมทั้งเปิดบ้านพักกงสุลใหญ่ เป็นหน่วยดูแลให้การช่วยเหลือคนไทยเป็นการเฉพาะกิจ โดยขณะนี้ได้จัดหาที่พักเป็นการชั่วคราวให้คนไทยรายหนึ่ง ที่อพยพจากพื้นที่แมนฮัตตัน ที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่พิบัติภัยจากเฮอริเคนไอรีนแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:38:08


ความคิดเห็นที่ 1500 (1566278)

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “นันมาดอล” คร่า 7 ชีวิตในฟิลิปปินส์-มุ่งหน้าถล่มไต้หวัน

หมู่บ้านชาวประมงบริเวณท่าเรือหนานฟังอ้าว (Nanfang Ao) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไต้หวัน ได้รับคำเตือนให้ระวังอิทธิพลของไต้ฝุ่นนันมาดอล วันนี้(28)
เอเอฟพี - ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “นันมาดอล” คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์แล้วอย่างน้อย 7 ราย ทั้งยังทำให้มีฝนตกหนักจนสะพานพังถล่มและถนนหลายสายใช้การไม่ได้ โดยล่าสุดพายุค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์มุ่งหน้าสู่เกาะไต้หวันแล้ว เจ้าหน้าที่รายงาน วันนี้(28)

ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นนันมาดอลอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังอยู่ระหว่างประเมินความสูญเสียจากพายุดังกล่าว ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงมากที่สุดในปีนี้ เอมิเลีย ทาเดโอ จากฝ่ายรายงานความเสียหายของสำนักงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์ ระบุ

“หลังจากฝนลดลงแล้วเราจึงจะบอกได้ว่า มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ รวมทั้งความเสียหายอื่นๆมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต่างๆจะส่งรายงานเข้ามา” ทาเดโอ ให้สัมภาษณ์

สำนักงานป้องกันพลเรือนแถลงล่าสุดว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม 5 ราย และจมน้ำอีก 2 ราย ส่วนอีก 6 รายสูญหายไปในทะเลหรือถูกกระแสน้ำในแม่น้ำพัดพาไป ขณะที่นันมาดอลทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์

เจ้าหน้าที่ระบุด้วยว่า ประชาชนกว่า 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ซึ่งอยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมหรือดินถล่มบริเวณเขตภูเขาตอนเหนือ

อิทธิพลของไต้ฝุ่นนันมาดอลซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางประมาณ230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังส่งผลให้สะพาน 8 แห่งถูกกระแสน้ำพัดทำลาย และถนนหลักอีก 20 สายอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้

พายุลูกนี้เริ่มอ่อนกำลังลงหลังจากที่พัดถล่มตอนเหนือของเกาะลูซอน ทว่ายังมีความเร็วลม 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆไปสู่เกาะไต้หวัน

สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ไต้ฝุ่นนันมาดอลจะขึ้นฝั่งเกาะไต้หวันภายในวันอังคารนี้(30) และอาจทวีกำลังแรงขึ้นอีกระหว่างที่เคลื่อนตัวผ่านมหาสมุทร

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-08-28 23:39:23



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 [15] 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.