น้ำเริ่มเข้าท่วมเขตเทศบาลนครนครสวรรค์


วันศุกร์ ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554
 

เทศบาลนครนครสวรรค์ เร่งมือสูบน้ำและเสริมแนวป้องกันตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากปริมาณน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง และเริ่มซึมเข้าเขตเศ รษฐกิจของตัวจังหวัดแล้ว

ถนนในเขตเทศบาลนคร นครสวรรค์ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีน้ำซึมท่วมขังเป็นบริเวณกว้างหลาย เนื่องจากปริมาณน้ำในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากพื้นที่รับน้ำรอบนอกในอำเภอชุมแสง รับน้ำไว้เต็มที่แล้ว ขณะนี้มีรายงานว่า น้ำท่วมในทุกตำบลของอำเภอชุมแสงแล้ว มวลน้ำจึงทะลักเข้าสู่หลายตำบลในอำเภอเมือง และอำเภอเก้าเลี้ยว โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ชุมชนบางปรอง ตำบลปากน้ำโพธิ์ อำเภอเมือง ชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือน ต้องเร่งเก็บของอพยพมาอยู่ริมถนนบริเวณทางรถไฟสายเก่า

นายกเทศมนตรีนคร นครสวรรค์ บอกว่า น้ำเริ่มซึมเข้าเขตเทศบาลมากกว่า 2 วันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเดินเครื่องสูบระบายน้ำใต้ดิน ซึ่งมีทั้งหมด 4 บ่อ 8 เครื่อง สูบน้ำได้เครื่องละ 750 คิว ต่อวินาที และได้ปิดระบบท่อระบายน้ำโดยรอบเขตเทศบาล เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วม และมั่นใจว่าพนังกั้นน้ำความยาวกว่า 12 กิโลเมตร ที่ถูกเสริมแนวป้องกันเพิ่มเติมด้วยกระสอบทราย และหินคลุก จะหนาแน่น และมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะรับมือกับปริมาณน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ได้อีกอย่างน้อยไม่เกิน 1 เมตร

สาเหตุที่ทำให้ปริมาณน้ำในจังหวัดนครสวรรค์สูงขึ้นในระยะนี้ มาจากการที่แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน มีปริมาณสูงเกินความจุทั้ง 2 สาย และได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุโขทัย, พิษณุโลก, พิจิตร และลงมาสู่จังหวัดนครสวรรค์แล้วในวันนี้

ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน นครสวรรค์ บอกว่า เมื่อน้ำท่วมทางเหนือลดลง มวลน้ำก็ลงสู่พื้นที่ทางใต้ ส่วนสถานการณ์น้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านอยู่ที่ 2 พัน 879 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์มาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้จะยังห่างจากตลิ่งกว่า 1 เมตร และยังไม่เกินความจุลำน้ำที่ 3 พัน 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือรับน้ำได้อีก 621 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันนี้ก็ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะเขตเทศบาลระดับน้ำสูงกว่าพื้นผิวถนนประมาณ 20 เซนติเมตร

และนี่คือภาพล่าสุดจากจุดที่เรารายงานอยู่ตอนนี้ นี่คือระดับน้ำที่ท่วมในศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ตำบลปากน้ำโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้าน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำเอ่อล้นมาแค่ประมาณเข่า หรือประมาณ 50 เซนติเมตร แต่เช้าวันนี้ระดับน้ำสูงขึ้นลึกกว่า 1 เมตร ซึ่งจุดนี้เป็นจุดเดียวกับที่เราเคยมารายงาน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเมื่อสัปดาห์ก่อน และวันนั้นระดับน้ำยังห่างจากตลิ่งหลายเมตร ทำให้เราได้เห็นว่ามวลน้ำได้ทะลักเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์แล้ว

สหรัฐฯ เตือน!! มิสซิสซิปปี-เทกซัส รับมือพายุลูกใหม่

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนภัยพายุลูกใหม่ ซึ่งมีกำลังแรงและเป็นอันตราย ในพื้นที่แถบชายฝั่งตั้งแต่รัฐมิสซิสซิปปีไปจนถึงรัฐเทกซัส
พายุลูกนี้ชื่อเรียกว่า ดีเปรสชั่น 13 อาจทวีกำลังแรงขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง และอาจกลายเป็นพายุโซนร้อนก่อนพัดเข้าถล่มพื้นที่ดังกล่าว
ขณะที่ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อเตรียมรับมือกับพายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ด้านบริษัทน้ำมันต่างๆ เริ่มอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก เนื่องจากเกรงจะได้รับผลกระทบจากพายุ
ขณะนี้ศูนย์กลางพายุอยู่ห่างไปทางตอนใต้ปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี ประมาณ 360 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือ

--------------------

สรุปน้ำท่วม9จว.ปชช.เดือดร้อน3แสน ตาย59ราย

2 กย. 2554 14:26 น.


 

ขออนุโมทนาบุญค่ะ พี่ตุ๊ก

ขออนุโมทนาค่ะคุณอาริยา สำหรับธรรมทาน

ขออนุโมทนาค่ะคุณแมว ที่ตั้งกระทู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ คนที่ทำลายธรรมชาติเขาจะคิดได้ไหมหนอ 

อันนี้นอกเรื่องค่ะ อยากบอกว่าคุณแมวใส่ชุดไทยย้อนยุคได้สวยมากค่ะ บังเอิญชอบอะไรที่เป็นโบราณค่ะ

ขอบคุณค่ะ

คุณแขก

ชอบโบราณ..เหมียนกัลล์ค่ะ

( หน้าตา..ก็ โบ.ราณ.555++)

แผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าอาร์เจนตินา

แผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 เขย่าทางเหนือของอาร์เจนตินาในวันศุกร์(2) แต่ยังดีที่ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นผิวเกือบ 600 กิโลเมตร จึงคาดหมายว่าไม่น่าก่อความสูญเสียทางชีวิตหรือทรัพย์สินใดๆ

ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯเปิดเผยว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้น ณ เวลา 10.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 20.47 น.) โดยมีศูนย์กลางห่างจากเมืองอนาตูยา ไปทางตะวันตกราว 30 กิโลเมตร ทั้งนี้อนาตูยา เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในจังหวัดซานเตียโกเดลเอสเตโร ทางเหนือของอาร์เจนตินา

ยอดป่วยช่วงน้ำท่วมพุ่ง1.4หมื่น เตือนหมั่นล้างมือ-เท้าหลังลุยน้ำสกปรก

อุบลราชธานี - น.พ.สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า จังหวัดที่มีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพราะจากสถิติการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา ถึงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พบมีผู้ป่วยโรคปอดบวม 4,350 ราย โรคตาแดง 2,864 ราย โรคสุกใส 1,845 ราย โรคไข้หวัดใหญ่ 514 ราย และไข้ไม่ทราบสาเหตุ 4,502 ราย ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังและดูแลสุขอนามัยมากกว่าปกติ โดยต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้มีความอบอุ่นและแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ซึ่งทำได้โดยง่ายด้วยการล้างมือฟอกสบู่ ดื่มน้ำ กินอาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่

น.พ.สุรพร กล่าวอีกว่า หากประชาชนเดินผ่านในจุดที่มีน้ำท่วมขังก็ควรล้างมือล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้ง ไม่ควรใช้มือ แขน และผ้าสกปรกขยี้ตาหรือเช็ดตา รวมทั้งต้องระวังไม่ให้น้ำกระเด็นเข้าตา และถ้าน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ก็ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจทำให้เป็นโรคตาแดงได้ นอกจากนี้ หากสมาชิกในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดมีอาการเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือผิวหนังเริ่มเปื่อย เกิดตุ่มคัน น้ำกัดเท้า หรือมีบาดแผล ควรรีบเดินทางไปพบแพทย์ สำนักงานสาธารณสุขที่ไปตั้งจุดให้บริการตามพื้นที่น้ำท่วมตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามกลายเป็นโรคติดเชื้อที่สำคัญ อาทิ โรคตาแดง โรคน้ำกัดเท้า โรคอุจจาระร่วง เป็นต้น

น.พ.สุรพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ก็ควรระวังสัตว์มีพิษที่อาจมากับน้ำ ไม่ว่าจะเป็น งู แมงป่อง และตะขาบ จึงต้องตรวจสอบที่พักอาศัยอย่างสม่ำเสมอ และไม่ให้สัตว์มีพิษเหล่านี้เข้าไปหลบอยู่ในบ้าน เพราะพิษของสัตว์บางชนิดทำให้เสียชีวิตได้ อีกทั้งในช่วงน้ำท่วมหากจำเป็นต้องขับถ่ายของเสียก็ควรถ่ายลงในถุง และเก็บนำมาทิ้งบนบก ไม่ควรทิ้งลงน้ำเพราะอาจทำให้น้ำเกิดการปนเปื้อนและเกิดการแพร่ระบาดโรคต่างๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันควรดูแลบุตรหลานไม่ให้ลงไปเล่นน้ำ เพราะจากสถิติพบว่า เด็กในภาคอีสานเสียชีวิตจากการจมน้ำมากที่สุดในประเทศ

ศน.เปิดศูนย์รับบริจาคช่วย

วัด-พระสงฆ์ ประสบภัยน้ำท่วม

นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกับวัดหลายแห่งถูกน้ำท่วม พระสงฆ์ สามเณร ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ทำให้ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงยารักษาโรคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในส่วนของ ศน.ได้เปิดศูนย์รับช่วยเหลือบริจาคเงิน เครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชน และพระสงฆ์ที่ประสบภัยทั่วประเทศ โดยประชาชนสามารถบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ

ชื่อบัญชี “สงเคราะห์พระภิกษุสามเณร และผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 059-1-29006-5

หรือบริจาคโดยตรงที่กรมการศาสนา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2422-8793-4ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 กันยายนนี้ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล พศ. จะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัย และให้การช่วยเหลือวัด และพระสงฆ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยด้วย

อุบลฯ ระดมสูบน้ำช่วยนาข้าวริมน้ำชี 20,000 ไร่ จมนานกว่าสัปดาห์

นายณรงค์ชัย วีระกุล ที่ปรึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ระดมครื่องสูบน้ำขนาด 10 นิ้ว มาช่วยเกษตรกรบ้านโนนจานใหม่ ต.ท่าไห อ.เขื่องใน เพื่อระบายน้ำออกจากนาข้าวที่ท่วมขังมากว่า 1 สัปดาห์ ก่อนจะเสียหายหนัก เพราะแม่น้ำชีที่ล้นตลิ่งมีระดับสูงมาก โดยได้สูบน้ำเข้าไปเก็บไว้ที่แก้มลิง เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้สนับสนุนการทำนาปรังในอีก 4-5 เดือนข้างหน้าด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ระบุว่า ริมฝั่งแม่น้ำชีมีพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 20,000 ไร่ ที่อำเภอเขื่องใน หากสัปดาห์หน้าน้ำชียังไม่ลดลง พื้นที่เกษตรกรรมจะเสียหายทั้งหมด ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังเป็นพิเศษในระยะนี้ เพราะตลิ่งทรุดตัวจากน้ำกัดเซาะ ดังนั้น ควรย้ายสิ่งของไปอยู่ในจุดปลอดภัยไว้ก่อนล่าสุดปริมาณแม่น้ำชีที่สถานีวัดน้ำฝายธาตุน้อย อ.เขื่องใน ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.30 เมตร แม้จะลดลงจากวานนี้ (1 ก.ย.) 2 เซนติเมตร แต่อัตราการไหลของน้ำ 1,240 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ฝนตกลมหมุนหอบต้นโค่นทับเสาไฟ หล่นใส่ จยย.รอดหวุดหวิด



อุบลราชธานี 3 ก.ย. - ฝนตกหนักและลมหมุนที่จังหวัดอุบลราชธานี พัดต้นไม้หักโค่นทับเสาไฟฟ้า หล่นทับรถจักรยานยนต์ แต่คนขี่รอดตายปฏิหาริย์

เสาไฟฟ้าริมถนนพิบูลมังสาหาร-อุบลราชธานี บริเวณตรงข้ามวัดภูเขาแก้ว เขตเทศบาลเมืองพิบูล หักโค่น 2 ต้น หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีพายุหมุนพัดต้นไม้ขนาดใหญ่ 5 ต้น ถอนรากถอนโคนไปทับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างถนนพังเสียหาย ทำให้ไฟดับทั้งหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่เร่งใช้เรื่อยยนต์ตัดต้นไม้เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พายุหมุนพัดต้นไม้ขนาดใหญ่เหวี่ยงขึ้นไปทับเสาไฟฟ้า จนสายไฟฟ้าแรงสูงขาด ระหว่างเกิดเหตุมีเด็กชายอายุประมาณ 13 ปี ขี่รถจักรยายนต์ผ่าน ถูกต้นไม้และกิ่งไม้ล้มพาดใส่บริเวณด้านหลังรถจักรยานยนต์ ทำให้เด็กชายคนดังกล่าวรอดตายอย่างหวุดหวิด. - สำนักข่าวไทย

โคลนถล่มทับรางรถไฟหัวกระสุน ประเทศจีน เนื่องจากฝนตกหนักเมื่อวานนี้ 2 ก.ย.54

Workers move mud away from the base of a rail track as a bullet train passes by a section of railway in Putian, East China"s Fujian province, Sept 2, 2011. A mudslide triggered by heavy rain occurred at 6:25 am Thursday near a section of railway connecting the city of Putian to Xianyou county, stopping 14 bullet trains on Thursday. The affected section reopened by 9 am after initial repairs, with the speed of passing bullet trains slowed to accommodate repairs, according to authorities from the Fuzhou train station. [Photo/CFP]

ที่ จ.พิษณุโลก มีประชาชนร้องเรียนว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนหลายสายในพื้นที่ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เกิดน้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนทรุดตัว เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะถนนสายบ้านโคก - นาแห้ว หลักกิโลเมตรที่ 55 -56 บริเวณบ้านรักไท หมู่ 6 ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก โดยดินได้พังทลายหายไปดับสายน้ำ ทำให้รถยนต์ขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ รถยนต์ขนาดเล็กผ่านได้อย่างยากลำบาก และเสี่ยงอันตราย แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะนำป้ายมาติดให้เลี่ยงการใช้เส้นทาง แต่ก็ยังมีรถยนต์จำนวนหนึ่ง ยังคงเสี่ยงผ่านบริเวณจุดถนนทรุดตัวเนื่องจากไม่ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นถึงไกลนับ 100 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ปริมาณฝนที่ตกหนักยังส่งผลให้เกิดปัญหาดินสไลด์ ทับเส้นทาง โดยเฉพาะถนนสายชาติตระการ - บ้านร่มเกล้า เกิดมีดินสไลด์มีนำก้อนหินขนาดใหญ่ ต้นไม้ทลายจากภูเขาสูงหล่นลงมาทับเส้นทางการจราจร ส่งผลให้ประชาชนต้องใช้ความระมัดระวัง ในการเดินทางมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไหลทางส่วนใหญ่เป็นหุบเขาสูง นอกจากนี้บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 43 พิษณุโลก - นาแห้ว เกิดน้ำป่าไหลหลากดินสไลด์กัดเซาะถนนทรุดตัว เข้ามาเกือบครึ่งถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายไปติดไว้ เพื่อเตือนผู้ใช้รถ ใช้ถนน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางผ่านจุดดังกล่าว

 

ม

สถานการณ์น้ำท่วมบางจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน ต้องเร่งทำแนวป้องกันน้ำ เพื่อป้องกันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจชั้นใน

เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครสวรรค์กว่า 100 คนลำเลียงกระสอบทรายนับหมื่นลูก และถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร สร้างแนวป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมในเขตเศรษฐกิจในตัวเมืองชั้นใน หลังจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำบางส่วนไหลมาตามท่อระบายน้ำ และไหลเข้าท่วมบางพื้นที่แล้ว
 
ที่จังหวัดสุโขทัย บางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะที่ตำบลวังทอง อำเภอศรีสำโรง และตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย น้ำที่ท่วมสูงได้ลดระดับลงจนเกือบจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ที่บ้านบางคลอง ตำบลปากแคว ยังคงถูกน้ำท่วมขัง ชาวบ้านต้องใช้สะพานไม้เป็นทางสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้านชั่วคราว
 
ที่จังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ชลประทานเร่งเปิดเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำท่าตูม เพื่อระบายน้ำลงสู่อ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน บรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน หลังจากน้ำในแม่น้ำชีเพิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้ได้ไหลเข้าท่วมบ้านที่อาศัยอยู่ที่ลุ่มริมแม่น้ำในตำบลลาดพัฒนา อำเภอเมือง ไปแล้วกว่า 70 หลัง นาข้าวเสียหายอีกกว่า 200 ไร่
 
ชาวชุมชนวังแดง เขตเทศบาลนครอุบลราชธานีอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพสวนสาธารณะห้วยม่วง เพิ่มขึ้นเป็น 40 ครอบครัว หลังจากน้ำในลำน้ำมูลน้อย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร หลายครอบครัวเริ่มขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค
 
ที่จังหวัดอ่างทอง ประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง ที่ยกบานประตูเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเซนติเมตร ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าคลองบางแก้ว คลองสาขาแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านหลังประตูระบายน้ำในตำบลบ้านอิฐ ตำบลบ้านรี อำเภอเมือง และชาวบ้านในอำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ เตรียมขนย้ายทรัพย์สินไปไว้ในพื้นที่สูง หลังระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
 
ที่จังหวัดสิงห์บุรี บ้านของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลน้ำตาล โรงเรียน 16 แห่ง และสถานที่ราชการในตัวอำเภออินทร์บุรี ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้อำเภออินทร์บุรีและอำเภอพรหมบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว และเตรียมประกาศให้อำเภอเมืองเป็นพื้นที่ภัยพิบัติอีก 1 อำเภอ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้น

Thaipbs
03/09/2011 - 20:16

 

       แม่ฮ่องสอน - ฝนถล่ม “ขุนยวม-แม่ลาน้อย” หนัก ทำดินภูเขาสไลด์ปิดทับทางหลวงแผ่นดิน 108 ยาวนับ 100 เมตร แถมทางแยกเข้า3 หมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงถูกตัดขาดจากโลกภายนอกกว่า 3 วัน ผู้ว่าฯ ให้ส่งเสบียงอาหารเข้าช่วยเหลือ
       
       วันนี้(3 ก.ย.54)นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปดูดินถล่มปิดทับถนนสายแม่ฮ่องสอน-แม่สะเรียง บริเวณบ้านท่าหิมส้ม-บ้านหนองแห้ง ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน หลังดินภูเขาไม่สามารถอุ้มน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ ทำให้ถล่มลงมาปิดทับทางหลวงแผ่นดิน108 กม.ที่ 175 และ กม.ที่ 176 ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(2 ก.ย.54) จนกระทั่งในช่วงสายของวันนี้ สำนักงานแขวงการทางแม่ฮ่องสอน ได้นำเครื่องจักรกลเข้าไปเปิดเส้นทาง 1 ช่องทางการจราจรเพื่อให้รถยนต์สามารถผ่านได้
       
       ผู้ว่า ฯ แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้ภูเขาไม่สามารถอุ้มน้ำได้ ก็เกิดถล่มลงมาทับเส้นทางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้สามารถเปิด 1 ช่องทางการจราจรให้รถยนต์ผ่านได้แล้ว แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากภูเขาที่อยู่สองข้างถนนมีร่องรอยที่จะถล่มลงมาอีก
       จากการตรวจสอบ ยังพบว่าบริเวณตามยอดภูเขาพบว่ามีการปลูกไร่ข้าวโพดเป็นจำนวนมาก และพบแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่อาจจะทำให้เกิดถูเขาถล่มลงมายังบริเวณพื้นที่ราบได้อีก ขณะนี้ได้ประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองปอน ให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตลอด 24 ชม.
       
       ผู้ว่า ฯ แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า นอกจากนี้จังหวัดยังได้รับรายงานว่า มีดินภูเขาสไลด์ปิดทับทางแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ยาวเข้าไปประมาณ 15 กม. ยาวกว่า 50 เมตร ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ทำให้ชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง 3 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย บ้านแม่ลาก๊ะ บ้านโข่จู และบ้านมหินหลวง ตำบลเมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะนี้กำลังนำเครื่องจักรกลเข้าไปเปิดเส้นทางอยู่ ซึ่งเหตุที่นำเครื่องจักรเข้าไปได้ล่าช้า เนื่องจากฝนตกหนักตลอดเวลา ทำให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะถนนสายดังกล่าวเป็นถนนลูกรังลัดเลาะไปตามสันเขา
       
       อย่างไรก็ตาม จังหวัดได้สั่งการให้ทางอำเภอขุนยวม ส่งเสบียงอาหารเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วนแล้ว
 

|

เรื่องราวของเด็กสาวผู้ไม่ย่อท้อต่อชะตากรรม ทำงานพิเศษตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบเพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อพิการ แม่สติฟั่นเฟือน และน้องที่เป็นโรคหัวใจ เธอทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่เข้มแข็ง ฝ่าฟันจนน้องชายได้รับการผ่าตัดรักษา และแม้ในยามยากจนที่สุด เธอยังสละเงินเก็บกว่าครึ่งบริจาคให้กับผู้ที่เดือดร้อนกว่า เมื่อเรื่องราวของเธอเผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนต่างยอมรับนับถือในพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเกินวัยของเธอ


 

|

 เหอผิง กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาควิชาภาษาต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหูหนาน เธอหัวเราะเก่ง ชอบเล่นกีฬา รักการร้องเพลง เป็นทั้งเด็กเรียนและเด็กกิจกรรมแถวหน้าของทางมหาวิทยาลัย ความสดใสมีชีวิตชีวาของเธอคงจะไม่แตกต่างจากหนุ่มสาววัยเดียวกัน ถ้าเพียงแต่ว่าเหอผิงจะไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่มีพ่อผู้พิการจากอุบัติเหตุ แม่ซึ่งเป็นโรคระบบประสาทบกพร่อง และน้องชายที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด
       
       เหอผิง เกิดเมื่อปี 1991 เป็นชาวตำบลเฉิงถานเจียง เมืองหลิวหยัง มณฑลหูหนาน ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวยากจนเพียงไม่กี่ครอบครัวในเมืองที่ร่ำรวยจากการเป็นแหล่งผลิตพลุและประทัดส่งออกที่ขึ้นชื่อของประเทศจีน เหอหรงบิดาผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถทำงานหนักจึงต้องไปเป็นคนงานในโรงงานทำพลุ มารดาป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท

       ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
       
       เนื่องจากบิดามารดาร่างกายไม่แข็งแรง ต้องหมดเงินไปกับการรักษาพยาบาล ขณะที่รายได้ของครอบครัวไม่เพียงพอกับรายจ่าย เหอผิงที่เพิ่งจะรู้เดียงสาจึงหาทางหารายได้พิเศษด้วยการไปรับจ้างม้วนกระดาษห่อประทัดในโรงงานตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เหอ อิ่งชุน ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาอู๋เถียนที่เหอผิงเคยเรียน เล่าให้ฟังว่ายังจำได้ดีถึงเวลาเปิดภาคเรียนใหม่ทุกเทอม เด็กหญิงเหอผิงจะกำเงินยับย่นยู่ยี่เลอะสีแดงที่มาจากน้ำพักน้ำแรงในโรงงานประทัดมาจ่ายค่าเทอมเสมอๆ ส่วนผลการเรียนของเหอผิงอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเหอผิงเล่าว่าความรักเรียนและความกระหายในวิชาความรู้ของเธอมาจากความกลัวที่ว่า อาจมีวันใดวันหนึ่งที่เธอจะ "ไม่มีโอกาสได้เรียนอีกต่อไป"
       
       เมื่ออายุได้ 12 ปี เหอจวิน น้องชายผู้เป็นโรคหัวใจก็ถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัว ทว่าความยากลำบากในชีวิตของเหอผิง ดูเหมือนว่าเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เดือนมีนาคม ปี 2008 เหอหรงผู้พ่อเกิดมีเลือดออกในสมอง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 ครั้ง ใช้ค่าใช้จ่ายนับหมื่นหยวน เหอผิงจึงต้องลาหยุดเรียนชั่วคราวเพื่อไปเที่ยวขอรับบริจาคเงินค่ารักษาพ่อ จากบ้านญาติ โรงงานพลุ และองค์กรการกุศลของรัฐในท้องถิ่น จนกระทั่งได้เงินมารักษาพ่อสำเร็จ แต่อาการเลือดออกในสมองทำลายขาสองข้างของเหอหรงจนไม่สามารถเดินได้ปกติอีกต่อไป เหอหรงเล่าว่าวันที่ต้องออกจากโรงพยาบาล เขากลายเป็นคนทุพลภาพไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ จึงได้แต่ร้องไห้และจับมือบุตรสาวเอาไว้ แต่กลับเป็นเหอผิงบุตรสาวที่เข้มแข็งกว่า กล่าวปลอบใจพ่อว่า "เมื่อยังมีชีวิตก็ยังมีความหวัง ขอเพียงพ่อยังอยู่กับหนู เราจะข้ามผ่านมันไปด้วยกัน"

 เหอผิงเล่าว่า ครั้งที่ 2 ที่บิดาต้องนอนโรงพยาบาล พ่อได้เรียกเธอมาข้างเตียงและกล่าวเชิงสั่งเสียว่า "ถ้าหนูเป็นลูกพ่อจริง ต้องหาทางรักษาโรคหัวใจให้น้อง" คำๆ นี้ราวกับสลักเอาไว้ในใจของเธอ โชคเข้าข้าง เมื่อวันหนึ่ง มีข่าวว่าองค์กรการกุศลระดับมณฑลร่วมมือกับโรงพยาบาลเซียงหย่าจัดโครงการผ่าตัดโรคหัวใจแต่กำเนิดฟรี 100 คน เหอผิงจึงพยายามทุกวิถีทาง เดินทางออกจากหมู่บ้านเพียงลำพังครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขอให้น้องชายเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สุดท้ายความพยายามของเธอก็ส่งผล น้องของเธอได้เข้าร่วมโครงการรับการผ่าตัดในที่สุดและการผ่าตัดก็ประสบผลสำเร็จอย่างดี
       
       ปี 2009 เหอผิงสอบติดภาควิชาภาษาต่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหูหนาน เมื่อต้องไปศึกษาต่อ สิ่งที่เธอกังวลใจมากที่สุดยามห่างจากบ้านคือน้องชาย กลัวว่าน้องจะป่วย กลัวน้องเกิดอุบัติเหตุ กล้วน้องทานอาหารไม่ได้ กลัวน้องไม่โต ครั้งหนึ่งเหอผิงเล่าว่า เมื่อเธอกลับมาเยี่ยมบ้าน พบว่าน้องชายใบหน้าซีดเหลืองผิดปกติ เหอผิงจึงพาน้องชายไปหาหมอที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่าปริมาณสารตะกั่วในเลือดของน้องมากเกินไป ต่อมาค่อยทราบว่าช่วงที่เธอไม่อยู่จึงไม่มีคนไปตักน้ำสะอาดในบ่อที่อยู่ไกลออกไป 300 เมตรมาไว้ใช้ในบ้าน มารดาของเธอใช้น้ำในบึงข้างบ้านมาทำอาหาร ซึ่งอาจปนเปื้อนสารตะกั่วจากโรงงานพลุและประทัด ทำให้สารพิษสะสมในร่างกาย นอกจากนี้อาการป่วยของบิดามารดาก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจเด็กน้อยที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้จนกลายเป็นเด็กซึมเศร้า
       
       พี่สาวคนนี้จะดูแลน้องเอง！
       
       เมื่อความคิดนี้ผ่านเข้ามา เด็กสาวที่กล้าคิดกล้าทำอย่างเหอผิงตัดสินใจทันที เธอไปขอร้องผู้อำนวยการโรงเรียนประถมในสังกัดมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ให้รับน้องเธอเข้าเรียน และพาน้องชายมาอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ข้างโรงเรียนด้วยกัน 2 คนพี่น้อง ซึ่งเจ้าของห้องเช่าเมตตาคิดค่าเช่าเพียงครึ่งหนึ่ง จากนั้นเธอจึงดูแลเรื่องสุขภาพของน้องอย่างใกล้ชิด เธอมักจะอดเพื่อให้น้องอิ่มเสมอ เพราะเธอตั้งปนิธานเอาไว้ว่าต้องให้น้องได้กินปลาทุกวัน และได้กินผลไม้กับนมอย่างน้อยวันเว้นวัน เพื่อให้เด็กน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง
       　
       ปัจจุบันเหอผิงทำงานพิเศษรวม 7 ที่ ทั้งงานสอนพิเศษเด็กตามบ้าน รับจ้างทำความสะอาดตึกเรียนตอนพักกลางวัน และเป็นเด็กเสิร์ฟ ตารางชีวิตประจำวันของเธอถูกจัดไว้อย่างแน่นเอี้ยด ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงตีหนึ่ง ซึ่งความทุ่มเทของเหอผิงก็ไม่เสียเปล่า เพราะน้องชายของเธอค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ร่าเริงขึ้น และเรียนดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา แม้ว่าสองพี่น้องจะไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมบ้านเพราะเหอผิงต้องทำงานพิเศษรวมทั้งเสียดายค่าเดินทาง แต่เธอก็ส่งเงินไปให้ทางบ้านทุกเดือนเพื่อให้พ่อแม่ได้ในชีวิตประจำวันและใช้ไปหาหมอ เมื่อถึงเทศกาลพิเศษเช่น ตรุษจีน เธอก็ไม่ลืมที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้พ่อ แม่ และน้องเสมอๆ ส่วนของตัวเธอเองนั้น เท่าที่จำความได้ไม่เคยมีเสื้อผ้าใหม่ เพราะทั้งหมดเป็นของเก่าที่ได้รับบริจาคมา

คนจนผู้ยิ่งใหญ่
       
       กรกฎาคม ปี 2008 เหอผิงบังเอิญเจอข่าวเล็กๆ ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เกี่ยวกับเด็กนักเรียนมัธยมฐานะยากจนที่ขอรับบริจาคเงินกว่าแสนหยวนเพื่อให้มารดาของเขาได้เข้ารับการผ่าตัด เหอผิงอยากช่วย เพราะเธอรู้รสชาติของความลำบากนั้นดีเพราะบิดาของเธอก็ได้รับการผ่าตัดเพราะเงินบริจาค เธอจึงตัดสินใจบริจาคเงิน 1600 หยวน จากเงินเก็บราว 3000 หยวนที่เธอทำงานมาทั้งชีวิต ให้เด็กชายคนนั้น เมื่อเด็กชายทราบว่าพี่สาวผู้ใจดีที่บริจาคเงินให้เขาในครั้งนี้อาจจะเป็นคนที่มีฐานะยากจนกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ จึงตื้นตันในมากและขอบคุณเหอผิงผ่านทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับนั้น
       
       เมื่อย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ดงกล่าว เหอผิง บอกว่าแม้ว่าเธอจะจนเงินทอง แต่ไม่ได้จนสติปัญญา ในยามที่เธอลำบากก็เคยได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเช่นกัน "ฉันต้องการที่จะตอบแทน ขณะเดียวกันก็เป็นการให้กำลังใจตัวเองด้วยว่า ฉันไม่ใช่คนที่เอาแต่ยื่นมือรับเงินของคนอื่น ขอเพียงทุกคนมีความรักและเมตตา สังคมก็จะสวยงามกว่านี้อีกมาก"
       
       เป็นดั่งทานตะวันกลางแสงอาทิตย์
       
       เหอผิง เป็นเด็กร่าเริง ยิ้มเก่ง จนคนภายนอกนึกภาพไม่ออกว่าเธอเป็นคนเดียวกับเด็กสาวที่แบกภาระของครอบครัวเอาไว้มากมาย ในด้านการเรียน เหอผิงอยู่ในระดับแนวหน้า เคยได้รับรางวัลชนะเลิศการพูดทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักร้อง นักโต้วาที และพิธีกร ของมหาวิทยาลัย ในห้องเช่าเล็กๆ ของเธอจึงประดับไปด้วยประกาศนีบัตรใบแล้วใบเล่า และด้วยความสามารถที่โดดเด่นรอบด้านทำให้เธอเพิ่งได้เป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรเงินสดสำหรับใช้จ่ายในมหาวิทยาลัยให้นักศึกษา ซึ่งค่าตอบแทนมากกว่าการเป็นครูสอนพิเศษตามบ้านหลายช่วงตัว
       
       "วันเวลาที่ยากลำบากที่สุดของฉันผ่านไปแล้ว ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น" เหอผิงกล่าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมตามนิสัยของเธอ
       
       สำหรับหลายคนอุปสรรคอาจทำให้ท้อแท้ แต่สำหรับบางคนขวางหนามกลับเป็นแรงผลักดันให้ฮึดสู้ต่อไป ที่หัวนอนในห้องเช่าเล็กๆ ของเหอผิงแปะรูปดอกทานตะวันเอาไว้ เพราะเธอชอบดอกทานตะวัน แม้ว่าจะเป็นดอกไม้พื้นๆ ที่ขึ้นตามท้องทุ่ง แต่ทานตะวันหันหน้าเข้าหาแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เสมอ เช่นเดียวกับ เหอผิง เด็กสาวที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังชีวิต ไม่เคยย่อท้อต่อชะตากรรมที่โถมซัดเข้ามา แต่กลับเปลี่ยนทุกบาดแผลมาเป็นพลัง ให้หัวใจดวงน้อยแกร่งพอที่จะนำพานาวาชีวิตฝ่าคลื่นลมไปถึงฝั่งฝันจนได้ในสักวัน

 

แม่น้ำน่านเพิ่มสูงกว่าตลิ่งเกือบ 1ม. เอ่อเข้าท่วมย่านธุรกิจ จ.พิจิตร

แม่น้ำน่านเพิ่มสูงเอ่อเข้าท่วมย่านการค้ากลางใจเมืองบางมูลนากจังหวัดพิจิตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร ผู้ประกอบการบางรายขนย้ายสินค้าไปไว้บนที่สูงเพื่อความปลอดภัย และเร่งเสริมกระสอบทรายป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายในร้าน เนื่องจากระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้น้ำจากแม่น้ำน่าน ยังไหลหลากเข้าท่วมชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี เขตเทศบาลเมืองบางมูลนาก ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

พระเจ้าหลานเธอฯมอบเรือพระราชทานให้ชาวบางระกำ

เมื่อเวลา 11.00 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า พัชรกิติยาภา ทรงโปรดให้นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้แทนพระองค์ประทานเรือพระราชทาน จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ มอบแก่นายธงชัย ทุ่งโพธิ์แดง นายอำเภอบางระกำ เพื่อนำไปช่วยเหลือราษฎรที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และยังขาดแคลนเรือที่จะใช้เป็นพาหนะอีกหลายหมู่บ้าน ความทรงทราบด้วยความห่วงใย จึงได้ทรงประทานเรือให้แก่ราษฎรเพื่อใช้เป็นพาหนะระหว่างประสบภัยน้ำท่วม

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดพิษณุโลกในขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมด 4 อำเภอ 52 ตำบล 370 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 3 หมื่นครอบครัว พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวเสียหายกว่า 3 แสนไร่ และมีผู้จมน้ำเสียชีวิต 5 ราย ทั้งนี้จังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งภาคเอกชน ได้นำสิ่งของ เรือท้องแบนเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือไปได้ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดพิษณุโลก ศาลากลางจังหวัด โทรศัพท์หมายเลข 055 - 251333 หรือที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันช่วยเหลือฟื้นฟูปัญหาอุทกภัยของอำเภอบางระกำ โทรศัพท์หมายเลข 055 - 371536 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทางจังหวัดจะได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป

ม

สัตว์ทะเลตายเป็นจำนวนมาก จากการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าว Bohai จีน ตั้งแต่วันนื่ 4 มิ.ย.




Fishermen pick dead shrimp out of their haul in Leting county, Tangshan, North China"s Hebei province, Aug 31, 2011. Large quantities of the seafood they hauled in were dead. Hebeiis located by Bohai Bay, where an oil spill occurred on June 4 and is yet to be stopped. Local fishermen said a lot of young fish and other seafood products kept dying in their fishery this year for no reason, before they learned from the news that an oil spill in Bohai Bay was the cause. "It"s a total loss of business this year," a seafood farmer said. "All the young sea cucumbers I put in the waters were floating there, and melted like ice cream within two days. I lost all my investment." Gao, Party secretary of a local village, said the Jingtang ports of Hebei province may have lost as much as 100 million yuan ($15.5 million) from the oil spill. The spilled oil from Penglai 19-3 oilfield has spread to at least 5,500 square kilometers, and has affected 24,300 square kilometers of water. [Photo/CFP]
 

ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย


วันเสาร์ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554
 

ไฟป่าที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาได้ลุกลามเข้าใกล้ถนนหลวงเชื่อมรัฐสาย 15 ระหว่างแคลิฟอร์เนียใต้กับเนวาด้าแล้วเมื่อวานนี้ ทางการสั่งอพยพประชาชน 1,500 คนออกจากพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ยังต้องปิดถนนในเขตคายอน พาส ซึ่งเป็นเส้นทางการจราจรพลุกพล่านในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้การจราจรติด ขัดหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว


 

ไต้ฝุ่น "ทาลัส" ถล่ม "เกาะชิโกกุ" ดับแล้ว 1 ราย

วันที่ 03/09/2554 12:15 (ผ่านมา 7 ชั่วโมง 35 นาที)





ไต้ฝุ่นทาลัส เคลื่อนตัวเข้าสู่เกาะชิโกกุทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมและดินถล่ม ล่าสุดมีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ว่า สำนักอุตุนิยมวิทยาของประเทศญี่ปุ่นมีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่น "ทาลัส" มีระดับความเร็วลม 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าสู่เกาะชิโกกุทางตะวันตกของประเทศ เม่ือเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในพื้นที่ รวมถึงมีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 1 ราย และหายสาบสูญอีก 3 คน

นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักเนื่องจากอิทธิพลของพายุ ยังส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่บนเกาะชิโกกุ ซึ่งมีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นว่า มีบ้านเรือนกว่า 300 หลัง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และมีผู้บาดเจ็บ 17 ราย โดย 6 รายในจำนวนนี้มีอาการสาหัส

ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นทาลัสกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไปทางทิศเหนือ ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักอุตุฯคาดว่าจะเคลื่อนตัวออกสู่ทะเลญี่ปุ่นทางตะวันออกในช่วงเช้าวันอาทิตย์นี้

อนึ่ง โฆษกตำรวจท้องถิ่นของเกาะชิโกกุ รายงานผ่านทางโทรศัพท์ว่าพบศพผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปี ลอยมาตามกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากของแม่น้ำสายหนึ่งในเมืองโตกุชิมา บนเกาะชิโกกุ.

พายุทาลัสกระหน่ำญี่ปุ่นทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและสร้างความเสียหายหนัก


ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 3 กันยายน 2554 12:46:55 น.
พายุไต้ฝุ่น "ทาลัส" ได้พัดกระหน่ำเกาะชิโกกุของญี่ปุ่นในวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และสูญหายอย่างน้อย 5 คน นอกจากนี้ อิทธิพลของพายุยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 28 คน และทำให้ประชาชนกว่า 3,200 คนในพื้นที่ 16 จังหวัดของญี่ปุ่นต้องอพยพออกจากพื้นที่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นทาลัสได้ส่งผลกระทบต่อศูนย์กลางการจราจรทางอากาศในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น โดยทำให้มีการระงับเที่ยวบินภายในประเทศอย่างน้อย 375 เที่ยว และเที่ยวบินระหว่างประเทศอีก 17 เที่ยว อีกทั้งยังทำให้ประชาชนกว่า 76,300 ครัวเรือนในจังหวัดชิมาเนะและคินกิ ไม่มีไฟฟ้าใช้

นอกจากนี้มีรายงานว่า พายุทาลัสยังทำให้การบริการรถไฟทั้งหมดในเกาะชิโกกุต้องถูกระงับทั้งหมด และยังทำให้การให้บริการรถไฟความเร็วสูง 34 สายต้องล่าช้าเป็นเวลาประมาณ 46 นาทีในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับประชาชนกว่า 18,000 คน
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นกล่าวว่า พายุทาลัส ซึ่งมีความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลาง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นลมแรงในทะเล และฝนตกหนัก นอกจากนี้ยังมีน้ำไหลบ่าท่วมถนนในบางพื้นที่ และเกิดดินถล่มในหลายจุด
ส่วนที่เกาะฮอกไกโดนั้น อิทธิพลของพายุทาลัสทำให้ฝนตกหนัก ส่งผลให้แม่น้ำหลายสายเอ่อท้นฝั่ง โดยฝนที่ตกลงมาวัดปริมาณได้มากกว่าปกติ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าญี่ปุ่นอาจจะเผชิญฝนตกหนักเป็นเวลานาน และอาจมีความเสียหายเพิ่มมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์

ไม่ได้เข้ามาติดตามข่าวคราวหลายวัน ได้มาอ่านวันนี้ก็เต็มอิ่ม

ทั้งข่าวน้ำท่วม รวมถึงเรื่องราวอันน่ายกย่องของหนูน้อยมหัศจรรย์

เหอผิง เด็กอะไรเข้มแข็งเกินวัย น่าชื่นชมจริงๆ อ่านๆแล้วก็อายเด็กจัง..เน้อ...

อนุโมทนากับการทำหน้าที่เป็นผู้ส่งข่าวรายวัน

กับคุณ อาริยา ด้วยนะค๊า...

สภาพ หมู่บ้านโตสึกาวะ จังหวัดนาระ หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน อันเป็นผลจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นตาลัส สำนักงานตำรวจจังหวัดนาระเผยแพร่ภาพดังกล่าว วันนี้ (4)

เอ เอฟพี - ไต้ฝุ่น “ตาลัส” ที่พัดถล่มภูมิภาคทางตะวันตกของญี่ปุ่นวันนี้ (4) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 17 ราย และผู้สูญหายอีก 43 ราย หลังจากกระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมชุมชน และแผ่นดินถล่มทำลายบ้านเรือนจำนวนมาก

มี รายงานว่าชายเคราะห์ร้ายคนหนึ่งจมน้ำเสียชีวิต ขณะรถยนต์ของเขาติดอยู่กลางกระแสน้ำรุนแรง หลังจากถนนหลายสายจมอยู่ใต้บาดาล ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นตาลัสขึ้นฝั่งญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ (3) ด้วยความเร็วลม 108 กิโลเมตร/ชั่วโมง และได้พัดทำลายพื้นที่สำคัญๆ บนเกาะชิโกกุ และบริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู

บ้านเรือนหลายหลังในหมู่ บ้านโตสึกาวะ จังหวัดนาระ ถูกกระแสน้ำรุนแรงพัดทำลาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้สูญหายอีก 7 ราย ฝ่ายปกครองจังหวัดนาระเปิดเผย

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจจังหวัดวากายามะประกาศว่า ในจังหวัดวากายามะ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย สูญหายอีก 32 ราย พร้อมทั้งชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก

ขณะที่สถานีข่าวเอ็นเอ ชเครายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากวาตภัยฤดูร้อนครั้งนี้มีแล้วอย่างน้อย 17 ราย สูญหาย 43 ราย และบาดเจ็บอีก 98 ราย

สถานีโทรทัศน์ช่อง ต่างๆ ในญี่ปุ่นได้เผยแพร่ภาพแผ่นดินถล่มทำลายบ้านไม้ในชุนชนที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขา กระแสน้ำโคลนรุนแรงพัดพาเศษซากปรักหักพังและรถยนต์ไปตามท้องถนน

ด้าน สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรายงานว่า พายุตาลัสเคลื่อนตัวขึ้นเหนืออย่างช้าๆ และออกสู่ทะเลญี่ปุ่น (ทะเลตะวันออก) ในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม แม้พายุร้ายลูกนี้ได้เคลื่อนตัวออกสู่ทะเลแล้ว ทางการยังเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยระวังอันตรายจากโคลนถล่ม หลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ซึ่งในบางพื้นที่สามารถวัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้ถึง 180 เซนติเมตร

 

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กันยายน 2554 19:19 น.

ปทุมธานี-  น้ำทะลักคันกั้นน้ำวัดโพธิ์เลื่อนท่วมวัด/โรงเรียน 
  
4 กย. 2554 13:55 น.

11.30 น.วันที่ 4 ก.ย.54 น้ำได้ล้นคันกั้นน้ำรอบวัดโพธิ์เลื่อน ต.บ้านกระแชง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ที่นายบวร จับศรทิพย นายก อบต. บ้านกระแชง นำงบประมาณมาสนับสนุนการจัดทำคันกั้นน้ำ ทำให้พื้นที่ลานวัดและโรงเรียนถูกน้ำท่วมทั้งหมด ส่วนที่ อบต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายสายัณ นพขำ นายก อบต.บ้านกลาง ได้ระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำรอบวัดโบสถ์ เพราะหากน้ำเข้าท่วมก็จะทำให้ท่วมโรงเรียนคณะราษฎรบำรุงและวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีด้วย โดยได้ประสานให้รถแบคโฮเร่งจัดทำคั้นกั้นน้ำ ที่ถนนปทุมธานีสายเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา

-------------------------

เผยยอดผู้ป่วยน้ำท่วมกว่า 7 หมื่นราย 
 
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายไพจิตร วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อฟังบรรยาสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม จากนั้นได้ลงเรือตรวจดูสภาพน้ำท่วมตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย
นายวิทยา เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดภาวะน้ำท่วม พบว่ามีผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์น้ำท่วมร่วม76,585 ราย ซึ่งพบว่าเป็นโรคน้ำกัดเท้าอันดับหนึ่ง รองลงมาคืออาการปวดเมื่อย ไข้หวัด ที่สำคัญยังมีเรื่องของสุขภาพจิต ได้สั่งการให้กรมสุขภาพจิตร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตรวจคัดกรองผู้ป่วยทางใจ ซึ่งถึงปัจจุบันมีผู้ตรวจไปแล้ว 12,036 ราย พบว่าเป็นอาการซึมเศร้า 1,192 ราย เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 173 ราย ต้องมีการติดตามดูแลเป็นพิเศษ 225 ราย มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมไปแล้ว 59 ราย เป็นชาย 54 รายและหญิง 5 ราย ส่วนใหญ่กว่า 80 เปอร์เซ็น เกิดจากจมน้ำ และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 11 ราย ขณะเดียวกันได้ให้องค์การเภสัชกรรมผลิตยาสำรอง 2 00,000 ชุด และยังโรงพยาบาลอีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ร่วมสนับสนุนการผลิตอีก 300,000 ชุด แจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย

ศรีสะเกษ -  เตือนน้ำป่าไหลหลาก ห้ามลงเล่นน้ำตกห้วยจันทร์ 
  

4 กย. 2554 14:03 น.

นายรุจน์ เมฆทอง หน.อุทยานสวนรุกชาติ 100 ปี น้ำตกห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อุทยานสวนรุกชาติ 100 ปี น้ำตกห้วยจันทร์ ซึ่งปกติมีนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวชมความงามของน้ำตกในฤดูน้ำหลาก พาลูกหลานเพื่อนๆ มาเที่ยว มารับประทานอาหารเที่ยงกันเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์
นายรุจน์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย - กัมพูชา จึงเกิดน้ำป่าไหลหลากมาเป็นจำนวนมาก ตนจึงประชุมเจ้าหน้าที่และประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกเป็นอันขาด เพราะหวั่นจะเกิดอันตราย เพราะน้ำตกไหลแรงมาก เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ จึงประกาศเตือนให้งดเล่นน้ำตกในระยะนี้โดยเด็ดขาด และส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าสถานที่ตลอดทั้งวัน และที่สำคัญห้ามนักท่องเที่ยวนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์มาดื่มกินในบริเวณเขตพื้นที่อุทยานด้วย เพราะเป็นสถานที่ราชการ ซึ่งเดิมเคยมีนักท่องเที่ยวมาดื่มกินแล้วเมา ลงเล่นน้ำจนเกิดอันตรายพลัดตกน้ำไหลหลากจมน้ำเสียชีวิต บางครั้งก็ทิ้งเศษแก้วเศษขวดทำให้เกิดอันตรายได้ การดื่มสุรายังทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท ชกต่อยกัน จึงห้ามนำเครื่องดื่มของมึนเมาเข้ามาในเขตอุทยานฯ พร้อมกับการจัดเวรยามของเจ้าหน้าที่เฝ้ารักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวตลอดทุกวันตั้งเปิดจนปิดอุทยาน
หน.อุทยานสวนรุกชาติ 100 ปี น้ำตกห้วยจันทร์ กล่าวว่าน้ำตกห้วยจันทร์ แห่งนี้ในปีหนึ่งๆ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชมมากกว่า 1 ล้านคน โดยจะมากในช่วงฤดูน้ำหลาก และฤดูหนาว ช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งมานอนพักค้างแรมมาเช้าเย็นกลับ มาจัดเข้าค่ายอบรมต่างๆ โดยขณะนี้ทางอุทยานได้เปิดให้เข้าเที่ยวฟรี ส่วนการพักค้างคืนก็จะมีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าบ้านพักเล็กน้อย

----------------------------------------------------------------------
 

กาฬสินธ์ุ - ฝนตกหนักติดต่อกันเขื่อนลำปาวเพิ่ม

ระดับการปล่อยน้ำ 
  

4 กย. 2554 14:54 น.

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ตลอด 2 วันที่ผ่านมา มีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน ปริมาณฝนที่ตกหนักเฉลี่ยสูงสุดที่ 100 มิลลิเมตรในพื้นที่ อ.เมือง ส่วนพื้นที่รอบนอกในหลายอำเภอมีปริมาณฝนตกมากกว่า 70 มิลลิเมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มขึ้น ขณะนี้ทางเขื่อนลำปาวต้องเพิ่มระดับการระบายน้ำอีกครั้งหลัก จากที่ลดการระบายน้ำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อดินโคลนถล่มตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้สังเกตจากเส้นทางน้ำไหลใกล้เชิงภูเขาไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในรอยต่อเขตเทือกเขาภูพาน และบริเวณภูเขา หากพบผิดปกติให้แจ้งมายังศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยจังหวัด

.อ่างทอง-ตำบลโผงเผงท่วมหนัก

วันอาทิตย์ ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอ่างทอง หนักสุดที่ตำบลโผงเผง ตชด.ต้งปีนเข้าไปในบ้านช่วยคนพิการติดอยู่ในบ้านที่จมน้ำ

ล่าสุดน้ำได้ทะลักเข้าท่วมในหลายพื้นใน 3 อำเภอ คืออำเภอป่าโมก ที่ตำบลโผงเผง ตำบลนรสิงห์ ตำบลบางเสด็จ อำเภอเมือง ที่ตำบลจำปาหล่อ ตำบลโพสะ และอำเภอวิเศษชัยชาญ ที่ตำบลบางจัก ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ตำบลโผงเผง น้ำท่วมหนักสูงกว่า 2 เมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชนต้องจมอยู่ในน้ำหลายร้อยหลังคาเรือน ที่สำคัญมีผู้สูงอายุ คนพิการได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกัน ซึ่งเมื่อวานนี้ ทหารจากกองพันปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ (ป.พัน 11 รอ.) ได้ลอยคอเข้าช่วย นางชั้น แก้วตาแสน อายุ 92 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/5 หมู่ที่ 6 ต.โผงเผง ซึ่งพิการตาบอด เดินไม่ได้ นอนอยู่ที่บ้านซึ่งโดนน้ำท่วมสูงออกมาได้อย่างปลอดภัย


และล่าสุดยังพบคนพิการที่ติดอยู่ในบ้านอีก 1 คน คือนายจักรกฤษณ์ สายสร้อย อายุ 39 ปี พิการเดินไม่ได้ ติดอยู่ภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูง วันนี้ นางกุลฟาร์ลี เทพรักษ์ นายกอบต.โผงเผง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร่วมกับทหารจากกองพันปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ (ป.พัน 11 รอ.)เข้าช่วยเหลือ นายจักรกฤษณ์ สายสร้อย ซึ่งพิการมาแต่กำเนิดเดินไม่ได้ นอนอยู่ภายในบ้านที่อยู่กลางน้ำที่สูงกว่า 2 เมตร ปีนเข้าทางหน้าต่างบ้านเข้าไปอุ้มนายจักรกฤษณ์ออกมาลงเรือนำส่งเจ้าหน้าที่ของหน่วยแพทย์กู้ชีพ โรงพยาบาลป่าโมกที่นำรถมารอรับที่ถนนได้อย่างปลอดภัย


นางกุลฟาร์ลี กล่าวว่า น้ำท่วมสูงมากในพื้นที่ตำบลโผงเผง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ทางอบต.ได้รับการร้องขอความช่วยเหลืออยู่เกือบทุกวัน แต่ที่น่าดีใจที่มีกองกำลังทหารจากกองพันปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 เข้ามาช่วยในพื้นที่ จึงสามารถเข้าช่วยประชาชนที่เดือดร้อนได้ทันที

รูปที่เกี่ยวข้อง»

 
 
 
  
 อยุธยา-น้ำท่วมบางบาลเข้าขั้นวิกฤต
 

 น้ำเหนือทะลักอำเภอบางบาลจมเป็นเมืองบาดาล วัด ชาวบ้าน ตำรวจ หมออนามัย ไม่เว้นพระภูมิเจ้าที่ ยังเดือดร้อนถูกน้ำท่วม ชาวบ้านเร่งยกพื้นบ้านหนี ตำรวจย้ายกองผ้าป่าขึ้นไปบนที่สูงระดมเงินช่วยชาวบ้าน

เช้าวันนี้ (4 ก.ย.) อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงเดือดร้อนหนักที่สุดในขณะนี้ กระแสน้ำไหลแรงทะลักเข้าท่วมขยายพื้นเป็นวงกว้าง ท่วมบ้านเรือนประชาชนจมน้ำไม่สามารถอยู่อาศัยได้ต้องขนของหนีย้ายไว้ชั้นบน ต้องปิดบ้านทิ้งไปอยู่กับญาติ

วัดต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอบางบาลที่ริมคลองบางหลวง มีสภาพไม่แตกต่างจากวัดก่อไผ่ ระดับน้ำจากคลองบางหลวงท่วมเข้ามาถึงพื้นโบสถ์ คาดว่าวันพรุ่งนี้ถ้าระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างนี้อีกจะไหลเข้าท่วมภายในโบสถ์ ขณะนี้พระในวัดไม่สามารถใช้โบสถ์ในการลงอุโบสถของพระสงฆ์ช่วงระหว่างวันเข้าพรรษาได้

ส่วนชาวบ้านต่างต้องเร่งช่วยเหลือตัวเอง อย่างบ้านของนาย สุวิทย์ อินสัมฤทธิ์ กับหลานชาย ถุกน้ำท่วมมาถึงพื้นบ้านต้องช่วยกันงัดพื้นบ้านส่วนที่ท่วมน้ำไปแล้ว มาทำเป็นพื้นยกสูงหนีน้ำขึ้นถึงขอบหน้าต่าง เพื่อรับมือน้ำที่กำลังไหลบ่าลงมาไว้ใช้หลับนอนเมื่อน้ำท่วมมาถึงพื้นบ้าน และยังพบว่าบ้านดนตรีไทย ซึ่งอยู่ข้างเคียงถูกน้ำท่วมจมทั้งหลัง สิ่งของเครื่องใช้ยกหนีน้ำจนไม่มีที่จะเก็บ เครื่องดนตรีที่เป็นไม้ต้องใช้เชือกผูกโยงลอยน้ำไว้เป็นการชั่วคราว

ความเดือดร้อนไม่ใช้จะมีเฉพาะวัดชาวบ้านเท่านั้นแม้แต่พระภุมิเจ้าที่ยกเสาไว้สูงเกือบ 2 เมตร หนีไม่พ้นถูกน้ำท่วมเกือบจะมิดศาล บางศาลจมน้ำไปแล้ว เจ้าของบ้านเกรงจะเกิดรางร้ายต้องขนย้ายศาลพระภูมิหนีน้ำไปอยู่บนหลังคาบ้านเป็นการชั่วคราว

ส่วนตำรวจบางบาลได้จัดพิธีทอดผ้าป่าเตรียมจัดสร้างตู้ยามไว้ทีบริเวณสี่แยกวัดกอไผ่ จุดที่ถูกน้ำท่วมเพื่อไว้เก็บรักษาทรัพย์สินของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถ จยย. ที่หนีน้ำ และได้กำหนดงานล่วงหน้าไว้แล้ว โดยชาวบ้านร่วมกันกับตำรวจบางบาลจัดทำขึ้นมา แต่วัดกอไผ่ถูกน้ำท่วมไม่สามารถเดินทางเข้าไปประกอบพิธีได้ ต้องหนีน้ำมาอาศัยอาคารของโรงเรียนวัดกอไผ่ทอดผ้าป่าแทน เบื้องต้นคาดว่าจะได้เงินประมาณ 300,000 บาท แต่ชาวบ้านต้องมารับเคราะห์ถูกน้ำท่วมเดือดร้อนเสียก่อน คงจะได้เงินบริจาคเล็กน้อยเท่านั้น แต่พิธีต้องดำเนินการต่อไปตามที่ชาวบ้านได้กำหนดไว้แล้ว

และในวันพรุ่งนี้ นางบุญชอบ กิจที่พึ่ง กำนัน ตำบลบางหลวง จะระดมชาวบ้านบรรจุกระสอบทรายนับหมื่นใบเพื่อปิดกั้นน้ำ จากคลองบางหลวงเข้าท่วมโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ

 

นครสวรรค์-น้ำท่วมเขตเทศบาลขยายไป 6 ชุมชุน

2554

-----------------

ปภ.แจงน้ำยังท่วมอีก 9 จังหวัด 28 จว.คลี่คลาย ตาย 59 ราย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่ามีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยและมีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวม 37 จังหวัด 283 อำเภอ ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟูมี 28 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด 44 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 59 ราย

โดย จ.พิจิตร เสียชีวิตสูงสุด 12 ราย ราษฎรเดือดร้อน 122,314 ครัวเรือน 398,919 ราย / จ.พิจิตร น้ำท่วม 12 อำเภอ แนวโน้มน้ำยังจะเพิ่มสูง เช่นเดียวกับที่ จ.พิษณุโลก ทำให้โรงเรียนปิดการเรียน 15 แห่ง /จ.นครสวรรค์ น้ำจากแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ต้องปิดโรงเรียน 33 แห่ง / จ.อ่างทอง น้ำท่วม 5 อำเภอ / จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วม 8 อำเภอ

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครสวรรค์ยังคงขยายเป็นวงกว้าง ในขณะที่ปริมาณน้ำจากบึงบอระเพ็ดเต็มความจุ เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบางพื้นที่ตำบลพนมเศษ อำเภอท่าตะโก ที่อยู่ท้ายบึงแล้ว


ล่าสุดแม่น้ำเจ้าพระยา น่าน และแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ไหลเข้าท่วมชุมชนในเขตเทศบาลแล้วทั้งหมด 6 ชุมชนได้แก่ ชุมชนบางปรอง ชุมชนสถานีรถไฟปากน้ำโพ ชุมชนตลาดใหม่ ชุมชนชอนตะวัน ชุมชนวัดตะแบก และชุมชนหนองปลาแห้ง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวม 1,250 ครัวเรือน โดยเฉพาะชุมชนบางปรอง ซื่งเป็นชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงถึงชั้นสองของตัวบ้านแล้ว ชาวบ้านต้องต่อเตียงเสริมหนีน้ำ

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ รายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมยังคงขยายเป็นวงกว้าง โดยปริมาณน้ำน่านที่ไหลบ่าจากภาคเหนือ ทำให้ประตูทดน้ำที่จะปิดผันน้ำเข้า-ออกบึงบอระเพ็ด เกิดน้ำล้นทะลักไหลเข้าบึงบอระเพ็ดจนเต็มความจุจนเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบางพื้นที่ ตำบลพนมเศษ อำเภอท่าตะโก ที่อยู่ท้ายบึงแล้ว

ด้านนายชลิต พงศ์สิทธิศักดิ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า น้ำเหนือที่ไหลบ่ามาถึงนครสวรรค์ ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายอำเภอ ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 9 อำเภอ ได้แก่ โกรกพระ พยุหะ ชุมแสง ท่าตะโก ตากฟ้า เมือง เก้าเลี้ยว หนองบัว และ ตาคลี รวม 29 ตำบล 169 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 22,816 ครัวเรือน จำนวน 72,215 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 153,716 ไร่

เครื่องบินทหารชิลี” ดิ่งม.แปซิฟิก ผู้โดยสาร 21 รายเสียชีวิตยกลำ

วันที่ 04/09/2554 08:16


กองทัพอากาศชิลีนำร่างผู้เสียชีวิต 1 ใน 4 รายจากอุบัติเหตุเครื่องบินทหารตกกลางมหาสมุทรแปซิฟิกกลับถึงกรุงซันติอาโก วานนี้(3) โดยล่าสุดรัฐบาลชิลีประกาศว่า ผู้โดยสาร 21 รายน่าจะเสียชีวิตแล้วทั้งหมด เอเจนซี - เครื่องบินของกองทัพชิลีประสบอุบัติเหตุตกลงกลางมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งเกาะฮวนเฟอร์นันเดซ เมื่อวันศุกร์(2)ที่ผ่านมา โดยล่าสุดรัฐบาลชิลีได้ประกาศว่า ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 21 รายเสียชีวิตแล้วทั้งหมด

หน่วยค้นหาและช่วยชีวิตสามารถกู้ร่างผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเครื่องบินได้แล้ว 4 ราย ซึ่งอุบัติเหตุในครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมด้านการบินที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีของชิลี

“เราสรุปได้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้มีความรุนแรงมาก และอาจทำให้ผู้โดยสารทั้งหมดเสียชีวิตในทันที” อันเดรส อัลลามานด์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมชิลี กล่าว

เครื่องบินรุ่น CASA 212 ลำดังกล่าวพยายามลงจอดถึง 2 ครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(2) ก่อนจะขาดการติดต่อไปหลังจากเกิดพายุฝนและกระแสลมแรงในพื้นที่ดังกล่าว

ในจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดมีผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ทีวีเอ็น 5 ราย รวมถึงผู้ประกาศข่าวชื่อดังของชิลี เฟลิเป คาเมโรอากา ซึ่งทั้งหมดกำลังเดินทางไปทำข่าวการฟื้นฟูสภาพเกาะฮวนเฟอร์นันเดซ ซึ่งประสบเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปีที่แล้ว

.ภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด ขณะที่ชาวบ้านกำลังเล่นน้ำทเลวิ่งหนีเอาตัวรอด น่ากลัวมากๆ 

Activation of mud volcanoes in the Azov Sea

ชาวกัวเตมาลาเชื่อ"หมูหัวมนุษย์"เป็นสัตว์ต่างดาวกลายพันธุ์ เหตุ"อุแว้"หลังยูเอฟโอปรากฎบนฟ้า

วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 13:50:06 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ว่า ชาวหมู่บ้าน"ซานตา ครูซ เอล โชล"แห่งประเทศกัวเตมาลา ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของลูกหมูหัวมนุษย์ ต่างลงความเห็นว่า ลูกหมูดังกล่าวเป็นผลผลิตของมนุษย์ต่างดาว หรือเป็นสัตว์ต่างดาวกลายพันธุ์ เพราะมันกำเนิดหลังจากเกิดแสงกระจ่างวาบบนท้องฟ้า เหนือบริเวณเกิด ซึ่งเชื่อว่าแสงดังกล่าวเป็นยานยูเอฟโอ

โดยชาวบ้านบางรายบอกว่า เขารู้สึกช็อกมาก ลูกหมูหัวมนุษย์ดังกล่าวถือเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวมาก และมันดูเหมือนสิ่งสร้างสรรค์จากต่างดาว อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบางรายก็มองต่างมุม บอกว่า เขาไม่รู้ว่าจริงๆ ลูกหมูหัวมนุษย์ตัวนี้เป็นอะไรกันแน่ แต่บางทีมันอาจเกิดในสภาพมีปัญหาทางพันธุกรรม หรือเกิดจากมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

ส่วนที่เวลส์ มีรายงานว่า นักพยาธิวิทยาเวลส์ กำลังตรวจสอบการกลายพันธุ์ของสัตว์หลายประเภทในประเทศนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวอาจเป็นสาเหตุการให้กำเนิดสัตว์เหล่านี้

นายจุตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยในรายการชั่วโมงเตือนภัยเสาร์ที่ 3 ก.ย. ว่า ผมเพิ่งประชุมเสร็จเมื่อกี้เรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเบื้องต้น ท่านนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยครับ ตอนนี้ก็เป็นอนุกรรมการชุดป้องกันซึ่งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา และมีกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และให้เป็นนโยบายเบื้องต้นก่อน และวางแผนในการแก้ไขปัญหา และพรุ่งนี้เชิญผู้ว่าการจังหวัดที่ยังมีสภาพอุทกภัยอีกทั้ง 9 จังหวัดมาหาลือในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ตอนนี้ก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ครับ คือกรมทรัพยากรน้ำเราก็มีภารกิจหนึ่งในการติดตั้งเครื่อง Early warning เตือนภัยเรื่องดินถล่ม ฝนตก โดยครั้งล่าสุดเรากำหนดพื้นที่ที่เสี่ยงภัย 2,000 กว่าหมู่บ้านตั้งแต่ปี 2550 จนทำให้เสร็จสิ้นปี 2554 ที่นี้ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันทางกรมทรัพยากรน้ำได้หารือกับกรมทรัพยากรธรณี ปรากฏว่าพื้นที่หมู่บ้านเสียงภัยเพิ่มขึ้นอีก 4,000 กว่าแห่งตอนนี้ก็ 6,000 กว่าแห่ง ซึ่งผมได้กราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรีว่านี้มันเป็นประเด็นเหมือนกัน แล้วก็อนุญาตเรียนตรง ๆ ว่าพื้นที่ที่เราติดตั้งเครื่อง Early warning ซึ่งทางกรมเราติดตั้งไม่มีปัญหาเรื่องที่พี่น้องประชาชนสูญเสียชีวิตเลย เราก็มีการเตือนกับพี่น้องประชาชนที่เป็นเครือข่ายของกรมทรัพยากรธรณีเราบูรณาการร่วมกันช่วยแจ้งเตือนแต่ว่าจะเห็นได้ว่าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเกิดในพื้นที่ที่มันลึกเข้าไป และก็ไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่น่าเชื่อว่า ณ ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยขึ้นมา ซึ่งอันนี้เราต้องมาปรับแผนใหม่แล้ว ก็ตรงนี้ทางกรมทรัพยากรธรณีก็แจ้งว่า มีพื้นที่หมู่บ้านเสียงภัยเพิ่มขึ้นจำนวนเท่านี้นะ ทางกรมทรัพยากรน้ำซึ่งเป็นคนที่ติดตั้งเครื่อง Early warning ก็ต้องของบประมาณที่จะติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยนี้ขึ้นอีกตามจำนวนการเสี่ยงภัยที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งดำเนินการอยู่ครับ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราเห็นจะเห็นได้ว่าพื้นที่ที่เป็นต้นน้ำ หรือพื้นที่ที่เป็นป่าอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่โดนบุกรุกทำลายซึ่งอันนี้ผมเรียนเลยว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านปรีชา เร่งสมบูรณ์สุขให้ความสำคัญมาก ซึ่งเป็นผลปัจจัยหนึ่งทำให้ปัญหาการจัดการน้ำมีปัญหาด้วย เพราะว่าต้นน้ำเรามีปัญหาต้องเรียนให้ทราบเลย ก็จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทางใต้ก็ปลูกต้นยางก็จะได้รับความเสียหาย 100% ก็หมู่บ้าน70,000-80,000 แห่ง 10-20% เป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก แต่ที่นี้เราก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ปัญหาจะมีปัญหามากขึ้นหรือเปล่า เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศมันสูง มันก็ส่งผลกันหมด คือเมื่อก่อนฝนมันตกก็ตกแบบปูพรม แต่ที่นี้มันตกหนักๆ ตกแบบซ้ำ ๆ ในเวลาค่อนข้างนานมันก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผมคิดว่าทำให้เกิดความเสี่ยงได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ปัจจุบันเราก็ต้องระมัดระวังเรื่องการเตือนภัยให้ความสำคัญเป็นอำดับแรก ๆ ตอนนี้ในปี 2554 เราจะติดตั้งครบที่เราคำนวณไว้ในครอบคลุม 2,000 กว่าหมู่บ้านที่เสียงภัยที่มติครม. กำหนดครั้งแรกในปี 2550 อันนี้มันจะครบในปี 2554 และมันเพิ่มไปเป็น 6,000 อันนี้เราต้องเร่งแล้วและเป็นที่เชื่อแน่แล้วว่าสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจะส่งผลให้สิ่งต่าง ๆ ที่ผมเรียนไว้แล้วเบื้องต้นนี้ก่อให้เกิดความรุนแรงเรื่องภัยเพิ่มมากขึ้น อันนี้ผมเป็นห่วงมาก อันนี้ก็ต้องเพิ่มนโยบายเหมือนกัน เครื่องมือเตือนภัยอันนี้นะครับ มันก็จะมีเสียง เมื่อยู่ในจุดที่วิกฤตเสียงจะดังเลย และก็ขณะเดียวกันก็จะส่งข้อมูลมาที่ศูนย์ส่วนกลาง ศูนย์ส่วนกลางก็จะประสานงานกับคนที่เกี่ยวข้องว่าจุดนี้มีฝนตกหนักซึ่งอยู่ในจุดที่สีเขียว สีเหลือง สีแดง แล้วนะ เพราะฉะนั้นต้องปฏิบัติตามอย่างที่เราตกลงกันไว้อันนี้อันที่หนึ่ง ขณะเดียวกันเราก็จะครือข่ายป้องกันธรณีพิบัติภัยซึ่งอันนี้กรมทรัพยากรธรณีเป็นคนจัดตั้งอันนี้ก็จะทำงานตอบรับกัน และเป็นตัง KPI ร่วมระหว่างกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณีด้วย KPI ร่วมระหว่าง 2 กรมในการแก้ไขปัญหา เพราะฉะนั้นทั้งเครื่องมือที่เป็นฮาร์ทแวร์ แลซอฟแวร์ ที่มันเป็นคนซึ่งเราทำงานกันอย่างเต็มที่ และเวลาแจ้งเตือนมาเขาจะมีรายละเอียดแจ้งว่า ผมคนนี้ เบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้ แจ้งว่าฝนตกตรงนี้ ๆ คือเขามองด้วยตาเปล่าก็เห็นแล้ว แต่ขณะเดียวกันเครื่องมือที่จะช่วยในการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญว่า เรียกว่ามาตรการเข้มข้นระดับไหนสีเขียว สีเหลือง สีแดง อันนี้ก็จะเป็นการช่วยเหลือได้อย่างดีเลยนะครับ แต่นี้มันก็เพิ่มมากขึ้นผมคิดว่าจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณติดตั้งอันนี้เพิ่มขึ้น ผมคิดว่าพื้นที่ที่เป็นราบลุ่มเชิงเขา และก็ช่วงที่ฝนตกต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเลย เพราะว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกแต่ละครั้งมันแตกต่างจากที่ผ่านมา พายุไห่หม่า นกเตนตกซ้ำ ๆ และก็เวลาดินอุ้มน้ำมาก ๆ เราก็ไม่มีต้นไม้ที่จะซับน้ำ มันก็ก่อให้เกิดดินถล่มลงมาได้อย่างง่าย และการปลูกพืชเชิงเดี่ยว หรือปลูกพืชที่ไม่มีรากแก้ว ผมคิดว่ามันจะเป็นปัญหาในอนาคต ผมคิดว่าอันนี้ต้องมองกันทั้งระบบตั้งแต่กระบวนการเชิงความคิด กระบวนการเชิงเศรษฐกิจ เราก็ต้องมาดูว่าเราจะทำอย่างไร จะแก้ไขต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างไรต้องมองในภาพองค์รวม ทรงกรมทรัพยากรธรณีเขาก็ไปฝึกคนในการที่จะเข้าไปช่วยในการเป็นเครือข่ายใช้เป็นการโทรศัพท์แจ้งเตือน และทำแผนว่าถ้าเกิดภัยขึ้นมาจะให้ไปอยู่ตรงไหนที่ ๆ ปลอดภัยใช้เป็นคนก่อน ส่วนเครื่องมือมันต้องใช้เวลาและงบประมาณ เพราะพี่น้องประชาชนทุกคนก็ให้ความสำคัญทุกคนก็ตระหนักกันครับ

ก็เนื่องจากรายการนี้เป็นรายการเกี่ยวกับเรื่องเตือนภัยผมก็จะย้ำอยู่เสมอว่าพี่น้องประชาชนจะต้องรับฟังข่าวสารจากทางราชการโดยใกล้ชิด เพราะว่าเราจะประกาศเป็นระยะ ๆ ซึ่งอยากให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามอย่างที่เขาประกาศไว้ก็จะเป็นสิ่งที่ให้พี่น้องประชาชนได้หลีกเลี่ยงจากภัยที่เกิดขึ้นได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องอะไรก็แล้วแต่เป็นเรื่องของคนทุกคนที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งต้องช่วยกันทุกคนครับ"อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ"กล่าว

http://www.paipibut.org/view.php?dataid=9353

สรุปหัวข้อข่าววันนี้ 4 ก.ย. 54

- แผ่นดินไหว 7.0 วานาตู

- ไต้ฝุ่น “ตาลัส” ถล่มแถบตะวันตกญี่ปุ่น-พบดับแล้ว 2 ราย

- สัมพันธ์ทรุดหนัก! ตุรกีตะเพิดทูตยิวพ้นประเทศ ผลพวงคดีโจมตีกองเรือ “ฉนวนกาซา”

- เตือนสภาพอากาศเปลี่ยน ทำยุงลายชุก กัดคนบ่อยขึ้น

[SIZE=6]- ตะลึงพบหมู่บ้านปิดไร้ผู้คนสัญจรผ่าน ทำพันธุกรรมซ้ำซ้อนก่อปัญหาอื้อ

- ไทยมีฝนเพิ่มขึ้นเตือนเหนืออีสานระวังอันตรายฝนตกหนัก

- พายุโซนร้อน "ลี" อ่อนกำลังลงแล้ว


- กทม. เฝ้าจับตาระดับแม่น้ำเจ้าพระยา


- อยุธยา น้ำทะลักเข้าท่วมฐานโบราณสถานป้อมเพชร

- สลด!เด็ก 9 ขวบ ตกน้ำดับอีก 2/ทำยอดตายน้ำท่วมพิจิตรพุ่ง 14 ศพสูงสุดรอบ 10 ปี

- อุตุฯลำปางเตือนน้ำท่วม-น้ำป่า สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง[/SIZE

- สธ.เตือนไข้เลือดออกระบาดหนัก พบผู้ป่วยแล้วเกือบ 4 หมื่นคน

- ปภ.ระบุยังมี 9 จว.ประสบอุทกภัย


- ชาวบ้านครวญน้ำท่วมนาน 3 สัปดาห์ขาดข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม

- ภูเขาไฟที่พร้อมปะทุที่อินโดนีเซียยังคงมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น

- พายุ"ลี"จ่อถล่มสหรัฐฯ ใน 24 ชม.นี้


- อ่างทอง-ชัยนาทน้ำท่วมหนัก ระดับน้ำสูงกว่า 2 ม.

- อ่างทอง-ตำบลโผงเผงท่วมหนัก


- อยุธยา-น้ำท่วมบางบาลเข้าขั้นวิกฤต


- นครสวรรค์-น้ำท่วมเขตเทศบาลขยายไป 6 ชุมชุน


- "ตาลัส"ถล่มญี่ปุ่นเสียหายหนัก ตาย-สูญหายกว่า 20 คน

- ปภ.แจงน้ำยังท่วมอีก 9 จังหวัด 28 จว.คลี่คลาย ตาย 59 ราย

- ไต้ฝุ่น "ทาลัส" อัดยุ่นอ่วม ดับแล้ว 6 ศพ สั่งอพยพ 460,000 คน

- ชาวกัวเตมาลาเชื่อ"หมูหัวมนุษย์"เป็นสัตว์ต่างดาวกลายพันธุ์ เหตุ"อุแว้"หลังยูเอฟโอปรากฎบนฟ้า

- สนามแม่เหล็กยังแปรปรวนต่อเนื่อง

- น้ำลำปาวเพิ่ม หวั่นเมืองน้ำดำน้ำท่วมฉับพลัน

- อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ชี้ มีพื้นที่เสี่ยงภัย6พันแห่งทั่วประเทศ

- หวั่นตลาดอินทร์บุรีท่วมสูง-น้ำเจ้าพระยาขึ้นเกือบถึงแนวกั้น

สยอง! หนุ่มนักโต้คลื่นออสซี่ชะตาขาด-ถูก “ฉลามงาบ” เหลือแต่ท่อนบน

วันที่ 04/09/2554 16:06


เอเอฟพี - เกิดเหตุหนุ่มนักเล่นกระดานโต้คลื่นชาวออสเตรเลียถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต วันนี้(4) หลังจากที่มันลากเขาออกไปจากกลุ่มเพื่อน และขย้ำจนท่อนล่างหลุดหายไป ตำรวจออสเตรเลียเผย

หนุ่มเคราะห์ร้ายซึ่งอยู่ในวัยเพียง 20 ต้นๆ กำลังโต้คลื่นอยู่บริเวณ ชูเกอร์ โลฟ ร็อก นอกชายฝั่งอ่าวบังเกอร์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงบนชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย ก่อนจะถูกฉลามโจมตีเมื่อเวลาราว 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

“เขากำลังโต้คลื่นอยู่กับเพื่อน 4-5 คน ตอนที่ถูกฉลามลากตัวออกจากกลุ่ม” โฆษกตำรวจให้สัมภาษณ์

“เขาเสียชีวิตแล้ว โดยร่างกายส่วนล่างขาดหายไป”

เด็กหนุ่มผู้ตายเป็นคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นจุดเล่นกระดานโต้คลื่นที่มีชื่อเสียง โดยใช้เวลาขับรถจากเมืองเพิร์ทลงมาทางใต้เพียง 3 ชั่วโมง

เหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งล่าสุดที่ฉลามหันมาทำร้ายคน โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็มีชายซึ่งยึดอาชีพงมหอยเป๋าฮื้อถูกฉลามทำร้ายทางตอนใต้ของออสเตรเลีย

น่านน้ำออสเตรเลียมีฉลามอยู่ชุกชุม ทว่าแทบไม่มีรายงานว่าพวกมันทำร้ายมนุษย์ โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2009 มีผู้ที่เสียชีวิตเพราะถูกฉลามกัดเพียง 24 ราย หรือเฉลี่ย 1.2 รายต่อปี

 
 

ปราจีนบุรียังอ่วม! น้ำท่วมหนัก เทศบาลจมบาดาล

วันที่ 04/09/2554 16:00





น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี ขณะที่ฝนยังตกต่อเนื่องตั้งแต่ค่ำวานนี้ ส่งผลให้น้ำจากบริเวณเทือกเขาใหญ่ไหลลงสู่ด้านล่าง ส่วนเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรีถูกน้ำท่วมถนนสูงประมาณ 20-30 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก...

4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นถึงค่ำที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี ส่งผลให้น้ำจากเทือกเขาใหญ่ไหลลงสู่ด้านล่าง ส่งผลให้ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี- นครราชสีมา บริเวณหลัก ก.ม.ที่ 7–8 ม.9 ต.หนองกี่ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทางเจ้าหน้าที่ปภ.และหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีต้องติดตั้งสัญญาณไฟเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ระดับน้ำจึงเริ่มลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำสามารถไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่างได้สะดวกขึ้น และจากที่น้ำป่าไหลเข้าท่วมถนนสาย 304 ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีรถชนกันในบริเวณน้ำท่วม

นอกจากนั้น พื้นที่อ.ประจันตคาม น้ำจากเทือกเขาใหญ่ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในอำเภอ 2 หมู่บ้าน รวมทั้งถนนสายสุวรรณศร ถูกน้ำท่วมผิวถนนเป็นช่วงๆ แต่การจราจร รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ อิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้ในพื้นที่ 5 อำเภอ 28 ตำบล 194 หมู่บ้าน 5 ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.54 ถูกน้ำท่วม ได้แก่ อ.เมือง 4 ตำบล 41 หมู่บ้าน 286 ครัวเรือน ต.โคกไม้ลาย ต.เนินหอม (ทต.บ้านนาปรือ) ต.ท่างาม ต.บ้านพระ, อ.กบินทร์บุรี 12 ตำบล 70 หมู่บ้าน 5 ชุมชน 1,817 ครัวเรือน 5,549 คน ต.กบินทร์ และชุมขนตลาดเก่า, โรงสี, คลองแฟบ, ตลาดใหม่, ท่าหิน ต.วังดาล ต.นาแขม ต.หาดนางแก้ว ต.ลาดตะเคียน ต.วังตะเคียน ต.ย่านรี ต.เมืองเก่า ต.หนองกี่ ต.บ้านนา ต.บ่อทอง ต.วังท่าช้าง, อ.ประจันตคาม 6 ตำบล 48 หมู่บ้าน จำนวน 86 ครัวเรือน ต.โพธิ์งาม 19 หมู่บ้าน ต.หนองแก้ว 12 หมู่บ้าน ต.บ้านหอย ต.หนองแสง ต.เกาะลอย ต.ประจันตคาม 11 หมู่บ้าน, อ.ศรีมหาโพธิ 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน ต.ท่าตูม ต.ศรีมหาโพธิ ต.สัมพันธ์ ต.หาดยาง ต.บางกุ้ง, อ.บ้านสร้าง 6 ตำบล 38 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.บางพลวง ต.บ้านสร้าง ต.บางกระเบา ต.บางเตย ต.บางยาง ต.บางแตน โดยเฉพาะอ.บ้านสร้าง ถูกน้ำท่วมนานที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากอ.เมือง และกรมชลประทานได้ระบายน้ำจากจ.พระนครศรีอยุธยา เข้าพื้นที่อ.บ้านสร้าง เพื่อป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ

จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่โดยรอบเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านทรัพย์ไพลิน สูงประมาณ 20–30 เซนติเมตร ส่งผลให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรเข้าออกได้ ร้านค้าที่ถูกน้ำท่วม ต้องปิดกิจการและใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก ส่วนบ้านเรือนสองฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมตลอดสายน้ำ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชน ชลประทานจ.ปราจีนบุรีเริ่มเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี สามารถระบายเข้าที่นาเกษตรกร เนื่องจากยังมีพื้นที่หลายพันไร่ ยังสามารถรองรับน้ำได้ ที่วัดบางกระเบา (พระอารามหลวง) อ.บ้านสร้าง ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 25 ซ.ม. ทางวัดต้องนำไม้มาวางเป็นทางเดินโดยรอบ

ส่วนวัดแก้วพิจิตร พระอารามหลวง อ.เมือง หลังจากมีการเสนอข่าวออกไป พบว่าทางราชการได้นำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำออกจากบริเวณวัด รวมทั้งมีการวางกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าพื้นที่ ซึ่งในเรื่องนี้ นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ได้สั่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งสูบน้ำให้แห้งภายในวันนี้ และหลังจากมีข่าววัดแก้วพิจิตร ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ถูกน้ำท่วม ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมมากขึ้นอีกด้วย

ตราด เตรียมรับมือวาตภัย-ดินโคลนถล่มจากพายุลูกใหม่

วันที่ 04/09/2554 18:46


ตราด -ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ พร้อมส่วนราชการกระทรวงมหาดไทยร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ เตรียมพร้อมรับมือปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม รับพายุลูกใหม่เร็ว ๆ นี้

วันนี้( 4 ก.ย.) ที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลาง จ.ตราด อ.เมือง จ.ตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมนายประทีป จงสืบธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายอำเภอทุกอำเภอ หน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยกว่า 40 คนร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ เพื่อรับทราบนโยบายจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเตรียมการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอันเกิดจากปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม เพื่อรองรับพายุลูกใหม่ที่จะเข้าพัดผ่านประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ และอาจจะส่งผลกระทบให้หลายจังหวัดในประเทศไทยรวมทั้ง จ.ตราด ที่อาจจะได้รับปัญหาดังกล่าว

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กล่าวมอบนโยบายในครั้งนี้ว่า หน่วยงานราชการจะต้องมีการตั้งศูนย์ วอร์รูม ในรูปแบบ 2P 2 R คือการเตรียมความพร้อมการตอบสนองอย่างรวดเร็ว การชดเชยเยียวยา และการป้องกัน โดยจะขอความร่วมมือกระทรวงไอซีที ช่วยด้านเทคโนโลยี ส่วนงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดใดที่ไม่พอเดิมจังหวัดละ 50 ล้านบาทที่ไม่พอก็ให้ขอเพิ่ม เช่น จ.สุโขทัย ที่เพิ่มให้เป็น 200 ล้านบาท

ส่วนเงินชดเชยก็ให้ตามหลักเกณฑ์เดิม แต่ที่น่าจะขอปรึกษาว่าจะจ่ายเพิ่มไร่ละเท่าไรจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้มีการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวให้ทันก่อนที่จะมีน้ำมา ให้ชลประทานตั้งศูนย์เตือนภัยระดับภาคและระดับจังหวัด มีข้อมูลครบ ตอนเช้าต้องมีการประชุมประเมินสถานการณ์และเตรียมพร้อมเรื่องการป้องกัน ให้ความมั่นใจกับประชาชน โดยมีการประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อนและเผยแพร่ข้อมูล ทั้งนี้ พื้นที่จังหวัดใดที่มีปัญหา ให้นำเรียนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบทันที

ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้นใน อ.เขาสมิง จ.ตราด อ.บ่อไร่ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้นายอำเภอทั้งสองแห่ง ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แม้ฝนจะตกลงมาติดต่อกันหลายวัน ขณะที่ อ.เกาะช้างเฝ้าระวังปัญหาดินสไลด์ที่อาจเกิดขึ้น หลังเคยเกิดขึ้นในปี 2553 และมีรีสอร์ตถูกดินทับจนมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน

นายบุญเลิศ วรวงษ์ ปลัดอำเภอบ่อไร่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ภายหลังที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.บ่อไรในหลายหมู่บ้าน มีประชาชน ทรัพย์สิน พืชสวนของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากนั้น อำเภอบ่อไร่ได้สั่งการให้ท้องถิ่นได้เข้าไปขดลอกคลอง และแก้ปัญหาทางน้ำไหล เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกขึ้น

ปลัดอำเภอบ่อไร่ กล่าวว่า สำหรับถนนบ้านม่วง ต.นนทรีย์ ขณะนี้ไม่มีปัญหาในเรื่องน้ำท่วมแต่ประการใด และทางกรมชลประทานจะดำเนินการก่อสร้างถนนในปลายปี 2554 นี้

ขณะที่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด นายวัฒนพงษ์ พัฒนสุข ปลัดอำเภอเกาะช้าง กล่าวว่าในช่วงฝนตก 2-3 วันที่ผ่านมาได้เฝ้าระวังเรื่องดินสไลด์ 2-3 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเพราะหากเกิดดินสไลด์ขึ้น จะส่งผลกระทบกับการสัญจรของนักท่องเที่ยวและประชาชนมาก

ปภ. สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 37 จว. ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ 9 จว. ผู้เสียชีวิต 59 ราย โดยที่ จ.พิจิตร เสียชีวิตมากสุด 12 ราย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า ขณะนี้ มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย และมีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวม 37 จังหวัด 283 อำเภอ ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างฟื้นฟูมี จำนวน 28 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด 44 อำเภอ ผู้เสียชีวิต 59 ราย โดย จ.พิจิตร เสียชีวิตสูงสุด 12 ราย ราษฎรเดือดร้อน 122,314 ครัวเรือน 398,919 ราย น้ำท่วม 12 อำเภอ แนวโน้มน้ำยังจะเพิ่มสูง เช่นเดียวกับที่ จ.พิษณุโลก ทำให้โรงเรียนปิดการเรียน 15 แห่ง จ.นครสวรรค์ น้ำจากแม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ต้องปิดโรงเรียน 33 แห่ง จ.อ่างทอง น้ำท่วม 5 อำเภอ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วม 8 อำเภอ

สำหรับปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักใน จ.นครพนม ที่ อบต.นางาม อ.เรณูนคร วัดได้ 103 ม.ม. จ.นครปฐม ที่ อบต.คลองจินดา อ.สามพราน วัดได้ 140.5 ม.ม. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 94 ของอ่าง เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำร้อยละ 91 และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 92

INN
วันอาทิตย์ที่ 4 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:50 น.

 

อุตุฯลำปางเตือนน้ำท่วม-น้ำป่า สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง

ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า ในหลายพื้นที่ของจังหวัดอาจมีฝนตกลงมาอย่างหนัก
ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ออกคำเตือนในหลายพื้นที่ มีโอกาสเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่เฝ้าระมัดระวังอันตรายจากฝนที่อาจจะตกลงมาอย่างหนัก ถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นได้
ขณะที่นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คอยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง
------------

ชาวบ้านครวญน้ำท่วมนาน 3 สัปดาห์ขาดข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม วันที่ 04/09/2554 11:35 อุบลราชธานี - สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี วันนี้ แม่น้ำมูลปรับตัวสูงขึ้นอีก 12 เซนติเมตร ทำให้น้ำล้นตลิ่งสูง 19 เซนติเมตร โดยระดับน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตสูง 7.19 เมตร ด้านชาวบ้านที่อาศัยในศูนย์อพยพนานร่วม 3 สัปดาห์วอนขอข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม เพราะบ้านถูกน้ำท่วมประกอบอาชีพไม่สะดวก ส่วนแพอาหารที่หาดคูเดื่อต้องหยุดให้บริการกว่า 10 ราย เพราะน้ำท่วมนักท่องเที่ยวลด ที่ศูนย์อพยพสวนสาธารณะห้วยม่วง ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี มีชาวบ้านชุมชนวังแดงอพยพเข้ามาอยู่เพิ่มขึ้นเป็น 40 ครอบครัว โดยทั้งหมดบ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และหลายครอบครัวอพยพหนีน้ำมาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันระดับน้ำยังไม่ลดลง ทำให้ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพความเป็นอยู่ไม่สะดวกสบาย เพราะต้องอาศัยอยู่ในเต้นท์ๆละ 2 ครอบครัว ขณะที่ความช่วยเหลือมีเพียงสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี นำน้ำใช้มาแจกให้วันละ 1 เที่ยว ส่วนน้ำดื่มต้องซื้อกินเอง และช่วงกลางคืนต้องผจญกับยุง รวมทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและความเป็นอยู่ที่แออัด ทำให้มีคนป่วยมากขึ้น ซึ่งวันนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำถุงยังชีพจำนวน 40 ชุดมาแจกให้ชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ในศูนย์เป็นหน่วยงานแรก นางวิไลวรรณ ทองบุราณ อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนครั้งนี้ กล่าวว่า ต้องการข้าวสารอาหารแห้งมาปรุงเป็นอาหารเลี้ยงแม่และหลานที่อาศัยอยู่รวมกันถึง 5 คน เพราะเมื่อบ้านถูกน้ำท่วม ทำให้การทำมาหากินลำบาก จึงมีรายได้ไม่แน่นอน ต้องแบ่งกันคอยดูแลแม่และหลานที่พักอาศัยอยู่ในเต้นท์นานร่วม 3 สัปดาห์แล้ว วอนหน่วยงานบรรเทาทุกข์เข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องน้ำดื่มที่ขาดแคลนอย่างมาก และต้องซื้อกินวันละหลายถัง ส่วนที่หาดคูเดื่อ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถานตากอากาศชานเมือง และมีแพให้บริการอาหารกับนักท่องเที่ยวที่พาลูกหลานมาเที่ยวพักผ่อน ได้ทยอยปิดให้บริการกว่า 10 เจ้า จากจำนวนกว่า 50 ราย หลังจากแม่น้ำมูลมีระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวานอีก 12 เซนติเมตร ทำให้มีน้ำล้นตลิ่งไหลท่วมบริเวณลานจอดรถ และจุดใช้ปรุงอาหาร แพขนาดเล็กไม่สามารถประกอบการได้ต่อไป รวมทั้งปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ทำให้ต้องปิดตัวไปจนกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูลจะดีขึ้นกว่านี้

สธ.เตือนไข้เลือดออกระบาดหนัก พบผู้ป่วยแล้วเกือบ 4 หมื่นคน

นายแพทย์คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกที่ จ.สุรินทร์ ว่า การระบาดของโรคไข้เลือกออกในภาพรวมของประเทศไทย พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 37,728 คน มีผู้ป่วยเสียชีวิต 27 ราย อัตราป่วยสูงสุดพบที่ภาคกลาง รองลงมาคือภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
สำหรับในพื้นที่สาธารณสุขเขต 14 ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนสิงหาคม 2554 พบผู้ป่วยรวม 1,921 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ พบผู้ป่วยสูงสุด 948 ราย ชัยภูมิ 499 ราย นครราชสีมา 429 ราย และจังหวัดสุรินทร์ 45 ราย
ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ยุงลายจะเพาะพันธุ์ได้ง่ายในน้ำใส นิ่ง และภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น ยางรถยนต์เก่า กะลามะพร้าว แจกันดอกไม้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน จะมีน้ำขังในภาชนะต่างๆ มากขึ้น จึงขอให้ประชาชนใช้หลักการ 3 ร. 5 ป. เร่งป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ได้แก่ ในโรงเรียน โรงเรือนที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล และเน้นการปรับพฤติกรรม 5 ป. คือ ปิด ฝาภาชนะกักเก็บน้ำทุกชนิด เปลี่ยนน้ำทุกๆ 7 วัน ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะกักเก็บน้ำ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้เป็นที่เพาะพันธ์ของยุง และปฏิบัติตนเองจนเป็นนิสัย
นอกจากนี้ นายแพทย์คำรณ ยังได้ฝากให้ผู้ปกครองสังเกตอาการของลูกหลานเมื่อเป็นไข้ หากถูกยุงลายที่มีไข้เลือดออกกัด จะมีไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดกระบอกตา หน้าแดง หรือหลังมีไข้ 2-3 วัน มักมีจุดแดงใต้ผิวหนัง อาจมีเลือดกำเดาออก ต่อมาผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเร็วและเบา อาจเกิดภาวะช็อกได้ หากทานยาลดไข้แล้ว ไข้ไม่ลดให้รีบนำส่งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทัน

พายุ"ลี"จ่อถล่มสหรัฐฯ ใน 24 ชม.นี้

ทางการรัฐลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี ประกาศภาวะฉุกเฉินพร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงแนวชายฝั่งให้เตรียมอพยพ หลังจากพายุโซนร้อนลี ที่มีแรงลม 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ และล่าสุดชะลอตัวอยู่นอกชายฝั่งรัฐลุยเซียนา ห่างเพียง 75 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าพายุจะพัดเข้าถล่มภายใน 24 ชั่วโมงนี้ ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปยังชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เพิ่งถูกพายุเฮอริเคนไอรีนพัดถล่มจนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 คน

อิทธิพลของพายุเริ่มส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงจนบริษัทน้ำมันหลายแห่งต้องอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลกลับเข้าฝั่ง

ขณะที่ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ เตือนว่า อิทธิพลของพายุอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในหลายพื้นที่ รวมถึงรัฐเคนทักกีและเทนเนสซีด้วย

อ่างทอง-ชัยนาทน้ำท่วมหนัก ระดับน้ำสูงกว่า 2 ม.

.อ่างทอง ถูกน้ำท่วมขยายเป็น 3 อำเภอแล้ว คือ อ.เมืองอ่างทอง อ.ป่าโมก และ อ.วิเศษไชยชาญ โดยเฉพาะที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดสูงกว่า 2 เมตร

ขณะที่วันนี้เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนของ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก ชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือนต้องทำเพิงพักริมถนน เพื่อเป็นที่หลับนอน และขนข้าวของเก็บไว้ไม่ให้เสียหายจากน้ำท่วม ส่วนทหารเร่งนำเอากระสอบทรายไปกั้นเป็นแนวบริเวณคลองชลประทานบางสารวัตร เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น

-------------------------------

เตือนสภาพอากาศเปลี่ยน ทำยุงลายชุก กัดคนบ่อยขึ้น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กันยายน 2554 13:47 น.





ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

       สธ.ชี้สภาพอากาศร้อนทำให้วงจรชีวิตยุงสั้น ส่งผลให้ปริมาณยุงเพิ่มขึ้น เสี่ยงถูกยุงกัดบ่อย ขณะสถานการณ์โรคไข้เลือดออกยังน้อยกว่าปีก่อน ป่วย 44,330 ราย เสียชีวิต 34 ราย
       
       นพ.วิชัย สติมัย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กล่าวว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนไป พบว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.5-1 องศาเซลเซียส ทำให้วงจรชีวิตของยุงสั้นลง ตั้งแต่ไข่ ตัวอ่อน และตัวโม่ง และขนาดของตัวยุงจะเล็กลง ซึ่งหมายความว่า ปริมาณยุงจะเพิ่มสูงขึ้น กัดบ่อยขึ้น เนื่องจากรอบวงจรชีวิตสั้น แต่ที่เห็นอย่างชัดเจนในพื้นที่ของประเทศไทย คือ ภาวะฝนตกนอกฤดูกาล ซึ่งอาจมาจากการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เกิดดินถล่มมากขึ้น
       
       นพ.วิชัย กล่าวว่า ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 31 ส.ค.2554 พบผู้ป่วยสะสม 44,330 ราย เสียชีวิต 34 ราย ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตลดลง เมื่อเปรียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ถึงร้อยละ 30 แต่พบแนวโน้มผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม จากกลุ่มเด็กอายุ 5-14 ปี เป็นผู้ใหญ่ในอายุระหว่าง 15-24 ปี มากขึ้น ทั้งนี้ ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้ราชวิทยาลัยด้านอายุรเวชศาสตร์ รับทราบถึงความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การรักษาอย่างถูกต้องในผู้ป่วยกลุ่มผู้ใหญ่ สำหรับพื้นที่ที่พบอัตราการป่วยมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง รองลงมา ภาคเหนือ และภาคตะวันวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ สำหรับเชื้อเด็งกี่ที่พบการระบาดในปีนี้ เป็นสายพันธุ์ที่ 2 และ 3 มากที่สุด
       
       “ขณะนี้ได้มีการกำชับลงไปในระดับเทศบาล ให้เน้น 5 ป. คือ ป.ปิดภาชนะ ป. เปลี่ยนน้ำรองในภาชนะ ป.ปล่อยปลากินลูกน้ำ ป.ปรับปรุงภาชนะ และสภาพแวดล้อม ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ ป.ทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ และหากมีอาการไข้สูงติดต่อกัน 3-4 วัน ซึม เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่น หรือจุดแดง ตามร่างกาย ควรรีบพบแพทย์” นพ.วิชัย กล่าว

.

เเผ่นดินไหว จ.แม่ฮ่องสอน เเละ  จ.กาญจนบุรี

วัน-เวลา *ประเทศไทย	ขนาด	Latitude	Longitude	Phase	บริเวณที่เกิด
2554-09-05 00:06:00	3.0	19.16	98.08	5	ต.ห้วยปูลิง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน
2554-09-04 08:27:54	2.5	14.93	98.90	7	ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
2554-09-03 08:19:44	2.3	19.13	98.09	8	ต.ห้วยปูลิง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน
2554-09-03 04:14:05	1.9	14.97	98.96	5	ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

อุดรธานี - พบผู้ป่วยชาวอุดรฯ โรคมือเท้าปากแล้วกว่า 40 รายอุดรธานี - พบผู้ป่วยชาวอุดรฯ โรคมือเท้าปากแล้วกว่า 40 ราย

อุดรธานี - สาธารณสุขอุดรฯ เผยพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก แล้ว 41 ราย เตือนประชาชนหมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่ และของใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ

นายสัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า โรคมือ เท้า ปาก มักพบในช่วงฤดูฝนเนื่องจากสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศมีความอับชื้น เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อ โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม มักพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก และ ขณะนี้พบผู้ป่วยในจังหวัดอุดรธานีแล้ว 41 ราย กระจายในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีจึงฝากเตือนมายังพ่อ แม่ ผู้ปกครองทุกท่านได้แนะนำบุตรหลานและผู้เลี้ยงดูเด็กให้เอาใจใส่เรื่องความสะอาด และสุขอนามัยส่วนบุคคล สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล ต้องจัดให้มีอ่างล้างมือและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ หมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ ให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการกำจัดอุจจาระเด็กให้ถูกสุขลักษณะ

นอกจากนี้ หากพบเด็กป่วยต้องรีบป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่น ควรแนะนำผู้ปกครองให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดรักษาตัวที่บ้านประมาณ 7-14 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ระหว่างนี้ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า และผู้เลี้ยงดูเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระเด็กป่วย หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องปิดสถานที่ชั่วคราว (1-2 สัปดาห์) และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค โดยอาจใช้สารละลายเจือจางของน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนผสมกับน้ำ 30

ส่วน อาการของโรคมือ เท้า ปากนั้น หลังจากได้รับเชื้อ 3-9 วัน ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1-2 วัน มีอาการเจ็บปากและไม่ยอมทานอาหาร เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใส ซึ่งบริเวณรอบๆ จะอักเสบและแดง ต่อมาตุ่มจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ จะพบตุ่มหรือผื่น (มักไม่คัน) ที่ฝ่ามือนิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน

โรคมือ เท้า ปากยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียาฆ่าเชื้อโดยตรง จึงควรสังเกตอาการเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบเด็กมีไข้สูง ซึม ไม่รับประทานอาหารและน้ำ อาเจียนบ่อย หอบ แขนขาอ่อนแรง อาจเกิดอาการแทรกซอน คือ ภาวะสมองหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด ซึ่งอาจรุนแรงถึงชีวิต ควรนำเด็กพบแพทย์ทันที

อุดรธานี - พบผู้ป่วยชาวอุดรฯ โรคมือเท้าปากแล้วกว่า 40 รายอุดรธานี - พบผู้ป่วยชาวอุดรฯ โรคมือเท้าปากแล้วกว่า 40 ราย

อุดรธานี - สาธารณสุขอุดรฯ เผยพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก แล้ว 41 ราย เตือนประชาชนหมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่ และของใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ

นายสัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า โรคมือ เท้า ปาก มักพบในช่วงฤดูฝนเนื่องจากสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศมีความอับชื้น เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อ โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม มักพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก และ ขณะนี้พบผู้ป่วยในจังหวัดอุดรธานีแล้ว 41 ราย กระจายในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีจึงฝากเตือนมายังพ่อ แม่ ผู้ปกครองทุกท่านได้แนะนำบุตรหลานและผู้เลี้ยงดูเด็กให้เอาใจใส่เรื่องความสะอาด และสุขอนามัยส่วนบุคคล สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล ต้องจัดให้มีอ่างล้างมือและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ หมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ ให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการกำจัดอุจจาระเด็กให้ถูกสุขลักษณะ

นอกจากนี้ หากพบเด็กป่วยต้องรีบป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่น ควรแนะนำผู้ปกครองให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดรักษาตัวที่บ้านประมาณ 7-14 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ระหว่างนี้ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า และผู้เลี้ยงดูเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระเด็กป่วย หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องปิดสถานที่ชั่วคราว (1-2 สัปดาห์) และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค โดยอาจใช้สารละลายเจือจางของน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนผสมกับน้ำ 30

ส่วน อาการของโรคมือ เท้า ปากนั้น หลังจากได้รับเชื้อ 3-9 วัน ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1-2 วัน มีอาการเจ็บปากและไม่ยอมทานอาหาร เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใส ซึ่งบริเวณรอบๆ จะอักเสบและแดง ต่อมาตุ่มจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ จะพบตุ่มหรือผื่น (มักไม่คัน) ที่ฝ่ามือนิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน

โรคมือ เท้า ปากยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียาฆ่าเชื้อโดยตรง จึงควรสังเกตอาการเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบเด็กมีไข้สูง ซึม ไม่รับประทานอาหารและน้ำ อาเจียนบ่อย หอบ แขนขาอ่อนแรง อาจเกิดอาการแทรกซอน คือ ภาวะสมองหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด ซึ่งอาจรุนแรงถึงชีวิต ควรนำเด็กพบแพทย์ทันที

ระดับน้ำเขื่อนภูมิพลทะลุ 80% เหลืออีก 10 กว่าเมตรถึงขีดสูงสุดระดับน้ำเขื่อนภูมิพลทะลุ 80% เหลืออีก 10 กว่าเมตรถึงขีดสูงสุด

ตาก- ระดับน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล ทะลุ 80% โดยมีระดับน้ำอยู่ที่ 250.55 เมตร (รทก.) เหลืออีก 10 กว่าเมตร (รทก.) ถึงขีดสูงสุดแล้ว คาดหากน้ำเข้ามากขึ้นต้องพร่องน้ำเพิ่ม ทำน้ำปิงช่วงตาก-กำแพงเพชรปริ่มตลิ่งแน่

นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพลเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จ.ตาก จนถึง 4 ก.ย.54 ว่า ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 250.55 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) สูงกว่าระดับ SPILLWAY (ประตูระบายน้ำล้น) ที่ระดับ 242.90 เมตร (รทก.) สูงกว่าปีที่ผ่านมา 26.87 เมตร (หรือมากกว่าปีที่แล้วถึง 5,423.37 ล้านลูกบาศก์เมตร)โดยเขื่อนภูมิพลเคยมีระดับน้ำกักเก็บสูงสุดที่ 260.14 เมตร (รทก.) เมื่อวันที่ 2 พ.ย.18

ทั้งนี้ เขื่อนภูมิพลสามารถรับน้ำได้อีก 2,808.92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 20.87 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่างทั้งหมด เมื่อวานนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้า 79.04 ล้านลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม เขื่อนภูมิพลสามารถรับน้ำได้สูงสุดที่ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือระดับ 260 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ขณะเดียวกัน ทางเขื่อนต้องระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาระบบนิเวศน์และอุปโภคบริโภค 28 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 330 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแม่น้ำวังที่ไหลผ่าน ตำบลวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำไหล 336 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 29 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมกับแม่น้ำปิง ที่บ้านปากวัง อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มีน้ำไหลผ่านแล้ว ประมาณ 57 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากมีน้ำไหลเข้าในปริมาณมากกว่านี้ อาจจะต้องพร่องน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันมิให้น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ ซึ่งจะทำให้สองฝั่งริมแม่น้ำปิงใต้เขื่อนถึงรอยต่อจังหวัดกำแพงเพชร มีระดับจนเกือบล้นตลิ่ง ทำให้พื้นที่การเกษตรริมน้ำปิง ถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมากได้

       นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ปากคลองตลาด สูง 1.67 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และจากการติดตามปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ทางกรมชลประทานแจ้งว่าขณะนี้ปริมาณน้ำเจ้าพระยาที่วัดบริเวณ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 2,702 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
       
       ขณะที่การปล่อยน้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ 2,781 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่ง กทม.ยังรับมือกับปริมาณน้ำดังกล่าวได้ เพราะความสามารถการรองรับน้ำของ กทม.อยู่ที่ 2,500-3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะมีทั้งปริมาณน้ำฝนที่ช่วงนี้มีการตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำหนุน และปริมาณน้ำแฝงที่สะสมอยู่ตามคลองต่างๆ
       
       “สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง คือ 27 ชุมชนนอกแนวเขื่อนกั้นน้ำ เพราะช่วงที่ผ่านมาน้ำได้เอ่อท่วมทางเดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำสะพานไม้มาปูให้เดินไปมาได้ ส่วนการเตรียมการณ์รับมือได้เตรียมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำกว่า 200 จุด โดยคาดว่าในคืนนี้(5 ก.ย.) จะมีน้ำขึ้นสูงสุดในเวลาประมาณ 21.55 น.” นายสัญญา กล่าว
 
 

ไต้ฝุ่นทาลัส ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตอย่างน้อย20 สูญหาย32

5 กย. 2554 08:13 น.



 

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ได้รวมถึงจังหวัดวากายาม่า และจังหวัดนาระ มีรายงานด้วยว่า ปราสาทนิโจโจ อันเก่าเก่าในเมืองเกียวโต ได้รับความเสียหายจากพายุด้วย ซึ่งปราสาทแห่งนี้ ได้ชื่อว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

ทาลัส เป็นพายุลูกที่ 12 ในฤดูไต้ฝุ่น ซึ่งได้พัดข้ามเกาะชิโกกุ และภาคกลางของเกาะฮอนชูและกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ไปยังทะเลญี่ปุ่น ทางการเตือนว่า การเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ของพายุลูกนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงต่อไป เกรงว่าจะเกิดดินถล่มเพิ่มขึ้นด้วย

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ไต้ฝุ่นทาลัสถล่มญี่ปุ่นตายพุ่ง 25


พายุไต้ฝุ่นทาลัสที่เข้าถล่มชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 คน ขณะที่ยอดผู้สูญหายเพิ่มขึ้นถึง 52 คน
เจ้าหน้าที่ทางการของญี่ปุ่นเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นทาลัส ซึ่งพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของประเทศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเป็น 25 คน และสูญหายอีก 52 คน
ทั้งนี้ อิทธิพลของไต้ฝุ่นได้ก่อให้เกิดฝนตกกระหน่ำ รวมทั้งทำให้เกิดโคลนถล่ม และทำให้ตลิ่งริมน้ำพังทลาย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นทาลัสได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพายุจะอ่อนกำลังลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนว่า อิทธิพลของพายุจะก่อให้เกิดฝนตกหนักและยาวนานทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือที่พายุเคลื่อนผ่าน
ขณะเดียวกัน ทางการญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทางตะวันตกระมัดระวังอันตรายจากโคลนถล่ม
ด้านนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลจะเร่งมือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถึงที่สุดแน่นอน



ไต้ฝุ่นทาลัส ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตอย่างน้อย20 สูญหาย32

5 กย. 2554 08:13 น.

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ได้รวมถึงจังหวัดวากายาม่า และจังหวัดนาระ มีรายงานด้วยว่า ปราสาทนิโจโจ อันเก่าเก่าในเมืองเกียวโต ได้รับความเสียหายจากพายุด้วย ซึ่งปราสาทแห่งนี้ ได้ชื่อว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

ทาลัส เป็นพายุลูกที่ 12 ในฤดูไต้ฝุ่น ซึ่งได้พัดข้ามเกาะชิโกกุ และภาคกลางของเกาะฮอนชูและกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ไปยังทะเลญี่ปุ่น ทางการเตือนว่า การเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ของพายุลูกนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงต่อไป เกรงว่าจะเกิดดินถล่มเพิ่มขึ้นด้วย

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ไต้ฝุ่นทาลัสถล่มญี่ปุ่นตายพุ่ง 25


พายุไต้ฝุ่นทาลัสที่เข้าถล่มชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 คน ขณะที่ยอดผู้สูญหายเพิ่มขึ้นถึง 52 คน
เจ้าหน้าที่ทางการของญี่ปุ่นเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นทาลัส ซึ่งพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของประเทศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเป็น 25 คน และสูญหายอีก 52 คน
ทั้งนี้ อิทธิพลของไต้ฝุ่นได้ก่อให้เกิดฝนตกกระหน่ำ รวมทั้งทำให้เกิดโคลนถล่ม และทำให้ตลิ่งริมน้ำพังทลาย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นทาลัสได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพายุจะอ่อนกำลังลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนว่า อิทธิพลของพายุจะก่อให้เกิดฝนตกหนักและยาวนานทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือที่พายุเคลื่อนผ่าน
ขณะเดียวกัน ทางการญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทางตะวันตกระมัดระวังอันตรายจากโคลนถล่ม
ด้านนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลจะเร่งมือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถึงที่สุดแน่นอน

ไต้ฝุ่นทาลัส ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตอย่างน้อย20 สูญหาย32

5 กย. 2554 08:13 น.



 

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ได้รวมถึงจังหวัดวากายาม่า และจังหวัดนาระ มีรายงานด้วยว่า ปราสาทนิโจโจ อันเก่าเก่าในเมืองเกียวโต ได้รับความเสียหายจากพายุด้วย ซึ่งปราสาทแห่งนี้ ได้ชื่อว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

ทาลัส เป็นพายุลูกที่ 12 ในฤดูไต้ฝุ่น ซึ่งได้พัดข้ามเกาะชิโกกุ และภาคกลางของเกาะฮอนชูและกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ไปยังทะเลญี่ปุ่น ทางการเตือนว่า การเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ของพายุลูกนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงต่อไป เกรงว่าจะเกิดดินถล่มเพิ่มขึ้นด้วย

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ไต้ฝุ่นทาลัสถล่มญี่ปุ่นตายพุ่ง 25


พายุไต้ฝุ่นทาลัสที่เข้าถล่มชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 คน ขณะที่ยอดผู้สูญหายเพิ่มขึ้นถึง 52 คน
เจ้าหน้าที่ทางการของญี่ปุ่นเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นทาลัส ซึ่งพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของประเทศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเป็น 25 คน และสูญหายอีก 52 คน
ทั้งนี้ อิทธิพลของไต้ฝุ่นได้ก่อให้เกิดฝนตกกระหน่ำ รวมทั้งทำให้เกิดโคลนถล่ม และทำให้ตลิ่งริมน้ำพังทลาย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นทาลัสได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพายุจะอ่อนกำลังลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนว่า อิทธิพลของพายุจะก่อให้เกิดฝนตกหนักและยาวนานทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือที่พายุเคลื่อนผ่าน
ขณะเดียวกัน ทางการญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทางตะวันตกระมัดระวังอันตรายจากโคลนถล่ม
ด้านนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลจะเร่งมือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถึงที่สุดแน่นอน



ไต้ฝุ่นทาลัส ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตอย่างน้อย20 สูญหาย32

5 กย. 2554 08:13 น.

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ได้รวมถึงจังหวัดวากายาม่า และจังหวัดนาระ มีรายงานด้วยว่า ปราสาทนิโจโจ อันเก่าเก่าในเมืองเกียวโต ได้รับความเสียหายจากพายุด้วย ซึ่งปราสาทแห่งนี้ ได้ชื่อว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว

ทาลัส เป็นพายุลูกที่ 12 ในฤดูไต้ฝุ่น ซึ่งได้พัดข้ามเกาะชิโกกุ และภาคกลางของเกาะฮอนชูและกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ไปยังทะเลญี่ปุ่น ทางการเตือนว่า การเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ของพายุลูกนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงต่อไป เกรงว่าจะเกิดดินถล่มเพิ่มขึ้นด้วย

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ไต้ฝุ่นทาลัสถล่มญี่ปุ่นตายพุ่ง 25


พายุไต้ฝุ่นทาลัสที่เข้าถล่มชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 คน ขณะที่ยอดผู้สูญหายเพิ่มขึ้นถึง 52 คน
เจ้าหน้าที่ทางการของญี่ปุ่นเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นทาลัส ซึ่งพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกของประเทศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเป็น 25 คน และสูญหายอีก 52 คน
ทั้งนี้ อิทธิพลของไต้ฝุ่นได้ก่อให้เกิดฝนตกกระหน่ำ รวมทั้งทำให้เกิดโคลนถล่ม และทำให้ตลิ่งริมน้ำพังทลาย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นทาลัสได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศด้วยความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพายุจะอ่อนกำลังลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนว่า อิทธิพลของพายุจะก่อให้เกิดฝนตกหนักและยาวนานทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือที่พายุเคลื่อนผ่าน
ขณะเดียวกัน ทางการญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทางตะวันตกระมัดระวังอันตรายจากโคลนถล่ม
ด้านนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ารัฐบาลจะเร่งมือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถึงที่สุดแน่นอน

        ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - น้ำในคลองอู่ตะเภาเน่าเสีย ปลาลอยตายคลองเกลื่อนกว่า 4 กม.ส่งกลิ่นเน่าเหม็นชาวบ้านเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาสาเหตุ
       
       วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุน้ำในคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่ตัดผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ เกิดเน่าเสียช่วงระหว่างสะพานหาดใหญ่ใน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ไปจนถึงสะพานเหล็กบ้านท่าแซ ต.คลองอู่ตะเภา ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ส่งผลให้ปลาลอยตายเกลื่อนคลอง ทั้งปลาตะเพียน ปลาสลิด ปลากด และปลาสวาย ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดพื้นเมืองที่ชาวบ้านสองฝั่งคลองอู่ตะเภาออกจับขายสร้างรายได้
       
       ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนได้พายเรือออกมาช้อนตักปลาที่ลอยคอหายใจอยู่บนผิวน้ำเพื่อนำไปกินซึ่งมีทั้งปลาขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ โดยบางส่วนได้ลอยอืดส่งกลิ่นเน่าเหม็นติดกระชังผักบุ้งของชาวบ้านและแหหาปลา สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน
       
       ส่วนสาเหตุของน้ำเน่าเสีย คาดว่า น่าจะมาจากปริมาณน้ำในคลองลดลง และมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลอง ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ เจือละออง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เขต อ.หาดใหญ่ พร้อมแกนนำชาวบ้านคลองอู่ตะเภา ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาสาเหตุที่ทำให้น้ำเน่าเสียจนทำให้ปลาตาย และหาทางแก้ไข เนื่องจากยังคงมีปลาทยอยตายอย่างต่อเนื่

อนุโมทนาค่ะคุณอาริยา

น้ำยังคงท่วมอยู่ ฝนก็ยังตกอยู่

เชื้อโรคก็กระจัดกระจายไปทุกพื้นที่..

เมื่อวาน

คุณทนายความ

ได้ถาม อ.อุบล ว่า

เขื่อนเมืองกาญจน์

มีโอกาส

แตก   ไหม

อ.อุบล

บอกว่า มี มากด้วย

เขาถามว่า

รัฐบาลหาทาง

ป้องกัน

ไม่ได้หรือครับ

ไม่ว่ารัฐบาล

หรือใครในโลกนี้

ไม่อาจป้องกัน

รอยเลื่อน

รอยร้าว

ใต้เปลือกโลกได้

เขื่อนเมืองกาญจน์

สร้างบน

รอยเลื่อนของ

เปลือกโลก

รองรับแผ่นดินไหว

ได้ 7.5 ริกเตอร์

ถ้าเกิด

แผ่นดินไหว

แม้ไม่ถึง 7.5 ริกเตอร์

แต่รอบเลื่อน

แยกตัว

ออกจากกัน

เขื่อนก็ยุบตัวลง

ระหว่างรอยเลื่อนได้

นี่คือภัย

ที่เราต้องบอกกัน

ด้วย

ความจริงใจ

ไม่ใช่มานั่ง

หลอกกัน ปลอบกัน

แต่

พอถึงวัน

ปล่อยตามยะถากรรม

ตัวใครตัวมัน

มัวห่วงการท่องเที่ยว

ห่วงเงิน ห่วงรายได้

แต่

ไม่ห่วงชีวิตคน

พอเกิดเหตุ

เงิน ที่หามานั้น

มันช่วยอะไรไม่ได้เลย

มิหนำซ้ำ

ยังเป้นเงินที่

ไม่อาจกอบกู้สถานการณ์

ให้กลับคืนมาดังเดิมได้

ดังนั้น

ฟ้า ดิน เบื้องบน

จึงเสด็จลงมา

ให้มนุษย์

ผู้มีใจ มีจิต เมตตา

กล้าบอกความจริง

ให้ผู้มีบุญ

ได้ยิน ได้คิด ได้เตรียม

ส่วนเรื่อง

ใครจะเชื่อ ไม่เชื่อ

ไม่ใช่ปัญหา

ผู้มีปัญญา

จะคิดได้เอง

ใครที่ไม่เชื่อ

ก็ไม่ต้องเดือดร้อน

แต่

ถ้าไม่เชื่อ

แล้วเดือดร้อน

แสดงว่า

เชื่อ

แต่ ไม่ต้องการให้

คนอื่นเชื่อ

เพราะ

ตน

เสียผลประโยชน์

ฟ้า ดิน เบื้องบน

จึงเสด็จลงมา

ให้มนุษย์

ผู้มีใจ มีจิต เมตตา

กล้าบอกความจริง

ให้ผู้มีบุญ

ได้ยิน ได้คิด ได้เตรียม

ส่วนเรื่อง

ใครจะเชื่อ ไม่เชื่อ

ไม่ใช่ปัญหา

ผู้มีปัญญา

จะคิดได้เอง

อนุโมทนาค่ะอาจารย์

สรุปว่า หน้าที่"บอก" เป็นของเรา

แต่เขาจะเชื่อหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของเรา

เพราะมันเรื่องของเขา ชีวิตของเขา

รู้สึกว่าช่วงนี้ เมืองกาญจน์แผ่นดินจะไหวบ่อยมากๆเลยนะคะ

อัตราความเสี่ยงสูงมาก

       OK ค่ะ คุณชนิดา

สรุปว่า หน้าที่"บอก" เป็นของเรา

แต่เขาจะเชื่อหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของเรา

เพราะมันเรื่องของเขา ชีวิตของเขา

         *********

 เราอยากให้คนอื่นรู้เหมือนที่เรารู้

อยากให้คนอื่นมีความสุข  เหมือนที่เรามี (ตามสภาพ)

เรารู้ว่าที่ไหนที่ช่วยให้เรา  ค้นหาความจริงของชีวิตได้

เราจะบอกต่อค่ะ  ว่าที่บ้านสวน มีธรรมะของพระพุทธองค์ 

ให้ทุกคนได้มาศึกษา  ด้วยตัวของคุณเอง

ขอให้สมาชิก

บ้านสวนพีระมิดทุกคน

ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่

เสี่ยงภัย

พึ่ง

พระธรรม

อันงดงาม

ของพระพุทธองค์

คือ

ทำแต่ความดี

ทุกลมหายใจ

เว้น

ความชั่วทุกชนิด

แม้แต่ในความคิดก็หยุด

ทำใจให้ร่าเริงผ่องใส

เราไม่มีเวลาแล้ว

ถ้ามีพีระมิด

ให้พึ่งพีระมิดคือ

วางไว้ในบ้าน ที่ทำงาน

รถยนต์

ใส่เสื้อบ้านสวนพีระมิด

ไว้ในเป็นนิสัย

โดยเฉพาะตอนนอน

เพราะ

เป็นช่วงที่จิตอาจ

ห่างจากพระ

ถ้าไม่มีอะไรเลย

ให้ใช้รหัสจักรวาล

อ.อุบล ช่วยด้วย

และ

ให้เมตตาเผยแพร่

รหัสนี้

อย่าบอกโดย

อวดดี แต่ให้บอกให้

เขาลองดู

ไม่เสียหายอะไร

ไม่เสียเงิน

ไม่เสียหน้า

ไม่เสียเวลา

ลองนึกในใจ

ลองใช้เงียบๆดู

อันนี้จะช่วย

กอบกู้ภัยพิบัติได้

แน่นอน

ให้ช่วยกันเร่ง

เผยแพร่รหัสจักรวาล

ใช้ได้ทุกสถานการณ์

ทุกชาติ ทุกศาสนา

แต่ถ้า

ปรามาสล่วงเกิน

รหัสนี้

ไม่มีผลค่ะ

แต่ถ้าชีวิต

กำลังต้องการ

ที่ยึดเหนี่ยว ก็ลองดู

เวลาบอก

กระซิบนะ ให้เขาลอง

บอกทุกคนที่เจอ

นะ

อย่าห่วงเรื่อง

ปรามาส

เพราะการปรามาส

ก็อยู่ในแผน

ของ

จักรวาล

เพราะ

ทุกคนที่ปรามาส

ต้องเจอ

กระบอง

ฝ่าพรหัตถ์

ฝ่าพระบาท

บริวารท่านพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

กันทั่วหน้า

เลือกเอา

จะเอา

ปวดหลัง ปวดขา

ปวดบ่า

ถูกตบหน้า

จนหน้าบวมโดยไม่มี

สาเหตุ

หรือ

อุบัติเหตุ

หรือ

เดือดร้อนที่อยู่

ที่อาศัย

เดือดร้อน

เรื่องการงาน การเงิน

ความรัก

ต้องคดีความ

โรคภัยรุมเร้า

เลือกเอา

แต่เลือกไม่เอา

ไม่ได้

ต้องเลือกเอา

อย่างเดียวเท่านั้น

ทุกอย่าง

กระชั้นเข้ามาแล้ว

 กราบอนุโมทนาในความเมตตาของอาจารย์แม่ค่ะ

เวลาคงเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

จะจำทุกคำสอนและนำไปปฏิบัติให้ได้ค่ะ

สาธุ สาธุ ค่ะ

เมื่อก่อนเวลาอ่านข้อความที่อาจารย์เมตตามาเตือนว่า

ถึงเวลาแล้ว ชนิดาก็จะมีอาการ"หวั่นๆ" และ "กลัว"

เรื่องภัยพิบัติขึ้นมาทันที มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่ช่วงเวลา

แต่พอได้มาอ่านข่าวภัยพิบัติทุกทุ๊กวัน วันละหลายๆข่าว

หลายๆเหตุการณ์อันชวนรันทด หดหู่

รู้สึกว่า มันปลงไปได้ในระดับนึง เพราะ "กลัว" ก็ตาย

ไม่กลัว ก็ต้องตาย ซักวันอยู่ดี จิตก็เลยไม่ตกมาก

และที่สำคัญรู้สึกอุ่นใจ เป็นพิเศษ เพราะมี สิ่งมงคลทุกๆอย่าง

จากบ้านสวนฯที่พึงจะมี ขวัญก็เลยยังไม่กระเจิงเท่าที่ควร 

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์

และครอบครัวเป็นอย่างสูงค่ะ สาธุ

 กราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

ที่ได้กรุณาเตือน  และเน้นย้ำสิ่งที่ควรทำ  อีกครั้ง

ดินสไลด์ทับทางขึ้น“ผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า”

เชียงราย - ฝนตกดินสไลด์ทับถนนเชื่อมผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า หลายจุด หวั่นกระทบไฮซีซัน 54 ที่กำลังจะมาถึงตั้งแต่เดือนหน้า (ตุลาคม) เป็นต้นไป เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซ่อมแซมด่วน ด้านถนนบนบ้านเทอดไทย พังทำชาวบ้านเดือดร้อน งัดแฟชั่นปลูกพืชบนถนนประชด จน จนท.ต้องวิ่งโร่เข้าไปเจรจาพร้อมกับรับปากซ่อมแซมให้

วันนี้ (6 ก.ย.54) หลังเกิดฝนตกได้ทำให้เนินดินบนถนนลัดเลาะไปตามไหล่เขาทางขึ้นผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า พื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้เกิดการไถลตัวลงมาทับถนนเขตหมู่บ้านผาตั้ง ม.14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น หลายจุด โดยจุดแรกดินตามไหล่ทางได้ไถลงลงมาทับผิวจราจรจนไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้ และอีกจุดห่างจากจุดแรกประมาณ 1 กิโลเมตร

ขณะที่ผิวจราจรบางจุดถูกน้ำป่ากัดเซาะและเป็นทางชัน โดยเฉพาะจากตัว อ.เวียงแก่น จะขึ้นไปทางผาตั้ง พบผิวจราจรแตก เสียหายจนชาวบ้านต้องใช้กระสอบทรายมาวางป้องกัน และขุดดินไปทับถม การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก

หลังเกิดเหตุนายประสเริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงแก่น ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปขุดตักดินออกจากจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้แล้ว แต่กรณีถนนพังเสียหายต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปซ่อมแซมต่อไป และในช่วงนี้ได้มีการทำป้ายเตือนเอาไว้เพื่อให้รถชะลอความเร็วและระมัดระวังเนื่องจากเป็นเส้นทางตามไหล่เขาที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุโดยเฉพาะเมื่อมีฝนตกและหมอกในช่วงเช้า

นายประเสริฐ กล่าวว่า จุดที่ถนนพังเสียหายเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างผาตั้ง กับ ภูชี้ฟ้าแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ดังนั้นจึงได้เร่งประสานไปยังแขวงการทางเชียงรายที่ 2 ให้เข้าไปทำการซ่อมแซมให้เสร็จก่อนถึงฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.54 ซึ่งจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าด้านชาวบ้านพื้นที่บ้านเทอดไทย ม.1 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งใช้ถนนสายเทอดไทย-พญาไพร-หัวแม่คำ ชายแดนไทย-พม่า ประสบความเดือดร้อนจากผิวจราจรชำรุดหลายจุด

โดยเฉพาะภายในหมู่บ้านเทอดไทย จึงได้พากันนำเอาต้นตะไคร้และมะเขือ ไปปลูกประชดกลางถนน เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาซ่อมผิวถนนดังกล่าว ที่เสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทได้เข้าไปรับเรื่องและรับปากจะเข้าไปซ่อมแซมให้แล้ว

นายวรชิต แซ่เติ๋น ชาวบ้านบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า ถนนสายนี้ เป็นถนนสายหลักสายเดียวที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างระหว่างหมู่บ้านกับพื้นราบ ดังนั้นการสัญจรจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก และมักทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาซ่อมแซมด่วน

เรือพลาสติกขายดิบขายดีรับน้ำท่วมพิจิตร ย้ำ ต้องจอง-จ่ายล่วงหน้ 3-7 วัน

พิจิตร -น้ำท่วมทั่วเมืองชาละวัน ทำเรือขายดิบขายดีถ้วนหน้าจนโรงงานผลิตไม่ทัน ล่าสุด หากอยากได้ต้องเขียนใบจองจ่ายสดล่วงหน้า รออีก 3-7 วันจึงจะได้รับของ ด้านผู้ว่าฯรับพิจิตร ต้องจมน้ำยาวอีกร่วม 2 เดือนแน่ หลังน้ำเหนือยังมีอีกเพียบ

วันนี้ (6 ส.ค.) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดพิจิตร ว่า จะยังคงถูกน้ำท่วมเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกเกือบ 2 เดือน เพราะน้ำทางภาคเหนือและน้ำเหนือเขื่อนยังมีปริมาณสูง จะต้องปล่อยออกมาเข้าสู่พิจิตรอีกเกือบ 2 เท่าตัวจากที่ท่วมขังอยู่ขณะนี้ จึงส่งผลให้ถนนหนทางที่เป็นถนนลูกรังใช้เชื่อมต่อในหมู่บ้านต่างๆ ไม่สามารถใช้รถยนต์เป็นพาหนะได้ ต้องใช้เรือพายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ด้าน นายสมเกียรติ พึ่งไชย อายุ 43 ปี ผู้จัดการร้านพิจิตรพลาสติก ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสระหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้เรือพายพลาสติกขายดีมีคนมาขอซื้อวันละหลายลำ จนทำให้สินค้าเริ่มขาดตลาด ซึ่งถ้าใครอยากจะซื้อเรือพายต้องเขียนใบจองจ่ายเงินสด แล้วอีก 7-10 วัน จึงจะมารับเรือได้ เนื่องจากโรงงานผลิตไม่ทันกับความต้องการ แต่ยังยืนยันว่า ไม่มีการขึ้นราคา โดยราคาเริ่มต้นตั้งแต่เรือเล็กนั่งได้ 2 คน ลำละ 2,500 บาท ส่วนเรือขนาดกลางนั่งได้ 4-5 คน ลำละ 5,500 บาท และเรือขนาดใหญ่นั่งได้ 8-10 คน ลำละ 15,000 บาท

นายสมเกียรติ เล่าอีกว่า ธุรกิจขายเรือพลาสติกของจังหวัดพิจิตรกำลังเติบโตมีร้านเกิดขึ้นใหม่ 4-5 ร้านค้า แต่ถึงจะมีร้านเปิดใหม่กี่ร้านก็ตาม เรือพายพลาสติกก็ยังขายดีกันทั่วหน้า เพราะน้ำที่ท่วมหนักและแผ่ขยายเป็นวงกว้างไม่เว้นแม้แต่ในเขตชุมชนของเทศบาลเมืองพิจิตร, ทม.ตะพานหิน, ทม.บางมูลนาก, ทต.ทับคล้อ และอีกหลายสิบแห่ง

ขณะที่เรือพายที่เป็นไม้และเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาแต่โบราณ เดี๋ยวนี้ก็หาช่างต่อเรือทำแทบไม่ได้แล้ว คนจึงหันมาซื้อเรือพลาสติก เพราะน้ำหนักเบาใช้งานง่าย รวมถึงดูแลรักษาก็ง่ายด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องโชคลางของการขายเรือ นายสมเกียรติ เล่าว่า ถ้าเอาเรือนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นจะขายลำนั้นไม่ได้ แต่ถ้าจับเอาเรือวางเรียงเป็นแนวตั้งเพียงแค่ไม่ทันข้ามวันก็จะมีคนมาชี้ขอซื้อทันทีและส่วนใหญ่ก็จะเลือกเรือพายที่มีสีสดใส โดยเฉพาะสีส้มกับสีแดงจะขายดีมาก ส่วนสีอื่นๆ ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากหลายคนมองเรื่องความปลอดภัยว่าถ้าเรือล่มแล้วเรือพายมีสีสดจะมองเห็นได้ง่ายจึงนิยมและขายดีดังกล่าว

"โปแลนด์"เผชิญพายุลูกเห็บ 
  

7 กย. 2554 08:51 น.

โปแลนด์ประสบพายุลูกเห็บพัดกระหน่ำที่หมู่บ้าน เซปปีโลวิซ จังหวัดโอโปล ในภาคตะวันตกเมื่อค่ำวันจันทร์ โดยลูกเห็บขนาดเท่าไข่ไก่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้หลังคากระเบื้องแตกทะลุ กระจกหน้าต่างแตกเสียหาย รถยนต์บุบกระจกแตก และพืชผลการเกษตรได้รับความเสียหาย
หลายคนบ่นว่า ที่ผ่านมาพวกเขาเพิ่งจะประสบกับภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ และมีหนี้สินจำนวนมากจากความเสียหายครั้งนั้น แล้วยังมาเจอพายุลูกเห็บอีก ก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านแถวนี้จะรับมือไหวหรือไม่
และเมื่อช่วงเช้าวานนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้กระจายออกนำผ้าใบไปปูหลังคาให้กับบ้านเรือนที่เสียหายชั่วคราว ซึ่งนับได้ว่ามีจำนวนมากกว่า 100 หลัง และมีรายงานว่า ทั่วประเทศมีรายงานความเสียหายจากพายุลูกเห็บตกมากถึงกว่า 820 ราย

 

4 อำเภอมหาสารคามเขตภัยพิบัติน้ำท่วม ชาวบ้านกว่า 2,600 ครัวเรือนเดือดร้อน

มหาสารคาม - จังหวัดมหาสารคามประกาศภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 34,000 ไร่ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 2,600 ครัวเรือน

นายทองทวี พิมเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดมหาสารคาม ได้รับอิทธิพลจากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ ส่งผลให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชนได้รับความเดือดร้อนในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศภัยพิบัติน้ำท่วมไปแล้วนั้น ล่าสุดจังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มอีก 3 อำเภอ รวมเป็น 4 อำเภอ

ได้แก่ อ.เมืองมหาสารคาม กันทรวิชัย โกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน ทั้งหมด 9 ตำบล 54 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขังจำนวน 34,897 ไร่ ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 2,679 ครัวเรือน

ขณะที่ระดับในแม่น้ำชี ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 10-15 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำวัดที่สถานีบ้านดินดำ อ.เมืองมหาสารคาม อยู่ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 2.5 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปริมาณน้ำสะสมจากฝนในพื้นที่และน้ำเหนือจากจังหวัดชัยภูมิและขอนแก่นที่ไหลมาสมทบ

ซึ่งหากเกิดฝนตกต่อเนื่องพื้นที่ใน 4 อำเภอที่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี อาจประสบปัญหาน้ำท่วมได้ อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้รีบแจ้งไปยังอำเภอ เพื่อให้เร่งให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความเสียหายต่อไป

ปิดประตูระบายน้ำชะลอน้ำท่วมเขตเมืองอุทัยธานี

7 กย. 2554 10:08 น.

พิษณุโลก-ฝนหนักน้ำป่าหลากท่วมทางขึ้นอช.ภูหินร่องกล้า

7 กย. 2554 14:40 น.

หวั่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลาย ทำชาวโลก 500 ล้านชีวิตไร้ที่อยู่



ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เผยว่า ในอนาคตประชากรกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก จะไม่มีที่อยู่อาศัย หากธารน้ำแข็งที่กรีนแลนด์กับเขาหิมาลัย ละลายหมด...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเม่ือวันที่ 7 ก.ย. ว่า นายรอเบิร์ต เพอร์เวส ที่ปรึกษาด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นกรรมการบริหารขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ (WWF) ชาวออสเตรเลีย ได้ออกเดินทางสำรวจแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ ก่อนที่จะเดินทางไปสำรวจธารน้ำแข็งโคลัมเบียของประเทศแคนาดา รวมถึงแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงอีก 12 แผ่น ซึ่งเป็นแหล่งที่ให้ทรัพยากรน้ำแก่ประเทศถึง 65 เปอร์เซ็น

เพอร์เวส พบว่า น้ำทะเลในกรีนแลนด์นั้นอุ่นมาก จนเกิดสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลชนิดใหม่กว่า 100 ชนิด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตราย "กรีนแลนด์กำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย น้ำแข็งที่ละลายอาจเพิ่มระดับความสูงของน้ำทะเลได้ถึง 9 ฟุต หรืออาจจะถึง 15 ฟุตทีเดียว และนั่นจะทำให้ประชาชนถึง 500 ล้านคนในโลกนี้ไร้ที่อยู่อาศัย"

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ เพอร์เวส ระบุว่า สภาพการณ์ในปัจจุบันของธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคที่สำคัญของประเทศจีนและอินเดีย เนื่องจากปริมาณและความหนาของธารนำ้แข็งลดลงจากที่เคยวัดในช่วงปี 1980 ถึง 50เปอร์เซ็น กอปรกับประชากรโลกที่อาจเพิ่มขึ้นอีก 2 พันล้านคน เป็น 9 พันล้านคนในอนาคต โดยเฉพาะ 1 พันล้านคนในทวีปแอฟริกา ซึ่งเพอร์เวส กล่าวว่าน่ากังวลถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างมาก.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
7 กันยายน 2554, 14:30 น.

นักวิทย์ออสซี่สำรวจตลาดปลา ผงะฉลามพันธุ์ใหม่โผล่ขึ้นเขียงรอเปิบ

เมื่อเดินสำรวจตลาดขายปลาในไต้หวัน ท่ามกลางปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่ถูกนำขึ้นมาจากเรือประมง ทั้งสดและใหม่ เพื่อให้ลูกค้าร้านอาหารและภัตตาคารเลือกสรรนำไปปรุงขึ้นโต๊ะให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง นักชีววิทยาทางทะเลถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่ามีฉลามพันธุ์ใหม่อยู่ที่นั่นด้วย

วิลเลียม ไวต์ จากองค์การวิจัยอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ สหราชอาณาจักร ในเมืองโฮบาร์ต ประเทศออสเตรเลีย นำทีมเพื่อนร่วมงานไปเดินสำรวจตลาดขายปลาทาชิของไต้หวัน เพื่อเก็บตัวอย่างปลาและดูว่ามีปลาอะไรแปลกๆ ที่ต่างไปจากเมื่อหลายสิบปีก่อนบ้างหรือไม่

"เราจะเห็นฉลามได้ทั่วไปตามตลาดปลาของเอเชีย แต่ในบรรดาปลาสายพันธุ์ต่างๆ เราพบปลาฉลามหนูพันธุ์ใหม่ (Squalus formosus) ลำตัวยาว 1 เมตร ที่ตลาดแห่งนั้น มันต่างจากฉลามหนูพันธุ์อื่นๆ เพราะมีครีบแรกตั้งตรงขึ้นมาจากหลัง กระดูกสันหลังแข็งแรงและมีหัวที่กลมและสั้น" ไวต์กล่าว

ฉลามพันธุ์ดังกล่าวเข้าสู่ตลาดปลาแบบเดียวกับที่ฉลามน้ำลึกทั้งหลายถูกจับมา นั่นคือติดมาโดยบังเอิญในการหาปลาอื่นๆ พ่อค้าปลาในตลาดไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่านี่คือพันธุ์ใหม่ และไม่รู้ความแตกต่าง ทั้งรูปร่างลักษณะหรือแม้แต่รสชาติของมัน

ไวต์อธิบายว่า มันอาศัยอยู่เฉพาะน่านน้ำรอบไต้หวันและญี่ปุ่นเท่านั้น โดยยังไม่พบในทะเลที่ไกลออกไป การที่ฉลามน้ำลึกไม่ได้ผสมพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จึงยากที่มันจะเพิ่มประชากรได้ทันหลังจากที่เพิ่งโดนชาวประมงจับไป ในความเห็นส่วนตัวแล้วไวต์บอกว่า เราไม่น่าจะรับประทานมัน

คาดการณ์แผ่นดินไหวโดยดูการเปลี่ยนแปลงของจุดดับบนดวงอาทิตย์

แผ่นดินไหวอินโดฯ บ้านพังยับ 1,417 หลัง พบเสียชีวิต 4 ราย

วันที่ 07/09/2554 18:08 (ผ่านมา 1 ชั่วโมง 15 นาที)


ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหว 6.7 ริกเตอร์ ตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เมืองใกล้เคียงอย่างเมืองซูบูลุสซาลาม ปาปัค บารัด ฮัมบาฮาส และ เดียรี่ ได้รับแรงสั่นเทือนทสร้างและมีความเสียหายอย่างหนัก
ล่าสุด เว็บไซต์ earthquake-report รายงานเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เมืองซูบูลุสซาลาม ได้รับผลกระทบมากที่สุด รายงานระบุว่า บ้านเรือนราษฎรในเมือง 1,417 หลังพังยับเยิน หน่วยงานภัยพิบัติอาเจะห์ (BPBA) คาดการณ์ว่า ผลเสียหายของเมืองซูบูลุสซาลาม อยู่ราว 50 พันล้านรูเปียห์ ส่วนอีก 3 เมือง ปาปัค ฮัมบาฮาส และ เดียรี่ บ้านของประชาชนพังอย่างน้อย 417 หลัง โรงเรียน มัสยิด โรงพยาบาล และ โครงสร้างของพื้นที่ชลประทานได้รับความเสียหายเช่นกัน ขณะรายงานผู้เสียชีวิตลดเหลือเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ด้าน จ.อาเจะห์ ได้รับผลกระทบเช่นกัน เจ้าหน้าที่พบว่ามีหลุม รอยต่างๆ ในถนนภายในเมือง
ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนยังทำให้คนในเมืองใหญ่อย่าง เมดาน รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน และประชาชนพากันตื่นตระหนก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายภายในเมือง

ที่มา: ผู้จัดการ

แพทย์ตรวจร่างกาย"หลวงพ่อคูณ"ครั้งสุดท้ายก่อนขึ้น ฮ.เข้า กทม.

8 กันยายน 2554 09:03 น.

เช้านี้ ที่โรงพยาบาลนครราชสีมา คณะแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ครั้งสุดท้าย ก่อนเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ที่สนามบินกองบิน 1 นครราชสีมา เพื่อเข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร คาดใช้ระยะเวลาในการเดินทางถึงโรงพยาบาลศิริราชประมาณ 30 นาที โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ที่ใกล้ชิด ติดตามแน่นโรงพยาบาล แพทย์ ระบุ สภาพร่างกายพร้อม 100% ในการเข้ารับการรักษา

ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณมีสีหน้าแจ่มใส โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกศิษย์ได้พยุงหลวงพ่อคูณ ออกนอกห้องพัก เพื่อสูดอากาศ และเป็นการออกกำลังกายอีกด้วย

ผู้ว่าฯลำปางสั่งทุกอำเภอจับตาน้ำท่วม

นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเฝ้า ระวังสถานการณ์อุทกภัย และดินโคลนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีรายงานจาก กรมอุตุนิยมวิทยาว่า ช่วงระหว่างวันที่ 9 - 11 กันยายนนี้จะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงให้ทุกอำเภอ ทั้ง 13 อำเภอ เตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์สำหรับให้การช่วยเหลือประชาชน กรณีเกิดเหตุได้อย่างฉับพลัน และให้มีการใช้ประโยชน์จากเสียงตามสายและหอกระจายข่าว ประจำหมู่บ้านในการแจ้งเตือนประชาชนต่อไป

ญี่ปุ่นเขย่า5.1ริคเตอร์
วันพุธ ที่ 07 กันยายน 2554 เวลา 23:00 น
เนื้อหาข่าว

แผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริคเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเลใกล้ชายฝั่งเมืองอูรากาวะ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

เมื่อวันนี้ 7ก.ย. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริคเตอร์ เขย่าพื้นที่ภาคเหนือของญี่ปุ่นเมื่อคืนวันพุธ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือประกาศเตือนภัยสึนามิ โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.29 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 20.29 น. ตามเวลาในประเทศไทย) มีจุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเล ใกล้ชายฝั่งเมืองอูรากาวะ ทางใต้ของเกาะฮ็อคไกโด.

ไฟป่าเทกซัสเผาบ้านเรือนพันหลังวอด
วันพฤหัสบดี ที่ 08 กันยายน 2554 เวลา 9:27 น
เนื้อหาข่าว
ไฟป่าครั้งเลวร้ายที่ลุกไหม้กว่า 180 จุดทั่วรัฐเทกซัสของสหรัฐ โหมลุกลาม ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เผาผลาญบ้านเรือนไปแล้วกว่า 1,000 หลัง และเสียชีวิตแล้ว 4 ศพ

ไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐเทกซัส ยังคงโหมไหม้รุนแรง เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปแล้วกว่า 1,000 หลังจนถึงวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการเกิดไฟไหม้ป่า โดยไฟป่ากว่า 180 จุดปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั่วรัฐเทกซัส ที่ไร้ฝนมานาน และบ้านเรือนเกือบ 600 หลังถูกเผาวอดทั้งในและรอบเมืองบาสทรอป เคาน์ตี ใกล้เมืองออสตินจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนักในความพยายามควบคุมไฟป่าที่เกิดขึ้นในบาสทรอป เคาน์ตี ซึ่งเผาทำลายพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 5 ล้านไร่ เนื่องจากกระแสลมแรงจากพายุโซนร้อนลีเป็นอุปสรรคสำคัญ

นายริก เพอร์รี ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ระบุว่า มีบ้านเรือนถูกไฟป่าเผาผลาญไปแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน และขอให้ประชาชนกว่า 5,000 คนในพื้นที่เสี่ยงอพยพออกจากพื้นที่ และว่าในช่วง 24-72 ชั่วโมงข้างหน้า ถือเป็นช่วงสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมเพลิง สำหรับยอดผู้เสียชีวิต เพิ่มเป็น 4 ศพ ทั้งนี้ รัฐเทกซัสกำลังเผชิญความแห้งแล้งที่สุดในรอบกว่า 60 ปี

นายเพอร์รี ต้องลดเวลาในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเซาท์ แคโรไลนา เพื่อมาจัดการกับวิกฤติไฟป่า และเมื่อวันอังคาร เขาได้เดินทางไปตรวจพื้นที่ไฟป่าในเมืองบาสทรอป ห่างจากเมืองออสติน ประมาณ 40 กิโลเมตร ในเวลาต่อมา เขาได้ประจำการชุดเฉพาะกิจเทกซัส 1 ซึ่งเป็นทีมกู้ภัยชุดเดียวกับที่ส่งไปยังนิวยอร์ก หลังเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน และไปนิวออร์ลีนส์ หลังเฮอรริเคนแคทรินาพัดถล่ม

ส่วนพายุไต้ฝุ่น “ตาลัส” ที่พัดถล่มภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ล่าสุด เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิตและสูญหายอย่างน้อย 100 คน ซ้ำเติมความทุกข์ยากของญี่ปุ่นที่กำลังพยายามฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไต้ฝุ่น “ตาลัส” ทำให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรงเมื่อพัดเข้าแผ่นดินใหญ่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นฝั่ง และมีแผ่นดินถล่มอาคารหลายหลังบนเกาะชิโกกุ ทางตะวันตกเฉียงใต้ คาบสมุทรกีอิ และเขตชุโกกุ

ดร.สมิทธ ยัน เดือนก.ย.ถึงต้นต.ค.ไทยมีโอกาสเกิดพายุจร
ความรู้เพิ่มเติม - โดยทั่วไปฝนที่เกิดจากการพัดของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้นั้นจะเริ่มลดปริมาณลงในเดือนกันยายนและจะหมดประมาณเดือนตุลาคม ฝนที่ตกจากลมมรสุมนี้จะครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ ส่วนฝนที่เกิดจากพายุจร อันได้แก่ พายุไต้ฝุ่น พายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชั่น

น้ำท่วมบ้านเรือนในโคลัมเบียกว่า 500 หลัง

 Thu, 08/09/2011 - 10:07 เมืองทางภาคกลางของโคลัมเบียเผชิญกับน้ำท่วมรุนแรงอีกครั้ง หลังเกิดฝนตกหนักส่งผลให้บ้านเรือนหลาย 500 หลังจมอยู่ใต้น้ำ

เมืองวิลล่าวิเซนซิโอ ในจังหวัดเมตา ห่างจากกรุงโบโกตา เมืองหลวงของโคลัมเบียไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 75 กิโลเมตร เผชิญกับอุทกภัยรุนแรงอีกครั้ง หลังเกิดฝนตกหนักทำให้บ้านเรือนประมาณ 500 หลังจมอยู่ใต้น้ำ โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยพลเรือนต้องระดมกำลังช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่กลางน้ำ ขณะที่ผู้ประสบอุทกภัยส่วนใหญ่ นอกจากจะเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ยังวิตกว่าฝนจะตกหนักต่อไปอีกหลายเดือน

มีรายงานว่าเมืองวิลล่าวิเซนซิโอต้องเผชิญกับฝนตกหนักติดต่อกันนานถึง 4 ชั่วโมง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ชาวเมืองวิลล่าวิเซนซิโอเป็น 1 ในประชากรของโคลัมเบีย 3 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 400 คน รัฐบาลโคลัมเบียประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Tropical Storm KULAP (17W) # 3 : ประกาศเตือนภัย เรื่อง "พายุโซนร้อน KULAP (กุหลาบ/17W) ” ฉบับที่ 3
ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 01.00น.
ประจำวันที่ 8 กันยายน 2554 ออกประกาศเวลา 04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 8 กันยายน 2554 / 03.32 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 1 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ - ลูก
1) Tropical Storm KULAP (17W,23.8N 135.2E,45kts) : เมื่อเวลา 01.00น.วันนี้(8ก.ย.2554) พายุโซนร้อน KULAP (กุหลาบ/17W) มีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลเเปซิฟิคตะวันตก อยู่ที่ละติจูด 23.8องศาเหนือ ลองจิจูด 135.2 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จาก ฐานทัพอากาศคาเดนา ประเทศญี่ปุ่น ห่ างประมาณ 927 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อยด้วยความเร็ว 7 นอต(13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 45 นอต(83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 55นอต(102กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 989 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 4 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา.... / คาด ช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้านี้ หรือช่วง 9-10 ก.ย.54 นี้ พายุโซนร้อน KULAP (กุหลาบ/17W) จะเริ่มมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกมากขึ้น. มีเเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ ประเทศจีนทางตอนตะวันออก ในอีก 96 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 12 ก.ย.54 นี่ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )


<เพิ่มเติม/ความเห็น> … พายุโซนร้อน KULAP (กุหลาบ/17W) มีเเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศจีนด้านตะวันออก ช่วงวประมาณ 12 ก.ย. นี้ สำหรับวงเขียว บริเวณทะเลจีนใต้คาดว่าจะก่อตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต มีเเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย 30 เปอร์เซนต์ ส่วนวงกลมเขียวบริเวณทะเลฟิลิิปินส์ มีเเเนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าทะเลจีนใต้ในระยะต่อไป ... ตอนนี้พายุหมุนเขตร้อนที่จะเข้าสู่ประเทศไทยที่เเท้จริงมาเเล้วครับ คือช่วงตั้งเเต่บัดนี้เป็นต้นไปหากมีหย่อมฯ ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ หรือทะเลฟิลิปปินส์ มีเเนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ เเละมีความเป็นไปได้สูงที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในระยะต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากลมค้าตะวันออกเริ่มมีกำลังเเรงขึ้น ลมตะวันตกอ่อนกำลังลง ประกอบกับปัจจัยหลักอย่างลิ่มความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นได้เเผ่มาทาง ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลจีนใต้ หรือทะเลฟิลิปปินส์ ... พายุ HAIMA(ไหหม่า) กับ NOCK-TEN(นกเตน) มาเเค่เพียงหลอกๆ เท่านั้น เเต่ตอนนี้เป็นต้นไปของจริงเเล้วสำหรับประเทศไทย... จึงขอให้ติดพายุหมุนเขตร้อนทุกลูกอย่างใกล้ชิดครับ/สำหรับวงสีเขียวคือ บริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)



ภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหวระบบ IR บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกเมื่อช่วง 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา
 

• อินเดียแผ่นดินไหว4.2ริกเตอร์

แผ่นดินไหวเริ่มแรงขึ้น แล้วก็หลายพื้นที่

ใกล้ๆประเทศเราซะด้วย

ไหนจะพายุเข้าอีก..เฮ้อ..

อนุโมทนากับคุณตาลด้วยนะค๊า..

ศอส.สรุปน้ำท่วมหนัก 12 จังหวัด เสียชีวิต 72 ราย

8 กย. 2554 13:53 น.

ชาวมอญปทุมฯไม่สนน้ำท่วมห่วงทางภาคเหนือมากกว่า

8 กย. 2554 13:45 น.

น้ำท่วมนครปฐมประกาศเขตภัยพิบัติ 66 หมู่บ้าน

8 กย. 2554 14:05 น.

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด หวั่นเกิดปัญหาดินสไลด์ในพื้นที่เกาะช้างหลังฝนตกหนัก


นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาใน จังหวัดตราด และ อำเภอเกาะช้างเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน เกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อถนนใน อ.เกาะช้าง เนื่องจากเมื่อปี 2553 ถนนจากบ้านคลองสน-บ้านหาดทรายขาว ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เคยเกิดดินทรุด และดินสไลด์ทับรีสอร์ทเสียหาย 1 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย แม้อุทยานแห่งชาติหมู่ เกาะช้าง จะร่วมกับ อ.เกาะช้าง ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขุดเขาเพื่อขยายช่องทางจราจรเพิ่มอีก 1 ช่องทาง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากเกิดฝนตกหนัก ทางจังหวัดจึงได้สั่งการให้ทางอำเภอเกาะช้างเฝ้าระวังปัญหาในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของอำเภอเกาะช้างได้

อึ้ง!! พบข้อมูล ต่างชาติถือครองที่ดินไทยกว่า 100 ล้านไร่



จากการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจฯ กับผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการพิจารณาถึงปัญหาและผลกระทบ กรณีการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติผ่านตัวแทนอำพราง
โดยการเปิดเผยข้อมูลของ ศ.ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ รอง รศ.ปิยะนุช โปตะวณิช อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พบว่า ปัจจุบันมีชาวต่างชาติ ถือครองที่ดินในประเทศไทย กว่า 100 ล้านไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ริมชายหาด เช่น เกาะสมุย ภูเก็ต เกาะช้าง รวมไปถึงริมทะเลฝั่งอ่าวไทย
ทั้งนี้ กลุ่มต่างชาติได้ใช้วิธีหลีกเลี่ยงกฎหมายโดยผ่านตัวแทนอำพราง ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ
Mthai News

ฤาษีจรัลโชว์ลอยตัวกลางอากาศ สร้างความฮืออาอย่างมาก!



ฤาษี พุทธจรัล นักวิปัสสนาชื่อดัง โชว์การเหาะลอยตัวกลางอากาศ เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ด้วยวัย 70 ปี ซึ่งเป็นการโชว์แบบโยคะสูตร ตัวลอยสูงเหมือนเดิม เผยเคล็ดการลอยตัว ทำให้ดูไม่แก่ และทำให้ ร่างกายดี จิตใจดีขึ้น มีสติ
จากกรณีที่ ดร.พุทธจรัล พุทธจรัล หรือ ดร.จรัล นันสุทานนท์ อดีต ผู้จัดการวงดนตรีชื่อดัง "ดิอิมพอสซิเบิ้ล" เตรียมเปิดโครงการสร้างโรงเรียนฝึกพลังกายพลังจิต และวิชาความรู้อีกหลายแขนง ให้แก่เด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้สนใจได้เรียนฟรี ในพื้นที่ 15 ไร่ ที่อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดเกลาจิตใจให้มีความสงบสุขดีงาม ด้วยการอาศัยหลักธรรมชาติเข้ามาเป็นตัวประกอบในการฝึก พร้อมกันนี้ ดร.พุทธจรัล ยังแสดงแบบแปลนโครงการของโรงเรียน และแสดงการนั่งสมาธิลอยตัวขึ้นจากพื้นแบบฤาษีให้ผู้สื่อข่าวดู ท่ามกลางความตื่นเต้นสนใจของผู้คนที่ทราบข่าว ที่มูลนิธิโพธิสัจธรรม เลขที่ 51/34 หมู่บ้านพลอยบุรินทร์ ถ.มหิดล ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเหาะ หรือ ลอยตัวมีผลและประโยชน์ต่อจิตใจและร่างกายมนุษย์อย่างไร ดร.พุทธจรัล กล่าวว่า ในศาสนาพุทธผู้ที่เคร่งศาสนายังมองว่า การแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เป็นเดรัจฉานวิชา แต่ในความเป็นจริงแล้วการฝึกลอยตัว โดยทำจิตให้ว่างกระโดดลอยตัวขึ้นไปนั้น ไม่ใช่เป็นการแสดงปาฏิหาริย์ แต่เป็นการฝึกจิตใจและร่างกาย วิชาฝึกลอยตัวและท่าต่างๆ จะเรียกว่าวิชาโยคะศาสตร์ที่สมบูรณ์ก็ได้ สมาธิ หรือ ฌาน เป็นจุดสำคัญในการฝึกและปฏิบัติลอยตัวได้
ฤาษีจรัล กล่าวอีกว่า สำหรับบุคคลทั่วไปหากต้องการฝึกลอยตัว อันดับแรก จะสอนให้บุคคลทั่วไปฝึกนิโรชมรรคสมาธิ ทำให้จิตสงบว่าง จากนั้นเมื่อสามารถทำจิตใจให้สงบทำจิตใจว่างเปล่าแล้วเป็นเวลา 3 เดือน ก็จะให้ฝึกเรียกว่าเทคนิคสิทธิโปรแกรม ในการบริกรรมให้เกิดปัญญา การลอยตัว คือ ผลของปัญญา เมื่อปัญญาเกิดผลก็คือตัวลอย หากจิตยังไม่ว่างยังว้าวุ่นอยู่จะไม่สามารถฝึกการลอยตัวได้ ต้องเริ่มต้นฝึกเข้าฌาน ฝึกสมาธิจนจิตว่างแล้วจึงหัดฝึกลอยตัว ซึ่งต้องฝึกต่อเนื่อง การฝึกลอยตัวจะช่วยขัดเกลาระบบประสาท ทำให้จิตใจโล่งว่างชั่วขณะ ผ่อนคลายความเครียด มีภาวะจิตใจดีขึ้นจิตใจบริสุทธิ์ไม่ฟุ้งซ่าน การที่ตัวลอยขึ้นเป็นช่วงที่มีปีติสูงสุดเหมือนนก จะมีสภาพสุขสูงสุดในช่วงที่ตัวลอยอยู่ในอากาศ ทุกคนปรารถนาที่จะค้นหาความสุข และ ต้องการความสุขด้วยกันทั้งนั้น เป็นขบวนการรักษาสภาพจิตใจและร่างกายแบบธรรมชาติ
ดร.พุทธจรัล กล่าวด้วยว่า การลอยตัวนั้น บางคนลอยได้น้อยบางคนลอยได้สูงแล้วแต่ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของกาย เรื่องน้ำหนักตัวไม่เกี่ยว เพราะการฝึกลอยตัวถือคติ คือจิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว การลอยตัวของแต่ละคนความสูงจะต่างกันขึ้นอยู่กับภาวะบริสุทธิ์ของผู้ปฏิบัติที่มีอยู่ คือเรื่องความสูงต่ำไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าสามารถทำได้และทำได้อย่างต่อเนื่อง การลอยตัวได้สูงหรือต่ำไม่ได้เป็นตัววัดว่าคนๆนั้นมีสติปัญญาสูงหรือต่ำ คือหากทำและสามารถลอยตัวให้พ้นจากพื้นที่นั่งเป็นเกณฑ์จะสูงหรือต่ำไม่สำคัญ ขึ้นแค่ 1 ซ.ม.ก็ถือว่าใช้ได้ สำหรับบุคคลทั่วไปที่อยากฝึกลอยตัวก็มาสมัครได้ที่มูลนิธิ ใครมาให้สอนก็จะเริ่มสอนตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับการลอยตัวของดร.พุทธจรัล จะนั่งขัดสมาธิ พนมมือ หลับตา แล้วใช้กล้ามเนื้อบริเวณก้นสะโพก รวมทั้งลำตัวทั้งหมดในการยกตัว สปริงตัวขึ้นไปในอากาศ เมื่อตกลงมาก็จะสปริงตัวขึ้นไปอีกครั้ง ทำลักษณะคล้ายๆ กบกระโดด ลักษณะคล้ายกับยิมนาสติก ถือเป็นการฝึกแบบโยคะอีกวิธีหนึ่ง เพื่อรักษาจิตและร่างกายแบบธรรมชาติ โดยใช้ร่างกายและปัญญาเป็นตัวกำหนด ต่างประเทศก็มีการทำลักษณะนี้จำนวนมาก ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง กระทั่ง ดร.พุทธจรัล นำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย หลังจากเคยไปเรียนและไปฝึกมาจากต่างประเทศ.

ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณประเทศไทย " ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 08 กันยายน 2554

ร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-12 ก.ย. นี้ และจะมีกำลังแรงขึ้นประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้นด้วย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำบริเวณภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกให้เตรียมป้องกันระวังอันตรายจากปริมาณน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554 ออกประกาศ เวลา 16.30 น. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

นครพนม - ฝนตกหนักไม่ถึงชั่วโมง แต่น้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครพนม โดยเฉพาะสายหลักด้าหน้าโรงพยาบาลและโรงเรียนหลายแห่ง พ่อค้าแม่ค้าริมถนนต้องขนของหนีน้ำ

ที่ จ.นครพนม เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้( 8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักกระหน่ำ ส่งผลให้ถนนสายหลักในตัวเมืองเขตเทศบาลเมืองนครพนม มีระดับน้ำท่วมขังสูง 20-30 ซ.ม. โดยเฉพาะ ถนนศรีเทพน้ำได้ทะลักท่วมขังโรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 หน้าวัดศรีเทพ พระเณรต้องเดินลุยน้ำ

ขณะที่ถนนอภิบาลบัญชา จากแยกปั้มน้ำมันเอสโซ่-หน้าตลาดสดเทศบาล บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลนครพนม ถึงห้าแยกตำรวจน้ำ ระดับน้ำท่วมขังสูง 30 ซ.ม. พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด และหน้าโรงพยาบาลต้องรีบขนข้าวของขึ้นสู่ที่สูง พร้อมนำกระสอบทรายมาปิดกั้นหวั่นน้ำทะลักกันจ้าละหวั่น

ต่อมานายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม รีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อปพร.เทศบาลเมืองนครพนม เปิดเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติริมฝั่งแม่น้ำโขง 3 จุด และเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ของชลประทานจังหวัด บริเวณจุดปากทางเข้าซอยกุหลาบทิพย์ ถนนบำรุงเมือง เร่งสูบน้ำระบายไหลลงแม่น้ำโขงได้ทันท่วงที ระดับน้ำจึงเริ่มลดลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนได้ตกนานแค่ครึ่งชั่วโมงเศษ แต่ ส่งผลให้น้ำท่วมขังตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครพนม ทั้งนี้อาจเป็นเพราะท่อระบายน้ำมีขยะและเศษปฎิกูลอุดตัน จึงท่วมอย่างฉับพลัน

สตูล - หมอกควันไฟป่าประเทศอินโดนีเซีย แผ่เข้าปกคลุมท้องทะเล จ.สตูล ระรอกที่ 4 ตามเกาะแก่งมีหนาแน่น ต้องเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสตูล เกิดหมอกควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย แผ่เข้าปกคลุมกลางทะเลตามเกาะแก่ง เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะไข่ เกาะอาดัง ราวี และตามเกาะปูยู เกาะยาว เกาะสาหร่าย จึงทำให้วิสัยทัศน์ในการวิ่งเรือสปีทโบ๊ทที่พานักท่องเที่ยว ลงตามเกาะในช่วงเช้าและตอนกลางวัน ต้องวิ่งอย่างระมัดระวัง เพราะอาจจะเกิดอันตรายจากหมอกควันที่แผ่กลับเข้ามาปกคลุมระรอกที่ 4 เสี่ยงวิ่งเรือชนกัน และชนเสาธงที่ปักเขตพื้นที่น่านน้ำ

นายพิเชฐ สุดเดือน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล เตือนผู้ปะกอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่เรือรับส่งนักท่องเที่ยว ควรระวังในการวิ่งเรือทางร่องน้ำที่มุ่งหน้าจากท่าเทียบเรือ ไปยังตามเกาะแก่ง เพราะสภาพท้องฟ้าในพื้นที่ท้องทะเล

โดยเฉพาะกลางทะเล มีหมอกควันสีขาวแผ่ปกคลุมเข้ามาในพื้นที่ จ.สตูลอย่างหน้าแน่น และเสี่ยงที่เรืออาจวิ่งชนเรือเล็กได้ โดยเฉพาะเรือเมล์ และเรือสปีทโบ๊ทลำใหญ่ที่ใช้ความเร็ววิ่งเรือ และควรเน้นย้ำในการ สวมใส่เสื้อชูชีพ

จีนสั่งปิดพื้นที่อันตรายตามแนวเขื่อนในเจ้อเจียง

กย. 2554 15:53 น.

หนึ่งเดียวในโลก ส้มผัสช๊อตภาพสุดยอดเหลือเชื่อ เมื่อ"หอไอเฟลถูกฟ้าผ่า"

วันที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 15:35:46 น



หากพูดถึงการถ่ายภาพ อาจพูดได้ว่า ช๊อตถ่ายภาพที่ถือว่ายากและท้าทายที่สุด ก็คือ การบันทึกภาพเหตุการณ์ฟ้าผ่า!

โดยเฉพาะที่เป็นสถาปัตยกรรมใหญ่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ หรือระดับโลก นี่เป็นความท้าทายของช่างภาพหลายต่อหลายคน ที่ปรารถนาจะได้มีโอกาสบันทึกภาพของปรากฎการณ์ธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ใครทำได้ย่อมหมายถึงความภาคภูมิใจสุดชีวิตกับประสบการณ์อันเหลือเชื่อนี้

และภาพต่อไปนี้ต้องถือว่าเป็นภาพชวนทึ่งชนิดต้องยกนิ้วให้ คือ ช๊อตภาพ"หอไอเฟล"อันโด่งดังของกรุงปารีสถูกฟ้าผ่า ถูกบันทึกภาพโดยช่างภาพนาม"เบอร์ตอง คูลิค"เห็นภาพแล้วต้องบอกว่า เป็น"ช๊อต"ที่ยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยายยิ่ง

เขื่อนภูมิพลแจงเร่งระบายน้ำ ไม่ทำน้ำท่วมภาคกลาง

8 กย. 2554 17:31 น.

เตือน จ.ตราด-จันทบุรี ระวังดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากใน 1-2 วันนี้ วันที่ 08/09/2554 21:46 นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งเตือนภัย พื้นที่ จ.ตราด และ จ.จันทบุรี ให้เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1 - 2 วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด และ อ.ขลุง อ.มะขาม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในบางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตร และเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ ได้ให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก และวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวัง

เตือน จ.ตราด-จันทบุรี ระวังดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากใน 1-2 วันนี้

วันที่ 08/09/2554 21:46

นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งเตือนภัย พื้นที่ จ.ตราด และ จ.จันทบุรี ให้เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1 - 2 วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด และ อ.ขลุง อ.มะขาม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในบางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตร และเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ ได้ให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก และวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวัง

นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งเตือนภัย พื้นที่ จ.ตราด และ จ.จันทบุรี ให้เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1 - 2 วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด และ อ.ขลุง อ.มะขาม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในบางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตร และเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่แล้ว
 

ปทุมธานี-นนทบุรี เตรียมรับมือน้ำท่วม


วันพุธ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554
 

กรมชลประทานคาดหมายสถานการณ์น้ำและจุดเฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในลุ่มน้ำสำคัญหลายแห่ง
พื้นที่ลุ่มน้ำยม ยังมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, ลุ่มน้ำน่าน ที่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และลุ่มน้ำป่าสักมีน้ำตลิ่ง แนวโน้มเพิ่มขึ้นที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล มีจุดเฝ้าระวังที่อำเภอตระการพืชผล และที่อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมาก โดยมีน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,550 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที
โดยปริมาณน้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าเรือข้ามฝากวัดมะขามและเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เพิ่มขึ้นวันละ 20-30 เซนติเมตร ทางวัดต้องนำกระสอบทรายมากั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยาป้องกันน้ำท่วมทะลักเข้าวัด ขณะที่ อบต.บ้านกลาง ได้สร้างเขื่อนกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมแบบถาวรริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ตั้งแต่วัดศาลเจ้าถึงประตูระบายน้ำคลองบางหลวงเชียงราก ระยะทาง 155 เมตร มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรประจำ 24 ชั่วโมง หากแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จะช่วยกันนำแผ่นปูนมาวางซ้อนกันในร่องเสาเขื่อน เพื่อป้องกันน้ำท่วมทะลักเข้าทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจหัวใจสำคัญของจังหวัด รวมถึงย่านบางพูน ติวานนท์ และย่านถนนวิภาวดีรังสิต

คุณตาลคะ

วันหลังขอตัวหนังสือ

ตัวเข้มๆ โตๆ

หน่อยนะ

เห็นใจ

สว.หน่อยนะค๊า

รับทราบค่ะอาจารย์

ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ

ถ้าตัวหนังสือไม่ถนอมสายตา

ขอรับไปแก้ไขค่ะ

อาริยาขอกราบขอบพระคุณเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ เเละท่านอาจารย์อุบลในพระมหาเมตตาเตือนให้พวกเราได้มีโอกาสได้รู้รหัสพ้นอันตรายจากภัยพิบัติอย่างถ้วนหน้าทั่วโลก  ลูกกราบขออนุญาติจะตั้งใจนำไปปฎิบัติบอกกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ

เเละขออนุโมทนาบุญกับคุณตาลด้วยค่ะ พอดีเพิ่งจะกลับจากสัมนา เเละมีโอกาสได้ไปร่วมบุญปัจัย ถวายพระเนตร กองกฐิน 9 วัดร่วมกับมูลนิธิ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี  ขอเอาบุญมาฝากทุกท่านจงมีส่วนได้ในบุญนี้ด้วยกันเจริญทั้งทางโลกเเละทางธรรมค่ะ

ฟ้าหญิงจุฬาภรณฯตรัส "ในหลวง" สบายขึ้น ทรงเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว พระสุรเสียงดังมากขึ้น และทรงกายภาพบำบัดเพื่อการทรงพระดำเนิน  วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. มหาราชปีนี้  หากไม่มีพระอาการประชวร แทรกซ้อนจะทรงพระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะบุคคลที่มาเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลอย่างแน่นอน ทรงยอมรับเป็นโรคเดียวกับ"พุ่มพวง ดวงจันทร์"

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานพระวโรกาสพิเศษให้สัมภาษณ์แก่ รายการโทรทัศน์ “บอก 9 เล่าสิบ” สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี  โดยมี  นายคชาภา ตันเจริญหรือ มดดำ และนายกรรชัย  กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการถวาย ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ถ.วิภาวดี

    โดยในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี  ฉลองพระองค์ในชุดกาวน์สีขาว สำหรับการพระราชทานสัมภาษณ์พิเศษในรายการ “บอก9เล่าสิบ” ในครั้งนี้ ทรงเล่าถึงเรื่องส่วนพระองค์ ตอนทรงพระเยาว์ ในฐานะทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงเล่าถึงการนำธรรมะมาใช้กับพระกรณียกิจ ในชีวิตประจำวัน

    พร้อมกันนี้ ทรงเล่าถึงการเสด็จเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา จากการที่ทรงได้รับการถวายรางวัล พระเกียรติคุณทางวิชาการ และทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์สตรีหนึ่งในจำนวน 23 คนจากทั่วโลก ที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาพันธ์นานาชาติเคมีบริสุทธิ์ และเคมีประยุกต์ ให้เข้ารับรางวัลสตรีผู้ทรงเกียรติที่มีบทบาทดีเด่น สาขาวิชาเคมี ในโอกาสการเฉลิมฉลองปีเคมีสากล

     และในโอกาสครบรอบ 100 ปี การได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี ของ มาดาม มารี คูรี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นข่าวดีของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพสกนิกรปวงชนชาวไทยที่ได้ทราบข่าว ต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระปรีชาสามารถ ในฐานะเจ้าฟ้านักวิทยาศาสาตร์ ซึ่งตลอดระยะเวลาแห่งทศวรรศ ทรงได้รับการถวายรางวัลด้านวิทยาศาสตร์เป็นจำนวนมาก โอกาสนี้ จึงทรงเล่าถึงแรงบันดาลใจในการศึกษาเล่าเรียน และที่มาของการเริ่มต้นศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ โดยมีพระดำรัสรับสั่งว่า

    “ฉันได้รับแนวทางการศึกษาจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านทรงพระราชทานคำปรึกษาแนะแนวทางการศึกษา ซึ่งตอนเด็ก ๆ ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัย สมเด็จพระบรมฯท่านทรงศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้น เหลือแค่สมเด็จพระเทพฯและฉันอยู่ในประเทศไทย  สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงอยากให้ลูก ๆ เลือกเรียนทั้งสองทางคือ สายวิทยาศาสตร์และสายศิลปศาสตร์  ซึ่งสมเด็จพระเทพฯท่านได้เสด็จมาถึง ณ จุดทางเลือกก่อนและท่านทรงก็เลือกศึกษาต่อสายศิลปศาสตร์มาถึงฉันก็เลยต้องได้ศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์ไป”

    นับเป็นเวลากว่า 20 ปี  ที่คนไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณและได้พึ่งพระบารมีของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี   ที่ทรงก่อตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ขึ้นมา  ทรงให้พระราชทานสัมภาษณ์ ถึงแรงบันดาลใจ ในการจัดตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ในการช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็ง โดยมีนโยบายหลัก เพื่อเน้นการวิจัยและการรักษาโรคมะเร็งให้ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล เพื่อพัฒนาการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งมีชีวิตที่ดีอย่างมีคุณภาพ และมีพระดำรัสรับสั่งถึงสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ว่า

   “แต่ก่อนรู้สึกว่าคนเรียนจบทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการแพทย์ยังมีโอกาสทำงานด้านวิจัยน้อยเหลือเกิน ประเทศไทยยังมีการสนับสนุน R&D (Research & Development) น้อย เมื่อเทียบกับต่างประเทศ  ความตั้งใจของการก่อตั้งสถาบันฯคือการศึกษาแนวทางวิจัย โดยเฉพาะด้านเคมี การแพทย์ และไบโอเทคโนโลยี   ด้วยเล็งเห็นว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทยยังต้องได้รับความช่วยเหลืออยู่มาก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์และเครือข่ายของสถาบัน  ถือคติคนไข้ต้องไม่รอความตาย  ไม่มีเงินเราก็รักษาให้ บางครั้งออกปฏิบัติงาน พอสว.เจอคนไข้มะเร็งก็นำกลับมารักษาต่อ  แต่อย่างไรการช่วยเหลือด้วยเงินจากมูลนิธิอย่างเดียวไม่เพียงพอ จึงได้มีการริเริ่มโครงการ “ถักร้อย สร้อยรัก” เป็นการประดิษฐ์และจำหน่ายเครื่องประดับมุก  หารายได้สมทบทุนเข้ามูลนิธิฯเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้  ฉันและผู้เกี่ยวข้องร้อยสร้อยมุกกันเอง และทุกครั้งที่ฉันเดินทางไปต่างประเทศก็จะนำเครื่องประดับเหล่านี้ไปด้วย เพื่อให้คนไทยที่อยู่ต่างแดนได้มีโอกาสร่วมทำบุญด้วยกัน”

   ต่อข้อสัมภาษณ์ถึงพระกรณียกิจในการทรงงานมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ถึงอุปสรรคในการทำงาน มีพระดำรัสว่า  บางทีเจอทั้งร้อนทั้งหนาว ส่วนใหญ่จะเจอฝนด้วย แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากมากเกินไป ตัวฉันทำงานอย่างมากที่สุดแค่ 3-4 ชม แต่ชาวบ้านรอทั้งวันมารอกันตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อจับจองพื้นที่แถวหน้า  ซึ่งต้องแสดงน้ำใจกับเขาเพราะเขามารอต้อนรับเรา  เราก็ต้องทำให้เขาชื่นอกชื่นใจ

   นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี  ยังทรงมีรับสั่งถึงพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า นับเป็นเวลาเกือบจะครบสองปีแล้วที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่โรงพยาบาลศิริราชด้วยแรกพระอาการพระปัปผาสะอักเสบและมีไข้สูง  จากนั้นคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนหายแต่ยังเคลื่อนไหวพระวรกายไม่สะดวก พระสุรเสียงแหบเบา คณะแพทย์ได้ตรวจพบว่ามีน้ำในสมองมากเกินไปทำให้ไปกดระบบประสาทส่วนที่สั่งงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว แพทย์จึงได้ถวายการผ่าตัดโดยการเจาะไขสันหลังใส่ท่อนำน้ำที่เกินปริมาณมาทิ้งในช่องพระอุทร และน้ำก็จะถูกขับออกจากพระวรกายโดยวิธีปกติ

    จากนั้นมาท่านรับสั่งว่า สบายขึ้น สังเกตว่าทรงเคลื่อนไหวคล่องแคล่วมากขึ้น พระสุรเสียงดังมากขึ้น และก็ทรงกายภาพบำบัดเพื่อการทรงพระดำเนิน  สำหรับวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. มหาราชในปีนี้  เป็นที่แน่นอนว่าหากไม่มีพระอาการประชวรใด ๆ แทรกซ้อนจะทรงพระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะบุคคล ที่มาเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาอย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังมีพระดำรัสถึงพระพลานามัยของพระองค์เองอีกด้วยว่า“เมื่อเดือน ธ.ค. 53  เกิดอุบัติเหตุล้มกระดูกสะโพกซ้ายหัก แต่ได้ทำการผ่าตัดใส่หมุด 3 ตัวเพื่อยึดกระดูกที่หักไว้ จนกระทั่งตอนนี้ 8 เดือนแล้วเวลาเดินก็ยังเจ็บอยู่  คล้ายกับมีอะไรอยู่ในขา หลังๆตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยสบาย อาเจียน ปวดตามข้อ อันเนื่องมาจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง  หลายคนเป็นห่วงเพราะเป็นโรคเดียวกับคุณพุ่มพวง (ดวงจันทร์)แต่ของฉัน 20 ปีที่ผ่านมาส่งผลแค่กระดูก มีอาการปวดข้อ  ข้อบวมแดง และหวังว่าจะไม่ลุกลามไปส่วนอื่นเช่นกัน

     ต่อข้อสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องที่ทรงเป็นห่วงประชาชนชาวไทยอยู่ ณ ขณะนี้ ทรงมีพระดำรัสว่า  ด้วยอาชีพ  ยังเป็นห่วงเรื่องของสุขภาพชาวไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯท่านสอนเสมอว่าทรัพยากรที่มีคุณค่าคือทรัพยากรบุคคล หากประชาชนมีสุขภาพพลานามัยที่ไม่ดี จะส่งผลต่อการเรียน การทำงานและการประกอบอาชีพ  เรื่องสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ฉันให้ความสนใจมากที่สุด

    สำหรับการพระราชทานสัมภาษณ์พิเศษในรายการ “บอก 9 เล่าสิบ” ในครั้งนี้ สามารถติดตามชมเนื้อหาของรายการทั้งหมด ได้ในรายการ บอก 9 เล่าสิบ ออกอากาศวันที่ 12 และ 13 ก.ย. 2554 นี้ เวลา 17.10-17.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

 พระมหาเมตตาในความห่วงใยพ่อหลวงของชาวไทย

“ศิริราชโมเดล” แก้วิกฤตจราจร-ลดน้ำท่วมฝั่งธนฯ 

 รายงานพิเศษโดย : รัชญา จันทะรัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาการจราจรเป็นปัญหาหลักคนกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นคนฝั่งพระนคร หรือฝั่งธนบุรี ต่างต้องเผชิญรถติดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เหตุเพราะปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้นสวนทางกับโครงข่ายถนนที่มีไม่เพียงพอ และไม่สามารถเพิ่มพื้นที่จราจรได้ทันกับจำนวนยานยนตร์ที่มากขึ้นในระยะเวลาไม่กี่สิบปี

สำหรับความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางในย่านธุรกิจช่วงชั่วโมงเร่งด่วนประมาณ 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจะวิกฤติขึ้นเรื่อยๆ และอาจลดลงเหลือเพียง 2-5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในอนาคตอันใกล้


โดยเฉพาะฝั่งธนบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แม้ยังทรงพำนักเพื่อรักษาพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช แต่พระองค์ยังทรงห่วงใยการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ย่านศิริราช และใกล้เคียง อันจะเห็นได้จากพระองค์ท่านได้มีพระราชกระแสให้คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร(กทม.) กระทรวงคมนาคม กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรรอบโรงพยาบาลศิริราช โดยใช้ที่ดินของโรงพยาบาลศิริราช การรถไฟแห่งประเทศไทย และกองทัพเรือ มี กทม.เป็นผู้ดำเนินงานสำรวจและออกแบบโครงการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งได้มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาในการศึกษาโครงการดังกล่าว


กันต์ณธีร์ เนติโรจนชัยชาญ รองผู้จัดการโครงการศึกษา สำรวจ ออกแบบ ปรับปรุงแก้ไขปัญหาจราจร ระบบรายน้ำบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลศิริราชและพื้นที่ต่อเนื่อง อธิบายว่า โครงการนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 6 โครงการ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 โครงการที่รับสนองพระราชดำริ คือ งานปรับปรุงโครงข่ายถนนบริเวณริมคลองบางกอกน้อย และบริเวณศูนย์ความเป็นเลิศ ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงถนนริมคลองบางกอกน้อย และถนนรถไฟให้เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2-3 ช่องจราจร พร้อมปรับปรุงทางเท้าและระบบรายน้ำ และโครงการขยายสะพานอรุณอัมรินทร์พร้อมทางขึ้น-ลง และทางยกระดับข้ามแยกศิริราชโดยจะขยายสะพานอรุณอัมรินทร์เพิ่มอีก 2 ช่องจราจรที่จะวิ่งผ่านแยกศิริราชไปยังบริเวณหน้ากรมอู่ทหารเรือ มีการปรับปรุงเชิงลาดของทางลงบริเวณด้านข้างวัดอมรินทรารามวรวิหารที่ลงจากสะพานอรุณอัมรินทร์ให้สั้นลง และขยับชิดแนวรั้ววัดเพื่อเพิ่มจำนวนช่องจราจรในถนนรถไฟ ปรับปรุงทางลาดขึ้นสะพานอรุณอัมรินทร์จากถนนรถไฟขึ้นใหม่เพื่อเชื่อมต่อกับทางลาดโค้งขึ้นจากถนนริมคลองบางกอกน้อย เพื่อให้รถจากหน้าศูนย์ความเป็นเลิศ สามารถวิ่งเข้าแยกอรุณอมรินทร์ได้สะดวกขึ้น

รวมถึงก่อสร้างจุดกลับรถใต้สะพานอรุณอมรินทร์ใหม่ บริเวณเชิงลาดฝั่งโรงพยาบาลศิริราชสำหรับรถขนาดเล็ก โดยขยับโครงสร้างสะพานฝั่งขาเข้าเพื่อสร้างทางกลับรถขนาด 1 ช่องจราจร รื้อย้ายโครงการสร้าง และแนวรั้วฝั่งโรงเรียนวัดอมรินทราราม อาการ กก.สส.น.7 ที่ไม่ใช้งานแล้ว แนวรั้ววัดอมรินทรารามฯ และแนวรั้วโรงพยาบาลศิริราชบริเวณหน้าตึกอาคารสลากกินแบ่งรัฐบาล ปรับปรุงทางเข้าตึกผู้ป่วยนอก ทางเดิน สะพานคนเดินข้าม และพิจารณาทำทางเดินยกระดับต่อเข้าตึกผู้ป่วยนอก

กลุ่มที่ 2 โครงการที่มีการติดตาม ตามโครงการพระราชดำริเดิม ได้แก่ โครงการก่อสร้างขยายถนนสุทธาวาส และสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยจะขยายช่องจราจรของถนนสุทธาวาสช่วงจากถนนอิสรภาพจนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ให้เป็น 4 ช่องจราจร และก่อสร้างสะพานข้ามแยกขนาด 2 ช่องจราจรไปกลับ ข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ตามแนวถนนสุทธาวาส

และกลุ่มที่ 3 โครงการที่ กทม.กำลังศึกษา ได้แก่ งานก่อสร้างทางกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางกอกน้อยบนถนนจรัญสนิทวงศ์ เพื่อให้รถจากถนนบางขุนนนท์ ที่จะเลี้ยวขวาไปแยกไฟฉาย เปลี่ยนมาเลี้ยวซ้ายแล้วกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางกอกน้อย แล้วมุ่งไปแยกไฟฉายแทนการเลี้ยวขวา, งานขยายสะพานข้ามคลองบางกอกน้อยบนถนนจรัญสนิทวงศ์ และโครงการสะพานข้ามแยกเลี้ยวขวาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ เข้าถนนบางขุนนนท์ เพื่อลดจังหวะสัญญาณไปจราจรให้รถทางตรงเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น

กันต์ณธีร์ อธิบายต่อว่า วัตถุประสงค์สำคัญของโครงการนี้เพื่อแก้ปัญหาการจราจรฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะบริเวณย่านศิริราช ย่านบ้านช่องหล่อ และย่านอรุณอมรินทร์ รวมถึงสามารถรองรับปริมาณการเดินทางที่จะเพิ่มมากขึ้นหลังโครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการประชาชน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนฝั่งธนบุรี ตลอดจนเพื่อปรับปรุงกายภาพของถนนบริเวณย่านศิริราช ย่านบ้านช่องหล่อ และย่านอรุณอมรินทร์ ให้ได้มาตรฐาน และที่ขาดไม่ได้ คือ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และมีทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางมาที่ย่านนี้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยยึดแนวพระราชดำริในแก้ไขปัญหาที่ต้องหลีกเลี่ยงผลกระทบกับประชาชนแต่หากมีความจำเป็นจะต้องเกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และต้องช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม 


 รองผู้จัดการโครงการ ระบุว่า การดำเนินโครงการในครั้งนี้จะไม่มีการเวนคืนที่ดินของประชาชนแต่อย่างใด โดยประโยชน์ที่จะได้รับนั้นจะเป็นการเพิ่มโครงข่ายถนนที่เชื่อมโยงพื้นที่ฝั่งตะวันตกและตะวันออกของ กทม.และเพิ่มประสิทธิภาพในการจราจรที่จะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านสะพานพระราม 8 และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และจะช่วยลดปัญหาการจราจรบริเวณแยกอรุณอมรินทร์ แยกศิริราช แยกพรานนก แยกไฟฉาย และทางแยกอื่นๆ ที่ต่อเนื่อง และยังเป็นการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายจราจรรอบย่านศิริราช และพื้นที่ต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางเข้า-ออกจากโรงพยาบาลศิริราชมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดจุดตัดและทางแยกสัญญาณไฟจราจรในถนนจรัญสนิทวงศ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของถนนวงแหวนรัชดาภิเษกทำให้ถนนวงแหวนรัชดาภิเษกในฝั่งธนบุรีเดินทางได้ต่อเนื่องโดยตลอด

ส่วนระบบระบายน้ำนั้น ทาง บ.ที่ปรึกษาฯได้นำผลการศึกษา สำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บทระบายน้ำในพื้นที่เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตธนบุรี เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ และเขตบางขุนเทียนบางส่วนของสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. ฉบับเดือนตุลาคม 2548 โดยเลือกพื้นที่เฉพาะระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองบางขุนศรี และคลองบางกอกใหญ่ มาศึกษาทบทวนปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการระบายน้ำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาจราจรอันจะทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งธนบุรีบริเวณย่านศิริราช ย่านบ้านช่างหล่อ และย่านอรุณอัมรินทร์ หมดลงได้
 

อุตรดิตถ์-ดินโคลนถล่มตาย 3 สูญหาย 7

เกิดเหตุดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชนในตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาก ส่งผลให้ชาวบ้านตาย 3 คน สูญหาย 7 คน และมีคนติดอยู่ในบ้านอีก 10 หลังคาเรือน

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ หลายวันที่ผ่านมาโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำให้เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (9 ก.ย.)ได้เกิดเหตุดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านห้วยเดื่อ ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับหุบเขาหลายลูก ส่งผลให้ชาวบ้านถูกน้ำป่าและดินโคลนทับเบื้องต้นเสียชีวิต 6 คน และสูญหายอีก 7 คน นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านอีก 10 ครัวเรือนติดอยู่ในบ้านไม่สามารถเดินทางออกมาอาศัยอยู่ที่ปลอดภัย เนื่องจากไม่สามารถเดินเท้าเปล่าฝ่าดินโคลนที่ลึก เหนียว ที่ทับถมบริเวณที่อยู่อาศัยได้

สำหรับพื้นที่บ้านห้วยเดื่อเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับภูเขาหลายลูก เมื่อเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวันจึงเกิดดินโคลนถล่มได้ง่าย ส่วนการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะตลอดระยะทางเข้าไปมีดินโคลนถล่มปิดทับเส้นทางหลายจุด ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อในการเดินทางเข้าพื้นที่


http://www.krobkruakao.com/

ชมคลิปเพิ่มเติมครับ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์คและรัฐเพนซิลเวเนียในช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ย.54 หลังจากเกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 คน
       
ทั้งนี้ โอบาม่า ยังได้ให้อำนาจอย่างเป็นทางการต่อบรรดาหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ในการประสานความร่วมมือด้านการบรรเทาภัยพิบัติกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของสาธารณชน
     
รายงานระบุว่า ฝนตกที่หนักตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้ซ้ำเติมพื้นหลายแห่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐที่ประสบภัยพิบัติจากพายุเฮอร์ริเคนไอรีน โดยทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและประชาชนอีกกว่า 1 แสนคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
     
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ หรือ NWS ได้ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมเฉียบพลันในหลายพื้นที่ของรัฐนิวยอร์ค , นิวเจอร์ซีย์ , เพนซิลเวเนีย , คอนเน็คติกัต , แมรี่แลนด์ และเวอร์จิเนีย ซึ่งมีหลายเมืองกำลังจมอยู่ในน้ำ , ถนนทางหลวงต้องปิดการจราจร และรถไฟไม่สามารถให้บริการได้
     
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่แปรปรวนครั้งล่าสุดนี้ เป็นอิทธิพลที่ยังหลงเหลืออยู่ของพายุโซนร้อนลีที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ

คมชัดลึก

คมชัดลึก


 

 

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ขออนุญาติแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ค่ะ

ตอนนี้วัดท่าซุงน้ำกำลังจะท่วมค่ะ จากคุณเเมวน้อย

http://ufokaokala.com/index.php?topic=4489.msg36173;topicseen#msg36173

ทางวัดจึงอยากขอแรงลูกศิษย์ทั้งชาย-หญิงมาช่วยออกแรงขนกระสอบทรายกันค่ะ
ตอนนี้วิหารหลวงพ่อองค์ที่10-11 เหลือบันไดอีกแค่3ขั้นก็จะท่วมแล้วค่ะ
ถ้าท่วมวัดไม่แน่ใจว่างานครบรอบหลวงพ่อจะได้จัดมั้ยค่ะ
ขอแรงกันหน่อยนะคะ