ReadyPlanet.com


ธรรมชาติ....เอาคืน.!!!


 

ตอนนี้

แผ่นดินไหว ทุก ๆ วัน

วันละหลาย ๆ ครั้ง

และที่ผ่านมา 3 วันนี้

10 - 11 - 12 พฤษภาคม 2554

ประมาณ 4 - 5 - 6 ริกเตอร์

รายละเอียด

เชิญอ่าน เพื่อ

เตรียมพร้อม...นะเจ้าคะ

*************************************

12 พค. 2554 06:25 น.

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 5.2 ริกเตอร์

ในเมืองลอร์กา ทางภาคใต้ของสเปน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน

เจ็บ 270 คน

อาคารเก่าแก่ บ้านเรือนพังถล่ม

ขณะที่ผู้นำสเปนสั่งการให้ส่งทหาร

และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่ค้นหา

ผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

***************************************

12 พค. 2554 15:17 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

แจ้งว่าเมื่อเวลา 14.41 น.

แผ่นดินไหวในทะเล 4.9 ริกเตอร์

บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซีย ความลึก 45 กม.

ไม่มีผลกระทบต่อไทย

 



ผู้ตั้งกระทู้ แมว ประวีณา แค้มป์ (prawinakamp-at-gmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-05-12 19:50:41


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 [20] 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1901 (1571751)
คาราวานน้ำใจคนไทยช่วยเหยื่อโคลนอุตรดิตถ์ต่อเนื่อง




         อุตรดิตถ์ - คาราวานน้ำใจจากคนไทย ส่งสิ่งของอุปโภคบริโภคสู่ผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มที่อำเภอน้ำปาด ไม่ขาดสาย โดยมูลนิธิเพื่อฟ้าดินร่วมกับคาราวานรถยนต์ออฟโรดจาก 5 จังหวัดร่วมขนสิ่งของน้ำหนักกว่า 6 ตันถึงที่
       
       รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า ขณะนี้สิ่งของจากมูลนิธิเพื่อฟ้าดิน ได้ถูกส่งมากับรถไฟ มาลงที่สถานีรถไฟศิลาอาสน์ ซึ่งส่วนมากจะเป็นข้าวสาร ที่ผู้ประสบภัยสามารถนำไปเก็บไว้ได้นาน นอกนั้นก็จะมีบะหมี่สำเร็จรูป ชุดชั้นในสตรี ผ้าอ้อมเด็ก น้ำดื่มและนมเด็ก
       
       โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์และคาราวานรถยนต์ออฟโรดจากจังหวัดน่าน แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และจังหวัดอุตรดิตถ์ กว่า 20 คัน ช่วยกันบรรทุกสิ่งของน้ำหนักกว่า 6 ตันส่งพี่น้องผู้ประสบภัยที่บ้านเพีย ที่เป็นหมู่บ้านประสบภัยที่อยู่ลึกที่สุดที่ประสบภัย ขณะที่สะพานแบริ่งจากแขวงการทางพิจิตรที่เจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงชนบทร่วมกับหน่วยทหารพัฒนาที่ 314 กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างอย่างเร่งด่วน
       
       ซึ่งขาไปขบวนรถต้องข้ามน้ำด้วยสะพานลำลอง ที่สร้างไว้ชั่วคราว โดยนำสิ่งของทั้งหมดไปส่งที่โรงเรียนบ้านเพีย บ้านห้วยเนียมและวัดห้วยคอม แต่ขากลับนั้นสะพานลำลองได้ชำรุดทำให้ขบวนรถไม่สามารถใช้สะพานได้ จึงต้องนำรถข้ามลำน้ำแทน
       
      และในวันเสาร์นี้ (17 ก.ย.54) สิ่งของบรรเทาทุกข์จากมูลนิธิเพื่อฟ้าดิน จะถูกส่งมาทางขบวนรถไฟจากกรุงเทพมหานคร สู่พี่น้องผู้ประสบภัยที่อำเภอน้ำปาดอีก 16 ตันด้วยกัน


ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2554 18:47 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:02:18


ความคิดเห็นที่ 1902 (1571752)
พนังกั้นน้ำแควน้อยพังท่วมหลายหมู่บ้านที่สองแคว


ผู้สื่อรายงานสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก โดยในวันนี้ที่บริเวณถนนสายพิษณุโลก ช่วง ม.2 กับ ม.3 บ้านวังแร่ ต.มะขามสูง อ.เมือง จ.พิษณุโลก แม่น้ำแควน้อยได้ไหลเอ่อเข้าท่วมถนนเป็นระทางยาว 500 เมตร แต่รถยังสามารถผ่านไปมาได้ แต่ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นสูงตลอดเวลา ทำให้บ้านเรือนที่ติดกับถนนได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย เนื่องจากน้ำได้ไหลมาอย่างรวดเร็วช่วงเวลา 08.00-09.00 น. เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น บางหลังเก็บข้าวของไม่ทัน

นายสมชาย ศรีแก้ว นายกอบต.มะขามสูง เปิดเผยว่า เวลา 04.00 น.วันเดียวกันนี้ พนังกั้นริมแม่น้ำแควน้อยบริเวณม.2 ต.มะขามสูงถูกน้ำกัดเซาะพังทลาย น้ำจากแม่น้ำแควน้อยไหลเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในต.มะขามสูง และเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ เพียงประกาศเตือนและช่วยชาวบ้านเก็บของขึ้นสู่ที่สูง


ส่วนสถานที่อื่นที่ถูกน้ำท่วมมี ถนนสายตลาดหัวรอ ม.4 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50-80 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ เป็นระยะทางยาวกว่า 800 เมตร บริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ราชการหลายแห่ง ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล นอกจากนั้นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนน้ำไหลเข้าท่วมสูงอีกเช่นเดียวกัน แม่น้ำน่านได้เอ่อไหลเข้าท่วมพื้นที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 34 ก่อนจะไหลทะลักเข้าไปในโรงเรียนวัดโพธิญาณ ทำให้บริเวณโรงเรียนถูกน้ำท่วมพื้นที่ทั้งหมด ทางโรงเรียนได้สั่งปิดการเรียนการสอนทันที


เนชั่นทันข่าว 16 กย. 2554 14:34 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:03:45


ความคิดเห็นที่ 1903 (1571754)


แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มทะลักเข้าท่วม 6 ตำบลในอำเภอเมืองนนทบุรี บ้านเรือนบางหลังและวัด 10 แห่ง ได้รับความเสียหาย ขณะที่ชาวบ้านริมน้ำเจ้าพระยา วอนเรือด่วนและเรือน้ำมันลดความเร็ว หวั่นคลื่นกระแทกตลิ่งพัง

จากการเปิดเผยของ นายนิยม ประสงค์ชัยกุล รองนายกเทศมนตรีนครเมืองนนทบุรี และ ส.จ.วิรัช เกียรติสันติกุล จังหวัดนนทบุรี เปิดเผย หลังพาทีมข่าวลงเรือตรวจระดับน้ำริมฝั่งเจ้าพระยาว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำมาเร็วกว่าปกติ โดยพบว่าชุมชนใน 6 ตำบล ที่อาศัยริมฝั่งเจ้าพระยาได้รับความเสียหายบางส่วนแล้ว ซึ่งชุมชนตลาดขวัญ ตำบลสวนใหญ่ ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มีบ้านสูง 2 ชั้นก็จะอพยพไปอยู่ชั้น 2 แต่บางคนที่บ้านเพียงชั้นเดียวก็จะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ โดยหน่วยงานเทศบาลของจังหวัดจะเข้าไปดูแลที่สำคัญยังพบว่าวัดวาอาราม ได้รับความเสียหายถึง 10 วัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัดเดิมที่เคยได้รับผลกระทบ แต่ปีนี้ได้รับผลกระทบหนักกว่าทุกปี เนื่องจากระดับน้ำสูงพระภิกษุ สามเณร ต้องใช้เรือสัญจรทางน้ำแทน บางส่วนไม่สามารถออกมาบิณฑบาต

ขณะที่ชาวบ้านริมฝั่งเจ้าพระยา วอนคนขับเรือด่วน และเรือน้ำมัน ที่แล่นทั้งกลางวันกลางคืนลดความเร็วลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลื่นลูกใหญ่กระแทกตลิ่งบ้านเรือนพังเสียหาย ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมภัยน้ำท่วม ทำให้หลายคนเครียดนอนไม่หลับ ยอมรับว่าปีนี้น้ำท่วมหนักมาก กังวลว่าจะออกจากบ้านไม่ทันหากน้ำมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคุณป้าพรรณี เขตนนท์ วัย 64 ปี ที่เอ่ยปากหากหน่วยงานราชการหาที่อยู่ใหม่ให้ได้ก็จะขอออกไปอยู่เป็นการชั่วคราว เพราะกลัวน้ำเหนือที่จะหลากลงมาในวันที่ 17-20 กันยายนนี้


ครอบครัวข่าว 3 วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554

 
--------------------------------------------------------------------------
 
 
ปากน้ำโพเสี่ยงจมระดมกระสอบทรายรับมือ


นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้หลังจากที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ 3726 ลบ.เมตรต่อวินาที ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถรับได้เพียง 3500 ลบ.เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำเกินความจุของแม่น้ำสูงกว่ากำแพงคอนกรีตป้องกันน้ำท่วมของเทศบาลนครนครสวรรค์ที่สร้างไว้ความสูง 1.5 เมตร ส่งผลให้น้ำล้นกำแพงทะลักเข้ามาบนพื้นถนนเลียบแม่น้ำเป็นแนวยาว หลังจากที่มีน้ำล้นกำแพงเข้ามายังในเขตถนน สร้างความแตกตื่นให้ชาวบ้านร้านค้าที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครนครนครสวรรค์ ต่างก็สร้างกำแพงคอนกรีตตามหน้าร้านค้าของตัวเองทั่วเมือง เพราะหากน้ำทะลักเข้ามายัง

ด้านนายจิตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์ เปิดเผยว่า แนวหินคลุกที่วางไว้ตลอดแนวเขตเทศบาลฯสูกว่า 3 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำที่ไหลผ่าน 40 ซม.และตลอดทั้งวันทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังวางแนวกระสอบทรายตามช่องของสันเขื่อนที่น้ำจะสามารถไหลผ่านข้ามมาได้ เพื่ออุดช่องช่องว่างทั้งหมดไม่ให้น้ำไหลเข้ามาได้มากที่สุด ซึ่งหากน้ำมามากจำนวนเท่าใดทางเทศบาลก็จะเทหินคลุกหนีน้ำไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะคำนวณน้ำทุกวันว่าไหลมามากน้อยขนาดไหน จะได้เพิ่มระดับหินคลุกหนีทุกวัน โดยยึดให้แนวหินสูงกว่าน้ำไม่น้อยกว่า 40 ซม.คาดว่าในคืนนี้น้ำจะล้นกำแพงคอนกรีตเข้ามาต่อเนื่องที่ ซึ่งเราจะสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ได้เกิดกระสอบทรายกั้นน้ำที่ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ วางกั้นน้ำเจ้าพระยาไว้ด้านหลังโรงแรมเป็นหนึ่ง ริมถนนสวรรค์วิถี เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ เกิดพังทลายลงมาเป็นแนวยาว ทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามายังตัวเมืองตามซอกตึกอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านร้านค้า นายธนนาคาร แตกตื่นแห่นำเอากระสอบทรายที่เตรียมไว้ตามแต่ละบ้าน นำมาช่วยกันอุดน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมตัวเมือง ทำให้เกิดกระแสแตกตื่นลือกันว่าน้ำทะลักแล้ว ชาวบ้านต่างเร่งเก็บข้าวของหนีน้ำจ้าวละหวั่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารค่ายจิรประวัติ เจ้าหน้าที่เทศบาลฯชาวบ้านสามารถอุดช่องน้ำไว้ได้ภายในเวลา 40 นาทีกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันนี้ ได้เกิดเหตุน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักล้นตลิ่งพังแนวกระสอบทราย เป็นเหตุให้เข้าท่วมในตลาดโกรกพระ จ.นครสวรรค์ ทันทีราว 1 - 1.5 เมตร รวมถึงสำนักงานเกษตรอำเภอโกรกพระก็ถูกน้ำท่วมไปด้วยกว่า 1 เมตร นางสมจิตร ทวีการไถ เกษตรอำเภอโกรกพระ ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ช่วยกันขนย้ายวัสดุอุปกรณ์กันอลม่าน ล่าสุดไม่สามารถเข้าทำงานได้ ต้องย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงานช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมไปทำงานอยู่ที่สำนักงานเกษตร จ.นครสวรรค์ ส่วนเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้ออกไปประสานกับกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนัดหมายพี่น้องเกษตรกรไปแจ้งความเสียในพื้นที่ จากนั้นก็จะลำเลียงเอกสารไปบันทึกข้อมูลที่สำนักงานเกษตรจังหวัดฯ ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหานจากน้ำท่วมครั้งนี้ 8 ตำบล กว่า 3 หมื่นไร่


เนชั่นทันข่าว 16 กย. 2554 17:41 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:05:29


ความคิดเห็นที่ 1904 (1571755)
อยุธยา-เกาะลอยจมน้ำแล้ว 



 


 


 

เกาะลอยถูกแม่น้ำ 3 สายทั้งเจ้าพระยา ลพบุรี และป่าสัก ไหลเข้าท่วมจมน้ำทั้งเกาะ บ้านเรือนกว่า 200 หลังจมน้ำ รวมทั้งวัด 2 แห่ง โรงเรียนอีก 1 แห่ง


เกาะลอย ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ตรงข้ามกับพระราชวังจันทรเกษม ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สายหลัก ป่าสัก ลพบุรี และน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลทะลักเข้ามาทางคลองเมืองเข้าท่วม ทำให้เกาะลอยซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่บนเกาะจำนวนกว่า 200 ครัวเรือน จมน้ำได้รับความเดือดร้อนไปทั้งหมด และยังมีวัดอีก 2 แห่ง คือ วัดมณฑป วัดแค และโรงเรียน 1 แห่ง คือ วิทยาลัยอุตสาหกรรมต่อเรือพระนครศรีอยุธยา จ่อจะจมน้ำ นอกจากนี้ชาวบ้านต้องผจญกับบรรดาปลิงที่ไหลมากับน้ำขณะเดินลุยน้ำออกจากบ้าน
รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเดินบิณฑบาตได้ ต้องไปขอสนับสนุนเรือจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาออกรับบิณฑบาตแทนการเดินลุยน้ำ


ครอบครัวข่าว 3 วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554
 


อยุธยานำเรือยนต์ 8 ลำเดินเครื่องทั้งวันเร่งระบายน้ำ



อยุธยา-ส.ส.อยุธยาปิ๊งไอเดียร่วมกับจังหวัด นำร่องทดลองนำเรือยนต์ 8 ลำเดินเครื่องทั้งวันทั้งคืนเพื่อเร่งระบายน้ำ หากทำสำเร็จจะขยายอีก 12 จุด

นายทวี นริศศิริกุล รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายพ้อง ชีวานันท์ และนายองอาจ วชิรพงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 2 และเขต 5 พรรคเพื่อไทย เดินทางไปดูการปฎิบัติงานของเรือยนต์จำนวน 4 ลำที่เดินเครื่องเรือเพื่อใช้ใบพัดผันน้ำที่ใต้สะพานสีกุก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างหมู่ 7 ต.พระขาว และ หมู่ 2 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล โดยเรือทั้ง 4 ลำเดินเครื่องยนต์ตลอดเวลา ใช้เชือกผูกทวงกระแสน้ำ เพื่อให้ใบพัดของเรือผันกระแสน้ำให้ไหลแรงขึ้น


โดยส.ส.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยเป็นแนวความคิดในการช่วยให้น้ำไหลเร็วขึ้น ซึ่งทดลองทำพร้อมกันสองจุด โดยอีกจุดที่สะพานสวนถั่ว ข้ามเม่น้ำน้อย ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะทำการเดินเครื่องยนต์ตลอด 24 ช.ม. จากนั้นจะดูว่ามีส่วนทำให้น้ำได้ไหลเร็วขึ้นหรือไม่ และน้ำลดลงหรือไม่ หากสำเร็จเรื่องนี้ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และรัฐมนตรีทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมแล้ว ในการที่จะทำพร้อมกันอีก 12 จุด จนถึงน้ำระบายลงอ่าวไทย 

                                                                      ---------------------------------------------------------
 

น้ำท่วมศรีสะเกษเริ่มวิกฤตอ่างเก็บน้ำเต็มเกือบทุกอ่าง


น้ำท่วมศรีสะเกษ เริ่มวิกฤติ อ่างเก็บน้ำเต็มความจุเกือบทุกอ่างแล้ว ราษฎร 6 อำเภอเดือดร้อนหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมที่แทบทุกพื้นที่ในประเทศได้รับเดือดร้อนอย่างหนักในขณะนี้ ในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ นายสมศักดิ์ แสนหิรัณย์ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ โดยมีนายสมพร จึงศิรกุลวิทย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ และ นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยผู้ประภัย


นายสุขสันต์ บุญโทแสง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้รับรายงานพื้นที่ประสพภัยน้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ 28 ตำบล 136 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับผลกระทบ 5,153 ครัวเรือน 21,323 ราย เบื้องต้นได้เร่งประสานงานกับหน่วยงาน อปท.นำเต็นท์และถังน้ำดื่มมาให้บริการเพื่อเป็นการช่วยเหลือในส่วนหนึ่ง ที่น่าห่วงมากที่สุดคืออำเภอกันทรารมย์ มี 15 ตำบล 85 หมู่บ้าน 2,613 ครัวเรือน 13,065 ราย ส่วนมากเป็นพื้นที่ไร่นาที่ได้รับความเสียหาย ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก


นายไพฑูรย์ ไชยภูมิสกุล ผอ.โครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำขนาดกลางส่วนใหญ่น้ำเต็มความจุ ในส่วนของอ่างที่ยังไม่เต็มได้พยายามพร่องน้ำเพื่อรองรับกับน้ำที่กำลังจะเข้ามาใหม่ ทั้งนี้จากการติดตามพยากรณ์อากาศพบว่าร่องความกดอากาศ ทำให้จังหวัดศรีสะเกษมีฝนตกชุกในทุกพื้นที่ หลังจากนี้เป็นต้นไป ประชาชนจะต้องระวังมากขึ้น เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกอ่างเต็มหมดแล้ว ไม่สามารถรองรับน้ำได้อีกต่อไป จึงขอฝากเตือนให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่อง ที่ๆต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือลุ่มน้ำห้วยสำราญ ที่ต้องเร่งระบายน้ำเพื่อไม่ให้ห้วยสำราญท่วมโดยเฉพาะอำเภออุทุมพรพิสัย ปรางค์กู่ รวมทั้งอำเภอเมือง ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

 

---------------------------------------------

ลพบุรี-น้ำจ่อท่วมท่าวุ้งและตัวเมืองลพบุรี

 

 


จังหวัดลพบุรี น้ำท่วมขยายวงกว้าง โดยเฉพาะอำเภอบ้านหมี่ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านระดมนำเครื่องจักรปิดประตูระบายน้ำหนองเลา หลังน้ำพังประตูไหลเข้าท่วมนาข้าวทุ่งท่าวุ้ง และเมืองลพบุรี

สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดลพบุรียังคงวิกฤติหนักและขยายวงกว้าง เนื่องจากได้รับอิทธิพลทั้งจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้นจากแนวคันกันน้ำบางโฉมศรีพังที่จังหวัดสิงห์บุรี และไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบ้านหมี่  ประกอบกับน้ำป่าซึ่งมีปริมาณมากจากพื้นที่อำเภอโคกสำโรงเริ่มไหลลงสู่พื้นที่ราบต่ำ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะในอำเภอบ้านหมี่ และ อำเภอเมืองลพบุรี ส่งผลให้หลายหมู่บ้านเริ่มถูกตัดขาด และต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออก โดยเฉพาะในตำบลพุคา ตำบลหนองเมือง ตำบลหนองทรายขาว ที่น้ำท่วมเต็มพื้นที่ และมีระดับสูงกว่า 2 เมตรแล้ว ใกล้เคียงกับน้ำท่วมปี 53 และยังไหลทะลักข้ามถนนสายโคกกระเทียม/โคกสำโรง ทำให้ชาวบ้านหมู่บ้านสิรัญญาต่างเร่งเก็บของขึ้นที่สูงแล้วหวั่นน้ำท่วมหนัก ถึงแม้จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เตรียมสูบน้ำออกแล้วก็ตาม

ทางด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้นำรถแบ็คโฮ พร้อมขอแรงจากชาวบ้านให้ช่วยกันปิดประตูระบายน้ำบ้านหนองเลา หลังแรงน้ำดันประตูพังจนน้ำทะลักเข้าทุ่งนาในบริเวณทุ่งท่าวุ้ง และทุ่งนาอำเภอเมืองลพบุรีหลายจุด ซึ่งข้าวกำลังจะเก็บเกี่ยวได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพื่อเป็นการป้องกันทุ่งสุดท้ายของจังหวัดลพบุรี

ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเข้าสู่คลองบางขามจากการกรณีน้ำพังประตูน้ำบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี น้ำเริ่มไหลเข้าทุ่งนาข้าวของอำเภอท่าวุ้งในตำบลเขาสมอคอน และทุ่งนาตำบลบางขาม อำเภอบ้านหมี่ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากเกี่ยวข้าวไม่ทันเพราะหารถเกี่ยวข้าวไม่ได้


                                                                 ----------------------------------------------------------

 

ปทุมธานีเริ่มวิกฤติน้ำจ่อเข้าเขตดอนเมือง


 


 

จ.ปทุมธานี เริ่มวิกฤติ น้ำเซาะใต้ประตูน้ำและแนวเขื่อนคอนกรีตตำบลบ้านใหม่ จ่อเข้าเขตดอนเมือง


นายสมบูรณ์ ปานย้อย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำเซาะใต้ประตูระบายน้ำ และแนวเขื่อนคอนกรีตบ้านใหม่ และได้รับการสนับสนุนจากทหารอากาศ กรมทหารโยธิน รักษาพระองค์ พัน 2 จำนวน 55 นาย โดย นายสมบูรณ์ กล่าวว่า เวลานี้สามารถต้านกับแรงของน้ำเซาะใต้ประตูระบายน้ำและแนวเขื่อนได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากปริมาณน้ำที่ไหลมามากกว่านี้ เกินกว่าที่เขื่อนสามารถรองรับได้ ในระดับไม่เกิน 2 เมตร อาจจะทำให้เขื่อนต้านแรงน้ำไม่ไหว เสียหายลงได้ ซึ่งตอนนี้ใช้ไม้ทำเป็นกำแพงเขื่อนไม้ ช่วยต้านน้ำไว้ได้ระดับหนึ่ง แต่หากเขื่อนพังลงมา จะทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยเฉพาะตำบลบ้านใหม่ และบริเวณรอบๆ เป็นวงกว้าง และจะทำให้น้ำท่วมจากจังหวัดปทุมธานี ลามไปถึงเขตดอนเมืองของกรุงเทพมหานคร และในขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ได้อนุมัติใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำเซาะใต้ประตูระบายน้ำทันทีแล้ว ประมาณ 1 แสนบาท

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:08:51


ความคิดเห็นที่ 1905 (1571756)

นนทบุรีอ่วม! กว่า200หมู่บ้านจมบาดาล






จังหวัดนนทบุรีน้ำท่วมหนัก 269 หมู่บ้านจมบาดาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สั่งให้ดูแลประชาชนให้เต็มที่...

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ก.ย.54 นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะเดินทางมาประชุมรับทราบสถานการณ์น้ำท่วมในพื้น จ.นนทบุรี ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี โดยนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวสรุปถึงสถานการณ์ ว่าขณะนี้ จ.นนทบุรี มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว 32 ตำบล 296 หมู่บ้าน ประชากรได้รับความเดือนร้อน 36,177 คน บ้านเรือน 13,379 หลัง พื้นที่ประมง 200 ไร่ สวน 3,485 ไร่ นาข้าว 2,084 ไร่ โดยได้ประกาศพื้นที่ประสพภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินไปแล้ว 11 ฉบับครอบคลุมทั้ง 6 อำเภอ รวม 296 หมู่บ้าน ที่หนักสุด อ.เมืองนนทบุรี ที่วัดค้างคาว และวัดไทรม้าเหนือ อ.บางบัวทอง ที่ชุมชนสุเหร่าปากคลองลำรี อ.บางใหญ่ ที่วัดท่าบันเทิงธรรม อ.ไทรน้อย ที่ชุมชนวัดสโมสร อ.ปากเกร็ด ที่ ต.เกาะเกร็ด อ.บางกรวย ที่หมู่บ้านศรีบัณฑิต 3 ระดับที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาจากสถานีตรวจวัดน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีปริมาณน้ำ 3,183 ลบ.ม/ต่อวินาที

นายปลอดประสพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกคน จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกคนดูแลประชาชนให้เต็มที่ โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมต้องดูแลเป็นพิเศษ ต้องดูแลด้านจิตใจเขาด้วย เพราะเขามองมาฝั่งตรงข้ามน้ำไม่ท่วม ทั้งๆ ที่เป็นญาติพี่น้องคนในหมู่บ้าน เดียวกัน ต้องไปทำสะพานให้เขาเดินสัญจรได้ตามปกติ ส่วนในระยะยาวต้องทำถนนเลียบเจ้าพระยาเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม เพราะสร้างง่ายกว่าเขื่อน ก่อสร้างประตูระบายน้ำตามปากคลองต่างๆ ร่วมทั้งขณะนี้รัฐบาลกำลังศึกษาสร้างแม่น้ำเจ้าพระยา 2 อีกด้วย

จากนั้นนายปลอดประสพ ได้เดินทางไปตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมเขตเทศบาลนครปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่วัดสนามเหนือ ต.ปากเกร็ด ซึ่งเทศบาลฯได้ตั้งแนวกรสอบทรายและแนวคันดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา สูงกว่า 1 เมตร จากนั้นได้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดปรมัยยิกาวาส วัดไผ่ล้อม ต.เกาะเกร็ด พร้อมแจกถุงยังชีพและยารักษาโรค

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:10:07


ความคิดเห็นที่ 1906 (1571757)

น้ำทะลักท่วมชุมชนวัดบางหลวงปทุมธานี



น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล้นท่วมชุมชนหลังวัดบางหลวง ปทุมธานี ชุมชนด้านทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไร้หน่วยงานเหลียวแล...

เมื่อวันที่ 16 ก.ย 54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนหลังวัดบางหลวง ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีสภาพคล้ายเกาะกลางน้ำ เนื่องจากพื้นที่ของชุมชนด้านทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านทิศตะวันตกติดคลองบางหลวง โดยในวันนี้ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนชุมชนหลังวัดบางหลวงทั้งหมดจมอยู่ในน้ำลึกประมาณกว่า 1 เมตร ชาวบ้านในชุมชนเกือบ 200 หลังคาเรือน ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกบ้านหรือไปทำงาน

นางอรสา พุมกาญจน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้อยู่ริมเจ้าพระยาและคลองบางหลวง โดยกระแสน้ำได้เอ่อเข้ามาในพื้นที่ชุมชน ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน แต่ไม่รุนแรง และเพิ่งจะมีระดับน้ำสูงมากกว่า 1 เมตร เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา และมีฝนตกลงมาประกอบกับน้ำเหนือไหลมา เพราะเขื่อนต่างๆ ปล่อยปริมาณน้ำมามาก ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อเข้ามาในชุมชน

นางอรสา กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ชาวบ้านอยากได้สะพานไม้ เพื่อที่จะได้สะดวกในการเดินทางเข้าออกของชาวบ้านและเด็กนักเรียน เพราะจะกั้นกระสอบทรายคงจะเอาน้ำไม่อยู่ ทั้งนี้ได้ติดต่อขอสะพานไม้ทางเทศบาลบางหลวงไป แต่กลับเงียบหาย และถ้าอีก 3-4 วัน น้ำเหนือมามากอีก ประกอบกับน้ำทะเลหนุนชาวบ้านคงต้องเดือดร้อนกว่านี้แน่นอน

ด้านนายสุพจน์ ลำพัชวา นายก อบต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้มีการออกประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยกันเก็บข้าวของขึ้นที่สูงอย่างต่อสูง พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ อบต. ออกช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม และสำรวจในการช่วยเหลือชาวบ้านทุกหลังคาเรือน นอกจากนี้ยังนำเรือมาให้ชาวบ้านยืมจำนวน 15 ลำ หลังน้ำลด จะต้องนำคืน อบต.เพื่อใช้งานในปีต่อไป

สำหรับพื้นที่ ต.ท้ายเกาะ นอกแนวคันกั้นน้ำได้ถูกน้ำท่วมทุกหลังคาเรือน และในวันนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงมากที่สุด ทำให้ถนนเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหมดแล้ว รวมทั้งโรงเรียนท้ายเกาะ วัดในพื้นที่ถูกน้ำท่วมหมด นอกจากนี้ พื้นที่ชั้นในฝนได้ตกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้น้ำท่วมขังและไม่สามารถดูดน้ำออกได้ทัน ทำให้น้ำท่วมนาข้าวที่จะเก็บเกี่ยวได้ต้นเดือนหน้า ได้รับความเสียหายจำนวนมาก และหากฝนยังตกอยู่แบบนี้ จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า ส่วนที่วัดโพธิ์เลื่อน และโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อน ต.บ้านกระแชง อ.เมือง น้ำยังท่วมขัง เด็กนักเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้องขึ้นไปเรียนบนศาลาวัดแทน


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
16 กันยายน 2554, 20:20 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:11:01


ความคิดเห็นที่ 1907 (1571758)

ศอส.สรุปน้ำยังท่วมใน 29 จว. เตือน 8 จว. ลุ่มเจ้าพระยา เสริมคันกันน้ำ คาดสูงกว่าปี 2553

วันที่ 16/09/2554



นายภานุ แย้มศรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 29 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ยโสธร เลย ขอนแก่น ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา นครนายก ตราด ตาก สระแก้ว ปราจีนบุรี ตรัง สตูล และสุราษฎร์ธานี รวม 162 อำเภอ 1,021 ตำบล 5,449 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 333,073 ครัวเรือน 1,148,250 คน ผู้เสียชีวิต 98 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตร 4,809,302 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อปลา 54,852 ไร่ กุ้ง/ปู/หอย 560 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,954,046 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แยกเป็น ทางหลวง 22 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 50 สาย ใน 20 จังหวัด
นายภานุกล่าวว่า ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำ ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 3,670 ลบ.ม./วินาที และผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,183 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ลุ่มต่ำ 8 จังหวัด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนของสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำร้อยละ 86 ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำมากเกินความจุร้อยละ 102 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อพร่องน้ำอย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
นายภาณุกล่าวต่อว่า พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาในเขตจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 10-15 เซนติเมตรต่อเนื่องหลายวัน โดยจะมีระดับน้ำสูงใกล้เคียงกับปี 2553 ที่ผ่านมา จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นไม่ต่ำกว่าหรือเท่ากับปี พ.ศ. 2553 รวมทั้งให้ขนย้ายสิ่งของมีค่า ขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:11:56


ความคิดเห็นที่ 1908 (1571759)

ข้อมูลแผ่นดินไหวล่าสุด


Update time = Fri Sep 16 14:31:57 UTC 2011
,
  MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 3.0 2011/09/16 14:17:04 32.086 -115.260 22.4 BAJA CALIFORNIA, MEXICO
MAP 3.8 2011/09/16 14:00:09 61.242 -147.043 0.5 SOUTHERN ALASKA
MAP 2.7 2011/09/16 13:46:52 61.180 -147.086 51.7 SOUTHERN ALASKA
MAP 2.6 2011/09/16 13:39:16 61.201 -147.100 2.7 SOUTHERN ALASKA
MAP 5.2 2011/09/16 11:52:17 18.220 119.340 9.9 PHILIPPINE ISLANDS REGION
MAP 3.0 2011/09/16 06:56:47 18.937 -67.734 24.5 PUERTO RICO REGION
MAP 4.9 2011/09/16 06:43:16 7.484 -36.939 10.0 CENTRAL MID-ATLANTIC RIDGE
MAP 4.4 2011/09/16 06:08:22 5.265 -82.537 10.0 SOUTH OF PANAMA
MAP 4.6 2011/09/16 05:27:11 35.465 140.850 41.8 NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN
MAP 4.1 2011/09/16 05:11:37 14.842 -95.271 11.1 OFF THE COAST OF OAXACA, MEXICO
MAP 3.2 2011/09/16 03:23:51 19.226 -64.788 24.8 VIRGIN ISLANDS REGION
MAP 4.7 2011/09/16 02:51:44 -20.562 -179.001 650.6 FIJI REGION

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:12:24


ความคิดเห็นที่ 1909 (1571760)

วิธีวางกระสอบทรายให้ถูกต้องป้องกันแนวกั้นพังระหว่างน้ำท่วม

วันที่ 16/09/2554 20:20


แนวกระสอบทรายซึ่งวางก่อเป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด ให้่ฐานกว้างกว่าความสูง 3 เท่า และในขั้นสุดท้ายให้วางแผ่นพลาสติกทับโดยไม่ให้ตึงเกินไป แล้ววางกระสอบทรายทับปลายแผ่นพลาสติกทั้ง 2 ด้าน พี่น้องชาวไทยในหลายพื้นที่กำลังเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม และเมื่อเกิดภัยธรรมชาติเช่นนี้เราจะได้เห็นการระดมกำลังสร้างแนวกระสอบทรายขึ้นมาเป็นคันน้ำ แต่หลายครั้งที่ปราการป้องน้ำท่วมที่สร้างขึ้นมานั้นพังทลายลงและทำให้กระแสน้ำไหลบ่าสร้างความเสียหายอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้อ่านที่ห่วงใยปัญหาของเพื่อนร่วมชาติขณะนี้ได้สอบถามมายังทีมข่าววิทยาศาตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า มีวิธีวางกระสอบทรายที่ถูกต้องเพื่อป้องกันคันกั้นน้ำถล่มหรือไม่

ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้สืบค้นและพบข้อมูลแนะนำวิธีการวางกระสอบทรายของมหาวิทยาลัยนอร์ธ ดาโกตา สเตท (North Dakota State University) สหรัฐฯ ซึ่งระบุไว้ว่าการวางกระสอบทรายที่ไม่ถูกวิธีจะทำให้คันกั้นน้ำพังทรายลงได้ โดยกระสอบทรายที่นำมาใช้นั้นควรเติมทรายให้มีปริมาตรครึ่งหนึ่งของขนาดกระสอบทรายและให้มีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 15-18 กิโลเมตร เพื่อสะดวกต่อการขนย้าย

ส่วนทำเลสำหรับวางกระสอบทรายควรเป็นทำเลที่ช่วยให้เราวางแนวกั้นได้สั้นและเตี้ยที่สุด ซึ่งช่วยประหยัดการใช้กระสอบทรายได้ และต้องระวังสิ่งกีดขวางที่จะทำลายคันกั้นน้ำ อีกทั้งอย่าทำแนวกั้นพิงผนังสิ่งกอ่สร้าง เพราะจะเกิดแรงจากแนวกระสอบทรายกระทำต่อผนังสิ่งก่อสร้างได้ และควรทิ้งระยะห่างระหว่างคั้นกั้นน้ำกับสิ่งก่อสร้างประมาณ 2.5 เมตร เพื่อให้เราสังเกตเห็นการรั่วซึมของคันกั้นน้ำ และยังเป็นพื้นที่ให้เราวิดน้ำที่รั่วซึมออกมาหรือใช้เพื่อกิจกรรมอื่นๆ

เนื่องจากการเสียดสีระหว่างกระสอบทรายช่วยป้องกันการลื่นไถลของคันกั้นน้ำ ดังนั้น เราต้องทำให้เกิดการยึดกันอย่างดีระหว่างพื้นดินและคันกั้นน้ำ ระวังอย่าให้มีการไหลของน้ำใต้แนวคันกั้นน้ำ เคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการลื่นไถล ถ้าคันกั้นน้ำสูงกว่า 1 เมตร ให้ขุดคูตรงแนววางกระสอบทราบเพื่อให้เกิดความมั่นคงระหว่างแนวกระสอบทรายและพื้นดิน โดยคูดังกล่าวนั้นควรลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 45- 60 เซนติเมตร หรือเป็นความลึกประมาณความหนาของกระสอบทราย 1 กระสอบ และกว้างเท่ากระสอบทราย 2 กระสอบ

ความสูงของแนวกระสอบทรายควรสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 1 ฟุต โดยความกว้างของฐานคันกั้นน้ำนั้นควรมากกว่าความสูงของคันกั้นน้ำ 3 เท่า เช่น คันกั้นน้ำสูง 1 เมตร ฐานควรกว้าง 3 เมตร เป็นต้น ทั้งนี้ จากการคำนวณเมื่อใช้กระสอบทรายที่หนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตรนั้น ทุกความยาว 30 เซนติเมตรของแนวกั้นจะใช้กระสอบทราย 1 กระสอบ และทุกๆ ความสูงของแนวกั้น 30 เซนติเมตรต้องใช้กระสอบทราย 3 กระสอบ และทุกๆ ความกว้างของแนวกั้น 80 เซนติเมตรต้องใช้กระสอบทราย 3 กระสอบ

หรือใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณหาจำนวนกระสอบทรายที่ต้องใช้ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต (เมื่อวัดความสูงเป็นหน่วยฟุต)
ดังนี้

จำนวนกระสอบทราย = {(3 x ความสูงคันกั้นน้ำ) + (9 x ความสูงคันกั้นน้ำx ความสูงคันกั้นน้ำ)} / 2

ตัวอย่างเช่น

มื่อใช้กระสอบทรายหนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตร สร้างคันกั้นน้ำสูง 1 ฟุต (ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต ฐานกว้าง 3 ฟุต)
ต้องใช้กระสอบทราย = {(3X3) + (9X3X3)} /2 = 45 กระสอบ
หรือ ตัวอย่างที่ได้คำนวณแล้วทุกความยาวแนวคันกั้นน้ำ 100 ฟุต จะใช้จำนวนกระสอบทราย ดังนี้
คันกั้นน้ำสูง 1 ฟุต ใช้กระสอบทราย 600 กระสอบ
คันกั้นน้ำสูง 2 ฟุต ใช้กระสอบทราย 2,100 กระสอบ
คันกั้นน้ำสูง 3 ฟุต ใช้กระสอบทราย 4,500 กระสอบ
คันกั้นน้ำสูง 4 ฟุต ใช้กระสอบทราย 7,800 กระสอบ

เมื่อทราบจำนวนกระสอบทรายที่ต้องใช้แล้วก็มาถึงการวางกระสอบทราย ทั้งนี้ ต้องให้คันกั้นน้ำขนานไปกับทิศทางการไหลของน้ำ และวิธีวางกระสอบทรายคือวางกระสอบทรายทับบริเวณที่ไม่ได้เติมทรายของอีกกระสอบทรายให้สนิทเป็นแนวเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และให้ปากกระสอบหันในทิศทางตรงข้ามกับกระแสน้ำ แล้วขึ้นไปเดินบนกระสอบทรายในชั้นที่วางเสร็จเพื่อให้แนวกั้นน้ำหนาแน่นและมั่นคง ส่วนชั้นต่อมาให้วางกระสอบทับรอยต่อของกระสอบชั้นล่างและใหเชั้นล่างเหลือพื้นที่โผล่ออกมาประมาณครึ่งกระสอบ

หลังจากเรียงกระสอบสอบทรายจนได้เป็นคันกั้นน้ำแล้ว ให้หาแผ่นพลาสติกมาวางทับแนวกั้นน้ำแล้วใช้กระสอบทรายวางทับที่ปลายแผ่นพลาสติกทั้งสองด้าน และอย่าให้แผ่นพลาสติกตึงเกินไป เพราะแรงกระแทกของน้ำจะทำลายแนวกั้นได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังไม่ให้พลาสติกเป็นรูหรือถูกเจาะจากของมีคมด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:15:20


ความคิดเห็นที่ 1910 (1571761)
พบดาวใหม่บริวารอาทิตย์ 2 ดวง

วันที่ 16/09/2554 09:44





วันที่ 16 ก.ย. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า คณะนักดาราศาสตร์อเมริกัน เปิดเผยการค้นพบดวงดาวใหม่ ซึ่งโคจรรอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง อยู่ห่างจากโลก 200 ปีแสง มีลักษณะเหมือนกันมากกับดาวทาทูอีน ที่อยู่อาศัยในนวนิยายของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์เรื่อง “สตาร์ วอร์”

นายอลัน บอสส์ แห่งแผนกวิทยาศาสตร์พลังแม่เหล็กโลก สถาบันเคาร์เนกี เผยว่า ความแตกต่างอยู่ที่ดาวทาทูอีน มีสภาพอากาศร้อน ทิวทัศน์คล้ายทะเลทราย แต่ดาวดวงใหม่ที่ค้นพบ ซึ่งเรียกว่าดาว “เคปเลอร์-16 บี” อากาศหนาวเย็นเป็นน้ำแข็ง อุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ประมาณ ลบ 73 – ลบ 101 องศาเซลเซียส มีขนาดเท่าๆ กับดาวเสาร์ของระบบสุริยะจักรวาล โดยการค้นพบเกิดจากการส่องกล้องทางไกลอวกาศเคปเลอร์ ไปยังดวงดาวสว่างสุกใส 155,000 ดวง ในห้วงอวกาศ

นายบอสส์เผยอีกว่า ดาวเคปเลอร์ – 16 บี อยู่ห่างจากโลกประมาณ 200 ปีแสง เชื่อว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ มันโคจรเกือบเป็นวงกลม ในระยะห่าง 105 กม. ใช้เวลา 229 วัน รอบดาวแม่ที่เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะจักรวาล 2 ดวง โดยดวงแรกมีขนาดประมาณ 20 % ของดวงอาทิตย์โลก ส่วนอีกดวงประมาณ 69 % ถือเป็นดาวดวงแรกเท่าที่มีการค้นพบที่มีดวงอาทิตย์ 2 ดวง ซึ่งหมายถึงหากขึ้นไปอยู่บนดาวดวงนี้ จะเห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าพร้อมกัน 2 ดวง.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:16:03


ความคิดเห็นที่ 1911 (1571762)

ปทุมธานีวิกฤติน้ำเซาะใต้ประตูน้ำ-แนวเขื่อน

16 กย. 2554 22:08 น.

 

นายสมบูรณ์ ปานย้อย นายกอบต.บ้านใหม่ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อบต.บ้านใหม่ ร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำเซาะใต้ประตูระบายน้ำและแนวเขื่อนคอนกรีตบ้านใหม่ และได้รับการสนับสนุนจากทหารอากาศกรมทหารโยธินรักษาพระองค์ พัน 2 จำนวน 55 นาย นำโดยพันจ่าอากาศเอกมนัส สังข์สุด มาร่วมช่วยแก้ไขวิกฤติครั้งนี้ด้วย โดยการลำเลียงกระสอบทรายและไม้ยูคาลิปตัสมาตอกเป็นแนวกำแพงเขื่อนไม้ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำที่เข้ากัดเซาะใต้ประตูระบายน้ำและแนวเขื่อนคอนกรีต
นายสมบูรณ์ ปานย้อย นายกอบต.บ้านใหม่ กล่าวว่า เวลานี้สามารถต้านกับแรงของน้ำเซาะใต้ประตูระบายน้ำและแนวเขื่อนได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามหากปริมาณน้ำที่ไหลมามากกว่านี้ เกินกว่าที่เขื่อนสามารถรองรับได้ในระดับไม่เกิน 2 เมตร อาจจะทำให้เขื่อนต้านแรงน้ำไม่ไหว เสียหายลงได้ ซึ่งตอนนี้ใช้ไม้ทำเป็นกำแพงเขื่อนไม้ช่วยต้านน้ำไว้ได้ระดับหนึ่ง แต่หากเขื่อนพังลงมา จะทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยเฉพาะตำบลบ้านใหม่ และบริเวณรอบๆ เป็นวงกว้าง และจะทำให้น้ำท่วมจากจังหวัดปทุมธานีลามไปถึงเขตดอนเมืองของกรุงเทพฯ
โดยในขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ได้อนุมัติใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำเซาะใต้ประตูระบายน้ำทันทีแล้วประมาณ 1 แสนบาท

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:17:24


ความคิดเห็นที่ 1912 (1571763)

มาเรีย"จ่อถล่มชายฝั่งแคนาดา คืนนี้
ศูนย์เตือนภัยพายุเฮอริเคน ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือน ชายฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ ของแคนาดา ให้เตรียมรับมือ พายุเฮอริเคนมาเรีย ที่กำลังจะเข้าพัดถล่มในคืนนี้ 16 ก.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยทางสำนักงานประกาศเตือน ให้ทางตะออกเฉียงใต้ของเมือง รับมือกับลมพายุ ที่มีกำลังแรงถึง 80 ไมล์ต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ คาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวไปถล่มในตะวันออกเฉียงเหนือของ นิวฟาวด์แลนด์ ในวันเดียวกันด้วย


Hurricane Maria Tracking Map

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:25:49


ความคิดเห็นที่ 1913 (1571764)

เกิดพายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองในรัฐ Maryland

The residents of Ocean City in Maryland, USA, had a lucky escape on Thursday when a large tornado moved across the city and eventually out over The Atlantic Ocean.

Residents reported seeing the tornado form near Ocean Pines, before moving across 75th Street and over Isle of Wight Bay, at which point it became a waterspout. Some damage was reported in 75th Street but no casualties have been recorded.

The tornado formed shortly before 3:40 pm local time (10:40 am GMT) when a cold front moving across Maryland triggered a series of thunderstorms

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:26:24


ความคิดเห็นที่ 1914 (1571765)

โลกร้อนทำพิษ มัลดีฟส์เสี่ยงจมหายทั้งเกาะ



เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) นายโมฮัมเหม็ด อัสลาม รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมมัลดีฟส์ ได้กล่าวในที่ประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ว่าด้วยการอพยพอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลต้องสั่งอพยพประชาชนจากเกาะหนึ่งไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น หลายพื้นที่ของประเทศขาดแคลนน้ำจืดมากขึ้นเรื่อยๆ สารเคมีในดินเปลี่ยนแปลง พืชผลบางอย่างปลูกไม่ขึ้นเหมือนก่อน เกาะหลายแห่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะ

ทั้งนี้ การปกป้องตัวเองจากระดับน้ำทะเลนั้นต้องใช้งบประมาณมหาศาล เช่น การสร้างคันกั้นชายฝั่งอาจต้องใช้เงิน 3,000 ล้านดอลลาร์

นายโมฮัมเหม็ด ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ยังกังขาในเรื่องภาวะโลกร้อน ขอให้ดูตัวอย่างจากมัลดีฟส์ และประเทศเกาะต่างๆ ว่ากำลังเผชิญกับผลกระทบน่ากลัวเพียงใด เพราะมัลดีฟส์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1.5 เมตรเท่านั้น เป็นประเทศที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดของโลก จุดที่สูงที่สุดของประเทศ เหนือจากน้ำทะเลแค่ 2.3 เมตร จึงเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการจมน้ำทะเล และจะกลายเป็นเหยื่อรายแรกๆ ของระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงจากธารน้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลายเพราะภาวะโลกร้อน ทำให้มัลดีฟส์เป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนนโยบายต่อสู้โลกร้อนอย่างแข็งขัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:31:23


ความคิดเห็นที่ 1915 (1571766)

สุพรรณโอดหนีน้ำนอนข้างถนน สุดทน เจอสัตว์พิษ-ปลิงเพียบ



วันที่ 16 ก.ยซ นายชัยพร อินทร์ทอง อายุ 31 ปี ชาวอำเภอศรีประจันต์ กล่าวว่าขณะนี้เดือดร้อนมากหลังจากน้ำเข้าท่วมบ้าน และทั้งชีวิตไม่เคยเจอเรื่องอย่างนี้มาก่อน ต้องขนของมาอยู่บนถนน นอนกลางถนน น้ำก็ไหลเข้าท่วมถนนอีก
ฝนก็ตกแทบทุกวันข้าวของเสียหาย ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด ตอนนี้ชาวบ้านขาดห้องน้ำ ที่ทิ้งขยะ ไม่มีที่ทิ้งชาวบ้านก็กองทิ้งกันไว้แมลงวันเริ่มมาก

น้ำเริ่มส่งกลิ่นเหม็น สัตว์มีพิษเริ่มบุกมาที่สูงเหมือนกันเข้าที่นอนวันนี้เจอ 4 ตัว เมื่อวานเจองู ในน้ำเจอปลิงทั้งแบบเล็กแบบใหญ่หลายต่อหลายตัว ลำบากมากตอนนี้เห็นน้ำท่วมบ้านแล้วนั่งร้องไห้เลยต้องเดินลุยน้ำที่รู้ว่ามีปลิงเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินตลอดทั้งวันทั้งคืนใครไม่เป็นเองไม่รู้ไม่เข้าใจ

นางนิตยาสุวรรณรัตน์ อายุ 43 ปีกล่าวว่า ตนปลูกบ้านชั้นเดียวอยู่ข้างบ้านญาติน้ำท่วมเสียหายทั้งหมดขณะนี้เดือดร้อนทำมาหากินไม่ได้ต้องมานอนกลางถนนเหมือนพวกเร่ร่อนตอนนี้ลำบากสุดในชีวิตบนแห้งเจองู ตะขาบ ทุกวันแมลงชนิดต่างๆที่ตามขึ้นมาบนแห้ง ในน้ำเจอปลิงอีกมีหลายหลายขนาด ไม่รู้จะอยู่อย่างไร ต้องใช้รถยนต์ดัดแปลงนำที่นอนขึ้นไปและนอนบนรถเพื่อความปลอดภัย ลูก สามี นอนกันในรถทั้งหมดเพราะนอนที่ถนนก็เจอสัตว์มีพิษกัดเข้าสักวันเจอวันหนึ่งไม่รู้กี่ตัว ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนเล่นน้ำก็เจอปลิงอีกไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

เด็กชายนิธิเสถียรพงษ์เทพ อายุ 7 กล่าวว่าตนไม่ได้ไปโรงเรียนเห็นน้ำท่วมบ้านก็สนุกและเล่นนำทุกวัน แต่ขณะนี้ไม่กล้าลงไปเล่นเพราะเจอปลิงเกาะหลายตัว ตอนแรกไม่รู้จักนึกว่าเศษกิ่งไม้ใบไม้ติดแต่พอรู้ว่าปลิงก็วิ่งหนีกระเจิงมันยืดๆตนล้างเท้ามัน แต่ยังเกาะรองเท้าเลย ตนกลัวไม่กล้าลงน้ำแล้ว อยากอยู่บนที่แห้งก็เจอตัวตะขาบอีก งูก็มี ตนกลัว อยากกลับไปอยู่ในบ้านแล้วเมื่อไรน้ำจะแห้งสักที ตนอยากไปโรงเรียนแล้ว

-----------------

พิจิตรผวา จระเข้โผล่กัดกินสัตว์เลี้ยง ชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน



วันที่ 16 ก.ย.สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดพิจิตรวิกฤตหนัก โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมแทบจะทุกชนิด ทุกเส้นทางถูกน้ำท่วมสูงและบางจุดถูกตัดขาดจำนวนมาก โดยรถไฟสายเหนือทั้งขบวนขาขึ้นขบวนขาล่องระหว่างสถานีบ้านท่าฬ่อ ถึงสถานีพิจิตร และจากสถานีพิจิตรไปถึงสถานีตะพานหิน

สถานีบางมูลนาก มีน้ำท่วมสันรางเป็นช่วงๆตลอดเส้นทางสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องสั่งรถไฟสายเหนือทุกขบวนชะลอความเร็วการเดินรถไฟลงต่ำสุดเหลือเพียง 5กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การเดินรถทุกขบวนล่าช้าออกไปจากเดิมเกือบ 5 ชั่วโมงต่อขบวน

ขณะที่เส้นทางหลวงแผ่นดินสายหลักมุ่งสู่ตัวเมืองพิจิตรทุกเส้นทางถูกน้ำท่วมสูงและถูกตัดขาดสัญจรไปมาไม่ได้หลายเส้นทางทางหลวงแผ่นดิน 12 เส้นทาง โดยเฉพาะทางหลวง 113 พิจิตร-ตะพานหิน และตะพานหิน- เขาทราย ,หมายเลข 1118 ตะพานหิน – บางมูลนาก, หมายเลข 115 พิจิตร-สากเหล็ก ,หมายเลข 1067 โพธิ์ไทรงาม –โพทะเล ฯลฯ นอกจากนี้ ทางหลวงชนบทอีก 24 เส้นทาง ฯลฯ รวม 128 เส้นทาง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เหลือเส้นทางเดียวที่เข้าสู่ตัวเมืองพิจิตรที่สะดวกและไม่มีน้ำท่วมคือ แยกจากทางหลวงหมายเลข 117 ถนนสายนครสวรรค์- พิษณุโลก บริเวณแยกปลวกสูงเข้าหมายเลข 115 ผ่านอำเภอสามง่าม เข้าสู่ตัวเมืองพิจิตรได้

ล่าสุด ชาวบ้านบ้านไดชุมแสง ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตรออกไปหาปลา พบจระเข้ขนาด 1—2 เมตร โผ่ ลอยตัว ไล่กัดกินสัตว์เลี้ยงชาวบ้านอีกที่บ้านเนินทราย –ไดชุมแสง ตำบลบ้านบุ่ง ทำให้ชาวบ้านผวา ไม่กล้าออกไปหาปลา เด็ก หรือชาวบ้านไม่กล้าลงไปเล่นน้ำ อีกทั้งชาวบ้านไม่กล้าออกไปไล่ล่า

ด้าน นายมนตรา บุญเรือง ผู้ใหญ่บ้าน หมูที่ 6 ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร กล่าวว่า ล่าสุด มีจระเข้ซึ่งน่าจะ เป็นของ ชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ ในตำบลบ้านบุ่ง กล่าวว่าน่าจะ หลุดออกมาเนื่องจาก มีชาวบ้านที่ส่วนส้ม ออกไปหาปลาแล้วเจอจระเข้ลอยตัวเหนือน้ำ ซึ่งอยากให้ประมงเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านนั้นไม่กล้าออกไปหาปลา เนื่องจากหวาดกลัว เพราะ เกรงว่ามันจะหิวแล้วกัด กินคนสัตว์เลี้ยงเป็นอาหาร
นอกจากนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนในเรื่องถนนหนทางถูกตัดขาด น้ำท่วม จนติดเกาะ ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ต้องใช้เรือ ปรากฏว่าทางโรงเรียนหลายแห่งจังหวัดพิจิตรไม่ปิด ทำให้การ ไปมาของนักเรียนที่อยู่รอบนอกไปมาด้วยความลำบากซึ่งเกรงว่าจะได้รับอีนตรายเพราะน้ำท่วมสูง ชาวบ้านบางราย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:32:54


ความคิดเห็นที่ 1916 (1571768)

เตือนระวัง! แก๊งช็อตไฟฟ้าอาละวาด ตระเวนปล้นทรัพย์ทั่วกรุง
 




ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

การแจ้งเตือนให้ระวังภัยแก๊งช็อตไฟฟ้าครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากน.ส.หงษ์ พูลทองดี อายุ 20 ปี ผู้เสียหายถูกแก๊งดังกล่าวรุมทำร้ายและชิงทรัพย์ ที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแยกบางปะแก้ว ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตจอมทอง กทม. เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา

โดยน.ส.หงษ์ เผยว่า ในระหว่างที่ตนกำลังขี่รถกลับบ้านนั้นจู่ๆ ก็มีวัยรุ่นประมาณ 10คนขี่มอร์ไซค์มาล้อม และบังคับให้ตนส่งของมีค่าให้ แต่ตนไม่ยอมจึงพยายามขับหนี ทำให้กลุ่มคนร้ายใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า จี้เข้าที่หน้าท้องจนชา จากนั้นคนร้ายได้ใช้มีดรุมฟันตนจนบาดเจ็บ พร้อมกับพูดเชิงขู่ว่า คิดหนี ต้องโดนอย่างนี้ ก่อนจะชิงรถจยย.ของตนขี่หลบหนีไป

อย่างไรก็ดีในคืนวันเดียวกันนายภาณุพงษ์ แสงคำ อายุ 18 ปี และเพื่อน ก็ถูกทำร้ายโดยกลุ่มคนที่มีลักษณะและวิธีการชิงทรัพย์แบบเดียวกันและถูกชิงรถจักรยานยนต์ไปด้วย ที่บริเวณริมถนนบางบอน 3 แขวงและเขตบางบอน ในท้องที่ สน.บางบอน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองท้องที่ได้เผยว่าแก๊งดังกล่าวได้ออกอาละวาดมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ โดยคนร้ายจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงและมักจะขี่รถจักรยานยนต์คนเดียว ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงอยากเตือนให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา และเฝ้าระมัดระวังภัยในลักษณะดังกล่าวด้วย

เบื้องต้นเตรียมสอบสวนผู้บาดเจ็บและพยานแวดล้อมอีกครั้งเพื่อเร่งติดตามแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป เพราะได้ก่อเหตุอุกอาจมาแล้วหลายท้องที่ ทั้งสน.ประชาชื่น สน.บางเสาธง สน.บางพลัด สภ.บางกรวย และล่าสุด สน.ทุ่งมหาเมฆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:35:34


ความคิดเห็นที่ 1917 (1571769)

“บ้านลอยน้ำ”… บ้านทางเลือกใหม่... หลังจากน้ำท่วมใหญ่ ((ของประเทศไทย))

 

บ้านลอยน้ำ

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย
ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย
กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่ง
คือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย
รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน

ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้
จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน
ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่


เมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง
เพื่อทรงเปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชนของกรมฯ แล้ว
ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ ? บ้านลอยน้ำ ?


กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้น
โดยปรับใช้แนวคิดจาก บ้านลอยน้ำท่าขนอน
และเรือนแพของชาวบ้านในอดีต นำมาประยุกต์
ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน


ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ
แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้นตามระดับน้ำได้
โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งสี่มุม
เพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ
และเมื่อระดับน้ำลดลงตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้
ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด
เพื่อให้เป็นการใช้วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย
เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 01:39:27


ความคิดเห็นที่ 1918 (1571771)

กทม.งัดสารพัดแผน"สูบน้ำ-แก้มลิง-อุโมงค์ยักษ์"รับท่วมใหญ่

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



แผนรับมือน้ำเหนือไหลถล่มกทม.งัดทั้งสถานีสูบน้ำ 33 แห่ง-แก้มลิง 21 แห่งและอุโมงค์ระบายยักษ์ คาดไหลเข้ามาเต็มที่ 19-20 ก.ย.นี้

จากการประเมินของกรมชลประทาน พื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างจะเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ประมาณวันที่ 19-20 กันยายนนี้ ซึ่งพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบลุ่ม และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ


แผนการป้องกันน้ำท่วม แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การระบายน้ำในพื้นที่ราบลุ่มสองฝั่งเจ้าพระยาและการป้องกันในบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร

แม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มต้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยเป็นการรวมกันของแม่น้ำสายใหญ่จากภาคเหนือทั้งหมด "ปิง-วัง-ยม-น่าน" และก่อนที่จะถึงนครสวรรค์ แม่น้ำบางสายก็มีเขื่อนขนาดใหญ่กักเก็บน้ำไว้ แต่ในเมื่อเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งหมดในภาคเหนือไม่สามารถรองรับได้ ปริมาณน้ำย่อมไหลลงสู่เจ้าพระยาทั้งหมด


วานนี้ (15 ก.ย.) จากสถานีวัดของกรมชลประทาน ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พบว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,568 ลบ.ม./วินาที เพิ่มจากวันก่อนที่ระดับ 3,434 ลบ.ม./วินาที ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพียง 0.05 เมตร

น้ำจากนครสวรรค์ เดินทางมุ่งสู่ เขื่อนเจ้าพระยา ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ที่กั้นเจ้าพระยาไว้ แต่ก็ไม่สามารถกักเก็บได้ในปริมาณที่มากเหมือนเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

จากข้อมูลวานนี้ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,538 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 3,354 ลบ.ม./วินาที

หลังจากน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา สามารถระบายออกได้สองฝั่ง คือ


1. น้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก ผ่านไปคลองชัยนาท-ป่าสัก คลองชัยนาท-อยุธยา และคลองเล็กอื่นๆ จากนั้นรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ ซึ่งข้อมูลล่าสุดระบาย 181 ลบ.ม./วินาที

2. รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 381 ลบ.ม./วินาที ผ่านคลองมะขามเฒ่าอู่ทอง แม่น้ำสุพรรณ แม่น้ำน้อย และคลองอื่นๆ

จากการระบายออกทั้งสองช่วงบน ทำให้น้ำไหนผ่านเขื่อนพระรามหก ลดลง จากนั้นมีจุดระบายออกทุ่งฝั่งเจ้าพระยาตอนล่างอีกสองเส้นทาง คือ

1. ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง รวมสูบและระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง ระบายน้ำลงอ่าวไทย และสูบจากสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิลงอ่าวไทย
วานนี้ (15 ก.ย.) เร่งสูบและระบายทั้งหมดวันละ 30.04 ล้าน ลบ.ม.

2. ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกตอนล่าง สูบและระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนวันละ
วานนี้ (15 ก.ย.) สูบและระบายทั้งหมดวันละ 14.38 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับทุ่งเจ้าพระยาทั้งหมด ที่สามารถรองรับน้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคกลาง ใน 6 จังหวัด มีพื้นที่สำหรับรองรับน้ำ 20 ทุ่ง ประกอบด้วย

1. จ.นครสวรรค์ มี 7 ทุ่ง และบึงบอระเพ็ด เนื้อที่ 5.5 ไร่ รับน้ำได้ 2 พันล้านลูกบาศก์เมตร

2. จ.สิงห์บุรี มี 2 ทุ่ง คือ ทุ่งดอนกระต่าย กับทุ่งบางระจัน เนื้อที่ 1.6 แสนไร่ รับน้ำได้ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร

3. จ.ลพบุรี มี 2 ทุ่ง คือ ทุ่งท่าวุ้ง และทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท ป่าสัก เนื้อที่ 1 แสนไร่ รับน้ำได้ 170 ล้านลูกบาศก์เมตร

4. จ.อ่างทอง มี 2 ทุ่ง คือ ทุ่งลาดกระเทียม-ห้วยจระเข้ กับทุ่งวิเศษชัยชาญ เนื้อที่ 67,000 ไร่ รับน้ำได้ 107 ล้านลูกบาศก์เมตร

5. จ.พระนครศรีอยุธยา มี 6 ทุ่ง คือ ทุ่งบางบาล ทุ่งเชียงราก ทุ่งลาดบัวหลวง ทุ่งผักไห่ ทุ่งมหาราช และทุ่งเสนาเหนือใต้ เนื้อที่ 1.2 แสนไร่ รับน้ำได้ 450 ล้านลูกบาศก์เมตร

รวมเนื้อที่รองรับน้ำทั้งหมดประมาณ 1 ล้านไร่ รับน้ำได้ 3 พันล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับพื้นที่ป้องกันในกรุงเทพฯ มี สถานีสูบน้ำ 33 แห่ง โดยตั้งอยู่รอบพื้นที่ และในบริเวณคลองพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ 8 แห่ง คือ สถานีสูบน้ำสามเสน บางซื่อ พระราม 4 เทเวศร์ กรุงเกษม ช่องนนทรี พระโขนง และคลองเตย

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ลุ่ม ที่ทำเป็น "แก้มลิง" เพื่อแก้ไขปัญหา น้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริเวณพื้นที่ที่เป็นแอ่งกว้างใหญ่ ซึ่งปัจจุบัน สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้จัดหาแก้มลิงเพื่อเก็บกักน้ำชั่วคราว เพื่อการป้องกันน้ำท่วมได้ จำนวน 21 แห่ง สามารถเก็บกักน้ำประมาณ 13 ลบ.ม.

ขณะเดียวกันกทม. ได้ก่อสร้าง "อุโมงค์ระบายยักษ์" ที่ครอบคลุมพื้นที่ 50 ตร.กม. ใน 6 เขต ได้แก่ ลาดพร้าว วังทองหลาง บางกะปิ ห้วยขวาง บึงกุ่ม และสะพานสูง รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งระบายน้ำจากเขตดังกล่าวลงสู่เจ้าพระยา และ กทม.จะสร้างเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ 1.อุโมงค์ยักษ์รัชดาภิเษก-สุทธิสาร ความยาว 6.5 กิโลเมตร 2. อุโมงค์ยักษ์ดอนเมือง ความยาว 13.5 กิโลเมตร และ 3. อุโมงค์ยักษ์สวนหลวง ร. 9


จากความพร้อมของ กทม.ในการระบายน้ำนี้เอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มั่นใจว่าจะสามารถรับน้ำท่วมครั้งนี้ได้ แม้ว่ากรมชลประทานจะเตือนว่าปริมาณน้ำในปีนี้จะมากกว่าทุกปี และเป็นสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงสุดในรอบ 5 ปี

หากกรมชลฯ ประเมินถูกต้อง น้ำก้อนใหญ่จะถึง กทม. 19-20 กันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ "ปราการ" ป้องกันน้ำท่วมของคนกรุงอีกครั้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:01:23


ความคิดเห็นที่ 1919 (1571772)

สถานการณ์รอบโลก 15 กันยายน 54

รายงานพายุก่อตัวบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก

RSOE EDIS - Tropical Storm Information

แผ่นดินเลื่อนที่รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา

RSOE EDIS - Landslide in USA on Thursday, 15 September, 2011 at 02:54 (02:54 AM) UTC. EDIS CODE: LS-20110915-32335-USA

แผ่นดินไหวที่ประเทศนิวซีแลนด์ขนาด 5.9 ริตเตอร์ เวลา 753 UTC

Earthquake - Magnitude 5.9 - EAST OF NORTH ISLAND, N.Z. - 2011 September 15, 07:53 UTC

-
แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นขนาด 6.2 ริตเตอร์ เวลา 8 UTC ที่ประเทศญี่ปุ่น
Earthquake - Magnitude 6.2 - NEAR EAST COAST OF HONSHU, JAPAN - 2011 September 15, 08:00 UTC

- รายงานวัตถุประหลาดบนทางฟ้าในรัฐ Arizona สหรัฐอเมริกา

RSOE EDIS - Event into space in USA on Thursday, 15 September, 2011 at 09:04 (09:04 AM) UTC. EDIS CODE: CO-20110915-32340-USA

- แผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริตเตอร์ ที่ประเทศคิวบา]

Magnitude 5.1 - CUBA REGION

- แผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริตเตอร์ เวลา 19:31 UTC

Earthquake - Magnitude 7.2 - FIJI REGION - 2011 September 15, 19:31 UTC

- เกิด Heatwave ที่ประเทศเกาหลี

RSOE EDIS - Heat Wave in South Korea on Thursday, 15 September, 2011 at 18:05 (06:05 PM) UTC. EDIS CODE: HT-20110915-32345-KOR

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:03:00


ความคิดเห็นที่ 1920 (1571773)

ไฟไหม้ “โรงกำจัดสารเคมี” ในเมืองหลวงออสเตรเลีย-อพยพประชาชนนับร้อย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2554 09:15 น.




ควันสีดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นจากโรงงานกำจัดสารเคมีทางตอนเหนือของกรุงแคนเบอร์ราเช้าวันนี้(16) หลังเกิดเพลิงไหม้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยออสเตรเลียเร่งดับเพลิงที่เผาไหม้โรงงานกำจัดสารเคมีแห่งหนึ่งกลางกรุงแคนเบอร์ราของออสเตรเลีย วันนี้(16) ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มคลายความกังวลว่าจะมีสารพิษแพร่กระจายออกไปเป็นบริเวณกว้างแล้ว

ประชาชนราว 100 คนที่อาศัยอยู่ใกล้โรงกำจัดสารเคมีในเขตอุตสาหกรรมมิตเชลล์ทางเตอนหนือของกรุงแคนเบอร์ราถูกสั่งอพยพในทันที ขณะที่ชาวเมืองซึ่งอยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรได้รับคำเตือนให้อยู่ภายในบ้าน และปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด สำนักงานบรรเทาเหตุฉุกเฉินระบุ

รายงานระบุว่า เปลวเพลิงได้โหมกระหน่ำสูงนับร้อยเมตรเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา และเสียงระเบิดที่ดังขึ้นเป็นระยะทำให้ชาวเมืองที่กำลังหลับใหลตกใจตื่น

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว

สำนักงานบรรเทาเหตุฉุกเฉิน(อีเอสเอ) ระบุว่า สารเคมีที่ถูกเผาไหม้ทำให้เกิดกลุ่มควันสีดำ ซึ่งอาจมีสารพิษฟอสจีน (phosgene) ปะปนอยู่ด้วย

ผู้ที่ได้รับพิษจากฟอสจีนจะเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและดวงตา, คลื่นไส้, อาเจียน, มึนงง และปวดแน่นในหน้าอก

อย่างไรก็ตาม มาร์ก ครอสเวลเลอร์ อธิบดีสำนักงานบรรเทาเหตุฉุกเฉิน ระบุว่า ผลการตรวจสภาพอากาศเบื้องต้นยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง

เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้สามารถมองเห็นได้แต่ไกลหลายกิโลเมตร และทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเนื่องจากต้องปิดถนน, ปิดโรงเรียน และหยุดให้บริการรถโดยสารสาธารณะทุกชนิด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:06:11


ความคิดเห็นที่ 1921 (1571774)

สังเวยน้ำท่วมแล้ว 98 ศพ 29 จว.ยังจมบาดาล





ปภ.สรุปยอดตายจากน้ำท่วม โดยสะสมมาตั้งแต่พายุนกเตน จนถึงล่าสุดสูงถึง 98 ศพ ขณะที่ยังมี 29 จังหวัดถูกน้ำท่วม กินพื้นที่ถึง 162 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1 ล้านคน...

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ขณะนี้ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 29 จังหวัด ได้แก่ 1. สุโขทัย 2. พิจิตร 3. พิษณุโลก 4. นครสวรรค์ 5. อุทัยธานี 6. ชัยนาท 7. สิงห์บุรี 8. อ่างทอง 9. พระนครศรีอยุธยา 10.ลพบุรี 11. สระบุรี 12. สุพรรณบุรี 13. นครปฐม 14. ปทุมธานี 15. นนทบุรี 16. ยโสธร 17. เลย 18. ขอนแก่น 19. ศรีสะเกษ 20. อุบลราชธานี 21. ฉะเชิงเทรา 22. นครนายก 23. ตราด 24. ตาก 25. สระแก้ว 26. ปราจีนบุรี 27. สุราษฎร์ธานี 28. ตรัง และ 29. สตูล รวม 162 อำเภอ 1,0212 ตำบล 5,449 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 333,073 ครอบครัว 1,184,250 คน โดยมีผู้เสียชีวิตสะสมมาตั้งแต่เมื่อครั้งพายุนกเตนจนถึงล่าสุดรวม 98 คน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว

วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด พร้อมเจ้าหน้าที่แขวงการทางตากที่ 2 พ.ต.อ.ยศ วณีสอน ผกก.ตม.ตาก เจ้าหน้าที่ศุลกากรแม่สอด และเจ้าหน้าที่จากทางการพม่า ได้เข้าตรวจสอบสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่เชื่อมระหว่าง จ.เมียวดี ประเทศพม่า กับบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากมีการสงสัยว่า สะพานอาจทรุดตัวจากกระแสน้ำเมื่อครั้งน้ำท่วมช่วงที่ผ่านมา

จากนั้นนายปรีชา กล่าวว่า ทันทีที่ทราบเรื่องได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่าสะพานมิตรภาพไทย-พม่ายังปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ โดยแขวงการทางตากที่ 2 ได้แจ้งว่า ที่ผ่านมาส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสะพานเดือนละ 2 ครั้งเป็นประจำ และยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่สิ่งที่น่าวิตกมีหลายจุด โดยเฉพาะรอยบิดบริเวณกลางสะพานที่เห็นได้ชัดเจน หากปล่อยไว้นานอาจจะเป็นปัญหาภายหลัง นอกจากนั้น ยังต้องรีบแก้ปัญหาเศษสวะจำนวนมากบริเวณตอม่อสะพานในช่วงน้ำท่วม ล่าสุด ได้ประสานกับคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า (ทีบีซี.) เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมกันดำเนินการ เพราะถือเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ละเอียดอ่อน.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:07:32


ความคิดเห็นที่ 1922 (1571775)

ปภ.โคราช เตือนระวังอุทกภัย-ดินโคลนถล่ม 18-21 ก.ย.นี้

นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่า จากการติดตามสภาวะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาทราบว่า ในช่วงวันที่ 18 - 21 กันยายน 2554 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีกำลังแรงขึ้น ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางแห่ง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่ม ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ เขตความรับผิดชอบของศูนย์ ปภ. เขต 5 นครราชสีมา ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีฝนตกเป็นช่วงๆ ทำให้ดินมีความชุ่มชื้นสูง ความสามารถในการอุ้มน้ำของดินลดลง หากมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติมจึงมีความเสี่ยงต่อการอุทกภัยมากขึ้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยมีประวัติน้ำท่วมขัง นอกจากการติดตามข้อมูลข่าวสารการพยากรณ์อากาศ และการประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิดแล้ว รวมทั้งติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนหรืออ่างที่อยู่ในพื้นที่ด้วย หากเกิดภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน ระดับน้ำในแม่น้ำจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีของดินบนภูเขา ขอให้มีการจัดเตรียมถุงยังชีพของครอบครัวไว้อย่างน้อย 1 ชุด เพื่อจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ยามฉุกเฉิน พร้อมขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไว้ในที่สูง เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:08:59


ความคิดเห็นที่ 1923 (1571776)

อุตุฯเตือน18-21 ก.ย.ฝนถล่มอีกระลอก

วันศุกร์ ที่ 16 กันยายน 2554 เวลา 0:06 น



กรมอุตุฯเตือน 18 – 21 ก.ย.ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และอีสาน เจอฝนถล่มหนักอีกระลอก

เมื่อวันนี้ ( 15 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าช่วงวันที่ 18-21 ก.ย. ร่องมรสุมจะเลื่อนจากภาคเหนือตอนบน ลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีกำลังแรงขึ้น ขณะเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีอิทธิพลในเขตทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากเป็นบางแห่งในระยะนี้ จึงแจ้งเตือนประชาชนอาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ในภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันให้ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็ก ทั้งทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว

ทางด้านนายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ปริมาณฝนที่จะตกในช่วงดังกล่าวคาดว่าหนักสุด ราว 100 ม.ม. ขณะที่ฝนระลอกนี้น่าตกถึงวันที่ 21 ก.ย.นี้ และจะเป็นการเติมน้ำลงในแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่มีมากอยู่แล้วในบางพื้นที่ จนอาจทำให้ล้นตลิ่งได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าร่องมรสุมหรือร่องความกดอากาศต่ำที่เลื่อนลงมาทางภาคกลาง ทำให้ภาคกลางมีฝนเพิ่มขึ้น น่าจะคงอยู่ต่อจนถึงสิ้นเดือน ก.ย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:10:51


ความคิดเห็นที่ 1924 (1571777)

ดั้ม18ล้อเกี่ยวสะพานลอยถ.กาญจนาฯหัก

ข่าวอาชญากรรม วันศุกร์ที่ 16 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 07:18 น.



เกิดอุบัติเหตุ ดรัมรถพ่วง 18 ล้อ เกี่ยวสะพานลอย ถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ก่อนถึงทางต่างระดับฉิมพลี พังถล่มไร้คนได้รับบาดเจ็บ แต่ส้งผลให้การจราจรติดยาว กว่า 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ แนะเลี่ยง คาดใช้เวลากู้กว่า 3 ชม.

เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อ บริเวณดรัมช่วงท้ายของรถพ่วง ได้ยกขึ้นเกี่ยวกับสะพานลอยข้ามถนน บริเวณ ถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ก่อนถึงทางต่างระดับฉิมพลี ทำให้สะพานลอยข้ามถนน ครึ่งหนึ่ง พังถล่มลงมาอยู่บนพื้นถนน ส่งผลให้บริเวณดังกล่าว มีรถติดเป็นจำนวนมาก ยาวหลายสิบกิโลเมตร

เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีคนที่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมง ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนสะพานลอยที่ถล่มลงมาอยู่บนถนน ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จึงแนะให้ประชาชนที่เดินทางสัญจรในเส้นทางดังกล่าว เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น และงดใช้เส้นทางบริเวณโดยรอบ จนกว่าจะมีการเปิดการจราจรอีกครั้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:11:37


ความคิดเห็นที่ 1925 (1571778)

ดั้ม18ล้อเกี่ยวสะพานลอยถ.กาญจนาฯหัก

ข่าวอาชญากรรม วันศุกร์ที่ 16 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 07:18 น.



เกิดอุบัติเหตุ ดรัมรถพ่วง 18 ล้อ เกี่ยวสะพานลอย ถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ก่อนถึงทางต่างระดับฉิมพลี พังถล่มไร้คนได้รับบาดเจ็บ แต่ส้งผลให้การจราจรติดยาว กว่า 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ แนะเลี่ยง คาดใช้เวลากู้กว่า 3 ชม.

เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อ บริเวณดรัมช่วงท้ายของรถพ่วง ได้ยกขึ้นเกี่ยวกับสะพานลอยข้ามถนน บริเวณ ถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ก่อนถึงทางต่างระดับฉิมพลี ทำให้สะพานลอยข้ามถนน ครึ่งหนึ่ง พังถล่มลงมาอยู่บนพื้นถนน ส่งผลให้บริเวณดังกล่าว มีรถติดเป็นจำนวนมาก ยาวหลายสิบกิโลเมตร

เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีคนที่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมง ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนสะพานลอยที่ถล่มลงมาอยู่บนถนน ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จึงแนะให้ประชาชนที่เดินทางสัญจรในเส้นทางดังกล่าว เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น และงดใช้เส้นทางบริเวณโดยรอบ จนกว่าจะมีการเปิดการจราจรอีกครั้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:11:38


ความคิดเห็นที่ 1926 (1571779)

พนังกั้นพังน้ำทะลักอ่างทองนร.หนีโกลาหล

พนังปูนกั้นน้ำเมืองอ่างทองพัง หลังทนกระแสน้ำไม่ไหว ส่งผลน้ำทะลักท่วมเมืองสูงกว่า 2 เมตร เด็กนักเรียนหนีโกลาหล



เมื่อวันที่ 15 ก.ย. แนวพนังปูนกั้นน้ำบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกช่วง จ.อ่างทอง ทานแรงน้ำไม่ไหวและทลายลงราว 700 เมตร ทำให้กระแสน้ำทะลักเข้าท่วมในตัวเมืองอ่างทองอย่างรวดเร็วสูงกว่า 2 เมตร โดยเฉพาะโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง ที่เด็กนักเรียนกว่า 2,000 คน ที่กำลังสอบเป็นวันสุดท้าย ครูประจำชั้นต้องอพยพเด็กนักเรียนหนีน้ำท่วมกันอย่างโกลาหล

ทั้งนี้ เนื่องจากน้ำจำนวนมากได้ไหลทะลักเข้ามาในโรงเรียนเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วทำให้นักเรียนต่างก็วิ่งหนีตายเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น ขณะที่ผู้ปกครองพากันลุยน้ำอย่างทุลักทุเลเพื่อมารับบุตรหลานกลับบ้าน แต่เนื่องจากน้ำท่วมสูงเกรงว่ากระแสน้ำจะพัดเด็กนักเรียนไปกับสายน้ำ ทางเทศบาลจึงได้นำรถบรรทุก 6 ล้ออำนวยความสะดวกส่งเด็กอนุบาลกลับไปบ้าน ส่วนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองมารับไม่ทันต่างก็ได้วิ่งหนีขึ้นไปชั้นบนของโรงเรียน แต่เด็กนักเรียนปลอดภัยทุกค

นายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวว่า น้ำได้ซัดแนวกั้นน้ำพังทลาย ทั้งที่ทางจังหวัดได้มีการตั้งรับไว้อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งคาดว่าน้ำเซาะบริเวณช่องโหว่ ทำให้ขยายวงกว้างและพังถล่มลงมา ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าตัวเมืองชั้นในและไหลเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลและศาลากลางจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยพาเด็กออกมาจากโรงเรียนหมดแล้ว ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าเด็กถูกน้ำซัดหายและอาจจะยังมีผู้ปกครองที่หาลูกตัวเองไม่พบ

ด้าน วิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง กล่าวว่า ทางจังหวัดจะเร่งกู้พื้นที่กลับสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยศูนย์ราชการ บ้านพักข้าราชการ องค์การโทรศัพท์ การไฟฟ้า โรงพยาบาล ที่ว่าการอำเภอเมือง สถานีตำรวจ ศาล จมน้ำขั้นวิกฤต และเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนเป็นวงกว้าง



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:12:42


ความคิดเห็นที่ 1927 (1571780)

พิษณุโลกพระ-เณรวัดใหญ่เร่งเสริมแนวกระสอบทราย

16 กย. 2554 08:55 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 15 กันยายน บริเวณถนนริมแม่น้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พระ-เณร หลายสิบชีวิต ร่วมแรงเสริมแนวกระสอบทรายกั้นน้ำ ไม่ให้น้ำจากแม่น้ำน่านไหลเข้ามาท่วมในเขตวัดใหญ่ หลังจากเช้าวันที่ 15 กันยายน น้ำเริ่มดันท่อระบายน้ำเข้ามา และตั้งแต่เช้า ทั้งพระและเณร นักเรียนรร.พุทธชินราช ต่างช่วยกันทำแนวกระสอบทรายกั้น ไม่ให้น้ำไหลเข้าบริเวณวัด

แต่จากการประเมินสถานการณ์ และระดับน้ำของแม่น้ำน่านที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะที่ระดับ 10.88 เมตร คาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 16 กันยายน น้ำน่านเมืองพิษณุโลก อาจจะเพิ่มระดับถึง 11 เมตร จึงต้องเร่งทำแนวกระสอบทรายหน้าวัดใหญ่ให้แข็งแรง และสูงขึ้นประมาณ 1.5 เมตร ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร พร้อมนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำที่ซึมเข้าออก ขณะที่บริเวณประตูรั้วทางเข้าวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ก็ทำแนวป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:15:11


ความคิดเห็นที่ 1928 (1571781)

.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:15:32


ความคิดเห็นที่ 1929 (1571782)

นอร์เวย์..อพยพหนีไฟไหม้เรือสำราญ



กิดเหตุไฟไหม้เรือสำราญที่นอร์เวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และต้องเร่งอพยพผู้โดยสารกว่า 200 คน ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุเกิดจากการระเบิดในห้อง

เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่เรือจะแล่นถึงเมืองอาเลซุนด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงออสโลประมาณ 375 กิโลเมตร ทำให้ต้องอพยพผู้โดยสารกว่า 100 คนลงเรือชูชีพ กลางทะเลที่หนาวจัด แต่บนเรือก็ยังเหลือคนอีกกว่าร้อยคน เนื่องจากขณะเกิดเหตุ เรือลำนี้บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 262 คน เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือเข้าเทียบท่า เพื่อเร่งอพยพคนลงมาโดยเร็ว ส่วนการควบคุมเพลิงต้องใช้เวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมงและทำให้น้ำเข้าเรือจนเรือเอียง 10 องศา

เหตุไฟไหม้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน 9 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดเป็นลูกเรือ ขณะที่ควันไฟหนาทึบก็ทำให้ตำรวจต้องปิดพื้นที่บางส่วนของเมืองอาเลซุนด์ด้วย

เรือเอ็มเอส. นอร์ดลิส เป็นเรือสำราญนำเที่ยวเส้นทางเลียบชายฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์ ระยะทาง 2,500 กิโลเมตร ระหว่างเมืองเบอร์เกน กับเมืองเคอร์เคเนส ที่ตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติก ใกล้กับชายแดนรัสเซีย เมืองอาเลซุนด์ก็ได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในนอร์เวย์


แองโกลา..เครื่องบินทางทหารตกเสียชีวิต 17



สำนักข่าวแห่งชาติ แองก็อป ANGOP ของแองโกลา รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 17 คน ในอุบัติเหตุเครื่องบินทางทหารตกที่สนามบินเมืองวัมโบ ทางภาคกลางของแองโกลา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

กองทัพแองโกลาออกแถลงการณ์ระบุว่า ทหาร 11 คน ซึ่งรวมนายทหารชั้นนายพล 3 คน เสียชีวิต ส่วนที่เหลือเป็นพลเรือน 6 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน และเด็กอีก 2 คน

เครื่องบินลำนี้บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือมารวม 36 คน

อุบัติเหตุเกิดขึ้นที่สนามบินแองบาโน มาชาโด ในเมืองวัมโบห่างจากกรุงลูอันดา นครหลวงของแองโกลาไปทางตะวันตกเฉียงได้ประมาณ 550 กิโลเมตร สนามบินแห่งนี้เพิ่มเปิดใช้ใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังการปิดซ่อมนาน 3 เดือนมูลค่า 60 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:16:15


ความคิดเห็นที่ 1930 (1571783)

ศภช.เตือน10จังหวัดรับมือน้ำล้นตลิ่ง17-20ก.ย.นี้

16 กย. 2554 09:11 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ย. นี้จะเกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นอีก ตั้งแต่

จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี อยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทั้งใน นอกคันกั้นน้ำ และริมลำน้ำสาขา

เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมขังเพิ่มขึ้น หรือควรเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย

และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยและติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:17:02


ความคิดเห็นที่ 1931 (1571784)
นิทานดีๆ
 



 

เรื่องราวนี้มิได้เขียนขึ้นเพื่อให้ท่านผู้อ่าน ละทิ้งหน้าที่ประจำที่มีอยู่ แล้วมุ่งปฏิบัติธรรมอย่างเดียว เพียงแต่ให้ท่านได้ตระหนักถึงความจริง
ที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และ "ไม่ประมาท"
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:17:53


ความคิดเห็นที่ 1932 (1571785)

สมุทรสาครพบรอยรั่วเขื่อนริมตลาดมหาชัยเร่งแก้ก่อนน้ำหนุน

วันพฤหัสบดี ที่ 15 ก.ย. 2554



สมุทรสาคร 15 ก.ย.- นายกุลวัชร หงษ์คู นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรสาคร นำเจ้าหน้าที่และตัวแทนจากกรมชลประทานลงเรือสำรวจแนวเขื่อนริมตลาดมหาชัย เพื่อป้องกันน้ำจากคลองมหาชัยทะลักเข้าท่วมตลาดที่เคยมีปัญหามาแล้ว จากการสำรวจพบว่าบางจุดของเขื่อนมีปัญหา หากระดับน้ำขึ้นมาถึงจุดรอยรั่วจะซึมเข้ามาในพื้นที่ จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงรอยรั่วซึมของน้ำถือเป็นจุดสำคัญต้องรีบหาทางแก้ร่วมกับกรมชลประทานในเบื้องต้น เนื่องจากเป็นเจ้าของงบประมาณการก่อสร้าง แม้ผู้รับเหมาก่อสร้างยังไม่ได้ส่งมอบงานให้กับเทศบาลฯ

นายกุลวัชร กล่าวว่า การลงพื้นที่สำรวจแนวเขื่อนริมตลาดมหาชัยเพื่อเตรียมป้องกันน้ำเข้าตัวเมืองมหาชัย เพราะจากเหตุการณ์ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดตอนบนของแม่น้ำท่าจีนเกิดอุทกภัยขึ้นนั้น คาดว่าอีกไม่นานคงจะปล่อยน้ำลงมาและถึงจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ปลายแม่น้ำท่าจีน ประกอบกับช่วงปลายกันยายน-ตุลาคม จะมีน้ำทะเลหนุนสูง จึงต้องเตรียมรับมือไว้ก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่.- สำนักข่าวไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:20:53


ความคิดเห็นที่ 1933 (1571787)

ชาวโสมวุ่น! ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่หลายพื้นที่ทั่วประเทศ เหตุอากาศร้อนหลงฤดู

 

การจราจรในกรุงโซลเป็นอัมพาต เนื่องจากไฟดับทำให้สัญญาณไฟจราจรบางพื้นที่ไม่ทำงาน
 

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เผยชาวเกาหลีใต้หลายล้านคนทั่วประเทศต้องเจอเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ในวันนี้ (15) คาดสาเหตุเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติในฤดูใบไม้ร่วง และการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าตามกำหนดเวลา

บริษัท โคเรียพาวเวอร์เอ็กซ์เชนจ์ รายงานว่า เกิดเหตุไฟฟ้าดับชั่วคราวในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งมีประชากรกว่า 48 ล้านคน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มีจำนวนเท่าใด โดยเหตุไฟฟ้าดับที่กินบริเวณกว้างเช่นนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ความต้องการพลังงานสูงผิดปกติ เนื่องจากสภาพอากาศไม่ตรงตามฤดูใบไม้ร่วง เป็นเหตุให้เกิดการขาดแคลน” เขากล่าว โดยคาดว่าเหตุการณ์นี้น่าจะยุติเมื่ออุณหภูมิลดลงในตอนเย็น และเมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยลงแล้ว

ขณะที่อุณหภูมิสูงสุดในวันนี้ขึ้นไปที่ 33 องศาเซลเซียส ในเมืองปูซาน เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ

ด้านกระทรวงเศรษฐกิจฐานความรู้ของแดนโสมชี้ว่า การปิดโรงไฟฟ้าหลายแห่งชั่วคราวเพื่อการซ่อมบำรุง และปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงอย่างไม่คาดคิด น่าจะเป็นสาเหตุของปัญหานี้

สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การตัดไฟกินเวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงทั่วประเทศ ทำให้สัญญาณไฟเขียวไฟแดง 189 แห่งจากทั้งหมด 505 แห่งในเมืองอุลซาน เมืองอุตสาหกรรมทางตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ทำงาน ส่งผลให้การจราจรติดขัด และโรงงานราว 20 แห่งต้องหยุดดำเนินการ

ส่วนนักผจญเพลิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะสายที่รายงานเหตุคนติดอยู่ในลิฟต์หลังไฟดับ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในกรุงโซลประมาณ 100 ราย และจากปูซาน 30 ราย ยอนฮับเสริม

นอกจากนี้ สำนักข่าวดังกล่าวยังระบุว่า ในจังหวัดจอลลา ทางตอนเหนือของประเทศ ประชาชน 120,000 คนใน 7 เมืองได้รับผลกระทบจากเหตุไฟฟ้าดับในครั้งนี้ เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ อีกหลายเมือง

ทั้งนี้ เหตุไฟฟ้าดับเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศอุตสาหกรรม โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลขอร้องให้ประชาชนลดการใช้เครื่องทำความร้อน ขณะที่ความต้องการพุ่งสูงในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:21:58


ความคิดเห็นที่ 1934 (1571789)

สาววัย 22 บริจาคอวัยวะทั้งตัว จากโลกอย่าง "ไม่เสียใจ"

ขออนุโมทนาบุญกับความเสียสละ เเละ เมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก

http://ufokaokala.com/index.php?topic=4538.msg36525;topicseen#msg36525

                       หง เมิ่งเหวิน เกิดมาพร้อมกับความพิการกระดูกสันหลังแยก(Spina Bifida) และโรครุมเร้าอื่นๆ แพทย์คาดว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึง
10 ขวบ แต่แล้วเธอก็สามารถอยู่ได้ถึง 22 ปี ด้วยความผิดปกติของระบบท่อประสาท เธอมีความสูงไม่ถึง 1 เมตร ดูเหมือนเด็กอายุ 3-4 ขวบ
       
       เหวินเหวินมีชีวิตอยู่กับโรคร้ายมา 22 ปี จนเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เธอก็ล้มป่วย เหวินเหวินผู้ฝันอยากเป็นทหารหญิง รู้ตัวว่ามีชีวิตอยู่อีก
ไม่นานจึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะทั้งหมดในตัวเธอ เธอเขียนในหนังสือแสดงเจตจำนงบริจาคอวัยวะไว้ว่า...
       
       “ฉันเป็นคนพิการ เป็นอัมพาตทั้งตัว เมื่อตอนเด็กๆ ฉันตั้งใจทำสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่สังคม เมื่อจากโลกนี้ไปแล้ว ฉันขอบริจาคตัวเอง ดวงตาของฉัน
ขอมอบให้แก่ทหารหาญที่สูญเสียดวงตา ผิวหนังมอบให้ผู้ที่ผิวหนังถูกทำลายในอุบัติเหตุ หัวใจมอบให้ผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายเปลี่ยนหัวใจ
ร่างกายและอวัยวะอื่นๆก็ขอมอบให้โรงพยาบาลเป็นผู้จัดสรร ขอเพียงให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น เช่นนี้แล้ว เมื่อฉันเสียชีวิต
ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว”
       
       เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเชิญชวนบริจาค จู เฉียงหรง ได้ถอดหมวกอาสาสมัครสีแดงใบน้อย เดินมายังหัวเตียง และสวมหมวกให้แก่เหวินเหวิน
พ่อของเหวินเหวิน หง กั้นหมิงได้เดินมาที่เตียงก้มลงจูบลูกสาว น้ำตาไหลรินจากใบหน้า เรียกชื่อลูกด้วยเสียงแผ่วเบา “เหวินเหวิน...เหวินเหวิน...”
ราวกับจะพูดคุยด้วย เพียงแต่เหวินเหวินไม่อาจตอบได้แล้ว
       
       เวลา ราว 9.20 น.เจ้าหน้าที่ 2-3 คน ก็เดินเข้ามาในห้อง พวกเขาเป็นแพทย์ที่จะมาผ่าตัดตาของเหวินเหวิน พวกเขาหันไปที่เตียงของเหวินเหวิน
โค้งตัวคำนับ 3 ครั้ง จากนั้น ก็ประคองพ่อแม่ของเหวินเหวินขึ้นมาเพื่อพาออกไปจากห้อง หง กั้นหมิงร้องไห้โฮออกมา พูดว่า “ฉันดูแลลูกไม่ดีพอ
ชาติหน้าขอให้ไปเกิดและได้เป็นทหารหญิงเถิดนะ...” แล้วก้มลงจูบลาลูกสาว จากนั้นจึงออกจากห้องไป แม่ของเหวินเหวินสะอื้นไห้ในอก.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:26:36


ความคิดเห็นที่ 1935 (1571790)
ขอนแก่นประกาศพื้นที่พิบัติน้ำท่วมแล้ว 15 อำเภอ


       ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นประกาศพื้นที่ประสบภัยจากสถานการณ์อุทกภัยแล้ว 15 อำเภอ จาก 26 อำเภอ หลังฝนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์รับน้ำได้อีก แค่ประมาณ 950 ล้าน ลบ.ม
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ประกาศให้จังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 15 อำเภอจาก 26 อำเภอ ตามที่ นางสุพรรัตน์ แสงมาลี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่นนำเสนอ โดยมีการลงนามประกาศตั้งแต่บ่ายวานนี้ (14 ก.ย.)

       ทั้งนี้ หลังจากที่จังหวัดขอนแก่นมีฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์และรับทราบข้อมูลจากอำเภอต่างๆ ด้วย โดย จังหวัดขอนแก่นประกาศพื้นที่ประสบภัยจากสถานการณ์อุทกภัย รวม 15 อำเภอ
       
       ได้แก่ อำเภออุบลรัตน์ เมือง หนองนาคำ บ้านแฮด เปือยน้อย มัญจาคีรี หนองสองห้อง แวงใหญ่ ภูเวียง สีชมพู ภูผาม่าน บ้านไผ่ ชนบท ชุมแพ และอำเภอบ้านฝาง มีพื้นที่ประสบภัยรวม 109 ตำบล 955 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 420,332 คน 85,943 ครัวเรือน

       
       ด้านการคมนาคมและพื้นที่การเกษตรเสียหาย ความเสียหาย ถนนเสียหาย 603 สาย ท่อระบายน้ำ 6 แห่ง ด้านการเกษตรคาดว่าเสียหาย กว่าสามพัน ไร่ บ่อปลา 3 บ่อ รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 62 ล้านบาท การให้ความช่วยเหลือของจังหวัดขอนแก่น จังหวัดได้นำเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 4 ลำ เรือไฟเบอร์ จำนวน 2 ลำ แจกจ่ายถุงยังชีพ ช่วยเหลือเกษตรกรอำเภอภูผาม่าน จำนวน 1,439 ชุด
       
       ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ณ วันที่ 14 กันยายน 2554 ปริมาณน้ำปัจจุบัน 1,477 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 60.78 และ สามารถรับน้ำได้อีก ประมาณ 950 ล้าน ลบ.ม ตอนนี้ปริมาตรน้ำน้อยกว่าเมื่อ ปี 2553 ในห้วงเวลาเดียวกัน       
       
       ทางด้านการเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุจังหวัดให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ สำรวจเครื่องมือ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือ มอบอำนาจให้อำเภอใช้เงินทดรองราชการจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นอำเภอละ 1 ล้านบาทเพื่อเร่งให้การช่วยเหลือกับประชาชนอย่างเร่งด่วน และให้ประชาชนเฝ้าระวังการพยากรณอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องและพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้เชิงเขาให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอภูผาม่าน ชุมแพ หนองเรือ สีชมพู หนองนาคำ


ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 15 กันยายน 2554 13:40 น
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:27:20


ความคิดเห็นที่ 1936 (1571791)
กรุงเก่ากลายเป็นเมืองบาดาลหลังน้ำเจ้าพระยาทะลักท่วมหนัก


 


      พระนครศรีอยุธยา - น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จนกลายเป็นเมืองบาดาล ด้านผู้ว่าฯอยุธยา เตือนชาวบ้านให้เก็บข้าวของรับมือน้ำท่วม ซ้ำอีกระลอกในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
       
       วันนี้ (15 ก.ย.) น้ำเหนือบวกฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกระลอก ทำให้บ้านเรือนประชาชน ร้านค้า และร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่ราชการ ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งวัดขุนพรหม หมู่ 6 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องจมน้ำไปตามๆ กัน
       
       ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมรายหนึ่ง เผยว่า ชาวบ้านที่บ้านถูกน้ำท่วมขณะนี้ต่างเครียดกันมาก เนื่องจากกลัวว่าน้ำจะท่วมขังนาน เพราะน้ำมาเร็วมาก อีกทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกทุกวันจะทำให้น้ำที่ท่วมอยู่แล้วมีปริมาณเพิ่มขึ้นอีก
       
       “ขณะนี้หลายอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องกลายเป็นเมืองบาดาลไปแล้ว โดยเฉพาะที่หมู่ 5 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข เมื่อน้ำท่วมไม่สามารถออกไปไหนได้ จึงนั่งรอเจ้าของอยู่บนโต๊ะไม้หน้าบ้านอย่างหน้าเวทนา ส่วนโรงเรียนในหลายอำเภอ เช่น โรงรียนวัดสนามชัย อ.บางไทร ต้องปิดชั่วคราว” ชาวบ้านผู้นี้กล่าว

     
       ด้าน นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเตือนประชาชนว่า ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ คาดการณ์ว่า จะมีน้ำเข้ามาอีกระลอก ทำให้ระดับน้ำในจังหวัดสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และคาดการณ์ว่าจะมีบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น เป็นกว่า 5 หมื่นครัวเรือน
     
       อย่างไรก็ตาม ขณะนี้น้ำในคลองชลประทานเริ่มไหลเข้าทุ่งรับน้ำ ทำให้ระดับน้ำท่วมขังบ้านเรือนริมแม่น้ำเริ่มลดลง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:27:53


ความคิดเห็นที่ 1937 (1571792)
บทเพลงมหามงคล
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
 
(จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในปีมหามงคล
เจริญพระ­ชนมายุ 84 พรรษา)
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน



ขับร้อง โดย อัสนีและวสันต์ โชติกุล
คำร้อง-ทำนอง พี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:29:47


ความคิดเห็นที่ 1938 (1571793)

 

คลิปเตือนสติ 

ไม่ให้เราประมาททุกนาที 

ลองสังเกตุดูว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านอาจารย์เตือนไว้จริงๆ  เพราะมันค่อยๆเกิดขึ้นถี่ขึ้นทีละอย่าง ทุกวัน ท่านอาจารย์เมตตาเเนะให้พวกเรา

น้อมระลึกถึงพระพุทธองค์ รีบสร้างกุศล  ภาวนาพุทโธทุกลมหายใจ  เเละ

อย่าลืม รหัสลับ "อาจารย์อุบลช่วยด้วย " ซึ่งท่านอาจารย์เมตตาเเนะให้พวกเรารอดพ้นค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ค่ะ

«


 
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 02:38:19


ความคิดเห็นที่ 1939 (1572195)

น้ำท่วมสุโขทัยกลับสู่วิกฤติอีกครั้ง

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 18:05 น.

สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย กลับสู่วิกฤติอีกครั้ง น้ำป่าจากกำแพงเพชร น้ำเหนือในแม่น้ำยม สูง 7 เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมถนน 12 สาย ระทมทั้งจังหวัด

ล่าสุด อ.เมืองสุโขทัย เริ่มกลับสู่สภาวะวิกฤติอีกครั้ง จากน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ล้นสปริงเวย์ 88 ซ.ม. น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย อ.บ้านด่านลานหอย ล้นสปริงเวย์ 35 ซ.ม. น้ำป่าจากอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ไหลลงมารวมกันกับน้ำที่มีต้นทุนเดิมสูงอยู่แล้วที่คลองแม่ลำพัน อ.เมือง และระดับน้ำเหนือในแม่น้ำยม ที่สูงขึ้นถึง 7 เมตร ซึ่งรวมทั้งหมด 5 ทาง มารวมกันที่ อ.เมืองสุโขทัย โดยไม่สามารถระบายน้ำไปทางไหนได้ จะส่งผลให้น้ำเข้าท่วมถนนสาย 12 ถนนจรดวิถีถ่อง ระดับน้ำเพิ่มสูง 20-70 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนทางโรงพยาบาลสุโขทัย ได้ทำแนวกระสอบทรายกั้นน้ำไว้โดยรอบ จึงไม่ส่งผลเสียหายถึงด้านใน และจะต้องปิด
ทางเข้าออก เหลือเพียงทางเดียว ทำให้ผู้มาติดต่อไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนมากนี้ ได้เอ่อท่วมถนนตลอดสาย และทางจังหวัดสุโขทัย คาดว่าจะต้องรับวิกฤตินี้อีกระยะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 21:41:13


ความคิดเห็นที่ 1940 (1572208)

ปภ.อุตรดิตถ์เตือน18-20กย.ฝนตกหนัก

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:16 น.

หัวหน้า ปภ.จังหวัดอุตรดิตถ์ เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ระวัง 18 - 20 ก.ย. ฝนตกหนัก ถึงหนักมาก

นายสุรชัย ธัชกวิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่าจากรายงานสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ว่า ช่วงนี้สภาพอากาศ มีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า และประเทศลาวตอนบน และอาจมีผลกระทบทางภาคเหนือตอนล่างได้ ระยะ 1 - 2 วันนี้ สำหรับช่วงวันที่ 18 - 20 ก.ย. ร่องมรสุม จะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทย จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะนี้ ส่วนของภาคเหนือตอนล่าง ก็จะมีฝนตกกระจายเป็นบางแห่ง ทั้งนี้เพื่อความไม่ประมาท ปภ.จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แจ้งเตือนไปยังทางอำเภอต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อบต. และ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้ฟังพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้ตรวจสอบมิสเตอร์เตือนภัยให้พร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา ถ้ามีปริมาณน้ำฝนมากจนเกินเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีกระแสน้ำขุ่นข้น หรือลักษณะเป็นโคลน ให้เฝ้าดู สังเกตระดับน้ำที่เริ่มมีความสูง รีบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่อยู่ใกล้แนวสันเขา ที่เสี่ยงจะเกิดดินสไลด์ หรือ ใกล้ทางน้ำหลาก ควรเตรียมตัวให้พร้อม และควรเก็บข้าวของมีค่า และย้ายสัตว์เลี้ยง ไปไว้ในจุดอื่นที่ปลอดภัย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:04:05


ความคิดเห็นที่ 1941 (1572209)

เขื่อนใหญ่โคราช จ่อวิกฤติ

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:35 น.

ผอ.ชลประทานที่ 8 เผย ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่โคราช ทั้ง ลำตะคอง, ลำพระเพลิง, ลำมูลบน และ ลำแชะ ใกล้เต็มระดับความจุ

ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมาว่า ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ รวม 4 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา เกือบเต็มระดับความจุของอ่างทั้งหมดแล้ว เฉลี่ยประมาณร้อยละ 84 โดยเฉพาะ

อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำรวม 257.88 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร

อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 96.69 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 88.20 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร

อ่างเก็บน้ำลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 117.27 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ83 .17 ของความจุ ที่ระดับกักเก็บ 141ล้านลูกบาศก์เมตร

อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 245 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 89.09 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทางเขื่อนต้องเร่งพร่องน้ำลงสู่ลำน้ำสาขาใต้เขื่อน เพื่อรองรับมรสุม
ลูกใหม่ที่จะเข้ามาในระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย. ทำให้พื้นที่ลุ่มที่น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ถูกน้ำท่วม

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:04:51


ความคิดเห็นที่ 1942 (1572210)

 

 

กทม.จัดเสวนาอาคารสูงพร้อมรับมือแผ่นดินไหว

สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร เตรียมจัดงานเสวนาทางวิชาการและแถลงข่าวเรื่อง "การเตรียมความพร้อมสำหรับอาคารสูง ในการรับมือแผ่นดินไหว" เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการเจ้าของอาคารสูงในเขตกรุงเทพมหานคร ในการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างทันท่วงที

โดยมีผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ร่วมเสวนา อาทิ รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) หัวหน้าโครงการลดภัยพิบัติ จากแผ่นดินไหวในประเทศไทย , สมาคมวิศวกรรมสถาน และสำนักคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย

ซึ่งจะจัดในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2554 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 12.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:10:33


ความคิดเห็นที่ 1943 (1572211)

คาดหมาย จาก กรมอุตุฯ

ในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หลังจากนั้น

ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ย. ร่องมรสุมนี้จะมีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน

และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมี่คลื่นสูง 2-3 เมตร ในระยะนี้

---------------------------

พรุ่งนี้ 18 ก.ย. 54 ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมาฝนตกหนัก


ให้ระวัง และรักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะ

อ้างอิงจาก กรมอุตุฯ

สำหรับในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. นี้ ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝน เพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง


พรุ่งนี้ วันที่ 18 กันยายน 54

จะมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และ ทางช้างเผือก

ซึ่งคาดว่าดวงอาทิตย์จะมีปฏิกริยาระดับปานกลาง-มาก

------------

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:12:29


ความคิดเห็นที่ 1944 (1572212)

ปิดถนนมิตรภาพ อุดรฯ-หนองคาย 13สายจมบาดาล

วันที่ 17/09/2554 16:50





น้ำทะลักเซาะคอสะพานขาด สั่งปิดถนนมิตรภาพอุดร-หนองคาย ถนน 13 สาย-พื้นที่กว่า 20,000 ไร่ จมบาดาล เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากเมืองอุดรธานีตลอดทั้งคืน...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ถึงสถานการณ์น้ำท่วมอุดรธานี ว่า จากการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง อ่างเก็บน้ำบ้านจั่น อ่างเก็บน้ำกุดลิงง้อ และอ่างเก็บน้ำหนองสำโรง แม้ว่าอ่างฯห้วยหลวง จะลดการระบายน้ำออก 7.8 ล้านลบ.ม. มาเป็น 3.5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน แต่ระดับน้ำก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยถนนมิตรภาพ อุดรธานี – หนองคาย ระหว่างบ้านท่าตูม – บ้านดงลิง ต.หมูม่น อ.เมือง น้ำไหลข้ามถนนสูงขึ้นอีก 30 เซนติเมตร และเกิดการกัดเซาะบริเวณคอสะพานข้าม “ลำห้วยโซ่” จึงมีคำสั่งให้ปิดการจราจรฝั่งขาออกเมือง มาใช้ฝั่งขาเข้าเมืองแทน และเตรียมนำสะพาน “แบรี่” มาติดตั้ง ทำให้การจราจรติดยาวหลายกิโลเมตร ขณะน้ำมีระดับสูงขึ้นยังคงท่วม ถนน 13 สาย ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 11 สาย บ้านเรือน ฟาร์มปศุสัตว์ และเรือกสวนไร่นา ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 20,000 ไร่ และน้ำได้ไหลย้อนเข้าเทศบาลนครอุดรธานี จึงมีคำสั่งปิดประตูน้ำเข้าเมืองทั้งหมด และเร่งสูบน้ำออกจากเมืองตลอดทั้งคืน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ ทำให้ระดับน้ำที่ประตูน้ำห้วยหมากแข้ง ด้านในเมืองต่ำกว่านอกเมือง 70 เซนติเมตร และน้ำได้ไหลข้าม “รางรถไฟ” สายอุดรธานี – หนองคาย บริเวณทางพาดถนน บ้านท่าตูม – บ้านหมูม่น ต.หมูม่น เจ้าหน้าที่การรถไฟได้มาซ่อมแซม เฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ตลอด 24 ชม. เพราะรถไฟยังคงเดินรถผ่านไปมาอยู่ แต่ก็เป็นไปด้วยความระมัดระวัง

ต่อมาเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องคำชะโนด ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ดูแลสถานการณ์น้ำท่วม จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร เดินทางมาร่วมประชุมด่วน รับทราบสถานการณ์ล่าสุด พร้อมกับนายอนันต์ ศรีพันธ์ นางเทียบจุฑา ขาวขำ และนายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นำหัวหน้าหน่วยราชการ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ก่อนจะเดินทางไปมอบถุงยังชีพที่ อบต.หมูม่น และ อบต.กุดสระ อ.เมือง อุดรธานี และขึ้นเครื่องบินตรวจสภาพน้ำท่วม

นายคมสัน ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีเคยประสบอุทกภัยมาแล้ว จากอิทธิพลของ “พายุนกเตน” และครั้งนี้ก็เกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง มีปริมาณสูงเกินระดับ มีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกมา โดยระบายมาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.ในระดับที่ไม่มากนัก จนวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ต้องระบายน้ำออกมาวันละ 7.8 ล้าน ลบ.ม. ต่อมาได้ลดระดับระบายลงเหลือ 3.5 ล้าน ลบ.ม. ในระดับที่อ่างฯปลอดภัย ส่งผลให้น้ำท่วม 6 อำเภอ 121 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,779 ครัวเรือน ถนนน้ำท่วม 21 สาย สัญจรไม่ได้ 15 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 18,125 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เดียวกับกรณี “พายุนกเตน” และยังคงเฝ้าระวังฝนที่จะตกลงมาอีก

นายต่อพงษ์ กล่าวว่า วันนี้มาแก้ปัญหาปลายเหตุ จากความเสียหายที่เกิดขึ้น นักการเมืองก็มาแบกภาระไว้ หากคำนวณเฉพาะพื้นที่การเกษตร จะต้องช่วยชาวบ้านกว่า 90 ล้านบาท ไม่รวมเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย มันเป็นเหตุผลที่ยอมรับได้ ว่ามีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ ก็เพราะอ่างฯมีปริมาณน้ำกักเก็บเกินแล้ว แต่การระบายน้ำจากอ่างฯไม่มีการบูรณาการ ไม่แจ้งให้หน่วยงานต่างๆเตรียมพร้อม ไม่แจ้งสื่อมวลชน ชาวบ้านให้รู้ เหมือนกับต่างคนต่างอยู่ ถ้ามีการเตรียมพร้อมจะไม่เสียหายขนาดนี้ ต้องมาทบทวน “อุดรโมเดล” กันใหม่

นายต่อพงษ์ กล่าวต่อว่า ให้นายอำเภอเป็นเจ้าภาพพื้นที่ตัวเอง บูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง กับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญในระยะแรก จะต้องประเมินสถานการณ์ขณะนี้ และหากมีพายุลูกใหม่เข้ามา จะช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไร ทุกหน่วยงานเข้ามาดูแล ระยะต่อไปคือ การเตรียมการเยียวยาเมื่อน้ำลดลง ต้องพร้อมสามารถดำเนินการทันที และระยะยาวต้องรวบรวมประเด็นปัญหา วางแผนแก้ไขแบบยั่งยืน ประสานงานกับ ส.ส. และตัวแทนประชาชนในพื้นที่

นายต่อพงษ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาน้ำท่วมที่อุดรธานี เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย สร้างผลกระทบที่รุนแรงพอสมควร สำหรับเรื่องปัญหาสุขภาพของประชาชน เมื่อเกิดน้ำท่วมขึ้นอาจมีอาการช็อกในวิกฤติน้ำ ที่อยู่ๆ น้ำก็ไหลท่วมขึ้นมา ระบบเตือนภัยก็ไม่สามารถทำงานได้ทันท่วงที ดังนั้นการเยียวยาสภาพจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญ ตนได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการเขต 10 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และ ผอ.โรงพยาบาลทุกแห่ง ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลทางด้านภาวะจิตใจเป็นการเบื้องต้น ส่วนเรื่องสุขภาพขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องโรคระบาดแต่อย่างใด แต่ถ้าสถานการณ์น้ำท่วมยังคงท่วมยาว เราจะต้องมีมาตรการดูแลเรื่องของโรคระบาด และโรคที่มากับน้ำ เช่น โรคเท้าเปื่อย ท้องร่วง หรือ โรคฉี่หนู โดยจะมีการเตรียมเครื่องเวชภัณฑ์ เข้ามาควบคุมโรคได้ทันเวลา

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:13:10


ความคิดเห็นที่ 1945 (1572213)

กว่า300ครัวเรือนบ้านท่าตูมอุดรฯจมน้ำ ถูกตัดขาดโลกภายนอก มทบ.24รุดช่วย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:13:53


ความคิดเห็นที่ 1946 (1572214)

อุดรธานี-ทะลักไม่หยุด! น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนภายในคืนเดียว จนชาวบ้านต้องย้ายขึ้นอาศัยข้างถนน ด้านกองทัพภาค 2 ส่งเสธฯ ลงสำรวจพื้นที่ประสบภัย เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ เผย 2 วันแล้วที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และไม่มีใครมาให้ความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุดรธานีว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านท่าตูม บ้านท่าตูม หมู่ที่ 5 ตำบลหมูม่น อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ประชาชนที่พักอาศัยที่บ้านท่าตูมเกือบทั้งหมดที่มีกว่า 300 หลังคาเรือนที่ประสบภัย ต้องต่างพากันเก็บของขึ้นบนที่สูงกันจ้าละหวั่น เมื่อน้ำมีระดับสูงขึ้น จนบางครอบครัวต้องเก็บสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นมาไว้ที่ไหล่ถนน และใช้ไหล่ถนนเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ซึ่งบางครัวเรือนต้องย้ายออกไปพักกับลูก หรือญาติพี่น้องที่บ้านน้ำท่วมไม่ถึง

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงเรือไปสำรวจพื้นที่บ้านท่าตูมพบว่า น้ำที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านนั้นไหลเข้ามาเร็วมาก และระดับน้ำมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างพากันเก็บสิ่งของขึ้นที่สูงไว้หมด ส่วนบ้านหลังไหนไม่มีชั้นสองของตัวบ้านก็ปล่อยให้น้ำท่วมอยู่อย่างนั้น
นางดวงจันทร์ บุญครอบ อายุ 40 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ในหมู่บ้านหลังวัดท่าตูม ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเกือบถึงชั้นสอง บอกว่าปีนี้น้ำมาเร็วมาก จนไม่สามารถเก็บทรัพย์ได้ทัน เสียหายมาก แต่ก็ไม่เป็นไร จะขอไปอาศัยลูกชายที่เป็นทหารอยู่ที่ค่ายหนองสำโรงชั่วคราวก่อน ส่วนทรัพย์สินเหลือเท่าไหร่ก็เหลือเท่านั้น

ด้านบ้านโนนยาง ม.5 ต.กุดสระ พบว่าน้ำกำลังไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเช่นกัน ชาวบ้านได้นำเอาสัตว์เลี้ยง วัว-ควาย กว่า 100 ตัว ไปปล่อยเลี้ยงไว้ที่สนามหญ้าของโรงเรียนบ้านโนนยาง ซึ่งสถานที่ดังกล่าวก็ได้เตรียมเอาไว้เผื่อว่าชาวบ้านจะได้อพยพมาอาศัยอยู่ หากว่าน้ำท่วมสูง
ซึ่งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พ.อ.อำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบพื้นที่ที่ประสบกับน้ำท่วมที่บ้านแวง บ้านหมู่ม่น ตำบลหนองสำโรง และบ้านนากว้าง ตำบลนากว้าง ซึ่งพบว่าหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตรในหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมจนพื้นที่การเกษตรจมมิด มีน้ำท่วมในหมู่บ้านหนักและทุกหลังคาเรือน คือ ที่บ้านสูงแคน น้ำท่วมถนนระหว่างหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตร หลายสาย การเดินด้วยรถยนต์ไม่สามารถทำได้

โดยเฉพาะระหว่างบ้านทุ่งแร่-บ้านโนนสมบูรณ์ ระดับน้ำท่วมสูงมาก และที่บ้านโนนสมบูรณ์ ม.5 ต.หมู่ม่น มีบ้านเรือนอยู่ 125 หลังคาเรือน ประชาชน 550 คน ถูกน้ำท่วมล้อมรอบ จนไม่สามารถเดินทางออกไปติดต่อกับหมู่บ้านอื่น และคนอื่นก็ไม่สามารถเดินทางไปที่หมู่บ้านดังกล่าวได้

พ.อ.อำนวย กล่าวว่า ทางกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสั่งกัดออกสำรวจความเดือดร้อนและความเสียหายรายงานให้หน่วยเหนือทราบ เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกับยืนยันว่ากองทัพจะจัดสิ่งของจำเป็นเข้ามาช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด

ด้านนายชูชาติ กลีบบัว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอ่างเก็บน่ำห้วยหลวง ได้ทะยอยลดปริมาณระบายน้ำออกจากอ่างลดลงไปเรื่อยๆจากที่เคยระบายออกวันละ 8-9 ล้าน ลบ.ม.เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2554 จนถึงวันนี้ (16 ก.ย.) เหลือจำนวน 37 ล้าน ลบ.ม./วัน เนื่องจากว่ามีน้ำไหลลงอ่างลดน้อยด้วย จึงลดปริมาณระบายน้ำ นอกจากนี้คาดว่าสถานการณ์ของน้ำท่วมในหลายพื้นที่จะลดลงสู่สภาพปกติในเร็ววันนี้
ล่าสุดสถานการณ์ระดับน้ำที่บริเวณถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย ที่บ้านท่าตูม ขณะนี้ ระดับไหลท่วมถนนทั้ง 2 เลนทั้งขาเข้าเมือง และออกนอกเมืองแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:14:24


ความคิดเห็นที่ 1947 (1572215)

ฝนตกหนักเมืองเลยทำบ้านเรือนพังกว่า150หลังคานาข้าวกว่า 4,000 ไร่จมน้ำ

วันที่ 17/09/2554 15:32





เลย-รมต.ทรัพยากร เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยและมอบถุงยังชีพที่จังหวัดเลย หลังฝนตกหนักสร้างความเสียหายบ้านพักอาศัย 168 หลังคาเรือน นาข้าว 4,360 ไร่ บ่อปลา 295 บ่อ เหมืองฝาย 6 แห่ง ถนนชำรุด 41 สาย

วันนี้( 16 ก.ย.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมต.ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นายประณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเลย และมอบถุงยังชีพแก่ ราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วม อำเภอวังสะพุง,ที่ อบต.ปากปวน อำเภอเมืองเลย ,และอำเภอภูกระดึง ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 ชุด

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ในระหว่างวันที่ 12-16 กันยายน 2554 ที่ผ่านมาจังหวัดเลยได้รับอิทธิพล จากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ทำให้เกิดฝนตกปานกลางถึงตกหนักมากในทุกพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขัง ที่อยู่อาศัย และพื้นที่เกษตรทั้ง 12 อำเภอ 37 ตำบล 9 ชุมชน 168 หมู่บ้าน3,757 ครัวเรือน

โดยแบ่งเป็นความเสียหายบ้านพักอาศัยเสียหายเบื้องต้น 168 หลังคาเรือน นาข้าว 4,360 ไร่ บ่อปลา 295 บ่อ เหมืองฝาย 6 แห่ง ถนนชำรุด 41 สาย จังหวัดให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา แบบบูรณาการออกไปช่วยเหลือประชาชนประกอบด้วย จังหวัดทหารบกเลย ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้นำอาหารกล่องและน้ำดื่มแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย วันละ 3 มื้อ ยาสามัญประจำบ้านและรองเท้าบู๊ท
ขณะที่นายธนวัฒน์ สวรรยาธิปัติ นายอำเภอเมืองเลย กล่าวเสริมว่า ฝนที่ตกหนักช่วงวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณต้นน้ำในเขตอ.ภูหลวงและลำน้ำสาขาซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำเลยในปริมาณที่มาก ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง และน้ำท้วมฉับพลันในเขตพื้นที่ เขตเทศบาลเมืองเลย ตำบลนาโป่ง ตำบลนาอาน อำเภอเมืองเลย

ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหาย มี 8 ตำบล 1 เทศบาล ผู้ประสบความเดือนร้อน 7,373 คน บ้านพักอาศัย 2,250 หลัง ส่วนพื้นที่ทางการเกษตร ด้านการประมง ปศุสัตว์ สิ่งสาธารณประโยชน์ อยู่ระหว่างการสำรวจเนื่องจากพื้นที่ความเสียหายมีเป็นจำนวนมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:15:04


ความคิดเห็นที่ 1948 (1572217)

นาซาระบุ ดาวเทียมปลดประจำการอาจโหม่งโลก 23 ก.ย.นี้

ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรและภูมิสารสนเทศ หรือยูเออาร์เอส

ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรและภูมิสารสนเทศ หรือยูเออาร์เอส
เอเอฟพี - องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซาคาด ดาวเทียม ที่มีอายุการใช้งาน 20 ปี ดวงหนึ่ง ซึ่งคอยวัดชั้นโอโซน อาจจะตกสู่พื้นโลกในช่วงปลายสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่รู้ตำแหน่งว่าดาวเทียมดังกล่าวจะตกลงที่ใด

องค์การด้านอวกาศของสหรัฐฯ ย้ำว่า ความเสี่ยงจากการที่ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรและภูมิสารสนเทศ หรือยูเออาร์เอส ตกสู่พื้นโลกต่อความปลอดภัยของคนนั้นมี "น้อยมาก" โดยว่าดาวเทียมจะเผาไหม้เกือบหมดตั้งแต่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้ว

นาซาอัพเดตสรุปบนเว็บไซต์ว่า ดาวเทียมดวงนี้น่าจะกลับสู่โลกในวันที่ 23 กันยายน อาจจะเร็วกว่า หรือช้ากว่านั้น 1 วัน โดยการกลับโลกของยูเออาร์เอสนั้นเร็วขึ้น เนื่องจากกิจกรรมของดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันตั้งแต่เริ่มต้นสัปดาห์นี้

"ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของนาซา" องค์การอวกาศของสหรัฐฯ เสริมว่า โดยชี้ว่าตามประวัติศาสตร์ยังไม่เคยมีรายงานที่ได้รับการยืนยันว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการที่วัตถุอวกาศกลับสู่ผืนโลกเลย

ดาวเทียมปลดประจำการอาจตกลงสู่ที่ใดก็ได้ในช่วงละติจูด 57 องศาเหนือ และ 57 องศาใต้ ซึ่งเป็นอาณาเขตขนาดกว้างใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ส่วนการคาดการณ์นั้นจะแม่นยำกว่านี้เมื่อวัตถุดังกล่าวใกล้เข้ามาแล้วเท่านั้น

สำหรับดาวเทียมยูเออาร์เอสดวงนี้ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรในปี 1991 โดยยานดิสคัฟเวอรี มีขนาด 35x15 ฟุต หนัก 13,000 ปอนด์ พร้อมอุปกรณ์วิทยาศาสตร์สำหรับวัดกระแสลม อุณหภูมิ และองค์ประกอบเคมีในโอโซน อีก 10 ชิ้น และถูกปลดประจำการอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2005

ยิ่งไปกว่านั้น นาซายังแนะนำผู้ใดก็ตามที่พบชิ้นส่วน ซึ่งคาดว่าอาจเป็นซากจากอวกาศ จงอย่าแตะต้องชิ้นส่วนเหล่านั้น แต่ให้แจ้งทางการเพื่อรับความช่วยเหลือ
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:16:56


ความคิดเห็นที่ 1949 (1572218)

ศอส.เผย"ภูมิพล-สิริกิติ์-แควน้อยฯ-ปาสักฯ"วิกฤต ต้องเร่งระบายน้ำออก เตือนปชช.เตรียมพร้อม

วันที่ 17/09/2554 15:02



เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 26 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ยโสธร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา นครนายก ตาก สระแก้ว และปราจีนบุรี รวม 165 อำเภอ 1,095 ตำบล 6,915 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 408,783 ครัวเรือน 1,412,357 คน ผู้เสียชีวิต 102 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตร 4,043,993 ไร่

สำหรับสถานการณ์น้ำในทุกลุ่มน้ำต่างๆ ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งอยู่แล้วระดับน้ำท่วมจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 3,786 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,694 ลบ.ม./วินาที และผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,089 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ที่ลุ่มต่ำบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี

ทางด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำร้อยละ 87 ของความจุอ่าง เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 96 ของความจุอ่าง เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำมากเกินความจุร้อยละ 102 ของความจุอ่าง และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 95 ของความจุอ่าง ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อพร่องน้ำอย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ส่วนกรุงเทพมหานครพื้นที่ด้านตะวันออกนอกคันกั้นน้ำบริเวณเขตมีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง ยังมีน้ำท่วมในบางพื้นที่ ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:18:02


ความคิดเห็นที่ 1950 (1572220)

รพ.อินทร์บุรีวิกฤติ! น้ำสูงกว่า 2 ม. ออกซิเจนใช้ได้แค่ 10 วัน

วันที่ 17/09/2554 15:00

 


 

รพ.อินทร์บุรีอยู่ในขั้นวิกฤติ ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พื้นที่รอบรพ.น้ำสูงกว่า 2 เมตร ขณะที่น้ำใต้ดินซึมเข้าอาคาร เร่งส่งผู้ป่วยหนักที่ใช้ออกซิเจนส่งโรงพยาบาลเครือข่าย ผอ.รพ.คาดมีออกซิเจนใช้ได้อีก 10 วัน...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำจากจังหวัดสิงห์บุรีว่า ปริมาณการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 3,694ลบ.ม/วินาที ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้างมากขึ้น ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงกระจายท่วมแผ่เป็นวงกว้างทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ รพ.อินทร์บุรี นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผวจ.สิงห์บุรี ได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่ รพ.อินทร์บุรี ซึ่ง พญ.วนิดา สาดตระกูลวัฒนา ผอ.รพ.อินทร์บุรี ได้รายงานว่า ขณะนี้รพ.อินทร์บุรีอยู่ในขั้นวิกฤติ ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมรอบนอกของรพ.อินทร์บุรีทั้งสี่ด้านสูงประมาณ 2 เมตรกว่า และก็ได้มีน้ำใต้ดินซึมเข้ารพ.ที่เป็นพื้นที่ต่ำมากบางส่วนของรพ. ทางรพ.จึงต้องนำกระสอบทรายมาทำเป็นคันล้อมจุดที่น้ำซึมแล้วสูบน้ำออกทิ้ง และในขณะนี้ระดับน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รถที่จะนำออกซิเจนเข้าไปเติมให้ทางรพ.เข้ามาไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อเป็นการลดการใช้ออกซิเจน ทางรพ.จึงส่งคนไข้ที่ต้องใช้ออกซิเจนในปริมาณมากไปรักษาตัวยังรพ.เครือข่ายที่ได้ติดต่อไว้ คือ รพ.สิงห์บุรี รพ.พระนารายณ์ จ.ลพบุรี รพ.สระบุรี จ.สระบุรี ตอนนี้ได้ทำการส่งคนไข้ที่ต้องใช้ออกซิเจนในปริมาณมากไปยังรพ.ต่างๆแล้ว จำนวน 5 ราย คาดว่าปริมาณออกซิเจนของรพ.อินทร์บุรี ยังคงเหลือใช้ได้อีกประมาณ 10 วัน

พญ.วนิดา ขอเตือนและประชาสัมพันธ์มาอีกว่า ผู้ป่วยหรือญาติที่ลงเรือเข้ารพ.อินทร์บุรีทุกท่าน ทางรพ.อินทร์บุรีได้จัดเตรียมเสื้อชูชีพไว้ให้ทุกท่านที่ต้องลงเรือ ขอความกรุณาใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำสูงมาก และกระแสน้ำแรงอาจเกิดอันตรายได้

ด้านนายบุญธรรม วีระษร ผจก.ส่วนบริการลูกค้า บริษัท ที.โอ.ที. จำกัด (มหาชน) จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ในสภาวะอุทกภัยของจังหวัดสิงห์บุรี ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในด้านที่อยู่อาศัย การคมนาคม การสื่อสารทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน หากต้องการย้ายอุปกรณ์หรือมีเหตุขัดข้องด้านโทรศัพท์พื้นฐานและอินเทอร์เน็ต สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุขัดข้อง 1177 หรือที่เบอร์ 036-522222.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:19:03


ความคิดเห็นที่ 1951 (1572222)

ฮือฮา! บ.หนังมะกัน จ่อสร้างหลุมหลบภัย หนีวันสิ้นโลก

วันที่ 17/09/2554 17:30





บริษัทพิงค์ วิชวล บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ ของสหรัฐอเมริกา เผยว่า วางแผนจะสร้างหลุมหลบภัยเพื่อหลบเลี่ยง หายนะวันสิ้นโลกในปี 2012...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ว่า บริษัทพิงค์ วิชวล บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ ของสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยแผนการ ที่จะสร้าง "หลุมหลบภัย" ขนาดยักษ์ขึ้นใต้ดิน เพื่อหลบเลี่ยงภัยพิบัติวันสิ้นโลกที่(อาจ)จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012 ตามที่มีกล่าวเอาไว้ในปฏิทินของชนเผ่ามายัน

"ไม่ว่าหายนะครั้งนี้จะเกิดจากอุกกาบาตพุ่งชนโลก, ฝนตกหนักจนน้ำท่วมโลก, เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนทำให้เกิดเมกาสึนามิ, กัมมันตภาพรังสีแผ่กระจายจนเกิดซอมบี้อาละวาด หรือทั้งหมดรวมกันก็ตาม เป้าหมายของเรา เพียงแค่ต้องการมีชีวิตรอดจากวันสิ้นโลก ในที่ที่ปลอดภัยและหรูเริดเท่านั้น" คำพูดจากนายเควนติน บอเยอร์ โฆษกของ พิงค์ วิชวล

เขายังเปิดเผยรายละเอียดของหลุมหลบภัย ซึ่งคงความเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่เอาไว้อย่างครบถ้วนว่า ในหลุมหลบภัยจะประกอบไปด้วยบาร์เหล้าและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เวทีสำหรับการแสดงโชว์ขนาดใหญ่พร้อมเสา และสตูดิโอสำหรับถ่ายทำสภาพภายใน รวมทั้งห้องส่วนตัว หรือแม้แต่จอรับสัญญาณภาพจากดาวเทียมขนาดใหญ่ เพื่อรับชมความเป็นไปของโลกภายนอก และยังเผยอีกว่า แขกผู้มีเกียรติที่จะได้รับเชิญมาในงานที่หลุมหลบภัยนี้ จะมีไม่เกิน 1,500 คน รวมถึง นักแสดงของพิงค์ วิชวล ทีมงาน และผู้ที่ติดตามบริษัทในทวิตเตอร์ ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ในการพิจารณาก่อนใคร

นายบอเยอร์แย้มว่า ผู้ที่ได้รับเชิญจะร่ำสุราและนารี(บุรุษ)กันอย่างสุดเหวี่ยง ในคืนที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วนี้ "มันช่วยไม่ได้ เรื่องอย่างว่ามันต้องเกิด แต่ก็บอกยากว่าผู้คนจะรู้สึกอย่างไรถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ"

ทั้งนี้ตำแหน่งที่แน่นอนของหลุมหลบภัยที่ว่า ไม่ถูกเปิดเผยออกมา โดยนายบอเยอร์ให้เหตุผลว่า เพื่อความปลอดภัย และเสริมว่า ตอนนี้พวกเขากำลังแก้ปัญหาเรื่องระบบออกซิเจน อยู่ "ถ้าไปได้สวย มันจะเป็นค่ำคืนที่มหัศจรรย์ และจากนั้นเราก็จะออกจากที่หลบภัยขึ้นสู่ผืนดินเบื้องบน ด้วยใบหน้าแดงก่ำ และกลับบ้าน ส่วนบริษัทจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ในหลุมหลบภัยที่เยี่ยมยอดที่สุดที่มนุษยชาติเคยรู้จัก" บอเยอร์กล่าวส่งท้าย


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย somsweet : วันนี้ เมื่อ 05:52 PM
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:20:27


ความคิดเห็นที่ 1952 (1572223)

พิษน้ำท่วม โบราณสถานอ่วม "ดอยสุเทพ"ดินเลื่อนไหล

วันที่ 17/09/2554 18:04





พิษน้ำท่วม โบราณสถานอ่วม กำแพงแก้ว วัดพระยืนพังระเนระนาดกว่า 50 เมตร ส่วนพระธาตุดอยสุเทพ เกิดปัญหาดินสไลด์ หวั่นบานปลาย วธ.เร่งของบประมาณบูรณะ เสริมความมั่นคง...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) พร้อมด้วยนายปรีชา กันธิยะ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ วธ. นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้ตรวจราชการ วธ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลำพูน และเชียงใหม่ โดยนางสุกุมล กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า มีโบราณสถานได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะที่วัดพระยืน จ.ลำพูน น้ำได้กัดเซาะตัวกำแพง จนดินที่ยึดเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ตัวกำแพงแก้วพังลงยาวกว่า 50 เมตร โดยกรมศิลปากร ได้ของบประมาณในการบูรณะ จำนวน 7 แสนบาทแล้ว

ขณะที่ในส่วนของพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ พบว่า มีปัญหาเรื่องดินสไลด์ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ดินสไลด์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการแก้ปัญหาเบื้องต้น ทางกรมศิลปากรได้มีการเสริมความมั่นคงของหน้าดินไปแล้วบางส่วน แต่คิดว่ายังไม่เพียงพอ จึงจะต้องของบประมาณในปี 2555 เพิ่มเติมจำนวน 29 ล้าน เพื่อเสริมความมั่นคงในภาพรวมทั้งหมด

นางสุกุมล กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่แหล่งโบราณคดีเวียงกุมกามนั้น พบว่า ได้มีน้ำท่วมขังอยู่ตลอดเวลา เพราะมีการขุดลึกลงไป 1-2 เมตร ทำให้เกิดน้ำซึมเข้ามาจากใต้ดิน ซึ่งการแก้ไขในปัจจุบันมีเพียงการติดเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เพื่อสูบน้ำในพื้นที่ออก แต่พื้นที่ที่มีการขุด มีขนาดใหญ่มาก ดังนั้น ตนจึงได้ปรึกษาทางเทศบาลท่าวังตาล เพื่อให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เข้ามาเวียนสูบน้ำออกเป็นจุดๆ ไป เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้โบราณสถานเสื่อมสภาพ และเสียหายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีโบราณสถานที่น่าเป็นห่วงมากขณะนี้ คือ ที่ พระราชวังจันทน์ จ.พิษณุโลก เนื่องจากได้รับรายงานว่า น้ำได้เข้าท่วมขังบริเวณที่มีการขุดแหล่งโบราณคดีเกือบหมดแล้ว โดยในวันที่ 18 ก.ย. นี้ ตนพร้อมคณะผู้บริหารของกรมศิลปากร จะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายพร้อมประเมินสถานการณ์ทั้งหมดต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-17 22:23:15


ความคิดเห็นที่ 1953 (1572252)

อนุโมทนาค่ะคุณอาริยา..

มีทั้งข่าวเตือนภัยและบทความ"เตือนใจ"

ไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท สาธุ

 

บ้านลอยน้ำดูน่ารักดีนะคะ

แถมเข้ากับยุคนี้ซะด้วย..

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 04:17:19


ความคิดเห็นที่ 1954 (1572592)

คุณชนิดาคะ ลองดูภาพข่าวนี้ เเล้วอาริยาสัมผัสได้ถึงความเมตตา กรุณา เอื้ออาทร ของต้นไม้ผู้ใจบุญในภาพนี้  ขออนุโมทนาบุญด้วยคนกับเทพเทวดาที่รักษาต้นไม้ในป่านี้ค่ะ     ขอให้ความเมตตา กรุณา เอื้ออาทรนี้ได้ส่งไปยังทุกคนในโลกได้สัมผัสเเละส่งต่อๆกันด้วยเถิด  โลกของเราจะได้เพิ่มพลังบวก ความสุขกันเยอะๆ ค่ะ

------------------------------

Amazing ต้นไม้ใช้รากสร้างสะพานขนาดใหญ่ให้มนุษย์เดินข้ามลำห้วย

 

 

ที่ประเทศอินเดียได้เกิดสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้น เมื่อต้นไม้สองต้นอยู่คนละฝั่งของลำห้วย ได้แผ่รากยาวข้ามลำห้วยเข้าหากัน จนเป็นสะพานที่ใหญ่ แข็งแรง รองรับคนเดินข้ามพร้อมกันได้ทีละหลายๆคน

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมธรรมชาติแห่งนี้ต่างล่ำลือยกไห้เป็นสิ่งอัศจรรย์ของโลกอีกแห่ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ..ไปดูคลิป

ไปดูคลิป



บางทีต้นไม้ที่มีอายุยืนยาวมาแต่ครั้งโบราณ ก็ทำให้คิดต่อว่าต้นไม้มีชีวิตสร้างสะพานเพื่อใคร.. หรือท่านๆคิดว่าไงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 22:46:44


ความคิดเห็นที่ 1955 (1572594)
สะพานแบริ่งเชียงรายถล่ม เหตุรถพ่วงฝืนแล่นผ่าน

วันที่ 18/09/2554 18:22





เกิดเหตุสะพานแบริ่งข้ามแม่น้ำคำ ที่นำมาใช้แทนสะพานเดิมชั่วคราว หลังจากถูกน้ำซัดขาดช่วงน้ำหลาก พังถล่มจนใช้งานไม่ได้ หลังจากรถพ่วงขนทรายฝืนแล่นผ่าน ทำให้ 2 อำเภอของเชียงรายเดือดร้อน...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ก.ย. ร.ต.ท.มังกร แสนมา ร้อยเวร สภ.เชียงแสน รับแจ้งเหตุรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกทรายขับข้ามสะพานแบริ่งข้ามแม่น้ำคำ ถนนสายเชียงแสน - เชียงของ บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แล้วเกิดพังถล่มจนรถตกลงไปในแม่น้ำ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สินทิช กรกฏกำจร รอง ผกก.สส.สภ.เชียงแสน นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากการสัญจรถูกตัดขาดอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ น้ำซัดสะพานคอนกรีตเสียหาย จนต้องสร้างสะพานแบริ่งให้สัญจรชั่วคราว

ขณะเดียวกัน ยังพบรถพ่วงส่วนหัว ทะเบียน 70 - 3651 เชียงราย และตัวพ่วง 70 - 3652 เชียงราย ซึ่งบรรทุกทรายมาเต็มคัน ตกลงไปในแม่น้ำพร้อมกับสะพาน ต่อมา นายถนัด ริมพิสอน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 4 ต.สถาน อ.เชียงของ จ. เชียงราย ซึ่งเป็นคนขับรถ ได้เข้าพบตำรวจ พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขับรถไปบรรทุกทรายมาจากท่าทรายแห่งหนึ่งใน อ.เชียงแสน จะนำไปส่ง อ.เชียงของ แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ขับสวนกับรถพ่วงคันอื่น จึงสอบถามว่าขับผ่านสะพานแบริ่งได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ผ่านได้ เลยขับผ่าน กลับปรากฏว่าสะพานหักและรถตกลงไปในแม่น้ำพร้อมกับสะพาน

ด้าน ร.ต.ท.มังกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2554 เกิดฝนตกหนักกระแสน้ำเชี่ยว ทำให้สะพานคอนกรีตนี้พังลงไปในแม่น้ำ จากนั้น แขวงการทางเชียงคำ และหมวดการทางเชียงแสน ได้นำสะพานเหล็กแบริ่งมาติดตั้งเป็นการชั่วคราว เพื่อให้รถเล็กสัญจร โดยห้ามรถน้ำหนักเกิน 8 ตัน หรือ รถตั้งแต่ 6 ล้อผ่าน แต่คนขับรถฝ่าฝืนข้อห้าม จนสร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน อ.เชียงของ และ อ.ดอยหลวง ที่จะมา อ.เชียงแสน เพราะต้องใช้เส้นทางอ้อมเป็นระยะทางเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ทั้งนี้ เบื้องต้น ได้ตั้งข้อหาคนขับรถพ่วงว่าขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจร และขับรถโดยประมาท ก่อให้เกิดอันตราย จนทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 22:52:14


ความคิดเห็นที่ 1956 (1572595)

ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย "
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 18 กันยายน 2554
ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศพม่าและประเทศลาวตอนบนเริ่มเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย (18-20 ก.ย.) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่
สำหรับร่องมรสุมนี้จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างประมาณวันที่ 20 ก.ย. ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น

ประกาศ ณ วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 17.30 น.




สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 22:53:00


ความคิดเห็นที่ 1957 (1572596)

เขื่อนลำปาวเร่งระบายน้ำ ทำพื้นที่ 5 อำเภอเผชิญน้ำท่วม

กาฬสินธุ์- ฝนตกหนักทั่วทั้ง 18 อำเภอ ซ้ำเขื่อนลำปาวเร่งระบายน้ำ ส่งผลให้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างออกเป็น 5 อำเภอ พื้นที่เหนือเขื่อนถูกน้ำท่วมบ้าน ส่วนท้ายเขื่อนต้องระดมสูบน้ำป้องกันนาข้าวเสียหายตลอด 24 ชม.

จากการสำรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ ยังคงวิกฤตในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนหัวเขื่อนหรือท้ายเขื่อนต่างก็ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมนาข้าว และยังมีแนวโน้มว่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากในพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนลำปาวต้องระบายน้ำเพื่อรักษาสมดุลของตัวเขื่อนลำปาว

แม้แต่พื้นที่หัวเขื่อนอย่างบ้านโนนศิลา ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร นาข้าว และไร่อ้อยจนเสียหายบริเวณกว้างซึ่งยังไม่มีการอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่บริเวณท้ายเขื่อนขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และน้ำที่ล้นตลิ่งทั้งลำน้ำปาวและแม่น้ำชีได้ขยายวงกว้างออกเป็น 5 อำเภอที่ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และอ.ร่องคำ

ขณะนี้ระดับน้ำในลำน้ำปาวยังคงเพิ่มสูงขึ้นล่าสุดวัดได้สูงถึง 8.63 เมตร ที่เกินจุดวิกฤตแล้วกว่า 1.50 เมตร ทำให้ราษฎรในพื้นที่ 5 อำเภอต้องเผชิญกับภาวะน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวในพื้นที่ชลประทานเกือบ 3 แสนไร่กำลังถูกน้ำท่วม

ขณะที่บริเวณกุดขี้นค ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ถึง 5 ตัว เพื่อสูบน้ำตลอด 24 ชม.ป้องกันน้ำล้นพนังไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรและป้องกันนาข้าวในพื้นที่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม.ทั้ง 18 อำเภอและเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายเพื่อที่จะได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 22:54:06


ความคิดเห็นที่ 1958 (1572597)

พบปลาตายนับล้านตัวที่จีน หวั่นเกิดภัยฯหนัก




(NaturalNews) Two days before the massive 9.0+ magnitude earthquake struck off the coast of Japan, millions of dead fish were found mysteriously blanketing waters at King Harbor Marina in Redondo Beach, Calif.

And in a similar turn of events, millions of dead fish were recently discovered floating in China"s Minjiang River -- just a coincidence, or a sign of worse things to come?

What"s on Xiamen, a Chinese news source, reports that countless millions of dead fish were found floating on a large portion of the Minjiang River stretching from Huangtian in Gutian County, to Shuikou, an area that represents the largest grass carp breeding region in China"s Fujian Province. As many as nine million fish have reportedly died in Huangtian alone, thus far.----------------

 

--------------------------------

 

ข้อมูลแผ่นดินไหวทั่วโลกล่าสุด


Update time = Sun Sep 18 13:31:27 UTC 2011

  MAG UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s
LAT
deg
LON
deg
DEPTH
km
Region
MAP 4.8 2011/09/18 13:11:57 27.446 88.391 20.0 SIKKIM, INDIA
MAP 6.8 2011/09/18 12:40:48 27.730 88.082 20.7 SIKKIM, INDIA
MAP 2.5 2011/09/18 12:12:23 35.568 -117.425 6.2 SOUTHERN CALIFORNIA
MAP 2.5 2011/09/18 11:29:12 61.278 -146.830 3.2 SOUTHERN ALASKA
MAP 3.3 2011/09/18 10:56:28 59.853 -153.515 130.0 SOUTHERN ALASKA
MAP 5.0 2011/09/18 10:39:48 41.953 142.462 68.8 HOKKAIDO, JAPAN REGION
MAP 4.6 2011/09/18 10:01:28 18.638 145.289 225.5 PAGAN REGION, NORTHERN MARIANA ISLANDS
MAP 4.5 2011/09/18 07:55:30 -23.958 -66.736 189.9 JUJUY, ARGENTINA
MAP 5.6 2011/09/18 07:04:19 39.770 143.494 34.9 OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN
MAP 4.5 2011/09/18 06:45:40 -0.955 97.838 28.1 KEPULAUAN BATU, INDONESIA
MAP 4.6 2011/09/18 06:27:03 -16.800 41.977 10.1 MOZAMBIQUE CHANNEL
MAP 2.8 2011/09/18 02:20:42 38.834 -122.800 2.4 NORTHERN CALIFORNIA
MAP 2.9 2011/09/18 01:50:16 18.132 -66.048 19.5 PUERTO RICO


Earthquakes with M2.5+ within the United States and adjacent areas.)

ฯ ๗๑        

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 22:55:13


ความคิดเห็นที่ 1959 (1572600)

ชีทะลักท่วมเขตเมืองชัยภูมิ เหตุประตูระบายน้ำพัง

วันที่ 18/09/2554 20:33





แม่น้ำชีทะลักท่อระบายน้ำ เข้าท่วมเขตเมืองชัยภูมิ ทำให้ถนนสายหลัก 2 สายจม ห้างค้าปลีกได้รับผล กระทบ สาเหตุเนื่องจากประตูกั้นน้ำชีพัง ต้องเตือนประชาชนเตรียมรับมือ...

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีรายงานว่า แม่น้ำชีช่วงที่ไหลผ่าน จ.ชัยภูมิ ได้ทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิตั้งแต่เช้ามืด โดยถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว ตั้งแต่ห้าแยกโนนไฮ ไปถึง ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ถูกน้ำท่วม ร้านค้าและห้างค้าปลีกหลายแห่งได้รับผลกระทบ นอกจากนั้น น้ำยังทะลักท่วมถนนสายชัยภูมิ-บ้านเขว้า ที่เริ่มต้นจากห้าแยกโดนไฮเป็นระยะๆ โดยบางจุด ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ ขณะที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

ด้านนายบรรยงค์ เกียรติ์ก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชัยภูมิ กล่าวว่า สาเหตุน้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิครั้งนี้ เนื่องจากประตูระบายน้ำลงแม่น้ำชีในเขต ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ชำรุด ทำให้น้ำจากแม่น้ำชีไหลเข้ามาตามท่อระบายน้ำ และไหลเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมิ ทั้งนี้ ได้ออกประกาศเตือนร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิให้เฝ้าระวัง และติดตามข่าวสาร พร้อมย้ายสิ่งของที่อาจเสียหายไว้ในที่สูงแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 22:59:55


ความคิดเห็นที่ 1960 (1572601)

26 จว.ยังประสบอุทกภัย-เตือน!!8 จว.รับมือน้ำล้นตลิ่ง

วันที่ 18/09/2554 17:22


นายฉัตรป้อง ฉัตรภูตมิ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 26 จังหวัด 165 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 408,783 ครัวเรือน 1,412,357 คน มีผู้เสียชีวิต 112 คน และสูญหาย 2 คน

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำสะแกกรัง และลุ่มน้ำท่าจีน ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ยังคงมีน้ำมาก และอยู่ในระดับทรงตัว

ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 3,884 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ 8 จังหวัด ได้รับผลกระทบ ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี

นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งต้องปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อระบายน้ำ ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนและชุมชนริมฝั่งแม่น้ำได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเสริมแนวกระสอบทรายกั้นน้ำ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:00:45


ความคิดเห็นที่ 1961 (1572602)

ดินถล่มที่จีนตาย 9 คน

วันอาทิตย์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

 


ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้เกิดดินถล่มในมณฑลซานซีของจีน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้ ดินและหินที่ถล่มลงมาจากภูเขาลงมาทับโรงงานอิฐและทำให้โรงงานเซรามิคที่อยู่ใกล้เคียงได้รับเสียหายในเมืองซีอาน มณฑลซานี ทางตะวันตกของจีนเมื่อคืนวันเสาร์และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บ 5 คน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งประกอบด้วยตำรวจ,พนักงานดับเพลิงและชาวบ้านราว 700 คน กำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการทำงานก็เป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เขาเห็นภูเขาพังถล่มลงมา ตอนแรกคิดว่าเป็นแผ่นดินไหว เขาและภรรยาก็อุ้มลูกวิ่งหนีออกจากบ้าน พอเห็นต้นไม้ คลื่นดินก็มาถึงตัว เขาดันลูกขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ได้ แต่ตัวเขาหมดสติไปกับกองดินและมีรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาจากดินโคลนและถูกนำตัวส่งโรพยาบาล แต่ตอนนี้เขายังหาลูกคนเล็กและภรรยาไม่พบ


ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:01:50


ความคิดเห็นที่ 1962 (1572603)

ย่านธุรกิจพิษณุโลกจมน้ำ เสียหายร้อยล้าน

วันอาทิตย์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

สถานการณ์น้ำท่วม ย่านเศรษฐกิจ และศูนย์ราชการจังหวัดพิษณุโลก ยังวิกฤติหนัก ธุรกิจร้านค้าต้องหยุดดำเนินกิจการ คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

สถานการณ์น้ำท่วม ย่านเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ และสนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก ยังวิกฤติหนัก ธุรกิจร้านค้า บริเวณถนนหน้าสนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก ต้องหยุดดำเนินกิจการ ร้านสะดวกซื้อ แทบไม่มีลูกค้าใช้บริการ ธุรกิจ โรงพิมพ์ น้ำทะลักเข้าท่วมแท่นพิมพ์ได้รับความเสียหาย ขณะที่ร้านค้ารายย่อย บางราย ขนของย้ายร้านหนีน้ำท่วม ส่งผลให้ย่านเศรษฐกิจในบริเวณดังกล่าวนี้ ต้องสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า ร้อยล้านบาท


ในขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลหัวรอ ได้สนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน ทำคันกั้นน้ำบริเวณริมฝั่งแม่น้ำน่าน พร้อมตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่ แต่ปริมาณน้ำก็ยังคงท่วมขังในระดับสูง ประชาชนสัญจรผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก

ทางด้าน นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 พิษณุโลก ได้ออกมาให้กำลังใจประชาชนที่เผชิญปัญหาน้ำท่วม ในเขตตำบลหัวรอ โดยนำน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ นายแพทย์วรงค์ ยังได้กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมว่าเป็นไปอย่างล่าช้า ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อน เผชิญปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก รัฐบาลกลับให้ความสำคัญกับการเดินทางไปต่างประเทศ หรือไปสนับสนุนการเตะฟุตบอลในต่างประเทศ อีกทั้งการดำเนินงานหลังน้ำลดก็ยังไม่มีแผนงานรองรับ เท่าที่เห็น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเท่านั้น ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะทวงถามเรื่องการให้ความช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนก่อนเรื่องอื่น ๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:02:50


ความคิดเห็นที่ 1963 (1572604)

น่าน-เตือนภัยดินถล่มหลังพบรอยแยกที่พื้นดิน

 

 

นายก อบต.ประกาศเตือนประชาชนระวังดินถล่ม หลังฝนตกหนักและพบรอยแยกบนพื้นดินยาวกว่า 100 ม.บริเวณหมู่บ้านแหด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

นายวุฒิไกร ดวงพิกุล นายก อบต.ฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่พบรอยแผ่นดินแยก ที่สันเขาใกล้กับห้วยแหด อยู่เหนือหมู่บ้านแหด หมู่ที่ 12 ต.ฝายแก้ว ประมาณ 1.5 กิโลเมตร หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้าน แต่ขณะที่กำลังเข้าตรวจปรากฏว่าเกิดฝนตกหนัก และมีการเคลื่อนตัวของดิน จึงได้รีบออกจากพื้นที่ทันที พร้อมกับประกาศให้ชาวบ้านที่ทำนาทำไร่และอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ระมัดระวัง เกรงจะเกิดดินถล่มลงมา


นายก อบต.ฝายแก้ว เล่าว่า ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ทีมงานได้เข้าตรวจสอบ พบมีรอยแยกของแผ่นดินกว้างเกือบ 1 เมตร ทรุดตัวจากระดับดินเดิมกว่า 4 เมตร มีแนวยาวติดต่อกันเกือบ 100 เมตร ซึ่งหากดินบริเวณดังกล่าวถล่มลงมาก็จะกลายเป็นเขื่อนดินปิดกั้นลำห้วยแหด และสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่การเกษตรบริเวณนั้นได้ ขณะนี้ได้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อตรวจสอบแล้ว พร้อมกับประกาศห้ามประชาชนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว

ส่วนที่บ้านงอบใต้ ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งว่ามีดินสไลด์เข้าทับถมบ้านเรือนประชาชน 3 หลัง และหอประชุมของหมู่บ้าน ทำให้เกิดความเสียหายบางส่วน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้เร่งรื้อบ้าน และย้ายข้าวของออกจากที่เกิดเหตุแล้ว เกรงจะมีดินถล่มซ้ำอีก เพราะยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:04:17


ความคิดเห็นที่ 1964 (1572608)

ขออนุญาติ นำมาลง เป็น คลิปที่ประเสริฐที่สุดค่ะ

คุณกุ้งนาง" กับวินาที ขออโหสิกรรม "แม่"

 

ขอขอบคุณ





 
กุ้งนาง ปัทมสูตร

 

 

เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา วงการบันเทิงไทย เพิ่งได้สูญเสีย ดาราสาวกุ้งนาง ปัทมสูตร ลูกสาวของ พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูตร

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทางรายการ ราตรีสโมสร ทางช่อง 3 ได้นำเอาเรื่องราวของ วินาทีสุดท้าย ของ กุ้งนาง ที่ขอกราบขออโหสิกรรม แม่ ก่อนที่จะจากไป

แม้กุ้งนางจะเจ็บ แค่ไหน แต่ก็ฮึดสู้ เพื่อที่จะได้ กราบอโหสิกรรมแม่ หลังจากนั้นไม่ถึง 2 เดือน กุ้งนางก็ได้จากไปแบบไม่มีวันกลับ หลังจากที่ป่วยเป็นมะเร็งกระดูกที่ตัวเองได้ต่อสู้มานาน

และ ถ้าใครได้ดูรายการ ก็จะได้เห็นถึงวินาทีตอนที่กุ้งนางได้กราบลาแม่ ทั้งๆ ที่ตอนนั้น ร่างกายก็แทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ก็พยายามที่จะไม่ทำให้แม่ ต้องรับรู้ว่าตนเองเจ็บ ปวด แค่ไหน








 




 




 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:47:56


ความคิดเห็นที่ 1965 (1572610)

น้ำท่วมสุโขทัยกลับสู่วิกฤติอีกครั้ง

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 18:05 น.

สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย กลับสู่วิกฤติอีกครั้ง น้ำป่าจากกำแพงเพชร น้ำเหนือในแม่น้ำยม สูง 7 เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมถนน 12 สาย ระทมทั้งจังหวัด

ล่าสุด อ.เมืองสุโขทัย เริ่มกลับสู่สภาวะวิกฤติอีกครั้ง จากน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ล้นสปริงเวย์ 88 ซ.ม. น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย อ.บ้านด่านลานหอย ล้นสปริงเวย์ 35 ซ.ม. น้ำป่าจากอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ไหลลงมารวมกันกับน้ำที่มีต้นทุนเดิมสูงอยู่แล้วที่คลองแม่ลำพัน อ.เมือง และระดับน้ำเหนือในแม่น้ำยม ที่สูงขึ้นถึง 7 เมตร ซึ่งรวมทั้งหมด 5 ทาง มารวมกันที่ อ.เมืองสุโขทัย โดยไม่สามารถระบายน้ำไปทางไหนได้ จะส่งผลให้น้ำเข้าท่วมถนนสาย 12 ถนนจรดวิถีถ่อง ระดับน้ำเพิ่มสูง 20-70 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนทางโรงพยาบาลสุโขทัย ได้ทำแนวกระสอบทรายกั้นน้ำไว้โดยรอบ จึงไม่ส่งผลเสียหายถึงด้านใน และจะต้องปิด
ทางเข้าออก เหลือเพียงทางเดียว ทำให้ผู้มาติดต่อไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนมากนี้ ได้เอ่อท่วมถนนตลอดสาย และทางจังหวัดสุโขทัย คาดว่าจะต้องรับวิกฤตินี้อีกระยะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:53:34


ความคิดเห็นที่ 1966 (1572611)

ปภ.อุตรดิตถ์เตือน18-20กย.ฝนตกหนัก

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 20:16 น.

หัวหน้า ปภ.จังหวัดอุตรดิตถ์ เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ระวัง 18 - 20 ก.ย. ฝนตกหนัก ถึงหนักมาก

นายสุรชัย ธัชกวิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่าจากรายงานสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ว่า ช่วงนี้สภาพอากาศ มีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า และประเทศลาวตอนบน และอาจมีผลกระทบทางภาคเหนือตอนล่างได้ ระยะ 1 - 2 วันนี้ สำหรับช่วงวันที่ 18 - 20 ก.ย. ร่องมรสุม จะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทย จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะนี้ ส่วนของภาคเหนือตอนล่าง ก็จะมีฝนตกกระจายเป็นบางแห่ง ทั้งนี้เพื่อความไม่ประมาท ปภ.จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แจ้งเตือนไปยังทางอำเภอต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อบต. และ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้ฟังพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้ตรวจสอบมิสเตอร์เตือนภัยให้พร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา ถ้ามีปริมาณน้ำฝนมากจนเกินเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีกระแสน้ำขุ่นข้น หรือลักษณะเป็นโคลน ให้เฝ้าดู สังเกตระดับน้ำที่เริ่มมีความสูง รีบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่อยู่ใกล้แนวสันเขา ที่เสี่ยงจะเกิดดินสไลด์ หรือ ใกล้ทางน้ำหลาก ควรเตรียมตัวให้พร้อม และควรเก็บข้าวของมีค่า และย้ายสัตว์เลี้ยง ไปไว้ในจุดอื่นที่ปลอดภัย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:54:20


ความคิดเห็นที่ 1967 (1572612)

ลพบุรี น้ำท่วมขยายวงกว้างทั้ง 11 อำเภอ


18 กย. 2554 12:26 น.

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดลพบุรียังคงขยายเป็นวงกว้างไปแล้วทั้ง 11 อำเภอของจังหวัดลพบุรี หนักสุดอยู่ที่อำเภอบ้านหมี่ เมืองลพบุรีและท่าวุ้ง และมีผู้เสียชีวิตแล้ว1รายขณะออกหาปลาในจุดที่น้ำไหล
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของจังหวัดลพบุรีขณะนี้ได้ท่วมครบทุก อำเภอของจังหวัดแล้วทั้ง11อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบ้านหมี่ ท่าวุ้ง เมืองลพบุรี โคกสำโรง หนองม่วง พัฒนานิคม สระโบสถ์ ลำสนธิ ท่าหลวง ชัยบาดาล โคกเจริญ รวม100ตำบล 799 หมู่บ้าน 59ชุมชน ซึ่งน้ำท่วมในจังหวัดลพบุรีขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว1รายคือนายอนัน แสนอภัย อายุ 50 ปี ชาวอำเภอโคกสำโรงเสียชีวิตขณะออกไปหาปลา
สำหรับน้ำที่ท่วมหนักสุดของจังหวัดลพบุรีอยู่ใน 3 อำเภอ คือ อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง อ.เมืองลพบุรี โดยที่อำเภอบ้านหมี่มีน้ำท่วมสูงแล้วเกือบ 3 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงต้องใช้เรือในการเข้าออกหมู่บ้าน แต่บางจุดก็ออกไม่ได้เนื่องจากต้องพายเรือไกลมาก ซึ่งพื้นที่บ้านหมี่ที่น้ำท่วมหนักอยู่ที่ตำบลหนองกระเบียน หนองเมือง บ้านกล้วย บ้านทราย หนองทรายขาว พุคา
ส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองก็อ่วมไม่แพ้กัน ตำบลป่าตาล และตำบลเขาพระงาม ถูกตัดขาด ซึ่งที่ตำบลเขาพระงามระดับน้ำได้ท่วมถนนสายหลักอย่างลพบุรี-โคกสำโรงสูงก ว่า70ซมจนรถเล็กวิ่งไม่ได้ทำให้ติดเกาะเข้าออกไม่ได้ร่วมถึงกระแสน้ำก็ไหล แรงมากด้วยทำให้การใช้เรือก็ลำบาก
ขณะที่นายวิบูลย์ เลาหสุระโยธิน นายอำเภอท่าวุ้ง ได้นำเครื่องจักรพร้อมกำลังชาวบ้านและอาสาสมัครไปทำการอุด คันกั้นน้ำบริเวณวัดหนัง หมู่ที่ 4 ตำบลบางน้ำเชี่ยว อำเภอพรหมบุรี หลังจากคันกั้นน้ำแตกทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นทุ่งสุดท้ายของจังหวัดลพบุรีที่น้ำยังไม่ท่วม
ด้าน สถานการณ์ของน้ำในอ่าเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จังหวัดลพบุรี เริ่มวิกฤตขึ้นเรื่อยๆหลังวันเดียวน้ำไหลเข้าในอ่างจำนวนมากจนมีน้ำสะสมอยู่ในอ่างเก็บน้ำที่ 821.75 ล้านลูกบาตรเมตร คิดเป็น 104.68 เปอร์เซ็นต์ของความจุของอ่างเก็บน้ำ แต่ก็ยังพอรับไหวในอีกสัก 2-3 วัน เนื่องจากว่าเขื่อนป่าสักนั้นรับน้ำได้เต็มความจุเกินกว่าลิมิตได้ ที่ 960 ล้านลูกบาตรเมตร ยังเหลือน้ำที่รับได้อีกกว่า 100 ล้านลบ.ม. ก่อนที่จะปรับแผนในการระบายออกจากเขื่อน โดยขอรอดูสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำเจ่าพระยาก่อนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผล กระทบหนักจากแม่น้ำทั้ง 2 สาย


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:55:11


ความคิดเห็นที่ 1968 (1572613)

น้ำท่วมพิจิตรยังทรงตัว "ยม-น่าน"ไม่ลดระดับ



สถานการณ์น้ำท่วมในพิจิตรยังทรงตัว เหตุมวลน้ำจากพิษณุโลกเข้าสมทบ ทำให้ 2 แม่น้ำสายหลักทั้งปิง-น่านไม่ลด ด้านครูหนุ่มดวงขาดซิ่งรถตกน้ำดับคาที่...

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีรายงานจาก จ.พิจิตร ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังทรงตัว เนื่องจากมีมวลน้ำก้อนใหญ่จากพื้นที่ จ.พิษณุโลก เข้าสมทบ ทำให้ระดับน้ำทั้งแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำ 2 สายหลักไหลผ่าน 7 อำเภอของ จ.พิจิตร ยังทรงตัว

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ร.ต.อ.นคร สายอุด ร้อยเวร สภ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร รับแจ้งเหตุรถยนต์จมน้ำและยังไม่พบคนขับ จึงนำกำลังและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำยม ถนนสายพิจิตร-วังจิก หมู่ 9 ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บธ 685 พิจิตร พลิกคว่ำจมในน้ำ ต่อมาพบศพ นายอานนท์ คล้ายผูก อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 7 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง เบื้องต้นทราบว่ามีอาชีพเป็นครูอัตราจ้างของวิทยาลัยชุมชนพิจิตร

จากการสอบสวน นายโปรด คล้ายผูก อายุ 58 ปี พ่อของนายอานนท์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. นายอานนท์ขับรถคันดังกล่าวออกจากบ้านเพื่อไปสอนวันเสาร์-อาทิตย์ ที่โรงเรียนชุมชนบ้านทุ่งใหญ่ ต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นศูนย์การสอนวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สันนิษฐานว่ารถเกิดพลิกคว่ำตกน้ำ ทั้งนี้ ตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
18 กันยายน 2554, 13:42 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:55:52


ความคิดเห็นที่ 1969 (1572615)
 
"รมว.สธ."กำชับพื้นที่น้ำท่วมเฝ้าระวังไข้เลือดออก


นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้บริหารกรมควบคุมโรค เปิดรณรงค์ขับเคลื่อนเครือข่ายการป้องกันโรคไข้เลือดออก ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.พระนครศรีอยุธยา มัสยิดอะมะดียะห์ หมู่ 1 ต.พระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง โดยมอบพันธุ์ปลาหางนกยูง 2,000 ตัว คู่มือโรคไข้เลือดออกสำหรับประชาชน อสม. และนักเรียน 6,000 เล่ม ทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย ยาทากันยุงกว่า 8,000 ซอง ให้แก่นายกเทศบาลต.ลาดบัวหลวง ,ต.สามเมือง,นายกอบต.ลาดบัวหลวง ,พระยาบันลือ ,คลองพระยาบันลือ, สิงหนาท, คูสลอด, หลักชัย,ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน,ประธานชมรม อสม.ลาดบัวหลวง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ

นายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีท่วมขัง จะมียุงรำคาญที่เพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำท่วมขังที่น้ำเน่าเสียชุกชุม ส่วนในบ้านที่เก็บน้ำใช้ น้ำกินโดยไม่ปิดฝาให้มิดชิด ยุงลายจะเข้าไปวางไข่ได้เช่นกัน ในช่วงที่น้ำไหลหลาก ไข่ยุงจะถูกน้ำท่วมพลัดพาไป หรือถูกปลากิน และยุงจะไม่วางไข่ในน้ำไหล แต่ภายหลังน้ำลดแล้ว โดยเฉพาะช่วง 1-2 สัปดาห์ จะต้องเฝ้าระวังอีกครั้ง เพราะจำนวนยุงจะชุกชุมมาก เนื่องจากมีแหล่งให้ยุงวางไข่ได้จำนวนมาก ได้แก่กะลา ถัง กระป๋อง ถุงพลาสติก กาบมะพร้าว ยางรถยนต์ ภาชนะเหล่านี้เป็นแหล่งขังน้ำ พอน้ำตกตะกอนเป็นน้ำใส หรือน้ำฝนตกลงมาซ้ำ ยุงลายจะสามารถวางไข่ได้ ภายใน 7 วันจะเกิดลูกน้ำยุงลายมากมาย และภายใน 10 วันจะกลายเป็นตัวยุง จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วง อาจจะทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกระบาดหลังน้ำลดได้

ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด สำนักงานควบคุมป้องกันโรค 12 แห่งทั่วประเทศ เฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนทุกบ้าน ให้ทำความสะอาดบ้านและบริเวณบ้าน อย่าให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และเร่งทำลายลูกน้ำยุงลาย โดยเทน้ำขังลงดินที่แห้ง ให้เร่งดำเนินการภายใน 7 วันหลังน้ำลด ซึ่งวิธีนี้ จะสามารถควบคุมยุงได้ดีกว่าใช้สารเคมีพ่นยุงตัวโตบินได้แล้ว เนื่องจากเป็นการทำลายลูกน้ำยุง ตายยกคอก

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกทั่วประเทศปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 - 14 กันยายน 2554 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสม 48,760 ราย เสียชีวิต 35 ราย โดยพบผู้ป่วยในภาคกลางมากที่สุดจำนวน 23,868 ราย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งประเทศ รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11,621 ราย ภาคเหนือ 9,534 ราย และภาคใต้น้อยที่สุด 3,737 ราย สำหรับที่จ.พระนครศรีอยุธยา มีรายงานผู้ป่วยสะสม 593 ราย เสียชีวิต 1 ราย พบผู้ป่วยมากที่สุดที่เขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา 256 ราย


เนชั่นทันข่าว 17 กย. 2554 13:21 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:58:15


ความคิดเห็นที่ 1970 (1572616)
เขื่อนลำปาว วิกฤต ทำ 5 อำเภอ กาฬสินธุ์อ่วม


เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำอยู่ในระดับวิกฤต ต้องปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น ทำ 5 อำเภอในกาฬสินธุ์ ประสบภาวะน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำ จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในสถานการณ์วิกฤต หลังปริมาณฝนตกหนักและน้ำที่ไหลหลากเข้าตัวเขื่อนจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทางเขื่อนมีปริมาณน้ำอยู่มากถึงร้อยละ 90 หรือ ปริมาณที่ 1,797 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยในห้วงระยะเวลานี้ มีปริมาณน้ำไหลหลากเข้าเขื่อนมากถึงวันละ 30 - 40 ล้านลูกบาศก์เมตร จะต้องปล่อยระยายเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในลำน้ำปาว เพิ่มระดับสูงขึ้นอีก เฉลี่ยวันละ 20 ซ.ม. ปัจจุบัน ระดับน้ำอยู่ที่ 8.55 ม. ซึ่งพื้นที่น้ำล้นตลิ่งได้ขยายวงกว้างออกเป็น 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง , อ.ยางตลาด , อ.ร่องคำ , อ.ฆ้องชัย และ
อ.กมลาไสย ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ระบุว่า จ.กาฬสินธุ์ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 18 อำเภอ รวม 134 ตำบล 1,306 หมู่บ้าน ถนนชำรุด 865 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝาย 16 แห่ง บ่อปลา/กุ้ง/ตะพาบ 8 บ่อ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 113,858 ครัวเรือน รวม 515,111 คน ความเสียหายประมาณ 125,920,718 บาท


INN ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:58 น.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-18 23:58:54


ความคิดเห็นที่ 1971 (1572617)

อินเดียระทึกดินไหวเขย่า6.8ริกเตอร์

วันที่ 18/09/2554 21:08



แผ่นดินไหวอีกแล้ว คราวนี้ที่อินเดีย วัดความแรงได้ 6.8 ริกเตอร์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

เมื่อวันนี้ (18 ก.ย.) สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง วัดได้ 6.8 ริกเตอร์ เขย่าพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ใกล้ชายแดนเนปาล เมื่อเย็นวันอาทิตย์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งว่า ตรวจจับแรงไหวได้เมื่อเวลา 18.10 น. (19.40 น. ตามเวลาในประเทศไทย) มีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองกังต็อก เมืองเอกรัฐสิกขิมของอินเดีย ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 60 กม.

นาย อาร์. เอส. ดัตตาตรีญาน เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตินิยมวิทยาอินเดีย ในกรุงนิวเดลี เปิดเผยว่า จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ตื้นแค่ 10 กม. และวัดความรุนแรงได้ถึง 6.8 ริกเตอร์ อาจทำให้เกิดความสูญเสียในวงกว้าง เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ระบบโทรศัพท์บ้านในเมืองกังต็อกใช้การไม่ได้ชั่วคราว ส่วนการสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์มือถือก็ยากลำบาก แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้รู้สึกได้ถึงเมืองกูวาฮาตี เมืองใหญ่ของรัฐอัสสัม ที่อยู่ห่างออกไปราว 600 กม. โดยประชาชนเกิดความแตกตื่นตกใจ รีบหนีออกจากอาคารบ้านเรือน ตึกสูง ลงมาอยู่ตามท้องถนน.

จากทวิตเตอร์: พบผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อยอีก 3 ราย
และอีกจากแหล่งข่าวแจ้งว่า พบบ้านเรือนพังถล่มลงมาอย่างน้อยแล้ว 12 หลัง



 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:00:56


ความคิดเห็นที่ 1972 (1572618)
 
กว่า 300 ครัวเรือนบ้านท่าตูมอุดรฯจมน้ำ ถูกตัดขาดโลกภายนอก มทบ.24 รุดช่วย



       อุดรธานี-ทะลักไม่หยุด! น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนภายในคืนเดียว จนชาวบ้านต้องย้ายขึ้นอาศัยข้างถนน ด้านกองทัพภาค 2 ส่งเสธฯ ลงสำรวจพื้นที่ประสบภัย เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ เผย 2 วันแล้วที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และไม่มีใครมาให้ความช่วยเหลือ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุดรธานีว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านท่าตูม บ้านท่าตูม หมู่ที่ 5 ตำบลหมูม่น อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ประชาชนที่พักอาศัยที่บ้านท่าตูมเกือบทั้งหมดที่มีกว่า 300 หลังคาเรือนที่ประสบภัย ต้องต่างพากันเก็บของขึ้นบนที่สูงกันจ้าละหวั่น เมื่อน้ำมีระดับสูงขึ้น จนบางครอบครัวต้องเก็บสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นมาไว้ที่ไหล่ถนน และใช้ไหล่ถนนเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ซึ่งบางครัวเรือนต้องย้ายออกไปพักกับลูก หรือญาติพี่น้องที่บ้านน้ำท่วมไม่ถึง
       

       จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงเรือไปสำรวจพื้นที่บ้านท่าตูมพบว่า น้ำที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านนั้นไหลเข้ามาเร็วมาก และระดับน้ำมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างพากันเก็บสิ่งของขึ้นที่สูงไว้หมด ส่วนบ้านหลังไหนไม่มีชั้นสองของตัวบ้านก็ปล่อยให้น้ำท่วมอยู่อย่างนั้น
       
       นางดวงจันทร์ บุญครอบ อายุ 40 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ในหมู่บ้านหลังวัดท่าตูม ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเกือบถึงชั้นสอง บอกว่าปีนี้น้ำมาเร็วมาก จนไม่สามารถเก็บทรัพย์ได้ทัน เสียหายมาก แต่ก็ไม่เป็นไร จะขอไปอาศัยลูกชายที่เป็นทหารอยู่ที่ค่ายหนองสำโรงชั่วคราวก่อน ส่วนทรัพย์สินเหลือเท่าไหร่ก็เหลือเท่านั้น
       
       
       ด้านบ้านโนนยาง ม.5 ต.กุดสระ พบว่าน้ำกำลังไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเช่นกัน ชาวบ้านได้นำเอาสัตว์เลี้ยง วัว-ควาย กว่า 100 ตัว ไปปล่อยเลี้ยงไว้ที่สนามหญ้าของโรงเรียนบ้านโนนยาง ซึ่งสถานที่ดังกล่าวก็ได้เตรียมเอาไว้เผื่อว่าชาวบ้านจะได้อพยพมาอาศัยอยู่ หากว่าน้ำท่วมสูง
       
       ซึ่งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พ.อ.อำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบพื้นที่ที่ประสบกับน้ำท่วมที่บ้านแวง บ้านหมู่ม่น ตำบลหนองสำโรง และบ้านนากว้าง ตำบลนากว้าง ซึ่งพบว่าหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตรในหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมจนพื้นที่การเกษตรจมมิด มีน้ำท่วมในหมู่บ้านหนักและทุกหลังคาเรือน คือ ที่บ้านสูงแคน น้ำท่วมถนนระหว่างหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตร หลายสาย การเดินด้วยรถยนต์ไม่สามารถทำได้
       
       
      โดยเฉพาะระหว่างบ้านทุ่งแร่-บ้านโนนสมบูรณ์ ระดับน้ำท่วมสูงมาก และที่บ้านโนนสมบูรณ์ ม.5 ต.หมู่ม่น มีบ้านเรือนอยู่ 125 หลังคาเรือน ประชาชน 550 คน ถูกน้ำท่วมล้อมรอบ จนไม่สามารถเดินทางออกไปติดต่อกับหมู่บ้านอื่น และคนอื่นก็ไม่สามารถเดินทางไปที่หมู่บ้านดังกล่าวได้
       
       พ.อ.อำนวย กล่าวว่า ทางกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสั่งกัดออกสำรวจความเดือดร้อนและความเสียหายรายงานให้หน่วยเหนือทราบ เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกับยืนยันว่ากองทัพจะจัดสิ่งของจำเป็นเข้ามาช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด
       
       
       ด้านนายชูชาติ กลีบบัว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอ่างเก็บน่ำห้วยหลวง ได้ทะยอยลดปริมาณระบายน้ำออกจากอ่างลดลงไปเรื่อยๆจากที่เคยระบายออกวันละ 8-9 ล้าน ลบ.ม.เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2554 จนถึงวันนี้ (16 ก.ย.) เหลือจำนวน 37 ล้าน ลบ.ม./วัน เนื่องจากว่ามีน้ำไหลลงอ่างลดน้อยด้วย จึงลดปริมาณระบายน้ำ นอกจากนี้คาดว่าสถานการณ์ของน้ำท่วมในหลายพื้นที่จะลดลงสู่สภาพปกติในเร็ววันนี้
       
       ล่าสุดสถานการณ์ระดับน้ำที่บริเวณถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย ที่บ้านท่าตูม ขณะนี้ ระดับไหลท่วมถนนทั้ง 2 เลนทั้งขาเข้าเมือง และออกนอกเมืองแล้ว


ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2554 15:09 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:01:54


ความคิดเห็นที่ 1973 (1572619)
 
ย้ายหลวงพ่อฤาษีลิงดำหนีน้ำในรอบ 19 ปี

เคลื่อนย้าย "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ภายในวิหารแก้วหลัง หนีน้ำท่วมเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี ด้านพระและเณร ภายในวัดได้ทำแนวคันกั้นน้ำหลังระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี เปิดเผย สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองอุทัยธานี ว่า ในหลายพื้นที่ ยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องระดับน้ำยังคงท่วมสูง ขณะที่ภายในวัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี ยังคงได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเมื่อวานที่ผ่านมา ทางพระและเณร ในวัด ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกัน เคลื่อนย้ายกายสังขารของ หลวงพ่อฤษีลิงดำ ภายในวิหารแก้ว หลังไปไว้ที่ตึกขาว สูง 4 ชั้น ภายในวัด เพื่อไม่ให้น้ำท่วมแล้ว โดยการเคลื่อนย้านครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี ขณะที่พระและเณร ภายในวัดต่างช่วยกัน นำกระสอบและมาทำคันกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้หลายเข้ามาท่วมภายในวัดแล้ว


อย่างไรก็ตาม สำหรับประวัติของหลวง หลวงพ่อฤษีลิงดำ เมื่อปี 2535 อายุ 76 ปี ได้อาพาธด้วยโรคปอดบวมอย่างแรง และติดเชื้อในกระแสโลหิต และได้มรณภาพที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2535 จากนั้นได้นำกายสังขาร บรรจุไว้ในโลงแก้วบนบุษบกทองคำ ที่ประดับด้วยอัญมณี อันวิจิตรงดงาม เป็นระยะเวลานานกว่า 19 ปีแล้ว


INN ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 18 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 13:40 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:03:15


ความคิดเห็นที่ 1974 (1572620)
อุทัยฯวิกฤติ เจ้าพระยาทะลัก ดับแล้ว 1 ราย


 


 

อุทัยธานี วิกฤติ เจ้าพระยาล้นทะลักท่วมเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ดับ 1 ราย พบ ชาวบ้านเดือดร้อน 11,700 หลัง ระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง


นายสันต์ สร้อยแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.อุทัยธานี ขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนในตัวเมืองเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา สูงกว่า 1.20 เมตร แล้ว และยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

สาเหตุน้ำท่วมเนื่องจากลักษณะพื้นที่ของ จ.อุทัยธานี เป็นพื้นที่ลุ่ม ซึ่งต้องยอมรับว่า การจะทำแนวป้องกันทำได้ยาก ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่าพื้นที่อื่น ส่งผลให้น้ำล้นทะลักจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรัง เข้าท่วมเขตเทศบาล เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายและข้อมูลล่าสุด พบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 11,700 ครัวเรือน


ทั้งนี้ จ.อุทัยธานี มี 5 อำเภอ ที่ประสบอุทกภัย มี 2 อำเภอ ที่วิกฤติหนัก คือ อ.เมือง และ อ.หนองขาหย่าง ทาง ปภ. ได้ประสานงานกับฝ่ายปกครองทุกหน่วยงานช่วยเหลือ โดยการสร้างสะพานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้าน พร้อมกับติดตั้งส้วมเคลื่อนที่ ระดมกระสอบทรายสร้างแนวกั้น เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

 

อุทัยฯอ่วม ทั้งใน-นอกเมืองท่วมหนัก-ทางหลวง 333 ทางเข้าเมืองจมน้ำแล้ว




         อุทัยธานี - น้ำท่วมเมืองอุทัยฯ ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ทั้งเขตรอบนอก-ย่านเศรษฐกิจกลางเมือง ล่าสุดปริมาณน้ำเจ้าพระยา ทะลักท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 333 ถนนสายหลักเข้าสู่จังหวัดเป็นระยะทางกว่า 10 กม. แขวงการทางต้องระดมเจ้าหน้าที่กั้นกระสอบทราย เพื่อให้รถสัญจรเข้าออกได้ 2 ช่องจราจร
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดอุทัยธานีว่า สถานการณ์น้ำยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรังจำนวนมหาศาล จะไหลบ่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่หลายตำบลในเขตอำเภอเมือง และทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเทศบาลเมืองอุทัยธานี จนสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากแล้ว
       
      ล่าสุดน้ำเจ้าพระยายังไหลทะลักเข้าท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 333 ที่เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร สายหลักเข้าสู่จังหวัดอุทัยธานี และเป็นถนนสายหลักจากจังหวัดอุทัยธานี เชื่อมสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ และจังหวัดทางภาคเหนือ โดยระดับน้ำท่วมสูง 30 ซม.เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ส่งผลให้รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านเข้าออกได้ และหากปล่อยให้น้ำท่วมต่อไปจังหวัดอุทัยธานีจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที ดังนั้นแขวางการทางจังหวัดอุทัยธานี จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่ และคนงาน เร่งนำกระสอบทรายมาวางเป็นพนังกั้นน้ำตลอดแนวบนเกาะกลางถนน ตั้งแต่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอุทัยธานี ถึง เชิงสะพานสมเด็จพระวันรัต ( สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ) เป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร ปิดถนน 2 ช่องทางจราจรฝั่งขาออกในบริเวณดังกล่าวเพื่อกันน้ำเอาไว้ และให้อีก 2 ช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าสามารถใช้เส้นทางเข้าออกจังหวัดอุทัยธานีได้ แต่ก็ส่งผลให้การจราจรรถติดเป็นทางยาว
       
       อย่างไรก็ตามหากมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอีก ก็จะมีการวางเสริมกระสอบทรายขึ้นอีก ซึ่งจะสามารถเสริมกระสอบทรายจากเกาะกลางได้อีก 4 ชั้น (40 ซม. ) แต่หากปริมาณน้ำมากเกินกว่านี้ ก็อาจต้องปิดถนนสายนี้อย่างเลี่ยงไม่พ้น

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:04:24


ความคิดเห็นที่ 1975 (1572621)
 
กทม.ปิดประตูน้ำ ทำทะลักเข้าท่วมนาข้าว


 
ชาวนา อ.ลำลูกกา เมืองปทุมฯ ระทมทุกข์ หลัง กทม. ปิดประตูน้ำ ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรหลายพันไร่

ชาวบ้าน ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ น้ำในคลองซอยต่างๆ ตั้งแต่เขต ต.คูคต ตลอดจนถึงเขต ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา น้ำในคลองที่ได้รับน้ำมาจากคลองระพิพัฒน์ เข้าแยกตามคลองซอยต่างๆ เพื่อผันน้ำเข้าคลองสามวา เขตกรุงเทพฯ แต่เนื่องจากขณะนี้ ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำในพื้นที่ท่วมสูงขึ้น ประจวบกับพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ทำการปิดประตูระบายน้ำไม่ให้น้ำจากพื้นที่ อ.ลำลูกกา เข้าพื้นที่ชั้นในเขตกรุงเทพฯ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการผันน้ำผ่านคลองสามวา เข้ากรุงเทพฯ ไปออก จ.สมุทรปราการ แต่ช่วงนี้ประตูน้ำทุกบานที่เข้ากรุงเทพฯ ถูกปิดประตูทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้ถูกน้ำท่วมเสียหายหมดทั้งแปลง รวมเนื้อที่ อ.ลำลูกกา หลายหมื่นไร่ และน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกบ้านชั้นเดียวต้องหนุนบ้านนอนกลางน้ำ ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ

นางสังวาน พึ่งแก้ว ชาวนาหมู่ที่ 19 ต.ลำลูกกา กล่าวว่า ตนได้ว่าจ้างคนเกี่ยวข้าวนำขึ้นมาตากแดดกลางถนน ให้รถวิ่งทับข้าวเพื่อนวดข้าว แต่ตอนนี้ยังเป็นห่วงว่า พ่อค้ารับซื้อข้าวเปลือกจะรับซื้อหรือไม่ เพราะมีชาวบ้านบางส่วนได้ขายข้าวไปได้ราคาเกวียนละ 3,000 บาท เท่านั้น


INN ข่าวภูมิภาค วันอาทิตย์ที่ 18 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:21 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:05:14


ความคิดเห็นที่ 1976 (1572623)
 
แผ่นดินแยก จ.ลำปาง ขยายวงกว้าง


นายก อบต.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง เผย รอยแผ่นดินแยกตัวขยายวงกว้าง จากเดิม 300 เป็น 800 เมตร เหตุฝนตกติดต่อกันหลายวัน

นายสมยศ รู้ชั้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า จากกรณี เกิดรอยแผ่นดินแยก ในหมู่บ้านดินดำ ม.3 ต.แจ้ซ้อน แยกกลางหมู่บ้าน ทำให้บ้านเกิดรอยแตกร้าวเป็นทางยาวกว่า 300 เมตร ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากอิทธิพลของพายุนกเตน นั้น ล่าสุด ฝนก็ยังคงตกลงต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน และในช่วงนี้ รอยแผ่นดินแยก ที่ยาวกว่า 300 เมตร ได้ขยายวงกว้าง ยาวไปกว่า 800 เมตรแล้ว ซึ่งทาง อบต.แจ้ซ้อน ก็ได้สั่งการให้เจ้าของบ้าน นำทรัพย์สินมีค่าออกมา เพื่อความปลอดภัย ซึ่งเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ก็จะได้ให้ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลัง ในหมู่บ้านใกล้เคียง

อย่างไรก็ตาม อบต.แจ้ซ้อน ได้รายงานเรื่องนี้ให้ทางจังหวัดรับทราบแล้ว ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ ก็ยังรอความหวังที่ทางจังหวัด จะได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและกำลังขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ส่วนในพื้นที่ ก็ถือว่า มีแห่ลงโบราณสถานสำคัญ คือ วัดพระธาตุดอยเต่าคำ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ อายุกว่า 100 ปี ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านดินดำ ก็อาจจะได้รับผลไปด้วย


INN
วันเสาร์ที่ 17 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 14:54 น.

--------------------------------------------------------------------------

 

 
4เขื่อนในโคราช น้ำใกล้เต็ม ท่วมแล้ว8อำเภอ


สำนักชลประทานที่ 8 โคราช เผยปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ 4 เขื่อนในจังหวัด ทั้งลำตะคอง, ลำพระเพลิง, ลำมูลบน และลำแชะ ใกล้เต็มความจุ ผู้ว่าฯโคราชประกาศภัยพิบัติในเขตน้ำท่วมขัง 8 อำเภอ เร่งระบายน้ำออก สั่งจับตามรสุม 18-20 ก.ย.นี้...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่รวม 4 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา เกือบเต็มระดับความจุของอ่างทั้งหมดแล้ว เฉลี่ยประมาณร้อยละ 84 โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำรวม 257.88 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 96.69 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 88.20 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 110 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 117.27 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 83 .17 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 245 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 89.09 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. ทางเขื่อนต้องเร่งพร่องน้ำ ลงสู่ลำน้ำสาขาใต้เขื่อนเพื่อรองรับมรสุมลูกใหม่ที่เข้ามาในวันระหว่าง 18-20 ก.ย. ทำให้พื้นที่ลุ่มที่น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ของ จ.นครราชสีมาถูกน้ำท่วม



ขณะที่ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ขณะนี้ปริมาณน้ำเก็บกักไม่เหลือแล้วก็คือว่า ฝนตกลงมาเท่าไรไหลออกจากเขื่อนเท่านั้น แต่พื้นที่ที่จะส่งผลกระทบของเขื่อนไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพื้นที่ชุมชน เมืองของ อ.ปักธงชัย แต่จะส่งผลต่อพื้นที่การเกษตร พวกไร่ นา ในท้องที่ อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย ฉะนั้นในส่วนนี้เราก็พยายามที่จะบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมทั้งนาข้าวต่างๆ ที่เราจะเก็บเกี่ยวได้ก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้เร่งเก็บเกี่ยวแล้ว

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มของ อ.ปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา วังน้ำเขียว ปักธงชัย และโชคชัย น้ำเริ่มหลากไปยัง อ.เฉลิมพระเกียรติ ตนได้ประกาศเขตภัยพิบัติในส่วนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องเร่งระบายน้ำที่ค้างอยู่ในพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพราะมีพยากรณ์จากสถานีอุตุนิยมวิทยา นครราชสีมา คาดว่าจะมีร่องมรสุมเกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมาวันที่ 18-20 ก.ย.นี้.



ไทยรัฐออนไลน์
17 กันยายน 2554, 21:30 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:10:00


ความคิดเห็นที่ 1977 (1572624)
 
ภาคกลางตอนล่าง..น้ำท่วมยังวิกฤต! 

น้ำท่วมภาคกลางยังขยายวงกว้าง หลายจุดต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้านมาช่วยกันอุดรอยรั่วที่จะทำให้แม่น้ำทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนซ้ำอีก

จังหวัดพิษณุโลก นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขอกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 และชาวบ้าน มาช่วยกันสร้างแนวกั้นน้ำใหม่สกัดน้ำน่านบริเวณด้านหลังวัดตาปะขาวหาย ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก หลังทะลักเข้าท่วมปริมณฑลของเมืองพิษณุโลก พร้อมกันนี้ก็ได้ช่วยกันเร่งตอกไม้ยูคาลิปตัสเพื่อใช้เป็นหลักป้องกันน้ำ ก่อนที่จะวางกระสอบทรายให้สูงขึ้นอีก ซึ่งก็ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยกันหยุดการไหลของน้ำน่านได้

จังหวัดพิจิตร น้ำป่าและฝนที่ลงมาซ้ำ รวมทั้งน้ำน่านที่ล้นตลิ่งยังคงไหลเข้าท่วมชุมชนเขตเทศบาลตำบลหัวดง จำนวน 6 ชุมชน 1,200 หลังคาเรือน ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 2 เมตร โดยเฉพาะชุมชนบ้านป่าตาล และชุมชนเขาพระ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

จังหวัดอ่างทอง หลังประตูระบายน้ำพระงามชำรุด ก็ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยสูงขึ้นน้ำไหลเข้าท่วม บ้านเรือนริมน้ำตั้งแต่อำเภอโพธิ์ทอง ไปยังอำเภอวิเศษชัยชาญ โดยเฉพาะที่ตำบลบ่อแร่ หมู่ 1 และ 2 อำเภอโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำบ้านเรือนเดือดร้อนไปถึง 188 หลังคาเรือน รวมถึงสวนชะอมส่งออก ถูกน้ำท่วมจนมิด เสียหาย 180 ไร่

จังหวัดสิงห์บุรี ก็ได้รับผลกระทบจากประตูระบายน้ำพระงามเช่นกัน ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมแม่น้ำน้อย อำเภอท่าช้าง จนประชาชนริมน้ำในพื้นที่หมู่ 4 และ 5 ตำบลถอนสมอ เดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูง หลังเคยประสบปัญหาน้ำท่วมหนักมาแล้วในปี 2549


ครอบครัวข่าว 3 วันเสาร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:10:46


ความคิดเห็นที่ 1978 (1572625)

 

บทความดีจาก http://ufokaokala.com/index.php?topic=4546.msg36625;topicseen#msg36625 ที่เพื่อนส่งให้ค่ะ
 
อินเดียได้สอนเราถึง

“ลิขิตสี่ประการ”
 
ลิขิตข้อแรกตราไว้ว่า

     “ไม่มีใครที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเราโดยบังเอิญ"

     นี่ เป็นการยืนยันว่า บรรดาผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราในจังหวะชีวิตต่างๆนั้น  ทุกคนล้วนเข้ามาเพื่อให้เราได้เรียนรู้บทเรียนใด หรือช่วยให้เราแก้สถานการณ์ใด 
ในขณะหนึ่งขณะใดทั้งสิ้น

 

ลิขิตข้อที่สองตามมาว่า

     “ทุกสิ่งที่เกิดกับเรา ล้วนต้องเกิดเป็นเช่นนั้น”

     ทุก สิ่งที่เกิดกับเรานั้นไม่อาจเป็นอื่นไปได้ เป็นความหลงผิดยิ่งที่ไปคิดว่า”ชีวิตเราไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ ถ้าในอดีตเราได้ทำอย่างนั้น” เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเกิด  กับเราแน่นอนในทุกรายละเอียดเลยทีเดียว เรามีหน้าที่ ต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นและก้าวไปข้างหน้า  แม้ว่ามันจะฝืนกับความเข้าใจหรืออัตตาของเรา สักปานใดก็ตาม

 

ลิขิตที่สามมีว่า

     “ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเมื่อได้เวลาแล้วเท่านั้น”
     
     ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะมาตามเวลาเสมอ    ไม่มีช้าไปหรือเร็วไป  มันจะมาถึงเมื่อเราพร้อม  พร้อมต่อสิ่งใหม่ ในชีวิตที่รอเราอยู่ก่อนแล้ว

 

ลิขิตที่สี่จบไว้ว่า

      “ชีวิตไม่มียืดเยื้ออะไรจบแล้วก็จบเลย”

     
เป็นคำสอนง่ายๆว่า เมื่อสิ่งใดในชีวิตเราจบลงแล้ว ก็จะช่วยให้เราพัฒนาขึ้น  ดังนั้นเมื่อมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น เราก็ต้องปล่อยให้บทเรียนนี้ผ่านไป  แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอีก เป็นเช่นนี้ตลอดไป
ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:14:59


ความคิดเห็นที่ 1979 (1572626)
ช็อค! เด็กจีน 66 คน ยืนอัดในรถตู้คันเดียวนี้.






ตำรวจจราจรในเมืองเชียหนาน ในมณฑลเหอเป่ย ทางภาคเหนือของจีนเรียกตรวจค้นรถตู้รับ-ส่งนักเรียนคันหนึ่ง ซึ่งต้องสงสัยว่าบรรทุกนักเรียนเกินจำนวนที่กำหนด และเมื่อเปิดประตูรถเข้าไปก็ถึงกับตกตะลึง เมื่อพบว่ามีเด็กนักเรียนอนุบาลแออัดอยู่ภายในรถถึง 66 คน ทั้ง ๆ ที่รถตู้คันดังกล่าวถูกออกแบบมาให้รองรับผู้โดยสารได้เพียง 8 ที่นั่ง เท่านั้น โดยไม่รวมครูและคนขับรถอีก 2 คน

สำหรับรถตู้คันนี้คนขับได้นำเบาะนั่งเดิมออก แล้วใส่ม้านั่งเป็นแถวยาวเข้าไปแทนที่เพื่อให้บรรทุกนักเรียนได้จำนวนมาก ทั้งนี้ตำรวจได้นำเด็กๆ ทั้ง 66 คน ส่งกลับบ้านโดยใช้รถถึง 12 คัน พร้อมดำเนินคดีกับคนขับรถราย

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 00:18:09


ความคิดเห็นที่ 1980 (1572636)

ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า

มีพีระมิดจำลอง

จากบ้านสวนพีระมิด

ชีวิตก็ไม่ต้องเป็นอย่างนี้

แน่นอน(ขอย้ำ)

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (PAMELASOAP-at-YAHOO-dot-COM) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 01:29:07


ความคิดเห็นที่ 1981 (1572767)

กทม.เสริมกระสอบทรายรับน้ำก้อนใหญ่

19 กันยายน 2554 เวลา 08:55 น.
ระดับน้ำเจ้าพระยายังปกติกทม.เสริมกระสอบทรายสูง2.5เมตรกรมชลฯคาดสถานการณ์คลี่คลาย4สัปดาห์

นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักระบายน้ำ กทม. เปิดเผยว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ยังอยู่ในระดับปกติยังไม่ล้นตลิ่ง ทางกทม.ได้เสริมกระสอบทราบสูงขึ้น 2.5เมตร ขณะที่เวลา 18.30น.วันนี้ ผู้ว่าราชการกทม. จะลงเรือตรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และ แนวป้องกันน้ำท่วม

ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม. รายงาน เช้านี้ ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนนครสวรรค์ รวมกับเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ 4,129 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,124 ลบ.ม./วินาที มากกว่าวานนี้ 121 ลบ.ม./วินาที ขณะที่กรมชลประทานคาดการณ์น้ำหนุนสูงสุดวันนี้ เวลา 21.30น. อยู่ที่ 1.77 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เช้านี้ปริมาณน้ำไหลผ่านนครสวรรค์เพิ่มอีก 51ลบ.ม./วินาที อยู่ที่ 3,935 ลบ.ม./วินาที เป็นไปตามที่คาดการณ์ ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีกเพียง 2-3 ซม. ส่วนปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 3,709 ลบ.ม./วินาที และ ปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง เหลือ 2,946 ลบ.ม./วินาที มั่นใจกรุงเทพฯปลอดภัย ห่วง จ.นครสวรรค์ อ่างทอง และสิงห์บุรี คาดน้ำจะขึ้นสูงสุดและสวิงตัว 2-3วัน จากนั้นจะลดระดับลง คลี่คลายใน4สัปดาห์ เตือนริมน้ำตรวจสอบกระสอบทรายให้มั่นคง หวั่นมีโอกาสพังง่ายเพราะแช่น้ำมานานแล้ว

ด้านนายปรีชา ทองคำ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เผยภาพรวมสถานการณ์ทั้งจังหวัด ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีการแจ้งให้อพยพประชาชนในพื้นที่ ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย หลังพบมีระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เผย มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลจากภาคเหนือเช้านี้ ลดลงอยู่ที่ 2,965 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งได้วางมาตรการป้องกันไว้แล้ว แต่ยอมรับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมเจ้าพระยาโดยเฉพาะนอกแนวคันกันน้ำยังได้รับผลกระทบ เตรียมประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาในระยะยาวในวันพุธ นี้

นายปัญญา งานเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ้เปิดเผยว่า จังหวัดได้มีการจัดทำคันดินขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเข้าท่วมศาลากลางจังหวัด ขณะเจ้าหน้าที่ยังเร่งสูบน้ำที่เข้าท่วมขังศาลากลางอย่างต่อเนื่อง แต่น้ำยังคงท่วมขังอยู่ ขณะวันนี้จังหวัดจะมีการมอบเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 423 ครัวเรือน โดยมีนายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานในการมอบ

นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเผย พรุ่งนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อำเภอบางละมุง และกรมที่ดินลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขตคลองพัทยาใต้ สำรวจความยาวและรายละเอียดเชิงลึก เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรม ชุมชนใกล้เคียงที่รุกล้ำได้ปฏิบัติตามกฎหมายและเป็นวางแผนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเบื้องต้น

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 14:41:31


ความคิดเห็นที่ 1982 (1572769)

น้ำทะลักท่วมอ.หนองไผ่เพชรบูรณ์สูง1.2เมตร

19 กย. 2554 10:27 น.

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ระดับน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ซึ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ 10 ตำบล ในเขต อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะที่ หมู่ 1,3,4,6 และ หมู่ 8 ตำบลกองทูน อ.หนองไผ่ น้ำได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร รวมทั้งถนนหลายสาย เช่น ถนน สายกองทูล-หนองไผ่,ถนนสายท่าเยี่ยม -ท่าแดง และถนนสายกองทูล - อ.วิเชียรบุรี ถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร

โดยเฉพาะ หมู่ที่ 1 ต.กองทูล ระดับน้ำมีความสูงประมาณ 1.20 เมตร รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ในหมู่บ้านดังกล่าว ชาวบ้านต้องหันไปใช้ถนนสายกองทูล-เพชรละคร แทน ซึ่งก็มีน้ำท่วมขังเช่นกันแต่ก็ยังสามารถใช้สัญจรได้

และ ที่อ.ศรีเทพ ถนนสายศรีเทพ-เมืองเก่า ซึ่งเป็นถนนสายหลักในการเดินทางเข้าสู่ตัวอำเภอ ล่าสุดระดับน้ำได้ท่วมถนนแล้วเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ระดับน้ำมีความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่องถนนหลายสายถึงแม้ว่าจะยังมีน้ำท่วมขัง แต่ก็สามารถใช้สัญจรไปมาได้ตามปกติแล้ว


โรคมือเท้าปากระบาดในเด็กบุรีรัมย์ ป่วย 300 ราย

19 กย. 2554 10:38 น.

บุรีรัมย์-พบโรคมือ เท้า ปาก ระบาดในเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปี เข้ารับการตรวจรักษาแล้วร่วม 300 ราย และมีอัตราป่วยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงเท่าตัว
นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ พบผู้ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก เข้ามารับการตรวจรักษาตามโรงพยาบาลต่างแล้วจำนวน 300 ราย กระจายใน 20 อำเภอ แต่ยังไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิต ส่วนอำเภอที่มีผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.โนนสุวรรณ หนองกี่ หนองหงส์ ปะคำ และ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ส่วนมากจะเป็นเด็กเล็กอยู่ในกลุ่มอายุ 0 - 4 ปี รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี ทั้งนี้หากเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่าปีนี้มีอัตราป่วยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงเท่าตัว โดยในปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพียง 138 รายเท่านั้น
จึงเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ครู หรือผู้ดูแลเด็กตามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้หมั่นดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด เพราะโรคดังกล่าวเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เอนเทอโรไวรัส ซึ่งสามารถต่อกันได้โดยการสัมผัสภาชนะและใช้สิ่งของร่วมกัน ดังนั้นทางโรงเรียนหรือศูนย์เด็กควรหลีกเลี่ยง หากเด็กสัมผัสภาชนะหรือรับประทานอาหาร ควรล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังทุกครั้ง เพื่อให้ปลอดจากเชื้อโรคดังกล่าว
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ยังระบุอีกว่า สำหรับเด็กที่ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก จะมีอาการ ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า เป็นผื่นมีตุ่มพองรอบๆ และมีจุดหรือผื่นแดงอักเสบในปาก เหงือก กระพุ้งแก้ม ทำให้เจ็บปากไม่อยากทานอาหาร ซึ่งเด็กบางรายที่มีภูมิต้านทานต่ำหากมีแทรกซ้อนรุนแรง อาจทำให้ระบบหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ถึงขั้นช็อคเสียชีวิตได้ และหากโรงเรียนหรือศูนย์เด็กใด พบเด็กป่วยจำนวนมาก ควรจะปิดโรงเรียนไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าไปตรวจสอบฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการระบาดเป็นวงกว้าง เพราะสถิติเด็กป่วยและติดเชื้อส่วนมากจะเป็นเด็กอนุบาลก่อนวัยเรียน หรือต่ำกว่า 5 ปี

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 14:44:03


ความคิดเห็นที่ 1983 (1572770)

จับตา27ชุมชนเย็นนี้หลังน้ำขึ้น20.00น.

ข่าวสังคม วันจันทร์ที่ 19 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 10:53 น.

ผู้อำนวยการสำนักการระบาย กทม. เผย ระดับน้ำขึ้นเต็มที่ 20.00 น. วันนี้ เฝ้าระวัง 27 ชุมชน นอกแนวเขื่อนกั้นน้ำ พร้อมจัดหน่วย BEST เตรียมพร้อมรับมือ

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในวันนี้กรุงเทพมหานคร ต้องจับตา มวลน้ำก้อนใหญที่จะไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา จาก จ.สิงห์บุรี และ จ.อ่างทอง ลงมา โดยคาดว่าระดับน้ำจะขึ้นเต็มที่ ในเวลา 20.00 น. วันนี้ ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า กรุงเทพมหานคร นั้น จะไม่ท่วมอย่างแน่นอน แต่สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด คือ 27 ชุมชน นอกแนวเขื่อนกั้นน้ำ เพราะในช่วงที่ผ่านมา น้ำได้เอ่อท่วมทางเดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำสะพานไม้มาปูให้สามารถเดินไปมาได้

ส่วนการเตรียมการรับมือ ได้เตรียมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำ กว่า 200 จุด และจัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยเบสท์ กว่า 700 นาย ในการรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน หากเกิดเหตุน้ำท่วม

โดยในเวลา 18.00 น. วันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะ จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแนวคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยาด้วย

ดินไหวอินเดียยอดตายเพิ่มเป็น 19 ศพ

19 กย. 2554 08:19 น.

หลังเหตุแผ่นดินไหว 6.9 ริกเตอร์ ในรัฐสิกขิม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ใกล้พรมแดนเนปาล ผู้เสียชีวิตในรัฐสิกขิมเพิ่มเป็น 14 ราย จากบ้านเรือนพังถล่ม นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกประมาณ 60 ราย ขณะที่แรงสั่นสะเทือน รู้สึกได้ถึงเนปาล มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดย 3 รายถูกรั้วกำแพงสถานทูตอังกฤษพังถล่มทับ และผู้บาดเจ็บอีกนับสิบ
มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือยของแผ่นดินไหวครั้งนี้ รู้สึกได้ถึง ประเทศภูฏานและบังกลาเทศ ประชาชนแตกตื่นตกใจวิ่งออกมานอกบ้าน นอกอาคาร แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 14:47:19


ความคิดเห็นที่ 1984 (1572773)

11% น้ำจ่อล้นเขื่อนภูมิพล เรือแพรับอานิสงส์ล่องถึงเชียงใหม่



นักท่องเที่ยวพรึ่บ! ล่องเรือแพชมความงามเขื่อนภูมิพลถึงเชียงใหม่ ขณะที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลสามารถรับน้ำได้อีก 1,586 ล้านลูกบาศก์เมตร หรืออีกประมาณ 11.78% ของความจุอ่างทั้งหมด...

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลว่า ขณะนี้ระดับน้ำของอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 254.79 เมตร หรือ 11,870 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปีที่แล้วถึง 6,045 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลสามารถรับน้ำได้อีก 1,586 ล้านลูกบาศก์เมตร หรืออีกประมาณ 11.78% ของความจุอ่างทั้งหมด โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล 86 ล้านลูกบาศก์เมตร และระดับน้ำที่สูงส่งผลให้เรือแพเหนือเขื่อนได้อานิสงส์ เพราะมีนักท่องเที่ยวพากันมาเหมาเรือแพล่องชมความงามเหนือเขื่อนไปจนถึงดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนมากในรอบหลายปี เพราะที่ผ่านมาเขื่อนภูมิพลมีน้ำน้อยสามารถล่องได้เพียงระยะใกล้ๆ เท่านั้น

"วันนี้เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศและอุปโภคบริโภค 41 ล้านลูกบาศก์เมตร และแม่น้ำวังที่ไหลผ่าน ตำบลวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก 43 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลรวมกับแม่น้ำปิงที่บ้านปากวัง อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก รวมทั้งหมดเป็น 84 ล้านลูกบาศก์เมตร และผลจากการระบายน้ำในจำนวนมาก ทำให้แม่น้ำปิงตั้งแต่ใต้เขื่อนภูมิพลจนถึงรอยต่อกำแพงเพชร มีระดับน้ำสูงจนล้นตลิ่ง ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปิงที่เกษตรกรได้ปลูกข้าวโพดรวมทั้งพืชอื่นๆ ต้องตกอยู่ใต้กระแสน้ำนับพันไร่ บ้านเรือนราษฎรที่อาศัยริมแม่น้ำปิงต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง ซึ่งทางเขื่อนภูมิพลได้แจ้งให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ริมน้ำระมัดระวังอันตรายจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก รวมทั้งผู้ที่ใช้เรือออกหาปลาให้งดในช่วงนี้" นายบุญอินทร์ กล่าว.

 

ตลิ่งน้ำยมพังยาวนับพันเมตร - คนแพร่ผวาที่อยู่ผีประจำหมู่บ้านพังตาม

แพร่ - ชาวบ้านเมืองแพร่ครวญ หลังน้ำยมลดทำตลิ่งพังตามไปด้วยนับพันเมตร ทำพื้นที่เกษตร คอกหมู และรั้วบ้านพังไปกับสายน้ำ หวั่นทำถนนศาลเจ้าที่อยู่ผีประจำหมู่บ้านพังด้วย

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า ชาวบ้านใน หมู่ 3 ตำบลวังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ตลิ่งแม่น้ำยมในหมู่ที่ 3 ถูกน้ำยมกัดเซาะเป็นแนวยาวกว่า 1,000 เมตร และในช่วง 300 เมตรการพังทลายได้เข้าถึงชุมชน ถ้าไม่เร่งแก้ไขอาจทำลายถนนศาลเจ้าที่อยู่ของผีประจำหมู่บ้าน ระบบน้ำประปาหมู่บ้าน และรั้วบ้านในไม่ช้านี้

นายชัยยานนท์ สอนมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 เปิดเผยว่า การพังทลายของตลิ่งแม่น้ำยม บริเวณบ้านวังหลวง เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี ซึ่งปีนี้เป็นอีกปีที่พังทลายเพิ่มขึ้น อบต.วังหลวง ได้ร่วมกับชุมชนจัดทำแผนการแก้ไขมานาน แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง เนื่องจาก อบต.มีงบประมาณไม่มากพอ จึงได้ทำเรื่องเสนอมาแล้วหลายรัฐบาล แต่ก็อ้างว่าไม่มีงบประมาณ ซึ่งมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะให้ความสำคัญกับประชาชนที่ประสบภัยที่จังหวัดแพร่จัดงบประมาณลงมาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการพังทลายของดินสองฝั่งแม่น้ำยมกำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการพังทลายมาก คือ การดูดทรายที่มีการสัมปทานอย่างถูกต้อง และลักลอบอยู่ในแม่น้ำยม น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง รวมทั้งกระแสน้ำที่แรงและพุ่งชนตลิ่งจนเกิดการกัดเซาะ เมื่อน้ำลดลงทำให้ดินอ่อนตัวและทรุดตามระดับน้ำไป

ในกรณีที่หมู่ 3 บ้านวังหลวง กรมโยธาธิการ ผังเมืองได้เข้ามาทำการสำรวจเพื่อออกแบบก่อสร้างแล้ว โดยมีการประมาณการว่าต้องใช้งบประมาณสูงถึง 20 ล้านบาททีเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 14:51:49


ความคิดเห็นที่ 1985 (1572777)

น้ำชีทะลัก3อำเภอในจ.ชัยภูมิเสียชีวิต1ราย จนท.สั่งอพยพชาวบ้านพื้นที่เสี่ยง

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 10:17:00 น.

วันที่19ก.ย. ที่จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับแม่น้ำชียังคงทรงตัว หลังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.บ้านเขว้า และอ.จัตุรัส ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดริมแม่น้ำชี ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน โดยเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชัยภูมิ เข้าช่วยเหลือและอพยพชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักไปยังพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีก 2-3 วัน คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

เรือล่มตายสลด 3 ศพ พ่อ-ลูกหาปลาแม่น้ำท่าจีน


เกิดเหตุสุดสลดพ่อพาลูกสาวอีก 2 คน ลงเรือออกจับปลาในแม่น้ำท่าจีน เขต ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทำให้เรือล่มเสียชีวิตทั้งหมด...

เหตุการณ์สลดเรือล่มคร่าชีวิตพ่อกับลูกสาวออกหาปลารวม 3 ศพครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าเกิดเหตุเรือล่มในแม่น้ำท่าจีน เขต ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท มีผู้สูญหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและหน่วยกู้ภัยจึงไปตรวจสอบ แต่เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากจึงต้องระดมนักประดาน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงร่วมค้นหา ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง จึงพบศพพ่อ รวมทั้งลูกสาววัย 9 ปี และ 11 ปี รวม 3 ศพ

เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คนใช้เรือพายเป็นพาหนะออกจับปลาในแม่น้ำท่าจีนท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จากนั้นเรือเกิดเสียการทรงตัวก่อนล่ม ทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิต ทั้งนี้จะได้นำเสนอความคืบหน้ากรณีนี้ต่อไป

เกิดเหตุสุดสลดพ่อพาลูกสาวอีก 2 คน ลงเรือออกจับปลาในแม่น้ำท่าจีน เขต ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทำให้เรือล่มเสียชีวิตทั้งหมด...

เหตุการณ์สลดเรือล่มคร่าชีวิตพ่อกับลูกสาวออกหาปลารวม 3 ศพครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าเกิดเหตุเรือล่มในแม่น้ำท่าจีน เขต ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท มีผู้สูญหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและหน่วยกู้ภัยจึงไปตรวจสอบ แต่เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากจึงต้องระดมนักประดาน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงร่วมค้นหา ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง จึงพบศพพ่อ รวมทั้งลูกสาววัย 9 ปี และ 11 ปี รวม 3 ศพ

เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คนใช้เรือพายเป็นพาหนะออกจับปลาในแม่น้ำท่าจีนท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จากนั้นเรือเกิดเสียการทรงตัวก่อนล่ม ทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิต ทั้งนี้จะได้นำเสนอความคืบหน้ากรณีนี้ต่อไป



โดย: ไทยรัฐออนไลน์

19 กันยายน 2554, 10:20 น.
ฯ ๗๑  

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 14:55:28


ความคิดเห็นที่ 1986 (1572780)

มหาสารคาม-ประกาศน้ำท่วมเพิ่มอีก 2 อำเภอ เพิ่มเป็น 6 อำเภอ

วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

จังหวัดมหาสารคามประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มอีก 2 อำเภอ รวมเป็น 6 อำเภอ 34 ตำบล 176 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วว่า 34,000 ไร่

นายอนุชิต ขันธะมูล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าช่วงที่ผ่านมามีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดได้เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรอีก 2 อำเภอ คือ นาเชือก และพยัคฆภูมิพิสัย ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่นอกเขตลุ่มน้ำชี ล่าสุด รวมพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ คือ อำเภอเชียงยืน โกสุมพิสัย กันทรวิชัย นาเชือก พยัคฆภูมิพิสัย และอำเภอเมือง ประชาชนเดือดร้อน 13,362 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 34,943 ไร่

นอกจากนี้ระดับในแม่น้ำชียังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ และน้ำเหนือที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ และขอนแก่น โดยระดับวัดที่สถานีโกสุมพิสัย บริเวณสะพานบ้านคุยเชือก เหลืออีกเพียงไม่ถึง 1 เมตร ก็จะถึงระดับตลิ่ง ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี ได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ได้ออกประกาศแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต. ให้ประชาชนที่มีพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี ขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำแบบวันต่อวัน

นครสวรรค์-ปภ.ประกาศพื้นที่อุทกภัยทั้งจังหวัดแล้ว

วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ ประกาศพื้นที่อุทกภัยทั้งจังหวัดรวม 15 อำเภอ ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด แม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,935 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร แม่น้ำน่านมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,514 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,727 ลบ.ม./วินาที ชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่าระดับน้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวอยู่ในช่วง 2-3 วันนี้ และแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำน่านจากทางภาคเหนือยังมีมาก

ทางด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ ประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งจังหวัดรวม 15 อำเภอ มีน้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้ 10 อำเภอ 16 ตำบล 589 หมู่บ้าน 30 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 47,717 ครัวเรือน 153,351 คน
สำหรับสถานการร์น้ำท่วมใน้นที่ เช้านี้(19 ก.ย.) หลังจากปรืมาณน้ำเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ถึง 5 ซม.ทำให้น้ำล้นเขื่อนคอนกรีตริมตลิ่งไหลเข้ามาในถนนหลายจุด เทศบาลนครนครสวรรค์เร่งเสริมแนวหินคลุกตลอดเวลาเพื่อรับปริมาณน้ำที่สูงต่อเนื่อง ขณะที่กระสอบทรายที่วางกั้นน้ำหลังโรงแรมเป็นหนึ่ง ตรงข้าม รพ.รวมแพทย์ ถูกกระแสน้ำไหลหลากพังกระสอบทรายเป็นแนวยาวกว่า 2 เมตร ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมืองทันที เจ้าหน้าที่เทศบาลบาลนครนครสวรรค์ ต้องเร่งเสริมกระสอบทราย และนำไม้ยูคามาตอกเป็นเสา จากนั้นนำไม้กระดานมาทำเป้นพนังแล้วนำกระสอบทรายมาถมทับ ใช้เวลากู้นานกว่า 30 นาทีจึงเร็จ ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นเร่งเก็บข้าวของหนีน้ำเป้นการด่วน ซึ่งจุดดังกล่าวน้ำเคยทะลักมาแล้ว 3 ครั้ง เวลานี้ชาวบ้านผวากับน้ำท่วมอย่างมาก

สตูล-คลื่นลมแรง นักท่องเที่ยงลอยเรือกลางทะเล

วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

กองทัพเรือ นำเรือ ต.221 ไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดคลื่นลมแรงกลางทะเลนอกเกาะเภตราจนเรือทรงตัวไม่อยู่ และได้รับบาดเจ็บ กลับเข้าฝั่ง

หลังจากในพื้นที่จังหวัดสตูลเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมเกิดความไม่มั่นใจในสถานการณ์ บางรายเตรียมพร้อมกระสอบทรายของเก่าที่น้ำเพิ่งลดกลับมาใช้งานใหม่ ขณะที่คลื่นลมในทะเลมีกำลังค่อนข้างแรงความสูง 2-3 เมตร ทำให้เรือขนาดเล็กและขนาดกลางในอำเภอละงู ทุ่งหว้า ท่าแพ และ อำเภอเมือง กว่า 300 ลำต่างเข้าไปหลบตามอ่าวต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย และเรือใหญ่ก็เดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ล่าสุดเมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (19 ก.ย.) เรือเอกณัฐวุฒิ ตุลาพันธุ์ ผู้บังคับการเรือต.221 หน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ตำบลแหลมสน อำเภอ อำเภอละงู ได้รับคำสั่งจากทัพเรือภาค 3 ให้ออกช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุกลางทะเล บริเวณนอกเกาะเภตรา ห่างจากเกาะเภตรา (จ.ตรัง)ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 5 กม. ร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ได้นำเรือ ต.221 พร้อมกำลังออกไปช่วยเหลือแล้ว

เบื้องต้นทราบว่า เป็นนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาใต้ และอิตาลี เดินเรือกลับมาจากเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เพื่อจะเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคลื่นสูง 3 เมตร ทำให้เรือทรงตัวไม่อยู่ ซึ่งนักท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับบาดเจบด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางไปรับนักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่ง ที่บริเวณสถานีเรือละงู ฐานทัพเรือพังงา กองเรือภาค 3

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 15:04:13


ความคิดเห็นที่ 1987 (1572788)

 

อุทัยฯวิกฤต!! 4 ตำบลท่วมมิดหลังคา
นายราตรี บุญยง นายอำเภอเมืองอุทัยธานีเปิดเผย กรณีน้ำท่วม อ.เมืองอุทัยธานี ว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 9 ตำบลจากทั้งหมด 14 ตำบล วิกฤต 4 ตำบล คือ ท่าซุง เกาะเทโพ สะแกกรัง และหาดทนงพบว่าระดับน้ำสูงท่วมหลังคาบ้านเรือน ล่าสุดน้ำทะลักท่วมตลาดริมแม่น้ำสะแกกรังกินพื้นที่ตลาดประมาณ 300 เมตร
จากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าวเป็นผลจากระดับน้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังเพิ่มสูง ฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยขณะนี้น้ำจากนครสวรรค์ไหลสมทบทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
รายงานล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยเร่งด่วนแต่ชาวบ้านบางส่วนเป็นห่วงข้าวของไม่ยอมออกจากบ้าน สำหรับ อ.เมือง ที่ได้รับผลกระทบจนถึงขณะนี้ จำนวนกว่า 10,000 คนทางราชการและเอกชนร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องใช้จำเป็น ทั้งนี้จากข้อมูลหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องคาดว่าระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอีก
 
กทม.เฝ้าระวัง 27 ชุมชนนอกแนวเขื่อน-หน่วยเบสท์พร้อมรับมือ
นายสัญญา ชีนิมิตรผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าวันนี้กรุงเทพมหานครต้องจับตามวลน้ำขนาดใหญ่ที่จะไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา จากจ.สิงห์บุรี และ จ.อ่างทอง ลงมา คาดว่าระดับน้ำขึ้นเต็มที่เวลา 20.00 น.วันนี้ขณะเดียวกันยืนยันว่า กรุงเทพมหานครไม่ท่วมแน่นอนสำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดคือ 27 ชุมชนนอกแนวเขื่อนกั้นน้ำเพราะช่วงที่ผ่านมาน้ำเอ่อท่วมทางเดินซึ่งเจ้าหน้าที่นำสะพานไม้มาปูเพื่อให้สัญจรได้
ส่วนการเตรียมการรับมือได้เตรียมอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำ กว่า 200 จุดและจัดเจ้าหน้าที่หน่วยเบสท์ กว่า 700 นาย รับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุน้ำท่วม
โดยเวลา 18.00 น.ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
 
เขื่อนภูมิพลรับน้ำได้อีก 1,500 ลบ.ม.
นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิตผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล กล่าวถึงปริมาณน้ำในเขื่อนว่า ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 11,800 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีก1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยตั้งแต่ต้นปีรับน้ำแล้วกว่า 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตรมากกว่าค่าเฉลี่ยของทุกปีที่รับน้ำประมาณ 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตรซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปี 2549 แต่ปีนี้ไม่มีพายุทำให้สามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้อย่างต่อเนื่อง และบริหารจัดการได้ดีกว่าโดยทางเขื่อนฯ ได้ประสานกับกรมชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำจนกว่าจะสิ้นฤดูฝนพร้อมบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำในลุ่มน้ำวัง ยมและน่าน ในการระบายน้ำให้เหมาะสมบนพื้นฐานที่ไม่ให้ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบและจะติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงประชาชนด้วยเนื่องจากพายุเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ
 
เขื่อนสิริกิติ์มั่นคงยังรับน้ำได้อีก 4%
นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกรผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ กล่าวถึงปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ว่าขณะนี้มีความจุอยู่ที่ร้อยละ 95.75 หรือประมาณ 9,100 ล้านลูกบาศก์เมตรซึ่งเหลืออีกร้อยละ 4 จะเต็มความจุอ่าง ถือว่าปริมาณน้ำค่อนข้างมากแต่ยังไม่มากเท่าปี 2549 ที่มีปริมาณน้ำถึงร้อยละ 99 ทั้งนี้ หากไม่เกิดพายุและฝนตกหนัก การบริหารจัดการน้ำยังสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหาแต่มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำ และระบายน้ำออกโดยประชาชนท้ายเขื่อนไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตามยืนยันว่าแม้ปริมาณน้ำมีมากแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและความมั่นคงของเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแห่งนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 15:16:17


ความคิดเห็นที่ 1988 (1572790)

ข้อมูลแผ่นดินไหวระดับเกิน 6 ริคเตอร์ ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน-ปัจจุบัน

Planet sees dramatic spike in seismic activity for month of September

1. 6.9 earthquake Sikkim, India 18  กย. 54                   

2. 6.0 earthquake Honshu, Japan 16  กย. 54                                     

3. 6.7 earthquake East Coast Honshu, Japan 16  กย. 54 

4.  7.3 earthquake Fiji                   15  กย. 54 

5. 6.2 earthquake East Coast Honshu, Japan 15  กย. 54 

6. 6.0 earthquake North Island, New Zealand  15  กย. 54 

7. 6.1 earthquake Aleutian Islands, Alaska   14  กย. 54 

8. 6.2 earthquake Papua New Guinea       12  กย. 54 

9. 6.0 earthquake Vanuatu              11  กย. 54 

10. 6.4 earthquake Vancouver Island      9  กย. 54 

 11. 6.6 earthquake Northern Sumatra      5  กย. 54 

12. 6.3 earthquake Tonga                        5  กย. 54 

13. 6.1 earthquake Vanuatu                    4  กย. 54 

14. 7.0 earthquake Vanuatu                   4  กย. 54 

15. 6.2 earthquake South Sandwich Islands 3  กย. 54 

16. 6.8 earthquake Fox Islands                2  กย. 54 

17. 6.7 earthquake Santiago Del Estero, Argentina2  กย. 54 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 15:25:06


ความคิดเห็นที่ 1989 (1572797)

พบโลมาชนิดใหม่ว่ายวนใต้จมูกออสเตรเลีย

วันที่ 19/09/2554 12:00




นักวิจัยในออสเตรเลียพบฝูงโลมาอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งเมลเบิร์น ลักษณะของโลมาพันธุ์นี้ไม่เหมือนกับโลมาอื่นใดในโลกมาก่อน
ฝูงโลมาดังกล่าวว่ายน้ำเล่นเริงร่าอย่างสนุกสนานบริเวณท่าเรืออ่าวฟิลลิป และทะเลสาบกิปป์สแลนด์ มีจำนวนประมาณ 150 ตัว ตอนแรกคาดว่าจะเป็นโลมาจมูกขวด หนึ่งในสองชนิดที่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน แต่เคท ชาร์ลตันร็อบบ์ นักวิจัยปริญญาเอก มหาวิทยาลัยโมนาช พบว่ามันมีความแตกต่างโดยการเปรียบเทียบกะโหลกศีรษะ ดีเอ็นเอ และลักษณะทางกายภาพของมัน ย้อนหลังไปจนถึงต้นคริสต์ศตวรรษ 1900

นักวิจัยได้ตั้งชื่อโลมาฝูงนี้ว่า ทูร์ไซออพส์ ออสตราลิส แม้จะเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อโลมาบูร์รูนาน ซึ่งในภาษาอะบอริจินหมายถึงวาฬชนิดหนึ่งที่เป็นปลาทะเลขนาดใหญ่

“การค้นพบนี้นับว่าเหลือเชื่อและมีเสน่ห์มาก เพราะว่ามีโลมาใหม่เพียง 3 ชนิดที่มีการอธิบายและยอมรับอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1800” ชาร์ลตัน ร็อบบ์ กล่าวถึงงานวิจัยของเธอที่ตีพิมพ์ในวารสารพีแอลโอเอส วัน

งานวิจัยครั้งนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานการวิเคราะห์หัวกะโหลกโลมาที่สะสมไว้ และเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์วิคตอเรียกว่าศตวรรษที่ผ่านมา.

น้ำท่วม ปลิงอาละวาดชาวบ้านผวา
19 กย. 2554 14:58 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำที่มีปริมาณมาก ที่ไหลผ่านเข้าตัวเมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของจังหวัดพิษณุโลก นั้นขณะนี้มีระดับน้ำอยู่ที่ 10.92 เมตร ซึ่งถือว่าสูงมาก บางจุดมีน้ำทะลักเข้าท่อระบายน้ำท่วมตามชุมชนต่างๆ หลายแห่ง

สำหรับปัญหาที่มากับน้ำในขณะนี้ที่ชุมชนพันปี เขตเทศบาลนครพิษณุโลก ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านไหลย้อนเข้าท่อระบายน้ำทำให้มีน้ำไหลท่วมเข้าบ้านเรือนราษฎรแล้วหลายจุดด้วยกัน ปัญหาที่ชาวบ้านกลัวในขณะนี้คือมีปลิงจำนวนมากได้มาพร้อมกับน้ำท่วม นางจิจนา พึ่งเพ็ง อายุ 56 ปี ชาวชุมชนวัดพันปี อ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มากับน้ำเข้าท่วมบ้านพักของตนเองมาแล้ว 2 วัน จึงต้องเร่งหากระสอบทรายมากั้นน้ำบริเวณหน้าบ้านพัก ส่วนปัญหาที่ตามมาคือตอนนี้ได้มีปลิงจำนวนมากได้มากับน้ำ ทำให้เกิดความกลัวกับตนเองและครอบครัว แต่บางรายก็ไม่เกรงกลัว ไล่จับปลิง มาใส่ขวดน้ำใสไว้ เพื่อป้องกันผู้อื่นโดนปลิงดูดเช่นกัน

แผ่นดินไหวแถบภูเขาหิมาลัยตายเพิ่มเป็น 50 คนแล้ว

19 กย. 2554 14:05 น.


AP:British Embassy staff look on after the embassy"s compound wall collapsed reportedly killing three pedestrians following an earthquake in Katmandu, Nepal, Sunday, Sept. 18, 2011.

เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้พลั่วและมือเปล่า ขุดเอาศพเหยื่อแผ่นดินไหวออกมาจากใต้เศษซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่มในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย, เนปาลและทิเบต ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 50 คนแล้ว


ที่รัฐสิกขิม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน หลังเกิดแผ่นดินไหว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริคเตอร์ เมื่อเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งต้องใช้กำลังทหารในการดึงศพออกมาได้ 18 ศพ ส่วนอีก 7 ศพ ถูกฝังอยู่ใต้ซากคอนกรีตในเมืองกังต็อค เมืองเอกของรัฐสิกขิม นอกจากนี้ ยังมีอีก 11 ศพ ในรัฐพิหารและเวสต์ เบงกอล


ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 7 คนที่เนปาล และทิเบตอีก7 คน โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากบ้านเรือนของพวกเขา มีรากฐานที่ไม่มั่นคงหลังจากเจอฝนกระหน่ำอย่างหนักในช่วงฤดูมรสุม ทำให้พังถล่มลงมาเมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว โดยเฉพาะพวกที่ตั้งอยู่ในรัฐสิกขิม ใกล้กับพรมแดนด้านที่ติดกับเนปาล

ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักและดินถล่ม ได้เป็นอุปสรรคต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในขณะที่กำลังพยายามดึงศพเหยื่อแผ่นดินไหวออกมาจากใต้ซากอาคาร และมีรายงานด้วยว่า แรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลไปถึงอาคารหลายหลังในกรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย เนื่องจากอยู่ห่างไกล และประชาชนอาศัยกันอย่างเบาบาง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 16:00:31


ความคิดเห็นที่ 1990 (1572798)

ลพบุรีตื่นตัวเตรียมรับมวลน้ำขนาดใหญ่

วันจันทร์ ที่ 19 ก.ย. 2554

อำเภอเมืองลพบุรี ประชาชนต่างตื่นตัว หลังมีประกาศเตือนจากจังหวัดให้พื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เตรียมรับมือกับมวลน้ำขนาดใหญ่ ที่จะไหลหลากลงมา ที่หมู่บ้านสิรัญญา ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี

กรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาเตรียมการไว้ล่วงหน้า พร้อมเตรียมตั้งคันแนวดินตลอดเส้นทาง เลียบคลองป่าสัก-ชัยนาท และประสานกำลังทหารกรอกกระสอบทราย เตรียมแจกจ่ายให้ประชาชน ส่วนที่หมู่บ้านป่ากล้วย ที่ปีก่อนถูกน้ำท่วมนานนับเดือน วันนี้น้ำเริ่มไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านแล้ว

 

ศอส.สรุปน้ำท่วม 26จังหวัด ตายแล้ว112 ราย

19 กย. 2554 13:32 น.

นายประทีป กีรติเรขา รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการ และการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 26 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ยโสธร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา นครนายก ตาก สระแก้ว และปราจีนบุรี รวม 171 อำเภอ 1,164 ตำบล 7,688 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 471,007 ครัวเรือน 1,568,935 คน มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 112 ราย สูญหาย 2 ราย

นายประทีป กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ที่ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ลุ่มน้ำน่าน ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ที่อ.กบินทร์ จ.ปราจีนบุรี ลุ่มน้ำมูล ที่อ.พิมาย จ.นครราชสีมา อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อ.สตึก อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และอ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ลุ่มน้ำชี ที่อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ลุ่มน้ำโขง ที่อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ลุ่มน้ำสะแกกรัง ที่อ.เมือง จ.อุทัยธานี ลุ่มน้ำท่าจีน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 3,935 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,706 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ 8 จังหวัดได้รับผลกระทบ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-19 16:04:20


ความคิดเห็นที่ 1991 (1573138)

น้ำท่วมกรุงเก่า ชาวบ้านลุยน้ำเผาศพสุดทุลักทุเล

 
       

       พระนครศรีอยุธยา - น้ำท่วมกรุงเก่ากระทบประชาชนเดือดร้อนหนัก ชาวบ้านอำเภอมหาราช ต้องลุยน้ำไปเผาศพสุดทุลักทุเล ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตือนประชาชนรับน้ำเหนือไหลทะลักอีก
       

       
       เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (19 ก.ย.) นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำเหนือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีปริมาณน้ำมากที่จะไหลลงมาสู่แม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี โดยขณะนี้น้ำได้ท่วมพื้นที่ อ.ท่าวุ้ง อ.เมือง และ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งน้ำทั้งหมดจะไหลลงแม่น้ำลพบุรี ผ่านพื้นที่ อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.บางปะหัน ที่มีน้ำท่วมสูงอยู่แล้ว ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกและน้ำจะกระจายเข้าทุ่งมหาราช เข้าทุ่งบางปะหัน ท่วมพื้นที่นาปรังกว่า 30,000 ไร่
       
       นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำลพบุรี ยังจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้พื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน ระดับน้ำจะสูงขึ้น จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเร่งเก็บของเอาไว้ที่สูง
       
       วันเดียวกัน ที่วัดแจ้ง หมู่ 6 ต.พิตเพียน อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีพิธีเผาศพนายศักดา ทองชื่นใจ อายุ 58 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ขณะเดินออกจากบ้านพักที่ถูกน้ำท่วมกว่า 1 เมตร เกิดลื่นล้ม ศีรีษะฟาดพื้น เล้นเลือดฝอยในสมองแตก ญาติได้ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
       
       พบว่า ภายในบริเวณวัด และในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร ชาวบ้านต้องลุยน้ำมาร่วมงานศพ และช่วยกันแบกโลงศพลงมาจากศาลาการเปรียญ เดินลุยน้ำที่สูงกว่า 1.50 เมตร ระยะทางกว่า 10 เมตร เพื่อนำโลงศพขึ้นเมรุเพื่อประกอบพิธีเผาศพ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 03:51:51


ความคิดเห็นที่ 1992 (1573139)

 พายุฝนอุทกภัยในเสฉวน ชาวจีนดับ 13 อพยพอีกหลายแสน

 
ชาวจีนกำลังอพยพออกจากบริเวณที่ลาดต่ำในเมืองปาจง มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา (ภาพไชน่า เดลี)
       เอเอฟพี / ไชน่า เดลี - สื่อทางการจีนรายงาน(19 ก.ย.)ว่า เหตุพายุฝนกระหน่ำน้ำในมณฑลซื่อชวน(เสฉวน) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน สูญหายอีกนับ 10 คน อีกทั้งชาวบ้านหลายแสนต้องอพยพย้ายที่อยู่อาศัย
       
       สำนักข่าวซินหวารายงานว่า พายุฝนที่ตกกระหน่ำมณฑลซื่อชวนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันศุกร์(16 ก.ย.) ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำล้นตลิ่งจนเกิดน้ำท่วมหนัก
       
       เจ้าหน้าที่รัฐในเมืองต๋าโจวและก่วงอาน มณฑลซื่อชวน ได้สั่งการอพยพประชาชนกว่า 600,000 คน ออกจากที่อยู่อาศัย เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำจยาหลิง ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแยงซีเกียง เพิ่มสูงเกินระดับอันตรายถึง 7 เมตร และได้รับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงอีก
       
       เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(18 ก.ย.) พายุฝนได้กระหน่ำอำเภอหนานเจียง ทงเจียงและเขตปาโจว ในเมืองปาจง มณฑลซื่อชวน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน สูญหายอีก 10 คน ขณะที่บ้านเรือนพังเสียหายอีกมากกว่า 2,000 หลังคาเรือน
       
       ขณะที่สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุพายุฝนกระหน่ำ - ดินถล่ม ในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ซึ่งอยู่ทางเหนือมณฑลซื่อชวน เพิ่มขึ้นเป็น 14 คน สูญหายอีก 18 คน โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์(17 ก.ย.)
       
       รายงานข่าวระบุ เหตุดินถล่มในเมืองซีอานเกิดจากกองดินโคลนและหินเกือบหลายพันตัน ได้ถาโถมลงมาพังโรงงานอิฐและโรงงานเซรามิคที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจนพังราบเป็นหน้ากอง
       
       ทั้งนี้ ในช่วงฤดูร้อนประเทศจีนประสบภัยพิบัติพายุฝนกระหน่ำน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ โดยเมื่อปี 2553 เกิดเหตุน้ำท่วมรุนแรงสุดในรอบทศวรรษ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมทั้งสิ้นมากกว่า 4,300 คน

สภาพน้ำท่วมหนักในเมืองปาจง มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา (ภาพไชน่า เดลี)
       

สภาพน้ำท่วมหนักในเมืองปาจง มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา (ภาพไชน่า เดลี)

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 03:54:25


ความคิดเห็นที่ 1993 (1573140)

 ธรณีพิบัติถล่ม"อินเดีย-เนปาล-ทิเบต"ตายเพิ่มเป็น63เจ็บนับร้อย-คาดพุ่งขึ้นอีก

แผ่นดินไหว – ซากปรักหักพังของบ้านหลังหนึ่งในเมืองกังต็อก หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ตลอดจนประเทศและดินแดนในแถบเทือกเขาหิมาลัย เมื่อวันอาทิตย์ (19) คร่าชีวิตผู้คนในอินเดีย, เนปาล และทิเบต ไปแล้วอย่างน้อย 63 ราย
       เอเอฟพี - เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 เขย่ารัฐทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย รวมถึงหลายประเทศและดินแดนในแถบเทือกเขาหิมาลัย ทั้งเนปาล, ภูฏาน และทิเบต เมื่อวันอาทิตย์ (18) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 63 ราย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่า ยอดตายอาจพุ่งขึ้นอีก ขณะที่การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมมรสุมพัดถล่มบริเวณดังกล่าวจนเกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มกีดขวางเส้นทางไปสู่พื้นที่ประสบภัย
       
       กรมสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่า เหตุธรณีพิบัติคราวนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.10 น. ของวันอาทิตย์ (18) ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 19.40 น. ตามเวลาเมืองไทย) วัดความรุนแรงได้ 6.9 โดยมีศูนย์กลางห่างจากกังต็อก เมืองเอกของรัฐสิกขิม ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 60 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 19.7 กิโลเมตร
       
       หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 แล้ว ยังอุบัติอาฟเตอร์ช็อกขนาดรุนแรงตามมาอีก 2 ครั้ง ซึ่งวัดความรุนแรงได้สูงสุด 6.1
       
       แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้รับรู้ไปไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร ในกรุงนิวเดลี ไปจนถึงภาคตะวันตกของประเทศ รวมทั้งในใจกลางบังกลาเทศไปจนถึงภาคตะวันออก
       
       เบื้องต้น จี.อนันดาน หัวหน้าฝ่ายควบคุมเหตุฉุกเฉินกลาง ในรัฐสิกขิม ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 รายในเมืองกังต็อก และอีก 10 รายในหมู่บ้านใกล้เคียง ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 60 คนทั่วเมืองกังต็อกจากเหตุแผ่นดินถล่ม และตึกอาคารพังทลายลงมา ขณะที่ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความมืดมิดเนื่องจากกระแสไฟฟ้าดับ
       
       นอกเหนือจากรัฐสิกขิมที่ได้รับผลกระทบอย่างจังแล้ว แรงสั่นสะเทือนซึ่งกินอาณาบริเวณกว้างขวางยังสร้างความเสียหายแก่พื้นที่รัฐอื่นๆ ของอินเดีย ตลอดจนบรรดาประเทศและดินแดนที่อยู่ติดกับรัฐสิกขิมทางแถบเทือกเขาหิมาลัยด้วย ทั้งประเทศเนปาล, ภูฏาน และเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน
       
       สำนักข่าวเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 9 รายจากเหตุเหยียบกันตายเพราะความแตกตื่นในรัฐพิหาร และอีก 4 คนถูกฝังทั้งเป็นใต้ซากปรักหักพังของบ้านที่พังครืนลงมา ใกล้เมืองดาร์จีลิง
       
       ที่เนปาล รายงานข่าวระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้กำแพงของอาคารสถานทูตอังกฤษในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 270 กิโลเมตร พังถล่มลงมาทับร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายเสียชีวิต 3 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์และลูกสาวของเขา

       
       บินอด ซิงห์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเนปาล บอกกับเอเอฟพีว่า มีเหยื่อเคราะห์ร้ายอีก 3 รายที่เสียชีวิตในพื้นที่ทางตะวันออกของเนปาล
       
       ส่วนสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ก็รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตรวม 7 ราย ทางตอนใต้ของเขตปกครองตนเองทิเบต ติดกับชายแดนรัฐสิกขิม ด้วย
       
       ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติคราวนี้ ระบุว่า ยอดผู้เสียชิวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ทันทีที่พวกเขาได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเดินทางไปถึงพื้นที่ประสบภัยที่อยู่ห่างไกลแล้ว
       
       ด้านความเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น เวลานี้ทางการอินเดียได้ส่งเครื่องบินของกองทัพซึ่งมีหน่วยบรรเทาทุกข์ ไปลงที่สนามบินแบกดอกรา ทางใต้ของเมืองกังต็อก ราว 125 กิโลเมตรแล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศที่มีลมมรสุมพัดถล่มพื้นที่ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ทุกลำถูกสั่งห้ามบิน ขณะที่ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนั้นทำให้เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มกีดขวางหลายจุดบนถนนทางหลวงสายหลักเพียงสายเดียวที่ตัดสู่เมืองกังต็อก
       
       “ทีมกู้ภัยของเราติดอยู่บนถนนไปต่อไม่ได้” สุเรนดรา อาห์ลาวัต โฆษกหน่วยพิทักษ์ภัยพิบัติธรรมชาติของอินเดีย ระบุ “สถานการณ์ย่ำแย่มาก ทว่า พวกเราก็กำลังแก้ไขอย่างสุดความสามารถ”
       
       รายงานข่าวระบุว่า ทางการอินเดียได้ส่งทหารบก 5,000 คนไปช่วยบูรณะฟื้นฟูสภาพถนนซึ่งเชื่อมไปยังเมืองกังต็อก ตลอดจนเมืองอื่นๆ ทางตอนเหนือ ให้กลับมาใช้งานได้

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 03:57:32


ความคิดเห็นที่ 1994 (1573141)

 นครสวรรค์ผนังกั้นน้ำพังรอบ3

 

แนวผนังกันน้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์พังอีกเป็นรอบที่ 3 ทำให้ต้องเสริมกระสอบทรายและวางเสาเข็มเพิ่ม ขณะที่น้ำปิงเอ่อทะลักท่วมทางหลวงสาย 117 นครสวรรค์ -พิษณุโลก บางช่วงทำให้รถเล็กสัญจรได้ลำบาก...

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.เกิดแนวผนังกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ พังลงมาอีก ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้ามาอีก ห่างจากจุดเดิมบริเวณหลังโรงแรมเป็นหนึ่ง ถนนสวรรค์วิถี ซึ่งเคยพังมาแล้ว 2 ครั้ง ห่างจากจุดเดิมไปประมาณ 200 เมตร ถือเป็นการพังครั้งที่ 3 แล้วที่เทศบาลนครนครสวรรค์ ได้ทำการป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองนครสวรรค์ 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 04:07:32


ความคิดเห็นที่ 1995 (1573142)

 น้ำชีระลอกสองทะลักพนังกั้นน้ำหลากท่วมบ้านเรือน 6 หมู่บ้าน 

 

 

น้ำชีระลอกสองทะลักพนังกั้นน้ำหลากท่วมบ้านเรือน 6 หมู่บ้าน 

 วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ร้อยเอ็ด ว่า หลังจากฝนตกตลอดคืนวันที่ 18 ก.ย. ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ รวมทั้งเขื่อนทางเหนือของร้อยเอ็ด จากจ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น และจ.กาฬสินธุ์ ระบายน้ำออกเต็มที่ลงสู่ลำน้ำชี ระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งพังพนังกั้นน้ำไหลบ่าเข้าท่วมฉับพลัน ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร ได้รับความเสียหาย 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโคกล่าม หมู่ 7, หมู่ 18, บ้านหนองอ้อ หมู่ 8, บ้านเปลือยตาล หมู่ 5,หมู่ 16, และ บ้านดินแดง หมู่ 3 บ้านเรือนราษฎรรวมโรงปั้นอิฐจมน้ำกว่า 40 หลังคาเรือน นาข้าวเสียหายสิ้นเชิง 1 หมื่นไร่ และฟาร์มเกษตรกรที่ปลูกพืชผักปลอดสารพิษ เลี้ยงโค หมู เป็ด ไก่และบ่อปลา ถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร

 

  นายทวีสิทธิ์ มนตรีชน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดงสิงห์ เผยว่า น้ำชีจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องวันละ 20-30 ซ.ม. นับวันจะท่วมหนักและขยายวงกว้างออกไปทุกหมู่บ้านเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งจะท่วมอยู่นานกว่า 2 เดือน ปกติน้ำจะท่วมประมาณกลางเดือนตุลาคมของทุกปี แต่ปีนี้มาเร็วผิดปกติจนตั้งตัวแทบไม่ทัน เตือนประชาชนให้อพยพข้าวของ ยานพาหนะ และสัตว์เลี้ยงไปสร้างเพิงพักบนพนังกั้นน้ำทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน และสั่งการให้อาสาสมัครหมู่บ้านจัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 04:12:14


ความคิดเห็นที่ 1996 (1573144)

น้ำท่วมสุพรรณฯ ปลาในกระชังเสียหายตายอื้อ

Pic_202997

น้ำท่วมสุพรรณบุรีทำปลากระชังแม่น้ำท่าจีนตายนับแสนตัว โดยพบปลาเน่าติดประตูระบายน้ำ ชลมารคพิจารณ์ อ.สามชุก ส่งกลิ่นเหม็นทั่ว 2 ฝั่งแม่น้ำ ขณะที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย...

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.สถานการณ์หลังจากน้ำในแม่น้ำท่าจีน จ.สุพรรณบุรี เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนและพืชสวนไร่นาตลอดริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ในพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.เมือง อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง จนประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก แต่ถึงขณะนี้น้ำได้ลดลงเล็กน้อยทำให้น้ำที่ท่วมขังในนาข้าวเป็นเวลานานเริ่ม เน่าเสียจากสารเคมีและไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน ส่งผลให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชัง ในเขตพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช และ อ.สามชุก รวมกว่า 30 ราย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากปลาที่เลี้ยงไว้ลอยตายหมด 

นางสุมล แซ่จันทร์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/6 หมู่ 6 ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เจ้าของผู้ประกอบการเลี้ยงปลาในกระชัง ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช กล่าวว่า ที่บ้านเลี้ยงปลานิลไว้ในกระชังริมแม่น้ำท่าจีนรวม 24 กระชัง นอกจากนี้ยังมีปลากระชังในผู้เลี้ยงที่อยู่ในกลุ่ม เดียวกันเริ่มทยอยตายตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา รวมแล้วกว่า 30 ราย ปลาตายทั้งหมดกว่า 2 แสนตัว ซึ่งเป็นปลาที่ใกล้จะได้กำหนดเวลาจับขายแล้ว แต่เกิดมีน้ำเน่าเสียไหลลงแม่น้ำมาก่อนจนทำให้ปลาตายหมดทุกกระชัง สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังเป็นอย่างมาก ซึ่งหากถึงกำหนดจับขายก็จะได้น้ำหนักตัวราวตัวละ 1 กิโลกรัม โดยจะได้ราคากิโลกรัมละ 55 บาท รวมค่าเสียหายครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท จนต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ 

ด้าน นายธีรพล เกิดบุญ เจ้าหน้าที่ประมง อ.เดิมบางนางบวช กล่าวว่า ขณะนี้ ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนลดลงส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังในนาข้าวเป็น เวลานานทำให้ต้นข้าว ฟางข้าว หรือต้นหญ้าเกิดเน่า ประกอบกับจะมีสารเคมีตกค้างในนาข้าวด้วยจนทำให้น้ำในนาข้าวเริ่มเน่าเสียไป ด้วยและน้ำเสียเหล่านี้ได้ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนจึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำมี ออกซิเจนต่ำทำให้ปลาในกระชังขาดออกซิเจนจนลอยน้ำตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช และ อ.สามชุก ที่เลี้ยงปลากระชังริมแม่น้ำท่าจีน และขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายพร้อมเตรียมรายงานให้ผู้บังคับ บัญชาทราบ เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือ ตามหลักเกณฑ์ของทางราชการจะมีการช่วยเหลือค่าชดเชย คิดเป็นความกว้าง-ยาว ของกระชังปลาที่เลี้ยงไว้ ตะรางเมตรละ 315 บาท แต่ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร 

ส่วน พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช ได้เดินทางมาตรวจสอบความเสียหายด้วยตนเอง พร้อมแจ้งเตือนผู้เลี้ยงปลาในกระชังว่าหลังจากปลาขาดออกซิเจนตายแล้ว ขอร้องไม่ให้เจ้าของตักปลาทิ้งลงแม่น้ำ เนื่องจากจะทำให้ปลาลอยไปติดตามประตูระบายน้ำ และจะส่งกลิ่นเน่าเหม็นจนทำให้ น้ำเน่าเสียมากขึ้น เกรงว่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ประประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงตลอดแนวชายฝั่งด้วย 

ขณะที่ประตูระบายน้ำชลมารคพิจารณ์ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรีได้มีปลาตายได้ลอยมาติดที่ประตูระบายน้ำจำนวนมากจนส่งกลิ่น เหม็นเน่าไปทั่วทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ ล่าสุดเจ้าหน้าที่โครงส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาช่วยดำเนินการตักซากปลาที่ตายออกจากแม่น้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นก่อนแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 04:17:11


ความคิดเห็นที่ 1997 (1573145)

น้ำท่วมทำถนน-ทางหลวงชนบท พังรวมกว่า6พันล้านบาท

 
Pic_202963
กรมทางหลวงเผย น้ำท่วมทำถนนพังท้ังสิ้น 372 สายทาง งบซ่อมแซมประมาณ 2,859 ล้านบาท ขณะที่ถนนทางหลวงชนทบ พัง 460 สายทาง ใน 53 จังหวัด ความเสียหายประมาณ 3,524 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-19 ก.ย.2554 รวม 372 สายทาง การจราจรผ่านได้ 348 สายทาง และผ่านไม่ได้ 24 สายทาง โดยประเมินงบประมาณซ่อมแซมถนนรวม 2,859 ล้านบาท ทั้งนี้น้ำท่วมถนนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ถนนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จะไม่ค่อยซ้ำสายทางเดิม โดยจะเปลี่ยนแปลงตลอด ยกเว้นถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำจะเริ่มเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลในช่วงนี้ กรมทางหลวงได้ประสานเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือ วางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมแล้ว

ด้านนายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทได้รับความเสียหายจากอุทกภัยระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-19 ก.ย.นี้ รวม 460 สายทาง จากทั้งหมด 53 จังหวัด โดยถนนที่การจราจรผ่านได้ 386 สายทาง ผ่านไม่ได้ 74 สายทาง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 3,524 ล้านบาท สำหรับความเสียหาย โดยแบ่งตามภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ถนนได้รับความเสียหาย 206 สายทาง มูลค่าความเสียหายประมาณ 1,990 ล้านบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนได้รับความเสียหาย 129 สายทาง มูลค่าความเสียหายประมาณ 822 ล้านบาท ภาคกลาง ถนนได้รับความเสียหาย 91 สายทาง มูลค่าความเสียหายประมาณ 640 ล้านบาท และภาคใต้ ถนนได้รับความเสียหาย 34 สายทาง มูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาท

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 04:21:55


ความคิดเห็นที่ 1998 (1573146)

 

“ในหลวง”ทรงห่วงการบริหารน้ำ

 

ทรงพระราชทาน พระบรมราโชวาท เน้นดูตัวอย่างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้  ในโอกาสที่ “ธีระ”นำคณะข้าราชการกรมชลประทาน เข้าเฝ้าฯถวายรายงาน 5 โครงการพัฒนาแหล่งน้ำฯ  

วันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 17.30 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์  พร้อมด้วยคณะข้าราชการกรมชลประทาน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงาน ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก , โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช , โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ จ.สกลนคร-จ.นครพนม , โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก และ
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำพะยังตอนบน จ.กาฬสินธุ์  

ซึ่งกรมชลประทานได้เร่งรัดดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันโครงการต่าง ๆ สามารถนำประโยชน์ให้แก่ราษฎรได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเปิดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 5 แห่ง

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวพระราชดำริเพิ่มเติมว่า โครงการขุนด่านปราการชล เป็นโครงการที่น่าสนใจ เพราะถือว่าเป็นเขื่อนที่มีความก้าวหน้า สร้างขึ้นมามีเทคนิคสมัยใหม่ ใหม่ที่สุดเท่าที่มีในเมืองไทย นับว่าเป็นโครงการใหญ่ที่เป็นประโยชน์กับการชลประทานในภาคกลาง ซึ่งไม่เคยมีใหญ่โตขนาดนี่ใกล้กรุงเทพฯ ถือว่าเป็นโครงการที่เสร็จเร็ว ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทันทีเลย ตามปกติโครงการในภาคกลางนี้ สร้างยากเพราะว่าหาที่ยากและสถานที่ที่สร้างเป็นที่จำกัด แต่โครงการนี้นับว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมาก มากหลายจังหวัด รวมทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องการโครงการชลประทานอย่างยิ่ง 

“ครั้งแรกที่ไปเขตนั้นได้คุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านเขาก็ยินดีมาก เขาสนับสนุนโครงการนี้อย่างยิ่ง ตามปกติโครงการแบบนี้จะมีการคัดค้านมาก เพราะว่าจะต้องมีปัญหาเรื่องที่ดิน มีปัญหาเรื่องที่ของชาวบ้าน แต่นี้ไม่มีปัญหาเขาเห็นด้วย และคนในท้องที่นั่นเอง ก็เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำโครงการ และโครงการมีประโยชน์จริงๆ การที่ท่านทั้งหลายได้เห็นผลงานของเขื่อนขุนด่านปราการชลนี้ มหัศจรรย์เป็นเขื่อนที่สูง เป็นเขื่อนที่สร้างด้วยวิธีที่ก้าวหน้า ผู้ที่อยู่ในท้องที่ ในท้องที่ของการสร้างเขื่อนก็ทราบดี และเขาเข้าใจเห็นความสำคัญของเขื่อนนี้ จึงอยากจะทราบ ท่านทั้งหลายนี้เขา ได้อธิบายว่าคนที่เข้าไปดูในท้องที่ว่าได้ ท่านมีความสามารถอย่างไร และก็ท่านมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างไร อธิบายก็ต้องใช้เวลานาน เพราะว่าเป็นแบบใหม่จริงๆ แต่ผลประโยชน์ของโครงการนี้ ชาวบ้านในท้องที่ก็อธิบายได้ ตั้งแต่วันแรกที่ไปท้องที่ของโครงการนี้ ชาวบ้านสนับสนุนเต็มที่”

ที่ชื่อว่าขุนด่าน เพราะว่าที่ตรงนั้นเป็นที่ที่บุคคลที่อยู่ที่นั่นตั้งแต่แรกชื่อ ขุนด่าน ได้สนับสนุนโครงการเหล่านี้ และรู้สึกว่าท่านขุนด่านก็ดีใจที่ทำได้สำเร็จเรียบร้อย ท่านขุนด่านอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรกนานแล้ว เป็นคนที่ได้ช่วยประชาชน เรียกว่าขุนด่าน หมายความท่านได้อยู่ที่ที่เป็นด่านของประเทศ ได้ดูแลประชาชนในที่นั้นมาตั้งแต่ตน และเป็นที่รู้จักดีของประชาชน ประชาชนก็สนับสนุนท่าน เรียกว่าเทิดทูนท่าน และยกย่องท่านมาก ก็เป็นที่ที่น้ำผ่านมามาก และโครงการได้สร้างขึ้นมาโดยไม่มีความเดือดร้อนกับชาวบ้าน บางคนไม่รู้ก็โกรธเกิดเอะอะนิดหน่อย เพราะว่าเป็นที่ที่ก็น่าจะมีปัญหา แต่แท้จริงก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้มีสิ่งใดที่จะเป็นจะขัดขวางโครงการ 

ในระยะแรก ก็ได้ไป ข้าพเจ้าเองก็ไปตรวจในเขตของโครงการ ซึ่งเป็นที่ที่คนเขาถามว่ามี ทรัพยากรอะไร ก็มีทรัพยากรนั่นนี่ โดยมากก็เป็นต้นกล้วยป่า กล้วยป่า ปีนขึ้นไปก็เห็นป่ากล้วย ที่อยู่ในเขตเข้าไปจนสุดเขตของเขื่อน แล้วก็น่าสนใจมาก เพราะว่าคนที่รู้จักกัน ศึกษาพื้นที่ที่จะทำเขื่อนว่าเข้าไปได้สุดโครงการเลย แต่ว่าน่ากลัวเหมือนกันเพราะไปเฮลิคอปเตอร์ ไปจนสุดเฮลิคอปเตอร์ไม่ยอมขึ้นเพราะว่าที่มันมีลมตก แล้วก็ไปถึงสุดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะออกมายังไง ว่าไปก็น่ากลัวเหมือนกัน ผู้ที่เคยไป ก็เห็นด้วยกันก็ว่าน่ากลัวไปถึงสุดก็ไม่รู้จะลง ไม่รู้จะขึ้นอย่างไร เพราะว่ามีแต่ลมดูดลงไปในที่ ก็จะขึ้นมาไม่ได้  ขึ้นก็ไม่ได้ลงก็ไม่ได้ แต่นักบินเฮลิคอปเตอร์ดีมีความสามารถพ้นจากเหตุนั้น สามารถกลับมาได้ ไม่อย่างนั้นไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นที่ที่ออกมายาก เพราะเป็นที่ที่ขึ้นก็ไม่ได้ ลงก็ไม่ได้ ถือว่าเป็นโครงการตัวอย่างเหมือนกัน ได้สร้างชลประทาน ได้เข้าไปพัฒนาให้มีโครงการชลประทานที่ใหญ่และน่าสนใจ แต่ที่นี่คนที่ไปก็สามารถก็จะไปดูว่า ความดีของช่างชลประทาน ได้ประสบผลสำเร็จอย่างไร เพื่อที่จะบริเวณของจังหวัดนครนายกได้มีความก้าวหน้าอย่างมาก ภายในเวลาอันเร็วมาก ได้สร้าง 3 เขื่อนที่สูงและสมัยใหม่

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 04:28:26


ความคิดเห็นที่ 1999 (1573147)

ฝนกระหน่ำตรัง-ลพบุรี

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 20 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 01:19 น.

 

 

 

สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.สิเกา และ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง น้ำได้ไหลเข้าท่วม หลังฝนตกนานหลาย ชม.ขณะที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีน้ำได้ไหลเข้าท่วมแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ใน อ.สิเกา จ.ตรัง ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 1,000 หลัง ถนนสายตรัง-สิเกา เส้นทางท่องเที่ยวหาดปากเมงและหาดเจ้าไหมถูกน้ำท่วม 

ส่วนที่ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ชาวบ้านถูกกระแสน้ำพัดไปติดอยู่กับต้นไม้ นอกจากนี้น้ำยังไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายตำบล ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งอพยพสิ่งของเครื่องใช้ 

ขณะที่ มีรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม ที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น หญิง < นันทนา แหกาวี > ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 04:41:37


ความคิดเห็นที่ 2000 (1573471)

อาริยาขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลที่มีความเมตตา เเละ คอยเตือนชี้เเนะศร้ทธราพระพุทธองค์ตลอดเวลาเเละอานุภาพพีรามิดจำลองบ้านสวนช่วยให้รอดพ้นภัย สาธุ สาธุ สาธุ

เเละขออนุโมทนาบุญกับ น้องหญิงเเละน้อง ตาล ที่คอยช่วยกันมาลงข่าวได้รับรู้ทันเหตุการณ์ ด้วยค่ะ  

ผู้แสดงความคิดเห็น อาริยา รัตนพรศิริ (procoachariya-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-20 21:17:19



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 [20] 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.